โครงงานอาชีพ
การบรู
นําเสนอ
คณุ ครู วนดิ า บุญพเิ ชฐวงศ์
จดั ทาํ โดย
น.ส. ดาราวดี วงษ์ดาวดงึ ส์ ม.5/16 เลขท่ี 1
น.ส. ธษั ณ์ชญั ญา บญุ พา ม.5/16 เลขท่ี 2
น.ส. ธรี นาฎ สายนื ม.5/16 เลขท่ี 3
น.ส. กรรณกิ าร์ ดวงตาผา ม.5/16 เลขท่ี 4
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ
สาํ นักงานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษา อดุ รธานี เขต 20
บทคดั ย่อ
การบูรทม่ี ปี ระโยชน์อยแู่ ลว้ สามารถนําไปใชใ้ หก้ ่อประโยชน์สงู สดุ ไดอ้ กี มขี นั้ ตอนการทาํ ทไ่ี ม่
ยงุ่ ยากซบั ซอ้ น เพยี งนําพมิ เสนและการบรู มาบดใหเ้ ขา้ กนั และนําน้ํายคู าลปิ ตสั มาหยดใส่ รอ
ใหแ้ ขง็ ตวั เพยี งเทา่ น้ี สามารถนําไปใชง้ านไดจ้ รงิ ใชล้ ดกลนิ่ อบั ตามหอ้ งตา่ งๆในบา้ น เชน่
หอ้ งนํ้า หอ้ งเกบ็ ของ ตเู้ สอ้ื ผา้ หรอื แมแ้ ตใ่ นรถยนต์ การทดลองทาํ ถงุ การบูรครงั้ น้ี เป็นการ
ทดลองทไ่ี ดผ้ ลผลติ ทด่ี ี เพม่ิ มลู คา่ ใหก้ บั การบรู ทม่ี ปี ระโยชน์อยแู่ ลว้ นําไปตอ่ ยอดใหเ้ กดิ
ประโยชน์สงู สุดไดอ้ กี ผทู้ าํ การทดลองไดค้ วามรใู้ นการทาํ ถุงการบรู และสามารถนําไปใชห้ า
รายไดร้ ะหวา่ งเรยี นได้
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานสามารถบรรลุสาํ เรจ็ ไดด้ ว้ ยดี ดว้ ยความรว่ มมอื จาก ผปู้ กครอง อาจารยแ์ ละเพอ่ื นๆ
ผจู้ ดั ทาํ ขอขอบพระคณุ คณุ พอ่ คณุ แม่ ของคณะผจู้ ดั ทาํ ทช่ี ว่ ยในการชว่ ยหาวสั ดุ อุปกรณ์
ในการทาํ สบกู่ ากกาแฟครงั้ น้ี ขอขอบคุณพๆ่ี และเพ่อื นๆ ทช่ี ว่ ยในการทดลองใชส้ บกู่ าก
กาแฟทจ่ี ดั ทาํ ขน้ึ ทาํ ใหง้ านชน้ิ น้ีผา่ นไปไดด้ ว้ ยดี
บทท่ี 1
บทนํา
ที่มาและความสาํ คญั
ในปจั จบุ นั ของสงั คมไทยทกุ วนั น้ีมกี ารสรา้ งอาคารบา้ นเรอื นในรปู แบบทรงลกู เตา๋ และมี
การปิดทบึ ทาํ ใหเ้ กดิ การอบั ชน้ื ของอากาศในพน้ื ทน่ี นั้ ๆหรอื วา่ จะเป็นตเู้ สอ้ื ผา้ หอ้ งน้ํา ใน
รถยนตจ์ ะมกี ารสง่ กลนิ่ อบั ออกมา ทางคณะผูจ้ ดั ทาํ จงึ ไดค้ ดิ หาวธิ ชี ว่ ยทจ่ี ะชว่ ยในการลดกลน่ิ
อบั ลง ภายในกลุ่มจงึ เสนอแนะใหใ้ ชก้ ารบรู ซง่ึ ชว่ ยในการลดกลน่ิ อบั และไดส้ งั เกตเหน็ วา่ มี
