The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by paruenatsang, 2021-10-08 02:19:59

เล่มอาหาร

เล่มอาหาร

บทท่ี 2
ววิ ัฒนาการอาหารเอเชยี ตะวันออก

ววิ ฒั นาการอาหารการกนิ สะท้อนวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก

สว่ นนำ

อาหาร หมายถึงสสารใด ๆซึ่งบริโภคเพือ่ เสรมิ โภชนาการให้แกร่ ่างกาย อาหารมักมาจากพืชหรือสัตว์
และมสี ารอาหารสำคัญ เช่น คารโ์ บไฮเดรต ไขมัน โปรตนี วิตามนิ หรอื แร่ธาตุ สง่ิ มีชีวติ ยอ่ ยและดูดซึมสสารที่
เปน็ อาหารเขา้ สู่เซลล์เพอื่ นำไปสรา้ งพลงั งาน คงชีวิต หรือกระตนุ้ การเจริญเติบโต

ในอดีต มนุษย์ได้มาซึ่งอาหารด้วยสองวิธีการ คือ การเก็บของป่าล่าสัตว์และเกษตรกรรม ปัจจุบัน
พลังงานจากอาหารส่วนใหญ่ที่ประชากรโลกบริโภคนั้นผลิตจากอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท
ข้ามชาติซง่ึ ใช้เกษตรประณีต และอตุ สาหกรรมการเกษตรเพ่ือเพิ่มผลผลิตของระบบให้ได้มากที่สดุ

สมาคมระหว่างประเทศเพื่อคุ้มครองอาหาร สถาบันทรัพยากรโลก โครงการอาหารโลก องค์การ
อาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ และสภาข้อมูลอาหารระหว่างประเทศเปน็ หนว่ ยงานเฝ้าสังเกตความ
ปลอดภัยของอาหารและความมั่นคงทางอาหาร องค์การทั้งหลายนี้จัดการกับประเด็นปัญหาอย่างความยัง่ ยืน
ความหลากหลายทางชีวภาพ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เศรษฐศาสตร์สารอาหาร การเติบโตของประชากร
ทรัพยากรน้ำ และการเข้าถึงอาหาร

สิทธิในการได้รับอาหารเป็นสิทธิมนุษยชนซึ่งกำหนดขึ้นจากกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทาง
เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR) โดยตระหนักถึง "สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพอย่างพอเพียง
รวมทั้งอาหารที่เพียงพอ" เช่นเดยี วกับ "สทิ ธิข้ันพืน้ ฐานท่จี ะปลอดจากความหวิ โหย"

อาหาร จะสอดแทรกอยู่ในการปฏิบตั แิ ละประเพณี มักจะเกีย่ วข้องกับวฒั นธรรม เอเชยี เปน็ ทวปี ท่ี
ใหญท่ ส่ี ุดและมีประชากรมากที่สุด ทวีปเอเชยี เปน็ ทตี่ งั้ ของหลายวฒั นธรรมซงึ่ หลายประเทศมีอาหารที่เป็น
เอกลักษณ์ของแตล่ ะประเทศ ส่วนผสมทพี่ บได้ท่วั ไปในหลายวัฒนธรรมในภมู ภิ าคตะวนั ออกของทวีป ได้แก่
ขา้ วขิงกระเทยี มงาพรกิ หัวหอมแห้งถ่ัวเหลืองและเต้าหู้ ผดั , นึง่ และ ทอด เปน็ วธิ กี ารปรงุ อาหารท่วั ไป

53

ข้าว เป็นอาหารทว่ั ไปในทวีปเอเชีย แต่กเ็ ปน็ ที่นิยมในภูมิภาคต่าง ๆ ข้าวบาสมาติ เปน็ ทน่ี ิยมใน ชมพู
ทวปี , ข้าวหอมมะลิ มักจะพบใน เอเชียตะวันออกเฉียงใตใ้ นขณะทีข่ ้าวเมลด็ ยาวเปน็ ทีน่ ิยมในจนี และเมลด็ สน้ั
ในญีป่ นุ่ และเกาหลี

แกง เป็นอาหารทั่วไปในเอเชียตะวันออก อาหารประเภทแกงมีตน้ กำเนิดในชมพูทวีป โดยปจั จุบนั
อนิ เดยี ตอนเหนอื บังกลาเทศและปากสี ถานใช้โยเกิร์ตรากฐาน ซ่ึงอาหารเอเชยี ตะวนั ออก ชาวจนี , ญ่ปี ุ่น,
เกาหลี, มองโกเลีย, ชาวสงิ คโปร์, ชาวไต้หวนั และ ธเิ บต ใช้รากฐานจากกะทิ เอเชยี เป็นภูมภิ าคท่มี ปี ระชากร
มากทสี่ ุดของโลกจึงมีอาหารประจำภูมภิ าคมากมาย (โดยเฉพาะในประเทศจนี ) ตัวอยา่ งอาหารหลัก ไดแ้ ก่ ขา้ ว
, กว๋ ยเตี๋ยว, ถัว่ เขียว, ถั่วเหลือง, อาหารทะเล (ญี่ปุ่นมีการบริโภคอาหารทะเลสงู สดุ ต่อหัว), เนอื้ แกะ
(มองโกเลยี ), บ๊อกฉ่อย (ผักกาดขาว) และ ชา. อาหารในภูมิภาคนี้คลา้ ยกบั อาหารเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
เนื่องจากการผสมผสานทางวัฒนธรรมและชาติพนั ธ์สุ ารานุกรม

