การสร้างสรรค์ผลงานจากวรรณกรรมเรอื่ ง ขนุ ช้างขนุ แผน
ชอ่ื ผลงานสร้างสรรค์ : ราดาบฟ้าฟ้นื
ผู้สรา้ งสรรคผ์ ลงาน
นางสาว ขนษิ ฐา หาปอ้ ง รหสั นักศึกษา 6181163028
สาขาวิชานาฏยศลิ ปศ์ ึกษา คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภฏั บ้านสมเดจ็ เจ้าพระยา
การสรา้ งสรรคผ์ ลงานจากวรรณกรรมเรอ่ื ง ขุนช้างขนุ แผน
ช่อื ผลงานสร้างสรรค์ : ราดาบฟ้าฟ้นื
ผู้สร้างสรรค์ผลงาน
นางสาว ขนษิ ฐา หาปอ้ ง รหสั นักศกึ ษา 6181163028
สาขาวิชานาฏยศลิ ปศ์ กึ ษา คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏบ้านสมเด็จเจา้ พระยา
1. ท่มี าและความสาคญั
ขนุ ช้างขุนแผน เป็นนทิ านพ้ืนบา้ นและเป็นเร่อื งเล่าท่ีสันนษิ ฐานว่า เป็นเร่ืองที่เล่ากันต่อปากมาตั้งแต่
สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง อาจจะมีเร่อื งจริงผสมมาดว้ ย เป็นเรื่องของชาวบ้านในสมัยอยุธยา โดยการ
เลา่ นั้นเป็นลกั ษณะการขบั เสภา ซึ่งในสมัยรัตนโกสินทร์นั้น มีการวมรวมและชาระเรื่องราวใหม่ในสมัย
รัชกาลที่ 2 และไดต้ ีพิมพ์เปน็ หนังสอื ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซ่ึงเป็นนทิ านพื้นบ้านท่ไี ด้รบั ความนิยมมาตลอดใน
ปจั จบุ นั
ขุนชา้ งขนุ แผน ถือเป็นเรื่องราวคลาสสิค ที่เข้าใจง่าย เล่าเรื่องการใช้ชีวิต ชู้สาวระหว่าง 1 หญิง 2
ชาย ทเี่ ปน็ เพอ่ื นกนั กลายเป็นคนรัก การทรยศหักหลัง ความเข้าใจผิด ล้วนแต่เป็นอารมณ์พื้นฐานของ
มนษุ ย์ ความซบั ซ้อนของจิตใจ การตดั สนิ ใจ บคุ คลคิ ของตัวละคร ลว้ นแต่มเี สน่ห์ให้ตีความได้หลากหลาย
อีกหน่งึ อย่างในขุนช้างขนุ แผนท่ีทาใหห้ ลายคนสนใจ ก็คอื อภนิ ิหาร วชิ าอาคมต่าง ๆ โดย ขุนแผนนั้นมสี ิ่งดี
ประจาตวั 3 อย่าง คือ ม้าสีหมอก, กุมารทอง และ ดาบฟา้ ฟ้ืน
ในท่นี จ้ี ะพดู ถงึ แค่ดาบฟา้ ฟื้น ดาบฟ้าฟื้นนน้ั เป็นอาวุธประจาตัวขุนแผน ที่ทามาจากเหล็กและโลหะ
ตา่ ง ๆ ถงึ 108 ชนดิ การหล่อนนั้ กท็ าไดย้ ากยงิ่ มที ้งั พธิ ีและคาถาตามตาราทซี่ บั ซอ้ น เวลาใชง้ านจะมีเสียง
เปรี้ยงปร้างของฟ้าผ่า เมฆหมอกมดื มัว ใช้ปราบภตู ผี หรอื บางครัง้ กใ็ ช้เรียกผีได้ด้วย เป็นของดีประจาตัว
ขุนแผน เปน็ ของทีข่ ุนแผนเสาะหามาเพอ่ื บง่ บอกความเป็นชายชาตรี ในสมัยโบราณ พาหนะทดี่ ี บริวารทด่ี ี
และอาวุธทดี่ ี เพื่อทาภารกจิ ในชีวิตให้บรรลไุ ด้ตามความปรารถนาของตัวเอง
เนอ้ื หาท่จี ะนามาจัดการแสดงนนั้ เป็นตอนท่ีขุนแผนได้อาวุธชิ้นนี้มาแล้ว ขุนแผนก็นาไปใช้ในการไป
ลักพาตวั นางวันทองจากบ้านขุนชา้ งเปน็ อนั ดบั แรก และใช้ดาบฟ้าฟน้ื ฟนั มา่ นที่เปน็ ฝมี อื ของนางวนั ทองปกั
เอาไว้ย่อยยบั รวมไปถึงการนาวนั ทองหนไี ปในปา่ ใช้ในการส้รู บกบั ขนุ ชา้ งที่มาตามนางวันทองและยังใช้
