The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่มผลงานวิจัย 10 ปีการมการแพทย์แผนไทยฯ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by paramee.meow, 2021-03-31 06:16:49

รวมเล่มผลงานวิจัย 10 ปีการมการแพทย์แผนไทยฯ

รวมเล่มผลงานวิจัย 10 ปีการมการแพทย์แผนไทยฯ

บทคดั ยอ่ ผลงานวิจัย
ทผ่ี ่านการนาเสนอผ่านโปสเตอร์
ในงานประชุมวิชาการระดับชาติ

ยาพอกสมุนไพรสตู รลุงวนิ ัยต่อการลดอาการปวดเขา่ : ความปลอดภยั และผลเบือ้ งตน้ ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
Knee Pain Relief by Using Uncle Winai’s Herbal Patch: Safety and Preliminary
Findings

บุษบา ยินดีสุข1*, หทัยชนก บุญปก2, กนกวรรณ แรงราย3, ประภาวรรณ สาราญกิจ4, เกวลิน ยะถาคาร5, วันดี ญาณไพศาล6,
กฤษณ์ พงศพ์ ิรฬุ ห7์ , มณฑกา ธีรชัยสกุล8
1 โรงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราชสระแก้ว, 2 สานกั งานสาธารณสุขจังหวดั สระแก้ว, 3 โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพสุขภาพตาบล
บ้านถวายเฉลิมพระเกียรติ, 4 โรงพยาบาลตาพระยา, 5 โรงพยาบาลวัฒนานคร 6มหาวิทยาลัยศิลปากร, 7คณะแพทยศาสตร์
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , 8สถาบันวจิ ยั การแพทยแ์ ผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

บทคัดยอ่

หลักการและเหตุผล ลุงวินัยเป็นหมอพ้ืนบ้านที่มีใบประกอบโรคศิลปะสาขาเวชกรรมไทย (ภาค ค)
ของจังหวัดสระแก้ว ได้คิดค้นสูตรยาพอกสมุนไพรที่ใช้ลดอาการปวดเข่า ประกอบด้วยสมุนไพร 3 ชนิด คือ
ไพล ผิวมะกรูด ข่า ซึ่งหาได้ง่ายตามท้องถิ่น แต่ยังไม่มีข้อมูลการวิจัยสนับสนุน การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์
เพือ่ ศกึ ษาความปลอดภยั และผลเบือ้ งตน้ ของการใชย้ าพอกสมุนไพรสตู รลงุ วนิ ยั ในการลดอาการปวดเขา่

วิธีการศึกษา การศึกษาเชิงสังเกตแบบไปข้างหน้า (Prospective Observational Cohort)
ในผู้ป่วยท่ีมารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ท่ีมีอาการปวดเข่า จานวน 100 คน ไม่
จากดั เพศและอายุ ผู้ป่วยทุกคนได้รับการพอกยาสมุนไพรสูตรลุงวนิ ยั 1 ครัง้ เป็นเวลา 30 นาที ประเมินอาการ
ปวด ด้วยแบบประเมิน (Numeric Rating Scale; NRS) ก่อนการรักษา (PreRx) หลังการรักษาทันที
(PostRx1) และหลังการรักษา 1 วัน (PostRx2) และประเมินความปลอดภัยการใช้ยาพอกสมุนไพร วิเคราะห์
ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและเปรียบเทียบข้อมูล Pre 0 และ Post 1 และเปรียบเทียบข้อมูล Pre 0 และ
Post 2 ด้วยสถิติ Paired t-test โครงการนี้ได้ขึ้นทะเบียนและผ่านการอนุมัติจากกรรมการจริยธรรมการวิจัย
ในมนษุ ย์ (Thai Clinical Trial Registration No. 20170719006; IRB No.32/2560)

ผลการศึกษา ผ้ปู ว่ ยรอ้ ยละ 81 เป็นเพศหญงิ มีคา่ PreRx เฉล่ีย 5.17±1.90 ซง่ึ ลดลงเป็น PostRx1
3.28±1.69 และ PostRx2 3.08±1.67 ตามลาดบั อย่างมีนยั สาคญั (p<0.001) และไม่พบว่ามีอาการแพ้

สรุป ยาพอกสมุนไพรสูตรลุงวินัยในการลดอาการปวดเข่าสามารถลดอาการปวดเข่าได้ และไม่พบ
อาการแพ้ ควรมีการวจิ ัยตอ่ ยอด โดยมีกลมุ่ เปรียบเทียบ

คาสาคญั : ยาพอกสมนุ ไพร, ลงุ วนิ ัย, อาการปวดเข่า, ความปลอดภัย, ผลเบ้อื งต้น

แหลง่ งบประมาณ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื กจดั สรร งบรายจา่ ยประจาปี 2560 จานวน 35,000 บาท 45
รปู แบบการนาเสนอ โปสเตอร์ในงานประชมุ วชิ าการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย
ณ ศูนย์การแสดงสนิ ค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมอื งทองธานี ระหว่างวันที่ 18-21 กรกฎาคม 2561

โรคสะเก็ดเงิน: องค์ความรู้ในตาราการแพทยแ์ ผนไทยดัง้ เดิม ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
Psoriasis: Knowledge from Thai Traditional Medicine Textbooks

ปทั มา โพธิสัตย์1*, วรรณภรณ์ นา่ ดู2, อทิ ธิพฒั น์ เนตรทพิ ยว์ ลั ย์3, ธวชั ชัย นาใจคง4, วนั ดี ญาณไพศาล5, กฤษณ์ พงศพ์ ิรุฬห์6,
มณฑกา ธรี ชัยสกุล7
1โรงพยาบาลภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, 2โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลลาดชิด อาเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา,
3โรงพยาบาลเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, 4โรงพยาบาลหนองหิน จังหวัดเลย, 5คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
นครปฐม , 6คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 7กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก *ผู้รับผิดชอบ
บทความ

