กแคบาบวรปาอร่มาะเนสมินาแมลาะรกถารเขียน
๑สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
โครงการอ่านคล่องเขียนคล่อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
คำชี้แจง นักเรยี นอา่ นคำต่อไปน้ใี หถ้ ูกต้อง จำนวน ๒๐ คำ
ใช้เวลา ๒ นาที คำใดอ่านไม่ได้ใหผ้ ่านไปอา่ นคำ
ถัดไป คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน (คำละ ๑ คะแนน)
๑. อฒั จนั ทร์ ๑๑. นะคะ
๒. เซนตเิ มตร ๑๒. วีด้ ว้าย
๓. นาฏศิลป์ ๑๓. เต้าเจ้ยี ว
๔. โฆษณา ๑๔. ล่อนจ้อน
๕. ปรมิ าตร ๑๕. พร่ำเพรอ่ื
๖. กะเพรา ๑๖. กระตือรือรน้
๗. แปลงกาย ๑๗. ทดรองจ่าย
๘. ขวนขวาย ๑๘. นทิ รรศการ
๙. สลบไสล ๑๙. ภูมิปัญญา
๑๐.ครอบครอง ๒๐. มรรยาท
คำชีแ้ จง นกั เรียนอา่ นคำต่อไปน้ีใหถ้ กู ต้อง จำนวน ๒๐ คำ
ใช้เวลา ๒ นาที คำใดอา่ นไม่ไดใ้ ห้ผา่ นไปอา่ นคำ
ถดั ไป คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน (คำละ ๑ คะแนน)
ผูป้ ระเมินให้คะแนน (๐,๑) หลงั คำศพั ท์
๑. อฒั จันทร์ ……. ๑๑. นะคะ …….
๒. เซนติเมตร …… ๑๒. ว้ดี ว้าย …….
๓. นาฏศิลป์ ……. ๑๓. เตา้ เจย้ี ว …….
๔. โฆษณา ……. ๑๔. ลอ่ นจ้อน …….
๕. ปริมาตร ……. ๑๕. พร่ำเพรือ่ …….
๖. กะเพรา ……. ๑๖. กระตือรอื รน้ …….
๗. แปลงกาย ……. ๑๗. ทดรองจ่าย …….
๘. ขวนขวาย ……. ๑๘. นิทรรศการ …….
๙. สลบไสล ……. ๑๙. ภมู ปิ ัญญา …….
๑๐. ครอบครอง ……. ๒๐. มรรยาท …….
ชอื่ .....................................................ชื่อเล่น.......................... คะแนน ๒๐ คะแนน
ชั้น......................... เลขท่ี ................. ทำได้..........คะแนน
จบช้นั ป.๖ จากโรงเรยี น.....................................
ชือ่ .........................................................ผปู้ ระเมิน
(................................................................)
๑. อฒั จันทร์ อ่านว่า อัด ทะ จนั
๒. เซนตเิ มตร อ่านวา่ เซน ติ เมด
๓. นาฏศลิ ป์ อา่ นวา่ นาด ตะ สนิ
๔. โฆษณา อ่านว่า โคด สะ นา
๕. ปรมิ าตร อ่านวา่ ปะ ริ มาด
๖. กะเพรา อ่านวา่ กะ เพรา
๗. แปลงกาย อา่ นว่า แปลง กาย
๘. ขวนขวาย อ่านว่า ขฺวน ขวฺ าย
๙. สลบไสล อ่านวา่ สะ หลบ สะ ไหล
๑๐. ครอบครอง อา่ นวา่ ครอบ ครอง
๑๑. นะคะ อ่านวา่ นะ คะ
๑๒. วดี้ ว้าย อา่ นว่า วดี้ วา้ ย
๑๓. เต้าเจ้ยี ว อา่ นวา่ เตา้ เจี้ยว
๑๔. ล่อนจ้อน อ่านว่า ล่อน จอ้ น
๑๕. พร่ำเพรือ่ อา่ นวา่ พร่ำ เพรอ่ื
๑๖. กระตือรอื รน้ อ่านว่า กระ ตือ รอื ร้น
๑๗. ทดรองจ่าย อา่ นว่า ทด รอง จา่ ย
๑๘. นทิ รรศการ อ่านวา่ นิ ทดั สะ กาน
๑๙. ภูมิปญั ญา อ่านว่า พูม ปัน ยา
๒๐. มรรยาท อา่ นว่า มนั ยาด
คำชแี้ จง นักเรยี นอ่านเรอ่ื งทก่ี ำหนดต่อไปนี้ ภายใน ๒ นาที
ภาษามพี ลงั
คนที่มีจิตใจดี ภาษาที่ใช้ก็จะเป็นภาษาสร้างสรรค์ ภาษาก่อประโยชน์
ภาษาสร้างความดี เป็นวาจาสุจริต ทำให้คนท่ีได้ฟังได้อ่านมีความสุข ประกอบ
กรรมดี สรา้ งประโยชนใ์ ห้สังคมมนษุ ย์ ถา้ คนทใ่ี ชภ้ าษาเป็นคนทีม่ จี ิตใจไมด่ ี
ภาษาท่ีใช้ก็จะเป็นไปในทางทำลาย สร้างความเดือดร้อน เป็นวาจาทุจริต ทำให้
คนรอบข้างเป็นทุกข์ และสังคมเสื่อมสลาย ภาษาจึงสามารถสร้างสรรค์หรือ
ทำลายสังคมมนษุ ย์ได้
ที่มา : หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทย วิวิธภาษา
llkllllll
คำชีแ้ จง นักเรยี นอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองท่กี ำหนดให้
ถูกต้องตามฉันทลักษณ์
บทอาขยายบทหลกั
นริ าศภเู ขาทอง
มาถึงบางธรณีทวีโศก ยามวิโยคยากใจให้สะอ้นื
โอ้สุธาหนาแน่นเปน็ แผ่นพน้ื ถงึ สีห่ มนื่ สองแสนท้ังแดนไตร
เมอ่ื เคราะห์รา้ ยกายเราก็เทา่ น้ี ไมม่ ีท่พี สธุ าจะอาศยั
ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ เหมอื นนกไร้รังเรอ่ ย่เู อกา
ผู้หญิงเกลา้ มวยงามตามภาษา
