21 รายงานสรุปผลโครงงาน เรื่อง ถุงเท้า ( Socky ) โดย นางสาวกวินธิดา ลุงกอ เลขที่ 1 ชพธ. 64.1 นางสาวกัญญารัตน์ นันนะวี เลขที่ 2 ชพธ. 64.1 นางสาวชาลิสา มุสุ เลขที่ 3 ชพธ. 64.1 นายปิยวัฒน์ น้ำจันทร์ เลขที่ 5 ชพธ. 64.1 นางสาววิราสินี ปงลังกา เลขที่ 11 ชพธ. 64.1 เสนอ ครูกัลยกร ตุ้ยบุญมา รายงานสรุปผลโครงงานวิชาชีพเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของ วิชา 20211-8501 โครงงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง
22 กิตติกรรมประกาศ รายงานสรุปผลการจัดทำโครงงาน ถุงเท้าSockyฉบับนี้ สำเร็จลงได้ด้วยความกรุณาและช่วยเหลือจาก ครูกัลยกร ตุ้ยบุญมา ครูที่ปรึกษาโครงงาน กรุณาให้ความรู้ คำแนะนำ คำปรึกษาและตรวจแก้ไขจน โครงงาน ถุงเท้า Socky ครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์คณะผู้จัดทำขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยและ ขอขอบพระคุณแผนกวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก ครูภัทราวรรณ สุขพันธุ์ และครูพรรสิยา นิธิกิตติ์สุขเกษม ที่ ได้สอนให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมการขาย เทคนิคการขาย หากมีขอบกพร่องหรือผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างสูงในข้อบกพร่องและความผิดพลาดนั้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงงานถุงเท้า Socky คงมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ต่อไป ผู้จัดทำ มีความประสงค์จัดทำรายงานสรุปผลโครงงาน ฉบับนี้ ขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ ในด้านการเรียน การสอนสำหรับผู้ที่ประสงค์จะนำไปใช้ และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากประโยชน์กับท่าน คณะผู้จัดทำขอมอบ เป็นสิ่งบูชา แด่ บิดา มารดา ครู อาจารย์ เพื่อนๆ และท่านผุ้มีอุปการะคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย ก
23 คำนำ รายงานสรุปผลโครงการ เล่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาโครงงาน รหัส 20211-8501 ของนักเรียน ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เพื่อดำเนินการสรุปผลโครงงาน จำหน่ายถุงเท้า Socky ของนักเรียน แผนกวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง ซึ่งประกอบไปด้วย ปก กิตติกรรมประกาศ คำนำ สารบัญ สารบัญภาพ วิจัย 5 บท ประกอบด้วย บทนำ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิธีการดำเนินงาน วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผล/ข้อเสนอแนะ ทางคณะผู้จัดทำหวังว่าเอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ และให้ความรู้ทางด้านการใช้ถุงเท้าการจำหน่าย และสามารถนำไปใช้ประกอบการทำโครงงานเพื่อต่อยอดต่อไป นางสาวชาลิสา มุสุ นางสาวกวินธิดา ลุงกอ นางสาววิราสินี ปงลังกา นางสาวกัญญารัตน์ นะนันวี นายปิยวัฒน์ น้ำจันทร์ คณะผู้จัดทำ ข
24 สารบัญ หน้า กิตติกรรมประกาศ ก คำนำ ข สารบัญ ค สารบัญภาพ ง บทคัดย่อ จ บทที่ 1 บทนำ 1 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของโครงงาน 1 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1 1.3 ขอบเขตของโครงงาน 1 1.4 เป้าหมาย 1 1.5 ระยะเวลา 1 1.6 งบประมาณ 1 1.7 สถานที่ดำเนินงาน 2 1.8 ตารางการดำเนินงาน 2 1.9 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 2 1.10 การติดตามและประเมินผล 2 1.11 ปัญหาและอุปสรรคที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 2 1.12 ผู้รับผิดชอบโครงงาน 3 1.13 ที่ปรึกษาโครงงาน 3 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 4 2.1 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 4 - 5 2.2 การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า 5 - 7 2.3 ประโยชน์ของถุงเท้า 7 - 8 บทที่ 3 วิธีการดำเนินงานวิจัย 9 3.1 ขั้นตอนดำเนินงาน 9 - 10 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย 11 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 11 - 12 ค
25 3.4 การตรวจสอบเครื่องมือวิจัย 12 - 13 3.5 การเก็บรวบรวมข้อมูล 13 3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล 13 3.7 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 13 – 15 3.8 ตารางการจัดจำหน่าย 15 3.9 แบบประเมินความพึงพอใจถุงเท้า 15 3.10 แบบสอบถามความพึงพอใจ 16 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 17 4.1 สัญลักษณ์ทางสถิติ 17 4.2 การวิเคราะห์ข้อมูล 17 ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป 17 - 18 ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจ 18 - 19 บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะ 20 5.1 สรุปผลการวิจัย 20 5.2 สรุปผลการดำเนินงาน 20 5.3 ข้อเสนอแนะ 20 ภาคผนวก ก 21 – 23 ภาคผนวก ข 24 - 30
26 สารบัญภาพ หน้า ตารางที่ 1.1 การดำเนินงาน 2 ภาพที่ 2.1 ถุงเท้าจากเส้นใยรำข้าว 5 ภาพที่ 3.1 การหาสินค้า 9 ภาพที่ 3.2 ออกแบบโลโก้ผลิตภัณฑ์ 9 ภาพที่ 3.3 บรรจุภัณฑ์ 10 ภาพที่ 3.4 การจำหน่ายสินค้า 10 ตารางที่ 3.2 การจำหน่ายสินค้า 15 ตารางที่ 3.3 แบบประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคถุงเท้า Socky 15 ตารางที่ 4.1 จำนวนร้อยละของลูกค้าที่ตอบแบบสอบถามตามเพศ 18 ตารางที่ 4.2 จำนวนร้อยละของลูกค้าที่ตอบแบบสอบถามตามอายุ 18 ตารางที่ 4.3 แสดงค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การแปรผลระดับ 19 ง
