โครงงานวทิ ยาศาสตร์
เรอ่ื ง กระถางต้นไม้จากกาบกล้วย
จดั ทำโดย
นำย รุง่ โรจน์ สนั ทดั วัฒนำ เลขที่ 2
นำย พนัส กลับกลำย เลขที่ 5
นำงสำว สริ ญั ญำ ชใู จ เลขที่ 18
โครงงำนน้ีเปน็ สว่ นหน่ึงของโครงงำนวิทยำศำสตร์สง่ิ ประดษิ ฐ์
ตำมหลักสตู รห้องเรยี นวิทยำศำสตร์ คณติ ศำสตร์
ณ โรงเรยี นเทศบำล ๔ (วัดโพธำวำส) อำเภอเมอื ง จังหวัดสุรำษฎร์ธำนี
โครงงานวทิ ยาศาสตร์
เรือ่ ง กระถางต้นไม้จากกาบกลว้ ย
จดั ทำโดย
นำย รงุ่ โรจน์ สนั ทดั วฒั นำ เลขที่ 2
นำย พนัส กลับกลำย เลขที่ 5
นำงสำว สิรญั ญำ ชูใจ เลขที่ 18
ครูที่ปรกึ ษำ
คุณครูปรดี ำ บัวยก
โครงงำนนี้เป็นส่วนหน่งึ ของโครงงำนวิทยำศำสตรส์ ง่ิ ประดษิ ฐ์
ตำมหลกั สตู รหอ้ งเรียนวิทยำศำสตร์ คณติ ศำสตร์
ณ โรงเรียนเทศบำล ๔ (วัดโพธำวำส) อำเภอเมอื ง จงั หวัดสุรำษฎร์ธำนี
บทคดั ย่อ
โครงงำนนีเ้ ปน็ สว่ นนงึ ของวชิ ำเคมี โดยมจี ดุ ประสงค์เพื่อกำรใช้กำบตน้ กล้วยให้เกดิ ประโยชนม์ ำกข้ึน
เพ่อื ใหส้ ำมำรถประดษิ ฐ์ช้นิ งำนจำกกำบตน้ กลว้ ย เปน็ กำรใชเ้ วลำวำ่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ เพือ่ แสดงใหเ้ หน็ ถึง
ควำมสำคญั ผู้จดั ทำใด้เลือกหัวขอ้ เรอื่ ง กระถำงตน้ ไมจ้ ำกกำบต้นกลว้ ย ในกำรทำโครงงำนเน่ืองจำกเป็นเรอ่ื งที่
ดีมีควำมสำคญั เก่ยี วกบั ผทู้ ปี่ ระหยดั ค่ำใช้จำ่ ย ผู้ท่ีต้องกำรวัสดุทดแทนกระถำงต้นไมท้ ั้งแบบพลำสติกและแบบ
ปูน วสั ดทุ ่ใี ข้ยงั เป็นวสั ดทุ ่ีเป็นมติ รต่อสงิ่ แวดล้อม ช่วยลดกำรสูญเสยี ของทรัพยำกร กำรผลิตของพลำสติก ย่อย
สลำยใดง้ ำ่ ย เพอื่ ใหเ้ รำใช้จำ่ ยอย่ำงประหยัดไมฟ่ ุ่มเฟือย
ผู้จดั ทำใดด้ ำเนินกำรศกึ ษำโดยสบื หำข้อมลู ทำงเครอื ข่ำยอินเตอรเ์ น็ต ผู้จดั มีควำมสนใจในกำร
ประดษิ ฐก์ ระถำงตน้ ไม้จำกกำบตน้ กลว้ ย จำกกำรศกึ ษำเรื่องกำรทำกระถำงจำกกำบต้นกล้วย ทำใหผ้ จู้ ดั ทำใด้มี
ควำมรู้ในเรื่องต่ำงๆได้เปน็ อย่ำงมำก และหวงั วำ่ โครงงำนฉบับน้จี ะมีประโยชน์กับผู้อ่ำนเป็นอย่ำงมำก
กติ ติกรรมประกาศ
