The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้อสอบ เทอม 2 กลางภาค วิทยาศาสตร์ ม.1 ชุดที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by benjawannaka.19, 2021-05-19 00:52:08

ข้อสอบ เทอม 2 กลางภาค วิทยาศาสตร์ ม.1 ชุดที่ 1

ข้อสอบ เทอม 2 กลางภาค วิทยาศาสตร์ ม.1 ชุดที่ 1

ตารางวเิ คราะห์ข้อสอบกลางภาค ภาคเรียนท่ี 2

ตามมาตรฐานตวั ชี้วัด วชิ า วิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1

ตารางวิเคราะห์มาตรฐานตวั ชี้วดั ชุดท่ี 1
ตารางวิเคราะห์ระดบั พฤติกรรมการคิด

ข้อ ว 2.3 ความรู้ ความเข้าใจ การ การ การประเมิน การ
ความจา ประยุกต์ใช้ วเิ คราะห์ ค่า สร้างสรรค์
1234567

1✓ ✓

2✓ ✓

3✓ ✓

4 ✓✓ ✓

5 ✓✓ ✓

6✓ ✓

7✓ ✓

8✓ ✓

9✓ ✓

10 ✓ ✓

11 ✓ ✓

12 ✓ ✓

13 ✓ ✓

14 ✓ ✓

15 ✓ ✓

16 ✓ ✓ ✓

17 ✓ ✓ ✓

18 ✓✓ ✓

19 ✓✓ ✓

20 ✓ ✓ ✓

ข้อสอบหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง 2560)

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ขอ้ สอบ กลางภาค ภาคเรียนที่ 2
วิชา วิทยาศาสตร์
ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 ชุดท่ี 1

ช่ือ ...................................................... นามสกุล..................................................................
เลขประจาตวั ...................................... โรงเรียน .................................................................
วนั ที่ ........................................ เดือน ...................................................... พ.ศ. ...................

คาชี้แจง 1. ขอ้ สอบมีท้งั หมด 20 ขอ้ 20 คะแนน คะแนนที่ได้
2. ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกท่ีสุดเพียงคำตอบเดียว คะแนนเตม็
20

กาหนดให้ ความจุความร้อนจาเพาะของน้าแขง็ มีคา่ 0.5 แคลอร่ี/กรัม•องศาเซลเซียส
ความจุความร้อนจาเพาะของน้า มีค่า 1 แคลอร่ี/กรัม•องศาเซลเซียส
ความจุความร้อนจาเพาะของไอน้ามีค่า 0.5 แคลอรี่/กรัม•องศาเซลเซียส
ความร้อนแฝงจาเพาะของการหลอมเหลวของน้า มีค่า 80 แคลอร่ี/กรัม
ความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอน้า มีคา่ 540 แคลอร่ี/กรัม

1. ขอ้ ใดกล่ำวไม่ถูกตอ้ ง
ก. เทอร์มอมิเตอร์ใชห้ ลกั กำรหดขยำยตวั ของสำรเม่ือไดร้ ับควำมร้อน
ข. อุณหภมู ิ 0 องศำเซลเซียส หมำยถึงไม่มีพลงั งำนควำมร้อนอยเู่ ลย
ค. เทอร์มอมิเตอร์วดั ไขท้ วั่ ไปมีสเกลอยใู่ นช่วง 35 – 42 องศำเซลเซียส
ง. เทอร์มอมิเตอร์แบบปรอทไม่สำมำรถวดั อุณหภมู ิต่ำกวำ่ -39 องศำเซลเซียสได้ เพรำะปรอทจะแขง็ ตวั

วทิ ยาศาสตร์ ม.1 (ชุดท่ี 1) 1

2. ตำแหน่งใดเป็นตำแหน่งท่ีถูกตอ้ งในกำรอ่ำนค่ำเทอร์มอมิเตอร์
A

B
C
D

ก. A ข. B ค. C ง. D

3. ถำ้ ตอ้ งกำรไปเที่ยวที่ประเทศองั กฤษ ซ่ึงขณะน้นั มีอุณหภมู ิ 50 องศำฟำเรนไฮต์ ควรเตรียมเส้ือผำ้ อยำ่ งไรให้