27 ชื่อโครงงาน : ความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อ ของนักศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง ผู้จัดทำ : นางสาวชาลิสา มุสุ แผนกวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก นางสาวกัญญารัตน์ นันนะวี แผนกวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก นายปิยวัฒน์ น้ำจันทร์ แผนกวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก นางสาววิราสินี ปงลังกา แผนกวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก นางสาวกวินธิดา ลุงกอ แผนกวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก ประจำปีการศึกษา : 2566 บทคัดย่อ ถุงเท้าเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัย 4 ในกลุ่มของเครื่องนุ่งห่ม สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย วัตถุประสงค์ของ โครงงาน (1.)เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นวัยใส, (2.)เพื่อฝึกการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต, (3.)เพื่อหารายเสริมระหว่างการเรียน, (4.)เพื่อความสามัคคีในหมู่คณะ วิธีการดำเนินงาน คิดหัวข้อโครงงาน เสนอโครงงาน รวบรวมข้อมูลและแบ่งงาน จัดซื้ออุปกรณ์จัดทำ ชิ้นงาน/พัฒนาต่อยอด ทดลองขายออนไลน์& หน้าร้าน ปรับปรุงแก้ไข จัดทำรูปเล่ม นำเสนอโครงงาน ผลสรุป จากการวิจัยจากลูกค้าถุงเท้า Socky ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 13 – 18 ปี การลงทุนโครงการของร้านถุงเท้า Socky มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,000 บาท เงินลงทุนทั้งหมดมาจากผู้ถือ หุ้นในกลุ่มโครงงาน จากการวิเคราะห์ผลตอบแทนของโครงการพบว่าโครงการมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ 15บาท มี อัตราผลตอบแทนภายในโครงการ 20% และมีระยะเวลาคืนทุน 01/02/2024 จ
28 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของโครงงาน ถุงเท้าเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัย 4 ในกลุ่มของเครื่องนุ่งห่ม สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัย เด็กไปจนถึงวัยชรา เด็กแรกเกิดก็ใช้ถุงเท้าในการให้ความอบอุ่นและปกป้องเท้า วัยเรียนก็ใช้ถุงเท้าในการไป เรียน วัยทำงานก็ใส่ถุงเท้าในการเสริมบุคลิก ส่วนวัยชราก็ใส่ถุงเท้าเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ถุงเท้ายัง สามารถใส่ได้กับรองเท้าหลายประเภทและยังเสริมบุคลิกภาพได้ด้วย แบรนด์Socky เป็นถุงเท้าแฟชั่นที่มีความสีสันสดใส โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่ม Gen Y โดยถุงเท้า Socky ของทางกลุ่ม จะมีความสวยงาม น่ารัก และราคาที่นักเรียนนักศึกษาสามารถจับต้องได้และประจวบกับ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ของประเทศไทยเราเป็นช่วงฤดูหนาว ถุงเท้าจึง เป็นเครื่องนุ่งห่มที่สำคัญในการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และยังเป็นแฟชั่นอีกหนึ่งอย่างที่ท้าให้การแต่งกาย ของแต่ละคนเกิดความสดใสมากขึ้นอีกด้วย 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1.2.1 เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นวัยใส 1.2.2 เพื่อฝึกการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต 1.2.3 เพื่อหารายเสริมระหว่างการเรียน 1.2.4 เพื่อความสามัคคีในหมู่กลุ่ม 1.3 ขอบเขตของโครงงาน สินค้าเป็นที่ต้องการและเพียงพอต่อกลุ่มวัยรุ่นวัยใสผ่านทางออนไลน์หรือ ออฟไลน์ 1.4 เป้าหมาย 1.4.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ -จำหน่ายถุงเท้า ตั้งแต่จำนวน 100 คู่ขึ้นไป 1.4.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ - ถุงเท้า มีคุณภาพดี ไม่อับชื้น ระบายอากาศดี 1.5 ระยะเวลา - เริ่มดำเนินโครงงาน 16 ตุลาคม 2566- 31 มกราคม 2567 1.6 งบประมาณ - โครงงานนี้ใช้งบประมาณโดยรวบรวมเงินลงทุนในกลุ่ม คนละ 200 รวมทั้งสิ้น 2,000 บาท
29 1.7 สถานที่ดำเนินงาน - บ้านเลขที่ 86/1 บ้านท่าคราวน้อย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง 52100 (ขาย Online) - บ้านเลขที่ 1 หมู่ 10 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง 52190 (ขาย Online) 1.8 ตารางการดำเนินงาน ตารางที่ 1.1 การดำเนินงาน 1.9 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.9.1 ผลโครงงานที่ได้สามารถเผยแพร่ได้อย่างสมบูรณ์ไม่เกิดข้อผิดพลาด 1.9.2 ลูกค้าเกิดความประทับใจและให้ความเชื่อมั่นในสินค้า 1.9.3 มีกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น 1.9.4 รักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิมและเพิ่มลูกค้าใหม่ 1.10 การติดตามและประเมินผล 1.10.1 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้รับบริการร้านค้า Socky 1.11 ปัญหาและอุปสรรคที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 1.11.1 ปัญหาจากการทำงาน เวลาไม่ตรงกันในการจำหน่ายสินค้า 1.11.2 ยอดจำหน่ายไม่บรรลุตามเป้าหมาย รายการ ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1.คิดหัวข้อโครงงาน 2.เสนอโครงงาน 3.รวบรวมข้อมูลและแบ่งงาน 4.จัดซื้ออุปกรณ์ 5.จัดทำชิ้นงาน/พัฒนาต่อยอด 6.ขายออนไลน์ & หน้าร้าน 7.ปรับปรุงแก้ไข 8.จัดทำรูปเล่ม 9.นำเสนอโครงงาน 2