วิวฒั นาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวฒั นธรรมถ่นิ 6 แดนดนิ โลก

อาหารทวปี เอเชียตะวนั ออก

1. สม้ ตำ อาหารประเทศลาว
2. ราเมง็ อาหารประเทศญีป่ ุ่น
3. ไกข่ อทาน อาหารประเทศจนี
4. ซชู ิ อาหารประเทศญ่ปี ุ่น
5. กุ้งทอดเทมปูระ อาหารประเทศญปี่ นุ่
6. เสย่ี วหลงเปา อาหารประเทศจีน
7. ซมั กเยทัง อาหารประเทศเกาหลี
8. ขนมโมจิ อาหารประเทศญป่ี ุ่น
9. ขนมไหว้พระจนั ทร์ อาหารประเทศจีน
10. วาฟเฟลิ ไข่ (Egg waffle) อาหารชาวฮอ่ งกง
11. ซงพยอน อาหารประเทศเกาหลี
12. ฮาลวา (Halva) อาหารประเทศอิสลาเอล

55

ชอ่ื รปู : ส้มตำ
ทมี่ าของรปู : https://www.pinterest.com/pin/689332286694710369/

วิวัฒนาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวัฒนธรรมถ่นิ 6 แดนดนิ โลก

ส้มตำ อาหารประเทศลาว

ส้มตำ เป็นอาหารปรุงมาจากการทำตำส้ม ในลาวจะเรียกว่าตำหมากหุ่ง ปรุงโดยนำมะละกอดิบที่
สับแล้วฝานหรอื ขูดเปน็ เส้นมาตำในครกเป็นหลกั พร้อมด้วยวัตถุดิบอื่นๆ คือ มะเขือเทศลูกเล็ก มะเขือสีดา
มะเขือเปราะ พริกสดหรือพริกแห้ง ถั่วฝักยาว กระเทียม และปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา มะนาวและ
แหมม่ ยังไมม่ ีหลักฐานทแี่ น่ชัดวา่ มีการนำมะละกอดิบมาปรุงเปน็ ส้มตำเป็นคร้งั แรกเม่ือใด อย่างไรก็ตามเม่ือ
พิจารณาถงึ ทมี่ าของสว่ นประกอบต่าง ๆ ของส้มตำ อาจได้ขอ้ มูลเบอื้ งตน้ เพ่อื ประกอบการสนั นิษฐานถึงท่ีมา
ของสม้ ตำได้ ในปจั จุบนั มีการนำสม้ ตำไปเปน็ อาหารหลากหลาย โดยยังคงส่วนประกอบหลักแตเ่ ปลี่ยนแปลง
หน้าตาเช่น นำมะละกอไปทอด หรือผักอื่นไปทอดแลว้ นำมาทำเป็นส้มตำโดนราดน้ำยำแบบส้มตำพร้อมผัก
จนกลายเป็นอาหารชนิดใหม่ขึ้นมา เรียกว่า ส้มตำกรอบ หรือนำส้มตำไปใช้ราดแทนน้ำยำตามปกติ
แต่ไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบใดก็ตาม หากยังคงรสชาติและวัตถุดิบในการทำก็ยังคงมีการใช้คำว่า
ส้มตำอย่เู สมอ

เอกสารอา้ งอิง
ธงชยั ลขิ ติ พรสวรรค์, สม้ ตำ : ความเปน็ มาท่ีถูกใจคนไทย สโมสรศลิ ปวัฒนธรรม. สบื ค้น 24 สิงหาคม

2564,จาก https://th.wikipedia.org/wiki/

ผเู้ รยี บเรียง เลขท่ี 142 นางสาวสิรกิ ัญญา โฉมเฉียงใต้

57

ชือ่ รปู : ราเม็ง
ทม่ี าของรปู : https://www.happyfresh.co.th/blog/lifestyle/legend-and-meaning-of-
mooncake/

ววิ ัฒนาการอาหารการกินสะทอ้ นวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดนิ โลก

