-E BOOK
ความหมายพระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 นายจา้ งและลกู จา้ งตามความหมายของ
กฎหมายคมุ้ ครองแรงงาน
พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หรอื
“กฎหมายคมุ้ ครองแรงงาน” เป็นกฎหมายท่ีมี แนวคิดเก่ียวกบั
การกาหนดมาตรฐานขนั้ ต่าในเร่อื งตา่ งๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การจา้ ง
แรงงานระหว่างนายจา้ ง กบั ลกู จา้ ง อาทเิ ชน่ การกาหนดอตั รา
ค่าจา้ งขน้ั ต่า วนั เวลาทางานปกติ วนั หยดุ วนั ลา ค่าชดเชย ฯลฯ
ท่ีนายจา้ งจะตอ้ งถือปฏบิ ตั ิตอ่ ลกู จา้ ง โดยมเี จตนารมณท์ ่ีสาคญั
คือ ตอ้ งการคมุ้ ครองลกู จา้ งใหม้ มี าตรฐานในการจา้ งงานท่ี
เหมาะสม เหตผุ ลเน่ืองจากอานาจต่อรองระหว่างนายจา้ งและ
ลกู จา้ งนน้ั ไมเ่ ท่ากนั ดงั นนั้ การกาหนดมาตรฐานขนั้ ต่าในการ
จา้ งงาน โดยรฐั ท่ีถือวา่ เป็นคนกลางระหวา่ งทง้ั 2 ฝ่าย ขนึ้ มาก็
จะเป็นผลดีกบั ลกู จา้ งท่ีจะไดร้ บั การคมุ้ ครองแรงงานท่ีเป็นธรรม
นอกจากนี้ กฎหมายคมุ้ ครองแรงงานยงั มีลกั ษณะเป็นกฎหมาย
สงั คมและมลี กั ษณะท่ีเป็นกฎหมายเก่ียวกบั ความสงบเรยี บรอ้ ย
ซง่ึ ประเด็นสาคญั กค็ ือนายจา้ งและลกู จา้ งไมส่ ามารถท่ีจะตกลง
ยกเวน้ การบงั คบั ใชก้ ฎหมายฯ ไดถ้ า้ ไมไ่ ดม้ ีการกาหนดให้
นายจา้ งและลกู จา้ งสามารถท่ีจะตกลงยกเวน้ ไดแ้ ละในกรณีท่ีมี
การตกลงยกเวน้ การบงั คบั ใชก้ ฎหมายฯ ก็จะถือวา่ ขอ้ ตกลง
ดงั กลา่ วนน้ั เป็นโมฆะ
ความสาคญั บทท่วั ไป
1.กำหนดมำตรฐำนกำรคุ้มครองแรงงำนขั้นต่ำทนี่ ำยจำ้ งพง่ึ ปฏบิ ตั ติ ่อ การกาหนดใหก้ ฎหมายคมุ้ ครองแรงงานเป็นมาตรฐาน
ลูกจ้ำง ขนั้ ต่าในการจา้ งแรงงาน
2.เพอื่ รองรับสทิ ธิประโยชนข์ ัน้ ต่ำของลูกจ้ำง
3.เพอื่ ใหก้ ำรบรหิ ำรกำรคุ้มครองแรงงำนเป็ นไปในทศิ ทำงเดยี วกัน มำตรำ 7 กำรเรียกร้องหรือกำรไดม้ ำซงึ่ สิทธิหรือประโยชน์
ตำมพระรำชบัญญัตนิ ีไ้ ม่เป็ นกำรตัดสทิ ธิหรือ ประโยชนท์ ่ี
ลูกจำ้ งพงึ่ ไดต้ ำมกฎหมำยอนื่
บทบญั ญตั ินีเ้ ป็นการยืนยนั หลกั การท่ีว่ากฎหมายคุม้ ครอง
แรงงานนน้ั เป็นมาตรฐานขน้ั ต่าท่ีลกู จา้ ง จะตอ้ งไดร้ บั ดงั นน้ั เม่ือลกู จา้ ง
ไดร้ บั สิทธิหรอื ประโยชนต์ ามกฎหมายฯ แลว้ ลกู จา้ งก็ยงั คงมีสิทธิไดร้ บั
สทิ ธิ ประโยชนต์ ามกฎหมายอ่ืน ๆ อีก อาจจะกล่าวโดยสรุปไดว้ า่ การให้
สิทธิประโยชนต์ ามกฎหมายคมุ้ ครอง แรงงานไมเ่ ป็นการตดั สิทธิประโยชน์
ตามกฎหมายอ่ืนท่ีลกู จา้ งจะไดร้ บั
การใหค้ วามช่วยเหลอื ลกู จา้ งในการดาเนินคดีแรงงาน การกาหนดบรุ มิ สิทธิของเงนิ ตามกฎหมายคมุ้ ครองแรงงาน
มำตรำ 8 ใหร้ ัฐมนตรมี อี ำนำจแตง่ ตัง้ พนักงำนเจำ้ หน้ำทซี่ งึ่ มี มำตรำ 1114 หนีท้ เี่ กดิ จำกเงนิ ทน่ี ำยจ้ำงต้องจ่ำยตำม
คุณวุฒไิ ม่ต่ำกว่ำปริญญำตรีทำงนิตศิ ำสตร์ เพอ่ื มีอำนำจฟ้องคดี พระรำชบญั ญัตนิ ีห้ รือเงนิ ทตี่ อ้ งชดใช้กองทนุ สงเครำะหล์ ูกจ้ำงตำม
หรอื แก้ตำ่ งคดแี รงงำนใหแ้ กล่ ูกจำ้ งหรอื ทำยำรทโดยธรรมของ มำตรำ 135 ใหล้ ูกจ้ำงหรือกรมสวัสดกิ ำรและคุ้มครองแรงงำนแล้วแต่
ลูกจำ้ งซงึ่ ถงึ แกค่ วำมตำย และเมอ่ื กระทรวงแรงงำนและสวัสดกิ ำร กรณีมีบรุ ิมสิทธิ
สังคมแจ้งใหศ้ ำลทรำบแล้ว กใ็ หม้ ีอำนำจกระทำกำรได้จนคดีถงึ
ทส่ี ุด
การคมุ้ ครองเงินตามกฎหมายคมุ้ ครอง
แรงงานท่ีลกู จา้ งไดร้ บั จากนายจา้ ง ดอกเบยี้
และเงินเพ่ิม
มำตรำ 910 ในกรณีทน่ี ำยจ้ำงไม่คนื หลักประกันทเี่ ป็ น
เงนิ ตำมมำตรำ 10 วรรคสอง หรอื ไม่จำ่ ยค่ำจำ้ ง ค่ำ ล่วงเวลำ
ค่ำทำงำนในวันหยุด และค่ำล่วงเวลำในวันหยดุ ภำยในเวลำท่ี
กำ หนดตำมมำตรำ 70 หรือค่ำชดเชย ตำมมำตรำ 118
ค่ำชดเชยพเิ ศษแทนกำรบอกกล่ำวล่วงหน้ำหรือค่ำชดเชย
พเิ ศษตำมมำตรำ 120 มำตรำ 121 และมำตรำ 122 ใหน้ ำยจ้ำง
เสยี ดอกเบยี้ ใหแ้ กล่ ูกจำ้ งในระหว่ำงเวลำผิดนัดร้อยละสิบหำ้
ต่อปี
กำรใช้แรงงำนท่วั ไป วนั หยุด
เวลำทำงำนปกติ
1. ลาป่วยไดเ้ ท่าท่ีป่วยจรงิ โดยไดร้ บั คา่ จา้ งตลอดระยะเวลาท่ีลาไม่
งานพาณิชยกรรมงานอตุ สาหกรรมงานบรกิ ารไมเ่ กินวนั ละ 8 ช่วั โมง เกิน 30 วนั /ปี
/ วนั หรอื สปั ดาหล์ ะ 24 ช่วั โมงยกเวน้ งานอนั ตรายเช่นงานเขียมงาน 2. ลาเพ่ือทาหมนั ไดต้ ามท่ีแพทยแ์ ผนปัจจบุ นั ชน้ั หน่ึงกาหนดและ
ขนสง่ วตั ถรุ ะเบดิ หรอื วตั ถไุ วไฟเป็นตน้ ใหท้ างานไดว้ นั ละไมเ่ กิน 7 ออกใบรบั รองโดยไดร้ บั ค่าจา้ ง
ช่วั โมงหรอื สปั ดาหล์ ะ 42 3. ลากิจไดต้ ามขอ้ บงั คบั เก่ียวกบั การทางาน
4. ลาเพ่ือรบั ราชการทหารโดยไดร้ บั คา่ จา้ งตลอดระยะเวลาท่ีลาแต่
วันหยุด ไมเ่ กิน 60 วนั /ปี
5. ลาฝึกอบรมหรอื พฒั นาความรูค้ วามสามารถหรอื เพ่มิ ทกั ษะความ
1. วนั หยดุ ประจาสปั ดาหไ์ มน่ อ้ ยกว่า 1 วนั /สปั ดาห์ ชานาญและเพ่ือสอบวดั ผลทางการศกึ ษาท่ีทางราชการจดั หรือ
2. วนั หยดุ ตามประเพณีไมน่ อ้ ยกว่า 13 วนั /ปีโดยรวมวนั แรงงาน อนญุ าตใหจ้ ดั
แห่งชาติ 6. วนั ลาเพ่ือคลอดบตุ รลกู จา้ งหญิงมีสทิ ธิลาเพ่ือคลอดบตุ รครรภ์
3. วนั หยดุ พกั ผอ่ นประจาปีไมน่ อ้ ยกวา่ 6 วนั ทางาน/ปี หน่งึ ไมเ่ กิน 90 วนั นบั รวมวนั หยดุ และไดร้ บั ค่าจา้ งไม่เกิน 45 วนั
เวลำพกั
วนั หน่ึงไมน่ อ้ ยกวา่ 1 ช่วั โมงแต่ถา้ ทางานลว่ งเวลาตดิ ตอ่ กนั
ตงั้ แต่ 2 ช่วั โมงขนึ้ ไปตอ้ งใหล้ กู จา้ งพกั ก่อนทางานล่วงเวลาไมน่ อ้ ย
กว่า 20 นาที
กำรใช้แรงงำนหญิง ห้ำมลูกจ้ำงหญงิ หรอื หญิงมคี รรภท์ ำงำนดังต่อไปนี้
1. งานเก่ียวกบั เครอ่ื งจกั รหรอื เคร่อื งยนตท์ ่ีมคี วามส่นั สะเทอื น
หำ้ มลูกจำ้ งหญงิ ทำงำนทม่ี ีลักษณะอันตรำยดังนี้ 2. งานขบั เคล่อื นหรอื ตดิ ไปกบั ยานพาหนะ
1. งานเหมืองแรห่ รอื งานก่อสรา้ งท่ีตอ้ งทาในถา้ ใตด้ นิ ใตน้ า้ ในอโุ มงค์ 3. งานยกแบกหามหาบทนู ลากหรอื เป็นของหนกั เกิน 15 กิโลกรมั
ปลอ่ งภเู ขาเวน้ แต่ลกั ษณะของงานไมเ่ ป็นอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพและ 4. งานท่ีทาในเรอื
รา่ งกายของลกู จา้ ง 5. งานอ่ืนตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
2. งานท่ีตอ้ งทาบนน่งั รา้ นสงู กวา่ พืน้ ดนิ ตงั้ แต่ 10 เมตรขนึ้ ไป
3. งานผลติ หรอื ขนสง่ วตั ถรุ ะเบดิ หรอื วตั ถไุ วไฟ
4. งานอ่ืนท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
กำรคุ้มครองหญิงมีครรภ์
1. หา้ มลกู จา้ งหญิงทางานระหวา่ ง 22. 00 น. – 06. 00 น.