210 1.12 ผู้รับผิดชอบโครงงาน นางสาวกวินธิดา ลุงกอ นางสาวกัญญารัตน์ นันนะวี นางสาวชาลิสา มุสุ นายปิยวัฒน์ น้ำจันทร์ นางสาววิราสินี ปงลังกา 1.13 ที่ปรึกษาโครงงาน ครูกัลยกร ตุ้ยบุญมา 3
211 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง บทนี้อธิบายถึงข้อมูลการศึกษาวิจัยและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและผู้มีส่วน เกี่ยวข้องกับถุงเท้าจะ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่วิธีการศึกษาวิจัย, การสรุปผลดำเนินการการขออนุญาต ด้านจริยธรรมการวิจัย (MU-IRB) และการสรุปผลการศึกษาวิจัย 2.1 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.2 การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า 2.3 ประโยชน์ของถุงเท้า 2.1 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1.1 การศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการพัฒนาธุรกิจจากผลิตภัณฑ์ถุงเท้าซิลเวอร์นาโน บริษัท ดับเบิ้ลพี ซิลเวอร์นาโน จำกัด (Double P Silver Nano Co., Ltd) เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้น โดยมีแนวคิดในการจัดจำหน่ายถุงเท้าซิลเวอร์นาโนภายใต้แบรนด์ “Foxx.”เป็นการนำอนุภาคเคมีซิลเวอร์ นาโนที่ได้รับการวิจัยและพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญด้านนาโนเทคโนโลยี จาก สวทช. น ามาฉีดเข้าเส้นใยก่อน ทอขึ้นรูปเป็นถุงเท้า มีคุณสมบัติในการดับกลิ่น กำจัดแบคทีเรี ย 99.99% ต่างจากถุงเท้าที่จำหน่าย โดยทั่วไปและถุงเท้าซิลเวอร์นาโนที่ใช้กระบวนการเคลือบอนุภาคผิวด้านนอก มีกรรมวิธีการผลิตเส้น ใยโดยการฉีดอนุภาคเคมีและกระบวนการทอขึ้นรู ปถุงเท้าจากบริษัทรับจ้างผลิต (OEM) ที่มีคุณภาพตาม มาตรฐานโรงงาน โดยกลุ่มลูกค้าหลักคือประชากรวัยแรงงาน ซึ่งรวมถึงข้าราชการทหารกองทัพต่างๆ พนักงาน บริษัทเอกชน พนักงานรัฐวิสาหกิจ อาชีพอิสระ และผู้รักการออกกาลังกาย ที่มีปัญหาสุขภาพกลิ่นเท้าเหม็นอับ ชื้น ต้องการกาจัดกลิ่นอับและแบคทีเรียให้หมดสิ้นไป เพื่อสุขอนามัยที่ดีสำหรับตนเองและบุคคลรอบข้าง ตลอดทั้งวันโดยมีช่องทางจัดจำหน่ายหลัก7ช่องทางคือ ช่องทางออนไลน์ (Social Media),ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายเสื้อผ้ารองเท้า, สถานที่ออกกาลังกาย , ร้านค้าสวัสดิการกองทัพ, ตัวแทนจำหน่ายและการ ออกบูธ 2.1.2 ถุงเท้าหอมพื้นเคลือบยางพารา ผลการทดสอบความทนทาน ของถุงเท้าหอมพื้นเคลือบยางพารา กับการวิ่งบนพื้น ถนนคอนกรีต เปรียบเทียบกับถุงเท้าแบบธรรมดา พบว่า ในการวิ่งระยะทาง ๒๕๐ เมตร ถุงเท้าหอมพื้นเคลือบยางพาราและ ถุงเท้าแบบธรรมดายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง การวิ่งในระยะทาง ๒๕๐ เมตรจนถึงระยะทาง ๗๕๐ ถุงเท้าหอมพื้น เคลือบยางพารายังปกติและถุงเท้าแบบธรรมดามีเพียงสีที่เปลี่ยนไป เริ่มบาง การวิ่งในระยะทาง ๑,๐๐๐ เมตร ถุงเท้าหอมพื้นเคลือบยางพารายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ถุงเท้าแบบธรรมดาเริ่มมีรอยขาด การวิ่งในระยะทาง ๑,๒๕๐ เมตร ถุงเท้าหอมพื้นเคลือบยางพารายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ถุงเท้าแบบธรรมดามีรอยขาดสองข้าง
212 อย่างเห็นได้ชัด สรุปได้ว่า ถุงเท้าหอมพื้นเคลือบยางพารา พื้นถุงเท้ามีความทนทานมากกว่าถุงเท้าแบบธรรมดา ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานข้อ ๑ ถุงเท้าหอมพื้นเคลือบยางพารามีความทนทานมากกว่าถุงเท้าปกติ 2.1.3 ถุงเท้า-ถุงมือจากเส้นใยรำข้าว บริษัท Suzuki Socks Co., Ltd. ผู้ผลิตถุงเท้าเด็กรายเก่าแกเพิ่มความชุ่มชื้นผิวหนัง ในจังหวัดนารา แก้ไขปัญหาสินราคาถูกจากต่างประเทศด้วยการนำรำข้าว (รวมถึงจมูกข้าว) ซึ่งได้จากการสีข้าวและปกติมักจะ ทิ้งไปอย่างเสียเปล่า มาพัฒนาต่อยอดกับเส้นใยถักถุงเท้าจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ รักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง และได้รับความนิยมจนสินค้าฮิตติดตลาด ภาพที่ 2.1 ถุงเท้า - ถุงมือจากเส้นใยรำข้าว 2.2 การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า Custumer Satisfaction Survey คือ การรวบรวมข้อมูลและความต้องการของลูกค้าโดยอาศัย เครื่องมือต่างๆ เช่น แบบสอบถาม หรือการสัมภาษณ์ เพื่อวัดระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อการใช้สินค้า และบริการ และเพื่อค้นหาวิธีการตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่ดีกว่า องค์กรต้องเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าในอนาคตอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดลำดับ ความสำคัญของความต้องการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และนำเสนอการบริการต่างๆ รวมถึงการตั้งราคาที่เหมาะสม ซึ่ง ก่อให้เกิดความพึงพอใจและความจงรักภักดีต่อสินค้าและบริการ ความพึงพอใจของลูกค้าคือ ความรู้สึกของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นความประทับใจหรือไม่ประทับใจภายหลังจากการใช้สินค้าและบริการ โดยเปรียบเทียบกับความคาดหวังที่มีต่อสินค้าหรือบริการดังความสัมพันธ์ ความพึงพอใจลูกค้า = ความคาดหวัง – บริการที่ได้รับ วัตถุประสงค์ในการสำรวจความพึงพอใจลูกค้า 1. เพื่อศึกษาพฤติกรรม และความคาดหวังของลูกค้าโดยค้นหาว่าอะไรคือความจำเป็น ความปรารถนา ความต้องการ และความคาดหวังของลูกค้า 2. เพื่อทราบผลการดำเนินงานในปัจจุบันของธุรกิจสามารถนำผลที่ได้มากำหนดจุดมุ่งหมายหรือ ตั้งเป้าหมายในอนาคต 5
