แนวทางการเปิดเรียน
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565
ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
(COVID – 19)
สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาตรงั เขต 1
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน
คำนำ
แนวทางการเปิดเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เล่มนี้ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1
จัดทาข้ึน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานสาหรับให้สถานศึกษาได้เตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักเรียน ผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป ว่า
สถานศึกษาจะมีแนวทางในการสร้างความปลอดภยั ในกับนกั เรยี นก่อนการเปดิ เรยี น ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา
2565 และระหว่างท่ีจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการท่ีกระทรวงสาธารณสุข
และกระทรวงศกึ ษาธกิ ารกาหนด
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 หวงั เป็นอย่างย่ิงวา่ แนวทางการเปิดเรียน ภาคเรียน
ที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ภายใต้สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)
เลม่ น้ี จะชว่ ยอานวยความสะดวกให้สถานศึกษา ตลอดจนคณะครู นกั เรยี น ชุมชนและผทู้ ีเ่ กยี่ วขอ้ งกับการปฏบิ ตั ิงาน
ในสถานศกึ ษา ดาเนนิ การได้ตามมาตรการด้านความปลอดภยั สามารถเปดิ เรยี นได้ และจัดการเรียนการสอน
ให้แกน่ ักเรียนดว้ ยความปลอดภัย ขอบคุณคณะทางานทุกทา่ น ท่ีไดร้ ่วมกนั จัดทาแนวทางการเปิดเรียน ภาคเรยี นท่ี
1 ปกี ารศกึ ษา 2565 ของสถานศึกษา ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019
(COVID – 19) เลม่ น้ี จนสาเร็จบรรลตุ ามวตั ถุประสงค์
สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาตรงั เขต 1
สำรบญั
เร่อื ง หน้ำ
คานา
สารบญั
สว่ นท่ี 1 ขอ้ มลู พื้นฐาน 1
สว่ นที่ 2 การประเมินความพร้อมกอ่ นเปดิ เรยี นของสถานศกึ ษาในระบบ
Thai Stop Covid Plus (TSC+) 4
ส่วนท่ี 3 มาตรการ Sandbox : Safety Zone in School 9
สว่ นที่ 4 แผนเผชิญเหตุ 28
ส่วนที่ 5 บทบาทของบคุ ลากรและหนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง 31
ภาคผนวก 39
ภาคผนวก ก การเปดิ เรียน On-Site ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)................................... 40
ภาคผนวก ข แบบบนั ทึก Timeline ของนักเรียน 43
ภาคผนวก ค แบบประเมินตนเองผ่านแอปพลเิ คชัน Thai Save Thai (TST) 45
ภาคผนวก ง แบบบันทึกขอ้ มูลผมู้ าติดตอ่ ของสถานศึกษา 47
ภาคผนวก จ เอกสารอ้างอิง................................................................................... 49
ภาคผนวก ฉ คณะทางาน 50
1
สำนักงำนเขตพื้นทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
2
สว่ นท่ี 1
ข้อมูลพนื้ ฐำนของสำนกั งำนเขตพืน้ ทีก่ ำรศึกษำ
สถำนทตี่ ั้ง
สำนกั งำนเขตพืน้ ท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1 ต้ังอยู่เลขที่ 193 หมู่ 12 ตำบลโคกหลอ่
ถนนตรงั –ปะเหลียน อำเภอเมืองตรงั จังหวดั ตรัง รหัสไปรษณีย์ 92000 โทรศพั ท์. 075–572027-32
075-572066 โทรสำร. 075-291509 Website http://www.trang1.go.th/E-mail : [email protected]
ขนำดสถำนศึกษำ (ข้อมลู ณ วันที่ 10 พฤศจิกำยน 2564)
ขนำดท่ี 1 (นร.1-120 คน) จำนวน 65 โรง
ขนำดท่ี 2 (นร.121-200 คน) จำนวน 45 โรง
ขนำดที่ 3 (นร.201-300 คน) จำนวน 13 โรง
ขนำดที่ 4 (นร.301-499 คน) จำนวน 6 โรง
ขนำดที่ 5 (นร.500-1,499 คน) จำนวน 1 โรง
ขนำดท่ี 6 (นร.1,500-2,499 คน) จำนวน 2 โรง
รวม 132 โรง
ขนำดของสถำนศกึ ษำทเ่ี ปดิ สอนจำแนกรำยอำเภอ (ขอ้ มูล ณ วันที่ 10 พฤศจิกำยน 2564)
จำนวนโรงเรียน ขนำดสถำนศึกษำ (จำนวนนกั เรยี น)
ที่ อำเภอ ทง้ั หมด ขนำด ขยำย หอ้ งเรยี น
1 เมือง เลก็ โอกำส ทง้ั หมด
35 15 6 กอ่ นประถม ประถม มธั ยมตอนตน้ รวม
410 1,715 5,851 402 7,968
2 ย่านตาขาว 33 21 3 319 1,031 3,400 59 4,490
3 ปะเหลยี น 37 22 5 325 792 3,465 192 4,449
4 นาโยง 17 5 4 193 743 2,095 235 3,073
5 หาดสาราญ 10 3 1 92 339 1,032 58 1,429
รวม 132 66 19 1,339 4,620 15,843 946 21,409
สำนักงำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1
3
ขอ้ มลู กำรรับวคั ซีนของครูและบุคลำกรในสถำนศกึ ษำ
อำเภอ จำนวนบุคลำกร จำนวนผ้ทู ่ีได้รับวคั ซีน (คน) หมำย
ทั้งหมด (คน) เหตุ
เมืองตรัง
645 เขม็ 1 ร้อยละ เขม็ 2 รอ้ ยละ เข็ม 3 รอ้ ยละ มำกกวำ่ รอ้ ยละ
เขม็ 3
641 99.38 641 99.38 565 86.70 62 9.61
ปะเหลยี น 448 448 98.88 438 97.77 374 83.48 36 8.04
ยำ่ นตำขำว 433 433 98.85 422 97.46 371 85.68 55 12.70
นำโยง 272 272 100 272 100 244 89.71 52 19.12
หำดสำรำญ 137 137 100 137 99.27 114 83.21 11 8.03
รวม 1,935 1,921 99.28 1,921 98.66 1,668 86.20 216 11.16
ข้อมูลกำรรบั วัคซีนของนกั เรียน (อำยุ 5 - 11 ปี)
อำเภอ จำนวน จำนวนผ้ทู ี่ได้รับวคั ซนี (คน)
บคุ ลำกร
ทงั้ หมด (คน) เข็ม 1 ร้อยละ เขม็ 2 ร้อยละ มำกกว่ำเขม็ 2 ร้อยละ หมำยเหตุ
เมืองตรงั 6,292 3,790 60.24 564 8.96 0 0
ปะเหลยี น 3,395 1,845 54.34 437 12.87 0 0
ย่ำนตำขำว 3,661 2,225 60.78 657 17.95 0 0
นำโยง 2,242 995 44.38 207 9.23 1 0.04
หำดสำรำญ 1,117 512 45.84 76 6.80 0 0
รวม 16,707 9,367 56.07 1,941 11.62 1 0.01
ข้อมูลกำรรบั วัคซีนของนักเรยี น (อำยุ 12 – 18 ปี)
อำเภอ จำนวนบุคลำกร จำนวนผ้ทู ไี่ ด้รับวคั ซีน (คน) หมำยเหตุ
ทง้ั หมด (คน) เขม็ 1 รอ้ ยละ เข็ม 2 ร้อยละ มำกกว่ำเขม็ 2 รอ้ ยละ
เมอื งตรงั 1,265 1,182 93.44 1,144 90.43 2 0.16
ปะเหลียน 776 739 95.23 705 90.85 0 0
ยำ่ นตำขำว 575 518 90.09 504 87.65 0 0
นำโยง 593 558 94.10 538 90.73 1 0.17
หำดสำรำญ 356 199 55.90 188 52.81 0 0
รวม 3,565 3,196 89.65 3,079 86.37 3 0.08
ข้อมูล E-COVID 19 Report ณ วนั ที่ 12 พฤษภำคม 2565
สำนกั งำนเขตพนื้ ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
4
สำนักงำนเขตพื้นทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
5
สว่ นท่ี 2
กำรประเมนิ ควำมพร้อมกอ่ นเปดิ เรยี นของสถำนศึกษำในระบบ Thai Stop Covid Plus (TSC+)
กระทรวงสำธำรณสุข โดยกรมอนำมัย ได้สร้ำงเครื่องมือสำหรับสถำนศึกษำประเมินตนเองในระบบ
Thai Stop Covid Plus ตัวย่อ TSC+ เพ่ือให้สถำนศึกษำเตรียมควำมพร้อมก่อนเปิดเรียน ภำคเรียนที่ 1
ปีกำรศึกษำ ๒๕๖5 ลิงก์ระบบ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/webapp/ แบบประเมินตนเอง
ดังกล่ำว ประกอบด้วย ๖ มิติ 20 ข้อ สถำนศึกษำจะต้องผ่ำนกำรประเมินทั้ง 20 ข้อ ตำมขั้นตอน
กำรประเมินตนเอง ให้ได้ระดับ สีเขียว สถำนศึกษำจึงจะสำมำรถเปิดเรียนได้ โดยได้รับใบรับรอง
(E – Certificate) ดงั นี้
แบบประเมินตนเองสำหรบั สถำนศึกษำในกำรเตรียมควำมพรอ้ มก่อนเปิดภำคเรียน
เพื่อเฝำ้ ระวังและป้องกันกำรแพร่ระบำดของโรคโควดิ 19
ภำคกำรศึกษำท่ี 1 ปกี ำรศึกษำ 2565
เกณฑ์กำรประเมนิ ตนเอง
ข้อ ประเด็น มี ไมม่ ี หมำย
(1) (0) เหตุ
มิติที่ 1 ควำมปลอดภัยจำกกำรลดกำรแพรเ่ ชอ้ื โรค
1 มีกำรจัดเวน้ ระยะห่ำง อย่ำงน้อย 1 - 2 เมตร เชน่ ทนี่ ง่ั ในห้องเรยี นที่น่งั
ในโรงอำหำร ที่นง่ั พัก จดุ ยนื รับ-สง่ สงิ่ ของ/อำหำร พร้อมติดสญั ลกั ษณ์
แสดงระยะหำ่ งอย่ำงชัดเจน หรอื ไม่
2 มีมำตรกำรให้นกั เรียน ครู บุคลำกร และผู้เข้ำมำตดิ ต่อในสถำนศกึ ษำต้อง
สวมหน้ำกำกผ้ำหรอื หนำ้ กำกอนำมยั 100% ตลอดเวลำท่ีอยใู่ น
สถำนศกึ ษำหรือไม่
3 มจี ดุ ล้ำงมอื ดว้ ยสบู่และน้ำ หรือจัดวำงเจลแอลกอฮอลส์ ำหรับใช้ทำควำม
สะอำดมอื อย่ำงเพยี งพอและใชง้ ำนได้สะดวก หรือไม่
4 มมี ำตรกำรคัดกรองวัดอุณหภูมิให้กบั นักเรียน ครู บุคลำกร และผู้เข้ำมำ
ติดต่อ ทุกคน ก่อนเข้ำสถำนศึกษำ หรือไม่
5 มมี ำตรกำรใหล้ ดกำรทำกจิ กรรมรวมกลุม่ คนจำนวนมำก และหลกี เลีย่ ง
กำรเขำ้ ไปในพืน้ ท่ที ี่มคี นจำนวนมำกหรือพ้นื ท่ีเสี่ยงที่มีกำรแพร่ระบำดของ
โรค หรอื ไม่
6 มกี ำรทำควำมสะอำดห้องเรยี น ห้องเรยี นรว่ ม ห้องปฏิบัตกิ ำร เชน่ ห้อง
คอมพวิ เตอร์ ห้องดนตรี อปุ กรณ์กฬี ำ และอปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นกำรเรยี น
สำนกั งำนเขตพนื้ ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1
6
ข้อ ประเดน็ มี ไมม่ ี หมำย
(1) (0) เหตุ
กำรสอน และพนื้ ผวิ สมั ผัสรว่ ม เชน่ รำวบันได ลกู บิดมอื จับประตู โต๊ะ
เก้ำอ้ี ทุกวนั หรอื ไม่
7 มีมำตรกำรสง่ เสริมใหก้ นิ อำหำรปรุงสกุ ใหม่ร้อน กนิ อำหำรดว้ ยกำรใช้ช้อน
สว่ นตวั ทกุ ครั้ง งดกำรกินอำหำรร่วมกนั และจัดใหบ้ ริกำรอำหำรตำมหลัก
สขุ ำภิบำลและหลักโภชนำกำร หรือไม่
8 มกี ำรจัดระบบให้นกั เรียน ครู บุคลำกร และผู้เขำ้ มำติดตอ่ ในสถำนศกึ ษำ
ทกุ คน ลงทะเบยี นตำมทร่ี ฐั กำหนดด้วย app หรอื ลงทะเบยี นบันทึก
กำร เข้ำ-ออกอยำ่ งชัดเจน หรือไม่
9 มกี ำรจัดกำรด้ำนอนำมยั สิ่งแวดลอ้ มตำมมำตรกำรปอ้ งกนั โรคโควดิ 19
ในสถำนศึกษำ ได้แก่ กำรระบำยอำกำศภำยในอำคำร คุณภำพนำ้ บริโภค
อปุ โภค กำรทำควำมสะอำด และกำรจัดกำรขยะ เปน็ ไปตำมมำตรฐำน
และหลกั กำรที่ถูกตอ้ ง หรอื ไม่
10 มีมำตรกำรส่งเสริมให้นกั เรยี น ครู และบคุ ลำกร รจู้ ัก หมน่ั สังเกต อำกำร
เสยี่ งจำกโรควิด 19 เชน่ ไข้ ไอ นำ้ มูก เจ็บคอ คอแห้ง ออ่ นเพลีย หำยใจ
ลำบำก หำยใจเร็ว เจ็บแน่นหนำ้ อก เสียกำรดมกล่ิน ลนิ้ ไมร่ ับรส ตำแดง
มผี นื่ ทอ้ งเสยี และประเมินควำมเสี่ยงของตนเองเปน็ ประจำ ผ่ำน Thai
save Thai (TST) หรอื แบบประเมินคัดกรองควำมเสย่ี งอื่นตำมที่ กำหนด
หรือไม่
11 มีมำตรกำรส่งเสริมใหน้ กั เรียน อำยุ 5-11 ปี อำยุ 12-17 ปี นกั ศกึ ษำ
ครู บุคลำกร และผปู้ กครอง เข้ำถงึ กำรฉดี วคั ซนี ป้องกนั โควิด 19 ตำม
แนวทำงท่ีรฐั กำหนด หรือไม่
12 มีหอ้ งพยำบำลหรอื มพี ื้นทเ่ี ปน็ สดั ส่วนสำหรบั สงั เกตอำกำรผู้มอี ำกำรเส่ยี ง
หรือจัดให้มสี ถำนทแี่ ยกกกั ตวั ในโรงเรียน (School Isolation) ตำมบริบท
อยำ่ งเหมำะสม หรอื ไม่
มิตทิ ่ี 2 กำรเรียนรู้
13 มีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนเก่ียวกบั โรคและกำรป้องกนั กำรแพรร่ ะบำด
ของโรคโควิด 19 สอดคล้องตำมช่วงวยั ของผูเ้ รยี น หรือไม่
14 มกี ำรส่อื สำร ประชำสัมพนั ธ์ ถ่ำยทอดใหค้ วำมรู้กำรปฏบิ ตั ิตนเพอ่ื
สขุ อนำมัยปลอดภยั จำกโรคโควิด 19 ตำมมำตรกำรป้องกันกำรตดิ เช้ือ
โรค โควิดข้นั สูงสดุ (Universal Prevention) ตลอดจนแนะนำนกั เรยี น
สำนกั งำนเขตพ้ืนท่กี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
7
ขอ้ ประเด็น มี ไม่มี หมำย
(1) (0) เหตุ
ครู และบคุ ลำกรสำมำรถสืบค้นข้อมูลท่ีเกี่ยวกบั โรคโควิด 19 จำก
แหล่งข้อมูล ท่ีเชื่อถือไดห้ รือไม่
มติ ิที่ 3 กำรครอบคลุมถึงเด็กด้อยโอกำส
15 มีกำรสนับสนนุ อุปกรณข์ องใช้สขุ อนำมยั ส่วนบคุ คลในกำรป้องกนั กำรแพร่
ระบำดของโรคโควดิ 19 สำหรบั นักเรียนดอ้ ยโอกำสหรือกลุ่มเปรำะบำง
หรอื ไม่
มติ ทิ ี่ 4 สวสั ดิภำพและกำรคุ้มครอง
16 มีแผนเผชญิ เหตุแนวปฏบิ ัตริ องรับกรณีมีผ้ตู ิดเช้ือในสถำนศึกษำหรอื ใน
ชมุ ชน และมีกำรซักซ้อม หรอื ไม่
17 มีกำรสื่อสำรประชำสมั พนั ธ์ข้อมลู ขำ่ วสำรกำรตดิ เชอ้ื และกำรปฏบิ ตั ติ น
อย่ำงเหมำะสม เพื่อลดกำรรังเกียจและกำรตตี รำทำงสงั คม (Social
stigma) ตอ่ ผูต้ ิดเช้ือโควดิ 19 หรือผสู้ ัมผสั เสยี่ งสงู หรือไม่
มติ ทิ ี่ 5 นโยบำย
18 มีนโยบำยเปน็ ลำยลักษณเ์ น้นกำรปฏิบัตติ ำมมำตรกำรสุขอนำมยั ส่วน
บคุ คล 6 มำตรกำรหลัก (DMHT-RC) 6 มำตรกำรเสริม (SSET-CQ) และ
7 มำตรกำรเข้ม และมีกำรส่อื สำรประชำสมั พนั ธ์ในสถำนศึกษำ ให้
นักเรยี น ครู บุคลำกร ผูป้ กครอง และชมุ ชนรับทรำบ และถือปฏิบัติ
อย่ำงท่ัวถึง หรอื ไม่
19 มีนโยบำยกำรควบคุมดูแลกำรเดนิ ทำงจำกบ้ำนไป-กลบั สถำนศึกษำ (Seal
Route) อยำ่ งปลอดภยั เชน่ รถรับ-ส่งนักเรยี น รถส่วนบุคคคล รถโดยสำร
ประจำทำง รถยนต์สำธำรณะ หรือไม่
มติ ทิ ี่ 6 กำรบริหำรกำรเงิน
20 มกี ำรจัดสรรงบประมำณหรือแสวงหำงบประมำณจำกภำยนอกสำหรบั
กำรดำเนนิ กำรป้องกนั กำรแพรร่ ะบำดของโรคโควดิ 19 ในสถำนศึกษำ
หรือไม่
สำนกั งำนเขตพนื้ ท่ีกำรศกึ ษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
8
ผลกำรประเมิน
Ranking เกณฑ์กำรประเมิน
สีเขยี ว
สเี หลอื ง ผำ่ นท้ังหมด 20 ข้อ
ผ่ำนขอ้ 1 – 12 ทกุ ข้อ
สีแดง แตไ่ ม่ผ่ำน 13 – 20 ขอ้ ใดข้อหนง่ึ
ไมผ่ ่ำน ข้อ 1 – 12 ข้อใดข้อหนึง่
กำรแปลผล
สเี ขียว หมำยถึง สถำนศึกษำสำมำรถเปดิ เรยี นได้ โดยได้รับใบรบั รอง
(E – Certificate)
สเี หลอื ง หมำยถึง โรงเรียนสำมำรถเปดิ เรยี นได้ แตต่ อ้ งดำเนนิ กำรปรับปรุงให้เป็นไป
ตำมมำตรฐำนที่กำหนด แลว้ จึงได้รับใบรับรอง (E – Certificate) ใหเ้ ปน็ ไปตำมมำตรฐำนทก่ี ำหนด
สีแดง หมำยถงึ โรงเรยี นไมส่ ำมำรถเปิดเรยี นได้ต้องดำเนินกำรปรับปรุงให้เป็นไปตำม
มำตรฐำนทกี่ ำหนด และ/หรือประเมนิ ตนเองซ้ำ จนกวำ่ จะผ่ำนท้งั หมด แลว้ จงึ ไดร้ บั ใบรบั รอง
(E-Certificate) โรงเรียนสำมำรถเปิดเรยี นได้
ลงชอ่ื .......................................................... ผปู้ ระเมนิ
วนั ท่ีประเมิน .............................................................