2. หา้ มลกู จา้ งหญิงทางานในวนั หยดุ หรอื ทางานลว่ งเวลา
3. หา้ มเลกิ จา้ งหญิงเพราะเหตมุ ีครรภ์
การใชแ้ รงงานเดก็ ดงั นนั้ แรงงานเด็ก คือบคุ คลท่ีมอี ายตุ ง้ั แต่ 15 ปี และยงั ไม่
ถึง 18 ปี หรอื สรุปว่าการ ใชแ้ รงงานบคุ คลท่ีมีอายุ 15 ปี
คาว่า เดก็ ในความหมายของกฎหมายคมุ้ ครอง บรบิ รู ณข์ นึ้ ไปจนถงึ บคุ คลมอี ายไุ มถ่ งึ 18 ปี เรยี กว่าแรงงาน
แรงงานท่ีกาลงั ศกึ ษานีแ้ ตกตา่ งกบั พระราชบญั ญตั ิ จดั ตง้ั ศาล เดก็ ถา้ มอี ายคุ รบ 18 ปีบรบิ รู ณ์ ถือวา่ เรม่ิ ตน้ เป็นแรงงาน
เยาวชนและครอบครวั และวธิ ีพจิ ารณาคดีเยาวชนและครอบครวั ท่วั ไปแลว้ นายจา้ งสามารถจา้ งใหท้ างานไดท้ กุ ประเภทแมว้ ่า
เชน่ คาว่า เด็ก หมายความว่า บคุ คลท่ีมอี ายเุ กินเจด็ ปีบรบิ รู ณ์ แต่ จะยงั ไมบ่ รรลนุ ิตภิ าวะ ก็ไมถ่ ือว่าเป็นแรงงานเด็ก
ไมเ่ กินสบิ ส่ปี ีบรบิ รู ณ์ และคาวา่ เยาวชน หมายความว่าบคุ คลท่ี มี
อายเุ กินสบิ ส่ปี ีบรบิ รู ณ์ แตย่ งั ไมถ่ งึ สบิ แปดปีบริบรู ณ์ กฎหมายฉบบั การใชแ้ รงงานเดก็ มีขอ้ กฎหมายควรศกึ ษา ดงั นี้
นีม้ งุ่ ท่ีบคุ คลมีอายรุ ะหว่างเจด็ ปี ถงึ สบิ แปดปีบริบรู ณ์
1. ขอ้ หา้ มจา้ งหรอื ใชแ้ รงงานเด็กโดยเดด็ ขาด
ในกฎหมายคมุ้ ครองแรงงาน หรอื พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครอง 2. ขอ้ จากดั ในการจา้ งแรงงานเด็ก
แรงงาน พ.ศ.2541 คาว่า เด็ก ท่ีสามารถ ใชแ้ รงงานเป็นลกู จา้ งไดไ้ ม่ 3. สทิ ธิของแรงงานเดก็
วา่ จะเป็นเด็กชายหรอื เดก็ หญิงตอ้ งมีอายไุ มต่ ่ากว่า 15 ปี ดงั นนั้ เดก็
ท่ีมอี ายุ 15 ปีพอดี หรอื 15 ปีบรบิ รู ณ์ กฎหมายคมุ้ ครองแรงงาน
ยอมรบั ใหใ้ ชแ้ รงงานได้ และถา้ อายยุ งั ไมถ่ ึง 18 ปีบรบิ รู ณ์ คือต่ากว่า
18 ปี กฎหมายคมุ้ ครองแรงงานยงั ถือว่าเป็นแรงงานเดก็ อยู่ ดว้ ย
เหตผุ ลท่ีวา่ เด็กมอี ายตุ ่ากวา่ 15 ปี ยงั อยใู่ นภาวะไมส่ ามารถทา
กิจการงานท่ีมอบหมายได้ โดยเฉพาะงานตอ้ งใชก้ าลงั และสมอง
ตอ้ งใหม้ ีอายคุ รบ 15 ปี ก่อน และเม่อื มีอายเุ พ่มิ ขนึ้ ใกลค้ รบ 18 ปี
กฎหมายถือวา่ เรม่ิ มวี ฒุ ภิ าวะ รูส้ กึ ผิดชอบช่วั ดี สามารถใชก้ าลงั
สมองตดั สนิ ใจได้ หากอายคุ รบ 18 ปีบรบิ รู ณเ์ ม่อื ใดกฎหมายถือวา่
บคุ คลนนั้ มใิ ชแ่ รงงานเด็ก คือเป็นแรงงานท่วั ไปแลว้
การใชแ้ รงงานภาคเกษตรกรรม พ.ศ.2557 โดยฉบั พลนั เพ่ือขจดั รูปแบบท่ีเลวรา้ ยท่ีสดุ ของการใชแ้ รงงาน
เดก็ ค.ศ.๑๙๙๙ ซ่งึ กาหนดอายขุ น้ั ต่าของแรงงานท่วั ไปตงั้ แต่
เม่อื วนั ท่ี ๒๓ ธนั วาคม ไดม้ กี ารประกาศใชก้ ฎกระทรวงคมุ้ ครอง อายสุ บิ หา้ ปีขนึ้ ไป ประกอบกบั ไดม้ ีการแกไ้ ขเพ่มิ เติมกฎหมายว่า
แรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๗ ดว้ ยการคมุ้ ครองแรงงาน
ในกรณีดงั กลา่ วแลว้ จงึ สมควรปรบั ปรุงมาตรฐานการคมุ้ ครอง
เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยท่ี ลกู จา้ งในงานเกษตรกรรมซ่งึ เป็นเด็ก ใหส้ อดคลอ้ งกบั อนุสญั ญา
กฎกระทรวงวา่ ดว้ ยการคมุ้ ครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ขององคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศและกฎหมายว่าดว้ ยการ
๒๕๔๗ กาหนดใหน้ ายจา้ งอาจจา้ งลกู จา้ งอายตุ งั้ แตส่ ิบสามปี คมุ้ ครองแรงงานเพ่ือปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหาการคา้ มนุษยด์ า้ น
บรบิ รู ณท์ างานในช่วงระยะ เวลาโรงเรยี นปิดภาคเรยี นหรือนอก แรงงานซ่งึ เป็น นโยบายสาคญั และเรง่ ด่วนของรฐั บาล จึง
เวลาเรยี นไดใ้ นงานท่ีไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อ สขุ ภาพอนามยั หรอื เป็น จาเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงนี้
งานท่ีไมข่ ดั ต่อการพฒั นาและสง่ เสรมิ คณุ ภาพชีวิตของเดก็ โดย กฎกระทรวง ระบวุ า่ อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๖
ไดร้ บั อนญุ าตจากบดิ ามารดาหรอื ผปู้ กครองของเดก็ ซง่ึ ไม่ วรรคหน่งึ และมาตรา ๒๒ แหง่ พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน
เหมาะสมกบั สถานการณใ์ นปัจจบุ นั ท่ีมงุ่ เนน้ การใหค้ วาม พ.ศ. ๒๕๔๑ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวง
คมุ้ ครองแรงงาน ท่ีเป็นเดก็ มากขนึ้ ตามอนสุ ญั ญาขององคก์ าร ไว้ ดงั ต่อไปนี้
แรงงานระหว่างประเทศ ฉบบั ท่ี ๑๓๘ วา่ ดว้ ยอายขุ น้ั ต่าท่ี ข้อ ๑ ใหย้ กเลกิ กฎกระทรวงวา่ ดว้ ยการคมุ้ ครองแรงงานใน
อนญุ าตใหจ้ า้ งงานได้ ค.ศ. ๑๙๗๓ และอนสุ ญั ญาขององคก์ าร งานเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๔๗
แรงงานระหวา่ งประเทศ ฉบบั ท่ี ๑๘๒ ว่าดว้ ยการหา้ มและการ
ปฏบิ ตั ิ ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้ “งานเกษตรกรรม” หมายความวา่
งานท่ีเก่ียวกบั การเพาะปลกู การเลยี้ งสตั วก์ ารป่าไม้ การทานา
เกลือสมทุ ร และการประมงท่ีมใิ ชก่ ารประมงทะเล
ขอ้ ๓ ใหน้ ายจา้ งซ่งึ จา้ งลกู จา้ งทางานเกษตรกรรมตลอดปี
ปฏบิ ตั ิตามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงานพ.ศ. ๒๕๔๑
ขอ้ ๔ ในงานเกษตรกรรมซ่งึ มไิ ดจ้ า้ งลกู จา้ งตลอดปีและมไิ ด้ ข้อ ๕ ลกู จา้ งซ่งึ ทางานติดต่อกนั มาแลว้ ครบหน่ึงรอ้ ย
ใหล้ กู จา้ งทางานในลกั ษณะท่ี เป็นงานอตุ สาหกรรมต่อเน่ือง แปดสบิ วนั มสี ทิ ธิหยดุ พกั ผอ่ นไดไ้ มน่ อ้ ยกวา่ สามวนั ทางาน
จากงานดงั กลา่ ว ใหน้ ายจา้ งปฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๗ มาตรา ๘ โดยใหน้ ายจา้ งเป็นผกู้ าหนดวนั หยดุ ดงั กลา่ วใหแ้ ก่ลกู จา้ ง
มาตรา ๑๒ มาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ มาตรา ๑๙ ลว่ งหนา้ หรอื กาหนดใหต้ ามท่ี นายจา้ งและลกู จา้ งตกลง
มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๑ มาตรา ๓๗ มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๑ กนั
มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ ใหน้ ายจา้ งจา่ ยคา่ จา้ งใหแ้ ก่ลกู จา้ งในวนั หยดุ พกั ผอ่ น
มาตรา ๔๙ มาตรา ๕๓ มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ มาตรา ๗๐ เสมอื นว่าลกู จา้ งมาทางานตามปกตใิ นวนั หยดุ พกั ผอ่ นนน้ั
มาตรา ๗๖ มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๓ มาตรา ๑๑๔ มาตรา ถา้ นายจา้ งใหล้ กู จา้ งทางานในวนั หยดุ พกั ผอ่ นตามวรรค
๑๑๕ มาตรา ๑๒๓ มาตรา ๑๒๖ มาตรา ๑๒๗ มาตรา ๑๒๘ หน่งึ ใหน้ ายจา้ งจ่ายค่าทางาน ในวนั หยดุ แก่ลกู จา้ งเพ่มิ ขนึ้
มาตรา ๑๒๙ มาตรา ๑๓๔ มาตรา ๑๓๖ มาตรา ๑๓๗ ไมน่ อ้ ยกวา่ หน่งึ เทา่ ของอตั ราคา่ จา้ งตอ่ ช่วั โมงในวนั
มาตรา ๑๓๙ มาตรา ๑๔๐ มาตรา ๑๔๒ และมาตรา ๑๔๓ ทางานตามจานวนช่วั โมงท่ีทาหรอื ไมน่ อ้ ยกว่าหน่งึ เทา่ ของ
แหง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และมาตรา อตั ราคา่ จา้ งต่อหน่วยในวนั ทางานตามจานวนผลงานท่ีทา
๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๑/๑ มาตรา ๑๖ มาตรา ไดส้ าหรบั ลกู จา้ งซง่ึ ไดร้ บั คา่ จา้ งตามผลงานโดยคานวณ
๑๗ มาตรา ๑๘ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๕๑ มาตรา เป็นหน่วย
๑๒๔ มาตรา ๑๒๔/๑ มาตรา ๑๒๕ มาตรา ๑๓๕ และมาตรา ขอ้ ๖ ในกรณี ท่ีนายจา้ งมไิ ดจ้ ดั ใหล้ กู จา้ งหยดุ พกั ผอ่ น
๑๔๑ แหง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่งึ หรอื จดั ใหล้ กู จา้ งหยดุ พกั ผอ่ นนอ้ ย กว่าท่ีกาหนดไวต้ ามขอ้
แกไ้ ขเพ่มิ เติมโดยพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน (ฉบบั ท่ี ๒) ๕ ใหน้ ายจา้ งจ่ายค่าทางานในวนั หยดุ ใหแ้ ก่ลกู จา้ งเพ่มิ ขนึ้
พ.ศ. ๒๕๕๑ และตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวงนี้ ไมน่ อ้ ยกว่าหน่งึ เทา่ ของอตั ราค่าจา้ งในวนั ทางานเสมอื น
วา่ นายจา้ งใหล้ กู จา้ งทางานในวนั หยดุ
ข้อ ๗ ลกู จา้ งมสี ทิ ธิลาป่วยไดเ้ ท่าท่ีป่วยจรงิ การลาป่วยตง้ั แต่ ข้อ ๘ ใหน้ ายจา้ งจดั ใหม้ ีนา้ สะอาดสาหรบั ด่ืมโดยมปี รมิ าณ
สามวนั ทางานขนึ้ ไปนายจา้ งอาจใหล้ กู จา้ งแสดงใบรบั รอง เพียงพอแก่ลกู จา้ ง
แพทย์ แผนปัจจบุ นั ชน้ั หน่ึงหรอื ของสถานพยาบาลของทาง
ราชการในกรณีท่ีลกู จา้ งไมอ่ าจ แสดงใบรบั รองแพทยแ์ ผน กรณีลกู จา้ งพกั อาศยั อยกู่ บั นายจา้ งนายจา้ งตอ้ งจดั หาท่ีพกั
ปัจจบุ นั ชน้ั หน่ึงหรอื ของสถานพยาบาลของทางราชการได้ อาศยั ท่ีสะอาดถกู สขุ ลกั ษณะและปลอดภยั ใหแ้ ก่ลกู จา้ ง ให้
ใหล้ กู จา้ งชีแ้ จงนายจา้ งทราบ นายจา้ งจดั สวสั ดิการอ่ืน ๆ ท่ีเป็นประโยชนแ์ กล่ กู จา้ งตามท่ี
อธิบดีประกาศกาหนด
ใหน้ ายจา้ งจ่ายค่าจา้ งใหแ้ ก่ลกู จา้ งในวนั ลาป่วยเท่ากบั อตั รา
ค่าจา้ งในวนั ทางานตลอดระยะเวลาท่ีลาแต่ตอ้ งไมเ่ กินสบิ หา้ วนั
ทางาน
ค่ำตอบแทนกำรทำงำน คำ่ จำ้ ง ค่ำล่วงเวลำ ค่ำ นำยจำ้ งตอ้ งจ่ำยค่ำจ้ำงใหแ้ ก่ลูกจำ้ ง สำหรับวันลำ ดังนี้ ตำม
ทำงำนในวันหยุด คำ่ ล่วงเวลำในวนั หยุด มำตรำ 57 58 59
คำ่ จ้ำง ค่ำล่วงเวลำ ค่ำทำงำนในวันหยุด คำ่ ล่วงเวลำในวันหยุด 1 ลาป่วย ปีหน่งึ ไมเ่ กิน 30 วนั ทางาน
กฎหมำยกำหนดกำรจ่ำย ดังต่อไปนี้ 2 ลาเพ่อื ทาหมนั ตามจานวนวนั ท่ีมีสทิ ธิลา
3 ลาเพ่อื รบั ราชการทหาร ปีหนง่ึ ไม่เกิน 60 วนั
1 การคานวณคา่ จา้ งเป็นรายเดือน ใหจ้ ่ายเดือนละไม่นอ้ ยกว่า 1 ครงั้ 4 ลาเพ่อื คลอดบตุ ร ครรภห์ น่งึ ไม่เกิน 45 วนั
2 คา่ ลว่ งเวลา ค่าทางานในวนั หยดุ และค่าลว่ งเวลาในวนั หยดุ ใหจ้ า่ ยเดือนละ
ไมน่ อ้ ยกวา่ 1 ครงั้ อัตรำคำ่ จำ้ ง
3 กรณีเลกิ จา้ ง ตอ้ งจา่ ยคา่ จา้ งภายใน 3 วนั นบั แต่วนั ท่ีเลิกจา้ ง ตามมาตรา 70
4 อตั ราค่าจา้ งขนั้ ต่าขนึ้ อยกู่ บั รฐั กาหนด 1 ค่าลว่ งเวลา (OT) ของวนั ทางานปกติ และค่าทางานในวนั หยดุ ไดร้ บั ไม่
นอ้ ยกวา่ 1.5 เทำ่ ของอตั ราคา่ จา้ ง / ช่วั โมง ตามมาตรา 61
นำยจ้ำงจะหกั คำ่ จำ้ งไม่ได้ เวน้ แต่ 2 ทางานในวนั หยดุ ในเวลาปกติ ไดร้ บั ไม่นอ้ ยกวา่ 1 เทำ่ ของอตั ราค่าจา้ ง /
ช่วั โมง กรณีท่ีลกู จา้ งมีสิทธิไดร้ บั คา่ จา้ งในวนั หยดุ นนั้ อย่แู ลว้
1 ชาระภาษีเงินไดท้ ่ีลกู จา้ งจะตอ้ งจ่าย 3 กรณีวนั หยดุ ทีไม่ไดร้ บั ค่าจา้ งจะไดร้ บั เพ่มิ เป็น 2 เทำ่ ของค่าจา้ งในวนั
2 ชาระคา่ บารุงสหภาพแรงงาน ทางาน
3 ชาระหนีส้ หกรณอ์ อมทรพั ย์ 3 ทางานล่วงเวลาในวนั หยดุ ไดร้ บั ไมน่ อ้ ยกว่า 3 เทำ่ ของอตั ราค่าจา้ ง /
4 เงินประกนั การทางาน หรอื ชดใชค้ ่าเสียหาย ในกรณีลกู จา้ งเป็นผูก้ ระทาโดยจง ช่วั โมง
ใจหรอื ประมาทเลนิ เล่ออยา่ งรา้ ยแรง 4 ลกู จา้ งทง้ั ชายและหญิง มีสิทธิไดร้ บั คา่ จา้ ง คา่ ลว่ งเวลา ค่าทางานใน
5 กองทนุ เงินสะสม วนั หยดุ และคา่ ลว่ งเวลาในวนั หยดุ เท่าเทียมกนั ในงานท่ีมีลกั ษณะและ
คณุ ภาพอย่างเดียวกนั และปรมิ าณเท่ากนั
โดยขอ้ 2 - 5 จะหกั ไดไ้ ม่เกิน 10 % และหกั รวมกนั ไม่เกิน 1 ใน 5 ของเงนิ ท่ี
ลกู จา้ งมีสทิ ธิไดร้ บั เวน้ แตล่ กู จา้ งยนิ ยอม
หลักกฎหมำยตำม พระรำชบญั ญัตคิ ุม้ ครองแรงงำน มำตรำ 62 ในกรณีท่ีนายจา้ งใหล้ กู จา้ งทางานในวนั หยดุ ตามมาตรา 28
พ.ศ.2541 ทเ่ี กยี่ วข้อง มาตรา 29 หรอื มาตรา 30 ใหน้ ายจา้ งจ่ายค่าทางานในวนั หยดุ ใหแ้ ก่ลกู จา้ งใน
อตั รา ดงั ตอ่ ไปนี้
มำตรำ 56 ใหน้ ายจา้ งจ่ายคา่ จา้ งใหแ้ ก่ลกู จา้ งเท่ากบั คา่ จา้ งในวนั (1) สาหรบั ลกู จา้ งซง่ึ มีสทิ ธิไดร้ บั ค่าจา้ งในวนั หยดุ ใหจ้ า่ ยเพ่มิ ขนึ้ จากค่าจา้ งอีก
ทางานสาหรบั วนั หยดุ ดงั ต่อไปนี้ ไมน่ อ้ ยกวา่ หนง่ึ เทา่ ของอตั ราคา่ จา้ งต่อช่วั โมงในวนั ทางานตามจานวนช่วั โมงท่ี
(1) วนั หยดุ ประจาสปั ดาห์ เวน้ แตล่ กู จา้ งซง่ึ ไดร้ บั ค่าจา้ งรายวนั ราย ทาหรอื ไม่นอ้ ยกวา่ หน่งึ เทา่ ของอตั ราค่าจา้ งต่อหนว่ ยในวนั ทางานตามจานวน