บทคัดย่อ

“สะเก็ดเงิน” เป็นช่ือโรคผิวหนังทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ซ่ึงมีรายงานผลการรักษาได้ดี
ด้วยการแพทย์แผนไทย อย่างไรก็ตามช่ือโรคนี้ไม่ปรากฏในตาราการแพทย์แผนไทยและยังไม่มีการศึกษาวิจัย
เชงิ เอกสารอย่างเป็นระบบ การศกึ ษานมี้ ีวัตถุประสงคเ์ พื่อรวบรวมและสังเคราะหค์ วามรู้เก่ียวกบั โรคสะเก็ดเงิน
เกี่ยวกับการเรยี กชื่อโรค กลไกการเกิดโรค และการดาเนินโรค ตามทฤษฎกี ารแพทยแ์ ผนไทย

วิธีการศึกษาเป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ซึ่งมีข้ันตอนการรวบรวมข้อมูล
ความรู้ 2 รูปแบบ คือ (1) สืบค้นจากเอกสารตาราการแพทย์แผนไทยดั้งเดิม (Document Review) ได้แก่
ศิลาจารึกวัดราชโอรสาราม, ศิลาจารึกวัดพระเชตุพนฯ, ตาราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ด้วยคาค้น (keyword)
ที่แสดงอาการสาคัญของโรคสะเก็ดเงิน ซ่ึงสังเคราะห์คาจากผู้วิจัยและได้รับการรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิด้าน
การแพทย์และแผนไทย จานวน 3 คน (2) สัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ผู้ทรงคุณวุฒิฯ จานวน 5
คน มีขอบเขตการสัมภาษณ์ คือ ช่ือเรียกโรคหลังดูรูปภาพแสดงของโรคสะเก็ดเงินแต่ละชนิด กระบวนการ
เกดิ โรค การดาเนนิ โรค และการรกั ษา แล้วนาขอ้ มูลท้ังหมดมาสังเคราะห์

ผลการศึกษา จากการสบื ค้นดว้ ยคาค้น คอื คนั ผื่นแดง ผวิ หนงั หนา และตุ่มหนอง พบวา่ อาการผื่น
แดงตามผิวหนัง มีความถ่ขี องคาปรากฏมากในคมั ภรี ต์ ักกะศิลา ส่วนอาการผิวหนงั เป็นขยุ หนา มจี านวนความถี่
ของคาปรากฏมากในคัมภีร์วิถีกุฏฐโรค จากการสัมภาษณ์เชิงลึกพบว่า ผู้ทรงคุณวุฒิส่วนใหญ่ เรียกสะเก็ดเงิน
ชนดิ ผืน่ ขนาดเลก็ (Guttate Psoriasis) และ ชนิดตุ่มหนอง (Pustula Psoriasis) ด้วยช่ือโรคสมมตุ ติ ามศาสตร์
การแพทยแ์ ผนไทยว่า “ประดง” และผทู้ รงคณุ วฒุ ทิ ง้ั หมดเรียกสะเก็ดเงนิ ชนิดผน่ื นูนหนา (Plaque Psoriasis)
และชนิดผื่นแดงอักเสบท่ัวร่างกาย (Erythrodermic Psoriasis) ว่า “เรื้อน” เม่ือวิเคราะห์กลไกการเกิดโรค
พบว่าประดงและโรคเร้ือนเกิดจากความผิดปกติท่ีเกิดจากเลือดและน้าเหลืองเน่ืองจากความร้อน ท้ังนี้การ
รกั ษา “ประดง” และ “เรื้อน” ควรใช้ตารับยาท่ีมีรสเมาเบ่ือซึ่งมีสรรพคุณรักษาผวิ หนังและนา้ เหลืองเป็นหลัก
และควรมยี าบารุงเลือดเปน็ ส่วนประกอบ และในตารบั ไม่ควรมยี ารสร้อน

สรุป แม้โรคสะเก็ดเงินทั้งส่ีชนิดจะมีช่ือเรียกแตกต่างกันในทางการแพทย์แผนไทย แต่มีกลไกการเกิดโรคและ
แนวทางการรักษาเช่นเดียวกัน

คาสาคญั : สะเก็ดเงนิ , ประดง, เรื้อน, psoriasis

แหลง่ งบประมาณ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจดั สรร งบรายจ่ายประจาปี 2560 จานวน 35,000 บาท 46
รปู แบบการนาเสนอ โปสเตอร์ในงานประชมุ วชิ าการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสขุ ไทย
ณ ศูนย์การแสดงสนิ คา้ และการประชมุ อมิ แพ็ค เมอื งทองธานี ระหว่างวันที่ 18-21 กรกฎาคม 2561

ความปลอดภัยและผลของการใชน้ า้ มนั ชันไพเพ่ือช่วยการนวดรกั ษาโรคน้วิ ล็อก ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
Safety and Effecacy of Royal Thai Massage with “Shanphai” Oil for Trigger
Fingers: Case Series at Two General Hospitals in Kanchanaburi Province

พรทพิ ย์ เอกจิตร1*, กฤตยาพร นา้ เจริญ2, ยพุ ยง ประเสรฐิ ลาภ1, วันดี ญาณไพศาล3, กฤษณ์ พงศ์พิรุฬห4์ , มณฑกา ธีรชยั สกุล5
1โรงพยาบาลมะการักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี, 2โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี, 3คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ศิลปากร, 4คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,5สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์
ทางเลอื ก *ผรู้ ับผดิ ชอบบทความ

