-หุ่นยนต์โเครืรองเกง็บานขยะ-
โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง หุ่นยนต์เรือเก็บขยะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จัดทำโดย
1.นางสาวเบญจรัตน์ ตรีศักดิ์ เลขที่10
2.นางสาวเบ็ญจรรณ พิทักษ์ เลขที่19
3.นางสาวลลิตภัทร ลือสัตย์ เลขที่่19
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/1
เสนอ
คุณครูณัญธัญ รัตนกูล
โครงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรายวิชา หุ่นยนต์ ว30214
ภาคเรียนที่1/2565
โรงเรียนอุบลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลัย นครราชสีมา
บทคัดย่อ
ในปัจจุบันปัญหาขยะในแหล่งนาถือเป็นปัญหาสาคัญ เนื่องจากแหล่งนามี
ความสาคัญต่อการดารงชีวิตของมนุษย์และสัตว์นา จึงจาเป็นต้องรักษาความ
สะอาดของแหล่งนาเพื่อจะได้ใช้ในการอุปโภค บริโภค เราจึงให้ความสาคัญใน
การรักษาความสะอาดแหล่งน้ำ
โดยโครงงานนี้ จัดทาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกในการเก็บขยะบริเวณ
ผิวนาของแหล่งนาที่มีกระแสนาไม่แรงจนเกินไป เช่น ห้วย หนอง คลอง บึง
โดยโครงงานนี จะสร้างความสะดวกสบายและความปลอดภัยแก่ชีวิตและ
ทรัพย์สิน โดยที่เราไม่ต้องลงไปเก็บขยะเองในแหล่งนา โดยใช้ระบบบังคับวิทยุ
ไร้สาย ซึ่งตัวเรือสามารถเก็บขยะเข้าตะแกรง โดยใช้ Rclander 6 blades ขับ
เคลื่อนไปข้างหน้า โดยใช้มอเตอร์ในการเลี ยวซ้าย เลี ยวขวา 2 ตัว การศึกษา
ครั งนี ได้มีการทดลองคำนวณแรงพยุงของเรือเก็บขยะ ความเร็วที่เรือเก็บ
ขยะเคลื่อนที่ได้ น้ำหนักที่เรือเก็บขยะสามารถบันทึกได้ การใช้งาน
แบตเตอรี่ว่าสามารถใช้งานได้นานแค่ไหนซึ่งการแสดงผลการทดสอบต่างๆ
ทางผู้จัดทาได้แสดงเปรียบเทียบในรูปแบบตารางเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ แล้ว
ก็นาผลที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
ดังนั นโครงงานนี จะทาให้คนทั่วไปและวิศวกรที่อยากจะศึกษาเกี่ยวกับระบบ
เรือเก็บขยะเพื่อใช้ในการต่อยอดและพัฒนาสามารถนาไปเป็นต้นแบบได้และใช้
งานเรือเก็บขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดง
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานวิศวกรรมเรือเก็บขยะ เป็นโครงงานที่สาขาวิชาวิศวกรรม
เครื่องกลและระบบการผลิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ศรีราชา มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์ วิทยาเขต ศรีราชา จัดขึ นให้มีการเรียนการสอนในหลักสูตร
วิชาโครงงานวิศวกรรม เพื่อให้นิสิตได้ศึกษาค้นคว้า หาความรู้ และ
ประสบการณ์ในการทางานในชีวิตจริง พร้อมทั งได้เรียนรู้การทางานเป็นหมู่
คณะ อีกทั งยังรู้จักการวางแผนเพื่อให้เกิดความสาเร็จในการดาเนินงาน สิ่ง
ที่กล่าวมาเหล่านี ได้ให้ประโยชน์แก่คณะผู้จัดทำ
ในการจัดทาโครงงานให้สาเร็จลุล่วงในครั ้งนี จะสาเร็จไม่ได้เลยหาก
ไม่มีผู้ที่คอยแนะนาให้คาปรึกษาและสนับสนุนช่วยเหลือในด้านต่างๆ คณะผู้
จัดทำขอขอบคุณ คุณครูณัญธัญ รัตนกูล ครูที่ปรึกษาเป็นอย่างสูง ที่กรุณา
ให้คาแนะนา คาปรึกษา และมอบโอกาสในการจัดทาโครงงานวิศวกรรมนี ให้
สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และอีกหลายๆท่านที่ไม่ได้กล่าวไว้ ณ ที่นี คณะผู้จัดทา
หวังว่าโครงงานเรือเก็บขยะ จะได้รับความสนใจและสานต่อจากรุ่นต่อไป หรือ
ผู้ที่สนใจ ผู้จัดทาขออวยพรให้การจัดทาโครงงานเป็นไปได้ด้วยดี
คณะผู้จัดทำ
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
ปัจจุบันมักพบกับปัญหาขยะในแหล่งนามากมาย ซึ่งปัญหาในแหล่งนาก็จะกลายเป็นสาเหตุ
ของนาเสียและส่งกลิ่นเหม็นอย่างแม่นาลาคลองเน่าเสียจนไม่สามารถนามาใช้อุปโภค
บริโภคได้ ซึ่งนาที่เน่าเสียเป็นแหล่งของเชื อโรคและสารพิษที่เป็นอันตรายต่อพืชและสัตว์
ทาให้ระบบนิเวศและธรรมชาติเป็นพิษ เมื่อประชาชนบริโภคสัตว์นาและพืชผักที่มีสารพิษ
ตกค้างเข้าไปอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้และเนื่องจากมหาวิทยาลัยของเราก็อยู่
ใกล้แหล่งนามากทาให้กลุ่มของเราตระหนักถึงปัญหาขยะในแหล่งนาเลยนาเรืองนี มาเป็น
หัวข้อโครงงาน
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1.2.1 เพื่อช่วยลดปัญหาขยะในแหล่งนาที่มีลักษณะนานิ่งไม่เชี่ยวจนเกินไป เช่นห้วย หนอง
คลอง บึง
1.2.2 สร้างสิ่งอานวยความสะดวกที่จะใช้ในการแก้ปัญหาขยะในแหล่งนา โดยเน้นความ
สะดวกสบาย ประหยัดเวลา และสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ที่ต้องการเก็บขยะในแหล่งนา
1.2.3 พัฒนาเรือเก็บขยะให้น่าใช้ และสะดวกต่อการใช้งาน
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.3.1 ใช้ในแหล่งนานิ่งที่ไม่ได้มีคลื่นรุนแรงมาก เช่น ห้วย หนอง คลอง บึง
1.3.2 ใช้เก็บขยะบริเวณผิวนา
1.3.3 เป็นเรือเก็บขยะที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก
1.4 สรุปสาระสาคัญจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง
คณะผู้จัดทาได้ศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูลและทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับโครงงานนี นามาเสนอ
อย่างพอสังเขปโดยการใช้รีโมทบังคับวิทยุเป็นตัวควบคุมหลักซึ่งจะควบคุมมอเตอร์ และมี
ตัวรีซีฟเวอร์รับสัญญาณจากรีโมทคอนโทรล โดยการใช้รีโมทบังคับในการควบคุมทิศทาง
ของเรือเก็บขยะ
1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.5.1 พัฒนาเรือเก็บขยะให้ใช้สะดวกสบายมากขึ น
1.5.2 ได้เกิดทักษะในการทางานและสร้างประสบการณ์ในการทางานร่วมกัน
1.5.3 แหล่งนาสะอาดมากยิ่งขึ น
1.6 แผนการและระยะเวลาการดาเนินงาน
ตารางที่ 1.1 ตารางแสดงระยะเวลาการดาเนินงานและการพัฒนาระบบ
บทที่ 2
หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
2.1 บทนำ
หลักการของการควบคุมเรือเก็บขยะจะใช้รีโมทไร้สายเป็นตัวรับคาสั่งจากคนบังคับเป็น
ตัวคาสั่งเริ่มต้น โดยทาการส่งสัญญาณไปที่ตัวรีซีฟเวอร์ แล้วตัวรีซีฟเวอร์จะไปสั่งให้ส
ปีดคอนโทรลทางานควบคุมความเร็วมอเตอร์ ให้หมุนช้า-เร็ว , เดินหน้า-ถอยหลัง หรือ
