The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มาตรฐานและตัวชี้วัดวิชาวิทยาศาสตร์ ป.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nuttapong656, 2022-09-12 10:34:08

มาตรฐานและตัวชี้วัดวิชาวิทยาศาสตร์ ป.6

มาตรฐานและตัวชี้วัดวิชาวิทยาศาสตร์ ป.6

ตัวชวี้ ัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๑

-

มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจาก

เซลล์ ความสัมพนั ธ์ของโครงสรา้ งและหน้าทข่ี องระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนุษยท์ ท่ี ำงานสมั พนั ธ์กัน ความสมั พนั ธ์

ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ที ำงานสมั พันธ์กัน รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

๑. ระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของ • สารอาหารที่อยู่ในอาหารมี๖ ประเภท ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน
สารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารท่ี ไขมัน เกลือแร่ วิตามนิ และนำ้

ตนเองรบั ประทาน • อาหารแต่ละชนิดประกอบด้วยสารอาหารที่แตกต่างกัน อาหาร

๒. บอกแนวทางในการเลือกรับประทาน บางอย่างประกอบด้วยสารอาหารประเภทเดียว อาหารบางอย่าง

อาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วน ใน ประกอบด้วยสารอาหารมากกว่าหน่งึ ประเภท

สัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศและวัย รวมทั้ง • สารอาหารแต่ละประเภทมีประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกัน โดย
ความปลอดภัยตอ่ สุขภาพ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย
๓. ตระหนักถงึ ความสำคญั ของสารอาหาร สว่ นเกลือแร่ วติ ามิน และน้ำ เป็นสารอาหารที่ไม่ให้พลังงานแก่ร่างกาย
โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มี แตช่ ่วยให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ
สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสม
กับเพศและวัย รวมทั้งปลอดภัยต่อ • การรับประทานอาหาร เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต มีการ
สขุ ภาพ เปลี่ยนแปลงของร่างกายตามเพศและวัย และมีสุขภาพดีจำเป็นต้อง
๔. สร้างแบบจำลองระบบย่อยอาหาร รับประทานให้ได้พลังงานเพียงพอกับความต้องการของร่างกายและให้
และบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบ ไดส้ ารอาหารครบถว้ น ในสดั ส่วนท่เี หมาะสมกบั เพศและวัย รวมท้ังต้อง
ยอ่ ยอาหาร รวมทั้งอธบิ ายการย่อยอาหาร คำนึงถึงชนิดและปริมาณของวัตถุเจือปนในอาหารเพื่อความปลอดภัย
และการดูดซึมสารอาหาร ต่อสขุ ภาพ

• ระบบย่อยอาหารประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ได้แก่ ปาก หลอด

๕. ตระหนักถึงความสำคัญของระบบยอ่ ย อาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก ตับ และตับ
อาหารโดยการบอกแนวทางในการดูแล ออ่ น ซึ่งทำหน้าทร่ี ่วมกันในการย่อยและดูดซึมสารอาหาร
ร ั ก ษ า อ ว ั ย ว ะ ใ น ร ะ บ บ ย ่ อ ย อ า ห า ร ใ ห้
ทำงานเป็นปกติ - ปากมีฟันช่วยบดเคี้ยวอาหารให้มีขนาดเล็กลงและมีลิ้นช่วย
คลุกเคล้าอาหารกับน้ำลายในน้ำลายมีเอนไซม์ย่อยแป้งให้เป็น
นำ้ ตาล

ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- หลอดอาหารทำหน้าที่ลำเลียงอาหารจากปากไปยังกระเพาะ
มาตรฐาน ว ๑.๓
- อาหาร ภายในกระเพาะอาหาร มีการย่อยโปรตีนโดยกรดและ
เอนไซม์ที่สร้างจากกระเพาะอาหาร
- ลำไส้เล็กมเี อนไซม์ที่สร้างจากผนังลำไสเ้ ล็กเองและจากตับอ่อน
ที่ช่วยย่อยโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน โดยโปรตีน
คาร์โบไฮเดรต และไขมันที่ผ่านการย่อยจนเป็นสารอาหาร
ขนาดเล็กพอที่จะดูดซึมได้รวมถึงน้ำ เกลือแร่และวิตามินจะถูก
ดูดซึมที่ผนังลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อลำเลียงไปยังส่วน
ต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน จะถูก
นำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ส่วนน้ำ
เกลอื แร่และวติ ามนิ จะชว่ ยให้ร่างกายทำงานไดเ้ ปน็ ปกติ
- ตบั สรา้ งน้ำดแี ล้วสง่ มายงั ลำไส้เลก็ ช่วยใหไ้ ขมนั แตกตวั
- ลำไส้ใหญ่ทำหน้าที่ดูดน้ำและเกลือแร่ เป็นบริเวณที่มีอาหารท่ี
ย่อยไม่ได้หรือย่อยไม่หมดเป็นกากอาหาร ซึ่งจะถูกกำจัดออก
ทางทวารหนัก

• อวัยวะต่าง ๆ ในระบบย่อยอาหารมีความสำคัญจึงควรปฏิบัติตน
ดูแลรักษาอวัยวะให้ทำงานเปน็ ปกติ

สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ

โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิด

สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี

ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๑. อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสาร
ผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้ • สารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ ๒ ชนิดขึ้นไปผสมกันเช่น น้ำมัน
แมเ่ หล็กดึงดดู การรินออก การกรอง และ ผสมน้ำ ข้าวสารปนกรวดทราย วิธีการที่เหมาะสมในการแยกสารผสม
ก า ร ต ก ต ะ ก อ น โ ด ย ใ ช ้ ห ล ั ก ฐ า น เ ชิ ง ขึ้นอยู่กับลักษณะและสมบตั ิของสารทีผ่ สมกนั ถ้าองค์ประกอบของสาร
ป ร ะ จ ั ก ษ ์ ร ว ม ท ั ้ ง ร ะ บ ุ ว ิ ธี แ ก ้ ป ั ญ ห า ใ น ผสมเป็นของแข็งกับของแข็งที่มีขนาดแตกต่างกันอย่างชัดเจน อาจใช้
ชวี ิตประจำวันเกีย่ วกับการแยกสาร วิธีการหยิบออกหรือการร่อนผ่านวัสดุที่มีรูถ้ามีสารใดสารหนึ่งเป็นสาร
แม่เหล็กอาจใช้วิธีการใช้แม่เหล็กดึงดูด ถ้าองค์ประกอบเป็นของแข็งที่
ไม่ละลายในของเหลว อาจใช้วิธีการรินออกการกรอง หรือการ
ตกตะกอน ซึ่งวิธีการแยกสารสามารถนำ ไปใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจำวันได้

มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการ

เคลื่อนทแี่ บบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมท้งั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

๑. อธิบายการเกดิ และผลของแรงไฟฟ้าซ่ึง • วตั ถุ ๒ ชนดิ ทีผ่ า่ นการขัดถแู ล้ว เมอ่ื นำเขา้ ใกลก้ ันอาจดงึ ดดู หรือผลัก
เ ก ิ ด จ า ก ว ั ต ถ ุ ท ี ่ ผ ่ า น ก า ร ข ั ด ถ ู โ ด ย ใ ช้ กัน แรงที่เกิดขึ้นนี้เป็นแรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นแรงไม่สัมผัส เกิดขึ้นระหว่าง
หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ วัตถุที่มีประจุไฟฟ้า ซึ่งประจุไฟฟ้ามี ๒ ชนิด คือประจุไฟฟ้าบวกและ
ประจุไฟฟ้าลบ วัตถุที่มีประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกันผลักกัน ชนิดตรงข้าม
กนั ดึงดูดกนั

มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์
ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง
และคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๑.ระบุส่วนประกอบและบรรยายหน้าท่ี
ของแต่ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า • วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วยแหล่งกำเนิดไฟฟ้าสายไฟฟ้า และ
อยา่ งงา่ ยจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าแหล่งกำเนิดไฟฟ้า เช่น ถ่านไฟฉาย
๒. เขียนแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้าอย่าง หรือแบตเตอรี่ ทำหน้าที่ให้พลังงานไฟฟ้า สายไฟฟ้าเป็นตัวนำไฟฟ้า
งา่ ย ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างแหล่งกำเนิดไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้า
ดว้ ยกนั เคร่อื งใช้ไฟฟ้ามหี นา้ ทเี่ ปลย่ี นพลังงานไฟฟา้ เป็นพลังงานอื่น

