The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบงานออนไลน์ 2-64

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nim_5579, 2022-04-07 02:52:13

ใบงานออนไลน์ 2-64

ใบงานออนไลน์ 2-64

ใบงานท่ี 2

เรอื่ ง ศาสนาในประเทศไทยและเอเซยี

คำช้ีแจง จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1. พรหมวิหาร 4 หมายความวา่ อยา่ งไร และมอี ะไรบ้าง

.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

2. การคิดแบบโยนโิ สมนสิการ มกี ่ีวธิ ีคดิ อะไรบา้ ง
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

3. ประเภทของสมาธิมกี ีป่ ระเภท อะไรบ้าง และมปี ระโยชน์อย่างไร
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

แผนการการจดั การเรียนรู้รายสัปดาห์ ระดบั ม.ตน้ คร้งั ท่ี 16
รายวชิ าสุขศกึ ษา ศาสนาและหนา้ ท่พี ลเมอื ง รหสั วชิ า สค21002
เวลาเรยี น 30 ชัว่ โมง (พบกลมุ่ 6 ช่วั โมง /การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง 24 ชว่ั โมง)

วันที่.......... เดือน............................. พ.ศ. 2564

มาตรฐานท่ี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ามวิถปี ระชาธิปไตยมีจิตสาธารณะ เพ่ือความสงบสุขขอสงั คม
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั

1. มีความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ คา่ และสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณีของ ประเทศใน
ทวปี เอเชยี

2. มีความรู้ ความเขา้ ใจดาํ เนินชวี ติ ตามวถิ ีประชาธิปไตย กฎระเบยี บของประเทศเพอื่ นบ้าน
ตัวช้วี ดั

รู้และเข้าใจความสาํ คญั ของรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย
เนอื้ หา

1. ความเป็นมา หลักการ เจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนญู
2. โครงสรา้ งและสาระสําคัญของรัฐธรรมนญู
3. การปฏริ ูปการเมอื งและจดุ เดน่ รฐั ธรรมนญู ทเ่ี กี่ ยวกบสทิ ธิเสรภี าพหน้าทีพ่ ลเมอื ง

วิธกี ารเรยี น : แบบพบกลุม่ (ON-Line)

กระบวนการจดั การเรยี นรู้

การกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)
1. ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น ( เวลา 30 นาที)

1.1 ครูทกั ทายนกั ศึกษาในกลมุ่ ผา่ นทาง LINE กล่มุ เพ่อื แนะนำแนวทางการเรยี น กศน. ให้กับ
นกั ศึกษาเกย่ี วกับการปฏิบัติตวั ตามกฎระเบยี บของสถานศกึ ษา และการเขา้ ร่วมกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชวี ติ
(กพช.) พรอ้ มอธบิ ายถึงเหตุผลความจำเป็นทีต่ ้องจัดกจิ กรรมการเรียนรปู แบบออนไลน์

1.2 ครชู ีแ้ จง สาระสำคัญ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หาเรือ่ งกระบวนการจดั การเรยี นรู้ ส่อื และแหลง่
การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล และการติดตาม ผา่ นทาง Google Classroom/LINE กลมุ่

1.3 ครแู ละนกั ศกึ ษารว่ มกนั วเิ คราะห์และแสดงความ คดิ เหน็ เกย่ี วกบั ปัญหา ความต้องการ รปู แบบ
ในการเรียน และการแสวงหาความรูจ้ ากส่ือตา่ ง ๆ ในการเรยี นวิชาสขุ ศึกษา พลศึกษา ผ่านทาง Google
Classroom/LINE กลมุ่
การแสวงหาขอ้ มลู และการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning)
2. ขนั้ จดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ( เวลา 4 ชัว่ โมง)

1 ครใู หน้ ักศกึ ษาทำแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) แบบปรนยั จำนวน 40 ข้อ โดยใช้ Google
Form ผ่านทาง Google Classroom/Line กลุ่ม โดยเน้นใหน้ กั ศึกษามีความซื่อสตั ย์ในการทำแบบทดสอบ

2 ครตู รวจแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) และแจ้งใหน้ ักศึกษาทราบ ผ่านทาง Google
Classroom/Line กลุม่ เพ่ือจดบันทกึ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน.

3. ครใู หน้ ักศกึ ษาศึกษาข้อมูล ในหนังสือเรยี น ออนไลน์ ลงิ ค์ http://ccs.nfe.go.th/padrew-
ediacenter/UserFiles/Pdf/morton/sara5/sorkor21002.pdf หรอื จากแหล่งเรียนรตู้ ่างๆ และใหส้ รุปลง
ในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน. ในหัวขอ้ ต่อไปน้ี