ราเม็ง อาหารประเทศญป่ี ุน่

ราเม็งเป็นอาหารญ่ปี นุ่ ท่ดี ดั แปลงมาจากบะหมข่ี ้าวสาลีของจีน ทฤษฎีหนงึ่ กลา่ ววา่ ราเม็งได้รับการ
แนะนำให้รู้จกั กับญี่ปุ่นคร้ังแรกในช่วงทศวรรษที่ 1660 โดย Zhu Shunsui นักวิชาการนโี อ - ขงจื๊อชาวจนี
ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของTokugawa Mitsukuni หลังจากที่เขากลายเป็นผู้ลี้ภัย ในประเทศญี่ปุ่นที่จะ
หลบหนกี ฎแมนจเู รยี และ Mitsukuni กลายเป็นคนแรกของญีป่ นุ่ ทีจ่ ะกินราเม็งแมว้ า่ ประวัติศาสตรส์ ่วนใหญ่
ปฏเิ สธทฤษฎีนีเ้ ป็นตำนานที่สร้างข้นึ โดยชาวญป่ี ุ่นเพอ่ื ประดับประดาตน้ กำเนดิ ของราเมง็ ทฤษฎีที่น่าเช่ือถือ
มากขึ้นก็คือราเม็งได้รับการแนะนำโดยผู้อพยพชาวจีนในปลายทศวรรษที่ 19 หรือต้นศตวรรษที่ 2 0 ที่
โยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ ตามบนั ทกึ ของพิพธิ ภัณฑ์ราเมนโยโกฮามา , ราเมง็ มีถ่ินกำเนดิ ในประเทศจีนและทำ
ทางผา่ นไปยงั ประเทศญป่ี นุ่ ในปี 1859 ในชว่ งตน้ ร่นุ ท่เี ปน็ ก๋วยเตี๋ยวข้าวสาลใี นน้ำซุปราดดว้ ยหมูย่างสไตล์จีน

เอกสารอา้ งอิง
"นิยามและความหมายของราเมน | พจนานุกรมภาษาอังกฤษคอลลนิ ส์" . www.collinsdictionary.com .

สืบคน้ 19 สิงหาคม 2564, จาก https://hmong.in.th/wiki/Ramen

ผูเ้ รียบเรยี ง เลขท่ี 85 นายวงศธร สังข์ครฑุ

59

ชอ่ื รูป: ไกข่ อทาน
ที่มาของรูป: https://www.pinterest.com/pin/444589794458934787/?autologin=true

ววิ ัฒนาการอาหารการกินสะท้อนวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก

ไกข่ อทาน อาหารประเทศจนี

ไก่ขอทาน กำเนิดมาจากหางโจว ในประเทศจีน มีวิธีการห่อด้วยดินเหนียวกับใบตองและนำไปอบ
โดยนำไก่ยดั ห่อดว้ ยดินเหนยี วและ ดอกบัว ใบ (หรือ กลว้ ย หรือ ไมไ้ ผ่ ใบไมเ้ ปน็ ทางเลือก) และอบอย่างช้า
ๆ โดยใช้ความร้อนต่ำ การเตรียมส่วนเดียวอาจใช้เวลาถึงหกช่ัวโมง แม้ว่าอาหารจะปรุงด้วยดินแบบดั้งเดิม
แตส่ ูตรก็มีการพฒั นา เพื่อความสะดวกและปลอดภยั มักอบดว้ ยแป้ง ถงุ อบ, หม้อทำอาหารเซรามิกหรือ เตา
อบพา. และยังมีตำนานต้นกำเนิดของไก่ขอทาน ในวันหนึ่งมีขอทานคนหนึ่งขโมยไก่จากฟารม์ แต่ไม่มีหม้อ
หรอื เคร่อื งใชเ้ ขาหอ่ นกดว้ ยใบบัวและบรรจุดินเหนียวหรือโคลนไวร้ อบ ๆ วางไว้ในหลมุ ทีเ่ ขาจุดไฟและฝังมัน
ไว้ เมื่อเขาขุดไก่ขึ้นมาและกะเทาะดินออกเขาพบว่าเนื้อนุ่มและมีกลิ่นหอม ในเวอร์ชันอื่นขอทานขโมยไก่
จากจักรพรรดิและใช้วิธีการเจาะหลมุ โคลนเพื่อหลีกเลี่ยงควันที่อาจดึงดูดทหารองครักษ์ อีกทางเลือกหนึ่ง
คือจักรพรรดิหยุดรับประทานอาหารกับขอทานและเพลิดเพลินกับอาหารจานนั้นเขาจึงเพิ่มลงในเมนูของ
จักรพรรดิและขอทานก็ประสบความสำเร็จโดยการขายอาหารให้กับคนในท้องถิ่น ตามตำนานอื่นอาหาร
จานโปรดในวยั เด็กของ จักรพรรดเิ กาซูแห่งฮ่ันท่ีเกิดมาเปน็ ชาวนา เม่อื เขากลายเป็นจักรพรรดิสูตรอาหารก็
กลายเปน็ อาหารพิเศษของจักรพรรดิ

เอกสารอา้ งอิง
Basler, Barbara (8 เมษายน 1990) "FARE OF THE COUNTRY ไกล่ ึกลับของฮ่องกง". นิวยอร์กไทมส์ .

สบื ค้น19 สิงหาคม 2564, จาก https://th.wikinew.wiki/wiki/Beggar%27s_Chicken

ผ้เู รียบเรยี ง เลขที่ 89 นางสาววรรณา ซ้อยสงู เนนิ

61

ชอ่ื รูป: ซูชิญี่ปุน่
ที่มาของรูป: https://www.pbs.org/food/the-history-kitchen/history-of-sushi/

ววิ ัฒนาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวัฒนธรรมถนิ่ 6 แดนดนิ โลก

