หน่วยที่ 2 การบนั ทึกบญั ชเี กยี่ วกับตัว๋ เงินและ
การแสดงบญั ชีเกย่ี วกับตั๋วเงินในงบการเงนิ
สาระการเรียนรู้
1. ความหมายและประเภทของตว๋ั เงนิ ทางบัญชี
2. การบนั ทึกบญั ชีเก่ียวกับตั๋วเงนิ
3. สมุดทะเบยี นเกย่ี วกับต๋วั เงนิ
4. การแสดงบญั ชเี ก่ียวกบั ต๋ัวเงนิ ในงบการเงิน
ความหมาย และประเภทของตว๋ั เงนิ ทางบญั ชี
ความหมายของต๋วั เงนิ ทางบัญชี
ต๋ัวเงินทางบัญชี หมายถึง เอกสาร หลักฐานท่ีแสดงถึงการเป็นหน้ีระหว่าง
ลกู หน้ีและเจา้ หนี้ ในวงการธุรกิจท่วั ไป เช่น ธนาคาร บริษัทหรือห้างร้านท่ัวไปจะใช้ต๋ัว
เงินเพ่ือชาระหนี้ เมื่อมีการซื้อขายสินค้าหรือบริการหรือสินทรัพย์อ่ืนเป็นเงินเช่ือ การ
กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินหรือ ธนาคาร และยังใช้ในการซ้ือขายระหว่างประเทศ
ตลอดจนการขอผัดผ่อนการชาระหน้ีทีถ่ งึ กาหนดชาระด้วย
ในทางบัญชี ตั๋วเงิน หมายถึง เฉพาะต๋ัวแลกเงินและต๋ัวสัญญาใช้เงินเท่าน้ัน
ส่วนเชค็ จะเก่ยี วข้องกับการบนั ทึกบญั ชเี งนิ ฝากธนาคารประเภทกระแสรายวัน
ความหมาย และประเภทของตวั๋ เงนิ ทางบัญชี
ชนดิ ของต๋วั เงนิ ทางบญั ชี
ตวั๋ เงินทางบัญชี แบ่งเปน็ 2 ชนิด คือ
1. ตว๋ั เงนิ ชนดิ มดี อกเบยี้ (Interest-Bearing Notes) เป็นต๋ัวเงนิ ท่ีมอี ัตรา
ดอกเบ้ยี ระบุไว้ในตัว๋ เมอ่ื ครบกาหนดใช้เงินจะได้รบั หรือจา่ ยเงนิ ตามจานวนเงนิ ที่ระบุไว้
หน้าตว๋ั (Face Value) บวกดอกเบ้ียในอตั ราทีก่ าหนดตามอายุของตัว๋ เงิน
2. ตว๋ั เงินชนิดไม่มดี อกเบ้ีย (Noninterest-Bearing Notes) เปน็ ตว๋ั เงินทไ่ี ม่
ระบอุ ัตราดอกเบย้ี ไวใ้ นต๋ัว เมอ่ื ครบกาหนดใชเ้ งินจะได้รับหรอื จา่ ยเงินตามจานวนเงนิ ทไ่ี ด้
ระบไุ วห้ นา้ ตัว๋ เทา่ น้ัน
ความหมาย และประเภทของตว๋ั เงินทางบญั ชี
ประเภทของต๋วั เงนิ ทางบัญชี
ต๋วั เงินทางบญั ชี แบง่ เป็น 2 ประเภท คอื
1. ต๋ัวเงนิ จา่ ย (Notes Payable)
2. ตั๋วเงินรับ (Notes Receivable)
1.ตั๋วเงินจา่ ย (Notes Payable)
ต๋ัวเงินจ่าย (Notes Payable) หมายถึง ตั๋วแลกเงินท่ีกิจการเป็นผู้
รบั รองหรือตว๋ั สัญญาใช้เงินที่กิจการเป็นผู้ออกเพื่อชาระค่าสินค้า บริการหรือชาระ
หน้ีให้แก่เจ้าหนี้ โดยที่กิจการ จะต้องจ่ายเงินตามตั๋วเมื่อถึงวันครบกาหนด ตั๋วเงิน
จา่ ยนีถ้ อื เปน็ หนีส้ นิ หมนุ เวยี นของกิจการ ต๋ัวเงนิ จา่ ย แบง่ ได้ 3 ประเภท คอื
