พิมพครั้งที่ 3 สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ รหัสสินคา 2338065 แบบวัด และบันทึกผลการเรียนรู้ ผูเรียบเรียง นางสาวเกสิณี สุดทองคง นางสาวตวงณัชชา จันทรมัสการ คณะบรรณาธิการและผูตรวจ นางพัชรินทร แสนพลเมือง วิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่3 ตามมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และเทคโนโลยี ฉบับ เฉลย พิมพครั้งที่ 2 สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ รหัสสินคา 2348025 ชื่อ ....................................................................................... ชั้น ............... เลขที่ ..............
มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดกําหนดกรอบและ ทิศทางในการเรียนรูเนื้อหา ทักษะ กระบวนการเรียนรู กิจกรรมการเรียนการสอน และการประเมิน ผลการเรียนรูของผูเรียนวา มีระดับความรูความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม และคานิยมตาม ที่กําหนดไวในมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดมากนอยเพียงใด รวมถึงพัฒนาการดานสมรรถนะ สําคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงคตามเปาหมายที่กําหนดไวในหลักสูตรดวย มาตรฐานการเรียนรูจึงเปนเปาหมายสําคัญในการพัฒนาผูเรียนใหมีความรูความสามารถ ครอบคลุม 4 สาระการเรียนรู สวนตัวชี้วัดจะระบุสิ่งที่ผูเรียนตองรูและปฏิบัติได รวมถึงคุณลักษณะ ที่ตองเกิดขึ้นกับผูเรียนในแตละระดับชั้น สถานศึกษาและผูสอนจึงตองนําตัวชี้วัดไปจัดทําหนวย การเรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่ จะใชสําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐาน รายงานผลการเรียน และพัฒนาการดานตาง ๆ ของผูเรียนเปนรายบุคคล การจัดทําแบบวัดและบันทึกผลการเรียนรูของผูเรียนเปนรายบุคคลฉบับนี้ จึงมีวัตถุประสงค สําคัญเพื่ออํานวยความสะดวกแกผูสอน ในการนํากิจกรรมและเครื่องมือที่ออกแบบไวนี้ไปประยุกต ใชเปนเครื่องมือวัดผลเพื่อตรวจสอบผลการเรียนรูที่เกิดขึ้นกับผูเรียน จะไดนําผลการวัดมาปรับปรุง พัฒนาผูเรียนแตละคนจนเต็มศักยภาพตามเปาหมายของหลักสูตร ทั้งนี้ การวัดผลประเมินผลระดับชั้นเรียน จัดเปนภาระงานสําคัญที่สุดในกระบวนการวัดและ ประเมินผลของผูสอน เพราะตองการวัดความรู ทักษะ และความสามารถที่เกิดกับผูเรียนทุกคน ผูสอนจะไดนําผลการวัดเหลานั้นไปวางแผนจัดการเรียนการสอนใหสอดคลองกับความสามารถของ ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม หรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได ตามเกณฑประกันคุณภาพการศึกษาที่สถานศึกษาแตละแหงกําหนดไว ดังนั้น การประเมินผลผูเรียนจึงจําเปนตองใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพ ซึ่งผูสอนตองสราง หรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน ผลการเรียนของผูเรียนไดอยางมั่นใจวา ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู ความสามารถที่เกิดขึ้นจริงของผูเรียนแตละคน ซึ่งมีคาความเที่ยงตรงและคาความเชื่อมั่นสูง แสดง ใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดานการ จัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองของนักเรียนได แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรูของผูเรียนฉบับนี้ จึงเปนประโยชนตอผูสอนและผูเรียนที่จะ ใชวางแผนการประเมินผลการเรียนรูรวมกัน เพื่อนําไปสูการพัฒนาคุณภาพผูเรียนตามเปาหมาย ของหลักสูตรทุกประการ ผูจัดทํา คําชี้แจง ฉบับ เฉลย
ตารางบันทึกผลการประเมินคุณภาพตามตัวชี้วัด (1) หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ 2 • กิจกรรมฝกทักษะ 2 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 1.1 ม.3/1-6) 3 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 9 • แบบบันทึกผลการประเมิน 11 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พันธุกรรม 12 • กิจกรรมฝกทักษะ 12 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 1.3 ม.3/1-11) 13 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 2 25 • แบบบันทึกผลการประเมิน 27 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัสดุในชีวิตประจําวัน 28 • กิจกรรมฝกทักษะ 28 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.1 ม.3/1-2) 29 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 3 31 • แบบบันทึกผลการประเมิน 33 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ปฏิกิริยาเคมี 34 • กิจกรรมฝกทักษะ 34 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.1 ม.3/3-8) 35 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 4 43 • แบบบันทึกผลการประเมิน 45 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 46 • กิจกรรมฝกทักษะ 46 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.3 ม.3/1-9) 47 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 5 57 • แบบบันทึกผลการประเมิน 59 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 คลื่น 60 • กิจกรรมฝกทักษะ 60 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.3 ม.3/10-12) 61 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 6 65 • แบบบันทึกผลการประเมิน 67 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 แสงและการมองเห็น 68 • กิจกรรมฝกทักษะ 68 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.3 ม.3/13-21) 69 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 7 81 • แบบบันทึกผลการประเมิน 83 หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ และเทคโนโลยีอวกาศ 84 • กิจกรรมฝกทักษะ 84 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 3.1 ม.3/1-4) 85 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 8 90 • แบบบันทึกผลการประเมิน 92 แบบทดสอบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 93 สารบัญ ฉบับ เฉลย
หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการ ประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล 1 มฐ. ว 1.1 1. อธิบายปฏิสัมพันธขององคประกอบ ของระบบนิเวศที่ไดจากการสํารวจ ตรวจ ก. 1.1 • ก. 1.1 อธิบายปฏิสัมพันธของ องคประกอบของระบบนิเวศ ว 1.1 ม.3/1-6 2. อธิบายรูปแบบความสัมพันธระหวาง สิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบตาง ๆ ใน แหลงที่อยูเดียวกันที่ไดจากการสํารวจ ตรวจ ก. 1.2 • ก. 1.2 อธิบายรูปแบบความ สัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิต 3. สรางแบบจําลองในการอธิบายการ ถายทอดพลังงานในสายใยอาหาร ตรวจ ก. 1.3 • ก. 1.3 สรางแบบจําลองการ ถายทอดพลังงานในสายใยอาหาร 4. อธิบายความสัมพันธของผูผลิต ผูบริโภค และผูยอยสลายสารอินทรีย ในระบบนิเวศ ตรวจ ก. 1.4 • ก. 1.4 ตอบคําถามเกี่ยวกับกลุม สิ่งมีชีวิตแบงตามหนาที่ในระบบ นิเวศ 5. อธิบายการสะสมสารพิษในสิ่งมีชีวิตใน โซอาหาร ตรวจ ก. 1.5 • ก. 1.5 อธิบายการสะสมสารพิษ ในโซอาหาร 6. ตระหนักถึงความสัมพันธของสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศ โดยไม ทําลายสมดุลของระบบนิเวศ ตรวจ ก. 1.6 • ก. 1.6 ตอบคําถามเกี่ยวกับ ความสัมพันธของสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดลอมและสมดุลของระบบ นิเวศ 2 มฐ. ว 1.3 1. อธิบายความสัมพันธระหวางยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม โดยใชแบบ จําลอง ตรวจ ก. 2.1 • ก. 2.1 อธิบายความสัมพันธของ ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม ว 1.3 ม.3/1-11 2. อธิบายการถายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมจากการผสมโดยพิจารณา ลักษณะเดียวที่แอลลีลเดนขมแอลลีล ดอยอยางสมบูรณ ตรวจ ก. 2.2 • ก. 2.2 ตอบคําถามเกี่ยวกับการ ถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม จากการผสม 3. อธิบายการเกิดจีโนไทปและฟโนไทป ของลูก และคํานวณอัตราสวนการเกิด จีโนไทปและฟโนไทปของรุนลูก ตรวจ ก. 2.3 • ก. 2.3 เขียนแผนภาพและบอก อัตราสวนของจีโนไทปและฟโนไทป ของรุนลูก 4. อธิบายความแตกตางของการแบง เซลลแบบไมโทซิสและไมโอซิส ตรวจ ก. 2.4 • ก. 2.4 เปรียบเทียบความแตกตาง ของการแบงเซลลแบบไมโทซิสและ ไมโอซิส 5. บอกไดวาการเปลี่ยนแปลงของยีน หรือโครโมโซมอาจทําใหเกิดโรคทาง พันธุกรรม พรอมทั้งยกตัวอยางโรค ทางพันธุกรรม ตรวจ ก. 2.5 • ก. 2.5 ระบุโรคทางพันธุกรรม ความผิดปกติของโครโมโซม และลักษณะของผูปวยโรคทาง พันธุกรรม ตารางบันทึกผลการประเมินคุณภาพตามตัวชี้วัด ฉบับ เฉลย
หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล 2 มฐ. ว 1.3 6. ตระหนักถึงประโยชนของความรู เรื่องโรคทางพันธุกรรม โดยรูวา กอนแตงงานควรปรึกษาแพทยเพื่อ ตรวจและวินิจฉัยภาวะเสี่ยงของลูก ที่อาจเกิดโรคทางพันธุกรรม ตรวจ ก. 2.6 • ก. 2.6 ตอบคําถามเกี่ยวกับ ความรูเรื่องโรคทางพันธุรรม ที่สงผลตอรุนลูก 7. อธิบายการใชประโยชนจากสิ่งมีชีวิต ดัดแปรพันธุกรรม และผลกระทบ ที่อาจมีตอมนุษยและสิ่งแวดลอม โดยใชขอมูลที่รวบรวมได ตรวจ ก. 2.7 • ก. 2.7 อธิบายประโยชนและ ผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมที่อาจมีตอมนุษยและ สิ่งแวดลอม 8. ตระหนักถึงประโยชนและผลกระทบ ของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่ อาจมีตอมนุษยและสิ่งแวดลอม โดยการเผยแพรความรูที่ไดจากการ โตแยงทางวิทยาศาสตร ซึ่งมีขอมูล สนับสนุน ตรวจ ก. 2.8 • ก. 2.8 ตอบคําถามเกี่ยวกับ ประโยชนและผลกระทบของ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจ มีตอมนุษยและสิ่งแวดลอม 9. เปรียบเทียบความหลากหลายทาง ชีวภาพในระดับชนิดสิ่งมีชีวิตใน ระบบนิเวศตาง ๆ ตรวจ ก. 2.9 • ก. 2.9 ตอบคําถามเกี่ยวกับ ความหลากหลายทางชีวภาพ 10. อธิบายความสําคัญของความหลาก หลายทางชีวภาพที่มีตอการรักษา สมดุลของระบบนิเวศและตอมนุษย ตรวจ ก. 2.10 • ก. 2.10 อธิบายความสําคัญของ ความหลากหลายทางชีวภาพ 11. แสดงความตระหนักในคุณคาและ ความสําคัญของความหลากหลาย ทางชีวภาพ โดยมีสวนรวมในการ ดูแลรักษาความหลากหลายทาง ชีวภาพ ตรวจ ก. 2.11 • ก. 2.11 ระบุปญหาและวิธีการ ดูแลรักษาความหลากหลายทาง ชีวภาพ 3 มฐ. ว 2.1 1. ระบุสมบัติทางกายภาพและการใช ประโยชนวัสดุประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม โดยใช หลักฐานเชิงประจักษและ สารสนเทศ ตรวจ ก. 3.1 • ก. 3.1 บอกสมบัติทางกายภาพ และประโยชนของวัสดุประเภท พอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม ตรวจ ก. 3.2 • ก. 3.2 เลือกวัสดุใหเหมาะตอ การนําไปใช ว 2.1 ม.3/1-2 2. ตระหนักถึงคุณคาของการใชวัสดุ ประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุ ผสม โดยเสนอแนะแนวทางการใช วัสดุอยางประหยัดและคุมคา ตรวจ ก. 3.3 • ก. 3.3 ตอบคําถามเกี่ยวกับการใช วัสดุอยางประหยัดและคุมคา ฉบับ เฉลย