1. ความเป็นมา หลักการ เจตนารมณ์ของรฐั ธรรมนญู
2. โครงสรา้ งและสาระสําคญั ของรฐั ธรรมนญู
3. การปฏริ ปู การเมอื งและจดุ เด่นรฐั ธรรมนูญท่เี ก่ี ยวกบสทิ ธเิ สรีภาพหน้าทพ่ี ลเมอื ง
4. หลกั สิทธมิ นุษยชน
4. ครูเปิดโอกาสให้นักศึกษาสอบถามในประเด็นท่ีสงสัย และครูตอบข้อคำถาม ผ่านแอปพลิเคชัน
Google Classroom หรอื Line
5. ครูมอบหมายให้นักศึกษาเลือกหัวข้อท่ีสนใจ จำนวน 1 เร่ือง ให้ไปศึกษาค้นคว้าจากหนังสือเรียน
ออนไลน์ ลงิ ค์
http://ccs.nfe.go.th/padrew-ediacenter/UserFiles/Pdf/morton/sara5/sorkor21002.pdf
หรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และให้สรุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ และให้นักศึกษาส่งใบงาน ด้วยระบบ
ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Google Classroom หรอื Line ดงั หัวข้อตอ่ ไปนี้
1. ความเป็นมา หลกั การ เจตนารมณ์ของรฐั ธรรมนญู
2. โครงสร้างและสาระสําคญั ของรฐั ธรรมนญู
3. การปฏริ ปู การเมืองและจดุ เด่นรฐั ธรรมนูญท่ีเก่ี ยวกบสิทธิเสรีภาพหน้าที่พลเมือง
4. หลกั สทิ ธิมนุษยชน
6. ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเร่ือง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตัญญู
กตเวที ความขยัน ความประหยัด ความซ่ือสัตย์ ความมนี ำ้ ใจ ความมวี นิ ยั ศาสน์ กษตั รยิ ์ รักความเปน็ ไทย
และยดึ มน่ั ในวถิ ีชีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข ผ่านทาง
LINE กล่มุ

การปฏบิ ัติและนำไปประยกุ ต์ (I : Implementation)
3. ขน้ั การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยุกตใ์ ช้ (1 ชว่ั โมง )

1. ครสู รุปผลการทำกิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้อง จากชิน้ งานทไี่ ดม้ อบหมายไปและให้
นักศึกษา ส่งกลับมาทาง LINE กล่มุ

2. ครูใหน้ ักศึกษาทำแบบทดสอบยอ่ ย ในรปู แบบปรนัย จำนวน 20 ข้อ โดยใช้ Google Form พร้อม
เฉลย ประเมินผล และให้นักศกึ ษาบันทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.

3 .ครูให้นักศึกษาสรุปการทำความดีและคุณธรรมท่ีได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึก ความดี
เพอื่ การประเมินคุณธรรม

ข้นั ประเมินผล (E :Evaluation)
4. ข้นั สรปุ และประเมินผล (1 ชั่วโมง)
4.1 ครใู หน้ กั ศกึ ษาทำแบบทดสอบย่อย เร่อื ง ความเป็นมา หลักการ เจตนารมณข์ องรัฐธรรมนญู เรอ่ื ง

โครงสรา้ งและสาระสาํ คัญของรัฐธรรมนญู เรื่อง การปฏริ ูปการเมอื งและจดุ เดน่ รฐั ธรรมนญู ท่เี กย่ี วกบสทิ ธิ
เสรภี าพหน้าท่ีพลเมอื ง และเร่อื งหลกั สทิ ธิมนุษยชน แบบปรนัย จำนวน 20 ขอ้ จากชดุ แบบทดสอบหรือ
Google Form พร้อมเฉลยและประเมนิ ผล ให้นกั ศึกษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน.

4.2 ครใู ห้นักศึกษาทำแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) แบบปรนัย วิชา ศาสนาและหน้าทีพ่ ลเมอื ง
จำนวน 40 ขอ้ ผา่ นทาง Google Form พรอ้ มเฉลยและประเมนิ ผล ใหน้ กั ศกึ ษาบันทกึ คะแนนลงในแบบ
บนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.

4.3 ครใู หน้ กั ศกึ ษาสรุปการทำความดแี ละคณุ ธรรมทีไ่ ดป้ ฏบิ ัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบนั ทกึ ความดี
เพื่อการประเมินคุณธรรม

4.4ครูตดิ ตามงานทีไ่ ดม้ อบหมายนกั ศกึ ษา เพื่อตดิ ตามความคืบหนาทางแอปพลิเคชนั Line ดังนี้
4.4.1 ติดตามงานที่ได้รับมอบหมายสปั ดาหท์ ผี่ ่านมา
4.4.2 ตดิ ตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิต (กพช.)
4.4.3 ติดตามสอบถามสขุ ภาพของนักศกึ ษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย)
4.4.4 ตดิ ตามสอบถามการทำความดใี นแตล่ ะวัน สัปดาห์ทีผ่ ่านมาและตดิ ตามการบนั ทกึ

กิจกรรมทีท่ ำความดีลงในสมดุ บนั ทึกบนั ทึกความดเี พอื่ การประเมินคณุ ธรรม
4.4.5 ตดิ ตามสอบถามเกยี่ วกับงานอดเิ รก สนุ ทรียภาพ การเล่นกีฬา การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็

ประโยชน์ ฯลฯ

ข้นั มอบหมายงาน
1. ครมู อบหมายใหน้ ักศกึ ษาไปอ่านทบทวนเนือ้ หาเพมิ่ เติม เรอ่ื ง ศาสนาและหน้าที่พลเมอื ง จาก

หนงั สือเรยี นออนไลน์ ลิงค์ http://ccs.nfe.go.th/padrew-
ediacenter/UserFiles/Pdf/morton/sara5/sorkor21002.pdf และใหส้ รุปลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้
กศน.