1. ต๋ัวเงินจ่ายทางการค้า (Notes Payable-Trade) คือ ต๋ัวเงินท่ีออกให้
เพอ่ื ชาระหน้ี คา่ ซื้อสนิ คา้ หรอื บริการ
2. ตั๋วเงินจ่ายธนาคาร (Notes Payable-Bank) คือ ต๋ัวเงินท่ีออกให้
ธนาคารเพอ่ื เป็น หลกั ฐานในการกู้ยืมเงิน
3. ตวั๋ เงนิ จ่ายอ่ืนๆ (Notes Payable-Others) คือ ต๋ัวเงินที่ออกให้เจ้าหนี้
เพอื่ เป็น หลักฐานในการกู้ยืมเงิน หรอื ชาระหนี้อ่ืนๆ
2.ตวั๋ เงินรบั (Notes Receivable)
ต๋ัวเงนิ รับ (Notes Receivable) หมายถงึ ตราสารทางกฎหมาย ท่ีแสดง
สิทธทิ ่จี ะได้รับ ชาระเงินตามจานวน เวลา และสถานท่ีที่ระบุไว้ในตั๋ว ตั๋วเงินรับแบ่ง
ไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื
1. ตั๋วเงินรับการค้า (Notes Receivable-Trade) คือ ตั๋วเงินรับท่ีได้จาก
การขายสินค้า หรือบรกิ ารของกจิ การ
2. ตว๋ั เงนิ รบั อื่นๆ (Notes Receivable-Others) คอื ตว๋ั เงนิ รบั ท่ีได้จาก
การขายทด่ี นิ อาคารและอปุ กรณแ์ ละการใหพ้ นักงานหรอื บริษทั ในเครือกยู้ ืมเงิน
การบนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ตว๋ั เงิน
การบันทกึ บญั ชเี กีย่ วกับต๋วั เงิน จะมีวิธกี ารบันทึกทางดา้ นตั๋วเงินรบั และตว๋ั เงนิ จา่ ย โดย แบ่งเป็น 2 ดา้ นคือ
1. การบนั ทกึ บญั ชีทางดา้ นผูจ้ ่ายเงิน (ดา้ นลูกหนี้)
ในกรณีลูกหนี้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อชาระหน้ีให้แก่เจ้าหนี้ การบันทึกบัญชีจะต้องบันทึก ในวันที่ออกตั๋ว
และวันครบกาหนดชาระเงิน
แต่ในกรณีลูกหนี้ได้รับรองการจ่ายเงินในต๋ัวแลกเงินที่เจ้าหนี้เป็นผู้ส่ังจ่าย การบันทึกบัญชี จะต้องบันทึกใน
วันรับรองตว๋ั และวันครบกาหนดชาระเงนิ
ต๋วั เงินท่กี ิจการออกหรอื รบั รองดังกลา่ วข้างตน้ นี้ เรยี กวา่ “ตว๋ั เงนิ จา่ ย”
การบนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกับตว๋ั เงินจา่ ย จะบันทกึ แยกเป็นกรณีตา่ งๆ ดงั น้ี
1. การออกตวั๋ เงนิ จา่ ย เมอ่ื กจิ การซื้อสินคา้ เปน็ เงนิ เชอ่ื
2. การออกตั๋วเงนิ จ่ายเพื่อชาระหน้ใี หเ้ จ้าหน้ี
3. การออกตั๋วเงนิ จา่ ยเพื่อซ้อื สนิ ทรพั ย์
4. การออกต๋วั เงินจา่ ยฉบับใหมแ่ ทนต๋วั เงนิ จา่ ยฉบบั เดมิ ท่คี รบกาหนด
5. การออกตัว๋ เงินจ่ายฉบับใหมม่ ีมูลคา่ ตั๋วบางส่วน และสว่ นทเ่ี หลือชาระเป็นเงนิ สด
กรณีนก้ี ิจการไมส่ ามารถชาระหนี้ได้ทัง้ หมด จงึ ขอผอ่ นผนั เจา้ หนี้เพอ่ื ชาระหน้ี บางส่วนพรอ้ มดอกเบ้ยี