ช่วั โมง หรอื ตามผลงานโดยคานวณเป็นหนว่ ย ผลงานท่ีทาไดส้ าหรบั ลกู จา้ งซง่ึ ไดร้ บั คา่ จา้ งตามผลงานโดยคานวณเป็นหน่วย
(2) วนั หยดุ ตามประเพณี (2) สาหรบั ลกู จา้ งซง่ึ ไม่มีสิทธิไดร้ บั คา่ จา้ งในวนั หยดุ ใหจ้ ่ายไมน่ อ้ ยกว่าสองเทา่
(3) วนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี ของอตั ราคา่ จา้ งตอ่ ช่วั โมงในวนั ทางานตามจานวนช่วั โมงท่ีทา หรอื ไม่นอ้ ยกว่า
มำตรำ 57 ใหน้ ายจา้ งจ่ายคา่ จา้ งใหแ้ ก่ลกู จา้ งในวนั ลาป่วยตาม สองเท่าของอตั ราคา่ จา้ งต่อหน่วยในวนั ทางานตามจานวนผลงานท่ีทาได้
มาตรา 32 เทา่ กบั อตั ราคา่ จา้ งในวนั ทางานตลอดระยะเวลาท่ีลา แต่ปี สาหรบั ลกู จา้ งซง่ึ ไดร้ บั คา่ จา้ งตามผลงานโดยคานวณเป็นหน่วย
หนง่ึ ตอ้ งไมเ่ กินสามสิบวนั ทางาน มำตรำ 63 ในกรณีท่ีนายจา้ งใหล้ กู จา้ งทางานล่วงเวลาในวนั หยดุ ใหน้ ายจา้ ง
ในกรณีท่ีลกู จา้ งใชส้ ทิ ธิลาเพ่อื ทาหมนั ตามมาตรา 33 ใหน้ ายจา้ งจ่าย จา่ ยคา่ ลว่ งเวลาในวนั หยดุ ใหแ้ ก่ลกู จา้ งในอตั ราไมน่ อ้ ยกว่าสามเท่าของอตั รา
ค่าจา้ งใหแ้ ก่ลกู จา้ งในวนั ลานน้ั ดว้ ย ค่าจา้ งตอ่ ช่วั โมงในวนั ทางานตามจานวนช่วั โมงท่ีทา หรอื ไมน่ อ้ ยกวา่ สามเทา่
มำตรำ 58 ใหน้ ายจา้ งจ่ายค่าจา้ งใหแ้ ก่ลกู จา้ งในวนั ลาเพ่ือรบั ราชการ ของอตั ราค่าจา้ งต่อหน่วยในวนั ทางานตามจานวนผลงานท่ีทาไดส้ าหรบั ลกู จา้ ง
ทหารตามมาตรา 35 เท่ากบั คา่ จา้ งในวนั ทางานตลอดระยะเวลาท่ีลา ซง่ึ ไดร้ บั ค่าจา้ งตามผลงานโดยคานวณเป็นหนว่ ย
แต่ปีหน่งึ ตอ้ งไมเ่ กินหกสิบวนั มำตรำ 68 เพ่อื ประโยชนแ์ ก่การคานวณค่าล่วงเวลา คา่ ทางานในวนั หยดุ และ
มำตรำ 59 ใหน้ ายจา้ งจ่ายคา่ จา้ งใหแ้ ก่ลกู จา้ งซง่ึ เป็นหญิงในวนั ลา คา่ ล่วงเวลาในวนั หยดุ ในกรณีท่ีลกู จา้ งไดร้ บั คา่ จา้ งเป็นรายเดือนอตั ราค่าจา้ ง
เพ่อื คลอดบตุ รเท่ากบั ค่าจา้ งในวนั ทางานตลอดระยะเวลาท่ีลา แตไ่ ม่ ตอ่ ช่วั โมงในวนั ทางานหมายถึงคา่ จา้ งรายเดือนหารดว้ ยผลคณู ของสามสิบและ
เกินส่ีสิบหา้ วนั จานวนช่วั โมงทางานในวนั ทางานตอ่ วนั โดยเฉล่ีย
มำตรำ 61 ในกรณีท่ีนายจา้ งใหล้ กู จา้ งทางานลว่ งเวลาในวนั ทางาน มำตรำ 69 เพ่อื ประโยชนแ์ ก่การคานวณช่วั โมงทางานลว่ งเวลาในกรณีท่ี
ใหน้ ายจา้ งจ่ายคา่ ล่วงเวลาใหแ้ ก่ลกู จา้ งในอตั ราไม่นอ้ ยกว่าหน่งึ เท่า นายจา้ งกาหนดเวลาทางานปกติเป็นสปั ดาห์ ใหน้ บั วนั หยดุ ตามประเพณี
ครง่ึ ของอตั ราคา่ จา้ งตอ่ ช่วั โมงในวนั ทางานตามจานวนช่วั โมงท่ีทา วนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี และวนั ลา เป็นวนั ทางาน
หรอื ไม่นอ้ ยกวา่ หน่งึ เท่าครง่ึ ของอตั ราค่าจา้ งตอ่ หน่วยในวนั ทางานตาม
จานวนผลงานท่ีทาไดส้ าหรบั ลกู จา้ งซง่ึ ไดร้ บั คา่ จา้ งตามผลงาน
มำตรำ 70 ใหน้ ายจา้ งจ่ายค่าจา้ ง คา่ ลว่ งเวลา ค่าทางานในวนั หยดุ และ (5) เป็นเงินสะสมตามขอ้ ตกลงเก่ียวกบั กองทนุ เงนิ สะสม
คา่ ลว่ งเวลาในวนั หยดุ ใหถ้ กู ตอ้ งและตามกาหนดเวลาดงั ต่อไปนี้ การหกั ตาม (2) (3) (4) และ (5) ในแต่ละกรณีหา้ มมใิ หห้ กั เกินรอ้ ยละสิบ
(1) ในกรณีท่ีมีการคานวณค่าจา้ งเป็นรายเดือน รายวนั รายช่วั โมงหรอื และจะหกั รวมกนั ไดไ้ ม่เกินหนง่ึ ในหา้ ของเงนิ ท่ีลกู จา้ งมีสทิ ธิไดร้ บั ตาม
เป็นระยะเวลาอย่างอ่ืนท่ีไมเ่ กินหนง่ึ เดือน หรอื ตามผลงานโดยคานวณ กาหนดเวลาการจา่ ยตามมาตรา 70 เวน้ แตไ่ ดร้ บั ความยนิ ยอมจากลกู จา้ ง
เป็นหนว่ ย ใหจ้ า่ ยเดือนหน่งึ ไมน่ อ้ ยกวา่ หน่งึ ครงั้ เวน้ แต่จะมีการตกลงกนั มำตรำ 77 ในกรณีท่ีนายจา้ งตอ้ งไดร้ บั ความยินยอมจากลกู จา้ ง หรอื มี
เป็นอย่างอ่ืนท่ีเป็นประโยชนแ์ ก่ลกู จา้ ง ขอ้ ตกลงกบั ลกู จา้ งเก่ียวกบั การจา่ ยเงนิ ตามมาตรา 54 มาตรา 55 หรอื การ
(2) ในกรณีท่ีมีการคานวณค่าจา้ ง นอกจาก (1) ใหจ้ า่ ยตามกาหนดเวลา หกั เงนิ ตามมาตรา 76 นายจา้ งตอ้ งจดั ทาเป็นหนงั สือและใหล้ กู จา้ งลง
ท่ีนายจา้ งและลกู จา้ งตกลงกนั ลายมือช่ือในการใหค้ วามยินยอมหรอื มีขอ้ ตกลงกนั ไวใ้ หช้ ดั เจนเป็นการ
(3) ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวนั หยดุ และค่าล่วงเวลาในวนั หยดุ ใหจ้ ่าย เฉพาะ
เดือนหนง่ึ ไมน่ อ้ ยกวา่ หน่งึ ครง้ั ในกรณีท่ีนายจา้ งเลกิ จา้ งลกู จา้ ง ให้
นายจา้ งจ่ายค่าจา้ ง คา่ ลว่ งเวลา คา่ ทางานในวนั หยดุ และ ค่าลว่ งเวลา
ในวนั หยดุ ตามท่ีลกู จา้ งมีสทิ ธิไดร้ บั ใหแ้ ก่ลกู จา้ งภายในสามวนั นบั แต่
วนั ท่ีเลกิ จา้ ง
มำตรำ 76 หา้ มมิใหน้ ายจา้ งหกั คา่ จา้ ง คา่ ลว่ งเวลา ค่าทางานในวนั หยดุ
และค่าล่วงเวลาในวนั หยดุ เวน้ แตเ่ ป็นการหกั เพ่อื
(1) ชาระภาษีเงนิ ไดต้ ามจานวนท่ีลกู จา้ งตอ้ งจ่ายหรอื ชาระเงนิ อ่ืนตามท่ี
มีกฎหมายบญั ญตั ไิ ว้
(2) ชาระค่าบารุงสหภาพแรงงานตามขอ้ บงั คบั ของสหภาพแรงงาน
(3) ชาระหนีส้ นิ สหกรณอ์ อมทรพั ย์ หรอื สหกรณอ์ ่ืนท่ีมีลกั ษณะเดียวกนั
กบั สหกรณอ์ อมทรพั ยห์ รอื หนีท้ ่ีเป็นไปเพ่อื สวสั ดิการท่ีเป็นประโยชนแ์ ก่
ลกู จา้ งฝ่ายเดียวโดยไดร้ บั ความยนิ ยอมล่วงหนา้ จากลกู จา้ ง
(4) เป็นเงินประกนั ตามมาตรา 10 หรอื ชดใชค้ า่ เสียหายใหแ้ ก่นายจา้ งซง่ึ
ลกู จา้ งไดก้ ระทาโดยจงใจหรอื ประมาทเลนิ เล่ออยา่ งรา้ ยแรง โดยไดร้ บั
ความยินยอมจากลกู จา้ ง
สวสั ดิการของลกู จา้ ง เขม็ กลัด ถ้วยนำ้ นำ้ ยำโพวโิ ดน-
ไอโอดนี ชนิดฟอก
สวัสดกิ ำรของลูกจ้ำง ปากคบี ปลายทู่ แกว้ ยานา้ แผล
สวสั ดิการของลกู จา้ ง คือ การดาเนนิ การโดยนายจา้ งท่ีม่งุ ให้ ทงิ เจอรไ์ อโอดีน หรือโพวิ
ผา้ พนั ยืด แกว้ ยาเมด็ โดน-ไอโอดีน
ลกู จา้ งมีอปุ กรณป์ อ้ งกนั ความปลอดภยั ในการทางาน มีสภาพการ ยารกั ษาแผลนา้ รอ้ นลวก
ผา้ สามเหล่ียม หลอดหยดยา
ทางานท่ีเหมาะสม และมีสขุ ภาพอนามยั ท่ีดี เหลา้ แอมโมเนียหอม
กำรจดั สวัสดกิ ำรในสถำนทที่ ำงำน สายยางรดั หา้ มเลือด ท่ีปา้ ยยา