เบรกตามการบังคับ แล้วมอเตอร์จะเป็นตัวต้นกาลังไปให้กับเพลาเรือที่ติดอยู่กับปลาย
มอเตอร์ให้หมุน โดยเพลาจะมีใบพัดเรือติดอยู่กับเพลาอีกทีเป็นตัวขับเคลื่อนเรือ
2.2 ขยะ
2.2.1 ขยะมูลฝอย
ในแหล่งนาบ้านเรามักจะขยะในแหล่งนา ไม่ว่าจะเป็นตามแม่นาลาคลอง ขยะที่มักพบจะ
มีทั งเศษอาหาร มีถุงใส่เศษอาหาร เปลือกผลไม้ ทิ งอยู่กลาดเกลื่อน ก่อให้เกิดความ
สกปรกในแหล่งนา นามีสีดา ส่งกลิ่นเน่าเหม็นและทาให้ปลาหรือสัตว์ในแหล่งนาอาจจะ
ตายส่งผลต่อเนื่องมาทาให้สัตว์ในแหล่งนาอาจจะน้อยเป็นผลต่อชาวบ้านที่ทาประมง
เป็นแหล่งแพร่เชื อโรคและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา ดังนั นเราทุกคนจึงควร
ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ งขยะมูลฝอยเกลื่อนกลาด ถ้าเป็นทะเลก็จะส่งผลต่อ
การท่องเที่ยว ทาให้นักท่องเที่ยวน้อยลง ทั งหมดนี ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหาร ถุงพลาสติก
ที่ใช้แล้ว เศษผ้า ใบไม้ร่วง เรียกรวมว่า ขยะมูลฝอย ถ้าไม่ทิ งให้เป็นที่เป็นทางจะสร้าง
ความสกปรก
ภาพที่ 2.1 ภาพขยะมูลฝอยในแหล่งนา
ที่มา : http://preapilaitoon.blogspot.com/
4
2.2.2 ขยะมูลฝอยที่มักพบในแหล่งนา
1) เศษอาหารและพืชผักที่เหลือจากการรับประทานและการประกอบอาหาร
2) เศษแก้วแตก กระเบื องแตก เศษวัสดุก่อสร้าง เช่น ไม้ อิฐ หิน และอื่น ๆ
3) วัสดุที่ยังมีสภาพดี เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ กล่องกระดาษ ขวดที่ไม่แตก ขยะ
มูลฝอย ประเภทนี อาจนาไปขายต่อได้
2.2.3 การกาจัดขยะมูลฝอย
เริ่มตั งแต่การเก็บรวบรวมแล้วขนย้ายไปยังโรงงานควรแยกให้เป็นประเภทเพื่อ
ช่วยให้ง่ายต่อการเก็บและทาลาย เศษแก้ว เศษกระจก และของมีคมต่าง ๆ ควร
แยกต่างหาก ไม่ทิ งปะปนกับขยะมูลฝอยอื่น ๆ เพราะอาจจะบาดหรือตาผู้อื่นได้ เรา
ควรเก็บขยะมูลฝอยใส่ถุงและผูกปากถุงให้เรียบร้อย ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
เพื่อทาลายต่อไป การกาจัดขยะมูลฝอย มีหลายวิธี เช่น การเผากลางแจ้ง การเท
กองบนพื นดิน การนาไปทิ งทะเล แต่วิธีการเหล่านี ไม่ถูกต้องเพราะทาให้เกิดภาวะ
มลพิษต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น การเผา
กลางแจ้ง ทาให้เกิดควันและฝุ่นละอองในอากาศ วิธีกาจัดที่ถูกต้อง คือ การเผาใน
เตาเผาขยะ การฝังกลบ การหมักทาปุ๋ย และการแปรสภาพเป็นพลังงาน
1) การเผาขยะ สามารถทาลายขยะมูลฝอยได้เกือบทุกชนิด เตาเผามีหลายชนิดขึ
นอยู่กับลักษณะของขยะมูลฝอย ถ้าเป็นประเภทที่ติดไฟง่าย เราสามารถใช้เตาเผา
ชนิดที่ไม่ต้องใช้เชื อเพลิงช่วย แต่ถ้าขยะมูลฝอยมีความชื นมากกว่าร้อยละ50 เตา
เผาขยะต้องเป็นชนิดที่ใช้เชื อเพลิงจาพวกนามันเตาช่วยในการเผาไหม้ การเผาใน
เตาเผาใช้เนื อที่น้อย ส่วนที่เหลือจากการเผาไหม้ เช่น ขี เถ้า สามารถนาไปใช้ถม
ที่ดินหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่ นได้
2) การฝังกลบ ทาได้โดยนาขยะมูลฝอยมาเทลงในพื นที่ที่เตรียมเอาไว้แล้วกลบ
ด้วยดินและบดให้แน่นอีกครั งหนึ่งการฝังกลบไม่สร้างความราคาญและเป็น
อันตรายต่อสภาพแวดล้อมพื นที่บางแห่งเมื่อถมเสร็จเรียบร้อยอาจนาไปใช้ประโย
ชน์อื่นๆ เช่น ทาเป็นสวนหย่อม สนามกีฬา เป็นต้น
3) การแปรสภาพขยะมูลฝอยเป็นพลังงาน การนาขยะมูลฝอยที่ติดไฟได้มาทาเป็น
เชื อเพลิงสาหรับต้มนา หรือผลิตไอนาเพื่อไปหมุนเครื่องกาเนิดไฟฟ้าได้
4) การหมักทาปุ๋ย ใช้วิธีนาขยะมูลฝอยที่ส่วนมากเน่าเปื่ อยได้ มาผ่านขบวนการบด
หมักทาลายของโรงงานกาจัดขยะมูลฝอย เพื่อให้เกิดการย่อยสลายตัว ขยะ
มูลฝอยที่ผ่านการหมักแล้ว จะถูกนาไปผึ่งต่อที่ลานผึ่งประมาณ 40-60 วัน เพื่อ
ให้การย่อยสลายเป็นไปโดยสมบูรณ์ จากนั นจะถูกนาไปร่อนแยกเอาส่วนที่จะใช้
เป็นปุ๋ยต่อไปขยะมูลฝอยมีจานวนเพิ่มมากขึ นทุกวันตามจานวนประชากร
5
2.3 แหล่งนา
นาฝนเป็นต้นกาเนิดของนาที่ปรากฏบนผิวโลก เมื่อฝนตกลงมาบนพื นดิน จะมีนา
บางส่วนขังอยู่บนผิวดิน และบางส่วน ซึมลงไปสะสมอยู่ในดิน ทาให้เกิดเป็นแหล่ง
นาตามธรรมชาติในดิน ที่อานวยประโยชน์ให้กับพืชได้โดยตรง เมื่อมีฝนตกมาก นา
ไม่สามารถจะขังอยู่ได้บนผิวดิน และซึมลงไป
ในดินได้ทั งหมด ก็จะเกิดเป็นนาไหลนองไปบนผิวดิน จากนั นจะไหลลงสู่ที่ลุ่ม ที่ต่า
ลานา ลาธาร แม่นา แล้วจึงไหลลงสู่ทะเล และมหาสมุทรต่อไป
แม่นาลาธาร ห้วย หนอง คลองและบึง ฯลฯ เป็นแหล่งนาบนผิวดิน เป็นแหล่ง
รวบรวมนาตามธรรมชาติ เป็นแหล่งนาขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่จะอานวยให้ทา
การชลประทานขนาดต่างๆ ได้เป็นอย่างดีปริมาณนาที่จะมีในแหล่งนาธรรมชาติ
เช่น แม่นา ลาธารนั นย่อมแตกต่างกันไปตามฤดูกาล
ภาพที่ 2.2 ลาคลอง
ที่มา : https://1th.me/v18f
2.4 เรือ
เรือเป็นยานพาหนะที่ใช้เดินทางทางนา เรือโดยทั่วไปโครงสร้างประกอบด้วยตัวเรือ
เป็นโครงสร้างที่สามารถลอยนาได้ กับส่วนที่เป็นการขับเคลื่อนของเรือ เช่น ไม้พาย
(เรือพาย หรือเรือแจว) เครื่องยนต์หางยาว (เรือหางยาว) , ใบเรือ (เรือใบ) เป็นต้น
อาร์คิมีดีส ค้นพบหลักที่ทาให้สิ่งต่าง ๆ ลอยได้เริ่มต้นจากเขาโดดลงอ่างอาบนาและ
สังเกตว่านาจะกระฉ่อนออกไปขณะที่เรือลอยอยู่ในนาเรือก็แทนที่นา ในรูปแบบ
เดียวกันและยังค้นพบอีกว่านาส่วนที่เรือเข้าไปแทนที่จะต้านกลับด้วยแรงที่เท่ากับ
นาหนักของเรือ ความหนาแน่นของเรือเป็นสิ่งสาคัญ ความหนาแน่นคือนาหนัก
วัตถุที่วัดได้ต้องนิ่งปริมาตรของวัตถุนั นหากเรือ หรือวัตถุใด ๆ ก็ตามมีความหนา
แน่นน้อยกว่านาสิ่งนั นจะลอยได้แต่หากวัตถุมีความหนาแน่น มากกว่าก็จะจม
6
2.4.1 โครงสร้างเรือ
1) คุณลักษณะเฉพาะของเรืออลูมิเนียม ใช้อลูมิเนียมฉากในการเป็นโครง ใช้อลูมิ
เนียมขนาด
ฉาก6หุน(3/4นิ ว) เป็นเรือท้องแบนอลูมิเนียมกินนาตื น ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมสาหรับ
ใช้งานในบึง ทะเลสาบ เขื่อน แม่นา ตัวเรือมีนาหนักเบา และดูแลรักษาน้อยสะดวกใน
การขนย้าย โครงเรือไม่สามารถลอยนาเองได้ต้องมีตัวทุ่นพยุง ตัวเรือถูกออกแบบให้
มีอัตราส่วนความกว้างและความยาวอย่างเหมาะสม การประกอบตัวเรือใช้รีเวทในการ
ยึดโครง ใช้อลูมิเนียมแผ่นเป็นตัวเฟรมเรือ มีที่วางอุปกรณ์ควบคุมเรือด้านท้ายเรือ
