The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบงานออนไลน์ 2-64

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nim_5579, 2022-04-07 02:52:13

ใบงานออนไลน์ 2-64

ใบงานออนไลน์ 2-64

ใบงานออนไลน์

ตามแผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการ (ONIE MODEL)

ประจำภำคเรยี นที่ 2 ปกี ำรศกึ ษำ 2564
ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้

ครผู สู้ อน

นางสาวตัสนมิ มานิ

ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั

อาเภอเมอื งนราธวิ าส

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบงานที่ 1

คำชี้แจง 1. ใหน้ กั ศกึ ษาวิเคราะห์วา่ บุคคลในข้อดงั กล่าวมีทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในดา้ นใด โดย
นำตวั อกั ษรหน้าทักษะต่างๆ ไปเติมหน้าข้อทีส่ ัมพนั ธ์กนั

ก. ทกั ษะการวดั
ข. ทกั ษะการสังเกต
ค. ทักษะการทดลอง
ง. ทักษะการต้งั สมมตฐิ าน
จ. ทกั ษะการคำนวณและการใชจ้ ำนวน
ฉ. ทกั ษะการกำหนดนยิ ามเชิงปฏิบัตกิ าร
ช. ทกั ษะการจดั กระทำและส่ือความหมายข้อมลู
ซ. ทกั ษะการจำแนกหรือทกั ษะการจดั ประเภทสิ่งของ

............ 1. เอกเทศ กำหนดนิยามของ “การเจริญเติบโต” ไวว้ า่ หมายถึง “มคี วามสูงเพ่ิมข้นึ ”
............ 2. วไิ ลพร วัดอณุ หภูมิของอากาศได้ 40 ํ C
............ 3. ครูมาลี นำผลสัมฤทธ์ิของนักเรยี นมาสร้างกราฟเปรียบเทียบ แล้วเสนอต่อผู้อำนวยการโรงเรยี น
............ 4. สาธิตคาดคะเนคำตอบการทดลองตามข้อมลู ทฤษฏวี ่า “แสงมผี ลตอ่ การเจริญเติบโตของพชื ”
............ 5. รูปทรงกระบอกมีความสงู ประมาณ 6 นว้ิ ผิวเรียบ
............ 6. อารี กำลงั ทดสอบวิทยาศาสตร์
............ 7. นภิ าดภู าพยนตร์ 3 มติ ิ เรอ่ื งสตั วโ์ ลก เธอเลา่ ถงึ สัตว์ชนดิ ต่างๆ ว่า นกมี 2 ขา เสอื มี 4 ขา ฯลฯ
............ 8. นางฟ้า หยดสารละลายไอโอดีน ลงบนขา้ วเหนียวท่เี ตรยี มไว้
............ 9. ณเดช นำข้อมลู การวัดน้ำหนกั ของนักเรียนมาหาค่าเฉลย่ี เพ่ือนำผลไปสรปุ และแปลความหมาย
............ 10. นักวทิ ยาศาสตร์แบ่งพืชออกเป็น 2 พวก คือ พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลีย้ งคู่

2. จงบอกคุณลกั ษณะของบุคคลท่ีมจี ติ วทิ ยาศาสตรท์ ้ัง 6 ลักษณะ พร้อมท้ังยกตวั อยา่ งคุณลกั ษณะดงั กล่าว
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................... ..........
........................................................................................................................ ......................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................... .......................
........................................................................................................... ...................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................... ....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบงานที่ 2

จงตอบคำถามต่อไปน้ี

1. ใหน้ ักศึกษาพจิ ารณาชอื่ โครงงานตอ่ ไปนแ้ี ล้วตอบว่าเปน็ โครงงานประเภทใด โดยเขียนคำตอบลงในชอ่ งว่าง

1.1 แปรงลบกระดานไรฝ้ ่นุ โครงงานประเภท.................................................

1.2 ยาขดั รองเทา้ จากเปลอื กมังคดุ โครงงานประเภท.................................................

1.3 การศกึ ษาบริเวณป่าชายเลน โครงงานประเภท.................................................

1.4 พฤติกรรมลองผดิ ลองถูกของนกพริ าบ โครงงานประเภท.................................................

1.5 การศกึ ษาคุณภาพนำ้ ในแมน่ ้ำเจ้าพระยา โครงงานประเภท.................................................

1.6 เคร่อื งสง่ สญั ญาณกันขโมย โครงงานประเภท.................................................

1.7 สาหร่ายสเี ขยี วแกมน้ำเงินปรับสภาพนำ้ เสยี จากนากุ้ง โครงงานประเภท.................................................

1.8 ศึกษาพฤติกรรมการเรยี นรูแ้ บบมีเงื่อนไขของหนูขาว โครงงานประเภท.................................................

1.9 ศึกษาวงจรชีวติ ของตวั ดว้ ง โครงงานประเภท.................................................

1.10 บา้ นยุคนวิ เคลยี ร์ โครงงานประเภท.................................................

2. ใหน้ กั ศกึ ษาจัดทำโครงงานวทิ ยาศาสตรท์ ี่นา่ สนใจอยากรู้มา 1 โครงงาน โดยดำเนินการดังน้ี
1) ประเดน็ ที่สนใจ/อยากร้/ู อยากแก้ปัญหา พร้อมทั้งบอกเหตุผลทสี่ นใจ/อยากร/ู้ อยากแก้ปญั หา (ทำไม)
2) เขยี นเค้าโครงโครงงาน ตามประเดน็ ดงั น้ี
2.1) ช่ือโครงงาน
2.2) ทม่ี าและความสำคัญของโครงงาน
2.3) วตั ถุประสงค์ของโครงงาน
2.4) ตวั แปรที่ตอ้ งการศึกษา
2.5) สมมติฐานของโครงงาน
2.6) วัสดอุ ปุ กรณ์และงบประมาณทตี่ ้องใช้
2.6.1 วัสดุอปุ กรณ์
2.6.2 งบประมาณ
2.7) วธิ ดี ำเนินงาน (ทำอยา่ งไร)
2.8) แผนการปฏิบัติงาน (ระบกุ จิ กรรม วันเดอื นปี และสถานท่ีท่ปี ฏิบัติงาน)

กจิ กรรม วันเดอื นปี สถานทปี่ ฏิบัติงาน หมายเหตุ

2.9) ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ บั (ทำโครงการนแ้ี ลว้ มีผลดอี ยา่ งไรบา้ ง)
3) สรปุ ผลการศกึ ษาทดลองในรูปแบบของรายงานการศึกษาทดลอง พร้อมท้งั นำเสนอโครงงาน

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบงานท่ี 3

1. จงเตมิ คำตอบทถ่ี ูกต้อง
1. เซลล์ (Cell) คือ ............................................................................................................................. ............
................................................................................................................................... .....................................
2. ผนังเซลล์ มีหน้าท่ี ......................................................................................................................................
3.ส่วนประกอบของเซลล์ท่ีทำหนา้ ที่ควบคมุ ปริมาณ และชนิดของสารที่ผา่ นเขา้ ออกจากเซลล์ คืออะไร
..................................................................................................... ...................................................................
4. เซลลช์ นดิ ใดเม่อื เจริญเตบิ โตเต็มทจี่ ะไม่มีนวิ เคลียส ...................................................................................
5. ผนังเซลลข์ องพืชประกอบไปดว้ ยสารท่ีเรียกวา่ อะไร ..................................................................................
6. ส่วนประกอบชนิดใดบา้ ง ทพ่ี บในเซลล์พืช แตไ่ ม่พบในเซลล์สตั ว์ ..............................................................
7. เซลล์สตั วไ์ มส่ ามารถสร้างอาหารเองได้ เพราะ ..........................................................................................
8. ภายในคลอโรพลาสต์มสี ารสีเขียว เรยี กวา่ .................................................................................................
9. สว่ นประกอบของเซลลม์ ีหนา้ ท่ีควบคุมการเจริญเติบโต และการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม คือ
............................................................................................................................. ...........................................
10. เพราะเหตุใดเม่ือพืชและสัตว์ตายลง เซลล์พชื จึงมลี ักษณะคงรูปอยู่ได้ แต่เซลล์สตั ว์จะสลายไป
............................................................................................................................. ...........................................

2. จงเติมสว่ นประกอบของเซลล์ลงในชอ่ งวา่ ง พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างระหวา่ งเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์

ลงในตารางใหถ้ ูกต้อง 1 ………………………………………………………………
2 ………………………………………………………………
1 3 ………………………………………………………………
2

4 ………………………………………………………………

5 ………………………………………………………………
3 45

ก. เซลลส์ ัตว์ ข. เซลล์พชื

1. 1.

2. 2.

3. 3.

4. 4.

5. 5.

6. 6.

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบงานท่ี 4

จงตอบคำถามต่อไปน้ี

1. ให้นกั ศึกษา เลอื กตัวอกั ษร A – F มาวางไว้หน้าข้อคำถามแตล่ ะข้อท่ีมีความสัมพันธ์กัน

………… 1.1 เห็บเกาะกินเลือดสุนขั

………… 1.2 พยาธิในตบั มนษุ ย์ กำหนดให้
………… 1.3 แบคทเี รยี ยอ่ ยซากสตั ว์
………… 1.4 ปลาฉลามกับเหาฉลาม A ภาวะปรสิต
………… 1.5 นกเอย้ี งบนหลังควาย B ภาวะลา่ เหยอ่ื
………… 1.6 ผงึ้ ดูดนำ้ หวานจากเกสรดอกไม้ C ภาวะได้ประโยชนร์ ว่ มกนั
………… 1.7 เสือไล่จบั กวาง D ภาวะมกี ารย่อยสลาย
………… 1.8 แบคทเี รียในปมรากถ่วั E ภาวะองิ อาศัย
………… 1.9 ยงุ ดูดเลอื ดมนษุ ย์ F ภาวะพึง่ พากัน

………… 1.10 กลว้ ยไมเ้ กาะบนตน้ ไม้

2. ระบบนเิ วศ คืออะไร

............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................. .................................................

3. ใหน้ กั ศกึ ษา ศึกษาสายใยอาหาร (Food Web) แลว้ ตอบคำถามต่อไปน้ี

นกเหยยี่ ว

กบ หนูนา

ต๊กั แตน งู
ข้าวโพด

1. สง่ิ มชี ีวติ ทเี่ ป็นผผู้ ลิต คอื ............................................................................................................................
2. สิ่งมชี วี ิตที่เปน็ ผู้บริโภคลำดับท่ี 1 คอื .........................................................................................................
3. ส่ิงมชี ีวิตที่เปน็ ผู้บริโภคลำดับที่ 2 คือ .........................................................................................................
4. ส่ิงมชี ีวิตท่ีเปน็ ผบู้ ริโภคลำดับสดุ ทา้ ย คือ ...................................................................................................
5. จำนวนโซอ่ าหารมกี ี่หว่ งโซ่ ใหอ้ ธบิ ายให้ชัดเจน
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

4. วฎั จกั รของน้ำ (Water cycle) หมายถงึ อะไร และมีกระบวนการเปล่ยี นแปลงอย่างไร จงอธิบาย
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
5. วฎั จกั รของคาร์บอน (Carbon Cycle) คอื อะไร จงอธิบาย พรอ้ มเขียนแผนภาพประกอบ
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

แผนภาพประกอบ →

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบงานที่ 5

จงตอบคำถามต่อไปน้ี

1. สว่ นประกอบของโลก แบ่งออกเป็นก่ีส่วน อะไรบ้าง
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
2. เปลอื กโลก คืออะไร และสามารถแบ่งออกเป็นก่ีชนั้ จงอธิบาย
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
............................................................................................. .................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
3. แมนเทลิ (Mantle) มลี ักษณะเปน็ อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.................................................................................................. ............................................................................
4. แก่นโลก (Core) สามารถแบ่งออกเปน็ กช่ี ้ัน จงอธบิ าย
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................................................. ................
.................................................................................................................. ............................................................
5. การเคลื่อนท่ีของเปลอื กโลก เกดิ จากสาเหตใุ ด และการเคล่ือนท่ีสามารถแบง่ ออกเป็นอะไรบา้ ง จงอธิบาย
................................................................................................... ...........................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................. ............................................
...................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
6. บรรยากาศประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบใดบา้ ง และสามารถแบ่งช้ันบรรยากาศได้กช่ี ้ัน อะไรบา้ ง จงอธบิ าย
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบงานท่ี 6

จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. ใหน้ กั ศึกษา เลอื กตัวอกั ษร ก – จ มาวางไวห้ น้าข้อคำถามแต่ละขอ้ ที่มีความสัมพนั ธก์ ัน

………… 1. มีสมบตั ินำไฟฟา้ ได้, ผวิ เปน็ มนั วาว กำหนดให้
………… 2. เกิดจากการรวมตัวของธาตุตงั้ แตส่ องชนดิ ข้นึ ไป
………… 3. มีสมบตั นิ ำไฟฟา้ ได,้ เปราะ ก. ธาตุ
………… 4. ไม่สามารถนำมาแยกสลายใหก้ ลายเป็นสารอืน่ ข. สารประกอบ
………… 5. คาร์บอน, โบรมีน, ออกซเิ จน ค. โลหะ
………… 6. มีสมบัตินำไฟฟ้าไม่ได,้ เปราะ ง. อโลหะ
………… 7. นำ้ ตาลทราย, นำ้ จ. กึ่งโลหะ
………… 8. สงั กะส,ี ตะกั่ว, เงิน
………… 9. โซเดียม, แคลเซียม, ปรอท
………… 10. โบรอน, ซิลิคอน

2. สมบัตขิ องสาร แบง่ ออกเป็นกป่ี ระเภท อะไรบ้าง จงอธิบาย
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................... ...
............................................................................................................................. .................................................
3. เกณฑ์ทีเ่ ราใชใ้ นการจำแนกสารออกเปน็ หมวดหมู่ มีเกณฑป์ ระเภทใดบา้ ง
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................. .
............................................................................................................................. .................................................
4. กมั มนั ตรงั สี กับ ธาตุกัมมนั ตรงั สี แตกต่างกนั อย่างไร
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
5. สารประกอบ หมายถึงอะไร และจงอธิบายการเกดิ สารประกอบ
..................................................................................................................................... .........................................
......................................................................................... .....................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบงานท่ี 7

จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. แรง หมายถงึ อะไร มกี ชี่ นดิ อะไรบา้ ง
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................ ......................................
............................................................................................ ..................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
2. แรงเสยี ดทานมคี า่ มากหรือน้อยขึ้นอยู่กบั อะไร
............................................................................................................................................................. .................
................................................................................................................. .............................................................
3. ยานพาหนะที่ใช้ในปจั จบุ นั ทุกชนิดต้องมีล้อเพื่ออะไร
............................................................................................................................. .................................................
4. ลอ้ รถมตี ลบั ลูกปืน ลอ้ และใส่น้ำมันหลอ่ ลน่ื เพอ่ื อะไร
............................................................................................................................. .................................................
5. จากรูป แรงลัพธ์มีค่าเท่าใด และมที ิศทางไปทางทิศใด (จงแสดงวิธีทำ)

............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................... ...........................
6. โมเมนต์ หมายถึงอะไร และประกอบดว้ ยทศิ ทางใดบา้ ง
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
7. คานอนั หน่งึ มนี ำ้ หนัก 600 นิวตัน แขวนที่ปลายคานขา้ งหน่งึ และอยูห่ ่างจุดหมนุ 1 เมตร จงหาว่าจะต้อง
แขวนนำ้ หนัก 200 นิวตัน ทางด้านตรงกันขา้ มท่ีใด คานจึงจะสมดุล (จงแสดงวธิ ที ำ)
........................................................................................................................................................................ ......
............................................................................................................................ ..................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................... ...................
............................................................................................................... ...............................................................
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................................. ................................

