The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2338065AN-Key-แบบวัดฯ-วิทยาศาสตร์-ม3[211119]

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Saowaluck Koedree Nulek, 2023-05-27 23:36:29

2338065AN-Key-แบบวัดฯ-วิทยาศาสตร์-ม3[211119]

2338065AN-Key-แบบวัดฯ-วิทยาศาสตร์-ม3[211119]

พิมพครั้งที่ 3 สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ รหัสสินคา 2338065 แบบวัด และบันทึกผลการเรียนรู้ ผูเรียบเรียง นางสาวเกสิณี สุดทองคง นางสาวตวงณัชชา จันทรมัสการ คณะบรรณาธิการและผูตรวจ นางพัชรินทร แสนพลเมือง วิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่3 ตามมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และเทคโนโลยี ฉบับ เฉลย พิมพครั้งที่ 2 สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ รหัสสินคา 2348025 ชื่อ ....................................................................................... ชั้น ............... เลขที่ ..............


มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดกําหนดกรอบและ ทิศทางในการเรียนรูเนื้อหา ทักษะ กระบวนการเรียนรู กิจกรรมการเรียนการสอน และการประเมิน ผลการเรียนรูของผูเรียนวา มีระดับความรูความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม และคานิยมตาม ที่กําหนดไวในมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดมากนอยเพียงใด รวมถึงพัฒนาการดานสมรรถนะ สําคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงคตามเปาหมายที่กําหนดไวในหลักสูตรดวย มาตรฐานการเรียนรูจึงเปนเปาหมายสําคัญในการพัฒนาผูเรียนใหมีความรูความสามารถ ครอบคลุม 4 สาระการเรียนรู สวนตัวชี้วัดจะระบุสิ่งที่ผูเรียนตองรูและปฏิบัติได รวมถึงคุณลักษณะ ที่ตองเกิดขึ้นกับผูเรียนในแตละระดับชั้น สถานศึกษาและผูสอนจึงตองนําตัวชี้วัดไปจัดทําหนวย การเรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่ จะใชสําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐาน รายงานผลการเรียน และพัฒนาการดานตาง ๆ ของผูเรียนเปนรายบุคคล การจัดทําแบบวัดและบันทึกผลการเรียนรูของผูเรียนเปนรายบุคคลฉบับนี้ จึงมีวัตถุประสงค สําคัญเพื่ออํานวยความสะดวกแกผูสอน ในการนํากิจกรรมและเครื่องมือที่ออกแบบไวนี้ไปประยุกต ใชเปนเครื่องมือวัดผลเพื่อตรวจสอบผลการเรียนรูที่เกิดขึ้นกับผูเรียน จะไดนําผลการวัดมาปรับปรุง พัฒนาผูเรียนแตละคนจนเต็มศักยภาพตามเปาหมายของหลักสูตร ทั้งนี้ การวัดผลประเมินผลระดับชั้นเรียน จัดเปนภาระงานสําคัญที่สุดในกระบวนการวัดและ ประเมินผลของผูสอน เพราะตองการวัดความรู ทักษะ และความสามารถที่เกิดกับผูเรียนทุกคน ผูสอนจะไดนําผลการวัดเหลานั้นไปวางแผนจัดการเรียนการสอนใหสอดคลองกับความสามารถของ ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม หรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได ตามเกณฑประกันคุณภาพการศึกษาที่สถานศึกษาแตละแหงกําหนดไว ดังนั้น การประเมินผลผูเรียนจึงจําเปนตองใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพ ซึ่งผูสอนตองสราง หรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน ผลการเรียนของผูเรียนไดอยางมั่นใจวา ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู ความสามารถที่เกิดขึ้นจริงของผูเรียนแตละคน ซึ่งมีคาความเที่ยงตรงและคาความเชื่อมั่นสูง แสดง ใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดานการ จัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองของนักเรียนได แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรูของผูเรียนฉบับนี้ จึงเปนประโยชนตอผูสอนและผูเรียนที่จะ ใชวางแผนการประเมินผลการเรียนรูรวมกัน เพื่อนําไปสูการพัฒนาคุณภาพผูเรียนตามเปาหมาย ของหลักสูตรทุกประการ ผูจัดทํา คําชี้แจง ฉบับ เฉลย


ตารางบันทึกผลการประเมินคุณภาพตามตัวชี้วัด (1) หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ 2 • กิจกรรมฝกทักษะ 2 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 1.1 ม.3/1-6) 3 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 9 • แบบบันทึกผลการประเมิน 11 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พันธุกรรม 12 • กิจกรรมฝกทักษะ 12 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 1.3 ม.3/1-11) 13 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 2 25 • แบบบันทึกผลการประเมิน 27 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัสดุในชีวิตประจําวัน 28 • กิจกรรมฝกทักษะ 28 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.1 ม.3/1-2) 29 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 3 31 • แบบบันทึกผลการประเมิน 33 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ปฏิกิริยาเคมี 34 • กิจกรรมฝกทักษะ 34 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.1 ม.3/3-8) 35 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 4 43 • แบบบันทึกผลการประเมิน 45 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 46 • กิจกรรมฝกทักษะ 46 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.3 ม.3/1-9) 47 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 5 57 • แบบบันทึกผลการประเมิน 59 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 คลื่น 60 • กิจกรรมฝกทักษะ 60 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.3 ม.3/10-12) 61 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 6 65 • แบบบันทึกผลการประเมิน 67 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 แสงและการมองเห็น 68 • กิจกรรมฝกทักษะ 68 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 2.3 ม.3/13-21) 69 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 7 81 • แบบบันทึกผลการประเมิน 83 หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ และเทคโนโลยีอวกาศ 84 • กิจกรรมฝกทักษะ 84 • กิจกรรมตามตัวชี้วัด (ว 3.1 ม.3/1-4) 85 • แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 8 90 • แบบบันทึกผลการประเมิน 92 แบบทดสอบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 93 สารบัญ ฉบับ เฉลย


หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการ ประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล 1 มฐ. ว 1.1 1. อธิบายปฏิสัมพันธขององคประกอบ ของระบบนิเวศที่ไดจากการสํารวจ ตรวจ ก. 1.1 • ก. 1.1 อธิบายปฏิสัมพันธของ องคประกอบของระบบนิเวศ ว 1.1 ม.3/1-6 2. อธิบายรูปแบบความสัมพันธระหวาง สิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบตาง ๆ ใน แหลงที่อยูเดียวกันที่ไดจากการสํารวจ ตรวจ ก. 1.2 • ก. 1.2 อธิบายรูปแบบความ สัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิต 3. สรางแบบจําลองในการอธิบายการ ถายทอดพลังงานในสายใยอาหาร ตรวจ ก. 1.3 • ก. 1.3 สรางแบบจําลองการ ถายทอดพลังงานในสายใยอาหาร 4. อธิบายความสัมพันธของผูผลิต ผูบริโภค และผูยอยสลายสารอินทรีย ในระบบนิเวศ ตรวจ ก. 1.4 • ก. 1.4 ตอบคําถามเกี่ยวกับกลุม สิ่งมีชีวิตแบงตามหนาที่ในระบบ นิเวศ 5. อธิบายการสะสมสารพิษในสิ่งมีชีวิตใน โซอาหาร ตรวจ ก. 1.5 • ก. 1.5 อธิบายการสะสมสารพิษ ในโซอาหาร 6. ตระหนักถึงความสัมพันธของสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศ โดยไม ทําลายสมดุลของระบบนิเวศ ตรวจ ก. 1.6 • ก. 1.6 ตอบคําถามเกี่ยวกับ ความสัมพันธของสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดลอมและสมดุลของระบบ นิเวศ 2 มฐ. ว 1.3 1. อธิบายความสัมพันธระหวางยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม โดยใชแบบ จําลอง ตรวจ ก. 2.1 • ก. 2.1 อธิบายความสัมพันธของ ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม ว 1.3 ม.3/1-11 2. อธิบายการถายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมจากการผสมโดยพิจารณา ลักษณะเดียวที่แอลลีลเดนขมแอลลีล ดอยอยางสมบูรณ ตรวจ ก. 2.2 • ก. 2.2 ตอบคําถามเกี่ยวกับการ ถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม จากการผสม 3. อธิบายการเกิดจีโนไทปและฟโนไทป ของลูก และคํานวณอัตราสวนการเกิด จีโนไทปและฟโนไทปของรุนลูก ตรวจ ก. 2.3 • ก. 2.3 เขียนแผนภาพและบอก อัตราสวนของจีโนไทปและฟโนไทป ของรุนลูก 4. อธิบายความแตกตางของการแบง เซลลแบบไมโทซิสและไมโอซิส ตรวจ ก. 2.4 • ก. 2.4 เปรียบเทียบความแตกตาง ของการแบงเซลลแบบไมโทซิสและ ไมโอซิส 5. บอกไดวาการเปลี่ยนแปลงของยีน หรือโครโมโซมอาจทําใหเกิดโรคทาง พันธุกรรม พรอมทั้งยกตัวอยางโรค ทางพันธุกรรม ตรวจ ก. 2.5 • ก. 2.5 ระบุโรคทางพันธุกรรม ความผิดปกติของโครโมโซม และลักษณะของผูปวยโรคทาง พันธุกรรม ตารางบันทึกผลการประเมินคุณภาพตามตัวชี้วัด ฉบับ เฉลย


หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล 2 มฐ. ว 1.3 6. ตระหนักถึงประโยชนของความรู เรื่องโรคทางพันธุกรรม โดยรูวา กอนแตงงานควรปรึกษาแพทยเพื่อ ตรวจและวินิจฉัยภาวะเสี่ยงของลูก ที่อาจเกิดโรคทางพันธุกรรม ตรวจ ก. 2.6 • ก. 2.6 ตอบคําถามเกี่ยวกับ ความรูเรื่องโรคทางพันธุรรม ที่สงผลตอรุนลูก 7. อธิบายการใชประโยชนจากสิ่งมีชีวิต ดัดแปรพันธุกรรม และผลกระทบ ที่อาจมีตอมนุษยและสิ่งแวดลอม โดยใชขอมูลที่รวบรวมได ตรวจ ก. 2.7 • ก. 2.7 อธิบายประโยชนและ ผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมที่อาจมีตอมนุษยและ สิ่งแวดลอม 8. ตระหนักถึงประโยชนและผลกระทบ ของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่ อาจมีตอมนุษยและสิ่งแวดลอม โดยการเผยแพรความรูที่ไดจากการ โตแยงทางวิทยาศาสตร ซึ่งมีขอมูล สนับสนุน ตรวจ ก. 2.8 • ก. 2.8 ตอบคําถามเกี่ยวกับ ประโยชนและผลกระทบของ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจ มีตอมนุษยและสิ่งแวดลอม 9. เปรียบเทียบความหลากหลายทาง ชีวภาพในระดับชนิดสิ่งมีชีวิตใน ระบบนิเวศตาง ๆ ตรวจ ก. 2.9 • ก. 2.9 ตอบคําถามเกี่ยวกับ ความหลากหลายทางชีวภาพ 10. อธิบายความสําคัญของความหลาก หลายทางชีวภาพที่มีตอการรักษา สมดุลของระบบนิเวศและตอมนุษย ตรวจ ก. 2.10 • ก. 2.10 อธิบายความสําคัญของ ความหลากหลายทางชีวภาพ 11. แสดงความตระหนักในคุณคาและ ความสําคัญของความหลากหลาย ทางชีวภาพ โดยมีสวนรวมในการ ดูแลรักษาความหลากหลายทาง ชีวภาพ ตรวจ ก. 2.11 • ก. 2.11 ระบุปญหาและวิธีการ ดูแลรักษาความหลากหลายทาง ชีวภาพ 3 มฐ. ว 2.1 1. ระบุสมบัติทางกายภาพและการใช ประโยชนวัสดุประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม โดยใช หลักฐานเชิงประจักษและ สารสนเทศ ตรวจ ก. 3.1 • ก. 3.1 บอกสมบัติทางกายภาพ และประโยชนของวัสดุประเภท พอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม ตรวจ ก. 3.2 • ก. 3.2 เลือกวัสดุใหเหมาะตอ การนําไปใช ว 2.1 ม.3/1-2 2. ตระหนักถึงคุณคาของการใชวัสดุ ประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุ ผสม โดยเสนอแนะแนวทางการใช วัสดุอยางประหยัดและคุมคา ตรวจ ก. 3.3 • ก. 3.3 ตอบคําถามเกี่ยวกับการใช วัสดุอยางประหยัดและคุมคา ฉบับ เฉลย


4 มฐ. ว 2.1 3. อธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมี รวมถึง การจัดเรียงตัวใหมของอะตอมเมื่อ เกิดปฏิกิริยาเคมี โดยใชแบบจําลอง และสมการขอความ ตรวจ ก. 4.1 • ก. 4.1 วาดแบบจําลองปฏิกิริยา เคมี ว 2.1 ม.3/3-8 ตรวจ ก. 4.2 • ก. 4.2 ดุลสมการเคมี 4. อธิบายกฎทรงมวล โดยใชหลักฐาน เชิงประจักษ ตรวจ ก. 4.3 • ก. 4.3 คํานวณหามวลของสารใน ปฏิกิริยาเคมี 5. วิเคราะหปฏิกิริยาดูดความรอน และ ปฏิกิริยาคายความรอน จากการ เปลี่ยนแปลง ตรวจ ก. 4.4 • ก. 4.4 ระบุปฏิกิริยาดูดความรอน และคายความรอน 6. อธิบายปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยา ของกรดกับเบส และปฏิกิริยาของเบส กับโลหะ โดยใชหลักฐานเชิงประจักษ และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม การ เกิดฝนกรด การสังเคราะหดวยแสง โดยใชสารสนเทศ รวมทั้งเขียนสมการ ขอความแสดงปฏิกิริยาดังกลาว ตรวจ ก. 4.5 • ก. 4.5 เขียนสมการเคมีและ อธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่พบ ในชีวิตประจําวัน 7. ระบุประโยชนและโทษของปฏิกิริยา เคมีที่มีตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม และยกตัวอยางวิธีการปองกันและ แกปญหาที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีที่ พบในชีวิตประจําวัน จากการสืบคน ขอมูล ตรวจ ก. 4.6 • ก. 4.6 ระบุประโยชนและโทษของ ปฏิกิริยาเคมีตอสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดลอม ตรวจ ก. 4.7 • ก. 4.7 ระบุโทษของปฏิกิริยาเคมี ตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอมและ วิธีปองกันหรือแกปญหา 8. ออกแบบวิธีแกปญหาในชีวิตประจําวัน โดยใชความรูเกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมี โดยบูรณาการวิทยาศาสตร คณิตศาสตร เทคโนโลยี และ วิศวกรรมศาสตร ตรวจ ก. 4.8 • ก. 4.8 ออกแบบชิ้นงานโดยใช ความรูเกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมี 5 มฐ. ว 2.3 1. วิเคราะหความสัมพันธระหวาง ความตางศักย กระแสไฟฟา และ ความตานทาน และคํานวณปริมาณ ที่เกี่ยวของโดยใชสมการ V = IR จากหลักฐานเชิงประจักษ ตรวจ ก. 5.1 • ก. 5.1 ตอบคําถามเกี่ยวกับความ สัมพันธระหวางความตางศักย กระแสไฟฟา และความตานทาน ว 2.3 ม.3/1-9 ตรวจ ก. 5.2 • ก. 5.2 คํานวณเกี่ยวกับความ ตางศักย กระแสไฟฟา และ ความตานทาน หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล ฉบับ เฉลย