โครงงำนเรอ่ื ง กระถำงต้นไม้จำกกำบกลว้ ย ไดร้ บั ควำมกรุณำจำกคณุ ครทู ี่ใด้ให้คำแนะนำและ
สนับสนนุ ในกำรจดั โครงงำน คณะผูจ้ ดั ทำขอขอบคณุ เปน็ อย่ำงสงู ณ โอกำสนี้ ขอขอบคุณครทู ่ใี ดใ้ ห้ขอ้ มลู และ
มีส่วนร่วมในกำรดำเนินโครงงำนกระถำงต้นไมจ้ ำกกำบกล้วยทำใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ตัวเอง และคนอน่ื ๆ
ขอขอบคุณคุณครู ท่ีใหก้ ำรสนับสนนุ ใดใ้ หค้ ำแนะนำในกำรทำงำนจนสำเร็จลลุ ่วงดว้ ยดี หำกมขี ้อผิดพลำด
ประกำรใดขออภัย ณ ทน่ี ด่ี ว้ ย
คณะผู้จดั ทำ
สารบญั หนำ้
บทคดั ย่อ ก
กติ ตกิ รรมประกำศ ข
สำรบัญ ค
สำรบัญตำรำง จ
สำรบญั ภำพ ฉ
บทที่ 1 บทนำ 1
1
ทม่ี ำและควำมสำคญั ของโครงงำน 1
จดุ มงุ่ หมำยของกำรศกึ ษำค้นควำ้ 1
ขอบเขตกำรศึกษำค้นควำ้ 2
ประโยชน์ทค่ี ำดวำ่ ได้รับ 2
วธิ กี ำรดำเนนิ งำน 3
บทที่ 2 เอกสำรทเ่ี ก่ยี วข้อง 3
กำบกลว้ ย 4-5
แป้งมนั สำปะหลงั 6
บทที่ 3 วธิ ดี ำเนนิ กำรทดลอง 6
วัสดุอุปกรณ์ 7
วัตถุดิบ 7-8
วธิ กี ำรทดลอง 9
บทที่ 4 ผลกำรทดลอง 10
บทท่ี 5 สรปุ ผลกำรวิจัยและขอ้ เสนอแนะ 11
บรรณำนุกรม 12
ภำคผนวก
สารบญั ตาราง หนำ้
ตำรำง
9
4.1ผลกำรวเิ ครำะห์ประสิทธิภำพของกระถำงต้นไม้จำกกำบกลว้ ย
บทท่ี1
บทนำ
ท่มี าและความสำคญั
กระถางตน้ ไม้ เป็นอปุ กรณใ์ ช้สำหรบั ปลูกต้นไม้ แตค่ นไทยบางคนนำกระถางต้นไมม้ าปลูกดอกไม้
สวยๆตกแต่งบา้ น ซึง่ คุณภาพกระถางตน้ ไม้จะแตกต่างกนั ออกไป การผลิตกระถางตน้ ไม้สามารถใช้วัสดุได้
หลายชนิด เชน่ พลาสติก หรอื ปูน ซง่ึ มกั จะมีราคาแพง แตค่ วามเป็นจริงแล้วกระถางต้นไม้ สามารถผลิตจาก
วัสดุอยา่ งอืน่ ได้ไม่ว่าจะเปน็ ขวดพลาสติก หรือกาบกลว้ ย เม่อื กล่าวถึงกาบกล้วยซึ่งเปน็ วสั ดุท่ีเหลือใชแ้ ต่
บางคนอาจคิดว่าไมม่ ีประโยชนแ์ ละอาจจะเป็นขยะไดแ้ ตค่ วามจรงิ สามารถนำมาประดิษฐเ์ ป็นกระถางตน้ ไม้
ได้
เม่อื กลา่ วถึงกาบกลว้ ย ซงึ่ เปน็ สว่ นประกอบของตน้ กล้วย สามารถนำมาประดษิ ฐ์เปน็ กระถางตน้ ไม้
ได้ จงึ เกิดประกายในการนำกาบกลว้ ยซงึ่ ใช้ประโยชน์ตรงน้ี มาใชป้ ระโยชนต์ ามตอ้ งการได้