บทคัดยอ่

การรักษาโรคน้ิวล็อกด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยทาโดยการนวดสูตรน้ิวไกปืน (แบบราชสานัก)
โดยอาจใชน้ า้ มันนวดสูตรต่างๆ ระหว่างการนวด “นา้ มันชันไพ” ได้จากการทอดเหง้าไพลสดและเหง้าขมิ้นชัน
สดในน้ามนั มะพร้าว การศึกษาน้ีมีวัตถปุ ระสงคศ์ กึ ษาความปลอดภัยและผลของการใชน้ ้ามนั ชันไพเพ่ือชว่ ยการ
นวดรักษาโรคน้ิวล็อก เป็นการศึกษาเชิงสังเกตแบบไปข้างหน้า (Prospective Observational Study)
ติดตามผู้ป่วยโรคน้ิวล็อกจานวน 60 คน มารับการรักษาท่ีโรงพยาบาลมะการักษ์และโรงพยาบาลพหลพล
พยุหเสนา ผู้ป่วยทุกคนจะได้รับการนวดโดยผู้ผ่านการอบรมฯ ร่วมกับน้ามันชันไพ เป็นเวลา 30 นาที/คร้ัง/สัปดาห์
(4 สัปดาห์) โดยหลงั การนวดแต่ละคร้ังผู้ป่วยจะได้รับน้ามันชนั ไพกลบั ไปคลึงเบาๆ เป็นระยะเวลา 5 นาที กอ่ น
นอนเป็นประจาทุกวัน วัดผลการรักษาโดยประเมินความรุนแรงตาม Stages of Stenosing Tenosynovitis
(SST 1-6) และระดับความเจ็บปวดด้วย Wong-Baker FACES® Pain Rating Scale ก่อนและหลังการนวด
แต่ละครั้ง (Session 1-4, before/after) รวมทั้งบันทึกอาการไม่พึงประสงค์ท่ีผู้ป่วยแจ้ง วิเคราะห์ข้อมูล
พื้นฐานด้วยสถิติเชิงพรรณนา เปรียบเทยี บผลการรักษาก่อนและหลังด้วย Student Paired t-test โครงการนี้
ได้ข้ึนทะเบียนและผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ของทั้ง 2 โรงพยาบาล (Thai
Clinical Trial Registration No. TCTR20170818002; IRB No. 1/60 และ 2017-18) ผลการศึกษาพบว่า
ผู้ป่วยมีอายุเฉล่ีย 53 ปี ร้อยละ 92 เป็นเพศหญิง ร้อยละ 23 เป็นท่ีน้ิวชี้มือขวา ร้อยละ 48,35,15 และ 2
มีระดับ SST ท่ีระดับ 2,3,4 และ 5 ตามลาดับ ร้อยละ 8,10,18,18,25,17,2และ2 มีระดับ FACES® ท่ีระดับ
1,2,3,4,5,6,7 และ 8 ตามลาดับ หลังการนวดร่วมกับน้ามันชันไพครบ 4 สัปดาห์ ผู้ป่วย 48 คน (ร้อยละ 80)
มีระดับความรุนแรงลดลง 2และ1 ระดับ ร้อยละ 23และ57 ตามลาดับ ผู้ป่วย 55 คน (ร้อยละ 92) มีระดับ
ความเจ็บปวดลดลง 8,7,6,5,4,3และ2 ระดับ ร้อยละ 3,5,3,25,22,28และ5 ตามลาดับ การรักษาโรคน้ิวล็อก
ด้วยการนวดร่วมกับน้ามันชันไพจึงช่วยลดระดับความรุนแรงและความเจ็บปวดของโรคนิ้วล็อกได้ โดยไม่พบ
อาการไมพ่ งึ ประสงคเ์ ลย

คาสาคญั : น้ามนั ชนั ไพ, นวิ้ ลอ็ ก, นวดสูตรนวิ้ ไกปืน (แบบราชสานกั )

แหล่งงบประมาณ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจดั สรร งบรายจ่ายประจาปี 2560 จานวน 35,000 บาท 47
รูปแบบการนาเสนอ โปสเตอร์ในงานประชมุ วชิ าการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย
ณ ศนู ย์การแสดงสนิ คา้ และการประชุมอมิ แพค็ เมอื งทองธานี ระหว่างวนั ท่ี 18-21 กรกฎาคม 2561

ตารับสมนุ ไพรอบเพ่อื รกั ษาอาการระบบทางเดินหายใจ: การทบทวนวรรณกรรมอยา่ งเป็นระบบ ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
Herbal Steaming Recipes for Respiratory Symptoms: A Systematic Scoping Review

วลยั โลหิตธาดา1, ฐติ มิ า โลหติ ธาดา2, จนั ทร์ปภสั ร์ เครอื แกว้ 3, กฤษณ์ พงศพ์ ิรุฬห์4, มณฑกา ธรี ชยั สกลุ 5
1โรงพยาบาลปะนาเระ,2มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช, 3มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์, 4คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์
มหาวิทยาลยั ,5สถาบันวจิ ยั การแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

บทคดั ยอ่

ศาสตร์การแพทย์แผนไทยมีการใช้สมุนไพรพื้นบ้านท่ีหาได้ในท้องถิ่นและมีสรรพคุณทางยามา
ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจด้วยวิธีการอบ แต่ยังไม่มีการสืบค้นและ
สังเคราะห์ตารบั สมนุ ไพรทม่ี อี ยอู่ ย่างเปน็ ระบบ

วัตถุประสงค์ เพื่อสบื คน้ และสังเคราะห์เอกสารงานวจิ ัยและวรรณกรรมท่เี ก่ยี วข้องกบั การอบสมุนไพร
ในการรกั ษาโรคระบบทางเดนิ หายใจตามศาสตรก์ ารแพทย์แผนไทย