1. ใหน้ ายจา้ งจดั ใหม้ ีนา้ ด่ืมท่ีสะอาดไม่นอ้ ยกว่า 1 ท่ี สาหรบั แอลกอฮอลเ์ ช็ดแผล
กรรไกร ปรอทวดั ไข้
ลกู จา้ งไม่เกิน 40 คน และเพ่มิ ขนึ้ 1 ท่ี ทกุ ๆ 40 คน หอ้ งนา้ และหอ้ งสว้ ม ยาทาแกผ้ ดผ่ืนคนั
แยกสาหรบั ลกู จา้ งชาย ลกู จา้ งหญิง และคนพกิ าร ตามท่ีกฎหมาย สาลี ขีผ้ งึ้ แกป้ วดบวม
กาหนด และมีการดแู ลรกั ษาถกู สขุ ลกั ษณะทกุ วนั นา้ กรดบอรกิ ลา้ งตา
ผา้ ก๊อซ ขีผ้ งึ้ ปา้ ยตา
2. กรณีลกู จา้ ง 10 คนขนึ้ ไป นายจา้ งตอ้ งจดั ใหม้ ีเวชภณั ฑแ์ ละ ผงนา้ ตาลเกลือแร่
ยาเพ่อื ใชใ้ นการปฐมพยาบาลในจานวนท่ีเพยี งพอ อยา่ งนอ้ ยตาม
รายการดงั ต่อไปนี้ ยาแกผ้ ดผ่ืนท่ีไมไ่ ดม้ า
จากการตดิ เชือ้
ผา้ พนั แผล ยาหยอดตา ยาบรรเทาปวดลดไข้
ปลาสเตอรป์ ิดแผล ยาลดกรด ยาธาตนุ า้ แดง
ถว้ ยลา้ งตา ยาแกแ้ พ้
3. กรณีลกู จา้ งจานวนมาก ใหน้ ายจา้ งจดั สวสั ดกิ ารเพ่ิมขนึ้ ตามรายการดงั ตอ่ ไปนี้
ยานพาหนะนาสง่ ลกู จา้ งยงั สถานพยาบาล ได้ - มี
โดยพลนั
สวสั ดกิ าร มีตำมตำรำง ไม่ต้องเตมิ
เวชภณั ฑแ์ ละยาตาม ขอ้ 2 กำหนด ช่องว่ำง 4.ใหน้ ายจา้ งจดั เครอ่ื งปอ้ งกนั อนั ตรายสาหรบั งานอนั อาจเป็น
อนั ตรายต่อสขุ ภาพหรอื รา่ งกายของลกู จา้ ง เช่น หนา้ กากแว่นตา ครอบหลู ด
มี - เสียง ถงุ มือ รองเทา้ หนงั หวั โลหะ
-
หอ้ ง 1 เตียง 5.ใหน้ ายจา้ งจดั แพทยแ์ ผนปัจจบุ นั ชนั้ 1 ตรวจรา่ งกายลกู จา้ งไม่
รกั ษาพยาบาล เวชภณั ฑ์ - นอ้ ยกว่าปีละ 1 ครง้ั
จาเป็น พรอ้ มเตียงพกั คนไข้ 1 คน -
6.ใหน้ ายจา้ งจดั สภาพการทางาน ใหม้ ีการระบาย
พยาบาลเทคนิคขนึ้ ไปประจา อากาศ นา้ และส่ิงโสโครก แสงสวา่ ง ทางออกฉกุ เฉิน และทางหนีไฟ
มีลกู จา้ งทางานใน 200 คนขนึ้ ไป
ขณะเดียวกนั 1,000 คนขนึ้ ไป
แพทย์ (หรอื นาสง่ ลกู จา้ งยงั 1 คน เพ่อื ตรวจ -
สถานพยาบาลท่ีเปิด24 รกั ษาไม่นอ้ ย
ช่วั โมงไดโ้ ดยพลนั แทนการ กว่า 2 ครง้ั ต่อ
จดั ใหม้ ีแพทย์ โดยไดร้ บั สปั ดาหแ์ ละไม่
อนญุ าตจากอธิบดี) นอ้ ยกว่า 6
ช่วั โมงในเวลา
ทางานตอ่ สปั ดาห์
กองทุนสงเครำะหล์ ูกจ้ำง กำรดำเนินงำนของกองทุนสงเครำะหล์ ูกจ้ำง
พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 กาหนดใหม้ ีกองทนุ สงเคราะห์ ไดร้ บั เงินอดุ หนนุ จากรฐั บาลในงบประมาณปี 2543 และ 2545 รวม
ลกู จา้ งในกรมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงาน เพ่อื สงเคราะหล์ กู จา้ ง กรณีออก 250 ลา้ นบาท เงินค่าปรบั จากการลงโทษผกู้ ระทาความผดิ ตาม
จากงาน หรอื ตาย หรอื ในกรณีอ่ืนท่ีกาหนดโดยคณะกรรมการกองทนุ สงเคราะห์ พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ ท่ีมีผบู้ รจิ าค
ลกู จา้ ง ให้ เงินดอกผลของกองทนุ
กำรบริหำรกองทนุ กองทนุ สงเคราะหล์ กู จา้ งมีหลกั เกณฑก์ ารจ่ายเงินสงเคราะหต์ ามระเบียบท่ี
กาหนด โดยคณะกรรมการกองทนุ สงเคราะหล์ กู จา้ งซง่ึ เป็นไตรภาคี และ
กองทนุ สงเคราะหล์ กู จา้ งบรหิ ารงานโดยคณะกรรมการกองทนุ สงเคราะห์ เม่ือจา่ ยเงินใหแ้ ก่ลกู จา้ งแลว้ กองทนุ มีสิทธิ์เรยี กใหน้ ายจา้ งชดใชเ้ งนิ ท่ี
ลกู จา้ ง ซง่ึ เป็นไตรภาคี จานวน 15 คน ประกอบดว้ ยตวั แทนฝ่ายนายจา้ ง ฝ่าย กองทนุ ไดจ้ า่ ยไปพรอ้ มดอกเบีย้ ในอตั รารอ้ ยละ 15 ตอ่ ปี โดยมีการจ่ายเงนิ
ลกู จา้ ง และฝ่ายรฐั บาล ฝ่ายละ 5 คน โดยมี ปลดั กระทรวงแรงงานเป็นประธาน สงเคราะหช์ ว่ ยเหลือไปแลว้ ตงั้ แต่เดือนมกราคม 2543 ถึงพฤษภาคม 2550
กรรมการ ผแู้ ทนกระทรวงการคลงั ผแู้ ทนสานกั งานคณะกรรมการ พฒั นาการ จานวน 23,937 คน เป็นเงิน 131,570,265.15 บาท
เศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ผแู้ ทนธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการ
อธิบดีกรมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงาน เป็นกรรมการและเลขานกุ าร กำรบริหำรกองทุน
คณะกรรมการกองทนุ ฯ มีอานาจหนา้ ท่ีกาหนดนโยบายในการบรหิ ารและการ
จ่ายเงินกองทนุ สงเคราะหล์ กู จา้ ง รวมทงั้ กาหนดระเบียบต่าง ๆ ในการ เงินสงเคราะหข์ องกองทนุ สงเคราะหล์ กู จา้ งจะจ่ายใหก้ บั ลกู จา้ งซง่ึ
ดาเนินงาน โดยมีกล่มุ งานกองทนุ สงเคราะหล์ กู จา้ งทาหนา้ ท่ีฝ่ายเลขานกุ าร ไดร้ บั ความเดือดรอ้ น เน่ืองจากนายจา้ งไม่จา่ ยค่าชดเชย หรอื นายจา้ งไม่
คณะกรรมการดาเนินงานต่าง ๆ เก่ียวกบั การบรหิ ารงานกองทนุ สามารถจา่ ยคา่ จา้ ง หรอื เงนิ อ่ืนตามพระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ.
2541 แตไ่ ม่รวมถงึ ทายาทโดยธรรมของลกู จา้ งซง่ึ ถงึ แก่ความตายท่ีไดย้ ่ืนคา
รอ้ งทกุ ขไ์ ว้
เมอื่ ใดลูกจำ้ งมสี ทิ ธิยน่ื ขอรับเงนิ สงเครำะห์ 1.เงนิ สงเคราะหใ์ นกรณีท่ีนายจา้ งไมจ่ ่ายคา่ ชดเชยใหต้ ามกฎหมาย โดยจะ
จ่ายเงนิ สงเคราะหใ์ หบ้ างส่วน หรอื ไมเ่ ตม็ สิทธิตามท่ีกฎหมายกาหนด คือ
•เม่ือลกู จา้ งถกู เลกิ จา้ งและนายจา้ งไม่จ่ายค่าชดเชย ลกู จา้ งย่ืนคา จา่ ยให้ ลกู จา้ งผขู้ อรบั เงนิ สงเคราะหใ์ นอตั ราดงั ต่อไปนี้
ขอรบั เงนิ สงเคราะหไ์ ด้ เม่ือพนกั งานตรวจแรงงานไดม้ ีคาส่งั ใหน้ ายจา้ งจ่าย
ค่าชดเชยและ นายจา้ ง มิไดจ้ ่ายเงนิ ตามคาส่งั ภายในกาหนด ซง่ึ นายจา้ งมิได้ 1.1 สามสบิ เท่าของอตั ราคา่ จา้ งขน้ั ต่ารายวนั ท่ีลกู จา้ งพงึ ไดร้ บั ตาม
นาคดีไปสศู่ าล (พน้ ระยะ 30 วนั นบั แตว่ นั ทราบคาส่งั ) พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 สาหรบั ลกู จา้ งซง่ึ ทางาน
ติดตอ่ กนั ครบ หนง่ึ รอ้ ยย่ีสิบวนั แต่ไมค่ รบหกปี
•เม่ือนายจา้ งคา้ งจา่ ยค่าจา้ งหรอื เงินอ่ืนตามท่ีกาหนดไวใ้ น
พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ลกู จา้ งย่ืนคาขอรบั เงินสงเคราะห์ 1.2 หกสบิ เท่าของอตั ราค่าจา้ งขนั้ ต่ารายวนั ท่ีลกู จา้ งพงึ ไดร้ บั ตาม
ไดเ้ ม่ือพนกั งาน ตรวจแรงงาน ไดม้ ีคาส่งั ใหน้ ายจา้ งจ่ายเงินและนายจา้ งมิได้ พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 สาหรบั ลกู จา้ งซง่ึ ทางาน
