หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ เรือ่ ง ประโยคทีใ่ ช้ในการสื่อสาร โดยใชว้ ิธกี ารจัดการเรยี นรู้
แบบร่วมมอื เทคนิค STAD เพ่ือพฒั นาความสามารถในการคดิ วิเคราะหแ์ ละการส่ือสาร
รายวชิ าภาษาไทย ท2๑10๒ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑
๘เรอื่ งที่
นางรณิชา จิตธรรมมา
ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ
โรงเรยี นแชแลพิทยานุสรณ์
สังกดั องคก์ ารบริหารสว่ นจังหวดั อดุ รธานี
ตาบลแชแล อาเภอกมุ ภวาปี จงั หวัดอุดรธานี
ประโยคเลือกอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเปน็ เหตุเป็นผล ก
คำนำ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ประโยคที่ใช้ในการส่ือสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้
แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพ่ือพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการส่ือสาร รายวิชา
ภาษาไทย ท2๑10๒ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ นี้ ผู้วิจัยจัดทาข้ึนโดยมีวัตถุประสงค์
เพ่ือใช้เป็นเคร่ืองมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษา
ปีท่ี ๑ เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการสื่อสารของผู้เรียน ซึ่งใช้กระบวนการ
จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนทางานเป็นกลุ่ม กระตุ้นให้ผู้เรียน
มที กั ษะการคดิ และการสอ่ื สาร สาหรบั หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นี้มที ง้ั หมด ๘ เร่ือง
เร่ืองที่ 1 ความหมายและชนดิ ของประโยคท่ใี ช้ในการสอ่ื สาร
เรอ่ื งท่ี 2 ลกั ษณะของประโยคความเดยี ว
เรื่องที่ 3 ประโยคบอกเลา่ และประโยคปฏิเสธ
เรือ่ งท่ี 4 ประโยคคาถามและประโยคคาสงั่
เรอ่ื งที่ 5 รปู ลักษณข์ องประโยคความรวม
เรื่องที่ 6 วิเคราะห์ความรสู้ ่ปู ระโยคความรวม
เร่อื งที่ ๗ ประโยคคลอ้ ยตามกัน และประโยคขดั แยง้ กัน
เรอ่ื งท่ี ๘ ประโยคเลือกอย่างใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเปน็ เหตุเปน็ ผล
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง ประโยคท่ีใช้ในการส่ือสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้
แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพ่ือพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการส่ือสาร รายวิชา
ภาษาไทย ท2๑10๒ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ แต่ละเรอื่ งจะมีแผนการจดั การเรียนรู้
เป็นค่มู อื ในการจัดกระบวนการเรียนรู้
ผูจ้ ดั ทาขอขอบพระคุณท่านผูอ้ านวยการโรงเรียนแชแลพิทยานุสรณ์ ผเู้ ชย่ี วชาญ คณะครู
นกั เรียน ตลอดจนผู้ทเี่ ก่ียวข้องทุกท่าน ท่ีใหค้ าแนะนาในการจัดทาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จนสาเร็จ
ลุล่วงไปด้วยดี ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสารน้ีจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้เรียน ครูผู้สอน
และผู้ที่สนใจนาไปใช้ในการพัฒนาเยาวชนไทย ให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้และนาความรู้
ไปประยุกตใ์ ช้ในการดารงชวี ิตไดอ้ ย่างมีความสขุ
รณชิ า จิตธรรมมา
ประโยคเลือกอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเป็นเหตุเปน็ ผล ข
สำรบัญ หนา้
เรือ่ ง ก
ข
คานา ค
สารบัญ ง
ข้นั ตอนการเรยี นจดั การเรียนรู้แบบร่วมมอื เทคนิค STAD ฉ
คาชแี้ จงการใช้หนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ ซ
คาแนะนาการใช้หนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์สาหรบั ครู ฌ
คาแนะนาการใช้หนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์สาหรับนักเรียน ญ
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ัด 1
จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๔
แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) 5
ขั้นท่ี 1 ขนั้ นาเสนอบทเรยี นทงั้ ช้ันเรยี น ๑๐
1๑
ใบความรู้ 1๒
ข้ันที่ 2 ข้นั เรียนกลมุ่ ย่อย ๑๓
๑๔
กจิ กรรมที่ 1 ๑๕
กจิ กรรมท่ี 2 ๑๖
กิจกรรมท่ี 3 ๑๙
ขน้ั ท่ี 3 ข้นั ทดสอบยอ่ ย ๒๐
กิจกรรมรายบุคคล ๒๑
แบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) ๒๒
ขน้ั ที่ 4 ขน้ั หาคะแนนพัฒนาการ ๒๓
ขัน้ ท่ี 5 ขน้ั ให้รางวลั กลุม่ ๒๔
บรรณานกุ รม ๒๘
ภาคผนวก ๒๙
- เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
- เฉลยกจิ กรรม
- เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
- แบบบนั ทกึ คะแนน
ประโยคเลือกอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง และประโยคเป็นเหตเุ ป็นผล ค
ข้ันตอนกำรเรยี นรแู้ บบร่วมมือดว้ ยเทคนคิ STAD
ศกึ ษำวธิ ีการเรยี นรแู้ บบรว่ มมือดว้ ยเทคนคิ
STAD สาระมาตรฐานการเรยี นรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
และคาชแ้ี จงการใชห้ นงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์
ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
(Pre-test)
ศกึ ษำบทเรียน
ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น ไมผ่ ่ำนกำรทดสอบ
(Post-test)
ผ่ำนกำรทดสอบ
ศกึ ษำเร่ืองใหม่
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเปน็ เหตุเป็นผล ง
คำช้แี จงการใช้หนงั สืออิเลก็ ทรอนกิ ส์
เรอื่ งท่ี ๘ ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง และประโยคเป็นเหตุเป็นผล
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ประโยคท่ีใช้ในการสื่อสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้
แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพ่ือพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการส่ือสาร รายวิชา
ภาษาไทย ท2๑10๒ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑ เร่ืองนี้ เป็นเร่ืองที่ ๘ ประโยคเลือก
อยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง และประโยคเป็นเหตเุ ป็นผล
จัดทาขึ้นเพ่ือใช้ประกอบการเรียนรายวิชาภาษาไทย ท๒๑๑๐๒ สาหรับนักเรียน
ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนแชแลพิทยานุสรณ์ โดยมุ่งพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์
และการสื่อสาร โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ซึ่งมีขั้นตอนการจัด
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๕ ขั้นตอน ดงั นี้
ข้ันที่ 1 ขน้ั นาเสนอบทเรยี นทงั้ ช้ันเรียน
ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนและนาเสนอเน้ือหาใหม่แก่นักเรียน
ด้วยวิธีสอนท่ีหลากหลาย และนักเรียนทุกคนต้องศึกษาเนื้อหาจากครูผู้สอน
อยา่ งต้งั ใจเพื่อใหเ้ ขา้ ใจและเกิดความรใู้ นเนอื้ หาใหม่
ข้ันท่ี 2 ขัน้ เรยี นกล่มุ ย่อย
แบง่ นกั เรียนออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ 5-6 คน คละตามความสามารถของนกั เรียน
คอื เกง่ 1 คน ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง 1-2 คน ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน 1-2 คน
และอ่อน 1 คน โดยสมาชิกทุกกลุ่มจะเรียนรแู้ ละทากิจกรรมดว้ ยการช่วยเหลือ
ซ่ึงกนั และกนั เด็กเรยี นเกง่ จะชว่ ยตรวจงานก่อนนาส่งครูและสอนเดก็ เรียนอ่อน
ขณะเดียวกันเด็กเรียนอ่อนก็มีโอกาสได้พัฒนาตนเอง สมาชิกแต่ละคนต้อง
พยายามต้ังใจเรยี นและรว่ มกจิ กรรมใหด้ ที ่สี ุดเพ่ือชัยชนะของกลมุ่
ข้นั ท่ี 3 ขน้ั ทดสอบยอ่ ย
นกั เรยี นทาแบบทดสอบรายบคุ คลและแบบทดสอบหลงั เรยี น โด ย ไม่ ซั ก ถ า ม
เพื่อนในกลุ่มและต้องแข่งขันกับตนเองโดยทาคะแนนความก้าวหน้า (คะแนน
ความแตกตา่ งระหวา่ งก่อนเรยี นและหลงั เรยี น) ให้ดีทีส่ ุด
ประโยคเลอื กอย่างใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเป็นเหตเุ ปน็ ผล จ
ขั้นที่ 4 ขนั้ หาคะแนนพัฒนาการ
สมาชกิ ในกลุ่มตรวจคาตอบ ดังน้ี
1. นักเรียนแลกเปลี่ยนกจิ กรรมรายบุคคล ระหว่างกล่มุ เพอ่ื ตรวจให้คะแนน
2. นกั เรียนแลกเปล่ยี นแบบทดสอบหลังเรียนระหวา่ งกลมุ่ เพอ่ื ตรวจใหค้ ะแนน
3. บันทึกคะแนนจากกิจกรรมรายบุคคล และคะแนนแบบทดสอบหลังเรียน
ในแบบบนั ทกึ เพ่ือหาคะแนนความกา้ วหนา้ รายบคุ คล
4. นาคะแนนความก้าวหน้ารายบุคคลบันทึกลงในแบบบันทึกคะแนน
ความกา้ วหนา้ รายกลุ่มเพื่อหาคะแนนความกา้ วหน้าเฉล่ยี รายกล่มุ
ขั้นท่ี 5 ขน้ั ใหร้ างวลั กลุ่ม
ครูประกาศชื่อกลุ่มและรายชื่อสมาชิกของกลุ่มท่ีมีคะแนนความก้าวหน้าหรือ
ผลสมั ฤทธ์ิสงู ทีส่ ุดเปน็ ผู้ชนะ และให้กาลังใจด้วยการยกยอ่ งชมเชย ปิดประกาศ
ช่ือกลมุ่ สมาชิกและผลงานไวท้ ป่ี ้ายนิเทศหนา้ ชัน้ เรียน หรอื ให้รางวลั
ประโยคเลือกอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง และประโยคเป็นเหตเุ ปน็ ผล ฉ
คำแนะนำกำรใช้หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
สำหรบั ครู
1. ครูแจ้งรายละเอียดและวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
เรอ่ื ง ประโยคท่ีใช้ในการสื่อสาร โดยใช้วิธีการจดั การเรยี นร้แู บบร่วมมอื เทคนิค STAD เพอ่ื พฒั นา
ความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการสื่อสาร รายวิชาภาษาไทย ท2๑10๒ สาหรับนักเรยี น
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ให้นกั เรยี นเขา้ ใจอยา่ งละเอียด
2. ครูนาเข้าส่บู ทเรยี นและแจ้งจุดประสงคใ์ นการเรยี น
3. ครูวางแผนการจัดกลุ่มนักเรียนสาหรับการเรียนด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง
ประโยคท่ีใช้ในการสื่อสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพ่ือพัฒนา
ความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการสื่อสารไว้ล่วงหน้า โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม
กลุ่มละ 5-6 คน คละตามความสามารถของนักเรียน คือ เก่ง 1 คน ปานกลางค่อนข้างเก่ง
1-2 คน ปานกลางค่อนข้างอ่อน 1-2 คน และอ่อน 1 คน ให้นักเรียนร่วมกันตั้งช่ือกลุ่ม
ให้สมาชกิ ไดม้ โี อกาสเปลีย่ นกลุม่ 1-2 สปั ดาห์ต่อครัง้ เพอื่ สง่ เสริมการทางานรว่ มกันเป็นกลมุ่ และ
การมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีระหว่างสมาชิก จากนั้นครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของ
นักเรยี น
4. ครูอธิบายวิธีการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ประโยคท่ีใช้ในการสื่อสาร โดยใช้
วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวเิ คราะห์และ
การสื่อสาร ให้นักเรียนทกุ คนเข้าใจ
5. ครูให้โอกาสนักเรียนที่ไม่เข้าใจได้ซักถามเก่ียวกับวิธีการเรียน ขั้นตอนการใช้
หนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์ หรอื บทบาทของนกั เรยี นเอง ตลอดจนขอ้ ขอ้ งใจอน่ื ๆ
6. ก่อนเรียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แต่ละชุดต้องให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน
และครูแจ้งคะแนนฐานแก่นักเรียนทุกคนโดยนาคะแนนฐานมาคิดเป็นร้อยละและให้แต่ละคน
บันทกึ คะแนนฐานของตนไว้
7. ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคกลุ่มสัมฤทธิ์ ให้กับนักเรียนตาม
ขน้ั ตอน ดังน้ี
7.1 ขั้นท่ี 1 ข้ันนาเสนอบทเรียนท้ังช้นั เรียน
ครูทบทวนความรูเ้ ดมิ ของนกั เรยี นและสอนเนื้อหาใหม่แกน่ ักเรียนด้วยวิธี
สอนทหี่ ลากหลาย และนักเรยี นทกุ คนตอ้ งศึกษาเนื้อหาจากครูผู้สอนอย่างตั้งใจ เพื่อให้เข้าใจและ
เกิดความรู้ในเน้อื หาใหม่
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเป็นเหตเุ ป็นผล ช
7.2 ขั้นท่ี 2 ขนั้ เรยี นกลุ่มยอ่ ย
แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน คละตามความสามารถของ
นักเรียน คือ เก่ง 1 คน ปานกลางค่อนข้างเก่ง 1-2 คน ปานกลางค่อนข้างอ่อน 1-2 คน
และอ่อน 1 คน โดยสมาชิกทุกกลุ่มจะเรียนรู้และทากิจกรรมด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เด็กเรียนเก่งจะช่วยตรวจงานก่อนนาส่งครูและสอนเด็กเรียนอ่อน ขณะเดียวกันเด็กเรียนอ่อน
ก็มีโอกาสได้พัฒนาตนเอง สมาชิกแต่ละคนต้องพยายามตั้งใจเรียนและร่วมกิจกรรมให้ดีท่ีสุด
เพ่อื ชยั ชนะของกลุม่
7.3 ขั้นที่ 3 ขั้นทดสอบยอ่ ย
นักเรียนทาแบบทดสอบรายบุคคล และแบบทดสอบหลังเรียน
โดยไม่ซักถามเพ่ือนในกลุ่มและต้องแข่งขันกับตนเองโดยทาคะแนนความก้าวหน้า (คะแนน
