The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 9 การประยุกต์ใช้ระบบประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ anyfilp

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jutarat23348, 2021-01-15 08:28:31

บทที่ 9 การประยุกต์ใช้ระบบประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ anyfilp

บทที่ 9 การประยุกต์ใช้ระบบประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ anyfilp





การประยุกตใ์ ช้ระบบประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ
(Cloud Computing) ในงานเลขานุการ

เสนอ

ครูปรียา ปันธิยะ

จดั ทาโดย

นางสาวจุฑารตั น์ อนิ ตะ๊ ซาว
เลขท่ี 5 สบล. 63.1

สาขาวิชาการเลขานุการ

รายงานนเ้ี ปน็ สว่ นหนง่ึ ของ รหัสวชิ า 30203-2002
วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศในงานเลขานุการ
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
วิทยาลยั อาชีวศึกษาลาปาง



คานา

รายงานเลม่ นีเ้ ปน็ ส่วนหนึ่งของ รหัสวชิ า 30203-2002 วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศในงานเลขานุการ
ได้รับมอบหมายจากครูปรียา ปันธิยะ ให้ดาเนินการศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับเรื่อง การประยุกต์ใช้ระบบ
ประมวลผลแบบกลมุ่ เมฆ (Cloud Computing) ในงานเลขานกุ าร

ซึ่งเนื้อหารายงานเล่มนี้ประกอบด้วยหัวข้อ การประมวลผลกลุ่มเมฆ : Cloud Computing, นิยาม
ของ Cloud Computing หรือ การประมวลผลแบบกล่มุ เมฆ, ประวตั ิความเปน็ มา Cloud Computing,
องค์ประกอบของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ Cloud Computing, สถาปัตยกรรม Cloud Computing,
การทางานของ Cloud Computing, สามเหลี่ยมกลุ่มเมฆ, มาตรฐานของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ,
ประเภทของ Cloud Computing, การจัดเก็บข้อมูลจากบุคคลภายนอกองค์กร, การจัดเก็บเมฆ, ความ
มั่นคงผู้ให้บริการ, ระบบการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ ในภาครัฐ, ข้อดี ข้อเสีย ของ Cloud
Computing, ประโยชน์ของ Cloud Computing

ซึ่งจากการที่ผู้จัดทาได้ศึกษา ค้นคว้าข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาเพิ่มเติม
ผู้จัดทาหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ ว่า คงเป็นประโยชน์ต่อผทู้ ีส่ นใจ

จุฑารัตน์ อินตะ๊ ซาว
สาขาวชิ าการเลขานุการ

สารบัญ ง

คานา หนา้
สารบญั ก
การประมวลผลกลุ่มเมฆ : Cloud Computing ข
นยิ ามของ Cloud Computing หรือ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ 1
ประวตั คิ วามเปน็ มา Cloud Computing 1
องคป์ ระกอบของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ Cloud Computing 2
สถาปตั ยกรรม Cloud Computing 3
การทางานของ Cloud Computing 4
สามเหลยี่ มกลุ่มเมฆ 5
มาตรฐานของระบบประมวลผลกลมุ่ เมฆ 6
ประเภทของ Cloud Computing 7
การจัดเกบ็ ขอ้ มูลจากบุคคลภายนอกองค์กร 8
การจัดเก็บเมฆ 10
ความมนั่ คงผ้ใู หบ้ ริการ 11
ระบบการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ ในภาครัฐ 12
ข้อดี ข้อเสีย ของ Cloud Computing 15
ประโยชน์ของ Cloud Computing 17
แหลง่ อา้ งอิง 18
20

บทท่ี 9 การประยุกต์ใชร้ ะบบประมวลผลแบบกลุม่ เมฆ (Cloud Computing)
ในงานเลขานุการ

การประมวลผลกลมุ่ เมฆ : Cloud Computing

การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (cloud computing) เป็นลักษณะของการทางานของผู้ใช้งาน
คอมพิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ต ที่ให้บริการใดบริการหนึ่งกับผู้ใช้ โดยผู้ให้บริการจะแบ่งปันทรัพยากร
ให้กับผู้ต้องการใช้งานนั้น การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ เป็นลักษณะท่ีพัฒนาขึ้นต่อมาจากความคิดและบริการ
ของเวอร์ชัวไลเซชันและเว็บเซอร์วิซ โดยผู้ใช้งานนั้นไม่จาเป็นต้องมีความรู้ในเชิงเทคนิคสาหรับตัวพื้นฐาน
การทางานนนั้

สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาให้คาจากั ดความ "cloud" ว่า
มันเป็นอุปลักษณ์ จากคาในภาษาอังกฤษที่แปลว่า เมฆ กล่าวถึงอินเทอร์เน็ตโดยรวม ในรูปของโครงสร้าง
พื้นฐาน (เหมือนระบบไฟฟ้า ประปา) ที่พร้อมให้บริการกับผู้ใช้งานเมื่อมีความต้องการใช้ ผู้ให้บริการ
การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆส่วนใหญ่ จะให้บริการในลักษณะของเว็บแอปพลิเคชัน โดยให้ผู้ใช้ทางานผ่าน
เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ ขณะเดยี วกันซอฟตแ์ วรแ์ ละข้อมูลท้ังหมดจะถูกเกบ็ ไว้บนเซริ ์ฟเวอรข์ องผ้ใู หบ้ รกิ าร

การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆนั้น ถูกอธิบายถึงโมเดลรูปแบบใหม่ของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ในการใช้งานบนอินเทอร์เน็ตที่เน้นการขยายตัวได้อย่างยืดหยุ่น สามารถที่จะปรับขนาดได้ตามความต้องการ
ของผู้ใช้ และมีการจัดสรรทรัพยากร โดยเน้นการทางานระยะไกลอย่างง่าย ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นโครงสร้าง
พื้นฐาน ตัวอย่างของการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆที่เป็นที่รู้จัก เช่น ยูทูบ โดยที่ผู้ใช้สามารถเก็บวิดีโอออนไลน์
โดยไมต่ อ้ งมีความรู้ในการสร้างระบบวิดโี อออนไลน์ หรือ ในระบบเครอื ข่ายสังคมออนไลน์ตา่ ง ๆ เป็นต้น

ภาพที่ 1.1 การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (cloud computing)

นิยามของ Cloud Computing หรอื การประมวลผลแบบกล่มุ เมฆ

1. บริษัทการ์ตเนอร์ Gartner ได้ให้นิยามว่า “Cloud computing is a style of computing
where massively scalable IT-related capabilities are provided ‘as a service’ across the Internet
to multiple external customers” หรือ ระบบการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆคือ แนวทางการประมวลผล
ที่พลังของโครงสร้างทางไอทีขนาดใหญ่ที่ขยายตัวได้ถูกนา เสนอยังลูกค้าภายนอกจานวนมหาศาลในรูปแบบ
ของบรกิ าร

2

2. ฟอเรสเตอร์กรุ๊ป ไดน้ ิยามวา่ “ Cloud computing : A pool of abstracted, highly scalable, and
managed infrastructure capable of hosting end-customer applications and billed by consumption”
หรอื กลมุ่ ของโครงสร้างพ้นื ฐานทถ่ี ูกบริหารจัดการและขยายตัวได้อยา่ งมาก ซึ่งมีขีดความสามารถในการรองรับ
โปรแกรมประยกุ ตต์ า่ ง ๆ ของผ้ใู ชแ้ ละเกบ็ ค่า บรกิ ารตามการใช้งาน

ภาพท่ี 2.1 การประมวลผลแบบกลมุ่ เมฆ

ประวตั ิความเป็นมา Cloud Computing

คาจากัดความของระบบ Cloud computing เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในวงการไอทีตั้งแต่ช่วงปลาย
ทศวรรษ 1990 โดย

- ปี 1990 บริษัท long-haul telephone ใช้ ระบบ VPN ในการติดต่อกันแทนการสื่อสารที่ใช้
สายสื่อสาร บริษัทได้ให้บริการผ่าน VPN โดยรับประกันขนาดช่องส่งสัญญาณ (Bandwidth) คงที่ ในค่าใช้จ่าย
ทีต่ ่า โดยการทา load balance ในระบบเครือข่าย ซงึ่ ทาให้เกดิ ประสิทธิภาพสงู จงึ เกิดคาวา่ telecom cloud
ข้นึ มา