หมำยเหตุ : สถำนศึกษำประเมินตนเองเตรยี มควำมพร้อมก่อนเปิดภำคเรียน
ผำ่ นระบบ Thai Stop Covid Plus กรมอนำมยั ได้ที่
https://stopcovid.anamai.moph.go.th/webapp/
QR Code ระบบ Thai Stop Covid Plus ระบบ Thai Stop Covid Plus (TSC+)
สำนกั งำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
9
สำนักงำนเขตพื้นทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
10
สว่ นท่ี 3
มำตรกำร Sandbox : Safety Zone in School
สถำนกำรณ์กำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) หรือ โควิด - 19
ในประเทศไทย พบผู้ติดเช้ือเพิ่มขึ้นอย่ำงต่อเนื่องรวมถึงผู้ติดเชื้อท่ีเป็นนักเรียนและครู พบว่ำ เด็กอำยุ 0 –
19 ปี มีกำรติดเช้ือโควิด - 19 จำนวน 2,674 รำย ร้อยละ 14.15 จำกจำนวนผู้ติดเชื้อทุกกลุ่มอำยุ
จำนวน 18,892 รำย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่มีอำกำรหรือมีอำกำรเล็กน้อย (จำกรำยงำนข้อมูลผู้ป่วยยืนยัน
ประจำวัน กรมควบคุมโรค, 16 เมษำยน 2565) ดังนั้นกระทรวงสำธำรณสุขร่วมกับกระทรวงศึกษำธิกำร
มีกำรปรับรูปแบบกำรเรียนกำรสอนและกำรสอบ เพื่อให้นักเรียนและนักศึกษำสำมำรถเข้ำถึ งโอกำส
ทำงกำรศึกษำได้ มำกท่ีสุด ได้ทบทวนและพัฒนำปรับปรุงแนวทำงปฏิบัติสำหรับสถำนศึกษำตำมมำตรกำร
เปิดเรียน On Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด – 19 ในสถำนศึกษำ เตรียมควำมพร้อมกำรเปิดภำคเรียน
ที่ 1/2565 เพื่อให้นักเรียน ครู บุคลำกรและสถำนศึกษำ เปิดเรียน On Site จัดให้มีกำรเรียนกำรสอน
ท่ีโรงเรียน มีปฏิสัมพันธ์แลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันและอยู่ได้กับโควิด – 19 อย่ำงปลอดภัยในสถำนศึกษำ
โดยมีหลกั เกณฑ์ทต่ี อ้ งปฏิบตั ิอย่ำงเคร่งครัด
มำตรกำรเปิดเรียน On site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถำนศึกษำ รองรับกำรเปิด
ภำคเรียนท่ี 1/2565 มีแนวทำง ดังน้ี แนวทำงกำรเฝ้ำระวังในกำรเตรียมควำมพร้อมสำหรับกำรเปิดเรียน
On site ด้วยหลักกำร “ตัดควำมเส่ยี ง สรำ้ งภมู ิคุ้มกนั ” ดว้ ย 3T1V
สำนกั งำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำประถมศึกษำตรัง เขต 1
11
T : Thai Stop Covid Plus (TSC+) สถำนศึกษำต้องประเมินตนเองเตรยี มพร้อมก่อนเปิดเรยี น
T : Thai Save Thai (TST) นักเรยี น ครู และบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ ประเมนิ ควำมเสย่ี งตนเองเปน็
ประจำ
T : Test ตรวจคดั กรอง เฝำ้ ระวังอยำ่ งเหมำะสม เช่น ATK เมื่อมคี วำมเส่ียงหรอื มีอำกำร
V : Vaccine ครู บุคลำกร ผปู้ กครอง และเด็ก อำยุ 5-18 ปี ได้รับวคั ซีนโควิด 19- ตำมเกณฑ์
มำตรกำรสรำ้ งควำมปลอดภยั ปอ้ งกนั โควดิ 19 ในสถำนศกึ ษำ (6 หลกั 6 เสริม 7 เขม้ )
6 มำตรกำรหลัก (DMHT-RC) : เวน้ ระยะหำ่ ง สวมหนำ้ กำก ล้ำงมอื ตรวจคัดกรอง ลดแออดั
ทำควำมสะอำด
6 มำตรกำรเสริม (SSET-CQ) : ดแู ลตนเอง ใช้ช้อนสว่ นตัว ทำนอำหำรปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียน
เข้ำ-ออก สำรวจตรวจสอบ กกั กันตนเอง
7 มำตรกำรเขม้ : 1. ประเมนิ Thai Stop Covid Plus (TSC+) และรำยงำนผล ผำ่ น MOECOVID
2. ทำกิจกรรมกล่มุ ยอ่ ย (Small Bubble) 3. จดั ระบบกำรให้บริกำรอำหำรตำมหลกั สุขำภิบำล
และโภชนำกำร 4. อนำมัยสิ่งแวดลอ้ มตำมเกณฑ์มำตรฐำน 5. แผนเผชญิ เหตุ มีกำรซกั ซอ้ ม
รวมถงึ กำรเตรียมพร้อม School Isolation 6. ควบคุมดูแลกำรเดนิ ทำงจำกบำ้ นไปโรงเรียน
ให้ปลอดภยั เน้นมำตรกำรปลอดภยั รถโรงเรยี น 7. School Pass สำหรับนกั เรียน ครู และ
บุคลำกรในสถำนศึกษำ
สำนักงำนเขตพ้นื ที่กำรศกึ ษำประถมศึกษำตรัง เขต 1
12
กำรเปดิ เรียน On Site ในสถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019
(COVID-19) ของสถำนศึกษำในจงั หวัดตรัง
กำรจดั กำรเรยี นกำรสอน On Site ของสถำนศกึ ษำในจังหวัดตรัง
รปู แบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน On Site ในจังหวัดตรัง
๑. โรงเรียน สถำนศกึ ษำและสถำบันกำรศึกษำทุกระดบั ทุกประเภท ท้งั ในระบบและนอกระบบ ที่ทำ
กำรสอนในพ้ืนที่จังหวดั ตรงั สำมำรถจดั กำรเรยี นกำรสอนรปู แบบ On Site ได้ ๑๐๐% โดยขออนุญำต ต่อ
หนว่ ยงำนต้นสังกดั เพื่อพจิ ำรณำอนุญำต และหนว่ ยงำนตน้ สังกดั สรปุ ขอ้ มูลโรงเรยี น สถำนศกึ ษำและสถำบัน
กำรศกึ ษำได้รบั ควำมเห็นชอบแลว้ สง่ ให้สำนกั งำนศึกษำธิกำรเพ่ือแจง้ คณะกรรมกำรโรคติดต่อจงั หวดั ตรัง
ทรำบต่อไป ท้ังนี้ ให้ถือปฏิบัติตำมข้อกำหนดทไ่ี ด้กำหนดไว้
สำหรับสถำนศกึ ษำนอกระบบ ใหถ้ อื ปฏบิ ตั ิตำมรูปแบบและแนวปฏบิ ัติท่ีกำหนดเช่นเดยี วกับ
สถำนศกึ ษำในระบบ โดยถือปฏบิ ตั ิตำมระดับชั้นทเ่ี ปิดสอน
๒. กรณที ม่ี กี ำรติดเชื้อหรือมกี ำรแพร่ระบำดของโรค COVID- 19 โนโรงเรียน สถำนศึกษำ หรอื
สถำบันกำรศึกษำ ให้สำมำรถปรับรปู แบบกำรเรียนกำรสอนไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม เช่น
๒.๑ กำรเรียนกำรสอนผำ่ นทีวี ระบบเคเบลิ ทวี ี ระบบดำวเทยี ม (On Air)
๒.๒ กำรเรยี นกำรสอนผำ่ นอินเทอร์เน็ต (Online)
๒.๓ กำรเรียนกำรสอนโดยกำรใช้งำนผ่ำนแอปพลเิ คชัน่ ต่ำงๆ (On Demand)
๒.๔ กำรเรียนกำรสอนโดยกำรจดั หนงั สอื แบบฝกึ หัด ใบงำน ใหก้ บั นกั เรียนเพือ่ นำไปเรยี นรทู้ บี่ ำ้ น
ภำยใต้ควำมชว่ ยเหลอื ของผ้ปู กครอง (On Hand)
(ทีม่ ำ : สำนักงำนศึกษำธกิ ำรจงั หวดั ตรงั โดยควำมเหน็ ชอบของคณะกรรมกำรโรคตดิ ต่อจังหวัดตรัง, ๒๕๖๕)
สำนักงำนเขตพน้ื ท่กี ำรศึกษำประถมศึกษำตรัง เขต 1
13
ข้อกำหนดกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน On Site ของสถำนศึกษำในจังหวัดตรงั
๑. กำรเรยี นกำรสอนรูปแบบ On Site สำมำรถดำเนนิ กำรได้ โดยตอ้ งปฏิบัติตำมขอ้ กำหนด ดังน้ี
๑.๑ ครูและบคุ ลำกรในสถำนศกึ ษำ ตอ้ งไดร้ บั วคั ซีนป้องกนั โรค COVID-19 ครบ ๒ เขม็ ไมน่ อ้ ยกวำ่
ร้อยละ ๘๕ และต้องได้รับวัคชีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มท่ี ๓ (กระตุ้น) ไม่น้อยกว่ำร้อยละ ๘๕ ภำยใน
เดอื นมิถนุ ำยน ๒๕๖๕
๑.๒ นกั เรยี น/นกั ศกึ ษำ อำยุ ๑๒ ปีขน้ึ ไป ในสถำนศึกษำ ต้องไดร้ บั วคั ซนี ป้องกนั โรค COVID-19
ครบ ๒ เข็ม ไม่น้อยกว่ำร้อยละ ๘๐ ของนักเรียน/ นักศึกษำ ท่ีมีอำยุ ๑๒ ปีขึ้นไปทั้งหมด และมีแผนให้
นักเรียน/นักศึกษำได้รับวัคนป้องกันโรค COVID-19 เข็มที่ ๓ (กระตุ้น) ในเดือนพฤษภำคม ๒๕๖๕ ไม่น้อย
กว่ำร้อยละ ๔o และเดือนมิถุนำยน ๒๕๖๕ ไม่น้อยกว่ำร้อยละ ๕๐ และส่งแผนให้สำนักงำนสำธำรณสุข
จังหวัดตรงั เพอ่ื บรหิ ำรจดั กำรวคั ซีนตอ่ ไป
๑.๓ นักเรยี น อำยุ ๕ - ๑๑ ปี ในสถำนศกึ ษำ ตอ้ งไดร้ บั วัคซนี ป้องกนั โรค COVID-19 ครบ ๒ เข็ม
ไมน่ ้อยกวำ่ รอ้ ยละ ๖0 ภำยในเดือนมถิ นุ ำยน ๒๕๖๕
๑.๔ สมำชิกในครอบครัวของนักเรยี นกลุ่ม ๖๐๘ ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบ ๒ เข็ม
ไม่น้อยกว่ำร้อยละ ๘๐ ของสมำชิกในครอบครัวของนักเรียนกลุ่ม ๖๐๘ และควรได้รับวัคซีนป้องกันโรค
COVID-19 เข็มท่ี ๓ (กระตุ้น) ไม่นอ้ ยกว่ำร้อยละ ๖0 ภำยในเดอื นมถิ ุนำยน ๒๕๖๕
ยกเว้นกรณี กำรฉดี วัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของครู /บุคลำกร นกั เรยี น/นักศกึ ษำในสถำนศึกษำ
ที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนด เนื่องจำกมีโรคประจำตัวหรือติดเช้ือโรค COVID-19 หรือเหตุผลอ่ืน ให้
สถำนศึกษำรำยงำนหน่วยงำนต้นสังกัดทรำบและจัดทำแผนรณรงค์กำรฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ให้
เปน็ ไปตำมข้อกำหนด และกรณคี ร/ู บุคลำกร/นักเรยี น/นักศกึ ษำ/สมำชิกในครอบครวั ตดิ เช้ือโรค COVID-19
มำแล้วไมเ่ กิน 3 เดอื น ใหน้ บั เปน็ ผ้มู ีภูมิค้มุ กนั แลว้
๑.๕ นักเรียนระดับชั้นอนุบำล ผู้ปกครองนักเรียนต้องอนุญำตให้เรียนรูปแบน On Site ไม่น้อยกว่ำ
ร้อยละ ๕0 (นักเรียนระดับชั้นอนุบำลท้ังหมด) สำหรับ นักเรียนที่ผู้ปกครองนักเรียนไม่อนุญำตตำมข้อ ๑. ๕
ให้สถำนศกึ ษำพจิ ำรณำรูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนท่ีเหมำะสมต่อไป
๒. ปฏิบัติตำมประกำศสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน เร่ือง มำตรกำรป้องกันและ
ควบคมุ กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID- 19) ของสถำนศึกษำในสังกัดสำนักงำน
คณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน ลงวันที่ ๒๔ เมษำยน ๒๕๖๔ และคู่มือกำรปฏิบัติสำหรับสถำนศึกษำ
ในกำรปอ้ งกนั กำรแพรร่ ะบำดของโรคโควดิ - 19
๓. ปฏิบัติตำมประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เร่ือง หลักเกณฑ์กำรเปิดโรงเรียนหรือสถำบันกำรศึกษำ
ตำมขอ้ กำหนดออกตำมควำมในมำตรำ ๙ แหง่ พระรำชกำหนดกำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณฉ์ ุกเฉิน
พ.ศ.๒๕๔๘ (ฉบบั ท่ี ๓๒) ประกำศ ณ วนั ท่ี ๒๐ กันยำยน พ.ศ ๒๕๖๔
สำนักงำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1
14
๔. ปฏิบัติตำมประกำศกระทรวงศึกษำชิกำร เร่ือง หลักเกณฑ์กำรเปิดโรงเรียนหรือสถำบันกำรศึกษำ
ตำมขอ้ กำหนดออกตำมควำมในมำตรำ ๙ แหง่ กระรำชกำหนดกำรบรหิ ำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉกุ เฉิน พ.ศ.