213 3. เพื่อลดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หรือช่องว่างระหว่างธุรกิจกับลูกค้า 4. การวัดความพึงพอใจเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการติดต่อกับลูกค้า และช่วยให้ลูกค้ามีความรู้สึกที่ดีต่อ ธุรกิจในการใส่ใจการปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องและให้ความสำคัญต่อลูกค้าอย่างแท้จริง 5. ผลการสำรวจจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดทำเป็นมาตรฐานการปฏิบัติงาน และปรับปรุงคุณภาพให้ สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ขั้นตอนในการสำรวจความพึงพอใจลูกค้า 1. กำหนดปัญหา และวัตถุประสงค์ในการวิจัย 2. จัดทำแผนการวิจัย (ประชากรและการสุ่มตัวอย่าง ระยะเวลา งบประมาณ เป็นต้น) 3. กำหนดวิธีการวิจัย เครื่องมือการวิจัย และการเก็บข้อมูล 4. เก็บรวบรวมข้อมูลและการควบคุมคุณภาพ 5. วิเคราะห์ข้อมูลและแปลความหมาย 6. จัดการทำรายงานผลการสำรวจวิจัย 7. วางกลยุทธ์ และจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความพึงพอใจลูกค้า เครื่องมือที่ใช้ในการสำรวจ 1. การสังเกต(Observe) : คือการเฝ้าดูปรากฏการณ์ที่สนใจจากกลุ่มตัวอย่าง และบันทึกสิ่งที่ได้พบ เห็นไว้อย่างเป็นระบบ การสังเกตอาจทำอย่างเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ได้ และสามารถใช้เครื่องมืออื่น ช่วยในการบันทึก เช่น Check List และ Rating Scale 2. การสัมภาษณ์(interview) 2.1 การสัมภาษณ์รายบุคคล(Personal Interview): เป็นวีที่นิยมในการสำรวจข้อมูลเชิงคุณภาพ มากกว่าปริมาณ เนื่องจากสามารถสอบถามข้อมูลเชิงลึก รวมถึงความรู้สึกได้ 2.2 การสัมภาษณ์กลุ่ม (Focus Group): เป็นการสัมภาษณ์แบบกลุ่มรูปแบบหนึ่ง โดยกำหนด หัวข้อให้กลุ่มพิจารณาและแสดงความคิดเห็นร่วมกัน โดยมี Facilitator เป็นผู้ดำเนินรายการอภิปราย 3. แบบสอบถาม (Questionnaire): คือการสอบถามโดยใช้แบบสอบถามที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบ ผ่านการตรวจสอบทางสถิติ ถือเป็นเครื่องมือ ที่ได้มาตรฐาน และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในแวดวงธุรกิจ และวิชาการ ทางเลือกในการสำรวจความพึงพอใจลูกค้า 1. Experiencing : คือวิธีการที่ผู้บริหารแสร้งเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการด้วยตนเอง แล้วสังเกต พฤติกรรมของพนักงาน หาจุดบกพร่องในการบริการ แต่ไม่ควรเป็นการจับผิดเพื่อลงโทษพนักงาน 2. Talking to Customers : เป็นการพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง เพื่อรับฟังปัญหาและกระตุ้นให้ลูกค้า แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาอย่างเปิดเผย แต่ต้องระวังให้เป็นการแก้ตัว 3. Talking to Employees : เป็นการพูดคุยกับพนักงานโดยเฉพาะพนักงาน Frontline ที่มีโอกาส สัมผัสลูกค้ามากที่สุด เพราะพนักงานกลุ่มนี้มีความเข้าใจลูกค้าเป็นอย่างดี 6
214 การวิเคราะห์ข้อมูล 1. Basic Data Analysis : คือการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น เช่น การหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ และแสดงผล ในรูปแบบตาราง แผนภูมิ หรือกราฟ เป็นต้น 2. Customer Satisfaction Index : เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การตรวจติดตามความพึงพอใจลูกค้า เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผู้บริการและพนักงานทราบผลการปฏิบัติงานของตนเองตลอดเวลา การจัดทำดัชนี ชี้วัดความพึงพอใจขององค์กรทำได้โดยการรวบรวมคะแนนจากการประเมินในทุกๆ ด้านให้รวมอยู่ในค่าเฉลี่ยที่ สะท้อนความพึงพอใจโดยรวมและกำหนดให้ค่าความพึงพอใจในปีฐานเท่ากับ 100 3. Gap Analysis : คือการประเมินความพึงพอใจเทียบกับความสำคัญในสายตาของลูกค้าซึ่งจากการ วิเคราะห์หาช่องว่างนี้จะทำให้ทราบว่า อะไรคือจุดแข็งของธุรกิจในมุมมองของลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถ ลำดับความสำคัญของงานที่ควรปรับปรุงก่อน-หลังได้อย่างถูกต้อง และสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่าง เหมาะสม 4. Correlation/Regression Analysis : เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างความพึง พอใจโดยรวม หรือความภักดีของลูกค้า เทียบกับหัวข้อความพึงพอใจโดยรวมมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหาร จัดลำดับความสำคัญสิ่งที่ต้องปรับปรุงก่อนหลังได้อย่างถูกต้อง และจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม 2.3 ประโยชน์ของถุงเท้า 2.3.1. ถุงเท้าสามารถช่วยลดกลิ่นเท้าได้ การเหงื่อออกที่เท้า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นเท้า เนื่องจากร่างกายของเราพยายาม ระบายความร้อนออกจากร่างกาย เช่น ขณะเดิน ขณะออกกำลังกาย เมื่อเหงื่อออกจะเกิดเชื้อ แบคทีเรีย โดยแบคทีเรียจะเกาะกินเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว แล้วกำจัดของเสียออกมาในรูปของกลิ่น เหม็น การใส่ถุงเท้าจะช่วยดูดซับเหงื่อทำให้เท้าแห้งอยู่เสมอ ทำให้ไม่เกิดการกลิ่นอับเหม็นจาก แบคทีเรีย 2.3.2 ถุงเท้าช่วยป้องกันเชื้อโรคที่แพร่กระจายตามพื้น เนื่องจากสายตาของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ บางครั้งเราจึงลืมคิดไปว่า จริง ๆ แล้วเชื้อโรคมีอยู่ทุกที่ โดยเฉพาะบนพื้นดิน การใส่ถุงเท้าหรือสวมรองเท้าทุกครั้งเมื่อต้องเดิน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ จะช่วยป้องกันเชื้อโรคที่แพร่กระจายอยู่ตามพื้นได้ ไม่แนะนำการเดินด้วยเท้า เปล่าโดยไม่สวมถุงเท้าหรือรองเท้า เพราะเราไม่รู้เลยว่า เราจะเจอกับความน่ากลัวของเชื้อโรคตัวไหน บ้าง 2.3.3. ถุงเท้าช่วยให้เท้าอุ่นอยู่เสมอโดยเฉพาะในฤดูหนาว ในช่วงอากาศหนาวหรือการอยู่ในต้องแอร์เป็นเวลานาน การไหลเวียนของเลือดจะลดลง จาก การหดตัวของเส้นเลือด ทำให้เกิดอาการเท้าเย็นได้ การใส่ถุงเท้าจะช่วยรักษาอุณหภูมิของเท้าให้ไม่ต่ำ เกินไป เสริมด้วยออกกำลังกายเป็นประจำก็จะช่วยให้เลือดสูบฉีดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี ยิ่งขึ้น 7
215 2.3.4. ถุงเท้าช่วยปกป้องเท้า จากการเดินเหยียบพื้นแข็ง เศษหิน หรือวัตถุต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิด อุบัติเหตุได้ บางครั้งเราเดินโดยไม่ได้ระมัดระวังหรือมองไม่เห็น ทำให้อาจเผลอไปเดินเหยียบวัตถุของแข็ง ต่าง ๆ เช่น เศษหิน เศษกระจก ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยไม่คาดคิด การใส่ถุงเท้าจะช่วยปกป้องเท้าและ ลดการบาดเจ็บให้น้อยลงได้ 2.3.5. ถุงเท้าช่วยป้องกันส้นเท้าแตกลาย ทำให้เท้านุ่มอยู่เสมอ สาว ๆ หลาย ๆ ท่านคงไม่ชอบให้ส้นเท้าของเรานั้นดูด้านและแตกลาย การใส่ถุงเท้าจะช่วย ป้องกันการขัดสีระหว่างเท้ากับพื้นหรือเมื่อเราเดินเหยียบบนวัตถุของแข็ง ที่เป็นสาเหตุทำให้เท้าของ เราด้าน ไม่สวยงาม 2.3.6. ถุงเท้าช่วยเสริมภาพลักษณ์ ให้ดูดี และมีสไตล์ การเลือกใส่ถุงเท้าให้แมทกับการแต่งกายในแต่ละลุค ไม่ว่าจะเป็นลุคทำงานที่ทำให้ดูสุขุม ลุ คออกกำลังกายที่ทำให้ดูกระฉับกระเฉง ลุคไปเที่ยวที่ทำให้ดูสนุกสนาน โดยการเลือกถุงเท้าที่มีสีสัน สดใส ก็จะช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น ทั้งยังบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อีกด้วย 8
216 บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยเรื่อง ถุงเท้า ( Socky ) เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Example example) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นวัยใส 2) เพื่อฝึกการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต 3) เพื่อ หารายเสริมระหว่างการเรียน 4) เพื่อความสามัคคีในหมู่กลุ่มโดยใช้เครื่องมือหลักในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามความพึงพอใจของลูกค้า โดยใช้เครื่องมือหลักในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ การสำรวจความ ต้องการการใช้ถุงเท้าของบุคคลทั่วไปในจังหวัดลำปาง การศึกษาวิจัยครั้งนี้ผู้ศึกษาได้ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ 3.1 ขั้นตอนการดำเนินงาน 3.1.1 การหาสินค้า 3.1.2 ออกแบบโลโก้ผลิตภัณฑ์ ภาพที่ 3.2 ออกแบบโลโก้ผลิตภัณฑ์ ภาพที่ 3.1 การหาสินค้า
217 3.1.3 บรรจุภัณฑ์ ภาพที่ 3.3 บรรจุภัณฑ์ 3.1.4 ช่องทางการจัดจำหน่าย FB: Socky ถุงเท้าแฟชั่น https://www.facebook.com/profile.php?id=61552666212923 LINE: 3.1.5 การจำหน่ายสินค้า ภาพที่ 3.4 การจำหน่ายสินค้า 10
218 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประชากร ที่ใช้ในการวิจัย คือ บุคคลทั่วไปในลำปาง 46 คน กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้มาโดยวิธีการสรวจและใช้แบบสอบถามความพึงพอใจของ ผู้ใช้บริการ(ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000) ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ไม่ เกินร้อยละ 5 โดยแทนค่าสูตร ดังนี้ n = เมื่อ n = ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง N = จำนวนประชากร e = ความคลาดเคลื่อนของการเลือกตัวอย่าง ที่ระดับนัยสำคัญ .05 แทนค่า n = = = จากการแทนค่าสูตรดังกล่าวจะได้จำนวนของกลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 46 คน ดังนั้น ผู้วิจัยจึงกำหนดให้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มีจำนวน 46 คน 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการสำรวจครั้งนี้เป็นแบบสำรวจซึ่งมีลักษณะ แบบสอบถามความพึงพอใจ แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป ตอนที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating scale) ของ ลิเคอร์ท (Likert) (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า) จำนวน 7 ข้อ โดยแบ่งระดับ ดังนี้ 5 คะแนน หมายถึง พอใจมากที่สุด 4 คะแนน หมายถึง พอใจมาก 3 คะแนน หมายถึง พอใจปานกลาง 2 คะแนน หมายถึง พอใจน้อย 1 คะแนน หมายถึง พอใจน้อยที่สุด 11