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบงานที่ 8

จงตอบคำถามต่อไปน้ี
1. งานในทางวทิ ยาศาสตร์ หมายถึงอะไร
............................................................................................................................................................. .................
2. รูปแบบของพลังงานจัดเป็นกกี่ ล่มุ อะไรบา้ ง พร้อมบอกความหมายและยกตัวอย่างของพลงั งานในรูปตา่ งๆ
มาอย่างครบถ้วน
................................................................................................................................. .............................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................... ...
............................................................................................................................. .................................................
3. คำนวณหาค่าปริมาณกระแสไฟฟา้ ของวงจรไฟฟ้าท่ีมแี รงดนั ไฟฟ้าขนาด 50 โวลต์ และมีค่าความตา้ นทาน
ของวงจรเทา่ กับ 5 โอห์ม (แสดงวิธีทำ)
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
4. การต่อความตา้ นทานของวงจรไฟฟา้ สามารถกระทำได้กี่แบบ จงอธบิ าย พร้อมวาดแผนภาพประกอบ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
5. นักศกึ ษามวี ธิ ีการอนุรักษ์และประหยัดพลงั งานท่ใี ชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยา่ งไรบ้าง จงอธบิ าย
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................ ..
............................................................................................................................. .................................................

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 21001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบงานที่ 9

จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. กลมุ่ ดาวฤกษ์ในจักรราศแี ละตำแหน่งปรากฏของดวงอาทติ ย์ในกลุ่มดาวมีความสอดคล้องกบั ชือ่ เดือนอยา่ งไร
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
2. กลุม่ ดาวจกั รราศที ้ัง 12 กลุ่ม มีชือ่ เรยี กอะไรบ้าง
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
3. วธิ ีการหาดาวเหนอื สามารถกระทำโดยอาศยั วิธใี ดบ้าง จงอธบิ าย
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
4. แผนท่ีดาวทน่ี ิยมใช้ในปัจจุบนั เป็นแผนท่ดี าวแบบใด มลี ักษณะและวธิ กี ารใช้แผนทด่ี าวอย่างไร จงอธิบาย
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................. .............................
..................................................................................................... .........................................................................
............................................................................................................................. .................................................

สรปุ องคค์ วามรูร้ ายวิชาวิทยาศาสตร์ (
ในรปู แบบ แผนท่ีความ

(พว21001) ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้
มคิด (Mind Mapping)

ใบงานที่ 1
สาระความรพู้ นื้ ฐาน วชิ าการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าในชีวติ ประจำวนั (พว22002)

ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้
*********************************************************************************

ชอื่ -สกลุ ...............................................................รหัสนกั ศึกษา.......................................................................

คำชแี้ จง ใหผ้ ู้เรียนทำเคร่อื งหมาย หนา้ ข้อความที่ถูกตอ้ ง และเครอ่ื งหมาย หน้าข้อความที่ผิด
(ขอ้ ละ 2 คะแนน)

.......... 1. จากขอ้ มลู ปี พ.ศ. 2553 แหลง่ พลังงานที่ใชผ้ ลติ ไฟฟา้ สูงสดุ 3 อันดับแรก คือ ถา่ นหนิ กา๊ ซธรรมชาติ
และ นวิ เคลียร์

.......... 2. ปจั จุบนั มกี ารใช้ถา่ นหินมาเปน็ เชอื้ เพลงิ ในการผลิตไฟฟา้ มากทีส่ ุดในโลกเนื่องจากเป็นเชอื้ เพลองราคาถกู
.......... 3. ทัว่ โลกมีการกระตนุ้ ให้มกี ารใชเ้ ชอ้ื เพลงิ ท่ีสะอาดมาผลติ ไฟฟา้ มากขึ้น ส่งผลให้มีการใช้เช้อื เพลิง

หมนุ เวยี นมากขึ้น นอกจากนยี้ งั มแี นวโนม้ วา่ จะมกี ารนำเอาพลังงานนวิ เคลยี ร์มาใช้มากขึ้นดว้ ย
………. 4. แนวทางการจัดการด้านพลังงานระหวา่ งประเทศสมาชิกอาเซียน เน้นการสรา้ งความมัน่ คงทางด้าน

พลังงานการเสริมสรา้ งความมัน่ คงของระบบไฟฟา้ โดยการเลอื กใชเ้ ชอ้ื เพลงิ เพยี งอย่างเดยี วในการผลติ
ไฟฟา้
.......... 5. กลมุ่ ประเทศอาเซียนมกี ารใช้ก๊าซธรรมชาติมาเป็นการผลติ เชือ้ เพลิงในการผลติ ไฟฟ้ามากทีส่ ุด
.......... 6. มกี ารสนบั สนุนใหป้ ระเทศสมาชกิ อาเซียนสำรองนำ้ มันภายในประเทศของตน เพ่ือความมน่ั คงทางด้าน
พลงั งานของแตล่ ะประเทศ
.......... 7. ปัจจุบนั กลุม่ ประเทศอาเซียนไดม้ ีการดำเนินโครงการผลิตและใชพ้ ลังงานรว่ มกนั อยู่ 2 โครงการ คอื
โครงการเชื่อมโยงระบบสง่ ไฟฟา้ อาเซียน และโครงการเช่ือมโยงท่อส่งกา๊ ซอาเซียน
.......... 8. พลงั งานนวิ เคลยี ร์ เปน็ พลังงานทางเลอื กทห่ี ลายประเทศในอาเซียนบรรจไุ วใ้ นแผนพลังงานตนเอง เพอื่
เตรยี มรองรับความต้องการไฟฟ้าทีม่ ากขึ้น
.......... 9. จากขอ้ มูลปี พ.ศ. 2555 ประเทศไทยมีการใชถ้ ่านหนิ มาผลติ ไฟฟา้ สงู ท่สี ุด
..........10. การผลติ ไฟฟ้าในประเทศไทยมาจากหนว่ ยงานของรัฐหนว่ ยงานเดยี วเทา่ น้ัน คอื การไฟฟ้าฝา่ ยผลติ แห่ง
ประเทศไทย

แบบทดสอบ

รายวชิ า พลงั งานไฟฟา้ ในชวี ิตประจำวนั 2 รหสั วิชา พว22002

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้

คำช้ีแจง จงเลอื กคำตอบท่ถี กู ตอ้ งทีส่ ุดเพียงขอ้ เดยี ว

1. ขอ้ ใดคอื ความหมายของไฟฟ้า

ก. การเคลอ่ื นทีข่ องไฟฟ้า ข. การเคล่ือนทข่ี องไฟฟา้ สถิต

ค. การเคล่ือนท่ีของอิเลก็ ตรอน ง. การเคลอ่ื นทีข่ องไฟฟ้ากระแส

2. ประเทศไทยใชเ้ ช้ือเพลิงประเภทใดในการผลิตไฟฟ้ามากที่สดุ
ก. ถ่านหนิ ข. ชีวมวล ค. กา๊ ซธรรมชาติ ง. พลงั งานทดแทน

3. ประเทศใดในอาเซียนท่มี กี ารใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟา้ มากท่สี ุด

ก. ไทย ข. ลาว ค. เมียนมาร์ ง. อนิ โดนเี ซีย

4. ขอ้ ใดไม่ใชภ่ ารกิจของการไฟฟ้าฝา่ ยผลติ แห่งประเทศ ไทย (กฟผ.)

ก. ผลิตไฟฟ้า ข. จา่ ยไฟฟา้ ใหก้ บั ประชาชน

ค. รบั ซอื้ ไฟฟ้าจากตา่ งประเทศ ง. จัดส่งไฟฟา้ จากโรงไฟฟา้ ให้กับ กฟภ. และ กฟน.

5. ขอ้ ใดไม่ใชส่ ง่ิ ท่ตี อ้ งพิจารณาในการเลือกเชอ้ื เพลิงเพ่อื ผลิตไฟฟ้า
ก. ซอื้ ไฟฟ้าจากต่างประเทศให้มาก ๆ
ข. ตอ้ งมีปริมาณเชื้อเพลิงสารองท่ีเพยี งพอ
ค. ต้องมีการกระจายชนดิ และแหล่งทมี่ าของเชอ้ื เพลงิ
ง. ต้องเปน็ เชื้อเพลงิ ทม่ี รี าคาเหมาะสมและมเี สถยี รภาพ

6. ขอ้ ใดไม่ใชข่ ้อจำกดั ของพลังงานลม ข. เปน็ แหลง่ พลังงานสะอาด
ก. ต้นทนุ คา่ ไฟฟ้าตอ่ หนว่ ยสงู ง. มเี สียงดงั และมีผลกระทบตอ่ ทัศนียภาพ
ค. ไมส่ ามารถผลิตไฟฟ้าไดต้ ลอดเวลา

7. ขอ้ ใดเป็นขอ้ จ ากดั ของพลงั งานแสงอาทิตย์

ก. ตน้ ทนุ ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยสงู ข. เป็นแหลง่ พลงั งานสะอาด

ค. เป็นแหล่งพลงั งานที่ไม่มีค่าเชอื้ เพลงิ ง. สามารถนำไปใช้ในพื้นท่ที ่ีไฟฟา้ ยังเข้าไมถ่ ึง

8. ขอ้ ใดเป็นขอ้ จำกัดของพลังงานนิวเคลยี ร์ ข. ไม่มกี ารปลอ่ ยก๊าซเรอื นกระจก
ก. ใชเ้ งินลงทนุ ในการกอ่ สร้างสูง ง. สามารถผลติ ไฟฟา้ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ค. ใชเ้ ช้ือเพลงิ นอ้ ย สามารถผลติ ไฟฟา้ ได้มาก

9. ปริมาณส ารองของก๊าซธรรมชาตใิ นอา่ วไทย เหลอื ใช้ได้ อกี กีป่ ี

ก. 40 ปี ข. 30 ปี ค. 20 ปี ง. ไมถ่ งึ 10 ปี

10. ประเทศไทยมแี หล่งพลังงานความรอ้ นใตพ้ ภิ พท่ใี ช้ผลิต ไฟฟ้า ต้งั อยู่ทีจ่ ังหวัดใด

ก. ลำพูน ข. ลำปาง ค. เชียงใหม่ ง. แมฮ่ ่องสอน

ใบงานที่ 2
เรอื่ ง อุปกรณไ์ ฟฟ้า ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
คำช้แี จง ใหน้ ักศึกษาตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถกู ต้อง
โดยให้เลือกอุปกรณ์ไฟฟา้ ท่กี ำหนดให้ เตมิ ลงในช่องว่างใหต้ รงกบั ลกั ษณะการใช้งาน

สายไฟ ฟวิ ส์ เบรกเกอร์ สวิตช์ สะพานไฟ
เครอ่ื งตัดไฟฟา้ รั่ว เต้ารบั เต้าเสยี บ

1) เมอ่ื ผใู้ ชเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟา้ ถกู ไฟฟ้าช็อต เกิดไฟกระชาก จะทำให้ _________ ตัดไฟ
2) เมอ่ื กระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นเครื่องใชไ้ ฟฟ้าเกินขนาด จะสง่ ผลให้_________ ขาด
3) _________ ใช้สำหรับควบคุมการ เปดิ – ปิด หลอดไฟ
4) ก่อนดำเนินการซ่อมระบบไฟฟา้ เพอ่ื ความปลอดภัย จะต้องท าการตัดไฟฟา้ ท้งั หมดภายในบ้าน

โดยสับคนั โยก _________ ลง
5) ตอ้ งนำ _________ ของเคร่ืองใช้ไฟฟา้ เสียบกบั _________ ให้แนน่ เมอื่ ต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟา้
6) เมื่อมีการใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟ้าหลายชนดิ พร้อมๆ กนั ท าให้กระแสไฟฟ้าไหลในวงจรเกนิ กำหนด จะทำ

ให้_________ ตัดไฟฟ้าโดยอตั โนมตั ิ

แบบทดสอบยอ่ ย

รายวิชา พลังงานไฟฟ้าในชวี ติ ประจ าวนั รหัสวชิ า พว22002

เร่ือง อุปกรณไ์ ฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้

คำชแี้ จง จงเลอื กคำตอบที่ถูกตอ้ งทสี่ ุดเพียงขอ้ เดยี ว

1. ไฟฟ้าทีใ่ ช้ในครวั เรอื นของประเทศไทยไฟฟา้ เป็น กระแสสลับที่มีความตา่ งศักยเ์ ทา่ ใด

ก. 50 โวลต์ ข. 110 โวลต์ ค. 200 โวลต์ ง. 220 โวลต์

2. วงจรไฟฟา้ ภายในครัวเรอื นเปน็ การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบใด

ก. แบบผสม ข. แบบรวม ค. แบบขนาน ง. แบบอนุกรม

3. ขอ้ ใดเป็นประโยชน์ของสายดิน

ก. ปอ้ งกนั ไม่ให้ถกู ไฟฟ้าดดู ข. ทำให้วงจรปดิ มีกระแสไฟฟา้ ไหล

ค. จ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังเครอื่ งใช้ไฟฟา้ ง.ควบคมุ การจา่ ยพลังงานไฟฟ้าในครัวเรอื น

4. ข้อใดเปน็ การกดสวิตชเ์ ปิดไฟ ข. การทำให้วงจรเปดิ มีกระแสไฟฟา้ ไหล
ก. การทำใหว้ งจรปิด มีกระแสไฟฟา้ ไหล ง. การทำใหว้ งจรเปดิ ไมม่ กี ระแสไฟฟ้าไหล
ค. การทำให้วงจรปดิ มีกระแสไมไ่ ฟฟา้ ไหล

5. สายไฟฟา้ หลักของวงจรไฟฟา้ ในครัวเรือนมสี ายอะไรบ้าง

ก. สายไฟ สายล่อฟ้า ข. สายไฟ สายนิวทรัล

ค. สายไฟ สายนวิ ทรัล สายดนิ ง. สายไฟ สายนิวทรลั สายดนิ สายล่อฟ้า

6. เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ใดทตี่ ้องต่อสายดินเพื่อความปลอดภยั

ก. เคร่ืองทำน้ำอุ่นไฟฟา้ ข. กระติกนำ้ ร้อนไฟฟา้ ค. เตารีดไฟฟ้า ง. พัดลม

7. คุณสมบตั ิทด่ี ขี องฟวิ ส์ ควรมลี กั ษณะเปน็ อย่างไร

ก. ยอมใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นเปน็ ช่วง ๆ ข. ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นค่อยเปน็ ค่อยไป

ค. ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นได้ตลอดโดยไม่เกิน กระแสไฟฟา้ ทีฟ่ ิวสก์ ำหนด

ง. ถกู ทุกขอ้

8. เบรกเกอร์ มหี นา้ ท่ีอะไร

ก. เป็นฉนวนป้องกันไฟฟา้ เกนิ ข. ต่อวงจรใหม้ กี ระแสไฟฟ้าไหล

ค. เปน็ อุปกรณ์ เปิด – ปดิ วงจรไฟฟา้

ง. เป็นอปุ กรณ์ตัดตอ่ วงจรอัตโนมัติ เม่ือมีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นเกนิ ค่าทกี่ ำหนด

9.ไฟฟ้ากระแสตรงสามารถแบ่งออกเป็นกีแ่ บบ

ก. 1 แบบ ข. 2 แบบ ค. 3 แบบ ง. 4 แบบ

10. ข้อใดเป็นอปุ กรณใ์ นการต่อเซลล์ไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย ข. หลอดไฟ มอเตอร์ ออดไฟฟ้า
ก. หลอดไฟ สายไฟเซลลไ์ ฟฟา้ สวิตช์ ง. เซลลไ์ ฟฟ้า แบตเตอรมี่ อเตอร์เซลล์ไฟฟา้
ค. สายไฟ สวติ ช์

ใบงานท่ี 3
เรอื่ ง การใชแ้ ละการประหยดั พลงั งานไฟฟ้า

ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
คำชีแ้ จง ใหน้ กั ศึกษาตอบคำถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง
ให้เลือกกลยทุ ธก์ ารประหยดั พลงั งานไฟฟา้ 3 อ. ใสล่ งในชอ่ งวา่ งให้ตรงกบั แนวทางการประหยดั ไฟฟ้าของ
แตล่ ะกลยุทธ์
ก. กลยทุ ธ์ อ. 1 อปุ กรณ์ประหยดั ไฟฟา้
ข. กลยุทธ์ อ. 2 อาคารประหยดั ไฟฟา้
ค. กลยุทธ์ อ. 3 อปุ นสิ ัยประหยดั ไฟฟ้า
________ 1) หมัน่ ทำความสะอาดเครื่องใชไ้ ฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
________ 2) ปลูกไมย้ นื ตน้ ให้รม่ เงาแกอ่ าคาร
________ 3) เลอื กใช้ตู้เย็นทต่ี ดิ ฉลากประหยดั ไฟเบอร์5
________ 4) ใชร้ ะบบปรบั อากาศทแ่ี ยกสวิตช์ เปิด – ปดิ เฉพาะเครอ่ื ง เพอื่ ใหค้ วบคุมการ เปดิ – ปดิ ตามความ

ต้องการใช้งานในแต่ละบรเิ วณ
________ 5) เลอื กขนาดของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใชง้ าน
________ 6) รดี ผา้ คร้งั ละมาก ๆ และไมพ่ รมน้ าจนชมุ่ เกินไป
________ 7) ใช้ทีค่ รอบโลหะสะทอ้ นแสงเพือ่ ช่วยเพิ่มความสวา่ งแกห่ ลอดไฟได2้ – 3 เท่า โดย ใชจ้ ำนวน

หลอดไฟเท่าเดิม
________ 8) เปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้เปน็ หลอด LED
________ 9) ปิดสวิตชแ์ ละถอดปลกั๊ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ทุกครงั้ หลงั เลิกใช้งาน
________ 10) ใชว้ สั ดุทีม่ ีคุณสมบตั ิเปน็ ฉนวนความรอ้ น สะทอ้ นหรอื ปอ้ งกันความรอ้ น เช่น ผนัง หลังคา และ

ฝา้ เพดานของอาคาร

ชอ่ื ..........................................................................................รหสั นักศึกษา................... .......................

แบบทดสอบยอ่ ย ครัง้ ที่ 19
เร่อื ง การใช้และการประหยดั พลังงานไฟฟ้า
รายวชิ า พลังงานไฟฟ้าในชวี ิตประจำวนั รหสั วชิ า พว22002

ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้
คำชแ้ี จง จงเลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งที่สดุ เพียงขอ้ เดียว

1.ข้อใดเปน็ วธิ ีการใช้กระตกิ นำ้ รอ้ นไฟฟ้าทไี่ ม่ถูกต้อง
ก. ระวงั อยา่ ใหน้ ้ำแหง้
ข. อยา่ นำสงิ่ ใดๆ มาปิดช่องไอนำ้ ออก
ค. ตงั้ กระติกนำ้ ร้อนไว้ในห้องท่มี กี ารปรบั อากาศ
ง. ใสน่ ้ำให้เหมาะกับความต้องการหรือไมส่ ูงกว่าระดบั ที่ กำหนดไว้

2.ขอ้ ใดเปน็ วธิ ีการใช้พัดลมทถี่ กู ตอ้ ง
ก. เลือกใช้ความแรงของลมสงู สดุ
ข. ควรวางพัดลมไว้ในทอ่ี ากาศร้อน
ค. เปดิ พัดลมทิ้งไวส้ กั ครู่ เม่อื เลิกใช้งาน

ง. ในกรณีทพ่ี ดั ลมมีระบบรีโมทคอนโทรลอย่าเสยี บปลก๊ั ทง้ิ ไว้

3.โทรทัศน์แบบใดประหยัดไฟฟา้ มากที่สุดเมอ่ื เปดิ ใช้ใน จำนวนชว่ั โมงเทา่ กนั

ก. LED 46 นว้ิ ข. LCD 46 นว้ิ

ค. ทวี จี อแบน 20 น้ิว ง. ทวี จี อแบน 25 น้วิ

4.ขอ้ ใดเปน็ วิธีรีดผา้ ทถี่ ูกต้องและประหยดั ท่ีสุด
ก. รีดชดุ ท่ีจะใสค่ ร้ังละชุด
ข. พรมน ามาก ๆเพ่อื จะได้รีดงา่ ยๆ
ค. รีดผ้าจนเสร็จท้ังหมด แลว้ คอ่ ยถอดปล๊กั ออก
ง. รวบรวมผ้าท่ีจะรีด แลว้ รดี ภายในคร้ังเดียว

5.ข้อใดไม่ใช่การใช้ตเู้ ยน็ อย่างถูกวิธแี ละประหยัด
ก. เปดิ – ปดิ ตเู้ ย็นบ่อย ๆ
ข. ไม่น าอาหารร้อนไปใส่ไวใ้ นตู้เยน็
ค. เกบ็ อาหารใสไ่ ว้ในตูเ้ ยน็ เท่าทีจ่ าเป็น

ง. ตงั้ ตูเ้ ย็นหา่ งจากผนังอย่างน้อย 15 ซม.

6.ข้อใดไมใ่ ช่วธิ ีการใช้และการดแู ลรักษาเคร่ืองปรบั อากาศ อย่างถกู วธิ ี
ก. เปดิ เครอื่ งปรับอากาศที่ 26 องศา
ข. ทำความสะอาดเคร่ืองปรบั อากาศทุก 6 เดือน
ค. ปิดเคร่ืองปรบั อากาศก่อนออกจากหอ้ ง 1 ชัว่ โมง

ง. เปิดประตูห้องนอนขณะเปดิ เครื่องปรบั อากาศ

๗.ทคี่ วามสวา่ งเทา่ กันหลอดไฟชนดิ ใดประหยดั ไฟทส่ี ดุ

ก. หลอดไส้ ข. หลอดตะเกียบ

ค. หลอดแอลอดี ี ง. ประหยดั เท่ากันทุกหลอด

8. ข้อใดคือกลยทุ ธก์ ารประหยัดพลงั งาน 3 อ.
ก. อาหาร อาคาร อุปนิสยั
ข. อปุ กรณ์ อาคาร อาหาร
ค. อุปกรณ์ อาหาร อปุ นิสยั
ง. อปุ กรณ์ อาคาร อปุ นิสยั

9. ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ กั ษณะของฉลากเบอร์ 5
ก. ต้องแสดงตวั เลขการใช้พลังงานไฟฟ้าตอ่ ปี
ข. จะตอ้ งแสดงยหี่ อ้ รุน่ ขนาดของอปุ กรณ์ไฟฟ้า
ค. จะตอ้ งระบุปีทมี่ ีการปรบั คา่ ประสทิ ธภิ าพพลงั งาน
ง. ต้องมีลายน าสญั ลักษณข์ องการไฟฟ้าผ่ายผลติ แหง่ ประเทศไทย

10. ขอ้ ใดคือหลักการประหยัดพลงั งาน 4 ป.
ก. ปิด – ปรับ – ปลด – ปลอ่ ย
ข. ปิด – ปรับ – ปลด – เปลย่ี น
ค. ปิด – ปรบั – ปลด – ประหยดั
ข. ปิด – ปรบั – เปล่ียน – ประหยัด

สรปุ องคค์ วามรทู้ ไ่ี ดเ้ รยี นรรู้ ายวชิ า การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในชวี ติ ปร

ระจำวนั 2 พว22002 ในรูปแบบ แผนทค่ี ามคดิ (Mind Mapping)

แผนการจัดการเรียนร้รู ายสปั ดาห์ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ครง้ั ที่ 17

รายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวติ ประจำวัน 2 รหัสวิชา พว22002

เวลาเรยี น 40 ชั่วโมง (พบกลมุ่ 9 ชวั่ โมง /การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 31 ช่วั โมง)
วันที่...................... เดอื น............................................. พ.ศ. ........................

มาตรฐานท่ี 2.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพนื้ ฐานเกยี่ วกับคณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะ และเห็นคณุ คา่ เกีย่ วกับ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ส่ิงมีชวี ิต

ระบบนเิ วศ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สิง่ แวดล้อม ในท้องถน่ิ และประเทศ สาร แรง พลงั งาน กระบวนการ

เปลย่ี นแปลงของโลกและดาราศาสตร์ มจี ติ วิทยาศาสตร์ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการดำรงชวี ิต

ตวั ชี้วดั
1.พลงั งานไฟฟา้
1. สามารถบอกการกำเนิดของไฟฟา้

2. สถานการณ์พลงั งานไฟฟา้ ของ ประเทศไทย และประเทศในอาเซยี น วเิ คราะห์เปรยี บเทยี บ สถานการณ์
พลงั งาน ไฟฟ้าของประเทศไทยและประเทศใน อาเซียน

2.ไฟฟา้ มาจากไหน

1. หน่วยงานทเี่ กี่ยวข้องด้านพลังงาน ไฟฟ้าในประเทศไทย
2. เชอื้ เพลงิ และพลงั งานทีใ่ ชใ้ นการผลิต ไฟฟ้า

เน้ือหา
1.การกำเนดิ ของไฟฟ้า
-ไฟฟ้าทีเ่ กดิ จากการเสยี ดสีของวัตถุเกดิ จากการทำปฏิกิริยาทาง เคมี เกิดจากความร้อน เกิดจากพลงั งาน
แสงอาทติ ย์ เกดิ จากพลังงาน แม่เหลก็ ไฟฟ้า
2. สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของประเทศ ไทย สัดส่วนการผลติ ไฟฟ้าจากเช้อื เพลิง ประเภทตา่ งๆ ความตอ้ งการ

ใชไ้ ฟฟา้ ในแต่ละชว่ งเวลา แนวโน้มการใช้ พลงั งานไฟฟา้ และ สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟา้ ของประเทศ ในอาเซยี น

2.ไฟฟ้ามาจากไหน

1.หน่วยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ งด้านพลังงานไฟฟา้ ใน ประเทศไทย คณะกรรมการกำกบั กิจการ พลังงาน (กกพ.)
การ ไฟฟ้าฝา่ ยผลติ แหง่ ประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟา้ สว่ นภมู ภิ าค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง
2. เชอื้ เพลงิ ฟอสซลิ

3. พลงั งานทดแทน

- ความสำคัญของพลงั งานทดแทน 2.2 ประเภทของพลงั งานทดแทน

- หลกั การทำงานของพลังงาน ทดแทน

- ข้อดี ข้อจำกดั ของพลังงานทดแทน

วธิ กี ารเรยี น : แบบออนไลน์ ( ON-LINE )

กระบวนการจดั การเรยี นรู้

การกำหนดสภาพปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)

1. ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น ( 30 นาที )

1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กลุ่ม ให้นักศึกษาทราบพร้อมทั้งแลกเรียนเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน
ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม พร้อมอธิบายถึง
เหตุผลความจำเปน็ ท่ตี อ้ งจัดกจิ กรรมการเรียนรูปแบบออนไลน์

1.2 ครูชี้แจง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อและแหล่งการ
เรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการติดตาม ในรายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2 ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กลมุ่

1.3 ครูและนกั ศกึ ษาร่วมกันวเิ คราะหแ์ ละแสดงความ คิดเห็น เกย่ี วกบั ปัญหา ความต้องการ รปู แบบ
ในการเรียน และการแสวงหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ ในการเรียนรายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2
เรอื่ งการกำเนดิ ไฟฟ้าและไฟฟา้ มาจากไหน ผา่ นทาง Google Classroom หรอื LINE กล่มุ

การแสวงหาขอ้ มูลและการจดั การเรยี นรู้ (N : New ways of learning)
2. ข้ันจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน (4 ช่ัวโมง)

2.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) รายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2
เรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ โดยใช้ Google Form ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กลุ่ม และแจ้งผลสอบให้นักศึกษาทราบผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม
และนกั ศึกษาบันทึกคะแนนลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.