อลูมิเนียมเป็นที่นิยมมากแต่ก็มีราคาสูง เพราะมีความแข็งแรงคงทน ติดตั งง่าย ใช้
เวลาในการติดตั งรวดเร็ว อีกทั งเมื่อเลิกใช้งานแล้วก็สามารถรื อถอนได้ง่าย สามารถ
นากลับมาใช้งานซาได้อีก
ภาพที่ 2.3 อลูมิเนียมฉาก
ที่มา : http://www.spwmetal.com
ภาพที่ 2.4 ขนาดอลูมิเนียมฉาก
ที่มา : https://1th.me/T00J
2.4.2 ทุ่น PVC พยุงเรือ
ท่อพีวีซี (PVC) เป็นชื่อเรียกที่คนทั่วไปรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี PVC ย่อมาจากคาว่า
โพลีไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl chloride) เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติที่ดี
หลายอย่าง เช่น มีความเหนียวยืดหยุ่นตัวได้ ทนต่อแรงดันนาได้ดี ทนต่อการ
กัดกร่อนของกรดหรือด่างได้ดี ใช้เป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดีเพราะไม่เป็นตัวนาไฟฟ้า เป็น
วัสดุไม่ติดไฟ มีผิวมันเรียบช่วยให้การไหลของนาได้ดี มีนาหนักเบาและราคาถูก แต่มี
ข้อเสียคือ เปราะ กรอบ และแตกหักง่าย ไม่ทนทานต่อแรงกระแทกและแสงแดดหรือ
แสงยูวี (UV)
ท่อพีวีซีสีฟ้า ผลิตขึ นตามมาตรฐาน มอก.17-2532 (ท่อพีวีซีแข็งสาหรับใช้เป็นท่อนา
ดื่ม) เป็นท่อที่นิยมใช้ในงานสุขาภิบาลในอาคาร เช่น ใช้เป็นท่อประปาสาหรับระบบนา
ดื่ม ซึ่งต้องรับแรงดันนา หรือใช้กับระบบปั๊ มนา หรืองานท่อระบายนา
ภาพที่ 2.5 ท่อPVC ขนาด 4นิ ว
ที่มา : https://1th.me/OfhP
2.4.3 ตะแกรงใส่ขยะ
เป็นส่วนที่ใส่ขยะสามารถถอดออกเพื่อนาขยะออกมาทิ งได้ มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม
ทามาจากตะแกรงยืดหรือตะแกรงข้าวหลามตัด ซึ่งเป็นการเพิ่มความแข็งแรงของ
โครงสร้างและลดนาหนักของแผ่นโลหะในเวลาเดียวกัน คุณสมบัติของตะแกรงเหล็ก
ฉีกคือมีความแข็งแรงสูง รับนาหนักกดบนแผ่นได้มาก มีความฝืดบนผิวหน้าสูง นา
หนักเบา สวยงาม ส่วนขอบของตะแกรงทาจากอลูมิเนียมแผ่น
ภาพที่ 2.6 ลักษณะของตะแกรงยืดหรือตะแกรงข้าวหลามตัด
ที่มา : https://1th.me/EzN1
ภาพที่ 2.7 ภาพตะแกรงใส่ขยะ
2.5 ระบบควบคุบ
2.5.1 สปีดคอนโทรล
สปีดคอนโทรลแบบ ESC (Electronic Speed Control) ทาหน้าที่ ควบคุมความเร็ว
มอเตอร์ ให้หมุนช้า-เร็ว , เดินหน้า-ถอยหลัง หรือเบรค ตามสัญญาณควบคุมที่ได้รับ
จากกล่องภาครับ (Receiver)
อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคที่ใช้ควบคุมความเร็วของมอเตอร์มักมีสายไฟออกมาทั งสอง
ด้าน ด้านหนึ่งจะใช้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะมีสายไฟออกมา
อีก 2 เส้นเพื่อรับกระแสไฟจากแบตเตอรี่และในด้านที่มีสายไฟ นี ก็จะมีสายไฟเส้นเล็ก
พร้อมแจ๊คอีก 1 ตัวเพื่อเสียบเข้ากับเครื่องรับหรือรีซีฟเวอร์ เพื่อรับคาสั่งจากเครื่องส่ง
วิทยุผ่านรีซีฟเวอร์อีกที เมื่อเราเร่งเดินเบาที่เครื่องส่งวิทยุ เครื่องรับวิทยุจะรับ
คาสั่งจากเครื่องส่งผ่านสปีดคอนโทรล เพื่อจ่ายกระแสมากน้อยให้มอเตอร์เร่งหรือเดิน
เบาได้ตามความต้องการสปีดคอนโทรล แบบกระแสตรง DC ใช้ควบคุมความเร็ว
มอเตอร์แบบมีแปรงถ่านหรือ BRUSH MOTOR สปีดคอนโทรลชนิดนี จะควบคุมการ
จ่ายกระแสไฟกระแสตรง DC จากแบตเตอรี่สู่มอเตอร์ ถ้าจ่ายไฟมากมอเตอร์ก็หมุนเร็ว
จ่ายไฟน้อยมอเตอร์ก็หมุนช้าตามแต่ที่เราบังคับผ่านเครื่องส่งวิทยุ สปีดคอนโทรล
นอกจากจะทาหน้าที่ควบคุมความเร็วของมอเตอร์แล้ว ยังทาหน้าที่จ่ายกระแสไฟให้แก่
เครื่องรับหรือรีซีฟเวอร์อีกด้วย โดยจะทาการควบคุมกระแสของแบตเตอรี่ที่ถูกใช้ไป
กับมอเตอร์ไม่ให้ต่ากว่า 5V. เมื่อกระแสไฟในแบตเตอรี่ถูกมอเตอร์ใช้ไปจนถึงจุดที่ 5V.
สปีดจะทาหน้าที่ตัดกระแสไฟที่จ่ายไปยังมอเตอร์ เพื่อจะให้เหลือพลังงานไฟฟ้าเพียง
พอที่จะหล่อเลี ยงเครื่องรับหรือรีซีฟเวอร์เพื่อบังคับทิศทางของเรือได้ เพราะหากสปีด
ไม่ตัดการทางานของมอเตอร์ กระแสไฟจากแบตเตอรี่จะถูกมอเตอร์ใช้ไปจนหมดหรือ
อาจมี กระแสไฟที่ต่ามากจนเครื่องรับหรือรีซีฟเวอร์ไม่สามารถทางานได้ เรือก็จะขาด
การบังคับกับเครื่องส่งวิทยุ
ภาพที่ 2.8 สปีดคอนโทรล
ที่มา : https://1th.me/9xh5
2.5.2 รีซีฟเวอร์ (RECIEVER) อุปกรณ์ชิ นนี มีหน้าที่รับสัญญาณความถี่หรือคาสั่ง
จากวิทยุ อุปกรณ์ตัวนี มักมีหน้าตาเหมือนกล่องเล็กๆมีช่องสาหรับเสียบอุปกรณ์
เซอร์โว และสปีดคอลโทรล อาจมีตั งแต่ 2-6 ช่องสัญญาณและมีสายไฟเล็กๆยาวๆ
หรือเราเรียกว่าสายอากาศต่อออกมาจากอุปกรณ์ดังกล่าว สามารถรับคาสั่งจาก
เครื่องส่งวิทยุได้ไกล 300 – 1000 เมตร และในรีซีฟเวอร์หรือเครื่องรับนี ก็ต้องการ
พลังงานหล่อเลี ยงจากแบตเตอรี่เช่นกัน พลังงานจากแบตเตอรี่มักจ่ายผ่านสปีด
คอนโทรลหรืออุปกรณ์ควบคุมความเร็วนั่นเอง
ภาพที่ 2.9 รีซีฟเวอร์
ที่มา : https://1th.me/Kv13
2.5.3 รีโมท Radiolink T8FB
RadioLink T8FB ตัวส่งสัญญาณ FHSS RC ขนาด 2.4G 8CH รีโมทคอนโทรล พร้อม
R8EF ตัวรับแรงดันไฟฟ้าสูงสุด 10 V , ส่งสัญญาณเอาต์พุต S-BUS, PPM และ PWM
PWMใช้สาหรับควบคุมการดาเนินการของสิ่งประดิษฐ์หรือเครื่องจักรต่างๆจากระยะ
ไกล โดยไม่ใช้สายไฟเป็นตัวส่งสัญญาณแต่ใช้อินฟราเรดแทน ใช้พลังงานจาก
แบตเตอรี่ขนาดเล็กไม่กี่ก้อนเท่านั น รีโมทคอนโทรลจะสามารถสั่งงานได้ ต้อง
ประกอบด้วย 2 สิ่งนี คือ รหัส และ ตัวส่งสัญญาณ
1) รหัส คือ เป็นระบบสัญญาณจะนาออกได้ต้องมีตัวคลื่นพานาออกไป
2) ตัวส่งสัญญาณ(Carrier) คือ ตัวรับสัญญาณ เพื่อถอดหรือรับรหัสที่ถูกส่งมาใช้
ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ
ภาพที่ 2.10 รีโมท Radiolink T8FB
ที่มา : https://1th.me/Kv13
ขดลวดสนามแม่เหล็ก (Field Coil) คือขดลวดที่ถูกพันอยู่กับขั วแม่เหล็กที่ยึดติดกับ
โครงมอเตอร์ ทาหน้าที่กาเนิดขั วแม่เหล็กขั วเหนือ (N) และขั วใต้ (S) แทนแม่เหล็ก
ถาวรขดลวดที่ใช้เป็นขดลวดอาบนายาฉนวนสนามแม่เหล็กจะเกิดขึ นเมื่อจ่ายแรงดัน
ไฟตรงให้มอเตอร์ – ขั วแม่เหล็ก (Pole Pieces) คือแกนสาหรับรองรับขดลวดสนาม
แม่เหล็กถูกยึดติดกับโครงมอเตอร์ด้านใน ขั วแม่เหล็กทามาจากแผ่นเหล็กอ่อน
บางๆ อัดซ้อนกัน (Lamination Sheet Steel) เพื่อลดการเกิดกระแสไหลวน (Edy