ความแตกต่างระหวา่ งกอ่ นเรียนและหลังเรียน) ให้ดีทส่ี ดุ
7.4 ข้นั ท่ี 4 ขน้ั หาคะแนนพฒั นาการ
สมาชิกในกลุ่มตรวจคาตอบด้วยตนเอง หรือแลกเปลีย่ นกับเพื่อนในกลุ่ม
หรือต่างกลุ่มตรวจคาตอบ แล้วพิจารณาผลสัมฤทธ์ิของผู้เรียนจากคะแนนที่ได้ในการทดสอบ
หลังเรียนกับส่วนต่างของคะแนนที่ได้จากการทดสอบกอ่ นเรียน ในลกั ษณะรายคน และเป็นกลุ่ม
สาหรบั ผลสัมฤทธิ์เปน็ กลมุ่ จะพิจารณาจากคะแนนความกา้ วหนา้ ของแต่ละคนทไ่ี ดส้ งู ข้นึ
7.5 ข้ันท่ี 5 ข้นั ใหร้ างวลั กลมุ่
ครูประกาศช่ือกลุ่มและรายช่อื สมาชิกของกลุ่มท่ีมคี ะแนนความก้าวหน้า
หรือผลสัมฤทธ์ิสูงท่ีสุดเป็นผู้ชนะ และให้กาลังใจด้วยการยกย่องชมเชย ปิดประกาศชื่อกลุ่ม
สมาชกิ และผลงานไวท้ ่ปี ้ายนเิ ทศหนา้ ช้ันเรียน หรอื ใหร้ างวัล
8. ถ้านักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ที่ระบุไว้ ครูควรหาเวลาให้นักเรียนกลับไปศึกษากิจกรรม
นนั้ ๆ ใหม่ แล้วทาแบบทดสอบหลงั เรยี นให้ผ่านเกณฑ์ทีก่ าหนดไว้
9. ครแู จ้งคะแนนการประเมิน พฤติกรรมการทางานด้วยกระบวนการกลุ่ม และคะแนน
การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พร้อมให้ข้อเสนอแนะและคาแนะนาในการเรียน
ครงั้ ต่อไป
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเป็นเหตเุ ปน็ ผล ซ
คำแนะนำกำรใช้หนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์
สำหรบั นักเรียน
หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์นี้ จัดทาข้ึนเพื่อใช้เป็นสื่อการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้หนงั สือ
อิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ประโยคที่ใช้ในการส่ือสาร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค
STAD เพือ่ พัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการส่ือสาร รายวิชาภาษาไทย ท2๑10๒
สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้เวลา 2 ช่ัวโมง หรือนักเรียนสามารถนาไปศึกษา
เพม่ิ เติม เป็นการทบทวนนอกเวลาเรียน เพอื่ ใหเ้ กิดการเรียนรู้ท่ีดีและไดร้ ับประโยชน์สูงสดุ ในการ
เรียนรู้ นักเรียนควรปฏิบัติตามคาแนะนา แต่ละขั้นตอนต้ังแต่ต้นจนจบ นักเรียนจะได้ความรู้
อย่างครบถว้ น โดยปฏบิ ัติตามขนั้ ตอนตอ่ ไปนี้
1. หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ ส์นม้ี ที ั้งหมด ๘ เรื่อง
2. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์น้ี เป็นเร่ืองที่ ๘ ประโยคเลือกอย่างใดอย่างหน่ึง และประโยค
เปน็ เหตเุ ป็นผล
3. ข้นั ตอนการใช้หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์
3.1 ศกึ ษาคาแนะนาการใช้หนังสอื อิเล็กทรอนิกส์
3.2 ศึกษาสาระสาคญั ของหนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์
3.3 ศกึ ษาจุดประสงค์การเรยี นรู้ของหนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์
3.4 ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test)
3.5 ศึกษาและทาความเข้าใจกับเน้ือหาในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เร่ืองท่ี ๘ ประโยค
เลือกอยา่ งใดอย่างหน่ึง และประโยคเปน็ เหตุเป็นผล
3.6 ทากิจกรรมตามลาดับขนั้ ตอนการทากิจกรรม
3.7 ทาแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test)
3.8 รว่ มตรวจคาตอบกับเฉลยในภาคผนวก
3.9 ร่วมตรวจคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เม่ือเรียนจบแต่ละเร่ือง
เพื่อวดั ความร้ทู ่ีพัฒนาข้ึนในเรอื่ งนนั้ ๆ
4. นักเรียนสามารถยืมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์น้ีไปศึกษาเพิ่มเติมที่บ้านได้ และนาส่งคืน
ตามกาหนดเวลา
ประโยคเลือกอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ และประโยคเป็นเหตุเปน็ ผล ฌ
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้และตัวชี้วดั
สำระที่ ๑ กำรอำ่ น
มำตรฐำน ท ๑.๑
ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา
ในการดาเนนิ ชวี ิตและมนี ิสัยรกั การอ่าน
ตวั ชวี้ ัด
ม.๑/๓ วเิ คราะห์และวจิ ารณ์เรื่องที่อ่านในทกุ ๆ ดา้ นอยา่ งมีเหตุผล
ม.๑/๕ วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่องที่อ่านโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ
เพอ่ื ให้ผู้อา่ นเข้าใจไดด้ ีข้นึ
ม.๑/๗ วิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล การลาดบั ความ และความเปน็ ไปได้ ของเร่ือง
ม.๑/๘ วิเคราะห์เพอ่ื แสดงความคิดเหน็ โต้แยง้ เก่ียวกับเรอ่ื งที่อ่าน
สาระท่ี ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑
ใช้กระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว
ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั
ม.๑/๒ เขยี นขอ้ ความโดยใชถ้ ้อยคาได้ถูกต้องตามระดบั ภาษา
ม.๑/๖ เขยี นอธิบาย ช้ีแจง แสดงความคิดเห็น และโตแ้ ยง้ อย่างมเี หตผุ ล
ม.๑/๗ เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ความคิดเห็นหรือโต้แย้งในเร่ือง
ต่าง ๆ
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ และประโยคเป็นเหตเุ ปน็ ผล ญ
จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ด้านความรู้ (K)
1) อธิบายความหมายและยกตวั อย่างประโยคความรวมท่ีมีเน้ือความเลือกอยา่ งใดอย่าง
หนง่ึ และเปน็ เหตเุ ป็นผลได้ถูกตอ้ ง
2) วิเคราะห์รูปแบบหรือรูปของประโยคความรวมที่มีเนื้อความเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
และเปน็ เหตเุ ป็นผลได้
2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1) อา่ น เขียนขอ้ ความ เขยี นประโยคและใช้ประโยคความรวมท่ีมีเนื้อความเลอื กอยา่ งใด
อย่างหนง่ึ และเปน็ เหตุเป็นผลได้เพ่อื การสอื่ สารได้
๒) ปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลุ่มรว่ มกนั ได้
3. ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
มีมารยาทในการเขียน มีความรับผิดชอบ มีความมุ่งม่ันในการทางาน และให้ความ
รว่ มมอื ในการจดั กิจกรรมการเรียนร้แู ละรบั ฟังความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื
สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด
ประโยคท่ีใช้ส่ือสารในภาษาไทยน้ันมีหลายชนิดและหลายความหมาย ซึ่งประโยค
แต่ละชนิดนั้นมีวัตถุประสงค์ของการสื่อสารท่ีแตกต่างกัน การศึกษาชนิดและลักษณะของ
ประโยค เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นประโยคชนิดใด มีเจตนาในการส่ือสารอย่างไร จึงเป็นส่ิงจาเป็น
เพราะจะทาใหส้ ามารถใช้ประโยคเพื่อการสอ่ื สารได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ประโยคเลือกอย่างใดอยา่ งหนงึ่ และประโยคเป็นเหตเุ ปน็ ผล ๑
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test)
หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เรอ่ื ง ประโยคที่ใชใ้ นการสอ่ื สาร โดยใชว้ ิธกี ารจดั การเรยี นรู้
แบบร่วมมอื เทคนคิ STAD เพ่ือพัฒนาความสามารถในการคดิ วิเคราะห์และการส่ือสาร
รายวชิ าภาษาไทย ท2๑10๒ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เร่อื งที่ ๘ ประโยคเลอื กอยา่ งใดอย่างหน่ึง และประโยคเปน็ เหตเุ ป็นผล
คาช้ีแจง: 1. แบบทดสอบเปน็ แบบปรนยั ชนดิ 4 ตัวเลือก มีจานวน 10 ขอ้
คะแนนเต็ม 10 คะแนน
2. ให้นักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องท่ีสดุ แล้วเขียนเครือ่ งหมาย X
ทบั ข้อท่ีนักเรียนเลือกลงในกระดาษคาตอบ
__________________________________________
1. ประโยคใดไมเ่ ปน็ ประโยคชนิดเดียวกบั ประโยค “ฉันจะไปเทย่ี วหา้ งสรรพสนิ ค้า”
ก. ฉนั ชอบไปเท่ียวหา้ งสรรพสินค้า
ข. ใครจะไปเท่ียวหา้ งสรรพสนิ ค้าบ้าง
ค. ฉนั ทางานอยู่ทหี่ ้างสรรพสินคา้
ง. ฉันอยากไปซอื้ ของท่ีหา้ งสรรพสนิ คา้
2. ข้อใดเป็นประโยคความรวม
ก. มานีและมานะไปเท่ยี วสวนสัตว์
ข. มะลขิ ยันเรียนมากกว่าใคร ๆ
ค. มาลีชอบอ่านหนังสือประเภทลึกลบั
ง. มนี าชอบเสอ้ื สดี า
3. ข้อใดเป็นประโยคความรวมทมี่ ีเนอื้ ความให้เลือกอย่างใดอยา่ งหนึ่ง
ก. เธอจะอย่หู รอื เธอจะไปกไ็ ม่มผี ลตอ่ ฉัน
ข. ทกุ คนไปกนั หมดยกเวน้ เธอคนเดยี ว
ค. สมบตั ิทางานหนกั แมก้ ระน้ันเขาก็ยงั ยากจน
ง. เขาต้องชดใช้คา่ เสยี หาย มิฉะนั้นจะถกู ไลอ่ อกจากบริษัท
4. "สมหวังขยันอา่ นหนงั สือจงึ สอบไดค้ ะแนนดี" เป็นประโยคชนดิ ใด
ก. ประโยคความเดียว
ข. ประโยคความรวม
ค. ประโยคความซ้อน
ง. ประโยคแสดงความตอ้ งการ
ประโยคเลอื กอย่างใดอย่างหน่งึ และประโยคเปน็ เหตุเปน็ ผล ๒
5. ประโยคข้อใดมีเนอื้ ความเป็นเหตุเป็นผล
ก. กอ้ ยและกุ้งน่งั ลอกการบ้าน
ข. กอ้ ยจะให้กุง้ ลอกการบา้ นหรือไม่
ค. กอ้ ยขยนั ทาการบา้ นแต่ก้งุ ชอบลอกการบา้ น
ง. กอ้ ยบอกใหก้ ุ้งขยันทาการบา้ นเพราะกลัวสอบตก
6. ขอ้ ใดมลี กั ษณะเหมือนประโยค “จะไปดหู นงั หรอื ดูละคร”
ก. การเดนิ เล่นตอนเช้าทเี่ ป็นการออกกาลังกาย
ข. ใครท่ีไมเ่ คยเลน่ กีฬาน่าจะลองเลน่ ดู
ค. เขาเลือกอา่ นหนงั สอื แทนที่จะไปเล่นกับเพ่ือน
ง. คณุ พ่อใหร้ างวลั เขาท่ีสอบคะแนนดี
7. ประโยคข้อใดมใี จความเหมือนกบั “ฝนไมต่ กชาวนาจึงวา่ งงาน”
ก. พอ่ ตกงานจงึ ไม่มรี ายได้ประจา
ข. พ่อและแมอ่ ยู่อยา่ งพอเพยี ง
ค. ทัง้ พอ่ และแม่เดนิ ตามรอยพ่อหลวง
ง. พ่อปลูกผักและเล้ยี งสตั ว์ยดึ หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง
8. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระโยคเปน็ เหตุเป็นผล
ก. เธอน่ังหลบั ในช่ัวโมงเรียนเพราะนอนดึก
ข. ไม่เธอกฉ็ นั จะตอ้ งน่งั หลบั ในช่ัวโมงเรยี น
ค. เธอไม่ไดน้ งั่ หลบั ในช่ัวโมงเรียนเพราะนอนหัวค่า
ง. ฉนั นอนแตห่ วั คา่ จึงไมห่ ลบั ในช่วั โมงเรยี น
9. “............น้องชายด้ือมาก แม่ ........... ลงโทษอยู่เป็นประจา” เติมคาสันธานในข้อใดทาให้ประโยค
สมบรู ณ์
ก. ด้วย.......หรือ
ข. ไม่เชน่ น้ัน........จึง
ค. เพราะ........จึง
ง. เหตเุ พราะ........แลว้
10. เติมคาในขอ้ ใดจึงจะทาให้ประโยคสมบูรณ์ ลมกรรโชกแรง ต้นไม้.......โคน่
ก. และ
ข. ดว้ ย
ค. จงึ
ง. หรือ
ประโยคเลือกอย่างใดอยา่ งหนึ่ง และประโยคเปน็ เหตเุ ป็นผล ๓
กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test)
ชื่อ _________________________ นามสกุล___________________
เลขท่ี _______________________ ชัน้ ________________________
วิชา _______________________ วันท_่ี ______________________
ขอ้ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
๖
๗
๘
๙
๑๐
คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน
คะแนนทไ่ี ด้.....................................คะแนน
(ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ ๘๐)
ประโยคเลอื กอย่างใดอย่างหน่งึ และประโยคเปน็ เหตเุ ป็นผล ๔
นกั เรยี นทุกคนตอ้ งศกึ ษาเนื้อหาจากครูผู้สอนอย่างตั้งใจ
เพ่ือใหเ้ ข้าใจและเกิดความรใู้ นเนื้อหาใหมท่ ่ีครูเป็นผู้นาเสนอ
ประโยคเลือกอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเป็นเหตเุ ป็นผล ๕
ใบความรทู้ ี่ 1
ประโยคความรวมท่มี ีเนื้อความเลอื กอย่างใดอยา่ งหนึง่
ความหมายของประโยคความรวมท่ีมีเนื้อความเลือกอยา่ งใดอย่างหน่ึง
ประโยคความรวมท่ีมีเนื้อความเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ประโยคชนิดนี้เป็นประโยค
ความเดียวที่ประโยคหน้าและประโยคหลัง มาเช่ือมกันมีเน้ือความเลือกอย่างใดอย่างหน่ึง
โดยจะมีคาสันธานเป็นตัวเชื่อมคาสนั ธานท่ีใชเ้ ชอ่ื ม ไดแ้ ก่ มิฉะนนั้ หรอื หรอื ว่า ไม่เชน่ นั้น ฯลฯ
ตัวอยา่ งประโยค
- เธอชอบดหู นงั หรอื ดูละคร
- พ่จี ะไปกบั เพ่อื นหรือวา่ จะไปกับน้อง
- นกั เรยี นตอ้ งทาการบ้านให้เสร็จมฉิ ะนนั้ จะถกู ครลู งโทษ
- ไม่เธอก็ฉนั ทีต่ ้องเปน็ ฝา่ ยไปพบกับคณุ ครปู ระจาชั้น
คาทีเ่ ปน็ ตัวหนา เป็นคาสันธาน ที่ใช้เชือ่ มประโยค ประโยคชนิดนี้ มชี ่อื เรียกอีกอย่างหนึ่ง
ว่า วิกลั ปาเนกรรถประโยค
เพอ่ื น ๆ พอจะเขา้ ใจหรือยงั คะ
ถา้ ไมเ่ ข้าใจเราไปศกึ ษา
เรอื่ งตอ่ ไปเพิ่มเติมค่ะ
ประโยคเลอื กอย่างใดอย่างหน่งึ และประโยคเป็นเหตุเปน็ ผล ๖
สรุปเกร็ดความรู้ท้ายบทเรียน
สรุป
ประโยคท่ีมีเนื้อความเลือกอย่างใดอย่างหน่ึง เกิดจาก
ประโยคความเคียว สองประโยคมารวมกัน (เช่ือมกัน)
คาที่เป็นคาเชื่อม เรียกว่า คาสันธาน เมื่อเช่ือมกันแล้วจะทา