๓. ออกแบบการทดลองและทดลองด้วย • เมื่อนำเซลล์ไฟฟ้าหลายเซลล์มาต่อเรียงกันโดยให้ขั้วบวกของ
วธิ ที เ่ี หมาะสมในการอธบิ ายวธิ ีการและผล เซลล์ไฟฟ้าเซลล์หนึ่งต่อกับขั้วลบของอีกเซลล์หนึ่งเป็นการต่อแบบ
ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม อนุกรม ทำให้มีพลังงานไฟฟ้าเหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งการต่อ
๔. ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั เช่น
การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมโดยบอก การต่อเซลลไ์ ฟฟา้ ในไฟฉาย
ประโยชน์และการประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจำวัน

๕. ออกแบบการทดลองและทดลองด้วย • การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมเมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนึ่ง

วิธีที่เหมาะสมในการอธิบายการต่อหลอด ออกทำให้หลอดไฟฟ้าที่เหลือดับทั้งหมด ส่วนการต่อหลอดไฟฟ้าแบบ

ไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน ขนาน เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนึ่งออก หลอดไฟฟ้าที่เหลือก็ยัง

๖. ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของ สว่างได้การต่อหลอดไฟฟ้าแต่ละแบบสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น

การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบ การต่อหลอดไฟฟ้าหลายดวงในบ้านจึงต้องต่อหลอดไฟฟ้าแบบขนาน

ขนาน โดยบอกประโยชน์ข้อจำกัด และ เพ่ือเลือกใชห้ ลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหน่งึ ได้ตามต้องการ

การประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน

๗. อธิบายการเกิดเงามืดเงามัวจาก • เมื่อนำวัตถุทึบแสงมากั้นแสงจะเกิดเงาบนฉากรับแสงที่อยู่ด้านหลัง

หลักฐานเชงิ ประจักษ์ วัตถโุ ดยเงามีรูปร่างคล้ายวตั ถทุ ่ีทำให้เกิดเงา เงามัวเปน็ บริเวณที่มแี สง

๘. เขียนแผนภาพรังสีของแสงแสดงการ บางส่วนตกลงบนฉาก สว่ นเงามดื เป็นบรเิ วณที่ไม่มีแสงตกลงบนฉากเลย
เกิดเงามดื เงามัว

สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี

ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธภ์ ายในระบบสุริยะที่ส่งผลตอ่ ส่ิงมีชีวิต และการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยี

อวกาศ

ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

๑. สร้างแบบจำลองท่ีอธบิ ายการเกดิ และ • เมื่อโลกและดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันกับดวง

เปรียบเทยี บปรากฏการณส์ ุรยิ ปุ ราคา อาทิตย์ในระยะทางที่เหมาะสม ทำให้ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์เงาของ

และจันทรปุ ราคา ดวงจันทร์ทอดมายังโลก ผู้สังเกตที่อยู่บริเวณเงาจะมองเห็นดวงอาทิตย์

มืดไป เกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา ซึ่งมีทั้งสุริยุปราคาเต็มดวง

สรุ ยิ ปุ ราคาบางสว่ นและสรุ ิยุปราคาวงแหวน

• หากดวงจันทร์และโลกโคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันกับดวง
อาทิตย์แล้วดวงจันทรเ์ คลือ่ นทีผ่ ่านเงาของโลก จะมองเห็นดวงจันทร์มืด
ไปเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาซึ่งมีทั้งจันทรุปราคาเต็มดวง และ
จนั ทรุปราคาบางสว่ น