Current) ที่จะทาให้ความเข้าของสนามแม่เหล็กลดลง ขั วแม่เหล็กทาหน้าที่ให้กา
เนิดขั วสนามแม่เหล็กมีความเข้มสูงสุด แทนขั วสนามแม่เหล็กถาวร ผิวด้านหน้า
ของขั วแม่เหล็กทาให้โค้งรับกับอาร์เมเจอร์พอดี – โครงมอเตอร์ (Motor Frame) คือ
ส่วนเปลือกหุ้มภายนอกของมอเตอร์ และยึดส่วนอยู่กับที่
12
(Stator) ของมอเตอร์ไว้ภายในร่วมกับฝาปิดหัวท้ายของมอเตอร์ โครงมอเตอร์ทา
หน้าที่เป็นทางเดินของเส้นแรงแม่เหล็กระหว่างขั วแม่เหล็กให้เกิดสนามแม่เหล็กครบ
วงจร – อาร์เมเจอร์ (Armature) คือส่วนเคลื่อนที่ (Rotor) ถูกยึดติดกับเพลา (Shaft)
และรองรับการหมุนด้วยที่รองรับการหมุน (Bearing) ตัวอาร์เมเจอร์ทาจากเหล็กแผ่
นบางๆ อัดซ้อนกัน ถูกเซาะร่องออกเป็นส่วนๆ เพื่อไว้พันขดลวดอาร์เมเจอร์
(Armature Winding) ขดลวดอาร์เมเจอร์เป็นขดลวดอาบนายาฉนวน ร่องขดลวด
อาร์เมเจอร์จะมีขดลวดพันอยู่และมีลิ่มไฟเบอร์อัดแน่นยึดขดลวดอาร์เมเจอร์ไว้ปลาย
ขดลวดอาร์เมเจอร์ต่อไว้กับคอมมิวเตเตอร์อาร์เมอเจอร์ผลักดันของสนามแม่เหล็กทั
งสองทาให้อาร์เมเจอร์หมุนเคลื่อนที่ – คอมมิวเตเตอร์ (Commutator) คือส่วน
เคลื่อนที่อีกส่วนหนึ่ง ถูกยึดติดเข้ากับอาร์เมเจอร์และเพลาร่วมกันคอมมิวเตเตอร์ทา
จากแท่งทองแดงแข็งประกอบเข้าด้วยกันเป็นรูปทรงกระบอกแต่ละแท่งทองแดง
ของคอมมิวเตเตอร์ถูกแยกออกจากกันด้วยฉนวนไมก้า (Mica) อาร์เมเจอร์ คอมมิว
เตเตอร์ทาหน้าที่เป็นขั วรับแรงดันไฟตรงที่จ่ายมาจากแปรงถ่านเพื่อส่งไปให้ขดลวด
อาร์เมอร์ – แปรงถ่าน (Brush) คือ ตัวสัมผัสกับคอมมิวเตเตอร์ ทาเป็นแท่งสี่เหลี่ยม
ผลิตมาจากคาร์บอนหรือแกรไฟต์ผสมผงทองแดง เพื่อให้แข็งและนาไฟฟ้าได้ดี มี
สายตัวนาต่อร่วมกับแปรงถ่านเพื่อไปรับแรงดันไฟตรงที่จ่ายเข้ามา แปรงถ่านทา
หน้าที่รับแรงดันไฟตรงจากแหล่งจ่าย จ่ายผ่านไปให้คอมมิวเตเตอร์
ภาพที่ 2.12 หลักการทางานของมอเตอร์กระแสตรง
ที่มา : http://www.psptech.co.th/
3) หลักการทางานของมอเตอร์กระแสตรง การทางานเบื องต้นของมอเตอร์
ไฟฟ้ากระแสตรง มีแรงดันไฟตรงจ่ายผ่านแปรงถ่านไปคอมมิวเตเตอร์ ผ่านไปให้ขด
ลวดตัวนาที่อาร์เมเจอร์ ทาให้ขดลวดอาร์เมเจอร์เกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ นมา ทาง
ด้านซ้ายมือเป็นขั วเหนือ (N) และขวามือเป็นขั วใต้ (S) เหมือนกับด้านขวาขั วแม่เหล็ก
ถาวรที่วางอยู่ใกล้ๆ เกิดอานาจแม่เหล็กผลักดันกัน อาร์เมเจอร์หมุนไป
13
ในทิศทางตามเข็มนาฬิกา พร้อมกับคอมมิวเตเตอร์หมุนตามไปด้วย แปรงถ่านสัมผัส
กับส่วนของคอมมิวเตเตอร์ เปลี่ยนไปในอีกปลายหนึ่งของขดลวด แต่มีผลทาให้เกิด
ขั วแม่เหล็กที่อาร์เมเจอร์เหมือนกับชั วแม่เหล็กถาวรที่อยู่ใกล้ๆอีกครั ง ทาให้อาร์
เมเจอร์ยังคงถูกผลักให้หมุนไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกาตลอดเวลา เกิดการหมุนขอ
งอาร์เมเจอร์คือมอเตอร์ไฟฟ้าทางาน
ข้อดีของมอเตอร์กระแสตรง
การควบคุมแรงบิดหรือความเร็วทาได้ง่ายและดีมาก
มีผลตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว
การปรับความเร็วสามารถทาได้ในช่วงกว้าง
ข้อเสียของมอเตอร์กระแสตรง
การบารุงรักษาสูงมากเนื่องจากมีส่วนสึกหรอของแปรงถ่าน
ราคาแพงมากเมื่อเทียบกับมอเตอร์กระแสสลับที่มีขนาดกาลังแรงม้าเท่ากัน
มีขนาดใหญ่กว่ามอเตอร์กระแสสลับที่มีขนาดแรงม้าเท่ากัน
ไม่สามารถนาไปใช้ในที่มีสารไวไฟได้
การควบคุมความเร็ว โดยจะไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของกาลังที่ส่งใส่เข้าไป ซึ่ง
สามารถควบคุมได้โดยการปรับค่าของแรงดันไฟฟ้าของแกนแม่เหล็กไฟฟ้า – การ
เพิ่มแรงดันไฟฟ้าของแกนแม่เหล็ก จะทาให้มีความเร็วเพิ่มขึ น
กระแสสนาม – การลดกระแสไฟฟ้าของสนามแม่เหล็ก จะทาให้ความเร็วเพิ่มขึ นมอ
เตอร์กระแสตรงมีอยู่หลายขนาด แต่โดยทั่วๆ ไปแล้ว จะมีกาลังการใช้งานจากัดอยู่
เพียงในช่วงความเร็วต่าถึงความเร็วปานกลาง เช่น เครื่องจักรและเครื่องบดต่างๆ
เพราะว่า ถ้ามีการใช้งานมากกว่านี จะมีปัญหาเรื่องระบบกลไกและการเปลี่ยนทิศทาง
กระแสไฟฟ้า นอกจากนี แล้ว การใช้งานยังจากัดอยู่ในสภาวะที่สะอาดและไม่มีอันต
รายเท่านั น เพราะอาจมีความเสี่ยงจากประกายไฟที่แปรง เมื่อเปรียบเทียบราคาแล้ว
มอเตอร์กระแสตรงก็ยังมีราคาแพงกว่ามอเตอร์กระแสสลับ
4) ความสัมพันธ์ระหว่างความเร็ว การไหลในสนามและแรงดันไฟฟ้าของแกนแม่เหล็ก
จะสามารถพิจารณาได้จากสมการดังต่อไปนี
2.6.2 เพลาเรือ อุปกรณ์ที่ใช้ส่งกาลังจากจุดหนึ่งไปยังจุดอื่นการส่งกาลังโดยหมุน
จากตัวต้นกาลังที่อาจจะเป็น มอเตอร์ หรือติดตั งต้นกาลังขับตรงที่ปลายเพลาก็ได้
ปลายด้านหนึ่งติดอยู่กับมอเตอร์ ส่วนปลายอีก
ด้านหนึ่งติดอยู่กับใบพัด โดยลักษณะจะเป็นเหมือนลวดม้วนเป็นเกลียวหลายชั น แต่
สามารถงอได้ แต่ไม่สามารถดัดให้คงรูปได้
ภาพที่ 2.13 เพลาเรือ
2.6.3 ท่อทองแดง
เอาไว้สาหรับใส่เพลาไว้ด้านใน สามารถดัดให้โค้งงอแล้วคงรูปไว้ได้ ท่อเป็นท่อกลวง
ทามาจากทองแดง เป็นตัวทาให้เพลาเรือสามารถดัดหรืองอแล้วคงรูปอยู่แบบนั
นได้
ภาพที่ 2.14 ท่อทองแดง
2.6.4 จาปา
เอาไว้สาหรับยึดเพลาให้แน่นเพื่ อที่จะสามารถเคลื่ อนที่ได้ตามการหมุนของมอเตอร์
จาปามีความสามารถในการบีบรัดแกนเพลา โดยอาศัยการบีบของดอกจาปาในการ
รัดเพลาให้แน่น
ภาพที่ 2.15 จาปายึดเพลา
2.6.5 ใบจักร
ใบจักรเรือจะมีลักษณะเหมือนกับใบพัดลมใบจักรจะส่งกาลังโดยการแปลง การ
หมุนเคลื่อนไหวให้เป็นแรงผลักดัน ทาให้เกิดความแตกต่างความดันที่ผลิตระหว่าง
พื นผิวด้านหน้าและด้านหลังของใบพัดหรือ airfoil ในรูปของเหลว โดยด้านหลัง
ของใบพัดจะผลักดันของเหลวทาให้เรือขับเคลื่อนไปทางด้านหน้า ซึ่งรูปร่าง
ของเหลวที่ผลักดันจะมีลักษณะเป็นรูปของสกรู
1) จานวนของใบจักร โดยทั่วไปใบจักรที่ใช้กันอยู่ทั่ว ๆ ไปจะมีใบอยู่ 2 – 4 ใบ การ
เลือกใช้ใบจักรที่มีจานวนใบที่ต่างจากใบจักรปกติ ควรที่จะต้องเช็คเส้นรอบวงและ
พิทของใบจักรด้วย เพราะจานวนใบที่ต่างอาจจะมีผลต่อรอบเครื่องยนต์และอาจจะ
ทาให้เครื่องมีการขับเคลื่อนที่ไม่เต็มที่ได้ แต่โดยปกติแล้วใบจักรที่มี 3 ใบและ 4 ใบ
สามารถที่จะใช้แทนกันได้
ภาพที่ 2.16 ใบจักร
ที่มา : http://www.rc8riew.com/Default.aspx?