จ่ายเงินตามคาส่งั ภายในกาหนด ตดิ ตอ่ กนั ครบ หกปีขนึ้ ไป
•การย่ืนขอรบั เงินกองทนุ ฯ ตอ้ งย่ืนคาขอภายในหนง่ึ ปี นบั แต่วนั ท่ี 2.เงินสงเคราะหใ์ นกรณีอ่ืนนอกจากคา่ ชดเชย เช่น คา่ จา้ งคา้ งจา่ ย
พนกั งานตรวจแรงงานไดม้ ีคาส่งั ใหน้ ายจา้ งจา่ ยเงนิ ฯลฯ จะใหก้ ารสงเคราะหเ์ ม่ือไดร้ บั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการกองทุน
สงเคราะห์ ลกู จา้ ง สาหรบั อตั ราเงินท่ีจะจ่ายใหแ้ ก่ลกู จา้ ง จะจา่ ยในอตั ราไม่
หลักเกณฑก์ ำรจ่ำยเงนิ สงเครำะห์ เกินหกสิบเทา่ ของอตั ราคา่ จา้ งขน้ั ต่ารายวนั ของลกู จา้ งท่ีพึงไดร้ บั ตาม
พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครอง แรงงาน พ.ศ. 2541
กองทนุ สงเคราะหล์ กู จา้ งจะจ่ายเงนิ สงเคราะห์ 2 กรณี
กำรพกั งำน คำ่ ชดเชย และค่ำชดเชยพเิ ศษ
กำรพกั งำนมี 2 กรณี คือ การพกั งานระหวา่ งสอบสวน กบั การ ค่าชดเชย คือ เงนิ ท่ีนายจา้ งจา่ ยใหแ้ ก่ลกู จา้ งเม่ือเลกิ จา้ ง นอกเหนือจากเงิน
ลงโทษโดยการพกั งาน ประเภทอ่ืนซง่ึ นายจา้ งตกลงจ่ายใหแ้ ก่ลกู จา้ ง
การพกั งานในระหว่างสอบสวนความผิดลกู จา้ งมีกาหนดไวใ้ น คา่ ชดเชยพเิ ศษ คือ เงินท่ีนายจา้ งจา่ ยใหแ้ ก่ลกู จา้ งเม่ือสญั ญาจา้ งสนิ้ สดุ ลง
พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ.2541 ในมาตรา 116 และ เพราะมีเหตกุ รณีพเิ ศษท่ีกาหนดในกฏหมายคมุ้ ครองแรงงาน
มาตรา 117 โดยมีหลกั เกณฑด์ งั นี้ หากนายจา้ งเลิกจา้ งโดยลกู จา้ งไมม่ ีความผิด ลกู จา้ งมีสทิ ธิ์ไดร้ บั ค่าชดเชย
ดงั นี้
- ลกู จา้ งนน้ั ไดถ้ กู กล่าวหาวา่ กระทาความผิด (วนิ ยั ในการทางานตาม
ขอ้ บงั คบั เกยี่ วกบั การทางาน) 1. ทางานตดิ ตอ่ กนั ครบ 120 วนั แตไ่ มค่ รบ 1 ปี ไดร้ บั คา่ ชดเชยเท่ากบั ค่าจา้ ง
- นายจา้ งประสงคท์ าการสอบสวนลกู จา้ งและประสงคพ์ กั งานลกู จา้ งนน้ั อตั ราสดุ ทา้ ย 30 วนั
- มีขอ้ บงั คบั เก่ียวกบั การทางานหรอื ขอ้ ตกลงเก่ียวกบั สภาพการจา้ งระบุ 2. ทางานตดิ ตอ่ กนั ครบ 1 ปี แตไ่ มค่ รบ 3 ปี ไดร้ บั ค่าชดเชยเท่ากบั ค่าจา้ ง
วา่ นายจา้ งมีอานาจส่งั พกั งานลกู จา้ งได้ อตั ราสดุ ทา้ ย 90 วนั
- นายจา้ งไดม้ ีคาส่งั พกั งานเป็นหนงั สือระบคุ วามผิดและกาหนด 3. ทางานตดิ ต่อกนั ครบ 3 ปี แตไ่ ม่ครบ 6 ปี ไดร้ บั ค่าชดเชยเท่ากบั ค่าจา้ ง
ระยะเวลาพกั งานซง่ึ ตอ้ งไม่เกิน 7 วนั และ อตั ราสดุ ทา้ ย 180 วนั
- นายจา้ งไดแ้ จง้ ใหล้ กู จา้ งทราบก่อนการพกั งานนน้ั แลว้ 4. ทางานติดตอ่ กนั ครบ 6 ปี แตไ่ ม่ครบ 10 ปี ไดร้ บั คา่ ชดเชยเท่ากบั คา่ จา้ ง
- นายจา้ งตอ้ งจ่ายคา่ จา้ งใหแ้ ก่ลกู จา้ งในระหว่างพกั งานไม่นอ้ ยกว่า อตั ราสดุ ทา้ ย 240 วนั
50% ของค่าจา้ งปกติ 5. ทางานตดิ ต่อกนั ครบ 10 ปีขนึ้ ไป ไดร้ บั คา่ ชดเชยเท่ากบั คา่ จา้ งอตั ราสดุ ทา้ ย
ส่วนการลงโทษลกู จา้ งดว้ ยการพกั งานนนั้ ไม่ตอ้ งจา่ ยค่าจา้ ง แต่ก็ตอ้ งมี 300 วนั
หลกั เกณฑเ์ ช่นเดียวกนั กบั หลกั เกณฑก์ ารพกั งานในระหว่างสอบสวน คือ
ตอ้ งมีขอ้ บงั คบั กาหนดโทษพกั งานไวด้ ว้ ย , ตอ้ งกาหนดระยะเวลาการพกั งาน
และ ตอ้ งแจง้ ใหล้ กู จา้ งทราบล่วงหนา้ ก่อนการลงโทษ
หหลลักักฐฐำำนนททตี่ต่ี ้อ้องงใใชช้ใ้ในนกกำำรรยยนื่นื่ ขขออรรับับเเงงนินิ สสงงเเคครรำำะะหห์์ กำรรับเงนิ สงเครำะห์
บตั รประจาตวั ประชาชน หรอื หลกั ฐานอ่ืนท่ีทางราชการออกใหซ้ ง่ึ แสดง ลกู จา้ งมารบั เงนิ ดว้ ยตนเองภายใน 60 วนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ บั หนงั สือแจง้
ไดว้ ่าระบถุ งึ ตวั ผนู้ น้ั พรอ้ มสาเนา ผลการพจิ ารณาคาขอรบั เงินสงเคราะหพ์ รอ้ มนาบตั รประจาตวั ประชาชนไป
แสดงดว้ ย หากไม่สามารถมารบั เงนิ ดว้ ยตนเองได้ สามารถทาหนงั สือมอบ
สถำนทยี่ น่ื ขอรับเงนิ สงเครำะห์ อานาจใหบ้ คุ คลอ่ืนมารบั เงนิ แทนได้ ผรู้ บั มอบอานาจตอ้ งนาบตั รประจาตวั
ประชาชนของผมู้ อบอานาจ และตนไปแสดงต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีเพ่ือขอรบั
ย่ืนคาขอรบั เงินสงเคราะหต์ ามแบบท่ีอธิบดีกาหนด (แบบ สกล.1) ต่อ เงนิ หากไม่มารบั เงินภายใน 60 วนั นบั แตว่ นั ท่ีไดร้ บั หนงั สือ หรอื ลกู จา้ งถงึ แก่
พนกั งานตรวจแรงงานแห่งทอ้ งท่ีท่ีมีคาส่งั ใหน้ ายจา้ งจ่ายเงิน ความตาย สิทธิในการขอรบั เงนิ สงเคราะหเ์ ป็นอนั ระงบั สิน้ ไป หากลูกจา้ งผู้
ถกู ระงบั สิทธิ์ไปแลว้ มีความประสงคจ์ ะรบั เงินกองทนุ ฯ อีกตอ้ งย่ืนเรอ่ื งขอรบั
•ส่วนกลาง ย่ืนไดท้ ่ีกล่มุ งานสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงานพืน้ ท่ี ทกุ พนื้ ท่ี
•ส่วนภมู ิภาค ยืนไดท้ ่ีสานกั งานสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงานจงั หวดั ทกุ เงินสงเคราะหใ์ หม่
จงั หวดั
“พนกั งานตรวจแรงงาน” หมายความวา่ ผซู้ ง่ึ รฐั มนตรแี ตง่ ตงั้ ใหป้ ฏบิ ตั กิ ารตาม ในกรณีท่ีมีคารอ้ งหรอื ความปรากฏแก่พนกั งานตรวจแรงงาน ว่านายจา้ งฝ่าฝีน
พระราชบญั ญตั ิ คมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และท่ีแกไ้ ขเพม่ิ เติม หรอื ไมป่ ฏิบตั ิตามกฎหมาย ใหพ้ นกั งานตรวจแรงงานนนั้ ดาเนนิ การสอบสวน
ขอ้ เทจ็ จรงิ โดยดว่ น หากพบว่านายจา้ งฝ่าฝืนหรอื ไมป่ ฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ใหม้ ี
“สถานประกอบกิจการ” หมายความวา่ หนว่ ยงานแตล่ ะแหง่ ของนายจา้ งท่ีมี คาส่งั เป็นหนงั สือใหน้ ายจา้ งปฏิบตั ิใหถ้ กู ตอ้ งตามกฎหมายและติดตามผลตาม
ลกู จา้ งทางาน อยใู่ นหนว่ ยงานและหมายความรวมถงึ สานกั งานของนายจา้ งและ คาส่งั นน้ั ตอ่ ไป
สถานท่ีทางานของลกู จา้ ง
กรณีพนกั งานตรวจแรงงานดาเนินการตรวจแรงงานตามขา้ งตน้ แลว้ ปรากฏ
“การตรวจสถานประกอบกิจการ” หมายความว่า การท่ีพนกั งานตรวจแรงงานเขา้ ขอ้ เท็จจรงิ ว่ามีการฝ่าฝืนหรอื ไมป่ ฏบิ ตั ิตามพระราชบญั ญตั ิคุม้ ครองแรงงาน พ.ศ.