5 มฐ. ว 2.3 2. เขียนกราฟความสัมพันธระหวาง กระแสไฟฟาและความตางศักยไฟฟา ตรวจ ก. 5.3 • ก. 5.3 เขียนกราฟและอธิบาย ความสัมพันธระหวางกระแส ไฟฟาและความตางศักยไฟฟา 3. ใชโวลตมิเตอร แอมมิเตอรในการวัด ปริมาณทางไฟฟา ตรวจ ก. 5.4 • ก. 5.4 เขียนแผนภาพวงจร ไฟฟาในการใชโวลตมิเตอรและ แอมมิเตอร 4. วิเคราะหความตางศักยไฟฟาและ กระแสไฟฟาในวงจรไฟฟาเมื่อตอ ตัวตานทานหลายตัวแบบอนุกรมและ แบบขนานจากหลักฐานเชิงประจักษ ตรวจ ก. 5.5 • ก. 5.5 ตอบคําถามและคํานวณ ปริมาณทางไฟฟาที่ตอตัว ตานทานหลายตัวแบบอนุกรม และแบบขนาน 5. เขียนแผนภาพวงจรไฟฟาแสดง การตอตัวตานทานแบบอนุกรม และขนาน ตรวจ ก. 5.6 • ก. 5.6 เขียนแผนภาพวงจรไฟฟา แสดงการตอตัวตานทานแบบ อนุกรมและขนาน 6. บรรยายการทํางานของชิ้นสวน อิเล็กทรอนิกสอยางงายในวงจรจาก ขอมูลที่รวบรวมได ตรวจ ก. 5.7 • ก. 5.7 บอกการทํางานของ ชิ้นสวนอิเล็กทรอนิกส 7. เขียนแผนภาพและตอชิ้นสวน อิเล็กทรอนิกสอยางงายในวงจร ไฟฟา ตรวจ ก. 5.8 • ก. 5.8 เขียนแผนภาพการตอ ชิ้นสวนอิเล็กทรอนิกสอยางงาย ในวงจรไฟฟา 8. อธิบายและคํานวณพลังงานไฟฟาโดย ใชสมการ W= Pt รวมทั้งคํานวณคา ไฟฟาของเครื่องใชไฟฟาในบาน ตรวจ ก. 5.9 • ก. 5.9 คํานวณพลังงานไฟฟา และคาไฟฟา 9. ตระหนักในคุณคาของการเลือกใช เครื่องใชไฟฟา โดยนําเสนอวิธีการ ใชเครื่องใชไฟฟาอยางประหยัดและ ปลอดภัย ตรวจ ก. 5.10 • ก. 5.10 ระบุวิธีการใชเครื่องใช ไฟฟาอยางประหยัดและปลอดภัย 6 มฐ. ว 2.3 10. สรางแบบจําลองที่อธิบายการเกิดคลื่น และบรรยายสวนประกอบของคลื่น ตรวจ ก. 6.1 • ก. 6.1 สรางแบบจําลองที่อธิบาย การเกิดคลื่น ว 2.3 ม.3/10-12 ตรวจ ก. 6.2 • ก. 6.2 ระบุปริมาณของ สวนประกอบของคลื่น 11. อธิบายคลื่นแมเหล็กไฟฟาและ สเปกตรัมคลื่นแมเหล็กไฟฟาจาก ขอมูลที่รวบรวมได ตรวจ ก. 6.3 • ก. 6.3 ตอบคําถามเกี่ยวกับ คลื่นแมเหล็กไฟฟา ตรวจ ก. 6.4 • ก. 6.4 เติมคําตอบเกี่ยวกับ สเปกตรัมคลื่นแมเหล็กไฟฟา หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล ฉบับ เฉลย


6 มฐ. ว 2.3 12. ตระหนักถึงประโยชนและอันตราย จากคลื่นแมเหล็กไฟฟา โดยนําเสนอ การใชประโยชนในดานตาง ๆ และ อันตรายจากคลื่นแมเหล็กไฟฟาใน ชีวิตประจําวัน ตรวจ ก. 6.5 • ก. 6.5 บอกประโยชนและอันตราย จากคลื่นแมเหล็กไฟฟา 7 มฐ. ว 2.3 13. ออกแบบการทดลองและดําเนินการ ทดลองดวยวิธีที่เหมาะสมในการ อธิบายกฎการสะทอนของแสง ตรวจ ก. 7.1 • ก. 7.1 ทําการทดลองเพื่ออธิบาย กฎการสะทอนของแสง ว 2.3 ม.3/13-21 14. เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพจากกระจกเงา ตรวจ ก. 7.2 • ก. 7.2 เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสง แสดงการเกิดภาพจาก กระจกเงา 15. อธิบายการหักเหของแสงเมื่อผาน ตัวกลางโปรงใสที่แตกตางกัน และ อธิบายการกระจายแสงของแสงขาว เมื่อผานปริซึมจากหลักฐาน เชิงประจักษ ตรวจ ก. 7.3 • ก. 7.3 ตอบคําถามเกี่ยวกับการ หักเหของแสงเมื่อผานตัวกลางที่ แตกตางกันและการกระจายแสง เมื่อผานปริซึม 16. เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพจากเลนสบาง ตรวจ ก. 7.4 • ก. 7.4 เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสงแสดงการเกิดภาพจาก เลนสเวาและเลนสนูน 17. อธิบายปรากฏการณที่เกี่ยวกับแสง และการทํางานของทัศนอุปกรณจาก ขอมูลที่รวบรวมได ตรวจ ก. 7.5 • ก. 7.5 อธิบายปรากฏการณที่ เกี่ยวกับแสง และการทํางานของ ทัศนอุปกรณ 18. เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพของทัศนอุปกรณ และเลนสตา ตรวจ ก. 7.6 • ก. 7.6 เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสง แสดงการเกิดภาพของ ทัศนอุปกรณและเลนสตา 19. อธิบายผลของความสวางที่มีตอ ดวงตาจากขอมูลที่ไดจากการสืบคน ตรวจ ก. 7.7 • ก. 7.7 วัดความสวางของแสง แลวระบุผลกระทบตอดวงตา 20. วัดความสวางของแสงโดยใชอุปกรณ วัดความสวางของแสง 21. ตระหนักในคุณคาของความรูเรื่อง ความสวางของแสงที่มีตอดวงตา โดยวิเคราะหสถานการณปญหา และเสนอแนะการจัดความสวางให เหมาะสมในการทํากิจกรรมตาง ๆ ตรวจ ก. 7.8 • ก. 7.8 ระบุความเหมาะสมของ ความสวางกับกิจกรรมตาง ๆ หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล ฉบับ เฉลย


หมายเหตุ 1. ใหผูสอนประเมินผลระดับคุณภาพตามตัวชี้วัดของหนวยการเรียนรู โดยนําคะแนนรวมทั้งหมดของทุกกิจกรรม ตามตัวชี้วัดในแบบบันทึกการประเมินของแตละหนวยการเรียนรูมาเปรียบเทียบกับเกณฑการตัดสินคุณภาพ ของตัวชี้วัดตามหนวยการเรียนรูแตละหนวยการเรียนรู 2. ใหผูสอนนําผลการประเมินระดับคุณภาพตามตัวชี้วัดของแตละหนวยการเรียนรูมาสรุปในตาราง โดยใส หมายเลขระดับคะแนน 1-4 (4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช 1 = ปรับปรุง) ลงในชองตามระดับ คุณภาพ 8 มฐ. ว 3.1 1. อธิบายการโคจรของดาวเคราะหรอบ ดวงอาทิตยดวยแรงโนมถวง จากสมการ F = Gm1 m2 r 2 ตรวจ ก. 8.1 • ก. 8.1 ตอบคําถามและคํานวณ เกี่ยวกับแรงโนมถวง ว 3.1 ม.3/1-4 2. สรางแบบจําลองที่อธิบายการเกิดฤดู และการเคลื่อนที่ปรากฏของ ดวงอาทิตย ตรวจ ก. 8.2 • ก. 8.2 ตอบคําถามเกี่ยวกับการ เกิดฤดูและการเคลื่อนที่ปรากฏ ของดวงอาทิตย 3. สรางแบบจําลองที่อธิบายการเกิด ขางขึ้นขางแรม การเปลี่ยนแปลง เวลาการขึ้นและตกของดวงจันทร และการเกิดนํ้าขึ้นนํ้าลง ตรวจ ก. 8.3 • ก. 8.3 วาดภาพดวงจันทรที่ สังเกตเห็นบนโลกเมื่อดวงจันทร มีตําแหนงที่แตกตางกัน ตรวจ ก. 8.4 • ก. 8.4 ตอบคําถามเกี่ยวกับนํ้าขึ้น นํ้าลง 4. อธิบายการใชประโยชนของเทคโนโลยี อวกาศ และยกตัวอยางความกาวหนา ของโครงการสํารวจอวกาศ จากขอมูล ที่รวบรวมได ตรวจ ก. 8.5 • ก. 8.5 อธิบายการใชประโยชน ของเทคโนโลยีอวกาศ ตรวจ ก. 8.6 • ก. 8.6 ยกตัวอยางความกาวหนา ของโครงการสํารวจอวกาศ หนวย การ เรียนรู มาตรฐาน การเรียนรู ตัวชี้วัด การวัดและประเมินผล สรุปผลการประเมิน ระดับคุณภาพ ตามตัวชี้วัด วิธีการ ประเมิน เครื่องมือ ประเมินผล ฉบับ เฉลย


การเรียนรู เรื่อง ระบบนิเวศ ทําใหเกิดความรูความเขาใจและสามารถอธิบายปฏิสัมพันธของ องคประกอบในระบบนิเวศ และรูปแบบความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบตางๆ ในแหลง ที่อยูเดียวกัน สามารถสรางแบบจําลองอธิบายการถายทอดพลังงานในสายใยอาหารและการสะสมสารพิษ ของสิ่งมีชีวิตในโซอาหาร รวมทั้งตระหนักถึงความสัมพันธของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศ โดยไมทําลายสมดุลของระบบนิเวศ ระบบนิเวศ กิจกรรมฝกทักษะ พิจารณาภาพ แลวจําแนกรูปแบบความสัมพันธของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ความสัมพันธแบบภาวะอิงอาศัย ไดแก ..................................................................................................................................................... ความสัมพันธแบบภาวะพึ่งพากัน ไดแก ................................................................................................................................................... ความสัมพันธแบบภาวะปรสิต ไดแก ........................................................................................................................................................... ความสัมพันธแบบภาวะเหยื่อกับผูลา ไดแก ......................................................................................................................................... เห็บกับสุนัข หมีกับปลา กบกับแมลง นกกับตนไม ปลาการตูนกับดอกไมทะเล ฉลามกับเหาฉลาม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 4 2 5 3 6 ฉบับ เฉลย ¹¡¡ÑºµŒ¹äÁŒ áÅЩÅÒÁ¡ÑºàËÒ©ÅÒÁ »ÅÒ¡Òϵٹ¡Ñº´Í¡äÁŒ·ÐàÅ àËçº¡ÑºÊØ¹Ñ¢ ¡º¡ÑºáÁŧ áÅÐËÁաѺ»ÅÒ 2 แบบวัดฯ


ดูภาพระบบนิเวศ แลวตอบคําถาม (ว 1.1 ม.3/1) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.1 8 กิจกรรมตามตัวชี้วัด 1. องคประกอบของระบบนิเวศที่พบในภาพ มีอะไรบาง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. จากภาพ ตนไมมีความสัมพันธกับสิ่งมีชีวิตอื่นอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. จากภาพ ยกตัวอยางความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไมมีชีวิต อยางนอย 3 ตัวอยาง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. ถานํ้าในแหลงนํ้าแหง ระบบนิเวศในภาพจะเปนอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ͧ¤»ÃСͺã¹ÀÒ¾ÁÕ·Ñé§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµáÅÐÊÔè§äÁ‹ÁÕªÕÇÔµ â´ÂÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ 䴌ᡋ µŒ¹äÁŒ µŒ¹ËÞŒÒ ÁŒÒÅÒ ÂÕÃÒ¿ ¡Ôé§¡‹Ò ªŒÒ§ ¹¡ ¨ÃÐࢌ ÊÔ§âµ ÎÔ»â»â»àµÁÑÊ áÅÐÊÔè§äÁ‹ÁÕªÕÇÔµ 䴌ᡋ áʧ ¹íéÒ ´Ô¹ ÍÒ¡ÒÈ ¡ŒÍ¹ËÔ¹ µŒ¹äÁŒÊÌҧÍÒ¡ÒÈ·Õè 㪌㹡ÒÃËÒÂ㨫Ö觨íÒ໚¹µ‹Í¡ÒôíÒçªÕÇÔµ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ໚¹áËÅ‹§ÍÒËÒà áÅÐáËÅ‹§·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑÂãËŒÊÔè§ÁÕªÕÇÔµµ‹Ò§ æ ઋ¹ ໚¹ÍÒËÒâͧÂÕÃÒ¿ ໚¹·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑ¢ͧ¹¡áÅÐ ¡Ôé§¡‹Ò 1) ¨ÃÐࢌ㪌áËÅ‹§¹íéÒ໚¹áËÅ‹§·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑÂáÅÐáËÅ‹§ÍÒËÒà 2) ªŒÒ§ãªŒáËÅ‹§¹íéÒ໚¹áËÅ‹§ÍÒËÒà 3) µŒ¹äÁŒãªŒ¹íéÒ áʧ áÅдԹ㹡ÒÃÊÌҧÍÒËÒà ¾×ª·Õè໚¹¼ÙŒ¼ÅÔµ¨ÐÅŒÁµÒÂà¹×èͧ¨Ò¡¢Ò´¹íéÒ·Õè 㪌㹡ÒÃÊÌҧÍÒËÒà ʋ§¼ÅãËŒÊѵǏ·ÕèºÃÔâÀ¤¾×ª ÁÕÍÒËÒùŒÍÂŧáÅÐÅ´¨íҹǹŧ «Ö觨ÐÊ‹§¼ÅãËŒ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÊѵǏÁÕÍÒËÒùŒÍÂŧµÒÁä»´ŒÇ ¨¹Ê‹§¼ÅãËŒÃкº¹ÔàÇÈàÊÕÂÊÁ´ØÅ (á¹Ç¤íҵͺ) 3 แบบวัดฯ


ยกตัวอยางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตที่มีรูปแบบความสัมพันธ ตามที่กําหนดให (ว 1.1 ม.3/2) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.2 8 1. ภาวะพึ่งพากัน สิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธแบบภาวะพึ่งพากัน คือ ............................................................................................................... โดย ....................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เครื่องหมายแสดงความสัมพันธ คือ ................................................................................................................................................... เครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………. และเครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………… 2. ภาวะปรสิต สิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธแบบภาวะปรสิต คือ ........................................................................................................................ โดย ....................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เครื่องหมายแสดงความสัมพันธ คือ ................................................................................................................................................... เครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………. และเครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………… 3. ภาวะอิงอาศัย สิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธแบบภาวะอิงอาศัย คือ ................................................................................................................. โดย ....................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เครื่องหมายแสดงความสัมพันธ คือ ................................................................................................................................................... เครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………. และเครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………… 4. ภาวะเหยื่อกับผูลา สิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธแบบภาวะเหยื่อกับผูลา คือ ...................................................................................................... โดย ....................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เครื่องหมายแสดงความสัมพันธ คือ ................................................................................................................................................... เครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………. และเครื่องหมาย …………………. แทน ……………………………… ฉบับ เฉลย (á¹Ç¤íҵͺ) ÊÒËËÒ¡ѺÃÒ ÊÒËËÒ¡ѺÃÒÍÒÈÑÂÍÂًËÇÁ¡Ñ¹áÅÐäÁ‹ÊÒÁÒöá¡ÍÍ¡¨Ò¡¡Ñ¹ä´Œ àÃÕÂ¡Ç‹Ò äÅह à¾ÃÒÐ ÊÒËËÒµŒÍ§ÍÒÈѤÇÒÁª×鹨ҡÃÒ áÅÐÃÒµŒÍ§ÍÒÈÑÂÍÒËÒ÷ÕèÊÒËËÒÂÊÌҧ¢Öé¹à¾×èÍ㪌㹡ÒôíÒçªÕÇÔµ (+, +) + ÊÒËËÒ + ÃÒ ¡Ò½Ò¡¡ÑºµŒ¹ÁÐÁ‹Ç§ ¡Ò½Ò¡¨Ð´Ù´¡Ô¹¹íéÒáÅÐÍÒËÒèҡµŒ¹ÁÐÁ‹Ç§ ʋǹµŒ¹ÁÐÁ‹Ç§¨Ð¶Ù¡¡Ò½Ò¡´Ù´¡Ô¹¹íéÒáÅÐ ÍÒËÒà (+, -) + ¡Ò½Ò¡ - µŒ¹ÁÐÁ‹Ç§ ¹¡¡ÑºµŒ¹äÁŒ ¹¡ä´Œ»ÃÐ⪹¨Ò¡µŒ¹äÁŒà»š¹áËÅ‹§·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑÂËÃ×ÍàÅÕé§´ÙÅ١͋͹ ʋǹµŒ¹äÁŒäÁ‹ä´ŒáÅÐ äÁ‹àÊÕ»ÃÐ⪹¨Ò¡¡Ò÷Õ蹡ÁÒÍÒÈÑÂÍÂÙ‹ (+, 0) + ¹¡ 0 µŒ¹äÁŒ ÊԧⵡѺ¡ÇÒ§ ÊÔ§âµà»š¹¼ÙŒÅ‹ÒËÃ×ͼٌ䴌»ÃÐ⪹ ¤×Í ä´ŒÃѺÍÒËÒÃ㹡ÒôíÒçªÕÇÔµ ʋǹ¡Çҧ໚¹àËÂ×èÍ ËÃ×ͼٌàÊÕ»ÃÐ⪹ ¤×Í àÊÕªÕÇÔµ¨Ò¡¡ÒÃ¶Ù¡Å‹Ò (+, -) + ÊÔ§âµ - ¡ÇÒ§ 4 แบบวัดฯ


ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.3 10 วาดแบบจําลองการถายทอดพลังงานในสายใยอาหาร พรอมระบุโซอาหารในสายใยอาหาร (ว 1.1 ม.3/3) มีโซอาหารทั้งหมด …………………. สาย ไดแก ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... แมว นกฮูก เสือ กบ งูเขียว ตั๊กแตน หนู (วาดแบบจําลอง) ตนขาว ฉบับ เฉลย 1. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ ˹٠➞ áÁÇ 2. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ ˹٠➞ àÊ×Í 3. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ ˹٠➞ ¹¡ÎÙ¡ 4. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ ˹٠➞ §Ùà¢ÕÂÇ ➞ ¹¡ÎÙ¡ 5. µŒ¹¢ŒÒÇ ➞ µÑê¡áµ¹ ➞ ¡º ➞ §Ùà¢ÕÂÇ ➞ ¹¡ÎÙ¡ 5 (á¹Ç¤íҵͺ) (วาดแบบจําลอง) นกฮูก เสือ งูเขียว แมว หนู ตนขาว ตั๊กแตน กบ 5 แบบวัดฯ


18 ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.4 10 ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.1 ม.3/4) 1. ถาแบงกลุมสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศแหงหนึ่งตามบทบาทหนาที่ จะแบงไดกี่กลุม อะไรบาง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. จากขอ 1. กลุมสิ่งมีชีวิตแตละกลุมมีความสัมพันธกันอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. บีมสํารวจระบบนิเวศแหงหนึ่ง พบสิ่งมีชีวิต ไดแก หญา กระตาย หนอนผีเสื้อ สุนัขจิ้งจอก นกเขา และแบคทีเรีย 1) บีมจะจําแนกกลุมสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศที่พบตามบทบาทหนาที่ไดอยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) ถาหญามีจํานวนนอยลง จะสงผลกระทบตอหนอนผีเสื้อและกระตายอยางไร เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3) แบคทีเรียมีบทบาทสําคัญอยางไรในระบบนิเวศ .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ẋ§ä´Œ 3 ¡ÅØ‹Á 䴌ᡋ ¼ÙŒ¼ÅÔµ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ áÅмٌ‹ÍÂÊÅÒÂÊÒÃÍÔ¹·ÃՏ ¼ÙŒ¼ÅÔµ ໚¹ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·ÕèÊÌҧÍÒËÒÃä´Œàͧ ʋǹ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ ໚¹ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·Õè äÁ‹ÊÒÁÒöÊÌҧÍÒËÒà àͧ䴌 ¨Ö§µŒÍ§¡Ô¹¼ÙŒ¼ÅÔµËÃ×ÍÊÔè§ÁÕªÕÇÔµÍ×è¹à»š¹ÍÒËÒà áÅÐàÁ×èͼٌ¼ÅÔµËÃ×ͼٌºÃÔâÀ¤µÒ «Ò¡µ‹Ò§ æ ¨Ð¶Ù¡¼ÙŒÂ‹ÍÂÊÅÒÂÊÒÃÍÔ¹·ÃՏ·íÒ¡ÒËÍÂÊÅÒ â´Âà»ÅÕ蹨ҡÊÒÃÍÔ¹·ÃՏ໚¹ÊÒÃ͹Թ·ÃՏ áÅСÅѺ¤×¹ÊÙ‹ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ ¼ÙŒ¼ÅÔµ 䴌ᡋ ËÞŒÒ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ 䴌ᡋ ¡Ãе‹Ò ˹͹¼ÕàÊ×éÍ ÊØ¹Ñ¢¨Ô駨͡ áÅй¡à¢Ò ¼ÙŒÂ‹ÍÂÊÅÒÂÊÒÃÍÔ¹·ÃՏ 䴌ᡋ Ấ·ÕàÃÕ ¶ŒÒËÞŒÒÁÕ¨íҹǹ¹ŒÍÂŧ ˹͹¼ÕàÊ×éÍáÅСÃе‹Ò¨ÐÁÕ¨íҹǹ¹ŒÍÂŧ´ŒÇ à¾ÃÒÐËÞŒÒ໚¹ ¼ÙŒ¼ÅÔµ«Öè§à»š¹ÍÒËÒâͧ˹͹¼ÕàÊ×éÍáÅСÃе‹Ò àÁ×èÍÍÒËÒùŒÍÂŧ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ¶Ñ´ä» ¨Ð¢Ò´ÍÒËÒÃáÅÐÁÕ¨íҹǹ¹ŒÍÂŧµÒÁä»´ŒÇ ª‹ÇÂÅ´»ÃÔÁÒ³«Ò¡¾×ª«Ò¡ÊѵǏäÁ‹ãËŒÁÕ»ÃÔÁÒ³ÁÒ¡à¡Ô¹ä» áÅÐÊÌҧÊÒÃÍÒËÒÃãËŒ¡Ñº¼ÙŒ¼ÅÔµ â´Â¡ÒÃà»ÅÕ蹫ҡ¾×ª«Ò¡ÊѵǏ¨Ò¡ÊÒÃÍÔ¹·ÃՏ¡ÅÒÂ໚¹ÊÒÃ͹Թ·ÃՏ 6 แบบวัดฯ


ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.5 6 พิจารณาโซอาหาร แลวปฏิบัติกิจกรรมตอไปนี้ (ว 1.1 ม.3/5) 1. ระบุบทบาทของสิ่งมีชีวิตในโซอาหาร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. อธิบายความรูเกี่ยวกับปริมาณสารพิษสะสมในโซอาหาร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. เรียงลําดับสิ่งมีชีวิตในโซอาหารที่มีปริมาณสารพิษสะสมจากมากไปนอย ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... เหยี่ยว งู ไก หนอน ตนสม ฉบับ เฉลย µŒ¹ÊŒÁ ໚¹¼ÙŒ¼ÅÔµ ˹͹ ໚¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ·Õè 1 ä¡‹ ໚¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ·Õè 2 §Ù ໚¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ ÅíҴѺ·Õè 3 áÅÐàËÂÕèÂÇ à»š¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ·Õè 4 ËÃ×ͼٌºÃÔâÀ¤ÅíÒ´ÑºÊØ´·ŒÒ »ÃÔÁÒ³ÊÒþÔÉ·ÕèÊÐÊÁã¹â«‹ÍÒËÒèÐà¾ÔèÁ¢Öé¹ä»·ÕÅТÑé¹µÒÁÅíҴѺ¢Í§¼ÙŒºÃÔâÀ¤·ÕèÊÙ§¢Öé¹ áÅШРÊÐÊÁÁÒ¡·ÕèÊØ´ã¹¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíÒ´ÑºÊØ´·ŒÒ àËÂÕèÂÇ > §Ù > ä¡‹ > ˹͹ > µŒ¹ÊŒÁ 7 แบบวัดฯ


18 ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 1.6 8 ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.1 ม.3/6) 1. สภาวะสมดุลของระบบนิเวศคืออะไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ภาวะโลกรอนในปจจุบันสงผลตอระบบนิเวศของโลกหรือไม อยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. ระบบนิเวศใตนํ้าแหงหนึ่งมีสาหรายและแพลงกตอนพืช เปนผูผลิต ปลาเล็ก เปนผูบริโภคลําดับที่ 1 และปลาใหญ เปนผูบริโภคลําดับที่ 2 ยกตัวอยางปจจัยที่ทําใหสมดุลของระบบนิเวศใตนํ้า แหงนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. เพราะเหตุใด จึงควรรณรงคยกเลิกคานิยมการลาสัตวปาเพื่อความสนุกสนาน โดยใหเหตุผล เกี่ยวกับความสมดุลของระบบนิเวศ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÊÀÒÇÐÊÁ´ØÅ¢Í§Ãкº¹ÔàÇÈ ¤×Í ÊÀÒÇзÕèÃкº¹ÔàÇÈÁÕ¡Ãкǹ¡Òö‹Ò·ʹ¾Åѧ§Ò¹áÅÐ ¡ÒÃËÁعàÇÕ¹ÊÒÃà¡Ô´¢Ö鹾ÌÍÁ¡Ñ¹ â´Âͧ¤»ÃСͺ·Õè äÁ‹ÁÕªÕÇÔµáÅÐͧ¤»ÃСͺ·ÕèÁÕªÕÇÔµ ÁÕ¤ÇÒÁÊÑÁ¾Ñ¹¸¡Ñ¹Í‹ҧàËÁÒÐÊÁáÅÐä´ŒÃѺ¾Åѧ§Ò¹Í‹ҧà¾Õ§¾Í Ê‹§¼Åµ‹ÍÃкº¹ÔàÇȢͧâÅ¡ à¹×èͧ¨Ò¡ÍسËÀÙÁÔ໚¹»˜¨¨Ñ·Õè¤Çº¤ØÁ¡ÒÃà¨ÃÔÞàµÔºâµ ¡ÒÃÊ׺¾Ñ¹¸Ø áÅСÒÃá¾Ã‹¡ÃШÒ¢ͧÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ÃÇÁ·Ñé§Ê‹§¼Åµ‹Í¡ÒûÃѺµÑÇ´ŒÒ¹â¤Ã§ÊÌҧáÅоĵԡÃÃÁ ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ àÁ×èÍâÅ¡ÁÕÍØ³ËÀÙÁÔÊÙ§¢Öé¹ ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ¨Ðà¡Ô´¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§¨¹Ê‹§¼Åµ‹ÍÃкº¹ÔàÇÈ áʧÊNjҧ ËÒ¡áʧÊNjҧ·Õèʋͧä»Âѧ㵌¹íéÒÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§ ÍҨʋ§¼ÅãËŒÊÒËËÒÂáÅÐ á¾Å§¡µÍ¹¾×ª«Öè§à»š¹¼ÙŒ¼ÅÔµäÁ‹à¡Ô´¡Ãкǹ¡ÒÃÊѧà¤ÃÒÐˏ´ŒÇÂáʧ¨¹¢Ò´ÍÒËÒÃáÅеÒ ʋ§¼Å ãËŒ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ¶Ñ´ä»¢Ò´ÍÒËÒÃáÅеÒÂŧ µÒÁÅíҴѺ ¨¹Ãкº¹ÔàÇÈàÊÕÂÊÁ´ØÅ ¡ÒÃÅ‹ÒÊѵǏ»†Ò·íÒãËŒÊѵǏ»†ÒÁÕ¨íҹǹŴ¹ŒÍÂŧáÅÐÍҨ໚¹¡Ò÷íÒÅÒÂÊÁ´ØÅ¢Í§Ãкº¹ÔàÇÈ à¹×èͧ¨Ò¡ÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§¨íҹǹ¢Í§¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺµ‹Ò§ æ ઋ¹ ¡ÒÃÅ‹ÒàÊ×Í ·íÒãËŒàÊ×ÍÁÕ¨íҹǹ ¹ŒÍÂŧ àÁ×èͼٌºÃÔâÀ¤ÅíҴѺÊÙ§ÊØ´Å´¨íҹǹŧ »ÃÔÁÒ³¢Í§¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ¡‹Í¹Ë¹ŒÒ¨Ðà¾ÔèÁÁÒ¡¢Öé¹ ¨¹Ãкº¹ÔàÇÈàÊÕÂÊÁ´ØÅ (á¹Ç¤íҵͺ) 8 แบบวัดฯ


ไดคะแนน คะแนนเต็ม 10 แบบทดสอบ ประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. ขอใดเปนองคประกอบที่มีชีวิตโดยแบงตามบทบาทหนาที่ในระบบนิเวศ 1. นํ้า อากาศ และแรธาตุ 2. สิ่งมีชีวิตและแหลงที่อยูอาศัย 3. โซอาหารและสายใยอาหาร 4. ผูผลิต ผูบริโภค และผูยอยสลายสารอินทรีย 2. จุลินทรียมีบทบาทใดในโซอาหาร 1. เปนผูผลิต 2. เปนผูลา 3. เปนผูบริโภค 4. เปนผูยอยสลายสารอินทรีย 3. ขอใดมีความสัมพันธแบบเดียวกับความสัมพันธระหวางกาฝากกับตนไมใหญ 1. นกทํารังบนตนไม 2. กลวยไมกับตนจามจุรี 3. พยาธิใบไมในลําไสคน 4. ปูเสฉวนกับดอกไมทะเล 4. นักเดินปาคนหนึ่งสํารวจระบบนิเวศบริเวณพื้นของปาดิบชื้น พบสิ่งมีชีวิต ไดแก ทาก ตะไครนํ้า กบ และเห็ดรา ขอใดเปนผูผลิตในระบบนิเวศนี้ 1. กบ 2. ทาก 3. เห็ดรา 4. ตะไครนํ้า 5. ขอใดไมสามารถเปนผูบริโภคลําดับที่ 2 ในโซอาหารได 1. วัว มา ควาย 2. หนู สิงโต จิ้งจก 3. เสือ สุนัข นกฮูก 4. กบ มนุษย เหยี่ยว 6. ขอใดเปนความสัมพันธของสิ่งมีชีวิตในรูปโซอาหารของหนอน นอยหนา งู เหยี่ยว และนก 1. หนอน นก นอยหนา งู เหยี่ยว 2. เหยี่ยว งู นก หนอน นอยหนา 3. นอยหนา หนอน นก งู เหยี่ยว 4. นอยหนา นก งู เหยี่ยว หนอน 7. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการถายทอดพลังงาน 1. พืชบางชนิดอาจเปนทั้งผูผลิตและผูบริโภค 2. ปริมาณสารพิษที่ถายทอดจะลดลงไปตามลําดับผูบริโภคที่สูงขึ้น 3. สายใยอาหารยิ่งมีความซับซอนมาก แสดงวา ระบบนิเวศนั้นมีความสมดุลมาก 4. แบคทีเรียมีบทบาทในการยอยสลายสารอินทรียและเปนสวนหนึ่งในการถายทอดพลังงาน ฉบับ เฉลย 9 แบบวัดฯ


8. จากโซอาหารตอไปนี้ ขอใดกลาวถูกตอง ผูผลิต ผูบริโภคลําดับที่ 1 ผูบริโภคลําดับที่ 2 ผูบริโภคลําดับที่ 3 1. ปริมาณ A คือ ปริมาณสารพิษสะสม และปริมาณ B คือ ปริมาณพลังงานที่ไดรับการ ถายทอด 2. ปริมาณ A คือ ปริมาณพลังงานที่ไดรับการถายทอด และปริมาณ B คือ ปริมาณ สารพิษสะสม 3. ปริมาณ A คือ ปริมาณสารอาหารที่ตองไดรับในแตละวัน และปริมาณ B คือ ปริมาณ ออกซิเจนที่ตองใชในการหายใจตอวัน 4. ปริมาณ A คือ ปริมาณออกซิเจนที่ตองใชในการหายใจตอวัน และปริมาณ B คือ ปริมาณ สารอาหารที่ตองไดรับในแตละวัน 9. ถาสิ่งมีชีวิต B มีจํานวนลดลงอยางรวดเร็ว จะเกิดเหตุการณใดในโซอาหารตอไปนี้ ผูผลิต สิ่งมีชีวิต A สิ่งมีชีวิต B สิ่งมีชีวิต C 1. ผูผลิตมีจํานวนเพิ่มขึ้น 2. ผูผลิตมีจํานวนเทาเดิม 3. สิ่งมีชีวิต A มีจํานวนลดลง 4. สิ่งมีชีวิต C มีจํานวนลดลง 10. ขอใดไมใชผลกระทบตอระบบนิเวศ เมื่อมีการทิ้งสารพิษที่ไมมีสี ไมมีกลิ่นลงในลําคลอง จนทําใหนํ้าในลําคลองจากที่มีสภาพเปนกลางเปลี่ยนเปนนํ้าที่มีสภาพเปนเบส 1. ระบบนิเวศขาดความสมดุล 2. พืชในนํ้าเจริญเติบโตไดนอยลง 3. พืชขาดแสงอาทิตยในการสรางอาหาร 4. ปลาใหญในคลองจะมีสารพิษสะสมมากขึ้น มากที่สุด ปริมาณ A นอยที่สุด นอยที่สุด ปริมาณ B มากที่สุด ฉบับ เฉลย 10 แบบวัดฯ


เกณฑการประเมิน ผาน ไดคะแนนครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม ไมผาน ไดคะแนนไมถึงครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม เกณฑการตัดสินระดับคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคะแนน ระดับคุณภาพ 84-100 4 ดีมาก 67-83 3 ดี 50-66 2 พอใช ตํ่ากวา 50 1 ปรับปรุง แบบบันทึกผลการประเมิน เครื่องมือวัดและแสดงผลการเรียน คะแนน ผลการประเมิน เต็ม ได ผาน ไมผาน ว 1.1 ม.3/1 กิจกรรมที่ 1.1 8 ม.3/2 กิจกรรมที่ 1.2 8 ม.3/3 กิจกรรมที่ 1.3 10 ม.3/4 กิจกรรมที่ 1.4 10 ม.3/5 กิจกรรมที่ 1.5 6 ม.3/6 กิจกรรมที่ 1.6 8 คะแนนรวมทั้งหมด 50 แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 10 กิจกรรมตามตัวชี้วัด ฉบับ เฉลย 11 แบบวัดฯ