วิธีการศกึ ษา เป็นการสืบค้นวรรณกรรมอย่างเป็นระบบแล้วสังเคราะห์เชิงพรรณนา โดยใชฐ้ านข้อมูล
Thailis ดว้ ยคาคน้ มาตรฐาน

ผลการศึกษา พบงานวิจัยท้ังหมด 1,760 เรื่อง แต่มีที่เก่ียวข้องกับการอบสมุนไพรเพ่ือการรักษาโรค
ระบบทางเดินหายใจ จานวน 5 เรื่อง ซ่ึงมีการกล่าวถึงตารับยา จานวน 5 ตารับ คือ ตารับที่ 1 (ชลดา จัด
ประกอบ รพ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม) ประกอบด้วยสมุนไพร 11 ชนิด ตารับที่ 2 (กัญจน์พร วงศ์พนารัตน์
และคณะ รพ.ท่าอุเทน จ.นครพนม) ประกอบด้วยสมุนไพร 11 ชนิด ตารับท่ี 3 (เจนจิรา คิดกล้า และคณะ ม.
อุบลราชธานี จ.อบุ ลราชธานี) ประกอบดว้ ยสมุนไพร 10 ชนิด ตารบั ที่ 4 (เพชรน้อย สงิ หช์ า่ งชัย และคณะ ม.
สงขลานครินทร์ จ.สงขลา) ประกอบด้วยสมุนไพร 10 ชนิด และ ตารับที่ 5 (กฤษณา ผาใต้ รพ.โพนนแก้ว จ.
สกลนคร) ประกอบด้วยสมุนไพร 8 ชนิด และสมุนไพรเพิ่มเติมที่สามารถรักษาโรคน้ี จากฐานข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ชนิด สรุป สมุนไพรจากท้ัง 5 ตารับมี 22 ชนิด และเพิ่มเติมอีก 4 ชนิด แยกประเภทตาม
สรรพคุณของสมุนไพรได้ 4 ประเภท คือ กลุ่มตัวยาหลักที่ใช้ในการรักษาและฆ่าเช้ือ โรคที่เก่ียวกับระบบ
ทางเดนิ หายใจ ไดแ้ ก่ ไพล ขมน้ิ ชัน ขา่ ตะไคร้ วา่ นน้า เปราะหอม หอมแดง ชะเอมเทศ เปลา้ ผักบ้งุ ขมน้ิ อ้อย
ขิง ส้มโอ กระวาน เหงือกปลาหมอ หนุมานประสานกาย ปีบ หนาด กลุ่มตัวยาช่วยท่ีมีรสเปรี้ยว รักษาระบบ
หายใจส่วนต้น กัดเสมหะ ละลายเสมหะ ขับเสมหะ ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจได้สะดวกขึ้น ได้แก่ มะขาม
มะกรูด ส้มป่อย กลุ่มยาแต่งรส แต่งกลิ่น บารุงธาตุ ปรับธาตุ บารุงหัวใจ แก้ดีพิการ แก้ร้อนใน ดับพิษร้อน
ได้แก่ เกลือ พิมเสน การบูร เตยหอม โกศจุฬาลัมพา กลุ่มตัวยาเสริมแก้อาการปวดเม่ือยกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อ
อกั เสบ ช่วยเพมิ่ การไหลเวียนเลือด ไดแ้ ก่ เถาวลั ยเ์ ปรยี ง เถาเอ็นอ่อน พลบั พลึง

สรุป ตารับสมุนไพรอบเพอ่ื รกั ษาอาการระบบทางเดนิ หายใจ มอี ย่างนอ้ ย 5 ตารับ ซึง่ สมควรได้รับการ
ทาการวิจัยต่อยอด เพอ่ื เปรยี บเทียบผลการ ด้วยการวัดผลทีเ่ ปน็ มาตรฐานตอ่ ไป

คาสาคญั : โรคระบบทางเดินหายใจ, การอบสมนุ ไพร, อบไอนา้ , สมนุ ไพร

แหลง่ งบประมาณ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื กจดั สรร งบรายจา่ ยประจาปี 2560 จานวน 35,000 บาท 48
รปู แบบการนาเสนอ โปสเตอร์ในงานประชมุ วิชาการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย
ณ ศนู ย์การแสดงสนิ คา้ และการประชมุ อมิ แพค็ เมอื งทองธานี ระหว่างวนั ที่ 18-21 กรกฎาคม 2561

การรักษาด้วยศาสตรม์ ณีเวชเพอ่ื ลดอาการปวด : การทบทวนงานวจิ ัยอย่างเปน็ ระบบ ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
Maneevej Therapy for Pain Reduction: A Systematic Scoping Review

อารยี า หวังดี1*,จนั ทร์ปภสั ร์ เครอื แก้ว,2 กฤษณ์ พงศพ์ ิรุฬห3์ , มณฑกา ธีรชยั สกุล4
1โรงพยาบาลหาดใหญ่, 2มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์, 3 คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั , 4สถาบันวิจัยการแพทย์
แผนไทยกรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก

บทคดั ย่อ

หลักการและเหตุผล มณีเวชเปน็ ศาสตรท์ ่ใี ชใ้ นการปรับโครงสรา้ งรา่ งกายเพ่อื ให้อยู่ในภาวะท่สี มดุล มี
การใช้รักษาอาการต่างๆ โดยเฉพาะอาการปวด ซึ่งมีการศึกษาวิจัยแต่ยังไม่มีการรวบรวม การศึกษานี้มี
วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่อื รวบรวมและสงั เคราะห์ผลงานวิจัยทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับศาสตร์มณีเวชเพ่อื ลดอาการปวด