วตั ถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษา
1.เพอ่ื ศึกษาขนั้ ตอนในการทำกระถางตน้ ไม้จากกาบกลว้ ย
2.เพอื่ ให้เกดิ ประสบการณ์ในการทำกระถางตน้ ไมจ้ ากกาบกล้วย
3.เพอ่ื ใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
4.เพอื่ นำส่งิ ของเหลอื ใชม้ าทำใหเ้ กิดมลู คา่
ขอบเขตการศกึ ษาค้นควา้
การทำกระถางต้นไม้จากกาบกลว้ ยเปน็ การพัฒนามงุ่ สรา้ งผลติ ภณั ฑ์สำเรจ็ รูปเพ่ือสรา้ งจดุ เด่นและ
เพิม่ มูลค่าของโคมไฟจากชอ้ นพลาสตกิ ใหม้ ีราคาสงู ข้นึ
ประโยชน์ที่ใดร้ ับจากโครงงาน
1. รจู้ กั ขั้นตอนในการทำกระถางต้นไมจ้ ากกาบกลว้ ย
2. มปี ระสบการณ์ในการทำผลติ ภณั ฑก์ ระถางตน้ ไมไ้ ด้
3. สามารถนำส่งิ ของเหลือใช้มาทำใหเ้ กิดมูลค่า
4. ใชเ้ วลาว่างให้เกดิ ประโยชน์
วธิ ีการดำเนินงาน
1.ศกึ ษาขัน้ ตอนการทำกระถางต้นไมจ้ ากกาบกล้วย
2.ออกแบบผลติ ภัณฑ์
3.จัดเตรียมวัสดอุ ุปกรณ์
4.ลงมือปฏบิ ตั ิงาน
5.จัดทำโครงงาน
6.นำเสนอโครงงาน
บทท2ี่
เอกสารที่เก่ียวขอ้ ง
กำรสรำ้ งกระถำงต้นไม้จำกกำบกลว้ ย กระถำงทปี่ ระดิษฐส์ ร้ำงสรรค์มำจำกวัสดุธรรมชำติทีห่ ำไดง้ ำ่ ย
รอบๆตัวเรำและวธิ ีทำไมย่ ำกจนเกนิ ไป มหี ัวขอ้ ดงั น้ี
2.1เอกสารทเ่ี กยี่ วข้อง
ขอ้ มลู พืช กำบกลว้ ย
ลำต้นกลว้ ย หรือกำบลำต้น ลำต้นและกำบกลว้ ยนั้น ใช้ประโยชนไ์ ด้หลำกหลำยมำก เรมิ่ ต้ังแต่กำรทำอำหำร
สำมำรถเป็นได้ทง้ั อำหำรคน เช่น กำรทำแกงหยวกกลว้ ย ทำน้ำขนมจนี หยวกกล้วย เปน็ ต้น กำรทำอำหำรสตั ว์
ให้สุกรหรอื ไกแ่ ละเปด็ นอกจำกนีก้ ำบกลว้ ยยงั ใช้ทำเปน็ เส้นใยหรอื ทำเชอื กกล้วยในกำรทอผ้ำ
แปง้ มันสาปะหลัง
แปง้ มนั สาปะหลัง เปน็ แปง้ ที่ไดจ้ ำกมนั สำปะหลงั ลกั ษณะของแป้งมีสขี ำว เนื้อเนียน ล่นื เปน็ มัน. เม่ือทำให้
สกุ ด้วยกำรกวนกบั นำ้ ไฟอ่อนปำนกลำง แปง้ จะละลำยงำ่ ย สกุ ง่ำย แป้งเหนยี วติดภำชนะ หนดื ข้นขน้ึ เร่ือยๆ ไม่
มีกำรรวมตัวเปน็ ก้อน เหนียวเป็นใย ตดิ กันหมด เนื้อแปง้ ใสเปน็ เงำ พอเย็นแลว้ จะตดิ กันเป็นกอ้ นเหนยี ว ตดิ
ภำชนะ
การผลติ
