แม่เบญจา

โครงงานประวัวั วั ติ วั ติ ติศติ าสตร์ร์ ร์ ท้ ร์ ท้ ท้ อ ท้ องถิ่ถิ่ ถิ่ น ถิ่ น จัดทำ โดย นายทรงเดช ขันขัพระเเสง ม.6/7 เลขที่ 4 นางสาวอภิญภิญา คาร ม.6/7 เลขที่ 11 นางสาวสุภัสภัสรา ทรัพย์สิย์ สิน ม.6/7 เลขที่ 15 ครูที่ปรึกษา คุณครูสุพจน์ ชำ นาญกิจ คุณครูกุลสตรี แซ่หลี เรื่รื่ รื่ อง รื่ อง แม่ ม่เบญจา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาเเละวัฒนธรรม โรงเรียนพนมเบญจาอำ เภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขตตรัง กระบี่

กิตติกรรมประกาศ โครงงานเล่มนี้สำ นี้ สำเร็จร็ลุล่ลุล่วงไปได้ด้ด้วด้ยความกรุณรุาจากอาจารย์สุย์พสุจน์ ชำ นาญกิจ และอาจารย์กุย์ลกุสตรี เเซ่หซ่ลี อาจารย์ที่ย์ ที่ปรึกรึษาโครงงานที่ได้ใด้ห้คำห้ คำ เสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแก้ไขข้อข้บกพร่อร่งต่าง ๆ มาโดยตลอด จนโครง งานเล่มนี้เ นี้ สร็จร็สมบูรณ์ ผู้ศึผู้ ศึกษาจึงจึขอกราบขอบพระคุณคุเป็นป็อย่าย่งสูงสู ขอกราบขอบพระคุณคุคุณคุพ่อพ่คุณคุแม่แม่ละผู้ปผู้ กครอง ที่ให้คำห้ คำ ปรึกรึษาใน เรื่อรื่งต่าง ๆ รวมทั้งทั้เป็นป็กำ ลังใจที่ดีเดีสมอมา ขอบคุณคุเพื่อพื่น ๆ ที่ช่วช่ยให้คำห้ คำแนะนำ ดี ๆ เกี่ยวกับการให้คห้วามร่วร่มมือมื ในหลายๆด้าด้น จนทำ ให้โห้ครงงานสำ เร็จร็ลุล่ลุล่วงไปได้ ทรงเดช ขันขัพระแสง อภิญญา คาร สุภัสุภัสสรา ทรัพรัย์สิย์นสิ ก

โครงงาน : แม่เม่บญจา ผู้จัผู้ ดจัทำ : นายทรงวุฒิ พูลสวัสวัดิ์ , นางสาวเพชรพลอย คชเชนทร์,ร์ นางสาวกมลพร แก้วมณี, ณีนางสาวศิโรรัตรัน์ แซ่ก้ซ่ ก้อง , นายทรงเดช ขันขัพระเเสง, นางสาวอภิญญา คาร,นางสาวสุภัสุภัสสรา ทรัพรัย์สิย์นสิ อาจารย์ที่ย์ ที่ปรึกรึษา : คุณคุครูสุรูพสุจน์ ชำ นาญกิจ, คุณคุครูกุรูลกุสตรี เเซ่หซ่ลี สถานศึกษา : โรงเรียรีนพนมเบญจา ปีกปีารศึกษา ; 2565 บทคัดย่อย่ การเขียขีนโครงงานรายวิชวิาประวัติวั ติศาสตร์ไร์ทย ส 33104 ชั้นชั้ มัธมัยมศึกษาปี ที่ 6 เรื่อรื่ง แม่เม่บญจา เป็นป็เทพารักรัษ์ผู้หผู้ ญิงญิที่ถือว่าว่ศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์จธิ์ะให้คห้วามคุ้มคุ้เกรง รักรัษาได้คด้นเฒ่าฒ่คนแก่หลายคนเล่าเกี่ยวกับสิ่งสิ่ศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์ที่ธิ์ ที่ อยู่ใยู่นอำ เภอ เขาพนมว่าว่ ในอำ เภอนั้นนั้มีสิ่มีงสิ่ศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์ที่ธิ์ ที่ คอยปกปักรักรัษาลูกลูหลานในอำ เภอ เขาพนมอยู่ การศึกษาค้นคว้าว้และข้อข้ค้นพบจากการสัมสัภาษณ์แณ์ละค้นหา ข้อข้มูล ทางอินเทอร์เร์น็ตน็มีวัมีตวัถุปถุระสงค์เพื่อพื่การถ่ายทอดองค์ความรู้ขรู้อง ประวัติวั ติความเป็นป็มาของเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม อำ เภอเขาพนม จังจัหวัดวักระบี่ สามารถนำ ความรู้ที่รู้ที่ได้รัด้บรัไปประยุกต์ใช้ใช้นชีวิชีตวิ ประจำ วันวัและเผยแพร่ต่ร่ ต่อ สาธารณะ ข

สารบัญ เรื่อรื่ง หน้า กิตติกรรมประกาศ ก บทคัดย่อย่ ข สารบัญบั ค บทที่ 1 บทนำ 1 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อข้ง 3 บทที่ 3 วิธีวิกธีารดำ เนินนิงาน 11 บทที่ 4 ผลการดำ เนินนิงาน 13 บทที่ 5 สรุปรุอภิปราย และข้อข้เสนอแนะ 15 บรรณานุกนุรม 16 ภาคผนวก 17 ประวัติวั ติผู้จัผู้ ดจัทำ 20 ค