ในตอนทส่ี ูร้ บกบั กองทหารท่ตี ามจบั ตัวขนุ แผน ในขณะท่ีไดน้ าดาบฟา้ ฟน้ื ฝังไว้ในต้นไทร แล้วได้มอบดาบ
ฟา้ ฟ้นื นใ้ี หก้ ับพลายงาม
(สรุป) จากทมี่ าและความสาคัญขา้ งต้นทาใหผ้ ู้สร้างสรรค์ได้แรงบันดาลใจจากวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง
ขนุ แผน และได้เลง็ เห็นถึงความสาคัญและความสามารถของดาบฟ้าฟื้น ที่เป็นดาบวิเศษที่ใช้ปราบภูตผี
และสามารถรยี กผไี ด้รวมทัง้ ยังเป็นดาบท่ใี ช้ในการตอ่ สอู้ ีกดว้ ย ทาให้ผูส้ ร้างสรรค์เกดิ แนวคิดท่จี ะนาข้อมูล
ดังกลา่ วมาวเิ คราะห์สรา้ งสรรค์เป็นผลงานศิลปะการแสดง ราดาบฟา้ ฟื้น
2. วัตถุประสงค์
เพอื่ ศึกษาเก่ยี วกบั ดาบ ท่ีขนุ แผนไดป้ ระดิษฐ์ขึ้นมาเองโดยใช้เหล็กต่างๆถึง 108 ชนิด และเป็นดาบ
วิเศษที่ใช้ในการรบในเรือ่ งขุนช้างขนุ แผน จึงนามาสรา้ งสรรคผ์ ลงานเปน็ ราดาบฟ้าฟนื้
3. ข้นั ตอนการสรา้ งสรรค์ผลงาน
1. กระบวนการสรา้ งแนวความคิด
2. กระบวนการผลติ ผลงาน
กระบวนการสร้างแนวความคดิ
กระบวนการสร้างแนวความคิดเปน็ ส่ิงท่ีจาเปน็ อนั ดบั แรกในการสร้างสรรคผ์ ลงานทางดา้ นนาฏยศิลป์
โดยในเบื้องต้นต้องพิจารณาจากวัตถุประสงค์และข้อมูลที่ได้รับเป็นพื้นฐาน ซึ่งการแสดง ราดาบฟ้าฟื้น มี
วัตถุประสงค์เพื่อสร้างสรรค์ผลงานทางด้านนาฏยศิลป์และเผยแพร่ให้การแสดงรูปแบบนี้เป็นที่นิยมและ
แพร่หลายในวงการนาฏศลิ ปแ์ ละยังเปน็ แนวทางใหเ้ กิดงานช้ินใหม่ข้ึนอีกดว้ ย
กระบวนการผลิตผลงาน
เมือ่ ผ่านกระบวนการในการสรา้ งแนวคดิ และจนิ ตนาการภาพของผลงานในระดับที่มีความเป็นไปได้
แล้ว จึงเข้าสู่กระบวนการผลิตผลงานด้วยวิธีการประมวลข้อมูลที่ได้และกาหนดรูปแบบ กาหนดขอบเขต
กาหนดองคป์ ระกอบของการแสดงจากนัน้ จึงออกแบบทา่ ทางและการเคล่ือนไหวทางด้านนาฏยศลิ ป์ ดังนี้
1. การศกึ ษาประมวลขอ้ มลู
การศึกษาประมวลขอ้ มูลนผ้ี ู้สรา้ งสรรคผ์ ลงานได้เลือกใช้วิธกี ารอ่านวรรณคดไี ทยเร่อื งขุนช้างขุนแผน การ
สงั เกต การสอบถาม มาประมวลเขา้ ด้วยกัน จากน้ันจึงทาการตรวจสอบความเพียงพอและความถูกต้องของ
ข้อมลู ทงั้ หมดและตอ้ งมคี วามสอดคล้องกบั แนวคิดของผลงานที่ต้องการสรา้ งสรรค์ โดยขอ้ มลู ดงั กลา่ วสามารถ
สรุปไดด้ งั นี้
1.1. ขอบเขตเน้ือหา
ศึกษาดาบฟา้ ฟื้นท่เี ปน็ อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการรบ จากวรรณคดีเร่อื งขนุ ชา้ งขุนแผน
1.2 ขอบเขตการแสดง
ผู้สรา้ งสรรคต์ ้องการนาเสนอผลงานการแสดงในรูปแบบของนาฏศิลปร์ าดาบ โดยใชผ้ ูแ้ สดง จานวน 1 คน
ใช้ระยะเวลาในการแสดงประมาณ 6 นาที
1.3. รปู แบบการแสดง
ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้กาหนดรูปแบบของการแสดงชุด ราดาบฟ้าฟื้น โดยกาหนดให้อยู่ในรูปแบบ
นาฏศลิ ป์ไทย ใช้กระบวนทา่ รานาฏศิลป์ไทย โดยใช้นกั แสดงนักแสดงจานวน 1 คน ใช้ระยะเวลาในการแสดง