- ปี 1995 บรษิ ัท AT&T ไดเ้ ข้ามาร่วมเป็น partner ในการใช้บริการผา่ น Internet
- ปี 1999 saleforce.com ซึ่งมี Marc Benioff , Parker Harris ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
สร้างให้ Google และ Yahoo เป็น Application เชิงธุรกิจ โดยได้ให้นิยามของ On demand และ
SaaS (Software as a Service) ในการทาธุรกจิ โดย SaaS ได้ถกู คิดข้ึนมาเพื่อรองรับผู้ใช้ ทีต่ อ้ งใช้ทรัพยาการ
ในการ computing ท่มี ีอย่อู ยา่ งจากดั และมีความซับซอ้ นในการใชง้ าน
- ปี 2000 Microsoft ไดท้ าการขยายการทางานของ SaaS ในระบบ web service ของบริษทั
- ปี 2001 IBM ได้สร้างระบบ Autonomic Computing Manifesto ซ่ึงได้ใช้ advance automation
เข้าช่วยในการจัดการที่ซับซ้อนใน storage, server, application, เครือข่าย, ระบบความปลอดภัย
และองค์ประกอบอ่นื ๆ
- ปี 2002 Amazon ได้พัฒนา Web Services ของตนเอง ให้อยู่ภายใต้แนวคิด cloud-based
services ประกอบดว้ ย storage, computation และ human intelligence
- ปี 2006 Amazon ได้เริ่มเปิดให้บริการ Elastic Compute cloud (EC2) เพื่อให้องค์กรขนาดเล็ก
ได้เชา่ คอมพิวเตอร์ทีร่ ัน Application ของตวั เองได้
- ปี 2007 ทาง Google, IBM ไดร้ ว่ มมือกบั มหาลัยบางแหง่ ทาวจิ ัยเกย่ี วกับ Cloud computing
- ปี 2008 ทาง Microsoft เขา้ ส่อู ุตสาหกรรม Cloud Computing โดยใช้ช่ือผลติ ภณั ฑ์วา่ Azure

3

ภาพที่ 3.1 ประวัติความเปน็ มา Cloud Computing

cloud computing เชื่อว่าจะได้รับการคิดค้นโดย Joseph Carl Robnett Licklider ในปี 1960
กับการทางานของเขาใน ARPANET เพื่อเชื่อมโยงผู้คนและข้อมูลจากทุกที่ทุกเวลา แต่ Kurt Vonnegut
กล่าวถึงในหนังสือ Sirens of Titan (1959) ของเขา กล่าวถึงคลาวด์ว่า "เป็นการลดภาระสาหรับทุกคน"
ในปี 1994 AT&T เปิดตัว PersonaLink บริการแพลตฟอร์มออนไลน์สาหรับการสื่อสารส่วนบุคคลและธุรกิจ
และผู้ประกอบการ การจัดเก็บข้อมูล เป็นหนึ่งในคนแรก ๆ ที่จะเป็นการบริการโดยมีพื้นฐานจากเว็บ
และการอ้างอิงในโฆษณาของพวกเขาบอกว่า "คณุ สามารถคดิ ถึงสถานประชุมอเิ ลก็ ทรอนิกสข์ องเราว่าเป็นเมฆ"
Amazon Web Services เปิดตัวบริการการจัดเก็บข้อมูลของพวกเขาบนเมฆ AWS S3 ในปี 2006
และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและการยอมรับเปน็ ผู้จัดจาหน่ายการจัดเก็บข้อมูลของการบริการที่เปน็ ท่ี
นิยมเชน่ SmugMug, Dropbox และ Pinterest

ภาพที่ 3.2 ประวัติความเปน็ มา Cloud Computing

องค์ประกอบของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ Cloud Computing

ระบบประมวลผลกลมุ่ เมฆ จาเป็นต้องอาศัยองคป์ ระกอบทสี่ าคัญ คือ
1. อินเตอรเ์ น็ตท่มี ชี อ่ งสญั ญาณสงู จนเกอื บจะไม่มีจากัด (Nearly unlimited bandwidth)
2. เทคโนโลยรี ะบบเสมอื นจรงิ (Increasingly sophisticated virtualization technologies)
3. สถาปัตยกรรมเครอื ขา่ ยทรี่ องรบั การเข้าถึงพร้อมกนั จานวนมาก (Multitenant Architectures)
4. ลักษณะการใช้งานไดข้ องเซริ ฟ์เวอรป์ ระสทิ ธภิ าพสูง (Availability of extremely powerful

servers)
จุดเดน่ ของ Cloud Computing

1) Agility : มีความรวดเรว็ ในการใช้งาน
2) Cost : คา่ ใช้จา่ ยนอ้ ย หรืออาจไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ยสาหรบั Client

4

3) Device and Location Independence : ใช้ไดท้ กุ ทแี่ คม่ คี อมพิวเตอร์และอนิ เตอร์เนต็
4) Multi-Tenancy : แบง่ การใชท้ รพั ยากรใหผ้ ูใ้ ช้จานวนมากได้
5) Reliability : มคี วามน่าเชอื่ ถือ
6) Scalability : มีความยืดหยนุ่
7) Security : มีความปลอดภยั
8) Sustainability : มีความมนั่ คง

ภาพที่ 4.1 องค์ประกอบของระบบประมวลผลกลมุ่ เมฆ Cloud Computing

สถาปตั ยกรรม Cloud Computing

สถาปตั ยกรรมการประมวลผลแบบกล่มุ เมฆจะแบง่ ออกเป็น 2 ส่วนดังต่อไปนี้
1. อนิ เตอร์เฟซท่ีซอฟต์แวรท์ ีใ่ ชใ้ นการเขา้ ถงึ บริการคลาวดแ์ ละขอ้ มลู
2. ระบบโครงสรา้ งพ้นื ฐานของเซิร์ฟเวอร์ทเี่ ก็บขอ้ มูลและการประยุกต์ใช้
เว็บเบราว์เซอร์และแอปมือถือเป็นตัวอย่างของอินเตอร์เฟซที่ใช้ในการเข้าถึงบริการระบบคลาวด์

การใช้งาน Back-end และเซิร์ฟเวอร์เปน็ หลกั ของคอมพวิ เตอรเ์ มฆ
การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆประกอบด้วยทุกอย่างจาก Google Apps เพื่อบริการศูนย์ข้อมูล

ใชเ้ ทคโนโลยเี สมือนซอฟแวร์ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆเป็นการส่งมอบของคอมพิวเตอรเ์ ป็นบรกิ ารมากกว่า
ผลิตภัณฑ์ ทรัพยากรซอฟแวร์ที่ใช้ร่วมกันโดยและข้อมูลที่มีให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ
เป็นบรกิ ารมเิ ตอรผ์ า่ นเครอื ขา่ ย

ภาพที่ 5.1 สถาปัตยกรรม Cloud Computing

5

การจัดเก็บข้อมูลบนเมฆ มีโครงสร้างพื้นฐานแบบเสมือนชั้นสูง และมีขอบเขตกว้างเหมือน
ระบบการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ ในแง่ของการติดต่อที่สามารถเข้าถึงอย่างยืดหยุ่น เหมือนอยู่ใกล้ ๆ
ขยายขีดความสามารถได้, ใช้ร่วมกันได้ และตรวจวัดทรัพยากรที่มีได้ บริการจัดเก็บเมฆสามารถนาไปใช้
ประโยชนจ์ ากบริการนอกสถานท่ี (Amazon S3) หรือนาไปใชใ้ นสถานท่ี (ViON)

การจัดเก็บข้อมูลบนเมฆ มักจะหมายถึงเป็นเจ้าภาพการบริการจัดเก็บวัตถุทางอิเล็คทรอนิคส์
แต่คานี้ปัจจุบันได้มีการขยายความหมายเพื่อรวมประเภทอื่น ๆ ของการจัดเก็บข้อมูลที่ด้านบริการ
เชน่ ทีเ่ กบ็ บลอ็ ก (บริการฝากข้อความสนทนากลุม่ )