การโม่มัน
หัวมันสำปะหลังทผ่ี ำ่ นกำรลำ้ งและปอกเปลอื กทส่ี ะอำดจะจะถูกลำเลยี งโดยสำนพำนเขำ้ สเู่ ครื่องโม่
(Rasper) จะมมี ีดโดยใบมีดขนำดใหญใ่ นแนวตง้ั ฉำกกบั ผวิ หน้ำ โดยมีอตั รำกำรหมนุ ประมำณ 1000 rpm และ
ทำกำรติดตงั้ ใบมดี ต้ังแต่ 100 ใบขนึ้ ไป ใบมีดแตล่ ะใบมคี วำมยำว 30 เซนตเิ มตร ซึ่งในขนั้ ตอนนี้จะได้ของเหลว
ข้นท่ีมีส่วนผสมของแปง้ น้ำ กำกมนั และสง่ิ เจอื ปนตำ่ ง ๆ ระหวำ่ งกระบวนโม่จะมกี ำรจ่ำยนำ้ จำกกระบวนกำร
เพ่อื ช่วยในกำรทำงำนของเครื่องให้สะดวกยงิ่ ขนึ้
หน่วยการสกดั
หลังจำกนน้ั มนั สำปะหลงั ท่บี ดจนเป็นชิ้นละเอียดจำกเครอื่ งเครื่องขดู หรือบดซึ่งจะมสี ่วนประกอบของ
น้ำแปง้ กำก และเสน้ ใยจะถกู เติมน้ำกอ่ นจะนำเขำ้ สู่เครือ่ งสกดั แป้ง (Extractor) หน้ำทขี่ องหนว่ ยสกัดคือ กำร
แยกแปง้ ออกจำกเซลลูโลส เครื่องสกัดแป้งจะประกอบไปด้วยตะแกรงและผำ้ กรองเป็นส่วนประกอบ หลกั กำร
ทำงำนของเคร่ืองจะใชห้ ลักกำรของแรงหมนุ เหวย่ี ง (Centrifugal Force) โรงงำนสว่ นใหญจ่ ะใช้ชดุ สกดั 3 ชุด
แต่โรงงำนขนำดใหญ่ อำจใชช้ ุดสกดั ถึง 4 ชุดตอ่ เนอ่ื งกนั เพอ่ื สกดั แปง้ ออกจำกเซลลโู ลสให้ได้มำกทส่ี ดุ เครอื่ ง
สกดั แป้งแบ่งตำมหน้ำทต่ี ำมกรองออกเปน็ 2 ชดุ คอื ชุดสกดั หยำบ (Coarse Extractor) และชุดสกดั ละเอียด
(Fine Extractor) นำ้ แปง้ จะผำ่ นเข้ำชดุ สกัดหยำบก่อน เพ่อื แยกกำกหยำบออกแล้วจงึ เข้ำสู่ชดุ สกดั ละเอยี ดเพอื่
แยกกำกอ่อน กำกหยำบและกำกอ่อนทไ่ี ดจ้ ะถูกเหวยี่ งออกทำงดำ้ นบนของตะกร้ำกรองแลว้ เขำ้ สเู่ ครอ่ื งสกดั ชุด
สกดั กำก (Pulp Extractor : เปน็ เครอ่ื งสกดั หยำบ ทำหนำ้ ทส่ี กดั แป้งทหี่ ลดุ ออกไปกับกำก) และเคร่อื งอัดกำก
ตอ่ ไป โดยทเ่ี ครอื่ งสกัดหยำบมีตะกรำ้ กรองเปน็ สแเตนเลส (Stainless Screen) ขนำดรกู รอง 35-40 mesh มี
กำรใชน้ ำ้ หมุนเวียนหรอื นำ้ ดีเพอื่ ชว่ ยในกำรสกดั แป้งออกจำกกำกหยำบ สว่ นเครือ่ งสกดั ละเอยี ดตะกร้ำกรอง
เปน็ สแตนเลสมีรกู รองขนำดเส้นผำ่ นศูนยก์ ลำงประมำณ 0.5 ซม. และใชผ้ ำ้ กรองไนลอนทรงกรวยเหมอื น