ไปในสถานประกอบกิจการ เพ่อื ตรวจสภาพการทางานของลกู จา้ งและสภาพการ 2541 ในกรณีดงั ต่อไปนี้ ใหด้ าเนนิ คดีทางพนกั งานสอบสวนโดยเรว็ โดยไม่ตอ้ งมี
จา้ ง สอบถามขอ้ เทจ็ จรงิ ถ่ายภาพ ถ่ายสาเนาเอกสารท่ีเก่ียวกบั การจา้ ง การจา่ ย คาส่งั ใหน้ ายจา้ งปฏิบตั ิ
ค่าจา้ ง ค่าล่วงเวลา คา่ ทางานในวนั หยดุ คา่ ลว่ งเวลาในวนั หยดุ และทะเบียน ความผิดท่ีมีพฤตกิ ารณพ์ เิ ศษ หรอื เกิดผลกระทบกบั ลกู จา้ งจานวนมาก
ลกู จา้ ง เก็บตวั อยา่ ง วสั ดหุ รอื ผลติ ภณั ฑเ์ พ่อื วิเคราะหเ์ ก่ียวกับความปลอดภยั ใน ความผดิ เก่ียวกบั การใชแ้ รงงานเดก็ โดยมีการทารุณ หน่วงเหน่ียว กกั ขงั การ
การทางาน และกระทาการอยา่ งอ่ืนเพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ เท็จจรงิ ในอนั ท่ีจะปฏิบตั ิการให้ บงั คบั ใชแ้ รงงานตามกฎหมายว่าดว้ ยการปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์
เป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และท่ีแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ หรอื มีการกระทาความผิดอาญาฐานอ่ืนรวมอยดู่ ว้ ย
ความผดิ ตามมาตรา 16 มาตรา 44 มาตรา 49 และ มาตรา 50 แหง่
พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541
ความผดิ ตามมาตรา 139 (2) แห่งพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541
ความผิดตามมาตรา 150 หรอื มาตรา 151 วรรคหนง่ึ แห1งพระราชบญั ญตั ิ
คมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เฉพาะความผดิ ท่ีกระทาต่อพนกั งานตรวจแรงงาน
ความผิดตามมาตรา 37 มาตรา 38 มาตรา 39 มาตรา 39/1 วรรคหน่งึ มาตรา 42
มาตรา 47 หรอื มาตรา 48 แหง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซง่ึ
เป็นสาเหตโุ ดยตรงท่ีทาใหล้ กู จา้ งไดร้ บั อนั ตรายสาหสั หรอื ถึงแก่ความตาย
การดาเนนิ คดี ใหเ้ ป็นไปตามระเบียบกรมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงานว่าดว้ ย
บทกาหนดโทษ มำตรำ ๔๘๔ ผใู้ ดโฆษณาโดยใชข้ อ้ ความตามมาตรา ๒๒ วรรคสอง (๓) หรอื
(๔) หรอื ขอ้ ความตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวงท่ีออกตามมาตรา ๒๒ วรรค
หมวด ๔ สอง (๕) หรอื ฝ่าฝืนหรอื ไม่ปฏบิ ตั ิตามมาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕
บทกำหนดโทษ หรอื มาตรา ๒๖ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสามเดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กินหกหม่ืน
------------------------- บาท หรอื ทง้ั จาทงั้ ปรบั
มำตรำ ๔๕๑ ผใู้ ดขดั ขวางหรอื ไมอ่ านวยความสะดวก ไม่ให้
ถอ้ ยคา หรอื ไมส่ ่งเอกสารหรอื หลกั ฐานแก่พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีซง่ึ ปฏบิ ตั กิ าร มำตรำ ๔๙๕ ผใู้ ดฝ่าฝืนหรอื ไมป่ ฏบิ ตั ิตามคาส่งั ของคณะกรรมการ
ตามมาตรา ๕ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ เดือน หรอื ปรบั ไม่เกินสอง วา่ ดว้ ยการโฆษณาซง่ึ ส่งั ตามมาตรา ๒๗ หรอื มาตรา ๒๘ ตอ้ งระวางโทษ
หม่ืนบาท หรอื ทงั้ จาทงั้ ปรบั จาคกุ ไมเ่ กินหกเดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กินหนง่ึ แสนบาท หรอื ทงั้ จาทงั้ ปรบั
มำตรำ ๔๖๒ ผใู้ ดไม่ปฏิบตั ติ ามคาส่งั ของคณะกรรมการหรอื
คณะกรรมการเฉพาะเร่อื งตามมาตรา ๑๗ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหน่งึ มำตรำ ๕๐ ถา้ การกระทาตามมาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ หรอื มาตรา
เดือน หรอื ปรบั ไม่เกินสองหม่ืนบาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั ๔๙ เป็นการกระทาของเจา้ ของส่ือโฆษณา หรอื ผปู้ ระกอบกิจการโฆษณา
มำตรำ ๔๗๓ ผใู้ ดโดยเจตนาก่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจผดิ ใน ผกู้ ระทาตอ้ งระวางโทษเพียงก่ึงหน่งึ ของโทษท่ีบญั ญตั ิไวส้ าหรบั ความผดิ นนั้
แหลง่ กาเนิด สภาพ คณุ ภาพ ปรมิ าณ หรอื สาระสาคญั ประการอ่ืนอนั
เก่ียวกบั สนิ คา้ หรอื บรกิ าร ไม่วา่ จะเป็นของตนเองหรอื ผอู้ ่ืน โฆษณาหรอื ใช้ มำตรำ ๕๑๖ ถา้ การกระทาความผดิ ตามมาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘
ฉลากท่ีมีขอ้ ความอนั เป็นเท็จหรอื ขอ้ ความท่ีรูห้ รอื ควรรูอ้ ย่แู ลว้ ว่าอาจ มาตรา ๔๙ หรอื มาตรา ๕๐ เป็นความผิดตอ่ เน่ือง ผกู้ ระทาตอ้ งระวางโทษปรบั
ก่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจผดิ เช่นว่านนั้ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหกเดือน วนั ละไม่เกินหน่งึ หม่ืนบาทหรือไม่เกินสองเทา่ ของค่าใชจ้ ่ายท่ีใชส้ าหรบั การ
หรอื ปรบั ไม่เกินหน่งึ แสนบาท หรอื ทงั้ จาทงั้ ปรบั โฆษณานนั้ ตลอดระยะเวลาท่ียงั ฝ่าฝืนหรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ าม
ถา้ ผกู้ ระทาความผดิ ตามวรรคหน่งึ กระทาผิดซา้ อีก ผูก้ ระทาตอ้ ง
ระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ ปี หรอื ปรบั ไม่เกินสองแสนบาท หรอื ทง้ั จาทง้ั มำตรำ ๕๒๗ ผใู้ ดขายสนิ คา้ ท่ีควบคมุ ฉลากตามมาตรา ๓๐ โดยไม่
ปรบั มีฉลากหรอื มีฉลากแต่ฉลากหรอื การแสดงฉลากนนั้ ไมถ่ กู ตอ้ ง หรอื ขายสนิ คา้ ท่ี
มีฉลากท่ีคณะกรรมการว่าดว้ ยฉลากส่งั เลกิ ใชต้ ามมาตรา ๓๓ ทง้ั นี้ โดยรูห้ รอื
ควรรูอ้ ย่แู ลว้ ว่าการไม่มีฉลากหรอื การแสดงฉลากดงั กลา่ วนนั้ ไม่ถกู ตอ้ งตาม
กฎหมาย ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหกเดือน หรอื ปรบั ไม่เกินหน่งึ แสนบาท
หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั
ถา้ การกระทาตามวรรคหน่งึ เป็นการกระทาของผผู้ ลิตเพ่อื ขาย หรอื ผู้
ส่งั หรอื นาเขา้ มาในราชอาณาจกั รเพ่อื ขาย ผกู้ ระทาตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กิน
หนง่ึ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั
มำตรำ ๕๓๘ ผปู้ ระกอบธุรกิจผใู้ ดไม่ปฏบิ ตั ติ ามคาส่งั ของ มำตรำ ๕๖/๕๑๖ ผปู้ ระกอบธุรกิจผใู้ ดไม่ปฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๒๙/๑๐ วรรคหน่งึ
คณะกรรมการวา่ ดว้ ยฉลากซง่ึ ส่งั ตามมาตรา ๓๓ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่ หรอื มาตรา ๒๙/๑๓ วรรคหน่งึ หรอื ไมป่ ฏิบตั ิตามคาส่งั ของคณะกรรมการว่า
เกินหกเดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กินหนง่ึ แสนบาท หรอื ทง้ั จาทง้ั ปรบั ดว้ ยความปลอดภยั ตามมาตรา ๒๙/๑๐ วรรคสอง ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กิน
สามปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินหกแสนบาท หรอื ทง้ั จาทงั้ ปรบั และปรบั วนั ละไมเ่ กินสอง
มำตรำ ๕๔๙ ผใู้ ดรบั จา้ งทาฉลากท่ีไมถ่ กู ตอ้ งตามกฎหมาย หม่ืนบาทจนกว่าจะแสดงต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีว่าไดด้ าเนนิ การแลว้
หรอื รบั จา้ งติดตรงึ ฉลากท่ีไมถ่ กู ตอ้ งตามกฎหมายกบั สินคา้ โดยรูห้ รอื ควร
รูอ้ ยแู่ ลว้ วา่ ฉลากดงั กลา่ วนน้ั ไมถ่ กู ตอ้ งตามกฎหมาย ตอ้ งระวางโทษปรบั มำตรำ ๕๖/๖๑๗ ผใู้ ดกระทาความผดิ ตามมาตรา ๕๖/๒ มาตรา
ไมเ่ กินสองแสนบาท ๕๖/๓ มาตรา ๕๖/๔ หรอื มาตรา ๕๖/๕ ถา้ การกระทานนั้ เป็นเหตใุ ห้
เกิดอนั ตรายแก่กาย สขุ ภาพ อนามยั หรอื จิตใจของผอู้ ่ืน ผูน้ นั้ ตอ้ ง
มำตรำ ๕๕๑๐ ผปู้ ระกอบธุรกิจผใู้ ดไม่ปฏิบตั ติ ามกฎกระทรวง ระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินส่ีปี หรอื ปรบั ไม่เกินแปดแสนบาท หรอื ทง้ั จา
ท่ีออกตามมาตรา ๓๕ ตอ้ งระวางโทษปรบั ไมเ่ กินหนง่ึ แสนบาท ทง้ั ปรบั
มำตรำ ๕๖/๒๑๓ ผปู้ ระกอบธรุ กิจผใู้ ดไม่ปฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๒๙/ ถา้ การกระทาตามวรรคหนง่ึ เป็นเหตใุ หผ้ อู้ ่ืนรบั อนั ตราย
๔ หรอื มาตรา ๒๙/๕ วรรคหน่งึ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ ปี หรอื สาหสั ผกู้ ระทาตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหา้ ปี หรอื ปรบั ไม่เกินหน่งึ
ปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท หรอื ทง้ั จาทง้ั ปรบั ลา้ นบาท หรอื ทงั้ จาทงั้ ปรบั
มำตรำ ๕๖/๓๑๔ ผปู้ ระกอบธุรกิจผใู้ ดไม่ปฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๒๙/ ถา้ การกระทาตามวรรคหน่งึ เป็นเหตใุ หผ้ อู้ ่ืนถึงแก่ความ