บริการจัดเก็บวัตถุเช่น Amazon S3 และ Microsoft Azure, การจัดเก็บข้อมูลวัตถุของซอฟต์แวร์
เช่น OpenStack Swift, ระบบจัดเก็บข้อมูลของวัตถุ เช่น EMC Atmos และ Hitachi Content Platform,
และข้อมูลการวิจัยด้านธุรกิจการค้า เช่น OceanStore และเมฆเสมือน เป็นตัวอย่างของการจัดเก็บข้อมูล
ที่สามารถเป็นเจา้ ภาพและนาไปใชก้ ับลักษณะการจัดเกบ็ เมฆ

ภาพท่ี 5.2 สถาปตั ยกรรม Cloud Computing

การทางานของ Cloud Computing

ระบบ cloud computing จะแบ่งการทางานออกเป็นส่วนหน้าและส่วนหลัง โดยทั้ง 2 ส่วน
จะทาการเชอื่ มตอ่ กนั ผ่านทางเครือข่ายอินเตอรเ์ นต็ ขยายความได้ ดงั นี้

ส่วนหน้า คือ ส่วนของผู้ใช้งานหรือที่เรียกกันว่า Client ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้รวมถึงแอปพลิเคชันที่จาเป็นในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์คลาวด์ สาหรับส่วนหลัง
คือส่วนระบบ cloud computing ซึ่งในส่วนนี้จะมี Server Computer และระบบจัดเกบ็ ข้อมลู ตา่ ง ๆ รวมอยู่
ทั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ระบบที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ไปจนการเก็บข้ อมูลในรูปแบบวีดีโอ
หรือเกมต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันก็มักจะถูกเก็บอยู่ในเซิร์ฟเวอร์แต่ละเครื่องของตัวเอง
ทีเ่ รียกวา่ Dedicate Server
ระบบ cloud computing และการเก็บขอ้ มลู ดว้ ย cloud storage

คือระบบ cloud computing จะต้องมีส่วนของ cloud storage เพื่อการจัดเก็บข้อมูล หากไม่มี
การจัดเก็บข้อมูลในส่วนน้ี ส่วนหน้าของผู้ใช้งานก็จะไม่มีข้อมูลและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่จะสามารถเรียกดูได้
cloud storage ก็คือการจัดเก็บข้อมูลรูปแบบหนึ่ง ที่องค์กรหรือภาคธุรกิจไม่จ าเป็นต้องลงทุน

6

ซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์หรือฮาร์ดไดรฟ์ขนาดใหญ่ในการจัดเก็บข้อมูล แต่จะใช้เป็นการเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์
แทนโดยจะบันทึกข้อมลู ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของบุคคลที่ 3 หรือการจัดเก็บข้อมูลไวบ้ นเซิร์ฟเวอร์นอกสถานท่ีที่เปดิ
โอกาสให้ผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลเพิ่มเข้าไปได้จากระยะไกลโดยใช้อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์
และฐานข้อมลู นั่นเอง

ส่วนความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความมั่นใจว่าข้อมูลบน cloud storage จะไม่สูญหาย
ไปไหนนั้น ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุที่ทาให้ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ก็คือการลบข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ
การเซฟทับ หรือการโจมตีข้อมูลในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่ง ระบบ cloud computing จะมีการสารองข้อมูล
ไว้บนระบบตลอดเวลา ทั้งบนเซิร์ฟเวอร์เครื่องที่ใช้บันทึกข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์สารองเครื่องอื่น อีกทั้งยังมี
การตั้งค่าความปลอดภัยได้หลากหลายรูปแบบ ที่ผู้ใช้บริการสามารถเลือกแผนบริการสาหรับระบบ
ความปลอดภัยตามเง่อื นไขของ cloud solution ในแตล่ ะแบบของผูใ้ หบ้ รกิ ารได้

ปัจจุบันองค์กร หน่วยงาน รวมถึง SMEs และ Start up ต่างก็ทาการเก็บข้อมูลโดยใช้ cloud
storage ระบบ cloud computing กันมากขึ้นเนื่องจากช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนและการดูแล
รกั ษาไดม้ ากกว่า อีกทัง้ ยังมั่นใจไดใ้ นเร่ืองความปลอดภัยของขอ้ มลู อกี ดว้ ย

ภาพท่ี 6.1 การทางานของ Cloud Computing

สามเหล่ียมกลุ่มเมฆ

ระบบปฏิบัติการกลุ่มเมฆประกอบด้วยบริการที่สาคัญ 3 ส่วนคือโครงสร้างพื้นฐาน แพลทฟอร์ม
และแอพพลเิ คช่ัน

1. โครงสร้างพื้นฐานกลุ่มเมฆ (Cloud Infrastructure) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน เป็นระดับ
เริ่มต้นของสภาพแวดล้อมระบบประมวลผลกลุ่มเมฆในลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือน ( Virtual
Machine) ให้บริการด้านการจัดสมดุลปริมาณงาน (Loadbalancing) และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล (Storage)
รองรับแพลทฟอร์มกลุ่มเมฆ และแอพพลิเคช่ันกลุ่มเมฆ ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสามารถปรับเปลี่ยน
คุณสมบัติ บริการ และควบคุมระบบประมวลผลกลุม่ เมฆได้สูงสุด โดยเป็นผู้ให้บริการระดับควบคุมท้ังหมดของ
โครงสร้างเซิรฟ์ เวอรต์ วั อย่างผู้ใหบ้ ริการโครงสรา้ งพ้ืนฐาน เช่น Amazon's EC2, GoGrid, RightScale

2. แพลทฟอร์มกลุ่มเมฆ (Cloud Platform) ผู้ให้บริการแพลทฟอร์มจะกาหนดมาตรฐานของ
แอพพลิเคชั่นสาหรับผู้พัฒนา แต่แพลทฟอร์มจาเป็นต้องขึ้นกับลักษณะของโครงสร้างพื้นฐาน
ของเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือน ตัวอย่างผู้ให้บริการแพลทฟอร์มกลุ่มเมฆ เช่น Google App Engine, Heroku,
Mosso, Engine Yard, Joyent, force.com (Saleforce platform)

7

3. แอพพลิเคชั่นกลุ่มเมฆ (Cloud Application) การให้บริการซอฟต์แวร์บนเครือข่ายในลักษณะ
SAAS (Software As A Service) โดยรูปแบบให้บริการเป็นลักษณะ Virtualization กล่าวคือเป็นเว็บ
แอพพลิเคช่ัน มีส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User interface) บนหน้าเว็บเบราว์เซอร์ โดยแยกส่วนโปรแกรม
และส่วนประมวลผลอยู่บนเครือข่าย ผู้ใช้จึงไม่จาเป็นต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นในเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น
บริการ Hotmail, Gmail, Quicken Online, Google Doc., SalesForce, Online banking service

ภาพที่ 7.1 สามเหลีย่ มกลมุ่ เมฆ

มาตรฐานของระบบประมวลผลกล่มุ เมฆ

มาตรฐานของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ ระบบประมวลผลกลุ่มเมฆใช้มาตรฐานแบบเปิด (open
standard) เช่ น Browsers (Ajax), Communications (HTTP, XMPP), Data (XML,JSON), Offline (HTML5),
Management (OVF), Security (OAuth, OpenID, TLS), Solution stacks (LAMP), Syndication (Atom),
Web Service (REST)

การบรกิ ารบนระบบการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆสามารถ แบ่งรูปแบบของช้นั ดงั นี้
1. การให้บริการซอฟต์แวร์ หรือ Software as a Service (SaaS) จะให้บริการการประมวล
ผลแอปพลิเคชันทแี่ ม่ข่ายของผใู้ ห้บริการ และเปดิ ให้การบริการทางด้านซอฟแวร์ต่างๆ
2. การให้บริการแพลทฟอร์ม หรือ Platform as a Service (PaaS) เป็นการประมวลผล
ซ่งึ มีระบบปฏบิ ตั กิ าร และการสนบั สนนุ เวบ็ แอปพลเิ คชันเข้ามารว่ มด้วย
3.การให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure as a Service (IaaS) เป็นการให้บริการ
เฉพาะโครงสรา้ งพื้นฐาน มีประโยชน์ในการประมวลผลทรัพยากรจานวนมาก
4. บริการระบบจัดเก็บข้อมูล หรือ data Storage as a Service (dSaaS) ระบบการจัดเก็บข้อมูล
ทม่ี ขี นาดใหญ่ไมจ่ ากดั รองรับการสบื ค้นและการจดั การขอ้ มูลขน้ั สงู
5. บริการร่วมรวมลาดับความเชื่อมโยง หรือ Composite Service (CaaS) คือส่วนทาหน้าที่
รวมโปรแกรมประยุกต์ หรือจัดลาดับการเชื่อมโยงแบบ workflow ข้ามเครือข่าย รวมถึงการจัดการ
ดา้ นความปลอดภัย