การเรียนรู เรื่อง พันธุกรรม ทําใหเกิดความรูความเขาใจความสัมพันธของยีน ดีเอ็นเอ โครโมโซม การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเกิดจีโนไทปและฟโนไทปของลูก ความแตกตางของ การแบงเซลลแบบไมโทซิสและไมโอซิส การใชประโยชนจากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และความสําคัญ ของความหลากหลายทางชีวภาพที่มีตอการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและมนุษย รวมทั้งตระหนักถึง ประโยชนและผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจมีผลตอมนุษยและสิ่งแวดลอม พันธุกรรม กิจกรรมฝกทักษะ เลือกคําตอไปนี้เติมลงในชองวาง 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ กลุมอาการพาทัว ไมโอซิส โรคผิวเผือก ไมโทซิส ยีน ฟโนไทป จีเอ็มโอ จีโนไทป กลุมอาการดาวน เมทาเฟส 1. ............................................... คือ ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่แสดงออก 2. ............................................... เปนการแบงนิวเคลียสเพื่อเพิ่มปริมาณเซลลภายในรางกายของสิ่งมีชีวิต 3. ............................................... คือ หนวยพันธุกรรมที่ควบคุมลักษณะที่สามารถถายทอดจากพอแมไปยัง รุนตอไปได 4. ............................................... เปนการแบงนิวเคลียสเพื่อลดจํานวนโครโมโซมลงครึ่งหนึ่งเพื่อสรางเซลล สืบพันธุ 5. ............................................... คือ สิ่งมีชีวิตที่ผานการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมดวยพันธุวิศวกรรมเพื่อนํามา ใชประโยชนในดานตาง ๆ 6. ............................................... เกิดจากโครโมโซมคูที่ 21 เกินมา 1 แทง ทําใหเด็กเกิดมามีคอสั้น กวาง ตาหาง หางตาชี้ขึ้นฟา และปญญาออน 7. ............................................... เปนความผิดปกติของแอลลีลดอยที่ควบคุมการสรางเม็ดสีเมลานินในรางกาย ทําใหมีผิวสีขาวซีด ผมสีขาว ตาสีขาว รางกายออนแอ ติดเชื้องายกวา คนทั่วไป ฉบับ เฉลย ¿‚â¹ä·»Š äÁâ·«ÔÊ ÂÕ¹ äÁâÍ«ÔÊ ¨ÕàÍçÁâÍ ¡ÅØ‹ÁÍÒ¡ÒôÒǹ âä¼ÔÇà¼×Í¡ 12 แบบวัดฯ


พิจารณาภาพ แลวระบุชื่อโครงสรางพื้นฐานของ โครโมโซมลงในชองวาง และปฏิบัติกิจกรรมตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/1) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.1 8 กิจกรรมตามตัวชี้วัด 1. อธิบายความสัมพันธของยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. อธิบายความสัมพันธของฮอมอโลกัสโครโมโซม ยีน และแอลลีล ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ฉบับ เฉลย â¤ÃâÁâ«Á໚¹Ê‹Ç¹Ë¹Ö觢ͧ¹ÔÇà¤ÅÕÂÊã¹à«Åŏ à¡Ô´¨Ò¡¡Òⴾѹ¡Ñ¹ÃÐËNjҧ´ÕàÍç¹àÍáÅÐâ»ÃµÕ¹ àÊŒ¹ÂÒÇ â´Â¾Ñ¹¢´¡Ñ¹ËÅÒÂÃдѺ¨¹¡ÅÒÂ໚¹á·‹§â¤ÃâÁâ«Á «Öè§´ÕàÍç¹àÍ໚¹ÊÒþѹ¸Ø¡ÃÃÁ ·Õè¡íÒ˹´Åѡɳзҧ¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ᵋÅЪ‹Ç§¤ÇÒÁÂÒǢͧ´ÕàÍç¹àÍ ¤×Í Ë¹‹Ç ¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ ËÃ×Í ÂÕ¹ «Öè§à»š¹¢ŒÍÁÙÅ·Ò§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ·ÕèÁռŵ‹ÍÅѡɳзҧ¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ÎÍÁÍâÅ¡ÑÊâ¤ÃâÁâ«Á໚¹¤Ù‹â¤ÃâÁâ«Á·ÕèÁÕ¢¹Ò´àËÁ×͹¡Ñ¹áÅÐÁÕ¡ÒèѴàÃÕ§ÂÕ¹µÃ§¡Ñ¹ â´Â ÂÕ¹·ÕèÍÂÙ‹º¹ÎÍÁÍâÅ¡ÑÊâ¤ÃâÁâ«ÁÍÒ¨ÁÕÃٻẺ·ÕèàËÁ×͹¡Ñ¹ËÃ×Íᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ àÃÕ¡ÃٻẺ ¢Í§ÂÕ¹Ç‹Ò áÍÅÅÕÅ ´ÕàÍç¹àÍ ¡ŒÍ¹â»ÃµÕ¹ ÂÕ¹ à«Åŏ ¹ÔÇà¤ÅÕÂÊ â¤ÃâÁâ«Á 13 แบบวัดฯ


พิจารณาขอมูลที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/2) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.2 12 1. ไตฝุนเปนแมวขนสีเทาและมีจีโนไทปแบบ kk และไขเจียวเปนแมวขนสีสมและมีจีโนไทปแบบ KK (กําหนดให K แทนแอลลีลเดนที่ควบคุมขนสีสม และ k แทนแอลลีลดอยที่ควบคุมขนสีเทา โดยที่แอลลีลเดนขมแอลลีลดอยสมบูรณ) 1) ถาไตฝุนผสมพันธุกับไขเจียว มีลูก 6 ตัว เปนลูกแมวขนสีสมทั้งหมด ลูกแมวแตละตัวมี จีโนไทปแบบใด เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) จากขอ 1) เพราะเหตุใด ลูกแมวทั้ง 6 ตัว จึงมีขนสีสมทั้งหมด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3) ถาไตฝุนและไขเจียวผสมพันธุกันอีกครั้ง ลูกแมวครอกตอไปมีโอกาสที่จะมีขนสีเทาหรือไม เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2. วีระและวารีแตงงานกัน โดยทั้งคูมีลักยิ้มแบบพันทางทั้งคู (กําหนดให D แทนแอลลีลเดนที่ ควบคุมการมีลักยิ้ม และ d แทนแอลลีลดอยที่ควบคุมการไมมีลักยิ้ม โดยที่แอลลีลเดนขม แอลลีลดอยสมบูรณ) 1) วีระและวารีมีจีโนไทปแบบใด เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) จากขอ 1) ลูกของวีระและวารีมีโอกาสที่จะไมมีลักยิ้มหรือไม เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3) ถาวีระมีลักยิ้มแบบพันธุแท ลูกของวีระและวารีมีโอกาสที่จะไมมีลักยิ้มหรือไม เพราะเหตุใด .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÅÙ¡áÁÇ·Ñé§ 6 µÑÇ ÁÕ¨Õâ¹ä·»Šáºº Kk à¾ÃÒÐä´ŒáÍÅÅÕÅà´‹¹ (K) ÁҨҡ䢋à¨ÕÂÇ áÅÐä´Œ áÍÅÅÕÅ´ŒÍ (k) ÁҨҡ䵌½Ø†¹ áÍÅÅÕÅà´‹¹·Õè¤Çº¤ØÁ¢¹ÊÕÊŒÁ¢‹ÁáÍÅÅÕÅ´ŒÍ·Õè¤Çº¤ØÁ¢¹ÊÕà·ÒÍ‹ҧÊÁºÙó äÁ‹ÁÕâÍ¡ÒÊ à¾ÃÒÐÅÙ¡áÁÇ·Ø¡µÑÇä´ŒÃѺáÍÅÅÕÅà´‹¹·Õè¤Çº¤ØÁ¢¹ÊÕÊŒÁ¨Ò¡ä¢‹à¨ÕÂÇ ·íÒãËŒáÍÅÅÕÅ ´ŒÍ·Õè¤Çº¤ØÁ¢¹ÊÕà·Òâ´¹áÍÅÅÕÅà´‹¹¢‹ÁäÇŒ Dd à¾ÃÒÐ໚¹¾Ñ¹·Ò§·Ñ駤ً ¨Ö§ÁÕáÍÅÅÕÅà´‹¹áÅÐáÍÅÅÕÅ´ŒÍ â´ÂáÍÅÅÕÅà´‹¹¢‹ÁáÍÅÅÕÅ ´ŒÍ ÁÕâÍ¡ÒÊ à¾ÃÒо‹ÍáÅÐáÁ‹ÁÕ¨Õâ¹ä·»Šáºº Dd ·íÒãËŒÅÙ¡ÁÕâÍ¡ÒÊ·Õè¨Ðä´ŒÃѺáÍÅÅÕÅ´ŒÍ¢ͧ ¾‹ÍáÅÐáÁ‹ÁÒ·Ñ駤ً ·íÒãËŒäÁ‹ÁÕáÍÅÅÕÅà´‹¹·Õè¤Çº¤ØÁ¡ÒÃÁÕÅÑ¡ÂÔéÁÁÒ¢‹ÁáÍÅÅÕÅ´ŒÍ äÁ‹ÁÕâÍ¡ÒÊ à¾ÃÒÐÅÙ¡¨Ðä´ŒÃѺáÍÅÅÕÅà´‹¹¢Í§ÇÕÃÐáÅТ‹ÁáÍÅÅÕÅ´ŒÍ·Õèä´ŒÃѺÁÒ¨Ò¡ÇÒÃÕ ·íÒãËŒÅÙ¡·Ø¡¤¹ÁÕÅÑ¡ÂÔéÁ 14 แบบวัดฯ


พิจารณาขอมูลที่กําหนดให แลวเขียนแผนภาพเพื่อหา จีโนไทปและฟโนไทปของรุนลูก พรอมทั้งบอกอัตราสวน ของฟโนไทปและจีโนไทป (ว 1.3 ม.3/3) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.3 8 1. ชบาดอกสีแดงผสมพันธุกับชบาดอกสีเหลือง (กําหนดให F แทนแอลลีลเดนที่ควบคุมดอกสีแดง และ f แทนแอลลีลดอยที่ควบคุมดอกสีเหลือง โดยที่แอลลีลเดนขมแอลลีลดอยอยางสมบูรณ) 2. กระตายขนสีขาวผสมพันธุกัน (กําหนดให R แทนแอลลีลเดนที่ควบคุมขนสีขาว และ r แทน แอลลีลดอยที่ควบคุมขนสีดํา โดยที่แอลลีลเดนขมแอลลีลดอยอยางสมบูรณ) อัตราสวนของจีโนไทปแบบ ........................................................................................... เทากับ .......................................................... อัตราสวนฟโนไทปของ ...................................................................................................... เทากับ .......................................................... ชบาดอกสีแดง (Ff) กระตายขนสีขาว (Rr) ชบาดอกสีเหลือง (ff) กระตายขนสีขาว (Rr) อัตราสวนของจีโนไทปแบบ ........................................................................................... เทากับ .......................................................... อัตราสวนฟโนไทปของ ...................................................................................................... เทากับ .......................................................... ฉบับ เฉลย Ff ´Í¡ÊÕá´§ Ff : ff 1 : 1 ´Í¡ÊÕá´§ : ´Í¡ÊÕàËÅ×ͧ 1 : 1 RR : Rr : rr 1 : 2 : 1 ¢¹ÊÕ¢ÒÇ : ¢¹ÊÕ´íÒ 3 : 1 RR ¢¹ÊÕ¢ÒÇ F R f r f R f r Ff ´Í¡ÊÕá´§ Rr ¢¹ÊÕ¢ÒÇ ff ´Í¡ÊÕàËÅ×ͧ Rr ¢¹ÊÕ¢ÒÇ ff ´Í¡ÊÕàËÅ×ͧ rr ¢¹ÊÕ´íÒ à«ÅŏÊ׺¾Ñ¹¸Ø ¨Õâ¹ä·»ŠÃØ‹¹ÅÙ¡ ¿‚â¹ä·»ŠÃØ‹¹ÅÙ¡ à«ÅŏÊ׺¾Ñ¹¸Ø ¨Õâ¹ä·»ŠÃØ‹¹ÅÙ¡ ¿‚â¹ä·»ŠÃØ‹¹ÅÙ¡ 15 แบบวัดฯ


หัวขอ แผนภาพที่ 1 แผนภาพที่ 2 1. รูปแบบการแบงเซลล ................................................................... ................................................................... 2. ชนิดของเซลล ................................................................... ................................................................... 3. จุดประสงคในการแบงเซลล ................................................................... ................................................................... 4. ผลที่ไดจากการแบงเซลล 1 เซลล ................................................................... ................................................................... 5. ลักษณะของเซลลใหมเมื่อเทียบกับ เซลลตั้งตน ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... 6. จํานวนโครโมโซมของเซลลใหม เมื่อเทียบกับเซลลตั้งตน ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... พิจารณาแผนภาพที่กําหนดให แลวเติมขอมูล ลงในตาราง (ว 1.3 ม.3/4) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.4 12 แผนภาพที่ 1 แผนภาพที่ 2 ฉบับ เฉลย äÁâ·«ÔÊ à«ÅŏËҧ¡Ò à¾ÔèÁ¨íҹǹà«ÅŏËҧ¡Ò 䴌à«ÅŏãËÁ‹ 2 à«Åŏ àËÁ×͹¡Ñºà«ÅŏµÑé§µŒ¹ ෋ҡѺà«ÅŏµÑé§µŒ¹ äÁâÍ«ÔÊ à«ÅŏÊ׺¾Ñ¹¸Ø ÊÌҧà«ÅŏÊ׺¾Ñ¹¸Ø ä´Œà«ÅŏãËÁ‹ 4 à«Åŏ µ‹Ò§¨Ò¡à«ÅŏµÑé§µŒ¹ Ŵŧ໚¹¤ÃÖè§Ë¹Ö觢ͧ à«ÅŏµÑé§µŒ¹ 16 แบบวัดฯ


โรคทางพันธุกรรม ความผิดปกติของโครโมโซม ลักษณะของผูปวย 1. ............................................................. ............................................................. .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... มองเห็นสีบางสี เชน สีแดง สีเขียว แตกตางไปจากคนปกติ 2. ............................................................. ............................................................. .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... คอสั้นกวาง ทายทอยแบน ตาหาง จมูกเล็กและแฟบ ลิ้นโตคับปาก ลําตัวและนิ้วมือสั้น ลายนิ้วมือผิด ปกติ ปญญาออน 3. กลุมอาการพาทัว .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... 4. ............................................................. ............................................................. โครโมโซมคูที่ 18 เกินมา 1 แทง ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... 5. กลุมอาการคริดูชาต .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... 6. ............................................................. ............................................................. .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... เพศชายมีรูปรางคลายเพศหญิง รูปรางสูงกวาปกติ อัณฑะและ องคชาติมีขนาดเล็กผิดปกติ เปน หมัน และปญญาออน 7. ............................................................. ............................................................. แอลลีลดอยของยีนที่ควบคุม การสรางโปรตีนเฮโมโกลบิน ในเซลลเม็ดเลือดแดงผิด ปกติ ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... เติมคําตอบลงในตาราง (ว 1.3 ม.3/5) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.5 14 ฉบับ เฉลย ÀÒÇеҺʹÊÕ áÍÅÅÕÅ´ŒÍ¢ͧÂÕ¹º¹ â¤ÃâÁâ«Á X ¼Ô´»¡µÔ µÒàÅç¡ »Ò¡áËÇ‹§ ྴҹâËÇ‹ ÊÁͧ¾Ô¡Òà ËÑÇã¨ äµ áÅÐãºËÙ¼Ô´ »¡µÔ »˜ÞÞÒ͋͹ ÍÇÑÂÇÐÀÒÂã¹ ¡ÅѺ«ŒÒ¢Çҡѹ ¡ÅØ‹ÁÍÒ¡ÒôÒǹ ¡ÅØ‹ÁÍÒ¡ÒÃàÍç´àÇÔÏ´ â¤ÃâÁâ«Á¤Ù‹·Õè 21 à¡Ô¹ÁÒ 1 á·‹§ ÈÕÃÉÐáÅФҧàÅç¡ Á×Í¡íÒṋ¹ áÅÐÁÕ¹ÔéÇà¡Â¡Ñ¹ ËÑÇã¨áÅлʹ ¾Ô¡Òà ·ŒÒ·ÍÂâ˹¡ ãºËÙ¼Ô´ÃÙ» áÅеíèҡNjһ¡µÔ ¡ÅØ‹ÁÍÒ¡ÒÃä¤Å¹ à¿Åà·ÍÏ â¤ÃâÁâ«Á¤Ù‹·Õè 13 à¡Ô¹ÁÒ 1 á·‹§ ÈÕÃÉÐàÅ硡Njһ¡µÔ ãºË¹ŒÒ¡ÅÁ ãºËÙµíèҡNjһ¡µÔ »˜ÞÞÒ͋͹ µÒˋҧ ÁÕàÊÕ§ÌͧáËÅÁàÅ硤ŌÒÂàÊÕ§ áÁÇÌͧ âä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ ᢹ¢ŒÒ§ÊÑ鹢ͧâ¤ÃâÁâ«Á ¤Ù‹·Õè 5 ¢Ò´ËÒÂä» à¡Ô´ÀÒÇÐâÅËÔµ¨Ò§ à«ÅŏàÁç´ àÅ×Í´á´§ÅíÒàÅÕ§ÍÍ¡«Ôਹ䴌 ¹ŒÍÂŧ ËÒ¡ÁÕÍÒ¡ÒÃÃØ¹áçÍÒ¨ ·íÒãËŒËÑÇã¨ÇÒÂáÅÐàÊÕªÕÇԵ䴌 â¤ÃâÁâ«Á X à¡Ô¹ÁÒ 1 á·‹§ ã¹à¾ÈªÒ 17 แบบวัดฯ