๒๕๔๘ (ฉบับท่ี ๓๔) ประกำศ ณ วนั ที่ ๒๘ ตลุ ำคม พ.ศ.๒๕๖๔
๕. ปฏิบตั ติ ำมคำสง่ั จังหวัดตรัง เรอื่ ง มำตรกำรป้องกันและควบคุมกำรแพร่ระบำคของโรคติดเช้ือไวรัส
โคโรนำ 2019 ในพน้ื ทจี่ ังหวดั ตรงั ฉบบั ล่ำสุด
๖. สถำนศึกษำ ต้องผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินควำมพร้อมของระบบ Thai Stop Covid Plus (TSC+)
ของกรมอนำมัย กระทรวงสำธำรณสุข และรำยงำนผลผำ่ น MOE COVID หรอื E-Covid 19 Report
๗. สถำนศึกษำต้องให้นักเรียน/นักศึกษำ ครู/บุคลำกร ประเมินด้วยระบบ Thai Save Thai (TST)
หรือประเมินคัดกรองอำกำรตำมมำตรกำรเฝ้ำระวังตำมเกณฑ์ TST ด้วยระบบอ่ืน ทุกวัน หำกพบกรณี
เส่ียงสูง ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK ในวันที่ ๕ และวันที่ ๑0 หลังสัมผัสผู้ติดเช้ือ หรือมีอำกำรให้ตรวจทันที
ทุกรำย หำกพบผลบวกใหด้ ำเนินกำรส่งตอ่ เพอ่ื เขำ้ ระบบกำรรกั ษำ
๘. สถำนศกึ ษำต้องปฏบิ ตั ติ ำม มำตรกำร ๖ มำตรกำรหลกั ๖ มำตรกำรเสรมิ และ ๗ มำตรกำรเขม้
สำหรับสถำนศกึ ษำ
๙. คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำ ตอ้ งใหค้ วำมเหน็ ชอบกำรจดั กำรเรียนกำรสอนรปู แบบ On Site
(ยกเวน้ มหำวิทยำลยั )
๑๐. ผู้ปกครองนกั เรยี น ต้องอนญุ ำตให้นักเรียน เรยี นรูปแบบ On Site ไมน่ ้อยกวำ่ ร้อยละ ๕o
สำหรบั นักเรียนทผ่ี ปู้ กครองไม่อนญุ ำต ฯ ใหโ้ รงเรยี นพิจำรณำจัดกำรเรียนกำรสอนในรปู แบบอน่ื
ทเ่ี หมำะสมตอ่ ไป
๑๑.สถำนศึกษำต้องจัดทำแผนกำรเผชิญเหตุ (Incident Action Plan : IAP) และจัดซ้อมแผน
เผชญิ เหตุ
กรณีมีกำรติดเช้ือโรคCOVID 19 หรือมีกำรแพร่ระบำดของโรคCOVID 19 ในสถำนศึกษำ เบ้ืองต้น
ให้สถำนศึกษำดำเนนิ กำร ดงั น้ี
(๑) แจ้งหนว่ ยงำนบริกำรสำธำรณสขุ ในพ้ืนที่ หรอื หนว่ ยงำนท่ีไดร้ ่วมจดั ทำ MOU
(๒) จดั ให้มี หอ้ งคัดกรองผปู้ ่วย/ผู้ติดเช้อื และ หอ้ งคดั กรองผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
(๓) ตรวจคัดกรองผสู้ ัมผสั เสย่ี งสูง/ผู้มีอำกำร ด้วย ATK
• ผลกำรตรวจเปน็ ลบ
- กรณไี มไ่ ด้รบั วัคซีนป้องกันโรค COVID 1๙ ท้ังท่ีมอี ำกำรและไม่มอี ำกำร ใหก้ ักกนั ตวั เองท่ีบำ้ น
(Self-Quarantine) เป็นเวลำ ๕ วัน และติดตำมเฝำ้ ระวังอีก ๕ วนั (เข้ำเรยี นได้ตำมปกติ)
- กรณไี ดร้ บั วัคซนี ปอ้ งกนั โรค COVID-19 ครบ ๒ เข็มหรือ ๓ เข็ม ไม่มอี ำกำร พจิ ำรณำให้เรียน
ไดต้ ำมปกติ แต่ตอ้ งมมี ำตรกำรป้องกันอยำ่ งเขม้ งวด และเวน้ ระยะห่ำงไม่นอ้ ยกวำ่ ๒ เมตร
- กรณไี ด้รับวคั ซนี ป้องกนั โรค COVID 19 ครบ ๒ เข็มหรอื ๓ เขม็ มีอำกำร ไหก้ ักกนั ตัวเอง
ที่บ้ำน (Self-Quarantine) เป็นเวลำ ๕ วนั และตดิ ตำมเฝำ้ ระวงั อกี ๕ วัน (เขำ้ เรียนไดต้ ำมปกต)ิ
• หำกผลกำรตรวจเป็นบวก
สำนกั งำนเขตพืน้ ท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
15
- ส่งต่อเขำ้ ระบบกำรรักษำของหน่วยงำนบรกิ ำรสำธำรณสขุ ในพน้ื ท่ี รักษำอำกำรตำมระยะเวลำ
ทแ่ี พทยว์ นิ จิ ฉัยสั่งกำร และเมื่อหำยปว่ ย /หรือไดร้ ับกำรรับรองจำกหนว่ ยงำนบริกำรสำธำรณสุข ให้เข้ำเรียน/
ปฏบิ ัติงำนไดต้ ำมปกติ
- แจง้ ผ้ปู กครองนกั เรียน และรำยงำนหน่วยงำนต้นสังกัด ทรำบ
- รำยงำนข้อมูลใน Line กลุ่ม "รำยงำนโควิดสถำนศึกษำตรัง" เพ่ือสำนักงำนสำธำรณสุขจังหวัดตรัง
รำยงำนผู้บังคับบัญชำ และหน่วยงำนบริกำรสำธำรณสุขในพื้นท่ีขับเคลื่อนกำรดำเนินงำนในส่วนที่เก่ียวข้อง
ต่อไป
๑๒. กำรเว้นระยะหำ่ งในสถำนศึกษำ
กำรเวน้ ระยะหำ่ งของนักเรียน/นักศึกษำ ในกำรจดั ท่ีนงั่ ในห้องเรียน ควรมีระยะหำ่ งไมน่ ้อยกว่ำ
๑ เมตร
กำรจัดท่นี ่งั รับประทำนอำหำร ตอ้ งมรี ะยะหำ่ งไม่น้อยกว่ำ ๑ เมตร
กำรเว้นระยะห่ำงของนกั เรียน/นักศกึ ษำ และกำรจัดกิจกรรมรวมกลมุ่ หรอื อน่ื ๆที่จัดภำยใน
สถำนศึกษำใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของผูบ้ ริหำรสถำนศกึ ษำและควำมเหมำะสมกบั สถำนกำรณ์ โดยพงึ
ระวังกำรแพรร่ ะบำดของโรค COVID-19 ในสถำนศกึ ษำ
กรณผี ู้สัมผสั เส่ียงสูงไมม่ อี ำกำร กำรเว้นระยะห่ำงของนักเรียน/นักศกึ ษำ ในกำรจดั ท่ีน่งั ในหอ้ งเรยี น
และกำรจดั ทน่ี ั่งรับประทำนอำหำร ไม่น้อยกว่ำ ๒ เมตร
๑๓. ครู บุคลำกร นกั เรียน ผู้ปกครอง และผตู้ ิดตอ่ ทกุ คน ตอ้ งสวมหนำ้ กำกอนำมัย ตลอดเวลำท่ีอย่ใู น
ห้องเรยี น และบรเิ วณโรงเรียน
๑๔. นกั เรยี นทกุ คนตอ้ งมอี ปุ กรณ์ของใช้ส่วนตวั หลกี เสย่ี งกำรใช้ของส่วนตัวหรอื อปุ กรณ์ร่วมกัน
๑๕. สถำนศกึ ษำต้องจดั สถำนทีร่ บั ประทำนอำหำรอย่ำงเหมำะสม เช่น กำรเหลื่อมเวลำพกั รับประทำน
อำหำร กำรจดั ท่ีน่งั รบั ประทำนอำหำร เปน็ ตน้
๑๖. ตอ้ งมจี ุดวดั อุณหภูมิ และล้ำงมือดว้ ยเจล/แอลกอฮอล์ ในบริเวณโรงเรียนอยำ่ งเหมำะสม
๑๗. ต้องมีกำรกำหนดเครื่องหมำยบนทำงเดิน และจุดเว้นระยะห่ำง
๑๘. ระดบั ชน้ั อนุบำล ตอ้ งมีกำรเตรยี มควำมพรอ้ มห้องนอนเด็กเล็ก
๑๙. กำรดำเนินกำรอื่นให้เป็นไปตำมแนวปฏิบัติฯ สำหรับสถำนพัฒนำเด็กปฐมวัยในจังหวัดตรัง
แนบท้ำยคำส่ังจงั หวัดตรังท่ี ๑๓๕๒/๒๕๖๕ ลงวนั ท่ี ๓๐ เมษำยน ๒๕๖๕
๒๐. หนว่ ยงำนตน้ สังกัด และ/หรอื หนว่ ยงำนระดบั อำเภอในพื้นท่ี เขำ้ เย่ยี มและตดิ ตำมกำรจดั
กำรเรียนกำรสอน On Site ของสถำนศึกษำ พร้อมให้คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะต่ำงๆ เพ่ือให้สถำนศึกษำ
สำมำรถปรับปรงุ แก้ไข หรอื ปฏบิ ัตติ ำมมำตรกำรไดอ้ ย่ำงถกู ต้อง
(ท่ีมำ : สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั ตรัง โดยควำมเหน็ ชอบของคณะกรรมกำรโรคตดิ ต่อจงั หวดั ตรัง, ๒๕๖๕)
สำนักงำนเขตพืน้ ท่ีกำรศกึ ษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1
16
เมื่อเปดิ เรยี นได้ตำมปกติ (Onsite) สถำนศึกษำต้องปฏบิ ัติตำมมำตรกำรอยำ่ งเคร่งครดั ดังนี้
๑. ปฏิบัตติ ำมมำตรกำร ๓T๑V และมำตรกำร ๖-๖-๗
๒. ปฏบิ ัตติ ำมข้อกำหนดกำรจดั กำรเรียนกำรสอน On Site ของสถำนศกึ ษำในจังหวดั ตรัง
๓. รำยงำนตน้ สงั กัดและหน่วยงำนทีเ่ ก่ียวข้องตำมทกี่ ำหนดอย่ำงสมำ่ เสมอ
๔. จดั ทำแผนรณรงคก์ ำรฉดี วัคซนี และดำเนินกำรให้เป็นไปตำมเกณฑ์ทีก่ ำหนด
๕. ดำเนินกำรตำมแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดกำรแพร่ระบำดของโรค และเตรียมกำรจัดกำรเรียน
กำรสอนรูปแบบทเ่ี หมำะสม มคี ณุ ภำพ
แนวทำงกำรปฏิบัติตำมมำตรกำร ๖-๖-๗ มีดังนี้
มำตรกำร แนวทำงกำรปฏิบตั ิ
7 มำตรกำรเขม้ งวด 1. สถำนศึกษำผ่ำนกำรประเมิน TSC+
สถำนศึกษำมีกำรประเมินตนเองผ่ำนร ะบบ TSC+ ได้สีเขียว
รำยงำนกำรติดตำมกำรประเมินผลผ่ำน MOE COVID / E-COVID 19 Report
โดยถอื ปฏบิ ัติอย่ำงเครง่ ครดั ตอ่ เนอื่ ง
2. ทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble
Small Bubble หมำยถึง กำรจัดกลุ่มย่อย เป็นกำรจัดแบ่งกลุ่มนักเรียน
เป็นกลุ่มย่อยเพ่ือป้องกันกำรแพร่กระจำยหรือติดเช้ือโรคเป็นวงกว้ำง หลีกเลี่ยง
กำรทำกิจกรรมข้ำมกลุ่มกัน อีกท้ัง สำมำรถค้นหำกลุ่มเส่ียงได้ง่ำย และสำมำรถ
ควบคุมกำรแพร่กระจำยหรือติดเชื้อโรคให้อยู่ในวงจำกัดได้อย่ำงรวดเร็ว และลด
กำรติดเช้ือในโรงเรียนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ท้ังนี้ให้จัดกลุ่มย่อย (Small
Bubble) เป็นรำยห้องเรียนหรือรำยชั้นเรียน ให้นักเรียนได้เรียนรู้และปฏิบัติ
กิจกรรมต่ำง ๆ ด้วยกันในแต่ละวัน เช่น กำรเข้ำแถวเคำรพธงชำติ กำร
รับประทำนอำหำรกลำงวัน กำรด่ืมอำหำรเสริม (นม) กำรแปรงฟัน กำรเข้ำแถว
และเดินแถวกลับบ้ำน ทั้งนี้ ใหด้ ำเนนิ กำรควบคู่กบั มำตรกำรอ่ืน ๆ เช่น กำรสวม
ใส่หน้ำกำกอนำมัย กำรเว้นระยะห่ำง กำรล้ำงมือ กำรเหลื่อมเวลำรับประทำน
อำหำรกลำงวัน กำรเหล่ือมเวลำเลิกเรียน และอ่นื ๆ ตำมท่โี รงเรียนกำหนด
3. จัดระบบกำรให้บริกำรอำหำรตำมหลักสุขำภิบำลอำหำรและหลัก
โภชนำกำร
ข้ำรำชกำรครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำ และบุคลำกรอ่ืนในสถำนศึกษำ ให้มี
กำรจัดระบบกำรให้บริกำรอำหำร ตำมหลักมำตรฐำนสุขำภิบำลอำหำรและหลัก
โภชนำกำร เช่น กำรจัดซื้อจัดหำวัตถุดิบจำกแหล่งอำหำร กำรปรุงประกอบ
อำหำร หรือกำรส่ังซ้ืออำหำรตำมระบบนำส่งอำหำร (Delivery) ท่ีถูกสุขลักษณะ
และต้องมีระบบตรวจสอบทำงโภชนำกำรก่อนนำมำบริโภค โดยสถำนศึกษำ
สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
มำตรกำร 17
แนวทำงกำรปฏบิ ตั ิ
แต่งตั้งคณะกรรมกำรตรวจสอบ วัตถุดิบท่ีจะนำมำประกอบอำหำร แต่งตั้ง
คณะกรรมกำรตรวจสอบอำหำรที่ปรุงสำเร็จแลว้ ก่อนนำมำบรโิ ภค
1. กำรจัดซ้ือจัดหำวัตถุดิบในกำรประกอบอำหำร ควรพิจำรณำจัดซ้ือจำก
แหล่งทมี่ ีควำมปลอดภยั
2. หำกผู้สัมผัสอำหำรมีอำกำรเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จำม มีน้ำมูก หำยใจ
เหนือ่ ยหอบ ใหห้ ยุดงำนและพบแพทยท์ ันที
3. ขณะปฏิบัติงำนผู้สัมผัสอำหำรต้องสวมหมวกคลุมผม ผ้ำกันเปื้อน
หนำ้ กำกผำ้ ถงุ มือ มีกำรปฏบิ ตั ติ นตำมสขุ ลกั ษณะสว่ นบคุ คลทถี่ กู ต้อง
4. ล้ำงมืออย่ำงสม่ำเสมอด้วยสบู่และน้ำ เมื่อมีกำรหยิบจับส่ิงของหรือสิ่ง
สกปรก ทั้งก่อนและหลังกำรประกอบอำหำร ไม่ไอหรือจำมใส่อำหำร รวมถึงล้ำง
มือทุกครัง้ หลังจำกใช้หอ้ งสขุ ำ
5. ปกปิดอำหำร ใช้ถุงมือและที่คีบหยิบจับอำหำร ห้ำมใช้มือหยิบจับ
อำหำรทพี่ รอ้ มรับประทำนโดยตรง และจดั ให้แยกรับประทำนอำหำร
6. ทำควำมสะอำดโรงอำหำร ร้ำนจำหนำ่ ยอำหำร และจดุ เสี่ยงตำ่ ง ๆ เช่น
ห้องครัว อุปกรณ์ปรุงประกอบอำหำร โต๊ะ เก้ำอี้ ด้วยน้ำยำทำควำมสะอำด