219 โดยกำหนดเกณฑ์การแปลความหมายของค่าเฉลี่ยจากการวิเคราะห์ข้อมูล (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า) คะแนนเฉลี่ย แปลความหมาย 4.51–5.00 เหมาะสมมากที่สุด 3.51–4.50 เหมาะสมมาก 2.51–3.50 เหมาะสมปานกลาง 1.51–2.50 เหมาะสมน้อย 1.00 –1.50 เหมาะสมน้อยที่สุด 3.4 การตรวจสอบเครื่องมือวิจัย 1. การตรวจเพื่อหาค่าความเที่ยงตรงของเนื้อหา (Content Validity) โดยนำแบบสอบถามที่สร้างขึ้น จากนั้นจึงนำมาหาค่าดัชนีความสอดคล้อง โดยใช้สูตรการหาค่า IOC ดังนี้ (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000 IOC = เมื่อ IOC หมายถึง ค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item Congruence) R หมายถึง ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิที่มีต่อข้อคำถาม โดยที่ ค่า 1 คือ สามารถนำไปวัดได้อย่างแน่นอน ค่า 0 คือ ไม่แน่ใจว่าจะวัดได้ ค่า -1 คือ ไม่สามารถนำไปวัดได้อย่างแน่นอน หมายถึง ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละคน N หมายถึง จำนวนผู้ทรงคุณวุฒิในการตรวจเครื่องมือ ผลการตรวจเพื่อหาค่าความเที่ยงตรงของเนื้อหา (Content Validity) โดยการหาค่าดัชนี ความสอดคล้อง (IOC) พบว่า เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมีค่าดัชนีความสอดคล้อง เท่ากับ .00 2. การตรวจเพื่อหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) โดยนำกกกกกกกกกกกกกกกกกไปทดลองใช้กับ ประชากรในการวิจัยที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 00 คน เพื่อหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของกกกกกกกก กกกกกกกกกก โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบัค (Cronbach’s Alpha Coefficient) (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000) = เมื่อ เป็นสัมประสิทธิ์แอลฟา เป็นจำนวนข้อคำถาม เป็นความแปรปรวนของคะแนนข้อที่ i เป็นความแปรปรวนของคะแนนรวม t 12
220 ผลการตรวจเพื่อหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบัค (Cronbach’s Alpha Coefficient) พบว่า เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .00 3.5 การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบสอบถามความพึงพอใจ(Example example)โดยแจก จำนวน 46 ชุด กับกลุ่มตัวอย่าง คือ ประชากรบุคคลทั่วไปในจังหวัดลำปาง โดยให้กลุ่มตัวอย่าง Scan Qr code ตั้งแต่วันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 20 เดือนมกราคม พ.ศ. 2567 ได้รับจำนวน 46 ชุด คิดเป็นร้อยละ 100 3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูลที่ได้จากการตอบแบบสอบถามทุกฉบับ ด้วยตนเอง และนำมาประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป หาความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ทดสอบความแตกต่างของ ค่าเฉลี่ยโดยใช้ค่าที (t-test) ค่าเอฟ (F-test) วิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance) และ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย (Least Significant Difference) ดังนี้ 1. วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยใช้ความถี่ และ ร้อยละ 2. วิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจต่อสินค้า โดยใช้ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) 3. ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย ( ) ของแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยใช้ค่าที (t-test) ค่า เอฟ (F-test) 4. วิเคราะห์ความแปรปรวนของค่าเฉลี่ย ( ) ของความพึงพอใจ โดยใช้ค่าเอฟ (F-test) 5. เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย ( ) ความพึงพอใจ โดยใช้วิธี Least Significant Difference (LSD) 3.7 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าที (t-test) ค่าเอฟ (Ftest) การวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance) และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย (Least Significant Difference) ดังนี้ 1. ความถี่ (Frequency) (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000) โดยมีสูตร ดังนี้ สูตร = เมื่อ = การเกิดขึ้นแต่ละครั้ง 2. ร้อยละ (Percentage) (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000) โดยมีสูตร ดังนี้ สูตร = เมื่อ = ร้อยละ 13