เหมำะสมกบั สภำพอำกำศในเวลำน้นั

ก. เส้ือกลำ้ ม กำงเกงขำส้ัน ข. เส้ือยดื กำงเกงยนี ส์

ค. เส้ือกนั หนำว กำงเกงขำยำว ง. เส้ือกนั ฝน

4. ขอ้ ใดเกี่ยวขอ้ งกบั กำรหดหรือขยำยตวั ของวตั ถเุ ม่ือไดร้ ับควำมร้อน

ก. กำรสลำยตวั ของหินกลำยเป็นทรำย ข. เตำรีดไฟฟ้ำ

ค. กำรยดื ของสปริง ง. กำรทำเส้ือยดื

5. เพรำะเหตใุ ดบำ้ นเรือนในสมยั ก่อนจึงนิยมทำหลงั คำสูงมำก
ก. เพ่อื ใหอ้ ำกำศร้อนขยำยตวั ลอยสูงข้ึน อำกำศเยน็ จะเขำ้ มำแทนที่
ข. เพอ่ื ใหอ้ ำกำศเยน็ ขยำยตวั และเคล่ือนที่ทำให้เกิดลมพดั
ค. เพื่อใหอ้ ำกำศร้อนหดตวั ลอยสูงข้นึ อำกำศเยน็ จะเขำ้ มำแทนท่ี
ง. เพอื่ ใหอ้ ำกำศเยน็ หดตวั และเคลื่อนที่ ทำใหเ้ กิดลมพดั

6. เม่ือสสำรไดร้ ับพลงั งำนควำมร้อนจะเกิดสิ่งใด

ก. สสำรเคลื่อนท่ีเร็วข้นึ ข. อนุภำคของสสำรอยชู่ ิดกนั มำกข้นึ

ค. สสำรจะมีปริมำตรเลก็ ลง ง. สสำรจะมีอณุ หภูมิสูงข้นึ

วทิ ยาศาสตร์ ม.1 (ชุดที่ 1) 2

พจิ ำรณำแผนภำพต่อไปน้ีใชต้ อบคำถำมขอ้ 7 - 8

A ของเหลว C
B D

ของแขง็ แก๊ส

7. ขอ้ ใดกลำ่ วไม่ถูกตอ้ งเก่ียวกบั ข้นั ตอน A F
ก. สำรมีอุณหภูมิลดลง E
ค. สำรเกิดกำรเปลี่ยนสถำนะ
ข. สำรเกิดกำรแขง็ ตวั
ง. สำรคำยพลงั งำนออกมำ

8. ข้นั ตอนใดเป็นกำรดูดพลงั งำนควำมร้อน ข. D , E , F
ก. A , B , C ง A,C,F
ค. B , D , E

9. น้ำมวล 10 กรัมท่ีอุณหภูมิหอ้ ง ตอ้ งกำรตม้ จนเดือด จะตอ้ งใชพ้ ลงั งำนควำมร้อนก่ีกิโลจูล เมื่อควำมจุควำม

ร้อนจำเพำะของน้ำมีคำ่ 4.2 kJ/kg•K

ก. 2.10 kJ ข. 3.15 kJ

ค. 2,100 kJ ง. 3,150 kJ

10. กำรเปล่ียนแปลงในขอ้ ใดใชพ้ ลงั งำนควำมร้อนมำกที่สุด

ก. ตม้ น้ำ มวล 100 กรัม อุณหภูมิ 70 องศำเซลเซียสใหเ้ ดือด

ข. วำงน้ำแขง็ มวล 50 กรัม อณุ หภูมิ -10 องศำเซลเซียส ทิง้ ไวจ้ นละลำยหมด

ค. ตม้ น้ำเดือด มวล 80 กรัม ใหก้ ลำยเป็นแกส๊ หมด

ง. ตม้ น้ำ มวล 100 กรัม อุณหภูมิ 0 องศำเซลเซียสใหเ้ ดือด วทิ ยาศาสตร์ ม.1 (ชุดท่ี 1) 3