รวมถึงล้ำงภำชนะอุปกรณ์หรือส่ิงของเครื่องใช้ให้สะอำดประจำทุกวัน จัดท่ีน่ัง
รับประทำนอำหำรให้มีระยะห่ำง 1 เมตร ภำชนะใส่อำหำรและช้อนควรจัดเป็น
สว่ นตัวของนักเรยี นแตล่ ะคน โดยไม่ใช้ร่วมกัน
7. กำรรับประทำนอำหำรกลำงวันแต่ละระดับชั้นมีกำรเหลื่อมเวลำพัก
รบั ประทำนอำหำรกลำงวนั เพื่อลดควำมแออัด
8. เตรยี มอำหำรที่ปรุงสกุ ใหม่ให้นักเรียนรับประทำนภำยใน 2 ชวั่ โมง หำก
เกินเวลำดังกลำ่ วให้นำอำหำรไปอุน่ จนเดอื ดและนำมำเสิรฟ์ ใหม่
9. สนับสนุนให้นักเรียนได้รับโภชนำกำรที่ดีและเหมำะสมในแต่ละช่วงวัย
เพื่อสร้ำงภูมิคุ้มกัน ดูแลบริหำรจัดกำรให้นักเรียนรับประทำนอำหำร 5 หมู่
สะอำด ปลอดภัย ถูกหลักโภชนำกำร โดยได้รับประทำนผักผลไม้ปลอดสำรพิษ
ตำมฤดูกำล ตำมโปรแกรมระบบแนะนำสำรบั อำหำรกลำงวันสำหรับโรงเรียนแบบ
อัตโนมตั ิ (Thai School Lunch)
๑๐. งดกำรพูดคุย ขณะรับประทำนอำหำร
4. จดั กำรด้ำนอนำมัยส่งิ แวดล้อมได้ตำมเกณฑ์มำตรฐำน
สถำนศึกษำจัดกำรด้ำนอนำมัยส่ิงแวดล้อมให้ได้ตำมแนวปฏิบัติในกำร
ปอ้ งกนั โรคโควดิ ๑๙ ในสถำนศึกษำ ไดแ้ ก่
สำนกั งำนเขตพืน้ ทีก่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
มำตรกำร 18
แนวทำงกำรปฏบิ ัติ
1. กำรระบำยอำกำศภำยในอำคำร
1) เปิดประตูหน้ำต่ำงระบำยอำกำศก่อนและหลังกำรใชง้ ำน อย่ำงน้อย
15 นำที หน้ำต่ำงหรือ ช่องลม อย่ำงน้อย 2 ด้ำนของห้อง ให้อำกำศภำยนอก
ถ่ำยเทเข้ำส่ภู ำยในอำคำร
2) กรณีใช้เครื่องปรับอำกำศ ควรระบำยอำกำศในอำคำรก่อนและหลงั
กำรอย่ำงน้อย 2 ชั่วโมง หรือเปิดประตูหน้ำต่ำงระบำยอำกำศช่วงพักเที่ยงหรือ
ช่วงท่ีไม่มีกำรเรียนกำรสอน กำหนดเวลำเปิด – ปิด เครื่องปรับอำกำศ และทำ
ควำมสะอำดสมำ่ เสมอ
2. กำรทำควำมสะอำด
เน่ืองจำกโคโรนำไวรัส สำมำรถอยู่ในส่ิงแวดล้อมได้เป็นระยะเวลำนำน 2
ช่ัวโมง ถึง 9 วัน หลักกำรในกำรทำลำยเช้ือจะต้องใช้ในปริมำณที่สำมำรถฆ่ำเชื้อ
ได้ในเวลำส้ัน องค์กำรอนำมัยโลกแนะนำสำรที่มีประสิทธิภำพในกำรกำจัดเชื้อ
ไวรสั โคโรนำ 2019 ได้ภำยในระยะเวลำ 1 นำที ไดแ้ ก่ แอลกอฮอล์ 62 – 70%
โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5%
3. คุณภำพนำ้ เพอ่ื กำรอุปโภคบรโิ ภค
1) ตรวจดูคุณลักษณะทำงกำยภำพ สี กลิ่น และไม่มีสิ่งเจือปน หำก
ตรวจพบว่ำมีคณุ ลกั ษณะทำงกำยภำพทผ่ี ดิ ปกติ อำจทำใหไ้ ม่ปลอดภยั กบั นักเรียน
ให้งดกำรอุปโภคบรโิ ภค
2) ดูแลควำมสะอำดจุดบริกำรน้ำด่ืมและภำชนะบรรจุน้ำดื่มทุกวัน (ไม่
ใช้แก้วนำ้ ดม่ื รว่ มกนั เดด็ ขำด)
3) ตรวจคุณภำพน้ำเพ่ือหำเช้ือแบคทีเรียด้วยชุดตรวจภำคสนำมทุก 6
เดอื น
4. กำรจดั กำรขยะ
1) มีถังขยะแบบมีฝำปิดสำหรับรองรับสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วประจำ
หอ้ งเรียน อำคำรเรียนหรือบรเิ วณโรงเรยี นตำมควำมเหมำะสม และมีกำรคดั แยก-
ลดปริมำณขยะ ตำมหลกั 3R (Reduce Reuse Recycle)
2) กรณีขยะเกิดจำกผู้สัมผัสเสี่ยงสูง/ กักกันตัว หรือหน้ำกำกอนำมัยท่ี
ใช้แล้วนำใส่ในถุง ก่อนทิ้งให้รำดด้วยแอลกอฮอล์ 62 - ๗๐% โซเดียมไฮโปคลอ
ไรท์ 0.1% และไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ 0.5% แลว้ ท้งิ ในขยะท่วั ไป
สำนกั งำนเขตพน้ื ทีก่ ำรศึกษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
มำตรกำร 19
แนวทำงกำรปฏบิ ตั ิ
5. จัดให้มี School Isolation แผนเผชิญเหตุและมีกำรซักซ้อมอย่ำง
เครง่ ครัด
นักเรียนที่มีควำมเส่ียงสูงให้สถำนศึกษำพิจำรณำกำรแยกกักตัวใน
สถำนศึกษำ (School Isolation) ร่วมกับคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ หน่วยงำน
สำธำรณสุข ผู้ปกครอง ชุมชน พิจำรณำร่วมกันให้ควำมเห็นชอบ หรืออำจให้
แยกกักตัวท่ีบ้ำนตำมคำแนะนำของสำธำรณสุข จัดทำแผนเผชิญเหตุและมี
กำรซักซ้อมแผนเผชิญเหตุรองรับกำรดูแลรักษำเบื้องต้น กรณีนักเรียน ครู หรือ
บคุ ลำกรในสถำนศึกษำมผี ลกำรตรวจพบเชื้อโรคโควิด 19 หรอื ผล ATK เปน็ บวก
โดยมกี ำรซกั ซ้อมอยำ่ งเครง่ ครดั
1. ต้องกำหนดพื้นที่แยกกักตัวในสถำนศึกษำให้ชดั เจน มีกำรระบุพื้นท่ี
ชัดเจน มีป้ำยหรือสญั ลักษณ์ท่ี แสดงให้เหน็ วำ่ เปน็ พ้นื ที่แยกกักตัวเด่นชดั
2. พ้ืนท่ีแยกกักตัวสำมำรถใช้ห้องพยำบำลหรือแบ่งพ้ืนท่ีห้องส่วนใด
ภ ำ ย ใ น ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ เ ป็ น พ้ื น ที่ ห ลั ก เ พ่ื อ ป ฏิ บั ติ ต ำ ม ม ำ ต ร ก ำ ร แ ย ก กั ก ตั ว ใ น
สถำนศึกษำ (School Isolation) ในกรณีโรงเรียนมีพ้ืนท่ีเพียงพอ หรือมีอำคำร
แยกเปน็ สดั สว่ นชัดเจน ควรแยกพื้นทก่ี กั ตัวเปน็ เอกเทศ
3. ในกรณีที่พบนักเรียนหรือครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำที่มีควำม
เสย่ี งให้แยกไวใ้ นพนื้ ท่กี กั ตวั ทันทแี ละปฏบิ ตั ิตำมแผนเผชิญเหตใุ นลำดบั ต่อไป
4. เม่ือใช้พื้นท่ีกักตัวแล้วเสร็จในแต่ละวันใหท้ ำควำมสะอำดโดยปฏบิ ัติ
ตำมมำตรกำรด้ำนอนำมัยส่ิงแวดล้อมและด้ำนกำรใช้อำคำร สถำนท่ีของ
สถำนศกึ ษำในชว่ งเยน็ ของทกุ วัน
๖. ควบคุมดูแลกำรเดินทำงเข้ำและออกจำกสถำนศึกษำ (Seal Route) ทั้ง
กรณีรถรับ - ส่ง นักเรยี น รถส่วนบุคคล และพำหนะโดยสำรสำธำรณะ
ให้สถำนศึกษำควบคุมดูแลกำรเดินทำงเข้ำและออกจำกสถำนศึกษำ (Seal
Route) ของข้ำรำชกำรครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำ บุคลำกรทำงกำรศึกษำอ่ืน
และนักเรียน อย่ำงเข้มข้น โดยหลีกเล่ียงกำรเข้ำไปสัมผัสในพื้นที่ต่ำง ๆ ตลอด
เสน้ ทำงกำรเดนิ ทำง จำกบ้ำนไป – กลบั โรงเรียน ตำมรูปแบบกำรเดินทำง ดงั น้ี
๑. รถโดยสำรประจำทำง
1) สวมใสห่ น้ำกำกอนำมัยตลอดเวลำ
2) ควรพกเจลทำควำมสะอำดมือและควรใช้บ่อยครั้งเมื่อสัมผัส
อุปกรณ์ในที่สว่ นรวม
3) ในขณะท่ีอยู่บนรถโดยสำรประจำทำง หำกมีบุคคลอื่นไอหรือ
จำมให้พยำยำมออกหำ่ งและรบี หนั หนำ้ ไปทำงอน่ื ทันที
สำนกั งำนเขตพน้ื ทกี่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำตรัง เขต 1
มำตรกำร 20
แนวทำงกำรปฏบิ ัติ
4) ลดกำรจับเสำและรำวบนรถโดยสำรประจำทำง หำกไม่สำมำรถทำ
ได้ ควรใช้เจล หรอื สเปรย์ แอลกอฮอล์ล้ำงทำควำมสะอำดมือทันทหี ลังจำกลงรถ
5) อย่ำสัมผัส จมูก ตำ และปำก หำกใช้กระดำษทิชชูจับรำวก็ควร
ทง้ิ ลงในถงั ขยะท่ีมฝี ำปดิ มดิ ชิด
6) ไม่รับประทำนอำหำรหรือด่ืมน้ำ ในขณะท่ีใช้บริกำรรถโดยสำร
ประจำทำง
7) ในขณะที่ใช้บริกำรรถโดยสำรประจำทำง ควรใช้โทรศัพท์มือถือ
ให้น้อยทีส่ ุด
๒). รถรับ-สง่ นักเรียน
1) พนักงำนขับรถรับ-ส่งนักเรียน ผู้ควบคุมนักเรียน จะต้องสวมใส่
หน้ำกำกอนำมัยตลอดเวลำผ่ำนกำรคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิพ่นสเปรย์ฆ่ำเช้ือ
หรอื ใช้แอลกอฮอล์ลำ้ งมอื ก่อนปฏบิ ตั หิ นำ้ ที่
2) นกั เรยี นผ่ำนกำรคัดกรอง โดยตรวจวัดอณุ หภูมิพ่นสเปรย์ฆ่ำเชื้อ
หรือใช้แอลกอฮอล์ล้ำงมือก่อนขึ้นรถและลงรถ รวมท้ังสวมหนำ้ กำกอนำมัยตลอด
กำรเดินทำง
3) เว้นระยะห่ำง ระหวำ่ งบคุ คล และจัดทนี่ งั่ บนรถโดยทำสญั ลักษณ์
จุดตำแหน่งทน่ี งั่ ชดั เจน
4) จัดให้มีแอลกอฮอล์หรือน้ำยำฆ่ำเชื้อโรคประจำรถ เพ่ือทำควำม
สะอำดรถรับ-ส่งนกั เรียนกอ่ นและหลงั กำรใหบ้ ริกำรแต่ละรอบ
5) เปิดหน้ำต่ำงและประตูเพ่ือถ่ำยเทระบำยอำกำศภำยในตัวรถ
และทำควำมสะอำดจุดท่ีมีกำรสัมผัสบ่อย ๆ เช่น รำวจับ ท่ีเปิดประตู เบำะน่ัง ท่ี
วำงแขน เป็นตน้
6) มีกำรลงทะเบียนบันทึกข้อมูลกำรใช้บริกำรแต่ละรอบของ
นกั เรียน
๓. รถแท็กซี่
1) ควรน่ังตอนหลังของรถเท่ำน้ัน เพื่อเว้นระยะห่ำงระหว่ำงผขู้ ับรถ
และผโู้ ดยสำร
2) สวมหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำขณะโดยสำรบนรถ
3) หลีกเล่ยี งกำรสมั ผัสพื้นผิวของวตั ถุต่ำง ๆ
4) ใชแ้ อลกอฮอล์หรือพ่นสเปรย์ฆำ่ เช้อื กอ่ นขนึ้ และลงรถ
5) ในขณะที่ใชบ้ ริกำรรถแทก็ ซ่ี ควรใชโ้ ทรศพั ท์มอื ถือให้นอ้ ยทีส่ ุด
๔. รถจักรยำนยนต์รับจ้ำง
สำนักงำนเขตพ้นื ทกี่ ำรศึกษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
มำตรกำร 21
แนวทำงกำรปฏิบัติ
1) ต้องสวมหนำ้ กำกอนำมัยตลอดเวลำ
2) ในขณะท่ใี ช้บริกำรรถจักรยำนยนตร์ ับจ้ำง ควรใช้โทรศัพท์มือถือ
ใหน้ ้อยทส่ี ุด
3) ควรน่ังข้ำงแทนกำรนั่งคร่อมเบำะโดยสำร เพ่ือลดกำรแพร่กระจำย
เชอ้ื
4) พกแอลกอฮอล์ลำ้ งมือติดตวั ตลอดเวลำ
๕. รถสว่ นบุคคล (ผู้ปกครองมำรับ - ส่ง)
1) ต้องสวมหนำ้ กำกอนำมัยตลอดเวลำ
2) ใชแ้ อลกอฮอลห์ รอื พ่นสเปรยฆ์ ่ำเช้ือ ก่อนขน้ึ และลงรถ
3) ไมแ่ วะสถำนที่อ่นื ในระหว่ำงเดนิ ทำง
๖. เดนิ ทำงมำด้วยตนเอง (เดนิ เท้ำ, รถจักรยำน, รถจกั รยำนยนต)์
1) ตอ้ งสวมหน้ำกำกอนำมัยตลอดเวลำ
2) ไมแ่ วะสถำนทอ่ี นื่ ในระหวำ่ งเดนิ ทำง
3) ไม่หยิบจับสง่ิ ของบริเวณข้ำงทำง
4) พกแอลกอฮอลล์ ้ำงมอื ตดิ ตวั ตลอดเวลำ
หมำยเหตุ
1. กำรเดินทำงไป-กลับระหว่ำงบ้ำนกับสถำนศึกษำ นักเรียน
ต้องจดบนั ทึก Timeline ทุกวนั
2. กรณีนักเรียนมีโทรศัพท์มือถือสำมำรถตรวจสอบกำรเดินทำง
โดยใชแ้ อพพลเิ คช่ัน Google Maps
7. ใหจ้ ัดให้มี School Pass สำหรบั นักเรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศึกษำ
ก่อนนักเรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศึกษำเข้ำสถำนศึกษำให้แสดง
ขอ้ มลู ดงั น้ี
1. ผลกำรประเมินตนเองของนกั เรียน ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ผ่ำน
แอปพลเิ คชนั Thai Save Thai (TST)
2. ประวัติกำรรับวัคซีน ตำมมำตรกำรของกระทรวงสำธำรณสุขโดยเฉพำะ