การวางหน่ายในทอ้ งตลาด คณะผูจ้ ดั ทาํ จงึ ไดค้ ดิ ทจ่ี ะจดั ทาํ ขน้ึ มาใชเ้ พ่อื ลดอตั ราการใชจ้ า่ ย
และยงั สามารถทาํ เป็นของฝากไดอ้ กี ดว้ ย โดยศกึ ษากระบวนการจากธรรมชาติ
ปจั จบุ นั มนุษยไ์ ดร้ บั ผลกระทบจากการใชส้ ารเคมตี า่ งๆมากมายจากขา่ วโทรทศั น์
และวทิ ยุ ทงั้ จากการบรโิ ภคและอุปโภค ขา้ พเจา้ และเพ่อื น ๆ จงึ สนใจทจ่ี ะศกึ ษาเร่อื งสารทใ่ี ช้
ในชวี ติ ประจาํ วนั วา่ สามารถนําพชื มาใชท้ ดแทนกนั ไดห้ รอื ไมใ่ นชวี ติ ประจาํ วนั โดยการผลติ
ถงุ การบูรทม่ี กี ลน่ิ หอมแบบสมนุ ไพรทม่ี อี ยภู่ ายในทอ้ งถนิ่ และไมม่ อี นั ตราย
วตั ถปุ ระสงค์
1. ศกึ ษาการวธิ กี ารทาํ ถุงการบรู
2. ศกึ ษาการนําถุงการบรู ไปใชป้ ระโยชน์ใหม้ ผี ลประโยชน์มากทส่ี ุด
3. เพ่อื ผลติ ถุงการบรู มาใชเ้ องและจดั วางจาํ หน่าย
ระยะเวลา
โดยการศกึ ษาทดลองและประดษิ ฐใ์ ชเ้ วลาในการศกึ ษาทดลองและประดษิ ฐป์ ระมาณวนั ท่ี
วนั ท่ี 20 สงิ หาคม 2563 – วนั ท่ี 16 กนั ยายน 2563
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รบั
1. ขา้ พเจา้ และเพอ่ื นไดฝ้ ึกฝนการทาํ งานเป็นขนั้ ตอน
2. ไดท้ ราบถงึ ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ของคนสมยั ก่อนและนํามาศกึ ษาเพอ่ื ใชป้ ระโยชน์ให้
ลกู หลานคงสบื สานตอ่ ไป
3. ไดเ้ รยี นรกู้ ารทาํ โครงงาน ซง่ึ เป็นประโยชน์ตอ่ การทาํ โครงงานระดบั สงู
4. ไดเ้ ผยแพรผ่ ลงานซง่ึ เป็นประโยชน์แก่เพ่อื น ๆ และผทู้ ส่ี นใจ
งบประมาณค่าใช้จ่าย
300 บาท
ขอบเขตของโครงงาน
1. โดยการศกึ ษาทดลองและประดษิ ฐใ์ ชเ้ วลาในการศกึ ษาทดลองและประดษิ ฐป์ ระมาณ
วนั ท่ี 20 สงิ หาคม 2563 – วนั ท่ี 16 กนั ยายน 2563
2. วสั ดุ อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการดาํ เนนิ งาน
2.1 กระดาษสา
2.2 การบูรหอม
2.3 ถงุ แกว้
นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ
1. การบูร หมายถงึ พรรณไมพ้ น้ื เมอื งของประเทศจนี ญ่ปี ุ่น และไตห้ วนั มเี ขตการ
กระจายพนั ธุใ์ นแถบเมดเิ ตอรเ์ รเนียน อนิ โดนีเซยี อนิ เดยี อยี ปิ ต์ แอฟรกิ าใต้ จาไมกา
บราซลิ สหรฐั อเมรกิ า และประเทศไทย โดยจดั เป็นไมย้ นื ตน้ ขนาดใหญ่ ลกั ษณะเป็น