สว่ นทเี่ หลอื ขอออกตั๋วเงนิ ฉบับใหมใ่ หก้ บั เจ้าหน้แี ทนฉบบั เดิม
6. การบนั ทึกบญั ชีเกย่ี วกับการชาระเงินตามตั๋วเงินจ่ายเมอ่ื ต๋วั เงนิ ครบกาหนด
กรณเี ปน็ ต๋ัวเงนิ ชนดิ ไมม่ ีดอกเบ้ีย
7. การบนั ทึกบญั ชีเกย่ี วกับการชาระเงนิ ตามตว๋ั เงินจ่ายเมื่อต๋วั เงนิ ครบกาหนด
กรณเี ปน็ ต๋ัวเงินชนดิ มีดอกเบ้ีย
กรณเี ป็นตัว๋ เงนิ ชนดิ มีดอกเบี้ย
ตัวอย่าง 2.1 เม่อื วันท่ี 25 มิถุนายน นายประกอบไดซ้ ือ้ สนิ ค้าจากนายประกจิ จานวน 10,000 บาท
โดยออกตวั๋ สัญญาใชเ้ งนิ ชาระค่าสนิ คา้ ใหน้ ายประกิจในวนั เดียวกันนี้ ตั๋วมกี าหนด
2 เดอื น ดอกเบย้ี 15% ตอ่ ปี เมื่อถึงวนั ครบกาหนดชาระเงนิ นายประกอบ ไดช้ าระเงนิ
ให้นายประกิจเรยี บร้อยแลว้
การบนั ทกึ บญั ชที างดา้ นนายประกอบจะเปน็ ดังน้ี
วนั ออกตวั๋
วนั ครบกาหนดชาระเงนิ
กรณเี ปน็ ต๋วั เงนิ ชนิดไมม่ ีดอกเบย้ี
ตวั อย่าง 2.2 เมื่อวันที่ 25 มถิ ุนายน นายประพันธ์ได้ซือ้ สนิ คา้ จากนายประเวช จานวน 10,000 บาท
โดยออกตว๋ั สัญญาใช้เงนิ ชาระคา่ สินค้าให้นายประเวชในวันเดยี วกนั นี้ ตวั๋ มีกาหนด 2 เดอื น
เม่ือถึงวันครบกาหนดชาระเงิน นายประพันธไ์ ดช้ าระเงนิ ใหน้ ายประเวช เรยี บรอ้ ยแลว้
การบนั ทึกบัญชที างด้านนายประพันธจ์ ะเปน็ ดังน้ี
วันออกตวั๋
วนั ครบกาหนดชาระเงนิ
ในกรณีที่กิจการจดทะเบยี นเขา้ สรู่ ะบบภาษีมลู คา่ เพ่ิม 7%
ตัวอย่าง 2.3 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน นายประกอบได้ซ้ือสินค้าจากนายประกิจ จานวน 10,000 บาท
ภาษมี ูลค่าเพ่ิม 7% โดยออกต๋ัวสัญญาใช้เงิน ชาระค่าสินค้าให้นายประกิจ ในวันเดียวกันนี้ต๋ัวมีกาหนด 2 เดือน
ดอกเบยี้ 15% ตอ่ ปี เมื่อถึงวนั ครบกาหนด ชาระเงิน นายประกอบได้ชาระเงินใหน้ ายประกิจเรียบรอ้ ย แล้ว
การบันทกึ บญั ชีทางดา้ นนายประกอบจะเป็นดังนี้
วนั ออกต๋วั
วนั ครบกาหนดชาระเงนิ
การบันทกึ บัญชีเกย่ี วกับต๋ัวเงิน
2. การบันทกึ บญั ชีทางด้านผู้รบั เงิน (เจา้ หนี้)
ในกรณีเจ้าหน้ีได้รับต๋ัวสัญญาใช้เงินจากการชาระหนี้ของลูกหนี้ การบันทึกบัญชีจะบันทึกใน
วนั ที่ไดร้ ับต๋ัว และวนั ครบกาหนดรบั เงนิ
และในกรณเี จา้ หนี้ได้รบั ตวั๋ แลกเงิน ท่ลี กู หนเี้ ซน็ ช่ือรบั รองการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว การบันทึกบัญชี
จะบนั ทกึ ในวนั ทไ่ี ด้รับตวั๋ และวนั ครบกาหนดรบั เงินเช่นเดียวกนั