8

ภาพที่ 8.1 มาตรฐานของระบบประมวลผลกล่มุ เมฆ

ประเภทของ Cloud Computing

ระบบการทางานของ Cloud Computing นั้น สามารถแบ่งออกเป็นประเภทได้หลายประเภท ทั้งนี้ได้
แบง่ ตามกลุ่มผ้ใู ช้ การใหบ้ รกิ าร และประเภทของเทคโนโลยไี ด้ดังต่อไปนี้ แยกตามกลมุ่ ผใู้ ช้

1. Cloud ระดับองค์กร ตัวอย่าง Cloud Library เช่น OCLC (Online Computer Library Center)
เปน็ องค์กรทพี่ ยายามนาห้อง สมุดทง้ั หมดมาเชือ่ มโยงกัน ปจั จุบัน OCLC กาลงั พัฒนาระบบ Cloud LCIS, Cloud
OPAC คอื เมอ่ื ค้นหนังสอื แลว้ ผลคน้ จะแสดงรายการให้เห็นวา่ หนังสอื อยทู่ ีป่ ระเทศได้บา้ ง เป็นต้น

2. Cloud ระดับบุคคล/บริการ เช่น Gmail เป็น Cloud ของ Google ส่วน Facebook, Meebo,
Outlook เปน็ Clod ของ Microsoft

3. Cloudผสมผสาน เช่น Dropbox เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการเก็บไพล์ส่วนบุคคล ผู้ใช้สามารถ
ใส่ไพล์ใด ๆ เข้าไปในพื้นที่ฝากไพล์ และสามารถโหลดจาก URL นั้นได้ นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งให้ผู้ใช้ทั่วไป
ดหู รือเลอื กเฉพาะไพลท์ ตี่ อ้ งการเผยแพร่ได้ แยกตามการให้บริการ

3.1 Public Cloud เป็นการใช้บริการเข้าถึงข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ผ่านการให้บริการสาธารณะ มักจะผ่านการให้บริการของผู้ให้บริการสาธารณะ มักจะเป็นบริษัทไอทีรายใหญ่
เช่น Google, Amazon, IBM และ Microsoft ซง่ึ การจัดการข้อมูลสามารถทาให้เปน็ แบบเปิดหรือปิดเปน็ ความลบั

ภาพที่ 9.1 ประเภทของ Cloud Computing

3.2 Private Cloud เป็นการใช้งานภายในองค์กร ทั้งข้อมูลและแอพพลิเคชั่นจะถูกจัดเก็บ
ไว้อย่างปลอดภัยบน Data Center ซึ่งผู้ใช้บริการเป็นผู้บริหารจัดการระบบ สามารถปรับเปลี่ยนระบบต่าง ๆ
ได้ดว้ ยตนเอง ผ้ใู หบ้ ริการจะมีหนา้ ท่ตี ิดตั้งและดแู ลรักษาใหเ้ ท่าน้นั จึงชว่ ยเพิม่ ความปลอดภัยให้กับองค์กร

9

ภาพท่ี 9.2 Private Cloud

3.3 Hybrid Cloud เป็นการผสมผสานกันระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud เลือกแบ่ง
การทางานเปน็ ส่วน ๆ ได้ โดยมคี วามสามารถทัง้ สองแบบ

ภาพท่ี 9.3 Hybrid Cloud

แยกตามประเภทของเทคโนโลยี
1. SaaS (Software as a service) เป็นรูปแบบการให้บริการใช้ซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคช่ัน

บน Cloud ทาให้ผู้ใช้ที่ออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใช้บริการซอฟต์แวร์เหล่านี้ได้โดยไม่จาเป็นต้องติดต้ัง
ซอฟต์แวรไ์ วท้ หี่ นว่ ยงานหรอื คอมพวิ เตอรข์ องผใู้ ช้ เชน่

1) Google Document ให้บริการโปรแกรมใช้งานในออฟฟิศต่าง ๆ สามารถทางานพื้นฐาน
ทุกประเภทได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการทารายการสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย การเรียงลาดับตามคอลัมน์
การเพิ่มตาราง รูปภาพ ข้อคิดเห็น สูตร เปลี่ยนแบบอักษรและอื่น ๆ การสร้างเอกสารหรืออัพโหลดข้อมูล
สามารถทาได้ง่าย เพราะมีหน้าตาที่คล้ายกับโปรแกรมออฟฟิศทั่วไป ทาง่ายต่อการใช้งานโดยรองรับรูปแบบไฟล์
ที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ ได้แก่ DOC, XLS, ODT, ODS, RTF, CSV และ PPT เป็นต้น และการใช้งาน Google
Document นั้นไม่ต้องเสียคา่ ใช้จ่ายใด ๆ

2) ระบบการรับ - ส่งอีเมล และบริการซอฟแวร์ เช่น Outlook, Yahoo, Gmail, Facebook
และ Amazon เป็นต้น เพียงล็อคอนิ เข้าสู่ระบบอินเทอร์เนต็ และสมคั รเปิดเข้าใช้บัญชอี ีเมลของผูใ้ ห้บริการข้างต้น
ก็สามารถใช้งานรับ-สง่ อีเมล์ไดท้ กุ ทีท่ ุกเวลา โดยไม่จาเปน็ ตอ้ งตดิ ตง้ั โปรแกรมใด ๆ ในเคร่ือง

2. IaaS (Infrastructure as a Service) เป็นบริการเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของระบบ เช่น
หน่วยประมวณผล (processing unit) เครอื ขา่ ยขอ้ มูล (network) ระบบเก็บข้อมูล (storage) หรอื พื้นทเ่ี ซิร์ฟเวอร์
(hosting) ผู้ใช้บริการจะสามารถเช่าเวลาในการประมวลผล ซื้อเวลาและขนาดของช่องสัญญาณในการส่งข้อมูล
หรือขนาดของพื้นที่เก็บข้อมูลจากผู้บริโภคได้ ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่เซิร์ฟเวอร์ของ Gmail และ Amazon เป็นต้น

10

ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานในระบบกลุ่มเมฆนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์และความต้องการของผู้ใช้
โดยผ่าน Cloud API ของผู้ให้บริการ เช่น การเช่าพื้นที่เพื่อสร้างเว็บไซต์ในกลุ่มเมฆ ถ้าเกิดความต้องการใช้งาน
เว็บไซต์นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระบบกลุ่มเมฆจะใช้ระบบ Virtualization ภายในกลุ่มเมฆ ในการ
ขยายจานวนหน่วยประมวณผลและขนาดของช่องสัญญาณของเว็บไซต์ได้อัตโนมัติ และผู้รับบริการ
จะตอ้ งเสียค่าใชจ้ า่ ยเพม่ิ ขึน้ ตามการใชง้ านของทรัพยากรทีเ่ พมิ่ มากขนึ้ ได้โดยไมล่ ่มเสียกอ่ น

3. PaaS (Platform as a service) บริการแพลตฟอร์ม คือให้บริการนักพัฒนาในการพัฒนา
โปรแกรมโดยผู้รับบริการสามารถพัฒนาโปรแกรมระบบ ได้แก่ บริการ Google App Engine ซึ่งผู้รับบริการ
สามารถสร้างโปรแกรมประยุกต์ประเภท Web Application บนเว็บที่มีอัตราการเข้าชมสูง โดยไม่ต้อง
จัดโครงสร้างพื้นฐานสาหรับอัตราการเข้าชมที่สูง การเขียนโปรแกรมนั้นนักพัฒนาสามารถใช้ภาษา Java
หรือ Python แล้วโฮสต์โปรแรมบนเซิร์ฟเวอร์ของ Google ได้โดยมีค่าบริการตามจานวน Transaction
หรือ Data storage

