จำนวนเชิงซ้อน[complex number]
ระบบของเลขจำนวนนั้น ประกอบด้วยตัวเลขต่างๆหลายชนิด
แต่ละชนิดของเลขจำนวนมีลักษณะต่างกันไป สามารถแสดงได้ดังรูป
จำนวนเชิงซ้อน
จำนวนจริง จำนวนจินตภาพ
ตำนวนตรรกยะ จำนวนอตรรกยะ
จำนวนเศษส่วน จำนวนเต็ม
จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มศูนย์ จำนวนเต็มลบ
จำนวนเชิงซ้อนประกอบด้วยจำนวนจริง และ จำนวนจินตภาพ
นิยามส่วนจินตภาพ i ว่า i = F
Z=a+bi=(a,b)
แทนz เป็นจำนวนเชิงซ้อนใดๆ
แทนa เป็นจำนวนจริง
แทนbi เป็น จำนวนจินตภาพ
a= Re(z) เป็น ส่วนจริง ของz และb =Im(z) เป็นส่วนจินตภาพของz
จินตภาพแท้ไม่มีส่วนจริงเลย เช่น z=2i จินตภาพไม่แท้ มีส่วนจริง
เช่น z=3+i Re(z)=3 Im (z)=1
ค่าของi ที่ควรรู้วน(loop)
i = Fา
ำ = เรา 1 เรา | = - า
H ราแวะ iา-
= -
-
,
iofi 4 = = การ ตร = 1
= i 4. i = 1 =i
H i 4. = 1 1- 1) = -1
=
µจน → i 1-µ
วอ าง
4 = 74-4
= 18 เศษ2
เศษ 2 = -1
ii. 74 -1
=
ุ๋ร่ยัต้ิร๋ัร
การ+-*ของจำนวนเชิงซ้อน
ZE 4 tbi $22 = C+ i
ถ้าจะหาผลรวมของจำนวนเชิงซ้อนทั้งสองจะได้ว่า
f ไร2 า+22 = ( ค + C) + + i
ในทำนองเดียวกันถ้าจะหาหาค่าผลต่างของจำนวนเชิงซ้อนทั้งสอง จะได้ว่า
2 เ-22 = ( ห - C) + (b- ควร
ตัวอย่าง zุ = 2- 5 i 22=-3+4 ii
ZH 22 = (21-1-3) i + § +41 i
= - 1- i
Z -22 = (2-63)] + fs - 4) i
า
= s -9
วิ
สังยุคของจำนวนเชิงซ้อน[conjugate]
การกลับเครื่องหมายส่วนจิตนภาพz=a+bi -z=a-bi
- 2 +3 i Z = 2- 3 i
- 1- 2 i Z = 1+2 i
3- Z= 3
- -2 i Z=+
:#Z [2,11
.
- Z (2การ
บ่
อินเวอร์สจำนวนเชิงซ้อน
จากZ=a+bi จะได้ว่าค่าของอินเวอร์สของz คือ
I= bi( ง - )
µ
ตัวอย่าง กำหนด z=a+bi จงหาค่า ของ Z
1 2 = 3+4 i
" นeyแ -bil
z=
ญื่a= ( 3- 4 ๗
aน= ( 3-4 ;)
[µ= (3-
_
ญ่
การเขียนจำนวนเชิงซ้อนในรูปเชิงขั้ว[Polar Form]
- มองจากa+biเป็นx+yiจะได้คำตอบตามแต่ละแกนX
-เมื่อกำหนด0- เป็นมุมบวกที่เล็กที่สุดซึ่งวัดความเป็นมุมบวกที่เล็กที่สุดซึ่ง
ทวนเข็ม จากแกนX
ทางบวกไปยังเวคเตอร์Oz และ R|oz| คือระยะจากจุดกำเนิดไปยังZจะได้
ความสัมพันธ์ว่า Z=rcos0- และY=rsin0_
และทำให้เราสามารถเขียนจำนวนเชิงซ้อนzได้ในรูปแบบใหม่เป็น
z=x+yi=r(cos0smn + isin0TL) =rcis 0
ก รซึ่งr=|z|=
ะ + และtan0- = ¥ เมื่อx=/o
×
โดยเราจะเรียกRว่าโมดูลัส[modulus]ของz และ 0_ว่า อาร์กิวเมนต์
ของz
ตัวอย่าง -
1 + ป ÷→ # = =
=1
= 1 ( Cos เ0 + isi การ
ิ
= 1 Cis 60
ุงุญูวุ้หา