2.2 ครูอธิบายเนื้อหาตามหนังสือเรียนเรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กลมุ่

2.3 ครมู อบหมายใหน้ กั ศกึ ษาไปศกึ ษาหาความรจู้ ากหนังสือเรยี นออนไลน์ รายวิชาพลงั งานไฟฟ้าใน
ชีวิตประจำวัน 2 เร่อื งการกำเนดิ ไฟฟา้ และไฟฟ้ามาจากไหน ลิงค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf หรือจาก

แหลง่ เรียนรูต้ ่างๆ

และให้สรุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ในหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้
2.3.1. ไฟฟา้ ท่ีเกดิ จากการเสยี ดสีของวตั ถุเกดิ จากการทำปฏกิ ิรยิ าทาง เคมี เกิดจากความรอ้ น เกดิ จาก

พลังงานแสงอาทติ ย์ เกิดจากพลงั งาน แม่เหล็กไฟฟา้
2.3.2. สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟ้าของประเทศ ไทย สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชอื้ เพลิง ประเภทต่างๆ

ความตอ้ งการใช้ไฟฟา้ ในแตล่ ะช่วงเวลา แนวโน้มการใช้ พลงั งานไฟฟา้ และ สถานการณ์พลงั งาน
ไฟฟา้ ของประเทศ ในอาเซียน
2.3.3. เชือ้ เพลิงฟอสซิล พลังงานทดแทน

- ความสำคญั ของพลังงานทดแทน ประเภทของพลงั งานทดแทน

- หลกั การทำงานของพลังงาน ทดแทน

- ขอ้ ดี ขอ้ จำกดั ของพลังงานทดแทน

การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ต์ ( I : Implementation)

3. ขนั้ การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยกุ ต์ใช้ (30 นาที)

3.1 ครูให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และใบความรู้ที่ 1
เรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน (โดยครูจะส่งใบความรู้ทาง Google classroom ) พร้อมทั้งให้
นักศึกษาสรุปเนื้อหาสาระสำคัญลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. และทำใบงานที่ 1 เรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและ
ไฟฟา้ มาจากไหน (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom)

3.2 ครสู อนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเร่อื ง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตัญญกู ตเวที
ความขยนั ความประหยดั ความซ่อื สตั ย์ ความมนี ำ้ ใจ ความมวี ินยั ศาสน์ กษัตรยิ ์ รกั ความเป็นไทย และยดึ มน่ั ใน
วิถชี ีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ผา่ นทาง LINE กล่มุ

ขั้นประเมินผล(E:Evaluation)
4. ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล ( 1 ช่วั โมง )

4.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบย่อย เรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน แบบปรนัย
จำนวน 10 ข้อ ผ่านทาง Google F๐rm พร้อมเฉลยและประเมินผล ให้นักศึกษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึก
การเรียนรู้ กศน.

4.2 ครตู รวจสอบงานทไี่ ดม้ อบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศึกษาหาความรูแ้ ละท่ีสรปุ ลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้
กศน. เร่ืองการกำเนดิ ไฟฟา้ และไฟฟ้ามาจากไหน

4.3 ครใู ห้นกั ศึกษาสรุปการทาความดแี ละคณุ ธรรมทไี่ ด้ปฏบิ ัติ จากบันทึกลงในสมดุ บนั ทกึ ความดีเพือ่
การประเมนิ คุณธรรม

7

การมอบหมายงาน

1. ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเนอ้ื หาเพมิ่ เติม เรอื่ งการกำเนดิ ไฟฟา้ และไฟฟ้ามาจากไหน
จากหนงั สือเรียนออนไลน์ ลงิ ค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf และใหส้ รปุ

ลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน.

2. ครูมอบหมายให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากใบความรู้ที่ 2 เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า
(โดยครูจะสง่ ใบความรู้ทาง Google classroom) โดยให้นักศกึ ษาสำรวจข้อมลู ตามใบงานที่ 2 เรอื่ งอปุ กรณ์ไฟฟ้า
และวงจรไฟฟ้า (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) เพื่อนำข้อมูลมาสรุปผลการสำรวจข้อมูลในใบงาน
สรุปผลตามแบบฟอร์มใบงานที่ 2 เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า และให้นักศึกษาส่งงานทาง Google
classroom หรอื ทาง LINE ตามวันเวลาท่คี รูนดั หมาย ครูมอบหมายนกั ศึกษาให้ไปศึกษา เรือ่ ง ดนตรไี ทย

จากหนงั สอื เรียนออนไลน์ลงิ ค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf

เพอื่ เตรียมการเรียนรู้ทางออนไลน์ ในสัปดาหต์ ่อไป

การติดตามผล

1. ครตู ิดตามงานท่ไี ดม้ อบหมายนกั ศกึ ษา เพ่ือตดิ ตามความคืบหนาทางแอปพลิเคชนั LINE ดงั นี้
2. ติดตามงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายสัปดาห์ทผี่ า่ นมา
3. ติดตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวิต (กพช.)
4. ติดตามสอบถามสขุ ภาพของนกั ศึกษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย)
5. ติดตามสอบถามการทำความดีในแตล่ ะวัน สปั ดาห์ที่ผา่ นมาและติดตามการบนั ทึกกิจกรรมทที่ ำ

ความดีลงในสมดุ บันทกึ บันทกึ ความดเี พอื่ การประเมินคณุ ธรรม
6. ติดตามสอบถามเก่ียวกบั งานอดเิ รก สนุ ทรยี ภาพ การเลน่ กีฬา การใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ ฯลฯ
7. ตดิ ตามความก้าวหน้าการทำโครงงาน

สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้

1. Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชัน LINE
2. หนงั สือเรยี นรายวิชาพลังงานไฟฟา้ ในชีวติ ประจำวัน 2 หนังสอื เรียนออนไลน์ ลงิ ค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf

3. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) เรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน จำนวน 10 ข้อ
(ชุดแบบทดสอบ หรือ Google Form)

4. แบบทดสอบย่อย เรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ
(ชดุ แบบทดสอบ หรอื Google Form)

5. ใบความรู้ท่ี 1 เร่อื งการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟา้ มาจากไหน
6. ใบงานที่ 1 เรอื่ งการกำเนดิ ไฟฟา้ และไฟฟา้ มาจากไหน
7. ใบความรูท้ ่ี 2 เรอื่ งอปุ กรณ์ไฟฟา้ และวงจรไฟฟา้
8. ใบงานท่ี 2 เรอ่ื งอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า
9. แบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

การวดั และประเมนิ ผล

1) การมีสว่ นรว่ มในการเข้าเรียน จาก Google Classroom/LINE
2) ตรวจแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน.
3) การตรวจใบงาน
4) การตรวจแบบทดสอบ
5) การประเมนิ คณุ ธรรม

9

วิธีการเรยี น : แบบมอบหมายงาน (ON-HAND)

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
การกำหนดสภาพปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O : Orientation)
1. ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น ( 30 นาที )

1.1 ครูสำรวจความพร้อมของนักศึกษาในการเรียนรู้ สำหรับนักศึกษาไม่มีอินเตอร์เน็ต และเครื่องมือ
สื่อสาร โดยนำหนังสือเรียน ใบความรู้ และใบงาน ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ที่บ้านในรายวิชาพลังงานไฟฟ้าใน
ชีวิตประจำวัน 2 จากหนังสือที่ครูได้นำไปให้ พร้อมให้นักศึกษา ศึกษาใบความรู้ จัดทำใบงาน พร้อมทั้งทำ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

1.2 ครูชี้แจง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อและแหล่งการ
เรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการตดิ ตาม ในรายวชิ าพลงั งานไฟฟ้าในชีวติ ประจำวัน 2

1.3 ครแู ละนกั ศึกษารว่ มกันวิเคราะห์และแสดงความ คิดเห็น เกีย่ วกับปญั หา ความต้องการ รปู แบบใน
การเรียน และการแสวงหาความรู้จากสือ่ ต่าง ๆ ในการเรยี นรายวิชาพลังงานไฟฟา้ ในชีวติ ประจำวนั 2 เร่อื งท่ี 1
การกำเนิดไฟฟา้ และไฟฟ้ามาจากไหน

การแสวงหาขอ้ มูลและการจดั การเรียนรู้ ( N : New ways of learning)
2. ข้ันจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน (4 ช่วั โมง)

2.1 ครมู อบหมายงานใหน้ กั ศกึ ษาทำแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) แบบปรนยั เรอ่ื งท่ี 1 การกำเนิด
ไฟฟา้ และไฟฟ้ามาจากไหน จำนวน 10 ข้อ จากชดุ แบบทดสอบ โดยเนน้ ให้นกั ศกึ ษามคี วามซื่อสตั ยใ์ นการทำ
แบบทดสอบ

2.2 ครูมอบหมายงานใหน้ กั ศกึ ษาอธบิ ายเน้อื หาตามหนังสอื เรียนรายวชิ าพลังงานไฟฟ้าในชวี ิตประจำวนั 2
เร่ืองท่ี 1 การกำเนิดไฟฟา้ และไฟฟา้ มาจากไหน และใหน้ ักศึกษาสรปุ ลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน. ในหวั ขอ้
ตอ่ ไปน้ี

2.2.1. ไฟฟ้าท่ีเกดิ จากการเสยี ดสีของวตั ถเุ กดิ จากการทำปฏกิ ริ ยิ าทาง เคมี เกิดจากความร้อน เกดิ จาก
พลังงานแสงอาทิตย์ เกิดจากพลังงาน แม่เหลก็ ไฟฟา้

2.2.2. สถานการณ์พลังงานไฟฟา้ ของประเทศ ไทย สดั สว่ นการผลติ ไฟฟา้ จากเช้อื เพลิง ประเภทตา่ งๆ
ความตอ้ งการใช้ไฟฟ้าในแตล่ ะช่วงเวลา แนวโนม้ การใช้ พลงั งานไฟฟ้าและ สถานการณพ์ ลังงาน
ไฟฟ้าของประเทศ ในอาเซียน

2.2.3. เช้อื เพลิงฟอสซลิ พลงั งานทดแทน

- ความสำคญั ของพลงั งานทดแทน ประเภทของพลงั งานทดแทน

- หลักการทำงานของพลงั งาน ทดแทน

- ข้อดี ขอ้ จำกดั ของพลังงานทดแทน

2.3 ครูมอบหมายงานให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และใบความรู้
ท่ี 1 เรอ่ื งการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน (ใบความร้คู รแู จกให)้ พร้อมทงั้ ให้นกั ศกึ ษาสรปุ เน้อื หาสาระสำคญั
ลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. และทำใบงานที่ 1 เร่ืองการกำเนดิ ไฟฟา้ และไฟฟ้ามาจากไหน

10

การปฏิบตั ิและนำไปประยกุ ต์ ( I : Implementation)
3. ขน้ั การปฏบิ ตั ิและนำไปประยุกตใ์ ช้(30 นาท)ี

3.1 ครูให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และใบความรู้ที่ 1
เรอ่ื งการกำเนดิ ไฟฟา้ และไฟฟา้ มาจากไหน (จากหนังสอื เรียนรายวชิ าพลงั งานไฟฟา้ ในชวี ิตประจำวนั 2 โดยครูแจก
ให้ ) พร้อมทั้งให้นักศึกษาสรุปเนื้อหาสาระสำคัญลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. และทำใบงานที่ 1 เรื่อง การ
กำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน (โดยครแู จกและกำหนดสง่ งานตามวนั เวลาทก่ี ำหนด )

3.2 ครสู อนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเรื่อง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตัญญูกตเวที
ความขยัน ความประหยัด ความซ่อื สตั ย์ ความมนี ้ำใจ ความมวี นิ ยั ศาสน์ กษัตริย์ รกั ความเปน็ ไทย และยดึ ม่ันใน
วถิ ชี ีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข ผ่านใบความรู้ทค่ี รไู ดแ้ จก
ใหน้ ักศกึ ษา

ขัน้ ประเมนิ ผล ( E : Evaluation)
4. ขั้นสรปุ และประเมนิ ผล ( 1 ชั่วโมง )

4.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบย่อย เรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน แบบปรนัย จำนวน
10 ขอ้ พรอ้ มเฉลยและประเมินผล ให้นกั ศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน.