พื้นที่ควบคุมสูงสุด (พ้ืนที่สีแดง) และพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พ้ืนที่สีแดง
เข้ม)
3. ผลตรวจคัดกรองหำเชื้อ ตำมแนวทำงคณะกรรมกำรควบคุมโรคระดับ
พ้ืนที่
หมำยเหตุ สำมำรถเลือกปฏิบัติเพียงข้อใดข้อหน่ึงหรือท้ัง 3 ข้อ ตำม
บริบทของสถำนศึกษำ
สำนกั งำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศึกษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
22
มำตรกำร แนวทำงกำรปฏิบตั ิ
6 ม ำ ต ร ก ำ ร ห ลั ก 1. Distancing เวน้ ระยะหำ่ ง
DMHT-RC 1. เวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบคุ คลตำมมำตรกำรเว้นระยะหำ่ ง 1 เมตร
2. ในห้องเรียนทำกิจกรรมในรูปแบบ Small Bubble (เน้นกลุ่มเล็ก)
หลีกเล่ยี งกำรทำกจิ กรรมข้ำมกลุ่ม
3. สำหรับเด็กเล็กท่ีต้องนอนกลำงวัน ให้รักษำระยะห่ำงระหว่ำงกันอย่ำง
น้อย 1 เมตร โดยไม่เอำศีรษะชนกัน และแยกอุปกรณ์ของใช้เป็นส่วนตัว ไม่ใช้
รว่ มกัน
2. Mask Wearing สวมหนำ้ กำก
1. ข้ำรำชกำรครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำ บุคลำกรอื่น และนักเรียน ต้อง
สวมหน้ำกำกอนำมัยหรือหน้ำกำกผ้ำตลอดเวลำและสวมให้ถูกวิธีตั้งแต่เดินทำง
ออกจำกบำ้ นและอยู่บรเิ วณโรงเรียน
2. ผู้ปกครองหรอื ผมู้ ำตดิ ต่อรำชกำรต้องสวมหนำ้ กำกอนำมัยหรือหน้ำกำก
ผ้ำตลอดเวลำเมื่ออยบู่ รเิ วณโรงเรยี น
3. ตรวจตรำผู้ประกอบอำหำรของโรงเรียนให้ปฏิบัติตำมสุขอนำมัยในกำร
ประกอบอำหำร สวมหน้ำกำกอนำมัยหรือหน้ำกำกผ้ำ face shield หมวกคลุม
ผม ถงุ มือ ขณะประกอบอำหำรและเสิร์ฟอำหำรทุกครงั้
4. มีกำรจัดเตรียมหน้ำกำกผ้ำหรือหน้ำกำกอนำมัย สำรองไว้อย่ำงน้อย
5% ของจำนวนนักเรียน สำหรับนักเรียนหรือผู้มำติดต่อรำชกำรในสถำนศึกษำ
โรงเรียนต้องแนะนำหน้ำกำกอนำมัยที่มีคุณภำพเหมำะสมให้กับนักเรียน รวมทั้ง
สอนวิธีกำรสวมและกำรปรับหน้ำกำกอนำมัยให้ถูกต้อง รวมท้ังกำรตรวจเช็ค
สภำพระหวำ่ งวัน
5. หลังใช้หน้ำกำกอนำมัยทุกคร้ัง กำรถอดออกควรหลีกเลี่ยงกำรสัมผัส
ด้ำนนอกของหนำ้ กำกอนำมัยให้ไดน้ ้อยท่ีสดุ พบั ให้เป็นชน้ิ เลก็ ใส่ในถุงพลำสติกที่
ปดิ สนิทนำไปทงิ้ ในถงั ขยะ และล้ำงมอื ใหส้ ะอำดทุกครั้ง
๖. เมื่อนักเรียนมีกำรเล่นร่วมกัน ให้สวมหน้ำกำกตลอดเวลำ
3. Hand Washing ล้ำงมอื
1. จัดเตรียมอุปกรณ์ล้ำงมือ เช่น แอลกอฮอล์ไว้บริเวณทำงเข้ำโรงเรียน
ห้องเรยี น และอำคำรต่ำง ๆ ทม่ี ีกำรใชง้ ำนร่วมกันทกุ จุด
สำนักงำนเขตพื้นทกี่ ำรศึกษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1
มำตรกำร 23
แนวทำงกำรปฏิบตั ิ
2. ล้ำงมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้แอลกอฮอล์ทำควำมสะอำดมือ
ก่อนเขำ้ โรงอำหำรก่อนรับประทำนอำหำร ภำยหลังซอื้ อำหำร หลังจำกจับเหรียญ
หรอื ธนบตั รหรอื สัมผสั สง่ิ สกปรก รวมถึงล้ำงมอื ทุกครั้งหลังจำกใช้หอ้ งสุขำ
3. หลกี เล่ียงกำรสัมผสั บรเิ วณจุดเสย่ี ง เชน่ รำวบันได ลกู บิดประตู เป็นตน้
รวมทง้ั ไม่ใช้มือสมั ผสั ใบหน้ำ ตำ ปำก จมกู โดยไมจ่ ำเปน็
4. นักเรียนทุกคนมีผ้ำเช็ดหน้ำ ผ้ำเช็ดมือพกติดตัวตลอดเวลำ โดยไม่ใช้
ผำ้ เชด็ หน้ำหรอื ผ้ำเช็ดมอื รว่ มกับผ้อู ืน่ โดยเด็ดขำด
4. Testing คัดกรองวัดไข้
1. ตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่ำงกำยทุกคนท่ีเข้ำมำในสถำนศึกษำโดยใช้
เคร่ืองวัดอุณหภูมิร่ำงกำย สังเกตและสอบถำมอำกำรเบ้ืองต้น เช่น มีไข้ ไอ จำม
มนี ้ำมกู เจบ็ คอ เหน่อื ยหอบ ไมไ่ ด้กล่ิน ไม่รูร้ ส โดยตดิ สญั ลักษณ์ สตก๊ิ เกอร์ แสดง
ให้เห็นชัดเจนว่ำผ่ำนกำรคดั กรองแล้ว
2. กรณีพบนักเรียนหรือผู้ที่มีอำกำรไข้ อุณหภูมิร่ำงกำยต้ังแต่ 37.5
องศำเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับอำกำรระบบทำงเดินหำยใจอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง รีบ
แจ้งผู้ปกครองมำรับ งดให้เข้ำร่วมกิจกรรมและแนะนำให้ไปพบแพทย์ และอำจมี
หอ้ งแยกผูม้ อี ำกำรออกจำกพ้นื ท่ี
3. ขณะท่ีนักเรียนอยู่ในโรงเรียนให้สังเกตอำกำรตนเอง หำกมีอำกำรไข้
ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หำยใจลำบำก เหน่ือยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส รีบแจ้งครู
ประจำชัน้ หรือครูผสู้ อนทันที
5. Reducing ลดกำรแออดั
1. จัดโต๊ะ เก้ำอ้ี หรือที่นั่ง ให้มีกำรเว้นระยะห่ำงระหว่ำงบุคคล อย่ำงน้อย
1 เมตร โดยคำนึงถึงสภำพบริบทและขนำดพื้นท่ี จัดให้มีกำรเรียนกำรสอน กำร
แบ่งจำนวนนักเรียน หรือกำรใชพ้ืนท่ีใช้สอยบริเวณสถำนศึกษำ ตำมควำม
เหมำะสมท้งั นอ้ี ำจพิจำรณำวธิ ีปฏิบตั อิ ื่นตำมบริบทควำมเหมำะสม
2. จำกัดจำนวนคนและเวลำในกำรเข้ำใช้บริกำรในห้องพิเศษต่ำง ๆ เช่น
ห้องสมุด หอ้ งประชุม โรงอำหำร สนำมกีฬำ โดยคำนึงถงึ กำรเวน้ ระยะหำ่ ง
3. หลีกเล่ียงกำรจัดกิจกรรมหรือเล่นกีฬำประเภทแข่งขันเป็นทีม หรือที่มี
กำรปะทะกนั อย่ำงรุนแรง เชน่ วอลเลยบ์ อล ฟตุ บอล ฟุตซอล บำสเกตบอล เป็นต้น
4. ใช้ระบบกำรประชุมผ่ำนสอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์ เพื่อลดควำมแออดั
6. Cleaning ทำควำมสะอำด
1. เปิดประตู หนำ้ ตำ่ งให้อำกำศถ่ำยเท
สำนกั งำนเขตพน้ื ทกี่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำตรัง เขต 1
24
มำตรกำร แนวทำงกำรปฏิบัติ
2. ทำควำมสะอำดพน้ื ห้องเรยี น และบรเิ วณตำ่ ง ๆ โดยเฉพำะพนื้ ผิวทว่ั ไป
และอุปกรณ์สัมผสั ร่วม เชน่ รำวบันได โต๊ะเรียน อปุ กรณ์กฬี ำ ท่ีจบั ประตูหนำ้ ต่ำง
ของเล่น เคร่ืองช่วยสอน อุปกรณ์กำรเรียน เป็นต้น โดยใช้น้ำยำฆ่ำเชื้อหรือ
แอลกอฮอล์ 62 - 70% โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% และไฮโดรเจนเปอร์
ออกไซด์ 0.5%
3. ทำควำมสะอำดห้องสุขำด้วยน้ำยำฆ่ำเช้ือ หรอื แอลกอฮอล์ 62 - 70%
โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% และไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ 0.5%
4. กำจัดขยะอย่ำงถูกวิธีทุกวัน โดยกำรมัดปำกถุงให้แน่น ปิดปำกถุงให้
สนิท รวมถึงจัดให้มีถังขยะมูลฝอยแบบมีฝำปิดและนำขยะออกจำกห้องเรียนเพอื่
นำไปกำจัดทกุ วัน
5. ทำควำมสะอำดโต๊ะ เก้ำอี้ พ้ืนโรงอำหำรด้วยน้ำยำฆ่ำเช้ือหรือ
แอลกอฮอล์ 62 - 70% โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% และไฮโดรเจนเปอร์
ออกไซด์ 0.5% ท้ังก่อนและหลังกำรรับประทำนอำหำรกลำงวันของนักเรียนใน
แตล่ ะรอบ
6 มำตรกำรเสริม 1. Self care ดูแลตนเอง
SSET - CQ 1. ข้ำรำชกำรครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำ บุคลำกรอื่นในสถำนศึกษำ และ
นักเรียนติดตำมข้อมูลข่ำวสำร สถำนกำรณ์กำรแพรระบำดโรคโควิด 19 พื้นท่ี
เสยี่ ง คำแนะนำกำรป้องกันตนเองและลดควำมเส่ียงจำกกำรแพร่กระจำยของโรค
โควิด 19 จำกแหล่งขอ้ มลู ทเ่ี ชอื่ ถือได้
2. ให้นักเรยี น ขำ้ รำชกำรครู บุคลำกร ปฏบิ ัติตำมมำตรกำร ดงั นี้
กรณีมีกำรติดเชื้อโรคCOVID 19 หรือมีกำรแพร่ระบำดของโรคCOVID 19 ใน
สถำนศกึ ษำ เบอื้ งต้น ใหด้ ำเนินกำร ดงั นี้
2.๑ กรณนี กั เรยี น ขำ้ รำชกำรครู บุคลำกร เป็นผู้สัมผสั เสยี่ งต่ำ
เรียน/ปฏิบัติงำนในพื้นท่ีสถำนศึกษำ (On – Site) ตำมปกติ ทำตำม
มำตรกำร Universal Prevention ประเมิน Thai Save Thai (TST) และเว้น
ระยะห่ำงของนักเรียนในห้องเรียนไม่น้อยกว่ำ 1 เมตร รวมถึงกำรเว้นระยะห่ำง
ในกำรปฏบิ ัติกิจกรรมต่ำง ๆ
2.2 กรณนี กั เรียน ขำ้ รำชกำรครู บคุ ลำกร เป็นผู้สัมผสั เสยี่ งสงู
รับกำรตรวจคัดกรองผูส้ มั ผสั เสี่ยงสงู /ผมู้ ีอำกำร ด้วย ATK
• ผลกำรตรวจเป็นลบ
- กรณไี ม่ได้รับวคั ซนี ป้องกันโรค COVID 1๙ ทั้งท่ีมีอำกำรและไม่มีอำกำร
ให้กักกันตัวเองท่ีบ้ำน (Self-Quarantine) เป็นเวลำ ๕ วัน และติดตำมเฝ้ำระวัง
อีก ๕ วัน (เขำ้ เรยี น/ปฏบิ ัติงำนได้ตำมปกต)ิ
สำนักงำนเขตพ้นื ทก่ี ำรศึกษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
มำตรกำร 25
แนวทำงกำรปฏบิ ัติ
- กรณีได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบ ๒ เข็มหรือ ๓ เข็ม
ไม่มอี ำกำร ให้เรยี น/ปฏิบัตงิ ำนได้ตำมปกติ ภำยใตม้ ำตรกำรป้องกนั อย่ำงเข้มงวด
และเวน้ ระยะหำ่ งไม่นอ้ ยกวำ่ ๒ เมตร
- กรณีได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID 19 ครบ ๒ เข็มหรือ ๓ เข็ม
มีอำกำร ไห้กักกันตัวเองท่ีบ้ำน (Self-Quarantine) เป็นเวลำ ๕ วัน และติดตำม
เฝำ้ ระวงั อกี ๕ วนั (เขำ้ เรียน/ปฏิบตั งิ ำนไดต้ ำมปกติ)
• หำกผลกำรตรวจเปน็ บวก
- เข้ำระบบกำรรักษำของหน่วยงำนบริกำรสำธำรณสุขในพ้ืนท่ี รักษำ
อำกำรตำมระยะเวลำที่แพทย์วินิจฉัยสั่งกำร และเม่ือหำยป่วย /หรือได้รับ
กำรรบั รองจำกหนว่ ยงำนบรกิ ำรสำธำรณสขุ ใหเ้ ขำ้ เรียน/ปฏิบตั งิ ำนไดต้ ำมปกติ
- แจ้งผปู้ กครองนกั เรียน และรำยงำนหนว่ ยงำนต้นสงั กดั ทรำบ
2.3 กรณนี ักเรียน ข้ำรำชกำรครู บุคลำกร พบเป็นผ้ตู ิดเช้อื
- แยกกักตัวที่บ้ำน (Home Isolation) หรือตำมควำมเห็นชอบของ
สถำนบรกิ ำรด้ำนสำธำรณสขุ
- ตดิ ตอ่ 1330 สปสช. ตอ่ 14 หรือหน่วยบริกำรสำธำรณสุข
- ปฏบิ ตั ิตำมมำตรกำรกำรรกั ษำของกระทรวงสำธำรณสุข
- พิจำรณำจัดทำ School Isolation ตำมควำมเหมำะสม โดย
คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ หน่วยงำนสำธำรณสุข ผู้ปกครอง ชุมชน พิจำรณำ
ร่วมกันให้ควำมเห็นชอบ และปฏิบัติตำมมำตรกำร Sandbox : Safety Zone in
School (SSS)
- สถำนศึกษำจัดรูปแบบกำรเรียนกำรสอนท่ีเหมำะสม โดยเฉพำะ
กลุ่มทีไ่ ม่มีอำกำร
- ทำควำมสะอำดห้องเรียน ช้ันเรียน สถำนศึกษำและเปิดเรียน