พิจารณาขอมูลที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/6) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.6 6 1) ถาแมของตนเปนพาหะของโรคธาลัสซีเมีย ตนจะเปนพาหะของโรคธาลัสซีเมียหรือไม เพราะเหตุใด (กําหนดให A แทนแอลลีลเดน และ a แทนแอลลีลดอย) .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) หากตนและภรรยาอยากมีลูกเพิ่มอีก 1 คน ตนและภรรยาควรปฏิบัติตนอยางไร .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3) การศึกษาเกี่ยวกับโรคทางพันธุกรรมมีประโยชนอยางไรในชีวิตประจําวัน .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... ตนเปนชายปกติ มีพอเปนโรคธาลัสซีเมียและแมเปนหญิงปกติ มีนองสาว 1 คน เปนโรค ธาลัสซีเมีย ตนแตงงานกับหญิงปกติ มีลูกชาย 2 คน โดยทั้งคูเปนโรคธาลัสซีเมีย และมี ลูกสาวปกติ 1 คน ฉบับ เฉลย µŒ¹¨Ð໚¹¾ÒËТͧâä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ à¾ÃÒеŒ¹ÁÕ¾‹Í·Õè໚¹âä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ áÅÐáÁ‹à»š¹¾ÒËÐ ¢Í§âä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ ´Ñ§¹Õé áÊ´§Ç‹Ò ÅÙ¡ÁÕâÍ¡ÒÊ໚¹âä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ 50% áÅÐÁÕâÍ¡ÒÊ໚¹¾ÒËТͧâä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ 50% µŒ¹·ÕèäÁ‹à»š¹âä ¨Ö§ÁÕ¨Õâ¹ä·»Šáºº Aa «Öè§à»š¹¾ÒËТͧâä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ µŒ¹áÅÐÀÃÃÂÒäÁ‹à»š¹âä ᵋÁÕÅÙ¡ªÒÂ໚¹âä 2 ¤¹ áÊ´§Ç‹Ò µŒ¹áÅÐÀÃÃÂÒ ·íÒãËŒÃٌNjҡ‹Í¹áµ‹§§Ò¹¤ÇûÃÖ¡ÉÒᾷà¾×è͵ÃǨÇÔ¹Ô¨©ÑÂÀÒÇÐàÊÕ觢ͧÅÙ¡·ÕèÍÒ¨à¡Ô´âä ·Ò§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ à¾×èÍÇÒ§á¼¹ÊÌҧ¤Ãͺ¤ÃÑÇáÅÐàµÃÕÂÁÃѺÁ×͡Ѻ»˜ÞËÒÊØ¢ÀÒ¾¢Í§¤¹ã¹ ¤Ãͺ¤ÃÑÇ ¾‹Í aa Aa AaAa aa aa áÁ‹ (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) ໚¹¾ÒËТͧâä¸ÒÅÑÊ«ÕàÁÕ ¨Ö§¤ÇûÃÖ¡ÉÒᾷà¾×è͵ÃǨáÅÐÇÔ¹Ô¨©ÑÂÀÒÇÐàÊÕ觢ͧÅÙ¡ ·ÕèÍÒ¨à¡Ô´âä·Ò§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¡‹Í¹µÑ´ÊÔ¹ã¨ÁÕÅÙ¡à¾ÔèÁÍÕ¡ 1 ¤¹ 18 แบบวัดฯ


ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/7) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.7 8 1. สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมคืออะไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ยกตัวอยางการนําความรูเกี่ยวกับการดัดแปรพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตมาใชประโยชนในดาน ตาง ๆ อยางนอย 3 ตัวอยาง 1) ดานการแพทย .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 2) ดานการเกษตร .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนคิดวา นอกจากดานการแพทยและดานการเกษตรแลว มนุษยสามารถนําความรูเกี่ยวกับ การดัดแปรพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตมาใชประโยชนในดานใดไดอีกบาง พรอมยกตัวอยาง ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมสงผลกระทบตอสิ่งมีชีวิตอื่นและสิ่งแวดลอมอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·Õ輋ҹ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ´ŒÇ¾ѹ¸ØÇÔÈÇ¡ÃÃÁâ´ÂÁ¹ØÉ à¾×è͹íÒä»ãªŒ»ÃÐ⪹ ã¹´ŒÒ¹µ‹Ò§ æ â´ÂÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ¹Ñé¹ÁÕ·Ñ駾תáÅÐÊѵǏ (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) - ¡ÒüÅÔµÇѤ«Õ¹»‡Í§¡Ñ¹âäµÑºÍÑ¡àʺºÕ - ¡ÒüÅÔµÎÍÏâÁ¹ÍÔ¹«ÙÅÔ¹à¾×èÍÃÑ¡ÉÒ¼ÙŒ»†ÇÂâäàºÒËÇÒ¹ - ¡ÒõѴµ‹Í¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ˹Ùà¾×èÍ㪌㹡Ò÷´ÅͧÊÒÃà¤ÁÕÊíÒËÃѺÃÑ¡ÉÒÍÒ¡Òõ‹Ò§ æ - ¡ÒûÃѺ»Ãا¾Ñ¹¸Ø¢ŒÒÇãËŒÁÕÇÔµÒÁÔ¹ÁÒ¡¢Öé¹ à¾×èÍà¾ÔèÁÁÙŤ‹Ò - ¡ÒûÃѺ»Ãا¾Ñ¹¸Ø¢ŒÒÇâ¾´à¾×èÍÊÌҧâ»ÃµÕ¹·Õè໚¹¾Ôɵ‹ÍáÁŧ - ¡ÒûÃѺ»Ãا¾Ñ¹¸ØÍŒÍÂãËŒÁÕÅѡɳзÕè´Õ¢Öé¹ ÁÕ¤ÇÒÁµŒÒ¹·Ò¹µ‹ÍÊÒÃà¤ÁÕ¦‹ÒáÁŧ ´ŒÒ¹ÍصÊÒË¡ÃÃÁ ઋ¹ ¡ÒôѴá»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¨ØÅÔ¹·ÃՏãËŒÁÕ»ÃÐÊÔ·¸ÔÀҾ㹡Òà ¼ÅÔµà͹ä«Áä´ŒÁÒ¡¢Öé¹ à¾×èÍÅ´µŒ¹·Ø¹ã¹¡ÒüÅÔµà͹ä«Áä¤âÁ«Ô¹ÊíÒËÃѺ㪌ã¹ÍصÊÒË¡ÃÃÁ à¹Âá¢ç§ ÍÒ¨·íÒãËŒÊÔè§ÁÕªÕÇÔµà¡Ô´ÀÒÇд×éÍÂÒ ÇѪ¾×ªá¢ç§áç ·¹·Ò¹µ‹ÍÊÀÒ¾áÇ´ÅŒÍÁÁÒ¡¢Öé¹ ·íÒãËŒÂÒ¡ µ‹Í¡ÒäǺ¤ØÁ ËÒ¡ÊÒÁÒö¤Ñ´ÊÃÃáÅÐÊÌҧÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·Õ赌ͧ¡ÒÃ੾ÒТÖé¹ä´Œ ÃÇÁ·Ñé§·íÒ໚¹ ÍØµÊÒË¡ÃÃÁ ÍÒ¨·íÒãËŒ¢Ò´¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ·ҧªÕÇÀÒ¾ã¹Í¹Ò¤µ 19 แบบวัดฯ


ศึกษาขอมูลที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/8) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.8 8 1. การดัดแปรพันธุกรรมของถั่วเหลืองมีประโยชนและโทษอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ถั่วเหลืองเปนธัญพืชที่มีคุณคาทางสารอาหารเปนที่นิยมในหมูคนรักสุขภาพ และนําไป แปรรูปเปนผลิตภัณฑสําหรับบริโภคไดอยางหลากหลาย เชน เตาหู ซีอิ๊ว เตาเจี้ยว นมถั่วเหลือง ปจจุบันประเทศไทยกําลังประสบปญหาดานการผลิตถั่วเหลืองไมเพียงพอตอความตองการ บริโภคในประเทศ จึงตองนําเขาถั่วเหลืองจากตางประเทศ ซึ่งสวนใหญเปนถั่วเหลืองจีเอ็มโอ หรือถั่วเหลืองที่ผานการดัดแปรพันธุกรรม โดยดัดแปรพันธุกรรมเพื่อใหถั่วเหลืองทนตอสารเคมี กําจัดวัชพืชประเภทไกลโฟเซต (glyphosate) ทําใหสามารถผลิตถั่วเหลืองไดมากพอตอความ ตองการ ในขณะที่ประเทศไทยยังไมอนุญาตใหปลูกหรือนําเขาถั่วเหลืองจีเอ็มโอในเชิงพาณิชย เวนแตไดรับอนุญาตใหนําเขาเพื่อทดลองหรือวิจัยในหนวยงานราชการเทานั้น อาจเพราะในป 2559 คณะผูวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมาในสหรัฐฯ ระบุไวในขอเสนอแนะจากการรวบรวม ขอมูลวา สารตกคางในถั่วเหลืองจีเอ็มโออาจเปนปจจัยเสี่ยงอยางหนึ่งที่ทําใหเกิดโรคตาง ๆ เชน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอวน อัลไซเมอร กลามเนื้อออนแรง ทั้งนี้ เปนเพียง ขอสันนิษฐานของผูวิจัยเทานั้น จึงไมอาจสรุปไดวา สารตกคางในถั่วเหลืองเปนปจจัยเสี่ยงที่ทําให เกิดโรคไดจริงหรือไม ฉบับ เฉลย »ÃÐ⪹ ¤×Í ·íÒãËŒ¶ÑèÇàËÅ×ͧ·¹µ‹ÍÊÒÃà¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ª»ÃÐàÀ·ä¡Åâ¿à«µ ·íÒãËŒÊÒÁÒö¼ÅÔµ ¶ÑèÇàËÅ×ͧ䴌à¾Õ§¾Íµ‹Í¤ÇÒÁµŒÍ§¡Òà â·É ¤×Í ÍҨʋ§¼ÅãËŒà¡Ô´â䵋ҧ æ ઋ¹ âä¤ÇÒÁ´Ñ¹âÅËÔµÊÙ§ âäàºÒËÇÒ¹ âä͌ǹ âäÍÑÅä«àÁÍÏ ¡ÅŒÒÁà¹×éÍ͋͹áç 20 แบบวัดฯ


2. นักเรียนคิดวา ถั่วเหลืองที่ผลิตในประเทศไทยมีการปนเปอนของสารเคมีกําจัดวัชพืชมากกวา หรือนอยกวาถั่วเหลืองที่นําเขาจากตางประเทศ เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. ถาในอนาคตรัฐบาลอนุญาตใหปลูกถั่วเหลืองจีเอ็มโอในเชิงพาณิชยในประเทศไทย นักเรียน เห็นดวยหรือไม เพราะเหตุใด (เลือกตอบขอใดขอหนึ่ง) เห็นดวย เพราะ ....................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ไมเห็นดวย เพราะ ................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีวิธีการโนมนาวใหผูอื่นมีความคิดเห็นเชนเดียวกับนักเรียนไดอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) ÁÕ¡Òû¹à»„œÍ¹¹ŒÍÂ¡Ç‹Ò à¾ÃÒжÑèÇàËÅ×ͧ㹻ÃÐà·Èä·ÂäÁ‹ä´Œ´Ñ´á»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ ¨Ö§äÁ‹ÊÒÁÒö ·¹µ‹ÍÊÒÃà¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ªä´Œ à¡ÉµÃ¡Ã¨Ö§µŒÍ§Å´¡ÒÃ㪌ÊÒÃà¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ªËÃ×Í㪌ÇÔ¸Õ¡íҨѴÇѪ¾×ª ÇÔ¸ÕÍ×è¹·´á·¹ ᵋ¶ÑèÇàËÅ×ͧ·Õè¹íÒࢌҨҡµ‹Ò§»ÃÐà·ÈÁÕ¡ÒôѴá»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁãËŒ·¹µ‹ÍÊÒà à¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ª à¡ÉµÃ¡Ã¨Ö§ÍҨ㪌ÊÒÃà¤ÁÕ¡íҨѴÇѪ¾×ªã¹¡Ãкǹ¡ÒûÅÙ¡ÁÒ¡¡Ç‹Ò ¨Ö§·íÒãËŒ ÁÕâÍ¡ÒÊ»¹à»„œÍ¹ä´ŒÁÒ¡¡Ç‹Ò ໚¹¡ÒÃÅ´»˜ÞËÒ¡ÒâҴá¤Å¹¶ÑèÇàËÅ×ͧÀÒÂã¹»ÃÐà·È ·íÒãËŒäÁ‹µŒÍ§ ¹íÒࢌҶÑèÇàËÅ×ͧ¨Ò¡µ‹Ò§»ÃÐà·È ໚¹¡Òê‹ÇÂÅ´µŒ¹·Ø¹¡ÒùíÒࢌҨҡµ‹Ò§»ÃÐà·È ¹Í¡¨Ò¡ ¹ÕéÍÒ¨¨ÐÊÒÁÒöʋ§ÍÍ¡¶ÑèÇàËÅ×ͧ໚¹¾×ªàÈÃɰ¡Ô¨ ÂѧäÁ‹ÁÕ¼ÅÇÔ¨ÑÂÂ×¹ÂѹNjҡÒôѴá»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁÁÕ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ 100% ÍÒ¨ÁÕ¡Òû¹à»„œÍ¹ÊÒÃà¤ÁÕà¡Ô´¢Öé¹ áÅФ¹ä·ÂÂѧ¢Ò´¤ÇÒÁÃÙŒ¤ÇÒÁࢌÒã¨à¡ÕèÂǡѺ¾×ª´Ñ´ á»Ã¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ (¢Öé¹ÍÂÙ‹¡Ñº¤íҵͺ¢Í§¹Ñ¡àÃÕ¹áÅдØÅ¾ԹԨ¢Í§¼ÙŒÊ͹) ✓ ✓ 21 แบบวัดฯ


ดูภาพ แลวตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/9) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.9 8 1. สิ่งมีชีวิตที่พบในบริเวณภาพที่ 1 และภาพที่ 2 มีความแตกตางกันหรือไม เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. นักเรียนคิดวา บริเวณภาพที่ 1 มีจํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตมากกวาบริเวณภาพที่ 2 หรือไม เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนคิดวา บริเวณภาพที่ 1 มีจํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตมากกวา นอยกวา หรือเทากับ จํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตบริเวณขั้วโลกเหนือ เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. นักเรียนคิดวา บริเวณภาพที่ 2 มีจํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตมากกวา นอยกวา หรือเทากับ จํานวนชนิดของสิ่งมีชีวิตบริเวณปาชายเลน เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ฉบับ เฉลย ᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ à¾ÃÒкÃÔàdzÀÒ¾·Õè 1 áÅÐÀÒ¾·Õè 2 ÁÕÅѡɳо×é¹·Õè ÀÙÁÔ»ÃÐà·È áÅÐÀÙÁÔÍÒ¡ÒÈ ·Õèᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ ·íÒãËŒÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·ÕèÍÒÈÑÂÍÂÙ‹ã¹Ê¶Ò¹·Õè·Ñé§ÊͧáË‹§¹Õéᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ ÁÒ¡¡Ç‹Ò à¾ÃÒкÃÔàdzÀÒ¾·Õè 1 ÁÕáËÅ‹§¹íéÒ ·íÒãËŒÁÕ¤ÇÒÁÍØ´ÁÊÁºÙó àËÁÒÐá¡‹¡ÒôíÒçªÕÇÔµ áÅСÃШÒ¾ѹ¸Ø¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ʋǹºÃÔàdzÀÒ¾·Õè 2 ÁÕÅѡɳФ‹Í¹¢ŒÒ§áËŒ§áÅŒ§ äÁ‹¤‹ÍÂàËÁÒÐ µ‹Í¡ÒôíÒçªÕÇÔµáÅСÃШÒ¾ѹ¸Ø¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ÁÒ¡¡Ç‹Ò à¾ÃÒкÃÔàdzÀÒ¾·Õè 1 ÁÕ¤ÇÒÁÍØ´ÁÊÁºÙóáÅÐÁÕÊÀÒ¾ÀÙÁÔÍÒ¡ÒÈ·ÕèàËÁÒе‹Í¡ÒôíÒç ªÕÇÔµáÅСÃШÒ¾ѹ¸Ø¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµÁÒ¡¡Ç‹Ò¢ÑéÇâÅ¡à˹×Í·ÕèÁÕÍØ³ËÀÙÁÔµíèÒÁÒ¡ ¹ŒÍÂ¡Ç‹Ò à¾ÃÒкÃÔàdzÀÒ¾·Õè 2 ÁÕÊÀÒ¾ÀÙÁÔ»ÃÐà·ÈáÅÐÀÙÁÔÍÒ¡ÒÈ·Õ褋͹¢ŒÒ§ÃŒÍ¹áËŒ§áÅŒ§áÅÐ ÁÕ¤ÇÒÁÍØ´ÁÊÁºÙ󏹌͡NjҺÃÔàdz»†ÒªÒÂàŹ 22 แบบวัดฯ


ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 1.3 ม.3/10) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.10 8 1. หากขาดความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิต สมดุลของระบบนิเวศจะเปนอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ความหลากหลายทางชีวภาพมีความสําคัญตอการรักษาสมดุลของระบบนิเวศหรือไม อยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. ความหลากหลายทางพันธุกรรมสงผลดีตอมนุษยอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. ลักษณะพื้นที่ในแตละภูมิภาคของโลกที่แตกตางกันสงผลกระทบตอมนุษยอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÊÁ´ØÅ¢Í§Ãкº¹ÔàÇȶ١·íÒÅÒÂä´Œ§‹Ò ઋ¹ àÁ×èÍà¡Ô´âäµÔ´µ‹ÍËÃ×ÍÊÔè§¡Ãе،¹ ·Õè·íÒãËŒÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ·Õè໚¹ÍÒËÒâͧÊѵǏÍ×è¹µÒ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÅíҴѺ¶Ñ´ä»ã¹â«‹ÍÒËÒèТҴá¤Å¹ ÍÒËÒÃáÅÐäÁ‹ÁÕÍÒËÒ÷´á·¹ à¹×èͧ¨Ò¡äÁ‹ÁÕ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ¢ͧª¹Ô´ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ¨íҹǹ »ÃЪҡâͧÊÔè§ÁÕªÕÇÔµã¹Ãкº¹ÔàÇȨÐŴŧàÃ×èÍ æ áÅÐàÊÕÂÊÁ´ØÅã¹·ÕèÊØ´ ÁÕ¤ÇÒÁÊíÒ¤ÑÞ â´ÂÃкº¹ÔàÇÈ·ÕèÁÕ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ·ҧªÕÇÀÒ¾ÊÙ§ÊÒÁÒöÃÑ¡ÉÒÊÁ´ØÅä´Œ´Õ¡Ç‹Ò Ãкº¹ÔàÇÈ·ÕèÁÕ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ·ҧªÕÇÀÒ¾µíèÒ Á¹ØÉÁÕÍѵÅѡɳà©¾ÒеÑÇ ÊÒÁÒöÃкصÑǵ¹¢Í§áµ‹ÅФ¹ä´Œ à¹×èͧ¨Ò¡¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ ·Ò§¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ·Õèᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ áÅÐÅ´¤ÇÒÁàÊÕè§㹡ÒÃà¡Ô´âä·Õèá½§ÍÂÙ‹ã¹áÍÅÅÕÅ´ŒÍ¢ͧ ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµÃØ‹¹ÅÙ¡ ¹Í¡¨Ò¡¹Õé ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ·ҧ¾Ñ¹¸Ø¡ÃÃÁ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµÍ×è¹ æ Âѧ໚¹·Ò§àÅ×Í¡ ãËŒÁ¹ØÉ¹íÒä»ãªŒà»š¹ÍÒËÒà ¼ÅÔµÂÒÃÑ¡ÉÒâä ËÃ×ÍÇѵ¶Ø´Ôºã¹ÍصÊÒË¡ÃÃÁµ‹Ò§ æ Ê‹§¼Åµ‹Í¡ÒôíÒçªÕÇÔµ¢Í§Á¹ØÉ ·Ñé§àÃ×èͧÍÒËÒà ·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈÑ à¤Ã×èͧ¹Ø‹§Ë‹Á 仨¹¶Ö§ÇÔ¶ÕªÕÇÔµ à¾ÃÒо×é¹·Õè ã¹áµ‹ÅÐÀÙÁÔÀÒ¤ÁÕÊÀÒ¾ÀÙÁÔÍÒ¡ÒÈáÅÐÅѡɳÐÀÙÁÔ»ÃÐà·È·Õèᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ ·íÒãËŒ ª¹Ô´¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµã¹áµ‹Åо×é¹·ÕèÁÕ¤ÇÒÁᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ Á¹ØÉ¨Ö§µŒÍ§»ÃѺµÑÇãËŒàËÁÒе‹Í¡Òà ´íÒçªÕÇԵ㹾×é¹·Õè¹Ñé¹ æ (á¹Ç¤íҵͺ) 23 แบบวัดฯ


ปญหา : ...................................................................................................................................................................................................................................... สาเหตุของปญหา : ......................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ผลกระทบตอความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ : ................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ผลกระทบตอระบบนิเวศ : .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... วิธีการแกปญหา : ............................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... สืบคนปญหาเกี่ยวกับการเสียสมดุลของระบบนิเวศ แลวบันทึกขอมูลตามประเด็นที่กําหนด พรอมติดภาพ ประกอบ (ว 1.3 ม.3/11) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 2.11 8 (ติดภาพ) ฉบับ เฉลย (á¹Ç¤íҵͺ) »ÅÒã¹áËÅ‹§¹íéÒµÒÂ໚¹¨íҹǹÁÒ¡ âç§Ò¹»Å‹ÍÂÊÒþÔÉŧã¹áËÅ‹§¹íéÒ ·íÒãËŒáËÅ‹§¹íéÒÁÕ¡Òû¹à»„œÍ¹ »ÅÒã¹ áËÅ‹§¹íéÒ¨Ö§ä´ŒÃѺÊÒþÔÉ àÁ×èÍ»ÅÒµÒÂ໚¹¨íҹǹÁÒ¡ ÍÒ¨·íÒãËŒ ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ¢ͧª¹Ô´ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµã¹Ãкº¹ÔàÇȹÑé¹µíèÒŧ àÁ×èÍÃкº¹ÔàÇÈÁÕ¤ÇÒÁËÅÒ¡ËÅÒ¢ͧª¹Ô´ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµµíèÒŧ Ãкº¹ÔàÇÈ ÍÒ¨àÊÕÂÊÁ´ØÅ 1. µ‹ÍµŒÒ¹¡Ò÷Ôé§ÊÒþÔÉËÃ×ÍÊÒÃà¤ÁÕ¨Ò¡âç§Ò¹ÍصÊÒË¡ÃÃÁŧã¹áËÅ‹§¹íéÒ 2. äÁ‹·Ôé§¢ÂÐŧã¹áËÅ‹§¹íéÒ 3. ÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁÊÐÍÒ´áËÅ‹§¹íéÒ à¾×èÍ»‡Í§¡Ñ¹áËÅ‹§¹íéÒ๋ÒàÊÕ 24 แบบวัดฯ


ไดคะแนน คะแนนเต็ม 10 แบบทดสอบ ประจําหนวยการเรียนรูที่ 2 คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. ขอใดเรียงลําดับจากหนวยเล็กไปหนวยใหญ 1. ดีเอ็นเอ ยีน เซลล โครโมโซม 2. ยีน ดีเอ็นเอ โครโมโซม เซลล 3. เซลล ยีน ดีเอ็นเอ โครโมโซม 4. เซลล โครโมโซม ดีเอ็นเอ ยีน 2. จากภาพการผสมพันธุของตนถั่ว จีโนไทปของรุนลูกจะเปนอยางไร 1. tt, tt, tt, tt 2. Tt, Tt, Tt, tt 3. Tt, Tt, Tt, Tt 4. TT, Tt, Tt, tt 3. จากขอ 2. กําหนดให T แทนแอลลีลเดนที่ควบคุมดอกสีมวง และ t แทนแอลลีลดอย ที่ควบคุมดอกสีขาว โดยที่แอลลีลเดนขมแอลลีลดอยอยางสมบูรณ โอกาสที่ตนถั่วรุนลูก มีดอกสีมวงเปนเทาใด 1. 25% 2. 50% 3. 75% 4. 100% 4. ครอบครัวหนึ่ง พอมีลักยิ้ม แตแมไมมีลักยิ้ม ลูกคนแรกไมมีลักยิ้ม โอกาสที่ลูกคนที่สองไมมี ลักยิ้มเปนเทาใด (กําหนดใหแอลลีลเดนควบคุมการมีลักยิ้ม แอลลีลดอยควบคุมการไมมีลักยิ้ม) 1. 1 4 2. 2 4 3. 3 4 4. 4 4 5. ขอใดไมใชลักษณะของการแบงเซลลแบบไมโทซิส 1. เปนการเพิ่มจํานวนเซลลรางกาย 2. เซลลลูกมีลักษณะเหมือนกับเซลลตั้งตน 3. จํานวนโครโมโซมของเซลลใหมลดลงจากเซลลตั้งตน 4. เซลลที่เกิดขึ้นใหมมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนเดิมทุกประการ Tt Tt รุนลูก t ? ? ? T T t ? ฉบับ เฉลย 25 แบบวัดฯ


6. ขอใดเปนขั้นตอนสุดทายในการแบงเซลลแบบไมโอซิส 1. เทโลเฟส II 2. เมทาเฟส II 3. แอนาเฟส II 4. อินเตอรเฟส II 7. ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับโรคของพันธุกรรม 1. กลุมอาการเทอรเนอรเกิดจากโครโมโซม Y ขาดหายไป 1 แทง ในเพศหญิง 2. โรคผิวเผือกเปนความผิดปกติของโครโมโซม X จึงพบอาการไดทั้งเพศหญิงและเพศชาย 3. กลุมอาการเอ็ดเวิรดเกิดจากโครโมโซมคูที่ 18 ขาดหายไป สวนใหญเกิดกับทารก เพศหญิง 4. โรคธาลัสซีเมียเกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสรางเฮโมโกลบินในเซลล เม็ดเลือดแดง 8. สมชายเปนโรคตาบอดสีแตงงานกับหญิงที่ไมไดเปนโรค ลูกชายของสมชายเปนโรคตาบอดสี ลูกสาวของสมชายมีโอกาสเปนโรคตาบอดสีกี่เปอรเซ็นต 1. 25% 2. 50% 3. 75% 4. 100% 9. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการดัดแปรทางพันธุกรรม 1. มนุษยปรับปรุงพันธุพืชโดยการตัดแตงยีน 2. การดัดแปรพันธุกรรมพืชสงผลตอความหลากหลายทางชีวภาพ 3. พืชจีเอ็มโอ คือ พืชที่ไดรับการดัดแปรพันธุกรรมดวยพันธุวิศวกรรม 4. พืชจีเอ็มโอเปนพืชที่ไดรับการปรับปรุงสายพันธุใหมีสีสันสวยงามเทานั้น จึงมีมูลคาสูง 10. ถาความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิตตํ่าลงจะเกิดเหตุการณใด 1. สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ 2. ระบบนิเวศเสียสมดุล 3. สิ่งมีชีวิตสายพันธุใหมเพิ่มขึ้น 4. ความหลากหลายของระบบนิเวศเพิ่มขึ้น ฉบับ เฉลย 26 แบบวัดฯ


เกณฑการประเมิน ผาน ไดคะแนนครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม ไมผาน ไดคะแนนไมถึงครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม เกณฑการตัดสินระดับคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคะแนน ระดับคุณภาพ 84-100 4 ดีมาก 67-83 3 ดี 50-66 2 พอใช ตํ่ากวา 50 1 ปรับปรุง แบบบันทึกผลการประเมิน เครื่องมือวัดและแสดงผลการเรียน คะแนน ผลการประเมิน เต็ม ได ผาน ไมผาน ว 1.3 ม.3/1 กิจกรรมที่ 2.1 8 ม.3/2 กิจกรรมที่ 2.2 12 ม.3/3 กิจกรรมที่ 2.3 8 ม.3/4 กิจกรรมที่ 2.4 12 ม.3/5 กิจกรรมที่ 2.5 14 ม.3/6 กิจกรรมที่ 2.6 6 ม.3/7 กิจกรรมที่ 2.7 8 ม.3/8 กิจกรรมที่ 2.8 8 ม.3/9 กิจกรรมที่ 2.9 8 ม.3/10 กิจกรรมที่ 2.10 8 ม.3/11 กิจกรรมที่ 2.11 8 คะแนนรวมทั้งหมด 100 แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 2 10 กิจกรรมตามตัวชี้วัด ฉบับ เฉลย 27 แบบวัดฯ


การเรียนรู เรื่อง วัสดุในชีวิตประจําวัน ทําใหเกิดความรูความเขาใจเกี่ยวกับวัสดุประเภท ตางๆ ในชีวิตประจําวัน สามารถระบุสมบัติทางกายภาพและการใชประโยชนของวัสดุประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม รวมทั้งตระหนักถึงคุณคาของการใชวัสดุประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม โดยสามารถเสนอแนะแนวทางการใชวัสดุอยางประหยัดและคุมคา วัสดุในชีวิตประจําวัน กิจกรรมฝกทักษะ พิจารณาภาพ แลวระบุวาทําจากวัสดุใดบาง โดยขีด ✓ ลงใน ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก ไม ดิน ยาง แกว โลหะ พลาสติก 1. 2. 3. 4. 5. 6. 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ ฉบับ เฉลย ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 28 แบบวัดฯ


บอกสมบัติทางกายภาพของวัสดุแตละประเภทและ ยกตัวอยางการนําไปใชประโยชน (ว 2.1 ม.3/1) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 3.1 6 กิจกรรมตามตัวชี้วัด 1. ............................... เปนวัสดุประเภทเซรามิก มักนํามาใชในการชวยยึดสวนผสมตาง ๆ ที่ใชในการ กอสราง 2. ............................... เปนพอลิเมอรโครงสรางโมเลกุลมีขนาดยาว เหมาะสําหรับนํามารีดและปนเปน เสนดาย 3. ............................... เปนวัสดุผสมที่พบในธรรมชาติ เกิดจากการรวมกันของเซลลูโลสกับลิกนิน นิยม ใชในงานกอสราง เนื่องจากมีความแข็งแรงและนํ้าหนักเบา 4. ............................... เปนวัสดุประเภทเซรามิก มีลักษณะโปรงแสง แกสซึมผานไดยาก แข็งแรง ทนตอ แรงดันไดดี นิยมใชเปนวัสดุในการผลิตเครื่องประดับ ภาชนะ และเครื่องใช 5. ............................... เปนพอลิเมอรสังเคราะหที่มีโมเลกุลขนาดใหญ มีความเหนียว ทําใหคงรูปได ทน ตอสารเคมี ความรอน และความชื้น นิยมใชผลิตเครื่องใชตาง ๆ ภายในบาน ไม แกว เสนใย พลาสติก ปูนซีเมนต ประเภทวัสดุ สมบัติทางกายภาพ การนําไปใชประโยชน 1. พอลิเมอร ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ......................................................................................... ......................................................................................... ......................................................................................... 2. เซรามิก ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ......................................................................................... ......................................................................................... ......................................................................................... 3. วัสดุผสม ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ......................................................................................... ......................................................................................... ......................................................................................... เลือกคําตอไปนี้ เติมลงในชองวาง (ว 2.1 ม.3/1) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 3.2 5 ฉบับ เฉลย ¾ÍÅÔàÁÍÏᵋÅЪ¹Ô´ÁÕÊÁºÑµÔᵡµ‹Ò§¡Ñ¹ â´Â¾ÅÒʵԡ¢Öé¹Ãٻ໚¹ÃÙ»·Ã§µ‹Ò§ æ ä´Œ ÂÒ§Â×´ËÂØ‹¹ä´Œ àÊŒ¹ã´֧໚¹àÊŒ¹ÂÒÇä´Œ ÊÒÁÒö¢Öé¹à»š¹ÃÙ»·Ã§µ‹Ò§ æ ä´Œ ÁÕ¤ÇÒÁ á¢ç§ ·¹µ‹Í¡ÒÃÊÖ¡¡Ã‹Í¹áÅÐà»ÃÒР໚¹ÇÑÊ´Ø·Õè»ÃСͺ´ŒÇÂÇÑʴصÑé§áµ‹ 2 ª¹Ô´ ¢Öé¹ä» ÁÑ¡ÁÕ¤ÇÒÁá¢ç§áç ·¹·Ò¹ - ¾ÅÒʵԡ¹íÒä»·íҢͧàÅ‹¹ - ÂÒ§¹íÒä»·íҶاÁ×ÍÂÒ§ - àÊŒ¹ã¨ҡ¾×ª¹íÒä»·Í໚¹¼ŒÒ - ·íÒÀÒª¹Ðµ‹Ò§ æ ઋ¹ ¨Ò¹ ªÒÁ - ¼ÅÔµ¡ÃÐàº×éͧ à¤Ã×èÍ§ÊØ¢Àѳ± à¤Ã×èͧ»˜œ¹´Ô¹à¼Ò - ·íÒäÁŒà·¹¹ÔÊ - ໚¹Ê‹Ç¹»ÃСͺËÁÇ¡¹ÔÃÀÑ - ÊÌҧ¶¹¹áÅÐÍÒ¤Òõ‹Ò§ æ (á¹Ç¤íҵͺ) »Ù¹«ÕàÁ¹µ àÊŒ¹ã äÁŒ á¡ŒÇ ¾ÅÒʵԡ 29 แบบวัดฯ


