Pre - Postoperative nursing care
การซักประวัติ วั ติ ผู้ป่วยจะมีอ มี าการปวดทองอย่างเฉียบพลัน ลั อย่างรุนแรงทัน ทั ที ระยะแรก ปวดมวนท้อง รอบ ๆ สะดือ ดื บอกตําแหน่งไม่ชั ม่ ด ชั เจน หรือ รื อาจปวดมากรอบสะดือ ดื /ใต้ลิ้น ลิ้ ปี่ ต่อมาจะปวดที่ ท้องน้อย ด้านขวา บอกตําแหน่งได้ชัด ชั เจน และเริ่ม ริ่ ปวดตลอดเวลา ร่วม กับ กั อาการคลื่น ลื่ ไส้ อาเจีย จี น เบื่อ บื่ อาหาร มี ไข้ไม่ห ม่ นาวสั่น สั่ ท้องเสีย สี ถ้าเป็นผู้หญิงควรซักประวัติ วั ติประจําเดือ ดื นและความผิด ผิ ปกติของ ระบบอวัย วั วะสืบ สื พัน พั ธุ์ ร่วมด้วย เพื่อ พื่ วินิ วิ นิ จฉัย ฉั แยกโรคทางนารีเ รี วช การประเมินสภาพ (ASSESSMENT) โดยการซักประวัติ วั ติ และ ตรวจร่างกาย การวิเ วิ คราะห์ผลการ ตรวจทางห้องปฏิบั ฏิ ติ บั ติ การ การประเมินสภาพ (ASSESSMENT) โดยการซักประวัติ วั ติ และ ตรวจร่างกาย การวิเ วิ คราะห์ผลการ ตรวจทางห้องปฏิบั ฏิ ติ บั ติ การ การตรวจร่างกาย พบว่าผู้ป่วยปวดมากเมื่อ มื่ เคลื่อ ลื่ นไหว ฟังเสีย สี งลําไสได้ลดลง กด เจ็บ จ็ (tenderness) อาการเกร็ง ร็ แข็ง ข็ ของหน้าท้อง(guarding) เป็นการหดเกร็ง ร็ ของกล้ามเนื้อ นื้ หน้าท้องเมื่อ มื่ สัม สั ผัส ผั บริเ ริ วณ แมคเบอเนย์ (Mc. Burney’s point) โดยอยู่บ ยู่ นเส้น ส้ ที่ล ที่ ากจาก สะดือ ดื กับ กั anterior superior iliac crest ด้านขวา แบ่งเส้น ส้ นี้ เป็นสามส่วน จุดที่แ ที่ บ่งเส้น ส้ นี้เ นี้ ป็น1/3 ด้านนอกก็คื ก็ อ คื McBurney’s point และเมื่อ มื่ กดลงไป แล้วปล่อยมือ มื ออกโดยเร็ว ร็ ผู้ ป่วยจะเจ็บ จ็ มาก (Rebound Tenderness) หากคลําก้อน ได้อาจ เป็นไส้ติ่ง ติ่ (appendicle abscess) วัด วั สัญ สั ญาณชีพ พบ มีไมี ข้ (อุณหภูมิมากกว่า 37.5°C) ในผู้ป่วยหญิง อาจมีก มี ารตรวจทางช่องคลอดเพื่อ พื่ แยกโรคทางนารีเ รี วช / 2. 1. การประเมินผู้ป่วยก่อนผ่ การประเมิ าตัด ตั มิ นผู้ป่วยก่อนผ่าตัด ตั
Roving’s sign โดยใช้มือ มื กดที่ห ที่ น้าท้องด้านซ้าย แล้วผู้ป่วยมีอ มี าการปวดท้องด้าน ขวา ซึ่งมีก มี ารอัก อั เสบของไส้ติ่ง ติ่ ทําให้เยื่อ ยื่ บุช่องท้องบางส่วนบริเ ริ วณนั้น นั้ เกิด กิ การเจ็บ จ็ เมื่อ มื่ สั่น สั่ สะเทือ ทื น Obturator’s sign เป็นการตรวจในผู้ป่วยที่ส ที่ งสัย สั ไส้ติ่ง ติ่ อัก อั เสบ ปลายของไส้ติ่ง ติ่ อาจม้วน ไปอยู่ด้านหลัง ลั ติดอยู่กับ กั กล้ามเนื้อ นื้ obturator ถ้ามีก มี ารเคลื่อ ลื่ นไหวจึง จึ ทํา ให้มีอ มี าการปวดเกิด กิ ขึ้น ขึ้ วิธี วิ ต ธี รวจโดย ให้ผู้ป่วยนอนหงาย งอต้น ต้ ขาขวา ขึ้น ขึ้ มาด้านหน้า เข่างอ 90 องศาแล้วหมุนขาเข้าด้านในแบบ internal - rotation หากผู้ป่วยมีอ มี าการเจ็บ จ็ ท้องแสดงว่าการทดสอบให้ผลบวก Iliopsoas’ssignให้ผู้ป่วยนอนหงายและงอขาขวาขึ้น ขึ้ ดัน ดั ต้น ต้ ขาของผู้ป่วยลงและให้ ผู้ป่วยเกร็ง ร็ ต้านแรง ผู้ตรวจ หรือ รื ให้ผู้ป่วยนอนตะแคงเอาขาซ้ายลงแพทย์ใช้มือ มื ขวายึด ยึ ที่ส ที่ ะโพก ทั้ง ทั้ 2 วิธี วิ ห ธี าก ผู้ป่วยมี อาการเจ็บ จ็ ท้องแสดงว่าการทดสอบให้ผลบวก 4. 5. การตรวจอื่น อื่ ๆ ที่บ่ ที่ บ่ งชี้ว่าไส้ติ่ง ติ่ อัก อั เสบแต่ไม่ได้ตรวจพบใน ผู้ป่ 3 วยทุกราย . การตรวจทางห้องปฏิบั ฏิ ติ บั ติ การ พบว่า เม็ด ม็ เลือ ลื ดขาวสูง WBC > 10,000 cell/cumm และ Neutrophil มากกว่า 75% , Urine Analysis เพื่อ พื่ การวินิ วิ นิ จฉัย ฉั โรคแยกโรคระบบทางเดิน ดิ ปัสสาวะ การตรวจพิเศษ การตรวจพิเศษ ultrasound หรือ รื CT scan เป็น เครื่อ รื่ งมือ มื ที่ดี ที่ ที่ ดี ที่ สุ ที่ สุ ดใน การวินิ วิ นิ จฉัย ฉั โรค แต่ CT scan จะใช้ในกรณี วินิ วิ นิ จฉัย ฉั ผู้ป่วยได้ไม่แน่ชัด ชั การประเมินภาวะสุขภาพตามแบบประเมินภาวะสุขภาพโดยใช้แนวคิด คิ ของ NANDA-I ในแบบแผนที่ เกี่ย กี่ วข้อง ได้แก่ แบบแผนที่ 2 ภาวะ โภชนาการ (nutrition) ในด้านสารน้ําและเกลือ ลื แร่ แบบแผนที่ 5 การรับ รั รู้ และความเข้าใจ (perception and cognitive) ในด้านการรับ รั รู้ประสาท สัม สั ผัส ผั ทั้ง ทั้ 5 แบบแผนที่ 9 ความทน และการปรับ รั ตัว ตั ต่อความเครีย รี ด (coping/stress tolerance) แบบแผนที่ 11 ความปลอดภัย ภั /การป้องกัน กั (safety/protection) ในเรื่อ รื่ งการติดเชื้อ ชื้ การบาดเจ็บ จ็ ทางร่างกาย การ ควบคุมอุณหภูมิ และแบบแผนที่ 12 ความสุขสบาย (comfort) ในด้าน ความสุขสบายทางร่างกาย การประเมินภาวะสุขภาพตามแบบประเมินภาวะสุขภาพโดยใช้แนวคิด คิ ของ NANDA-I ในแบบแผนที่ เกี่ย กี่ วข้อง ได้แก่ แบบแผนที่ 2 ภาวะ โภชนาการ (nutrition) ในด้านสารน้ําและเกลือ ลื แร่ แบบแผนที่ 5 การรับ รั รู้ และความเข้าใจ (perception and cognitive) ในด้านการรับ รั รู้ประสาท สัม สั ผัส ผั ทั้ง ทั้ 5 แบบแผนที่ 9 ความทน และการปรับ รั ตัว ตั ต่อความเครีย รี ด (coping/stress tolerance) แบบแผนที่ 11 ความปลอดภัย ภั /การป้องกัน กั (safety/protection) ในเรื่อ รื่ งการติดเชื้อ ชื้ การบาดเจ็บ จ็ ทางร่างกาย การ ควบคุมอุณหภูมิ และแบบแผนที่ 12 ความสุขสบาย (comfort) ในด้าน ความสุขสบายทางร่างกาย