ตะกร้ำกรองวำงด้ำนบนแลว้ ยดึ ดว้ ยสำยรดั โลหะ ผำ้ กรองท่ีใช้มขี นำดรูกรองสองแบบคือ 100-120 mesh และ
140-200 mesh มีกำรใช้น้ำกำมะถนั และนำ้ ดชี ว่ ยในกำรสกัดแป้งจำกกำกอ่อน น้ำกำมะถันช่วยกำจดั กำรเกดิ
เมอื กท่ีจะไปอดุ ตนั แผ่นกรอง ปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กดิ กำรสญู เสยี แป้งจำกจลุ ินทรยี ์และชว่ ยฟอกสีแป้งให้ขำว กำกมนั
สำปะหลงั จะถกู แยกออกจำกน้ำแปง้ เพื่อนำเขำ้ สู่เครอื่ งอัดกำกและนำไปตำกแดดเพ่อื นำไปผสมเปน็ อำหำรสตั ว์
หรอื นำไปผสมกับมนั เส้นเพอื่ ทำมนั อัดเม็ด
บทที่ 3
วิธดี าเนินงานโครงงาน
ในกำรจดั ทำโครงงำนคอมพวิ เตอร์ กำรพฒั นำสอ่ื เพื่อกำรศกึ ษำ เร่ือง สบ่สู มนุ ไพรนี้ ผู้จดั ทำโครงงำน
มีวธิ ดี ำเนินงำนโครงงำน ตำมขน้ั ตอนดังนี้
3.1วสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมอื หรือโปรแกรมทใ่ี ชพ้ ฒั นา
3.1.1 เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ พรอ้ มเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เนต็
3.1.2 เว็บไซสท์ ่ีใช้ในกำรตดิ ต่อสื่อสำร www.facebook.com,www.hotmail.com
3.1.3 โปรแกรมตัดตอ่ วิดโี อและตกแต่งภำพ Movie Maker
3.2 ขั้นตอนการดาเนนิ งานโครงงาน
3.2.1คดิ หวั ขอ้ โครงงำนเพื่อนำเสนอครทู ่ีปรกึ ษำโครงงำน
3.2.2ศกึ ษำและคน้ คว้ำข้อมลู ท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั เร่ืองทส่ี นใจ คอื เรอ่ื ง สบู่สมุนไพรว่ำมเี นอื้ หำมำกน้อยเพยี งใด และ
ตอ้ งศกึ ษำคน้ ควำ้ เพิม่ เตมิ เพียงใดจำกเวบ็ ไซสต์ ำ่ งๆและเกบ็ ข้อมูลไว้เพอื่ จัดทำเน้ือหำตอ่ ไป
3.2.3ศกึ ษำกำรทำสบู่สมุนไพร จำกเอกสำรและเว็บไซสต์ ำ่ งๆ ที่นำเสนอเทคนิคและวิธีทำสบู่สมุนไพร
3.2.4จัดทำโครงรำ่ งโครงงำนคอมพิวเตอร์เพ่ือนำเสนอครูทป่ี รกึ ษำโครงงำน
3.2.5ปฏิบัตกิ ำรจดั ทำโครงงำนอำชพี เรื่อง สบู่สมนุ ไพร นำเสนอรำยงำนควำมกำ้ วหน้ำของงำนเปน็ ระยะๆซ่งึ