ตำมปกติ
3. สถำนศึกษำส่ือสำรให้ควำมรู้ คำแนะนำหรือจัดหำส่ือประชำสัมพันธใ์ น
กำรป้องกันและลดควำมเสี่ยงจำกกำรแพร่กระจำยโรคโควิด 19 ให้แก่นักเรียน
เช่น สอนวิธีกำรล้ำงมือท่ีถูกต้อง กำรสวมหน้ำกำกผ้ำหรือหน้ำกำกอนำมัย
คำแนะนำกำรปฏิบัติตัว กำรเว้นระยะห่ำงทำงสังคม กำรทำควำมสะอำด หลีกล่ี
ยงกำรทำกิจกรรมรว่ มกันจำนวนมำกเพอ่ื ลดควำมแออัด
4. กรณีนักเรียนดื่มน้ำบรรจุขวด ควรแยกเฉพำะตนเอง และทำ
เคร่อื งหมำยหรือสัญลักษณเ์ ฉพำะไม่ใหป้ ะปนกับของคนอืน่
5. ข้ำรำชกำรครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำ บุคลำกรอื่นในสถำนศึกษำ และ
นักเรียน หมั่นล้ำงมือบ่อย ๆ ก่อนรับประทำนอำหำร หลังใช้ห้องสุขำ หลีกเลี่ยง
สำนกั งำนเขตพื้นที่กำรศกึ ษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
มำตรกำร 26
แนวทำงกำรปฏบิ ัติ
กำรใช้มือสัมผัสกับใบหน้ำ ตำ ปำก จมูก เมื่อกลับถึงบ้ำนต้องรีบอำบน้ำ สระผม
และเปลี่ยนเสือ้ ผ้ำใหมท่ นั ที
2. Spoon ใช้ชอ้ นกลำงส่วนตัว
ใช้ช้อนกลำงของตนเองทุกคร้ัง เม่ือต้องรับประทำนอำหำรร่วมกัน ลด
สมั ผัสร่วมกบั ผอู้ นื่
3. Eating กินอำหำรปรุงสกุ ใหม่
1. จัดเตรียมอำหำรปรุงสุกใหม่ ให้นักเรียนรับประทำนภำยในเวลำ 2
ชัว่ โมง หำกเกนิ เวลำดงั กลำ่ วให้นำอำหำรไปอุ่นจนเดอื ด แลว้ นำมำเสิร์ฟใหม่ กรณี
ท่ีไม่สำมำรถจัดเหล่ือมเวลำสำหรับนักเรียนในมื้อกลำงวัน ให้เตรียมอำหำรกล่อง
แทนและรับประทำนทโี่ ต๊ะเรียน
2. หลีกเลี่ยงกำรรับประทำนอำหำรท่ีปรุงไม่สุก อำหำรไม่มีกำรปกปดมิด
ชิด และตรวจสอบคุณภำพอำหำรกอ่ นรับประทำนทุกครัง้ เช่น สภำพอำหำร กลิน่
ควำมสะอำด
4. Track ลงทะเบียนเขำ้ ออกโรงเรียน
1. ข้ำรำชกำรครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำ บุคลำกรอ่ืนในสถำนศึกษำ นักเรียน
ผู้ปกครองและผู้มำติดต่อรำชกำรในสถำนศึกษำทุกคน ลงทะเบียนใช้งำน “ไทย
ชนะ” ของสถำนศึกษำหรือลงทะเบียนในสมุดบันทึกกำรเข้ำ – ออก ของ
สถำนศกึ ษำ
5. Check สำรวจตรวจสอบ
สำรวจบคุ คล นกั เรยี น กลุม่ เสยี่ งทเ่ี ดนิ ทำงมำจำกพน้ื ทเี่ ส่ียง มีกำรคัดกรอง
โดยกำรซักประวัตแิ ละบันทึกข้อมูลไว้เปน็ หลกั ฐำน
6. Quarantine กักกันตัวเอง
1. กักกันตัวเอง 5 วัน สังเกตอำกำร 5 วัน เมื่อเข้ำไปสัมผัสหรืออยู่ในพ้ืนที่
เสยี่ งทมี่ ีกำรระบำดโรค
หมำยเหตุ
กำรทำควำมสะอำด เน่ืองจำกโคโรนำไวรัสสำมำรถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลำนำน 2 ชั่วโมง
ถึง 9 วัน หลักกำร ในกำรทำลำยเช้ือจะต้องใช้ในปริมำณท่ีสำมำรถฆ่ำเช้ือได้ในเวลำสั้น องค์กำรอนำมัยโลก
แนะนำสำรท่ีมี ประสิทธิภำพในกำรกำจัดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 ได้ ภำยในระยะเวลำ 1 นำที ได้แก่
แอลกอฮอล์ 62-70% โซเดยี มไฮโปคลอไรท์ 0.1% และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5%
สำนกั งำนเขตพืน้ ท่ีกำรศกึ ษำประถมศึกษำตรัง เขต 1
27
มำตรกำรควำมปลอดภัยในกำรสอบ กรณผี ู้สมั ผสั เส่ยี งสงู และผตู้ ดิ เชอื้ โควดิ 19
สถำนท่ีจดั สอบ
ประสำนหน่วยบริกำรสำธำรณสุขตำมระบบอนำมัยโรงเรียนในกำรคัดกรองและให้คำแนะนำ
ด้ำนสำธำรณสขุ เพื่อควำมปลอดภัยขั้นสูงสดุ
จัดใหม้ พี ้นื ท่ีแยกสำหรับกำรจัดกำรสอบเปน็ สัดส่วน แยกกล่มุ ผ้สู ัมผสั เสีย่ งสูง กลุม่ ผู้ตดิ เช้ือโควิด 19
เน้นกำรระบำยอำกำศท่ีดี จดั ที่นั่งสอบ ไมน่ อ้ ยกวำ่ 2 เมตร
กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำหรือไม่มีควำมเสี่ยง จัดกำรสอบตำมมำตรกำรเดิม สวมหน้ำกำก ล้ำงมือ เว้นท่ี
นง่ั สอบ ไมน่ อ้ ยกว่ำ 1 เมตร
ผเู้ ขำ้ สอบ
เปน็ ผตู้ ดิ เช้ือโควิด 19 ท่ไี มม่ อี ำกำรหรอื มีอำกำรเล็กน้อย หรือผ้สู มั ผสั เสี่ยงสูง
ตอ้ งสวมหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำ ลำ้ งมอื ก่อน และหลังกำรเข้ำสอบ งดกำรพดู คุย เว้นระยะห่ำง
กำรเดินทำงไปสนำมสอบโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือประสำนหน่วยสถำนที่สอบ หน่วยบริกำร
สำธำรณสุข กรณีไม่มรี ถยนตส์ ่วนตวั
ผู้คมุ สอบ
ปฏิบัติกำรคุมสอบตำมมำตรฐำนกำรป้องกันกำรติดเช้ือสำหรับบุคลำกร เช่น กำรสวมหน้ำกำก
อนำมยั
ใชเ้ วลำในกำรคุมสอบในหอ้ งสอบใหน้ อ้ ยท่ีสุด รวมถึงกำรวำงแผนจดั กำรสอบใหเ้ หมำะสม
(ท่ีมำ : กรมอนำมยั กระทรวงสำธำรณสุข, ๒๒ เมษำยน ๒๕๖๕)
QR Code ระบบ Thai Save Thai ระบบ Thai Save Thai
สำนักงำนเขตพืน้ ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
28
สำนกั งำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
29
ส่วนที่ 4
แผนเผชิญเหตุ
สถำนศึกษำทุกแห่งจะต้องจัดทำแผนเผชิญเหตุ (Incident Action Plan) ตำมมำตรกำรป้องกันตำม
ระดับกำรแพร่ระบำดโควิด 19 ของสถำนศึกษำ ให้เป็นรูปธรรมและสำมำรถปฏิบัติตำมได้อย่ำงเหมำะสม
รวดเร็ว ทันเหตุกำรณ์ มีกำรซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่ำงจริงจัง กรณีหำกพบผู้ติดเช้ือ หรือพบว่ำมีนักเรียน
ครู หรือบุคลำกรทำงกำรศึกษำมีควำมเสี่ยงสูง สถำนศึกษำต้องมีควำมพร้อมในเรื่องสถำนท่ี วัสดุ อุปกรณ์
ทำงกำรแพทย์ ระบบขนส่ง ระบบกำรประสำนงำนตรงกับบุคลำกรทำงกำรแพทย์ในพื้นที่ กำรสร้ำงกำรรับรู้
ข่ำวสำรภำยใน รวมท้ังกำรคัดกรองเพ่ือแบ่งกลุ่มนักเรียน ครูและบุคลำกรในสถำนศึกษำ ตำมแนวทำงที่
กระทรวงสำธำรณสุข กระทรวงศึกษำธิกำร และคณะกรรมกำรโรคติดต่อจังหวัดตรังกำหนด โดยให้
ครอบคลุมระดับกำรแพร่ระบำด มำตรกำรป้องกัน ข้ันตอนกำรเผชิญเหตุ ผู้รับผิดชอบแต่ละระดับ (ชื่อ-สกุล
ช่องทำงกำรติดต่อ หมำยเลขโทรศัพท์) หน่วยงำนสำธำรณสุข/หน่วยงำนที่เก่ียวข้องท่ีต้องประสำนงำน (ชื่อ-
สกลุ ช่องทำงกำรตดิ ต่อ หมำยเลขโทรศัพท์) กำรรำยงำนหน่วยงำนตน้ สงั กดั และหน่วยงำนทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง
ระดับกำรแพร่ระบำดและมำตรกำรป้องกันตำมแนวทำงของสำธำรณสุข และมำตรกำรของจังหวดั ตรงั
ระดับกำรแพรร่ ะบำด มำตรกำรปอ้ งกนั
กรณนี กั เรียน ครู เรียน / ปฏิบตั ิงำนในพน้ื ทีส่ ถำนศกึ ษำ (On – Site) ตำมปกติ ทำตำมมำตรกำร
บุคลำกร เปน็ ผูส้ มั ผสั Universal Prevention ประเมนิ Thai Save Thai (TST) และเวน้ ระยะหำ่ งของ
เสี่ยงตำ่ นกั เรยี นในห้องเรียนไมน่ ้อยกว่ำ 1 เมตร รวมถึงกำรเวน้ ระยะห่ำงในกำรปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมต่ำง ๆ
กรณนี ักเรยี น ครู ตรวจคัดกรองผู้สัมผสั เส่ียงสงู /ผู้มอี ำกำร ด้วย ATK
บุคลำกร เปน็ ผู้สมั ผสั • ผลกำรตรวจเป็นลบ
เส่ยี งสงู
- กรณไี ม่ได้รับวัคซีนป้องกนั โรค COVID 1๙ ทัง้ ที่มอี ำกำรและไม่มีอำกำร
ใหก้ กั กันตัวเองที่บ้ำน (Self-Quarantine) เป็นเวลำ ๕ วัน และติดตำมเฝ้ำระวังอีก
๕ วนั (เข้ำเรียน/ปฏบิ ตั ิงำนไดต้ ำมปกต)ิ
- กรณีได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบ ๒ เข็มหรือ ๓ เข็ม
ไม่มีอำกำร พิจำรณำให้เรียนได้ตำมปกติ แต่ต้องมีมำตรกำรป้องกันอย่ำงเข้มงวด
และเว้นระยะหำ่ งไมน่ ้อยกวำ่ ๒ เมตร
- กรณีได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID 19 ครบ ๒ เข็มหรือ ๓ เข็ม
มีอำกำร ไห้กักกันตัวเองท่ีบ้ำน (Self-Quarantine) เป็นเวลำ ๕ วัน และติดตำม
เฝำ้ ระวังอีก ๕ วนั (เข้ำเรยี น/ปฏิบตั งิ ำนได้ตำมปกต)ิ
สำหรบั กำรตรวจคัดกรองหำเชอ้ื ด้วย ATK ถ้ำมอี ำกำร ให้ตรวจทนั ที ถำ้ ไมม่ ีอำกำร
ให้ตรวจคัดกรองครั้งแรกในวันท่ี 5 และตรวจคร้ังสุดท้ำยในวนั ที่ 10 หลังสัมผัสผู้
ตดิ เช้ือ
สำนกั งำนเขตพ้นื ท่กี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1
30
ระดับกำรแพรร่ ะบำด มำตรกำรป้องกัน
กรณนี ักเรียน ครู สถำนศกึ ษำจัดกำรเรยี นกำรสอนอย่ำงเหมำะสมและประสำนหนว่ ยบรกิ ำร
บุคลำกร พบเปน็ ผู้ติด สำธำรณสขุ ตำมระบบอนำมัยโรงเรียน
เชือ้
1. แยกกักตัวท่ีบ้ำน (Home Isolation) หรือเข้ำระบบกำรรักษำของหน่วยงำน
บรกิ ำรสำธำรณสุขในพืน้ ที่ รกั ษำอำกำรตำมระยะเวลำที่แพทยว์ ินจิ ฉัยสั่งกำร
2. ติดตอ่ 1330 สปสช. ตอ่ 14 หรอื หนว่ ยบรกิ ำรสำธำรณสุข
3. ปฏิบัตติ ำมมำตรกำรกำรรักษำของกระทรวงสำธำรณสขุ
4. พิจำรณำจัดทำ School Isolation ตำมควำมเหมำะสม โดยคณะกรรมกำร
สถำนศึกษำ หน่วยงำนสำธำรณสุข คณะกรรมกำรโรคติดต่อจังหวดั ตรงั ผ้ปู กครอง
ชุมชน พิจำรณำร่วมกันให้ควำมเห็นชอบ และปฏิบัติตำมมำตรกำร Sandbox :
Safety Zone in School (SSS)
5. สถำนศึกษำจัดรูปแบบกำรเรียนกำรสอนท่ีเหมำะสม โดยเฉพำะกลุ่มที่ไม่มี
อำกำร
6. ทำควำมสะอำดหอ้ งเรียน ชั้นเรียน สถำนศกึ ษำและเปิดเรียนตำมปกติ
๗. รำยงำนหน่วยงำนต้นสังกัด ทรำบ และรำยงำนข้อมูลใน Line กลุ่ม "รำยงำน
โควิดสถำนศึกษำตรัง" เพื่อสำนักงำนสำธำรณสุขจังหวัดตรัง รำยงำน
ผู้บังคับบัญชำ และหน่วยงำนบริกำรสำธำรณสุขในพื้นที่ขับเคล่ือนกำรดำเนินงำน
ในสว่ นทีเ่ กยี่ วข้องต่อไป
ทม่ี ำ :
มำตรกำรเปดิ เรยี น On – Site ปลอดภยั อย่ไู ด้กบั โควดิ 19 ในสถำนศกึ ษำ เตรยี มควำมพรอ้ มกำรเปิด
ภำคเรยี นท่ี 1/2565 , กรมอนำมัย กระทรวงสำธำรณสุข
ขอ้ กำหนดและมำตรกำรในกำรเปิดเรียน On Site ของสถำนศกึ ษำในจังหวัดตรัง, สำนักงำนศึกษำธกิ ำร
จังหวดั ตรงั
หมำยเหตุ
เมื่อพบผู้ติดเช้ือยืนยนั ให้ประสำนงำนกับโรงพยำบำลส่งเสรมิ สุขภำพตำบล......................................
ชื่อผปู้ ระสำนงำน ......................................... โทร................................................