2.บัน บั ทึก ทึ สัญ สั ญาณชีพทุก ทุ ชั่วโมง 3. สัง สั เกตอาการและอาการแสดงของภาวะติด ติ เชื้อ ชื้ ของเยื่อ ยื่ บุช่ บุ ช่ องท้อง ได้เเก่อาการปวด ท้อง อย่างรุนแรงเมื่อ มื่ เคลื่อ ลื่ นไหวร่างกายจะรู้สึก สึ เจ็บ จ็ พบreboundtenderness 4. ดูแ ดู ลให้ผู้ป่วยพัก พั ผ่อนบนเตีย ตี งและนอนท่าfowler’sposition(ศีร ศี ษะสูง สู 45- 60องศา)บริเ ริ วณเข่าสูง สู 15-20องศา เพื่อ พื่ ลดแรงดัน ดั ของกระบัง บั ลมต่อบริเ ริ วณที่อั ที่ ก อั เสบ และช่วยให้ลดอาการปวดหรือ รื ท่าตะแคงงอตัว ตั เขาชิดอก (knee chest position) ให กลา้้ม า้้ เนื้อ นื้ หน้า ท้องหย่อนตัว ตั ลดอาการปวดท้อง งดใช้ความร้อนความเย็น ย็ ประคบบริเ ริ วณที่ป ที่ วด 5. งดการสวนลํา ลํไส้เพราะจะกระตุ้น ตุ้ ให้ไส้ติ่ง ติ่ ที่อั ที่ ก อั เสบแตกได้ 6. งดให้ยาแก้ปวดยาปฏิชี ฏิ ชี วนะเพราะจะบดบัง บั อาการทํา ทํให้วินิ วิ จ นิ ฉัย ฉั โรคผิด ผิ พลาดได้ 7. จัด จั สิ่ง สิ่ แวดล้อมให้เงีย งี บสงบเพื่อ พื่ ลดการกระตุ้น ตุ้ ความเจ็บ จ็ ปวดส่งเสริม ริ ให้ผู้ป่วยมี ความสุข สุ สบาย 8. ใช้เทคนิค นิ การควบคุม คุ ความปวดด้วยวิธี วิ อื่ ธี อื่ น อื่ ๆร่วมกับ กั การให้ยาเพื่อ พื่ ให้ผู้ป่วยเลือ ลื ก ใช้ตามความพอใจ ได้แก่ เช่น การหายใจช้าและลึก ลึ เพื่อ พื่ ลดการหดเกร็ง ร็ ของกล้าม เนื้อ นื้ และลดความเจ็บ จ็ ปวด การจิน จิ ตนาการเป็นภาพ (visual imagery and distraction) เพื่อ พื่ เบี่ย บี่ งเบนความสนใจจากความเจ็บ จ็ ปวด การดูที ดู วี ที ห วี รือ รื หนัง นั เรื่อ รื่ งที่ ชอบการอ่านหนัง นั สือ สื ฟังดนตรีห รี รือ รื การคุย คุ กับ กั คนในครอบครัว รั การสะกดจิต จิ ตนเอง เพื่อ พื่ ระงับ งั อาการปวดเทคนิค นิ การผ่อนคลาย การทํา ทํ สมาธิ การเบี่ย บี่ งเบนความสนใจ การสัม สั ผัส ผั การนวดหลัง ลั เพื่อ พื่ ส่งเสริม ริ ให้พั ห้ ก พั ผ่อน 9. ดูแ ดู ลให้ได้รับ รั ยาปฏิชี ฏิ ชี วนะตามแผนการรัก รั ษา 10. ดูแ ดู ลให้งดน้ํา น้ํ และอาหารตามแผนการรัก รั ษา เพื่อ พื่ เตรีย รี มผ่าตัด ตั ด่วน 1.ประเมิน มิ ลัก ลั ษณะการปวดตํา ตํ แหน่งระดับ ดั ความรุนแรงของการปวดอาการไม่สุข สุ สบาย อื่น อื่ ๆ และความต้องการการช่วยเหลือ ลื เพื่อ พื่ บรรเทาความไม่สุข สุ สบาย การพยาบาลคนไข้ก่อนผ่ การพยาบาลคนไข้ าตัด ตั ข้ ก่อนผ่าตัด ตั เกณฑ์การประเมิน มิ ผล ผู้ป่วยสีห สี น้าสดชื่น ชื่ ไม่บ ม่ อกปวดท้อง pain score น้อยกว่า 3คะแนน สัญ สั ญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ พัก พั ผ่อนได้ เกณฑ์การประเมิน มิ ผล ผู้ป่วยสีห สี น้าสดชื่น ชื่ ไม่บ ม่ อกปวดท้อง pain score น้อยกว่า 3คะแนน สัญ สั ญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ พัก พั ผ่อนได้
