คํานํา หนังสือวิชาการสร้างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัลเล่มนี้ได้เรียบเรียงขึ้นครบถ้วนและถูกต้องตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พุทธศักราช 2563 ของสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และหลักสูตรระดับปริญญาตรีกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีสมรรถนะรายวิชาเพื่อแสดงความรู้เกี่ยวกับ หลักการความสําคัญของแบรนด์ความโดดเด่นให้กับธุรกิจดิจิทัลและการประเมินคุณภาพของแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ธุรกิจดิจิทัล หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาสอดคล้องกับคําอธิบายรายวิชา คือ ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับความสําคัญ ของแบรนด์หลักการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัล การค้นหากลุ่มเป้าหมาย ออกแบบแบรนด์วิธีการสร้าง คุณค่า ภาพลักษณ์และความโดดเด่นให้กับธุรกิจดิจิทัล ด้วยการศึกษาการดําเนินชีวิตของ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พฤติกรรมของแบรนด์การประเมินคุณภาพของแบรนด์เพื่อก้าวสู่แบรนด์ที่ยั ่งยืน ฝึกปฏิบัติการสร้างแบรนด์ให้กับผลิตภัณฑ์ดิจิทัล คณะผู้จัดทําหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เรียนและผู้ที่สนใจ เพื่อที่จะนํา ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพได้เป็นอย่างดีเนื่องจากเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มุ่งเน้น ให้เห็นตัวอย่างในการสร้างแบรนด์ให้กับธุรกิจดิจิทัล เพื่อที่จะได้ฝึกปฏิบัติด้านทักษะให้เกิดความรู้และความชํานาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีตัวอย่างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัลที่ประสบความสําเร็จให้เป็นแนวทาง ในการศึกษาอีกด้วย และจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้มีความหวังในการเป็นผู้สร้างแบรนด์ที่ประสบความสําเร็จ (ศิวัช กาญจนชุม) ในนามคณะผู้จัดทํา
สารบัญ เรื่อง หน้า หน่วยที่ 2 หลักการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัล ความนํา 4 ความหมายของการสร้างแบรนด์ 5 ความหมายของแบรด์ดิจิทัล 5 ข้อคํานึงถึงเกี่ยวกับแบรด์ดิจิทัล 5 ข้อแตกต่างระหว่างการตลาดแบบดิจิทัลกับการสร้างแบรด์ดิจิทัล 6 ประโยชน์ของการสร้างแบรด์ดิจิทัล 6 ขั้นตอนการสร้างแบรด์ดิจิทัล 7 หลักการสร้างแบรนด์ 10 กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ 10 ปัจจัยหลักในการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัล 11 สรุปประเด็นสําคัญ 13 ใบงานที่ 2 14 แบบทดสอบหลังเรียน 15
หน่วยที่ 2 หลักการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัล สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของการสร้างแบรนด์ 2. ความหมายของแบรนด์ดิจิทัล 3. ข้อคํานึงถึงเกี่ยวกับแบรนด์ดิจิทัล 4. ข้อแตกต่างระหว่างการตลาดแบบดิจิทัลกับการสร้างแบรนด์ แบบดิจิทัล 5. ประโยชน์ของการสร้างแบรนด์ดิจิทัล 6. ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัล 7. หลักการสร้างแบรนด์ 8. กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ 9. ปัจจัยหลักในการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัล จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของการสร้างแบรนด์และแบรนด์ดิจิทัลได้2. บอกข้อคํานึงถึงเกี่ยวกับแบรนด์ดิจิทัลได้ 3. อธิบายข้อแตกต่างระหว่างการตลาดแบบดิจิทัลกับ การสร้างแบรนด์แบบดิจิทัลได้ 4. อธิบายประโยชน์และขั้นตอนการสร้างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัลได้5. อธิบายปัจจัยหลักในการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัลได้6. มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์และละเอียดรอบคอบ 9 สมรรถนะประจําหน่วย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัล 2. แสดงความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์และปัจจัยหลักในการสร้างแบรนด์ ให้เป็นดิจิทัล 3. ปฏิบัติการสร้างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัล ความน่า การสร้างแบรนด์คือ การใช้กลยุทธ์และเครื่องมือทางการตลาดเพื่อกระตุ้นให้คนรู้สึกต่อแบรนด์ในเชิงบวก โดยที่แบรนด์ต้องมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ที่ชัดเจน ภาพเบื้องหน้าและเบื้องหลังควรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นความท้าทายของการสร้างแบรนด์เพราะการสร้างแบรนด์คือ การทุ่มเททุกอย่างเพื่อทําให้พันธกิจที่ให้ไว้กับ ผู้บริโภคเป็นความจริง โดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่การสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัลที่เรียกว่า Digital Branding