ประมาณ 6 นาที
จากการประมวลข้อมลู ดังกล่าว ผู้สร้างสรรค์ผลงานจึงได้กาหนดรูปแบบการแสดงออกเป็น 3 ช่วง
ดงั น้ี
ชว่ งที่ 1 ผู้แสดงร่ายราเพอื่ ส่ือความหมายถึงการเดินทางไปลักตัวนางวันทองโดยใช้ดาบฟันมุ้งม่านของนาง
วนั ทอง
ช่วงที่ 2 ผแู้ สดงร่ายราเพ่อื สื่อความหมายถงึ การใชด้ าบในการส้รู บกับขุนชา้ งทมี่ าตามนางวันทองและมอบ
ดาบฟ้าฟน้ื นี้ให้กับพลายงาม
ชว่ งท่ี 3 ผ้แู สดงรา่ ยรากลับเข้าฉาก
1.4. โครงสรา้ งทา่ รา
ชอื่ ทา่ ดูมา่ น สื่อถึง การมองหรือดู ความหมาย ขนุ แผนนน้ั ยืนมองม่านของนางวันทองท่นี างวันทองทาขน้ึ มา
เอง
ชื่อท่า พล่านใจดังไฟวู ส่อื ถงึ ความรอ้ นรมุ่ ใจ ความโกรธแค้น ความหมาย ความโกรธท่ีเดือดพล่านอย่ใู นใจ
เหมอื นไฟท่ีกาลังลกุ โชน
ชอ่ื ทา่ จับจู่ฟ้าฟ้ืน สอื่ ถงึ การจับ ความหมาย การจบั ดาบฟา้ ฟ้นื
ช่อื ทา่ ฟนั ระยบั สื่อถึง การฟัน ความหมาย ใช้ดาบฟ้าฟน้ื ฟนั ให้แหลก
1.5. โครงสรา้ งเครอื่ งแต่งกาย
แนวคดิ ในการออกแบบของการแสดง ราดาบฟา้ ฟื้น การแตง่ กายนั้นมลี กั ษณะท่คี ล้ายนกั รบโดยมีดาบ
เปน็ อาวธุ มีส่วนประกอบการแตง่ กายท้ังหมด 10 ชน้ิ ดงั นี้
1. ยอดคนธรรพ์
2. ตุ้มหู
3. เสอ้ื แขนสน้ั
4. กรองคอ
5. สนับเพลา
6. เขม็ ขดั
7. ผา้ ผกู เอว
8. สงั วาล
9. กาไลแผง
10. กาไลข้อเทา้
ตวั อย่างดงั ภาพ
1.6. โครงสรา้ งดนตรี
ดนตรีทใี่ ช้ประกอบการแสดง ใช้วงป่ีพาทยเ์ คร่ืองหา้ ประกอบด้วย กลองชาตรี ฆอ้ งคู่ ฉงิ่ ป่ี และโทน
-เนื้อร้องจากบทในวรรณกรรม
ดมู า่ นพลา่ นใจดงั ไฟวู จับจฟู่ า้ ฟน้ื ฟนั ระยบั
สบั บ่ันห่ันย่อยลงร้อยทบ ฟนั ตรลบมุ้งม่านไมเ่ ป็นส่า
ดาบนี้ตอ่ ไปจะใหเ้ จ้า รบพงุ่ จะไดเ้ อาไปเปน็ หลัก
อันฟ้าฟ้นื เล่มน้ีดยี ิ่งนกั ดาบอืน่ สักหมื่นแสนไมแ่ มน้ เลย
1.7. อปุ กรณป์ ระกอบการแสดง
ดาบฟ้าฟ้ืน หมายถึง ดาบ (อาวุธ)
ฟา้ ฟนื้ หมายถึง เทวดาสร้างคนื กลบั ข้นึ ใหม่ (ฟ้า หมายถึง เทวดา ฟื้น แปลว่า คืนกลับ, พลิกกลับ
ขนึ้ มา, สร้างใหม)่
1.8. โอกาสในการแสดง
ใช้ในงานมงคลทัว่ ไป เช่น งานข้ึนบ้านใหม่ งานวันเกดิ งานปใี หม่
1.9. ประโยชน์ท่ีได้รบั
1. ไดผ้ ลงานสรา้ งสรรค์นาฏยศิลป์ไทย ราดาบฟ้าฟื้น จากวรรณคดีเรื่องขนุ ช้างขุนแผน
2. ไดป้ ระสบการณต์ รงในการทางานสรา้ งสรรค์อยา่ งเป็นระบบ
3. ได้รู้จักการวเิ คราะหว์ รรณกรรมเพ่อื มาสรา้ งผลงานการแสดง
1.10. รายการอา้ งอิง
https://vajirayana.org/ขุนชา้ งขุนแผน-ฉบับหอพระสมุดวชริ ญาณ
สบื ค้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 63
https://mayuree2016.wordpress.com/กุมารทอง-ดาบฟา้ ฟ้นื
สืบค้นเม่ือวันที่ 16 ธนั วาคม 63
https://www.silpa-mag.com/culture/article_40140
สืบค้นเม่ือวันท่ี 16 ธันวาคม 63