4 มฐ. ว 2.1 3. อธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมี รวมถึง การจัดเรียงตัวใหมของอะตอมเมื่อ เกิดปฏิกิริยาเคมี โดยใชแบบจําลอง และสมการขอความ ตรวจ ก. 4.1 • ก. 4.1 วาดแบบจําลองปฏิกิริยา เคมี ว 2.1 ม.3/3-8 ตรวจ ก. 4.2 • ก. 4.2 ดุลสมการเคมี 4. อธิบายกฎทรงมวล โดยใชหลักฐาน เชิงประจักษ ตรวจ ก. 4.3 • ก. 4.3 คํานวณหามวลของสารใน ปฏิกิริยาเคมี 5. วิเคราะหปฏิกิริยาดูดความรอน และ ปฏิกิริยาคายความรอน จากการ เปลี่ยนแปลง ตรวจ ก. 4.4 • ก. 4.4 ระบุปฏิกิริยาดูดความรอน และคายความรอน 6. อธิบายปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยา ของกรดกับเบส และปฏิกิริยาของเบส กับโลหะ โดยใชหลักฐานเชิงประจักษ และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม การ เกิดฝนกรด การสังเคราะหดวยแสง โดยใชสารสนเทศ รวมทั้งเขียนสมการ ขอความแสดงปฏิกิริยาดังกลาว ตรวจ ก. 4.5 • ก. 4.5 เขียนสมการเคมีและ อธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่พบ ในชีวิตประจําวัน 7. ระบุประโยชนและโทษของปฏิกิริยา เคมีที่มีตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม และยกตัวอยางวิธีการปองกันและ แกปญหาที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีที่ พบในชีวิตประจําวัน จากการสืบคน ขอมูล ตรวจ ก. 4.6 • ก. 4.6 ระบุประโยชนและโทษของ ปฏิกิริยาเคมีตอสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดลอม ตรวจ ก. 4.7 • ก. 4.7 ระบุโทษของปฏิกิริยาเคมี ตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอมและ วิธีปองกันหรือแกปญหา 8. ออกแบบวิธีแกปญหาในชีวิตประจําวัน โดยใชความรูเกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมี โดยบูรณาการวิทยาศาสตร คณิตศาสตร เทคโนโลยี และ วิศวกรรมศาสตร ตรวจ ก. 4.8 • ก. 4.8 ออกแบบชิ้นงานโดยใช ความรูเกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมี 5 มฐ. ว 2.3 1. วิเคราะหความสัมพันธระหวาง ความตางศักย กระแสไฟฟา และ ความตานทาน และคํานวณปริมาณ ที่เกี่ยวของโดยใชสมการ V = IR จากหลักฐานเชิงประจักษ ตรวจ ก. 5.1 • ก. 5.1 ตอบคําถามเกี่ยวกับความ สัมพันธระหวางความตางศักย กระแสไฟฟา และความตานทาน ว 2.3 ม.3/1-9 ตรวจ ก. 5.2 • ก. 5.2 คํานวณเกี่ยวกับความ ตางศักย กระแสไฟฟา และ ความตานทาน หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล ฉบับ เฉลย
5 มฐ. ว 2.3 2. เขียนกราฟความสัมพันธระหวาง กระแสไฟฟาและความตางศักยไฟฟา ตรวจ ก. 5.3 • ก. 5.3 เขียนกราฟและอธิบาย ความสัมพันธระหวางกระแส ไฟฟาและความตางศักยไฟฟา 3. ใชโวลตมิเตอร แอมมิเตอรในการวัด ปริมาณทางไฟฟา ตรวจ ก. 5.4 • ก. 5.4 เขียนแผนภาพวงจร ไฟฟาในการใชโวลตมิเตอรและ แอมมิเตอร 4. วิเคราะหความตางศักยไฟฟาและ กระแสไฟฟาในวงจรไฟฟาเมื่อตอ ตัวตานทานหลายตัวแบบอนุกรมและ แบบขนานจากหลักฐานเชิงประจักษ ตรวจ ก. 5.5 • ก. 5.5 ตอบคําถามและคํานวณ ปริมาณทางไฟฟาที่ตอตัว ตานทานหลายตัวแบบอนุกรม และแบบขนาน 5. เขียนแผนภาพวงจรไฟฟาแสดง การตอตัวตานทานแบบอนุกรม และขนาน ตรวจ ก. 5.6 • ก. 5.6 เขียนแผนภาพวงจรไฟฟา แสดงการตอตัวตานทานแบบ อนุกรมและขนาน 6. บรรยายการทํางานของชิ้นสวน อิเล็กทรอนิกสอยางงายในวงจรจาก ขอมูลที่รวบรวมได ตรวจ ก. 5.7 • ก. 5.7 บอกการทํางานของ ชิ้นสวนอิเล็กทรอนิกส 7. เขียนแผนภาพและตอชิ้นสวน อิเล็กทรอนิกสอยางงายในวงจร ไฟฟา ตรวจ ก. 5.8 • ก. 5.8 เขียนแผนภาพการตอ ชิ้นสวนอิเล็กทรอนิกสอยางงาย ในวงจรไฟฟา 8. อธิบายและคํานวณพลังงานไฟฟาโดย ใชสมการ W= Pt รวมทั้งคํานวณคา ไฟฟาของเครื่องใชไฟฟาในบาน ตรวจ ก. 5.9 • ก. 5.9 คํานวณพลังงานไฟฟา และคาไฟฟา 9. ตระหนักในคุณคาของการเลือกใช เครื่องใชไฟฟา โดยนําเสนอวิธีการ ใชเครื่องใชไฟฟาอยางประหยัดและ ปลอดภัย ตรวจ ก. 5.10 • ก. 5.10 ระบุวิธีการใชเครื่องใช ไฟฟาอยางประหยัดและปลอดภัย 6 มฐ. ว 2.3 10. สรางแบบจําลองที่อธิบายการเกิดคลื่น และบรรยายสวนประกอบของคลื่น ตรวจ ก. 6.1 • ก. 6.1 สรางแบบจําลองที่อธิบาย การเกิดคลื่น ว 2.3 ม.3/10-12 ตรวจ ก. 6.2 • ก. 6.2 ระบุปริมาณของ สวนประกอบของคลื่น 11. อธิบายคลื่นแมเหล็กไฟฟาและ สเปกตรัมคลื่นแมเหล็กไฟฟาจาก ขอมูลที่รวบรวมได ตรวจ ก. 6.3 • ก. 6.3 ตอบคําถามเกี่ยวกับ คลื่นแมเหล็กไฟฟา ตรวจ ก. 6.4 • ก. 6.4 เติมคําตอบเกี่ยวกับ สเปกตรัมคลื่นแมเหล็กไฟฟา หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล ฉบับ เฉลย
6 มฐ. ว 2.3 12. ตระหนักถึงประโยชนและอันตราย จากคลื่นแมเหล็กไฟฟา โดยนําเสนอ การใชประโยชนในดานตาง ๆ และ อันตรายจากคลื่นแมเหล็กไฟฟาใน ชีวิตประจําวัน ตรวจ ก. 6.5 • ก. 6.5 บอกประโยชนและอันตราย จากคลื่นแมเหล็กไฟฟา 7 มฐ. ว 2.3 13. ออกแบบการทดลองและดําเนินการ ทดลองดวยวิธีที่เหมาะสมในการ อธิบายกฎการสะทอนของแสง ตรวจ ก. 7.1 • ก. 7.1 ทําการทดลองเพื่ออธิบาย กฎการสะทอนของแสง ว 2.3 ม.3/13-21 14. เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพจากกระจกเงา ตรวจ ก. 7.2 • ก. 7.2 เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสง แสดงการเกิดภาพจาก กระจกเงา 15. อธิบายการหักเหของแสงเมื่อผาน ตัวกลางโปรงใสที่แตกตางกัน และ อธิบายการกระจายแสงของแสงขาว เมื่อผานปริซึมจากหลักฐาน เชิงประจักษ ตรวจ ก. 7.3 • ก. 7.3 ตอบคําถามเกี่ยวกับการ หักเหของแสงเมื่อผานตัวกลางที่ แตกตางกันและการกระจายแสง เมื่อผานปริซึม 16. เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพจากเลนสบาง ตรวจ ก. 7.4 • ก. 7.4 เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสงแสดงการเกิดภาพจาก เลนสเวาและเลนสนูน 17. อธิบายปรากฏการณที่เกี่ยวกับแสง และการทํางานของทัศนอุปกรณจาก ขอมูลที่รวบรวมได ตรวจ ก. 7.5 • ก. 7.5 อธิบายปรากฏการณที่ เกี่ยวกับแสง และการทํางานของ ทัศนอุปกรณ 18. เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพของทัศนอุปกรณ และเลนสตา ตรวจ ก. 7.6 • ก. 7.6 เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสง แสดงการเกิดภาพของ ทัศนอุปกรณและเลนสตา 19. อธิบายผลของความสวางที่มีตอ ดวงตาจากขอมูลที่ไดจากการสืบคน ตรวจ ก. 7.7 • ก. 7.7 วัดความสวางของแสง แลวระบุผลกระทบตอดวงตา 20. วัดความสวางของแสงโดยใชอุปกรณ วัดความสวางของแสง 21. ตระหนักในคุณคาของความรูเรื่อง ความสวางของแสงที่มีตอดวงตา โดยวิเคราะหสถานการณปญหา และเสนอแนะการจัดความสวางให เหมาะสมในการทํากิจกรรมตาง ๆ ตรวจ ก. 7.8 • ก. 7.8 ระบุความเหมาะสมของ ความสวางกับกิจกรรมตาง ๆ หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล ฉบับ เฉลย
หมายเหตุ 1. ใหผูสอนประเมินผลระดับคุณภาพตามตัวชี้วัดของหนวยการเรียนรู โดยนําคะแนนรวมทั้งหมดของทุกกิจกรรม ตามตัวชี้วัดในแบบบันทึกการประเมินของแตละหนวยการเรียนรูมาเปรียบเทียบกับเกณฑการตัดสินคุณภาพ ของตัวชี้วัดตามหนวยการเรียนรูแตละหนวยการเรียนรู 2. ใหผูสอนนําผลการประเมินระดับคุณภาพตามตัวชี้วัดของแตละหนวยการเรียนรูมาสรุปในตาราง โดยใส หมายเลขระดับคะแนน 1-4 (4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช 1 = ปรับปรุง) ลงในชองตามระดับ คุณภาพ 8 มฐ. ว 3.1 1. อธิบายการโคจรของดาวเคราะหรอบ ดวงอาทิตยดวยแรงโนมถวง จากสมการ F = Gm1 m2 r 2 ตรวจ ก. 8.1 • ก. 8.1 ตอบคําถามและคํานวณ เกี่ยวกับแรงโนมถวง ว 3.1 ม.3/1-4 2. สรางแบบจําลองที่อธิบายการเกิดฤดู และการเคลื่อนที่ปรากฏของ ดวงอาทิตย ตรวจ ก. 8.2 • ก. 8.2 ตอบคําถามเกี่ยวกับการ เกิดฤดูและการเคลื่อนที่ปรากฏ ของดวงอาทิตย 3. สรางแบบจําลองที่อธิบายการเกิด ขางขึ้นขางแรม การเปลี่ยนแปลง เวลาการขึ้นและตกของดวงจันทร และการเกิดนํ้าขึ้นนํ้าลง ตรวจ ก. 8.3 • ก. 8.3 วาดภาพดวงจันทรที่ สังเกตเห็นบนโลกเมื่อดวงจันทร มีตําแหนงที่แตกตางกัน ตรวจ ก. 8.4 • ก. 8.4 ตอบคําถามเกี่ยวกับนํ้าขึ้น นํ้าลง 4. อธิบายการใชประโยชนของเทคโนโลยี อวกาศ และยกตัวอยางความกาวหนา ของโครงการสํารวจอวกาศ จากขอมูล ที่รวบรวมได ตรวจ ก. 8.5 • ก. 8.5 อธิบายการใชประโยชน ของเทคโนโลยีอวกาศ ตรวจ ก. 8.6 • ก. 8.6 ยกตัวอยางความกาวหนา ของโครงการสํารวจอวกาศ หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล ฉบับ เฉลย
การเรียนรู เรื่อง ระบบนิเวศ ทําใหเกิดความรูความเขาใจและสามารถอธิบายปฏิสัมพันธของ องคประกอบในระบบนิเวศ และรูปแบบความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบตางๆ ในแหลง ที่อยูเดียวกัน สามารถสรางแบบจําลองอธิบายการถายทอดพลังงานในสายใยอาหารและการสะสมสารพิษ ของสิ่งมีชีวิตในโซอาหาร รวมทั้งตระหนักถึงความสัมพันธของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศ โดยไมทําลายสมดุลของระบบนิเวศ ระบบนิเวศ กิจกรรมฝกทักษะ พิจารณาภาพ แลวจําแนกรูปแบบความสัมพันธของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ความสัมพันธแบบภาวะอิงอาศัย ไดแก ..................................................................................................................................................... ความสัมพันธแบบภาวะพึ่งพากัน ไดแก ................................................................................................................................................... ความสัมพันธแบบภาวะปรสิต ไดแก ........................................................................................................................................................... ความสัมพันธแบบภาวะเหยื่อกับผูลา ไดแก ......................................................................................................................................... เห็บกับสุนัข หมีกับปลา กบกับแมลง นกกับตนไม ปลาการตูนกับดอกไมทะเล ฉลามกับเหาฉลาม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 4 2 5 3 6 ฉบับ เฉลย ¹¡¡ÑºµŒ¹äÁŒ áÅЩÅÒÁ¡ÑºàËÒ©ÅÒÁ »ÅÒ¡Òõٹ¡Ñº´Í¡äÁŒ·ÐàÅ àËçº¡ÑºÊØ¹Ñ¢ ¡º¡ÑºáÁŧ áÅÐËÁաѺ»ÅÒ 2 แบบวัดฯ
ดูภาพระบบนิเวศ แลวตอบคําถาม (ว 1.1 ม.3/1) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.1 8 กิจกรรมตามตัวชี้วัด 1. องคประกอบของระบบนิเวศที่พบในภาพ มีอะไรบาง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. จากภาพ ตนไมมีความสัมพันธกับสิ่งมีชีวิตอื่นอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. จากภาพ ยกตัวอยางความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไมมีชีวิต อยางนอย 3 ตัวอยาง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. ถานํ้าในแหลงนํ้าแหง ระบบนิเวศในภาพจะเปนอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ͧ¤»ÃСͺã¹ÀÒ¾ÁÕ·Ñé§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµáÅÐÊÔè§äÁ‹ÁÕªÕÇÔµ â´ÂÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ 䴌ᡋ µŒ¹äÁŒ µŒ¹ËÞŒÒ ÁŒÒÅÒ ÂÕÃÒ¿ ¡Ôé§¡‹Ò ªŒÒ§ ¹¡ ¨ÃÐࢌ ÊÔ§âµ ÎÔ»â»â»àµÁÑÊ áÅÐÊÔè§äÁ‹ÁÕªÕÇÔµ 䴌ᡋ áʧ ¹íéÒ ´Ô¹ ÍÒ¡ÒÈ ¡ŒÍ¹ËÔ¹ µŒ¹äÁŒÊÌҧÍÒ¡ÒÈ·Õè 㪌㹡ÒÃËÒÂ㨫Ö觨íÒ໚¹µ‹Í¡ÒôíÒçªÕÇÔµ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ໚¹áËÅ‹§ÍÒËÒà áÅÐáËÅ‹§·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑÂãËŒÊÔè§ÁÕªÕÇÔµµ‹Ò§ æ ઋ¹ ໚¹ÍÒËÒâͧÂÕÃÒ¿ ໚¹·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑ¢ͧ¹¡áÅÐ ¡Ôé§¡‹Ò 1) ¨ÃÐࢌ㪌áËÅ‹§¹íéÒ໚¹áËÅ‹§·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑÂáÅÐáËÅ‹§ÍÒËÒà 2) ªŒÒ§ãªŒáËÅ‹§¹íéÒ໚¹áËÅ‹§ÍÒËÒà 3) µŒ¹äÁŒãªŒ¹íéÒ áʧ áÅдԹ㹡ÒÃÊÌҧÍÒËÒà ¾×ª·Õè໚¹¼ÙŒ¼ÅÔµ¨ÐÅŒÁµÒÂà¹×èͧ¨Ò¡¢Ò´¹íéÒ·Õè 㪌㹡ÒÃÊÌҧÍÒËÒà ʋ§¼ÅãËŒÊѵǷÕèºÃÔâÀ¤¾×ª ÁÕÍÒËÒùŒÍÂŧáÅÐÅ´¨íҹǹŧ «Ö觨ÐÊ‹§¼ÅãËŒ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÊѵÇÁÕÍÒËÒùŒÍÂŧµÒÁä»´ŒÇ ¨¹Ê‹§¼ÅãËŒÃкº¹ÔàÇÈàÊÕÂÊÁ´ØÅ (á¹Ç¤íҵͺ) 3 แบบวัดฯ
ยกตัวอยางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตที่มีรูปแบบความสัมพันธ ตามที่กําหนดให (ว 1.1 ม.3/2) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.2 8 1. ภาวะพึ่งพากัน สิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธแบบภาวะพึ่งพากัน คือ ............................................................................................................... โดย ....................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เครื่องหมายแสดงความสัมพันธ คือ ................................................................................................................................................... เครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………. และเครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………… 2. ภาวะปรสิต สิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธแบบภาวะปรสิต คือ ........................................................................................................................ โดย ....................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เครื่องหมายแสดงความสัมพันธ คือ ................................................................................................................................................... เครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………. และเครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………… 3. ภาวะอิงอาศัย สิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธแบบภาวะอิงอาศัย คือ ................................................................................................................. โดย ....................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เครื่องหมายแสดงความสัมพันธ คือ ................................................................................................................................................... เครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………. และเครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………… 4. ภาวะเหยื่อกับผูลา สิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธแบบภาวะเหยื่อกับผูลา คือ ...................................................................................................... โดย ....................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เครื่องหมายแสดงความสัมพันธ คือ ................................................................................................................................................... เครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………. และเครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………… ฉบับ เฉลย (á¹Ç¤íҵͺ) ÊÒËËÒ¡ѺÃÒ ÊÒËËÒ¡ѺÃÒÍÒÈÑÂÍÂًËÇÁ¡Ñ¹áÅÐäÁ‹ÊÒÁÒöá¡ÍÍ¡¨Ò¡¡Ñ¹ä´Œ àÃÕÂ¡Ç‹Ò äÅह à¾ÃÒÐ ÊÒËËÒµŒÍ§ÍÒÈѤÇÒÁª×鹨ҡÃÒ áÅÐÃÒµŒÍ§ÍÒÈÑÂÍÒËÒ÷ÕèÊÒËËÒÂÊÌҧ¢Öé¹à¾×èÍ㪌㹡ÒôíÒçªÕÇÔµ (+, +) + ÊÒËËÒ + ÃÒ ¡Ò½Ò¡¡ÑºµŒ¹ÁÐÁ‹Ç§ ¡Ò½Ò¡¨Ð´Ù´¡Ô¹¹íéÒáÅÐÍÒËÒèҡµŒ¹ÁÐÁ‹Ç§ ʋǹµŒ¹ÁÐÁ‹Ç§¨Ð¶Ù¡¡Ò½Ò¡´Ù´¡Ô¹¹íéÒáÅÐ ÍÒËÒà (+, -) + ¡Ò½Ò¡ - µŒ¹ÁÐÁ‹Ç§ ¹¡¡ÑºµŒ¹äÁŒ ¹¡ä´Œ»ÃÐ⪹¨Ò¡µŒ¹äÁŒà»š¹áËÅ‹§·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑÂËÃ×ÍàÅÕé§´ÙÅ١͋͹ ʋǹµŒ¹äÁŒäÁ‹ä´ŒáÅÐ äÁ‹àÊÕ»ÃÐ⪹¨Ò¡¡Ò÷Õ蹡ÁÒÍÒÈÑÂÍÂÙ‹ (+, 0) + ¹¡ 0 µŒ¹äÁŒ ÊԧⵡѺ¡ÇÒ§ ÊÔ§âµà»š¹¼ÙŒÅ‹ÒËÃ×ͼٌ䴌»ÃÐ⪹ ¤×Í ä´ŒÃѺÍÒËÒÃ㹡ÒôíÒçªÕÇÔµ ʋǹ¡Çҧ໚¹àËÂ×èÍ ËÃ×ͼٌàÊÕ»ÃÐ⪹ ¤×Í àÊÕªÕÇÔµ¨Ò¡¡ÒÃ¶Ù¡Å‹Ò (+, -) + ÊÔ§âµ - ¡ÇÒ§ 4 แบบวัดฯ
ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.3 10 วาดแบบจําลองการถายทอดพลังงานในสายใยอาหาร พรอมระบุโซอาหารในสายใยอาหาร (ว 1.1 ม.3/3) มีโซอาหารทั้งหมด …………………. สาย ไดแก ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... แมว นกฮูก เสือ กบ งูเขียว ตั๊กแตน หนู (วาดแบบจําลอง) ตนขาว ฉบับ เฉลย 1. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ ˹٠➞ áÁÇ 2. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ ˹٠➞ àÊ×Í 3. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ ˹٠➞ ¹¡ÎÙ¡ 4. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ ˹٠➞ §Ùà¢ÕÂÇ ➞ ¹¡ÎÙ¡ 5. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ µÑê¡áµ¹ ➞ ¡º ➞ §Ùà¢ÕÂÇ ➞ ¹¡ÎÙ¡ 5 (á¹Ç¤íҵͺ) (วาดแบบจําลอง) นกฮูก เสือ งูเขียว แมว หนู ตนขาว ตั๊กแตน กบ 5 แบบวัดฯ
18 ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.4 10 ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.1 ม.3/4) 1. ถาแบงกลุมสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศแหงหนึ่งตามบทบาทหนาที่ จะแบงไดกี่กลุม อะไรบาง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. จากขอ 1. กลุมสิ่งมีชีวิตแตละกลุมมีความสัมพันธกันอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. บีมสํารวจระบบนิเวศแหงหนึ่ง พบสิ่งมีชีวิต ไดแก หญา กระตาย หนอนผีเสื้อ สุนัขจิ้งจอก นกเขา และแบคทีเรีย 1) บีมจะจําแนกกลุมสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศที่พบตามบทบาทหนาที่ไดอยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) ถาหญามีจํานวนนอยลง จะสงผลกระทบตอหนอนผีเสื้อและกระตายอยางไร เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3) แบคทีเรียมีบทบาทสําคัญอยางไรในระบบนิเวศ .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ẋ§ä´Œ 3 ¡ÅØ‹Á 䴌ᡋ ¼ÙŒ¼ÅÔµ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ áÅмٌ‹ÍÂÊÅÒÂÊÒÃÍÔ¹·ÃÕ ¼ÙŒ¼ÅÔµ ໚¹ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·ÕèÊÌҧÍÒËÒÃä´Œàͧ ʋǹ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ ໚¹ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·Õè äÁ‹ÊÒÁÒöÊÌҧÍÒËÒà àͧ䴌 ¨Ö§µŒÍ§¡Ô¹¼ÙŒ¼ÅÔµËÃ×ÍÊÔè§ÁÕªÕÇÔµÍ×è¹à»š¹ÍÒËÒà áÅÐàÁ×èͼٌ¼ÅÔµËÃ×ͼٌºÃÔâÀ¤µÒ «Ò¡µ‹Ò§ æ ¨Ð¶Ù¡¼ÙŒÂ‹ÍÂÊÅÒÂÊÒÃÍÔ¹·ÃÕ·íÒ¡ÒËÍÂÊÅÒ â´Âà»ÅÕ蹨ҡÊÒÃÍÔ¹·ÃÕÂ໚¹ÊÒÃ͹Թ·ÃÕ áÅСÅѺ¤×¹ÊÙ‹ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ ¼ÙŒ¼ÅÔµ 䴌ᡋ ËÞŒÒ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ 䴌ᡋ ¡Ãе‹Ò ˹͹¼ÕàÊ×éÍ ÊØ¹Ñ¢¨Ô駨͡ áÅй¡à¢Ò ¼ÙŒÂ‹ÍÂÊÅÒÂÊÒÃÍÔ¹·ÃÕ 䴌ᡋ Ấ·ÕàÃÕ ¶ŒÒËÞŒÒÁÕ¨íҹǹ¹ŒÍÂŧ ˹͹¼ÕàÊ×éÍáÅСÃе‹Ò¨ÐÁÕ¨íҹǹ¹ŒÍÂŧ´ŒÇ à¾ÃÒÐËÞŒÒ໚¹ ¼ÙŒ¼ÅÔµ«Öè§à»š¹ÍÒËÒâͧ˹͹¼ÕàÊ×éÍáÅСÃе‹Ò àÁ×èÍÍÒËÒùŒÍÂŧ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ¶Ñ´ä» ¨Ð¢Ò´ÍÒËÒÃáÅÐÁÕ¨íҹǹ¹ŒÍÂŧµÒÁä»´ŒÇ ª‹ÇÂÅ´»ÃÔÁÒ³«Ò¡¾×ª«Ò¡ÊѵÇäÁ‹ãËŒÁÕ»ÃÔÁÒ³ÁÒ¡à¡Ô¹ä» áÅÐÊÌҧÊÒÃÍÒËÒÃãËŒ¡Ñº¼ÙŒ¼ÅÔµ â´Â¡ÒÃà»ÅÕ蹫ҡ¾×ª«Ò¡ÊѵǨҡÊÒÃÍÔ¹·ÃÕ¡ÅÒÂ໚¹ÊÒÃ͹Թ·ÃÕ 6 แบบวัดฯ
ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.5 6 พิจารณาโซอาหาร แลวปฏิบัติกิจกรรมตอไปนี้ (ว 1.1 ม.3/5) 1. ระบุบทบาทของสิ่งมีชีวิตในโซอาหาร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. อธิบายความรูเกี่ยวกับปริมาณสารพิษสะสมในโซอาหาร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. เรียงลําดับสิ่งมีชีวิตในโซอาหารที่มีปริมาณสารพิษสะสมจากมากไปนอย ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เหยี่ยว งู ไก หนอน ตนสม ฉบับ เฉลย µŒ¹ÊŒÁ ໚¹¼ÙŒ¼ÅÔµ ˹͹ ໚¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ·Õè 1 ä¡‹ ໚¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ·Õè 2 §Ù ໚¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ ÅíҴѺ·Õè 3 áÅÐàËÂÕèÂÇ à»š¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ·Õè 4 ËÃ×ͼٌºÃÔâÀ¤ÅíÒ´ÑºÊØ´·ŒÒ »ÃÔÁÒ³ÊÒþÔÉ·ÕèÊÐÊÁã¹â«‹ÍÒËÒèÐà¾ÔèÁ¢Öé¹ä»·ÕÅТÑé¹µÒÁÅíҴѺ¢Í§¼ÙŒºÃÔâÀ¤·ÕèÊÙ§¢Öé¹ áÅШРÊÐÊÁÁÒ¡·ÕèÊØ´ã¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíÒ´ÑºÊØ´·ŒÒ àËÂÕèÂÇ > §Ù > ä¡‹ > ˹͹ > µŒ¹ÊŒÁ 7 แบบวัดฯ
18 ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.6 8 ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.1 ม.3/6) 1. สภาวะสมดุลของระบบนิเวศคืออะไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ภาวะโลกรอนในปจจุบันสงผลตอระบบนิเวศของโลกหรือไม อยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. ระบบนิเวศใตนํ้าแหงหนึ่งมีสาหรายและแพลงกตอนพืช เปนผูผลิต ปลาเล็ก เปนผูบริโภคลําดับที่ 1 และปลาใหญ เปนผูบริโภคลําดับที่ 2 ยกตัวอยางปจจัยที่ทําใหสมดุลของระบบนิเวศใตนํ้า แหงนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. เพราะเหตุใด จึงควรรณรงคยกเลิกคานิยมการลาสัตวปาเพื่อความสนุกสนาน โดยใหเหตุผล เกี่ยวกับความสมดุลของระบบนิเวศ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÊÀÒÇÐÊÁ´ØÅ¢Í§Ãкº¹ÔàÇÈ ¤×Í ÊÀÒÇзÕèÃкº¹ÔàÇÈÁÕ¡Ãкǹ¡Òö‹Ò·ʹ¾Åѧ§Ò¹áÅÐ ¡ÒÃËÁعàÇÕ¹ÊÒÃà¡Ô´¢Ö鹾ÌÍÁ¡Ñ¹ â´Âͧ¤»ÃСͺ·Õè äÁ‹ÁÕªÕÇÔµáÅÐͧ¤»ÃСͺ·ÕèÁÕªÕÇÔµ ÁÕ¤ÇÒÁÊÑÁ¾Ñ¹¸¡Ñ¹Í‹ҧàËÁÒÐÊÁáÅÐä´ŒÃѺ¾Åѧ§Ò¹Í‹ҧà¾Õ§¾Í Ê‹§¼Åµ‹ÍÃкº¹ÔàÇȢͧâÅ¡ à¹×èͧ¨Ò¡ÍسËÀÙÁÔ໚¹»˜¨¨Ñ·Õè¤Çº¤ØÁ¡ÒÃà¨ÃÔÞàµÔºâµ ¡ÒÃÊ׺¾Ñ¹¸Ø áÅСÒÃá¾Ã‹¡ÃШÒ¢ͧÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ÃÇÁ·Ñé§Ê‹§¼Åµ‹Í¡ÒûÃѺµÑÇ´ŒÒ¹â¤Ã§ÊÌҧáÅоĵԡÃÃÁ ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ àÁ×èÍâÅ¡ÁÕÍØ³ËÀÙÁÔÊÙ§¢Öé¹ ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ¨Ðà¡Ô´¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§¨¹Ê‹§¼Åµ‹ÍÃкº¹ÔàÇÈ áʧÊNjҧ ËÒ¡áʧÊNjҧ·Õèʋͧä»Âѧ㵌¹íéÒÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§ ÍҨʋ§¼ÅãËŒÊÒËËÒÂáÅÐ á¾Å§¡µÍ¹¾×ª«Öè§à»š¹¼ÙŒ¼ÅÔµäÁ‹à¡Ô´¡Ãкǹ¡ÒÃÊѧà¤ÃÒÐË´ŒÇÂáʧ¨¹¢Ò´ÍÒËÒÃáÅеÒ ʋ§¼Å ãËŒ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ¶Ñ´ä»¢Ò´ÍÒËÒÃáÅеÒÂŧ µÒÁÅíҴѺ ¨¹Ãкº¹ÔàÇÈàÊÕÂÊÁ´ØÅ ¡ÒÃÅ‹ÒÊѵǻ†Ò·íÒãËŒÊѵǻ†ÒÁÕ¨íҹǹŴ¹ŒÍÂŧáÅÐÍҨ໚¹¡Ò÷íÒÅÒÂÊÁ´ØÅ¢Í§Ãкº¹ÔàÇÈ à¹×èͧ¨Ò¡ÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§¨íҹǹ¢Í§¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺµ‹Ò§ æ ઋ¹ ¡ÒÃÅ‹ÒàÊ×Í ·íÒãËŒàÊ×ÍÁÕ¨íҹǹ ¹ŒÍÂŧ àÁ×èͼٌºÃÔâÀ¤ÅíҴѺÊÙ§ÊØ´Å´¨íҹǹŧ »ÃÔÁÒ³¢Í§¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ¡‹Í¹Ë¹ŒÒ¨Ðà¾ÔèÁÁÒ¡¢Öé¹ ¨¹Ãкº¹ÔàÇÈàÊÕÂÊÁ´ØÅ (á¹Ç¤íҵͺ) 8 แบบวัดฯ
ไดคะแนน คะแนนเต็ม 10 แบบทดสอบ ประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. ขอใดเปนองคประกอบที่มีชีวิตโดยแบงตามบทบาทหนาที่ในระบบนิเวศ 1. นํ้า อากาศ และแรธาตุ 2. สิ่งมีชีวิตและแหลงที่อยูอาศัย 3. โซอาหารและสายใยอาหาร 4. ผูผลิต ผูบริโภค และผูยอยสลายสารอินทรีย 2. จุลินทรียมีบทบาทใดในโซอาหาร 1. เปนผูผลิต 2. เปนผูลา 3. เปนผูบริโภค 4. เปนผูยอยสลายสารอินทรีย 3. ขอใดมีความสัมพันธแบบเดียวกับความสัมพันธระหวางกาฝากกับตนไมใหญ 1. นกทํารังบนตนไม 2. กลวยไมกับตนจามจุรี 3. พยาธิใบไมในลําไสคน 4. ปูเสฉวนกับดอกไมทะเล 4. นักเดินปาคนหนึ่งสํารวจระบบนิเวศบริเวณพื้นของปาดิบชื้น พบสิ่งมีชีวิต ไดแก ทาก ตะไครนํ้า กบ และเห็ดรา ขอใดเปนผูผลิตในระบบนิเวศนี้ 1. กบ 2. ทาก 3. เห็ดรา 4. ตะไครนํ้า 5. ขอใดไมสามารถเปนผูบริโภคลําดับที่ 2 ในโซอาหารได 1. วัว มา ควาย 2. หนู สิงโต จิ้งจก 3. เสือ สุนัข นกฮูก 4. กบ มนุษย เหยี่ยว 6. ขอใดเปนความสัมพันธของสิ่งมีชีวิตในรูปโซอาหารของหนอน นอยหนา งู เหยี่ยว และนก 1. หนอน นก นอยหนา งู เหยี่ยว 2. เหยี่ยว งู นก หนอน นอยหนา 3. นอยหนา หนอน นก งู เหยี่ยว 4. นอยหนา นก งู เหยี่ยว หนอน 7. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการถายทอดพลังงาน 1. พืชบางชนิดอาจเปนทั้งผูผลิตและผูบริโภค 2. ปริมาณสารพิษที่ถายทอดจะลดลงไปตามลําดับผูบริโภคที่สูงขึ้น 3. สายใยอาหารยิ่งมีความซับซอนมาก แสดงวา ระบบนิเวศนั้นมีความสมดุลมาก 4. แบคทีเรียมีบทบาทในการยอยสลายสารอินทรียและเปนสวนหนึ่งในการถายทอดพลังงาน ฉบับ เฉลย 9 แบบวัดฯ