1. ความหมายของการสร้างแบรนด์ การสร้างแบรนด์(Branding) คือ กระบวนการสร้างชื่อเสียง ซึ่งชื่อเสียงสําคัญเป็นที่มาของความไว้วางใจ (Trust) เครดิต (Credit) เป็นสิ่งที่บอกถึงอดีตและกําหนดอนาคต ฉะนั้น แบรนด์คือ สิ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจ ซึ่งจะเห็นว่าแบรนด์ดังระดับโลก เช่น Coca-Cola, Nike เมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักของคนทั ่วโลก จะส่งผลให้แบรนด์นั้น มีมูลค่าอย่างมาก นั ่นคือ เป้าหมายในการสร้างแบรนด์ ซึ่งเหล่านักการตลาดของแต่ละองค์กรจะต้องเป็นผู้นําและ ช่วยเหลือให้แบรนด์ขององค์กรมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของลูกค้า 2.ความหมายของแบรนด์ดิจิทัล แบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) หมายถึง การสร้างแบรนด์ผ่านทางสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ที่นิยม ใช้กันในปัจจุบัน เช่น เว็บไซต์ โทรศัพท์มือถือ อีเมล โทรทัศน์เครื่องช่วยงานส่วนบุคคลแบบดิจิทัล (Personal Digital Assistants : PDA) มาตรฐานกําหนดวิธีในการเข้าถึงข้อมูลและบริการอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ไร้สาย (Wireless Application Protocol : WAP) เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะเป็นสื่อที่มีผู้คนในโลกหันมาใช้มากขึ้นกว่าสื่ออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือและวารสาร รวมทั้งวิทยุและโทรทัศน์ 3. ข้อคํานึงถึงเกี่ยวกับแบรนด์ดิจิทัล แบรนด์ดิจิทัลมีข้อคํานึงถึงที่น่าสนใจ ดังนี้ 3.1 ถ้าแบรนด์ประสบความสําเร็จ ภาพพจน์หรือความทรงจําจะเกิดขึ้นกับผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น Amazon.com ถึงแม้ปัจจุบันไม่ได้ทําธุรกิจเฉพาะเจาะจงในเรื่องของการขายหนังสือและสิ่งพิมพ์ตามที่ปรากฏในยุคเริ่มต้นของ การโฆษณาผ่านเว็บไซต์ แต่สิ่งที่ยังคงเป็นที่จดจําของบุคคลทั ่วไปเกี่ยวกับ Amazon.com ได้คือ เว็บไซต์ที่ทําหน้าที่เสมือนร้านขายหนังสือ 3.2 ให้ความสําคัญกับการนําเสนอคําสัญญาแทนการส่งเสริมในตัวสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั ่นและ ไว้วางใจ รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแน่นอนในสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับจริง ๆ จากแบรนด์นั้น 3.3 คาดการณ์ไปถึงอนาคตโดยทําการวิจัยผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความมั ่นใจว่ากลุ่มเป้าหมายที่กําหนดไว้จะยังคงอยู่ต่อไปอีก 5 ปี ในขณะเดียวกันต้องดูว่าใครคือกลุ่มที่จะนิยมสื่อดิจิทัลประเภทไหนในอนาคต 3.4 มองหาสิ่งที่เป็นจุดยืนในระดับที่สูงขึ้น และหันมาสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภค (Emotional Bong ในประเด็นที่นอกเหนือจากคุณประโยชน์ที่ได้รับจากเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาและความสะดวกสบาย ตัวอย่างเช่น ยางมิชลิน ขายยางโดยการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของเด็กเล็ก ๆ แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องยางรถยนต์
3.5 ให้ความสําคัญกับวิธีที่จะช่วยให้เกิดการสนทนาระหว่างผู้ขายกับผู้บริโภค หรือระหว่างผู้บริโภคด้วยกัน มากกว่าที่จะใช้วิธีการสื่อสารแบบทางเดียว (One-Way Communication) เหมือนสื่อโทรทัศน์และป้ายโฆษณา 3.6 คํานึงถึงทางเลือกอื่น ๆ ในการสร้างแบรนด์เพื่อเตรียมพร้อมหนทางแก้ไขในกรณีที่เกิดความล้มเหลว และหันมาลงทุนในทางเลือกที่จะช่วยกู้สถานการณ์หรือเสริมศักยภาพสูงสุดของการสร้างแบรนด์ให้เกิดขึ้นได้ซึ่งควร คัดเลือกโดยมีการประเมินผลการค้าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกว่า อีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยประกอบ กุญแจสําคัญอยู่ที่การหยุดตั้งข้อสมมติฐานว่า ความล้มเหลวของแบรนด์จะเกิดขึ้นตลอดไป อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและต้องมีการกําหนดจุดยืนของแบรนด์อย่างระมัดระวังไม่ให้ขัดแย้งกับความเป็นไปได้ในอนาคต ปัจจุบันร้อยละ 99 ของเว็บไซต์ธุรกิจมักจะสร้างแบรนด์ด้วยการติดโลโก้บนสินค้าที่ระลึก หรือทําเป็น มาสคอต (Mascot) ในการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์หรืออยู่ในรูปของการแจกฟรีบนเว็บไซต์ตั้งแต่วอลเปเปอร์สกรีนเซฟเวอร์ ซึ่งบางส่วนไม่ได้อยู่เฉพาะบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แต่จะอยู่ในสื่อดิจิทัลอื่น ๆ เช่น ริงโทน ในโทรศัพท์มือถือที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีเป็นต้น 4. ข้อแตกต่างระหว่างการตลาดแบบดิจิทัลกับการสร้างแบรนด์แบบดิจิทัล การตลาดแบบดิจิทัล (Digital Marketing) เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลักดันผลิตภัณฑ์หรือบริการบางอย่าง