ถงึ เกร็ดยา่ นบา้ นมอญแตก่ อ่ นเกา่ ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย
เดย๋ี วน้มี อญถอนไรจุกเหมอื นตุ๊กตา เหมอื นอยา่ งเย่ียงชายหญิงทง้ิ วสิ ยั
โอส้ ามญั ผันแปรไม่แท้เที่ยง ที่จิตใครจะเป็นหนึ่งอย่าพึงคิด
นี่หรอื จิตคิดหมายมีหลายใจ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
จะชอบผิดในมนษุ ยเ์ พราะพดู จา
ถึงบางพดู พูดดีเป็นศรีศักดิ์
แม้นพดู ชว่ั ตัวตายทำลายมติ ร
llkllllll
คำชแ้ี จง นกั เรียนอ่านออกเสียงบทร้อยกรองทีก่ ำหนดให้
ถกู ต้องตามฉนั ทลกั ษณ์
บทอาขยายบทหลัก
กาพยพ์ ระไชยสรุ ิยา
รอนรอนอ่อนอสั ดง พระสุรยิ งเย็นยอแสง
ช่วงดงั นำ้ คร่ังแดง แฝงเมฆเขาเงาเมรุธร
ฝูงจิง้ จอกออกเห่าหอน
ลิงคา่ งครางโครกครอก นกหกรอ่ นนอนรงั เรียง
ชะนวี ิเวกวอน อ้าปากร้องซอ้ งแซ่เสยี ง
เล้ยี งลกู ออ่ นป้อนอาหาร
ลกู นกยกปกี ป้อง
แมน่ กปกปกี เคยี ง
คำชแ้ี จง นักเรยี นเลอื กคำตอบท่ถี กู ที่สุดเพยี งตวั เลือกเดยี ว
อานขอความตอไปนแ้ี ลว ตอบคำถามขอ ๑ – ๒
ณ กรงุ พาราณสี มแี มน ำ้ สายหนงึ่ อุดมสมบูรณไ ปดว ยปลา ชาวบา นไดพ ากนั เอาลอบไปดกั ไวทซ่ี อกหวย
เพือ่ จบั ปลา พวกปลากำลงั ระเริงน้ำ จึงหลงเขาไปในลอบเปนจำนวนมาก “ เราจะทำอยางไรจึงจะออกได “ ปลา
หัวหนาปรกึ ษากนั “ เราชวยกันออกแรงพรอม ๆ กันดีกวา “
ปลาตวั หนง่ึ ใหค วามเห็น มปี ลาหลายตัวเหน็ ดว ย จึงชว ยกนั ด้นิ ออกแรงจนสุดแรงเกิด แตล อบยงั เปน
ปกตดิ อี ยู ทำใหฝ งู ปลาออนใจ ไมสามารถจะออกจากลอบได
ขณะนน้ั มีงกู นิ ปลาตวั หนึง่ เล้ือยมา เห็นปลาอยูในลอบเปน จำนวนมาก จึงคดิ วา “ เราพบอาหารอันโอชารส
แลว เราไมตอ งไปหากินที่ไหน เราเขาไปกนิ ปลาในลอบน้ีดีกวา แลวกเ็ ลอ้ื ยเขา ไปในลอบ ฝูงปลาเหน็ งูกนิ ปลาเขา
มาตา งก็ตกใจชวยกันรุมกัดจนงเู ลือดไหล งไู มม ีทางสูป ลาได จงึ ด้นิ จนกระท่งั ลอบขาดออกมาได ทำใหปลาเหลา นนั้
๑. งูและปลาเรอ่ื งน้ี ตรงกบั สุภาษติ ขอใด
ก. สบิ เบีย้ ใกลม ือ ข. ขวา งงไู มพ น คอ ค. หนเี สือปะจระเข ง. น้ำนอยยอมแพไฟ
ค. สูแบบสนุ ัขจนตรอก ง. น้ำพ่งึ เรือเสอื พง่ึ ปา
๒. การกระทำของปลา ตรงกับสุภาษติ ใด
ก. ดานไดอายอด ข. แกวง เทาหาเสีย้ น
อานขอความตอไปน้แี ลว ตอบคำถามขอ ๓ – ๔
โอปางหลังคร้ังสมเด็จบรมโกศ มาผูกโบสถก ็ไดม าบูชาชน่ื
ชมพระพมิ พร ิมผนังยังยงั่ ยนื ทงั้ แปดหมื่นสี่พันไดว ันทา
(นิราศภเู ขาทอง, สุนทรภ)ู
๓. จากบทอา น นำ้ เสียงของผูแตงเปน อยางไร
ก. อาลัย ข. เพอ ฝน ค. ยกยอ ง ง. มคี วามสขุ
๔. จากบทอาน ขอใดมคี วามหมายเหมอื นกับคำวา “วันทา” หนา ๑
ก. บชู า ข. ประณต ค. ทศพล ง. โมทนา
คำชแ้ี จง นักเรียนเลือกคำตอบทถ่ี ูกท่ีสดุ เพียงตัวเลือกเดยี ว
อา นขอ ความตอ ไปนแ้ี ลวตอบคำถามขอ ๕ – ๖
เปน คนคิดแลว จงึ่ เจรจา
อยา มลนหลับตา แตไ ด
เลือกสรรหมัน่ ปญญา ตรองตรึก
สติรริ อบให ถูกแลวจงึ ทำ
(โคลงโลกนติ ,ิ สมเดจ็ พระเจาบรมวงศเ ธอ กรมพระยาเดชาดศิ ร)
๕. จากบทอา นใหขอ คดิ ตรงกับขอใด ข. ศลี สมาธิ ปญญา
ก. สุ จิ ปุ ลิ ง. ผอนหนกั ผอนเบา
ค. คิดกอนพูด
๖. บคุ คลในขอ ใดไมไ ดป ฏิบตั ิตามบทอานน้ี ข. นิดคิดทบทวนสง่ิ ที่พดู เสมอ
ก. นอ งพดู ตามความรสู ึกของตนเอง ง. นายคดิ อยางถถ่ี ว นกอนลงมือปฏบิ ัติ
ค. นอ ยคดิ อยา งรอบคอบกอ นพดู
อานขอความตอ ไปนแ้ี ลวตอบคำถามขอ ๗ – ๘
...ผูที่เปนเยาวชนที่จะตองทำหนาที่สำหรับการรักษาบานเมืองตอไป เมื่อเปนผูใหญ เม่ืออายุ ถึงข้ันท่ีจะเรียกวาเปน
ผูใหญ ไดเลาเรียนมาแลว เพื่อใหปฏิบัติงานของชาติไดตอไป ก็ตองเตรียมตัวเพื่อปฏิบัติงานน้ัน ในเวลานี้ก็จะตองหา
ความรูใสตัว ฝกฝนจิตใจ ฝกฝนความคิดท่ีดี เพื่อใหเขาใจ ใหมีความคิดพิจารณา ใหมีเหตุผลท่ีแนนแฟน มีเหตุผลที่จะ
ใชการได เพ่ือแยกแยะส่ิงที่ดีท่ีควรทำ จากสิ่งท่ีไมดี ท่ีไมควรทำ ฉะน้ันหนาท่ีของเยาวชนก็คือ การเรียนรู แลวก็
