The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานคอมพิวเตอร์501-3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by daojai, 2022-12-23 03:35:37

โครงงานคอมพิวเตอร์501-3

โครงงานคอมพิวเตอร์501-3

โครงงาน
เร่ือง เครื่องดกั จบั ควนั บุหรี่

โดย

1.นางสาวเฉิดฉาย จนั บัวลา เลขที่ 13

2.นางสาวนันทยิ า ประธาน เลขที่ 14

3.นางสาวจุฑารัตน์ มากะเต เลขท่ี 18

4.นางสาววรพรรณ รักษาชาติ เลขท่ี 25

5.นางสาวศศิธร เสติ เลขท่ี 27

ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 5 / 1

เสนอ
คุณครูดาวใจ ศรีสองเมือง

โรงเรียนบรบือ
อาเภอ บรบือ จงั หวดั มหาสารคาม
โครงงานนีเ้ ป็ นส่วนหนง่ึ ของรายวชิ า การออกแบบ

และเทคโนโลยี



โครงงาน
เร่ือง เครื่องดกั จบั ควนั บุหรี่

โดย

1.นางสาวเฉิดฉาย จนั บัวลา เลขที่ 13

2.นางสาวนันทยิ า ประธาน เลขที่ 14

3.นางสาวจุฑารัตน์ มากะเต เลขท่ี 18

4.นางสาววรพรรณ รักษาชาติ เลขท่ี 25

5.นางสาวศศิธร เสติ เลขท่ี 27

ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 5 / 1

เสนอ
คุณครูดาวใจ ศรีสองเมือง

โรงเรียนบรบือ
อาเภอ บรบือ จงั หวดั มหาสารคาม
โครงงานนีเ้ ป็ นส่วนหนง่ึ ของรายวชิ า การออกแบบ

และเทคโนโลยี

บทคดั ย่อ

ชื่อเรื่องโครงงาน : เครื่องดกั จบั ควนั บุหรี่
ช่ือผู้จัดทาโครงงาน : 1.นางสาวเฉิดฉาย จนั บวั ลา เลขท่ี 13

2.นางสาวนนั ทิยา ประธาน เลขท่ี 14
3.นางสาวจุฑารัตน์ มากะเต เลขที่ 18
4.นางสาววรพรรณ รักษาชาติ เลขที่ 25
5.นางสาวศศิธร เสติ เลขที่ 27
ช่ือครูทปี่ รึกษา : 1.นางดาวใจ ศรีสองเมือง
2.นางสาวรัตนาทิพย์ จนั อ่อน
ปี การศึกษา : 2564
การศึกษาคร้ังนีม้ ีจุดประสงค์ : เพอื่ ศึกษาเกี่ยวกบั ระบบการดกั จบั ควนั บุหรี่ สร้างนวตั กรรม เครื่องดกั จบั
ควนั บุหรี่ ใชใ้ นโรงเรียน และเพือ่ พฒั นาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์มาต่อยอดองคค์ วามรู้เดิม ให้
เกิดเป็นองคค์ วามรู้ใหม่ๆ
มขี อบเขต : ขอบเขตของประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง ขอบเขตของตวั แปรที่ศึกษา ขอบเขตของระยะเวลาที่
จะศึกษา ขอบเขตของดา้ นเน้ือหา ดงั น้ี
กล่มุ เป้าหมาย : นกั เรียนชาย โรงเรียนบรบือ จานวน 10 คน
ขอบเขตของตวั แปรทศี่ ึกษา : ตวั แปรตน้ คือ นวตั กรรม
ตวั แปรตาม คือเครื่องเตือนควนั บุหร่ี ใหส้ ามารถตรวจจบั ควนั ท่ีเกิดจากควนั บุหร่ี
ตวั แปรควบคุม คือ ความพึงพอใจของผใู้ ช้ นวตั กรรม คือเคร่ืองเตือนควนั บุหรี่ ใหส้ ามารถตรวจจบั ควนั ท่ี
เกิดจากควนั บุหรี่
ขอบเขตของระยะเวลาทจ่ี ะศึกษา :
ระยะเวลาท่ีใชท้ ้งั หมด 1 เดือน ต้งั แต่ วนั ที่ 1 กุมภาพนั ธ์ ถึง 1 มีนาคม 2565
ขอบเขตของด้านเนื้อหา :
การต่อตา้ นการสูบบุหรี่ในสถานศึกษา
วธิ ีดาเนินการ : 1. กลุ่มตวั อยา่ ง
2. ข้นั ตอนการออกแบบ
3. เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการทาโครงงาน
4. ข้นั ตอนการทาเคร่ืองดกั จบั ควนั บุหร่ี (บอร์ด Kidbright)
5. วธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
6. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล
7. สถิติท่ีใชใ้ นการโครงงาน

ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้
1. เคร่ืองเตือนจบั ควนั บุหร่ี ส่งเสียงสญั ญาณเตือนสามารถใชง้ านไดจ้ ริงและ มีประสิทธิภาพ
2. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนกั เรียนต่อเคร่ืองเตือนควนั บุหรี่ ส่งเสียสญั ญาณเตือน พบวา่

เคร่ืองเตือนควนั บุหรี่ ส่งเสียงสญั ญาณเตือนโดยรวมอยใู่ นระดบั ดีมาก และผลจากวเิ คราะห์แบบสอบถาม
พบวา่ นกั เรียนและบุคลากรของโรงเรียนบรบือ ส่วนมาก พอใจเครื่องเตือนควนั บุหร่ี

กติ ตกิ รรมประกาศ

โครงงานเรื่องเครื่องดกั จบั ควนั บุหรี่ คณะผจู้ ดั ทาขอขอบคุณ นางดาวใจ ศรีสองเมือง
นางสาวรัตนาทิพย์ จนั อ่อน และนายภาณุวฒั น์ เกียรตินฤมล ซ่ึงเป็นอาจารยท์ ่ีปรึกษาโครงงานท่ีใหก้ าร
สนบั สนุน คาแนะนาและคาปรึกษา ในสิ่งท่ีเป็นประโยชน์เก่ียวกบั โครงงาน อีกท้งั ยงั ช่วยเหลือการทดลอง
โครงงานจนโครงงานสาเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี ขอขอบคุณนายจิระศกั ด์ิ ปราณีกิจ ผอู้ านวยการโรงเรียนบรบือท่ี
ใหก้ ารสนบั สนุนสถานที่ในการทดลองโครงงาน อีกท้งั เพ่อื นๆ ที่ใหค้ วามร่วมมือในการจดั ทาโครงงานให้
สาเร็จลุล่วงตามฟวตั ถุประสงคท์ ่ีวางไว้