โดยพิจารณาจากความดีของสินค้า ในขณะที่การสร้างแบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) นั้นมีความสามารถ ในการดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคมากกว่า คือ การไม่มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง แต่การสร้าง แบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) จะเน้นคุณค่า (Values) ที่สําคัญของบริษัท ตราสินค้า หรือองค์กรนั้น ๆ มากกว่า การสร้างแบรนด์จะยังมีอยู่ต่อไปอีกเป็นระยะเวลานาน หลังจากที่ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ถูกเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกไป ซึ่งก็คือสิ่งที่จะยึดติดอยู่ในใจของลูกค้าเมื่อทําการสั ่งซื้อ และจะเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้านึกถึงเมื่อลูกค้าต้องการบริการ อีกครั้ง ในขณะที่การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) มีความยอดเยี่ยมในการตอบรับผู้ซื้อหรือผู้ใช้บริการ แบบครั้งต่อครั้ง แต่การสร้างแบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) นั้นดีกว่าในการสร้างความสัมพันธ์ตลอดชีวิตระหว่าง ธุรกิจและลูกค้า 5. ประโยชน์ของการสร้างแบรนด์ดิจิทัล การสร้างแบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) มีประโยชน์ดังนี้ 5.1 ช่องทางที่หลากหลาย (Multichannel) การมีแบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) ที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ ธุรกิจสามารถแพร่กระจายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงช่องทางต่าง ๆ เช่น โฆษณาออนไลน์เว็บไซต์แช็ตและสื่อสังคมออนไลน์ ความสามารถในการโปรโมตแบรนด์ในหลาย ๆ แพลตฟอร์มนั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สําหรับทุก ๆ ธุรกิจ เนื่องจากช่วยให้สามารถส่งเนื้อหาข้อความที่เป็นหนึ่งเดียวไปยังลูกค้าต่าง ๆ ในแบบที่มี ความเป็นส่วนตัวสําหรับแต่ละคนได้ 5.2 การทําให้เกิดไวรอล (Virality) การตลาดที่มีส่วนร่วมกับความรู้สึก อารมณ์ของผู้คนอย่างแท้จริง เพราะ การจะทําสื่อหรือข้อมูลชนิดใดชนิดหนึ่งให้ถูกส่งต่อไปเป็นวงกว้าง ในเวลาอันรวดเร็วจะต้องทําออกมาให้ตรงใจผู้รับชมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคนิคกับความรู้สึกที่เศร้าโศกเสียใจ ความรัก ความเกลียดชัง ความฉลาด ความโง่เขลาหรือแม้แต่ความสุข หรือความบ้าคลั ่ง เพราะความรู้สึกเหล่านี้คือ ความรู้สึกที่ หลายคนปิดเอาไว้ไม่แสดงออกมา หากสามารถทําสื่อประเภทนี้ออกมาได้นั ่นหมายความว่า คุณเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจพวกเขา เหล่านั้นซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการที่ทําให้สื่อถูกส่งต่อออกไปอย่าง ง่ายดาย 5.3 การโต้ตอบ (Interaction) การสร้างแบรนด์ดิจิทัล POPCORN(Digital Branding) ช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมและสร้างประสบการณ์ของการเป็นลูกค้าที่ไม่เหมือนใคร วิธีการ บางอย่างในการสร้างแบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) คืออนุญาตให้บริษัทโต้ตอบกับลูกค้า รวมถึงการเปิดตัวโฆษณา แบนเนอร์ที่คลิกได้ในบางเว็บไซต์หรือการสร้างภาพ เพื่อแสดงคุณสมบัติที่ดีที่สุดของบริษัทหรือตราสินค้า 5.4 ทําให้แตกต่างจากบุคคลอื่น (Differentiation) ในปัจจุบันเกิดการแข่งขันเป็นอย่างมากในทุกภาคส่วน และการมีบางสิ่งที่ทําให้แตกต่างจากบุคคลอื่น ๆ ได้จะทําให้บทบาทในการทําตลาดในอนาคตมั ่นคง การสร้าง แบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) ทําโดยการนําจุดแข็งและความสําเร็จของธุรกิจมารวมกัน ซึ่งจะช่วยสร้าง ความประทับใจและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งขัน 5.5 การเชื่อมต่อที่ดีกว่า (Better Connections) การสร้างแบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) ช่วยให้ เชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น คุณค่าของแบรนด์ยังคงเป็นจริงตลอดหลายปีที่ผ่านไป และได้รับการพัฒนา ให้สอดคล้องกับคนรุ่นใหม่แต่ยังคงคุณค่าดั้งเดิมที่เก็บรักษาคนรุ่นเก่าไว้ด้วย 6. ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัล สําหรับผู้ที่ทําธุรกิจ ไม่ว่ารายเล็กหรือรายใหญ่ SMEs หรือ Global Brand การสร้างแบรนด์นับว่าเป็น อีกหนึ่งกระบวนการสําคัญ และนับว่าเป็นกระบวนการที่หลายฝ่ายได้มีความสนใจและนึกถึงเสมอ ซึ่งจะมีขั้นตอน การสร้างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัล ดังนี้