4.2 ครตู รวจสอบงานทไ่ี ด้มอบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศึกษาหาความรู้และที่สรปุ ลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้
กศน. เรื่องการกำเนดิ ไฟฟ้าและไฟฟา้ มาจากไหน

4.3 ครใู ห้นกั ศึกษาสรปุ การทาความดีและคุณธรรมท่ีไดป้ ฏบิ ัติ จากบันทึกลงในสมดุ บนั ทกึ ความดีเพือ่
การประเมนิ คุณธรรม

การมอบหมายงาน
1. ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเนื้อหาเพิ่มเติม เรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน

จากหนังสอื เรียนและใหส้ รุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.
2. ครูมอบหมายให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากใบความรู้ที่ 2 เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า

โดยใหน้ กั ศกึ ษาสำรวจขอ้ มูล ตามใบงานท่ี 2 เรื่องอปุ กรณไ์ ฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ เพือ่ นำขอ้ มูลมาสรุปผลการสำรวจ
ข้อมูลในใบงานสรุปผลตามแบบฟอร์ม ใบงานที่ 2 เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า และให้นักศึกษาส่งงาน
ตามวันเวลาที่ครูนัดหมาย ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า จากหนังสือเรียน
เพ่ือเตรียมการเรยี นรใู้ นรูปแบบ On – Hand ในสัปดาหต์ อ่ ไป

11

การติดตามผล (30 นาที)

1. ครูติดตามงานท่ีไดม้ อบหมายนักศึกษา เพื่อติดตามความคบื หนา้ ดงั น้ี
1.1 ติดตามงานที่ได้รับมอบหมายสัปดาห์ที่ผา่ นมา
1.2 ตดิ ตามการทากิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ (กพช.)
1.3 ติดตามสอบถามสุขภาพของนักศึกษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย)
1.4 ตดิ ตามสอบถามการทาความดใี นแตล่ ะวนั สปั ดาห์ท่ผี ่านมาและตดิ ตามการบันทกึ กิจกรรมทท่ี ำ
ความดีลงในสมดุ บันทกึ บนั ทกึ ความดเี พ่อื การประเมินคณุ ธรรม
1.5 ตดิ ตามสอบถามเกี่ยวกับงานอดิเรก สุนทรยี ภาพ การเล่นกฬี า การใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์
ฯลฯ
1.6 ตดิ ตามความกา้ วหนา้ การทำโครงงาน

สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียนรายวชิ าพลงั งานไฟฟา้ ในชีวิตประจำวนั 2 รหัสวิชา พว22002
2. แบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) เรื่องการกำเนดิ ไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน จำนวน 10 ขอ้
3. ใบความรู้ที่ 1 เรือ่ งการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟา้ มาจากไหน
4. ใบงานที่ 1 เร่อื งการกำเนดิ ไฟฟา้ และไฟฟา้ มาจากไหน
5. ใบความรู้ที่ 2 เรอื่ งอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า
6. ใบงานท่ี 2 เรื่องอุปกรณไ์ ฟฟ้าและวงจรไฟฟา้
7. แบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.

การวัดและประเมินผล

1) สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2) ตรวจแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.
3) การตรวจใบงาน
4) การตรวจแบบทดสอบ
5) การประเมนิ คุณธรรม

ใบงานท่ี 1
สาระความรู้พนื้ ฐาน วิชาการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวัน (พว22002)

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้
*************************************************************************************

ชอื่ -สกลุ ...............................................................รหสั นักศกึ ษา..............................................................................

คำชแ้ี จง ใหผ้ ู้เรียนทำเครอ่ื งหมาย ✓ หนา้ ข้อความทถี่ กู ตอ้ ง และเครอื่ งหมาย  หนา้ ข้อความท่ผี ดิ
(ขอ้ ละ 2 คะแนน)

.......... 1. จากขอ้ มูลปี พ.ศ. 2553 แหล่งพลังงานทใี่ ช้ผลติ ไฟฟา้ สงู สุด 3 อันดบั แรก คอื ถ่านหนิ กา๊ ซธรรมชาติ
และ นิวเคลยี ร์

.......... 2. ปจั จุบนั มกี ารใชถ้ ่านหินมาเป็นเชื้อเพลงิ ในการผลติ ไฟฟา้ มากท่ีสุดในโลกเนื่องจากเป็นเชือ้ เพลองราคาถกู
.......... 3. ทั่วโลกมกี ารกระตนุ้ ให้มกี ารใชเ้ ชอื้ เพลงิ ท่ีสะอาดมาผลติ ไฟฟ้ามากข้ึน ส่งผลให้มีการใช้เชื้อเพลิง

หมนุ เวยี นมากขนึ้ นอกจากน้ียงั มแี นวโนม้ ว่าจะมกี ารนำเอาพลังงานนวิ เคลียร์มาใช้มากข้นึ ดว้ ย
………. 4. แนวทางการจดั การด้านพลังงานระหวา่ งประเทศสมาชิกอาเซียน เน้นการสรา้ งความมัน่ คงทางดา้ น

พลังงานการเสรมิ สรา้ งความมน่ั คงของระบบไฟฟ้า โดยการเลือกใชเ้ ช้ือเพลิงเพยี งอยา่ งเดียวในการผลติ
ไฟฟา้
.......... 5. กล่มุ ประเทศอาเซยี นมีการใชก้ ๊าซธรรมชาติมาเป็นการผลติ เช้ือเพลงิ ในการผลติ ไฟฟา้ มากที่สดุ
.......... 6. มีการสนบั สนนุ ใหป้ ระเทศสมาชกิ อาเซียนสำรองน้ำมันภายในประเทศของตน เพ่ือความม่ันคงทางด้าน
พลังงานของแตล่ ะประเทศ
.......... 7. ปัจจุบันกลุ่มประเทศอาเซยี นได้มีการดำเนินโครงการผลิตและใช้พลังงานร่วมกันอยู่ 2 โครงการ คือ
โครงการเชือ่ มโยงระบบส่งไฟฟา้ อาเซียน และโครงการเชื่อมโยงทอ่ สง่ ก๊าซอาเซยี น
.......... 8. พลังงานนิวเคลยี ร์ เปน็ พลังงานทางเลอื กทหี่ ลายประเทศในอาเซยี นบรรจไุ วใ้ นแผนพลงั งานตนเอง เพอ่ื
เตรยี มรองรบั ความต้องการไฟฟา้ ทีม่ ากขึน้
.......... 9. จากขอ้ มูลปี พ.ศ. 2555 ประเทศไทยมีการใชถ้ ่านหินมาผลติ ไฟฟ้าสูงทส่ี ุด
..........10. การผลติ ไฟฟ้าในประเทศไทยมาจากหนว่ ยงานของรัฐหนว่ ยงานเดียวเท่าน้ัน คอื การไฟฟ้าฝา่ ยผลิตแห่ง
ประเทศไทย

แบบทดสอบ

รายวิชา พลังงานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวนั 2 รหัสวิชา พว22002

ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้

คำชแ้ี จง จงเลอื กคำตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสดุ เพยี งข้อเดียว

1. ขอ้ ใดคือความหมายของไฟฟา้

ก. การเคลือ่ นทข่ี องไฟฟ้า ข. การเคลือ่ นทีข่ องไฟฟ้าสถิต

ค. การเคล่ือนท่ขี องอิเล็กตรอน ง. การเคลื่อนที่ของไฟฟ้ากระแส

2. ประเทศไทยใช้เชื้อเพลิงประเภทใดในการผลติ ไฟฟ้ามากท่สี ดุ
ก. ถ่านหิน ข. ชีวมวล ค. ก๊าซธรรมชาติ ง. พลงั งานทดแทน

3. ประเทศใดในอาเซียนที่มีการใชถ้ ่านหนิ ในการผลิตไฟฟ้า มากที่สุด

ก. ไทย ข. ลาว ค. เมียนมาร์ ง. อนิ โดนเี ซีย

4. ข้อใดไมใ่ ชภ่ ารกิจของการไฟฟา้ ฝา่ ยผลิตแห่งประเทศ ไทย (กฟผ.)

ก. ผลิตไฟฟา้ ข. จา่ ยไฟฟา้ ให้กับประชาชน

ค. รบั ซื้อไฟฟา้ จากตา่ งประเทศ ง. จดั สง่ ไฟฟา้ จากโรงไฟฟา้ ใหก้ บั กฟภ. และ กฟน.

5. ข้อใดไม่ใชส่ ่งิ ทต่ี ้องพิจารณาในการเลอื กเชอ้ื เพลิงเพอ่ื ผลิตไฟฟา้
ก. ซอื้ ไฟฟ้าจากต่างประเทศใหม้ าก ๆ
ข. ตอ้ งมปี ริมาณเช้ือเพลิงสารองทเี่ พียงพอ
ค. ตอ้ งมกี ารกระจายชนดิ และแหล่งท่ีมาของเชือ้ เพลิง
ง. ต้องเปน็ เชอ้ื เพลิงทม่ี รี าคาเหมาะสมและมเี สถียรภาพ

6. ขอ้ ใดไมใ่ ชข่ อ้ จำกัดของพลงั งานลม ข. เปน็ แหลง่ พลงั งานสะอาด
ก. ตน้ ทุนค่าไฟฟ้าตอ่ หนว่ ยสงู ง. มีเสียงดังและมผี ลกระทบตอ่ ทศั นยี ภาพ
ค. ไมส่ ามารถผลิตไฟฟ้าไดต้ ลอดเวลา

7. ข้อใดเป็นขอ้ จ ากดั ของพลงั งานแสงอาทิตย์

ก. ต้นทนุ คา่ ไฟฟ้าต่อหนว่ ยสูง ข. เปน็ แหล่งพลงั งานสะอาด

ค. เปน็ แหลง่ พลังงานทไี่ มม่ ีค่าเช้ือเพลงิ ง. สามารถนำไปใชใ้ นพน้ื ทท่ี ไ่ี ฟฟ้ายงั เขา้ ไมถ่ ึง

8. ขอ้ ใดเป็นขอ้ จำกัดของพลังงานนวิ เคลียร์ ข. ไมม่ กี ารปลอ่ ยก๊าซเรอื นกระจก
ก. ใช้เงินลงทุนในการกอ่ สร้างสูง ง. สามารถผลติ ไฟฟา้ ไดต้ ลอด 24 ชวั่ โมง
ค. ใชเ้ ชือ้ เพลงิ น้อย สามารถผลติ ไฟฟ้าไดม้ าก

9. ปริมาณส ารองของก๊าซธรรมชาติในอา่ วไทย เหลอื ใช้ได้ อีกกป่ี ี

ก. 40 ปี ข. 30 ปี ค. 20 ปี ง. ไมถ่ งึ 10 ปี

10. ประเทศไทยมีแหลง่ พลังงานความร้อนใต้พภิ พท่ีใชผ้ ลิต ไฟฟา้ ต้ังอยู่ทีจ่ งั หวัดใด

ก. ลำพูน ข. ลำปาง ค. เชียงใหม่ ง. แม่ฮ่องสอน

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายสัปดาห์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ครง้ั ท่ี 18

รายวชิ าพลงั งานไฟฟ้าในชีวติ ประจำวัน 2 รหสั วิชา พว22002

เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง (พบกลมุ่ 13 ชั่วโมง /การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 27 ช่วั โมง)
วนั ที่...................... เดอื น............................................. พ.ศ. ........................

มาตรฐานที่ 2.2 มีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพน้ื ฐานเกยี่ วกบั คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

มาตรฐานการเรียนร้รู ะดับ
มีความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะ และเห็นคุณคา่ เกย่ี วกับ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ส่ิงมชี วี ิต

ระบบนิเวศ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สิง่ แวดลอ้ ม ในท้องถนิ่ และประเทศ สาร แรง พลังงาน กระบวนการ

เปลยี่ นแปลงของโลกและดาราศาสตร์ มจี ติ วิทยาศาสตร์ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในการดำรงชวี ิต

ตวั ชี้วัด

1. โรงไฟฟา้ กับการจดั การด้านสิ่งแวดลอ้ ม

1.1 บอกผลกระทบด้านส่งิ แวดลอ้ มทเ่ี กิดจากโรงไฟฟ้า

1.2 บอกการจัดการด้านสง่ิ แวดล้อมของโรงไฟฟ้า

1.3 มเี จตคตทิ ี่ดีต่อโรงไฟฟา้ แตล่ ะประเภท

2. อุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้

2.1 ตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบต่าง ๆ

2.2 เลือกใช้อปุ กรณ์ไฟฟ้าได้ถกู ต้อง

เนอ้ื หา

1. โรงไฟฟ้ากับการจัดการด้านสง่ิ แวดลอ้ ม

1.1 ผลกระทบและการจดั การสงิ่ แวดล้อมด้านอากาศ

1.2 ผลกระทบและการจดั การสิง่ แวดล้อมดา้ นน้ า

1.3 ผลกระทบและการจัดการสิ่งแวดลอ้ มด้านเสียง

2. อุปกรณไ์ ฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า

1. อุปกรณ์ไฟฟา้

1.1 สายไฟ

1.2 ฟิวส์

1.3 อปุ กรณต์ ดั ตอนหรอื เบรกเกอร์

1.4 สวติ ซ์

1.5 เครือ่ งตดั ไฟฟ้ารว่ั

1.6 เตา้ รับ เต้าเสยี บ

2. วงจรไฟฟ้า

2.1 แบบอนกุ รม 2.2 แบบขนาน 2.3 แบบผสม

3. สายดนิ และหลกั ดิน

3.1 สายดิน 3.2 หลักดิน

วธิ กี ารเรยี น : แบบออนไลน์ ( ON-LINE )

กระบวนการจดั การเรยี นรู้

การกำหนดสภาพปญั หา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)

1. ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน ( 30 นาที )

1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กลุ่ม ให้นักศึกษาทราบพร้อมทั้งแลกเรียนเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน
ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม พร้อมอธิบายถึง
เหตุผลความจำเป็นทีต่ อ้ งจัดกิจกรรมการเรียนรปู แบบออนไลน์

1.2 ครูชี้แจง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อและแหล่งการ
เรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการติดตาม ในรายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2 ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กล่มุ

1.3 ครแู ละนกั ศึกษาร่วมกนั วิเคราะหแ์ ละแสดงความ คดิ เห็น เกยี่ วกบั ปญั หา ความตอ้ งการ รูปแบบ
ในการเรียน และการแสวงหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ ในการเรียนรายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2
เร่ืองอปุ กรณ์ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กล่มุ

การแสวงหาขอ้ มูลและการจดั การเรียนรู้ (N : New ways of learning)
2. ขัน้ จัดกจิ กรรมการเรียนการสอน (4 ช่ัวโมง)

2.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) รายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2
เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ โดยใช้ Google Form ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กลุ่ม และแจ้งผลสอบให้นักศึกษาทราบผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม
และนักศึกษาบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.