8. จากโซอาหารตอไปนี้ ขอใดกลาวถูกตอง ผูผลิต ผูบริโภคลําดับที่ 1 ผูบริโภคลําดับที่ 2 ผูบริโภคลําดับที่ 3 1. ปริมาณ A คือ ปริมาณสารพิษสะสม และปริมาณ B คือ ปริมาณพลังงานที่ไดรับการ ถายทอด 2. ปริมาณ A คือ ปริมาณพลังงานที่ไดรับการถายทอด และปริมาณ B คือ ปริมาณ สารพิษสะสม 3. ปริมาณ A คือ ปริมาณสารอาหารที่ตองไดรับในแตละวัน และปริมาณ B คือ ปริมาณ ออกซิเจนที่ตองใชในการหายใจตอวัน 4. ปริมาณ A คือ ปริมาณออกซิเจนที่ตองใชในการหายใจตอวัน และปริมาณ B คือ ปริมาณ สารอาหารที่ตองไดรับในแตละวัน 9. ถาสิ่งมีชีวิต B มีจํานวนลดลงอยางรวดเร็ว จะเกิดเหตุการณใดในโซอาหารตอไปนี้ ผูผลิต สิ่งมีชีวิต A สิ่งมีชีวิต B สิ่งมีชีวิต C 1. ผูผลิตมีจํานวนเพิ่มขึ้น 2. ผูผลิตมีจํานวนเทาเดิม 3. สิ่งมีชีวิต A มีจํานวนลดลง 4. สิ่งมีชีวิต C มีจํานวนลดลง 10. ขอใดไมใชผลกระทบตอระบบนิเวศ เมื่อมีการทิ้งสารพิษที่ไมมีสี ไมมีกลิ่นลงในลําคลอง จนทําใหนํ้าในลําคลองจากที่มีสภาพเปนกลางเปลี่ยนเปนนํ้าที่มีสภาพเปนเบส 1. ระบบนิเวศขาดความสมดุล 2. พืชในนํ้าเจริญเติบโตไดนอยลง 3. พืชขาดแสงอาทิตยในการสรางอาหาร 4. ปลาใหญในคลองจะมีสารพิษสะสมมากขึ้น มากที่สุด ปริมาณ A นอยที่สุด นอยที่สุด ปริมาณ B มากที่สุด ฉบับ เฉลย 10 แบบวัดฯ
เกณฑการประเมิน ผาน ไดคะแนนครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม ไมผาน ไดคะแนนไมถึงครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม เกณฑการตัดสินระดับคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคะแนน ระดับคุณภาพ 84-100 4 ดีมาก 67-83 3 ดี 50-66 2 พอใช ตํ่ากวา 50 1 ปรับปรุง แบบบันทึกผลการประเมิน เครื่องมือวัดและแสดงผลการเรียน คะแนน ผลการประเมิน เต็ม ได ผาน ไมผาน ว 1.1 ม.3/1 กิจกรรมที่ 1.1 8 ม.3/2 กิจกรรมที่ 1.2 8 ม.3/3 กิจกรรมที่ 1.3 10 ม.3/4 กิจกรรมที่ 1.4 10 ม.3/5 กิจกรรมที่ 1.5 6 ม.3/6 กิจกรรมที่ 1.6 8 คะแนนรวมทั้งหมด 50 แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 10 กิจกรรมตามตัวชี้วัด ฉบับ เฉลย 11 แบบวัดฯ
การเรียนรู เรื่อง พันธุกรรม ทําใหเกิดความรูความเขาใจความสัมพันธของยีน ดีเอ็นเอ โครโมโซม การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเกิดจีโนไทปและฟโนไทปของลูก ความแตกตางของ การแบงเซลลแบบไมโทซิสและไมโอซิส การใชประโยชนจากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และความสําคัญ ของความหลากหลายทางชีวภาพที่มีตอการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและมนุษย รวมทั้งตระหนักถึง ประโยชนและผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจมีผลตอมนุษยและสิ่งแวดลอม พันธุกรรม กิจกรรมฝกทักษะ เลือกคําตอไปนี้เติมลงในชองวาง 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ กลุมอาการพาทัว ไมโอซิส โรคผิวเผือก ไมโทซิส ยีน ฟโนไทป จีเอ็มโอ จีโนไทป กลุมอาการดาวน เมทาเฟส 1. ............................................... คือ ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่แสดงออก 2. ............................................... เปนการแบงนิวเคลียสเพื่อเพิ่มปริมาณเซลลภายในรางกายของสิ่งมีชีวิต 3. ............................................... คือ หนวยพันธุกรรมที่ควบคุมลักษณะที่สามารถถายทอดจากพอแมไปยัง รุนตอไปได 4. ............................................... เปนการแบงนิวเคลียสเพื่อลดจํานวนโครโมโซมลงครึ่งหนึ่งเพื่อสรางเซลล สืบพันธุ 5. ............................................... คือ สิ่งมีชีวิตที่ผานการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมดวยพันธุวิศวกรรมเพื่อนํามา ใชประโยชนในดานตาง ๆ 6. ............................................... เกิดจากโครโมโซมคูที่ 21 เกินมา 1 แทง ทําใหเด็กเกิดมามีคอสั้น กวาง ตาหาง หางตาชี้ขึ้นฟา และปญญาออน 7. ............................................... เปนความผิดปกติของแอลลีลดอยที่ควบคุมการสรางเม็ดสีเมลานินในรางกาย ทําใหมีผิวสีขาวซีด ผมสีขาว ตาสีขาว รางกายออนแอ ติดเชื้องายกวา คนทั่วไป ฉบับ เฉลย ¿‚â¹ä·»Š äÁâ·«ÔÊ ÂÕ¹ äÁâÍ«ÔÊ ¨ÕàÍçÁâÍ ¡ÅØ‹ÁÍÒ¡ÒôÒǹ âä¼ÔÇà¼×Í¡ 12 แบบวัดฯ
พิจารณาภาพ แลวระบุชื่อโครงสรางพื้นฐานของ โครโมโซมลงในชองวาง และปฏิบัติกิจกรรมตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/1) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.1 8 กิจกรรมตามตัวชี้วัด 1. อธิบายความสัมพันธของยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. อธิบายความสัมพันธของฮอมอโลกัสโครโมโซม ยีน และแอลลีล ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ฉบับ เฉลย â¤ÃâÁâ«Á໚¹Ê‹Ç¹Ë¹Ö觢ͧ¹ÔÇà¤ÅÕÂÊã¹à«ÅÅ à¡Ô´¨Ò¡¡Òⴾѹ¡Ñ¹ÃÐËNjҧ´ÕàÍç¹àÍáÅÐâ»ÃµÕ¹ àÊŒ¹ÂÒÇ â´Â¾Ñ¹¢´¡Ñ¹ËÅÒÂÃдѺ¨¹¡ÅÒÂ໚¹á·‹§â¤ÃâÁâ«Á «Öè§´ÕàÍç¹àÍ໚¹ÊÒþѹ¸Ø¡ÃÃÁ ·Õè¡íÒ˹´Åѡɳзҧ¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ᵋÅЪ‹Ç§¤ÇÒÁÂÒǢͧ´ÕàÍç¹àÍ ¤×Í Ë¹‹Ç ¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ ËÃ×Í ÂÕ¹ «Öè§à»š¹¢ŒÍÁÙÅ·Ò§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ·ÕèÁռŵ‹ÍÅѡɳзҧ¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ÎÍÁÍâÅ¡ÑÊâ¤ÃâÁâ«Á໚¹¤Ù‹â¤ÃâÁâ«Á·ÕèÁÕ¢¹Ò´àËÁ×͹¡Ñ¹áÅÐÁÕ¡ÒèѴàÃÕ§ÂÕ¹µÃ§¡Ñ¹ â´Â ÂÕ¹·ÕèÍÂÙ‹º¹ÎÍÁÍâÅ¡ÑÊâ¤ÃâÁâ«ÁÍÒ¨ÁÕÃٻẺ·ÕèàËÁ×͹¡Ñ¹ËÃ×Íᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ àÃÕ¡ÃٻẺ ¢Í§ÂÕ¹Ç‹Ò áÍÅÅÕÅ ´ÕàÍç¹àÍ ¡ŒÍ¹â»ÃµÕ¹ ÂÕ¹ à«ÅÅ ¹ÔÇà¤ÅÕÂÊ â¤ÃâÁâ«Á 13 แบบวัดฯ
พิจารณาขอมูลที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/2) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.2 12 1. ไตฝุนเปนแมวขนสีเทาและมีจีโนไทปแบบ kk และไขเจียวเปนแมวขนสีสมและมีจีโนไทปแบบ KK (กําหนดให K แทนแอลลีลเดนที่ควบคุมขนสีสม และ k แทนแอลลีลดอยที่ควบคุมขนสีเทา โดยที่แอลลีลเดนขมแอลลีลดอยสมบูรณ) 1) ถาไตฝุนผสมพันธุกับไขเจียว มีลูก 6 ตัว เปนลูกแมวขนสีสมทั้งหมด ลูกแมวแตละตัวมี จีโนไทปแบบใด เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) จากขอ 1) เพราะเหตุใด ลูกแมวทั้ง 6 ตัว จึงมีขนสีสมทั้งหมด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3) ถาไตฝุนและไขเจียวผสมพันธุกันอีกครั้ง ลูกแมวครอกตอไปมีโอกาสที่จะมีขนสีเทาหรือไม เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2. วีระและวารีแตงงานกัน โดยทั้งคูมีลักยิ้มแบบพันทางทั้งคู (กําหนดให D แทนแอลลีลเดนที่ ควบคุมการมีลักยิ้ม และ d แทนแอลลีลดอยที่ควบคุมการไมมีลักยิ้ม โดยที่แอลลีลเดนขม แอลลีลดอยสมบูรณ) 1) วีระและวารีมีจีโนไทปแบบใด เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) จากขอ 1) ลูกของวีระและวารีมีโอกาสที่จะไมมีลักยิ้มหรือไม เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3) ถาวีระมีลักยิ้มแบบพันธุแท ลูกของวีระและวารีมีโอกาสที่จะไมมีลักยิ้มหรือไม เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÅÙ¡áÁÇ·Ñé§ 6 µÑÇ ÁÕ¨Õâ¹ä·»Šáºº Kk à¾ÃÒÐä´ŒáÍÅÅÕÅà´‹¹ (K) ÁҨҡ䢋à¨ÕÂÇ áÅÐä´Œ áÍÅÅÕÅ´ŒÍ (k) ÁҨҡ䵌½Ø†¹ áÍÅÅÕÅà´‹¹·Õè¤Çº¤ØÁ¢¹ÊÕÊŒÁ¢‹ÁáÍÅÅÕÅ´ŒÍ·Õè¤Çº¤ØÁ¢¹ÊÕà·ÒÍ‹ҧÊÁºÙó äÁ‹ÁÕâÍ¡ÒÊ à¾ÃÒÐÅÙ¡áÁÇ·Ø¡µÑÇä´ŒÃѺáÍÅÅÕÅà´‹¹·Õè¤Çº¤ØÁ¢¹ÊÕÊŒÁ¨Ò¡ä¢‹à¨ÕÂÇ ·íÒãËŒáÍÅÅÕÅ ´ŒÍ·Õè¤Çº¤ØÁ¢¹ÊÕà·Òâ´¹áÍÅÅÕÅà´‹¹¢‹ÁäÇŒ Dd à¾ÃÒÐ໚¹¾Ñ¹·Ò§·Ñ駤ً ¨Ö§ÁÕáÍÅÅÕÅà´‹¹áÅÐáÍÅÅÕÅ´ŒÍ â´ÂáÍÅÅÕÅà´‹¹¢‹ÁáÍÅÅÕÅ ´ŒÍ ÁÕâÍ¡ÒÊ à¾ÃÒо‹ÍáÅÐáÁ‹ÁÕ¨Õâ¹ä·»Šáºº Dd ·íÒãËŒÅÙ¡ÁÕâÍ¡ÒÊ·Õè¨Ðä´ŒÃѺáÍÅÅÕÅ´ŒÍ¢ͧ ¾‹ÍáÅÐáÁ‹ÁÒ·Ñ駤ً ·íÒãËŒäÁ‹ÁÕáÍÅÅÕÅà´‹¹·Õè¤Çº¤ØÁ¡ÒÃÁÕÅÑ¡ÂÔéÁÁÒ¢‹ÁáÍÅÅÕÅ´ŒÍ äÁ‹ÁÕâÍ¡ÒÊ à¾ÃÒÐÅÙ¡¨Ðä´ŒÃѺáÍÅÅÕÅà´‹¹¢Í§ÇÕÃÐáÅТ‹ÁáÍÅÅÕÅ´ŒÍ·Õèä´ŒÃѺÁÒ¨Ò¡ÇÒÃÕ ·íÒãËŒÅÙ¡·Ø¡¤¹ÁÕÅÑ¡ÂÔéÁ 14 แบบวัดฯ
พิจารณาขอมูลที่กําหนดให แลวเขียนแผนภาพเพื่อหา จีโนไทปและฟโนไทปของรุนลูก พรอมทั้งบอกอัตราสวน ของฟโนไทปและจีโนไทป (ว 1.3 ม.3/3) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.3 8 1. ชบาดอกสีแดงผสมพันธุกับชบาดอกสีเหลือง (กําหนดให F แทนแอลลีลเดนที่ควบคุมดอกสีแดง และ f แทนแอลลีลดอยที่ควบคุมดอกสีเหลือง โดยที่แอลลีลเดนขมแอลลีลดอยอยางสมบูรณ) 2. กระตายขนสีขาวผสมพันธุกัน (กําหนดให R แทนแอลลีลเดนที่ควบคุมขนสีขาว และ r แทน แอลลีลดอยที่ควบคุมขนสีดํา โดยที่แอลลีลเดนขมแอลลีลดอยอยางสมบูรณ) อัตราสวนของจีโนไทปแบบ ........................................................................................... เทากับ .......................................................... อัตราสวนฟโนไทปของ ...................................................................................................... เทากับ .......................................................... ชบาดอกสีแดง (Ff) กระตายขนสีขาว (Rr) ชบาดอกสีเหลือง (ff) กระตายขนสีขาว (Rr) อัตราสวนของจีโนไทปแบบ ........................................................................................... เทากับ .......................................................... อัตราสวนฟโนไทปของ ...................................................................................................... เทากับ .......................................................... ฉบับ เฉลย Ff ´Í¡ÊÕá´§ Ff : ff 1 : 1 ´Í¡ÊÕá´§ : ´Í¡ÊÕàËÅ×ͧ 1 : 1 RR : Rr : rr 1 : 2 : 1 ¢¹ÊÕ¢ÒÇ : ¢¹ÊÕ´íÒ 3 : 1 RR ¢¹ÊÕ¢ÒÇ F R f r f R f r Ff ´Í¡ÊÕá´§ Rr ¢¹ÊÕ¢ÒÇ ff ´Í¡ÊÕàËÅ×ͧ Rr ¢¹ÊÕ¢ÒÇ ff ´Í¡ÊÕàËÅ×ͧ rr ¢¹ÊÕ´íÒ à«ÅÅÊ׺¾Ñ¹¸Ø ¨Õâ¹ä·»ŠÃØ‹¹ÅÙ¡ ¿‚â¹ä·»ŠÃØ‹¹ÅÙ¡ à«ÅÅÊ׺¾Ñ¹¸Ø ¨Õâ¹ä·»ŠÃØ‹¹ÅÙ¡ ¿‚â¹ä·»ŠÃØ‹¹ÅÙ¡ 15 แบบวัดฯ
หัวขอ แผนภาพที่ 1 แผนภาพที่ 2 1. รูปแบบการแบงเซลล ................................................................... ................................................................... 2. ชนิดของเซลล ................................................................... ................................................................... 3. จุดประสงคในการแบงเซลล ................................................................... ................................................................... 4. ผลที่ไดจากการแบงเซลล 1 เซลล ................................................................... ................................................................... 5. ลักษณะของเซลลใหมเมื่อเทียบกับ เซลลตั้งตน ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... 6. จํานวนโครโมโซมของเซลลใหม เมื่อเทียบกับเซลลตั้งตน ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... พิจารณาแผนภาพที่กําหนดให แลวเติมขอมูล ลงในตาราง (ว 1.3 ม.3/4) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.4 12 แผนภาพที่ 1 แผนภาพที่ 2 ฉบับ เฉลย äÁâ·«ÔÊ à«ÅÅËҧ¡Ò à¾ÔèÁ¨íҹǹà«ÅÅËҧ¡Ò 䴌à«ÅÅãËÁ‹ 2 à«ÅÅ àËÁ×͹¡Ñºà«ÅŵÑé§µŒ¹ ෋ҡѺà«ÅŵÑé§µŒ¹ äÁâÍ«ÔÊ à«ÅÅÊ׺¾Ñ¹¸Ø ÊÌҧà«ÅÅÊ׺¾Ñ¹¸Ø ä´Œà«ÅÅãËÁ‹ 4 à«ÅÅ µ‹Ò§¨Ò¡à«ÅŵÑé§µŒ¹ Ŵŧ໚¹¤ÃÖè§Ë¹Ö觢ͧ à«ÅŵÑé§µŒ¹ 16 แบบวัดฯ