6.1 กําหนดพันธกิจ (Brand Mission) คําว่า พันธกิจ เป็นสิ่งสําคัญมากที่ต้องรู้ว่า “ธุรกิจเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร” เพราะถ้ามีแก่นที่มั ่นคงแล้ว การเติบโตไปก็จะมีทิศทางที่ชัดเจนและตอบโจทย์ในสิ่งที่บุคคลอยากจะเป็นจริง ๆ ไม่จําเป็นต้องเป็นข้อเดียว อาจจะเป็นประโยคประมาณ 3-5 ประโยค อธิบายในสิ่งที่แบรนด์อยากจะบรรลุเพื่อสังคมและเพื่อกลุ่มลูกค้า อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้ก่อตั้งธุรกิจ หรือธุรกิจตั้งใจจะทําอะไร ตัวอย่าง : -UNICEF เพื่อรักษาความสงบสุขและความปลอดภัยของโลก -GMM GRAMMY สร้างคุณค่า เพิ่มมูลค่าให้กับทุกธุรกิจและสังคม -MK ส่งมอบสุขภาพที่ดีและเติมเต็มความสุขให้กับลูกค้า ด้วยอาหารที่มีคุณภาพและความอร่อย พร้อมทั้ง ให้บริการอันเป็นเลิศ ในราคาที่เหมาะสม -WORKPOINT ผลิตผลงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม 6.2 รู้จักลูกค้า ออกแบบกลุ่มเป้าหมาย การรู้จักลูกค้าหรือคนที่ต้องการจะสื่อสารเป็นสิ่งสําคัญ โดยการสํารวจหรือวิเคราะห์ดูว่า กลุ่มลูกค้า อายุเท่าไร อาศัยอยู่ไหน มีวิถีชีวิตอย่างไร แล้วก็มาดูต่อว่ากลุ่มไหนที่ควรเน้นเป็นหลักหรือเน้นเป็นเป้าหมายรอง หากรู้จักกลุ่มเป้าหมายแล้ว ก็เหมือนเป็นการสร้างทิศทางให้กระบวนการถัดไป เพราะจะช่วยบอกถึงการกําหนด จุดยืนของแบรนด์สิ่งที่เลือกจะนําเสนอ ข้อความที่อยากจะใช้ก็จะเป็นสิ่งที่ตรงโจทย์มากยิ่งขึ้น หรืออาจจะ เป็นการนํา STP (Segmentation Targeting and Positioning) กลยุทธ์ในการเลือกกลุ่มเป้าหมายมาประยุกต์ใช้ก็ได้ 6.3 สร้างสิ่งที่ทําให้แตกต่างจากคู่แข่งขัน การแข่งขันในวงการธุรกิจ การสร้างสรรค์แบรนด์ให้แตกต่างจากคู่แข่งขันนับเป็นสิ่งสําคัญ ไม่ว่าจะ เป็นการทํางาน สินค้าหรือแม้กระทั ่งแนวคิด เพราะถ้ามีความแตกต่างกว่า ก็จะจดจําได้ดีและจดจําได้ง่ายกว่า 6.4 ออกแบบบุคลิกของแบรนด์(Brand Personality) บุคลิกภาพของการสื่อสารนั้นมักจะเชื่อมโยงกับจุดเด่นของสินค้าหรือบริการ แนวคิดขององค์กร ตัวตน ของกลุ่มเป้าหมาย ถ้าแบรนด์เป็นคนหนึ่งคน จะเป็นคนแบบไหน สนุกสนานหรือเคร่งเครียด ชอบใช้ชีวิตหรือ ชอบการพักผ่อนหรือชอบความหรูหรา เป็นต้น โดยหลักแล้ว สามารถแบ่งได้เป็น 5 บุคลิกภาพ ดังนี้ 6.4.1 Excitement คือ ความตื่นเต้น สนุกสนาน มั ่นใจ ท้าทาย ตื่นตัว เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่อยากออกไปใช้ชีวิต เช่น Pepsi, Honda, Sprite
6.4.2 Sincerity คือ ความห่วงใย จริงใจ ซื่อสัตย์เช่น ธุรกิจบริการและประกันภัย ตัวอย่างเช่น ไทยประกันชีวิต 6.4.3 Sophistication คือ ความซับซ้อน หรูหรา เช่น รถยนต์เครื่องสําอางแบรนด์เนม ตัวอย่างเช่น Mercedes-Benz, L'Oreal 6.4.4 Competence คือ ความสามารถ ความฉลาด เหนือชั้น ก้าวล้ํา เช่น สินค้าไอทีหรือ สมาร์ตโฟน ตัวอย่างเช่น Apple, Microsoft : 6.4.5 Ruggedness คือ ความทนทาน ถูก บึกบึน ห้าวหาญ เช่น สิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักรกล รถยนต์ตัวอย่างเช่น Ford, Wrangler, Reebok
6.5 ศึกษาออกแบบโลโก้ สําหรับคนทําธุรกิจหลายคนหรือผู้ประกอบการอาจจะไม่ได้มีความรู้เรื่องการออกแบบ การใช้สี การดีไซน์และการสร้างแบรนด์ก็จะเป็นการเลือกใช้โลโก้การเลือกใช้สีการเลือกใช้เส้น ซึ่งในโลกออนไลน์มีตัวอย่างมากมายให้เข้าไปเลือกสรร เลือกดูแบบที่เหมาะสมกับแบรนด์ที่สําคัญโลโก้ควรสื่อสารที่ความเป็นแบรนด์อย่างชัดเจน และควรเป็นโลโก้ที่ทําให้คนจําได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น แบรนด์ของ Supreme ไม่ว่าสินค้าจะเป็นอะไร จะดีหรือจะแปลกขนาดไหน หากมีโลโก้Supreme ไปติดไว้ก็สามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นอย่างมาก ส่วนการออกแบบโลโก้ก็เป็นไปได้ทั้งรูปภาพ ตัวอักษร หรือการผสมคํา บริษัทใหญ่ในเอเชียมักจะนิยม ใช้ชื่อแบรนด์มาทําเป็นโลโก้เช่น Samsung, Tencent แต่ถ้าหากไม่มีความรู้ด้านนี้ก็สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์www.pinterest.com เลือกตัวอย่างที่ชอบ แล้วนําไปพัฒนาให้เป็นแบบฉบับของแบรนด์ของตนเองได้โลโก้ที่ดีควรสื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจและจดจําให้ได้ว่าแบรนด์จะทําอะไร มีจุดเด่นแบบไหน 6.6 งานออกแบบ งานออกแบบจะเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างเป็นรูปธรรมและจับต้องได้พร้อมยกระดับ ความเป็นแบรนด์ให้ดูมีมาตรฐานและดูดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโลโก้ บรรจุภัณฑ์หรือแม้กระทั ่งการตกแต่งร้านหากเป็นร้านอาหารจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นยูนิฟอร์ม ภาชนะ รูปแบบการให้บริการ การตกแต่งสภาพแวดล้อมภายในร้านให้สอดคล้องกับคาแรกเตอร์ที่กําหนดไว้อาจจะเรียบร้อย สะอาด หรูหรา คลาสสิก มีสไตล์ หรือจะเป็นแบบธรรมดาก็ได้ขึ้นอยู่กับตัวตนที่กําหนดไว้และความรู้สึกที่ต้องการให้ลูกค้าได้รับ 7. หลักการสร้างแบรนด์ หลักการสร้างแบรนด์(Branding) คือ สิ่งที่สามารถทําได้โดยไม่ได้จํากัดอยู่ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งหรือด้วยทฤษฎีใด