การวางแผนดูแลผู้ป่วย ระยะหลัง ลั ผ่าตัด ตั ระยะหลัง ลั ผ่ 1. าตัด ตั 24 ชม. แรก 1.รวบรวมข้อมูลการผ่าตัด ตั จากแผนการรัก รั ษาของ แพทย์และรับ รั ข้อมูลจากพยาบาลห้องพัก พั ฟื้น/ห้องผ่าตัด ตั Operative note 2.เตรียม รี เตียง ตี และอุปกรณ์เครื่อ รื่ งใช้ที่เ ที่ หมาะสม สำ หรับ รั การดูแลผู้ป่วยแต่ละราย 3.ล้างมือ มื ก่อนช่วยย้ายผู้ป่วยขึ้น ขึ้ เตีย ตี ง 4. รับ รั ผู้ป่วย โดยสอบถามชื่อ ชื่ สกุล วัน วั เดือ ดื นปี/อายุ ในผู้ป่วยที่รู้ ที่ รู้ สึก สึ ตัว ตั และดูจากป้ายชื่อ ชื่ รวมทั้ง ทั้ การสอบถาม จากเจ้าหน้าที่ผู้ ที่ ผู้ นำ ผู้ นำส่ง 5.แจ้งให้ผู้ป่วยทราบถึง ถึ การย้ายเตีย ตี งและสถานที่ 6.ประเมินผู้ป่วยเมื่อ มื่ แรกรับ รั 6.1 ประเมินระดับ ดั ความรู้สึก สึ ตัว ตั ของผู้ป่วยเมื่อ มื่ แรกรับ รั 6.2 ตรวจวัด วั สัญ สั ญาณชีพ 7.ดูแลอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับ ดั ปกติ 8. จัด จั ท่าหลัง ลั ผ่าตัด ตั ตามความเหมาะสม
การวางแผนดูแลผู้ป่วย ระยะหลัง ลั ผ่าตัด ตั ระยะหลัง ลั ผ่ 2 าตัด ตั 48-72 ชม. . 1. ดูแ ดู ลจัด จั ท่าให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าสุข สุ สบาย ลดการดึง ดึ รั้ง รั้ จากการผ่าตัด ตั โดยไม่ขัด ขั กับ กั แผนการรัก รั ษา เช่น ให้ผู้ ป่วยนอนในลัก ลั ษณะศรีษ รี ะสูง สู 2.ประเมิน มิ ความเจ็บ จ็ ปวดของผู้ป่วย ตำ แหน่ง และ ความถี่ให้การพยาบาลที่ล ที่ ดอาการปวดให้กับ กั ผู้ป่วย เช่น แนะนำ กิจ กิ กรรมที่เ ที่ บี่ย บี่ งเบนความสนใจ ฟังเพลง อ่านหนัง นั สือ สื และดูแ ดู ลให้ยาลดปวด 3. ส่งเสริม ริ ภาวะโภชนาการ ดูแ ดู ลให้ผู้ป่วยได้รับ รั สาร อาหารและพลัง ลั งานที่เ ที่ พีย พี งพอ ให้ผู้ป่วยรัปรั ระทาน อาหารเหลวหรือ รื อาหารอ่อนๆ และบัน บั ทึก ทึ ภาวะการย่อย การดูด ดู ซึมอาหารของผู้ป่วย 4. แนะนำ เทคนิค นิ วิธี วิ ก ธี ารประคองแผลขณะไอ จาม 5. กระตุ้น ตุ้ ให้ผู้ป่วยมีก มี ารเคลื่อ ลื่ นไหวร่างกาย กระตุ้น ตุ้ ให้ มีก มี ารลุก ลุ จากเตีย ตี ง เช่น การลุก ลุ นั่ง นั่ การเดิน ดิ การขยับ ยั แขนขา 6. เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึก สึ ให้ผู้ป่วยได้ พูด พู คุย คุ กับ กั ผู้ป่วยอื่น อื่ ที่ไ ที่ ด้รับ รั การผ่าตัด ตั เช่นเดีย ดี วกัน กั