ครูที่ปรึกษำจะให้ขอ้ เสนอแนะตำ่ งๆ เพ่อื ใหจ้ ัดทำเนื้อหำและนำเสนอทน่ี ่ำสนใจต่อไป ทงั้ นี้เมอื่ ได้รบั คำแนะนำ
ก็จะนำมำปรับปรงุ แกไ้ ขใหด้ ยี ิ่งขึ้น
3.2.6จดั ทำเอกสำรรำยงำนโครงงำนคอมพิวเตอร์
3.2.7นำเสนองำน
3.3 อุปกรณ์และสว่ นผสมการทากระถางตน้ ไมจ้ ากกาบตน้ กล้วย
อุปกรณ์ ส่วนผสม
-แมพ่ ิมพ์ -กำบกล้วยจำนวน 200 กรมั
-ไมค้ น -แป้งมันสำปะหลงั จำนวน 70 กรมั
-หม้อ - นำ้ (ละลำยแป้ง) จำนวน 100 มิลลิลิตร
-ภำชนะ -น้ำ (ต้มแป้งเปียก) จำนวน 450 มิลลลิ ติ ร
-มดี เขยี ง
-ถงุ พลำสติก
-เครือ่ งปัน่
-ก้อนอฐิ หรอื กอ้ นซีเมนต์
3.4ขน้ั ตอนการทากระถางต้นไมจ้ ากกาบตน้ กล้วย
3.4.1 นำกำบกลว้ ยมำห่นั แชน่ ้ำไวใ้ ห้เปื่อย
3.4.2 ปั่นกำบกลว้ ยทแ่ี ชใ่ หล้ ะเอียด
3.4.3 ช่งั สว่ นผสมตำมท่กี ำหนด
3.4.4 ตำกกำบกลว้ ยที่ปั่น
3.4.5 ผสมน้ำกับแป้งมนั สำปะหลังแลว้ กวนให้เปน็ แป้งเปยี ก
3.4.6 นำแป้งเปียกผสมกบั กำบกล้วยที่ปน่ั ละเอยี ดใหเ้ ขำ้ กนั
3.4.7 นำพลำสติกหมุ้ กระถำงใบนอกและนำสว่ นผสมใส่แมพ่ ิมพก์ ระถำงอดั ไว้ นำกระถำงใบเล็กที่มีซีเมนต์กอ้ น
ใสท่ บั ไวแ้ ละคลมุ ถุงพลำสติก
3.4.8 เม่ือครบ 1 ชัว่ โมงถอดแมพ่ มิ พ์นอกออกและเจำะรดู ำ้ นลำ่ งกระถำงเพื่อระบำยน้ำ และตำกใหแ้ หง้ 1 วัน
และถอดแม่พมิ พ์ด้ำนในออก ตำกแดด 1 วนั
3.4.9 ทำกำวแปง้ เปยี กซ้ำ ผสมแปง้ มนั 50 กรัม นำ้ 450 มิลลิลิตร ทำซ้ำและตำกให้แห้ง
บทท4ี่
ผลการทดลอง
จำกกำรศกึ ษำเร่ืองกระถำงต้นไมจ้ ำกกำบกลว้ ยมีจดุ ม่งุ หมำยของกำรศกึ ษำขน้ั ตอนและวธิ ีทำและ
ประสทิ ธภิ ำพของกระถำงตน้ ไมจ้ ำกกำบกลว้ ย สำมำรถนำไปเสนอผลวเิ ครำะหข์ อ้ มลู
4.1 ผลการวิเคราะห์ประสทิ ธิภาพของกระถางต้นไม้จากกาบกล้วย
ปรมิ ำณกำบกลว้ ยและกำวแปง้ เปียก ประสทิ ธิภำพในกำรอมุ้ น้ำและควำมคงทน
กำบกลว้ ย/กรมั กำวแป้งเปยี ก/กรัม ดมี ำก ดี ปำนกลำง ไม่ดี
300 กรมั 100 กรมั
200 กรมั
250 กรมั
300 กรมั
4.2ผลการวเิ คราะหป์ ญั หาและขอ้ เสนอแนะ
-กำบกล้วยอุ้มน้ำได้ดีถ้ำใสแ่ ปง้ เปยี กให้มคี วำมเข้มขน้ มำกยง่ิ ข้ึน