วิธีการศึกษา สืบค้นผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในฐานข้อมูล PubMed, Science direct, Thai
Journal online, Journal of Health Science Reseach และ Google ด้วยคาค้น Maneevej, Maneeveda,
Maneeved, Maneevech, Maneevade, Maneewade, Manevej, Maneveda, Maneved, Manevech,
Manevade, มณี, มณีเวช, มณีเวด เอกสารฉบับเต็มของผลงานวิจัยท่ีสืบค้นได้ จะได้รับการวิเคราะห์ใน 4
ประเด็น คือ วธิ กี ารศึกษา ประเภทของอาการปวด รปู แบบการรกั ษา วิธกี ารวัดความปวด

ผลการศึกษา พบงานวิจัยที่เก่ียวกับข้องกับศาสตร์มณีเวชจานวน 11 เรื่อง ซ่ึงเก่ียวกับลดอาการปวด
9 เรื่อง การลดระยะเวลาในการรอคลอด 1 เรื่อง และการทรงตัว ความยดื หยนุ่ และความแข็งแรงของผูส้ ูงอายุ
1 เรื่อง งานวิจัยท้ังหมด เป็นแบบกึ่งทดลองมีผลลดอาการปวดกล้ามเน้ือ โดยใช้ท่าบริหารมณีเวช สามารถลด
ระดับอาการปวดกล้ามเน้ือได้ อย่างมีนยั สาคัญทางสถติ ิ 5 เรื่อง ผลลดอาการปวดขณะเจ็บคลอดโดยการนั่งท่า
ผีเส้ือแบบมณีเวช มีค่าคะแนนเฉลี่ยความปวดลดลงอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ 3 เร่ือง และผลลดอาการปวดใน
ภาวะการกดทับเส้นประสาทบรเิ วณข้อมือโดยใช้การจัดกระดูกแบบมณเี วช มคี า่ คะแนน BCTSQ scale ลดลง
1 เรือ่ ง

สรุป มกี ารศึกษาการใช้ศาสตร์มณีเวชเพ่ือลดอาการปวดจานวน 9 เร่อื ง จากทัง้ หมด 11 เร่ือง และ 5
เรอ่ื ง ทใี่ ช้ทา่ บรหิ ารมณเี วชเพ่อื ลดอาการปวดกลา้ มเนื้อได้

คาสาคัญ: มณีเวช, อาการปวด, การทบทวนงานวจิ ัยอย่างเปน็ ระบบ

แหล่งงบประมาณ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื กจดั สรร งบรายจ่ายประจาปี 2560 จานวน 35,000 บาท 49
รปู แบบการนาเสนอ โปสเตอร์ในงานประชมุ วชิ าการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย
ณ ศูนยก์ ารแสดงสินคา้ และการประชุมอมิ แพ็ค เมืองทองธานี ระหวา่ งวันท่ี 18-21 กรกฎาคม 2561

ผลของยาพอกเข่าสูตรย่านางในการลดอาการปวดขอ้ เขา่ เสอื่ ม ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
Efficacy of Ya Nang Poultice on Osteoarthritis Knee Pain

จรี ะศักดิ์ ทองรัก1*, สธุ ีธดิ า ทองรกั 2, ญาณิ เขตนมิ ิตร3, เพญ็ กาญจน์ กาญจนรตั น์4 ,กฤษณ์ พงศ์พริ ุฬห5์ , มณฑกา ธรี ชยั สกลุ 6
1สานักงานสาธารณสุขจงั หวัดเพชรบรู ณ์, 2สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี 2538 จังหวัด
เพชรบูรณ์,3 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลวังบาล จังหวัดเพชรบูรณ์,4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 5คณะแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั , 6 สถาบันวิจยั การแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก

บทคัดยอ่

โรคขอ้ เข่าเส่ือมเปน็ ปญั หาสุขภาพทพ่ี บบ่อยและสง่ ผลต่อคุณภาพชีวติ ของผปู้ ว่ ย มกี ารใชย้ าพอกรักษา
แต่ยังขาดข้อมูลด้านผลการรักษาด้วยยาพอกเข่าสูตรย่านาง จากคู่มือการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุท่ีมีภาวะโรค
ข้อเข่าเสื่อม รพ.สต.ต้นยวน

วิธีการศึกษา การวิจัยเชิงสังเกตแบบย้อนหลัง (Retrospective Observational Study) น้ีศึกษาผล
การใช้ยาพอกเข่าสูตรย่านางในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเส่ือมทั้งหมดท่ีได้รบั การวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อมจากแพทย์และ
ส่งต่อรับการรักษาที่คลินิกแพทย์แผนไทย ระหว่าง กรกฎาคม 2559 ถึง กุมภาพันธ์ 2560 ผู้ป่วยได้พอกยา
พอกเข่าสูตรย่านาง ประกอบด้วย ดินสอพองสะตุ 90 กรัมผสมน้าใบย่านาง 30 มิลลิกรัม ต่อเข่าหน่ึงข้าง
สัปดาห์ละ 1 ครั้งๆ ละ 30 นาที ติดต่อกัน 5 สัปดาห์ เก็บข้อมูลโดยทบทวนเวชระเบียนผู้ป่วย วัดระดับความ
ปวดด้วย Numeric Rating Scale (NRS) ก่อนและหลังพอก วัดความรุนแรงของอาการปวดเข่า ด้วย Oxford
Knee Score (OKS) ก่อนพอก คร้ังที่ 1, 3 และ 5 วิเคราะห์ผลการวิจัยด้วยสถิติ Student paired t-test
การศึกษาครง้ั น้ีขนึ้ ทะเบียนการวิจัยเลขท่ี TCTR No.TCTR20170817003 และได้รบั การรับรองจากกรรมการ
จริยธรรมการวจิ ัย เลขท่ี IRB No.สสจ.พช. 3/60 – 09 – 15/09/60