นอกจาก เรียนรู คือ เม่ือเรียนแลว ก็เริ่มชวยกันสรา งความมั่นคง แกบานเมือง โดยใชความรูที่ไดมาใหเปน ประโยชน
หนา ๒
พัฒนาบานเมอื งใหม่นั คง... (พระบรมราโชวาทพระบาทสมเดจ็ พระเจาอยหู ัวฯ ร.๙)
๗. ใจความสำคัญของพระบรมราโชวาททก่ี ำหนดใหอา นตรงกบั ขอใด
ก. ผูท เี่ ปน เยาวชนมีหนาทีร่ กั ษาบา นเมืองสืบไป
ข. ความมัน่ คงของบานเมืองเกดิ ขน้ึ ไดด วยความสามัคคี
ค. หนา ทีข่ องเยาวชน คือ การเรียนรูแ ละนำความรมู าใชพัฒนาบานเมือง
ง. เยาวชนควรแยกแยะสิ่งทีด่ ที ีค่ วรทำจากสงิ่ ท่ีไมดีทไี่ ม
คำชีแ้ จง นกั เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกทส่ี ดุ เพียงตัวเลือกเดียว
๘. จากพระบรมราโชวาทท่ีกำหนดใหอ าน ความมนั่ คงของบา นเมอื งเกดิ ขึ้นไดด ว ยเหตผุ ลในขอใด
ก. ความรคู วามสามารถของเยาวชนในชาติ ข. ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ
ค. การฝก ฝนจิตใจของเยาวชนในชาติ ง. การเติบโตเปนผใู หญข องเยาวชน
๙. ขอ คิดของนทิ านเร่อื งนี้ตรงกับสำนวนใด
“ ชายผูหนึ่งขับเกวียนไปในปา ลูกลอเกวียนตกหลมลึก ควายลากไมไหว ชายคนนั้นกลัวจะมืดค่ำกลางทาง จึงบนบาน
ขอใหเทวดาชวย ในขณะนั้นเทวดาที่เปนเจาปาลงมาบอกแกชายผูนั้นวา “จะยืนดูอยูเฉยทำไมเลา จงเอาบาแบกลอ
แลวเฆี่ยนควายใหเดิน ลูกลอก็จะเคลื่อนที่ข้ึนจากหลมได การท่ีรองโวยวายไปเสียกอน ยังไมทันจะไดลองทำดวยกำลัง
ของตนเอง ใหเตม็ ฝมือดังนจ้ี ะใหใ ครเขามแี กใจชวยเจา ได ”
ก. กงเกวยี นกำเกวียน ข. ตนเปน ท่พี ่งึ แหง ตน
ค. น้ำพ่งึ เรือเสอื พึ่งปา ง. กระตายต่ืนตูม
๑๐. “ การตามใจลูกในสิ่งที่ผิดหรือไมดีโดยคิดวา เม่ือลูกโตขึ้นจะเรียนรูและเปล่ียนนิสัยไดเองนั้นเปนความคิดที่ผิด
เพราะเมือ่ นิสัยไมดีนั้นไดฝงลึกแนนลงไปในจิตใตสำนึกแลว ยากท่ีจะเปล่ียนใหกลับมาในทางท่ีดีได ดังน้ันการที่เราจะให
เด็กเติบโตมาเปนคนอยางไร เราก็ตองเริ่มฝกนิสัยอยางน้ันใหเด็กนับต้ังแตรูความเลยทีเดียว ” ขอคิดของเรื่องน้ีตรงกับ
สำนวนใด
ก. รักววั ใหผ ูก รักลูกใหตี ข. กวาถั่วจะสุกงากไ็ หม
ค. เหน็ กงจักรเปนดอกบัว ง. ไมอ อ นดัดงา ยไมแกด ดั ยาก
หนา ๓
à©ÅÂ
ñ. §
ò. ¤
ó. §
ô. ¢
õ. ¤
ö. ¡
÷. ¤
ø. ¡
ù. ¢
ñð. §
การประเมนิ ความสามารถในการเขียน เป็นการประเมินการเขยี นจากคำอ่าน
จำนวนคำท่ใี หน้ กั เรยี นเขียน ๒๐ คำ นกั เรียนเขียนไดถ้ กู ต้องไม่น้อยกว่า ๑๒ คำ
จึงผ่านเกณฑก์ ารประเมิน
เกณฑ์การประเมนิ
เขยี นไดร้ ะดับดี เขยี นถูกต้อง ๑๖ – ๒๐ คำ
เขียนไดร้ ะดับพอใช้
เขียนไมไ่ ด้ เขยี นถูกตอ้ ง ๑๒ – ๑๕ คำ
เขียนถูกต้องต่ำกว่า ๑๑ คำ
การประเมนิ ความสามารถในการเขียน เป็นการประเมนิ การเขยี นตามคำบอก
จำนวนคำท่ีให้นกั เรยี นเขียน ๒๐ คำ นักเรียนเขยี นได้ถูกตอ้ งไม่นอ้ ยกว่า ๑๐ คำ
จึงผ่านเกณฑก์ ารประเมิน
เกณฑ์การประเมนิ
เขียนไดร้ ะดับดี เขียนถกู ตอ้ ง ๑๖ – ๒๐ คำ
เขยี นไดร้ ะดับพอใช้
เขียนไมไ่ ด้ เขียนถูกตอ้ ง ๑๒ – ๑๕ คำ
เขยี นถูกต้องต่ำกวา่ ๑๑ คำ
การประเมินความสามารถใน
การเขียนคลอ่ ง เปน็ การประเมินการเขยี นเรอ่ื งจากภาพทีก่ ำหนด ความยาวไม่
นอ้ ยกวา่ ๘ บรรทดั พร้อมต้งั ชื่อเร่ืองให้เหมาะสม ภายในเวลา ๒๐ นาที
ความสามารถในการเขยี นคลอ่ งมเี กณฑ์การประเมินเปน็ คะแนนดงั น้ี
๑. การตง้ั ช่อื เรือ่ ง ๒ คะแนน
๒. เนือ้ เรื่อง ๑๐ คะแนน
๓. หลักการเขียน ๕ คะแนน
๔. ความยาวของเรือ่ งและเวลาที่กำหนด ๓ คะแนน
รวม ๒๐ คะแนน
คำอธบิ ายเกณฑ์
๑. การตง้ั ชื่อเร่ือง หมายถึง ข้อความที่เป็นเร่อื งสอดคลอ้ งกับเร่ืองทเ่ี ขียนและ
ภาพที่กำหนด
๒. เนอ้ื เร่ือง หมายถึง สว่ นท่เี ป็นเนอ้ื หาท่เี ขียน โดยเลือกใช้ภาษามาเรยี บเรยี ง
เป็นประโยคได้อย่าง เหมาะสม มีความต่อเนื่องสอดคล้องกนั ตลอดทงั้ เรอ่ื ง
เรยี งลำดบั เนอื้ หาไดส้ อดคล้องเปน็ เหตุเป็นผลและ มีความคดิ รเิ ริ่ม
สร้างสรรค์
๓. หลกั การเขยี น หมายถึง การเขียนได้ถกู ตอ้ งตามอักขรวธิ ี เว้นวรรคตอนและ