คณะผจู้ ดั ทา

สารบัญ หนา้

บทคดั ยอ่ ข
กิตติกรรมประกาศ ค
สารบญั 1
บทที่ 1 บทนา 1
2
ความเป็นมา และความสาคญั ของปัญหา 2
จุดมุง่ หมายของการศึกษา 2
ของเขตของการศึกษาคน้ ควา้ 3
ประโยชนืที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 3
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง 9
เอกสารและผลงานท่ีเก่ียวขอ้ ง 9
บทที่ 3 วธิ ีดาเนินการ 9
กลุ่มตวั อยา่ ง 9
ข้นั ตอนการออกแบบ 10
เครื่องมือท่ีใชใ้ นการทาโครงงาน 11
ข้นั ตอนการทาเครื่องดกั จบั ควนั บุหรี่ (บอร์ดkidbright) 11
วธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 12
การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 13
สถิติท่ีใชใ้ นการโครงงาน 16
บทท่ี 4 ผลการศึกษาคน้ ควา้ 16
บทที่ 5 สรุปและอภิปรายผลการศึกษาคน้ ควา้ 16
สรุปผล 16
อภิปรายผล 17
ขอ้ เสนอแนะ
บรรณานุกรม

บทท่ี 1

บทนา

ความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหา
ในปัจจุบนั น้ีประเทศไทยมีประชาชนสูบบุหรี่ เป็นจานวนมากไม่วา่ จะเป็นเดก็ เยาวชน วยั รุ่นหรือ

คนวยั ทางาน เพราะดว้ ยสภาพปัญหาการสูบบุหรี่ส่งผลใหผ้ ทู้ ี่สูบเอง ครอบครัว บุหร่ีมีสารนิโคตินและสาร
อื่น ๆ ที่เราเสพเขา้ ไปแลว้ ทาใหร้ ่างกายเราทรุดโทรม เกิดอาการติดบุหร่ี แตก่ ่อนจะติดเฉพาะคนที่มีปัญหา
และวยั รุ่นที่มีปัญหาครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบนั น้ีไม่วา่ จะเป็นบุคคล ทุกทวั่ ไปที่มีปัญหา และคนไม่มี
ปัญหา ในสงั คมทาใหเ้ กิดปัญหาใหก้ บั สังคม และคนรอบขา้ งท้งั ทางตรง และทางออ้ ม จึงไดม้ ีการจากดั
พ้ืนท่ีในการสูบบุหร่ีเพือ่ ที่จะไม่ทาใหผ้ อู้ ื่นเดือดร้อนไปดว้ ย หรือ ในพ้ืนท่ีสาธารณะบางที่ถือวา่ การสูบบุหร่ี
น้นั เป็นการไม่เคารพสถานท่ีจึงต้งั กฎหา้ มสูบบุหรี่ข้ึนแต่ดว้ ยความที่รู้วา่ ผทู้ ่ีสูบบุหร่ีน้นั ไมส่ ามารถเลิกสูบได้
โดยง่ายจึงจดั ทาพ้ืนที่สูบบุหรี่ข้ึน หรือบางสถานท่ีก็ไม่มีที่สูบเลยดว้ ย การน้นั จึงมีผทู้ ี่ละเมิดกฎแอบสูบบุหร่ี
ในที่หา้ มสูบสงั คมไทยในปัจจุบนั มีการต่อตา้ นการสูบบุหร่ีเป็นอยา่ งมากมีการกาหนดพ้ืนที่สาหรับใหส้ ูบ
บุหร่ีและหา้ มสูบบุหรี่โดยเฉพาะในขณะเดียวกนั กย็ งั มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่สูบบุหรี่ แมใ้ นสถานที่ท่ีหา้ มสูบ
เนื่องดว้ ยการสูบบุหรี่น้นั ถา้ เกิดสูบในที่มีผพู้ บเห็นกจ็ ะมีการหา้ ปรามเอง แตด่ ว้ ยการแอบสูบน้นั จะเลือกสูบ
ในท่ีไม่มีผพู้ บเห็นจึงตอ้ งใชเ้ ทคโนโลยสี ่ิงประดิษฐน์ ้ีไวช้ ่วยเป็นหูเป็ นตาแทนเพ่ือเตือนวา่ มีผแู้ อบสูบบุหร่ีใน
ที่หา้ มสูบถึงส่วนสิ่งประดิษฐน์ ้ีจะไมเ่ หมาะกบั ท่ีกวา้ ง ๆ แต่ส่วนมากผทู้ ่ีแอบสูบบุหรี่น้นั จะเลือกสูบในท่ี
แคบ ๆ และไมม่ ีผพู้ บเห็น และเซ็นเซอร์ตรวจจบั ควนั บุหร่ียงั สามารถตรวจจบั ควนั จากการเผาไหมไ้ ดเ้ ม่ือมี
ไฟไหมก้ ็สามารถตรวจจบั ไดเ้ ช่นเดียวกนั โรงเรียนบรบือมีลกั ษณะเป็นโรงเรียนประเภทอยปู่ ระจานกั เรียน
มาจากหลายครอบครัว จึงมกั พบปัญหาเร่ืองของพฤติกรรมของนกั เรียนท่ียงั แอบสูบบุหรี่ในสถานศึกษา ทาง
โรงเรียนจึงคิดหามาตรการที่นามาใชใ้ นการป้องกนั และปราบปรามกบั พฤติกรรมของเยาวชนท่ีแอบสูบบุหรี่
ในสถานศึกษา โดยการคิดหา นวตั กรรมท่ีช่วยใหผ้ ทู้ ่ีแอบสูบบุหร่ีในโรงเรียน เช่น บริเวณหอ้ งน้าชาย ได้
เกิดความเกรงกลวั หรืออบั อายเมื่อตอ้ งแอบสูบบุหร่ีในหอ้ งน้า และเลิกสูบบุหร่ีบริเวณน้นั ในท่ีสุด
ดงั น้นั คณะผจู้ ดั ทาโครงงานจึงพยายามคิดหานวตั กรรมท่ีช่วยใหผ้ ทู้ ี่แอบสูบบุหร่ีในโรงเรียน เช่น บริเวณ
หอ้ งน้าชาย ไดเ้ กิดความเกรงกลวั หรืออบั อายเม่ือตอ้ งแอบสูบบุหร่ีในหอ้ งน้า และเลิกสูบบุหร่ีบริเวณน้นั ใน
ท่ีสุด คณะผจู้ ดั ทาโครงงานจึงไดม้ ีการศึกษาเกี่ยวกบั ระบบแจง้ เตือนควนั ขนาดเลก็ ซ่ึงจะทาการพฒั นาเครื่อง
เตือนควนั บุหรี่ ใหส้ ามารถตรวจจบั ควนั ที่เกิดจากควนั บุหรี่และส่งเสียงสัญญาณเตือนเป็นหลกั ดงั น้นั คณะ
ผจู้ ดั ทาโครงงานจึงไดม้ ีการศึกษาเกี่ยวกบั ระบบแจง้ เตือนควนั ขนาดเลก็ ซ่ึงจะทาการพฒั นาเครื่องเตือนควนั
บุหร่ี ใหส้ ามารถตรวจจบั ควนั ที่เกิดจากควนั บุหร่ีและส่งเสียง