ทรงพุม่ กวา้ งและทบึ มคี วามสงู ของตน้ ไดถ้ งึ 30 เมตร ลาํ ตน้ มขี นาดเสน้ ผา่ น
ศนู ยก์ ลางถงึ 1.5 เมตร เปลอื กตน้ เป็นสนี ้ําตาล ผวิ หยาบ สว่ นเปลอื กกงิ่ เป็นสเี ขยี ว
หรอื เป็นสนี ้ําตาลออ่ น ลาํ ตน้ และกงิ่ เรยี บไมม่ ขี น สว่ นเน้อื ไมเ้ ป็นสนี ํ้าตาลปนแดง
บทที่ 2
เอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
ในการศกึ ษาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่อื งถุงการบูรครงั้ น้ี คณะผูจ้ ดั ทาํ ไดศ้ กึ ษาเอกสาร
งานวจิ ยั ครงั้ น้ีทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ดงั น้ี
1. ขอ้ มลู ทวั่ ไปของการบรู
2. คณุ ประโยชน์ของการบรู
1. ข้อมูลทวั่ ไปของการบรู
การบูร ช่อื สามญั : Camphor, Gum camphor, Formosan camphor, Laurel camphor
การบูร ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Cinnamomum camphora (L.) J.Presl (ชอ่ื พอ้ งวทิ ยาศาสตร์
Camphora officinarum Nees, Laurus camphora L. จดั อยใู่ นวงศอ์ บเชย
ลกั ษณะของการบรู
ตน้ การบูร เป็นพรรณไมพ้ น้ื เมอื งของประเทศจนี ญ่ปี ุน่ และไตห้ วนั มเี ขตการกระจายพนั ธุใ์ น
แถบเมดเิ ตอรเ์ รเนยี น อนิ โดนเี ซยี อนิ เดยี อยี ปิ ต์ แอฟรกิ าใต้ จาไมกา บราซลิ สหรฐั อเมรกิ า
และประเทศไทย โดยจดั เป็นไมย้ นื ตน้ ขนาดใหญ่ ลกั ษณะเป็นทรงพุม่ กวา้ งและทบึ มคี วามสงู
ของตน้ ไดถ้ งึ 30 เมตร ลําตน้ มขี นาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางถงึ 1.5 เมตร เปลอื กตน้ เป็นสนี ้ําตาล
ผวิ หยาบ สว่ นเปลอื กกง่ิ เป็นสเี ขยี วหรอื เป็นสนี ํ้าตาลออ่ น ลาํ ตน้ และกง่ิ เรยี บไมม่ ขี น สว่ นเน้ือ
ไมเ้ ป็นสนี ํ้าตาลปนแดง เม่อื นํามากลนั ่ แลว้ จะได้ "การบูร" ทุกสว่ นมกี ลนิ่ หอม โดยเฉพาะท่ี
สว่ นทข่ี องรากและโคนตน้ ขยายพนั ธุด์ ว้ ยวธิ กี ารเพาะเมลด็ และวธิ กี ารปกั ชาํ
ใบการบูร
ใบเป็นใบเดย่ี วออกเรยี งสลบั ลกั ษณะเป็นรปู รหี รอื รปู รแี กมรปู ไข่ ปลายใบเรยี วแหลม โคนใบ
ป้านหรอื กลม สว่ นขอบใบเรยี บหรอื เป็นคล่นื เลก็ น้อย ใบมขี นาดกวา้ งประมาณ 2.5-5.5
เซนตเิ มตรและยาวประมาณ 5.5-15 เซนตเิ มตร แผน่ ใบคอ่ นขา้ งเหนยี ว หลงั ใบเป็นสเี ขยี ว