ให้มีเนื้อความเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง คาสันธานท่ีใช้เช่ือม
ได้แก่ หรือ หรือว่า มิฉะนน้ั ไม่เช่นนัน้ เป็นตน้
ขอ้ ควรรู้
ประโยคท่ีมีเนื้อความเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เรียกอีกอย่างหน่ึง
ว่า วิกลั ปานนกรรถประโยค
เพอ่ื น ๆ คงจะเขา้ ใจบ้างแล้วนะครับ
ประโยคเลอื กอย่างใดอย่างหนง่ึ และประโยคเป็นเหตเุ ปน็ ผล ๗
ใบความรทู้ ี่ ๒
ประโยคทม่ี ีเนอ้ื ความแสดงเหตุแสดงผล
ความหมายของประโยคท่ีมเี น้ือความแสดงเหตุแสดงผล
ประโยคความรวมท่ีมีเน้ือความเป็นเหตุเป็นผล (เหตวาเนกรรถประโยค) ประโยคชนิดนี้
มีใจความแสดงเหตุและผลซ่ึงกันและกัน เกิดจากการนาประโยคความเดียวต้ังแต่ 2 ประโยค
ข้นึ ไปมารวมกันและใชค้ าสนั ธานเป็นตวั เชือ่ มประโยค
สันธานที่ใช้เชื่อมประโยคชนิดนี้ ได้แก่ จึง, เพราะ, เพราะ.......เหตุว่า, ดังน้ัน....จึง,
เพราะ....จงึ
ตวั อย่างตาราง
ประโยคความรวมท่ีมีเนอ้ื ความ ประโยคความเดียว คาสันธาน ประโยคความเดยี ว
เปน็ เหตเุ ป็นผล จึง ฉันมาสาย
เพราะ เขาเปน็ คนเกเร
วันนีร้ ดติดมากฉนั จงึ มาสาย วนั นี้รถติดมาก เพราะ...จึง เธอไมเ่ ข้าใจ
ฉนั ไม่รักเขาเพราะเขาเปน็ คนเกเร ฉนั ไมร่ ักเขา ดงั นนั้ ....จงึ เขาสอบเข้า
มหาวิทยาลัยได้
เพราะเธอไม่อ่านหนงั สือจงึ ไม่ เธอไม่อา่ นหนงั สือ
เข้าใจ
พ่ีชายเป็นคนขยันดังนั้นเขาจึงสอบ พี่ชายเป็นคนขยัน
เข้ามหาวิทยาลยั ได้
เพ่ือน ๆ พอจะเขา้ ใจหรือยังคะ
ถา้ ไม่เข้าใจเราไปศกึ ษากัน
เพ่ิมเติมค่ะ
ประโยคเลอื กอย่างใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเป็นเหตเุ ป็นผล ๘
เพอ่ื น ๆ ศกึ ษาเรื่องประโยคทมี่ ีเน้ือความ
แสดงเหตุแสดงผลเสรจ็ แลว้ คงจะเขา้ ใจ
และใช้ประโยคไดถ้ ูกตอ้ งนะครบั
ขอ้ สังเกต
1. ประโยคชนิดนี้เกิดจากประโยคความเดียว 2 ประโยค
มารวมกนั ดงั นัน้ สามารถแยกประโยคย่อยได้ 2 ประโยค โดยที่
เนอ้ื ความไม่เปล่ยี นแปลง
2. คาสันธานที่ใช้เช่ือม ทาให้ประโยคมีความเป็นเหตุ
เป็นผลกัน
3. เหตุมาก่อนผลให้สังเกต คาเช่ือม ดังนั้น จึง ก็เลย
เพราะฉะน้นั
4. ผลมาก่อนเหตุให้สังเกตคาเช่ือม เพราะ เนื่องจาก
ด้วย เพราะว่า
ประโยคเลอื กอย่างใดอยา่ งหน่ึง และประโยคเปน็ เหตุเปน็ ผล ๙
สรปุ เกร็ดความรู้ท้ายบทเรยี น
สรุป
ประโยคท่ีมีเนื้อความเป็นเหตุเป็นผลกัน เป็นประโยค
ความรวมท่ีเกิดจากประโยคความเคียว 2 ประโยคมารวมกัน
(เช่ือมกัน) โดยมีคาสันธานที่ ใช้เช่ือม ได้แก่ เพ ราะ ,
เพราะ....จงึ , เพราะว่า, เพราะฉะน้นั ........จึง เปน็ ต้น
ขอ้ ควรรู้
ประโยคที่มีเน้ือความเป็นเหตุเป็นผลกัน เรียกอย่างหนึ่งว่า
เหตวาเนกรรถประโยค
เพอ่ื น ๆ คงจะเขา้ ใจบา้ งแล้วนะครับ
ประโยคเลอื กอย่างใดอย่างหนึง่ และประโยคเปน็ เหตเุ ป็นผล ๑๐
ขั้นน้ีแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มคละตามความสามารถของ
นักเรียน คือ เก่ง ปานกลาง และอ่อน โดยสมาชิกทุกกลุ่มจะเรียนรู้
และทากิจกรรมด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ละคนต้อง
พยายามต้ังใจเรียนและร่วมกิจกรรมให้ดีท่ีสุด เพื่อชัยชนะของกลุ่ม
โดยในขั้นตอนน้ี นกั เรียนในกลุ่มต้องร่วมกันศึกษาเน้ือหาในใบความรู้
ของบทเรียนอีกคร้ัง พร้อมทั้งร่วมทากิจกรรมรายกลุ่ม พร้อมกับ
การเฉลย เพื่อใหส้ มาชิกในกลมุ่ เกิดความเขา้ ใจในเนือ้ หา และพร้อมที่
จะทากจิ กรรมรายบุคคลต่อไป
ประโยคเลือกอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ และประโยคเปน็ เหตเุ ปน็ ผล ๑๑
กิจกรรมที่ ๑
คาชี้แจง : ให้นักเรียนเติมคาสันธานเช่ือมประโยคให้มีเน้ือความเลือกอย่างใดอย่างหน่ึง
(10 คะแนน)
1. ลกู ๆ ไปโรงเรียน ..................... อยบู่ ้าน
2. เขาไปหาเพ่ือนท่ีบ้าน ...................... ท่โี รงเรยี น
3. เธอจะไปหาหมอที่อนามัย ..................... คลินกิ ในเมือง
4. เธอจะกบั ฉนั ..................... ไปกับเขา
5. นกั เรียนต้องกินข้าวให้หมดจาน ..................... จะถกู ลงโทษ
6. มานะชอบเลน่ ฟตุ บอล ..................... ชอบเล่นตะกร้อ
๗. หากลูกไมช่ ว่ ยแม่ทางานบ้าน ..................... ก็ไปชว่ ยพ่อปลกู ผกั
8. ดวงแก้วเป็นคนจน ..................... วา่ เป็นลกู เศรษฐี
9. นกั เรียนชายชอบเล่นเตะฟุตบอล ..................... ชอบกระโดดยาง
10. เขาจะอ่านหนงั สือ ..................... ชว่ ยงานครทู ห่ี อ้ งสมุด
ถา้ ทากิจกรรมที่ 1 เสร็จแล้ว
เรามาร่วมกันเฉลยกจิ กรรม
จากนน้ั ไปทากจิ กรรมท่ี 2
กนั ต่อนะครับ
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเปน็ เหตุเป็นผล ๑๒
กิจกรรมท่ี ๒
คาช้ีแจง : ให้นักเรียนทาเคร่ืองหมาย ลงใน () ประโยคความรวมทีม่ ีเนอื้ ความเลอื กอย่างใด
อย่างหนึ่งให้ และทาเครื่องหมาย X ลงใน (X) ที่ไม่ใช่ประโยคความรวมเลือกอย่างใด
อย่างหนง่ึ (10 คะแนน)
(.................) ๑. เธอไปโรงเรยี นแลว้ หรือ
(.................) 2. วรี ะหรือวา่ เธอไม่ทาการบา้ นมา
(.................) 3. นกั เรยี นจะเข้าแถวหรือหลบอยู่ในหอ้ งน้า
(.................) 4. นักเรียนชอบเรยี นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ
(.................) 5. ไมเ่ ช่นน้ันเขากต็ อ้ งเป็นคนบ้าแนน่ อน
(.................) 6. ลกู ตอ้ งทาการบ้านใหเ้ สร็จไม่เช่นน้ันจะไม่พาไปเทีย่ ว
(.................) 7. ออ้ ยมีรสหวานหรอื ว่าเปรยี้ ว
(.................) 8. ชา้ งหรือยีราฟทมี่ ีน้าหนักมากกว่ากนั
(.................) 9. วินกบั เวยี ร์ใครหล่อกวา่ กัน
(.................) 10. แพนจะเลอื กใครระหว่างมาวนิ กับเวียร์
ถา้ ทากิจกรรมท่ี ๒ เสร็จแล้ว
เรามาร่วมกนั เฉลยกิจกรรม
จากนน้ั ไปทากจิ กรรมที่ ๓
กนั ตอ่ นะคะ
ประโยคเลือกอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ และประโยคเปน็ เหตุเปน็ ผล ๑๓
กิจกรรมที่ ๓
คาชี้แจง : ให้นักเรียนแยกประโยคความรวมต่อไปน้ี ให้เป็นประโยคความเดียวให้ถูกต้อง
(10 คะแนน)
1. เพราะเขาไมส่ นใจเรียนหนังสอื จงึ สอบตก
ประโยคความเดียว ๑. ...............................................................................................