pageid=112&PRODUCT_ID=448
2) การออกแบบใบจักรเรือด้วยวิธีซิงกูแลริตี ของเคลวิน ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงพลศาสตร์ของใบจักร
เรือ นอกเหนือจากรูปร่างลักษณะของใบจักรแล้วยังมีอิทธิพลของผิวอิสระหรือผิวนาและการเกิดฟอง
อากาศ (Cavitation)ร่วมอยู่ด้วยฟองอากาศเกิดขึ น เนื่องจากการไหลหมุนที่ปลายใบจักร (Tip
vortex) ทาให้ความดันในบริเวณหมุนวนลดต่าลงมาก เกิดเป็นฟองอากาศ เป็นสาเหตุให้สูญเสีย
พลังงานและเป็นสาเหตุหลักในการสึกหรอของใบจักร การคานวณหาแรงพลศาสตร์บนใบจักรสามารถ
กระทาได้ โดยอาศัยวิธีซิงกูแลริตี ของเคลวิน หรือ ระเบียบวิธีขอบเขตมูลฐานร่วมกับ ฟังก์ชันของกรี
นที่คิดจากอิทธิพลของผิวอิสระด้วยวิธีการนี สามารถคานวณอิทธิพลของผิวอิสระต่อแรงพลศาสตร์ที่
เกิดขึ น และคาดหวังที่จะทานายการเกิดฟองอากาศได้ นอกจากนี ระเบียบวิธีที่ใช้ยังมีข้อได้เปรียบคือ
สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างของใบจักรได้โดยง่ายอีกด้วย
19
ภาพที่ 2.17 การหมุนที่ปลายใบจักร
ที่มา : http://www.niyomkamarine.com
3) ระยะ Diameter และ Pitch ของใบจักรเรือ เนื่องด้วยใบจักร เป็นสิ่งที่สาคัญมากของเรือ
เพราะถ้าเรือไม่มีใบจักรก็ไม่สามารถที่จะวิ่งไปไหนได้ การใช้เรือตามขนาดต่าง ๆ นั น ผู้เดินเรือจะต้อง
มีความรู้เรื่องใบจักรด้วย เช่นใบจักรที่ใช้เป็นใบจักรประเภทไหน ระยะพิทเท่าไหร่ ซึ่งการเลือกขนาด
และประเภทของใบจักรให้เหมาะสมกับเรือและเครื่องเรือเป็นสิ่งสาคัญมาก ผู้เดินเรือหรือผู้สร้างเรือ
จะต้องเลือกใบจักรที่ถูกต้องจะทาให้เครื่องยนต์ทางานได้เต็มสมรรถนะและควบคุมรอบของ
เครื่องยนต์ให้ทางานได้เต็มประสิทธิภาพตามแรงม้าของเครื่องยนต์ ระยะของใบจักร โดยทั่วไปจะแบ่ง
ออกเป็น เส้นผ่าศูนย์กลาง (Diameter) และระยะพิท (Pitch)Diameter หมายถึง เส้นผ่าศูนย์กลาง
ของใบจักรจากปลายด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งขนาดของDiameterจะต้องขึ นอยู่กับขนาดและ
ประเภทของเครื่องยนต์ ถ้าเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กก็จะต้องใช้ใบจักรที่มีDiameterที่เล็กถ้าเป็น
เครื่องยนต์ที่ใหญ่ก็จะต้องใช้ Diameter ที่ใหญ่ตามขึ นมาเช่นกัน Pitch หมายถึง ระยะของการ
เคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อการหมุน 1 รอบของเครื่องยนต์ ใบจักรที่มีระยะพิทต่าหรือวงนาที่สั น จะทาให้
เรือมีอัตราเร่งที่ดี มีแรงดันที่ดีเรือจะออกตัวได้เร็ว ซึ่งจะทาให้เรือมีความเร็วช่วงต้นที่ดี
ภาพที่ 2.18 แสดงการเปรียบเทียบ ระยะพิทใบจักรเรือ
ที่มา : http://www.niyomkamarine.com
ส่วนใบจักรที่มีระยะพิทที่สูงมากขึ น อาจจะทาให้เรือออกตัวได้ช้าลง แต่จะทาให้ความเร็วช่วงปลายได้ดี
กว่าใบจักรที่มีพิทต่ากว่า ในบางกรณีที่ต้องการได้ความเร็วปลายสูง จึงเลือกใบพัดที่มีระยะพิทที่สูง แต่
ถ้าระยะพิทที่ใช้เกินกว่าที่เครื่องยนต์จะรับไหว อาจจะทาให้เครื่องยนต์เสียหายได้เช่นกัน ดังนั นก่อนที่
จะเลือกระยะพิทของใบจักรนั น ผู้ขับเรือควรจะต้องดูด้วยว่าเครื่องยนต์สามารถที่จะรองรับระยะพิทที่
สูงสุดได้เท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีระบุมาในคู่มือของเครื่องยนต์
2.6.6 Rclander 6 blades
เครื่องยนต์พร้อมพัดลมเป็นส่วนขับเคลื่อนเดินหน้า-ถอยหลัง กันนาได้ มีพลังสูง นิยมใช้ทาโปรเจค
เครื่องบิน หรือเรือดานา
ภาพที่ 2.19 รูปRclander 6 blades
ที่มา : https://1th.me/oQyV
2.6.7 แบตเตอรี่
คืออุปกรณ์ที่เราใช้เก็บไฟฟ้า โดยจะรับกระแสไฟฟ้า เก็บไฟฟ้าไว้และจ่ายออกมา ให้ใช้ในเวลาที่เรา
ต้องการ แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเคมี เก็บไฟฟ้าไว้ในสภาพของสารเคมีและแปลงออกมาเป็น
ไฟฟ้า ซึ่งสารเคมีในแบตเตอรี่ยังทางานกลับไปกลับมาได้เรื่อยๆ เป็นเวลานานๆแบตเตอรี่แบบ
ลิเทียมโพลิเมอร์ 2200 mAh ใน 1 ชั่วโมงแบตเตอรี่จะถูกใช้ออกไป 2.2 Amp เป็นปริมาณกระแสที่จ่าย
ไฟได้ยิ่งความจุมากก็ทางานได้นานขึ นดังนั น ถ้าต้องการให้หุ่นยนต์ใช้งานได้นาน ๆ ก็ต้องหาความจุ
ที่เยอะหน่อย แต่เมื่อความจุมากขนาดก็ใหญ่ขึ นไปด้วย จึงต้องคานวณกระแสที่หุ่นยนต์ใช้งาน เทียบ
กับเวลาที่ใช้งาน ก็จะได้ปริมาณที่ต้องการ ข้อดีสามารถเร่งความเร็วมอเตอร์ได้อย่างเต็มที่ ขับอุปกร
กระแสสูงหลายๆตัวได้พร้อม ๆ กัน มีหลายรูปแบบขนาด ทาให้ยึดติดตั งได้ง่าย , มีนาหนักเบาในเมื่อ
เทียบกับความจุ
ภาพที่ 2.20 แบตเตอรี่แบบลิเทียมโพลิเมอร์ 2200mAh
ที่มา : https://1th.me/o585
แรงลอยตัว คือแรงกระทาในทิศทางพุ่งขึ นที่ของไหลต่อต้านต่อนาหนักของวัตถุถ้ามองของ
ไหลในแนวดิ่ง ความดันจะเพิ่มขึ นตามระดับความลึกอันเป็นผลจากนาหนักของของไหลที่อยู่ชั
นบนๆ
ภาพที่ 2.21 แสดงแรงลอยตัวของวัตถุ
ที่มา : https://mechanicalpropertiesofmaterials.wordpress.com/
ดังนั นในแท่งของไหลหนึ่ง ๆ หรือวัตถุที่จมอยู่ในของไหลนั นในระดับลึกจะพบกับความดันที่มากกว่า
เมื่ออยู่ที่ระดับตื น ความแตกต่างของความดันนี เป็นผลจากแรงสุทธิที่มีแนวโน้มผลักดันวัตถุให้ขึ
นไป
ข้างบน ขนาดของแรงนั นเท่ากับความแตกต่างของความดันระหว่างจุดบนกับจุดล่างสุดของแท่ง
ของ
ไหลนั นซึ่งเท่ากับนาหนักของของไหลที่อยู่ในแท่งของไหลนั นด้วย ด้วยเหตุนี วัตถุที่มีความหนาแน่น
มากกว่าของไหลจะมีแนวโน้มที่จะจมลงไปถ้าวัตถุมีความหนาแน่นน้อยกว่าของไหล หรือมีรูปร่างที่
เหมาะสม (เช่นเรือ) แรงนั นจะสามารถทาให้วัตถุลอยตัวอยู่ได้
2.6.8 มวล
มวลแห่งความเฉื่อย (Inertial Mass) เป็นค่ามวลของวัตถุที่พิจารณาได้จากกฎการเคลื่อนที่
ข้อ
ที่ 2 ของนิวตัน มวลแห่งความโน้มถ่วง (Gravitational Force) เป็นค่ามวลที่พิจารณาได้จาก