จุดมุ่งหมายของการศึกษา
1. เพอ่ื ศึกษาเก่ียวกบั ระบบการดกั จบั ควนั บุหรี่
2. เพื่อสร้างนวตั กรรม เคร่ืองดกั ควนั บุหร่ี ใชใ้ นโรงเรียน
3. เพ่ือพฒั นาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์มาต่อยอดองคค์ วามรู้เดิม ใหเ้ กิดเป็นองคค์ วามรู้
ใหม่ๆ

ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
1. ขอบเขตของประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง

กลุ่มเป้าหมาย นกั เรียนชาย โรงเรียนบรบือ จานวน 10 คน
2. ขอบเขตของตวั แปรที่ศึกษา

-ตวั แปรตน้ คือ นวตั กรรม
-ตวั แปรตาม คือเคร่ืองเตือนควนั บุหรี่ ใหส้ ามารถตรวจจบั ควนั ท่ี
เกิดจากควนั บุหร่ี
-ตวั แปรควบคุม คือ ความพึงพอใจของผใู้ ช้ นวตั กรรม คือเคร่ืองเตือนควนั บุหรี่ ใหส้ ามารถตรวจจบั ควนั ที่
เกิดจากควนั บุหรี่

3. ขอบเขตของระยะเวลาที่จะศึกษา
ระยะเวลาที่ใชท้ ้งั หมด 1 เดือน ต้งั แต่ วนั ที่ 1 กุมภาพนั ธ์ ถึง 1 มีนาคม 2565

4. ขอบเขตของดา้ นเน้ือหา
การตอ่ ตา้ นการสูบบุหรี่ในสถานศึกษา

ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ
1. ไดเ้ รียนรู้หลกั การทางานโครงสร้างระบบควบคุมและ ระบบ แสดงผลของเคร่ืองเตือนควนั บุหร่ี
2. ไดเ้ คร่ืองเตือนควนั บุหร่ีท่ีสามารถเตือนควนั บุหร่ีไดจ้ ริง
3. มีส่วนร่วมในการช่วยต่อตา้ นบุคคลท่ีสูบบุหรี่ในที่หา้ มสูบและช่วยในการรณรงคล์ ดการสูบบุหร่ี
ลดอตั ราการเกิดโรคมะเร็งปอด
4. นาเครื่องเตือนควนั บุหร่ีไปติดต้งั ในสถานที่ท่ีหา้ มสูบบุหร่ีสามารถช่วยลดจานวนคนที่สูบบุหรี่ลง
ได้

บทท่ี 2

เอกสารหรือทฤษฎที เี่ กย่ี วข้อง

ผจู้ ดั ทาโครงงานไดศ้ ึกษาเอกสารและทฤษฎีท่ีเกี่ยวขอ้ ง ในการทาโครงงาน เพ่ือเป็ นพ้ืนฐานใน
การทาการศึกษาโครงงานคร้ังน้ีโดยนาเสนอตามลาดบั ดงั น้ี

1. บุหรี่และควนั บุหรี่
2. ทฤษฎีเก่ียวกบั เซ็นเซอร์ตรวจจบั ควนั (MQ-2)
3. การทางานบอร์ด Kid Bright
4. งานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง
1.บุหรี่และควนั บุหร่ี
มนูญ ปุญญกริยากร (2545: 10-15) ไดก้ ล่าวไวใ้ นวารสารแรงงานสัมพนั ธ์ซ่ึงสรุปไดว้ า่ บุหร่ีมีตน้
กาเนิดมาจากภาษาเปอร์เซีย ตามพจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ.2525 หมายถึง ยาสูบที่ใชใ้ บตอง
หรือกระดาษ มวนใบยาท่ีหนั่ ฝอย ส่วนวารสารสารคดี สุทศั น์ ยกส่าน (2543: 173-175) อธิบายวา่ ยาสูบเป็น
พืชพ้ืนเมืองของทวปี อเมริกาใต้ เมก็ ซิโก และเวสตอ์ ินดีส ออกดอกเป็นช่อดอกมีเกสรท้งั เกสรตวั ผแู้ ละเกสร
ตวั เมียในดอกเดียวกนั มนั จึงสามารถผสมพนั ธุ์ ไดด้ ว้ ยตวั เองโดยไม่ตอ้ งพ่ึงพาแมลง ยาสูบเจริญเติบไดเ้ ร็ว
และดีในแทบทุกสภาพดินฟ้าอากาศ ในปัจจุบนั อเมริกา ตุรกีอินเดีย บราซิล และรัสเซีย เป็นประเทศที่มีการ
ปลูกยาสูบมากเป็นอนั ดบั ตน้ ๆ ของโลก สาหรับประเทศไทยไดร้ ับวฒั นธรรมยาสูบมาจากชาวจีนเม่ือหลาย
ร้อยปี มาแลว้ ปัจจุบนั แหล่งปลูกยาสูบจะมีมากทางภาคเหนือและภาคตะวนั ออก เฉียงเหนือ แตเ่ ดิมบุหรี่ไทย
มวน ดว้ ยใบตองซ่ึงแบ่งแยกออกตามชนิดและสีของใบตองเช็นตองอ่อน ตองขาว ตองดาและยงั มีบุหร่ี กลีบ
บวั บุหรี่จนั กบ (มวนดว้ ยใบจาก) บุหรี่เหล่าน้ีจะเรียกวา่ บุหรี่ราษฎร์แตถ่ า้ เรียกเป็ น บุหร่ีหลวง จะหมายถึง
ฝ่ิน ที่ถือเป็น “ยาสูบ” ท่ีทางราชการผลิตออกจาหน่ายแก่ประชาชนจนถึงปี พ.ศ. 2503 จึงไดเ้ ลิกไป ในดา้ น
การคา้ บุหรี่ในรูปแบบของบริษทั เกิดข้ึนเม่ือตน้ รัชกาลท่ี 6 ชื่อบริษทั ยาสูบ สยามเป็นของนายเชียงเคง
เหลียน สีบุญเรือง ผลิตบุหร่ีใบตองกินรี ส่วนบริษทั ยาสูบต่างดา้ วกม็ ี บริษทั ยาสูบองั กฤษอเมริกนั และ
บริษทั นนั ยาง (จีน) สันติพงษ์ ปตตุภกั ด์ิ (2544: 65-68)ไดเ้ รียบเรียงการศึกษาควนั บุหร่ีไวใ้ นวารสารอพั เดต
วา่ เมื่อจุดบุหรี่กระบวนการเผาไหมก้ เ็ กิดสารต่างๆ ข้ึน ในใบยาสูบเกิดการเปลี่ยนแปลงทุกคร้ังที่ ผสู้ ูบบุหร่ี
สูดควนั เขา้ ปอด นน่ั คือ การนาพาสารเคมีนบั พนั ชนิดเขา้ สู่ร่างกาย และกระบวนทาลาย สุขภาพกเ็ ร่ิมตน้ อีก
คร้ัง เป็นเวลานานมาแลว้ ที่ทราบกนั วา่ การสูบบุหร่ีเป็ นอนั ตรายตอ่ ชีวิต และ สุขภาพของคนเรา และแมจ้ ะ
ทราบถึงพษิ ภยั อนั ตรายจาการสูบบุหร่ี แต่คนเหล่าน้นั ก็ยงั เลือกที่จะสูบบุหรี่ดว้ ยเหตุที่วา่ “ติด” บุหรี่จนไม้
อาจเลิกไดซ้ ่ึงมีนกั วทิ ยาศาสตร์หลายคนพยายามศึกษาวา่ มีสารเคมีใดบา้ งท่ีอยใู่ นบุหร่ี หรือเกิดข้ึนระหวา่ ง
การสูบบุหร่ี และสารเคมีเหล่าน้ีส่งผลกระทบต่อ สุขภาพ อยา่ งไร รวมท้งั มีวธิ ีการขจดั หรือลดสารเคมี
เหล่าน้นั ออกจากบุหร่ีหรือไมใ่ นปี พ.ศ. 2493 ความรู้ทางเคมีเก่ียวกบั ควนั จากใบยาสูบน้นั มีนอ้ ยมาก
การศึกษาทางเคมีเก่ียวกบั เร่ืองควนั บุหร่ีน้ี เกิดข้ึนในปี พ.ศ. 2498 เอ.ไอ.โคแสค พบวา่ ควนั ของใบยาสูบน้นั
ประกอบดว้ ย สารเคมี 79 ชนิดใน ปี จจุบนั พบวา่ ควนั จากการเผาใบยาสูบประกอบดว้ ยสารเคมีประมาณ