บทที่1 บทนำ แนวคิด ที่มา และความสำ คัญ อำ เภอเขาพนม เป็นป็สถานที่ที่สวยงามมีภูมีเภูขาที่ตั้งตั้สูงสูตระหง่านอยู่ นั่นนั่ คือภูเภูขาพนมเบญจา เป็นป็ทั้งทั้สถานที่ท่องเที่ยว เป็นป็ทั้งทั้เขตอนุรันุกรัษ์ เขาพนม เบญจาเป็นป็หนึ่งนึ่ในไฮไลต์ที่ทำ ให้มีห้คมีนมาเที่ยวในอำ เภอเขาพนม คนเฒ่าฒ่คนแก่หลายคนเล่าเกี่ยวกับสิ่งสิ่ศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์ที่ธิ์ ที่ อยู่ใยู่นอำ เภอเขาพนม ว่าว่ ในอำ เภอนั้นนั้มีสิ่มีงสิ่ศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์ที่ธิ์ ที่ คอยปกปักรักรัษาลูกลูหลานในอำ เภอเขาพนมอยู่ นั่นนั่คือเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม พวกเราจึงจึสงสัยสัว่าว่เจ้าจ้แม่เม่ขาพนมเกิดได้อด้ย่าย่งไรเเละมีปมีระวัติวั ติอย่าย่งไร เลยทำ ให้เห้กิดการทำ โครงงานเล่มนี้ขึ้ นี้ ขึ้นขึ้มา วัตวัถุปถุระสงค์ 1.เพื่อพื่ศึกษาประวัติวั ติศาสตร์เร์จ้าจ้แม่เม่ขาพนม 2.เพื่อพื่รู้จัรู้กจัการวางแผนการทำ งานอย่าย่งเป็นป็ระบบ ขั้นขั้ตอน และการแก้ปัญหา หลากหลายวิธีวิ ธี 3.เพื่อพื่นำ ความรู้ที่รู้ที่ จากการทำ โครงงาน มาประยุกต์ใช้ใช้นชีวิชีตวิ ประจำ วันวัและเผย แพร่ต่ร่ ต่อที่สาธารณะ 1

สถานที่ดำ เนินนิงาน ศาลเจ้าจ้เขาพนม, 34/2หมู่9มู่ตำ บลเขาพนม อำ เภอเขาพนม จังจัหวัดวั กระบี่ 81140, 244 บี่ หมู่10 มู่ตำ บลเขาพนม อำ เภอเขาพนม จังจัหวัดวักระบี่ 81140 ผลที่คาดว่าว่จะได้รับรั 1.ได้ทด้ราบประวัติวั ติความเป็นป็มาของเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม 2. ได้รู้ด้จัรู้กจัการทำ งานเป็นป็กลุ่มลุ่วางแผนการทำ งานเป็นป็ระบบขั้นขั้ตอน 3.ได้นำด้นำความรู้ที่รู้ที่ได้จด้ากการทำ โครงงานไปเผยแพ่ใพ่ห้กัห้ กับบุคคบุคคที่สนใจ 2

บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง เอกสารที่เกี่ยวข้อข้งกับคำ ศาลเจ้าจ้หมายถึง ศาลเจ้าจ้ชาวคาทอลิกเรียรีกว่าว่สักสัการสถาน ตรงภาษา อังกฤษว่าว่ “Shrine” มาจากภาษาละติน “Scrinium” ที่แปลว่าว่ “หีบหีสำ หรับรั หนังนัสือสืหรือรืเอกสาร” และภาษาฝรั่งรั่เศสเก่า “escrin” ที่แปลว่าว่ “กล่องหรือรื หีบหี ”[1] คือสถานที่ศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์ที่ธิ์ ที่ อุทิศให้แห้ก่บุคคลสำ คัญทางศาสนา บรรพบุรุษ วีรวีบุรุษรุมรณสักสัขี นักนับุญ เทพเจ้าจ้หรือรืบุคคลที่มีคมีวามสำ คัญหรือรืเป็นป็ที่นับถือ ผู้เผู้ป็นป็ที่สักสัการะ ในศาลมักมัจะประกอบด้วด้ยรูปรูเคารพ วัตวัถุมถุงคล หรือรืสิ่งสิ่ของ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อข้งกับผู้เผู้ป็นป็ที่สักสัการะ[2] ศาลที่สร้าร้งขึ้นขึ้เพื่อพื่รับรัสิ่งสิ่สักสัการะ เรียรีกว่าว่ “แท่นบูชา” ศาลเจ้าจ้เป็นป็สิ่งสิ่ที่พบในศาสนาแทบทุกทุศาสนาในโลกที่รวม ทั้งทั้ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสริต์ ศาสนาฮินดู ศาสนาพื้นพื้บ้าบ้นจีนจี และศาสนาชินชิ โต และการใช้ใช้นทางที่ไม่เม่กี่ยวกับศาสนาเช่นช่รำ ลึกสถานเกี่ยวกับ สงคราม[3] ศาลเจ้าจ้มีลัมี ลักษณะต่างกันไปหลายอย่าย่ง ปูชนียนีสถานบางแห่งห่ก็ตั้งตั้ อยู่ภยู่ายในโบสถ์ วัดวัสุสสุาน หรือรืแม้แม้ต่ในบ้าบ้นเรือรืนที่อยู่อยู่าศัย หรือรืบางครั้งรั้ก็จะ เป็นป็แบบที่เคลื่อนย้าย้ยได้[4] ด้เช่นช่ ในลักษณะของ “หีบหีวัตวัถุมถุงคล” 3

รูปรูภาพที่1.1 สักสัการสถานของโฮเดเกเทรียรีมหาวิหวิารอัสสัมสัชัญชั ในกรุงรุสโมเลงสค์ ประเทศรัสรัเซียซีค.ศ1912 รูปรูภาพที่1.2 หีบหีสามกษัตริย์ริขย์องมหาวิหวิารโคโลญในเยอรมนีที่นี ที่ บรรจุ กระดูกดูของโหราจารย์ถืย์ ถือกันว่าว่เป็นป็ “หีบหีสักสัการะ” 4