-กระถำงกำบกลว้ ยจะมอี ำยกุ ำรใช้งำนประมำณ6-12 เดอื นหรืออำจนำนกว่ำนั้น ขน้ึ อยู่กบั ประเภทต้นไม้ท่ปี ลกู
บทท5ี่
สรปุ ผลและอภิปรายผลการทดลอง
จำกกำรศกึ ษำทดลองพบว่ำกระถำงต้นไมท้ ท่ี ำจำกกำบกล้วยคงทน ระยะกำรใช้เวลำในกำรประดิษฐ์
กระถำงต้นไม้จำกธรรมชำต2ิ -3วนั ปรมิ ำณของแป้งเปยี กทผ่ี สมกบั กำบกล้วยตอ้ งพอดีและปริมำณแป้งเปียก
ต้องพอดีและเหมำะสมกบั ปรมิ ำณกำบกลว้ ย น้ำหนกั เบำ ควบคุมควำมชืน่ ไดด้ ี สำมำรถนำไปปลกู ลงดนิ ได้ทัง้
กระถำงกระถำงตน้ ไม้ที่ทำจำกกำบกลว้ ยมีควำมสำมำรถในกำรอมุ้ น้ำได้ดี และกระถำงต้นไม้ ทที่ ำจำกกำบ
กลว้ ยมกี ำรอุม้ น้ำ 59 เปอรเ์ ซ็นต์ เนื่องจำกปริมำณของแปง้ เปียกมีควำมเขม้ ข้นพอดี เพรำะฉะนั้นกระถำง
ตน้ ไมท้ ่ีทำจำกกำบกล้วยมอี ตั รำกำรอมุ้ น้ำได้ดีกระถำกระถำงตน้ ไมท้ ที่ ำจำกขุยมะพร้ำวมีอตั รำกำรอุม้ นำ้ ไดด้ ี
กระถำงกำบกลว้ ยจะมีอำยกุ ำรใชง้ ำนประมำณ6 – 12 เดอื นหรอื อำจนำนกวำ่ นน้ั ข้ึนอยูก่ ับประเภทต้นไม้ที่
ปลกู ถำ้ เรำนำไปปลูกต้นไม้ทม่ี รี ำกแกว้ และเจรญิ เตบิ โตไว อำยกุ ระถำงจะสัน้ ลง เหมำะสำหรับกำรใชเ้ ปน็ ท่ี
เพำะตน้ กล้ำเพ่อื นำลงปลกู ในดินท้ังกระถำง แตถ่ ้ำปลกู ตน้ ไมเ้ ล็ก และไมไ่ ดน้ ำลงดนิ กจ็ ะมีอำยุกำรใชง้ ำนท่ี
คอ่ นข้ำงนำน ก่อนที่จะเริม่ ยอ่ ยสลำย
บรรณนานุกรม
-https://www.technologychaoban.com/thai-local-
wisdom/article_180254?fbclid=IwAR0hk0OSstGg2PBpmZEu-
lB0Os7I9pXuP5pVSSG6kO2iFiIfFjzcXoEIskQ
นำงสำวพิมพ์พร สริ ิพรวฒั นำและนำยนฤเดช อริยำ
โครงงำนกระถำงใยกลว้ ย เปน็ กำรศึกษำกำรประดิษฐก์ ระถำงจำกกำบกล้วย ของกล่มุ วิชำวิทยำศำสตร์
โรงเรียนวัดรำษฎร์ศรทั ธำทำ
ภาคผนวก
ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2
หน่ั ยอ่ ยกำบกลว้ ยให้มขี นำดเล็กลง ตำหยวกกล้วยให้ละเอยี ด
ภาพที่ 3 ภาพที่ 4
กำรนำหยวกกลว้ ยไปตำกใหแ้ หง้ กำรกวนแป้งเปียก
ภาพท่ี 5 ภาพที่ 6
กำรผสมแป้งเปียกกับกำบกลว้ ยใหเ้ ขำ้ กนั กำรขึ้นรปู กระถำง
ภาพที่ 7 ภาพที่ 8
กำรตำกชิ้นงำนใหแ้ หง้ ชิ้นงำนเสรจ็ สมบูรณ์