๒. ...............................................................................................
..........................................................................................................................................
๒. ลูกกลบั บ้านไม่ตรงเวลาแม่จึงวา่ กล่าวตักเตอื น
ประโยคความเดยี ว ๑. ...............................................................................................
๒. ...............................................................................................
๓. เพราะนักเรยี นไมท่ าความสะอาดห้องเรยี นจึงถูกครลู งโทษ
ประโยคความเดียว ๑. ...............................................................................................
๒. ...............................................................................................
๔. จักรยานของแดงยางแตกจงึ ตอ้ งเดินมาโรงเรยี น
ประโยคความเดยี ว ๑. ...............................................................................................
๒. ...............................................................................................
๕. เพราะพ่อเลิกดมื่ เหลา้ จงึ มเี งนิ เกบ็
ประโยคความเดียว ๑. ...............................................................................................
๒. ...............................................................................................
ถา้ ทากิจกรรมท่ี ๓ เสร็จแล้ว
เรามารว่ มกันเฉลยกจิ กรรม
จากน้นั ไปทากจิ กรรมรายบคุ คล
กันตอ่ นะครบั
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอย่างหนึ่ง และประโยคเป็นเหตเุ ปน็ ผล ๑๔
สมาชกิ แตล่ ะคนตอ้ งปฏบิ ัตดิ ังนี้
1. ทากิจกรรมรายบคุ คล
2. ทาแบบทดสอบหลังเรยี นประจาบทเรียน
3. การทากจิ กรรมรายบุคคลและแบบทดสอบหลงั เรยี นคร้ังนี้
นักเรยี นแต่ละคนจะไมไ่ ดร้ ับอนุญาตใหช้ ่วยเหลือซึ่งกนั และกนั
ประโยคเลือกอย่างใดอยา่ งหน่ึง และประโยคเปน็ เหตุเป็นผล ๑๕
กิจกรรมรายบุคคล
คาชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านข้อความที่กาหนดให้แล้วเขียนข้อความที่เป็นเหตุ และข้อความ
ทเ่ี ป็นผลใหถ้ ูกต้อง (10 คะแนน)
ตัวอยา่ ง “ป้อมเปน็ เดก็ ดเี พือ่ น ๆ ในห้องจึงรักเขา”
ข้อความทเี่ ป็นเหตุ ปอ้ มเปน็ เดก็ ดี
ขอ้ ความท่ีเปน็ ผล เพื่อน ๆ ในหอ้ งจึงรัก
1. เพราะฝนตกหนักน้าจึงท่วมบ้านแชแล
ข้อความที่เปน็ เหตุ ......................................................................................................
ขอ้ ความทเ่ี ปน็ ผล ......................................................................................................
๒. ปัญญาไม่ไปโรงเรยี นเพราะเปน็ ไข้หวดั ใหญ่
ข้อความทเ่ี ปน็ เหตุ ......................................................................................................
ขอ้ ความทเี่ ปน็ ผล ......................................................................................................
๓. มาลีเป็นเดก็ ท่ขี ยนั เรียนหนงั สือมากเพราะฉะนัน้ เธอจงึ สอบได้ท่ี 1 ทกุ คร้งั
ขอ้ ความทเ่ี ปน็ เหตุ ......................................................................................................
ข้อความทเี่ ปน็ ผล ......................................................................................................
๔. ฉันนอนตน่ื สายเพราะนอนดึก
ขอ้ ความที่เป็นเหตุ ......................................................................................................
ข้อความที่เปน็ ผล ......................................................................................................
๕. เขาเคยยากจนมากอ่ นเพราะฉะน้ันจงึ รคู้ ุณคา่ ของเงิน
ข้อความที่เปน็ เหตุ ......................................................................................................
ขอ้ ความทเี่ ปน็ ผล ......................................................................................................
ประโยคเลอื กอย่างใดอย่างหน่ึง และประโยคเป็นเหตุเป็นผล ๑๖
แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test)
หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ เรื่อง ประโยคท่ใี ช้ในการส่อื สาร โดยใช้วิธกี ารจดั การเรียนรู้
แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพอื่ พัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะหแ์ ละการส่ือสาร
รายวิชาภาษาไทย ท2๑10๒ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑
เรื่องที่ ๘ ประโยคเลือกอยา่ งใดอย่างหนึ่ง และประโยคเปน็ เหตเุ ปน็ ผล
คาช้แี จง: 1. แบบทดสอบเป็นแบบปรนยั ชนดิ 4 ตัวเลือก มีจานวน 10 ข้อ
คะแนนเตม็ 10 คะแนน
2. ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถกู ต้องทีส่ ุด แลว้ เขียนเครอ่ื งหมาย X
ทบั ข้อท่นี ักเรยี นเลือกลงในกระดาษคาตอบ
__________________________________________
1. ข้อใดเป็นประโยคความรวม
ก. มานีและมานะไปเที่ยวสวนสัตว์
ข. มะลขิ ยนั เรยี นมากกวา่ ใคร ๆ
ค. มาลีชอบอ่านหนงั สอื ประเภทลึกลับ
ง. มีนาชอบเสื้อสีดา
2. ประโยคใดไม่เปน็ ประโยคชนิดเดยี วกบั ประโยค “ฉนั จะไปเท่ยี วหา้ งสรรพสินค้า”
ก. ฉนั ชอบไปเท่ยี วห้างสรรพสนิ ค้า
ข. ใครจะไปเทยี่ วห้างสรรพสนิ ค้าบา้ ง
ค. ฉนั ทางานอยทู่ ่ีหา้ งสรรพสนิ คา้
ง. ฉันอยากไปซ้ือของทีห่ ้างสรรพสนิ ค้า
3. "สมหวังขยันอ่านหนงั สอื จงึ สอบไดค้ ะแนนดี" เป็นประโยคชนิดใด
ก. ประโยคความเดียว
ข. ประโยคความรวม
ค. ประโยคความซอ้ น
ง. ประโยคแสดงความต้องการ
4. ข้อใดเป็นประโยคความรวมท่ีมีเนือ้ ความให้เลือกอย่างใดอย่างหน่งึ