ตั๋วเงนิ ท่กี ิจการได้รับมาจากการชาระหนดี้ ังกล่าวขา้ งตน้ น้ี เรียกว่า “ตั๋วเงนิ รบั ”
การบนั ทึกบัญชเี กีย่ วกบั ตั๋วเงินรบั จะบันทึกแยกเป็นกรณีต่างๆ ดงั น้ี
1. การรบั ต๋วั เงนิ รบั จากการขายสินค้าเปน็ เงินเชอื่
2. การรับต๋วั เงนิ รับจากการรบั ชาระหนี้ของลกู หน้ี
3. การรบั ตัว๋ เงนิ รับจากการขายสนิ ทรัพย์
4. การรับต๋วั เงินรบั จากการใหบ้ ุคคลภายนอก พนกั งาน ลกู จา้ งก้ยู มื
5. การรับต๋วั เงินรบั ฉบบั ใหมแ่ ทนต๋วั เงนิ รบั ฉบบั เดมิ ท่คี รบกาหนด
6.การรับต๋วั เงินรบั ฉบับใหมม่ ีมลู ค่าต๋วั บางสว่ นและส่วนที่เหลอื รับชาระเป็นเงินสดสมุด
รายวันท่วั ไป
7. การบนั ทึกบญั ชีเกย่ี วกับการรบั เงนิ ตามตัว๋ เงินรบั เมื่อต๋วั เงินครบกาหนด
กรณีเป็นตว๋ั เงินชนดิ มีดอกเบย้ี
กรณีเปน็ ตั๋วเงินชนิดไมม่ ีดอกเบ้ีย
ตวั อยา่ ง 2.4 เม่ือวนั ที่ 25 มถิ นุ ายน นายประกจิ ไดข้ ายสนิ คา้ ให้นายประกอบ จานวน 10,000 บาทโดยได้รบั ตวั๋
สัญญาใชเ้ งินเป็นคา่ สินคา้ ในวันเดยี วกนั น้ี ต๋วั มกี าหนด 2 เดือน ดอกเบี้ย 15% ต่อปี เมือ่ ถึงวนั
ครบกาหนดนายประกจิ ไดร้ ับเงนิ เรยี บร้อยแล้ว
การบนั ทกึ บญั ชที างดา้ นนายประกจิ จะเปน็ ดงั นี้
วันท่ีไดร้ ับต๋ัว
วนั ครบกาหนดรบั เงนิ
ตัวอย่าง 2.5 เมื่อวันท่ี 25 มิถุนายน นายประเวชได้ขายสินค้าให้นายประพันธ์ จานวน 10,000 บาท
โดยได้รับต๋ัวสัญญาใช้เงินเป็นค่าสินค้าในวันเดียวกันนี้ ต๋ัวมีกาหนด 2 เดือน เมื่อถึง
วนั ครบกาหนด นายประเวชได้รบั เงินเรยี บรอ้ ยแลว้
การบนั ทึกบญั ชที างด้านนายประเวชจะเปน็ ดงั น้ี
วันที่ได้รับตัว๋
วนั ครบกาหนดรบั เงนิ
ในกรณที ี่กจิ การจดทะเบียนเข้าสรู่ ะบบภาษมี ูลคา่ เพมิ่ 7%
ตัวอย่าง 2.6 เม่ือวันท่ี 25 มิถุนายน นายประกิจได้ขายสินค้าให้นายประกิจ จานวน 10,000 บาท
ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% โดยได้รับต๋ัวสัญญาใช้เงินเป็นค่าสินค้า ในวันเดียวกันน้ี ตั๋วมีกาหนด 2 เดือน ดอกเบ้ีย
15% ต่อปี เม่ือถงึ วันครบกาหนดนายประกิจได้รบั เงนิ เรียบร้อยแล้ว
การบันทกึ บัญชที างด้านนายประกิจจะเปน็ ดังนี้
วันทไี่ ดร้ บั ตวั๋
วนั ครบกาหนดรบั เงนิ
ความหมายและประเภทของตว๋ั เงินทางบญั ชี
ในกรณกี จิ การมีรายการค้าท่เี กี่ยวข้องกบั ตว๋ั เงนิ เป็นประจา และมีเป็นจานวนมาก เพอ่ื ความสะดวก