โรคทางพันธุกรรม ความผิดปกติของโครโมโซม ลักษณะของผูปวย 1. ............................................................. ............................................................. .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... มองเห็นสีบางสี เชน สีแดง สีเขียว แตกตางไปจากคนปกติ 2. ............................................................. ............................................................. .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... คอสั้นกวาง ทายทอยแบน ตาหาง จมูกเล็กและแฟบ ลิ้นโตคับปาก ลําตัวและนิ้วมือสั้น ลายนิ้วมือผิด ปกติ ปญญาออน 3. กลุมอาการพาทัว .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... 4. ............................................................. ............................................................. โครโมโซมคูที่ 18 เกินมา 1 แทง ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... 5. กลุมอาการคริดูชาต .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... 6. ............................................................. ............................................................. .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... เพศชายมีรูปรางคลายเพศหญิง รูปรางสูงกวาปกติ อัณฑะและ องคชาติมีขนาดเล็กผิดปกติ เปน หมัน และปญญาออน 7. ............................................................. ............................................................. แอลลีลดอยของยีนที่ควบคุม การสรางโปรตีนเฮโมโกลบิน ในเซลลเม็ดเลือดแดงผิด ปกติ ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... เติมคําตอบลงในตาราง (ว 1.3 ม.3/5) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.5 14 ฉบับ เฉลย ÀÒÇеҺʹÊÕ áÍÅÅÕÅ´ŒÍ¢ͧÂÕ¹º¹ â¤ÃâÁâ«Á X ¼Ô´»¡µÔ µÒàÅç¡ »Ò¡áËÇ‹§ ྴҹâËÇ‹ ÊÁͧ¾Ô¡Òà ËÑÇã¨ äµ áÅÐãºËÙ¼Ô´ »¡µÔ »˜ÞÞÒ͋͹ ÍÇÑÂÇÐÀÒÂã¹ ¡ÅѺ«ŒÒ¢Çҡѹ ¡ÅØ‹ÁÍÒ¡ÒôÒǹ ¡ÅØ‹ÁÍÒ¡ÒÃàÍç´àÇÔô â¤ÃâÁâ«Á¤Ù‹·Õè 21 à¡Ô¹ÁÒ 1 á·‹§ ÈÕÃÉÐáÅФҧàÅç¡ Á×Í¡íÒṋ¹ áÅÐÁÕ¹ÔéÇà¡Â¡Ñ¹ ËÑÇã¨áÅлʹ ¾Ô¡Òà ·ŒÒ·ÍÂâ˹¡ ãºËÙ¼Ô´ÃÙ» áÅеíèҡNjһ¡µÔ ¡ÅØ‹ÁÍÒ¡ÒÃä¤Å¹ à¿Åà·Íà â¤ÃâÁâ«Á¤Ù‹·Õè 13 à¡Ô¹ÁÒ 1 á·‹§ ÈÕÃÉÐàÅ硡Njһ¡µÔ ãºË¹ŒÒ¡ÅÁ ãºËÙµíèҡNjһ¡µÔ »˜ÞÞÒ͋͹ µÒˋҧ ÁÕàÊÕ§ÌͧáËÅÁàÅ硤ŌÒÂàÊÕ§ áÁÇÌͧ âä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ ᢹ¢ŒÒ§ÊÑ鹢ͧâ¤ÃâÁâ«Á ¤Ù‹·Õè 5 ¢Ò´ËÒÂä» à¡Ô´ÀÒÇÐâÅËÔµ¨Ò§ à«ÅÅàÁç´ àÅ×Í´á´§ÅíÒàÅÕ§ÍÍ¡«Ôਹ䴌 ¹ŒÍÂŧ ËÒ¡ÁÕÍÒ¡ÒÃÃØ¹áçÍÒ¨ ·íÒãËŒËÑÇã¨ÇÒÂáÅÐàÊÕªÕÇԵ䴌 â¤ÃâÁâ«Á X à¡Ô¹ÁÒ 1 á·‹§ ã¹à¾ÈªÒ 17 แบบวัดฯ
พิจารณาขอมูลที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/6) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.6 6 1) ถาแมของตนเปนพาหะของโรคธาลัสซีเมีย ตนจะเปนพาหะของโรคธาลัสซีเมียหรือไม เพราะเหตุใด (กําหนดให A แทนแอลลีลเดน และ a แทนแอลลีลดอย) .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) หากตนและภรรยาอยากมีลูกเพิ่มอีก 1 คน ตนและภรรยาควรปฏิบัติตนอยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3) การศึกษาเกี่ยวกับโรคทางพันธุกรรมมีประโยชนอยางไรในชีวิตประจําวัน .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... ตนเปนชายปกติ มีพอเปนโรคธาลัสซีเมียและแมเปนหญิงปกติ มีนองสาว 1 คน เปนโรค ธาลัสซีเมีย ตนแตงงานกับหญิงปกติ มีลูกชาย 2 คน โดยทั้งคูเปนโรคธาลัสซีเมีย และมี ลูกสาวปกติ 1 คน ฉบับ เฉลย µŒ¹¨Ð໚¹¾ÒËТͧâä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ à¾ÃÒеŒ¹ÁÕ¾‹Í·Õè໚¹âä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ áÅÐáÁ‹à»š¹¾ÒËÐ ¢Í§âä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ ´Ñ§¹Õé áÊ´§Ç‹Ò ÅÙ¡ÁÕâÍ¡ÒÊ໚¹âä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ 50% áÅÐÁÕâÍ¡ÒÊ໚¹¾ÒËТͧâä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ 50% µŒ¹·ÕèäÁ‹à»š¹âä ¨Ö§ÁÕ¨Õâ¹ä·»Šáºº Aa «Öè§à»š¹¾ÒËТͧâä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ µŒ¹áÅÐÀÃÃÂÒäÁ‹à»š¹âä ᵋÁÕÅÙ¡ªÒÂ໚¹âä 2 ¤¹ áÊ´§Ç‹Ò µŒ¹áÅÐÀÃÃÂÒ ·íÒãËŒÃٌNjҡ‹Í¹áµ‹§§Ò¹¤ÇûÃÖ¡ÉÒá¾·Âà¾×è͵ÃǨÇÔ¹Ô¨©ÑÂÀÒÇÐàÊÕ觢ͧÅÙ¡·ÕèÍÒ¨à¡Ô´âä ·Ò§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ à¾×èÍÇÒ§á¼¹ÊÌҧ¤Ãͺ¤ÃÑÇáÅÐàµÃÕÂÁÃѺÁ×͡Ѻ»˜ÞËÒÊØ¢ÀÒ¾¢Í§¤¹ã¹ ¤Ãͺ¤ÃÑÇ ¾‹Í aa Aa AaAa aa aa áÁ‹ (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) ໚¹¾ÒËТͧâä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ ¨Ö§¤ÇûÃÖ¡ÉÒá¾·Âà¾×è͵ÃǨáÅÐÇÔ¹Ô¨©ÑÂÀÒÇÐàÊÕ觢ͧÅÙ¡ ·ÕèÍÒ¨à¡Ô´âä·Ò§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¡‹Í¹µÑ´ÊÔ¹ã¨ÁÕÅÙ¡à¾ÔèÁÍÕ¡ 1 ¤¹ 18 แบบวัดฯ
ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/7) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.7 8 1. สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมคืออะไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ยกตัวอยางการนําความรูเกี่ยวกับการดัดแปรพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตมาใชประโยชนในดาน ตาง ๆ อยางนอย 3 ตัวอยาง 1) ดานการแพทย .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) ดานการเกษตร .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนคิดวา นอกจากดานการแพทยและดานการเกษตรแลว มนุษยสามารถนําความรูเกี่ยวกับ การดัดแปรพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตมาใชประโยชนในดานใดไดอีกบาง พรอมยกตัวอยาง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมสงผลกระทบตอสิ่งมีชีวิตอื่นและสิ่งแวดลอมอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·Õ輋ҹ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ´ŒÇ¾ѹ¸ØÇÔÈÇ¡ÃÃÁâ´ÂÁ¹ØÉ à¾×è͹íÒä»ãªŒ»ÃÐ⪹ ã¹´ŒÒ¹µ‹Ò§ æ â´ÂÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ¹Ñé¹ÁÕ·Ñ駾תáÅÐÊÑµÇ (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) - ¡ÒüÅÔµÇѤ«Õ¹»‡Í§¡Ñ¹âäµÑºÍÑ¡àʺºÕ - ¡ÒüÅÔµÎÍÃâÁ¹ÍÔ¹«ÙÅÔ¹à¾×èÍÃÑ¡ÉÒ¼ÙŒ»†ÇÂâäàºÒËÇÒ¹ - ¡ÒõѴµ‹Í¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ˹Ùà¾×èÍ㪌㹡Ò÷´ÅͧÊÒÃà¤ÁÕÊíÒËÃѺÃÑ¡ÉÒÍÒ¡Òõ‹Ò§ æ - ¡ÒûÃѺ»Ãا¾Ñ¹¸Ø¢ŒÒÇãËŒÁÕÇÔµÒÁÔ¹ÁÒ¡¢Öé¹ à¾×èÍà¾ÔèÁÁÙŤ‹Ò - ¡ÒûÃѺ»Ãا¾Ñ¹¸Ø¢ŒÒÇâ¾´à¾×èÍÊÌҧâ»ÃµÕ¹·Õè໚¹¾Ôɵ‹ÍáÁŧ - ¡ÒûÃѺ»Ãا¾Ñ¹¸ØÍŒÍÂãËŒÁÕÅѡɳзÕè´Õ¢Öé¹ ÁÕ¤ÇÒÁµŒÒ¹·Ò¹µ‹ÍÊÒÃà¤ÁÕ¦‹ÒáÁŧ ´ŒÒ¹ÍصÊÒË¡ÃÃÁ ઋ¹ ¡ÒôѴá»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¨ØÅÔ¹·ÃÕÂãËŒÁÕ»ÃÐÊÔ·¸ÔÀҾ㹡Òà ¼ÅÔµà͹ä«Áä´ŒÁÒ¡¢Öé¹ à¾×èÍÅ´µŒ¹·Ø¹ã¹¡ÒüÅÔµà͹ä«Áä¤âÁ«Ô¹ÊíÒËÃѺ㪌ã¹ÍصÊÒË¡ÃÃÁ à¹Âá¢ç§ ÍÒ¨·íÒãËŒÊÔè§ÁÕªÕÇÔµà¡Ô´ÀÒÇд×éÍÂÒ ÇѪ¾×ªá¢ç§áç ·¹·Ò¹µ‹ÍÊÀÒ¾áÇ´ÅŒÍÁÁÒ¡¢Öé¹ ·íÒãËŒÂÒ¡ µ‹Í¡ÒäǺ¤ØÁ ËÒ¡ÊÒÁÒö¤Ñ´ÊÃÃáÅÐÊÌҧÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·Õ赌ͧ¡ÒÃ੾ÒТÖé¹ä´Œ ÃÇÁ·Ñé§·íÒ໚¹ ÍØµÊÒË¡ÃÃÁ ÍÒ¨·íÒãËŒ¢Ò´¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ·ҧªÕÇÀÒ¾ã¹Í¹Ò¤µ 19 แบบวัดฯ
ศึกษาขอมูลที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/8) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.8 8 1. การดัดแปรพันธุกรรมของถั่วเหลืองมีประโยชนและโทษอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ถั่วเหลืองเปนธัญพืชที่มีคุณคาทางสารอาหารเปนที่นิยมในหมูคนรักสุขภาพ และนําไป แปรรูปเปนผลิตภัณฑสําหรับบริโภคไดอยางหลากหลาย เชน เตาหู ซีอิ๊ว เตาเจี้ยว นมถั่วเหลือง ปจจุบันประเทศไทยกําลังประสบปญหาดานการผลิตถั่วเหลืองไมเพียงพอตอความตองการ บริโภคในประเทศ จึงตองนําเขาถั่วเหลืองจากตางประเทศ ซึ่งสวนใหญเปนถั่วเหลืองจีเอ็มโอ หรือถั่วเหลืองที่ผานการดัดแปรพันธุกรรม โดยดัดแปรพันธุกรรมเพื่อใหถั่วเหลืองทนตอสารเคมี กําจัดวัชพืชประเภทไกลโฟเซต (glyphosate) ทําใหสามารถผลิตถั่วเหลืองไดมากพอตอความ ตองการ ในขณะที่ประเทศไทยยังไมอนุญาตใหปลูกหรือนําเขาถั่วเหลืองจีเอ็มโอในเชิงพาณิชย เวนแตไดรับอนุญาตใหนําเขาเพื่อทดลองหรือวิจัยในหนวยงานราชการเทานั้น อาจเพราะในป 2559 คณะผูวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมาในสหรัฐฯ ระบุไวในขอเสนอแนะจากการรวบรวม ขอมูลวา สารตกคางในถั่วเหลืองจีเอ็มโออาจเปนปจจัยเสี่ยงอยางหนึ่งที่ทําใหเกิดโรคตาง ๆ เชน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอวน อัลไซเมอร กลามเนื้อออนแรง ทั้งนี้ เปนเพียง ขอสันนิษฐานของผูวิจัยเทานั้น จึงไมอาจสรุปไดวา สารตกคางในถั่วเหลืองเปนปจจัยเสี่ยงที่ทําให เกิดโรคไดจริงหรือไม ฉบับ เฉลย »ÃÐ⪹ ¤×Í ·íÒãËŒ¶ÑèÇàËÅ×ͧ·¹µ‹ÍÊÒÃà¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ª»ÃÐàÀ·ä¡Åâ¿à«µ ·íÒãËŒÊÒÁÒö¼ÅÔµ ¶ÑèÇàËÅ×ͧ䴌à¾Õ§¾Íµ‹Í¤ÇÒÁµŒÍ§¡Òà â·É ¤×Í ÍҨʋ§¼ÅãËŒà¡Ô´â䵋ҧ æ ઋ¹ âä¤ÇÒÁ´Ñ¹âÅËÔµÊÙ§ âäàºÒËÇÒ¹ âä͌ǹ âäÍÑÅä«àÁÍà ¡ÅŒÒÁà¹×éÍ͋͹áç 20 แบบวัดฯ
2. นักเรียนคิดวา ถั่วเหลืองที่ผลิตในประเทศไทยมีการปนเปอนของสารเคมีกําจัดวัชพืชมากกวา หรือนอยกวาถั่วเหลืองที่นําเขาจากตางประเทศ เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. ถาในอนาคตรัฐบาลอนุญาตใหปลูกถั่วเหลืองจีเอ็มโอในเชิงพาณิชยในประเทศไทย นักเรียน เห็นดวยหรือไม เพราะเหตุใด (เลือกตอบขอใดขอหนึ่ง) เห็นดวย เพราะ ....................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ไมเห็นดวย เพราะ ................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีวิธีการโนมนาวใหผูอื่นมีความคิดเห็นเชนเดียวกับนักเรียนไดอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) ÁÕ¡Òû¹à»„œÍ¹¹ŒÍÂ¡Ç‹Ò à¾ÃÒжÑèÇàËÅ×ͧ㹻ÃÐà·Èä·ÂäÁ‹ä´Œ´Ñ´á»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ ¨Ö§äÁ‹ÊÒÁÒö ·¹µ‹ÍÊÒÃà¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ªä´Œ à¡ÉµÃ¡Ã¨Ö§µŒÍ§Å´¡ÒÃ㪌ÊÒÃà¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ªËÃ×Í㪌ÇÔ¸Õ¡íҨѴÇѪ¾×ª ÇÔ¸ÕÍ×è¹·´á·¹ ᵋ¶ÑèÇàËÅ×ͧ·Õè¹íÒࢌҨҡµ‹Ò§»ÃÐà·ÈÁÕ¡ÒôѴá»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁãËŒ·¹µ‹ÍÊÒà à¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ª à¡ÉµÃ¡Ã¨Ö§ÍҨ㪌ÊÒÃà¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ªã¹¡Ãкǹ¡ÒûÅÙ¡ÁÒ¡¡Ç‹Ò ¨Ö§·íÒãËŒ ÁÕâÍ¡ÒÊ»¹à»„œÍ¹ä´ŒÁÒ¡¡Ç‹Ò ໚¹¡ÒÃÅ´»˜ÞËÒ¡ÒâҴá¤Å¹¶ÑèÇàËÅ×ͧÀÒÂã¹»ÃÐà·È ·íÒãËŒäÁ‹µŒÍ§ ¹íÒࢌҶÑèÇàËÅ×ͧ¨Ò¡µ‹Ò§»ÃÐà·È ໚¹¡Òê‹ÇÂÅ´µŒ¹·Ø¹¡ÒùíÒࢌҨҡµ‹Ò§»ÃÐà·È ¹Í¡¨Ò¡ ¹ÕéÍÒ¨¨ÐÊÒÁÒöʋ§ÍÍ¡¶ÑèÇàËÅ×ͧ໚¹¾×ªàÈÃɰ¡Ô¨ ÂѧäÁ‹ÁÕ¼ÅÇÔ¨ÑÂÂ×¹ÂѹNjҡÒôѴá»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁÁÕ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ 100% ÍÒ¨ÁÕ¡Òû¹à»„œÍ¹ÊÒÃà¤ÁÕà¡Ô´¢Öé¹ áÅФ¹ä·ÂÂѧ¢Ò´¤ÇÒÁÃÙŒ¤ÇÒÁࢌÒã¨à¡ÕèÂǡѺ¾×ª´Ñ´ á»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ (¢Öé¹ÍÂÙ‹¡Ñº¤íҵͺ¢Í§¹Ñ¡àÃÕ¹áÅдØÅ¾ԹԨ¢Í§¼ÙŒÊ͹) ✓ ✓ 21 แบบวัดฯ
ดูภาพ แลวตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/9) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.9 8 1. สิ่งมีชีวิตที่พบในบริเวณภาพที่ 1 และภาพที่ 2 มีความแตกตางกันหรือไม เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. นักเรียนคิดวา บริเวณภาพที่ 1 มีจํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตมากกวาบริเวณภาพที่ 2 หรือไม เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนคิดวา บริเวณภาพที่ 1 มีจํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตมากกวา นอยกวา หรือเทากับ จํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตบริเวณขั้วโลกเหนือ เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. นักเรียนคิดวา บริเวณภาพที่ 2 มีจํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตมากกวา นอยกวา หรือเทากับ จํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตบริเวณปาชายเลน เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ฉบับ เฉลย ᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ à¾ÃÒкÃÔàdzÀÒ¾·Õè 1 áÅÐÀÒ¾·Õè 2 ÁÕÅѡɳо×é¹·Õè ÀÙÁÔ»ÃÐà·È áÅÐÀÙÁÔÍÒ¡ÒÈ ·Õèᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ ·íÒãËŒÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·ÕèÍÒÈÑÂÍÂÙ‹ã¹Ê¶Ò¹·Õè·Ñé§ÊͧáË‹§¹Õéᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ ÁÒ¡¡Ç‹Ò à¾ÃÒкÃÔàdzÀÒ¾·Õè 1 ÁÕáËÅ‹§¹íéÒ ·íÒãËŒÁÕ¤ÇÒÁÍØ´ÁÊÁºÙó àËÁÒÐá¡‹¡ÒôíÒçªÕÇÔµ áÅСÃШÒ¾ѹ¸Ø¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ʋǹºÃÔàdzÀÒ¾·Õè 2 ÁÕÅѡɳФ‹Í¹¢ŒÒ§áËŒ§áÅŒ§ äÁ‹¤‹ÍÂàËÁÒÐ µ‹Í¡ÒôíÒçªÕÇÔµáÅСÃШÒ¾ѹ¸Ø¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ÁÒ¡¡Ç‹Ò à¾ÃÒкÃÔàdzÀÒ¾·Õè 1 ÁÕ¤ÇÒÁÍØ´ÁÊÁºÙóáÅÐÁÕÊÀÒ¾ÀÙÁÔÍÒ¡ÒÈ·ÕèàËÁÒе‹Í¡ÒôíÒç ªÕÇÔµáÅСÃШÒ¾ѹ¸Ø¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµÁÒ¡¡Ç‹Ò¢ÑéÇâÅ¡à˹×Í·ÕèÁÕÍØ³ËÀÙÁÔµíèÒÁÒ¡ ¹ŒÍÂ¡Ç‹Ò à¾ÃÒкÃÔàdzÀÒ¾·Õè 2 ÁÕÊÀÒ¾ÀÙÁÔ»ÃÐà·ÈáÅÐÀÙÁÔÍÒ¡ÒÈ·Õ褋͹¢ŒÒ§ÃŒÍ¹áËŒ§áÅŒ§áÅÐ ÁÕ¤ÇÒÁÍØ´ÁÊÁºÙó¹ŒÍ¡NjҺÃÔàdz»†ÒªÒÂàŹ 22 แบบวัดฯ
ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/10) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.10 8 1. หากขาดความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิต สมดุลของระบบนิเวศจะเปนอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ความหลากหลายทางชีวภาพมีความสําคัญตอการรักษาสมดุลของระบบนิเวศหรือไม อยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. ความหลากหลายทางพันธุกรรมสงผลดีตอมนุษยอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. ลักษณะพื้นที่ในแตละภูมิภาคของโลกที่แตกตางกันสงผลกระทบตอมนุษยอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÊÁ´ØÅ¢Í§Ãкº¹ÔàÇȶ١·íÒÅÒÂä´Œ§‹Ò ઋ¹ àÁ×èÍà¡Ô´âäµÔ´µ‹ÍËÃ×ÍÊÔè§¡Ãе،¹ ·Õè·íÒãËŒÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·Õè໚¹ÍÒËÒâͧÊѵÇÍ×è¹µÒ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ¶Ñ´ä»ã¹â«‹ÍÒËÒèТҴá¤Å¹ ÍÒËÒÃáÅÐäÁ‹ÁÕÍÒËÒ÷´á·¹ à¹×èͧ¨Ò¡äÁ‹ÁÕ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ¢ͧª¹Ô´ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ¨íҹǹ »ÃЪҡâͧÊÔè§ÁÕªÕÇÔµã¹Ãкº¹ÔàÇȨÐŴŧàÃ×èÍ æ áÅÐàÊÕÂÊÁ´ØÅã¹·ÕèÊØ´ ÁÕ¤ÇÒÁÊíÒ¤ÑÞ â´ÂÃкº¹ÔàÇÈ·ÕèÁÕ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ·ҧªÕÇÀÒ¾ÊÙ§ÊÒÁÒöÃÑ¡ÉÒÊÁ´ØÅä´Œ´Õ¡Ç‹Ò Ãкº¹ÔàÇÈ·ÕèÁÕ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ·ҧªÕÇÀÒ¾µíèÒ Á¹ØÉÂÁÕÍѵÅѡɳ੾ÒеÑÇ ÊÒÁÒöÃкصÑǵ¹¢Í§áµ‹ÅФ¹ä´Œ à¹×èͧ¨Ò¡¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ ·Ò§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ·Õèᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ áÅÐÅ´¤ÇÒÁàÊÕè§㹡ÒÃà¡Ô´âä·Õèá½§ÍÂÙ‹ã¹áÍÅÅÕÅ´ŒÍ¢ͧ ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµÃØ‹¹ÅÙ¡ ¹Í¡¨Ò¡¹Õé ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ·ҧ¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµÍ×è¹ æ Âѧ໚¹·Ò§àÅ×Í¡ ãËŒÁ¹ØÉ¹íÒä»ãªŒà»š¹ÍÒËÒà ¼ÅÔµÂÒÃÑ¡ÉÒâä ËÃ×ÍÇѵ¶Ø´Ôºã¹ÍصÊÒË¡ÃÃÁµ‹Ò§ æ Ê‹§¼Åµ‹Í¡ÒôíÒçªÕÇÔµ¢Í§Á¹ØÉ ·Ñé§àÃ×èͧÍÒËÒà ·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑ à¤Ã×èͧ¹Ø‹§Ë‹Á 仨¹¶Ö§ÇÔ¶ÕªÕÇÔµ à¾ÃÒо×é¹·Õè ã¹áµ‹ÅÐÀÙÁÔÀÒ¤ÁÕÊÀÒ¾ÀÙÁÔÍÒ¡ÒÈáÅÐÅѡɳÐÀÙÁÔ»ÃÐà·È·Õèᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ ·íÒãËŒ ª¹Ô´¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµã¹áµ‹Åо×é¹·ÕèÁÕ¤ÇÒÁᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ Á¹ØÉ¨֧µŒÍ§»ÃѺµÑÇãËŒàËÁÒе‹Í¡Òà ´íÒçªÕÇԵ㹾×é¹·Õè¹Ñé¹ æ (á¹Ç¤íҵͺ) 23 แบบวัดฯ
ปญหา : ...................................................................................................................................................................................................................................... สาเหตุของปญหา : ......................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ผลกระทบตอความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ : ................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ผลกระทบตอระบบนิเวศ : .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... วิธีการแกปญหา : ............................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... สืบคนปญหาเกี่ยวกับการเสียสมดุลของระบบนิเวศ แลวบันทึกขอมูลตามประเด็นที่กําหนด พรอมติดภาพ ประกอบ (ว 1.3 ม.3/11) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.11 8 (ติดภาพ) ฉบับ เฉลย (á¹Ç¤íҵͺ) »ÅÒã¹áËÅ‹§¹íéÒµÒÂ໚¹¨íҹǹÁÒ¡ âç§Ò¹»Å‹ÍÂÊÒþÔÉŧã¹áËÅ‹§¹íéÒ ·íÒãËŒáËÅ‹§¹íéÒÁÕ¡Òû¹à»„œÍ¹ »ÅÒã¹ áËÅ‹§¹íéÒ¨Ö§ä´ŒÃѺÊÒþÔÉ àÁ×èÍ»ÅÒµÒÂ໚¹¨íҹǹÁÒ¡ ÍÒ¨·íÒãËŒ ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ¢ͧª¹Ô´ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµã¹Ãкº¹ÔàÇȹÑé¹µíèÒŧ àÁ×èÍÃкº¹ÔàÇÈÁÕ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ¢ͧª¹Ô´ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµµíèÒŧ Ãкº¹ÔàÇÈ ÍÒ¨àÊÕÂÊÁ´ØÅ 1. µ‹ÍµŒÒ¹¡Ò÷Ôé§ÊÒþÔÉËÃ×ÍÊÒÃà¤ÁÕ¨Ò¡âç§Ò¹ÍصÊÒË¡ÃÃÁŧã¹áËÅ‹§¹íéÒ 2. äÁ‹·Ôé§¢ÂÐŧã¹áËÅ‹§¹íéÒ 3. ÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁÊÐÍÒ´áËÅ‹§¹íéÒ à¾×èÍ»‡Í§¡Ñ¹áËÅ‹§¹íéÒ๋ÒàÊÕ 24 แบบวัดฯ
ไดคะแนน คะแนนเต็ม 10 แบบทดสอบ ประจําหนวยการเรียนรูที่ 2 คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. ขอใดเรียงลําดับจากหนวยเล็กไปหนวยใหญ 1. ดีเอ็นเอ ยีน เซลล โครโมโซม 2. ยีน ดีเอ็นเอ โครโมโซม เซลล 3. เซลล ยีน ดีเอ็นเอ โครโมโซม 4. เซลล โครโมโซม ดีเอ็นเอ ยีน 2. จากภาพการผสมพันธุของตนถั่ว จีโนไทปของรุนลูกจะเปนอยางไร 1. tt, tt, tt, tt 2. Tt, Tt, Tt, tt 3. Tt, Tt, Tt, Tt 4. TT, Tt, Tt, tt 3. จากขอ 2. กําหนดให T แทนแอลลีลเดนที่ควบคุมดอกสีมวง และ t แทนแอลลีลดอย ที่ควบคุมดอกสีขาว โดยที่แอลลีลเดนขมแอลลีลดอยอยางสมบูรณ โอกาสที่ตนถั่วรุนลูก มีดอกสีมวงเปนเทาใด 1. 25% 2. 50% 3. 75% 4. 100% 4. ครอบครัวหนึ่ง พอมีลักยิ้ม แตแมไมมีลักยิ้ม ลูกคนแรกไมมีลักยิ้ม โอกาสที่ลูกคนที่สองไมมี ลักยิ้มเปนเทาใด (กําหนดใหแอลลีลเดนควบคุมการมีลักยิ้ม แอลลีลดอยควบคุมการไมมีลักยิ้ม) 1. 1 4 2. 2 4 3. 3 4 4. 4 4 5. ขอใดไมใชลักษณะของการแบงเซลลแบบไมโทซิส 1. เปนการเพิ่มจํานวนเซลลรางกาย 2. เซลลลูกมีลักษณะเหมือนกับเซลลตั้งตน 3. จํานวนโครโมโซมของเซลลใหมลดลงจากเซลลตั้งตน 4. เซลลที่เกิดขึ้นใหมมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนเดิมทุกประการ Tt Tt รุนลูก t ? ? ? T T t ? ฉบับ เฉลย 25 แบบวัดฯ
6. ขอใดเปนขั้นตอนสุดทายในการแบงเซลลแบบไมโอซิส 1. เทโลเฟส II 2. เมทาเฟส II 3. แอนาเฟส II 4. อินเตอรเฟส II 7. ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับโรคของพันธุกรรม 1. กลุมอาการเทอรเนอรเกิดจากโครโมโซม Y ขาดหายไป 1 แทง ในเพศหญิง 2. โรคผิวเผือกเปนความผิดปกติของโครโมโซม X จึงพบอาการไดทั้งเพศหญิงและเพศชาย 3. กลุมอาการเอ็ดเวิรดเกิดจากโครโมโซมคูที่ 18 ขาดหายไป สวนใหญเกิดกับทารก เพศหญิง 4. โรคธาลัสซีเมียเกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสรางเฮโมโกลบินในเซลล เม็ดเลือดแดง 8. สมชายเปนโรคตาบอดสีแตงงานกับหญิงที่ไมไดเปนโรค ลูกชายของสมชายเปนโรคตาบอดสี ลูกสาวของสมชายมีโอกาสเปนโรคตาบอดสีกี่เปอรเซ็นต 1. 25% 2. 50% 3. 75% 4. 100% 9. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการดัดแปรทางพันธุกรรม 1. มนุษยปรับปรุงพันธุพืชโดยการตัดแตงยีน 2. การดัดแปรพันธุกรรมพืชสงผลตอความหลากหลายทางชีวภาพ 3. พืชจีเอ็มโอ คือ พืชที่ไดรับการดัดแปรพันธุกรรมดวยพันธุวิศวกรรม 4. พืชจีเอ็มโอเปนพืชที่ไดรับการปรับปรุงสายพันธุใหมีสีสันสวยงามเทานั้น จึงมีมูลคาสูง 10. ถาความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิตตํ่าลงจะเกิดเหตุการณใด 1. สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ 2. ระบบนิเวศเสียสมดุล 3. สิ่งมีชีวิตสายพันธุใหมเพิ่มขึ้น 4. ความหลากหลายของระบบนิเวศเพิ่มขึ้น ฉบับ เฉลย 26 แบบวัดฯ
เกณฑการประเมิน ผาน ไดคะแนนครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม ไมผาน ไดคะแนนไมถึงครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม เกณฑการตัดสินระดับคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคะแนน ระดับคุณภาพ 84-100 4 ดีมาก 67-83 3 ดี 50-66 2 พอใช ตํ่ากวา 50 1 ปรับปรุง แบบบันทึกผลการประเมิน เครื่องมือวัดและแสดงผลการเรียน คะแนน ผลการประเมิน เต็ม ได ผาน ไมผาน ว 1.3 ม.3/1 กิจกรรมที่ 2.1 8 ม.3/2 กิจกรรมที่ 2.2 12 ม.3/3 กิจกรรมที่ 2.3 8 ม.3/4 กิจกรรมที่ 2.4 12 ม.3/5 กิจกรรมที่ 2.5 14 ม.3/6 กิจกรรมที่ 2.6 6 ม.3/7 กิจกรรมที่ 2.7 8 ม.3/8 กิจกรรมที่ 2.8 8 ม.3/9 กิจกรรมที่ 2.9 8 ม.3/10 กิจกรรมที่ 2.10 8 ม.3/11 กิจกรรมที่ 2.11 8 คะแนนรวมทั้งหมด 100 แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 2 10 กิจกรรมตามตัวชี้วัด ฉบับ เฉลย 27 แบบวัดฯ
การเรียนรู เรื่อง วัสดุในชีวิตประจําวัน ทําใหเกิดความรูความเขาใจเกี่ยวกับวัสดุประเภท ตางๆ ในชีวิตประจําวัน สามารถระบุสมบัติทางกายภาพและการใชประโยชนของวัสดุประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม รวมทั้งตระหนักถึงคุณคาของการใชวัสดุประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม โดยสามารถเสนอแนะแนวทางการใชวัสดุอยางประหยัดและคุมคา วัสดุในชีวิตประจําวัน กิจกรรมฝกทักษะ พิจารณาภาพ แลวระบุวาทําจากวัสดุใดบาง โดยขีด ✓ ลงใน ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก 1. 2. 3. 4. 5. 6. 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ ฉบับ เฉลย ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 28 แบบวัดฯ
บอกสมบัติทางกายภาพของวัสดุแตละประเภทและ ยกตัวอยางการนําไปใชประโยชน (ว 2.1 ม.3/1) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 3.1 6 กิจกรรมตามตัวชี้วัด 1. ............................... เปนวัสดุประเภทเซรามิก มักนํามาใชในการชวยยึดสวนผสมตาง ๆ ที่ใชในการ กอสราง 2. ............................... เปนพอลิเมอรโครงสรางโมเลกุลมีขนาดยาว เหมาะสําหรับนํามารีดและปนเปน เสนดาย 3. ............................... เปนวัสดุผสมที่พบในธรรมชาติ เกิดจากการรวมกันของเซลลูโลสกับลิกนิน นิยม ใชในงานกอสราง เนื่องจากมีความแข็งแรงและนํ้าหนักเบา 4. ............................... เปนวัสดุประเภทเซรามิก มีลักษณะโปรงแสง แกสซึมผานไดยาก แข็งแรง ทนตอ แรงดันไดดี นิยมใชเปนวัสดุในการผลิตเครื่องประดับ ภาชนะ และเครื่องใช 5. ............................... เปนพอลิเมอรสังเคราะหที่มีโมเลกุลขนาดใหญ มีความเหนียว ทําใหคงรูปได ทน ตอสารเคมี ความรอน และความชื้น นิยมใชผลิตเครื่องใชตาง ๆ ภายในบาน ไม แกว เสนใย พลาสติก ปูนซีเมนต ประเภทวัสดุ สมบัติทางกายภาพ การนําไปใชประโยชน 1. พอลิเมอร ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ......................................................................................... ......................................................................................... ......................................................................................... 2. เซรามิก ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ......................................................................................... ......................................................................................... ......................................................................................... 3. วัสดุผสม ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ......................................................................................... ......................................................................................... ......................................................................................... เลือกคําตอไปนี้ เติมลงในชองวาง (ว 2.1 ม.3/1) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 3.2 5 ฉบับ เฉลย ¾ÍÅÔàÁÍÃᵋÅЪ¹Ô´ÁÕÊÁºÑµÔᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ â´Â¾ÅÒʵԡ¢Öé¹Ãٻ໚¹ÃÙ»·Ã§µ‹Ò§ æ ä´Œ ÂÒ§Â×´ËÂØ‹¹ä´Œ àÊŒ¹ã´֧໚¹àÊŒ¹ÂÒÇä´Œ ÊÒÁÒö¢Öé¹à»š¹ÃÙ»·Ã§µ‹Ò§ æ ä´Œ ÁÕ¤ÇÒÁ á¢ç§ ·¹µ‹Í¡ÒÃÊÖ¡¡Ã‹Í¹áÅÐà»ÃÒР໚¹ÇÑÊ´Ø·Õè»ÃСͺ´ŒÇÂÇÑʴصÑé§áµ‹ 2 ª¹Ô´ ¢Öé¹ä» ÁÑ¡ÁÕ¤ÇÒÁá¢ç§áç ·¹·Ò¹ - ¾ÅÒʵԡ¹íÒä»·íҢͧàÅ‹¹ - ÂÒ§¹íÒä»·íҶاÁ×ÍÂÒ§ - àÊŒ¹ã¨ҡ¾×ª¹íÒä»·Í໚¹¼ŒÒ - ·íÒÀÒª¹Ðµ‹Ò§ æ ઋ¹ ¨Ò¹ ªÒÁ - ¼ÅÔµ¡ÃÐàº×éͧ à¤Ã×èÍ§ÊØ¢Àѳ± à¤Ã×èͧ»˜œ¹´Ô¹à¼Ò - ·íÒäÁŒà·¹¹ÔÊ - ໚¹Ê‹Ç¹»ÃСͺËÁÇ¡¹ÔÃÀÑ - ÊÌҧ¶¹¹áÅÐÍÒ¤Òõ‹Ò§ æ (á¹Ç¤íҵͺ) »Ù¹«ÕàÁ¹µ àÊŒ¹ã äÁŒ á¡ŒÇ ¾ÅÒʵԡ 29 แบบวัดฯ
ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 2.1 ม.3/2) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 3.3 9 1. ระหวางวัสดุประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม นักเรียนคิดวา วัสดุประเภทใดสงผลกระทบ ตอสิ่งแวดลอมมากที่สุด เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ถาคนในสังคมทิ้งขยะที่ไมสามารถยอยสลายไดอยางไมถูกวิธีจะเกิดผลกระทบอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. “อิ่มนําหอขนมขบเคี้ยวมาประดิษฐเปนกระเปาใสของแทนการใชถุงพลาสติก และใชกระเปาใบนี้ ทุกครั้งที่ไปซื้อของในรานสะดวกซื้อ” อิ่มปฏิบัติตามแนวทางการใชพอลิเมอรสังเคราะหอยาง คุมคาอยางไร อธิบายพอสังเขป ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. ยกตัวอยางการปฏิบัติตนตามแนวทางการใชพอลิเมอรสังเคราะหอยางคุมคา อยางนอย 2 ตัวอยาง 1) การลดการใช ............................................................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................ 2) การใชซํ้า ............................................................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................ 3) การนํากลับมาใชใหม ............................................................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................ ฉบับ เฉลย (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) ÇÑÊ´Ø»ÃÐàÀ·¾ÍÅÔàÁÍÃÊ‹§¼Å¡Ãзºµ‹ÍÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁÁÒ¡·ÕèÊØ´ à¾ÃÒÐ໚¹ÇÑÊ´Ø·Õè‹ÍÂÊÅÒÂäÁ‹ä´Œ ËÃ×Í‹ÍÂÊÅÒÂä´ŒÂÒ¡ áÅÐÁÕ»ÃÔÁÒ³¡ÒÃ㪌ÁÒ¡ ·íÒãËŒÁÕ¢ÂÐÁÙŽÍÂã¹»ÃÔÁÒ³ÁÒ¡¢Öé¹ä»´ŒÇ áÅÐÂÒ¡µ‹Í¡ÒáíҨѴ ¢ÂШе¡¤ŒÒ§ÍÂÙ‹ã¹ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ ¡‹ÍãËŒà¡Ô´ÁžÔɵ‹ÍÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁµ‹Ò§ æ ઋ¹ ¶ŒÒ¢Âе¡¤ŒÒ§ ã¹áËÅ‹§¹íéÒ¡ç¨Ð·íÒãËŒ¹íéÒ๋ÒàÊÕ ʋ§¡ÅÔè¹àËÁç¹ ¶ŒÒ¢Âе¡¤ŒÒ§ã¹´Ô¹ÍÒ¨·íÒãËŒ´Ô¹àÊ×èÍÁÊÀÒ¾ ¶ŒÒà¼Ò·íÒÅÒ¢ÂÐÍÒ¨¡‹ÍãËŒà¡Ô´¤Çѹ¾ÔÉÅÍ¢Öé¹ÊÙ‹ºÃÃÂÒ¡ÒÈ ÍÔèÁ»¯ÔºÑµÔµÒÁ·Ñé§ 3 á¹Ç·Ò§ ¤×Í 1) ¡ÒÃÅ´¡ÒÃ㪌 â´Â¡ÒÃ㪌¡ÃÐ້һÃдÔɰ᷹¶Ø§¾ÅÒʵԡ 2) ¡ÒÃ㪌«íéÒ â´Â㪌¡ÃÐ້ҷÕè»ÃдÔɰÁÒ㪌§Ò¹«íéÒËÅÒÂ æ ¤ÃÑé§ 3) ¡ÒùíÒ¡ÅѺÁÒ㪌ãËÁ‹ â´Â¹íÒˋ͢¹Á¢ºà¤ÕéÂÇ·Õè äÁ‹ãªŒáÅŒÇÁÒá»ÃÃٻ໚¹¡ÃÐ້ÒãÊ‹¢Í§ - ËÅÕ¡àÅÕè§¡Òë×éÍËÃ×Í㪌ÊÔ¹¤ŒÒ·ÕèÁÕºÃèØÀѳ±ËÅÒªÔé¹ - 㪌 »›¹âµËÃ×͡ŋͧ¢ŒÒÇãÊ‹ÍÒËÒÃá·¹¡ÒÃãÊ‹ÍÒËÒÃ㹡ŋͧâ¿Á - ¹íÒàÊ×éͼŒÒ·Õè äÁ‹ãÊ‹áÅŒÇ仺ÃÔ¨Ò¤ËÃ×Í¢Òµ‹Í - à¡çº¡ÃдÒÉ·Õè 㪌áÅŒÇ 1 ˹ŒÒ ÁÒ㪌Íա˹ŒÒ˹Öè§·ÕèÂѧNjҧ - ¹íÒ½Ò¡Ãл‰Í§¹íéÒÍÑ´ÅÁ仺ÃÔ¨Ò¤à¾×èÍËÅÍÁ·íÒ¢Òà·ÕÂÁãˌᡋ¼ÙŒ¾Ô¡Òà - ¹íҢǴ¾ÅÒʵԡÁÒ»ÃдÔɰ໚¹¢Í§ãªŒ ઋ¹ ·Õè ãÊ‹à¤Ã×èͧà¢Õ¹ ¡Ãжҧ»ÅÙ¡µŒ¹äÁŒ 30 แบบวัดฯ
ไดคะแนน คะแนนเต็ม 10 แบบทดสอบ ประจําหนวยการเรียนรูที่ 3 คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. วัสดุตอไปนี้ขอใดไมใชพอลิเมอร 1. ฝาย 2. เรยอน 3. ควอตซ 4. ยางดิบ 2. เสนใยชนิดใด มีนํ้าหนักเบา แหงไว ทนทานตอจุลินทรียและเชื้อรา 1. ไนลอน 2. ขนแกะ 3. เสนใยเซลลูโลส 4. เซลลูโลสแอซีเตต 3. พลาสติกชนิดหนึ่ง เปนพลาสติกเทอรมอเซต ประกอบดวยมอนอเมอร 2 ชนิด ใชทําดานจับ เตารีดหรือกระทะ เนื่องจากมีความแข็ง เปราะ ทนความรอน เปนฉนวนไฟฟา พลาสติกนี้ คือขอใด 1. เมลามีน 2. เบกาไลต 3. พอลิเอทิลีน 4. พอลิสไตรีน 4. คอนกรีตที่ใชในการทําพื้นถนน เปนวัสดุชนิดใด 1. พอลิเมอรรวม 2. เซรามิกแบบดั้งเดิม 3. วัสดุผสมจากธรรมชาติ 4. วัสดุผสมจากการสังเคราะห 5. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับเซรามิก 1. ดินเปนวัตถุดิบหลักในการทําเซรามิก 2. เครื่องปนดินเผาจัดเปนเซรามิกแบบดั้งเดิม 3. การเผาดิบของผลิตภัณฑเซรามิกตองเพิ่มอุณหภูมิของเตาเผาใหสูงขึ้นอยางรวดเร็ว 4. เครื่องแกวในหองปฏิบัติการทางวิทยาศาสตรเปนผลิตภัณฑที่ทําจากวัสดุประเภทเซรามิก ฉบับ เฉลย 31 แบบวัดฯ
6. วัสดุใดเหมาะสําหรับทําเสื้อกันฝน 1. ผา 2. ยาง 3. กระดาษ 4. พลาสติก 7. ขอใดเปนการนําสมบัติของวัสดุไปใชประโยชนไดเหมาะสมที่สุด 1. ใชแกวทําเขียง 2. ใชทองแดงทําสายไฟฟา 3. ใชโลหะทําของเลนเด็ก 4. ใชยางทําภาชนะหุงตม 8. ขอใดเปนวิธีการจัดการภาชนะพลาสติกที่ใชแลว ซึ่งกอใหเกิดผลกระทบตอสิ่งแวดลอม นอยที่สุด 1. การนําภาชนะพลาสติกมาใชซํ้าแลวซํ้าอีก 2. การกําจัดภาชนะพลาสติกที่ใชแลวโดยวิธีการเผา 3. การนําภาชนะพลาสติกที่ใชแลวกลับมาหลอมใชใหม 4. การกําจัดภาชนะพลาสติกที่ใชแลวโดยวิธีการฝงกลบ 9. ใครปฏิบัติตนเพื่อลดปญหาสิ่งแวดลอมไดอยางถูกตอง 1. สมเชงซื้อถุงผาและเก็บสะสมไวเปนที่ระลึก 2. สมจี๊ดใชกลองโฟมใสอาหารจากรานคาแทนกลองพลาสติก 3. สมจีนทิ้งเศษอาหารลงในถังขยะสีฟาเพื่อนําไปหมักเปนปุยตอไป 4. สมโอทิ้งกระปองเครื่องดื่มลงในถังขยะสีเหลืองเพื่อนําไปรีไซเคิลตอไป 10. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการลดปญหาสิ่งแวดลอม 1. ขวดนํ้าอัดลมมีสัญลักษณ หมายถึง ขวดนํ้าอัดลมนั้นสามารถนําไปรีไซเคิลได 2. ถังขยะสีแดง เปนถังขยะสําหรับทิ้งขยะอันตรายหรือเปนพิษตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม 3. ชิ้นสวนอิเล็กทรอนิกสที่มีสัญลักษณ หมายถึง ชิ้นสวนนั้นแปรรูปมาแลว 7 ครั้ง 4. การลดการใช การใชซํ้า และการนํากลับมาใชใหม เปนแนวทางการใชพอลิเมอร สังเคราะหอยางคุมคา ฉบับ เฉลย 32 แบบวัดฯ
เกณฑการประเมิน ผาน ไดคะแนนครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม ไมผาน ไดคะแนนไมถึงครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม เกณฑการตัดสินระดับคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคะแนน ระดับคุณภาพ 84-100 4 ดีมาก 67-83 3 ดี 50-66 2 พอใช ตํ่ากวา 50 1 ปรับปรุง แบบบันทึกผลการประเมิน กิจกรรมตามตัวชี้วัด เครื่องมือวัดและแสดงผลการเรียน คะแนน ผลการประเมิน เต็ม ได ผาน ไมผาน ว 2.1 ม.3/1 กิจกรรมที่ 3.1 6 กิจกรรมที่ 3.2 5 รวม 11 ว 2.1 ม.3/2 กิจกรรมที่ 3.3 9 รวม 9 คะแนนรวมทั้งหมด 20 แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 3 10 ฉบับ เฉลย 33 แบบวัดฯ
การเรียนรู เรื่อง ปฏิกิริยาเคมี ทําใหเกิดความรูความเขาใจเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมีตางๆ รวมถึงการจัดเรียงตัวใหมของอะตอมเมื่อเกิดปฏิกิริยาโดยใชแบบจําลองและสมการขอความ อธิบาย กฎทรงมวล และวิเคราะหปฏิกิริยาดูดความรอนหรือปฏิกิริยาคายความรอน รวมทั้งระบุประโยชนและโทษ ของปฏิกิริยาที่มีตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม พรอมกับออกแบบวิธีแกปญหาในชีวิตประจําวัน ปฏิกิริยาเคมี กิจกรรมฝกทักษะ พิจารณาขอความ แลวระบุวาเปนปฏิกิริยาเคมีหรือไม บันทึกลงในตาราง 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ การเผากระดาษ การจุดไฟบนหัวไมขีดไฟ การละลายเกลือแกงในนํ้า การระเหยแหงของนํ้าทะเลจนไดผลึกเกลือ การพองตัวของลูกโปงจากการสูบลม การผลิตนํ้าอัดลม การเกิดสนิมของเหล็ก การหลอมเหลวของไอศกรีม การพัดพาของอากาศ การสังเคราะหดวยแสงของพืช การเกิดหินงอกหินยอย เปนปฏิกิริยาเคมี ไมเปนปฏิกิริยาเคมี ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ฉบับ เฉลย - ¡ÒÃà¼Ò¡ÃдÒÉ - ¡ÒüÅÔµ¹íéÒÍÑ´ÅÁ - ¡Òèش俺¹ËÑÇäÁŒ¢Õ´ä¿ - ¡ÒÃà¡Ô´Ê¹ÔÁ¢Í§àËÅç¡ - ¡ÒÃà¡Ô´ËÔ¹§Í¡ËԹŒÍ - ¡ÒÃÊѧà¤ÃÒÐË´ŒÇÂáʧ¢Í§¾×ª - ¡ÒþѴ¾Ò¢Í§ÍÒ¡ÒÈ - ¡ÒÃÅÐÅÒÂà¡Å×Íá¡§ã¹¹íéÒ - ¡ÒÃËÅÍÁàËÅǢͧäÍÈ¡ÃÕÁ - ¡ÒþͧµÑǢͧÅ١⻆§¨Ò¡¡ÒÃÊÙºÅÁ - ¡ÒÃÃÐàËÂáËŒ§¢Í§¹íéÒ·ÐàŨ¹ä´Œ¼ÅÖ¡à¡Å×Í 34 แบบวัดฯ
วาดแบบจําลองแสดงปฏิกิริยาระหวางแกสไฮโดรเจน และแกสออกซิเจนไดผลิตภัณฑเปนนํ้า พรอมกับเขียน สมการเคมี (ว 2.1 ม.3/3) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.1 3 กิจกรรมตามตัวชี้วัด สมการเคมี คือ .......................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................... ดุลสมการเคมีตอไปนี้ (ว 2.1 ม.3/3) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.2 5 1. KNO3 (s) KNO2 (s) + O2 (g) ➡ ................................................................................................................................. 2. Al(s) + HCl(aq) AlCl3 (aq) + H2 (g) ➡ ................................................................................................................................. 3. NH3 (g) + NO(g) N2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 4. Zn(s) + HCl(aq) ZnCl2 (aq) + H2 (g) ➡ ................................................................................................................................. 5. CH4 (g) + O2 (g) CO2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 6. C3 H8 (g) + O2 (g) CO2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 7. C6 H12O6 (s) C2 H6 O(s) + CO2 (g) ➡ ................................................................................................................................. 8. C6 H12O6 (s) + O2 (g) CO2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 9. C12H22O11(s) + O2 (g) CO2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 10. BaCl2 (aq) + AgNO3 (aq) Ba(NO3 ) 2 (aq) + AgCl(s) ➡ ............................................................................................................ ............................................................................................................ (วาดแบบจําลอง) ฉบับ เฉลย á¡ÊäÎâ´Ãਹ + á¡ÊÍÍ¡«Ôਹ ¹íéÒ ËÃ×Í 2H2 (g) + O2 (g) 2H2 O(l) 2KNO3 (s) 2KNO2 (aq) + O2 (g) 2Al(s) + 6HCl(aq) 2AlCl3 (aq) + 3H2 (g) 4NH3 (g) + 6NO(g) 5N2 (g) + 6H2 O(l) Zn(s) + 2HCl(aq) ZnCl2 (aq) + H2 (g) CH4 (g) + 2O2 (g) CO2 (g) + 2H2 O(l) C3 H8 (g) + 5O2 (g) 3CO2 (g) + 4H2 O(l) C6 H12O6 (s) 2C2 H6 O(s) + 2CO2 (g) C6 H12O6 (s) + 6O2 (g) 6CO2 (g) + 6H2 O(l) C12H22O11(s) + 12O2 (g) 12CO2 (g) + 11H2 O(l) (á¹Ç¤íҵͺ) + = ÍеÍÁ¢Í§äÎâ´Ãਹ ÍеÍÁ¢Í§ÍÍ¡«Ôਹ á¡ÊäÎâ´Ãਹ á¡ÊÍÍ¡«Ôਹ ¹íéÒ Ba Cl2 (aq) + 2AgNO3 (aq) Ba(NO3 ) 2 (aq) + 2AgCl(s) 35 แบบวัดฯ