ใช้เครื่องหมาย วรรคตอนไดเ้ หมาะสม ลายมือเป็นระเบยี บอา่ นงา่ ย และ
สะอาด
๔. ความยาวของเรื่อง หมายถงึ เนอ้ื เร่ืองมคี วามยาวตามทกี่ ำหนดไม่นอ้ ยกวา่
๘ บรรทดั (ความยาวเกินทก่ี ำหนดไมน่ บั คะแนนเพิ่ม)
๕. เวลาท่กี ำหนด หมายถึง เขยี นเสร็จตามเวลาทกี่ ำหนด
๑. การต้ังชอื่ เร่ือง ๒ คะแนน
๑.๑ ตง้ั ชอ่ื เร่อื งไดส้ อดคลอ้ งกับเนอ้ื เรอื่ งและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๒ คะแนน
๑.๒ ตัง้ ชือ่ เร่อื งไดแ้ ต่ไม่สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื เร่อื งและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ท่กี ำหนดให้ ๑ คะแนน
๑.๓ ไม่ต้งั ชอื่ เรือ่ ง ๐ คะแนน
๒. เนือ้ เร่ือง ๑๐ คะแนน
๒.๑ การเรยี งลำดับเน้อื หา ๔ คะแนน
- เรยี งลำดับเนื้อหาได้ตอ่ เน่อื งตลอดเรื่องไม่วกวน ๔ คะแนน
- เรยี งลำดบั เนอ้ื หาไดค้ ่อนขา้ งตอ่ เนื่องเป็นส่วนใหญ่ ไมว่ กวน ๓ คะแนน
- เรียงลำดับเนอ้ื หาไดค้ ่อนข้างตอ่ เน่ือง แต่วกวนบ้าง ๒ คะแนน
- เรยี งลำดับเน้อื หาไมต่ ่อเน่ือง ๑ คะแนน
- ไม่เขยี นเร่อื ง ๐ คะแนน
๒.๒ การใชภ้ าษา ๓ คะแนน
- เรียบเรียงประโยคโดยเลอื กใช้คำและภาษาไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม ๓ คะแนน
- เรยี บเรยี งประโยคโดยเลือกใชค้ ําและภาษาไดถ้ ูกต้องเหมาะสมบ้าง ๒ คะแนน
- เรียบเรยี งประโยคโดยเลือกใชค้ ําและภาษาไม่เหมาะสม ๑ คะแนน
- ไม่เขยี นเรอื่ ง ๐ คะแนน
๒.๓ ความคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์ ๓ คะแนน
- สามารถแสดงความคดิ ทีแ่ ปลกใหมแ่ ละเปน็ ประโยชน์มาก ๓ คะแนน
- สามารถแสดงความคดิ ทแ่ี ปลกใหมแ่ ละเป็นประโยชน์มากบา้ ง ๒ คะแนน
- สามารถแสดงความคดิ ได้แตไ่ มเ่ ปน็ ประโยชน์ ๑ คะแนน
- ไม่แสดงความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ ๐ คะแนน
๓. หลกั การเขียน ๕ คะแนน
๓.๑ การเขียนสะกดคํา ๒ คะแนน
- เขียนสะกดคําผิดไมเ่ กนิ ๕ คาํ ๒ คะแนน
- เขียนสะกดคําผดิ ๖ – ๑๐ คาํ ๑ คะแนน
- เขียนสะกดคําผิดมากกวา่ ๑๐ คาํ ๐ คะแนน
๓.๒ การเวน้ วรรคตอน ๑ คะแนน
- เว้นวรรคตอนผดิ ๑-๒ แหง่ ๑ คะแนน
- เว้นวรรคตอนผิดมากกว่า ๒ แห่ง ๐ คะแนน
๓.๓ ลายมือเปน็ ระเบียบ สะอาด ๒ คะแนน
- ลายมือเปน็ ระเบยี บ อ่านง่าย ผลงานสะอาด ไมม่ รี อยลบ ๒ คะแนน
- ลายมอื ไมเ่ ป็นระเบยี บ แตอ่ ่านงา่ ย ผลงานมีรอยลบไม่เกิน ๒ แห่ง ๑ คะแนน
- ลายมือไม่เปน็ ระเบยี บ อ่านยาก ผลงานมีรอยลบมากกวา่ ๓ แห่ง ๐ คะแนน
๔. ความยาวและเวลาในการเขยี นเร่ือง ๓ คะแนน
๔.๑ ความยาวของเรื่อง ๒ คะแนน
- มีความยาวของเร่ืองไมน่ ้อยกวา่ ๘ บรรทดั ๒ คะแนน
- มคี วามยาวของเรื่อง ๕ – ๗ บรรทดั ๑ คะแนน
- มีความยาวของเรอ่ื ง ๐ – ๔ บรรทัด ๐ คะแนน
๔.๒ เวลา ๑ คะแนน
- เขยี นเสร็จทนั เวลา ๑ คะแนน
- เขยี นไมเ่ สร็จตามเวลาทก่ี ำหนด ๐ คะแนน
เกณฑ์การประเมินผา่ น
ขอ้ ละ ๒ คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน
ตอบคำถาม/อธิบายได้ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน
คะแนน ร้อยละ คุณภาพ ผลประเมนิ
ผา่ น
๙ – ๑๐ ๙๐-๑๐๐ ดเี ยีย่ ม ผ่าน
ไมผ่ า่ น
๗ – ๘ ๗๐-๘๐ ดี ไม่ผ่าน
๕ – ๖ ๕๐-๖๐ พอใช้
๐–๔ นอ้ ยกว่า ๕๐ ปรับปรงุ
หมายเหตุ
การตรวจขอ้ สอบ นักเรียนต้องผ่านเกณฑค์ ุณภาพระดับ ดี ขึ้นไป
กแคบาบวรปาอร่มาะเนสมินาแมลาะรกถารเขียน
๑สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
โครงการอ่านคล่องเขียนคล่อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
ตอนท่ี ๑ คำชี้แจง นักเรียนเขยี นคำศัพทจ์ ากคำอา่ น จำนวน ๒๐ คำ
เขยี นคำศพั ท์ คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน (คำละ ๑ คะแนน)
ตวั อยา่ ง อัด – สะ – จนั อัศจรรย์
๑. บนิ – ทะ – บาด ............................................................................