การชั่ง
หาขนาดของนาหนักของวัตถุ แล้วนามาเปรียบเทียบกับค่ามวลมาตรฐาน(Standard Mass)
ในการศึกษาระดับนี เราถือว่ามวลมีค่าคงที่ แต่จากการศึกษาระดับสูงขึ น ในปัจจุบันเราเชื่อว่า
ถ้ามวลมีอัตราเร็วมาก ๆ มวลของวัตถุจะมากขึ นไปเลื่อยๆ โดยเฉพาะขณะมวลมีความเร็วเข้า
ใกล้แสงแล้วมวลของเราจะมีค่าเข้าใกล้อนันต์
2.6.9 กฎของนิวตัน
Sir Issac Newton นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษได้สรุปเกี่ยวกับกฎการเคลื่อนที่ของวัตถุ ทั งที่อยู่ใน
สภาพหยุดนิ่งและอยู่ในสภาพเคลื่อนที่ มี 3 ข้อด้วยกัน เรียกว่า กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน ซึ่ง
กฎทั ง 3 ข้อมีดังนี
กฎข้อที่ 1 ถ้าไม่มีแรงภายนอกกระทาต่อวัตถุ วัตถุจะอยู่ในสภาวะเดิมของการเคลื่อนที่ กล่าว
คือ ถ้าวัตถุหยุดนิ่งก็จะหยุดนิ่งต่อไป ซึ่งเรียกว่าสมดุลสถิตและถ้าวัตถุเคลื่อนที่ ก็จะเคลื่อนที่
ด้วยความเร็วคงที่สามารถพิจารณาได้จากสมการดังต่อไปนี
บทที่ 3อุปกรณ์และวิธีการ
3.1 อุปกรณ์
3.1.1 โครงเรือ
มีหน้าที่ในการคาจุน เป็นโครงสร้างหลักของเรือเก็บขยะ มีขนาด กว้าง 45 เซนติเมตร
ยาว 60 เซนติเมตร สูง 35 เซนติเมตร วัสดุที่ใช้ในการนาไปสร้างโครงเรือมีดังนี
1) อลูมิเนียมฉากด้านเท่าขนาด 1″2/8 x 1″2/8 (32×32 mm) ความหนา 1.2 mm
ภาพที่ 3.1 ขนาดของอลูมิเนียมฉาก
ที่มา : https://aluminiumkpb.yellowpages.co.th/
2) ท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride ; PVC) ท่อพลาสติกพอลิไวนิล
คลอไรด์สีฟ้า แบบท่อปลายธรรมดา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ ว และฝาปิดปลาย
ท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์ ขนาด 4 นิ ว
ภาพที่ 3.2 ท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์
ที่มา : https://www.thailandwatsadu.com/product
3) ฝาครอบท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์ ขนาด 4 นิ ว หนา 0.5 เซนติเมตร
ภาพที่ 3.3 ฝาครอบท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์
ที่มา :https://beelievesourcing.co.th/
ภาพที่ 3.4 ท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์ที่ปิดฝาครอบท่อแล้ว
ที่มา : https://1th.me/OfhP
4) สายรัดท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์ 4 อัน ซึ่งสายรัดนี จะทาหน้าที่ในการยึด ท่อ
พลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์ที่ปิดฝาครอบท่อแล้วให้ติดกับโครงเรือ เพื่อที่จะทาให้เรือ
สามารถลอยได้
ภาพที่ 3.5 สายรัดท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์ขนาด 100-120 มิลลิเมตร
ที่มา : http://homemart-thailand.com/อุปกรณ์ประปา/
5.) หมุดรีเวทไว้สาหรับเชื่อมต่อแผ่นอลูมิเนียม 3 ขนาด คือขนาด 4-3,ขนาด 4-6,ขนาด
4-8
ภาพที่ 3.6 ขนาดของหมุดรีเวท
ที่มา : https://pantip.com/topic/30892730
3.1.2 ตะแกรงเหล็ก
ขนาด 39 ซม.× 31 ซม.× 33 ซม. ออกแบบให้ด้านบนและด้านหน้าของตะแกรงไม่มี
ตาข่ายปิด เผื่อง่ายในการนาเอาขยะออกจากเรือ
ภาพที่ 3.7 ตะแกรงเหล็ก
3.1.3 กล่องควบคุมความเร็วมอเตอร์
1) สปีดคอนโทรล 3 ตัว แต่ละตัวทาหน้าที่แตกต่างกัน ตัวที่ 1 ควบคุมการทางานของ
มอเตอร์ฝั่ งซ้าย ตัวที่ 2 ควบคุมการทางานมอเตอร์ฝั่ งขวา และตัวที่ 3 ควบคุมการทา
งานของตัว Rclander
3.1.4 ชุดบังคับทิศทางเรือ
1) มอเตอร์ขับเคลื่อนโดยแหล่งจ่ายไฟกระแสตรง 12 V ความเร็วรอบ 9000 rpm 2 ตัว
ภาพที่ 3.9 มอเตอร์ขับเคลื่อนโดยแหล่งจ่ายไฟกระแสตรง
2) เพลาและใบพัดเรือ 2 ชุด
2.1 ใบพัดเรือแบบ 3 ใบ จานวน 2 ชุด
ภาพที่ 3.11 ใบพัดเรือ 3 ใบมีดพลาสติก ขนาด 55 มิลลิเมตร
2.2 ท่อทองแดง 2 ชิ น ใช้สาหรับใส่เพลาสามารถดัดให้โค้งงอได้
ภาพที่ 3.12 ท่อทองแดงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 มิลลิเมตร ยาว 10 เซนติเมตร
2.3 เพลาเรือทาหน้าที่ในการส่งผ่านกาลังจากมอเตอร์ทาให้ใบพัดหมุนตามมอเตอร์
ภาพที่ 3.13 เพลาเรือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 มิลลิเมตร ยาว 34.5 เซนติเมตร
2.4 จาปาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 มิลลิเมตร จานวน 2 ชิ น ทาหน้าที่ในการยึดเพลา
เรือให้สามารถหมุนตามการทางานของมอเตอร์ที่ เป็นตัวต้นกาลัง
3) ชุดขับเคลื่อนเดินหน้า – ถอยหลัง ใช้มอเตอร์ Rclander 6 blades ขนาด 64 mm
ความเร็วในการหมุน 4500 rpm
ภาพที่ 3.15 มอเตอร์ Rclander 6 blades
3.1.5 ชุดควบคุมการขับเคลื่อน
1) รีโมทบังคับวิทยุ 1 ตัว
ภาพที่ 3.16 รีโมท Radiolink T8FB
2) รีซีฟเวอร์ 1 ตัว มีทั งหมด 8 Channel – Channel 2 ควบคุมการทางานมอเตอร์
กระแสตรงตัวที่ 1 – Channel 3 ควบคุมการทางานมอเตอร์กระแสตรงตัวที่ 2 –
Channel 6 ควบคุมการทางานของ Rclander
ภาพที่ 3.17 รีซีฟเวอร์
ที่มา : https://1th.me/Kv13
3.1.6 แบตเตอรี่เป็นแบบลิเทียมโพลิเมอร์ 2200mAh 2 ลูก
ภาพที่ 3.18 แบตเตอรี่แบบลิเทียมโพลิเมอร์ 2200mAh
3.1.7 ส่วนประกอบเพิ่มเติม
1) แผ่นอะคริลิค หนา 5 มิลลิเมตร
1.1 แผ่นอะคริลิคบนด้านท้ายตัวเรือ ขนาด 17 เซนติเมตร × 44 เซนติเมตร
1.2 แผ่นอะคริลิคล่างด้านท้ายตัวเรือ ขนาด 15.5 เซนติเมตร × 44 เซนติเมตร
1.3 แผ่นอะคริลิคที่รองตะแกรง ขนาด 34 เซนติเมตร × 45 เซนติเมตร
2) อลูมิเนียมแผ่น 0.5 มิลลิเมตร ขนาด 60 เซนติเมตร × 120.5 เซนติเมตรและทาการ
ดัดแผ่นอลูมิเนียมให้เป็นรูปร่าง
30
ภาพที่ 3.19 แผ่นอลูมิเนียมดัดเป็นเฟรมหุ้มโครงเรือเก็บขยะ
3.2 วิธีการดาเนินการ
3.2.1 ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรือบังคับวิทยุ
วัสดุในการทาโครงเรือได้เลือกใช้อลูมิเนียมในการทาโครงเรือ เพราะมีนาหนักที่เบา