ภาพที่ 9.3 ประเภทของ Cloud Computing

การจัดเกบ็ ขอ้ มลู จากบุคคลภายนอกองค์กร

1. เมื่อข้อมูลมีการกระจายการเก็บไว้ในสถานที่อื่น ๆ อีกมากมายเพิ่มความเสี่ยงของการเข้าถึง
ทางกายภาพไม่ได้รับอนุญาตไปยังข้อมูล ยกตัวอย่างเช่น ในสถาปัตยกรรมเมฆตามข้อมูลที่ถูกจาลองแบบ
และย้ายบ่อยดังนั้น ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของการกู้คืนข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างมาก (เช่น การใช้อุปกรณ์
เก็บข้อมูลเก่านามาใช้ใหม่, การจัดสรรพื้นที่จัดเก็บ) ลักษณะที่ข้อมูลที่ถูกจาลองขึ้นอยู่กับระดับการให้บริการ
ลูกค้าเลือกและการบริการที่มีให้ ผู้ขายบริการบนเมฆที่แตกต่างกันมีระดับการให้บริการที่แตกต่างกัน
ความเสี่ยงของการเข้าถึงข้อมูลจะลดลงผ่านการใช้การเข้ารหัสลับซึ่งสามารถนา ไปใช้กับข้อมูลที่เป็นส่วนหนึ่ง
ของการให้บริการจดั เก็บหรือในสถานท่ีอปุ กรณ์ ท่ีเข้ารหัสขอ้ มูลกอ่ นท่จี ะอัปโหลดลดไปยังเมฆ

2. จานวนของคนที่มีการเข้าถึงข้อมูลที่สามารถถูกบุกรุก (เช่น มีการติดสินบน หรือข่มขู่)
เพิ่มขึ้นอย่างมาก บริษัทเดียวอาจมีทีมงานเล็ก ๆ มีผู้บริหารวิศวกรเครือข่าย และช่างเทคนิค แต่บริษัท
จัดเก็บเมฆจะมีลูกค้าจานวนมากและเซิร์ฟเวอร์หลายพันเครื่อง ดังนั้นทีมต้องดูแลข้อมูลขนาดใหญ่กว่า
ความสามารถของเจ้าหน้าที่เทคนิค ที่มีการเข้าถึงทางกายภาพ และทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดูแลเกือบทั้งหมด
ของข้อมูลและการสิ่งอานวยความสะดวกทั้งหมด หรืออาจจะเป็นทั้งบริษัทคีย์การเข้ารหัสลับที่ถูกเก็บไว้โดย
ผใู้ ชบ้ รกิ าร เมื่อเทยี บกับขีดจากัด ของผ้ใู ห้บรกิ ารการเขา้ ถงึ ขอ้ มูลโดยพนกั งานผู้ใหบ้ ริการได้

11

3. ด้วยการเพิ่มจานวนของเครือข่าย ซึ่งข้อมูลมีการเดินทาง แทนที่จะเป็นเพียงแค่เครือข่ายท้องถ่ิน
(LAN) หรือเครือข่ายพื้นที่จัดเก็บข้อมูล (SAN) ข้อมูลที่เก็บไว้บนเมฆต้องการ WAN (เครือข่ายบริเวณกว้าง)
เพอ่ื เช่ือมต่อทั้งสองระบบ

4. โดยการจัดเก็บข้อมูลและเครือข่ายร่วมกันกับจานวนผู้ใช้อื่น ๆ เป็นไปได้สาหรับลูกค้ารายอื่น ๆ
ในการเข้าถึงข้อมูลของคุณ บางครั้งเพราะการกระทาที่ผิดพลาด, อุปกรณ์ผิดพลาด, ข้อผิดพลาดและบางคร้ัง
เพราะเจตนาทางอาญา ความเสี่ยงนี้จะใช้กับทุกประเภทของการจัดเก็บและไม่เพียง แต่การจัดเก็บเมฆ
ความเสี่ยงของการมีการอ่านข้อมูลในระหว่างการส่งจะลดลงด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัสลับ การเข้ารหัสลับ
ในการขนส่งช่วยปกป้องข้อมูลที่มันจะถูกส่งไปยังและจากการให้บริการคลาวด์ การเข้ารหัสในส่วนที่เหลือ
จะช่วยปกป้องข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ที่ผู้ให้บริการ การเข้ารหัสข้อมูลในการให้บริการคลาวด์ เป็นการเพิ่มระบบ
ทีส่ ามารถใหบ้ รกิ ารทง้ั สองประเภทของการป้องกันการเข้ารหสั

ภาพท่ี 10.1 การจดั เกบ็ ขอ้ มลู จากบุคคลภายนอกองคก์ ร

การจัดเก็บเมฆ

การจัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์เป็นวิธีง่าย ๆ ในการจัดเก็บ เข้าถึง และใช้ข้อมูลร่วมกันผ่าน
ทางอินเทอร์เน็ต โดยผู้ให้บริการระบบจัดเก็บข้อมูลระบบคลาวด์ เช่น Amazon Web Services ซึ่งเป็น
เจ้าของและเป็นคนบารุงรักษาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย ในขณะที่คุณจัดเตรียม
และใช้สิ่งที่คุณต้องการผ่านทางแอพพลิเคชันหรือเว็บไซต์ การใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์จะช่วย
ลดต้นทุนได้มาก และการจัดการในการซื้อและบารุงรักษาโครงสร้างแหล่งเก็บข้อมูลของคุณเอง ช่วยเพิ่มความ
คล่องตัว และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเหมาะกับบริษัทที่ต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล
จานวนมาก

ข้อกาหนดในการใช้ Clound Storage มั่นใจได้ว่าข้อมูลสาคัญของ บริษัทของคุณจะปลอดภัย
และพร้อมใช้งาน เมื่อจาเป็นมีความจาเป็น ซึ่งมีข้อกาหนดพื้นฐานหลายอย่างเมื่อพิจารณาการจัดเก็บข้อมูลใน
ระบบคลาวด์

1. ความคงทน (Durability) ข้อมูลได้รับการจัดเก็บรักษาอย่างดี ซึ่งเหมาะสาหรับอุปกรณ์
หลาย ๆ เครื่องและอุปกรณ์หลายเครื่องในแต่ละสถานที่ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ภัยธรรมชาติ
ความผิดพลาดของมนุษยห์ รือความผิดพลาดเชิงกลไม่ทาให้ข้อมูลสูญหาย

12

2. ปริมาณของเวลาที่เน็ตเวิร์กพร้อมใช้งาน (Availability) ข้อมูลทั้งหมดพร้อมใช้งานเมื่อจาเป็น
แต่มคี วามแตกต่างระหวา่ งข้อมูลการผลิตและคลังข้อมูล การจัดเก็บขอ้ มูลแบบคลาวด์ทเี่ หมาะสมจะช่วยให้เกิด
ความสมดลุ ของเวลาในการเรียกค้นและค่าใชจ้ า่ ย

3. ความปลอดภัย (Security) ข้อมูลทั้งหมดได้รับการเข้ารหัสไว้อย่างดีเยี่ยมทั้งในส่วนท่ี
เหลือและระหว่างทาง สิทธิ์และการควบคุมการเข้าถึงควรทางานได้ดีในระบบคลาวด์ เช่นเดียวกับในสถานที่
จดั เก็บข้อมลู

ภาพที่ 11.1 การจัดเก็บเมฆ

1. สรา้ งขึน้ จากทรัพยากรจานวนมาก แตย่ งั คงทาหนา้ ทเ่ี สมอื นเป็นหน่งึ เดียว – มักเรียกกันว่าการ
จัดเก็บข้อมูลเมฆสว่ นกลาง

2. ลดความซ้าซอ้ นและการกกระจดั กระจายของขอ้ มลู
3. รองรับการสรา้ งข้อมลู พรอ้ มกนั หลายคนในแฟม้ เดียวกัน
4. สามารถกาหนดข้นั ตอนการเห็นชอบของเอกสารได้

ภาพท่ี 11.2 การจดั เกบ็ เมฆ

ความมน่ั คงผู้ใหบ้ ริการ

Cloud 7 ประการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้าน Visibility & Control รวมไปถึงกลไกในการรับมือ
กับภยั คกุ คามไซเบอร์ ดังตอ่ ไปนี้