ซูชิ อาหารประเทศญ่ีปุ่น

ซูชิหรือ ข้าวปั้นมีหน้า เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู และกินคู่กับปลา
เนื้อ หรือ ของคาวชนิดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซูชิมักจะหมายถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของ ซูชิเมะชิ ,
ขา้ วทีผ่ สมน้ำสม้ สายชู) และมีหนา้ แบบตา่ ง ๆ เปน็ หนา้ ทีน่ ยิ มได้แก่ อาหารทะเล ผัก ไข่ เห็ด เน้ือท่ีนำมาใช้
อาจจะเป็นเนือ้ ดบิ หรอื เน้ือทผ่ี า่ นกระบวนการทำอาหารแลว้ สำหรับในประเทศอ่ืน ซชู ิมวี วิ ฒั นาการมาเมื่อ
หลายรอ้ ยปีมาแล้วซ่ึงเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญีป่ ่นุ และซชู ิกไ็ ม่น่าจะใช่อาหารญ่ีปุ่นแท้ๆ
ด้วยเชื่อกันว่าน่าจะนำเข้าจากเมืองจีนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 7 เนื่องจากมีเอกสารโบราณเก่าแก่ของจีน
กล่าวถึงอาหารประเภทที่มีหน้าตาเหมือนกับซูชินี้เอาไว้ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 2 อาหารดังกล่าวเป็น
ปลาเค็มที่ใช้ข้าวเป็นตัวหมักจะนำมากนิ ก็ต่อเมือ่ ปลาได้ท่ีแล้ว และกินเฉพาะแต่ปลาเท่านั้นสว่ นข้าวนั้นเอา
ไปท้ิง

เอกสารอา้ งอิง
Kawasumi, Ken (2001). The Encyclopedia of Sushi Rolls. สบื ค้น 24 สงิ หาคม 2564, จาก

https://th.wikipedia.org/wiki/

ผ้เู รียบเรยี ง เลขท่ี 91 นางสาววาสนา เต๊ะนเิ ยาะ

63

ชอ่ื รูป: กุ้งเทมปรู ะ
ที่มา: https://www.ajinomotofoodservicethailand.com/menu-recipe/

ววิ ฒั นาการอาหารการกนิ สะท้อนวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดนิ โลก

กุ้งทอดเทมปรู ะ อาหารประเทศญ่ปี ุ่น

เทมปุระ อาหารว่างของประเทศญี่ปุ่น มิชชันนารีโปรตุเกสนำสูตรการทำเท็มปูระนำเข้ามายังญี่ปุ่นที่เมือง
นางาซากิ คณะเยซอู ิต เม่อื ค.ศ. 1549 ซ่งึ เป็นยุคเดียวกับท่ีอาหารญี่ปนุ่ เช่น ปงั โกะ หรอื ทงกัตสึ ได้รับการ
คดิ คน้ โดยชาวโปรตุเกส นอกจากนีย้ ังเป็นท่ีพดู กนั วา่ โทกูงาวะ อิเอยาซุ โชกนุ คนแรกแห่งเอโดะ โปรดปราน
เท็มปรู ะเป็นอย่างมาก ต้ังแต่ยคุ เซง็ โงกุ เทม็ ปูระเปน็ อาหารที่นยิ มรบั ประทานในหม่ผู สู้ ญั จรริมถนนที่เรียกว่า
ยาไต แต่ในปัจจุบนั เทม็ ปูระเปน็ อาหารยอดนยิ มทีห่ ารับประทานได้ทว่ั ไปไมว้ ่าจะในร้านอาหารตามข้างทาง
หรือภัตตาคารบนห้างสรรพสินค้า "เท็มปูระ" หมายถึง วิธีการในการนำปลาหรือผักจุ่มลงไปในแป้งแล้วจึง
นำไปทอด ซึ่งมาจากคำว่า "tempora" ในภาษาละติน ที่มีความหมายว่า "เวลา", "ช่วงเวลา" เป็นคำที่ใช้
โดยมิชชนั นารสี เปนและโปรตเุ กสเพอ่ื อ้างถึงชว่ งถือบวช หรอื ที่เรยี กกนั วา่ วันเอ็มเบอร์ วนั ศุกร์และวันสำคัญ
ทางศาสนาต่าง ๆ ซึ่งในวันเหล่านี้คริสต์ศาสนิกชนจะละเวน้ การรับประทานเนื้อแดงและหันมารับประทาน
ปลาหรือผักแทน

เอกสารอา้ งองิ
Lemos, Charles (1998). Everybody's San Francisco Cookbook. Good Life Publications. p.

240. ISBN 978-1-886776-01-2. สืบค้น19 สิงหาคม 2564 ,จาก https://th.wikipedia.org/wiki/
Morieda, Takashi. "Tracking Down Tempura". The World of Kikkoman. เม่ือ 2008-01-10. สบื คน้

19 สิงหาคม 2564, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/

ผู้เรยี บเรียง เลขท่ี 92 นายวชิ ญพ์ ล สอนวิชัย

65

ชือ่ รปู : เส่ียวหลงเปา (Xiaolongbao)
ทม่ี าของรูป: https://www.travel.taipei/th/must-visit/snacks-top10

วิวัฒนาการอาหารการกินสะท้อนวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก

เส่ียวหลงเปา อาหารประเทศจนี

เสย่ี วหลงเปา (Xiaolongbao) เป็นต๋ิมซำแบบหนึ่งของจีน เป็นอาหารทไี่ ด้รับความนิยมทางตอนใต้
ของจนี มตี ้นกำเนดิ มาจากสมยั ราชวงศ์ซ่ง ลกั ษณะคลา้ ยรูปแบบของซาลาเปาและขนมจีบ ทำจากแป้งขนม
ปงั ผสมกับแปง้ สาลี ไม่ใสผ่ งฟแู ละยีสต์ เนื้อแป้งนุ่ม และตอ้ งจับจีบให้ได้ 18 จีบขึ้นไป ไส้ด้านในเป็นเน้ือหมู
ผสมเนื้อปู และมีน้ำซุปอยู่ด้านใน น้ำซุปจะมีรสชาติ หวาม เค็ม เอกลักษณ์ของ เสี่ยว หลง เปา คือ น้ำซุป
ซ่ึงน้ำซุปที่อยู่ด้านในมาจากวุ้นที่ได้จากการเคี่ยวหนังหมู หรือหนังไก่ พักให้เย็นจนกลายเป็นวุ้นแล้วนำมา
วางไว้บนไส้ จากนั้นจึงห่อด้วยแป้ง เมื่อนำมานึ่งจนสุก วุ้นนั้นจะกลายเป็นน้ำซุป และน้ำซุปนั้นยังทำให้
เสย่ี ว หลง เปา มรี สชาติทีก่ ลมกล่อมมากขึ้น

เอกสารอ้างองิ
th.wikipedia.org. (2561). เสย่ี วหลงเปา. สบื ค้น 19 สิงหาคม, จากhttps://th.wikipedia.org/wiki/
Power Web (2021). เส่ียวหลงเปา (Xiaolongbao). สบื ค้น 19 สิงหาคม, จาก

https://www.leelawadee.holiday/articledetail.asp?id=6642

ผู้เรยี บเรยี ง เลขที่ 145 นางสาวสุทธดิ า สุธารัตน์

67

ช่ือรปู : ginseng chicken soup
ท่มี าของรูป: https://www.leelawadeeholiday.com/default.asp?content=
contentdetail&id =29855

วิวฒั นาการอาหารการกินสะทอ้ นวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดนิ โลก

ซัมกเยทัง อาหารประเทศเกาหลี

ซัมกเยทัง เป็นอาหารเกาหลีชนิดหนึ่ง จะมีลักษณะเป็นซุป ใส่เนื้อไก่ ภายในเนื้อไก่จะยัดไส้เครื่อง
สมุนไพรชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าวเหนียว พริกไทยแดง รากโสม เกาลัด พุทราจีน เป็นต้น จะรับประทานพร้อม
กับเคร่อื งเคียง เชน่ เสน้ แป้งลกั ษณะคล้ายเส้นขนมจีน เหล้าโสม พรกิ ไทยดำ เกลือ และจะนิยมเสริ ์ฟในหม้อ
ซุปที่ทำมาจากหิน รับประทานร้อนๆ เชื่อกันว่าเสริมสุขภาพและบำรุงกำลัง ในอดีตจัดเป็นอาหารที่
รับประทานกันภายในพระราชวัง ซัมกเยทังถึงจะดูเหมือนเป็นอาหารที่นิยมรับประทานกันในฤดูหนาว
เพราะลักษณะเหมือนจะให้ความอบอุ่นคลายความหนาวได้ แต่ความจรงิ แล้วชาวเกาหลีจะนิยมรับประทาน
ซมั กเยทังในฤดูร้อน เพราะว่าเม่ือรับประทานเข้าไปแลว้ ทำให้เหง่อื ออก จะเป็นผลดตี อ่ สขุ ภาพ

เอกสารอา้ งองิ
“เมนอู าหารจานเด็ด”. สืบค้น 19 สิงหาคม 2564, จากhttps://th.m.wikipedia.org/wiki/

ผเู้ รียบเรยี ง เลขท่ี 84 นางสาวลักษิกา กนั ดารี

69

ชื่อรปู : ขนมโมจิญปี่ ุ่น
ที่มา: https://www.gnutemberg.org/

ววิ ัฒนาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวัฒนธรรมถ่นิ 6 แดนดนิ โลก

ขนมโมจิ อาหารประเทศญี่ป่นุ

ขนมโมจมิ ีต้นกำเนิดมาจากประเทศจนี และแพรห่ ลายไปยังประเทศญีป่ นุ่ และประเทศเกาหลีในช่วง
ศตวรรษที่10 ซ่งึ ชาวญ่ปี ่นุ เรียกว่า “โมจ”ิ สว่ นเกาหลเี รียกว่า “ตอ็ ก” ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆเหน่ียวนุ่ม
เนื่องจากทำมาจากข้าวญี่ปุ่นที่นำไปนึ่งแบบผ่านไอน้ำและนะมาตำจนเป็นก้อนแป้งเหนียวๆ จากนั้นนำมา
แบ่งเป็นก้อนพอดีคำแล้วนำมากินกับน้ำตาลผสมกับแป้งถั่วเหลอื งหรือโชยุผสมกับหัวไชเทา้ บดละเอียด แต่
เดิมชาวญีป่ ่นุ เชอ่ื กันว่าโมจิเป็นขนมมงคลจะใช้ในการประกอบพิธกี รรมทางศาสนาและประเพณสี ำคัญๆของ
ญี่ปุ่นเท่านั้น จนถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 18 “โมจิ”เริ่มเป็นท่ีนิยมของชาวญี่ปุ่นมากขึ้นเนื่องจากสามารถทำ
รับประทานเองทบี่ ้านได้ เพราะวัตถุดบิ หาได้ง่ายและวิธที ำก็ไม่ยากอีกทั้งยังให้พลังงานสูง เนอ่ื งจากประเทศ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นจึงทำให้คนญี่ปุ่นนิยมรับประทาน”โมจิ”เพื่อให้พลังงานแก่
ร่างกายและนอกจากน้ียังสามารถนำไปประยุกต์ทำเป็นขนมได้หลายรูปแบบเพ่ือให้ถูกปากมากข้ึน โดยจะมี
การนำไปรับประทานคู่กับถั่วแดงบดแบบหวาน สอดไส้ผลไม้ ชาเขียว งาดำ ช็อคโกแลตหรือรสชาติต่าง ๆ
มากมายโดยจะมีชื่อเรยี กอีกอยา่ งวา่ “ไดฟุก”ุ