2.2 ครูอธิบายเนื้อหาตามหนังสือเรียนเรื่องการกำเนิดไฟฟ้าและไฟฟ้ามาจากไหน ผ่านทาง Google
Classroom หรอื LINE กลมุ่

2.3 ครูมอบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศกึ ษาหาความร้จู ากหนังสอื เรียนออนไลน์ รายวชิ าพลงั งานไฟฟา้ ใน
ชวี ิตประจำวนั 2 เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า ลงิ ค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf หรอื จาก

แหล่งเรยี นร้ตู า่ งๆ และใหส้ รุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ในหวั ขอ้ ต่อไปนี้
2.3.1. ผลกระทบและการจดั การสงิ่ แวดล้อม ด้านอากาศ ด้านนำ้ และด้านเสียง
2.3.2. อุปกรณไ์ ฟฟา้ และวงจรไฟฟา้ ประเภทต่างๆ
2.3.3 ต่อวงจรไฟฟา้ แบบต่าง ๆ เลอื กใชอ้ ปุ กรณไ์ ฟฟ้าได้ถกู ตอ้ ง

การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยกุ ต์ ( I : Implementation)

3. ขั้นการปฏบิ ตั ิและนำไปประยุกตใ์ ช้ (30 นาท)ี

3.1 ครูให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และใบความรู้ที่ 2
เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า (โดยครูจะส่งใบความรู้ทาง Google classroom ) พร้อมทั้งให้นักศึกษาสรุป
เน้ือหาสาระสำคัญลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. และทำใบงานที่ 2 เรอ่ื งอุปกรณไ์ ฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า (โดยครู
จะส่งใบงานทาง Google classroom)

3.2 ครสู อนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเร่ือง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตัญญูกตเวที
ความขยัน ความประหยดั ความซอ่ื สตั ย์ ความมีน้ำใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษตั รยิ ์ รกั ความเป็นไทย และยึดมนั่ ใน
วถิ ชี วี ติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผา่ นทาง LINE กล่มุ

ข้ันประเมนิ ผล(E:Evaluation)
4. ขัน้ สรปุ และประเมนิ ผล ( 1 ช่วั โมง )

4.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบย่อย เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ
ผ่านทาง Google F๐rm พรอ้ มเฉลยและประเมินผล ให้นักศึกษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

4.2 ครตู รวจสอบงานทไี่ ดม้ อบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศึกษาหาความรแู้ ละท่ีสรปุ ลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้
กศน. เรอ่ื งอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้

4.3 ครใู หน้ กั ศกึ ษาสรุปการทาความดีและคุณธรรมทีไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิ จากบันทึกลงในสมดุ บนั ทึกความดีเพ่อื
การประเมินคุณธรรม

การมอบหมายงาน

1. ครมู อบหมายให้นกั ศึกษาไปอา่ นทบทวนเนือ้ หาเพมิ่ เติม เรือ่ งอุปกรณไ์ ฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ จากหนงั สอื
เรยี นออนไลน์ ลิงค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf และให้สรุป

ลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

2. ครูมอบหมายใหน้ กั ศึกษาศึกษาคน้ ควา้ เนอ้ื หาจากใบความรทู้ ี่ 3 เรื่องการใชแ้ ละการประหยดั พลงั งาน
ไฟฟ้า (โดยครูจะสง่ ใบความร้ทู าง Google classroom) โดยให้นักศกึ ษาสำรวจขอ้ มลู ตามใบงานที่ 3 เรื่องการใช้
และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า (โดยครูจะสง่ ใบงานทาง Google classroom) เพือ่ นำขอ้ มูลมาสรปุ ผลการสำรวจ
ขอ้ มูลในใบงานสรปุ ผลตามแบบฟอรม์ ใบงานท่ี 3 เรื่องการใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟา้ และให้นกั ศึกษาสง่
งานทาง Google classroom หรอื ทาง LINE ตามวันเวลาทคี่ รนู ัดหมาย ครมู อบหมายนักศึกษาใหไ้ ปศึกษา เรือ่ ง
การใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า จากหนังสอื เรยี นออนไลน์ลงิ ค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf

เพือ่ เตรียมการเรยี นรทู้ างออนไลน์ ในสปั ดาห์ต่อไป

การติดตามผล

1. ครูติดตามงานท่ีไดม้ อบหมายนักศกึ ษา เพอื่ ติดตามความคบื หนาทางแอปพลิเคชนั LINE ดังนี้
2. ติดตามงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายสปั ดาห์ท่ีผ่านมา
3. ตดิ ตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวติ (กพช.)
4. ติดตามสอบถามสุขภาพของนกั ศกึ ษา (การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย)
5. ตดิ ตามสอบถามการทำความดีในแตล่ ะวัน สัปดาหท์ ่ีผา่ นมาและตดิ ตามการบนั ทกึ กิจกรรมทที่ ำ
ความดีลงในสมุดบนั ทึกบันทกึ ความดีเพอ่ื การประเมนิ คุณธรรม
6. ตดิ ตามสอบถามเกยี่ วกบั งานอดเิ รก สนุ ทรียภาพ การเลน่ กฬี า การใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ ฯลฯ
7. ติดตามความกา้ วหนา้ การทำโครงงาน

สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้

1. Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชนั LINE
2. หนังสือเรยี นรายวชิ าพลงั งานไฟฟ้าในชีวติ ประจำวนั 2 หนงั สือเรยี นออนไลน์ ลิงค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf

3. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) เรื่องอปุ กรณ์ไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า จำนวน 10 ขอ้ (ชดุ แบบทดสอบ
หรือ Google Form)

4. แบบทดสอบย่อย เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ
หรือ Google Form)

5. ใบความรูท้ ่ี 1 เรื่องอุปกรณไ์ ฟฟ้าและวงจรไฟฟา้
6. ใบงานท่ี 1 เร่อื งอปุ กรณไ์ ฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า
7. ใบความรู้ที่ 2 เรอื่ งการใชแ้ ละการประหยดั พลังงานไฟฟ้า
8. ใบงานที่ 2 เร่อื งการใชแ้ ละการประหยดั พลังงานไฟฟ้า
9. แบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.

การวัดและประเมินผล

1) การมีส่วนรว่ มในการเข้าเรียน จาก Google Classroom/LINE
2) ตรวจแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน.
3) การตรวจใบงาน
4) การตรวจแบบทดสอบ
5) การประเมนิ คุณธรรม

ใบงานที่ 2
เรื่อง อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น
คำชีแ้ จง ใหน้ ักศกึ ษาตอบคำถามต่อไปนใ้ี ห้ถกู ต้อง
โดยให้เลอื กอุปกรณ์ไฟฟา้ ทก่ี ำหนดให้ เตมิ ลงในช่องว่างใหต้ รงกับลกั ษณะการใชง้ าน

สายไฟ ฟิวส์ เบรกเกอร์ สวิตช์ สะพานไฟ
เครื่องตัดไฟฟา้ ร่ัว เต้ารับ เตา้ เสยี บ

1) เม่อื ผใู้ ช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าถูกไฟฟ้าช็อต เกิดไฟกระชาก จะทำให้ _________ ตดั ไฟ

2) เมือ่ กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเครื่องใชไ้ ฟฟ้าเกินขนาด จะสง่ ผลให้_________ ขาด

3) _________ ใช้สำหรับควบคุมการ เปิด – ปิด หลอดไฟ

4) ก่อนดำเนนิ การซ่อมระบบไฟฟ้า เพอ่ื ความปลอดภัย จะต้องท าการตัดไฟฟา้ ทัง้ หมดภายในบา้ นโดยสับ
คันโยก _________ ลง

5) ต้องนำ _________ ของเครื่องใช้ไฟฟา้ เสยี บกับ _________ ให้แนน่ เม่ือตอ้ งการใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้า

6) เม่อื มีการใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้าหลายชนดิ พร้อมๆ กนั ท าให้กระแสไฟฟ้าไหลในวงจรเกนิ กำหนด จะทำ
ให้_________ ตดั ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ

แบบทดสอบยอ่ ย

รายวิชา พลงั งานไฟฟ้าในชวี ติ ประจ าวนั รหสั วชิ า พว22002

เร่ือง อุปกรณไ์ ฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

คำชแ้ี จง จงเลือกคำตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว

1. ไฟฟา้ ทใี่ ช้ในครัวเรือนของประเทศไทยไฟฟา้ เป็น กระแสสลบั ท่มี ีความต่างศักย์เทา่ ใด

ก. 50 โวลต์ ข. 110 โวลต์ ค. 200 โวลต์ ง. 220 โวลต์

2. วงจรไฟฟา้ ภายในครัวเรือนเปน็ การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบใด

ก. แบบผสม ข. แบบรวม ค. แบบขนาน ง. แบบอนุกรม

3. ขอ้ ใดเป็นประโยชนข์ องสายดิน

ก. ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ถูกไฟฟ้าดูด ข. ทำใหว้ งจรปดิ มกี ระแสไฟฟ้าไหล

ค. จา่ ยกระแสไฟฟา้ ไปยังเครอื่ งใช้ไฟฟ้า ง.ควบคุมการจา่ ยพลงั งานไฟฟ้าในครวั เรอื น

4. ขอ้ ใดเป็นการกดสวติ ชเ์ ปดิ ไฟ ข. การทำให้วงจรเปิด มกี ระแสไฟฟ้าไหล
ก. การทำใหว้ งจรปิด มกี ระแสไฟฟ้าไหล ง. การทำให้วงจรเปิด ไม่มกี ระแสไฟฟ้าไหล
ค. การทำใหว้ งจรปดิ มกี ระแสไม่ไฟฟา้ ไหล

5. สายไฟฟ้าหลักของวงจรไฟฟา้ ในครัวเรอื นมสี ายอะไรบ้าง

ก. สายไฟ สายล่อฟา้ ข. สายไฟ สายนวิ ทรัล

ค. สายไฟ สายนวิ ทรัล สายดนิ ง. สายไฟ สายนวิ ทรัล สายดนิ สายลอ่ ฟ้า

6. เครื่องใช้ไฟฟ้าใดท่ีต้องต่อสายดนิ เพือ่ ความปลอดภัย

ก. เคร่ืองทำน้ำอุน่ ไฟฟา้ ข. กระติกนำ้ ร้อนไฟฟา้ ค. เตารดี ไฟฟ้า ง. พดั ลม

7. คณุ สมบัติทด่ี ขี องฟวิ ส์ ควรมลี กั ษณะเปน็ อยา่ งไร

ก. ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นเปน็ ชว่ ง ๆ ข. ยอมใหก้ ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป

ค. ยอมใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นได้ตลอดโดยไมเ่ กนิ กระแสไฟฟา้ ทฟี่ วิ สก์ ำหนด

ง. ถูกทกุ ขอ้

8. เบรกเกอร์ มหี นา้ ทอี่ ะไร

ก. เป็นฉนวนป้องกนั ไฟฟา้ เกนิ ข. ต่อวงจรใหม้ ีกระแสไฟฟา้ ไหล

ค. เป็นอปุ กรณ์ เปิด – ปดิ วงจรไฟฟ้า

ง. เปน็ อุปกรณต์ ดั ตอ่ วงจรอตั โนมัติ เมื่อมีกระแสไฟฟา้ ไหลผ่านเกนิ คา่ ทก่ี ำหนด

9.ไฟฟ้ากระแสตรงสามารถแบง่ ออกเปน็ กแ่ี บบ

ก. 1 แบบ ข. 2 แบบ ค. 3 แบบ ง. 4 แบบ

10. ขอ้ ใดเป็นอุปกรณ์ในการต่อเซลล์ไฟฟ้าอย่างงา่ ย ข. หลอดไฟ มอเตอร์ ออดไฟฟ้า
ก. หลอดไฟ สายไฟเซลล์ไฟฟา้ สวติ ช์ ง. เซลลไ์ ฟฟา้ แบตเตอร่มี อเตอรเ์ ซลล์ไฟฟา้
ค. สายไฟ สวติ ช์

แผนการจดั การเรียนรู้รายสปั ดาห์ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น ครัง้ ที่ 19

รายวชิ าพลงั งานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวัน 2 รหสั วิชา พว22002

เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง (พบกล่มุ 10 ชวั่ โมง /การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง 30 ชว่ั โมง)
วนั ท่ี...................... เดอื น............................................. พ.ศ. ........................