ราคาถูกและสามารถหาได้ง่าย ได้ ส่วนตัวทุ่นเรือใช้ท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์เป็น
ทุ่นในการทาให้เรือเก็บขยะลอยนาได้ ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนเดินหน้า-ถอยหลัง 1 ตัว และ
มอเตอร์บังคับทิศทางจานวน 2 ตัว โดยใช้กล่องควบคุมความเร็วมอเตอร์ในการ
ควบคุมมอเตอร์ และใช้ชุดบังคับวิทยุ ประกอบด้วยรีโมทบังคับวิทยุและภาครับ
สัญญาณบังคับวิทยุ ใช้แบตเตอรี่เป็นแบบลิเทียมโพลิเมอร์
3.2.2 การออกแบบโครงเรือ
ออกแบบโครงเรือโดยใช้โปรแกรม Solid work โดยใช้อลูมิเนียมฉากแบบบาง ตัดให้ได้
ขนาด กว้าง 45 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร สูง 35 เซนติเมตร แล้วนามาประกอบกัน
โดยการยิงหมุดรีเวท และด้านข้างของเรือใช้ท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์ขนาดเส้น
ผ่านศูนย์กลาง 4 นิ ว เป็นทุ่นลอยนา ขนาดตะแกรงเก็บขยะกว้าง 98.5 เซนติเมตร ยาว
33 เซนติเมตร สูง 31.5 เซนติเมตร
ภาพที่ 3.20 โครงเรือที่ออกแบบโดยโปรแกรม Solidwork
3.2.3 หลักการทางานของเรือเก็บขยะ
3.2.4 การควบคุมเรือผ่านรีโมทบังคับวิทยุ
การบังคับให้เรือเดินหน้าและถอยหลัง จะสามารถบังคับได้ตามภาพที่ 3.26 และภาพที่
3.27 และการบังคับให้เรือเลี ยวซ้ายและเลี ยวขวา จะสามารถบังคับได้ตามภาพที่ 3.28
และภาพที่ 3.29 โดยรีโมทจะส่งสัญญาณไปที่ตัวรีซีฟเวอร์ให้รับสัญญาณ โดยใช้ทั งหมด
3 Channel คือ Channel 2 , Channel 3 , Channel 6 และรีซีฟเวอร์จะส่งสัญญาณไปที่ ส
ปีดคอนโทรลเพื่อควบคุมการทางานของตัวมอเตอร์ และRclander ให้ทางานตามคาสั่ง
ภาพที่ 3.26 การบังคับรีโมทให้เรือเดินหน้า ภาพที่ 3.27 การบังคับรีโมทให้เรือถอยหลัง
ภาพที่ 3.28 การบังคับรีโมทให้เรือเลี ยวซ้าย ภาพที่ 3.29 การบังคับรีโมทให้เรือเลี ยวขวา
3.2.5 หลักการทางานของการบังคับเรือ
3.2.6 ติดตั งระบบขับเคลื่อนเรือ ตาแหน่งการติดตั งต้นกาลังในการขับเคลื่อนเรือ จะติด
ตั งด้านบนของท่อนาท่อพลาสติกพอลิไวนิลคลอไรด์ ขนาด 4 นิ วตาแหน่งส่วนท้ายของ
ตัวเรือ ซึ่งใช้มอเตอร์ Rclander ขับเคลื่อนให้เรือเคลื่อนที่เดินหน้าถอยหลังได้ และใช้
มอเตอร์อีก 2 ตัว ที่วางอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาของเรือในการเลี ยวซ้ายเลี ยวขวา ตา
แหน่งของมอเตอร์และแนวการติดตั งใบจักรเรืออยู่ต่างระดับกันมากจึงต้องทาให้เพลา
โค้งงอเพื่อให้ใบจักรหมุนในแนวระนาบและใช้พื นที่ในการติดตั งเพลาน้อยที่สุด ใบจักร
เรือควรขนานกับระดับนาให้มากที่สุด เพื่อให้ได้แรงขับในแนวระดับ
รีโมท
เดินหน้า รีซีฟเวอร์ Channel 6
เลี ยวขวา
เลี ยวซ้าย รีซีฟเวอร์ Channel 2 รีซีฟเวอร์ Channel 3
สปีดคอนโทรลตัวที่ 1
สปีดคอนโทรลตัวที่ 2
สปีดคอนโทรลตัวที่ 3
มอเตอร์ตัวที่ 2
มอเตอร์ตัวที่ 1
Rclander
3.2.7 การนาแบตเตอรี่ไปใช้งาน
1) แบตเตอรี่ตัวที่หนึ่ง
แบตเตอรี่แบบลิเทียมโพลิเมอร์ 2200mA ใน 1 ชั่วโมงแบตเตอร์รี่จะถูกใช้ออกไป 2.2 A
มอเตอร์ดักแฟนใช้กระแสไฟฟ้าในการทางานขนาด 1.5 A และกล่องควบคุมความเร็ว
มอเตอร์ ใช้กระแสไฟฟ้าในการทางานขนาด 3 A
รวมใช้กระแสไฟฟ้าทั งหมด 3 A+1.5 A= 4.5 A
นากระแสไฟฟ้าที่ถูกใช้ได้สูงสุดของแบตเตอรี่หารด้วยกระแสไฟฟ้าที่ใช้ทั งหมด
จะใช้งานแบตเตอรี่ได้ 2.2 / 4.5 = 0.48 ชั่วโมง
แปลงเป็นนาที 0.48 × 60 = 29.33 นาที
2) แบตเตอรี่ตัวที่สอง
แบตเตอรี่แบบลิเทียมโพลิเมอร์ 2200mA ใน 1 ชั่วโมงแบตเตอร์รี่จะถูกใช้ออกไป 2.2 A
มอเตอร์ขับเคลื่อนใช้กระแสไฟฟ้าในการทางานขนาด 1.5 A ซึ่งมีมอเตอร์ขับเคลื่อน 2
ตัว, กล่องควบคุมความเร็วมอเตอร์ ใช้กระแสไฟฟ้าในการทางานขนาด 3 A กล่อง
ควบคุมความเร็วมอเตอร์ จานวน 2 ตัว และรีซีฟเวอร์ใช้กระแสไฟฟ้าในการทางาน 0.25 A
รวมใช้กระแสไฟฟ้าทั งหมด (1.5A×2) + (3A×2) + 0.25A = 9.25 A
นากระแสไฟฟ้าที่ถูกใช้ได้สูงสุดของแบตเตอรี่หารด้วยกระแสไฟฟ้าที่ใช้ทั งหมด
จะใช้งานแบตเตอรี่ได้ 2.2 × 9.25 = 0.2378 ชั่วโมง
แปลงเป็นนาที 0.2378 × 60 = 14.26 นาที
บทที่ 4 ผลการทดสอบการทางาน
4.1 การทดสอบการทรงตัวของเรือ
การทดสอบการทรงตัวของเรือยังไม่ค่อยสมดุล เรือมีลักษณะด้านหลังจมลงไป
มากกว่าด้านหน้า อาจจะเป็นเพราะท่อที่ใช้พยุงตัวเรือมีขนาดเล็กเกินไป และนาหนัก
ของตัวเรือด้านหน้าและด้านหลังยังไม่สมดุลกัน แต่ก็สามารถลอยได้ แม้ขณะ
เคลื่ อนที่ก็ไม่จม
ภาพที่ 4.1 องค์ประกอบหลักในการขับเคลื่อนเรือ
ภาพที่ 4.2 ภาพด้านหลังเรือขณะทาการเก็บขยะ
มอเตอร์บังคับเลี้ยวขวำ
มอเตอร์บังคับเลี้ยวซ้ำย
มอเตอร์ดักแฟนใช้ในกำรเดินหน้ำ
ภาพที่ 4.3 ภาพด้านข้างเรือขณะทาการเก็บขยะ
ภาพที่ 4.4 ภาพด้านหน้าเรือขณะทาการเก็บขยะ
ภาพที่ 4.5 ภาพเรือขณะกาลังเลี ยวไปทางซ้าย
ภาพที่ 4.6 ภาพเรือขณะกาลังเลี ยงไปทางขวา
ภาพที่ 4.7 หลังจากทาการเก็บขยะ นาตะแกรงที่มีขยะถอดออกมาทิ ง
ตารางที่ 4.1 ทดสอบการรับนาหนักขยะของเรือเก็บขยะ
4.2 ทดสอบมอเตอร์ขับเคลื่อน
ทาการทดสอบมอเตอร์ที่ควบคุมการเลี ยวซ้ายและเลี ยวขวา สามารถหมุนซ้าย –
หมุนขวาได้ปกติ ตัวมอเตอร์ขับเคลื่อนเดินหน้า (Rclander)มีกาลังมาก สามารถ
หมุนซ้าย – หมุนขวาได้ปกติ แต่พบปัญหาคือเพลาที่ต่อกับมอเตอร์ควบคุมการเลี
ยว หากยึดไม่แน่นจะเกิดการสั่นและทาให้ตัวเพลาเสียหายได้
ภาพที่ 4.8 เพลาเรือและการวางใบพัดเรือให้ตั งฉากกับนา
ภาพที่ 4.9 เพลาที่เกิดการคลายตัวเนื่องจากการยึดเพลากับแกนมอเตอร์ไม่แน่น
พบปัญหาคือ เพลาที่ต่อกับมอเตอร์ควบคุมการเลี ยวเกิดการคลายตัว เนื่องจาก
การยึดของตัวจาปายึดเพลามอเตอร์ไม่แน่นพอทาให้เกิดการสั่นของหางเสือ จึงทา
ให้เพลาเกิดการเสียดสีกับภายในตัวจาปาทาให้ตัวเพลาเกิดการคลายตัวและเกิด
การเสียหายเกิดขึ น