๖ วรรคสอง มาตรา ๒๙/๗ วรรคหนง่ึ มาตรา ๒๙/๑๐ วรรคส่ี มาตรา ตาย ผกู้ ระทาตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตห่ นง่ึ ปีถึงสิบปี หรอื ปรบั ตงั้
๒๙/๑๑ วรรคหน่งึ หรอื วรรคหก มาตรา ๒๙/๑๓ วรรคสอง หรอื ไม่ปฏบิ ตั ิ แตส่ องแสนบาทถึงสองลา้ นบาท หรอื ทงั้ จาทงั้ ปรบั
ตามคาส่งั ของคณะกรรมการว่าดว้ ยความปลอดภยั ตามมาตรา ๒๙/๘
วรรคหน่งึ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ ปี หรอื ปรบั ไม่เกินสองแสน
บาท หรอื ทง้ั จาทง้ั ปรบั
มำตรำ ๕๖/๔๑๕ ผปู้ ระกอบธุรกิจผใู้ ดไมป่ ฏบิ ตั ิตามคาส่งั ของ
คณะกรรมการว่าดว้ ยความปลอดภยั ตามมาตรา ๒๙/๘ วรรคสอง หรอื
มาตรา ๒๙/๙ วรรคสอง ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสามปี หรอื ปรบั ไม่
เกินหกแสนบาท หรอื ทง้ั จาทงั้ ปรบั
มำตรำ ๕๗๑๘ ผปู้ ระกอบธรุ กิจผใู้ ดไม่ส่งมอบสญั ญาท่ี มำตรำ ๕๙๒๐ ในกรณีท่ีผกู้ ระทาความผดิ เป็นนิติบคุ คล ถา้ การกระทา
มีขอ้ สญั ญาหรอื มีขอ้ สญั ญาและแบบถกู ตอ้ งตามมาตรา ๓๕ ทวิ
หรอื ไมส่ ง่ มอบหลกั ฐานการรบั เงนิ ท่ีมีรายการและขอ้ ความถกู ตอ้ งตาม ความผดิ ของนติ บิ คุ คลนน้ั เกิดจากการส่งั การหรอื การกระทาของกรรมการ หรอื
มาตรา ๓๕ เบญจ ใหแ้ ก่ผบู้ รโิ ภคภายในระยะเวลาตามมาตรา ๓๕ ผจู้ ดั การ หรอื บคุ คลใดซง่ึ รบั ผิดชอบในการดาเนนิ งานของนิติบคุ คลนน้ั หรอื ใน
อฏั ฐ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท กรณีท่ีบคุ คลดงั กล่าวมีหนา้ ท่ีตอ้ งส่งั การหรอื กระทาการและละเวน้ ไม่ส่งั การ
หรอื ทง้ั จาทง้ั ปรบั หรอื ไมก่ ระทาการจนเป็นเหตใุ หน้ ติ บิ คุ คลนนั้ กระทาความผิด ผนู้ น้ั ตอ้ งรบั โทษ
ตามท่ีบญั ญตั ิไวส้ าหรบั ความผดิ นนั้ ๆ ดว้ ย
ผปู้ ระกอบธรุ กิจผใู้ ดสง่ มอบหลกั ฐานการรบั เงนิ โดยลง
จานวนเงินมากกว่าท่ีผบู้ รโิ ภคจะตอ้ งชาระและไดร้ บั เงนิ จานวนนนั้ ไป มำตรำ ๖๐๒๑ ผใู้ ดโดยเจตนาทจุ รติ ใช้ จา้ ง วาน ยยุ ง หรือ
จากผบู้ รโิ ภคแลว้ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ เดือน หรอื ปรบั ตงั้ แต่
หนง่ึ พนั บาทถงึ สองหม่ืนบาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั เวน้ แต่จะพสิ จู นไ์ ดว้ า่ ดาเนินการใหส้ มาคมหรอื มลู นธิ ิท่ีคณะกรรมการรบั รองตามมาตรา ๔๐
ตนไดใ้ ชค้ วามระมดั ระวงั ตามสมควรในการประกอบธุรกิจเช่นนนั้ แลว้ ฟอ้ งรอ้ งผปู้ ระกอบธรุ กิจคนใดเป็นคดีแพง่ หรอื คดีอาญาต่อศาล เพ่อื
กล่นั แกลง้ ผปู้ ระกอบธุรกิจนน้ั ใหไ้ ดร้ บั ความเสียหาย ตอ้ งระวางโทษ
มำตรำ ๕๗ ทวิ๑๙ ผปู้ ระกอบธรุ กิจผใู้ ดฝ่าฝืนหรือไม่ จาคกุ ไม่เกินสามปี หรอื ปรบั ไม่เกินหกแสนบาท หรอื ทง้ั จาทงั้ ปรบั
ปฏิบตั ติ ามมาตรา ๓๕ สตั ต ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหน่งึ ปี หรอื
ปรบั ไม่เกินสองแสนบาท หรอื ทง้ั จาทงั้ ปรบั มำตรำ ๖๑๒๒ ผใู้ ดเปิดเผยขอ้ เทจ็ จรงิ ใดเก่ียวกบั กิจการของ
ผปู้ ระกอบธุรกิจอนั เป็นขอ้ เท็จจรงิ ท่ีตามปกตวิ สิ ยั ของผปู้ ระกอบธุรกิจ
มำตรำ ๕๘ ผใู้ ดกระทาความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ินี้ จะพงึ สงวนไวไ้ ม่เปิดเผย ซง่ึ ตนไดม้ าหรอื ลว่ งรูเ้ น่ืองจากการปฏบิ ตั กิ าร
ภายในสถานท่ีประกอบธุรกิจของผปู้ ระกอบธุรกิจและการกระทานน้ั เป็นไป ตามพระราชบญั ญตั ินี้ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ ปี หรอื ปรบั ไม่
เพ่อื ประโยชนข์ องผปู้ ระกอบธุรกิจ ใหส้ นั นษิ ฐานว่าผปู้ ระกอบธุรกิจเป็น เกินสองแสนบาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั เวน้ แตเ่ ป็นการเปิดเผยในการ
ผกู้ ระทาผดิ รว่ มดว้ ย เวน้ แต่จะพสิ จู นไ์ ดว้ า่ ตนไมส่ ามารถคาดหมายไดว้ ่า ปฏิบตั ิราชการหรอื เพ่อื ประโยชนใ์ นการสอบสวน หรอื การพจิ ารณาคดี
บคุ คลนน้ั จะกระทาความผิดแมจ้ ะใชค้ วามระมดั ระวงั ตามสมควรแลว้
ผใู้ ดไดม้ าหรอื ลว่ งรูข้ อ้ เทจ็ จรงิ ใดจากบคุ คลตามวรรคหน่งึ
เน่ืองในการปฏิบตั ิราชการ หรอื การสอบสวนหรอื การพจิ ารณาคดี แลว้
เปิดเผยขอ้ เทจ็ จรงิ นน้ั ในประการท่ีน่าจะเสียหายแก่ผหู้ น่ึงผใู้ ด ตอ้ ง
ระวางโทษเชน่ เดียวกนั
มำตรำ ๖๒๒๓ บรรดาความผิดตามพระราชบญั ญตั นิ ีท้ ่ีมี เม่ือผกู้ ระทาความผิดไดช้ าระเงนิ คา่ ปรบั ตามจานวนท่ีเปรยี บเทียบ
โทษปรบั สถานเดียว หรอื เป็นความผดิ ท่ีมีโทษปรบั หรอื มีโทษจาคกุ ไม่ ภายในระยะเวลาท่ีผมู้ ีอานาจเปรยี บเทียบกาหนดซง่ึ ไม่เกินสามสบิ วนั
เกินหนง่ึ ปี ใหค้ ณะกรรมการมีอานาจเปรยี บเทียบได้ และในการนีใ้ ห้ นบั แต่วนั ท่ีมีการเปรยี บเทียบแลว้ ใหถ้ ือว่าคดีเลิกกนั ตามบทบญั ญตั ิ
คณะกรรมการมีอานาจมอบหมายใหค้ ณะกรรมการเฉพาะเร่อื งหรอื แหง่ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา
คณะอนกุ รรมการ พนกั งานสอบสวน พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี หรอื เจา้
พนกั งานทอ้ งถ่ิน ดาเนนิ การเปรยี บเทียบได้ โดยจะกาหนดหลกั เกณฑ์ ถา้ ผกู้ ระทาความผดิ ไม่ยนิ ยอมตามท่ีเปรยี บเทียบ หรือเม่ือยนิ ยอม
ในการเปรยี บเทียบหรอื เง่ือนไขประการใด ๆ ใหแ้ ก่ผไู้ ดร้ บั มอบหมาย แลว้ ไม่ชาระเงนิ คา่ ปรบั ภายในระยะเวลาตามวรรคสาม ให้
ตามท่ีเห็นสมควรดว้ ยก็ได้ ดาเนนิ คดีต่อไป โดยใหอ้ ายคุ วามเรม่ิ นบั ตงั้ แต่วนั ครบกาหนด
ชาระค่าปรบั ตามคาส่งั ของผมู้ ีอานาจเปรยี บเทียบ
เพ่อื ประโยชนใ์ นการดาเนนิ การตามวรรคหนง่ึ ในการ
สอบสวน ถา้ พนกั งานสอบสวนพบว่าบคุ คลใดกระทาความผิดตาม มำตรำ ๖๓๒๔ คา่ ปรบั จากการเปรยี บเทียบท่ีองคก์ ร
พระราชบญั ญตั นิ ี้ และบคุ คลนนั้ ยินยอมใหเ้ ปรยี บเทียบ ใหพ้ นกั งาน ปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินไดป้ ฏิบตั ิการและดาเนินการเปรยี บเทียบ
สอบสวนส่งเรอ่ื งมายงั คณะกรรมการหรอื ผซู้ ง่ึ คณะกรรมการมอบหมาย ความผิดตามท่ีไดร้ บั มอบหมายตามมาตรา ๖๒ วรรคหนง่ึ ใหต้ ก
ใหม้ ีอานาจเปรยี บเทียบตามวรรคหน่งึ ภายในเจ็ดวนั นบั แต่วนั ท่ีผนู้ น้ั เป็นรายไดข้ ององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินนนั้
แสดงความยนิ ยอมใหเ้ ปรยี บเทียบ
นกั ศกึ ษาคิดวา่ พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ นาย ณฐั พล อ่มิ เอิบ ปวส2 TC1 เลขท่ี 7
2541 มคี วามสาคญั ต่อตนเองอยา่ งไร ควำมคดิ เหน็ ของนักศึกษำ
นาย สธุ ิมนต์ ทานสุ ทิ ธิ์ ปวส2 TC1 เลขท่ี17 เพ่อื ในการทางานท่ีมีการรบั รองและรบั ประกนั ไดว้ า่ เราจะทางานโดยมี
คา่ ตอบแทนท่ีไวใ้ จไดแ้ ละไมท่ จุ รติ ตอ่ รายไดท้ ่ีเราไดจ้ ากองคก์ รหรอื บรษิ ัท
ควำมคิดเหน็ ของนักศึกษำ ตา่ งๆท่ีเราไดไ้ ปทางานใหก้ บั เขา และทาใหผ้ วู้ า่ จา้ งเช่ือม่นั ในแรงงานหรอื
สาคญั อย่างมากกบั ลกู จา้ งและนายจา้ งในการทางาน เพราะจะมีการตกลง พนกั งานท่ีผวู้ า่ จา้ งไดใ้ หค้ ่าจา้ ง และมีความเขา้ ใจในกฎหมายเก่ียวกบั
ในการทางานในโรงงาน และ สามารถตกลงคา่ จา้ ง กบั ลกู จา้ งไดค้ รบทกุ เดือน แรงงาน
และ การลาเจ็บป่วย ก็สามารถทาได้ โดยจะไม่หกั เงนิ เดือน หรอื ว่าโดนไล่
ออก ถือเป็นผลดี กบั ลกู จา้ ง ท่ีขยนั ทางานและ สวสั ดิก์ ารดี และดีรบั การดแู ล นาย จิรชั ชยั ออ่ นชอ้ ย ปวส2 TC1เลขท่ี 3
จาก กฎหมาย และ นายจา้ ง เป็นตน้ .
ควำมคิดเหน็ ของนักศกึ ษำ
นายวฒั พงศ์ วงคอ์ า้ ย ปวส.2 TC1 เลขท่ี15 มนั สาคญั อย่างมากท่ีจะเป็นการคมุ้ ครองนายจา้ งและลกู จา้ งเพ่ือไม่ให้
- ควำมคดิ เหน็ ของนักศกึ ษำ เอาเปรยี บเพราะตา่ งฝ่ายตา่ งมีการมีงานทา พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครอง
แรงงาน เป็นผลดีทาใหล้ กู จา้ งไม่ใหเ้ ดือดรอ้ น และทาใหเ้ ขา้ ใจกฏหมาย
สาคญั อย่างมากมนั จะเป็นการคมุ้ ครองนายจา้ งและลกู จา้ งจะ เก่ียวกบั แรงงานเม่ือนายจา้ งเอาเปรยี บจะมีกฏหมายตวั นีล้ องรบั อย่ดู ว้ ย
ไม่ใหล้ กู จา้ งและนายจา้ งเอาเปียบกนั ทาใหต้ ่างฝ่ายต่างทางานได้ ทาใหไ้ มเ่ กิดปัญหาคดั แยง้ กนั ฝ่ายตา่ งฝ่าย
อยา่ งมีความสขุ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน เป็นผลดีทาให้
ลกู จา้ ง ไมเ่ ดือดรอ้ นในเร่อื งลาเจ็บป่วย สามารถลาโดยท่ีไมเ่ สียหรอื
หกั เงนิ เดือน และการโดนไล่ออก และเป็นผลดีทาใหล้ กู จา้ งขยนั
ทางานไปดว้ ยคบั