4,800 ชนิด จากการศึกษา ทางระบาดวทิ ยา แสดงใหเ้ ห็นวา่ ควนั จากการเผาใบยาสูบเป็นสาเหตุของการเกิด
โรคร้ายแรงหลาย อยา่ ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2498 รัฐบาลของสหราชอาณาจกั รประกาศวา่ การสูบบุหร่ีเป็ น
สาเหตุของ 13 โรคมะเร็งปอด แตก่ ไ็ มม่ ีการต้งั กฎขอ้ หา้ มใดๆ เน่ืองจากมีคนสูบบุหร่ีกนั เป็นจานวนมา ทาให้
รัฐบาลเองก็มีรายไดเ้ ป็ นจานวนมากในรูปของภาษียาสูบ สาหรับควนั บุหร่ีในอากาศน้นั สมชยั บวรกิตติกบั
อรรถ นาวา (2536: 56-59) ไดว้ เิ คราะห์ ควนั บุหร่ีไวใ้ นวารสารราชบณั ฑิตยสถานวา่ ควนั ที่พน้ กลบั ออกมา
จากทางเดินอากาศหายใจของ ผสู้ ูบบุหร่ีในปริมาณร้อยละ 85 และควนั จากปลายบุหรี่ที่กาลงั เผาไหมท้ ี่ไม่ได้
ถูกสูดเขา้ ไป ร้อยละ 15 ส่วนไอระเหยผา่ นกระดาษมวนบุหร่ีน้นั เกิดข้ึนนอ้ ยจากการวเิ คราะห์สารเคมีใน
บุหรี่มากกวา่ 50 ชนิด มีศกั ยภาพเป็นสารก่อมะเร็งตอ่ มนุษยแ์ ละสตั วส์ ารเคมีส่วนใหญ่ในควนั ท่ีไม่ไดส้ ูดเขา้
ปอดมีความเขม้ สูง กวา่ ควนั ที่สูดเขา้ ไปแลว้ พน่ กลบั ออกมาอนุภาคในควนั ท่ีไมไ่ ดส้ ูดเขา้ ปอดมีขนาดยอ่ ม
กวา่ อนุภาคในควนั ที่พน่ กลบั ออกมาจึงทาใหส้ ามารถผา่ นลงไปในปอดไดล้ ึกกวา่ โดยการตรวจวิเคราะห์
ปัสสาวะ เลือด และน้าลาย สามารถพิสูจนว์ า่ การสูดหายใจอยคู่ วนั บุหร่ีในอากาศ โดยไมไ่ ดส้ ูบบุหรี่ทาใหร้ ับ
สารพษิ จากควนั เขา้ สู่ร่างกายได้