มาตรฐานที่ 2.2 มีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพืน้ ฐานเกย่ี วกบั คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั
มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะ และเหน็ คณุ คา่ เก่ยี วกับ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ส่ิงมชี วี ติ

ระบบนเิ วศ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สิ่งแวดล้อม ในทอ้ งถน่ิ และประเทศ สาร แรง พลงั งาน กระบวนการ

เปลย่ี นแปลงของโลกและดาราศาสตร์ มจี ิตวิทยาศาสตร์ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการดำรงชีวิต

ตัวชีว้ ัด
การใช้และการประหยดั พลงั งานไฟฟา้
1. อธิบายกลยทุ ธ์การประหยดั พลงั งานไฟฟา้
2. จำแนกฉลากเบอร์ 5 ของแท้กบั ของลอกเลียนแบบ
3. เลอื กใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ได้เหมาะสม กบั สถานการณท์ ีก่ ำหนดให้
4. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ประหยัดพลงั งาน ไฟฟา้ ในครัวเรอื น
5. อธบิ ายวิธกี ารดแู ลรกั ษา เครื่องใช้ไฟฟา้ ในครวั เรอื น
6. บอกองค์ประกอบของค่าไฟฟา้
7. คำนวณคา่ ไฟฟา้ ในครัวเรือน

เนอื้ หา
1. กลยุทธ์การประหยัดพลังงานไฟฟ้า 3 อ.
1.1 กลยทุ ธ์ อ. 1 อุปกรณ์ประหยดั ไฟฟา้
1.2 กลยทุ ธ์ อ. 2 อาคารประหยัด ไฟฟา้
1.3 กลยทุ ธ์ อ. 3 อปุ นสิ ัยประหยดั ไฟฟ้า
2. การเลอื กซอื้ เลือกใช้และดูแลรกั ษาเครอื่ งไฟฟา้ ในครัวเรือน
2.1 เคร่อื งทำนำ้ อนุ่ ไฟฟา้
2.2 กระติกนำ้ ร้อนไฟฟา้
2.3 พัดลม
2.4 โทรทศั น์
2.5 เตารดี ไฟฟ้า
2.6 ตเู้ ย็น
3. การคำนวณคา่ ไฟฟา้ ในครวั เรือน
3.1 องค์ประกอบของคา่ ไฟ
3.2 อัตราค่าไฟฟ้า

3.3 การคำนวณการใชไ้ ฟฟา้

วธิ กี ารเรยี น : แบบออนไลน์ ( ON-LINE )

กระบวนการจดั การเรยี นรู้

การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)

1. ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น ( 30 นาที )

1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กลุ่ม ให้นักศึกษาทราบพร้อมทั้งแลกเรียนเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน
ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม พร้อมอธิบายถึง
เหตผุ ลความจำเปน็ ท่ีตอ้ งจดั กจิ กรรมการเรียนรูปแบบออนไลน์

1.2 ครูชี้แจง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อและแหล่งการ
เรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการติดตาม ในรายวิชาศิลปศึกษา ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE
กล่มุ

1.3 ครูและนกั ศกึ ษารว่ มกันวเิ คราะหแ์ ละแสดงความ คดิ เห็น เกย่ี วกบั ปัญหา ความต้องการ รปู แบบ
ในการเรียน และการแสวงหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ ในการเรียนรายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2
เรอ่ื งการใช้และการประหยัดพลงั งานไฟฟ้า ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กล่มุ

การแสวงหาขอ้ มูลและการจดั การเรยี นรู้ (N : New ways of learning)
2. ขน้ั จัดกิจกรรมการเรียนการสอน (4 ช่วั โมง)

2.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) รายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2
เรื่องการใช้และการประหยดั พลังงานไฟฟา้ แบบปรนยั จำนวน 10 ข้อ โดยใช้ Google Form ผ่านทาง Google
Classroom หรือ LINE กลุ่ม และแจ้งผลสอบให้นักศึกษาทราบผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม
และนกั ศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน.

2.2 ครูอธิบายเนื้อหาตามหนังสือเรียนเรื่องการใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ผ่านทาง Google
Classroom หรอื LINE กลุม่

2.3 ครูมอบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศึกษาหาความรู้จากหนงั สือเรียนออนไลน์ รายวิชาพลงั งานไฟฟ้าใน
ชีวิตประจำวัน 2 เรอ่ื งการใชแ้ ละการประหยดั พลงั งานไฟฟ้า ลงิ ค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf หรือจาก

แหล่งเรยี นร้ตู ่างๆ และให้สรปุ ลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. ในหัวข้อต่อไปนี้
2.3.1. กลยทุ ธ์การประหยัดพลังงานไฟฟ้า 3 อ.
2.3.2 การเลอื กซ้ือ เลอื กใชแ้ ละดแู ลรกั ษาเครอื่ งไฟฟ้าในครวั เรอื น
2.3.3 การคำนวณค่าไฟฟ้าในครวั เรือน

การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยกุ ต์ ( I : Implementation)

3. ขนั้ การปฏบิ ตั ิและนำไปประยกุ ต์ใช้ (30 นาท)ี

3.1 ครูให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และใบความรู้ที่ 3
เรื่องการใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า (โดยครูจะส่งใบความรู้ทาง Google classroom ) พร้อมทั้งให้
นักศึกษาสรุปเน้ือหาสาระสำคัญลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. และทำใบงานที่ 3 เรื่องการใช้และการประหยดั
พลงั งานไฟฟา้ (โดยครูจะสง่ ใบงานทาง Google classroom)

3.2 ครสู อนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเรอื่ ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตญั ญกู ตเวที
ความขยัน ความประหยดั ความซือ่ สตั ย์ ความมนี ำ้ ใจ ความมวี นิ ยั ศาสน์ กษตั ริย์ รักความเปน็ ไทย และยดึ ม่ันใน
วิถชี ีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ผ่านทาง LINE กลุม่

ขนั้ ประเมนิ ผล(E:Evaluation)
4. ขน้ั สรปุ และประเมินผล ( 1 ชวั่ โมง )

4.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบย่อย เรื่องการใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า แบบปรนัย จำนวน
10 ขอ้ ผ่านทาง Google F๐rm พรอ้ มเฉลยและประเมนิ ผล ใหน้ กั ศึกษาบันทกึ คะแนนลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้
กศน.

4.2 ครูตรวจสอบงานทไี่ ด้มอบหมายให้นักศกึ ษาไปศกึ ษาหาความรแู้ ละท่ีสรปุ ลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้
กศน. เรอ่ื งการใชแ้ ละการประหยัดพลังงานไฟฟา้

4.3 ครใู หน้ กั ศึกษาสรปุ การทาความดีและคุณธรรมท่ีไดป้ ฏิบตั ิ จากบันทึกลงในสมุดบนั ทกึ ความดีเพอ่ื
การประเมนิ คุณธรรม

การมอบหมายงาน

1. ครมู อบหมายให้นกั ศึกษาไปอ่านทบทวนเนื้อหาเพ่มิ เติม เรื่องการใชแ้ ละการประหยัดพลงั งานไฟฟา้
และทบทวนเนอ้ื เพื่อเตรยี มตัวสอบปลายภาคเรยี น จากหนังสือเรียนรายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน 2
รหัสวชิ า พว22002 หรอื หนงั สือเรียนออนไลนล์ งิ ค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf และให้สรปุ

ลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน.

การตดิ ตามผล

1. ครูติดตามงานที่ไดม้ อบหมายนักศึกษา เพอื่ ติดตามความคืบหนาทางแอปพลิเคชนั LINE ดังนี้
2. ตดิ ตามงานท่ีได้รับมอบหมายสัปดาหท์ ผี่ ่านมา
3. ตดิ ตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวิต (กพช.)
4. ตดิ ตามสอบถามสุขภาพของนกั ศกึ ษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย)
5. ตดิ ตามสอบถามการทำความดีในแต่ละวนั สัปดาห์ท่ผี า่ นมาและตดิ ตามการบันทกึ กจิ กรรมทที่ ำ
ความดีลงในสมุดบนั ทึกบันทกึ ความดีเพอ่ื การประเมนิ คุณธรรม
6. ตดิ ตามสอบถามเกี่ยวกบั งานอดิเรก สนุ ทรียภาพ การเลน่ กีฬา การใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ ฯลฯ
7. ตดิ ตามความก้าวหน้าการทำโครงงาน

สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้

1. Google Classroom หรอื แอปพลิเคชัน LINE
2. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพลังงานไฟฟา้ ในชีวิตประจำวัน 2 หนังสอื เรียนออนไลน์ ลิงค์
http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.6/17.electricity/electricity%201,2,3/2..pdf

3. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) เรื่องการใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า จำนวน 10 ข้อ (ชุด
แบบทดสอบ หรอื Google Form)

4. แบบทดสอบย่อย เรื่องการใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ (ชุด
แบบทดสอบ หรือ Google Form)

5. ใบความรทู้ ี่ 3 เรอื่ งการใชแ้ ละการประหยดั พลังงานไฟฟ้า
6. ใบงานท่ี 3 เรอ่ื งการใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า
7. แบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน.

การวัดและประเมินผล

1) การมีสว่ นรว่ มในการเขา้ เรียน จาก Google Classroom/LINE
2) ตรวจแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.
3) การตรวจใบงาน
4) การตรวจแบบทดสอบ
5) การประเมนิ คณุ ธรรม

ใบงานท่ี 3
เร่อื ง การใชแ้ ละการประหยดั พลงั งานไฟฟา้

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
คำชีแ้ จง ใหน้ ักศึกษาตอบคำถามตอ่ ไปน้ีให้ถูกต้อง
ให้เลอื กกลยทุ ธ์การประหยดั พลงั งานไฟฟ้า 3 อ. ใส่ลงในชอ่ งว่างใหต้ รงกับแนวทางการประหยดั ไฟฟ้าของ
แตล่ ะกลยทุ ธ์
ก. กลยทุ ธ์ อ. 1 อุปกรณป์ ระหยัดไฟฟ้า
ข. กลยทุ ธ์ อ. 2 อาคารประหยัดไฟฟ้า
ค. กลยทุ ธ์ อ. 3 อุปนสิ ยั ประหยดั ไฟฟ้า
________ 1) หมน่ั ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟา้ อย่างสม่ำเสมอ
________ 2) ปลูกไม้ยืนตน้ ใหร้ ่มเงาแก่อาคาร
________ 3) เลือกใช้ต้เู ย็นท่ีติดฉลากประหยัดไฟเบอร5์
________ 4) ใช้ระบบปรับอากาศทีแ่ ยกสวติ ช์ เปิด – ปดิ เฉพาะเคร่อื ง เพ่ือใหค้ วบคมุ การ เปดิ – ปดิ ตามความ

ต้องการใชง้ านในแตล่ ะบรเิ วณ
________ 5) เลือกขนาดของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกบั การใช้งาน
________ 6) รีดผา้ คร้งั ละมาก ๆ และไม่พรมน้ าจนชุ่มเกนิ ไป
________ 7) ใช้ทีค่ รอบโลหะสะทอ้ นแสงเพ่ือชว่ ยเพ่ิมความสว่างแก่หลอดไฟได2้ – 3 เท่า โดย ใชจ้ ำนวน

หลอดไฟเทา่ เดมิ
________ 8) เปลยี่ นหลอดไฟจากหลอดไสเ้ ปน็ หลอด LED
________ 9) ปิดสวิตช์และถอดปลั๊กเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ทกุ ครั้ง หลงั เลกิ ใช้งาน
________ 10) ใชว้ ัสดุทม่ี ีคณุ สมบตั ิเป็นฉนวนความรอ้ น สะทอ้ นหรือป้องกันความรอ้ น เช่น ผนงั หลังคา และ

ฝา้ เพดานของอาคาร

ชอ่ื ..........................................................................................รหัสนกั ศกึ ษา................... .......................

แบบทดสอบยอ่ ย ครงั้ ที่ 19
เรือ่ ง การใช้และการประหยดั พลงั งานไฟฟา้
รายวิชา พลงั งานไฟฟ้าในชวี ิตประจำวนั รหัสวชิ า พว22002

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
คำชแ้ี จง จงเลอื กคำตอบท่ถี กู ต้องทสี่ ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว

1.ข้อใดเป็นวิธีการใชก้ ระติกนำ้ ร้อนไฟฟ้าทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง
ก. ระวงั อย่าให้น้ำแหง้
ข. อยา่ นำสิ่งใดๆ มาปดิ ช่องไอนำ้ ออก
ค. ตง้ั กระติกนำ้ ร้อนไว้ในห้องท่ีมกี ารปรบั อากาศ
ง. ใสน่ ้ำให้เหมาะกบั ความต้องการหรือไมส่ ูงกว่าระดับท่ี กำหนดไว้

2.ข้อใดเปน็ วิธีการใชพ้ ดั ลมท่ีถกู ตอ้ ง
ก. เลือกใชค้ วามแรงของลมสงู สุด
ข. ควรวางพดั ลมไว้ในที่อากาศร้อน
ค. เปดิ พัดลมทิ้งไว้สกั ครู่ เมอ่ื เลกิ ใชง้ าน

ง. ในกรณที พ่ี ดั ลมมีระบบรโี มทคอนโทรลอย่าเสยี บปลัก๊ ทง้ิ ไว้

3.โทรทัศนแ์ บบใดประหยดั ไฟฟ้ามากทสี่ ุดเม่ือเปิดใชใ้ น จำนวนชว่ั โมงเทา่ กนั

ก. LED 46 นว้ิ ข. LCD 46 นว้ิ

ค. ทวี จี อแบน 20 น้ิว ง. ทีวจี อแบน 25 น้วิ

4.ข้อใดเปน็ วธิ ีรีดผา้ ท่ีถูกตอ้ งและประหยดั ท่สี ดุ
ก. รดี ชดุ ท่ีจะใสค่ ร้ังละชดุ
ข. พรมน ามาก ๆเพือ่ จะได้รีดง่ายๆ
ค. รีดผ้าจนเสร็จท้ังหมด แล้วค่อยถอดปลกั๊ ออก
ง. รวบรวมผา้ ทีจ่ ะรดี แลว้ รดี ภายในครงั้ เดียว

5.ข้อใดไม่ใช่การใช้ต้เู ยน็ อย่างถกู วิธีและประหยดั
ก. เปดิ – ปิดตู้เยน็ บอ่ ย ๆ
ข. ไมน่ าอาหารรอ้ นไปใส่ไวใ้ นตูเ้ ย็น
ค. เกบ็ อาหารใสไ่ วใ้ นตู้เย็นเทา่ ท่ีจ าเป็น

ง. ตงั้ ตู้เย็นห่างจากผนงั อย่างน้อย 15 ซม.