2. ครมู อบหมายให้นกั ศึกษาไปศกึ ษาค้นคว้าและใบงานที่ 1 รือ่ ง ความเป็นมา หลกั การ เจตนารมณ์
ของรฐั ธรรมนญู และใบงานที่ 2 เรอื่ ง โครงสร้างและสาระสําคญั ของรฐั ธรรมนูญ ใบงานที่ 3 เรือ่ ง สิทธแิ ละ
เสรีภาพของประชาชน ใบงานที่ 4 เร่อื ง หลักสิทธมิ นษุ ยชน (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom)
และให้นกั ศึกษาส่งงานทาง Google classroom หรอื ทาง LINE ตามวันเวลาท่คี รนู ัดหมาย

3. ครมู อบหมายนักศกึ ษาใหไ้ ปศึกษา เรื่อง ความเป็นมา หลักการ เจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนูญ เรอื่ ง
โครงสรา้ งและสาระสาํ คญั ของรัฐธรรมนญู เรอื่ ง การปฏิรูปการเมืองและจดุ เดน่ รัฐธรรมนูญทีเ่ กยี่ วกบสิทธิ
เสรีภาพหน้าทพี่ ลเมอื ง และเรื่องหลักสทิ ธิมนุษยชน จากหนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์
http://online.pubhtml5.com เพอื่ เตรียมการเรยี นร้ทู างออนไลน์ ในสปั ดาห์ต่อไป

สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นวิชา สค 21002 วชิ าศาสนาและหนา้ ทพี่ ลเมือง หรอื หนงั สือเรียนออนไลน์

ลงิ ค์ http://ccs.nfe.go.th/padrew-ediacenter/UserFiles/Pdf/morton/sara5/sorkor21002.pdf
2. คมู่ ือนกั ศกึ ษา
3. แบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) วิชา ศาสนาและหนา้ ทพี่ ลเมือง แบบปรนยั จำนวน 40 ข้อ

(ชุดแบบทดสอบ หรอื Google Form)
4. แบบทดสอบยอ่ ย เร่อื ง ความเป็นมา หลกั การ เจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนูญ เร่ือง โครงสรา้ งและ

สาระสาํ คัญของรัฐธรรมนญู เร่อื ง การปฏิรปู การเมอื งและจุดเดน่ รฐั ธรรมนญู ทีเ่ กีย่ วกบสทิ ธิเสรีภาพหนา้ ที่
พลเมือง และเร่ืองหลักสิทธมิ นษุ ยชน แบบปรนยั จำนวน 20 ข้อ
(ชุด แบบทดสอบ หรอื Google Form)

5. ใบงานท่ี 1 เรื่อง ความเปน็ มา หลกั การ เจตนารมณ์ของรฐั ธรรมนญู และใบงานที่ 2 เร่ือง
โครงสรา้ งและสาระสาํ คญั ของรฐั ธรรมนญู ใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง สิทธแิ ละเสรภี าพของประชาชน ใบงานที่ 4 เรือ่ ง
หลกั สิทธิมนษุ ยชน

6. แบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน.

การวัดและประเมินผล
1. การเขา้ เรยี นด้วยระบบออนไลน์
2. ตรวจแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.
3. ตรวจใบงาน
4. ตรวจแบบทดสอบ
5. ประเมินคณุ ธรรม

ใบงานท่ี 1
เรอ่ื ง ความเป็นมา หลกั การ เจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนญู
คาํ สงั่ จงตอบคาํ ถามต่อไปนีใ้ หไ้ ด้ใจความถกู ตอ้ งสมบรู ณ์
1. จงบอกความหมายของรัฐธรรมนญู
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. จงอธบิ ายวัฏจกั รของความไม่ตอ่ เน่ืองของกระบวนการเปล่ยี นแปลงทางการเมอื งของไทย ตามความเขา้ ใจ
ของนักศกึ ษา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. รฐั ธรรมนญู มีเป้าหมายสาํ คัญกี่ประการ จงอธิบาย
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. จงบอกหลักการและเจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนญู ฉบบั แรก พทุ ธศักราช 2475
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
5. จงบอกหลกั การและเจตนารมณข์ องรัฐธรรมนญู ฉบบั ที่ 18 พุทธศักราช 2475

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ใบงานท่ี 2
เรอื่ ง สทิ ธิและเสรภี าพของประชาชน
คําชีแ้ จงให้ผู้เรยี นตอบคาํ ถามดังต่อไปนี้
1. สทิ ธหิ มายถงึ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..............................................................
………………………………………………………………………………………………....................................................................
2.รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช 2550 ได้บัญญตั ิเรื่องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเก่ียวกับ
เร่ืองใดบา้ ง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….......................................................................
3. ผูเ้ รยี นมีบทบาทหนา้ ทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบต่อตนเองอยางไรบ้าง จงึ จะทาํ ให้อยู่ร่วมกนั ในสงั คม ได้อยา่ ง
สันติ มสี ทิ ธิ เสรภี าพตามวิถีประชาธปิ ไตย ่
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………..........................................................................

ชอ่ื ........................................................................................... ระดบั ชั้น...................................................

สรปุ องคค์ วามรทู้ ไ่ี ด้เรยี นรรู้ ายวชิ า ศาสนาและหนา้ ที่พลเมอื ง

ง สค21002 ในรูปแบบ แผนทค่ี ามคดิ (Mind Mapping)

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายสปั ดาห์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ครง้ั ที่ 13
รายวชิ าศิลปศึกษา รหสั วชิ า ทช21003

เวลาเรยี น 23 ชั่วโมง (พบกลุม่ 8 ชั่วโมง /การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง 15 ช่วั โมง)
วันท่.ี ..................... เดือน............................................. พ.ศ. ........................

มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู ความเขาใจ และเจตคตทิ ีด่ เี กย่ี วกบั ศลิ ปะและสุนทรยี ภาพ

มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ
รู้ เขา้ ใจ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ชื่นชม เห็นคณุ ค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมทาง

ทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ปไ์ ทย และสามารถวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ ได้อยา่ งเหมาะสม

ตวั ช้วี ดั
2.ดนตรไี ทย
1. อธบิ ายความสำคญั ความเปน็ มาและววิ ฒั นาการของเคร่ืองดนตรไี ทยชนิดตา่ ง ๆ
2. อธิบายประเภทของดนตรี และเทคนิควธิ กี ารเล่นเครือ่ งดนตรไี ทย
3. อธิบายวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ คุณค่าของความงามและความไพเราะของเพลงและเครื่องดนตรีไทย
4. อธบิ ายประวัติ ของคุณค่าความรกั และความหวงแหน ตลอดจนร่วมสืบสานกระบวนการถ่ายทอดของ
ภมู ิปญั ญา ทางด้านเพลงและดนตรีไทย

เน้อื หา
1.ประวตั คิ วามเปน็ มาและววิ ฒั นาการของเครอ่ื งดนตรีไทย
2. เทคนคิ วิธีการเล่นของเครื่องดนตรีไทยแต่ละประเภท
3. คุณคา่ ของความงามและไพเราะของเพลงและเครอื่ งดนตรีไทย
4. ประวัตขิ องคุณคา่ ความรกั และหวงแหน ของภูมิปญั ญา ตลอดจน กิจกรรมกระบวนการถ่ายทอดของ
ภมู ิปญั ญาทางดา้ นเพลงและดนตรไี ทย

วธิ กี ารเรยี น : แบบออนไลน์ ( ON-LINE )

กระบวนการจดั การเรยี นรู้

การกำหนดสภาพปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)

1. ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน ( 30 นาที )

1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กลุ่ม ให้นักศึกษาทราบพร้อมทั้งแลกเรียนเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน
ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม พร้อมอธิบายถึง
เหตผุ ลความจำเปน็ ท่ีต้องจัดกจิ กรรมการเรียนรปู แบบออนไลน์

1.2 ครูชี้แจง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อและแหล่งการ
เรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการติดตาม ในรายวิชาศิลปศึกษา ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE
กลมุ่

1.3 ครแู ละนกั ศึกษารว่ มกนั วิเคราะหแ์ ละแสดงความ คิดเห็น เก่ียวกับปญั หา ความต้องการ รปู แบบ
ในการเรียน และการแสวงหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ ในการเรียนรายวิชาศิลปศึกษา เรื่อง ประวัติความ
เป็นมาและววิ ัฒนาการของเคร่ืองดนตรีไทย เทคนคิ วิธกี ารเลน่ ของเครอื่ งดนตรีไทยแตล่ ะประเภท คณุ ค่าของความ
งามและไพเราะของเพลงและเครื่องดนตรีไทย ประวัติของคุณค่าความรักและหวงแหนของภูมิปัญญา ตลอดจน
กจิ กรรมกระบวนการถา่ ยทอดของภมู ปิ ัญญาทางด้านเพลงและดนตรีไทย
ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม

การแสวงหาขอ้ มูลและการจดั การเรียนรู้ (N : New ways of learning)
2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน (4 ชว่ั โมง)

2.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) วิชาศิลปศึกษา เรื่องดนตรีไทย แบบปรนัย
จำนวน 10 ขอ้ โดยใช้ Google Form ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลมุ่ และแจง้ ผลสอบใหน้ กั ศึกษา
ทราบผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม และนักศึกษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรียนรู้
กศน.

2.2 ครูอธิบายเนือ้ หาตามหนังสอื เรียนวิชาศลิ ปศึกษา เร่อื ง ประวัตคิ วามเป็นมาและวิวฒั นาการของเคร่ือง
ดนตรีไทย เทคนิควิธีการเล่นของเครื่องดนตรีไทยแต่ละประเภท คุณค่าของความงามและไพเราะของเพลงและ
เครื่องดนตรีไทย ประวัติของคุณค่าความรักและหวงแหนของภูมิปัญญา ตลอดจนกิจกรรมกระบวนการถ่ายทอด
ของภูมปิ ญั ญาทางด้านเพลงและดนตรีไทย ผ่านทาง Google Classroom หรอื LINE กลุ่ม

2.3 ครูมอบหมายใหน้ ักศกึ ษาไปศึกษาหาความรูจ้ ากหนงั สอื เรียนออนไลน์ วิชาศลิ ปศกึ ษา เรือ่ งดนตรไี ทย
ลิงค์
http://203.159.251.144/pattana/count.php?id=26&doc=download/g.6/g6.1%20%20book%2042/2

6.%20%20art%2021003.pdf หรอื จากแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ

และให้สรปุ ลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. ในหัวขอ้ ต่อไปนี้
2.3.1. ประวตั คิ วามเปน็ มาและวิวัฒนาการของเคร่อื งดนตรไี ทย
2.3.2. เทคนิควิธีการเล่นของเครื่องดนตรีไทยแต่ละประเภท คุณค่าของความงามและไพเราะของเพลง
และเคร่ืองดนตรไี ทย
2.3.3. ประวัติของคุณคา่ ความรกั และหวงแหนของภูมิปญั ญา ตลอดจนกิจกรรมกระบวนการถ่ายทอดของ
ภมู ปิ ญั ญาทางดา้ นเพลงและดนตรีไทย

การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ต์ ( I : Implementation)

3. ข้ันการปฏบิ ัติและนำไปประยุกตใ์ ช้ (30 นาท)ี

3.1 ครูให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และใบความรู้ท่ี 2
เรื่องดนตรีไทย (โดยครูจะส่งใบความรู้ทาง Google classroom ) พร้อมทั้งให้นักศึกษาสรุปเนื้อหาสาระสำคัญลง
ในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. และทำใบงานที่ 2 เรือ่ ง ดนตรีไทย (โดยครจู ะส่งใบงานทาง Google classroom)

3.2 ครสู อนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเรอ่ื ง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตญั ญกู ตเวที
ความขยนั ความประหยัด ความซอื่ สตั ย์ ความมนี ำ้ ใจ ความมวี ินัย ศาสน์ กษตั รยิ ์ รักความเป็นไทย และยดึ ม่ันในวถิ ี
ชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข ผา่ นทาง LINE กลุ่ม

ขน้ั ประเมินผล(E:Evaluation)
4. ขน้ั สรปุ และประเมินผล ( 1 ชั่วโมง )

4.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบย่อย เรื่อง ดนตรีไทย แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ ผ่านทาง Google F
๐rm พร้อมเฉลยและประเมินผล ใหน้ กั ศึกษาบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน.