บุหรี่มีสารประกอบตา่ งๆ อยูป่ ระมาณ 4000 ชนิด มีสารก่อมะเร็งไม่ต่ากวา่ 42 ชนิด แตส่ าระสาคญั
ที่ทาใหเ้ กิดการเสพติดคือ นิโคติน เป็ นสารแอลคะลอยดท์ ี่ไมม่ ีสินิติน 30 มิลลิกรัม สามารถทาใหค้ นตายได้
บุหรี่ธรรมดามวนหน่ึงจะมีนิโคตินอยรู่ วม 15-20 มิลลิกรัม ก็คือจานวนนิโคตินในบุหรี่ 2 มวน สามารถทา
ใหค้ นตายไดใ้ นทนั ทีแต่การสูบบุหรี่ติดตอ่ กนั หลายมวนแลว้ ไม่ตายก็เพราะวา่ มีนิโคตินในควนั บุหรี่ เป็ น
ส่วนนอ้ ยที่เขา้ สู่ร่างกายของผสู้ ูบ(มูลนิธิรณรงคเ์ พ่ือการไม่สูบบุหรี่, 2557ปกติภายในห้องที่เราอยจู่ ะมีฝ่ นุ
หรืออนุภาคท่ีแขวนลอยในอากาศเฉลี่ย 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศกเ์ มตรแต่ถา้ ภายในห้องน้นั มีการสูบบุหร่ี
ปริมาณฝ่ นุ จะเพม่ิ ข้ึนซ่ึงอาจสูงถึง 45 ไมโครกรัมต่อลูกบาศกเ์ มตรในควนั บุหร่ีมีองคป์ ระกอบหลกั เป็น
อนุภาคขนาดเลก็ กวา่ 1 ไมครอนและอาจจะมีขนาดเลก็ ถึง 0.1 ไมครอนอนุภาคในควนั บุหร่ีประกอบดว้ ย
ธาตุคาร์บอนเป็นองคป์ ระกอบหลกั องคป์ ระกอบ ในส่วนท่ีเป็นก๊าซและสารอินทรียไ์ ดแ้ ก่ ก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) คาร์บอนมอนออกไซด์ (CO) ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ซ่ึงเป็นก๊าซที่เกิดจาก
การเผาไหมน้ อกจากน้ียงั มีสารอินทรียร์ ะเหยไดแ้ ก่นิโคติน (Nicotine) อซีโตน(Acetone) เบนซีน (Benzene)
ฟิ นอล (Phenol) โทลูอีน (Tolune) ฟอมลั ดิไฮด(์ Formaldehyde) และเบนโซโฟรีน (Benzopyrene) และยงั มี
สารอ่ืนๆอีกมากกวา่ 4,000 ชนิด ขนาดของอนุภาคในควนั บุหร่ีมีขนาดเล็กมาก มีมวลนอ้ ยมากจนแรงดึงดูด
ของโลกที่กระทาต่ออนุภาคควนั บุหรี่หรือที่เรียกแรงน้ีวา่ น้าหนกั มีขนาดของแรงนอ้ ยมาก และนอ้ ยกวา่ แรง
พยงุ ท่ีอนุภาคในควนั บุหรี่ถูกกระทา เนื่องจากกรเคล่ือนที่ของกระแสอากาศดว้ ยเหตุน้ีจึง ทาใหค้ วนั บุหร่ี
สามารถฟุ้งกระจายลอยอยใู่ นอากาศไดโ้ ดยไม่ตกลงสู่พ้นื เหมือนฝ่ ุนผงขนาดใหญ่อนุภาคท่ีสามาฟุ้งกระจาย
อยใู่ นอากาศไดเ้ ช่นน้ีเรียกวา่ แอโรซอล (Aerosols) อนุภาคในควนั บุหรี่จะมีการรวมตวั กนั เป็นอนุภาคใหญ่
ข้ึน ถา้ พจิ ารณาจากกราฟในภาพที่2.2ที่แสดงขนาดและจานวนอนุภาคของควนั บุหรี่ท่ีเกิดข้ึนท่ีระยะเวลาที่
ต่างกนั จะเห็นวา่ ขนาดของอนุภาคของควนั บุหร่ีที่เกิดข้ึนในเวลา 18 นาทีจะมีขนาดเล็กกวา่ ควนั บุหร่ี ที่ทิ้งไว้
นาน 300 นาทีขนาดของอนุภาคเฉล่ียจะมีขนาดใหญ่ข้ึนท้งั น้ีเพราะอนุภาคในควนั บุหรี่เกิดการรวมตวั กนั

เนื่องจากการชนปะทะกนั ของอนุภาคขนาดเลก็ และรวมกนั เป็นอนุภาคท่ีมีขนาดใหญ่ข้ึน แตจ่ านวนอนุภาค
ในควนั บุหรี่จะลดลง

2. ทฤษฎีเก่ียวกบั เซ็นเซอร์ตรวจจบั ควนั (MQ-2)
2.1. เซ็นเซอร์MQ2

MQ2 เปนเซ็นเซอร์ตรวจจบั ความเขม้ ของแก๊สท่ีติดไฟในอากาศ ซ่ึงไดแ้ ก๊ส ประเภทแอลพีจี(LPG) โปเพน
(Propane) โฮโดรเจน(Hydrogen) มีเทน(Methane) และบิวเทน (Butane) เปนเตน รวมถึงควนั ไฟ (Smoke)
ซ่ึงให้ แรงดนั เอาพุตออกมาเป็นตวั เลขแบบอนาลอ็ กใจของแก๊สไดใ้ นระหวา่ งช่วง 200 ถึง 10,000 ppm และ
ทางานได้ ในอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส ถึง 50 องศาเซลเซียส โดยกินกระแสไฟฟ้าประมาณ 150 mA ท่ี
แหล่งจ่ายแรงดนั 3.3 โวลต์ - 5โวลต์

คุณสมบตั ิท่ีสาคญั สาหรับเซ็นเซอร์MQ2
• มีความไวท่ีดีตอการตรวจจบั ก๊าซชนิดติดไฟไดใ้ นชวงกวาง
• มีความไวสูงสาหรับกา๊ ซประเภท แอลพจี ีโปรเพน โฮโดรเจน และควนั ไฟ
• มีอายกุ ารใชงานท่ียาวนาน คงทน และราคาถูก
• ต่อวงจรไดง้ าย

3. หลกั การทางานบอร์ด Kid Bright
KidBright เป็ นบอร์ดสมองกลฝังตวั (Embedded Board) สามารถใชเ้ ป็นอุปกรณ์ควบคุม ขนาดจิ๋วที่

ประกอบดว้ ยไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) จอแสดงผล นาฬิกาเรียลไทม์ ลาโพงและเซนเซอร์
แบบง่าย โดยบอร์ด KidBright จะทางานตามคาส่ังท่ีผใู้ ชส้ ร้างข้ึนผา่ นโปรแกรมสร้างชุดคาสงั่ แบบบลอ็ ก
(Block Based Programming) ดว้ ยเหตุน้ีเองบอร์ด KidBright จึงถูกนามาใชเ้ ป็นเครื่องมือ ในการสอนเขียน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์เนื่องจากผเู้ รียนสามารถสร้างชุดคาสั่ง โดยใชโ้ ปรแกรมสร้างชุดคาสงั่ KidBright
IDE (Integrated Development Environment) ที่สามารถใชง้ านไดบ้ นระบบปฏิบตั ิการ Windows, Mac OS
และ Ubuntu ชุดคาสง่ั ท่ีสร้างข้ึ จะถูกส่งไปยงั บอร์ด KidBright เพื่อใหบ้ อร์ดทางานตามคาส่ัง

จุดเด่นของบอร์ด
1. บอร์ดสมองกลฝังตวั ประกอบดว้ ย เซนเซอร์พ้ืนฐาน จอแสดงผล real-time clock ลาโพง
สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชง้ านไดห้ ลากหลาย
2. สร้างชุดคาสงั่ แบบ block-structured programming ผา่ นแอปพลิเคชนั บนสมาร์ทโฟน
3. ชุดคาสัง่ ถูกส่งไปยงั บอร์ดสมองกลฝังตวั ผา่ นเครือข่ายไร้สาย ทาใหใ้ ชง้ านไดง้ ่ายไม่
จาเป็นตอ้ งเชื่อมต่อสาย
4. โปรแกรมสร้างชุดคาสั่งดว้ ย Kidbright IDE รองรับการใชง้ านบนคอมพวิ เตอร์ PC
windows และ Macรองรับการทางานรูปแบบ event-driven Progamming
5. สามารถเขียนโปรแกรมแบบ multitasking programming ได้