เพียงแค่อยู่บนพื้นฐานว่าจะทําอย่างไรให้แบรนด์มีความแตกต่างและทําให้ลูกค้าสามารถจดจําแบรนด์ได้ ทฤษฎีหนึ่ง ซึ่งอาจแบ่งเงื่อนไขออกเป็น 4 ส่วน คือ - 1) แตกต่าง ไม่ซ้ําหรือเหมือนใคร 2) มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะสื่อสารอะไรให้ลูกค้ารับรู้ 3) สามารถสื่อสารได้ว่าแบรนด์ทําอะไร ทันทีที่ลูกค้านึกถึงแบรนด์ 4) เป็นที่จดจําหรือง่ายต่อการจดจํา สําหรับวิธีการที่มักจะนํามาใช้กับการสร้างแบรนด์เพื่อที่จะทําให้ลูกค้าสามารถแยกแยะและสามารถจดจํา แบรนด์ได้มักจะเป็นเรื่องดังต่อไปนี้ 1) ตราสินค้าหรือโลโก้ 2) โทนสีของโลโก้ 3) ลักษณะตัวอักษรที่แบรนด์ใช้กับโลโก้หรือฉลาก 4) รูปร่าง ลักษณะของบรรจุภัณฑ์ 5) สโลแกน (Slogan) 6) สีและรูปแบบของยูนิฟอร์มพนักงาน 7) ลักษณะวิธีการให้บริการ/บริการหลังการขาย 8) บรรยากาศของร้าน (ตั้งแต่การตกแต่งร้านไปจนถึงเรื่องกลิ่น) 9) บุคลิกภาพของแบรนด์(Brand Personality)
10) Presenter ของแบรนด์หรือบุคลิกของ Presenter 8. กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์มีหลักการสําคัญ 9 ข้อ ดังนี้ 8.1 วิเคราะห์ตนเอง ก่อนที่จะสร้างแบรนด์ให้กับธุรกิจหรือสินค้า จะต้องรู้จักตนเองให้ดีก่อนว่าตนเอง มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องอะไร จะวางแนวทางการตลาดสําหรับธุรกิจในอนาคตอย่างไร เพื่อกําหนดวิสัยทัศน์ของธุรกิจให้ชัดเจน 8.2 วิเคราะห์คู่แข่งขัน ศึกษาแนวทางการตลาด และจุดแข็ง-จุดอ่อนของคู่แข่งขัน เพื่อดูว่าตนเองมีจุดเด่น ในเรื่องอะไรที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งขันได้ศึกษาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคู่แข่งขันว่ามีลูกค้ากลุ่มไหนที่คู่แข่งขัน ยังเข้าไม่ถึง เพื่อให้สามารถเข้าไปทําการตลาดได้ก่อน 8.3 กําหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย การกําหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นสิ่งสําคัญสําหรับการทําธุรกิจ เพื่อดูว่ากลุ่มเป้าหมายใดเป็นเป้าหมายหลัก ช่วยให้วางแผนการใช้สื่อโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ งบประมาณในการทําการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างคุ้มค่า 8.4 เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ศึกษาว่าอะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้รับจากสินค้านั้น ๆ มีปัจจัยอะไรบ้างที่ ลูกค้าใช้ในการตัดสินใจซื้อ รสนิยมของลูกค้าเป็นแบบไหน หากไม่มีสินค้าที่ลูกค้าต้องการจะมีสินค้าตัวไหนที่ สามารถทดแทนได้หรือไม่ เพื่อหาวิธีสร้างแบรนด์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและสร้างฐานลูกค้าประจําได้8.5 สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทําให้แบรนด์เป็นเสมือนคนคนหนึ่งที่มีตัวตนและแตกต่างจากคู่แข่งขัน โดยกําหนดบุคลิกของแบรนด์ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของธุรกิจ แนวทางการตลาดและลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถกําหนดบุคลิกให้แบรนด์ได้มากกว่าหนึ่งบุคลิก แต่บุคลิกเหล่านั้นจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้แบรนด์มีตัวตนที่ชัดเจน ลูกค้าสามารถรับรู้ถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ 8.6 สื่อสารอย่างสม่ําเสมอ เมื่อกําหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย กําหนดเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้แล้ว จะต้อง รู้ว่าควรสื่อสารกับลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบใดให้น่าสนใจและเป็นที่จดจํา โดยไม่สูญเสียความเป็นตัวตน ของแบรนด์ และต้องมีการสื่อสารอย่างสม่ําเสมอ เพื่อให้ลูกค้ารับรู้ถึงตัวตนของแบรนด์และทําให้แบรนด์สามารถ เข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้ในที่สุด 8.7 รักษาคุณภาพสินค้า แม้ว่ามีการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ไว้ดีแค่ไหน หากลูกค้าไม่ประทับใจในสินค้า โอกาสที่ลูกค้าจะซื้อซ้ําก็มีเปอร์เซ็นต์น้อย และอาจทําให้แบรนด์เสียความน่าเชื่อถือไปด้วย ดังนั้น ถ้าทําสินค้า ออกมามีคุณภาพ ผู้ใช้ประทับใจ เกิดการบอกต่อ ก็จะทําให้แบรนด์กลายเป็นที่นิยมขึ้นมาได้ 8.8 รักษาฐานลูกค้า ถ้ามีการบริการลูกค้าเก่าไว้ให้ดีมากเท่าไร ลูกค้าจะยิ่งผูกพันและรู้สึกดีต่อแบรนด์ กลายเป็นฐานลูกค้าประจําของแบรนด์ที่จะคอยบอกต่อและปกป้องแบรนด์ทําให้แบรนด์มีชื่อเสียงและได้รับ ความน่าเชื่อถือมากขึ้น 8.9 รับฟังลูกค้า เจ้าของกิจการต้องหมั ่นสอบถามความพึงพอใจของลูกค้า และสํารวจความต้องการของ ลูกค้า เพื่อปรับปรุงจุดบกพร่อง รักษามาตรฐานของสินค้า และพัฒนาต่อไปให้ดียิ่งขึ้นเสมอ แบรนด์ไม่ใช่เพียงแค่สัญลักษณ์หรือโลโก้แต่หมายถึง