221 = ความถี่ที่ต้องการแปลงให้เป็นร้อยละ n = จำนวนความถี่ทั้งหมด 3. ค่าเฉลี่ย (Mean) (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000) โดยมีสูตร ดังนี้ สูตร = เมื่อ = ค่าเฉลี่ย = ผลรวมของผลคูณระหว่างความถี่กับคะแนน n = จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 4. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000) โดยมีสูตร ดังนี้ สูตร S.D. = เมื่อ S.D. = ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = ผลรวมของผลคูณระหว่างความถี่กับคะแนน = ผลรวมของผลคูณระหว่างความถี่ กับคะแนนแต่ละจำนวน ที่ยกกำลังสอง n = จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 5. การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้ค่าที (t-test) (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000) โดยมี สูตร ดังนี้ สูตร t = t = การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย = ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างที่ 1 และกลุ่มตัวอย่างที่ 2 = ความแปรปรวนของกลุ่มตัวอย่างที่ 1 และกลุ่มตัวอย่างที่ 2 = จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ 1 และกลุ่มตัวอย่างที่ 2 6. การวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance) โดยใช้ค่าเอฟ (F-test) (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000) โดยมีสูตร ดังนี้ สูตร F = F = อัตราส่วนของความแปรปรวน (Variance Ratio) Msb = ค่าเฉลี่ยความแปรปรวนระหว่างกลุ่ม Msw = ค่าเฉลี่ยความแปรปรวนภายในกลุ่ม 14
222 7. การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย (Least Significant Difference) (ชื่อ นามสกุล, 2500, หน้า 000) โดยมีสูตร ดังนี้ สูตร LSD = LSD = Least Significant Difference = การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย = ค่าเฉลี่ยความแปรปรวนภายในกลุ่ม , = จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ 1 และกลุ่มตัวอย่างที่ 2 3.8 ตารางการจำหน่ายสินค้า รายการ จำนวน หน่วย เดือน/ยอดขาย ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ถุงเท้าข้อสั้น 50 10 25 20 5 ถุงเท้าข้อยาว 20 - 12 5 3 ถุงเท้าพื้นดำ 30 10 8 9 3 รวม 100 20 45 34 11 ตารางที่ 3.2 การจำหน่ายสินค้า 3.9 แบบประเมินความพึงพอใจถุงเท้า Socky ตารางที่ 3.3 แบบประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคถุงเท้า Socky 15
223 3.10 แบบสอบถามความพึงพอใจ 16
224 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยและศึกษาเรื่อง ถุงเท้า Socky คณะผู้วิจัยได้ดำเนินการทำการทดสอบและสำรวจความพึง พอใจกับกลุ่มเป้าหมายต่อการใช้งานถุงเท้าตามวัตถุประสงค์ ดังนี้ 4.1 สัญลักษณ์ทางสถิติ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันในการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล และการแปลความหมาย จึง กำหนดสัญลักษณ์และอักษรย่อทางสถิติที่ใช้ดังนี้ n หมายถึง จำนวนตัวอย่าง X หมายถึง ค่าเฉลี่ย S.D. หมายถึง ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t หมายถึง ค่าสถิติ t-test ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย F หมายถึง ค่าสถิติF-test ทดสอบความความแปรปรวนของค่าเฉลี่ย p-value หมายถึง ความน่าจะเป็นที่คำนวนได้จากสถิติที่ใช้ทดสอบ * หมายถึง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ = .05 ** หมายถึง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ = .01 LSD หมายถึง เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยรายคู่ 4.2 การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลแบบสอบถามความพึงพอใจ ตอนที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป ตอนที่ 2 การวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจ ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป การวิเคราะห์ในขั้นตอนนี้ ผู้วิจัยได้นำข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจของร้าน ถุงเท้า Socky จำนวน 46 คนและทำการวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistics) วิเคราะห์ หาความถี่ (Frequency) และร้อยละ (Percentage) ดังแสดงในตารางที่ 4.1 และ ตารางที่ 4.2
225 ตารางที่ 4.1 แสดงจำนวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปของชายหญิงที่ได้ตอบแบบสอบถามของถุงเท้า Socky จำแนกตามเพศ ข้อมูลทั่วไป จำนวน (คน) ร้อยละ (%) เพศ ชาย 18 39.1 หญิง 28 60.9 รวม 46 100 ตารางที่ 4.1 จำนวนร้อยละของลูกค้าที่ตอบแบบสอบถามตามเพศ จากตารางที่ 4.1/แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ถุงเท้าที่ตอบแบบสอบถามในครั้งนี้ เป็นเพศชาย จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 39.1 และเป็นเพศหญิง จำนวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 60.9 จำแนกตามตัวแปร ตารางที่ 4.2 แสดงจำนวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไปของชายหญิงที่ได้ตอบแบบสอบถามของถุงเท้า Socky จำแนกตามอายุ ข้อมูลทั่วไป จำนวน (คน) ร้อยละ (%) อายุ ต่ำกว่า 5 ปี 0 0 6 – 12 ปี 13 – 18 ปี มากกว่า 19 ปี 3 29 13 6.7 64.4 28.9 รวม 46 100 ตารางที่ 4.2 จำนวนร้อยละของลูกค้าที่ตอบแบบสอบถามตามอายุ จากตารางที่ 4.2 แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ถุงเท้าที่ตอบแบบสอบถามในครั้งนี้ เป็นอายุต่ำกว่า 5 ปี คิดเป็น ร้อยละ 0 อายุ 6 – 12 ปีคิดเป็นร้อยละ 6.7 อายุ 13 – 18 ปีคิดเป็นร้อยละ 64.4 และอายุมากกว่า 19 ปี คิด เป็นร้อยละ 28.9 จำแนกตามตัวแปร ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจ การวิเคราะห์ในขั้นตอนนี้ผู้วิจัยได้นำข้อมูล ทำการวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistics) วิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย (Mean) X ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) S.D. และแปลผล ดังแสดงในตารางที่ 4.3 18