คุณสมบตั ิของบอร์ด
1. แอปพลิเคชนั บนสมาร์ทโฟนทางานภายใตร้ ะบบปฏิบตั ิการ Android
2. แอปพลิเคชนั สร้างชุดคาสั่งรองรับการทางานแบบ Event-driven Programming
3. แอปพลิคชนั สร้างชุดคาสง่ั รองรับการทางานแบบ Multitasking
4. รองรับการเชื่อมต่อเซนเซอร์ท่ีหลากหลาย (Internet of Things) บอร์ดสมองกลฝังตวั (Embedded Board)
หรือ KidBright คือ บอร์ดขนาดเล็ก ท่ีประกอบไปดว้ ย ไมโครคอนโทรลเลอร์ESP32 ทาหนา้ ท่ี ประมวลผล
และควบคุมสง่ั งานอุปกรณ์ ที่ประกอบอยบู่ นบอร์ด ซ่ึงไดแ้ ก่หนา้ จอแสดงผลแบบ Matrix LED ขนาด 16×8
จุด และเซ็นเซอร์ตรวจจบั พ้ืนฐาน ที่สามารถปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ไดแ้ ก่ เซ็นเซอร์วดั ระดบั ความเขม้ ของ
แสง และ เซ็นเซอร์วดั อุณหภูมิ kidbright IDE คือโปรแกรมสร้างชุดคาสงั่ เพ่อื นาไปใชท้ างานบนบอร์ด
kidbright ดว้ ย ชุดคาสงั่ แบบ block-structured programming คือจะใชก้ ารลากกล่องขอ้ ความหรือบล็อก
คาสัง่ มาวางต่อกนั (Drag and Drop) จากน้นั โปรแกรมจะทางานแปลงภาษา ที่เรียกวา่ การ compile เพื่อให้
ไดเ้ ป็นโคด้ การทางานท่ีใชก้ บั โปรเซสเซอร์ ESP32 ที่อยบู่ นบอร์ด การเขียนโปรแกรมเพอ่ื ใหบ้ อร์ด

KidBright ทางานสามารถทาไดด้ ว้ ยโปรแกรม Kidbright IDE ซ่ึงเป็นโปรแกรมที่ถูกพฒั นาข้ึนมา เพอื่ ให้
ผเู้ รียนสามารถเขียนโปรแกรม ไดง้ ่ายมากข้ึน ดว้ ยวธิ ีการชุดคาสั่งแบบ block-structured programming ซ่ึง
เป็นการเขียนโปรแกรมโดยการลากรูปกล่องคาส่ังพ้นื ฐาน มาวางตอ่ กนั (Drag and Drop) เพือ่ ทาการ
เชื่อมโยงคาส่งั เหล่าน้นั ข้ึนมาเป็นโปรแกรม จากน้นั Kidbright IDE จะทาการแปลง (compile) โปรแกรม
และส่งโปรแกรมดงั กล่าวไปยงั บอร์ดKidbright เพือ่ ใหม้ นั ทางานตามชุดคาส่งั ที่เราไดอ้ อกแบบไว้

4.งานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง
นายวศั พล ขนั ธิรัตน์ และคณะ (2557) ไดท้ าการศึกษาเร่ืองระบบตรวจจบั ควนั บุหรี่ภายใน

อาคารอจั ฉริยะเพ่อื ที่จะนามาใชต้ รวจจบั ควนั บุหร่ีภายในสถานที่ตา่ งๆโดยทาการออกแบบเครื่องตรวจจบั
ควนั แบบที่ใชต้ วั เซ็นเซอร์ตรวจจบั ก๊าซและควนั (MQ-2)โดยบอร์ด Arduino จะทาการเก็บค่าท่ีไดจ้ าก
เซ็นเซอร์เป็นคา่ แรงดนั ไฟฟ้าเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจพบควนั จนค่าแรงดนั ไฟฟ้าเกินจากท่ีกาหนดไวบ้ อร์ด
Arduino จะทาการส่งขอ้ มูลไปในระบบเพอ่ื ทาการเกบ็ วนั เวลาและตาแหน่งของเซ็นเซอร์ที่ตรวจพบควนั
พร้อมท้งั ส่งขอ้ ความแจง้ ใหก้ บั ผดู้ ูแลทราบจากผลการทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ตรวจจบั ควนั บุหร่ี
พบวา่ อุปกรณ์สามารถตรวจจบั ควนั ไดใ้ นระยะพ้นื ที่ไมเ่ กิน 20 ตารางเมตร สามารถเก็บขอ้ ความและส่ง
ขอ้ ความหาผดู้ ูแลไดใ้ นทนั ทีที่ตรวจพบควนั บุหรี่ ผชู้ ่วยศาสตราจารยส์ ุราชาติสินวรณ์ และคณะ (2557) ได้
ทาการศึกษาเรื่องการพฒั นาระบบตรวจจบั การร่ัวไหลของกา๊ ซแอลพจี ีและควนั เพอื่ การแจง้ เตือนภยั ฉุกเฉิน
จากการวจิ ยั ในคร้ังน้ี พบวา่ ระบบตรวจจบั การร่ัวไหลของกา๊ ซหุงตม้ มีการประยกุ ตน์ าเทคโนโลยมี าใชใ้ น
การแจง้ เตือน เพื่อรองรับการส่งสญั ญาณเตือนภยั จากชุดอุปกรณ์การตรวจจบั กา๊ ซหุงตม้ ที่ถูกติดต้งั ไวโ้ ดยท่ี
เซ็นเซอร์ สามารถตรวจจบั ค่าความเขม้ ขน้ ของก๊าซหุงตม้ ไดถ้ ึง 20,000 พีพีเอม็ (ppm) ซ่ึงผลการศึกษา พบวา่