สำนกั งำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1
31
สำนกั งำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
32
ส่วนที่ 5
บทบำทของบคุ ลำกรและหน่วยงำนทเี่ กี่ยวขอ้ ง
สถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID - 19) ยังคงมีกำรแพร่ระบำด
อย่ำงต่อเน่ือง เพื่อให้สถำนศึกษำมีแนวทำงกำรป้องกันกำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙
(COVID - 19) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน จงึ กำหนดบทบำทของ บุคลำกรและหน่วยงำนที่
เกีย่ วข้อง ดงั นี้
๑. บทบำทของนักเรียน
นักเรยี นเป็นหัวใจสำคัญที่ตอ้ งไดร้ บั ควำมคมุ้ ครอง ดูแลในเรอ่ื งควำมปลอดภัยอย่ำงสูงสุด ทงั้ นีน้ ักเรยี น
จะต้องถือปฏิบัติตนตำมมำตรกำรควำมปลอดภัยของกระทรวงสำธำรณสุขและกระทรวงศึกษำธิกำรอย่ำง
เคร่งครัด ต้ังแต่กำรเดินทำงออกจำกบ้ำนมำเรียน ขณะอยู่ในโรงเรียน จนถึงกำรกลับบ้ำน บทบำทของ
นกั เรยี น ควรมีดังน้ี
๑) เตรยี มควำมพรอ้ มในเรอ่ื งอปุ กรณ์กำรเรียน เครอ่ื งใชส้ ่วนตัว และอน่ื ๆ ท่ีจำเปน็ สำหรบั กำรเรียน
๒) ปฏบิ ัตติ ำม 6 มำตรกำรหลกั 6 มำตรกำรเสรมิ ของกระทรวงสำธำรณสขุ กำหนดอย่ำงเครง่ ครัด
๓) ติดตำมข้อมูลข่ำวสำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID -
19) และสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจของคำแนะนำในกำรป้องกันตนเอง และลดควำมเส่ียงจำกกำรแพร่กระจำย
ของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID - 19) จำกแหลง่ ข้อมลู ที่เชื่อถอื ได้
๔) ประเมินควำมเสี่ยงของตนเองผ่ำนแอพพลิเคชั่น Thai Save Thai (TST) อย่ำงสม่ำเสมอ และ
สงั เกตอำกำรปว่ ยของตนเอง หำกมอี ำกำรไข้ ไอ มีนำ้ มกู เจ็บคอ หำยใจลำบำก เหนื่อยหอบ ไมไ่ ด้กลน่ิ ไม่รู้รส
รีบแจ้งครูหรือผู้ปกครองให้พำไปพบแพทย์ กรณีมีคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙
(COVID -19) หรือกลับจำกพ้ืนท่ีเส่ียง และอยู่ในช่วงกักตัว ให้ปฏิบัติตำมคำแนะนำของเจ้ำหนำ้ ท่ีสำธำรณสุข
อยำ่ งเครง่ ครัด
๕) ขอคำปรึกษำจำกครูผู้สอนเมื่อพบปัญหำเกี่ยวกับกำรเรียน อุปกรณ์กำรเรียนเรียน เคร่ืองใช้สว่ นตวั
หรือพบควำมผิดปกติของร่ำงกำยที่อำจเส่ียงต่อกำรติดเช้ือของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19)
ทนั ที
๒. บทบำทของครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ
ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำนน้ั ซึ่งถอื ว่ำ เป็นผู้อยู่ใกลช้ ิดนกั เรียน มีหนำ้ ท่ีสำคญั ในกำรจดั กำรเรียนรู้
ใหแ้ ก่นักเรียนทุกรูปแบบ จึงต้องเตรียมควำมพร้อมกำรจัดกำรเรียนกำรสอน กำรวัดและประเมินผลกำรเรียน
กำรสอน นอกจำกจะต้องดูแลตนเองแล้ว ยังต้องดแู ลนักเรียนอีกด้วย โดยเฉพำะดำ้ นสุขอนำมยั ตำมมำตรกำร
ท่ีกระทรวงสำธำรณสขุ กำหนด บทบำทของครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ ควรมีดังนี้
๑) ประชุมออนไลน์ (Online) หรือประชุมรูปแบบที่เหมำะสม เพื่อช้ีแจงผู้ปกครองนักเรียน
สรำ้ งควำมเขำ้ ใจรว่ มกนั ในกำรปอ้ งกนั กำรเฝำ้ ระวงั กำรเตรียมตัวของนกั เรยี นใหพ้ รอ้ มก่อนเปิดเรยี น
สำนกั งำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
33
๒) ประเมนิ ควำมเสี่ยงของตนเองผ่ำนแอพพลิเคชนั Thai Save Thai (TST) อยำ่ งสม่ำเสมอและสังเกต
อำกำรป่วยของตนเอง หำกมีอำกำรไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หำยใจลำบำก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส ให้
เว้นระยะห่ำง ป้องกันกำรแพร่กระจำย ตรวจคัดกรองเบ้ืองต้นด้วย ATK อำจต้องหยุดปฏิบัติงำน และรีบไป
พบแพทย์ และปฏิบัติตำมมำตรกำรของสำธำรณสุข กรณีมีคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ
๒๐๑๙ (COVID -19) หรือกลับจำกพ้ืนที่เส่ียงและอยู่ในช่วงกักตัว ให้ปฏิบัติตำมคำแนะนำของเจ้ำหน้ำที่
สำธำรณสขุ อยำ่ งเครง่ ครัด
๓) ติดตำมข้อมูลข่ำวสำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19)
และสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจของคำแนะนำในกำรป้องกันตนเอง และลดควำมเส่ียงจำกกำรแพร่กระจำยของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (โควดิ -19) จำกแหลง่ ขอ้ มูลทีเ่ ชือ่ ถอื ได้
๔) จัดหำส่ือประชำสัมพันธ์ในกำรป้องกันและลดควำมเส่ียงจำกกำรแพร่กระจำยโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) ให้แก่นักเรียน เช่น สอนวิธีกำรล้ำงมือที่ถูกต้อง กำรสวมหน้ำกำกผ้ำหรือ
หน้ำกำกอนำมัย คำแนะนำกำรปฏิบัติตัว กำรเว้นระยะห่ำงทำงสังคม กำรทำควำมสะอำด หลีกเลี่ยงกำรทำ
กิจกรรมร่วมกันจำนวนมำกเพ่อื ลดจำนวนคน
๕) ปฏิบัตติ ำม 6 มำตรกำรหลกั 6 มำตรกำรเสริม ของกระทรวงสำธำรณสุขกำหนดอย่ำงเครง่ ครดั
๖) คอยดูแล สอดส่องช่วยเหลือนักเรียนในเร่ืองสุขอนำมัยให้เป็นไปตำมมมำตรกำรท่ีกระทรวง
สำธำรณสขุ กำหนด ไดแ้ ก่
(๑) ทำกำรตรวจคัดกรองสุขภำพนักเรียนทกุ คนทีเ่ ข้ำมำในโรงเรยี นในตอนเช้ำ ใช้เครือ่ งวัดอุณหภูมิ
ร่ำงกำยพร้อมสังเกตอำกำรและสอบถำมอำกำรของระบบทำงเดินหำยใจ เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ หำยใจ
ลำบำก เหน่ือยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส โดยติดสัญลักษณ์ สติกเกอร์หรือตรำป๊ัม แสดงให้เห็นชัดเจนว่ำ ผ่ำน
กำรคัดกรองแล้ว
(๒) กรณีพบนักเรียนหรือผู้มีอำกำรมีไข้ อุณหภูมิร่ำงกำยตั้งแต่ ๓๗.๕ องศำเซลเซียสขึ้นไปร่วมกับ
อำกำรระบบทำงเดินหำยใจอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง หรือผลกำรคัดกรอง ประเมินควำมเส่ียงอยู่ในกลุ่มเส่ียงสูง
จัดให้อยู่ในพื้นที่แยกส่วน ประสำนโรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพประจำตำบล หรือเจ้ำหน้ำท่ีสำธำรณสุข เพ่ือ
ตรวจคัดกรองอกี คร้ัง หำกพบวำ่ ผลตรวจเบื้องต้นเป็นบวกจึงแจง้ ผปู้ กครองมำรับ จำกนัน้ แจ้งผบู้ ริหำรหรือผู้มี
ส่วนเก่ียวข้อง เพื่อดำเนินกำรตำมแผนเผชิญเหตุ และมำตรกำรป้องกันตำมระดับกำรแพร่ระบำดโรคติดเช้ือ
ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสถำนศกึ ษำ
(๓) บนั ทกึ ผลกำรคัดกรองและส่งต่อประวตั ิกำรป่วย ตำมแบบบันทกึ กำรตรวจสุขภำพ
(๔) จัดอุปกรณ์กำรล้ำงมือ พร้อมใช้งำนอย่ำงเพียงพอ เช่น เจลแอลกอฮอล์วำงไว้บริเวณทำงเข้ำ
สบลู่ ำ้ งมอื บรเิ วณอ่ำงลำ้ งมือ
๗) ตรวจสอบ กำกับ ติดตำมกำรมำเรียนของนักเรียนขำดเรียน ถูกกักตัว หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อ
กำรติดโรคโควดิ 19 และรำยงำนตอ่ ผู้บรหิ ำร
๘) ปรับพฤติกรรมสำหรับนักเรียนที่ไม่ร่วมมือปฏิบัติตำมมำตรกำรที่ครูกำหนด ด้วยกำรแก้ปัญหำ
กำรเรียนรูใ้ หม่ให้ถูกต้อง นนั่ คอื “สรำ้ งพฤตกิ รรมทพี่ งึ ประสงค”์ หรอื “ลดพฤตกิ รรมทีไ่ มพ่ ึงประสงค์”
สำนักงำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
34
๙) สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมเครียด ว่ำเป็นปฏิกิริยำปกติท่ีเกิดขึ้นได้ในภำวะวิกฤติที่มี
กำรแพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) และนำกระบวนกำรกำรจดั กำรควำมเครียด
กำรฝึกสติให้กลมกลืนและเหมำะสมกับนักเรียนแต่ละวัยร่วมกับกำรฝึกทักษะชีวิตที่เสริมสร้ำงควำมเข้มแข็ง
ทำงใจ (Resilience) ใหก้ บั นักเรียน ได้แก่ ทกั ษะชีวิตด้ำนอำรมณ์ สังคม และควำมคดิ เป็นต้น
๑๐) สังเกตอำรมณ์ควำมเครียดของตัวเอง เนื่องจำกภำระหน้ำท่ีกำรดูแลนักเรียนจำนวนมำก และ
กำกับให้ปฏิบัติตำมมำตรกำรป้องกันกำรติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) เป็นบทบำทสำคัญ
อำจจะสร้ำงควำมเครียดวิตกกังวลท้ังจำกกำรเฝ้ำระวังนักเรียน และกำรป้องกันตัวเองจำกกำรสัมผัสกับเชื้อ
โรค ดังน้ัน เมื่อครูมคี วำมเครยี ด จำกสำเหตุตำ่ ง ๆ มีข้อเสนอแนะ ดังน้ี
(๑) กรณีมีควำมสับสนกับมำตรกำรของโรงเรียนท่ีไม่ชัดเจน แนะนำให้สอบถำมกับผู้บริหำร
โรงเรียนหรือเพ่อื นร่วมงำน เพือ่ ให้เขำ้ ใจบทบำทหนำ้ ทีแ่ ละขอ้ ปฏบิ ัติทต่ี รงกัน
(๒) กรณีมีควำมวิตกกังวล กลัวกำรติดเชื้อในโรงเรียน ให้พูดคุยส่ือสำรถึงควำมไม่สบำยใจและร้อง
ขอส่ิงจำเป็นสำหรับกำรเรียนกำรสอนที่เพียงพอต่อกำรป้องกันกำรติดโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙
(COVID-19) เช่น สถำนที่ สื่อกำรเรียนกำรสอน กระบวนกำรเรียนรู้ กำรส่งงำนหรือตรวจกำรบ้ำน เป็นต้น
หำกตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือมีโรคประจำตัวก็สำมำรถเข้ำรับกำรตรวจ รักษำตำมมำตรกำรที่กระทรวง
สำธำรณสขุ กำหนด
(๓) จัดให้มีกิจกรรมบำบัดควำมเครียด โดยกำรฝึกสติให้เป็นกิจวัตรก่อนเร่ิมกำรเรียนกำรสอนเพื่อ
ลดควำมวติ กกังวลตอ่ สถำนกำรณท์ ี่ตงึ เครยี ดนี้
๑๑) กำกับและติดตำมกำรได้รับวัคซีนของนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนให้เป็นไปตำมมำตรกำรท่ี
กำหนดและเป็นปจั จุบนั
๓. บทบำทของผบู้ ริหำรสถำนศึกษำ
ผู้บริหำรสถำนศึกษำเป็นผู้ที่มีบทบำทสำคัญในกำรขับเคลื่อนตั้งแต่กำรวำงแผน กำรกำหนดนโยบำย
สถำนศึกษำ กำรเตรียมควำมพร้อมกำรเปดิ เรียน กำรสง่ เสรมิ ครูในกำรออกแบบกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน กำร
กำกับติดตำมช่วยเหลือ กำรประเมินผลกำรจัดกำรเรียนกำรสอน กำรแก้ไขปัญหำ กำรประเมินสถำนกำรณ์
กำรรำยงำน ตลอดจนร่วมมือกับครูและบุคลำกร ผู้ปกครองนักเรียน ให้กำรตรวจสอบสถำนกำรณ์กำรแพร่
ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) เพื่อควำมปลอดภัยของนักเรียนโดยบทบำทของ
ผ้บู รหิ ำรสถำนศึกษำ ควรมดี งั น้ี
๑) จัดให้มีกำรประชุมหำรือร่วมกันของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้ันพื้นฐำน ครู ผู้ปกครอง นักเรียน
ผู้นำชมุ ชน และมีมติให้ควำมเห็นชอบร่วมกันในกำรจัดพน้ื ที่ และรูปแบบกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน
๒) ประกำศนโยบำยและแนวปฏิบัติกำรป้องกันกำรแพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙
(COVID-19) ในโรงเรยี น
สำนกั งำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
35
๓) แต่งตั้งคณะทำงำนดำเนินกำรควบคุมดูแลและป้องกันกำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ
๒๐๑๙ (COVID-19) ประกอบด้วย นักเรียน ครู ผู้ปกครอง เจ้ำหน้ำที่สำธำรณสุข ท้องถิ่น ชุมชน และ
ผเู้ กย่ี วข้อง
๔) ประเมินควำมพร้อมผ่ำน Thai Stop Covid Plus (TSC+) และรำยงำนกำรติดตำมกำรประเมินผล
ผ่ำน MOECOVID /E-COVID 19 Report อยำ่ งสม่ำเสมอ
๕) ทบทวน ปรับปรุง ซักซ้อมปฏิบัติตำมแผนเผชิญเหตุของโรงเรียนในภำวะท่ีมีกำรระบำดของโรคตดิ
เช้อื ไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19)
๖) จัดให้มีกำรส่ือสำรประชำสัมพันธ์แนวทำงกำรป้องกันกำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ
๒๐๑๙ (COVID-19) เก่ียวกับนโยบำย มำตรกำร แนวปฏิบัติ และกำรจัดกำรเรียนกำรสอนให้แก่ครู นักเรียน
ผู้ปกครอง และคณะกรรมกำรโรงเรียน ผ่ำนช่องทำงสื่อที่เหมำะสม และติดตำมข้อมูลข่ำวสำรที่เกี่ยวข้อง
จำกแหล่งขอ้ มลู ทเี่ ชื่อถือได้
7) สนบั สนนุ ใหน้ กั เรยี น ครูและบุคลำกร ให้ไดร้ ับวัคซีนครบตำมเกณฑ์
8) สนบั สนุนใหม้ กี ำรตรวจคัดกรองหำเชือ้ ดว้ ยวิธกี ำรทเ่ี หมำะสมตำมมำตรกำรของภำครัฐ
9) สนับสนุน ส่งเสริม ให้นักเรียน ครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำ และผู้ปกครองประเมินตนเองผ่ำน
Thai Save Thai (TST) ตำมเกณฑ์จำแนกเขตพน้ื ทกี่ ำรแพร่ระบำด
10) ส่ือสำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจ เพ่ือลดกำรรังเกียจ และลดกำรตีตรำทำงสังคม (Social Stigma)
กรณพี บวำ่ มบี คุ ลำกรในโรงเรียน นักเรยี น หรือผปู้ กครองติดเช้ือไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19)