รูปรูภาพที่1.3 ภาพเขียขีน “The Shrine” โดยจอห์นห์วิลวิเลียม วอเทอร์เร์ฮาส์ ค.ศ. 1895 ศาลเจ้าจ้บางครั้งรั้ก็อาจจะกลายมาเป็นศูนย์กย์ลางที่ประดิษดิฐาน เทวรูปรูต่าง ๆ เจ้าจ้แม่ ม่หมายถึง เทพารักรัษ์ผู้หผู้ ญิงญิที่ถือว่าว่ศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์จธิ์ะให้คห้วามคุ้มคุ้เกรง รักรัษาได้ เช่นช่เจ้าจ้แม่ทัม่ ทับทิม หญิงญิผู้เผู้ป็นใหญ่หญ่รือรืมีอิมี อิทธิพธิลในถิ่นนั้นนั้ เขาพนม หมายถึง ภูเภูขาที่เป็นป็ ปราการ ประวัติวั ติความเป็นป็มาของเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม ความเป็นป็มาและประวัติวั ติของเจ้าจ้แม่เม่ขาพนมเบญจา โดย นายสมปอง สิงสิห์ชูห์ชู ข้าข้พเจ้าจ้นายสมปอง สิงสิห์ชูห์ชูมีภูมีมิภูลำมิ ลำเนาเดิมดิอยู่ที่ยู่ ที่ ม.2 บ้าบ้นทุ่งทุ่ปรือรื อ.เขาพนม จ.กระบี่ เมื่อมื่อายุ 12 ปี ได้รัด้บรัคำ บอกเล่าเกี่ยวกับเจ้าจ้แม่เม่ขาพนมจาก ทวดอินทร์ คล้ายบุตร ญาติผู้ใผู้หญ่ คนหนึ่งนึ่ซึ่งซึ่ในขณะนั้นนั้ผู้เผู้ล่าอายุเกือบ 100 ปี โดยเรื่อรื่งราวดังดักล่าวเป็นป็ที่ทราบกันดีขดีองคนใน หมู่บ้มู่าบ้นแถบ อ.เขาพนม เนื่อนื่งจากเวลาเดือดืดร้อร้น หรือรืมีสิ่มีงสิ่ของสูญสูหาย อาทิ โจรขโมยของ วัววัควายหาย หรือรืเรื่อรื่งอื่นๆ ก็จะพากันมาบนบานขอพรจากเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม และต่อมาคำ อธิษธิฐาน ต่าง ๆ ที่ตนขอไว้ก็ว้ ก็มักมัจะเป็นป็จริงริจนเป็นป็ที่กล่าวขานในเรื่อรื่งอิทธิฤธิทธิ์ ปาฏิหาริย์ริขย์องเจ้าจ้แม่อม่งค์นี้ 5

จากคำ บอกเล่าเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม เดิมดิชื่อชื่นางสาวเบญจา เป็นป็ธิดธิา ของ พระยานคร (น้อน้ย) เจ้าจ้เมือมืงนครศรีธรีรรมราช ซึ่งซึ่สันสันิษนิฐานว่าว่เป็นป็ลูกลูเธอใน สมเด็จด็พระเจ้าจ้ตากสินสิมหาราช ดังดัมีข้มีอข้ความใน พระราชวิจวิารณ์ที่ณ์ ที่ พระเจ้าจ้บรม วงศ์เธอ กรมพระสมมุตอมรพันพัธุ์ ทรงอ้างคือพระราชวิจวิารณ์ใณ์นพระราชสมเด็จด็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าจ้อยู่หัยู่วหัรัชรักาลที่ 5 ซึ่งซึ่ทรง พระราชวิจวิารณ์เณ์รื่อรื่งจดหมายเหตุ ความทรงจำ ของกรมหลวงนรินริทรเทวี ตอนที่ตรัสรัถึง เจ้าจ้พระยานคร (น้อน้ย) ทว่าว่ ในที่นี้ ขออนุญนุาตอ้างถึงข้อข้สันสันิษนิฐานพึงพึสังสัเกตของ Mr. Marvel นักนัเขียขีนของ The University of Oxford ผู้เผู้ขียขีนเรื่อรื่ง Naga King a Daughter กับเมือมืง นครศรีธรีรรมราช สันสันิษนิฐานว่าว่สมเด็จด็พระเจ้าจ้ตากสินสิ ได้มด้าสิ้นสิ้พระชนม์ที่ม์ ที่ นครศรีธรีรรมราช และบรรจุบัฐิบัรฐิวมกับอัฐพระยานคร (น้อน้ย) รูปรูภาพที่2.1 พระยานคร (น้อน้ย) เจ้าจ้ผู้คผู้ รองนครนครศรีธรีรรมราช 6