1. Inside-Out IaaS Security (กาหนดนโยบายความมั่นคงปลอดภัยจากภายในสู่ภายนอก)
ประโยชน์ของการใช้ Infrastructure-as-a-Service คือ การใช้ทรัพยากรได้เต็มรูปแบบ อันรวมถึงฮาร์ดแวร์
อุปกรณ์เครือข่าย และทูลส์ในการเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่ล้วนสามารถเข้าถึงและจัดการได้จากคลาวด์ ในขณะที่
ผู้ให้บริการคลาวด์เป็นผู้จัดหาและดูแลส่วนประกอบของโครงสร้างพื้นฐานแบบนี้ แต่องค์กรยังต้องพิจารณา
ถึงความจาเปน็ ในการปกปอ้ งทรัพยส์ ินคลาวด์ของตนเองอกี ด้วย โคเฮนอธิบายว่าลูกค้าจานวนมากใช้วิธกี าหนด

13

นโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยที่สอดคล้องกันและนาไปใช้กับผู้ให้บริการ IaaS ซึ่งเป็นการกาหนดนโยบาย
จากภายในองค์กรสู่ภายนอก เพื่อให้สามารถจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยได้ที่ระดับเวิร์กโหลด ระดับ
เครอื ข่ายและระดับ API

ภาพที่ 12.1 Inside-Out IaaS Security

2. Cloud Services Hub (ฮับให้บริการคลาวด์) องค์กรใหญ่มักขาดกระบวนจัดการความมั่นคง
ปลอดภัยจากส่วนกลาง ในขณะที่ใช้งานโซลูชันคลาวด์ที่แตกต่างกันหลายประเภท ซึ่งส่งผลทาให้องค์กร
มีการมองเห็นและการควบคุมภายในเครือข่ายน้อยลง รวมถึง ไม่สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้ทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม หากองค์กรใช้ฮับศูนย์ที่ให้บริการคลาวด์ ทีมไอทีจะสามารถใช้ประโยชน์จากความเป็นคลาวด์ได้
มากขึ้น เช่น มีความยืดหยุ่น ความพร้อมใช้งานตลอดเวลา และสามารถปรับขนาดได้ ในขณะที่มีศักยภาพ
ด้านความมั่นคงปลอดภัยที่สอดคล้องกันในทุกแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ ฮับนี้ได้รวมความสามารถ
ด้านความมั่นคงปลอดภัยไว้ในที่เดียวอย่างเรียบร้อย จึงทาให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อเครือข่าย VPC ที่แตกต่างกัน
โดยใชก้ ารเชอื่ มตอ่ วีพีเอน็ อนั ปลอดภยั

ภาพท่ี 12.2 Cloud Services Hub

3. Remote Access VPN (การใช้วีพีเอ็น) องค์กรมักนิยมใช้วีพีเอ็นในการเข้าถึงข้อมูลจาก
ที่ใดก็ได้ในโลกนี้ไปยังคลาวด์ แต่การเข้าถึงระยะไกลโดยใช้วีพีเอ็นแบบดั้งเดิมนั้นไม่สามารถตอบสนอง
ความต้องการเหล่านี้ได้เสมอไป หากองค์กรปรับใช้โซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อเปิดใช้งานการเข้าถึงระยะไกล
ที่ปลอดภัยในระบบคลาวด์แล้ว จะทาให้มีความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด ซึ่งรวมถึงการปรับระดับการเข้ารหัส
แบบไดนามิกอันคล่องตัวได้ตามต้องการ อาทิ ตามตาแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์ ตามประเภทของผู้ใช้งาน
ปลายทาง หรือตามอุปกรณ์ไอโอทีและตามข้อมูลที่เข้าใช้งานเป็นต้น องค์กรจึงจะสามารถยกระดับโครงสร้าง
พ้นื ฐานบนคลาวดข์ องตนที่ใช้งานทัว่ โลกใหอ้ ยใู่ นระดับสงู และมปี ระสทิ ธภิ าพมากย่งิ ขึ้นได้

14

ภาพที่ 12.3 Remote Access VPN
4. Hybrid Cloud (ไฮบริดคลาวด์) การใช้ระบบคลาวด์สาธารณะมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานเสริม
สาหรับศูนย์ข้อมูลในองค์กรมักจะช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ ในการให้บริการไอทีทั่วทั้งองค์กร
แต่สภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์เหล่านี้อาจนามาซึ่งความเสี่ยงต่าง ๆ ได้เช่นกัน อาทิ การมองเห็นเครือข่าย
ที่ยังไม่ดีและการจัดการความมั่นคงปลอดภัยที่ยังซับซ้อน ทั้งนี้ ในการสร้างความมั่นคงปลอดภัยระบบคลาวด์
แบบไฮบริดนี้ องค์กรจาเป็นต้องปรับใช้นโยบายความมั่นคงปลอดภัยที่ครอบคลุมในโครงสร้างทั้งหมด
เพ่ือให้แน่ใจว่าข้อมลู ไดร้ บั การปกป้องในขณะท่ถี กู ถ่ายโอนไปยังและจากระบบคลาวด์

ภาพท่ี 12.4 Hybrid Cloud
5. Advanced Application Protection (การป้องกันแอปพลิเคชันขั้นสูง) การใช้แอปพลิเคชัน
ใหม่บนคลาวด์ไม่เพียงแต่สร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นท่านั้น แต่ยังเป็นการบังคับให้องค์กรต่าง ๆ ตระหนัก
ถึงความสามารถในการทาตามข้อกาหนดต่าง ๆ (Compliance) อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ดังนั้น องค์กรจึงควร
ใช้แอปพลิเคชันด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ผ่านการทดสอบมาแล้วและนาไปใช้กับระบบคลาวด์ นอกจากนี้
ก่อนที่จะย้ายไปสู่คลาวด์ องค์กรควรพิจารณาโซลูชันที่มีศักยภาพป้องกันส่วน APIs ของเว็บแอปพลิเคชัน
เป็นโซลูชันมีคุณสมบัติบังคับใช้นโยบายความมั่นคงปลอดภัยได้และตรวจจับมัลแวร์ประเภทต่าง ๆ ทั้งเก่า
และใหม่ไดใ้ นตวั

ภาพท่ี 12.5 Advanced Application Protection

15

6. Security Management from the Cloud (การจัดการความมั่นคงปลอดภัยจากคลาวด์)
องค์กรที่ใช้ทูลส์แบบดั้งเดิมจะประสบปัญหาที่ระบบไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อต้องการปรับใช้และจัดการทูลส์จากคลาวด์ องค์กรจึงควรใช้ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกให้บริการ
ด้านความมั่นคงปลอดภัยครอบคลุมทั่วทุกกลุ่มคลาวด์ต่าง ๆ ที่ครบถ้วน จึงจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าองค์กร
จะยังสามารถปรบั ขนาดของบรกิ าร ปรับปรุงประสทิ ธภิ าพการดาเนนิ งาน ลดตน้ ทุนและลดความเสยี่ งได้

ภาพท่ี 12.6 Security Management from the Cloud

7. Public Cloud Usage Monitoring and Control (การตรวจสอบและควบคุมการใช้งาน
คลาวด์สาธารณะ) ในปัจจุบัน การใช้งานคลาวด์สาธารณะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก
แต่ยังมปี ัญหาเร่ืองการกาหนดค่าการใช้งานทีผ่ ิดพลาด (Misconfiguration) ท่ยี ังคงเป็นสาเหตหุ ลักทาให้ระบบ
หยุดชะงักและเกิดความเสียหายที่ไม่คาดคิด ดังนั้น องค์กรจจึงควรมีศักยภาพในการมองเห็นการเปลี่ยนแปลง
ของค่าที่กาหนดต่าง ๆ บนโครงสร้างพืน้ ฐานคลาวด์สาธารณะที่หลากหลายได้ โดยมองผ่านแพลตฟอร์มกลางท่ี
ให้รายงานท่ีเก่ียวกับการละเมดิ กฎระเบียบท่อี งค์กรสามารถนาไปใชง้ า่ ยมากขน้ึ

ภาพท่ี 12.7 Public Cloud Usage Monitoring and Control

ระบบการประมวลผลแบบกล่มุ เมฆ ในภาครฐั

โดยระบบการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆในภาครัฐ จะสามารถลดช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยี
ในการดาเนนิ งานของภาครฐั ได้ จะชว่ ยให้การบริการต่อ ภาคประชาชน หรือ Government to Citizen (G2C)
ภาคธุรกิจ หรือ Government to Business (G2B) ภาคราชการ หรือ Government to Employee (G2E)
และภาครัฐ หรอื Government to Government (G2G) ด้วยกนั มีการบริการที่มคี วามรวดเรว็ มากขึ้น