เขม้ และเป็นมนั สว่ นทอ้ งใบเป็นสเี ขยี วอมเทาหรอื นวล ไมม่ ขี น เสน้ ใบขน้ึ ตรงมาจากโคนใบ
ประมาณ 3-8 มลิ ลเิ มตร แลว้ แยกออกเป็นเสน้ 3 เสน้ ตรงมุมทม่ี เี สน้ ใบแยกออกนนั้ มตี อ่ ม 2
ตอ่ ม และตามเสน้ กลางใบอาจมตี อ่ มเกดิ ขน้ึ ตรงมุมทม่ี เี สน้ ใบแยกออกไป สว่ นกา้ นใบมคี วาม
ยาวประมาณ 2-3 เซนตเิ มตร ไมม่ ขี น ทต่ี าใบมเี กลด็ ซอ้ นเหล่อื มกนั อยู่ โดยเกลด็ ชนั้ นอกจะ
เลก็ กวา่ เกลด็ ชนั้ ในตามลําดบั และเม่อื นําใบมาขยจ้ี ะมกี ลน่ิ หอมคลา้ ยกลนิ่ การบูร
ดอกการบรู
ออกดอกเป็นชอ่ แบบแยกแขนง โดยจะออกเป็นกระจุกตามงา่ มใบ ดอกมขี นาดเลก็ เป็นสขี าว
อมสเี หลอื งหรอื อมสเี ขยี ว กา้ นดอกยอ่ ยมขี นาดสนั้ มาก ดอกรวมมกี ลบี 6 กลบี เรยี งเป็นวง 2
วง วงละ 3 กลบี ลกั ษณะเป็นรปู รี ปลายมน ดา้ นนอกเกลย้ี ง สว่ นดา้ นในมขี นละเอยี ด ดอกมี
เกสรเพศผู้ 9 กา้ น เรยี งเป็นวง 3 วง วงละ 3 กา้ น สว่ นอบั เรณูของวงท1่ี และ 2 หนั หน้าเขา้
ดา้ นใน ทก่ี า้ นเกสรมขี น สว่ นวงท่ี 3 จะหนั หน้าออกทางดา้ นนอก ทก่ี า้ นเกสรคอ่ นขา้ งใหญ่ มี
ตอ่ ม 2 ตอ่ ม อยใู่ กลก้ บั กา้ น ลกั ษณะของตอ่ มเป็นรปู ไขก่ วา้ งและมกี า้ น อบั เรณูจะมชี อ่ งเปิด
4 ชอ่ ง เรยี งกนั เป็นแถว 2 แถว แถวละ 2 ชอ่ ง มลี น้ิ เปิดทงั้ 4 ชอ่ ง สว่ นเกสรเพศผเู้ ป็นหมนั มี
3 กา้ น อยดู่ า้ นในสดุ ลกั ษณะเป็นรปู รา่ งคลา้ ยหวั ลูกศร มแี ตข่ นและไมม่ ตี อ่ ม สว่ นรงั ไขเ่ ป็น
รปู ไข่ ไมม่ ขี น กา้ นเกสรเพศเมยี ยาวประมาณ 1 มลิ ลเิ มตร ไมม่ ขี น ปลายเกสรเพศเมยี มี
ลกั ษณะกลม สว่ นใบประดบั มลี กั ษณะเรยี วยาว รว่ งไดง้ า่ ย และมขี นออ่ นนุ่ม โดยจะออกดอก
ในชว่ งเดอื นมถิ นุ ายนถงึ เดอื นกรกฎาคม
ผลการบรู
ผลมลี กั ษณะเป็นรปู ไขห่ รอื กลม และเป็นผลแบบมเี น้ือ ผลเป็นสเี ขยี วเขม้ มขี นาดยาว
ประมาณ 6-10 มลิ ลเิ มตร เมอ่ื สกุ แลว้ จะเปลย่ี นเป็นสดี าํ ผลมฐี านดอกซง่ึ เจรญิ เตบิ โตขน้ึ มา
เป็นแป้นรองรบั ผล ภายในผลมเี มลด็ 1 เมลด็
2. คณุ ประโยชน์ของการบรู
1. ชว่ ยบํารุงธาตุในรา่ งกาย
2. ชว่ ยคมุ ธาตุ
3. การบูรมสี รรพคุณเป็นยาบาํ รงุ หวั ใจและเป็นยากระตนุ้ หวั ใจ
4. ใชเ้ ป็นยาระงบั ประสาท