6.ข้อใดไมใ่ ชว่ ธิ ีการใช้และการดแู ลรักษาเครื่องปรับอากาศ อย่างถูกวธิ ี
ก. เปดิ เครอื่ งปรับอากาศที่ 26 องศา
ข. ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศทุก 6 เดอื น
ค. ปดิ เคร่ืองปรบั อากาศก่อนออกจากห้อง 1 ชั่วโมง

ง. เปดิ ประตูหอ้ งนอนขณะเปดิ เคร่อื งปรับอากาศ

๗.ทคี่ วามสวา่ งเทา่ กันหลอดไฟชนดิ ใดประหยดั ไฟทส่ี ดุ

ก. หลอดไส้ ข. หลอดตะเกียบ

ค. หลอดแอลอดี ี ง. ประหยดั เท่ากันทุกหลอด

8. ข้อใดคือกลยทุ ธก์ ารประหยัดพลงั งาน 3 อ.
ก. อาหาร อาคาร อุปนิสยั
ข. อปุ กรณ์ อาคาร อาหาร
ค. อุปกรณ์ อาหาร อปุ นิสยั
ง. อปุ กรณ์ อาคาร อปุ นิสยั

9. ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ กั ษณะของฉลากเบอร์ 5
ก. ต้องแสดงตวั เลขการใช้พลังงานไฟฟ้าตอ่ ปี
ข. จะตอ้ งแสดงยหี่ อ้ รุน่ ขนาดของอปุ กรณ์ไฟฟ้า
ค. จะตอ้ งระบุปีทมี่ ีการปรบั คา่ ประสทิ ธภิ าพพลงั งาน
ง. ต้องมีลายน าสญั ลักษณข์ องการไฟฟ้าผ่ายผลติ แหง่ ประเทศไทย

10. ขอ้ ใดคือหลักการประหยัดพลงั งาน 4 ป.
ก. ปิด – ปรับ – ปลด – ปลอ่ ย
ข. ปิด – ปรับ – ปลด – เปลย่ี น
ค. ปิด – ปรบั – ปลด – ประหยดั
ข. ปิด – ปรบั – เปล่ียน – ประหยัด

แผนการการจดั การเรยี นรูร้ ายสปั ดาห์ ระดับ ม.ตน้ ครั้งท่ี 15
รายวิชาสุขศกึ ษา ศาสนาและหนา้ ที่พลเมอื ง รหสั วชิ า สค21002
เวลาเรยี น 30 ช่ัวโมง (พบกลมุ่ 6 ชวั่ โมง /การเรียนรดู้ ้วยตนเอง 24 ชวั่ โมง)

วนั ที่.......... เดือน............................. พ.ศ. 2564
มาตรฐานท่ี 5.3 ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองดีตามวถิ ีประชาธิปไตยมีจติ สาธารณะ เพอื่ ความสงบสขุ ขอสงั คม
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ

1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคณุ ค่าและสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณขี อง ประเทศใน
ทวปี เอเชีย

2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจดําเนินชวี ิตตามวถิ ีประชาธิปไตย กฎระเบยี บของประเทศเพอื่ นบา้ น
ตัวช้ีวดั

1.มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ ยวกบั ความเป็ นมาของศาสนาต่างๆ ในประเทศไทย และประเทศ ในทวปี
เอเชยี

2.นาํ หลกั ธรรมสาํ คัญๆ ใน ศาสนาของตน มาประพฤติ ปฏบิ ตั ิใหส้ ามารถอย่รู ่วมกนั กบศาสนาอื่นได้
อยา่ งสนั ติสุข

3.เหน็ ประโยชนใ์ นการนาํ หลกั ธรรมคาํ สอนในศาสนาท่ี ตนนบั ถือมาประพฤติปฏบิ ตั ิ ตน เพอื่ ใหเ้ ป็
นคนดีในสังคม

4.นําขอ้ ปฏบิ ตั ิของบคุ คล ตัวอยางที่ใชห้ ลกั ธรรมทางศาสนามาปฏบิ ตั ิใน ชีวิตประจําวันมาใชใ้ ห้
เหมาะสมกบวิถชี ีวติ ของตนเอง

5.มคี วามรู้ ความเข้าใจใน วฒั นธรรมประเพณขี อง ประเทศไทยและประเทศใน เอเชีย
6.ตระหนักถึงความสาํ คญั ใน วฒั นธรรมประเพณขี อง ประเทศไทยและประเทศใน เอเชยี
7.มีส่วนร่วมในการปฏบิ ัติตน ตามวัฒนธรรมประเพณี ของ สงั คมไทย
8.ประพฤติตนตามค่านิยม จริยธรรมท่พี งึ ประสงค์ของ สงั คมไทย
เนอื้ หา
1. ความเป็ นมาของศาสนาในประเทศไทยและในทวีปเอเชยี ดังนี้ ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนา
อสิ ลาม ศาสนาฮนิ ดู
2. หลกั ธรรมในแต่ละศาสนาที่ทําใหอ้ ยู่ร่วมกบศาสนาอ่ืนได้อยา่ งมคี วามสขุ
3. วฒั นธรรมประเพณีในประเทศไทยและประเทศในเอเชยี ภาษา,การแตง่ กาย,อาหาร, ประเพณี

วธิ ีการเรยี น : แบบพบกล่มุ (ON-Line)
กระบวนการจดั การเรยี นรู้

การกำหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)
1. ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรยี น ( เวลา 30 นาที)

1.1 ครูทักทายนักศึกษาในกลุ่ม ผ่านทาง LINE กลุ่ม เพื่อแนะนำแนวทางการเรียน กศน. ให้กับ
นักศึกษาเก่ียวกับการปฏิบัติตัวตามกฎระเบียบของสถานศึกษา และการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต
(กพช.) พร้อมอธบิ ายถึงเหตผุ ลความจำเปน็ ทต่ี อ้ งจดั กิจกรรมการเรยี นรปู แบบออนไลน์

1.2 ครูช้ีแจง สาระสำคัญ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนือ้ หาเร่ืองกระบวนการจัดการเรยี นรู้ สื่อและแหล่ง
การเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล และการตดิ ตาม ผ่านทาง Google Classroom/LINE กลุม่

1.3 ครูและนักศึกษาร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความ คิดเห็น เก่ียวกับปัญหา ความต้องการ รูปแบบ
ในการเรยี น และการแสวงหาความรู้จากสอ่ื ต่าง ๆ ในการเรยี นวชิ าศาสนาและหนา้ ทีพ่ ลเมือง ผา่ นทาง Google
Classroom/LINE กลุ่ม

การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรียนรู้ (N : New ways of learning)
2. ขั้นจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ( เวลา 4 ชว่ั โมง)

1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) แบบปรนัย จำนวน 40 ข้อ โดยใช้ Google
Form ผ่านทาง Google Classroom/Line กลุม่ โดยเนน้ ให้นักศกึ ษามคี วามซ่อื สตั ยใ์ นการทำแบบทดสอบ

2 ครูตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) และแจ้งให้นักศึกษาทราบ ผ่านทาง Google
Classroom/Line กลุ่ม เพอ่ื จดบนั ทกึ ลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.

3. ครูให้นกั ศกึ ษาศึกษาขอ้ มูล ในหนงั สอื เรียน ออนไลน์ ลิงค์ http://ccs.nfe.go.th/padrew-
ediacenter/UserFiles/Pdf/morton/sara5/sorkor21002.pdf หรอื จากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ และให้สรุปลง
ในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. ในหวั ขอ้ ต่อไปนี้

- ความเปน็ มาของศาสนาในประเทศไทย
- วฒั นธรรม ประเพณแี ละค่านิยมของไทยและเอเชีย
4. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั ศกึ ษาสอบถามในประเดน็ ทส่ี งสยั และครตู อบขอ้ คำถาม ผา่ นแอปพลิเคชนั
Google Classroom หรอื Line
5. ครมู อบหมายใหน้ ักศกึ ษาเลือกหวั ขอ้ ทสี่ นใจ จำนวน 1 เรอ่ื ง ให้ไปศกึ ษาค้นคว้าจากหนงั สือเรียน
ออนไลน์ ลิงค์
http://ccs.nfe.go.th/padrewediacenter/UserFiles/Pdf/morton/sara5/sorkor21002.pdf หรือจาก
แหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ และใหส้ รปุ ลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ และใหน้ ักศกึ ษาส่งใบงาน ด้วยระบบออนไลน์
ผ่านแอปพลเิ คชนั Google Classroom หรอื Line ดงั หวั ขอ้ ต่อไปน้ี
ใบงานท่ี 1 เร่ืองศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินด และใบงานที่ 2 เรื่อง หลักธรรมในแต่ละศาสนาท่ี
ทาํ ให้อย่รว่ มกบั ศาสนาอนื่ ได้อยา่ งมคี วามสุข ใบงานที่ 3 เรื่อง วัฒนธรรม ประเพณขี องไทย
6. ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเร่ือง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตัญญู
กตเวที ความขยัน ความประหยัด ความซ่ือสัตย์ ความมีน้ำใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย
และยึดม่ันในวิถชี ีวิต และการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ผ่านทาง
LINE กลุม่

6

การปฏิบตั ิและนำไปประยุกต์ (I : Implementation)
3. ขนั้ การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยกุ ต์ใช้ (1 ชัว่ โมง )

1. ครสู รปุ ผลการทำกจิ กรรมและตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากช้ินงานทไ่ี ด้มอบหมายไปและให้
นักศึกษา
ส่งกลับมาทาง LINE กล่มุ

2. ครูใหน้ กั ศกึ ษาทำแบบทดสอบยอ่ ย ในรปู แบบปรนยั จำนวน 20 ข้อ โดยใช้ Google Form พร้อม
เฉลย ประเมินผล และให้นกั ศกึ ษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.

3 .ครใู ห้นกั ศกึ ษาสรุปการทำความดแี ละคณุ ธรรมที่ไดป้ ฏิบตั ิ พร้อมบันทึกลงในสมุดบนั ทกึ ความดี
เพ่อื การประเมินคณุ ธรรม
ข้ันประเมินผล (E :Evaluation)
4. ขัน้ สรุปและประเมนิ ผล (1 ช่วั โมง)

4.1 ครใู ห้นกั ศกึ ษาทำแบบทดสอบย่อย เรื่อง ความเป็นมา หลกั การ เจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนญู แบบ
ปรนัย จำนวน 20 ขอ้ จากชุด แบบทดสอบหรือ Google Form พร้อมเฉลยและประเมินผล ให้นักศกึ ษา
บนั ทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

4.2 ครใู ห้นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) แบบปรนยั วิชา ศาสนาและหน้าท่ีพลเมอื ง
จำนวน 40 ข้อ ผา่ นทาง Google Form พรอ้ มเฉลยและประเมนิ ผล ใหน้ กั ศึกษาบันทกึ คะแนนลงในแบบ
บนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน.

4.3 ครใู ห้นกั ศกึ ษาสรปุ การทำความดีและคณุ ธรรมที่ได้ปฏบิ ัติ พร้อมบนั ทกึ ลงในสมุดบันทึกความดี
เพ่อื การประเมินคณุ ธรรม

4.4ครตู ิดตามงานทีไ่ ดม้ อบหมายนักศึกษา เพื่อติดตามความคืบหนาทางแอปพลเิ คชนั Line ดงั น้ี
4.4.1 ตดิ ตามงานท่ีไดร้ บั มอบหมายสัปดาหท์ ีผ่ า่ นมา
4.4.2 ติดตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวติ (กพช.)
4.4.3 ติดตามสอบถามสุขภาพของนกั ศกึ ษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแต่งกาย)
4.4.4 ตดิ ตามสอบถามการทำความดีในแตล่ ะวัน สปั ดาห์ที่ผ่านมาและตดิ ตามการบันทกึ

กิจกรรมท่ีทำความดลี งในสมดุ บนั ทึกบนั ทกึ ความดีเพ่ือการประเมินคณุ ธรรม
4.4.5 ติดตามสอบถามเก่ยี วกับงานอดเิ รก สุนทรยี ภาพ การเล่นกีฬา การใชเ้ วลาว่างให้เปน็

ประโยชน์ ฯลฯ

7

ขนั้ มอบหมายงาน
1. ครูมอบหมายใหน้ ักศึกษาไปอา่ นทบทวนเนอื้ หาเพ่ิมเติม เร่อื ง ความเป็นมา หลกั การ เจตนารมณ์

ของรฐั ธรรมนญู จากหนงั สอื เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://ccs.nfe.go.th/padrew-
ediacenter/UserFiles/Pdf/morton/sara5/sorkor21002.pdf และใหส้ รปุ ลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้
กศน.

2. ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าและใบงานท่ี 1 เร่ืองศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม
ฮนิ ดู และใบงานท่ี 2 เรอื่ ง หลกั ธรรมในแตล่ ะศาสนาทีท่ ําให้อยร่ ว่ มกบั ศาสนาอ่ืนไดอ้ ย่างมคี วามสุข ใบงานท่ี 3
เร่ือง วัฒนธรรม ประเพณีของไทย (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) และให้นักศึกษาส่งงาน
ทาง Google classroom หรือทาง LINE ตามวนั เวลาที่ครนู ดั หมาย

3. ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เร่ือง รัฐธรรมนูญแห่งราชอณาจักรไทยและหลักสำคัญ
ของประชาธิปไตย จากหนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://online.pubhtml5.com เพ่ือเตรียมการเรียนรู้
ทางออนไลน์ ในสปั ดาหต์ อ่ ไป

ส่ือและแหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรียนวิชา สค21002 วชิ าศาสนาและหนา้ ทีพ่ ลเมือง หรือ หนังสอื เรียนออนไลน์

ลงิ ค์ http://ccs.nfe.go.th/padrew-ediacenter/UserFiles/Pdf/morton/sara5/sorkor21002.pdf
2. คมู่ ือนกั ศึกษา
3. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) วิชา ศาสนาและหนา้ ทพี่ ลเมอื ง แบบปรนยั จำนวน 40 ข้อ

(ชดุ แบบทดสอบ หรอื Google Form)
4. แบบทดสอบยอ่ ย เรอื่ ง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี จำนวน 20 ข้อ

(ชุด แบบทดสอบ หรอื Google Form)
5. ใบงานที่ 1 เรื่องศาสนาพุทธ ครสิ ต์ อสิ ลาม ฮินด และใบงานท่ี 2 เร่ือง หลกั ธรรมในแต่ละศาสนาที่

ทําให้อยร่ ่วมกบั ศาสนาอ่นื ได้อย่างมีความสุข ใบงานท่ี 3 เรื่อง วัฒนธรรม ประเพณีของไทย
6. แบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน.

การวดั และประเมนิ ผล
1. การเขา้ เรียนด้วยระบบออนไลน์
2. ตรวจแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.
3. ตรวจใบงาน
4. ตรวจแบบทดสอบ
5. ประเมินคณุ ธรรม

ใบงานท่ี 1
เรอื่ ง ศาสนาในประเทศไทยและเอเซยี

คำช้ีแจง จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1. จงบอกความหมายของศาสนา

.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

2. นิกายสำคญั ของศาสนาคริสต์ มกี ี่นกิ าย อะไรบ้าง
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

3. การถอื ศีลอด หมายถงึ อะไร
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

4. การภาวนาจากใจ หมายถงึ อะไร
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
5. อทิ ธบิ าท 4 แปลวา่ อะไร หมายถงึ อะไร และจำแนกไว้ 4 ขอ้ มีอะไรบ้าง
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................


Click to View FlipBook Version