๒. ตัก – บาด ............................................................................
๓. นัก – ปราด ............................................................................
๔. ประ – ดิด – ประ – ดอย ............................................................................
๕. บุ – หรุด – ไปร – สะ – นี ............................................................................
๖. พระ – อะ – ระ – หัน ............................................................................
๗. พด – จะ – นา – นุ – กรม ............................................................................
๘. เครื่อง – สำ – อาง ............................................................................
๙. ผกู – พนั ............................................................................
๑๐. สี – สะ ............................................................................
หน้า ๒
ตอนที่ ๑ คำชแ้ี จง นกั เรยี นเขยี นคำศพั ท์จากคำอา่ น จำนวน ๒๐ คำ
เขยี นคำศพั ท์ คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน (คำละ ๑ คะแนน)
๑๑. คำ – นวน ............................................................................
๑๒. รด – ชาด ............................................................................
๑๓. นก – อิน – ซี ............................................................................
๑๔. ปยุ๋ – อิน – ซี ............................................................................
๑๕. เครอื่ ง – หมาย – ดอก – จนั ............................................................................
๑๖. สาบ – แชง่ ............................................................................
๑๗. ทะ – เล – สาบ ............................................................................
๑๘. โอ – กาด ............................................................................
๑๙. ปะ – ถม – นิ – เทด ............................................................................
๒๐. เวด – มน ............................................................................
ชอื่ .............................................................ชอื่ เลน่ .......................... คะแนน ๒๐ คะแนน
ชั้น......................... เลขท่ี ................. ทำได้..........คะแนน
จบช้ัน ป.๖ จากโรงเรยี น.....................................
ชือ่ .........................................................ผูป้ ระเมิน
(................................................................)
๑. บิน – ทะ – บาด บณิ ฑบาต
๒. ตกั – บาด ตกั บาตร
๓. นัก – ปราด นักปราชญ์
๔. ประ – ดดิ – ประ – ดอย ประดิดประดอย
๕. บุ – หรดุ – ไปร – สะ – นี บุรุษไปรษณยี ์
๖. พระ – อะ – ระ – หนั พระอรหนั ต์
๗. พด – จะ – นา – นุ – กรม พจนานกุ รม
๘. เครือ่ ง – สำ – อาง เครอ่ื งสำอาง
๙. ผูก – พนั ผกู พัน
๑๐. สี – สะ ศีรษะ
หน้า ๒
๑๑. คำ – นวน คำนวณ
๑๒. รด – ชาด รสชาติ
๑๓. นก – อนิ – ซี นกอินทรี
๑๔. ปุ๋ย – อิน – ซี ปยุ๋ อนิ ทรีย์
๑๕. เครื่อง – หมาย – ดอก – จนั เครอื่ งหมายดอกจนั
๑๖. สาบ – แช่ง สาปแชง่
๑๗. ทะ – เล – สาบ ทะเลสาบ
๑๘. โอ – กาด โอกาส
๑๙. ปะ – ถม – นิ – เทด ปฐมนิเทศ
๒๐. เวด – มน เวทมนตร์
ตอนท่ี ๒ คำช้ีแจง นกั เรยี นเขยี นตามคำบอก จำนวน ๒๐ คำ
เขยี นตามคำบอก คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน (คำละ ๑ คะแนน)
๑๑. ................................... ……. ๑. .................................. …….
๑๒. ................................... ……. ๒. .................................. …….
๑๓. ................................... ……. ๓. .................................. …….
๑๔. ................................... ……. ๔. .................................. …….
๑๕. ................................... ……. ๕. .................................. …….
๑๖. ................................... ……. ๖. .................................. …….
๑๗. ................................... ……. ๗. .................................. …….
๑๘. ................................... ……. ๘. .................................. …….
๑๙. .................................... ……. ๙. ................................... …….
๒๐. ................................ ……. ๑๐. ................................... …….
ชื่อ.....................................................ชื่อเลน่ .......................... คะแนน ๒๐ คะแนน
ชน้ั ......................... เลขที่ ................. ทำได้..........คะแนน
จบช้นั ป.๖ จากโรงเรยี น.....................................
ชื่อ.........................................................ผู้ประเมนิ
(................................................................)