ก. เธอจะอยู่หรือเธอจะไปก็ไม่มผี ลตอ่ ฉัน
ข. ทุกคนไปกันหมดยกเว้นเธอคนเดียว
ค. สมบัติทางานหนักแมก้ ระนัน้ เขาก็ยงั ยากจน
ง. เขาตอ้ งชดใชค้ ่าเสยี หาย มิฉะนน้ั จะถูกไลอ่ อกจากบริษัท
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ และประโยคเป็นเหตเุ ป็นผล ๑๗
5. ข้อใดมีลักษณะเหมือนประโยค “จะไปดหู นงั หรอื ดูละคร”
ก. การเดินเล่นตอนเช้าท่เี ปน็ การออกกาลังกาย
ข. ใครทไ่ี ม่เคยเล่นกีฬานา่ จะลองเล่นดู
ค. เขาเลอื กอา่ นหนงั สอื แทนที่จะไปเล่นกบั เพื่อน
ง. คณุ พ่อให้รางวลั เขาที่สอบคะแนนดี
6. ประโยคข้อใดมเี นื้อความเป็นเหตเุ ป็นผล
ก. ก้อยและกุ้งนงั่ ลอกการบ้าน
ข. ก้อยจะให้กุ้งลอกการบา้ นหรือไม่
ค. ก้อยขยนั ทาการบ้านแต่กุง้ ชอบลอกการบา้ น
ง. ก้อยบอกให้กุง้ ขยันทาการบ้านเพราะกลวั สอบตก
7. ข้อใดไม่ใช่ประโยคเปน็ เหตุเปน็ ผล
ก. เธอนั่งหลับในชั่วโมงเรยี นเพราะนอนดึก
ข. ไม่เธอก็ฉนั จะต้องนัง่ หลบั ในชัว่ โมงเรียน
ค. เธอไม่ได้นง่ั หลับในชัว่ โมงเรียนเพราะนอนหวั คา่
ง. ฉันนอนแตห่ วั คา่ จึงไมห่ ลบั ในชัว่ โมงเรียน
8. ประโยคขอ้ ใดมีใจความเหมอื นกับ “ฝนไม่ตกชาวนาจึงว่างงาน”
ก. พอ่ ตกงานจงึ ไมม่ ีรายได้ประจา
ข. พอ่ และแมอ่ ย่อู ย่างพอเพยี ง
ค. ทง้ั พอ่ และแม่เดินตามรอยพอ่ หลวง
ง. พอ่ ปลูกผกั และเล้ยี งสัตว์ยดึ หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง
9. เตมิ คาในข้อใดจงึ จะทาให้ประโยคสมบรู ณ์ ลมกรรโชกแรง ต้นไม้.......โค่น
ก. และ
ข. ด้วย
ค. จึง
ง. หรอื
10. “............น้องชายด้ือมาก แม่ ........... ลงโทษอยู่เป็นประจา” เติมคาสันธานในข้อใดทาให้ประโยค
สมบรู ณ์
ก. ด้วย.......หรอื
ข. ไม่เชน่ นัน้ ........จงึ
ค. เพราะ........จึง
ง. เหตเุ พราะ........แล้ว
ประโยคเลือกอย่างใดอย่างหนึง่ และประโยคเปน็ เหตเุ ปน็ ผล ๑๘
กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test)
ชื่อ _________________________ นามสกลุ ___________________
เลขท่ี _______________________ ชัน้ ________________________
วิชา _______________________ วนั ท_ี่ ______________________
ขอ้ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
๖
๗
๘
๙
๑๐
คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน
คะแนนทีไ่ ด้.....................................คะแนน
(ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐)
ประโยคเลือกอย่างใดอย่างหน่ึง และประโยคเปน็ เหตเุ ป็นผล ๑๙
ภายหลังจากที่มีการทดสอบ ครูจะมีการคิดคะแนนพัฒนาการ
ของสมาชิกเป็นรายบุคคล และนาคะแนนพัฒนาการของสมาชิกน้ันมา
รวมเปน็ คะแนนของกลุม่ อีกครั้ง ดังนี้
คะแนนพัฒนาการ (Improvement point) สมาชิกในกลุ่ม
แต่ละคนจะได้คะแนนเพ่ือช่วยกลุ่มของตนเองหรือไม่น้ัน ขึ้นอยู่กับ
คะแนนกิจกรรมรายบุคคลและคะแนนทดสอบหลังเรียนที่สูงกว่า
คะแนนฐาน โดยอาศยั เกณฑ์การคิดคะแนนพัฒนาการ ดงั น้ี
คะแนนกจิ กรรมรายบุคคล + คะแนนพฒั นาการ
คะแนนทดสอบหลังเรยี น (Post-test)
ได้คะแนนต่ากวา่ คะแนนฐานมากกว่า 10 คะแนน 0
ได้คะแนนตา่ กวา่ คะแนนฐาน 1 - 10 คะแนน 10
ไดค้ ะแนนเท่ากับคะแนนฐานหรือมากกว่า 1 - 10 คะแนน 20
ไดค้ ะแนนสงู กวา่ คะแนนฐานมากกว่า 10 คะแนน 30
ช่ือ – สกลุ ..................................................................เลขที่.......................
คะแนนจาก คะแนนทดสอบ รวมคะแนน ปรบั เป็น คะแนน ผลตา่ งของ คะแนน
กจิ กรรม หลังเรียน (20 คะแนน) คะแนนเต็ม ฐาน คะแนนรวม พัฒนาการ
รายบคุ คล (10 คะแนน ) 100 และคะแนน
(10 คะแนน) คะแนน ฐาน
ประโยคเลือกอยา่ งใดอย่างหน่ึง และประโยคเปน็ เหตุเป็นผล ๒๐
1. นาคะแนนความก้าวหน้าของสมาชิกในกลุ่มมาหาค่าเฉลี่ยเพ่ือแปลเป็น
ระดับการยกย่องความสาเร็จของกลุ่ม โดยการยกย่องหรือให้รางวัล
มี 3 ระดบั ดังน้ี
คะแนนเฉลีย่ ของกลมุ่ 0 - 15 คะแนน การยกยอ่ งอยใู่ นระดบั เกง่
คะแนนเฉลี่ยของกลุ่ม 16 - 25 คะแนน การยกย่องอยู่ในระดับ
เก่งมาก
คะแนนเฉล่ียของกลุ่ม 26 - 30 คะแนน การยกย่องอยู่ในระดับ
ยอดเยี่ยม
2. การได้รับรางวัล กลุ่มที่ได้การยกย่องอยู่ในระดับยอดเย่ียมของ
การทดสอบย่อยแต่ละคร้ัง จะสามารถเลือกรับรางวัลได้ตามข้อตกลง
ส่วนใหญข่ องกลุ่ม ซ่งึ รางวลั อาจเป็นสงิ่ ของหรอื ใบประกาศเกยี รตคิ ุณ
แบบสรุประดบั การยกย่องความสาเรจ็
กลุม่ ท่ี / ช่ือกลมุ่ ระดับการยกย่องความสาเร็จ
1.
2.
3.
4.
5.
ประโยคเลือกอยา่ งใดอย่างหนง่ึ และประโยคเป็นเหตุเป็นผล ๒๑
บรรณานกุ รม
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551.
กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย.
ดวงพร หลิมรตั น์. (2551). แบบฝกึ หดั รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑. กรุงเทพฯ:
แมค็ .
พรทพิ ย์ แฟงสุด. (255๐). แบบฝึกทักษะภาษาไทย. กรุงเทพฯ: ฟสิ กิ ส์เซ็นเตอร์.
โรงเรียนแชแลพทิ ยานสุ รณ์. (25๖๐). หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนแชแลพิทยานสุ รณ์. อดุ รธานี:
โรงเรยี นแชแลพทิ ยานสุ รณ์ สังกดั องค์การบริหารส่วนจงั หวัดอดุ รธานี.
สมพร วชริ วัชรินทร์, อุทัยวรรณ หวังไมตรี และสัญญา จันทร์เหนือ. (๒๕๕๑). คสู่ รา้ งภาษาไทย
หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.๑. พิมพ์ครัง้ ที่ ๒. กรุงเทพฯ: อกั ษรเจรญิ ทัศน์.
สมศักดิ์ อัมพรวิสทิ ธิโ์ สภา, ธญั ลกั ษณ์ จุ้ยเรือง และอาทิตยา ธรี านพ. (๒๕๕๘). ร้กู อ่ น Top ก่อนการใช้
ภาษาไทย ฉบับรวม ม.ตน้ . กรุงเทพฯ: ภมู บิ ัณฑิต.
สวุ ัฒน์ วิวฒั นานนท์. (๒๕๕๔). ทกั ษะการอา่ น คิด วเิ คราะห์และเขียน. พมิ พค์ ร้งั ท่ี ๓. นนทบุรี:
ซีซนี อลลิตจ์ลงิ คส์.
สวุ ิทย์ มูลคา. (๒๕๕๓). ครบเครื่องเรื่องการคิด. พมิ พค์ ร้งั ท่ี ๑๑. กรงุ เทพฯ: ห้างหุน้ สว่ นจากดั
ภาพพิมพ.์
Slavin, E Robert. (1978). “STAD,” Journal of Research and Development in
Educational. 60 (7): 42-48.