5. ชว่ ยแกเ้ ลอื ดลม รากและกงิ่ เป็นยาชว่ ยทาํ ใหเ้ ลอื ดลมไหลเวยี นดี (รากและกง่ิ )
6. ชว่ ยแกโ้ รค
7. ชว่ ยแกอ้ าการปวดฟนั
8. ชว่ ยในการขบั เหงอ่ื
9. ชว่ ยแกไ้ ขห้ วดั
10. ชว่ ยแกอ้ าการไอ
11. ชว่ ยขบั เสมหะ ทาํ ลายเสมหะ
12. ชว่ ยขบั ความชน้ื ในรา่ งกาย
บทที่3
วิธีดาํ เนินการศึกษาค้นคว้า
ในการศกึ ษาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่อื งการทาํ ถุงการบูรครงั้ น้ี คณะผศู้ กึ ษาไดศ้ กึ ษาขอ้ มลู
การทาํ งานใหเ้ ป็นไปตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละขนั้ ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี
วสั ดอุ ปุ กรณ์ที่ใช้ในการดาํ เนิ นงาน
1 การบรู
2 พมิ เสน
3 นํ้ายคู าลปิ ตสั
4 แมพ่ มิ พ์
5 ตะแกรง
6 กระดาษสาหลากสี
ขนั้ ตอนการทาํ งาน
วิธีทาํ /ผลิต ภมู ิปัญญาพืน้ บา้ น
1. นําการบูรหอม มาทุบใหล้ ะเอยี ดแลว้ นําการบรู มารอ่ นในตะแกรงตาถ่ี เพอ่ื ใหไ้ ดก้ ารบรู
หอมเน้อื ละเอยี ด
2. นําพมิ เสนมาทุบใหล้ ะเอยี ดเหมอื นการบรู มาผสมเคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั
3. นํายคู าลปิ ตสั มาหยดใสเ่ พ่อื ใหก้ ารบูรและพมิ เสนจบั ตวั กนั ใหแ้ น่น
4. จากนนั้ พกั ทง้ิ ไวป้ ระมาณ 30 นาที
5. เตรยี มกระดาษสาสตี า่ งๆ มาหอ่ ตามรูปแบบทต่ี อ้ งการ
เทคนิคการทาํ /ผลิต ภมู ิปัญญาพืน้ บา้ น
1. เม่อื ไดก้ ารบูรหอมเน้อื ละเอยี ดแลว้
2. นํากระดาษแขง็ มาวาดแบบตา่ งๆ ตามจนิ ตนาการ และใชก้ รรไกรตดั ตามรแู ละขนาดท่ี
ตอ้ งการ
3. วดั กระดาษสาใหก้ วา้ ง 6 น้วิ โดยวดั ความยาวหน้า กระดาษพบั ทบไป-มา หลงั จากนนั้ วดั
ใหม้ ขี นดยาว 6-7 น้ิว (ขน้ึ อยกู่ บั แบบ) แลว้ นําตวั ตน้ แบบทท่ี าํ ดว้ ยกระดาษแขง้ มาวางทาบลง
บนกระดาษสา
4. ใชก้ รรไกรธรรมดาหรอื กรรไกรซกิ แซกตดั ตามแบบ โดยใหเ้ พอ่ื รอบตน้ แบบไวป้ ระมาณ 1/
2 เพ่อื ความสวยงามและการปรบั แตง่ ทาํ แบบตา่ งๆ ไดง้ า่ ย
5. นํากาวแทง่ ใสล่ งไปในชอ่ งสาํ หรบั ใสก่ าวทต่ี วั ปืน เสยี บปลกั ๊ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรอ้ น(กาวแทง่
จะละลาย) นํากระดาสาทต่ี ดั แลว้ 2 แผน่ มาวางประกบั กนั โดยใหร้ อยตดั เสมอ กนั คอ่ ย ๆ ทา