16
รูปแบบระบบการประมวลผลแบบกลุม่ เมฆในภาครฐั

1. ระบบรัฐบาลแบบกลมุ่ เมฆ(เปิด)สาธารณะ (Government Public Cloud) จะใช้เป็นทางเลอื ก
สาหรบั งานท่ัวไป ที่สามารถเปิดเผยขอ้ มูลออกสสู่ าธารณะได้ โดยมีผใู้ ห้บริการเปน็ ผูด้ แู ลระบบ

ภาพท่ี 13.1 Government Public Cloud
2. ระบบรฐั บาลแบบกลุม่ เมฆปดิ สว่ นตน (Government Private Cloud Dedicated) จะมีความ
คลา้ ยกับระบบรัฐบาลแบบกลมุ่ เมฆ(ปดิ )สว่ นตัว (Government Private Cloud) ซงึ่ ใช้เปน็ ทางเลือกเฉพาะงาน
ภายในกลุ่มขององค์กรนั้นๆ จะไม่เปิดเผยข้อมูลออกสู่สาธารณะ โดยมีผู้ให้บริการเป็นผู้ดูแลระบบ แต่ศูนย์
ข้อมูลจะตั้งอยู่ในประเทศของรัฐที่เป็นผู้ใช้ระบบ เนื่องจากการป้องกันปัญหาด้านความปลอดภัยในความเป็น
ส่วนตวั

ภาพที่ 13.2 Government Private Cloud Dedicated
3. ระบบรัฐบาลแบบกลุ่มเมฆส่วนตนเฉพาะ (Government Private Cloud Self Hosted)
เปน็ การสร้างพื้นทรี่ ะบบของตนเอง ขน้ึ เป็นเจา้ ของ ซ่ึงวิธีการนี้จะไดร้ ะบบตามความต้องการของภาครฐั เอง

ภาพท่ี 13.3 Government Private Cloud Self Hosted

17

4. ระบบรัฐบาลแบบกลุ่มเมฆส่วนตนเอง (Government Private Cloud Hosted) ระบบ
และแบนดว์ ดิ ทจ์ ะเปน็ ของภายในประเทศทง้ั หมด รฐั เป็นผู้ดูแลบรกิ ารเอง

ภาพที่ 13.4 Government Private Cloud Hosted

ขอ้ ดี ข้อเสีย ของ Cloud Computing

จดุ เด่นของ Cloud Computing
1) Agility : มีความรวดเรว็ ในการใชง้ าน
2) Cost : ค่าใชจ้ า่ ยน้อย หรอื อาจไม่เสยี ค่าใช้จา่ ยสาหรบั Client
3) Device and Location Independence : ใช้ไดท้ กุ ที่แคม่ คี อมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต
4) Multi-Tenancy : แบ่งการใช้ทรัพยากรใหผ้ ู้ใชจ้ านวนมากได้
5) Reliability : มีความนา่ เชือ่ ถอื
6) Scalability : มคี วามยดื หยุน่
7) Security : มีความปลอดภยั
8) Sustainability : มีความมน่ั คง

ข้อดีของ Cloud Computing
1) ลดต้นทุนค่าดูแลบารุงรักษาเนื่องจากค่าบริการได้รวมค่าใช้จ่ายตามที่ใช้งาน จริง เช่น ค่าจ้าง

พนักงาน ค่าซ่อมแซม คา่ ลิขสิทธ์ิ คา่ ไฟฟ้า ค่าน้า ค่านา้ มันเชอ้ื เพลงิ ค่าอพั เกรด และคา่ เชา่ คู่สาย เปน็ ตน้
2) ลดความเสี่ยงการเรม่ิ ตน้ หรือการทดลองโครงการ
3) สามารถลดหรอื ขยายได้ตามความต้องการ
4) ไดเ้ ครื่องแม่ขา่ ยท่ีมีประสิทธิภาพ มีระบบสารองขอ้ มลู ท่ดี ี มีเครือขา่ ยความเรว็ สูง
5) อยูภ่ ายใตก้ ารดแู ลของผเู้ ชี่ยวชาญ

ขอ้ เสยี ของ Cloud Computing
1) จากการที่มีทรัพยากรที่มาจากหลายแห่ง จึงอาจเกิดปัญหาด้านความต่ อเนื่องและ

ความรวดเร็ว
2) ยังไม่มีการรับประกนั ในการทางานอย่างต่อเนอื่ งของระบบและความปลอดภยั ของขอ้ มูล
3) แพลทฟอร์มยังไม่ได้มาตรฐาน ทาให้ลูกค้ามีข้อจากัดสาหรับตัวเลือกในการพัฒนาหรือ

ตดิ ตัง้ ระบบ site

18

4) เนื่องจากเป็นการใช้ทรัพยากรที่มาจากหลายที่หลายแห่งทาให้อาจมีปัญหาในเรื่องของ
ความต่อเนื่องและความเร็วในการเข้าทรัพยากรมากกว่าการใช้บริการHost ที่ Local หรืออยู่ภายในองค์การ
ของเราเอง

ภาพท่ี 14.1 ขอ้ ดี ข้อเสีย ของ Cloud Computing

ประโยชนข์ อง Cloud Computing

1. ประหยัดการลงทุนเรื่องทรัพยากรคอมพิวเตอร์ เพราะเปลี่ยนมาเป็นการเช่าระบบแทน ซึ่งทาให้
บริษัทที่มเี งนิ ลงทนุ จากดั สามารถมีระบบสารสนเทศทีด่ ใี ชไ้ ดเ้ ทา่ เทียมกับบริษัทอืน่ ๆ

2. สามารถสร้างระบบใหม่ขึ้นมาใช้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะว่าผู้ให้บริการจะจัดเตรียมทรัพยากร
ขนาดใหญ่ไว้รองรับผู้ใช้บริการอยูแ่ ล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องมีระยะเวลาการออกแบบระบบสัง่ ซ้ือฮาร์แวร์ และติดตั้ง
ฮารด์ แวร์ ซงึ่ แคน่ กี้ ล็ ดระยะเวลาดาเนนิ การไปเป็นเดือนเลยทเี ดยี ว

3. เพิ่มขนาดทรัพยากรได้ง่ายดายและรวดเร็ว ในกรณีที่ระบบของผู้ใช้บริการมีขนาดใหญ่ขึ้น
ก็ย่อมต้องขยายทรัพยากรให้เพิ่ม ขึ้นตามการใช้งาน ซึ่งระบบที่เป็นของบริษัทเองคงต้องทาการออกแบบ
และสั่งซื้อและติดตั้งกัน วุ่นวายเสียเวลา ด้วยการใช้บริการ Cloud computing ก็ทาให้การเพิ่มขนาด
ทรพั ยากรนน้ั งา่ ยและรวดเร็วภายในขา้ มคืนเท่านัน้

4. ขจัดปัญหาเรื่องการดูแลระบบทรัพยากรสารสนเทศ ออกไปให้ผู้ให้บริการ Cloud computing
ดูแลแทน จงึ ทาให้ลดทง้ั ความยงุ่ ยากของการดูแลและลดจานวนบุคลากรท่ีตอ้ งจ้างมาเพอ่ื ดูแลระบบอีกด้วย
ตัวอยา่ งการนา Cloud Computing มาประยกุ ต์ใชก้ บั เวบ็ ไซต์ของหนว่ ยราชการ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าจะมองเห็นได้ง่าย ๆ ก็คือ เว็บไซต์สลากกินแบ่งรัฐบาล
จะมีปัญหาเนื่องจากคนเข้าเว็บไซต์เป็นจานวนมหาศาลจนเว็บล่ม ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือนช่วงตั้งแต่
ก่อนสี่โมงเย็นเป็นต้นไป เปล่าเลย เว็บไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาก็คือ มันเป็นช่วง “หวยออก” ทีนี้ใคร ๆ
กอ็ ยากรูผ้ ลสลากกินแบง่ สมัยนกี้ ็ไม่ตอ้ งคอยไปรอซ้ือใบตรวจหวยจากเด็กทเ่ี ร่ขายแลว้ เพราะเช็คผลจากเวบ็ ไซต์
ง่ายกว่า เนื่องจาก Server ของเว็บไซต์สลากกินแบ่งมีแค่เครื่องเดียวหรือจานวนกลุ่ม ๆ เดียว เมื่อมีจานวนคน
เข้าเยอะเกินไป ระบบจงึ รองรบั ไม่ไหว ทาให้ระบบเว็บไซต์ล่มบอ่ ย ๆ ครบั