ผลการศึกษา ผู้ป่วยได้รับการพอกเข่า 50 คน ร้อยละ 72 อายุเฉล่ีย 58.0±6.8 ปี ร้อยละ 48 เพศ
หญิง ร้อยละ 38 ทาอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 36 มีค่า BMI อยู่ในเกณฑ์อ้วน ร้อยละ 62 แพทย์แผนไทย
วนิ จิ ฉยั ดว้ ยโรคลมจับโปงนา้ เข่า ผลการศกึ ษาพบว่า NRS ครงั้ ท่ี 5 (2.33±1.37) ลดลง 3.75±1.14 (p< 0.001)
เมื่อเทยี บกบั การพอกคร้ังที่ 1 (6.08±1.62) OKS ครัง้ ที่ 5 (31.58 ±3.99) เพม่ิ ขนึ้ 13.42±8.12 (p<.001) เม่ือ
เปรียบเทียบกับก่อนการพอกเข่าครั้งท่ี 1 (18.17 ±7.73) พบอาการไม่พึงประสงค์ 2 ราย (4%) โดยพบผื่น
แดงนูนบริเวณท่ีพอก หายหลังเชด็ ออก 10 นาที และมีอาการปวดมากข้ึนขณะพอก ปวดลดลงหลังเช็ดออก 5
นาที

สรุป ยาพอกเข่าสูตรย่านางมีผลต่อการลดความเจ็บปวดและความรุนแรงของอาการปวดเข่าในผู้ป่วย
โรคขอ้ เข่าเสอื่ ม พบอาการไมพ่ ึงประสงค์อยู่ในระดบั ต่า

คาสาคัญ: ยาพอกเขา่ สูตรยา่ นาง, ดนิ สอพองสะตุ, ผปู้ ่วยโรคขอ้ เขา่ เสอื่ ม

แหล่งงบประมาณ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื กจดั สรร งบรายจา่ ยประจาปี 2560 จานวน 35,000 บาท 50
รูปแบบการนาเสนอ โปสเตอร์ในงานประชมุ วิชาการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย
ณ ศูนย์การแสดงสนิ คา้ และการประชมุ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวนั ที่ 18-21 กรกฎาคม 2561

ผลของการนวดเพือ่ กระตุน้ นา้ นมในมารดาหลงั คลอดที่นา้ นมไม่ไหล: การศึกษายอ้ นหลงั แบบมี ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
กลุ่มควบคมุ
Efficacy of Breast Massage for Breast Milk Stimulation: A Case-Control Study

ธดิ ารัตน์ กนั ทาแจม่ 1*, อัจฉรา รกั ษ์วรรณวงศ์1, กฤตพร ศรแี ก้ว1, เพญ็ กาญจน์ กาญจนรตั น์2,พาณี ศริ ิสะอาด2, มณรี ตั น์
อนนั ตธ์ นวณิช2, กฤษณ์ พงศพ์ ิรุฬห์3, มณฑกา ธีรชยั สกุล4
1โรงพยาบาลนครพิงค์ จงั หวัดเชียงใหม่, 2มหาวิทยาลยั เชียงใหม,่ 3คณะแพทยศาสตร์จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , 4สถาบนั วิจยั
การแพทยแ์ ผนไทย กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก

บทคัดยอ่

การนวดเป็นวิธีการหนึ่งท่ีถูกนามาใช้เพ่ือลดปัญหามารดาไม่มีน้านมหลังคลอด ทว่าข้อมูลด้าน
ประสิทธิผลและอาการไม่พึงประสงค์ของการนวดเพ่ือกระตุ้นน้านมยังมีจากัด การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
เพ่อื ศึกษาผลของการนวดเพ่ือกระตุ้นน้านมและการไหลของนา้ นม ณ 48 ช่ัวโมงหลังคลอดในมารดาหลงั คลอด
ที่นา้ นมไมไ่ หล

วิธีการศึกษา เป็นการศึกษาย้อนหลังแบบมีกลุ่มควบคุม (Case-Control Study) จากแฟ้มประวัติ
มารดาท่ีเข้ารับบริการคลอด ระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม พ.ศ.2559 ท่ีมีภาวะน้านมไม่ไหล
หลงั คลอด (การไหลของน้านม ระดับ 0) และอยู่ รพ. อย่างนอ้ ย 2 วัน แบ่งเปน็ กลมุ่ ทไ่ี ดร้ ับการนวดเพอ่ื กระตุ้น
น้านมประยุกต์การนวดราชสานักกับการนวดกดจุดน้านมมิไหลของตาราวัดโพธิ์โดยได้รับการนวดเต้านม
อย่างน้อย 1 คร้ัง คร้ังละ 25 นาที วันละครั้ง และกลุ่มเปรียบเทียบท่ีไม่ได้รับการนวดกระตุ้นน้านม วัดระดับ
การไหลของน้านม (การไหลของน้านม ระดับ ≥1 หรือไม่ไหล) ณ 24 และ 48 ชั่วโมงหลังคลอด วิเคราะห์
ความสัมพันธ์ด้วย Odds Ratio (OR) ควบคุมด้วยปัจจัยน้าหนักแรกคลอดบุตร ลาดับการตั้งครรภ์ และชนิด
การคลอด การวจิ ยั นี้ไดร้ ับการรับรองจากกรรมการจริยธรรมการวิจัย เลขที่ ชม.0032.202/05