เอกสารอา้ งอิง
หน้า 33, ไทยแลนดโ์ อนลี่ 8 อาหารญปี่ นุ่ เหลา่ นม้ี ีเฉพาะเมืองไทย!. "SPECIAL SCOOP" โดย สทิ ธิโชค ศรี

โช. · HEALTH & CUISINE ปีที่ 16 ฉบบั ที่ 188: กนั ยายน 2559. สบื ค้น 24 สิงหาคม 2564,จาก
https://th.wikipedia.org/wiki/

ผูเ้ รียบเรยี ง เลขท่ี 83 นางสาวลลิตาภสั ร์ ไชยวัฒนเ์ ธียรกลุ

71

ชื่อรูป: ขนมไหว้พระจนั ทร์
ท่ีมาของรูป : https://www.happyfresh.co.th/blog/lifestyle/legend-and-meaning-of-
mooncake/

ววิ ัฒนาการอาหารการกินสะทอ้ นวัฒนธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก

ขนมไหว้พระจนั ทร์ อาหารประเทศจีน

ขนมไหวพ้ ระจันทรเ์ ป็นของจีนทำขึ้นเพือ่ ใชใ้ นเทศกาลกลางฤดูใบไมร้ ่วงหรือเทศกาลไหว้พระจันทร์
ในคืนวันเพ็ญตามปฏิทินจีนเดือน8เป็นของสำคัญที่ใช้สำหรับเซ่นไหว้ดวงจันทร์นับเป็นของสำคัญที่ใช้ใน
เทศกาลลักษณะของขนมมีทรงกลมคล้ายขนมเค้กทำจากแป้งนวดแล้วกดใส่แป้นพิมพ์ที่มีลวดลายต่าง ๆ
แล้วนำไปอบเคลือบผิวด้วยน้ำเชื่อมภายในใส่ใสต้ ่าง ๆ เช่น ทุเรียน เมล็ดบัว แมคคาเดเมีย แต่ส่วนมากเป็น
ธัญพชื แต่ว่าในปัจจบุ ันมกี ารดดั แปลงดว้ ยการใสเ่ นื้อสตั ว์ต่าง ๆ เขา้ ไปด้วย เชน่ กนุ เชยี ง ไข่เค็ม หมูแฮม หมู
แดง หมูหยอง ขนมไหวพ้ ระจันทรข์ องจีนน้นั ไม่ได้ใช้ไหว้พระจนั ทร์หรือเป็นขนมของกินเล่นเพียงอย่างเดียว
แต่ยังเป็นขนมมงคลที่ชาวจีนนิยมนำมามอบให้กับคนรู้จัก ญาติ มิตรสหาย เพื่อแสดงถึงมิตรไมตรีและเป็น
การอวยพรซึ่งกนั และกนั

เอกสารอ้างองิ
ขนมไหว้พระจนั ทร์ สบื คน้ เมื่อ 19 สิงหาคม 2564 จากhttps://th.wikipedia.org/wiki/

ผู้เรยี บเรียง เลขที่ 86 นางสาววทนั ญา ปานเพง็

73

ชอื่ รูป: วาฟเฟิลไข่(Egg waffle)
ทีม่ าของรปู : https://hmong.in.th/wiki/Egg_waffle