ขณะที่นางสาวเบญจาอายุย่าย่งเข้าข้วัยวัสาวได้ขด้อพระราชทาน พระอนุญนุาต จากพระบิดบิาไปเที่ยวแขวงเมือมืงปกาสัยสั โดยแขวง เมือมืงดังดักล่าวนี้ต่ นี้ ต่อมาได้เด้ป็น ส่วส่นหนึ่งนึ่ของจังจัหวัดวักระบี่ใบี่ นปัจจุบันบั (ขณะนั้นนั้ยังยัไม่ก่ม่ ก่อตั้งตั้จังจัหวัดวักระบี่ นางสาว เบญจาและไพร่พร่ล ได้เด้ดินดิทางด้วด้ยการใช้ช้ช้าช้งมาเป็นป็ขบวน ในขณะที่มาถึงแขวง ปกาสัยสัก็เกิดตกหลุมลุรักรักับทหารองครักรัษ์คนหนึ่งนึ่หลังจากเดินดิทางกลับ ไปยังยั หัวหัเมือมืงนครศรีธรีรรมราช นางจึงจึกราบทูลทูเรื่อรื่งราวความรักรัของนางให้พห้ระราช บิดบิาทรงทราบ แต่ก็ได้รัด้บรัการขัดขัขวางความรักรัในครั้งรั้นั้นนั้พร้อร้มกับมีรัมีบรัสั่งสั่ให้ ลงโทษประหารชีวิชีตวิทหารองครักรัษ์ผู้นั้ผู้ นนั้ความทราบถึงนางสาวเบญจา นางก็ เสียสี ใจเป็นป็อย่าย่งยิ่งยิ่จึงจึตัดสินสิ ใจเดินดิทางออกจากหัวหัเมือมืงนครศรี ธรรมราชเพื่อพื่ เดินดิทางกลับไปยังยัแขวงปกาสัยสัอนุสนุรณ์สณ์ถานความรักรัของนางและทหาร องครักรัษ์ผู้นั้ผู้ นนั้เพื่อพื่บวชชีพชีราหมณ์ ปฏิบัติบั ติสมาธิภธิาวนา ณ อำ เภอเขาพนม และ ตั้งตั้ปฏิญาณเอาไว้ว่ว้าว่จะไม่ยม่อมกลับ เมือมืงนครศรีธรีรรมราชอีกเป็นป็อันขาด สร้าร้ง ความร้อร้นพระทัยให้แห้ก่พระยานคร (น้อน้ย) พระราชบิดบิา เป็นป็อย่าย่งยิ่งยิ่พระองค์จึงจึ มีรัมีบรัสั่งสั่ให้สห้นมเอก 2 คน คือ นางฉันทนา และนางแจะจันจัทร์ไร์ปเกลี้ยกล่อม ให้ พระธิดธิากลับมายังยัเมือมืงนครศรีธรีรรมราช พร้อร้มกับกำ ชับชัสนมทั้งทั้ 2 นางว่าว่ “ถ้า มึงมึเอาลูกลูถูกถูลับมา ไม่ไม่ด้ ก็ไม่ต้ม่ ต้องกลับมาให้เห้ห็นห็อีก” เมื่อมื่รับรั ปากต่อพระยานคร (น้อน้ย) แล้วสนมทั้งทั้สองจึงจึยกขบวนไพร่พร่ล ด้วด้ยทัพข้าข้งออกเดินดิทางไปรับรั นางสาวเบญจา โดยบริเริวณที่ตั้งตั้ขบวนดังดักล่าวต่อมาสถานที่แห่งห่นั้นนั้ถูกถูเรียรีกว่าว่ หมู่บ้มู่าบ้นทัพพล ปัจจุบันบักลายเป็นป็หมู่บ้มู่าบ้นหน้าน้เขาพนม ในขณะที่ยกขบวนดังดักล่าว ก็เกิด เหตุกตุารณ์ข้ณ์าข้งล้มหลายเชือชืก ชาวบ้าบ้นจึงจึเรียรีกสถานที่แห่งห่นั้นนั้ว่าว่หมู่บ้มู่าบ้น “ช้าช้งตาย” ครั้นรั้ ได้พด้บกับ นางสาวเบญจา นางฉันทนา และนางแจะจันจัทร์ก็ร์ ก็ได้เกลี ยกล่อมอยู่เยู่ ป็นป็เวลานาน ก็ไม่สม่ามารถนำ นางสาวเบญจากลับเมือมืง นครศรีธรีรรมราชได้ สนมทั้งทั้สองจึงจึจำ ต้องเดินดิทางกลับเมือมืง เมื่อมื่ขบวน บาง ส่วส่นเดินดิทางมาถึงบริเริวณบ้าบ้นบางเหรียรีง บริเริวณดังดักล่าวมีช่มีอช่งเขา 2 ช่อช่ง นาง ทั้งทั้สองต่างก็ ถูกถูเถียงกันว่าว่จะกลับเมือมืงหรือรืไม่ แล้วถ้ากลับจะกลับกันทางเขา ช่อช่งใด ในที่สุดสุนางทั้งทั้สองจึงจึตกลงกันได้ว่ด้าว่ ในเมื่อมื่ภาระที่พระยานคร (น้อน้ย) 7

มอบหมายไม่สำม่สำเร็จร็ก็ไม่คม่วรกลับไปให้พห้ระองค์ เห็นห็หน้าน้อีก จึงจึชวนกันกระโดด บริเริวณช่อช่งเขาทั้งทั้สอง ช่อช่งเขาที่นางฉันทนากระโดดลงไปจึงจึถูกถูขนานนามมา จนถึงปัจจุบันบัว่าว่ “ช่อช่งเขาฉันทนา” หรือรืตามสำ นวนท้องถิ่นที่ชาวบ้าบ้น เรียรีกว่าว่ “ช่อช่งฉันนาส่วส่นช่อช่งเขาที่นางแจะจันจัทร์ฆ่ร์าฆ่ตัวตายก็ได้รัด้บรัการขนานนามตามชื่อชื่ สั้นสั้ๆของนางว่าว่ “ช่อช่งแจะ” เพื่อพื่เป็นป็อนุสนุรณ์ใณ์นความจงรักรัภักดีแดีละความซื่อซื่สัตสัย์ ของนางทั้งทั้สองที่มีต่มี ต่อ พระยานคร (น้อน้ย) จากคำ บอกเล่าดังดักล่าวจึงจึถือเป็นป็หลักฐานที่ชัดชัเจนให้เห้ห็นห็ว่าว่ ประวัติวั ติศาสตร์แร์ละชื่อชื่ของ สถานที่แต่ละแห่งห่ต่างมีคมีวามสัมสัพันพัธ์ซึ่ธ์ซึ่งซึ่กันและกัน จน อาจเรียรีกได้ว่ด้าว่ “ภูมิภูนมิาม” ก็คือ นามของ สถานที่อันเกิดขึ้นขึ้จากภูมิภูเมิดิมดิก็เป็นป็ ได้ ผู้ อาวุโสยังยัได้เด้ล่าต่อไปอีกว่าว่ภายหลังแม่ชีม่เชีบญจาได้ได้ปจำ พรรษาอยู่ที่ยู่ ที่ ถ้ำ มรกต ปฏิบัติบั ติสมาธิภธิาวนาและบำ เพ็ญพ็ฌาณจนบรรลุผลุล บำ เพ็ญพ็ ประโยชน์ตน์ามแนว เนกขัมขัมะ จนมี ความสามารถต่าง ๆ เมื่อมื่เวลาล่วงเลยไปหลายปี แม่ชีม่เชีบญจาก็ เสียสีชีวิชีตวิลงท่ามกลางไพร่พร่ล บางส่วส่นที่คอยปรนนิบันิติบั ติแม้ใม้นท่วงท่าอาการของ การเสียสีชีวิชีตวิแม่ขี้ม่เ ขี้ บญจาก็ยังยัคงสำ รวม กาย วาจา ใจ นางจึงจึจากไปในลักษณะ ของการนอนหงายและพนมมือมืจากนั้นนั้ ประชาชนใน ละแวกใกล้เคียงต่างพากัน นับนัถือในความศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์จธิ์นเป็นป็ที่กล่าวขาน จากเดิมดิสถานที่ที่ เรียรีกว่าว่เขาพนม ก็ ถูกถูขนานนามใหม่เม่ ป็นป็ “เขาพนมเบญจา” เนื่อนื่งจากลักษณะทางกายภาพ ของ หุบหุเขาดังดักล่าวคล้ายกับท่าทางของหญิงญิสาวนอนพนมมือมืซึ่งซึ่สอดคล้องกับท่า เสียสีชีวิชีตวิของ แม่ชี้ม่เ ชี้ บญจา ดังดันั้นนั้ ในปีพุปีพุทธศักราช 2524 ชาวบ้าบ้น กำ นันนัผู้ใผู้หญ่ บ้าบ้น นายอำ เภอ และ ขุนพันพัธรักรัษ์ราชเดช จึงจึได้ร่ด้วร่มใจกันตั้งตั้ศาลเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม เบญจาไว้เว้คารพสักสัการะ บริเริวณ หน้าที่ว่าว่การอำ เภอเขาพนมจนถึงปัจจุบันบัและ ด้วด้ยเหตุนี้ตุนี่ นี้ เ นี่ องศาลเจ้าจ้แม่เม่ขาพนมเบญจาจึงจึถือ เป็นป็สัญสัลักษณ์ขณ์องอำ เภอ เขาพนมตั้งตั้แต่บัดบันั้นนั้เป็นป็ต้นมา 8