ในการบันทึกบัญชีและการคุมยอดต๋ัวเงิน กิจการจึงควรแยกบันทึกบัญชี คือ ใช้สมุดทะเบียนต๋ัวเงินรับ
(Notes Receivable Journal) สาหรับบันทึกรายการรับชาระหน้จี ากลกู หน้ี ดว้ ยต๋วั เงนิ และใช้สมุดทะเบียน
ตั๋วเงินจา่ ย (Notes Payable Journal) สาหรบั บนั ทึกรายการ จา่ ยชาระหนสี้ นิ ใหเ้ จ้าหนดี้ ว้ ยตัว๋ เงิน พอถึงวัน
สนิ้ เดอื นกิจการจึงรวมยอดผา่ นรายการไปบัญชี แยกประเภทต๋ัวเงนิ รบั และตัว๋ เงนิ จา่ ยเพยี งครั้งเดยี ว
ตัวอยา่ งสมุดทะเบยี นตัว๋ เงนิ รบั และตั๋วเงนิ จา่ ย
- ในวันทีก่ จิ การได้รับต๋ัวเงินจากการชาระหน้ีของลูกหนี้ กิจการจะบันทึกรายการใน สมุดทะเบียนต๋ัวเงินรับ
และผ่านรายการไปยงั สมุดบญั ชีแยกประเภทลูกหนร้ี ายตัว
- ในวันสิ้นเดือน กิจการจะรวมยอดในช่องจานวนเงินและผ่านรายการไปเดบิตบัญชี ต๋ัวเงินรับ เครดิตบัญชี
คุมยอดลกู หน้ี ในสมุดบัญชีแยกประเภททวั่ ไป
ตวั อย่างสมดุ ทะเบียนต๋วั เงนิ รบั และต๋ัวเงินจา่ ย
- ในวันที่กิจการออกตั๋วเงินเพ่ือชาระหนี้ให้เจ้าหนี้ กิจการจะบันทึกรายการใน สมุดทะเบียนตั๋วเงินจ่าย และ
ผา่ นรายการไปยงั สมดุ บัญชแี ยกประเภทเจ้าหนีร้ ายตวั
- ในวันสิ้นเดือน กิจการจะรวมยอดในช่องจานวนเงินและผ่านรายการไปเดบิตบัญชีคุมยอด เจ้าหน้ี เครดิต
บัญชตี ว๋ั เงนิ จ่ายในสมุดบญั ชแี ยกประเภททั่วไป
การแสดงบัญชเี กยี่ วกบั ต๋วั เงนิ ในงบการเงนิ
ตามท่ีได้กล่าวมาแลว้ วา่ ต๋วั เงนิ ในทางบัญชแี บง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คอื ตว๋ั เงินรับและตวั๋ เงินจา่ ย
- ต๋ัวเงินรบั ถือเป็นสินทรพั ย์หมนุ เวียน แสดงภายใตห้ วั ข้อลูกหน้กี ารคา้ และลกู หน้อี นื่
การแสดงบญั ชีเกีย่ วกับตัว๋ เงนิ ในงบการเงนิ
- ตว๋ั เงนิ จา่ ยถอื เป็นหนสี้ นิ หมุนเวียน แสดงภายใตห้ วั ข้อเจ้าหนก้ี ารค้าและเจา้ หนี้อ่นื
ตวั อยา่ ง 2.7
ต่อไปนี้เปน็ รายการบางสว่ นรวมท้ังต๋วั เงินของกจิ การแห่งหน่งึ ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25X1
ลกู หนกี้ ารค้า 28,000 บาท
ตั๋วเงนิ รับ 20,000 บาท
คา่ ใชจ้ า่ ยจา่ ยลว่ งหน้า 12,000 บาท
รายไดค้ า้ งรบั 2,000 บาท
เงนิ ทดรอง 5,000 บาท
เจ้าหนก้ี ารค้า 24,500 บาท
ตัว๋ เงินจ่าย 45,000 บาท
ค่าใชจ้ ่ายคา้ งจา่ ย 1,500 บาท
รายไดร้ ับล่วงหนา้ 13,000 บาท
ให้ทา แสดงรายการเก่ยี วกับตัว๋ เงินในงบแสดงฐานะการเงนิ
กจิ การ................