ผลการศึกษา มารดาหลังคลอดที่น้านมไม่ไหลจานวน 306 ได้รับการนวด 170 คน ไม่ได้รับการนวด
136 คน ลักษณะทางประชากรและชนิดการคลอดไม่แตกต่างกันระหวา่ งกลุ่มทไ่ี ด้รับการนวดและกลุ่มควบคมุ
กลุ่มท่ีได้รับการนวด 143 คน (ร้อยละ 84.12) มีน้านมไหลภายใน 24 ช่ัวโมง ส่วนกลุ่มควบคุมไม่มีน้านมไหล
ภายใน 24 ชั่วโมง กลุ่มท่ีได้รับการนวด 168 คน (ร้อยละ 98.82) และกลุ่มควบคุม 15 คน (ร้อยละ 11.03) มี
น้านมไหลภายใน 48 ช่ัวโมง พบความสัมพันธ์ระหวา่ งการนวดเพ่ือกระตุ้นน้านมกับการไหลของน้านม อย่างมี
นัยสาคญั ทางสถติ ิ adjusted OR 6.13, 95% CI [4.95, 7.86] ไมพ่ บอาการไม่พึงประสงค์ระหวา่ งการนวด

สรุป การนวดช่วยกระตุ้นการไหลของน้านมได้ภายใน 24 และ 48 ช่ัวโมง นอกจากน้ียังเพิ่มโอกาส
การไหลของนา้ นมได้ 6.13 เทา่ เมือ่ เทียบกบั กลมุ่ ทไ่ี ม่ไดร้ บั การนวด

คาสาคญั : มารดาหลงั คลอด, นา้ นม, การนวด

แหล่งงบประมาณ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื กจดั สรร งบรายจ่ายประจาปี 2560 จานวน 35,000 บาท 51
รปู แบบการนาเสนอ โปสเตอร์ในงานประชมุ วิชาการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย
ณ ศูนยก์ ารแสดงสนิ ค้าและการประชมุ อิมแพ็ค เมอื งทองธานี ระหว่างวันที่ 18-21 กรกฎาคม 2561

ตารบั ยาสมุนไพรในโรคไตเสือ่ ม (ปหิ กงั พกิ าร) ในตาราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รชั กาลที่ 5 ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
Herbal Recipe for Chronic Kidney Disease (Pi-Ha-Gung-Pi-Karn) from the Thai
King Rama V Medicinal Textbook

มนัชยา มรรคอนันโชติ (พย.บ.)1*, ฉัตรฤทัย น้อยกมล (ส.ม.)2, สหัทยา อินทะวัง(พท.บ.)3, ณัฐกิตติ์ พงศ์ไกรสิทธ์ิ (พท.บ.)4,
ศิรลิ กั ษณ์ เผา่ แสง(พท.บ.)5
1โรงพยาบาลแม่ลาว, 2สานกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั เชียงราย, 3โรงพยาบาลเวียงปา่ เป้า, 4โรงพยาบาลสมเดจ็ พระยุพราชเชยี งของ,
5โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตาบลเวยี งเชียงแสน

บทคดั ย่อ

หลักการและเหตุผล คนไทยในอดีตมีองค์ความรู้และภูมิปัญญาในการรักษา ส่งเสริม ป้องกัน และ
ฟ้ืนฟูโรคไตเส่ือม แต่การศึกษาตารับยาสมุนไพรรักษาโรคไตเสื่อมยังมีน้อย ดังน้ันการศึกษาครั้งนี้จึงมี
วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาตารับยาสมุนไพรในโรคไตเสื่อม (ปิหกังพิการ) จากตาราเวชศาสตร์ฉบับหลวงรัชกาลที่
5 และนาผลการศึกษาทไ่ี ด้มาเป็นแนวทางในการพฒั นาตารบั ยาสมุนไพรรักษาโรคไตต่อไป

วิธีการศึกษา ศึกษาและวิเคราะห์องค์ความรู้ด้านการรักษาโรคไตท่ีปรากฎในตาราเวชศาสตร์ฉบับ
หลวง รัชกาลท่ี 5 เล่มท่ี 1 และ 2 ทมี่ กี ารกล่าวถึงโรคไตเสื่อม (ปหิ กังพิการ) ลักษณะของน้าปสั สาวะท่บี ่งบอก
ถึงอาการของโรคและการใช้ยาในการรักษาตามท่ีปรากฎในตารา ตามหลักการวินิจฉัยและรักษาโรคขององค์
ความรดู้ ้ังเดิมดา้ นการแพทย์แผนไทย

ผลการศึกษา จากตาราเวชศาสตร์ฉบับหลวงรัชกาลท่ี 5 เล่มที่ 1 และ 2 มีการกล่าวถึงโรคไตเส่ือม
(ปิหกังพกิ าร) ท่บี ่งบอกถึงอาการของโรคไต 3 คมั ภีร์ ได้แก่ คมั ภรี ์มจุ ฉาปกั ขนั ตกิ า คมั ภรี ์โรคนิทาน และคมั ภีร์
ธาตุวภิ ังค์ พบว่าการรักษาโดยการใช้ยาสมุนไพรตามทีป่ รากฎในตารา ทง้ั หมด 13 ตารับ อยใู่ นคมั ภีรม์ จุ ฉาปัก-
ขันติกา 11 ตารับ คัมภีร์โรคนิทาน 1 ตารับ และคัมภีร์ธาตุวิภังค์ 1 ตารับ มีสมุนไพรในแต่ละตารับที่พบมาก
ที่สุดคือ หัวแห้วหมู ขิงแห้ง 7 ตารับ, เทียนดา 6 ตารับ และ การบูร โกฐสอ เจตมูลเพลิงแดง บอระเพ็ด 4
ตารับ, เกลือสินเธาว์ ขม้ินอ้อย ดีปลี น้าประสานทอง ผลเอ็น รากพันงูแดง พิมเสน ไพล รากมะตูม สารส้ม 3
ตารับ