ระบบสามารถตรวจจบั กา๊ ซหุงตม้ และสามารถแจง้ เตือนผา่ นระบบสญั ญาณเสียงไซเรนมีระบบการ ระบาย
อากาศและการแจง้ เตือนผา่ นสญั ญาณโทรศพั ทม์ ือถือซ่ึงผลจากการสอบระยะเวลาในการสง่ั การใหแ้ จง้
เตือนผา่ นระบบสัญญาณเสียงไซเรนและการทางานของพดั ลมระบายอากาศอยรู่ ะหวา่ ง 4.80-6.02 วนิ าที
ระยะเวลาส่ังการใหร้ ะบบแจง้ เตือนผา่ นสญั ญาณโทรศพั ทม์ ือถือทางานอยรู่ ะหวา่ ง 11.13-16.39 วนิ าทีซ่ึง
จากการทดสอบคร้ังท่ี 12 มีการทางานของระบบเร็วท่ีสุดและผลจากการตรวจวดั ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซมีเทน
ที่เซ็นเซอร์ตรวจจบั ไดอ้ ยรู่ ะหวา่ ง 10,000-20,000 พพี เี อม็ (ppm) ซ่ึงมีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานอยใู่ นระดบั เกณฑ์
ท่ียอมรับไดแ้ ละผลการประเมินประสิทธิภาพในการแจง้ เตือนอยใู่ นเกณฑด์ ีมากระบบจึงมีความเหมาะสมท่ี
จะนาไปใชง้ านในสภาพการทางานจริงไดก้ ระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศูนยเ์ ทคโนโลยี
อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สานกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (เนคเทค –
สวทช.) ไดค้ ิดคน้ วิจยั และพฒั นาบอร์ดส่งเสริมการเรียนโปรแกรมม่ิง โดยดาเนินโครงการสื่อการสอน
โปรแกรมม่ิงในโรงเรียน หรือ Coding at School ดว้ ยบอร์ดสมองกลฝังตวั KidBright ซ่ึงมีจุดมุ่งหมาย
ในการพฒั นาศกั ยภาพ ระหวา่ งความคิดเชิงตรรกะ และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในลกั ษณะการเรียนรู้แบบ
learn and play ไดร้ ับการออกแบบ ใหเ้ หมาะสาหรับเด็กและเยาวชน ท่ีตอ้ งการเรียนรู้การทางานและการ
เขียนโปรแกรมสาหรับอุปกรณ์สมองกลฝังตวั (Embedded Board) และอุปกรณ์ตวั เซนเซอร์ตรวจจบั พ้นื ฐาน

บทที่ 3
การดาเนินงาน

โครงงาน เคร่ืองดกั จบั ควนั บุหรี่ ผโู้ ครงงานไดด้ าเนินการ ดงั ต่อไปน้ี
1. กลุ่มตวั อยา่ ง
2. ข้นั ตอนการออกแบบ
3. เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการทาโครงงาน
4. ข้นั ตอนการทาเคร่ืองดกั จบั ควนั บุหร่ี (บอร์ดkidbright)
5. วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล
6. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล
7. สถิติท่ีใชใ้ นการโครงงาน

1. กลุ่มตวั อยา่ งเพ่ือการใชน้ วตั กรรม คือ นกั เรียนชาย โรงเรียนบรบือจานวน 10 คน
2.ข้นั ตอนการออกแบบ

การออกแบบไอโซเมตริก

3.เครื่องมือที่ใชใ้ นการโครงงาน จานวน จานวนเงิน (บาท)
1.) อุปกรณ์ในการทาเครื่องดกั จบั ควนั บุหร่ี 1 ตวั -
1 ตวั 315.75
ลาดบั รายการ 3 เส้น 65
1 บอร์ด Kid Bright 2 เส้น -
2 เซนเซอร์ตรวจจบั ควนั MQ-2 1 ตวั -
3 สาย Jumper เมีย
4 สาย USB - 375.75
5 Adapter
รวม

2.) แบบสอบถาม ความพงึ พอใจ ของเครื่องดกั จบั ควนั บุหรี่
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSeu7hV9hjO5R2p7mExUVcm0BRnyDJ_MyviYsTa
FgfXHK14iNA/viewform?fbclid=IwAR03UCK4YPx9zEoyqdwpJNC4eqEz624zBNeWDeI60ObEpEww
k1z9XwFC9w4

4.ข้นั ตอนการทาเครื่องดกั จบั ควนั บุหรี่ (บอร์ดKidbright)
1.) สร้างโคด้ การทางานของบอร์ด Kidbright ในโปรมแกรม Kidbright

2.) เช่ือมต่อสายไฟเซนเซอร์เขา้ กบั บอร์ด Kidbright

5. วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล
1. ศึกษาเก่ียวกบั ระบบแจง้ เตือนควนั ขนาดเล็ก ซ่ึงจะทาการพฒั นาเคร่ืองเตือนควนั บุหร่ี ให้

สามารถตรวจจบั ควนั ท่ีเกิดจากควนั บุหร่ี
2. นาระบบไปติดต้งั ในบริเวณหอ้ งน้าชาย และใหต้ ้งั ระบบใหป้ ฏิบตั ิการ หากมีสัญญาณแจง้ เตือน

เตือน คุณครูกจ็ ะลงมาตรวจท่ีหอ้ งน้าทนั ที และก็จะลงโทษ
เป็นข้นั ตอนต่อไป

3. เมื่อสิ้นสุดภาคเรียน ผทู้ าโครงงานใหก้ ลุ่มตวั อยา่ ง ทาแบบสอบถามความพงึ พอใจ ของ
เคร่ืองดกั จบั ควนั บุหรี่ ส่งเสียงสัญญาณเตือน
6.การวเิ คราะห์ขอ้ มูล

หาคา่ ความพงึ พอใจ ของเคร่ืองเตือนควนั บุหร่ี ส่งเสียงสัญญาณเตือน

7.สถิติท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล

1.คา่ เฉลี่ย

x̅ = ∑x

N

x̅ = คา่ เฉลี่ยของคะแนน
∑X = ผลรวมของคะแนน
N = จานวน

2.ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน

S.D. = √NΣx2−(∑x)2

N(N−1)

S.D. = ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
∑(x − x̅) = ผลรวมลบดว้ ยคะแนนเฉลี่ย
N = จานวน

บทที่ 4

ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล

โครงงาน เคร่ืองดกั จบั ควนั บุหร่ี คณะผจู้ ดั ทาโครงงานไดด้ าเนินการ ดงั ตอ่ ไปน้ี โดยนาเสนอเป็ น 2
ตอนดงั น้ี

ตอนท่ี 1 ผลการศึกษาขอ้ มูลทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
ตอนที่ 2 ผลการศึกษาความคิดเห็น

ตอนที่ 1 ผลการศึกษาขอ้ มูลทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
ขอ้ มูลทวั่ ไป

ขอ้ มูลพ้นื ฐานของผตู้ อบแบบสอบถาม จานวน ร้อยละ
1. เพศ
22 56
ชาย 28 44
หญิง

รวม 50 100

2. อายุ 5 10
ต่ากวา่ 15 36 72
16 – 25 ปี 5 10
26 – 34 ปี 48
36 – 45 ปี --
46 – 55 ปี --
มากกวา่ 55ปี

รวม 50 100

3.ระดบั การศึกษา --
ประถมศึกษา 6 12
มธั ยมศึกษาตอ้ นตน้ 32 64
มธั ยมศึกษาตอนปลาย 12 24
ปริญญาตรี --
อ่ืน ๆ