การวางแผนดูแลผู้ป่วย ระยะหลัง ลั ผ่าตัด ตั ระยะกลับ ลั บ้าน 3 คำ แนะนำ ก่อนกลับ ลั บ้าน การล้างแผลต้องไปล้างที่โ ที่ รงพยาบาลส่งเสริม ริ สุขภาพส่วนตำ บล หรือ รื โรงพยาบาลเท่านั้น นั้ ห้ามทำ การล้างแผลด้วยตนเองที่บ้ ที่ บ้ าน การดูแลแผลและการทำ ความสะอาด 1. สัง สั เกตอาการการแสดงของการติดเชื้อ ชื้ ของตัว ตั เองอยู่เสมอ หาก พบว่าแผลมีก มี ารติดเชื้อ ชื้ ให้รีบ รี มาพบแพทย์โดยด่วนห้ามรอมาตาม วัน วั นัด นั 2.พัก พั ผ่อนให้เพีย พี งพอ ลดการเคลื่อ ลื่ นไหวที่อ ที่ าจทำ ให้เกิด กิ การ อัก อั เสบ และการหายของแผลช้ากว่าปกติ ห้ามออกกำ ลัง ลั กาย ทำ กิจ กิ กรรม หรือ รื ยกของที่ห ที่ นัก นั เพราะอาจเกิด กิ การฉีกขาดของแผล ให้ กระตุ้น ตุ้ การออกกำ ลัง ลั กายด้วยการฝึกหายใจเข้าออกช้าๆ ลึก ลึ ๆควร ทำ บ่อยเท่าที่จ ที่ ะสามารถทำ ได้ บริห ริ ารแขน ขา และเท้ายกแขน จะ ช่วยให้ปอดและร่างกายกลับ ลั มาทำ งานได้เป็นปกติ 3.ผู้ป่วยควรรับ รั ประทานอาหารที่ส่ ที่ ส่ งเสริม ริ การหายของแผล เช่น อาหารพวกเนื้อ นื้ สัต สั ว์ ถั่ว ถั่ ไข่ขาว นม ผัก ผั ผลไม้รสเปรี้ย รี้ ว หลีก ลี เลี่ย ลี่ ง ของหมัก มั ดอง อาหารที่ทำ ที่ ทำให้เลือ ลื ดออก เช่น โสม เครื่อ รื่ งดื่ม ดื่ ชูกำ ลัง ลั คอลลาเจน 4.ควรดูแลความสะอาดของร่างกาย สิ่ง สิ่ แวดล้อม และการดูแล ท่อระบายต่างๆมากยิ่ง ยิ่ ขึ้น ขึ้ กว่าปกติ เช่น ระวัง วั อย่าให้แผลเปียกชื้น ชื้ หรือ รื โดนน้ำ เพราะอาจจะทำ ให้เกิด กิ การอัก อั เสบ ติดเชื้อ ชื้ ได้ หากผ้า พัน พั แผลชื้น ชื้ สกปรกควรทำ ความสะอาดแผลใหม่ทั ม่ น ทั ที 5. รับ รั ประทานยาตามที่โ ที่ รงพยาบาลจัด จั ให้ โดยเฉพาะยา ปฏิชี ฏิ ชี วนะ(ยาฆ่าเชื้อ ชื้ )ต้องทานให้ครบ ส่วนยาพาราทานมากจะมีผ มี ล ต่อการทำ งานของไตให้รับ รั ประทานแค่เฉพาะเวลาที่มี ที่ อ มี าการปวด ของบาดแผล 6. ควรมาตรวจตามนัด นั เพื่อ พื่ ให้แพทย์ประเมินแผลรวมถึง ถึ ตรวจ สภาพร่างกายทั่ว ทั่ ไปที่อ ที่ าจส่งผลต่อการหายของแผลผ่าตัด ตั
ความไม่สมดุลของปริมาณของเหลวอาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัดเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเปลี่ยนของเหลว การได้รับของเหลวไม่เพียงพอ หรือการสูญเสียของเหลวมากเกินไป ความไม่สมดุลนี้อาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไป เลี้ยงสมอง และนำ ไปสู่การรับรู้ทาง