โดยจะมีกมีารทำ พิธีพิบูธีบูชา ทุกทุ ๆ วันวัที่ 5 มีนมีาคม ของทุกทุปี ซึ่งซึ่ในพิธีพิกธีรรมดังกล่าว ต่าง ก็เป็นป็ที่สนใจของชาวบ้าบ้นในละแวกใกล้เคียง กิจกรรมในพิธีพิจธีะมีกมีารจัดจัขึ้นขึ้ อย่าย่งยิ่งยิ่ใหญ่เญ่พื่อพื่รำ ลึกถึงคุณคุความดีขดีองเจ้าจ้แม่เม่ขาพนมเบญจา โดยจะมีขมีบวน ของศาลเจ้าจ้สำ นักนัต่างๆในพื้นพื้ที่ และจังจัหวัดวั ใกล้เคียงทั้งทั้แบบธรรมเนียนีมจีนจี พราหมณ์ และลัทธิต่ธิ ต่างๆมาร่วร่มในพิธีพิ ธีพร้อร้มกับ การประกอบพิธีพิตธีามธรรมเนียนีม พราหมณ์อณ์ย่าย่งสมบูรณ์เณ์พื่อพื่ความเป็นป็สิริสิมริงคลแก่องค์เจ้าจ้แม่ และผู้มผู้ าร่วร่มงาน ตลอด รูปรูภาพที่2.2 เจ้าจ้แม่เม่ขาพนม พลิกตานานศาลเจ้าจ้แม่เม่ขานม ตั้งตั้อยู่หยู่น้าน้สำ นักนังานเกษตรอำ เภอเขาพนม สร้าร้งขึ้นขึ้เมื่อมื่วันวัที่ 25 พฤษภาคม พศ2527 สมัยมันายวีรวีะชัยชัสิริสิสัริณสัห์ เป็นป็นายอำ เภอเขาพนม ประชาชนอำ เภอเขาพนม และใกล้เคียง ได้รด้วมใจกันบริจริาคทุนทุทรัพรัย์สย์ร้าร้งขึ้นขึ้ ให้ ชื่อชื่ว่าว่ศาลเจ้าจ้แม่เม่ขานม โดยมีรูมีปรูนั้นนั้จำ ลองประดิษดิฐานไว้ใว้น ศาล เพื่อพื่ ให้คห้นกราบ ไหว้บูว้บูชาตามความประสงค์ เป็นป็สาธารณสถาน และเป็นป็สาธารณสมบัติบั ติของ ประชาชน ทั้งทั้มรส เมื่อมื่ถึงเดือดืนสี คือ เดือดืนมีนมีาคมของทุกทุ ๆ ปี ประทาชนข้าข้เภอ เขาพนมจัดจั ให้มีห้กมีารสมไภร บวงสรวง ลักการ บูชา ดวงวิญวิญาณเจ้าจ้แม่เม่ขานม เป็นป็ ประเพณีเณีสมอมา ปัจจุบันบัจะได้อิด้ อินเสียสีงจุดประทัต กึกท้องหน้าน้คาลเจ้าจ้แม่เม่ขา นมเกือบทุกทุวันวัเป็นป็การเช่นช่ ไหว้บว้วงสรวงแก้ับน 9