ประโยคเลอื กอย่างใดอย่างหนงึ่ และประโยคเป็นเหตเุ ปน็ ผล ๒๒
ภาคผนวก
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ และประโยคเปน็ เหตเุ ปน็ ผล ๒๓
ข้อ ก ข ค ง
1X
2X
3X
4X
5X
๖X
๗X
๘X
๙X
๑๐ X
ประโยคเลือกอย่างใดอย่างหน่งึ และประโยคเป็นเหตุเปน็ ผล ๒๔
เฉลยกิจกรรมที่ ๑
คาชี้แจง : ให้นักเรียนเติมคาสันธานเชื่อมประโยคให้มีเน้ือความเลือกอย่างใดอย่างหน่ึง
(10 คะแนน)
1. ลูก ๆ ไปโรงเรยี น หรือ อยบู่ ้าน
2. เขาไปหาเพ่ือนท่ีบา้ น หรือ ทีโ่ รงเรยี น
3. เธอจะไปหาหมอท่ีอนามัย หรือว่า, หรอื คลนิ กิ ในเมือง
4. เธอจะกบั ฉนั หรอื วา่ , หรือ ไปกับเขา
5. นกั เรยี นตอ้ งกินข้าวใหห้ มดจาน ไมเ่ ชน่ นน้ั จะถูกลงโทษ
6. มานะชอบเลน่ ฟตุ บอล หรอื วา่ ชอบเล่นตะกรอ้
๗. หากลูกไม่ชว่ ยแมท่ างานบ้าน ไมเ่ ชน่ นนั้ ก็ไปชว่ ยพ่อปลูกผัก
8. ดวงแก้วเปน็ คนจน หรอื วา่ เป็นลกู เศรษฐี
9. นกั เรยี นชายชอบเล่นเตะฟุตบอล หรือ ชอบกระโดดยาง
10. เขาจะอา่ นหนงั สือ หรอื ว่า ชว่ ยงานครูท่ีห้องสมดุ
ถา้ เฉลยกิจกรรมที่ 1 เสรจ็ แลว้
เรามารว่ มกนั เฉลยกจิ กรรม
กจิ กรรมที่ 2 กันตอ่ นะครบั
ประโยคเลอื กอย่างใดอย่างหนึง่ และประโยคเปน็ เหตเุ ปน็ ผล ๒๕
เฉลยกิจกรรมที่ ๒
คาชี้แจง : ให้นักเรียนทาเครอ่ื งหมาย ลงใน () ประโยคความรวมท่มี เี นอ้ื ความเลือกอย่างใด
อย่างหนึ่งให้ และทาเคร่ืองหมาย X ลงใน (X) ท่ีไม่ใช่ประโยคความรวมเลือกอย่างใด
อยา่ งหนึ่ง (10 คะแนน)
(.........X........) ๑. เธอไปโรงเรียนแล้วหรือ
(.........X........) 2. วีระหรือว่าเธอไมท่ าการบ้านมา
(...............) 3. นักเรียนจะเขา้ แถวหรือหลบอย่ใู นห้องนา้
(...............) 4. นกั เรียนชอบเรียนภาษาไทยหรือภาษาองั กฤษ
(.........X........) 5. ไมเ่ ช่นนั้นเขาก็ตอ้ งเป็นคนบ้าแนน่ อน
(.........X........) 6. ลูกตอ้ งทาการบา้ นให้เสรจ็ ไม่เช่นน้นั จะไม่พาไปเทย่ี ว
(...............) 7. ออ้ ยมีรสหวานหรือว่าเปร้ยี ว
(...............) 8. ชา้ งหรือยีราฟท่ีมนี ้าหนกั มากกว่ากนั
(...............) 9. วินกบั เวยี ร์ใครหลอ่ กว่ากนั
(...............) 10. แพนจะเลือกใครระหว่างมาวนิ กบั เวยี ร์
ถ้าเฉลยกิจกรรมท่ี ๒ เสรจ็ แลว้
เรามารว่ มกันเฉลยกิจกรรมท่ี ๓
กนั ต่อนะคะ
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง และประโยคเป็นเหตเุ ปน็ ผล ๒๖
เฉลยกิจกรรมท่ี ๓
คาช้ีแจง : ให้นักเรียนแยกประโยคความรวมต่อไปนี้ ให้เป็นประโยคความเดียวให้ถูกต้อง
(10 คะแนน)
1. เพราะเขาไม่สนใจเรียนหนังสือจึงสอบตก
ประโยคความเดยี ว ๑. เขาไม่สนใจเรียนหนงั สอื
๒. เขาสอบตก
..........................................................................................................................................
๒. ลกู กลับบ้านไมต่ รงเวลาแม่จงึ วา่ กล่าวตกั เตอื น
ประโยคความเดียว ๑. ลกู กลับบา้ นไม่ตรงเวลา
๒. แมว่ า่ กล่าวตกั เตอื นลูก
๓. เพราะนกั เรยี นไมท่ าความสะอาดห้องเรียนจงึ ถูกครลู งโทษ
ประโยคความเดยี ว ๑. นกั เรยี นไมท่ าความสะอาดหอ้ งเรยี น
๒. ครลู งโทษนกั เรียน
๔. จกั รยานของแดงยางแตกจึงตอ้ งเดินมาโรงเรยี น
ประโยคความเดยี ว ๑. จักรยานของแดงยางแตก
๒. แดงเดนิ มาโรงเรียน
๕. เพราะพ่อเลกิ ดืม่ เหลา้ จงึ มเี งนิ เกบ็
ประโยคความเดียว ๑. พอ่ เลิกดม่ื เหลา้
๒. พ่อมีเงินเก็บ
ถ้าเฉลยกิจกรรมที่ ๓ เสรจ็ แล้ว
เรามารว่ มกันเฉลย
กจิ กรรมรายบุคคล
กันต่อนะคะ
ประโยคเลือกอย่างใดอยา่ งหน่งึ และประโยคเป็นเหตุเป็นผล ๒๗
เฉลยกิจกรรมรายบุคคล
คาชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านข้อความท่ีกาหนดให้แล้วเขียนข้อความที่เป็นเหตุ และข้อความ
ท่เี ป็นผลให้ถกู ตอ้ ง (10 คะแนน)
ตัวอยา่ ง “ปอ้ มเปน็ เด็กดีเพือ่ น ๆ ในหอ้ งจึงรักเขา”
ขอ้ ความที่เปน็ เหตุ ป้อมเป็นเดก็ ดี
ขอ้ ความทเ่ี ป็นผล เพื่อน ๆ ในหอ้ งจึงรกั
1. เพราะฝนตกหนักน้าจงึ ท่วมบา้ นแชแล
ขอ้ ความทเ่ี ปน็ เหตุ ฝนตกหนัก
ข้อความทเ่ี ปน็ ผล น้าจงึ ทว่ มบ้านแชแล
๒. ปัญญาไม่ไปโรงเรยี นเพราะเป็นไข้หวดั ใหญ่
ข้อความทเ่ี ปน็ เหตุ ปัญญาเปน็ ไข้หวัดใหญ่
ข้อความทเี่ ป็นผล ปัญญาไม่ไปโรงเรยี น
๓. มาลเี ป็นเดก็ ท่ขี ยันเรียนหนงั สือมากเพราะฉะนัน้ เธอจึงสอบได้ที่ 1 ทกุ คร้ัง
ข้อความท่เี ปน็ เหตุ มาลเี ปน็ เดก็ ที่ขยันเรยี นหนังสือมาก
ขอ้ ความทีเ่ ป็นผล มาลีสอบไดท้ ่ี 1 ทุกคร้ัง
๔. ฉันนอนตนื่ สายเพราะนอนดึก
ข้อความที่เป็นเหตุ ฉันนอนดกึ
ข้อความที่เปน็ ผล ฉนั นอนต่ืนสาย
๕. เขาเคยยากจนมากอ่ นเพราะฉะนนั้ จงึ รู้คุณค่าของเงนิ
ข้อความทเ่ี ป็นเหตุ เขาเคยยากจนมากอ่ น
ขอ้ ความที่เปน็ ผล เขาจึงร้คู ณุ คา่ ของเงนิ
ประโยคเลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ และประโยคเปน็ เหตเุ ปน็ ผล ๒๘
ข้อ ก ข ค ง
1X
2X
3X
4X
5X
๖X
๗X
๘X
๙X
๑๐ X
ประโยคเลือกอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ และประโยคเปน็ เหตเุ ปน็ ผล ๒๙
รายการ แบบบนั ทกึ คะแนน คะแนนท่ไี ด้
แบบทดสอบก่อนเรยี น
กิจกรรมท่ี 1 คะแนนเต็ม
กิจกรรมที่ 2 10
กิจกรรมท่ี ๓ ๒๐
กิจกรรมรายบุคคล ๑๐
แบบทดสอบหลงั เรยี น 10
๑๐
10
หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ เรอ่ื ง ประโยคทใ่ี ช้ในการสือ่ สาร
เรือ่ งที่ ๘ เสร็จแลว้
เราไปทบทวนบทเรยี นกนั ตอ่ ค่ะ