ตอบคําถามตอไปนี้ (ว 2.1 ม.3/2) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 3.3 9 1. ระหวางวัสดุประเภทพอลิเมอร เซรามิก และวัสดุผสม นักเรียนคิดวา วัสดุประเภทใดสงผลกระทบ ตอสิ่งแวดลอมมากที่สุด เพราะเหตุใด ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ถาคนในสังคมทิ้งขยะที่ไมสามารถยอยสลายไดอยางไมถูกวิธีจะเกิดผลกระทบอยางไร ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. “อิ่มนําหอขนมขบเคี้ยวมาประดิษฐเปนกระเปาใสของแทนการใชถุงพลาสติก และใชกระเปาใบนี้ ทุกครั้งที่ไปซื้อของในรานสะดวกซื้อ” อิ่มปฏิบัติตามแนวทางการใชพอลิเมอรสังเคราะหอยาง คุมคาอยางไร อธิบายพอสังเขป ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 4. ยกตัวอยางการปฏิบัติตนตามแนวทางการใชพอลิเมอรสังเคราะหอยางคุมคา อยางนอย 2 ตัวอยาง 1) การลดการใช ............................................................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................ 2) การใชซํ้า ............................................................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................ 3) การนํากลับมาใชใหม ............................................................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................ ฉบับ เฉลย (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) ÇÑÊ´Ø»ÃÐàÀ·¾ÍÅÔàÁÍÏʋ§¼Å¡Ãзºµ‹ÍÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁÁÒ¡·ÕèÊØ´ à¾ÃÒÐ໚¹ÇÑÊ´Ø·Õè‹ÍÂÊÅÒÂäÁ‹ä´Œ ËÃ×Í‹ÍÂÊÅÒÂä´ŒÂÒ¡ áÅÐÁÕ»ÃÔÁÒ³¡ÒÃ㪌ÁÒ¡ ·íÒãËŒÁÕ¢ÂÐÁÙŽÍÂã¹»ÃÔÁÒ³ÁÒ¡¢Öé¹ä»´ŒÇ áÅÐÂÒ¡µ‹Í¡ÒáíҨѴ ¢ÂШе¡¤ŒÒ§ÍÂÙ‹ã¹ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ ¡‹ÍãËŒà¡Ô´ÁžÔɵ‹ÍÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁµ‹Ò§ æ ઋ¹ ¶ŒÒ¢Âе¡¤ŒÒ§ ã¹áËÅ‹§¹íéÒ¡ç¨Ð·íÒãËŒ¹íéÒ๋ÒàÊÕ ʋ§¡ÅÔè¹àËÁç¹ ¶ŒÒ¢Âе¡¤ŒÒ§ã¹´Ô¹ÍÒ¨·íÒãËŒ´Ô¹àÊ×èÍÁÊÀÒ¾ ¶ŒÒà¼Ò·íÒÅÒ¢ÂÐÍÒ¨¡‹ÍãËŒà¡Ô´¤Çѹ¾ÔÉÅÍ¢Öé¹ÊÙ‹ºÃÃÂÒ¡ÒÈ ÍÔèÁ»¯ÔºÑµÔµÒÁ·Ñé§ 3 á¹Ç·Ò§ ¤×Í 1) ¡ÒÃÅ´¡ÒÃ㪌 â´Â¡ÒÃ㪌¡ÃÐ້һÃдÔɰá·¹¶Ø§¾ÅÒʵԡ 2) ¡ÒÃ㪌«íéÒ â´Â㪌¡ÃÐ້ҷÕè»ÃдÔɰÁÒ㪌§Ò¹«íéÒËÅÒÂ æ ¤ÃÑé§ 3) ¡ÒùíÒ¡ÅѺÁÒ㪌ãËÁ‹ â´Â¹íÒˋ͢¹Á¢ºà¤ÕéÂÇ·Õè äÁ‹ãªŒáÅŒÇÁÒá»ÃÃٻ໚¹¡ÃÐ້ÒãÊ‹¢Í§ - ËÅÕ¡àÅÕè§¡Òë×éÍËÃ×Í㪌ÊÔ¹¤ŒÒ·ÕèÁÕºÃèØÀѳ±ËÅÒªÔé¹ - 㪌 »›¹âµËÃ×͡ŋͧ¢ŒÒÇãÊ‹ÍÒËÒÃá·¹¡ÒÃãÊ‹ÍÒËÒÃ㹡ŋͧâ¿Á - ¹íÒàÊ×éͼŒÒ·Õè äÁ‹ãÊ‹áÅŒÇ仺ÃÔ¨Ò¤ËÃ×Í¢Òµ‹Í - à¡çº¡ÃдÒÉ·Õè 㪌áÅŒÇ 1 ˹ŒÒ ÁÒ㪌Íա˹ŒÒ˹Öè§·ÕèÂѧNjҧ - ¹íÒ½Ò¡Ãл‰Í§¹íéÒÍÑ´ÅÁ仺ÃÔ¨Ò¤à¾×èÍËÅÍÁ·íÒ¢Òà·ÕÂÁãˌᡋ¼ÙŒ¾Ô¡Òà - ¹íҢǴ¾ÅÒʵԡÁÒ»ÃдÔɰà»š¹¢Í§ãªŒ ઋ¹ ·Õè ãÊ‹à¤Ã×èͧà¢Õ¹ ¡Ãжҧ»ÅÙ¡µŒ¹äÁŒ 30 แบบวัดฯ


ไดคะแนน คะแนนเต็ม 10 แบบทดสอบ ประจําหนวยการเรียนรูที่ 3 คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. วัสดุตอไปนี้ขอใดไมใชพอลิเมอร 1. ฝาย 2. เรยอน 3. ควอตซ 4. ยางดิบ 2. เสนใยชนิดใด มีนํ้าหนักเบา แหงไว ทนทานตอจุลินทรียและเชื้อรา 1. ไนลอน 2. ขนแกะ 3. เสนใยเซลลูโลส 4. เซลลูโลสแอซีเตต 3. พลาสติกชนิดหนึ่ง เปนพลาสติกเทอรมอเซต ประกอบดวยมอนอเมอร 2 ชนิด ใชทําดานจับ เตารีดหรือกระทะ เนื่องจากมีความแข็ง เปราะ ทนความรอน เปนฉนวนไฟฟา พลาสติกนี้ คือขอใด 1. เมลามีน 2. เบกาไลต 3. พอลิเอทิลีน 4. พอลิสไตรีน 4. คอนกรีตที่ใชในการทําพื้นถนน เปนวัสดุชนิดใด 1. พอลิเมอรรวม 2. เซรามิกแบบดั้งเดิม 3. วัสดุผสมจากธรรมชาติ 4. วัสดุผสมจากการสังเคราะห 5. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับเซรามิก 1. ดินเปนวัตถุดิบหลักในการทําเซรามิก 2. เครื่องปนดินเผาจัดเปนเซรามิกแบบดั้งเดิม 3. การเผาดิบของผลิตภัณฑเซรามิกตองเพิ่มอุณหภูมิของเตาเผาใหสูงขึ้นอยางรวดเร็ว 4. เครื่องแกวในหองปฏิบัติการทางวิทยาศาสตรเปนผลิตภัณฑที่ทําจากวัสดุประเภทเซรามิก ฉบับ เฉลย 31 แบบวัดฯ


6. วัสดุใดเหมาะสําหรับทําเสื้อกันฝน 1. ผา 2. ยาง 3. กระดาษ 4. พลาสติก 7. ขอใดเปนการนําสมบัติของวัสดุไปใชประโยชนไดเหมาะสมที่สุด 1. ใชแกวทําเขียง 2. ใชทองแดงทําสายไฟฟา 3. ใชโลหะทําของเลนเด็ก 4. ใชยางทําภาชนะหุงตม 8. ขอใดเปนวิธีการจัดการภาชนะพลาสติกที่ใชแลว ซึ่งกอใหเกิดผลกระทบตอสิ่งแวดลอม นอยที่สุด 1. การนําภาชนะพลาสติกมาใชซํ้าแลวซํ้าอีก 2. การกําจัดภาชนะพลาสติกที่ใชแลวโดยวิธีการเผา 3. การนําภาชนะพลาสติกที่ใชแลวกลับมาหลอมใชใหม 4. การกําจัดภาชนะพลาสติกที่ใชแลวโดยวิธีการฝงกลบ 9. ใครปฏิบัติตนเพื่อลดปญหาสิ่งแวดลอมไดอยางถูกตอง 1. สมเชงซื้อถุงผาและเก็บสะสมไวเปนที่ระลึก 2. สมจี๊ดใชกลองโฟมใสอาหารจากรานคาแทนกลองพลาสติก 3. สมจีนทิ้งเศษอาหารลงในถังขยะสีฟาเพื่อนําไปหมักเปนปุยตอไป 4. สมโอทิ้งกระปองเครื่องดื่มลงในถังขยะสีเหลืองเพื่อนําไปรีไซเคิลตอไป 10. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการลดปญหาสิ่งแวดลอม 1. ขวดนํ้าอัดลมมีสัญลักษณ หมายถึง ขวดนํ้าอัดลมนั้นสามารถนําไปรีไซเคิลได 2. ถังขยะสีแดง เปนถังขยะสําหรับทิ้งขยะอันตรายหรือเปนพิษตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม 3. ชิ้นสวนอิเล็กทรอนิกสที่มีสัญลักษณ หมายถึง ชิ้นสวนนั้นแปรรูปมาแลว 7 ครั้ง 4. การลดการใช การใชซํ้า และการนํากลับมาใชใหม เปนแนวทางการใชพอลิเมอร สังเคราะหอยางคุมคา ฉบับ เฉลย 32 แบบวัดฯ


เกณฑการประเมิน ผาน ไดคะแนนครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม ไมผาน ไดคะแนนไมถึงครึ่งหนึ่งของ คะแนนเต็ม เกณฑการตัดสินระดับคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคะแนน ระดับคุณภาพ 84-100 4 ดีมาก 67-83 3 ดี 50-66 2 พอใช ตํ่ากวา 50 1 ปรับปรุง แบบบันทึกผลการประเมิน กิจกรรมตามตัวชี้วัด เครื่องมือวัดและแสดงผลการเรียน คะแนน ผลการประเมิน เต็ม ได ผาน ไมผาน ว 2.1 ม.3/1 กิจกรรมที่ 3.1 6 กิจกรรมที่ 3.2 5 รวม 11 ว 2.1 ม.3/2 กิจกรรมที่ 3.3 9 รวม 9 คะแนนรวมทั้งหมด 20 แบบทดสอบประจําหนวยการเรียนรูที่ 3 10 ฉบับ เฉลย 33 แบบวัดฯ


การเรียนรู เรื่อง ปฏิกิริยาเคมี ทําใหเกิดความรูความเขาใจเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมีตางๆ รวมถึงการจัดเรียงตัวใหมของอะตอมเมื่อเกิดปฏิกิริยาโดยใชแบบจําลองและสมการขอความ อธิบาย กฎทรงมวล และวิเคราะหปฏิกิริยาดูดความรอนหรือปฏิกิริยาคายความรอน รวมทั้งระบุประโยชนและโทษ ของปฏิกิริยาที่มีตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม พรอมกับออกแบบวิธีแกปญหาในชีวิตประจําวัน ปฏิกิริยาเคมี กิจกรรมฝกทักษะ พิจารณาขอความ แลวระบุวาเปนปฏิกิริยาเคมีหรือไม บันทึกลงในตาราง 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ การเผากระดาษ การจุดไฟบนหัวไมขีดไฟ การละลายเกลือแกงในนํ้า การระเหยแหงของนํ้าทะเลจนไดผลึกเกลือ การพองตัวของลูกโปงจากการสูบลม การผลิตนํ้าอัดลม การเกิดสนิมของเหล็ก การหลอมเหลวของไอศกรีม การพัดพาของอากาศ การสังเคราะหดวยแสงของพืช การเกิดหินงอกหินยอย เปนปฏิกิริยาเคมี ไมเปนปฏิกิริยาเคมี ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ....................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ฉบับ เฉลย - ¡ÒÃà¼Ò¡ÃдÒÉ - ¡ÒüÅÔµ¹íéÒÍÑ´ÅÁ - ¡Òèش俺¹ËÑÇäÁŒ¢Õ´ä¿ - ¡ÒÃà¡Ô´Ê¹ÔÁ¢Í§àËÅç¡ - ¡ÒÃà¡Ô´ËÔ¹§Í¡ËԹŒÍ - ¡ÒÃÊѧà¤ÃÒÐˏ´ŒÇÂáʧ¢Í§¾×ª - ¡ÒþѴ¾Ò¢Í§ÍÒ¡ÒÈ - ¡ÒÃÅÐÅÒÂà¡Å×Íá¡§ã¹¹íéÒ - ¡ÒÃËÅÍÁàËÅǢͧäÍÈ¡ÃÕÁ - ¡ÒþͧµÑǢͧÅ١⻆§¨Ò¡¡ÒÃÊÙºÅÁ - ¡ÒÃÃÐàËÂáËŒ§¢Í§¹íéÒ·ÐàŨ¹ä´Œ¼ÅÖ¡à¡Å×Í 34 แบบวัดฯ


วาดแบบจําลองแสดงปฏิกิริยาระหวางแกสไฮโดรเจน และแกสออกซิเจนไดผลิตภัณฑเปนนํ้า พรอมกับเขียน สมการเคมี (ว 2.1 ม.3/3) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.1 3 กิจกรรมตามตัวชี้วัด สมการเคมี คือ .......................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................... ดุลสมการเคมีตอไปนี้ (ว 2.1 ม.3/3) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.2 5 1. KNO3 (s) KNO2 (s) + O2 (g) ➡ ................................................................................................................................. 2. Al(s) + HCl(aq) AlCl3 (aq) + H2 (g) ➡ ................................................................................................................................. 3. NH3 (g) + NO(g) N2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 4. Zn(s) + HCl(aq) ZnCl2 (aq) + H2 (g) ➡ ................................................................................................................................. 5. CH4 (g) + O2 (g) CO2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 6. C3 H8 (g) + O2 (g) CO2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 7. C6 H12O6 (s) C2 H6 O(s) + CO2 (g) ➡ ................................................................................................................................. 8. C6 H12O6 (s) + O2 (g) CO2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 9. C12H22O11(s) + O2 (g) CO2 (g) + H2 O(l) ➡ ................................................................................................................................. 10. BaCl2 (aq) + AgNO3 (aq) Ba(NO3 ) 2 (aq) + AgCl(s) ➡ ............................................................................................................ ............................................................................................................ (วาดแบบจําลอง) ฉบับ เฉลย ᡍÊäÎâ´Ãਹ + ᡍÊÍÍ¡«Ôਹ ¹íéÒ ËÃ×Í 2H2 (g) + O2 (g) 2H2 O(l) 2KNO3 (s) 2KNO2 (aq) + O2 (g) 2Al(s) + 6HCl(aq) 2AlCl3 (aq) + 3H2 (g) 4NH3 (g) + 6NO(g) 5N2 (g) + 6H2 O(l) Zn(s) + 2HCl(aq) ZnCl2 (aq) + H2 (g) CH4 (g) + 2O2 (g) CO2 (g) + 2H2 O(l) C3 H8 (g) + 5O2 (g) 3CO2 (g) + 4H2 O(l) C6 H12O6 (s) 2C2 H6 O(s) + 2CO2 (g) C6 H12O6 (s) + 6O2 (g) 6CO2 (g) + 6H2 O(l) C12H22O11(s) + 12O2 (g) 12CO2 (g) + 11H2 O(l) (á¹Ç¤íҵͺ) + = ÍеÍÁ¢Í§äÎâ´Ãਹ ÍеÍÁ¢Í§ÍÍ¡«Ôਹ ᡍÊäÎâ´Ãਹ ᡍÊÍÍ¡«Ôਹ ¹íéÒ Ba Cl2 (aq) + 2AgNO3 (aq) Ba(NO3 ) 2 (aq) + 2AgCl(s) 35 แบบวัดฯ