อดีตดี ในเขตท้องที่อำ เภอเขาพนม ส่วส่นมากเป็นป็เขตแทรกซึมซึของผู้ก่ผู้ ก่อการ ร้าร้ย มีกมีารปฏิบัติบั ติการ ซุ่มซุ่ โจมตีเจ้าจ้หน้าน้ที่ซึ่งซึ่ออกปฏิบัติบั ติงานในพื้นพื้ที่อยู่เยู่นื่อนื่ง ๆ หลักย ๆ หมู่บ้มู่าบ้นตกอยู่ใยู่นอิทธิพธิลของผู้ก่ผู้ ก่อการร้าร้ย เจ้าจ้หน้าน้ที่ไม่สม่ามารถเข้าข้ไป ปฏิบัติบั ติงานได้ ผู้ก่ผู้ ก่อการร้าร้ยเคยให้ข่ห้าข่วจะใช้เช้กำ ลังที่เหนือนืกว่าว่เข้าข้ตีสหนิตำนิ ตำรวจ และ ที่ว่าว่การอำ เภอเขาพนมหลายครั้งรั้แต่ไม่เม่คยปรากฏว่าว่ผู้ก่ผู้ ก่อการร้าร้ยเข้าข้ตีสักสัครั้งรั้ เดียดีว ทั้งทั้ที่ถ้าจะ พิจพิารณาถึงยุทธภูมิภูแมิล้ว การใช้กำช้ กำลังของผู้ก่ผู้ ก่อการร้าร้ยได้เด้ปรียรีบ เป็นป็อันมาก คนทั่วทั่ ไปกล่าวขานกันอยู่ เสมอว่าว่ที่สถานที่ราช (11ร และประชาขน ย้าย้ย ศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์ขธิ์องเจ้าจ้แม่เม่ขาไม่ไม่ด้ปด้กป้อป้งคุ้มคุ้ครองเอาไว้ เขาเพานมอยู่รยู่อด ปลอดภัยมาได้ ก็ด้วด้ยบารมีแมีห่งห่ศาราม ความศักดิ์สิดิ์ทสิธิ์อิธิ์ อิทธิปธิาฏิหาริย์ริ ย์เจ้าจ้แม่เม่ขานม ได้ปด้ระจักจัษ์แต่ขาวอำ เภอ เขาพนม และใกล้เคียง มาเป็นป็เวลานานแสนนานแล้ว ผู้ใผู้ดที่ได้ปด้ระสบมาต่างพา กันมีคมีวามนับนัถือศรัทรัพาเป็นป็อย่าย่งยิ่งยิ่เป็นป็จุดรวม แห่งห่ที่พึ่งพึ่ทางใจ กราบไหว้บูว้บูชา บนบานศาลกล่าวให้ช่ห้วช่ยขจัดจั ปัดป้อป้งผองภัยต่าง ๆ นานา แม้ข้ม้าข้ราชการ ส่วส่นมาก ที่เหยียยีบย่าย่งเข้าข้สู่อำสู่ อำเภอเขาพนม เมื่อมื่ ได้เด้ช่นช่สรวงบูชาเจ้าจ้แม่แม่ล้ว จะเกิดอยู่ดียู่ ดีมีสุมีขสุ และเป็นป็สิริสิมริงคลกับตนเอง และครอบครัวรัอย่าย่งมหัศหัจรรย์ ปัจจุบันบัเทศบาลตำ บลเขาพนมได้ดำด้ดำเนินนิการบูรณะ ปรับรั ปรุงรุศาลเจ้าจ้แม่ เขาพนม เมื่อมื่ปี พ.ศ.2547 โดยใช้งช้บประมาณ จำ นวน 585,000 บาท และขณะนี้ กำ ลังดำ เนินนิการปรับรั ปรุงรุครั้งรั้ที่สอง ซึ่งซึ่จะแล้วเสร็จร็ภายในเดือดืนกุมกุภาพันพัธ์ พ.ศ.2550 เพื่อพื่ ให้เห้กิดความสวยงาม และเป็นป็สถานที่ท่องเที่ยวเชิงชิอนุรันุกรัษ์ ทั้งทั้ยังยั เป็นป็สิ่งสิ่ยึดยึเหนี่ย นี่ วจิตจิ ใจ และเป็นป็ที่เคารพสักสัการะของชาวอำ เภอเขาพนม และ อำ เภอใกล้ 10

วัสวัดุ-ดุอุปกรณ์ 1.ปากกา 2.ยางลบ 3. น้ำ ยาลบคำ ผิดผิ 4. ดินดิสอ 5. คอมพิวพิเตอร์ 6. กระดาษA4 7. ยานพาหนะ งบประมาณ ปากกา 5 บาท ,ดินดิสอ 5 บาท ,ยางลบ 5 บาท ,น้ำ ยาลบคำ ผิดผิ 20บาท ,กระดาษA4 15บาท ,น้ำ มันมัรถ 100 บาท รวมทั้งทั้หมด 150 บาท วิธีวิกธีารดำ เนินนิงาน 1.คิด และเลือกหัวหัข้อข้ โครงงาน 2.วางแผนการทำ โครงงาน 3.รวบรวมข้อข้มูลและหลักฐานมาวิเวิคราะห์ 4.จัดจัทำ รูปรูเล่มรายงาน 5.นำ เสนอโครงงาน 11 บทที่ 3 วิธีการดำ เนินงาน

ลำ ดั บ วั น / เ ดื อ น / ปี ร า ย ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ส ถ า น ที่ ผู้ รั บ ผิ ด ช อ บ 1 คิดและเลือกหัวข้อ โครงงาน โรงเรียนพนม เบญจา นายทรงเดช ขันขัพระเเสง นางสาวอภิญญา คาร นางสาวสุภัสุภัสสรา ทรัพรัย์สิย์นสิ 2 วางแผนการทำ โครง งาน โรงเรียนพนม เบญจา นายทรงเดช ขันพระเเสง นางสาวอภิญญา คาร นางสาวสุภัสสรา ทรัพย์สิน 3 รวบรวมข้อมูลและ หลักฐานมาวิเคราะห์ ศาลเจ้าแม่ เขาพนม นายทรงเดช ขันพระเเสง นางสาวอภิญญา คาร นางสาวสุภัสสรา ทรัพย์สิน 4 จัดทำ รูปเล่มรายงาน -34/2 หมู่9ตำ บล เขาพนมอำ เภอ เขาพนมจังหวัดกระบี่ -244 หมู่10ตำ บล เขาพนมอำ เภอ เขาพนมจังหวัดกระบี่ นายทรงเดช ขันพระเเสง นางสาวอภิญญา คาร นางสาวสุภัสสรา ทรัพย์สิน 5 นำ เสนอโครงงาน โรงเรียนพนม เบญจา นายทรงเดช ขันพระเเสง นางสาวอภิญญา คาร นางสาวสุภัสสรา ทรัพย์สิน WORK TIME & ACTIVITY LOG 9/ม.ค./66 14/ม.ค./66 28/ม.ค./66 28/ก.พ./66 4/ก.พ./66