ตอนท่ี ๒ คำชี้แจง ครูบอกคำศัพทใ์ หน้ ักเรยี นเขยี นตามคำบอก จำนวน
เขยี นตามคำบอก ๒๐ คำ คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน (คำละ ๑ คะแนน)
๑. นกอนิ ทรี ๑๑. ทะลายมะพรา้ ว
๒. เหม็นสาบ ๑๒. พงั ทลาย
๓. สาปแชง่ ๑๓. ศีรษะ
๔. ลำไย ๑๔. วฒั นธรรม
๕. ตกั บาตร ๑๕. ศรัทธา
๖. เครือ่ งสำอาง ๑๖. ไปรษณีย์
๗. สรา้ งสรรค์ ๑๗. รัฐธรรมนูญ
๘. คลนิ กิ ๑๘. เศรษฐกิจ
๙. คุกกี้ ๑๙. รัชกาล
๑๐.สมดุ โน้ต ๒๐. มธั ยัสถ์
ตอนท่ี ๓ คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นเขยี นเรื่องจากภาพภายใน ๒๐ นาที
เขยี นเรอื่ งจากภาพ ความยาวไมน่ อ้ ยกวา่ ๘ บรรทดั พร้อมต้งั ชอ่ื เร่อื งใหเ้ หมาะสม
ชอื่ .................................................................. คะแนน ๒๐ คะแนน ลงช่ือ.........................................
ชั้น......................... เลขที่ .................
จบช้นั ป.๖ จากโรงเรยี น..................................... ทำได้..........คะแนน (............................................)
ผปู้ ระเมิน
ตอนท่ี ๓ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเรอื่ งจากภาพภายใน ๒๐ นาที
เขยี นเรอ่ื งจากภาพ ความยาวไมน่ อ้ ยกว่า ๘ บรรทัด พรอ้ มตงั้ ชอื่ เร่อื งใหเ้ หมาะสม
ชื่อ.................................................................. คะแนน ๒๐ คะแนน ลงช่อื .........................................
ชั้น......................... เลขที่ .................
จบชั้น ป.๖ จากโรงเรยี น..................................... ทำได.้ .........คะแนน (............................................)
ผ้ปู ระเมิน
ตอนท่ี ๓ คำชี้แจง ให้นักเรยี นเขยี นเรอื่ งจากภาพภายใน ๒๐ นาที
เขยี นเรอ่ื งจากภาพ ความยาวไมน่ อ้ ยกว่า ๘ บรรทัด พรอ้ มต้งั ชอ่ื เร่อื งใหเ้ หมาะสม
ชอื่ .................................................................. คะแนน ๒๐ คะแนน ลงช่อื .........................................
ชั้น......................... เลขที่ .................
ทำได.้ .........คะแนน (............................................)
จบช้นั ป.๖ จากโรงเรยี น.....................................
ผู้ประเมิน
ตอนท่ี ๓ คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเรอื่ งจากภาพภายใน ๒๐ นาที
เขยี นเรอื่ งจากภาพ ความยาวไมน่ อ้ ยกว่า ๘ บรรทัด พรอ้ มต้งั ชอ่ื เร่อื งใหเ้ หมาะสม
ชอื่ .................................................................. คะแนน ๒๐ คะแนน ลงช่อื .........................................
ชั้น......................... เลขที่ .................
ทำได.้ .........คะแนน (............................................)
จบช้นั ป.๖ จากโรงเรยี น.....................................
ผู้ประเมิน
ตอนท่ี ๓ คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเรอื่ งจากภาพภายใน ๒๐ นาที
เขยี นเรอื่ งจากภาพ ความยาวไมน่ อ้ ยกว่า ๘ บรรทัด พรอ้ มต้งั ชอ่ื เร่อื งใหเ้ หมาะสม
ชอื่ .................................................................. คะแนน ๒๐ คะแนน ลงช่อื .........................................
ชั้น......................... เลขที่ ................. (............................................)
จบช้นั ป.๖ จากโรงเรยี น..................................... ทำได.้ .........คะแนน
ผู้ประเมิน
ตอนท่ี ๓ คำชี้แจง ให้นักเรยี นเขยี นเรอื่ งจากภาพภายใน ๒๐ นาที
เขยี นเรอ่ื งจากภาพ ความยาวไมน่ อ้ ยกว่า ๘ บรรทัด พรอ้ มต้งั ชอ่ื เร่อื งใหเ้ หมาะสม
ชอื่ .................................................................. คะแนน ๒๐ คะแนน ลงช่อื .........................................
ชั้น......................... เลขที่ .................
ทำได.้ .........คะแนน (............................................)
จบช้นั ป.๖ จากโรงเรยี น.....................................
ผู้ประเมิน
ตอนท่ี ๓ คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเรอื่ งจากภาพภายใน ๒๐ นาที
เขยี นเรอื่ งจากภาพ ความยาวไมน่ อ้ ยกว่า ๘ บรรทัด พรอ้ มต้งั ชอ่ื เร่อื งใหเ้ หมาะสม
ชอื่ .................................................................. คะแนน ๒๐ คะแนน ลงช่อื .........................................
ชั้น......................... เลขที่ .................
ทำได.้ .........คะแนน (............................................)
จบช้นั ป.๖ จากโรงเรยี น.....................................
ผู้ประเมิน
ตอนที่ ๓ คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเขยี นเร่อื งจากภาพภายใน ๒๐ นาที
เขยี นเรอ่ื งจากภาพ ความยาวไมน่ อ้ ยกว่า ๘ บรรทดั พรอ้ มตั้งชอ่ื เร่ืองใหเ้ หมาะสม
ชอ่ื เร่อื ง
ชอื่ .................................................................. คะแนน ๒๐ คะแนน ลงชื่อ.........................................
ชนั้ ......................... เลขที่ ................. (............................................)
จบช้ัน ป.๖ จากโรงเรียน..................................... ทำได.้ .........คะแนน
ผปู้ ระเมิน
คำช้แี จง นักเรียนเขยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้
คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน (ข้อละ ๒ คะแนน)
๑. พจิ ารณาภาพที่แสดงใหเ้ หน็ ถงึ พฤติกรรม “สังคมก้มหนา้ ในโรงเรียน”
ถา้ นกั เรยี นเป็นเพ่ือนของเดก็ ในภาพน้ี จะแนะนำอย่างไร จึงจะเป็นการสง่ เสริมให้เพ่ือน ๆ ไดท้ ำกิจกรรมที่เปน็ ประโยชน์
ตอ่ ตนเองและส่วนรวม (เขยี นตอบส้ัน ๆ จำนวน ๒ ข้อ)
๑.๑).......................................................................................................................... ..................................................
๑.๒)............................................................................................................................................................................