ตารางที่ 4.2 ผลการทดสอบระยะเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่
ตารางที่ 4.3 ผลการทดสอบความเร็วเรือ
บทที่ 5 สรุปและข้อเสนอแนะ
บทนี จะกล่าวถึงข้อสรุปปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาแต่ละจุดที่เกิดขึ นกับ
โครงงาน เพื่อนาเอาไปศึกษาและเป็นแนวทางในการปรับปรุงต่อไปได้ในอนาคต
5.1 สรุป
ถ้าเรือรับโหลดมากขึ นจะส่งผลให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ช้าลง และถ้าต้องใช้
ความเร็วที่มากขึ นจะส่งผลให้มอเตอร์กินกระแสมากขึ น แบตเตอรี่จะใช้ได้น้อยลง
การทรงตัวของตัวเรือไม่ค่อยสมดุม ด้านหน้าและด้านหลังตอนอยู่ในนาลอยไม่เท่ากัน
ด้านหลังเรือจมลงไปในนามากกว่าด้านหน้าเรืออาจจะเป็นเพราะโครงสร้างเรือและการ
จัดวางอุปกรณ์ยังไม่ถูกต้องเลยทาให้เรือเสียสมดุล และทุ่นที่ติดกับตัวเรือมีขนาดที่
เล็กไปไม่เหมาะสมกับนาหนักเรือทาให้เรือจมลงไปในนาค่อนข้างมาก ถ้ายิ่งมีการรับ
โหลดที่มากขึ นจะส่งผลให้เรือจมลงไปในนามากขึ น มอเตอร์ขับเคลื่อนเดินหน้า ถอย
หน้าใช้งานได้ดี มีกาลังมาก แต่มอเตอร์ที่ใช้เลี ยวซ้าย เลี ยวขวามีลักษณะเป็นเพลา
ยาวถ้าติดตั งเพลาไม่ดีจะเกิดการสะบัดได้ เพลาจะเสียหายและขาดได้
5.2 ข้อเสนอแนะ
5.2.1 แบตเตอรี่ต้องมีขนาดเล็กเพราะต้องการให้เรือนาหนักเบา แต่จะมีผลให้
แบตเตอรี่อยู่ได้ไม่นาน ต้องเพิ่มจานวนแบตเตอรี่
5.2.2 ใช้อลูมิเนียมที่แข็งมากกว่านี เพื่อความแข็งแรงของโครงสร้าง และรับนาหนัก
ของขยะได้มากขึ น
5.2.3 ให้ตาแหน่งใบพัดเลี ยวอยู่ในมุมองศาที่เท่ากันเพื่อความเสถียรในการเลี ยว
5.2.4 ฝาปิดท่อควรเป็นแบบโค้งเพื่อลดแรงเสียดทานในการเคลื่อนที่
5.2.5 ใช้ทุ่นขนาดใหญ่ขึ นเพื่อช่วยให้เรือลอยสูงขึ น จะได้รับนาหนักของตัวเรือและ
ขยะได้มากยิ่งขึ น
5.2.6 ติดตั งเพลาให้แน่นหนามากขึ น ป้องกันการสะบัดและป้องกันเพลาจะพังเสีย
หายได้
5.2.7 ใช้ Rclander ขนาดเล็กในการบังคับทิศทางเลี ยวซ้าย – เลี ยวขวาแทน
มอเตอร์DC แบบปกติเพราะมีกาลังสูง และกันนาได้ หมดปัญหามอเตอร์จะโดนนา
5.2.8 เรือสามารถบังคับให้เร็วกว่านี ได้อีก แต่รูปทรงไม่เหมาะสม ถ้าจะพัฒนาในการ
เคลื่ อนที่เร็วต้องออกแบบรูปทรงใหม่
บรรณานุกรม
กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม//ปัญหาขยะ//สืบค้นเมื่อ 10
กันยายน 2562/จาก http://www.pcd.go.th/info_serv/waste_rubbish.htm กรมควบคุม
มลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม//วิธีการกาจัดขยะ//สืบค้นเมื่อ 11 กันยายน
2562/จาก http://www.pcd.go.th/info_serv/waste_garbage.html SP ROBOTIC EORKS (24
SEP 2016)//ลักษณะรูปทรงของเรือและรูปแบบการทางานของเรือ//สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน
2562/จาก https://sproboticworks.com/blog/meet-‘waste-shark’-the-garbage-gobbling
ประภาภรณ์ เพชรสม และคณะ(2559)//ลักษณะรูปทรงของเรือ//โครงงานปริญญาตรี ภาควิชา
เทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้า วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (วทอ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
พระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) กรุงเทพมหานคร//สืบค้นเมื่อ 29 กันยายน 2562 นาย จิณณ
วัตร ดวงศรีแก้ว และคณะ//ลักษณะการวางของหางเรือ//วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์//สืบค้น
เมื่อ 1 ตุลาคม 2562 ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง(2560)//การตั งศูนย์เพลาใบจักรขณะที่เรือลอยอยู่ใน
นา//คณะวิศวะกรรมศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์//สืบคนเมื่อ 5
ตุลาคม 2562 ผศ. ดร.นงนุช ตั งเกริกโอฬาร ภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยบูรพา (2550)//ทุนPVCที่พยุงเรือ//สืบคนเมื่อ 12 ตุลาคม 2562/จาก
http://www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC_ID=1981 ไม่ปรากฏชื่อผู้
แต่ง(2560)//สปีดคอนโทรลแบบ ESC//สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2562/จาก
http://9turbo.org/article/know_ESC_part_1.htm
46
ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง(2559)//เครื่องรับสัญญาณหรือรีซีฟเวอร์//สืบค้นเมื่อ 14 ตุลาคม 2562/จาก
https://sites.google.com/a/samakkhi.ac.th/do-rn-laea-kheruxng-bin/kheruxng-rab-
sayyan ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง(2558)//รีโมท Radiolink T8FB//สืบค้นเมื่อ 19 ตุลาคม 2562/จาก
https://th.aliexpress.com/item/F18738-9-RadioLink-T8FB-2-4GHz-8ch-RC-Transmitter-
R8EH-Receiver-Combo-Remote-Rontrol-for-RC/32820479779.html ไม่ปรากฏชื่อผู้
แต่ง(2558)//ภาคต้นกาลัง//สืบค้นเมื่อ 24 ตุลาคม 2562/จาก http://www.psptech.co.th/
Electrical Engineering Laboratory III//เครื่องกลจักรไฟฟ้ากระแสตรง//สืบค้นเมื่อ 8
พฤศจิกายน 2562//
จากwww.ecpe.nu.ac.th/piyadanai/content/47…/02_DC_machine.doc ไม่ปรากฏชื่อผู้
แต่ง(2560)//การออกแบบใบจักรเรือด้วยวิธีซิงกูแลริตี ของเคลวิน//สืบค้นเมื่อ 9 พฤศจิกายน
2562/จาก http://www.race.kmutnb.ac.th/research/propeller ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง(2560)//
จานวนใบของใบจักรเรือ//สืบค้นเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2562/จาก
http://www.jdkpropeller.siam2web.com ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง(2560)//ระยะ Diameter และ
Pitch ของใบจักรเรือ//สืบค้นเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2562/จาก http://www
thaiboatchclub.com