ชื่อชื่โครงงาน แม่เม่บญจา ชื่อชื่ผู้ดำผู้ ดำเนินนิงาน 1.นางสาวกมลพร แก้วมณี เลขที่ 2 ม.6/7 2.นางสาวศิโรรัตรัน์ แซ่ก้ซ่ ก้อง เลขที่ 14 ม.6/7 ชื่อชื่อาจารย์ที่ย์ ที่ปรึกรึษา 1.คุณคุครูสุรูพสุจน์ ชำ นาญกิจ 2.คุณคุครูกุรูลกุสตรี แซ่หซ่ลี วันวัที่ทำ การปฏิบัติบั ติงานาน/เวลาปฏิบัติบั ติงาน ครั้งรั้ที่1วันวัที่ 9 เดือดืนมกราคม พ.ศ. 2566 ระหว่าว่งวันวัที่ 9 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 ถึงวันวัที่ 10 เดือดืน มกราคม พ.ศ. 2566 รวม 2 วันวั ครั้งรั้ที่2วันวัที่ 14 เดือดืน มกราคม พ.ศ.2566 ระหว่าว่งวันวัที่ 14 เดือดืน มกราคม พ.ศ. 2566 ถึงวันวัที่ 16 เดือดืน มกราคม พ.ศ. 2566 รวม 3 วันวั ครั้งรั้ที่3วันวัที่ 28 เดือดืน มกราคม พ.ศ. 2566 ระหว่าว่งวันวัที่ 28 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 ถึงวันวัที่ 29 เดือดืน มกราคม พ.ศ. 2566 รวม 2 วันวั ครั้งรั้ที่4วันวัที่ 4 เดือดืน กุมกุภาพันพัธ์ พ.ศ. 2566 ระหว่าว่งวันวัที่ 4 เดือน กุมกุภาพันพัธ์ พ.ศ. 2566 ถึงวันวัที่ 6 เดือน กุมกุภาพันพัธ์ พ.ศ. 2566 รวม 3 วันวั ครั้งรั้ที่5วันวัที่ 28 เดือดืน กุมกุภาพันพัธ์ พ.ศ. 2566 ระหว่าว่งวันวัที่ 28 เดือน กุมกุภาพันพัธ์ พ.ศ. 2566 ถึงวันวัที่ 28 เดือดืน กุมกุภาพันพัธ์ พ.ศ. 2566 รวม 1 วันวั 13 บทที่ 4 วิเคราะห์ผลการดำ เนินงาน

ตารางผลการปฏิบัติบั ติงาน 14 ค รั้ ง ที่ ร า ย ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ปั ญ ห า / อุ ป ส ส ร ร ค ก า ร แ ก้ ไ ข ผ ล ง า น ที่ ไ ด้ 1 คิดและเลือก หัวข้อโครง งาน สมาชิกชิเลือกหัวหัข้อข้ที่จะทำ ต่างกัน ร่วมกันคิดถึง ความยากง่ายใน การสืบค้นข้อมูล เเละตกลงกันว่าจะ ทำ โครงงานเรื่อง อะไร ชื่อชื่ โครงงานเเม่เม่บญจา 2 วางแผนการ ทำ โครงงาน สมาชิกทำ หน้าน้ที่มาก น้อน้ยไม่เท่ากัน แบ่งบ่หน้าน้ที่กันให้ ชัดชัเจน วางแผนการทำ โครงงาน ได้ 3 รวบรวม ข้อมูลและ หลักฐานมา วิเคราะห์ ไม่มีม่อิมี อินเตอร์เร์น็ตน็ค้นหา ข้อข้มูลเเละไม่ไม่ด้มด้าช่วช่ย กันสอบถามข้อข้มูล เเชร์อินเตอร์เน็ต ให้เพื่อนเชื่อมต่อ เเละนัดแนะเวลา มาสอบถามข้อมูล ร่วมกัน ได้ข้ด้อข้มูลที่ถูกถูต้องครบ ถ้วน 4 จัดทำ รูปเล่ม รายงาน ไม่ค่อยเข้าใจการจัด ทำ รูปเล่มรายงาน ช่วช่ยกันค้นหาข้อข้มูล วิธีวิ ใธีนอินเตอร์เร์น็ตน็ จัดจัทำ รูปรูเล่มรายงานได้ ถูกถูต้อง 5 นำ เสนอ โครงงาน - - -

บทที่5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผล จากการศึกษาประวัติวั ติความเป็นป็มาของ“เจ้าจ้แม่เม่ขาพนม” ชื่อชื่เดิมดินาง เบญจา เป็นป็ธิดธิาของพระยานคร(น้อน้ย) เจ้าจ้เมือมืงนครศรีธรีรรมราช เจ้าจ้แม่เม่ขา พนมป็นป็ที่เคารพนับนัถือเป็นป็อันมากของชาวอำ เภอเขาพนม และประชาชน ทั่วทั่ ไป ในเรื่อรื่งอิทธิฤธิทธิ์ปธิ์าฏิหาริย์ริ ย์ในเรื่อรื่งโชคลาภ เดินดิทางปลอดภัยปกป้อป้ง รักรัษาฯลฯ อภิปรายผล จากผลการศึกษาทำ ให้ทห้ราบประวัติวั ติและความเป็นป็มาของเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม และทราบที่ตั้งตั้ของศาลเจ้าจ้แม่เม่ขาพนมว่าว่ตั้งตั้อยู่ส่ยู่วส่นไหนของอำ เภอเขาพนม สร้าร้งขึ้นขึ้มาแล้วกี่ปี ข้อข้เสนอแนะ 1.ถ้าเข้าข้ในศาลเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม ให้สห้งบเสงี่ยม สำ รวม 2.การแต่งกายควรแต่งการสุภสุาพเรียรีบร้อร้ย 3.ควรช่วช่ยกันดูแดูลรักรัษาสถานที่สำ คัญให้อห้ยู่คู่ยู่ คู่บ้คู่าบ้นคู่เคู่มือมืง 15