๒. “กระเจ๊ียบเขียวหากจะนำมากินสด ๆ หรือนำไปประกอบอาหารในรูปแบบต่าง ๆ ก็มักจะทานยาก เพราะเป็นยางยืด
เหนียวไม่นา่ ภิรมย์เท่าไรนัก แตก่ ระเจี๊ยบเขยี วก็มดี ีพอตวั ในด้านสรรพคุณในการแก้ทอ้ งผูก รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
บำรุงตับ กำจดั พยาธิตัวจ๊ีด ดีท็อกลำไส้ อุจจาระตกค้าง อีกท้ังเป็นเส้นใยอาหารธรรมชาติ มแี คลเซยี ม และวิตามินสูง
มโี ฟเลตสงู ชว่ ยสร้างเมด็ เลอื ดแดง บำรุงสมอง และพฒั นาการทารกในครรภ์”
นกั เรียนบอกประโยชนข์ องกระเจีย๊ บเขียวที่มีต่อมนุษย์วา่ มีอะไรบา้ ง เขียนตอบ ๒ ข้อ (การประเมนิ ค่า)
๒.๑)......................................................................................................................... ...................................................
๒.๒)......................................................................................................................... ...................................................
ชื่อ..................................................................
ช้นั ......................... เลขที่ ................. ช่อื เลน่ ..........................
คำชี้แจง นกั เรียนเขยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้
คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน (ข้อละ ๒ คะแนน)
๓. “อนั ตรายของการฉีดยามีมากมาย จงึ ควรหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะ เม่อื ปว่ ยด้วยโรคที่ไมร่ ้ายแรง เช่น ไข้หวัด คออกั เสบ
ทอ้ งเสีย ฯลฯ” ใหน้ ักเรยี นสรุปใจความสำคญั ของประโยคน้ี
............................................................................................................................. ...............................................
๔. ผง้ึ เป็นแมลงชนิดหน่ึงที่มขี า ๖ ขา ตวั โตประมาณนิ้วก้อย แบ่งเปน็ ๓ ตอน คือ ตอนหัว หนา้ อก และท้อง มีงวงไว้
สำหรับดดู น้ำหวานมตี าขนาดใหญ่อยูข่ ้างหัวข้างละตา และมตี าเลก็ ๆ อีก ๓ ตาอย่บู นหัว มีหนวดเล็ก ๆ ทั้งหมด ๔ เสน้
ดว้ ยกนั
อาหารของผ้ึงคือน้ำหวานของดอกไม้ ผง้ึ จะมีเหล็กในที่กน้ เพ่ือใชเ้ ป็นเครื่องต่อสปู้ อ้ งกันตวั ในรงั ของผึง้ แตล่ ะรงั จะมี
ผ้ึง ๓ ชนดิ คือ ผ้ึงนางพญา ซึ่งมเี พยี งตัวเดยี ว ผึง้ ตวั ผู้และผ้ึงตวั เมยี
มนุษย์ไดร้ ับประโยชน์จากผ้ึงหลายอยา่ ง คือ ไดน้ ้ำผงึ้ และรงั อ่อน ตวั อ่อนของผง้ึ ได้ขผี้ ้ึงมาใช้เปน็ ยา
๔.๑ ในรังของผงึ้ มผี ง้ึ ก่ชี นิดไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง ...........................................................................................................
............................................................................................................................. .........................................................
๔.๒ อวัยวะใดทผี่ ึง้ ใช้ดดู น้ำหวาน .........................................................................................................................
๕. อา่ น นทิ านเร่อื ง ค้างคาวเลือกพวก แล้วตอบคำถาม
ค้างคาวน้ันถอื วา่ ตนก็มปี ีกเหมือนนกและกม็ หี เู หมอื นสัตวอ์ ่ืนทว่ั ไป ดังนั้น เม่ือนกยกพวกไปต่อสู้กับสัตว์อนื่ ๆ
ค้างคาวก็ขอตัวไมเ่ ขา้ ขา้ งฝ่ายใด โดยทำตัวเป็นกลาง แตเ่ ม่ือพวกของนกมีทา่ ทีวา่ จะชนะ ค้างคาวกป็ ระกาศตัว ไปเขา้ กับ
ฝา่ ยนก ต่อมาพวกนกจะพลาดท่าเสยี ทีแกส่ ตั ว์อ่ืน ๆ ค้างคาวกผ็ ละจากนกไปเข้าพวกกบั สัตว์อ่ืน ๆ ต่อมานกตอ่ สู้จนใกล้
จะไดช้ ัยชนะ ค้างคาวก็กลับมาอยู่ฝ่ายพวกนกอกี เม่ือนกกับสตั ว์อ่ืนๆ ทำสัญญาสงบศกึ และเปน็ มิตรต่อกนั ท้ังสองต่างก็
ขับไล่ค้างคาว ไมย่ อมให้เข้าพวกด้วย ค้างคาวอับอายจึงไปซอ่ นตัวอย่ภู ายในถ้ำ จะออกจากถ้ำไปหาอาหาร ในตอนกลาง
คนื เท่านน้ั
นักเรยี นอธบิ ายขอ้ คิดทีไ่ ดจ้ ากการอา่ นนิทานเร่ืองนี้
............................................................................................................................. .........................................................
ลงชือ่ ..............................................ผูป้ ระเมนิ คะแนน ๑๐ คะแนน ทำได.้ .........คะแนน
(................................................................)
คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน (ขอ้ ละ ๒ คะแนน)
แนวคำตอบ ข้อ ๑
- หยดุ เลน่ เกมโทรศพั ทม์ าเล่นเกมในสนามดกี ว่า
- เงยหน้าสนทนาดกี ว่าก้มหน้าเล่นโทรศพั ท์
- วางโทรศพั ทห์ ันมาจับหนงั สือเรียนบา้ ง
- ออกกำลงั กาย สุขภาพดี ชีวปี ลอดภัยจะได้ใชโ้ ทรศพั ทน์ าน ๆ
- ระวงั นว้ิ ลอ็ ค สายตาส้ัน วางโทรศัพทส์ ักครู่
- หันมาออกกำลังกาย สขุ ภาพจะดีมปี ระโยชน์
- มาอ่านหนังสือดีกว่า ดกี วา่ เล่นโทรศัพทน์ ะ
- ไปเตะบอลกันดีกวา่ อยา่ มวั เลน่ โทรศัพท์อยเู่ ลย
แนวคำตอบ ขอ้ ๒
แกท้ ้องผูก รกั ษาแผลในกระเพาะอาหารบำรงุ ตบั กำจดั พยาธติ ัวจี๊ด ดีท็อกลำไส้ อจุ จาระตกคา้ ง บำรุงสมอง
พฒั นาการทารกในครรภ์
แนวคำตอบ ขอ้ ๓
การฉีดยาทำใหเ้ กดิ อนั ตรายมากมาย จงึ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยา ถา้ ไมไ่ ดป้ ่วยเปน็ โรคร้ายแรง
แนวคำตอบ ขอ้ ๔
- มีผงึ้ ๓ ชนิดผ้งึ นางพญา ผงึ้ ตวั ผแู้ ละผ้งึ ตัวเมยี
- มงี วงไวส้ ำหรบั ดูดน้ำหวาน
แนวคำตอบ ขอ้ ๕
- ผู้ขาดความจริงใจ ไม่มใี ครอยากคบหาด้วย
การประเมนิ ความสามารถในการอาน เปน การประเมินการอาน
ออกเสยี งคำที่กำหนดให จำนวนคำทใ่ี หน กั เรียนอานท้งั หมด ๒๐ คำ
นกั เรียนอานไดถกู ตอ ง ไมน อยกวา ๑๒ คำ จึงผา นเกณฑก ารประเมิน
(รอยละ ๖๐)
ระดบั การประเมิน
อา นออกระดบั ดี อา นถูกตอ ง ๑๖ – ๒๐ คาํ
อานออกระดับพอใช อานถูกตอ ง ๑๒ – ๑๕ คาํ
อา นไมอ อก อานถกู ตอ งนอ ยกวา ๑๑ คํา
พิจารณาจากการอา นออกเสยี ง ดังน้ี
๑. การอานถกู ตองตามหลกั การอาน (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน) อา นผดิ หักคําละ ๑
คะแนน (อานผดิ แลว อานใหมไดถกู ตองในทนั ทีไมถ ือวา อานผดิ )
๒. การอานเวนวรรคตอน คะแนนเต็ม ๕ คะแนน พิจารณา ดงั น้ี
๕ คะแนน = อานแบงวรรคตอนและจาํ นวนคําไดถ กู ตอ งทกุ คาํ
๔ คะแนน = อา นแบง วรรคตอนและจํานวนคําได ผิด ๑ – ๓ ตาํ แหนง
๓ คะแนน = อา นแบงวรรคตอนและจาํ นวนคําได ผิด ๔ – ๖ ตําแหนง
๒ คะแนน = อานแบงวรรคตอนและจํานวนคาํ ได ผดิ ๗ – ๙ ตาํ แหนง
๑ คะแนน = อานแบง วรรคตอนและจาํ นวนคาํ ได ผิด ๑๐ ตาํ แหนง ขนึ้ ไป
๓. การใชน้ําเสียงในการอาน คะแนนเตม็ ๓ คะแนน พิจารณาดงั นี้
๓ คะแนน = อา นเสยี งดงั ชดั เจน ระดบั เสียงสมาํ่ เสมอ
๒ คะแนน = อา นเสียงดงั ชัดเจน ระดับเสียงไมสม่ําเสมอ
๑ คะแนน = อานเสยี งเบา ฟงไมชัด ระดับเสียงไมส ม่ําเสมอ
๔. การอานภายในเวลาที่กาํ หนด คะแนนเต็ม ๒ คะแนน พจิ ารณาการอานดังนี้
๒ คะแนน = อานจบภายในเวลาทกี่ าํ หนด หรอื เร็วกวาเวลาท่ีกาํ หนด
๑ คะแนน = อา นชากวา เวลาทก่ี ําหนด
ระดับผลการประเมินจากคะแนนรวม คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน ดังน้ี
อา นคลอ ง ระดบั ดีมาก = ๑๘ – ๒๐ คะแนน
อา นคลอ ง ระดับดี = ๑๕ – ๑๗ คะแนน
อานคลอ ง ระดับพอใช = ๑๒ – ๑๔ คะแนน
อา นไมคลอง = ๐ – ๑๑ คะแนน
การแปลความหมายของการประเมิน
อานคลอง ระดบั ดีมาก หมายถึง การอานออกเสียงไดอยา งคลอ งแคลว ถูกตอ งตาม
หลกั การอา น แบงวรรคตอนไดถูก เสียงดงั ฟง ชัด อานไดภ ายในเวลาที่กำหนด
อา นคลองระดบั ดี หมายถึง การอานออกเสียงไดคอ นขา งคลอง ถูกตอ งตามหลกั การ
อาน เสียง คอ นขา งดี ฟงชัดเจน อานไดภายในเวลาทกี่ ำหนดหรอื ชากวา เล็กนอย
อานคลองระดับพอใช หมายถงึ การอานออกเสียงไดไ มคลอ ง อานไมถูกตองตาม
หลกั การอาน เสยี งคอนขางเบา ฟงไมชดั ชากวาเวลาทกี่ ำหนด
อานไมค ลอง หมายถึง การอานออกเสยี งไดไ มคลอง อานตะกกุ ตะกกั หรอื อา นชา ไม
ถกู ตองตาม หลักการอา น เสียงเบาฟงไมช ัด แบง วรรคตอนไมถูก อานชา กวา เวลาทีก่ ำหนดมาก
พิจารณาจากการอานออกเสยี ง ดงั นี้
เกณฑก ารประเมนิ ผา น
คะแนน รอยละ คุณภาพ ผลประเมิน
๑๒ – ๑๖ ๘๐-๑๐๐ ดีมาก ผาน
๙ – ๑๒ ๖๐-๗๙ ดี ผาน
๕–๘ ๕๐-๕๙ พอใช ไมผ าน
๐–๔ นอยกวา ๕๐ ปรบั ปรงุ ไมผาน
เกณฑก ารประเมินผา น
ตอบถูกขอละ ๑ คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน
คะแนน รอยละ คณุ ภาพ ผลประเมนิ
๙ – ๑๐ ๙๐-๑๐๐ ดเี ยยี่ ม ผาน
ผา น
๗ – ๘ ๗๐-๘๐ ดี ไมผ าน
ไมผ าน
๕ – ๖ ๕๐-๖๐ พอใช
๐–๔ นอ ยกวา ๕๐ ปรับปรุง
หมายเหตุ
การตรวจขอสอบ นกั เรียนตองผา นเกณฑคุณภาพระดบั ดี ขน้ึ ไป