11. ขอ้ ใดกลำ่ วถึงสมดุลควำมร้อนไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. มวลท่ีเพิ่มข้นึ เท่ำกบั มวลที่ลดลง
ข. อณุ หภมู ิท่ีเพม่ิ ข้ึนเท่ำกบั อณุ หภมู ิท่ีลดลง
ค. พลงั งำนควำมร้อนท่ีเพิ่มข้นึ เท่ำกบั พลงั งำนควำมร้อนท่ีลดลง
ง. พลงั งำนควำมร้อนจำกกำรพำควำมร้อนเทำ่ กบั พลงั งำนควำมร้อนจำกกำรนำควำมร้อน

12. เมื่อนำน้ำแขง็ -10 องศำเซลเซียส ผสมกบั น้ำเดือด อุณหภูมิของของผสมในขอ้ ใดไม่มีโอกำสเป็นไปได้

ก. -5 องศำเซลเซียส ข. 0 องศำเซลเซียส

ค. 70 องศำเซลเซียส ง. 120 องศำเซลเซียส

13. ใส่น้ำแขง็ มวล 10 กรัม อุณหภมู ิ 0 องศำเซลเซียส ลงในน้ำร้อนมวล 20 กรัม 70 องศำเซลเซียส อณุ หภูมิผสม

เป็นเทำ่ ไร

ก. 10 องศำเซลเซียส ข. 20 องศำเซลเซียส

ค. 35 องศำเซลเซียส ง. 55 องศำเซลเซียส

14. อุณหภูมิผสมในขอ้ ใดมีค่ำมำกที่สุด
ก. น้ำมวล 20 กรัม อุณหภูมิ 20 องศำเซลเซียส ผสมกบั น้ำเดือดมวล 100 กรัม
ข. ละลำยน้ำแขง็ มวล 50 กรัม ในน้ำร้อน มวล 100 กรัม อุณหภูมิ 70 องศำเซลเซียส
ค. ผำ่ นไอน้ำ มวล 5 กรัม อณุ หภูมิ 100 องศำเซลเซียส ลงในน้ำแขง็ มวล 20 กรัม
ง. ใส่น้ำแขง็ มวล 10 กรัม อณุ หภูมิ -10 องศำเซลเซียส ลงในน้ำเดือด มวล 200 กรัม

15. ขอ้ ใดกล่ำวไดถ้ กู ตอ้ ง 4
ก. ควำมร้อนจำกสสำรท่ีมวลมำกถกู ถำ่ ยโอนไปยงั สสำรท่ีมีมวลนอ้ ย
ข. ควำมร้อนจำกสสำรท่ีมีมวลนอ้ ยถูกถำ่ ยโอนไปยงั สสำรที่มีมวลมำก
ค. ควำมร้อนจำกสสำรท่ีมีอณุ หภูมิสูงถูกถำ่ ยโอนไปยงั สสำรที่มีอณุ หภูมิต่ำ
ง. ควำมร้อนจำกสสำรท่ีมีอุณหภมู ิต่ำถกู ถ่ำยโอนไปยงั สสำรท่ีมีอุณหภูมิสูง

วทิ ยาศาสตร์ ม.1 (ชุดท่ี 1)

16. นำน้ำเดือดเทใส่แกว้ 4 ใบท่ีมีขนำดเทำ่ กนั ในปริมำณเทำ่ กนั ทิ้งไวส้ ักครู่ น้ำในแกว้ ที่ทำจำกวสั ดุชนิดใดจะมี