ประสาทสัมผัสที่บกพร่องและกระบวนการคิดที่เปลี่ยนแปลงไปประเมินความรู้สึกและ/หรือ การเคลื่อนไหวของแขนขาและลำ ตัวตามความเหมาะสม การกลับมาของการทำ งานหลังจาก บล็อกเส้นประสาทเฉพาะที่หรือกระดูกสันหลังขึ้นอยู่กับชนิดหรือปริมาณของสารที่ใช้และ ระยะเวลาของขั้นตอน เมื่อเริ่มมีอาการชา ยืนยันว่าการผ่าตัดเสร็จสิ้น เมื่อผู้ป่วยฟื้นคืนสติ การสนับสนุนและความมั่นใจจะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลได้ พูดด้วยน้ำ เสียงปกติ ชัดเจน โดยไม่ตะคอก รู้ตัวว่ากำ ลังพูดอะไร ลดการสนทนาเชิงลบในการ ได้ยินของผู้ป่วย อธิบายขั้นตอน แม้ว่าผู้ป่วยจะดูเหมือนไม่ทราบก็ตาม พยาบาลไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ป่วยรู้สึกตัวเมื่อใด แต่เชื่อกันว่าประสาทสัมผัสของการได้ยิน กลับคืนมาก่อนที่ผู้ป่วยจะตื่นเต็มที่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำ คัญที่จะไม่พูดสิ่งที่อาจทำ ให้เข้าใจผิด ได้ การให้ข้อมูลช่วยให้ผู้ป่วยรักษาศักดิ์ศรีและเตรียมพร้อมสำ หรับกิจกรรม การพยาบาลผู้ป่วยหลังการผ่าตัด กรณีผู้ป่วยได้รับยาระงับความ รู้สึกด้วย spinal block
ยากลุ่ม NSAIDs : แอสไพริน , ไดฟลูนิซอล (Dolobid), นา พรอกเซน (Anaprox) มีประโยชน์สำ หรับอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลางหรือใช้ร่วมกับ การบำ บัดด้วย opioid เมื่อความเจ็บปวดอยู่ในระดับปานกลางถึง รุนแรง อนุญาตให้ใช้ยาในปริมาณที่น้อยลง ลดโอกาสเกิดผลข้าง เคียง Antiemetics บรรเทาอาการคลื่นไส้และ/หรืออาเจียน ซึ่งอาจ ทำ ให้การบริโภคอาหารลดลงและเพิ่มการสูญเสียของเหลว Naloxone (Narcan) หรือ doxapram (Dopram) Narcan ช่วยลดภาวะซึมเศร้าของระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) ที่เกิดจากสารเสพติด และ Dopram กระตุ้นกล้ามเนื้อ ทางเดินหายใจ ผลกระทบของยาทั้งสองชนิดมีลักษณะเป็นวงจร และอาการกดการหายใจอาจกลับมาอีก อาจให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการปนเปื้อนที่สงสัย การให้ความรู้หลังการผ่าตัดสำ หรับผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเกี่ยวข้องกับการให้ คำ แนะนำ และข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลบาดแผล การจัดการความเจ็บปวดการบริ หารยาการจำ กัดกิจกรรม และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นที่ต้องระวัง ด้วยการ เพิ่มพูนความรู้และทรัพยากรให้กับผู้ป่วย พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมใน กระบวนการฟื้นฟูและตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับการดูแลหลังการผ่าตัด
ติดตามผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการ: Hb/ Hct, อิเล็กโทรไลต์ เปรียบเทียบการตรวจเลือด ก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด ตัวบ่งชี้ของความชุ่มชื้นและ/หรือปริมาณการไหลเวียน ภาวะโลหิตจางก่อนการผ่าตัดและ/หรือ Hct ต่ำ ร่วมกับการสูญเสียของเหลวที่ไม่ได้ถูกแทนที่ระหว่างการผ่าตัดจะทำ ให้ขาดดุลมากขึ้น หลักการการพยาบาลผู้ป่วยหลังการผ่าตัด กรณีผู้ป่วย ได้รับยาระงับความรู้สึกด้วย spinal block ปรับอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ จดบันทึกอุณหภูมิก่อนการผ่าตัด ใช้เป็นพื้นฐานสำ หรับการตรวจสอบอุณหภูมิระหว่างการผ่าตัด อุณหภูมิที่สูงขึ้นก่อนการผ่าตัดบ่งบอกถึง กระบวนการของโรค: ไส้ติ่งอักเสบ ฝี หรือโรคทางระบบที่ต้องได้รับการรักษาก่อนการผ่าตัด ระหว่างการผ่าตัด และอาจเป็นไปได้หลังการผ่าตัด หมายเหตุ: ผลกระทบจากอายุที่เพิ่มขึ้นในไฮโปทาลามัสอาจลดการตอบ สนองของไข้ต่อการติดเชื้อ ประเมินอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมและปรับเปลี่ยนตามความจำ เป็น: จัดเตรียมผ้าห่มอุ่น และเย็น และเพิ่มอุณหภูมิห้อง อาจช่วยในการรักษาหรือทำ ให้อุณหภูมิของผู้ป่วยคงที่ การส่งเสริมรูปแบบการหายใจที่มีประสิทธิภาพ ฟังเสียงลมหายใจ ฟังเสียงคำ ราม เสียงหวีด เสียงขัน และ/หรือเงียบลงหลังการช่วยหายใจ เสียงลมหายใจขาดห้วงบ่งบอกถึงการอุดตันของเสมหะหรือลิ้น และอาจแก้ไขได้โดยการจัดตำ แหน่ง และ/หรือการดูด ประเมินความรู้สึก ประเมินความรู้สึกและ/หรือการเคลื่อนไหวของแขนขาและลำ ตัวตามความเหมาะสม การกลับมาของการทำ งานหลังจากบล็อกเส้นประสาทเฉพาะที่หรือกระดูกสันหลังขึ้นอยู่กับชนิดหรือ ปริมาณของสารที่ใช้และระยะเวลาของขั้นตอน สังเกตอาการประสาทหลอน หลงผิด ซึมเศร้า หรือตื่นเต้น อาจพัฒนาตามการบาดเจ็บและบ่งบอกถึงภาวะเพ้อ ประเมินความปวด ประเมินความปวดเป็นประจำ (ทุก 2 ชั่วโมง โดยสังเกตลักษณะ ตำ แหน่ง และความรุนแรง (มาตราส่วน 0–10) เน้นความรับผิดชอบของผู้ป่วยในการรายงานความเจ็บปวด/การบรรเทาความ เจ็บปวดอย่างสมบูรณ์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความจำ เป็นหรือประสิทธิผล ติดตามผลตรวจ ดูแลอาการชา ปรับทิศทางผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องเมื่อเริ่มมีอาการชา ยืนยันว่าการผ่าตัดเสร็จสิ้น เมื่อผู้ป่วยฟื้นคืนสติ การสนับสนุนและความมั่นใจจะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลได้ ประเมินแขนขาส่วนล่างสำ หรับผื่นแดงบวมน้ำ และความกดเจ็บน่อง (สัญญาณบวกของโฮแมนส์) การไหลเวียนเลือดอาจถูกจำ กัดโดยบางตำ แหน่งที่ใช้ระหว่างการผ่าตัด