226 ตารางที่ 4.3 แสดงค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการแปรผลระดับ รายการ X S.D. การแปรผล 1. คุณภาพเหมาะสมตามราคา 4.53 0.56 มากที่สุด 2. มีรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัย 4.73 0.64 มากที่สุด 3. ถุงเท้ามีอายุการใช้งานได้ยาวนานคุณภาพคงทน 4.77 0.63 มากที่สุด 4. สร้างความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน 4.70 0.60 มากที่สุด 5. ลดกลิ่นเหม็นอับชื้นได้ตลอดทั้งวัน 6. เสริมสร้างบุคลิคภาพที่ดี 7. สะดวกสบายในการสวมใส่ 4.67 4.73 4.77 0.66 0.58 0.57 มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด รวม 4.70 0.63 มากที่สุด ตารางที่ 4.3 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการแปรผลระดับ ผลการวิเคราะห์ตามตารางที่ 4.3/พบว่าความพึงพอใจด้านคุณภาพเหมาะสมตามราคา มีค่าเฉลี่ย 4.53 การประเมินผลอยู่ในระดับ มากที่สุด ด้านมีรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัย มีค่าเฉลี่ย 4.73 อยู่ในระดับ มากที่สุด ด้านถุงเท้ามีอายุการใช้งานได้ยาวนานคุณภาพคงทน มีค่าเฉลี่ย 4.77 อยู่ในระดับ มากที่สุด ด้านสร้างความ มั่นใจให้กับผู้สวมใส่ มีค่าเฉลี่ย 4.70 อยู่ในระดับ มากที่สุด ด้านลดกลิ่นเหม็นอับชื้น มีค่าเฉลี่ย 4.67 อยู่ใน ระดับ มากที่สุด ด้านเสริมสร้างบุคลิคภาพที่ดี มีค่าเฉลี่ย 4.73 อยู่ในระดับ มากที่สุด และด้านสะดวกสบายใน การสวมใส่ มีค่าเฉลี่ย 4.77 อยู่ในระดับ มากที่สุด ตามลำดับจากผู้ตอบแบบสอบถาม 46 คน การประเมินอยู่ใน ระดับมากที่สุด 19
227 บทที่5 สรุปผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการวิจัย จากการวิจัยข้อมูลทั่วไปของแบบสอบถามตอนที่ 1 จากผู้บริโภคใช้ถุงเท้า Socky ของเราได้รับความ นิยมจากผู้ใช้เพศหญิงจำนวน 28 คน ซึ่งเป็นเพศที่มีจำนวนผู้ใช้มากที่สุด จากจำนวน 46 คน จากการวิจัยความพึงพอใจจากการใช้ถุงเท้า Socky จากผู้บริโภคที่ใช้ถุงเท้า Socky ของเราได้รับความ นิยมในช่วงอายุ 13 – 18 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่มีการซื้อ มากที่สุด 5.2 สรุปผลการดำเนินงาน คณะผู้วิจัยได้ดาเนินตามขั้นตอนการดาเนินงานตามบทที่ 3 คือ ศึกษาประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การเก็บรวบรวม ข้อมูล และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล จากนั้นได้ทาการ ทดลองขายผ่านช่องทาง Online และ Offline สามารถสรุปได้ว่าการขายแบบ Online มียอดขายมากกว่าการ ขายแบบ Offline จากการ ทดลองขายทาให้คณะผู้วิจัยได้พัฒนาทักษะการขาย ทักษะการประชาสัมพันธ์แบบ ออนไลน์ และ ได้รับทักษะการวางแผนทางการตลาด การกาหนดราคาสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อความ ต้องการของผู้บริโภค 5.3 ข้อเสนอแนะ ควรมีถุงเท้าที่หลากหลายและการแพ็คเกจสินค้าที่มีคุณภาพมากกว่านี้ จะสามารถอัพราคาได้มากขึ้น
228 ภาคผนวก ก
229 ภาคผนวก ก - โลโก้ผลิตภัณฑ์ - การแพ็คสินค้า - ผลิตภัณฑ์
230 - ผลิตภัณฑ์ - ช่องทางการจัดจำหน่าย FB: Socky ถุงเท้าแฟชั่น https://www.facebook.com/profile.php?id=61552666212923 LINE: ภาพการจำหน่ายสินค้า
231 ภาคผนวก ข
232 ประวัติส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล : น.ส กวินธิดา ลุงกอ ชื่อเล่น : อิง วัน เดือน ปีเกิด : 16/05/47 อายุ : 19 ที่อยู่ : 6 ม.1 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง 52190 รหัสนักศึกษา : 64202110001 เบอร์โทรศัพท์ : 0936708627
233 ประวัติส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล : กัญญารัตน์ นะนันวี ชื่อเล่น : มิน วัน เดือน ปีเกิด : 10 มิถุนายน พ.ศ 2548 อายุ : 18 ที่อยู่ : 13/365 ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง 52000 รหัสนักศึกษา : 64202110002 เบอร์โทรศัพท์ : 0807695479
234 ประวัติส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล : นส.ชาลิสา มุสุ ชื่อเล่น : นุ่น วัน เดือน ปีเกิด : 29 มีนาคม 2549 อายุ : 17 ปี ที่อยู่ : 133 บ้านนาสัก ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง รหัสนักศึกษา : 64202110003 เบอร์โทรศัพท์ : 0864743058
235 ประวัติส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล : ปิยวัฒน์ น้ำจันทร์ ชื่อเล่น : วัท วัน เดือน ปีเกิด : 17 พฤศจิกายน 2547 อายุ : 19 ที่อยู่ : 86/1 ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง 52100 รหัสนักศึกษา : 64202110006 เบอร์โทรศัพท์ : 0802263855
236 ประวัติส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล : วิราสินี ปงลังกา ชื่อเล่น : ติน วัน เดือน ปีเกิด : 13 มกราคม 2549 อายุ : 18 ที่อยู่ : 1 หมู่ 10 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง 52190 รหัสนักศึกษา : 64202110013 เบอร์โทรศัพท์ : 0654495751