งบแสดงฐานะการเงนิ
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25X1
หมายเหตุ หน่วย : บาท
สินทรัพย์
สนิ ทรพั ยห์ มนุ เวียน
ฯลฯ
ลกหู นก้ี ารค้าและลกู หนห้ี มนุ เวียนอื่น (1) 67,000
หนี้สนิ หมุนเวียน
ฯลฯ
เจ้าหนก้ี ารคา้ และเจ้าหน้ีหมนุ เวยี นอน่ื (2) 84,000
หมายเหตุประกอบงบการเงิน หนว่ ย : บาท
หมายเหตุ 1 ลูกหนี้การคา้ และลูกหน้ีหมุนเวียนอน่ื
28,000
ลกู หนีก้ ารค้า 20,000
ตวั๋ เงนิ รับ 12,000
ค่าใช้จา่ ยจ่ายลว่ งหนา้ 2,000
รายไดค้ า้ งรับ 5,000
เงินทดรอง 67,000
หมายเหตุ 2 เจา้ หน้ีการคา้ และเจา้ หน้หี มุนเวยี นอืน่ หนว่ ย : บาท
เจา้ หน้ีการคา้
ตัว๋ เงนิ จ่าย 24,500
ค่าใช้จ่ายคา้ งจา่ ย 45,000
รายไดร้ ับลว่ งหน้า 1,500
13,000
84,000
สรปุ 2ห4,5น0ว่0 ยที่ 2
• ตัว๋ เงกิ ารบันทกึ บญั ชเี ก่ียวกบั ตัว๋ เงนิ จะมกี ารบนั ทกึ บญั ชี 2 ด้าน คือ
• ดา้ นผู้จา่ ยเงนิ หรือด้านลกู หนี้ จะบันทึกเป็นตวั๋ เงนิ จ่าย ส่วนด้านผู้รบั เงินหรือด้านเจ้าหนจ้ี ะบนั ทึกเป็น
• ต๋วั เงนิ รบั ในวนั ที่บนั ทึกบัญชีนน้ั
ถา้ บันทกึ ทางด้านผจู้ ่ายเงนิ หรอื ด้านลกู หนจี้ ะบนั ทกึ 2 วัน คอื
• วนั ทอ่ี อกตว๋ั หรอื วนั รบั รองต๋ัว
• วันครบกาหนดจา่ ยเงนิ
ถ้าบนั ทึกทางด้านผ้รู บั เงินหรือดา้ นเจ้าหนี้ จะบนั ทึก 2 วัน คือ
• วนั ที่ได้รบั ตั๋ว
• วันครบกาหนดรบั เงนิ
• ในกรณที ่ีกิจการมีรายการเกยี่ วกับตว๋ั เงนิ เปน็ ประจาและมีเป็นจานวนมากเพ่อื ความสะดวกในการบันทึกบญั ชี
ควรบนั ทกึ ไวใ้ นสมดุ ทะเบียนตั๋วเงนิ รับและสมดุ ทะเบียนตั๋วเงนิ จา่ ย พอถงึ วันสิน้ เดือนจงึ รวมยอดผ่านรายการ
ไปสมดุ บญั ชแี ยกประเภททัว่ ไป