11) กำหนดมำตรกำรคดั กรองสุขภำพทุกคน บรเิ วณจดุ แรกเขำ้ ไปในโรงเรียน (Point of Entry) ให้แก่
นักเรยี น ครู บคุ ลำกร และผมู้ ำติดตอ่ และจัดใหม้ ีพ้นื ทแ่ี ยกโรค อปุ กรณ์ปอ้ งกัน เช่น หน้ำกำกผ้ำหรอื หน้ำกำก
อนำมัย เจลแอลกอฮอล์ อย่ำงเพียงพอ รวมถึงเพ่ิมช่องทำงกำรส่ือสำรระหว่ำงค รู นักเรียนผู้ปกครอง และ
เจ้ำหน้ำที่สำธำรณสุข ในกรณที พี่ บนักเรยี นกลุม่ เสย่ี งหรอื สงสยั
12) จัดให้นักเรียนสำมำรถเข้ำถึงกำรเรียนกำรสอนที่มีคุณภำพเหมำะสมตำมบริบทได้อย่ำงต่อเน่ือง
ตรวจสอบ ติดตำม กรณีนักเรียนขำดเรียน ลำป่วย กำรปิดโรงเรียน กำรจัดให้มีกำรเรียนกำรสอนทำงไกล
สอ่ื ออนไลน์ กำรติดต่อทำงโทรศพั ท์ หรอื Social Media เปน็ รำยวัน หรือรำยสปั ดำห์
13) กรณีพบนักเรียน ครู บุคลำกร หรือผู้ปกครองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ป่วยยืนยันเข้ำมำในโรงเรียน
ให้รีบแจ้งเจ้ำหน้ำท่ีสำธำรณสุขในพื้นท่ีเพ่ือดำเนินกำรสอบสวนโรค และพิจำรณำดำเนินกำรตำมแผนเผชิญ
เหตุ และมำตรกำรป้องกันตำมระดับกำรแพร่ระบำดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID - 19) ของ
สถำนศกึ ษำ
14) มีมำตรกำรให้นกั เรยี นไดร้ ับอำหำรกลำงวนั และอำหำรเสรมิ นม ตำมสิทธิที่ควรไดร้ ับกรณพี บอยู่ใน
กลมุ่ เสย่ี งหรอื อยใู่ นชว่ งกักตวั
15) ควบคุม กำกับ ติดตำม ตรวจสอบ และรำยงำนผลกำรดำเนินงำน ตำมมำตรกำรป้องกันกำรแพร่
ระบำดภำยในโรงเรยี นอย่ำงเครง่ ครดั และตอ่ เน่อื ง
สำนักงำนเขตพื้นท่กี ำรศึกษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1
36
๑๖) เยี่ยมบ้ำน สร้ำงขวัญกำลังใจนักเรียน ท้ังนักเรียนท่ีมำเรียนแบบปกติ และที่ไม่สำมำรถมำเรียน
แบบปกตไิ ด้
๑๗) มอบหมำยผู้รับผดิ ชอบรำยงำนผลในระบบที่เกยี่ วข้อง และรำยงำนผลตอ่ หน่วยงำนต้นสงั กัดอย่ำง
สม่ำเสมอ และเป็นปจั จุบนั ทนั เหตุกำรณ์
๑๘) กำกับดูแลกำรปฏิบัติตำมข้อกำหนดและมำตรกำรต่ำงๆ ของกระทรวงศึกษำธิกำร กระทรวง
สำธำรณสขุ และคณะกรรมกำรโรคติดต่อจงั หวัดตรงั ในกำรเปดิ เรยี นของสถำนศกึ ษำอยำ่ งปลอดภัย
๔. บทบำทของผปู้ กครองนักเรียน
ผู้ปกครองนักเรียนเป็นบุคคลท่ีมีสำคัญยิ่ง มีหน้ำท่ีต้องดูแลเอำใจใส่นักเรียนและตนเองในด้ำน
สขุ อนำมยั และกำรป้องกันควำมเสยี่ งจำกกำรแพร่ระบำดของเชื้อโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19)
อย่ำงเคร่งครัด ต้องให้ควำมร่วมมือกับโรงเรียน ครูประจำชั้น หรือครูท่ีปรึกษำ เก่ียวกับมำตรกำรกำรดูแล
นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียนจึงมีบทบำทสำคัญร่วมกับครูเพื่อช่วยนักเรียนท้ังในเรื่องกำรเรียนรู้ และกำรดูแล
ควำมปลอดภยั ของนักเรียน บทบำทของผูป้ กครองนักเรียน ควรมีดังน้ี
๑) ติดตำมข้อมูลข่ำวสำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19)
และสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจของคำแนะนำในกำรป้องกันตนเอง และลดควำมเสี่ยงจำกกำรแพร่กระจำยของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) จำกแหล่งขอ้ มูลทเ่ี ชื่อถอื ได้
๒) ประเมินควำมเส่ียงของตนเอง นักเรียน และคนในครอบครัวผ่ำนแอปพลิเคชัน Thai Save Thai
(TST) อยำ่ งสม่ำเสมอ สงั เกตอำกำรป่วยของนักเรยี น ของตนเอง และของคนในครอบครวั หำกมีอำกำรไข้ ไอ
มีน้ำมูก เจ็บคอ หำยใจลำบำก เหน่ือยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส ให้รีบพำไปพบแพทย์ ควรแยกเด็กไม่ให้ไป
เล่นกับคนอ่ืน ให้พักผ่อนอยู่ท่ีบ้ำนจนกว่ำจะหำยเป็นปกติ กรณีมีคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคติดเช้ือไวรัส
โคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) หรือกลับจำกพื้นที่เส่ียงอยู่ในช่วงกักตัวให้ปฏิบัติตำมคำแนะนำของเจ้ำหน้ำที่
สำธำรณสุขอยำ่ งเครง่ ครัด
๓) จัดหำของใช้ส่วนตัวให้นักเรียนอย่ำงเพียงพอในแต่ละวัน ทำควำมสะอำดทุกวัน เช่น หน้ำกำกผ้ำ/
หนำ้ กำกอนำมัย ช้อน ส้อม แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ยำสีฟนั ผ้ำเช็ดหนำ้ ผำ้ เช็ดตัว เปน็ ตน้
๔) จัดหำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์และกำกับดูแลนักเรียนให้ล้ำงมือบ่อย ๆ ก่อนกินอำหำร หลังใช้สุขำ
หลีกเลี่ยงกำรใช้มือสัมผัสใบหน้ำ ตำ ปำก จมูก โดยไม่จำเป็น และสร้ำงสุขนิสัยที่ดีหลังเล่นกับเพื่อนและเม่ือ
กลับมำถงึ บำ้ น ควรอำบนำ้ สระผม และเปลีย่ นชุดเสือ้ ผำ้ ใหม่ทนั ที
๕) ดแู ลสุขภำพนักเรียน จัดเตรยี มอำหำรปรงุ สุก ใหม่ สง่ เสรมิ ให้กินอำหำรร้อน สะอำด อำหำรครบ ๕
หมู่และผัก ผลไม้ ๕ สี และควรจัดอำหำรกล่อง (Box Set) ให้แก่นักเรียนในช่วงเช้ำแทนกำรซื้อจำกโรงเรียน
(กรณีท่ีไม่ได้รับประทำนอำหำรเช้ำจำกที่บ้ำน) เพ่ือเสริมสร้ำงภูมิคุ้มกัน ออกกำลังกำย อย่ำงน้อย ๖๐ นำที
ทกุ วนั และนอนหลบั อยำ่ งเพยี งพอ ๙ - ๑๑ ชว่ั โมงต่อวนั
สำนักงำนเขตพื้นท่กี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำตรงั เขต 1
37
๖) หลีกเลี่ยงกำรพำนักเรียนไปในสถำนเส่ียงต่อกำรติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) สถำนท่ี
แออัดท่ีมีกำรรวมกันของคนจำนวนมำก หำกจำเป็นต้องสวมหน้ำกำกผ้ำหรือหน้ำกำกอนำมัย ล้ำงมือบ่อย ๆ
๗ ข้ันตอน ดว้ ยสบูแ่ ละน้ำนำน ๒๐ วินำที หรอื ใชเ้ จลแอลกอฮอล์
๗) กรณีนักเรียนเดินทำงมำโรงเรียน โดยรถโรงเรียน รถตู้ หรือรถอ่ืน ๆ ผู้ปกครองและโรงเรียนต้อง
ขอควำมรว่ มมือกับคนขบั รถใหป้ ฏิบัติตำมมำตรกำรของสำธำรณสุขอยำ่ งเคร่งครดั
๘) กรณีมีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนทำงไกล ออนไลน์ ผู้ปกครองควรให้ควำมร่วมมือกับครูในกำรดูแล
จัดกำรเรยี นกำรสอนแก่นักเรยี น เช่น กำรส่งกำรบำ้ น กำรรว่ มทำกิจกรรม เป็นตน้
๙) ใหค้ วำมรว่ มมอื กบั สถำนศึกษำในกำรรำยงำนข้อมลู ที่เกี่ยวข้อง เชน่ ข้อมลู กำรฉีดวัคซนี
๕. บทบำทขององค์กรสนับสนนุ
๕.๑ สำนักงำนเขตพื้นทก่ี ำรศึกษำ
๑) ประชำสมั พันธส์ รำ้ งควำมรู้ควำมเข้ำใจใหโ้ รงเรยี นในสงั กัด เก่ยี วกบั กำรปอ้ งกนั ตนเอง กำรดแู ล
สขุ อนำมัยของตนเอง และบคุ คลในครอบครัว
๒) ประสำนงำนองคก์ รต่ำง ๆ ในเขตพน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำในกำรช่วยเหลือสนับสนุนโรงเรยี น
๓) นิเทศ กำกับ ติดตำม โรงเรียนในสังกัดด้ำนกำรบริหำรโรงเรียนภำยใต้สถำนกำรณ์กำรแพร่
ระบำดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19)
๔) กำกับ ติดตำม โรงเรียนในสังกัดด้ำนกำรบริหำรข้อมูลสำรสนเทศเกี่ยวกับกำรได้รับวัคซีนของ
นกั เรียน ครู ผบู้ รหิ ำรโรงเรียน และผูป้ กครองนักเรยี นให้ไดร้ บั วัคซนี ตำมมำตรกำรท่ีกำหนด
๕) รำยงำนผลกำรดำเนินกำรต่อหน่วยงำนต้นสังกัดให้ทรำบควำมเคล่ือนไหวอย่ำงต่อเนื่อง
สม่ำเสมอ
๖) ประชุม ตรวจเยี่ยมสถำนศึกษำ สร้ำงขวัญกำลังใจในกำรเตรียมควำมพร้อมก่อนเปิดภำคเรียน
ทัง้ แบบปกติและแบบทำงไกล
๕.๒ สำนกั งำนสำธำรณสุข
สำนักงำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
38
๑) ให้คำแนะนำเก่ียวกับข้อควรปฏิบัติของสถำนศึกษำ สนับสนุนกำรดำเนินงำนของโรงเรียนให้
สอดคลอ้ งตำมมำตรกำรของกระทรวงสำธำรณสุขและกระทรวงศึกษำธกิ ำรกำหนด
๒) สนับสนนุ อปุ กรณ์ทำงกำรแพทย์ อำทิ ชดุ ตรวจคดั กรองหำเช้ือทเี่ หมำะสม อปุ กรณ์วัดอุณหภูมิ
หนำ้ กำกอนำมัย เจลล้ำงมือ ฯลฯ
๓) สนับสนุนบุคลำกรทำงกำรแพทย์ในกำรบริกำรตรวจคัดกรองควำมเสี่ยงให้แก่ นักเรียน ครูและ
บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ
๔) จัดให้มีช่องทำงกำรสื่อสำร กำรให้ข้อมูลข่ำวสำรท่ีถูกต้อง เป็นปัจจุบันให้กับสถำนศึกษำและ
จดั ระบบสนบั สนนุ เมื่อมนี ักเรยี น ครูหรือบุคลำกรมีควำมเสี่ยงตอ่ กำรตดิ เช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19)
๕) สำรวจ ติดตำมสถำนกำรณ์ในพื้นที่บริกำรอย่ำงต่อเน่ือง กรณี พบผู้มีอำกำรเสี่ยงหรือป่วยต้อง
ดำเนินกำรทนั ที และรำยงำนให้สถำนศึกษำทรำบเพอ่ื ดำเนินกำรตำมมำตรกำรต่อไป
๖) ออกให้บริกำรตำมที่สถำนศึกษำร้องขอ เช่น จัดเจ้ำหน้ำที่ อสม.ประจำหมู่บ้ำน ตำบลตรวจ
เวรยำม บนั ทึกตแู้ ดงตำมจุดท่ีโรงเรียนกำหนด และอืน่ ๆ ตำมควำมตอ้ งกำรจำเป็น
๕.๓ องค์กรทำงปกครอง
หมำยถึง หน่วยงำนทำงปกครอง ได้แก่ จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้ำน และหน่วยงำนท้องถ่ิน ได้แก่
องคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบล เทศบำล
๑) ประชำสัมพันธ์สร้ำงควำมเข้ำใจให้โรงเรียน และชุมชนในเขตกำรปกครองมีควำมรู้ควำมเข้ำใจ
เกีย่ วกบั กำรปอ้ งกนั ตนเอง กำรดแู ลสขุ อนำมยั ของตนเอง และบุคคลในครอบครัว
๒) สนับสนนุ ช่วยเหลือโรงเรยี นในเขตปกครองตำมคำสั่งของจงั หวัดอยำ่ งเครง่ ครัด
๓) กำกับ ติดตำมกำรได้รับวัคซีนของประชำชนในเขตปกครองและมีข้อมูลทำงสถิติท่ีอ้ำงอิง
เช่อื ถอื ได้
๔) ใหบ้ รกิ ำรตำมทีส่ ถำนศึกษำรอ้ งขอตำมควำมต้องกำรเรง่ ด่วนและจำเปน็
๕.๔ องคก์ รเอกชน
๑) สนับสนุนอุปกรณ์ทำงกำรแพทย์ อำทิ ชุดตรวจคัดกรองหำเช้ือท่ีเหมำะสม อุปกรณ์วัดอุณหภูมิ
หน้ำกำกอนำมยั เจลลำ้ งมือ ฯลฯ
๒) สนบั สนุนงบประมำณให้แกส่ ถำนศึกษำในกำรนำไปใชบ้ รหิ ำรจัดกำรภำยใต้สถำนกำรณ์กำรแพร่
ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID - 19)
๓) อำนวยควำมสะดวกให้ควำมช่วยเหลือกรณฉี ุกเฉิน จำเปน็ ในกำรส่งตัวนักเรียน ครแู ละบุคลำกร
ท่ีคำดวำ่ จะไดร้ ับเช้ือหรือเปน็ กลมุ่ เส่ยี งสง่ หน่วยงำนสำธำรณสุขได้อย่ำงรวดเร็ว
๔) สร้ำงระบบกำรติดต่อส่ือสำรหน่วยงำนภำยในจังหวัด อำเภอ ตำบล ให้มีควำมรวดเร็วใน
กำรช่วยเหลอื ดแู ล นักเรยี น ครู บคุ ลำกร และผ้ปู กครอง ท่ีสถำนศกึ ษำไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ
สำนักงำนเขตพน้ื ทีก่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำตรัง เขต 1
39
สำนกั งำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
40
ภำคผนวก ก
กำรเปิดเรยี น On Site ในสถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำดของ
โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019(COVID-19)
ของสถำนศึกษำในจงั หวัดตรงั
สำนกั งำนเขตพ้ืนทกี่ ำรศึกษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
สำนกั งำนเขตพื้นทีก่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรัง เขต 1
41
สำนกั งำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
42
สำนกั งำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
43
ภำคผนวก ข
Timeline แบบบันทกึ กำรเดินทำงของนักเรยี น
สำนกั งำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
44
ตวั อย่ำง
แบบบนั ทึกกำรเดนิ ทำงของนักเรยี น (Timeline)
ภำคเรยี นท่ื 1 ปกี ำรศึกษำ ๒๕๖5
ภำยใต้สถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-๑๙)
ของโรงเรียน.........................................อำเภอ...........................
ชือ่ -นำมสกุล..........................................................................ชัน้ ........................
วัน/เดอื น/ปี ชว่ งเวลำ สถำนท่ี วธิ กี ำรเดนิ ทำง ผู้ร่วมเดินทำง หมำยเหตุ
สำนกั งำนเขตพ้นื ทีก่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรัง เขต 1
45
ภำคผนวก ค
กำรประเมินตนเองผำ่ นแอปพลิเคชัน Thai Save Thai (TST)
สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำตรัง เขต 1
46
แบบประเมนิ ตนเองตำมแอปพลเิ คช่ัน Thai Save Thai (TST)
สำนักงำนเขตพ้นื ทีก่ ำรศึกษำประถมศึกษำตรงั เขต 1
47
ภำคผนวก ง
แบบบันทึกขอ้ มลู ผมู้ ำตดิ ต่อสถำนศึกษำ
สำนกั งำนเขตพ้นื ที่กำรศกึ ษำประถมศึกษำตรัง เขต 1