กาวตามแบบทลี ะดา้ น และเวน้ สว่ นบนไวป้ ระมาณ 1.5 สาํ หรบั ใสก่ ารบรู
6. นําการบรู กรอกใสถ่ ุง โดยชงั ่ ใหไ้ ดถ้ งุ ละ 2 กรมั จากนนั้ ตดั ดน้ิ เงนิ หรอื ดน้ิ ทองยาว
ประมาณ 10 น้วิ แลว้ หยอ่ นปลายดน้ิ ลงไปในถงุ ขา้ งละ 1/ 2 น้ิว จากนนั้ ใชป้ ืนกาวป้ายกาว
ปิดปากถงุ
7. ตกแตง่ ถุงการบูรใหส้ วยงามตามแบบทค่ี ดิ ไว้ โดยใหม้ รี ปู แบบหลากหลายตามความ
ตอ้ งการ
บทท่ี4
ผลการศึกษาและอภิปรายผล
การแปรรปู การบรู นนั้ สามารถทาํ ไดง้ า่ ย เน่ืองจากมสี ตู รในการผสมอยแู่ ลว้ และมอี ุปกรณ์
ตา่ งๆทห่ี าไดง้ า่ ยตามครวั เรอื น ทาํ ใหส้ ะดวกตอ่ การทาํ ทงั้ น้กี ารบรู ยงั สามารถหาไดง้ า่ ยตาม
รา้ นขายพนั ธุไ์ มท้ วั่ ไปหรอื รา้ นสะดวกซอ้ื มขี นั้ ตอนในการแปรรปู ทไ่ี มย่ ุง่ ยากซบั ซอ้ น ในการ
แปรรปู ถงุ การบรู เป็นการนําการบรู ทม่ี ปี ระโยชน์อยแู่ ลว้ นํามาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ไดม้ ากขน้ึ
ไปอกี ทาํ ใหเ้ ราไดร้ บั รถู้ งึ ประโยชน์ของการบรู อกี หลายอยา่ ง และเป็นการเพม่ิ มลู คา่ ใหก้ บั
การบรู ธรรมดาอกี ดว้ ย
บทท่ี 5
สรปุ ผล ประโยชน์ ข้อเสนอแนะ
สรปุ ผล
จากการแปรรปู การบรู ธรรมดาใหม้ คี ุณคา่ ไปแลว้ นนั้ สรปุ ไดว้ า่ เป็นการ
แปรรปู ทใ่ี หเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ และเป็นการเพมิ่ มลู คา่ เพมิ่ ใหก้ บั การบรู ธรรมดาและใชใ้ หเ้ กดิ
ประโยชน์อกี ครงั้ ถงุ การบรู สามารถชว่ ยในการลดกลนิ่ อบั ตามหอ้ งตา่ งๆของบา้ น เชน่
หอ้ งนํ้า หอ้ งเกบ็ ของ หรอื แมแ้ ตใ่ นรถยนต์
ประโยชน์ท่ีได้รบั จากโครงงาน
1. ทาํ ใหเ้ กดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์
2. ฝึกการทาํ งานเป็นทมี
3. ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์
4. รจู้ กั การวางแผนการทาํ งาน
5. ฝึกการเป็นผนู้ ําและผตู้ ามทด่ี ี
6. ฝึกสมาธิ
7. เพม่ิ มลู คา่ ใหก้ บั สนิ คา้
8. สามารถนําไปเป็นอาชพี ไดร้ ะหวา่ งเรยี น
ปัญหาในการดาํ เนินงาน
1. หลงั การใชว้ สั ดุ อุปกรณใ์ นการทาํ ถุงการบรู มกี ลนิ่ การบูรตดิ ภาชนะ
2. ตอ้ งเป็นอุปกรณ์ทใ่ี ชแ้ ละสามารถทง้ิ เลยเพราะเน่ืองจากมกี ลนิ่ ของการบรู ตดิ อยู่