บรรณานุกนุรม เชิงชิเขานี้มี นี้ ตำมี ตำนาน “พนมเบญจา”.(2559).[ออนไลน์].เข้าข้ถึงได้จด้าก https://m.facbook.com.takhunsang/posts/341762532858612. (วันวัที่ค้นหาข้อข้มูล : 28 มกราคม 2566). ศาลเจ้าจ้แม่เม่ขาพนม.(2555).[ออนไลน์]. น์เข้าข้ถึงได้จาก : http://khaophanomcity.go.th/travel/detail/4/data.html. (วันวัที่ค้นหาข้อข้มูล : 28 มกราคม 2566). ประวัติวั ติความเป็นป็มาของเขาพนมเบญจา.(2551).[ออนไลน์]. น์เข้าข้ถึง ได้จด้าก : http://dek-keng.blogspot.com/2008/07/blog16

ภาคผนวก 1ึ7

ภาคผนวก 18

ภาคผนวก 19

ประวัติผู้จัดทำ 20นายทรงเดช ขันขัพระแสง ชื่อชื่เล่น บาสเกิดเมื่อมื่วันวัเสาร์ ที่ 9 เมษายน พ.ศ.2548 ที่โรงพยาบาลเขาพนม จังจัหวัดวักระบี่ บิดบิาชื่อชื่นายชัดชัชัยชัขันขัพระแสง อายุ 42ปี มารดาชื่อชื่นางทิพย์วย์รรณ พงศ์หวาน อายุ 40ปี ปัจจุบันบัอาศัยอยู่บ้ยู่าบ้นเลขที่ 311 หมู่ที่มู่ ที่ 8 ตำ บลหน้าเขา อำ เภอเขาพนม จังจัหวัดวักระบี่ เริ่มริ่เข้าข้ศึกษาชั้นชั้อนุบนุาลที่ 1-3 และชั้นชั้ ประถม ศึกษาปีที่ปี ที่ 1-6 จนถึงระดับดัชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่ 1-3 ที่โรงเรียรีนบ้าบ้นเขาดินดิแล้ว จึงจึได้แด้ละสมัคมัรเข้าข้ศึกษาต่อชั้นชั้มัธมัยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียรีนพนมเบญจา ปัจจุบันบัเป็นป็นักนัเรียรีนชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่ 6 ของโรงเรียรีนพนมเบญจา

21 นางสาวอภิญญา คาร ชื่อชื่เล่น เมย์ เกิดเมื่อมื่วันวัอาทิตย์ ที่ 16 เดือดืน ธันธัวาคม พ.ศ.2548 ที่โรงพยาบาลมะขามเตี้ย จังจัหวัดวัสุรสุาษฎร์ธร์านี บิดบิาชื่อชื่ นายเอกชัยชัคาร อายุ 62 ปี มารดาชื่อชื่นางยินยิดี คาร อายุ 52 ปี ปัจจุบันบัอาศัยอยู่บ้ยู่าบ้นเลขที่ 309 หมู่ที่มู่ ที่ 7 ตำ บลเขาดินดิอำ เภอเขาพนม จังจัหวัดวักระบี่ เริ่มริ่เข้าข้ศึกษาชั้นชั้อนุบนุาลที่ 1-3 และชั้นชั้ ประถมศึกษาปีที่ปี ที่ 1-6 ที่โรงเรียรีนเจริญริวิชวิช์ เมื่อมื่จบการศึกษาชั้นชั้ ประถมศึกษาแล้วจึงจึได้เด้ข้าข้ศึกษา ต่อในชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่ 1-3 ที่โรงเรียรีนพนมเบญจา และสมัคมัรเข้าข้ศึกษา ต่อชั้นชั้มัธมัยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียรีนพนมเบญจาเช่นช่เดิมดิ ปัจจุบันบัเป็นป็นักนัเรียรีนชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่ 6 ของโรงเรียรีนพนมเบญจา

22นางสาวสุภัสุภัสสรา ทรัพรัย์สิย์นสิชื่อชื่เล่น กุ๊กกุ๊ไก่ เกิดเมื่อมื่วันวัเสาร์ ที่ 19 มีนมีาคม พ.ศ.2548 ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังจัหวัดวัสงขลา บิดบิาชื่อชื่ นายจรงค์ ทรัพรัย์สิย์นสิอายุ 49 ปี มารดาชื่อชื่นางอมรรัตรัน์ ทรัพรัย์สิย์นสิอายุ 43 ปี ปัจจุบันบัอาศัยอยู่บ้ยู่าบ้นเลขที่ 209 หมู่ที่มู่ ที่ 6 ตำ บลโคกหาร อำ เภอเขาพนม จังจัหวัดวั กระบี่ เริ่มริ่เข้าข้ศึกษาชั้นชั้อนุบนุาลที่ 1-3 และชั้นชั้ ประถมศึกษาปีที่ปี ที่ 1-6 ที่โรงเรียรีน บ้าบ้นห้วห้ยเสียสีด เมื่อมื่จบการศึกษาชั้นชั้ ประถมศึกษาแล้วจึงจึได้เด้ข้าข้ศึกษาต่อในชั้นชั้ มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่ 1-3 ที่โรงเรียรีนพนมเบญจา และสมัคมัรเข้าข้ศึกษาต่อชั้นชั้ มัธมัยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียรีนพนมเบญจาเช่นช่เดิมดิ ปัจจุบันบัเป็นป็นักนัเรียรีนชั้นชั้ มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่ 6 ของโรงเรียรีนพนมเบญจา