คํานวณหาผลลัพธจากโจทยที่กําหนดให (ว 2.1 ม.3/4) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.3 6 1. นําคารบอน 8 กรัม เผาไหมในภาชนะปดกับแกสออกซิเจน 40 กรัม เกิดแกสคารบอนไดออกไซด 34 กรัม หากปฏิกิริยานี้เปนไปตามกฎทรงมวล แกสออกซิเจนที่เกิดขึ้นมีมวลกี่กรัม ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. โซเดียมไฮโดรเจนคารบอเนต 10.5 กรัม ทําปฏิกิริยากับสารละลายแอซีติก 40 กรัม ไดแกส คารบอนไดออกไซดและสาร A เมื่อปฏิกิริยาสิ้นสุดลงแลว ปรากฏวา มีสาร A 32 กรัม หาก ปฏิกิริยานี้เปนไปตามกฎทรงมวล แกสคารบอนไดออกไซดที่เกิดขึ้นมีมวลกี่กรัม ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. แมกนีเซียม 25.7 กรัม ทําปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริก ไดผลิตภัณฑเปนแมกนีเซียมคลอไรด 28.2 กรัม และแกสไฮโดรเจน 18.3 กรัม หากปฏิกิริยานี้เปนไปตามกฎทรงมวล กรดไฮโดรคลอริก ตั้งตนมีมวลกี่กรัม ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÇÔ¸Õ·íÒ ¨Ò¡¡®·Ã§ÁÇÅ ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒõÑé§µŒ¹·Ñé§ËÁ´ = ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒüÅÔµÀѳ±·Ñé§ËÁ´ ÁÇŢͧ C + ÁÇŢͧ O2 = ÁÇŢͧ CO2 + ÁÇŢͧ O2 8 + 40 = 34 + ÁÇŢͧ O2 ÁÇŢͧ O2 = 48 - 34 = 14 ¡ÃÑÁ ´Ñ§¹Ñé¹ á¡ÊÍÍ¡«Ôਹ·Õèà¡Ô´¢Öé¹ÁÕÁÇÅ෋ҡѺ 14 ¡ÃÑÁ ÇÔ¸Õ·íÒ ¨Ò¡¡®·Ã§ÁÇÅ ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒõÑé§µŒ¹·Ñé§ËÁ´ = ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒüÅÔµÀѳ±·Ñé§ËÁ´ ÁÇŢͧ NaHCO3 + ÁÇŢͧ CH3 COOH = ÁÇŢͧ CO2 + ÁÇŢͧÊÒà A 10.5 + 40 = ÁÇŢͧ CO2 + 32 ÁÇŢͧ CO2 = 50.5 - 32 = 18.5 ¡ÃÑÁ ´Ñ§¹Ñé¹ á¡Ê¤Òú͹ä´Í͡䫴·Õèà¡Ô´¢Öé¹ÁÕÁÇÅ෋ҡѺ 18.5 ¡ÃÑÁ ÇÔ¸Õ·íÒ ¨Ò¡¡®·Ã§ÁÇÅ ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒõÑé§µŒ¹·Ñé§ËÁ´ = ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒüÅÔµÀѳ±·Ñé§ËÁ´ ÁÇŢͧ Mg + ÁÇŢͧ HCl = ÁÇŢͧ MgCl2 + ÁÇŢͧ H2 25.7 + ÁÇŢͧ HCl = 28.2 + 18.3 ÁÇŢͧ HCl = 46.5 - 25.7 = 20.8 ¡ÃÑÁ ´Ñ§¹Ñé¹ ¡Ã´äÎâ´Ã¤ÅÍÃÔ¡µÑé§µŒ¹ÁÕÁÇÅ෋ҡѺ 20.8 ¡ÃÑÁ 36 แบบวัดฯ
พิจารณาขอมูลที่กําหนดให แลวระบุวาเปนปฏิกิริยา ดูดความรอนหรือคายความรอน (ว 2.1 ม.3/5) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.4 10 ขอมูล ปฏิกิริยา 1. เผาไหมเชื้อเพลิง ................................................................... 2. ทาเอทานอลลงบนผิวหนังแลวรูสึกเย็น ................................................................... 3. ละลายโซดาไฟในนํ้า นํ้ามีอุณหภูมิสูงขึ้น ................................................................... 4. ละลายเกลือแกงในนํ้า เมื่อจับภาชนะแลวรูสึกเย็น ................................................................... 5. เปดถังไนโตรเจนเหลว แลวมีควันสีขาวลอยออกมา ................................................................... 6. ผสมสารตั้งตน 2 ชนิด ที่มีอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสเทากัน เมื่อนํามาผสมกัน วัดอุณหภูมิสารผสมได 40 องศาเซลเซียส ................................................................... 7. 2NH3 (g) + 93kJ N2 (g) + 3H2 (g) ................................................................... 8. 4Al(s) + 3O2 (g) 2Al2 O3 (s) + 178J ................................................................... 9. ................................................................... 10. ................................................................... พลังงาน (J) สารตั้งตน ผลิตภัณฑ เวลา (s) 250 200 150 100 50 0 พลังงาน (J) สารตั้งตน ผลิตภัณฑ เวลา (s) 250 200 150 100 50 0 ฉบับ เฉลย ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ 37 แบบวัดฯ
อธิบายการเกิดปฏิกิริยาที่กําหนดให พรอมกับเขียน สมการเคมีประกอบ (ว 2.1 ม.3/6) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.5 18 1. การเผาไหมแบบสมบูรณ เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 2. การเผาไหมแบบไมสมบูรณ เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 3. การเกิดสนิมของเหล็ก เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 4. ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧÊÒ÷ÕèÁոҵؤÒú͹áÅÐäÎâ´Ãਹ໚¹Í§¤»ÃСͺ¡Ñºá¡Ê ÍÍ¡«Ôਹ â´Â¡ÒÃà¼ÒäËÁŒÁÕ»ÃÔÁÒ³á¡ÊÍÍ¡«Ôਹ·ÕèࢌÒÁÒ·íÒ»¯Ô¡ÔÃÔÂÒÁÒ¡à¾Õ§¾Í ä´Œ ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹á¡Ê¤Òú͹ä´Í͡䫴 ¹íéÒ áÅоÅѧ§Ò¹ CH4 (g) + 2O2 (g) CO2 (g) + 2H2 O(l) + ¾Åѧ§Ò¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧÊÒ÷ÕèÁոҵؤÒú͹áÅÐäÎâ´Ãਹ໚¹Í§¤»ÃСͺ¡Ñºá¡Ê ÍÍ¡«Ôਹ â´Â¡ÒÃà¼ÒäËÁŒÁÕ»ÃÔÁÒ³á¡ÊÍÍ¡«Ôਹ·ÕèࢌÒÁÒ·íÒ»¯Ô¡ÔÃÔÂÒäÁ‹à¾Õ§¾Í ä´Œ¼ÅÔµÀѳ± ໚¹á¡Ê¤Òú͹Á͹͡䫴 ¹íéÒ áÅоÅѧ§Ò¹ ÃÇÁ·Ñé§à¡Ô´à¢Á‹Ò¤Çѹ 2CH4 (g) + 3O2 (g) 2CO(g) + 4H2 O(l) + ¾Åѧ§Ò¹ + à¢Á‹Ò¤Çѹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧàËÅç¡ ¹íéÒ áÅÐá¡ÊÍÍ¡«Ôਹ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹Ê¹ÔÁ¢Í§àËÅç¡ 4Fe(s) + 3O2 (g) + 3H2 O(l) 2Fe2 O3 •3H2 O(s) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧ¡Ã´¡ÑºâÅËÐ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹à¡Å×ͧ͢âÅËÐáÅÐá¡ÊäÎâ´Ãਹ ઋ¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒÃÐËNjҧáÁ¡¹Õà«ÕÂÁ¡Ñº¡Ã´äÎâ´Ã¤ÅÍÃÔ¡ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹áÁ¡¹Õà«ÕÂÁ¤ÅÍäô áÅÐá¡ÊäÎâ´Ãਹ Mg(s) + 2HCl(aq) MgCl2 (aq) + H2 (g) 38 แบบวัดฯ
5. ปฏิกิริยาของกรดกับเบส เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 6. ปฏิกิริยาของเบสกับโลหะบางชนิด เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 7. ปฏิกิริยาของกรดกับสารประกอบคารบอเนต เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 8. การเกิดฝนกรด เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 9. การสังเคราะหดวยแสงของพืช เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧ¡Ã´¡ÑºàºÊ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹à¡Å×ͧ͢âÅËÐáÅйíéÒ ËÃ×ÍÍҨ䴌à¾Õ§ à¡Å×ͧ͢âÅËЪ¹Ô´à´ÕÂÇ àÃÕ¡ÍÕ¡ª×èÍÇ‹Ò »¯Ô¡ÔÃÔÂÒÊÐà·Ô¹ ઋ¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒÃÐËNjҧ¡Ã´äÎâ´Ã¤ÅÍÃÔ¡ ¡Ñºâ«à´ÕÂÁäδÃ͡䫴 ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹â«à´ÕÂÁ¤ÅÍäôáÅйíéÒ HCl(aq) + NaOH(aq) NaCl(aq) + H2 O(l) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧàºÊ¡ÑºâÅËкҧª¹Ô´ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹à¡Å×ͧ͢âÅËÐáÅÐá¡Ê äÎâ´Ãਹ ઋ¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒÃÐËNjҧÊѧ¡ÐÊաѺâ«à´ÕÂÁäδÃ͡䫴 ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹â«à´ÕÂÁ «Ô§¤à¤µáÅÐá¡ÊäÎâ´Ãਹ Zn(s) + 2NaOH(aq) Na2 ZnO2 (aq) + H2 (g) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧ¡Ã´¡ÑºÊÒûÃСͺ¤ÒúÍ๵ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹à¡Å×ͧ͢âÅËÐ á¡Ê¤Òú͹ä´Í͡䫴 áÅйíéÒ àª‹¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧá¤Åà«ÕÂÁ¤ÒúÍ๵¡Ñº¡Ã´«ÑÅ¿ÇÃÔ¡ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹á¤Åà«ÕÂÁ«ÑÅ࿵ á¡Ê¤Òú͹ä´Í͡䫴 áÅйíéÒ CaCO3 (s) + H2 SO4 (aq) CaSO4 (s) + CO2 (g) + H2 O(l) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧ¹íéÒ½¹¡ÑºÍ͡䫴¢Í§ä¹âµÃਹ (NOx ) ËÃ×ÍÍ͡䫴¢Í§«ÑÅà¿Íà (SOx ) ·íÒãËŒ¹íéÒ½¹ÁÕÊÁºÑµÔ໚¹¡Ã´ ઋ¹ ½¹¡Ã´·Õèà¡Ô´¨Ò¡á¡Ê«ÑÅà¿ÍÃäµÃÍ͡䫴 ·íÒãËŒà¡Ô´ ¡Ã´«ÑÅ¿ÇÃÔ¡ SO3 (g) + H2 O(l) H2 SO4 (aq) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧá¡Ê¤Òú͹ä´Í͡䫴¡Ñº¹íéÒ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹¹íéÒµÒÅ¡ÅÙâ¤Ê áÅÐá¡ÊÍÍ¡«Ôਹ â´ÂÁÕáʧª‹ÇÂ㹡ÒÃà¡Ô´»¯Ô¡ÔÃÔÂÒáÅÐÁÕ¤ÅÍâÿÅÅ໚¹ÊÒÃÊÕª‹Ç´ٴ¡Å×¹ ¾Åѧ§Ò¹áʧ 6CO2 (g) + 6H2 O(l) áʧ ¤ÅÍâÿÅÅ C6H12O6(aq) + 6O2 (g) 39 แบบวัดฯ
สืบคนขอมูล แลวยกตัวอยางปฏิกิริยาเคมี พรอมระบุ ประโยชนและโทษที่มีตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม (ว 2.1 ม.3/7) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.6 4 พิจารณาปฏิกิริยาเคมี แลวระบุโทษของปฏิกิริยาเคมี ที่มีตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม พรอมบอกวิธีการปองกัน หรือแกปญหา (ว 2.1 ม.3/7) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.7 6 1. 4Fe(s) + 3O2 (g) + 3H2 O(l) 2Fe2 O3 •3H2 O(s) โทษ คือ ............................................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... วิธีการปองกันหรือแกปญหา คือ .............................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. 2SO2 (g) + O2 (g) 2SO3 (g) และ 3NO2 (g) + H2 O(l) 2HNO3 (aq) + NO(g) โทษ คือ ............................................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... วิธีการปองกันหรือแกปญหา คือ .............................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. 2CH4 (g) + 3O2 (g) 2CO(g) + 4H2 O(l) + พลังงาน + เขมาควัน โทษ คือ ............................................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... วิธีการปองกันหรือแกปญหา คือ .............................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... ประโยชน .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. โทษ .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. ปฏิกิริยาเคมี คือ .......................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ·íÒãËŒâÅËÐà¡Ô´Ê¹ÔÁ Ê‹§¼ÅãËŒÍØ»¡Ã³à¤Ã×èͧÁ×͵‹Ò§ æ ¼Ø¡Ã‹Í¹§‹Ò áÅÐÍҨʋ§¼ÅãËŒ â¤Ã§ÊÌҧ·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈѵ‹Ò§ æ à¡Ô´¡Òþѧ·ÅÒ à¡çºÍØ»¡Ã³à¤Ã×èͧÁ×Í·Õè·íÒ¨Ò¡àËÅç¡ã¹·ÕèáËŒ§ËÃ×Íà¤Å×ͺ¼ÔÇ àËÅç¡à¾×èÍ»‡Í§¡Ñ¹äÁ‹ãËŒà¹×éÍàËÅç¡ÊÑÁ¼ÑʡѺÍÒ¡ÒÈâ´ÂµÃ§ ·íÒãËŒà¡Ô´½¹¡Ã´ Ê‹§¼ÅãËŒ´Ô¹¢Ò´¤ÇÒÁÊÁºÙó ¾×ªà¨ÃÔÞàµÔºâµªŒÒáÅеÒ áËÅ‹§¹íéÒ¹Ôè§ ÁÕ¤ÇÒÁ໚¹¡Ã´ «Öè§à»š¹ÍѹµÃÒµ‹ÍÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ óç¤ãËŒâç§Ò¹Å´¡ÒûŋÍÂá¡Êµ‹Ò§ æ ·ÕèÊ‹§¼ÅãËŒà¡Ô´ ½¹¡Ã´ ઋ¹ á¡Ê«ÑÅà¿ÍÃä´Í͡䫴 á¡Êä¹âµÃਹä´Í͡䫴 ·íÒãËŒà¡Ô´à¢Á‹Ò¤Çѹ·íÒÅÒÂÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁáÅÐÅ´»ÃÐÊÔ·¸ÔÀҾ㹡ÒÃÅíÒàÅÕ§á¡Ê ÍÍ¡«Ôਹ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ໚¹ÍѹµÃÒ¶֧ªÕÇÔµ Å´¡ÒÃ㪌à¤Ã×èͧ¹µáÅÐà¤Ã×èͧ¨Ñ¡Ãã¹âç§Ò¹·Õè·íÒãËŒà¡Ô´¡Òà à¼ÒäËÁŒáººäÁ‹ÊÁºÙó äÁ‹ËÅѺã¹Ã¶à¾×èÍ»‡Í§¡Ñ¹¡ÒÃÊÙ´´Áá¡Ê¤Òú͹Á͹͡䫴໚¹àÇÅÒ¹Ò¹ ÊÌҧ¾Åѧ§Ò¹¤ÇÒÁÌ͹ à¾×è͹íÒä»ãªŒã¹¡ÒÃ ËØ§µŒÁÍÒËÒà ·íÒãËŒà¡Ô´á¡Ê¤Òú͹ä´Í͡䫴 ·íÒãËŒ à¡Ô´»ÃÒ¡¯¡ÒóàÃ×͹¡ÃШ¡ Ê‹§¼ÅãËŒ âÅ¡ÁÕÍØ³ËÀÙÁÔÊÙ§¢Öé¹ (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒ¡ÒÃà¼ÒäËÁŒáººÊÁºÙó 40 แบบวัดฯ
ออกแบบชิ้นงานเพื่อพัฒนาหรือสรางผลิตภัณฑในการ ปองกันและแกปญหาในชีวิตประจําวัน โดยใชความรู เกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมี (ว 2.1 ม.3/8) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.8 18 • ปญหา ................................................................................................................................................................................................................ • สืบคนขอมูล ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... • แหลงอางอิง ..................................................................................................................................................................................................................................... • วัสดุอุปกรณ ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... (วาดภาพ) • ออกแบบวิธีการแกปญหา ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ฉบับ เฉลย (¾Ô¨ÒóҵÒÁ¼Å§Ò¹·Õè¹Ñ¡àÃÕ¹Í͡Ẻ) 41 แบบวัดฯ