4.2 ครูตรวจสอบงานที่ได้มอบหมายให้นักศกึ ษาไปศกึ ษาหาความรแู้ ละทส่ี รุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้
กศน. เรื่อง ดนตรไี ทย

4.3 ครใู หน้ กั ศึกษาสรุปการทาความดแี ละคณุ ธรรมทไ่ี ดป้ ฏิบัติ จากบนั ทึกลงในสมดุ บนั ทึกความดเี พือ่
การประเมินคณุ ธรรม

การมอบหมายงาน

1. ครูมอบหมายให้นกั ศกึ ษาไปอา่ นทบทวนเนือ้ หาเพิม่ เติม เรื่อง ทศั นศ์ ลิ ปไ์ ทย จากหนงั สือเรียนออนไลน์
ลงิ ค์
http://203.159.251.144/pattana/count.php?id=26&doc=download/g.6/g6.1%20%20book%2042/2

6.%20%20art%2021003.pdf และให้สรุปลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน.

2. ครูมอบหมายให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากใบความรู้ที่ 3 เรื่องนาฏศิลป์ไทย (โดยครูจะส่งใบ
ความรู้ทาง Google classroom) โดยให้นักศึกษาสำรวจข้อมูล ตามใบงานที่ 3 เรื่อง นาฏศิลป์ไทย (โดยครูจะส่ง
ใบงานทาง Google classroom) เพื่อนำข้อมูลมาสรุปผลการสำรวจข้อมูลในใบงานสรุปผลตามแบบฟอร์มใบงาน
ที่ 3 เรื่องนาฏศิลป์ไทย และให้นักศึกษาส่งงานทาง Google classroom หรือทาง LINE ตามวันเวลาที่ครูนัด
หมาย ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เรื่อง ดนตรีไทย จากหนังสือเรียนออนไลน์ลิงค์
http://203.159.251.144/pattana/count.php?id=26&doc=download/g.6/g6.1%20%20book%2042/2

6.%20%20art%2021003.pdf เพื่อเตรียมการเรยี นร้ทู างออนไลน์ ในสปั ดาห์ต่อไป

การตดิ ตามผล

1. ครูตดิ ตามงานท่ไี ด้มอบหมายนกั ศึกษา เพ่อื ตดิ ตามความคืบหนาทางแอปพลเิ คชัน LINE ดังน้ี
2. ติดตามงานท่ีไดร้ ับมอบหมายสปั ดาห์ท่ผี ่านมา
3. ติดตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวิต (กพช.)
4. ติดตามสอบถามสุขภาพของนกั ศกึ ษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย)
5. ตดิ ตามสอบถามการทำความดีในแตล่ ะวนั สัปดาหท์ ผี่ า่ นมาและตดิ ตามการบนั ทกึ กิจกรรมทท่ี ำ
ความดลี งในสมดุ บันทึกบนั ทกึ ความดเี พือ่ การประเมนิ คุณธรรม
6. ติดตามสอบถามเก่ยี วกับงานอดิเรก สุนทรียภาพ การเลน่ กฬี า การใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ ฯลฯ
7. ติดตามความก้าวหน้าการทำโครงงาน

สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้

1. Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชัน LINE
2. หนังสอื เรียนวชิ า ศลิ ปศกึ ษา หนงั สือเรยี นออนไลน์ ลงิ ค์
http://203.159.251.144/pattana/count.php?id=26&doc=download/g.6/g6.1%20%20book%

2042/26.%20%20art%2021003.pdf

3. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) วิชาศิลปศึกษา เรื่องดนตรีไทย จำนวน 10 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ
หรือ Google Form)

4. แบบทดสอบย่อย เรื่อง วิชาศิลปศึกษา เรื่องดนตรีไทย แบบปรนัย จำนวน 20 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ
หรือ Google Form)

5. ใบความร้ทู ี่ 2 เรื่องดนตรีไทย
6. ใบงานที่ 2 เร่ืองดนตรไี ทย
7. ใบความร้ทู ี่ 3 เร่ืองนาฏศลิ ปไ์ ทย
8. ใบงานท่ี 3 เรอื่ งนาฏศลิ ป์ไทย
9. แบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน.
การวดั และประเมินผล

1) การมีส่วนรว่ มในการเขา้ เรยี น จาก Google Classroom/LINE
2) ตรวจแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.
3) การตรวจใบงาน
4) การตรวจแบบทดสอบ
5) การประเมนิ คณุ ธรรม

การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) ครั้งท่ี 13
สาระทักษะการดำเนนิ ชวี ิต

ทช21003 รายวิชาศลิ ปศกึ ษา
ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม และไปทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต) โดยการไปศึกษาค้นคว้า
จากหนังสือเรียน จดบันทึกจากหนังสือ แบบเรียนตำรา และสื่ออื่น ๆ ในห้องสมุดประชาชนจังหวัด ห้องสมุด
ประชาชนอำเภอ โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา วิทยาลัยชุมชนในพื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาสหรือ
อำเภออนื่ ๆ หรอื ไปสอบถามขอความรูจ้ ากบคุ คล ในหัวขอ้ ต่อไปน้ี