ความเป็นตัวตนของธุรกิจหรือสินค้าที่ต้องการแสดงออกมา เพื่อสื่อให้ลูกค้ารับรู้ การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ทําให้เกิดฐานลูกค้าของแบรนด์ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ สินค้าได้ดังนั้น ผู้ประกอบการควรศึกษาจุดแข็งจุดอ่อนของธุรกิจและสินค้าทั้งของตนเองและคู่แข่งขัน รวมถึงเข้าใจ พฤติกรรมกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายให้ดีก่อนจะเริ่มต้นลงทุนสร้างแบรนด์ และสุดท้ายการสร้างแบรนด์ไม่มีคําว่า สิ้นสุด ต้องทําอย่างสม่ําเสมอ เพราะเมื่อไรที่หยุดทํา แบรนด์ก็มีโอกาสที่จะถูกแทนที่ด้วยแบรนด์อื่นได้ 9. ปัจจัยหลักในการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัล ปัจจัยหลักในการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัล (Digital Branding) มีดังนี้ 9.1 ตัวตนต้องชัดเจน จะต้องมีข้อความหลักที่ต้องการสื่อออกไป หรือ Key Message ให้แบรนด์มีตัวตน จับต้องได้โดยจะต้องมี Personal Branding & Character Marketing หรือที่เรียกว่า บุคลิกภาพของตราสินค้าและ การตลาดคาแรกเตอร์มาร์เกตติงที่ชัดเจน ให้ผู้บริโภคจําได้จําง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ซ้ําใคร กิจกรรมจัดทําองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ และต้องครบเครื่อง เช่น โลโก้คอนเซปต์โทนสีสโลแกน ฯลฯ พร้อมกับสร้างคุณค่า ให้กับแบรนด์ส่วนนี้สําคัญเป็นอย่างมาก กล่าวคือ
เพียงแค่ลูกค้าพบโทนสีแบบนี้และนึกถึงแบรนด์หรือเห็นเพียง แค่ภาพโลโก้ของแบรนด์ลูกค้าก็จําได้ว่าแบรนด์นี้คือใคร ทําอะไร ขายอะไรหรืออยากได้สินค้าต้องไปซื้อที่ไหน ฯลฯ ตัวอย่างการสร้างแบรนด์ที่น่าเรียนรู้เช่น เอ็กซ์พีเดีย (Expedia) เว็บไซต์จองแพ็กเกจออนไลน์สัญชาติอเมริกันที่เลือก ใช้มาสคอตหมีเอ็กซ์แบร์ (Exbear) เจ้าหมีกริซลี่อารมณ์ดีขนปุย สีน้ําตาล มีดาวติดหน้าอกห้าดวง ผู้รักอิสระ และมีจิตวิญญาณ รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ หรือกรณีศึกษาการสร้างแบรนด์ ที่ประสบความสําเร็จในไทย เช่น มังกรบาร์บีกอน จาก Bar-B-Q Plaza กับมาสคอตเจ้ามังกรบาร์บีกอนสีเขียวยิ้มแป้น ให้ความรู้สึกสนุกสนานเป็นกันเอง เห็นที่ไหนต้องจําได้ ทําให้Bar-B-Q Plaza กลายเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงใจคนไทย 9.2 รู้จักลูกค้าให้ดีหลังจากกําหนดแบรนด์ดิง (Branding) นักการตลาดหรือผู้ประกอบการควรทําความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมาย (Target) หรือกลุ่มลูกค้าหลักให้ดีว่า ลูกค้ามีพฤติกรรมอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ฯลฯ เพื่อสานต่อเป้าหมายการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก สร้างความภักดีในแบรนด์สินค้าและบริการ (Brand Loyalty) สร้างกลุ่มเครือข่ายอันแน่นแฟ้น ส่งต่อความรู้สึกร่วมระหว่างลูกค้าและแบรนด์ธุรกิจ รวมทั้งเพิ่มการรับรู้Brand Awareness ให้มากขึ้น นํามาสู่ความสนใจซื้อสินค้า แบบไม่บีบบังคับจิตใจ ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการเพราะชื่นชอบและหลงรักในแบรนด์หรือเปลี่ยนใจให้ ลูกค้ารู้สึกว่า กิจกรรมจัดทําองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจตนเองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับแบรนด์ได้ หากนึกไม่ออกว่าการสร้างแบรนด์ให้มีความรู้สึก ร่วมกับลูกค้าในขั้นตอนนี้เป็นอย่างไร เพียงแค่ได้ยินว่า “คุณค่าที่คุณคู่ควร” ก็นึกถึงลอรีอัล ปารีส สินค้า ผลิตภัณฑ์ความงามจากฝรั ่งเศสทันที เนื่องจากเป็นสโลแกนที่ใช้มานานกว่า 4 ทศวรรษ และกลายเป็นคําพูดติดปากของหลาย ๆ คนอีกด้วย ปัจจัยดังกล่าวช่วยสร้างความได้เปรียบให้คนจดจําและนึกถึง แบรนด์ลอรีอัลได้เป็นอย่างดี 9.3 คอนเทนต์(Content) ต้องดีการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก จะต้องมีคอนเทนต์ที่ดีน่าสนใจ น่าอ่านและ บอกเล่าเรื่องราวให้คนรับรู้ พร้อมกับตอบคําถามของผู้บริโภค ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสําคัญในการสร้างแบรนด์ให้มีเสน่ห์ในโลกดิจิทัล แม้ว่าจะเป็นยุคที่เข้าถึงได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว แต่ด้วยข้อมูลที่มีจํานวนมากบนโลกออนไลน์ความท้าทาย ในการปั้นแบรนด์ผ่านการสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ยังมีอยู่มาก การสร้างคอนเทนต์ให้กับแบรนด์ที่ประสบความสําเร็จ และเป็นตัวจริงโดยศึกษาการสร้างคอนเทนต์จากเสื้อผ้ากีฬา แบรนด์ดังอันเดอร์อาร์เมอร์ (Under Armour) จากสหรัฐอเมริกา ทางอันเดอร์อาร์เมอร์เลือกซูเปอร์สตาร์จากเวทีมวยปล้ํา อย่างเดอะร็อก หรือดเวย์น จอห์นสัน ไอดอลสําหรับผู้รัก การออกกําลังกายมาเป็นพรีเซนเตอร์และเลือกบอกทุกคนว่า “Will Finds A Way” แล้วจะพบหนทาง ลงบนยูทูบ (YouTube) พร้อมกับขยายความว่า Wherever we're starting from. Wherever we're heading. Will finds a way. กล่าวคือ ไม่ว่าเรา จะเริ่มต้นจากที่ไหน ไม่ว่าเราจะมีเป้าหมายแบบไหน แล้วจะพบ หนทาง ช่วยปลุกความฮึกเหิมในจิตใจและสร้างแรงผลักดัน ให้กับผู้ที่ติดตามได้เป็นอย่างดีกิจกรรมต้องจัดทําองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ
9.4 เลือกเครื่องมือโปรโมตให้ถูกต้อง เมื่อมีแบรนด์ชัดเจน คอนเทนต์ตรงจุด โดนใจลูกค้า วิเคราะห์จากพฤติกรรมของ ผู้บริโภค พร้อมกับเลือกเครื่องมือโปรโมตตัวตนของแบรนด์ในโลกออนไลน์ให้ถูกต้องก็ เป็นปัจจัยหลักที่ไม่ควรมองข้าม เว็บไซต์คือ เครื่องมือพรีเซนต์ตนเองให้ผู้คนค้นพบ ธุรกิจบนโลกออนไลน์ ใช้เก็บข้อมูลจํานวนคนเข้าเว็บไซต์(Traffic) ลูกค้าที่สนใจสินค้า ข้อดีคือ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือของธุรกิจ อีกทั้งมีการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มขายอื่น ๆ ได้อีก แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์(Social Media) เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook) ใช้โปรโมตธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้อินสตาแกรม (Instagram) นําเสนอภาพสวย ๆ สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับลูกค้าและยอดขายได้เป็นอย่างดีหรือแอปพลิเคชั ่นไลน์แอด (LINE@) ใช้ในการบริหารความสัมพันธ์กับ ลูกค้า เข้าถึงลูกค้า ดูแลให้ดีกว่าเดิม ฯลฯ อีกทั้งต้องรู้จักช่วงเวลาที่เหมาะสมในการโพสต์ความสั้นและยาวของ คอนเทนต์ที่นําเสนอให้เหมาะกับแพลตฟอร์ม เพื่อเรียกจํานวนผู้เข้าชม เพิ่มการเข้าถึงและสร้างยอดขายได้ในที่สุด 9.5 พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง อย่าหยุดเรียนรู้หากประสบความสําเร็จ จงอย่าหยุดพัฒนา ควรนําเสนอแบรนด์และคอนเทนต์อย่างสม่ําเสมอ ให้ลูกค้ารู้สึกว่าหากวันใดไม่เจอคอนเทนต์จากแบรนด์เราแล้ว เหมือนขาด อะไรในชีวิตไปบางอย่าง เพราะนี่คือการสร้างแบรนด์ที่นํามาสู่การสร้างยอดขายบนโลกออนไลน์ได้อย่างยั ่งยืน แม้ว่าการสร้างแบรนด์ให้ดึงดูดชาวเน็ตในโลกดิจิทัลไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแต่ต้องใช้เวลาค้นหา ตัวตนที่แท้จริงของธุรกิจ พร้อมกับตอบคําถามให้ได้ว่า “การสร้างแบรนด์ครั้งนี้เราต้องการสื่อสารอะไรให้ลูกค้าได้ รับรู้และรู้จักความเป็นตัวเรา" เกร็ดความรู้ ทิปโก้(Tipco) กับการคว้ารางวัล Brand of the Year 2017-2018 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในงาน World Branding Awards จัดโดย World Branding Forum (WBF) ซึ่งมอบให้กับองค์กรที่ประสบความสําเร็จในการสร้างแบรนด์ทั้งใน ระดับนานาชาติและระดับประเทศ ณ พระราชวังเคนซิงตัน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งรางวัลนี้พิจารณาจากการสร้างคุณค่าของแบรนด์โดยใช้วิธีวิจัยตลาดผู้บริโภค พร้อมเปิดให้สาธารณชนทั ่วโลก ร่วมโหวตทางออนไลน์ มีแบรนด์ที่ได้รับรางวัล 245 แบรนด์จากกว่า 3,000 แบรนด์ที่ร่วมแข่งขันจากทั ่วโลก โดยปีนี้ ทิปโก้ต่อยอดความแข็งแกร่งของแบรนด์จากน้ําผลไม้สู่กลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพใหม่ ๆ เช่น สับปะรดทิปโก้หอมสุวรรณ เครื่องดื่มทิปโก้เวฟและทิปโก้บีท ซึ่งการได้รับรางวัลนี้อีกครั้ง ยืนยันความเป็น “เบอร์หนึ่ง” อีกครั้งของทิปโก้ สรุปประเด็นสําคัญ การสร้างแบรนด์ดิจิทัล (Digital Branding) เป็นคําที่ใช้ในการอธิบายวิธีการต่าง ๆ ทั้งหมดในเชิงธุรกิจที่ใช้ดึงดูดลูกค้าบนออนไลน์ ซึ่งมีแง่มุมทางการตลาดต่าง ๆ มากมายหลากหลายด้าน รวมถึง SEO, Online Ad Marketing Content, Social Media ua: Influencer Marketing Digital Branding หมายถึง การสร้างแบรนด์ผ่านทางสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เช่น เว็บไซต์โทรศัพท์เคลื่อนที่ อีเมล โทรทัศน์เป็นต้น ซึ่งเป็นสื่อที่คาดการณ์ว่าจะเป็นสื่อที่มีผู้คนในโลกนั้นมาใช้มากขึ้นกว่าสื่ออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือและวารสารหรือแม้แต่วิทยุ โทรทัศน์โดยมีข้อคํานึงถึงที่น่าสนใจ ดังนี้1. ต้องยอมรับและเข้าใจว่า ถ้าแบรนด์ประสบความสําเร็จ ธุรกิจก็สามารถทําการแข่งขันได้ 2. ในความสําคัญกับการนําเสนอคําสัญญาแทนการส่งเสริมในตัวสินค้า 3. ต้องมองไปข้างหน้าโดยทําการวิจัยผู้บริโภค 4. มองสิ่งที่เป็นจุดยืนในระดับที่สูงขึ้น 5. ให้ความสําคัญกับวิธีที่จะช่วยให้เกิดการสนทนาระหว่างผู้ชายกับผู้บริโภค 6. คํานึงถึงทางเลือกอื่น ๆ ในการสร้างแบรนด์ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ให้ผู้เรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จํานวน 3-5 กลุ่ม ค้นหาเว็บไซต์ที่ไม่ทําธุรกิจเฉพาะเรื่องสินค้าหรือบริการ เท่านั้น แต่มีแนวทางการเชื่อมโยงกับผู้บริโภคทางด้านบริการสังคมด้วย กลุ่มละ 1 เว็บไซต์ 2. ให้ผู้เรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จํานวน 5 กลุ่ม ค้นหาแบรนด์ที่สื่อถึงบุคลิกของแบรนด์ทางเว็บไซต์กลุ่มละ 1 บุคลิกภาพ แล้วนําเสนอหน้าชั้นเรียน ดังนี้ 2.1 Excitement