คํานวณหาผลลัพธจากโจทยที่กําหนดให (ว 2.1 ม.3/4) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.3 6 1. นําคารบอน 8 กรัม เผาไหมในภาชนะปดกับแกสออกซิเจน 40 กรัม เกิดแกสคารบอนไดออกไซด 34 กรัม หากปฏิกิริยานี้เปนไปตามกฎทรงมวล แกสออกซิเจนที่เกิดขึ้นมีมวลกี่กรัม ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. โซเดียมไฮโดรเจนคารบอเนต 10.5 กรัม ทําปฏิกิริยากับสารละลายแอซีติก 40 กรัม ไดแกส คารบอนไดออกไซดและสาร A เมื่อปฏิกิริยาสิ้นสุดลงแลว ปรากฏวา มีสาร A 32 กรัม หาก ปฏิกิริยานี้เปนไปตามกฎทรงมวล แกสคารบอนไดออกไซดที่เกิดขึ้นมีมวลกี่กรัม ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. แมกนีเซียม 25.7 กรัม ทําปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริก ไดผลิตภัณฑเปนแมกนีเซียมคลอไรด 28.2 กรัม และแกสไฮโดรเจน 18.3 กรัม หากปฏิกิริยานี้เปนไปตามกฎทรงมวล กรดไฮโดรคลอริก ตั้งตนมีมวลกี่กรัม ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ÇÔ¸Õ·íÒ ¨Ò¡¡®·Ã§ÁÇÅ ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒõÑé§µŒ¹·Ñé§ËÁ´ = ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒüÅÔµÀѳ±·Ñé§ËÁ´ ÁÇŢͧ C + ÁÇŢͧ O2 = ÁÇŢͧ CO2 + ÁÇŢͧ O2 8 + 40 = 34 + ÁÇŢͧ O2 ÁÇŢͧ O2 = 48 - 34 = 14 ¡ÃÑÁ ´Ñ§¹Ñé¹ á¡ÊÍÍ¡«Ôਹ·Õèà¡Ô´¢Öé¹ÁÕÁÇÅ෋ҡѺ 14 ¡ÃÑÁ ÇÔ¸Õ·íÒ ¨Ò¡¡®·Ã§ÁÇÅ ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒõÑé§µŒ¹·Ñé§ËÁ´ = ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒüÅÔµÀѳ±·Ñé§ËÁ´ ÁÇŢͧ NaHCO3 + ÁÇŢͧ CH3 COOH = ÁÇŢͧ CO2 + ÁÇŢͧÊÒà A 10.5 + 40 = ÁÇŢͧ CO2 + 32 ÁÇŢͧ CO2 = 50.5 - 32 = 18.5 ¡ÃÑÁ ´Ñ§¹Ñé¹ á¡Ê¤ÒϺ͹ä´Í͡䫴·Õèà¡Ô´¢Öé¹ÁÕÁÇÅ෋ҡѺ 18.5 ¡ÃÑÁ ÇÔ¸Õ·íÒ ¨Ò¡¡®·Ã§ÁÇÅ ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒõÑé§µŒ¹·Ñé§ËÁ´ = ÁÇÅÃÇÁ¢Í§ÊÒüÅÔµÀѳ±·Ñé§ËÁ´ ÁÇŢͧ Mg + ÁÇŢͧ HCl = ÁÇŢͧ MgCl2 + ÁÇŢͧ H2 25.7 + ÁÇŢͧ HCl = 28.2 + 18.3 ÁÇŢͧ HCl = 46.5 - 25.7 = 20.8 ¡ÃÑÁ ´Ñ§¹Ñé¹ ¡Ã´äÎâ´Ã¤ÅÍÃÔ¡µÑé§µŒ¹ÁÕÁÇÅ෋ҡѺ 20.8 ¡ÃÑÁ 36 แบบวัดฯ


พิจารณาขอมูลที่กําหนดให แลวระบุวาเปนปฏิกิริยา ดูดความรอนหรือคายความรอน (ว 2.1 ม.3/5) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.4 10 ขอมูล ปฏิกิริยา 1. เผาไหมเชื้อเพลิง ................................................................... 2. ทาเอทานอลลงบนผิวหนังแลวรูสึกเย็น ................................................................... 3. ละลายโซดาไฟในนํ้า นํ้ามีอุณหภูมิสูงขึ้น ................................................................... 4. ละลายเกลือแกงในนํ้า เมื่อจับภาชนะแลวรูสึกเย็น ................................................................... 5. เปดถังไนโตรเจนเหลว แลวมีควันสีขาวลอยออกมา ................................................................... 6. ผสมสารตั้งตน 2 ชนิด ที่มีอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสเทากัน เมื่อนํามาผสมกัน วัดอุณหภูมิสารผสมได 40 องศาเซลเซียส ................................................................... 7. 2NH3 (g) + 93kJ N2 (g) + 3H2 (g) ................................................................... 8. 4Al(s) + 3O2 (g) 2Al2 O3 (s) + 178J ................................................................... 9. ................................................................... 10. ................................................................... พลังงาน (J) สารตั้งตน ผลิตภัณฑ เวลา (s) 250 200 150 100 50 0 พลังงาน (J) สารตั้งตน ผลิตภัณฑ เวลา (s) 250 200 150 100 50 0 ฉบับ เฉลย ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ¤Ò¤ÇÒÁÌ͹ ´Ù´¤ÇÒÁÌ͹ 37 แบบวัดฯ


อธิบายการเกิดปฏิกิริยาที่กําหนดให พรอมกับเขียน สมการเคมีประกอบ (ว 2.1 ม.3/6) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.5 18 1. การเผาไหมแบบสมบูรณ เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 2. การเผาไหมแบบไมสมบูรณ เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 3. การเกิดสนิมของเหล็ก เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 4. ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧÊÒ÷ÕèÁոҵؤÒϺ͹áÅÐäÎâ´Ãਹ໚¹Í§¤»ÃСͺ¡Ñºá¡Ê ÍÍ¡«Ôਹ â´Â¡ÒÃà¼ÒäËÁŒÁÕ»ÃÔÁҳᡍÊÍÍ¡«Ôਹ·ÕèࢌÒÁÒ·íÒ»¯Ô¡ÔÃÔÂÒÁÒ¡à¾Õ§¾Í ä´Œ ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹á¡Ê¤ÒϺ͹ä´Í͡䫴 ¹íéÒ áÅоÅѧ§Ò¹ CH4 (g) + 2O2 (g) CO2 (g) + 2H2 O(l) + ¾Åѧ§Ò¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧÊÒ÷ÕèÁոҵؤÒϺ͹áÅÐäÎâ´Ãਹ໚¹Í§¤»ÃСͺ¡Ñºá¡Ê ÍÍ¡«Ôਹ â´Â¡ÒÃà¼ÒäËÁŒÁÕ»ÃÔÁҳᡍÊÍÍ¡«Ôਹ·ÕèࢌÒÁÒ·íÒ»¯Ô¡ÔÃÔÂÒäÁ‹à¾Õ§¾Í ä´Œ¼ÅÔµÀѳ± ໚¹á¡Ê¤ÒϺ͹Á͹͡䫴 ¹íéÒ áÅоÅѧ§Ò¹ ÃÇÁ·Ñé§à¡Ô´à¢Á‹Ò¤Çѹ 2CH4 (g) + 3O2 (g) 2CO(g) + 4H2 O(l) + ¾Åѧ§Ò¹ + à¢Á‹Ò¤Çѹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧàËÅç¡ ¹íéÒ áÅÐᡍÊÍÍ¡«Ôਹ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹Ê¹ÔÁ¢Í§àËÅç¡ 4Fe(s) + 3O2 (g) + 3H2 O(l) 2Fe2 O3 •3H2 O(s) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧ¡Ã´¡ÑºâÅËÐ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹à¡Å×ͧ͢âÅËÐáÅÐᡍÊäÎâ´Ãਹ ઋ¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒÃÐËNjҧáÁ¡¹Õà«ÕÂÁ¡Ñº¡Ã´äÎâ´Ã¤ÅÍÃÔ¡ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹áÁ¡¹Õà«ÕÂÁ¤ÅÍäô áÅÐᡍÊäÎâ´Ãਹ Mg(s) + 2HCl(aq) MgCl2 (aq) + H2 (g) 38 แบบวัดฯ


5. ปฏิกิริยาของกรดกับเบส เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 6. ปฏิกิริยาของเบสกับโลหะบางชนิด เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 7. ปฏิกิริยาของกรดกับสารประกอบคารบอเนต เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 8. การเกิดฝนกรด เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... 9. การสังเคราะหดวยแสงของพืช เปน ........................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................................... สมการเคมี ...................................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧ¡Ã´¡ÑºàºÊ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹à¡Å×ͧ͢âÅËÐáÅйíéÒ ËÃ×ÍÍҨ䴌à¾Õ§ à¡Å×ͧ͢âÅËЪ¹Ô´à´ÕÂÇ àÃÕ¡ÍÕ¡ª×èÍÇ‹Ò »¯Ô¡ÔÃÔÂÒÊÐà·Ô¹ ઋ¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒÃÐËNjҧ¡Ã´äÎâ´Ã¤ÅÍÃÔ¡ ¡Ñºâ«à´ÕÂÁäδÃ͡䫴 ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹â«à´ÕÂÁ¤ÅÍäôáÅйíéÒ HCl(aq) + NaOH(aq) NaCl(aq) + H2 O(l) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧàºÊ¡ÑºâÅËкҧª¹Ô´ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹à¡Å×ͧ͢âÅËÐáÅÐá¡Ê äÎâ´Ãਹ ઋ¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒÃÐËNjҧÊѧ¡ÐÊաѺâ«à´ÕÂÁäδÃ͡䫴 ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹â«à´ÕÂÁ «Ô§¤à¤µáÅÐᡍÊäÎâ´Ãਹ Zn(s) + 2NaOH(aq) Na2 ZnO2 (aq) + H2 (g) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧ¡Ã´¡ÑºÊÒûÃСͺ¤ÒϺÍ๵ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹à¡Å×ͧ͢âÅËРᡍʤÒϺ͹ä´Í͡䫴 áÅйíéÒ àª‹¹ »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧá¤Åà«ÕÂÁ¤ÒϺÍ๵¡Ñº¡Ã´«ÑÅ¿ÇÃÔ¡ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹á¤Åà«ÕÂÁ«ÑÅ࿵ ᡍʤÒϺ͹ä´Í͡䫴 áÅйíéÒ CaCO3 (s) + H2 SO4 (aq) CaSO4 (s) + CO2 (g) + H2 O(l) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧ¹íéÒ½¹¡ÑºÍ͡䫴¢Í§ä¹âµÃਹ (NOx ) ËÃ×ÍÍ͡䫴¢Í§«ÑÅà¿ÍÏ (SOx ) ·íÒãËŒ¹íéÒ½¹ÁÕÊÁºÑµÔ໚¹¡Ã´ ઋ¹ ½¹¡Ã´·Õèà¡Ô´¨Ò¡á¡Ê«ÑÅà¿ÍÏäµÃÍ͡䫴 ·íÒãËŒà¡Ô´ ¡Ã´«ÑÅ¿ÇÃÔ¡ SO3 (g) + H2 O(l) H2 SO4 (aq) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒà¤ÁÕÃÐËNjҧᡍʤÒϺ͹ä´Í͡䫴¡Ñº¹íéÒ ä´Œ¼ÅÔµÀѳ±à»š¹¹íéÒµÒÅ¡ÅÙâ¤Ê áÅÐᡍÊÍÍ¡«Ôਹ â´ÂÁÕáʧª‹ÇÂ㹡ÒÃà¡Ô´»¯Ô¡ÔÃÔÂÒáÅÐÁÕ¤ÅÍâÿÅŏ໚¹ÊÒÃÊÕª‹Ç´ٴ¡Å×¹ ¾Åѧ§Ò¹áʧ 6CO2 (g) + 6H2 O(l) áʧ ¤ÅÍâÿÅŏ C6H12O6(aq) + 6O2 (g) 39 แบบวัดฯ


สืบคนขอมูล แลวยกตัวอยางปฏิกิริยาเคมี พรอมระบุ ประโยชนและโทษที่มีตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม (ว 2.1 ม.3/7) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.6 4 พิจารณาปฏิกิริยาเคมี แลวระบุโทษของปฏิกิริยาเคมี ที่มีตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม พรอมบอกวิธีการปองกัน หรือแกปญหา (ว 2.1 ม.3/7) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.7 6 1. 4Fe(s) + 3O2 (g) + 3H2 O(l) 2Fe2 O3 •3H2 O(s) โทษ คือ ............................................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... วิธีการปองกันหรือแกปญหา คือ .............................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... 2. 2SO2 (g) + O2 (g) 2SO3 (g) และ 3NO2 (g) + H2 O(l) 2HNO3 (aq) + NO(g) โทษ คือ ............................................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... วิธีการปองกันหรือแกปญหา คือ .............................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... 3. 2CH4 (g) + 3O2 (g) 2CO(g) + 4H2 O(l) + พลังงาน + เขมาควัน โทษ คือ ............................................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... วิธีการปองกันหรือแกปญหา คือ .............................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................................................... ประโยชน .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. โทษ .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. ปฏิกิริยาเคมี คือ .......................................................................................................................................................................................................... ฉบับ เฉลย ·íÒãËŒâÅËÐà¡Ô´Ê¹ÔÁ Ê‹§¼ÅãËŒÍØ»¡Ã³à¤Ã×èͧÁ×͵‹Ò§ æ ¼Ø¡Ã‹Í¹§‹Ò áÅÐÍҨʋ§¼ÅãËŒ â¤Ã§ÊÌҧ·ÕèÍÂÙ‹ÍÒÈѵ‹Ò§ æ à¡Ô´¡Òþѧ·ÅÒ à¡çºÍØ»¡Ã³à¤Ã×èͧÁ×Í·Õè·íÒ¨Ò¡àËÅç¡ã¹·ÕèáËŒ§ËÃ×Íà¤Å×ͺ¼ÔÇ àËÅç¡à¾×èÍ»‡Í§¡Ñ¹äÁ‹ãËŒà¹×éÍàËÅç¡ÊÑÁ¼ÑʡѺÍÒ¡ÒÈâ´ÂµÃ§ ·íÒãËŒà¡Ô´½¹¡Ã´ Ê‹§¼ÅãËŒ´Ô¹¢Ò´¤ÇÒÁÊÁºÙó ¾×ªà¨ÃÔÞàµÔºâµªŒÒáÅеÒ áËÅ‹§¹íéÒ¹Ôè§ ÁÕ¤ÇÒÁ໚¹¡Ã´ «Öè§à»š¹ÍѹµÃÒµ‹ÍÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ó礏ãËŒâç§Ò¹Å´¡ÒûŋÍÂᡍʵ‹Ò§ æ ·ÕèÊ‹§¼ÅãËŒà¡Ô´ ½¹¡Ã´ ઋ¹ ᡍʫÑÅà¿ÍÏä´Í͡䫴 ᡍÊä¹âµÃਹä´Í͡䫴 ·íÒãËŒà¡Ô´à¢Á‹Ò¤Çѹ·íÒÅÒÂÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁáÅÐÅ´»ÃÐÊÔ·¸ÔÀҾ㹡ÒÃÅíÒàÅÕÂ§á¡Ê ÍÍ¡«Ôਹ¢Í§ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ ໚¹ÍѹµÃÒ¶֧ªÕÇÔµ Å´¡ÒÃ㪌à¤Ã×èͧ¹µáÅÐà¤Ã×èͧ¨Ñ¡Ãã¹âç§Ò¹·Õè·íÒãËŒà¡Ô´¡Òà à¼ÒäËÁŒáººäÁ‹ÊÁºÙó äÁ‹ËÅѺã¹Ã¶à¾×èÍ»‡Í§¡Ñ¹¡ÒÃÊÙ´´ÁᡍʤÒϺ͹Á͹͡䫴à»š¹àÇÅÒ¹Ò¹ ÊÌҧ¾Åѧ§Ò¹¤ÇÒÁÌ͹ à¾×è͹íÒä»ãªŒã¹¡ÒÃ ËØ§µŒÁÍÒËÒà ·íÒãËŒà¡Ô´á¡Ê¤ÒϺ͹ä´Í͡䫴 ·íÒãËŒ à¡Ô´»ÃÒ¡¯¡ÒóàÃ×͹¡ÃШ¡ Ê‹§¼ÅãËŒ âÅ¡ÁÕÍØ³ËÀÙÁÔÊÙ§¢Öé¹ (á¹Ç¤íҵͺ) (á¹Ç¤íҵͺ) »¯Ô¡ÔÃÔÂÒ¡ÒÃà¼ÒäËÁŒáººÊÁºÙó 40 แบบวัดฯ


ออกแบบชิ้นงานเพื่อพัฒนาหรือสรางผลิตภัณฑในการ ปองกันและแกปญหาในชีวิตประจําวัน โดยใชความรู เกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมี (ว 2.1 ม.3/8) ไดคะแนน คะแนนเต็ม กิจกรรมที่ 4.8 18 • ปญหา ................................................................................................................................................................................................................ • สืบคนขอมูล ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... • แหลงอางอิง ..................................................................................................................................................................................................................................... • วัสดุอุปกรณ ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... (วาดภาพ) • ออกแบบวิธีการแกปญหา ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ฉบับ เฉลย (¾Ô¨ÒóҵÒÁ¼Å§Ò¹·Õè¹Ñ¡àÃÕ¹Í͡Ẻ) 41 แบบวัดฯ


Click to View FlipBook Version