กล่มุ ท่ี 1 ประวัติความเปน็ มาและวิวฒั นาการของเครอ่ื งดนตรีไทย
กลุ่มที่ 2 เทคนิควิธีการเล่นของเคร่ืองดนตรไี ทยแตล่ ะประเภท คุณค่าของความงามและไพเราะของเพลง
และเครื่องดนตรไี ทย
กลุ่มที่ 3 ประวัติของคุณค่าความรักและหวงแหนของภูมิปัญญา ตลอดจนกิจกรรมกระบวนการถ่ายทอด
ของภูมปิ ญั ญาทางดา้ นเพลงและดนตรีไทย

ขน้ั ตอนของการไปเรยี นรู้ตอ่ เนื่อง (กรต.) ของนกั ศกึ ษา มดี ังน้ี
1. แผนการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) ในแต่ละแต่ละสัปดาห์ แต่ละครั้งที่ครู กศน.ตำบล/ครู ศรช. หรือครู

ประจำกลุ่มกล่มุ มอบหมาย
2. ให้บริหารเวลาและใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.)

สปั ดาห์ละ 15 ชั่งโมงเป็นอยา่ งนอ้ ย
3. อา่ นหนังสือ สอบถามผรู้ ู้ และจดบนั ทึกทุกครง้ั ทีมกี ารทำกจิ กรรม กรต. และเก็บหลักฐานไว้ทุกคร้ังเพื่อ

สง่ ครู กศน.ตำบล/ครศู รช. หรือ ครูประจำกลมุ่ ตรวจใหค้ ะแนนการทำ กรต.
4. จัดทำรายงานเป็นเล่ม ตามแบบรายงานที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกำหนด

และให้ส่งในวนั ท่ีมกี ารนำเสนอผลการทำกรต. ในเร่ืองน้ัน ๆ
5. ตัวแทนกลุ่มนำเสนอดว้ ยตนเอง (กรณที ี่ทำกรต. คนเดยี ว) โดยให้นำเสนอผลงานตามขอ้ 4 กลมุ่ ละ/คน

ละไม่เกนิ 10 นาที ในวนั พบกลมุ่ คร้งั ตอ่ ไป

แบบทดสอบ คร้ัง ท่ี 13
วชิ าศิลปศึกษา รหสั วิชา ทช21003 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้
เรื่องประเภทของดนตรแี ละเทคนิควธิ ีการเลน่ เครื่องดนตรไี ทย
จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี

๑.เครอ่ื งดนตรีในข้อใดเปน็ เครื่องดนตรปี ระจำภาคอสี าน

ก.ซอดว้ ง ข.จะเข้ ค.กีตาร์ ง.พณิ

๒.เครอ่ื งดนตรีขอ้ ใดแตกต่างจากพวก

ก.ซอดว้ ง ข.จะเข้ ค.กตี าร์ ง.พณิ

๓.เครอื่ งดนตรีไทยในข้อใดมลี กั ษณะคล้าย\"กตี าร\์ "มากทส่ี ดุ
ก.พิณ ข.จะเข้ ค.ซอ ๓ สาย ง.โปงลาง

๔.เครอ่ื งดนตรีในข้อใดทนี่ ิยมเล่นกนั ทั่วโลก ง.กีตาร์
ก.พณิ ข.แคน ค.เปิงมาง

๕.ซออู้ มสี ายท้ังหมดก่ี สาย ค.๓ สาย ง.๔ สาย
ก.๑ สาย ข.๒ สาย

๖.ขอ้ ใดไม่ใชจ่ ดุ ประสงคห์ ลกั ของการใช้และดแู ลรกั ษาเครอ่ื งดนตรไี ทย

ก.ความเปน็ ระเบยี บ ข.ความสวยงามน่าใช้

ค.ทำให้สะดวกในการหยบิ ใช้ ง.ยืดอายกุ ารใช้งานของเครือ่ งดนตรี

๗.เครอ่ื งดนตรีใดเปรยี บเสมือนเป็นทำนองหลักหรือทางหลกั
ก.ปใ่ี น ข.ตะโพน ค.ระนาดเอก ง. ฆอ้ งวงใหญ่

๘.ขอ้ ใดเป็นวธิ ีดแู ลรักษาเครอ่ื งสายท่มี ีคันชกั
ก.แยกคนั ชกั ไปเก็บไวอ้ กี ที่ ข.หยอ่ นสายก่อนนำไปแขวน
ค.ชโลมน้ำยากนั สนิมก่อนเก็บ ง.ดงึ สายใหต้ งึ กอ่ นนำไปแขวน

๙.เครอ่ื งดนตรไี ทย ประกอบด้วยประเภทใดบ้าง

ก.เคร่อื งสาย เครือ่ งเปา่ และเครอื่ งตี ข.เครือ่ งสาย เครอ่ื งเปา่ และเคร่ืองสี

ค.เครอื่ งดดี เครอ่ื งสี เครื่องตีและเครอื่ งเป่า ง.เคร่ืองดดี เครื่องสี เคร่ืองตี และเครื่องเขย่า

๑๐.ขอ้ ใดเปน็ เครอื่ งดนตรที ี่ใช้กำกับจงั หวะท้ังหมด

ก.จะเข้ กลองยาว โทน ข.กรบั เสภา ฉาบ ปี่ชวา

ค.กลองแขก โหมง่ ตะโพน ง.ฉง่ิ รำมะนา ขลุ่ย เพยี งออ

แผนการจัดการเรียนรรู้ ายสัปดาห์ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น คร้งั ที่ 14
รายวชิ าศลิ ปศกึ ษา รหสั วชิ า ทช21003

เวลาเรียน 35 ชั่วโมง (พบกลุ่ม 11 ช่ัวโมง /การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง 24 ชัว่ โมง)
วันที่...................... เดอื น............................................. พ.ศ. ........................