๒. อธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยี • เทคโนโลยอี วกาศเร่ิมจากความต้องการของมนษุ ย์ในการสำรวจวัตถุ
อวกาศ และยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยี ท้องฟ้าโดยใช้ตาเปล่า กล้องโทรทรรศน์ และได้พัฒนาไปสู่การขนส่ง
อวกาศมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เพือ่ สำรวจอวกาศด้วยจรวดและยานขนส่งอวกาศและยงั คงพัฒนาอย่าง
จากขอ้ มูลทีร่ วบรวมได้ ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีอวกาศบางประเภทมาประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้ดาวเทียมเพื่อการส่ือสาร การพยากรณ์
อากาศ หรือการสำรวจทรัพยากรธรรมชาตกิ ารใช้อุปกรณว์ ัดชีพจรและ
การเต้นของหัวใจ หมวกนิรภัย ชดุ กฬี า

มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายใน

โลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมชี ีวติ

และสิง่ แวดล้อม

ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

๑. เปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดหินอัคนี • หินเป็นวัสดุแข็งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติประกอบด้วย แร่ตั้งแต่หนึง่

หินตะกอน และหินแปร และอธิบาย ชนิดขึ้นไป สามารถจำแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น ๓ ประเภท

วฏั จักรหินจากแบบจำลอง ไดแ้ ก่ หินอคั นหี ินตะกอน และหนิ แปร

ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

• หินอัคนีเกิดจากการเย็นตัวของแมกมา เนื้อหิน มีลักษณะเป็นผลึก

ทัง้ ผลกึ ขนาดใหญแ่ ละขนาดเล็ก บางชนิดอาจเป็นเน้ือแกว้ หรือมรี ูพรนุ

• หินตะกอน เกิดจากการทับถมของตะกอนเมื่อถูกแรงกดทับและมี
สารเชื่อมประสานจึงเกิดเป็นหิน เนื้อหินกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็น

เม็ดตะกอนมีทั้งเนื้อหยาบและเนื้อละเอียด บางชนิดเป็นเนื้อผลึกที่ยึด

เกาะกันเกิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนจากน้ำโดยเฉพาะน้ำทะเล

บางชนิด มีลักษณะเปน็ ชัน้ ๆ จงึ เรียกอีกชอ่ื ว่า หินชัน้

• หินแปร เกิดจากการแปรสภาพของหินเดิม ซึ่งอาจเป็นหินอัคนีหิน

ตะกอน หรือหินแปร โดยการกระทำของความร้อน ความดัน และ

ปฏิกิริยาเคมีเนื้อหินของหินแปรบางชนิดผลึกของแร่เรียงตัวขนานกัน

เป็นแถบ บางชนิดแซะออกเป็นแผ่นได้บางชนิดเป็นเนื้อผลึกที่มีความ

แขง็ มาก

• หินในธรรมชาติทั้ง ๓ ประเภท มีการเปลี่ยนแปลงจากประเภทหน่ึง
ไปเป็นอีกประเภทหนึ่ง หรือประเภทเดิมได้โดยมีแบบรูปการ

เปลย่ี นแปลงคงท่ีและตอ่ เนอ่ื งเป็นวัฏจักร

๒. บรรยายและยกตัวอย่างการใช้ • หินและแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและสมบัติแตกต่างกัน มนุษย์ใช้

ประโยชน์ของหินและแร่ในชีวิตประจำวนั ประโยชน์จากแร่ในชีวิตประจำวันในลักษณะต่าง ๆ เช่น นำแร่มาทำ

จากข้อมูลที่รวบรวมได้ เครื่องสำอาง ยาสีฟัน เครื่องประดับ อุปกรณ์ทางการแพทย์และนำหิน

มาใช้ในงานกอ่ สรา้ งต่าง ๆ เปน็ ตน้

๓. สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดซาก • ซากดึกดำบรรพเ์ กดิ จากการทับถมหรือการประทบั รอยของสิง่ มีชวี ิต

ดึกดำบรรพ์และคาดคะเนสภาพแวดล้อม ในอดตี จนเกดิ เป็นโครงสร้างของซากหรือร่องรอยของส่ิงมีชวี ิตท่ีปรากฏ

ในอดตี ของซากดึกดำบรรพ์ อยู่ในหิน ในประเทศไทยพบซากดึกดำบรรพ์ที่หลากหลาย เช่น พืช

ปะการงั หอย ปลา เตา่ ไดโนเสาร์และรอยตนี สัตว์

• ซากดึกดำบรรพ์สามารถใช้เป็นหลักฐานหนึ่งที่ช่วยอธิบาย

สภาพแวดล้อมของพื้นที่ในอดีต ขณะเกิดส่ิงมีชีวิตนั้น เช่น หากพบซาก

ดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืด สภาพแวดล้อมบริเวณนั้นอาจเคยเป็นแหล่ง
น้ำจืดมาก่อน และหากพบซากดึกดำบรรพ์ของพืช สภาพแวดล้อม

ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

บริเวณนน้ั อาจเคยเป็นปา่ มากอ่ น นอกจากนี้ซากดกึ ดำบรรพ์ ยงั สามารถ

ใชร้ ะบุอายุของหิน และเปน็ ข้อมูลในการศกึ ษาวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวติ

๔. เปรียบเทียบการเกิดลมบก ลมทะเล • ลมบก ลมทะเล และมรสุม เกิดจากพื้นดินและพ้ืนน้ำ ร้อนและเย็น
และมรสุมรวมทั้งอธิบายผลที่มีต่อ ไมเ่ ท่ากันทำใหอ้ ณุ หภูมิอากาศเหนือพ้นื ดินและพืน้ นำ้ แตกต่างกัน จึงเกิด
สง่ิ มีชวี ิตและส่ิงแวดล้อมจากแบบจำลอง การเคลื่อนที่ของอากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำไปยังบริเวณที่มี

อุณหภมู ิสูง

• ลมบกและลมทะเลเป็นลมประจำถิ่นที่พบบริเวณชายฝ่ัง โดยลมบก

เกิดในเวลากลางคืน ทำใหม้ ลี มพัดจากชายฝงั่ ไปสูท่ ะเล ส่วนลมทะเลเกิด

ในเวลากลางวัน ทำใหม้ ีลมพัดจากทะเลเข้าสชู่ ายฝัง่

๕. อธิบายผลของมรสมุ ตอ่ การเกิดฤดูของ • มรสุมเป็นลมประจำฤดูเกิดบริเวณเขตร้อนของโลก ซึ่งเป็นบริเวณ

ประเทศไทยจากข้อมูลที่รวบรวมได้ กว้างระดับภูมิภาคประเทศไทยได้รับผลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงประมาณกลางเดือนตุลาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ทำให้เกิดฤดู

หนาว และได้รับผลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงประมาณ

กลางเดือนพฤษภาคมจนถึงกลางเดือนตุลาคมทำให้เกิดฤดูฝน ส่วนช่วง

ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงกลางเดือนพฤษภาคมเป็นช่วง

เปลี่ยนมรสุมและประเทศไทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร แสงอาทิตย์เกือบต้ัง

ตรงและตั้งตรงประเทศไทยในเวลาเที่ยงวัน ทำให้ได้รับความร้อนจาก

ดวงอาทติ ยอ์ ย่างเต็มที่อากาศจงึ ร้อนอบอา้ วทำให้เกิดฤดรู ้อน

๖. บรรยายลกั ษณะและผลกระทบของน้ำ • น้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม แผ่นดินไหวและสึนามิมี

ท่ว มการกัดเ ซาะช ายฝั่ง ดินถล่ม ผลกระทบตอ่ ชีวติ และสิ่งแวดลอ้ มแตกต่างกัน

แผน่ ดินไหว สึนามิ • มนษุ ยค์ วรเรยี นรูว้ ิธีปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั เช่น ติดตามข่าวสารอย่าง

๗. ตร ะหนักถึงผล กร ะท บข อ ง ภั ย สม่ำเสมอ เตรียมถุงยังชีพให้พร้อมใช้ตลอดเวลา และปฏิบัติตามคำส่ัง
ธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย โดยนำเสนอ ของผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเมื่อเกิดภัยธรรมชาติและ
แนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ ธรณพี ิบตั ภิ ยั
ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติ

ภยั ท่อี าจเกิดในทอ้ งถิ่น

๘. สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิด

ปรากฏการณ์เรือนกระจกและผลของ

ปรากฏการณ์เรอื นกระจกตอ่ ส่งิ มีชีวติ

ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง
๙. ตระหนกั ถงึ ผลกระทบของ
ปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยนำเสนอ • ปรากฏการณ์เรอื นกระจกเกิดจากแก๊สเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ
แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเพ่ือลดกจิ กรรมที่ ของโลกกกั เกบ็ ความร้อนแล้วคายความร้อนบางส่วนกลบั สูผ่ วิ โลก ทำให้
กอ่ ใหเ้ กดิ แก๊สเรือนกระจก อากาศบนโลกมอี ณุ หภูมิเหมาะสมตอ่ การดำรงชวี ิต