ววิ ัฒนาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก

วาฟเฟลิ ไข่ (Egg waffle) อาหารชาวฮอ่ งกง

ต้นกำเนิดของวาฟเฟิลไข่ ไม่เป็นที่รู้จัก แม้จะฝังแน่นในความทรงจำของชาวฮ่องกงทั้งเด็กและ
ผู้ใหญ่ เรื่องหน่ึงกลา่ วว่าคนรุ่นใหม่หลังสงครามกล้าได้กล้าเสียได้สร้างแมพ่ ิมพร์ ูปไขเ่ พือ่ ใช้เป็นแป้งทีไ่ ม่มีไข่
เนือ่ งจากไขเ่ คยเปน็ ของฟมุ่ เฟือย อกี เร่อื งหนง่ึ ช้ใี ห้เหน็ ถึงพ่อคา้ แม่คา้ ข้างถนนที่ซื้อไข่ทีเ่ สียหายในราคาถูกมา
ทำเป็นแป้ง ส่งผลให้เค้กสีทองคลาสสิก นอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่จะแนะนำว่ากระทะเหล็กพิเศษที่ใช้ในการ
หล่อไก่ต้านไซนั้นเป็นของฮ่องกงที่ใช้กับเครื่องกดวาฟเฟิลแบบตาหมากรุกแบบยุโรป ทุกวันนีข้ นมสองชิ้นที่
เกี่ยวข้องกันมักจะขายในแผงเดียวกัน และวาฟเฟิลไข่ยังเป็น "ขนมข้างทาง" ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน
ฮ่องกง และติดอันดับ 1 ในรายชื่อขนมริมทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด 100 รายการในฮ่องกงพวกเขาเป็น
ขนมข้างทางทีไ่ ด้รับความนิยมมาต้ังแตเ่ กิดในปี 1950 เมื่อพวกเขาทำด้วยถ่านหนิ ให้ความรอ้ นและขายจาก
ซ้มุ รมิ ถนนในฮ่องกง แม้วา่ วาฟเฟลิ ไข่แบบดั้งเดมิ จะมีต้นกำเนิดมาจากฮ่องกง แต่ปจั จบุ ันมกี ารคิดค้นข้ึนใหม่
ทั่วโลก เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นวาฟเฟิลไข่ในหลากหลายรสชาติ เช่น ชาเขียว ช็อคโกแลต ชีส หรือมันเทศสี
ม่วง แตก่ ็ยังได้รับความนิยมในฐานะของหวานทเ่ี สิร์ฟพรอ้ มกับไอศกรีมประเภทต่างๆ

เอกสารอ้างอิง
a b c "Gai daan tsai challenge: การแสวงหาวาฟเฟลิ ไข่ท่ีดีทีส่ ดุ ของฮ่องกง" . ซีเอน็ เอ็น ทราเวล เก็บ

ถาวรจากต้นฉบับเมื่อ 24 กรกฎาคม 2555 . สืบคน้ เมอ่ื 6 มกราคม 2557 .
มาเบลลู "ไข่วาฟเฟิล นวัตกรรมใหม"่ . afoodieworld.com . เกบ็ ถาวรจากต้นฉบบั เมอื่ 13 กันยายน

2017 . สืบค้นเมื่อ26 เมษายน 2018 .

ผูเ้ รียบเรียง เลขที่ 87 นางสาววรดา งามประยรู

75

ชอ่ื รปู : ซงพยอน
ทมี่ าของรปู : https://sistacafe.com/galleries/album/13365

ววิ ัฒนาการอาหารการกินสะท้อนวัฒนธรรมถ่นิ 6 แดนดนิ โลก

ซงพยอน อาหารประเทศเกาหลี

ซงพยอนเป็นขนมหวานของเกาหลีใต้ที่ทำมาจากแป้งข้าวหรือแป้งต๊อก คนเกาหลีจะรับประทาน
กันในช่วงเทศการเก็บเกี่ยวในฤดูใบร่วงและเทศกาลชูซอก ซงพยอนถูกสร้างขึ้นโดยครอบครัวชาวเกาหลี
โดยใช้ข้าวที่เก็บเกี่ยวสดใหม่ จากนั้นจึงนำไปถวายบรรพบุรุษของพวกเขาในเช้าวันชูซอก ซงพยอนทำมา
จากแปง้ ต๊อกสอดไสด้ ้วยไสห้ วานเชน่ ถว่ั เหลือง, เกาลดั , พทุ รา,ถ่ัวแดง,งา,น้ำผ้ึงเปน็ ตน้ ป้นั เป็นรูปพระจันทร์
ครึ่งเสี้ยวและน่าไปนั่งบนกิ่งของต้นสนเพื่อเพิ่มกลิ่นสดชื่นโดยชื่อของซงพยอนมาจากต้นสน (ซง) เมื่อผสม
กับพยอนแล้วจะกลายเป็น “เค้กต้นสน” ขนมชนิดนี้เป็นตัวแทนของดวงจันทร์และความปรารถนา ซึ่งเป็น
เหตุผลว่าทำไมคนถึงพูดความปรารถนาของพวกเขาในขณะที่ทำและกินมัน หลายเรื่องอธิบายว่าทำไม
ซงพยอนถึงมีรูปร่างเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวมากกว่าพระจันทร์เต็มดวง บรรพบุรุษชาวเกาหลีคิดว่า
พระจันทร์เต็มดวงรูปทรงกลมจะจางหายไปในขณะที่พระจันทร์ครึ่งดวงจะเต็ม ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่ง
ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง และคนเกาหลียังเชื่อว่าคนที่ทำซงพยอนที่มีรูปร่างสวยงามจะได้
พบกับคคู่ รองที่ดหี รือให้กำเนดิ ทารกท่ีสวยงาม

เอกสารอ้างองิ
Yoon, S. (15 กนั ยายน 2559). “สตู รอาหารเกาหลี : ซงพยอนพนั ธท์ุ ั่วเกาหลี ตอนท่ี 2”. สบื ค้น19