2.2 Sincerity 2.3 Sophistication 2.4 Competence 2.5 Ruggedness 3. ให้ผู้เรียนแต่ละคนบันทึกรูปแบบของแบรนด์ที่ชื่นชอบและน่าสนใจในเว็บไซต์www.pinterest.com แล้วบันทึก ส่งผู้สอนทางระบบออนไลน์ที่กําหนด 4. ให้ผู้เรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จํานวน 3-5 กลุ่ม ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทําแบรนด์ผ่านแอปพลิเคชัน ไลน์(Line) กลุ่มละ 1 แบรนด์แล้วนําเสนอหน้าชั้นเรียน 5. ให้ผู้เรียนแต่ละคนค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่นําเสนอผลิตภัณฑ์และแบรนด์เป็นของตนเอง กลุ่มละ 1 แบรนด์ แล้วนําเสนอหน้าชั้นเรียน ใบงานที่ 2 เรื่อง แบรนด์หรือมาสคอตของสินค้าหรือบริการ ให้ผู้เรียนค้นหาตัวแทนของแบรนด์ที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นแบรนด์อะไร แล้วถ่ายรูปคู่กับแบรนด์หรือ มาสคอตของสินค้าหรือบริการ แล้วน่าส่งผู้สอนทางระบบออนไลน์ทีกําาหนด การประเมินผล ลําดับที่ รายการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 5 4 3 2 1 1 การตรงต่อเวลา 2 ความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย 3 ความถูกต้อง 4 ความสวยงาม 5 การส่งงาน รวม รวม คะแนน ข้อเสนอแนะ
ลงชื่อ ผู้สอน แบบทดสอบหลังเรียน ตอนที่ 1 จงทําเครื่องหมายกากบาท (X) ลงหน้าข้อที่ถูกต้องที่สุด 1. เว็บไซต์Amazon เติบโตมาจากธุรกิจใด ก. หนังสือ ข. นาคม ค. นาฬิกา ง. แฟชั ่น จ. รถยนต์ 6. คํากล่าวที่ว่า “เพื่อรักษาความสงบสุขและความปลอดภัย ของโลก” เป็นของแบรนด์ใด ก. GMM GRAMMY ข. MK ค. WORKPOINT ง. UNICEF จ. SAFTY FIRST 2. เว็บไซต์ยางมิชลินนําเสนอเรื่องใดนอกจาก จะนําเสนอเรื่องยาง ก. เกษตร ข. เด็กเล็ก ๆ ค. ธรรมชาติ ง. อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จ. ปลูกป่า 7. ข้อใดเป็นกลยุทธ์ในการเลือกกลุ่มเป้าหมาย ก. STP ข. SEG ค. TLM ง. TQM จ. MOM 3. การตลาดมีส่วนร่วมกับความรู้สึกเป็นประโยชน์ได้ของการสร้างแบรนด์ดิจิทัล ก. ช่องทางที่หลากหลาย ข. การทําให้เกิดไวรอล ค. การโต้ตอบ ง. ทําให้แตกต่างจากบุคคลอื่น จ. การเชื่อมต่อที่ดีกว่า 8. ไทยประกันชีวิต จะเน้นในเรื่องใด ก. Excitement ข. Sincerity ค. Sophistication ง. Competence จ. Ruggedness
4. การพัฒนาแบรนด์ให้สอดคล้องกันระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่เป็นประโยชน์ใดขอ งการสร้างแบรนด์ดิจิทัล ก. ช่องทางที่หลากหลาย ข. การทําให้เกิดไวรอล ค. การโต้ตอบ ง. ทําให้แตกต่างจากบุคคลอื่น จ. การเชื่อมต่อที่ดีกว่า 9. รถ Mercedes-Benz จะเน้นบุคลิกภาพของแบรนด์ในเรื่องใด ก. Excitement ข. Sincerity ค. Sophistication ง. Competence จ. Ruggedness 5. ข้อใดหมายถึงธุรกิจขนาดเล็ก ก. SMEs ข. Global ค. NPL ง. OTO จ. PPT 10. มังกรบาร์บีกอน เป็นมาสคอตของแบรนด์ได ก. MK ข. KFC ค. PT ง. Bar-B-Q Plaza จ. S&P ตอนที่ 2 จงเติมคําหรือข้อความลงในช่องว่างต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. การสร้างแบรนด์หมายถึง 2. การสร้างแบรนด์ดิจิทัล หมายถึง 3. ข้อคํานึงถึงการสร้างแบรนด์ดิจิทัล มีดังนี้ 4. ข้อแตกต่างระหว่างการตลาดแบบดิจิทัล (Digital Marketing) กับการสร้างแบรนด์แบบดิจิทัล (Digital Branding) คือ 5. ประโยชน์ของการสร้างแบรนด์ดิจิทัล มีดังนี้ 6. ทั้นตอนการสร้างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัล มีดังนี้ 7. หลักของการสร้างแบรนด์คือ 8. กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์มีหลักการสําคัญ ข้อ ดังนี้ 9. ปัจจัยหลักในการสร้างแบรนด์ให้เป็นดิจิทัล คือ 10. การสร้างแบรนด์ที่จะต้องมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง คือ
ตอนที่ 3 แปลคําศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ แล้วทําเครื่องหมายล้อมรอบตัวอักษรคําศัพท์ที่เป็นภาษาอังกฤษ ลําดับที่ คําศัพท์ ภาษาอังกฤษ 1 การสื่อสาร 2 เป้าหมาย 3 ดีกว่า 4 พนัธกิจ 5 ความไว้วางใจ 6 ความทนทาน 7 การเชื่อมต่อ 8 การตลาด 9 การโต้ตอบ 10 บุคลิกภาพ 11 ความห่วงใย 12 คุณค่า C I N T E R A C T I O N G O O Y U O M N C R B E T E N M M Y U V A L U E S M N N N I M R R S N N O U A N E V S Y U O B E T T E R C C C S T G N U B V A Y K F T Y I S G E I A C R T E D I U O A E G M C P G R T W O O N B D H J D A E N I Q N D G K N L S E P T B N I S I N C E R I T Y B I G O C S O M S M E N A G H O L
O P E R S O N A L I T Y N