• หากปรากฏการณ์เรือนกระจกรุนแรงมากขึ้นจะมีผลต่อการ
เปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศโลก มนุษย์จึงควรร่วมกันลดกิจกรรมทีก่ ่อให้เกิด
แกส๊ เรอื นกระจก

สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี

ประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม

ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

๑. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและ • การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้แก้ปัญหาได้อย่างมี

ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน ประสิทธภิ าพ

ชีวิตประจำวัน • การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์หรือเงือ่ นไขที่ครอบคลุม

ทุกกรณมี าใชพ้ ิจารณาในการแกป้ ัญหา

• แนวคิดของการทำงานแบบวนซ้ำ และเงือ่ นไข

• การพจิ ารณากระบวนการทำงานทมี่ ีการทำงานแบบวนซำ้ หรือเงื่อนไข
เป็นวิธีการที่จะช่วยให้การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมี
ประสิทธภิ าพ

• ตัวอย่างปัญหา เช่น การค้นหาเลขหน้าท่ีต้องการใหเ้ รว็ ที่สุด การทาย

เลข ๑-๑,๐๐๐,๐๐๐ โดยตอบให้ถูกภายใน ๒๐ คำถาม การคำนวณ

เวลาในการเดนิ ทาง โดยคำนงึ ถึงระยะทาง เวลาจุดหยดุ พัก

๒. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย • การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขียนเป็นข้อความหรือผัง

เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตรวจหา งาน

ข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแก้ไข • การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้ตัวแปรการวนซ้ำ การ

ตรวจสอบเงื่อนไข

ตัวช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง

• หากมีข้อผิดพลาดให้ตรวจสอบการทำงานทีละคำสั่ง เมื่อพบจุดที่ทำ

ให้ผลลัพธไ์ ม่ถูกต้องใหท้ ำการแกไ้ ขจนกว่าจะไดผ้ ลลัพธท์ ี่ถูกตอ้ ง

• การฝึกตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของผู้อื่นจะช่วยพัฒนา
ทกั ษะการหาสาเหตขุ องปัญหาไดด้ ีย่ิงข้นึ

• ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมเกม โปรแกรมหาค่า ค.ร.น. เกมฝึก

พิมพ์

• ซอฟตแ์ วร์ท่ีใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เชน่ Scratch, logo

๓. ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูล • การคน้ หาอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เป็นการคน้ หาขอ้ มูลทไ่ี ด้ตรงตามความ

อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องการในเวลาที่รวดเร็วจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือหลายแหล่ง และ

ขอ้ มลู มคี วามสอดคล้องกัน

• การใช้เทคนิคการค้นหาขั้นสูง เช่น การใช้ตัวดำเนินการ การระบุ

รูปแบบของข้อมูลหรอื ชนิดของไฟล์

• การจัดลำดบั ผลลัพธจ์ ากการคน้ หาของโปรแกรมคน้ หา

• การเรยี บเรยี ง สรุปสาระสำคัญ (บรู ณาการกบั วชิ าภาษาไทย)

๔. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกนั • อนั ตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต แนวทางใน
อย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของ การปอ้ งกนั
ตน เคารพในสิทธขิ องผอู้ ื่น แจ้งผู้เกยี่ วขอ้ ง • วธิ กี ำหนดรหสั ผ่าน
เมอ่ื พบขอ้ มูลหรอื บุคคลที่ไมเ่ หมาะสม • การกำหนดสทิ ธกิ์ ารใช้งาน (สทิ ธ์ิในการเขา้ ถึง)

• แนวทางการตรวจสอบและปอ้ งกนั มัลแวร์

• อนั ตรายจากการตดิ ตัง้ ซอฟต์แวรท์ ี่อยู่บนอินเทอรเ์ น็ต


Click to View FlipBook Version