สงิ หาคม 2564, จาก https://hmong.in.th/wiki/Songpyeon

ผูเ้ รียบเรยี ง เลขที่ 88 นางสาววรรณภา คงสวัสดิ์

77

ช่ือรปู : Halva
ทมี่ าของรปู : https://hmong.in.th/wiki/Halvah

วิวัฒนาการอาหารการกินสะทอ้ นวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดนิ โลก

ฮาลวา (Halva) อาหารประเทศอิสลาเอล

ฮาลวามีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย สว่ นผสมหลักแป้งขา้ ว เนยถ่ัวและน้ำตาล Halva เป็นที่นิยมใน
ภาคกลางและเอเชียใต้ในคาบสมุทรบอลข่านในคอเคซัส , ยุโรปตะวันออก , มอลตา , แอฟริกาเหนือและ
ฮอรน์ ของแอฟริกา Halva สามารถเกบ็ ไวท้ ี่อณุ หภูมิห้องได้ในชว่ งเดือนท่ีไม่ใชฤ่ ดรู ้อนโดยมีความเส่ียงน้อยท่ี
จะเนา่ เสยี วธี ีทำทำโดยการปง้ิ ขนมปงั แป้งหรอื แปง้ ข้าวโพดในน้ำมนั ผสมเป็นอาหารพน้ื แล้วปรงุ ด้วยน้ำเชื่อม
หวานรูปแบบของการเตรียม halva นี้สามารถแทนที่ธัญพืชด้วยผัก ผลไม้ หรือชีส สูตร halva จากผัก
ทางเลอื กทน่ี ิยมในอนิ เดยี และปากสี ถานใช้บีทรูท มันฝร่งั มนั เทศ และแครอทสว่ นใหญ่

เอกสารอ้างองิ
Marks, Gil (17 พฤศจิกายน 2553). สารานุกรมอาหารยิว . ฮ. ISBN 978-0-544-18631-6. สืบคน้ 19

สิงหาคม 2564, จาก https://hmong.in.th/wiki/Halvah
a b c d มาร์คส์, กลิ (2010). "ฮาลวา" . สารานุกรมอาหารยวิ . ฮ. ISBN 9780544186316. สบื ค้น 19

สิงหาคม 2564, จาก https://hmong.in.th/wiki/Halvah

ผ้เู รียบเรยี ง เลขท่ี 90 นางสาววรัชยา ขอเจริญ

79

ชอ่ื รูป : อาหารทีโ่ ดดเดน่ ในทวปี เอเชยี ตะวันออก
ทมี่ าของรูป : https://hmong.in.th/wiki/Halvah

วิวัฒนาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก

สรุป

ในการดำเนินชีวิตของมนุษย์มีหลายสิ่งหลายอย่างเป็นองค์ประกอบหนึ่งในนั้นรวมถึงการประกอบ
อาหารในแต่ละวันด้วยซึ่งอาหารในแต่ละภูมิภาค ประเทศหรือทวีป ก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันตั้งแต่
ผลผลิตในประเทศไมว่ ่าจะเป็นพืชผักผลไม้เน้ือสัตว์ตา่ ง ๆ ดังน้นั การเลือกใช้วตั ถุดิบในการประกอบอาหาร ขอ
แต่ละพื้นที่ก็จะแตกต่างกันออกไปตามนั้นดังนั้นอาหารจึงบ่งบอกได้ว่า อาหารจานนี้มาจากประเทศอะไร
เพราะวา่ ในประเทศน้นั นนั้ จะมวี ตั ถุดบิ ท่เี ปน็ เอกลักษณ์

อาหารเป็นสิง่ ทีร่ วมเอาทุกอย่างมาบอกเลา่ เร่ืองราว ความเป็นอยู่ อาหารบ่งบอกถงึ เช้ือชาติ ความเช่ือ
ทางศาสนาลักษณะภูมิประเทศนั้น ๆ ว่าเป็นอย่างไรและสืบทอดต่อ ๆ กันมาจนกลายเป็นวัฒนธรรมการกิน
ของแต่ละประเทศชาติ แตล่ ะท้องถ่นิ อาหารทน่ี ิยมรับประทานกันเฉพาะท้องถน่ิ เป็นอาหารท่ีทำขนึ้ ไดง้ ่าย โดย
อาศัยพชื ผักหรือวตั ถุดิบในการประกอบอาหารทมี่ ีอย่ใู นท้องถ่ิน มีวธิ ีการปรุงและการรับประทานกันตามแต่ละ
ทอ้ งถน่ิ แตกตา่ งกนั ออกไป ขนึ้ อยกู่ ับหลายปจั จยั เช่นท้องถนิ่ นั้นหรือภมู ิประเทศนั้นอยตู่ ดิ ทะเลบา้ ง หรืออยู่ติด
แมน่ ำ้ ภเู ขาบ้าง ดงั น้นั วตั ถดุ ิบท่ีนำมาประกอบอาหารจงึ แตกตา่ งกนั ออกไป

อาหารจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่จะบอกเล่าเรื่องราวและสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในแต่ละท้องถิ่นได้
เปน็ อย่างดี และมนษุ ย์ทกุ คนจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารเพื่อการดำรงชวี ิตให้อยู่รอดต่อไป

81

ววิ ฒั นาการอาหารการกนิ สะท้อนวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก


Click to View FlipBook Version