มาตรฐานท่ี 4.3 มคี วามรู ความเขาใจ และเจตคตทิ ี่ดีเก่ยี วกับศลิ ปะและสุนทรียภาพ

มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั
รู้ เขา้ ใจ มคี ุณธรรม จริยธรรม ช่ืนชม เหน็ คณุ คา่ ความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมทาง

ทศั นศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ปไ์ ทย และสามารถวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ ได้อย่างเหมาะสม

ตวั ชวี้ ัด
3.นาฏศิลปไ์ ทย
1.อธบิ ายประวตั ิ ความเปน็ มา และ ววิ ัฒนาการในการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยในแต่ละภาคต่าง ๆ
2.บอกรปู แบบ องคป์ ระกอบ และวธิ ีการแสดงนาฏศิลปไ์ ทยประเภท ตา่ ง ๆ
3.แสดงความคิดเหน็ และความรู้สกึ ตอ่ การแสดงประเภทตา่ ง ๆ
4.บอกประโยชนแ์ ละเลือกชม การแสดงนาฏศิลป์ไทยท่ตี นสนใจ เพ่ือสรา้ งความสุขและประโยชนต์ ่อ
ตนเอง
5.อธิบายทา่ รำและส่อื ความหมายของนาฏศิลป์ไทย
6.บอกหลกั และวธิ ีการฝึกการใช้ท่าทางสือ่ ความหมาย
7.บอกประโยชน์และคณุ ค่าของนาฏศิลปแ์ ละภาษาทา่ เพอ่ื การอนรุ กั ษ์ดา้ นนาฏศิลป์
8.อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของประวัติความเปน็ มา วัฒนธรรม ประเพณีทีเ่ ก่ยี วข้องกับววิ ัฒนาการของ
รำวงมาตรฐาน
9.อธิบายการประยกุ ตท์ ่ารำวงมาตรฐานไปใชก้ ับเพลงอน่ื ๆ ในโอกาสต่าง ๆ
10.บอกแนวทางอนุรกั ษ์การละเลน่ ตามวฒั นธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาตามแนวทางนาฏศิลป์ไทยของ
ภาคตา่ งๆ

เนือ้ หา
1.ประวตั ิ ความเปน็ มา และววิ ฒั นาการของการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยประเภทตา่ ง ๆ
2.รปู แบบ/องคป์ ระกอบและวธิ กี ารแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยในแต่ละภาคประเภทต่าง ๆ
3. การแสดงความคดิ เห็นและความรู้สึกต่อการแสดงนาฏศลิ ป์ไทยประเภทต่าง ๆ
4. ประโยชนแ์ ละวิธีเลอื กชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย
5.ทา่ รำ และการสอ่ื ความหมายในนาฏศลิ ปไ์ ทย
6. การใชท้ ่าทางสอ่ื ความหมาย รวมท้งั โอกาสท่ีใช้แสดง
7.ประโยชน์และคณุ ค่าของนาฏศลิ ป์ไทยและภาษาท่าทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การอนุรักษ์มรดกทางวฒั นธรรม
8.ประวัติ ความเป็นมา วิวัฒนาการ ความหมายของเนื้อเพลงท่ีใช้และการแต่งกายประกอบการแสดงรำวง

มาตรฐาน
9.การนำทา่ รำวงมาตรฐานไปประยุกต์ใช้ประกอบกบั เพลงอืน่ ๆ เพอื่ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั โดยให้

สอดคลอ้ งกับวฒั นธรรม
10.การอนรุ ักษ์ การละเล่น ตามวฒั นธรรมประเพณี ของภูมปิ ญั ญาทางนาฏศลิ ปไ์ ทยของภาคต่างๆ

การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (กรต.) ครง้ั ท่ี 14
สาระทกั ษะการดำเนนิ ชีวติ

ทช21003 รายวิชาศิลปศึกษา
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม และไปทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต) โดยการไปศึกษาค้นคว้า
จากหนังสือเรียน จดบันทึกจากหนังสือ แบบเรียนตำรา และสื่ออื่น ๆ ในห้องสมุดประชาชนจังหวัด ห้องสมุด
ประชาชนอำเภอ โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา วิทยาลัยชุมชนในพื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาสหรือ
อำเภออน่ื ๆ หรือไปสอบถามขอความรู้จากบุคคล ในหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้

กลุ่มที่ 1 ประวัติ ความเป็นมา และวิวัฒนาการของการแสดงนาฏศิลป์ไทยประเภทต่าง ๆ รูปแบบ/
องคป์ ระกอบและวิธีการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย ในแตล่ ะภาคประเภทตา่ ง ๆ

กลุ่มท่ี 2 การแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกต่อการแสดงนาฏศิลป์ไทย ประโยชน์และวิธีเลือกชมการ
แสดงนาฏศิลป์ไทย ท่ารำ และการสื่อความหมายในนาฏศิลป์ไทย การใช้ท่าทางสื่อความหมาย รวมทั้งโอกาสที่ใช้
แสดง ประโยชน์และคุณค่าของนาฏศิลปไ์ ทยและภาษาทา่ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับการอนุรักษม์ รดกทางวฒั นธรรมประวัติ

กลุ่มท่ี 3 ความเป็นมา วิวัฒนาการ ความหมายของเนื้อเพลงที่ใช้และการแต่งกายประกอบการแสดงรำวง
มาตรฐานการนำท่ารำวงมาตรฐานไปประยุกต์ใช้ประกอบกับเพลงอื่น ๆ เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันโดยให้
สอดคล้องกับวัฒนธรรมการอนุรักษ์ การละเล่น ตามวัฒนธรรมประเพณี ของภูมิปัญญาทางนาฏศิลป์ไทยของภาค
ต่างๆ

ข้นั ตอนของการไปเรียนรตู้ อ่ เนือ่ ง (กรต.) ของนักศกึ ษา มีดงั นี้
1. แผนการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) ในแต่ละแต่ละสัปดาห์ แต่ละครั้งที่ครู กศน.ตำบล/ครู ศรช. หรือครู

ประจำกลมุ่ กลุ่มมอบหมาย
2. ให้บริหารเวลาและใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.)