รวม 50 100

4.สถานภาพ 38 76
นกั เรียน นกั ศึกษา 12 24
ครู ขา้ ราชการ --
ธุรกิจส่วนตวั --
ลูกจา้ ง --
เกษตรกร --
อื่น ๆ

รวม 50 100

จากตาราง พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 56
และเพศชาย จานวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 44 ส่วนใหญ่มีอายุ 16-25 ปี จานวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 72
รองลงมาคือ อายตุ ่ากวา่ 15 จานวน 5 คิดเป็นร้อยละ 10 และ อายุ 26-34 ปี จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 10
และรองลงมาอีกคือ 36-45 ปี จานวน 4 คน คิดเป็ นร้อยละ 8 ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญอ่ ยใู่ นระดบั
การศึกษา คือ มธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน 32 คน คิดเป็ นร้อยละ 64 รองลงมาคือ ปริญญาตรี จานวน 12
คน คิดเป็ นร้อยละ 24 และรองลงมาอีกคือ มธั ยมศึกษาตอนตน้ จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 12 มีสถานภาพ
เป็นนกั เรียน นกั ศึกษา จานวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 76 และรองลงมาคือ ครู ขา้ ราชการ จานวน 12 คน คิด
เป็นร้อยละ 24

ตอนที่ 2 ผลการแสดงความคิดเห็น

ตารางท่ี 4 คา่ เฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และผลกสนแปรผลความพึงพอใจ การพฒั นาเครื่องดกั
จบั ควนั บุหร่ี

หวั ข้อประเมนิ x̅ S.D. แปลผล

1.ประสิทธิภาพในการทางานของเคร่ืองดกั จบั ควนั บุหรี่ 4.52 0.82 มากที่สุด

2.ความเหมาะสมของขนาดชิ้นงาน 4.44 0.63 มาก

3.ทางานง่ายไมซ่ บั ซอ้ น และสะดวกในการติดต้งั 4.50 0.81 มากที่สุด

4.มีความแขง็ แรง ทนทาน สามารถนาไปใชไ้ ดจ้ ริง 4.36 0.59 มาก

รวม 4.46 0.65 มาก

หมายเหตุ : การหาคา่ เฉลี่ยในการแปลผล มากท่ีสุด = 5,มาก = 4, ปานกลาง = 3, นอ้ ย = 2 และ นอ้ ยที่สุด = 1

จากตาราง พบวา่ โดยรวมมีความพึงพอใจในระดบั มากที่สุด โดยดูราบละเอียดพบวา่ ประสิทธิภาพ
ในการทางานของเครื่องดกั จบั ควนั บุหรี่ มีคา่ เฉลี่ย 4.52 รองลงมาคือ ทางานง่ายไมซ่ บั ซอ้ น และสะดวกใน
การติดต้งั มีคา่ เฉล่ีย 4.50

บทท่ี 5

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

โครงงานคร้ังน้ีเป็นโครงงานเชิงทดลอง (experimental research) มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อศึกษาเกี่ยวกบั
ระบบการดกั จบั ควนั บุหรี่ และส่งสญั ญาณส่งสญั ญาณแจง้ เตือน สร้างนวตั กรรม เคร่ืองดกั ควนั บุหรี่ ใชใ้ น
โรงเรียน พฒั นาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์มาต่อยอดองคค์ วามรู้เดิมใหเ้ กิดเป็นองคค์ วามรู้ใหมๆ่
กลุ่มตวั อยา่ งท่ีใชเ้ ป็นนกั เรียนชาย 10 คน ของโรงเรียนบรบือ เครื่องมือท่ีใชใ้ นการโครงงานไดแ้ ก่
นวตั กรรมเคร่ืองเตือนควนั บุหรี่ ส่งเสียงสญั ญาณเตือน และแบบประเมินความพึงพอใจของ
นกั เรียน ที่มีตอ่ เคร่ืองเตือนควนั บุหร่ี สถิติท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล
สรุปผลการโครงงาน

1. เคร่ืองเตือนจบั ควนั บุหร่ี ส่งเสียงสัญญาณเตือนสามารถใชง้ านไดจ้ ริงและ มีประสิทธิภาพ
2. ผลการศึกษาความพงึ พอใจของนกั เรียนต่อเครื่องเตือนควนั บุหรี่ ส่งเสียงสญั ญาณเตือน พบวา่
เคร่ืองเตือนควนั บุหรี่ ส่งเสียงสัญญาณเตือนโดยรวมอยใู่ นระดบั ดีมาก และผลจากวเิ คราะห์แบบสอบถาม
พบวา่ นกั เรียนและบุคลากรของโรงเรียนบรบือ ส่วนมาก พอใจเครื่องเตือนควนั บุหรี่
อภิปรายผลการโครงงาน
จากการทาโครงงานเคร่ืองดกั จบั ควนั บุหร่ีและส่งสญั ญาณเสียง จงั หวดั มหาสารคามเพื่อแกป้ ัญหา
นกั เรียนท่ีสูบบุหรี่ในโรงเรียน และจากการทดลองพบวา่ สามารถนาไปใชไ้ ดจ้ ริงรวมถึงสามารถนาไปพฒั นา
ใหม้ ีประสิทธิภาพใหม้ ากข้ึน
ข้อเสนอแนะ
-ในการนาผลโครงงานไปใชเ้ พ่อื เพ่ิมประสิทธิภาพในการทางานของเคร่ืองดกั ควนั บุหรี่ ควรติดต้งั
กลอ้ งวงจรปิ ด ไวเ้ พือ่ ดูความเคล่ือนไหวในหอ้ งน้า เวลาเครื่องตรวจจบั ควนั แลว้ พบผสู้ ูบบุหร่ี จะไดท้ ราบวา่
เป็นใคร เพอื่ นาตวั มาแกไ้ ขเป็ นลาดบั ต่อไป เป็นโครงงานที่มีประโยชนแ์ ละควรติดต้งั ในหอ้ งน้าหอ้ งน้าทุก
หลงั ของโรงเรียน
-ในการโครงงานคร้ังต่อไป สาหรับโครงงานเรื่องเคร่ืองตรวจจบั ควนั บุหรี่น้ี จดั ทาโดยโรงเรียน
บรบือ หากมีผสู้ นใจในการศึกษาตอ่ ไป ควรมีการพฒั นาระบบการแจง้ เตือน ใหส้ ามารถ แจง้ เตือนและ
ตรวจสอบผกู้ ระทาผิด ไดท้ นั ตามเวลา หรือแจง้ เตือนไปที่ระบบดูแล ฝ่ ายกิจการนกั เรียน เพือ่ การแกไ้ ขใน
ลาดบั ต่อไป

บรรณานุกรม

https://www.princess-it-foundation.org/project
https://www.youtube.com/watch


Click to View FlipBook Version