อณุ หภูมิต่ำที่สุด

ก. เซรำมิก ข. แกว้

ค. พลำสติก ง. อลมู ิเนียม

17. อุปกรณ์ในขอ้ ใดใชห้ ลกั กำรถำ่ ยโอนควำมร้อนแตกต่างจำกพวกมำกที่สุด

ก. กระทะ ข. พดั ลม

ค. เตำปิ้ งยำ่ ง ง. เตำอบลมร้อน

18. ขอ้ ใดเรียงลำดบั ควำมสำมำรถในกำรนำควำมร้อนของสถำนะตำ่ งๆ จำกมำกไปนอ้ ย

ก. ของแขง็ ของเหลว แกส๊ ข. แกส๊ ของเหลว ของแขง็

ค. ของแขง็ แก๊ส ของเหลว ง. ของเหลว แกส๊ ของแขง็

19. กำรตม้ ไขใ่ นบอ่ น้ำพุร้อน เป็นกำรถำ่ ยโอนควำมร้อนแบบใด

ก. กำรนำควำมร้อน ข. กำรพำควำมร้อน

ค. กำรแผร่ ังสีควำมร้อน ง. ถูกทกุ ขอ้

20. ขอ้ ใดกล่ำวไดถ้ กู ตอ้ ง
ก. กำรแผร่ ังสีควำมร้อนเกิดไดใ้ นตวั กลำงทกุ สถำนะ
ข. สำรท่ีมีควำมจุควำมร้อนจำเพำะมำกกวำ่ จะเปลี่ยนแปลงอณุ หภมู ิไดง้ ำ่ ยกวำ่
ค. เมื่อแช่มือในน้ำร้อน ควำมเยน็ จำกมือจะถ่ำยโอนไปยงั น้ำ ทำใหร้ ู้สึกร้อน
ง. พลงั งำนควำมร้อนที่สำรรับและคำยออกมำเพ่ือเปลี่ยนสถำนะที่อุณหภูมิเดียวกนั มีคำ่ เท่ำกนั

วทิ ยาศาสตร์ ม.1 (ชุดท่ี 1) 5

เฉลย ข้อสอบชุดท่ี 1

ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง

1.  11. 

2.  12. 

3.  13. 

4.  14. 

5.  15. 

6.  16. 

7.  17. 

8.  18. 

9.  19. 

10.  20. 

วิทยาศาสตร์ ม.1 (ชุดที่ 1) 6

ขอ้ สอบ กลางภาค ภาคเรียนที่ 2 ชุดท่ี 1 เฉลยคาตอบอย่างละเอยี ด
วชิ า วิทยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1

1. ข. อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส หมายถึงไม่มพี ลงั งานความร้อนอยู่เลย

 ข. อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส หมายถึงไม่มีพลงั งานความร้อนอยเู่ ลย ไม่ถูก เพราะ อุณหภูมิเป็นการบอก
ระดบั ความร้อนเปรียบเทียบกนั ดงั น้นั อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียสจะมีพลงั งานความร้อนนอ้ ยกวา่ อุณหภูมิ 1 องศา
เซลเซียส และมีพลงั งานความร้อนมากกวา่ อณุ หภูมิ -1 องศาเซลเซียส

2. ค. C
 การอ่านค่าเทอร์มอมิเตอร์ตอ้ งให้สายตาอยู่ในระดบั เดียวกบั ระดบั ของของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์ จาก

ภาพคอื ตาแหน่ง C

3. ค. เสื้อกนั หนาว กางเกงขายาว
 ประเทศองั กฤษขณะน้นั มีอุณหภูมิ 50 องศาฟาเรนไฮต์ เปล่ียนเป็นหน่วยองศาเซลเซียสไดด้ งั น้ี

สูตร F - 32 = C
95
50 9– 32 = C5

C = 10c

ดงั น้นั ควรเตรียมเส้ือกนั หนาว กางเกงขายาว

4. ข. เตารีดไฟฟ้า
 เตารีดไฟฟ้าใชห้ ลกั การหดขยายตวั ของโลหะ 2 ชนิดท่ีมีการหดขยายตวั ไมเ่ ทา่ กนั เมื่อไดร้ ับความร้อน

5. ก. เพ่ือให้อากาศร้อนขยายตวั ลอยสูงขึน้ อากาศเย็นจะเข้ามาแทนที่
 บา้ นเรือนสมยั ก่อนนิยมทาหลงั คาสูง เพื่อใหอ้ ากาศร้อนขยายตวั ลอยสูงข้ึน อากาศเยน็ จะเขา้ มาแทนท่ีทา

ใหเ้ กิดลมและสามารถระบายอากาศไดด้ ี

6. ง. สสารจะมีอุณหภูมสิ ูงขึน้

 เม่ือสสารไดร้ ับความร้อน สสารจะมีอณุ หภมู ิสูงข้นึ ได้

7. ก. สารมีอณุ หภูมิลดลง

 ข้นั ตอน A คอื การเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของแขง็ เรียกวา่ การแขง็ ตวั ดงั น้นั ขณะสารเปล่ียน