สปั ดาห์ละ 15 ชงั่ โมงเป็นอย่างน้อย
3. อา่ นหนังสอื สอบถามผูร้ ู้ และจดบนั ทกึ ทกุ คร้ังทีมีการทำกจิ กรรม กรต. และเกบ็ หลักฐานไว้ทุกครั้งเพอื่

ส่งครู กศน.ตำบล/ครูศรช. หรือ ครปู ระจำกลุ่ม ตรวจให้คะแนนการทำ กรต.
4. จัดทำรายงานเป็นเล่ม ตามแบบรายงานที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยกำหนด

และให้ส่งในวนั ทม่ี กี ารนำเสนอผลการทำกรต. ในเรอ่ื งนัน้ ๆ
5. ตวั แทนกลุ่มนำเสนอด้วยตนเอง (กรณีทท่ี ำกรต. คนเดียว) โดยใหน้ ำเสนอผลงานตามข้อ 4 กลุม่ ละ/คน

ละไมเ่ กนิ 10 นาที ในวันพบกลุม่ ครง้ั ตอ่ ไป

ใบงาน ครั้งท่ี 14
วิชาศลิ ปศกึ ษา รหสั วิชา ทช21003
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ เร่ืองนาฏศลิ ปไ์ ทยประเภทตา่ งๆ จงตอบคำถามต่อไปน้ี

๑.นาฏศิลป์ หมายถึง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๒.นาฏศิลปข์ องไทยแบ่งออกตามลักษณะของรปู แบบการแสดงเปน็ ประเภทใหญๆ่ ก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๓.การแสดงนาฏศิลปช์ น้ั สงู ของไทยทม่ี เี อกลักษณ์ เรียกวา่ การแสดงประเภทใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….....
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๔.การฟ้อนเป็นการแสดงพนื้ เมอื งภาคใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….................
๕.จงยกตวั อยา่ งการแสดงของภาคอสี าน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….................

ช่อื – สกุล ........................................................................................................................................................

แบบทดสอบ คร้ัง ท่ี 14
วิชาศลิ ปศึกษา รหสั วชิ า ทช21003 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้

เร่ืองนาฏศลิ ป์ไทยประเภทต่างๆ
จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้

๑.การแสดงกิริยาอาการแล้วนำมาทำเปน็ ศพั ทท์ างนาฏศิลป์ เรียกวา่ อะไร

ก.นาฏดนตรี ข.นาฏศลิ ป์ไทย ค.นาฏยะศพั ท์ ง.ถูกทุกข้อ

๒.การแสดงร่ายรำแบบชฎาเป็นการรำในแบบใด

ก.การฟ้อน ข.การรำ ค.การระบำ ง.ละคร

๓.ต่อไปนเ้ี ป็นการแสดงทมี่ ีจงั หวะค่อนขา้ งเร็วและสนกุ สนานเปน็ การแสดงของอะไร

ก.การฟอ้ น ข.การรำ ค.การเซิ้ง ง.การระบำ

๔.การแสดงโขนท่ีนิยมแสดงในฉากสมจริงและการจัดฉากอย่างยง่ิ ใหญ่เปน็ การแสดงท่ีหาดไู ดย้ ากคอื การแสดงโขน

อะไร

ก.โขนกลางแปลง ข.โขนโรงใน ค.โขนฉาก ง.โขนนงั่ ราว

๕.ขอ้ ใดไม่ใช่การแสดงของภาคอสี าน

ก.เซง้ บงั ไฟ ข.ฟอ้ น ค.ฟอ้ นภไู ท ง.เรือมอนั เร

๖.การแสดงชกั นาคดกึ ดำบรรพจ์ ะแบง่ ผแู้ สดงออกเปน็ กีฝ่ ่าย

ก.1 ฝา่ ย ข.2 ฝา่ ย ค.3 ฝา่ ย ง.4 ฝา่ ย

๗.โขนกำเนิดมาจากการแสดงอะไร

ก.หนงั ใหญ่ ข.กระบกี่ ระบอง ค.ชักนาคดกึ ดำบรรพ์ ง.ถกู ทุกขอ้

๘.การแสดงมหรสพของไทยในอดตี มีการใชต้ ัวหนังประกอบการเตน้ ไปตามจังหวะดนตรคี ือ การแสดงใด

ก.หนงั ใหญ่ ข.กระบกี่ ระบอง ค.ชกั นาคดกึ ดำบรรพ์ ง.ถูกทกุ ข้อ

๙.การแสดงชักนาคดกึ ดำบรรพเป็นการแสดงเกย่ี วกบั ตำนานของใคร

ก.พระอนิ ทร์ ข.พระพรหม ค.พระวษิ ณุ ง.พระนารายณ์

๑๐.ทศกัณฐ์มกี ่ีหน้าและก่มี อื ง.20 หนา้ 20 มอื
ก.10 หน้า 10 มือ ข.10 หนา้ 20 มอื ค.20 หนา้ 10 มอื


Click to View FlipBook Version