การพยาบาลผู้ป่ผู้ ว ป่ ยหลังการผ่า ผ่ ตัด กรณีผู้ป่ ผู้ วยได้รับ รั ยาระงับความ รู้สึ รู้ ก สึ ด้วย spinal block 1.ความดันโลหิตลดลง จะมีอาการคลื่นไส้ร่วมกับความดันลดลง 2.ปวดศีรษะ มักจะพบบ่อยภายใน 24-72 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดร้าว ที่ท้ายทอยเมื่อลุกนั่ง 3.ปวดหลัง มักไม่มีอาการรุนเเรงมากเเละทุเลาได้ภายหลัง 4.อาจเกิดการกระจายยาชาไประดับสูงถึงระดับอก ผู้ป่วยอาจหมดสติ ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นช้าเเละหยุดหายใจ 5.มีอาการปวดรุนแรง มีอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนเเรงเกิดอาการอัมพาตชั่วคราวหรือภาวะ 7.เกิดอาการหนาวสั่น 8.เกิดปัสสาวะคั่ง การพยาบาล 1.ประเมินสัญญาณชีพวัดความดันโลหิต จับชีพร สังเกตการหายใจอย่างน้อย30นาที 2.เเนะนำ ให้ผู้ป่วยนอนราบประมาณ 6-8 ชั่วโมง พลิกตะเเคงตัวเเบบท่อนซุงได้เป็นครั้งคราวเพื่อหลีกเลี่ยง ภาวะความดันโลหิตต่ำ จากระบบประสาทอัตโนมัติไม่ทำ งาน 3.ประเมินอาการชสทโดยการสอบถามเเละให้ผู้ป่วยขยับขา ยกขา อาการชาต้องทุเลาลงเเละเริ่มขยับขาได้ภาย ใย 1-2ชั่วโมง 4.สังเกตภาวะเเทรกซ้อน เช่น หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหลัง 5.คลำ บริเวณกระเพาะปัสสาวะเพื่อประเมินภาวะปัสสาวะคั่ง 6.กระตุ้นให้ผู้ป่วยพลิกตะเเคงตัว ภาวะเเทรกซ้อ ซ้ น
นางสาวนฤมล วิเศษ เลขที่ 25 รหัส 65118301060 นางสาวนันทิดา ใจรักเรียน เลขที่ 26 รหัส 65118301061 นางสาวบุณยาพร ชุมพล เลขที่ 27 รหัส 65118301064 นางสาวเบญจวรรณ ขานเพราะ เลขที่ 28 รหัส 65118301065 นางสาวปติณญา เมืองเลน เลขที่ 29 รหัส 65118301067 นายปรเมศ แก่นจันทร์ เลขที่ 30 รหัส 65118301068 นางสาวปริฉัตร ศรีชนะ เลขที่ 31 รหัส 65118301071 นายปริญญาวัฒน์ แสงทอง เลขที่ 32 รหัส 65118301072 หลักการและเทคนิคการดูเเลผู้ป่วยก่อนและหลังผ่าตัด Pre - Postoperative nursing care เสนอ อาจาร์วิยะดา เปาวนา จัดทำ โดย นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 2 รายวิชา การพยาบาลขั้นพื้นฐาน รหัสวิชา 0118300209 ปการศึกษา 2566 ภาคการศึกษาที่ 1 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุดรธานี
Thank You