สถานะ สารจะไมเ่ ปล่ียนอุณหภมู ิ วทิ ยาศาสตร์ ม.1 (ชุดที่ 1) 7

8. ค. B , D , E

 การเปล่ียนสถานะแบบดูดพลงั งานความร้อน ไดแ้ ก่ ข้นั ตอน B การละลาย D การระเหย และ E

การระเหิด

9. ข. 3.15 kJ น้า 25C mct น้า 100C
 วิธีทา

จะไดว้ า่ Q = mct

= 0.01 × 4.2 × (100 – 25) = 3.15 kJ

ดงั น้นั จะตอ้ งใชพ้ ลงั งานความร้อน 3.15 kJ

10. ค. ต้มน้าเดือด มวล 80 กรัม ให้กลายเป็ นแก๊สหมด

 ก. ตม้ น้า มวล 100 กรัม อณุ หภูมิ 70 องศาเซลเซียสใหเ้ ดือด

วิธีทา น้า 70C mct น้า 100C

จะไดว้ า่ Q = mct = 100 × 1 × (100 – 70) = 3,000 Cal

ข. วางน้าแขง็ มวล 50 กรัม อณุ หภมู ิ -10 องศาเซลเซียส ทิง้ ไวจ้ นละลายหมด

วธิ ีทา น้าแขง็ -10C mct น้าแขง็ 0C mL น้า 0C

จะไดว้ า่ Q = mct + mL = (50×0.5×(0-(-10)) + (50×80) = 4,250 Cal

ค. ตม้ น้าเดือด มวล 80 กรัม ใหก้ ลายเป็นแกส๊ หมด

วิธีทา น้า 100C mL แก๊ส 100C

จะไดว้ า่ Q = mL = 80×540 = 43,200 Cal

ง. ตม้ น้า มวล 100 กรัม อณุ หภูมิ 0 องศาเซลเซียสใหเ้ ดือด

วิธีทา น้า 0C mct น้า 100C

จะไดว้ า่ Q = mct = 100×1×(100 – 0) = 10,000 Cal

ดงั น้นั ขอ้ ค ใชพ้ ลงั งานความร้อนมากที่สุด

11. ค. พลงั งานความร้อนท่เี พม่ิ ขนึ้ เท่ากบั พลงั งานความร้อนที่ลดลง
 สมดุลความร้อนเกิดข้ึนเม่ือพลงั งานความร้อนที่เพ่ิมข้นึ เทา่ กบั พลงั งานความร้อนท่ีลดลง

12. ง. 120 องศาเซลเซียส

 อณุ หภมู ิของของผสมจะอยรู่ ะหวา่ งอณุ หภูมิเร่ิมตน้ ของสารท่ีนามาผสมกนั

วิทยาศาสตร์ ม.1 (ชุดท่ี 1) 8

13. ข. 20 องศาเซลเซียส น้า 0C mct ของผสม tC mct น้า 70C
 วธิ ีทา น้าแขง็ 0C mL

จะไดว้ า่ Qเพ่มิ = Qลด

mL + mct = mct

(10×80) + (10×1×(t – 0)) = (20×1×(70 – t))

t = 20 c

14. ง. ใส่นา้ แขง็ มวล 10 กรัม อุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส ลงในนา้ เดือด มวล 200 กรัม

 ก. น้ำมวล 20 กรัม อุณหภูมิ 20 องศำเซลเซียส ผสมกบั น้ำเดือดมวล 100 กรัม

วธิ ีทา น้า 20C mct ของผสม tC mct น้า 100C

จะไดว้ า่ Qเพม่ิ = Qลด

mct = mct

(20×1×(t - 20)) = (100×1×(100 – t))

t = 86.7 c
ข. ละลำยน้ำแขง็ มวล 50 กรัม ในน้ำร้อน มวล 100 กรัม อณุ หภูมิ 70 องศำเซลเซียส