ทีนี้หากราชการทั้งหมดใช้ระบบ Cloud Computing โดยใช้คอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง
หลากหลายสถานที่มาช่วยในการแชร์ทรัพยากรเพื่อรองรับการเข้าถึงเว็บไซต์ของคนจานวนมาก ก็จะช่วย
ไม่ให้เว็บล่ม เพราะกาลังจากเครื่องคอมพิวเตอร์หลากหลายเครื่องที่อยู่ในกลุ่ม Cloud Computing เดียวกัน

19

และที่สาคัญเว็บไซต์อื่น ๆ ของหน่วยงานราชการก็จะสามารถแชร์พื้นที่และทรัพยากรจากกลุ่มนี้ได้อย่าง
ง่ายดาย

ประโยชน์ของคลาวด์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ได้แก่ เพิ่มความคล่องตวั ลดค่าใช้จา่ ย เสริมความยืดหยุ่น
มีความปลอดภัยและพร้อมนาไปใช้งาน แต่ซีอีโอและผู้นาทางธุรกิจอาจต้องการพิจารณาด้านอื่น ๆ ของ
การประมวลผลดว้ ยคลาวด์ทจ่ี าเปน็ ให้ครบถ้วน กอ่ นจะถึงกระบวนการพฒั นา เช่น ประเดน็ ด้านความปลอดภัย
และการอนิ ทเิ กรตบรกิ ารคลาวด์เขา้ กับระบบไอทเี ดิมท่มี ีอยู่ เป็นต้น

โดยประโยชน์ทางธุรกิจที่สาคัญของคลาวด์มีด้วยกันสองด้าน คือ ประโยชน์ด้านการเงิน
และประโยชนด์ ้านการตอบสนอง
ผลประโยชนด์ ้านการเงิน

คลาวดก์ ่อให้เกิดประโยชน์ครอบคลุมเกยี่ วกบั งบการเงิน
1. ลดค่าใช้จ่าย โดยค่าใช้จ่ายจะต่าลงเมื่อใช้บริการคลาวด์ เปรียบเทียบกับการต้องสร้าง

และบารุงรกั ษาระบบด้วยตนเอง
2. ลดตน้ ทนุ โดยรวมในการเป็นเจา้ ของ โดยลงทนุ จริงเทา่ ที่ใชง้ าน และยังไดค้ วามรวดเร็วในความ

พรอ้ มใช้งานอกี ด้วย
3. ลดงบลงทุนคา่ ใช้จ่ายของไอที โดยเปลย่ี นการลงทนุ เปน็ การจา่ ยคา่ ดาเนินการแทน
4. ปรับปรุงค่าใช้จ่ายได้ตามการบริหารจัดการกระแสเงินสดของธุรกิจ โดยจ่ายเฉพาะบริการที่

จาเปน็ ตอ้ งใช้จรงิ ๆ
ประโยชน์ด้านการตอบสนอง คลาวด์ช่วยใหอ้ งคก์ รม่นั ใจในการตอบสนองตามความต้องการทางธุรกจิ ด้วย

1. ทรัพยากรสาหรับประมวลผลและระบบมีพรอ้ มใชง้ านไดท้ นั ทตี ามความต้องการทางธุรกจิ
2. เข้าดึงคลาวด์ได้หลากหลายช่องทาง จึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลและแอพพลิเคชันจะพร้อมใช้งานได้
จากทุกที่ทุกเวลา
3. คล่องตัวมากขึ้นด้วยคลาวด์ จึงช่วยให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจ
ที่เปลยี่ นแปลงไปไดอ้ ย่าง รวดเร็วด้วยทรพั ยากรดา้ นไอทีที่เหมาะสม

ภาพที่ 15.1 ประโยชน์ของ Cloud Computing

20

แหล่งอ้างอิง

https://th.wikipedia.org/ การประมวลผลกลุ่มเมฆ Cloud Computing (ระบบออนไลน์) แหลง่ ท่มี า :
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2% (14 มกราคม 2564)

https://sites.google.com/site/ นิยามของ Cloud Computing หรือ การประมวลผลแบบกลมุ่ เมฆ
(ระบบออนไลน)์ แหลง่ ท่ีมา :
https://sites.google.com/site/nattaporndeecha/home/wicha-kar (14 มกราคม 2564)

https://sites.google.com/site/ ประวัติความเปน็ มา Cloud Computing (ระบบออนไลน)์ แหล่งทีม่ า :
https://sites.google.com/site/nattaporndeecha/ (14 มกราคม 2564)

https://sites.google.com/site/ องค์ประกอบของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ Cloud Computing
(ระบบออนไลน)์ แหล่งทมี่ า : https://sites.google.com/site/cloudcomputingeeee/xngkh-
prakxb-khxng-cloud-computing (14 มกราคม 2564)

https://sites.google.com/site/ สถาปตั ยกรรม Cloud Computing (ระบบออนไลน)์ แหลง่ ทม่ี า :
https://sites.google.com/site/xarmzerox/hnwy-thi-1-1 (14 มกราคม 2564)

https://www.quickserv.co.th/knowledge การทางานของ Cloud Computing (ระบบออนไลน)์
แหล่งทีม่ า : https://www.quickserv.co.th/knowledge-base/solutions (14 มกราคม 2564)

https://sites.google.com สามเหล่ียมกลมุ่ เมฆ (ระบบออนไลน์) แหลง่ ทมี่ า :
https://sites.google.com/site/korwten/home/ggggg (14 มกราคม 2564)

http://nukpanatchaporn.blogspot.com มาตรฐานของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ (ระบบออนไลน)์
แหลง่ ที่มา : http://nukpanatchaporn.blogspot.com/2012/07/cloud-
computing_2143.html (14 มกราคม 2564)

https://sites.google.com/site ประเภทของ Cloud Computing (ระบบออนไลน)์ แหลง่ ทม่ี า :
https://sites.google.com/site/cloudcomputing6030024/9-2-prapheth-khxng-cloud-
computing (14 มกราคม 2564)

https://sites.google.com/site/nattaporndeecha/ การจัดเกบ็ ขอ้ มูลจากบคุ คลภายนอกองคก์ ร (ระบบ
ออนไลน์) แหลง่ ท่ีมา : https://sites.google.com/site/nattaporndeecha/home/wicha-kar-
chi-rabb-pramwl-phl-baeb-klum-mekh (14 มกราคม 2564)

https://www.anet.net.th การจัดเก็บเมฆ (ระบบออนไลน)์ แหลง่ ทม่ี า :
https://www.anet.net.th/a/44883 (14 มกราคม 2564)

https://www.techtalkthai.com ความมั่นคงผใู้ หบ้ รกิ าร (ระบบออนไลน)์ แหลง่ ท่ีมา :
https://www.techtalkthai.com/7-cloud-security-strategies-by-fortinet/
(14 มกราคม 2564)

21

https://th.wikipedia.org/wiki/ ระบบการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ ในภาครัฐ (ระบบออนไลน)์
แหลง่ ท่ีมา : https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0
(14 มกราคม 2564)

https://sites.google.com/site/ ขอ้ ดี ข้อเสีย ของ Cloud Computing (ระบบออนไลน์) แหล่งที่มา :
https://sites.google.com/site/korwten/home/hhhkkk (14 มกราคม 2564)

https://sites.google.com/site/ ประโยชน์ของ Cloud Computing (ระบบออนไลน)์ แหลง่ ทม่ี า :
https://sites.google.com/site/cloudcomputingbc06/prayochn-khxng-rabb-cloud-
computing (14 มกราคม 2564)

22

จดั ทำโดย

นางสาวจุฑารัตน์ อินตะ๊ ซาว
สบล.63.1 เลขท่ี 5
สาขาวิชาการเลขานกุ าร

วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาลำปาง


Click to View FlipBook Version