วธิ ีทา น้าแขง็ 0C mL น้า 0C mct ของผสม tC mct น้า 70C

จะไดว้ า่ Qเพิม่ = Qลด

mL + mct = mct

(50×80) + (50×1×(t - 0)) = (100×1×(70 – t))

t = 20 c
ค. ผำ่ นไอน้ำ อุณหภูมิ 100 องศำเซลเซียส มวล 5 กรัม ลงในน้ำแขง็ มวล 20 กรัม

วธิ ีทา น้าแขง็ 0C mL น้า 0C mct ของผสม tC mct น้า 100C mL ไอน้า 100C

จะไดว้ า่ Qเพิ่ม = Qลด

mL + mct = mct + mL

(20×80) + (20×1×(t - 0)) = (5×1×(100 – t)) + (5 × 540)

t = 64 c

วิทยาศาสตร์ ม.1 (ชุดที่ 1) 9

ง. ใส่น้ำแขง็ มวล 10 กรัม อณุ หภูมิ -10 องศำเซลเซียส ลงในน้ำเดือด มวล 200 กรัม

วธิ ีทา น้าแขง็ -10C mct น้าแขง็ 0C mL น้า 0C mct ของผสม tC mct น้า 100C

จะไดว้ า่ Qเพิ่ม = Qลด

mct + mL + mct = mct

(10×0.5×(0-(-10)) + (10×80) + (10×1×(t - 0)) = (200×1×(100 – t))

t = 91.2 c

15. ค. ความร้อนจากสสารที่มอี ุณหภูมสิ ูงถูกถ่ายโอนไปยังสสารท่ีมีอุณหภูมติ า่

 การถ่ายโอนความร้อนจะเกิดข้ึนโดยความร้อนจากสสารที่มีอุณหภูมิสูงจะเคลื่อนที่ไปหาสสารที่มี
อุณหภมู ิต่า
16. ง. อลูมิเนียม

 อลูมิเนียมนาความร้อนไดด้ ีที่สุดทาให้สามารถถ่ายเทความร้อนจากน้าได้ดีที่สุด จึงทาให้น้าในแก้ว
อลมู ิเนียมมีอณุ หภมู ิต่าสุด

17. ก. กระทะ

 พดั ลม เตาปิ้ งยา่ ง และเตาอบลมร้อนใชห้ ลกั การพาความร้อน ส่วนกระทะใชห้ ลกั การนาความร้อน
18. ก. ของแข็ง ของเหลว แก๊ส

 เรียงลาดับความสามารถในการนาความร้อนของสถานะของสารจากมากไปน้อยได้ดังน้ี ของแข็ง
ของเหลว แก๊ส
19. ข. การพาความร้อน

 การตม้ ไขใ่ นบ่อน้าร้อนเป็นการพาความร้อนโดยอาศยั ตวั กลางคอื น้า

20. ง. พลงั งานความร้อนท่ีสารรับและคายออกมาเพ่ือเปล่ยี นสถานะที่อุณหภูมิเดยี วกนั มีค่าเท่ากนั

 ก. กำรแผ่รังสีควำมร้อนเกิดไดใ้ นตวั กลำงทุกสถำนะ ไม่ถูก เพรำะกำรแผ่รังสีควำมร้อนไม่ตอ้ งอำศยั

ตวั กลำง

ข. สำรท่ีมีควำมจุควำมร้อนจำเพำะมำกกวำ่ จะเปลี่ยนแปลงอณุ หภมู ิไดง้ ่ำยกวำ่ ไม่ถกู เพรำะสำรที่มีควำม

จุควำมร้อนจำเพำะมำกกวำ่ จะเปลี่ยนแปลงอุณหภมู ิไดย้ ำกกวำ่

ค. เมื่อแช่มือในน้ำร้อน ควำมเยน็ จำกมือจะถ่ำยโอนไปยงั น้ำ ทำให้รู้สึกร้อน ไม่ถูก เพรำะควำมร้อนจำก

น้ำจะถ่ำยโอนไปยงั มือ ทำใหเ้ รำรู้สึกร้อน วทิ ยาศาสตร์ ม.1 (ชุดท่ี 1) 10


Click to View FlipBook Version