สรุป มีการกล่าวถึงตารับยาสมุนไพรสาหรับโรคไตในตาราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลท่ี 5 เล่มท่ี 1
และ 2 โดยพบตัวยาสมุนไพรหลักทใี่ ช้มากสุด คือ หัวแหว้ หมูและขงิ แห้ง ตัวยารอง ไดแ้ ก่ เทียนดาการบูร โกฐ
สอ เจตมูลเพลงิ แดง และบอระเพด็ ควรมีการศกึ ษาและนาตารบั ยาดังกลา่ วไปพัฒนาต่อ

คาสาคญั : โรคไตเสื่อม, ปิหกงั พกิ าร, ตาราเวชศาสตรฉ์ บบั หลวงรชั กาลที่ 5, ตารับยา

แหล่งงบประมาณ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจดั สรร งบรายจ่ายประจาปี 2560 จานวน 35,000 บาท 52
รปู แบบการนาเสนอ โปสเตอร์ในงานประชมุ วิชาการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย
ณ ศนู ยก์ ารแสดงสินคา้ และการประชมุ อิมแพค็ เมืองทองธานี ระหว่างวันท่ี 18-21 กรกฎาคม 2561

ผลของการนวดไทยต่อความแข็งเกร็งในเด็กสมองพิการ อายุ 2-6 ปี ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561

ชนานาถ เนรัญชร1, วฑิ รู ย์ โลส่ ุนทร2, อานนท์ วรยง่ิ ยง2, มณฑกา ธีรชยั สกลุ 3, กาญจนา คูณรังษีสมบูรณ์1,ณฐั รีน ไชยวังราช1,
ภัทรวรรณ รังรงทอง1, วราภรณ์ คารศ2 ,จิตตศิ ักด์ิ พูนศรีสวสั ดิ์3
1สถาบนั พฒั นาการเดก็ ราชนครนิ ทร์ จ.เชียงใหม่,
2ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 3สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทย
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก

บทคดั ย่อ

หลักการและเหตุผล สมองพกิ ารเป็นความผดิ ปกติของการพฒั นาระบบประสาทซ่ึงเกิดขึ้นตงั้ แต่อยู่ใน
ครรภ์ถึงช่วงวัยเด็กตอนต้นและยังคงมีต่อไปตลอดชีวิต ซ่ึงอาการเกร็งเป็นอาการร่วมที่พบบ่อยท่ีสุดของเด็ก
สมองพิการ คิดเป็นร้อยละ 50- 75 ของท้ังหมด สาเหตุเกิดจากสมองส่วน Motor Cortex ถูกทาลาย ทาให้
กล้ามเน้ือแข็งเกร็ง เคล่ือนไหวยาก ปัจจุบันมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการนวดไทยสามารถลดความแข็งเกร็ง
ของกลา้ มเนือ้ และทาใหก้ ล้ามเนอื้ ผ่อนคลายได้ ทว่ายังไมม่ ีการศึกษาวจิ ัยในกลุ่มเด็กสมองพิการอายุ 2-6 ปี

วัตถปุ ระสงค์ เพ่อื ศกึ ษาผลของการนวดไทยต่อความแข็งเกร็งในเดก็ สมองพกิ าร อายุ 2-6 ปี
วิธีดาเนินการ เป็นการศึกษาเชิงทดลองแบบสุ่มมีกลุ่มควบคุมและปกปิดผู้ประเมิน (Single blind
randomized controlled trial) กลุ่มตัวอย่างที่ใชใ้ นการเข้าร่วมงานวจิ ยั เป็นเด็กสมองพิการ จานวน 46 ราย
(อายรุ ะหวา่ ง 2 ถงึ 6 ป)ี โดยแบง่ เปน็ 2 กลมุ่ ดว้ ยวธิ กี ารสุ่มอยา่ งง่าย คอื กลมุ่ ทดลองจานวน 22 ราย และกลมุ่
ควบคุมจานวน 24 ราย ประเมินระดับความแข็งเกร็งด้วย Modified Ashworth Scale (MAS) ก่อนและหลัง
การทดลองทันที โดยกลุ่มทดลองได้รับการรักษาตามมาตรฐานร่วมกับการนวดไทยแบบราชสานักจานวน 15
ท่า เป็นเวลา 30 นาที และกลุ่มควบคุมได้รับการรักษามาตรฐานร่วมกับการนอนพักเป็นระยะเวลา 30 นาที
วิเคราะห์ทางสถิติด้วยค่าความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ไคสแควร์ และ Fisher’s exact
Tests
ผลการศึกษา กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีลักษณะพื้นฐานอาทิ เพศ อายุ ระดับความรุนแรงของ
ความสามารถด้านการเคล่ือนไหวและระดับความแข็งเกรง็ ไม่แตกต่างกัน ภายหลังการทดลองระดับความแข็ง
เกร็งของกล้ามเนื้อ Hip Adductor, Quadriceps และ Soleus เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่ม
ควบคุม ลดลงแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (P =<0.05) ทว่าการลดลงของระดับความแข็งเกร็ง
กลา้ มเนอื้ Hamstring เปรียบเทยี บระหว่างกลมุ่ ทดลองและกลมุ่ ควบคุมไม่มีความแตกตา่ งกนั
ข้อสรุป การนวดไทยแบบราชสานักจานวน 15 ท่า สามารถลดความแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อในผู้ป่วย
เด็กสมองพิการอายุระหว่าง 2 ถึง 6 ปีได้ โดยกล้ามเนื้อที่สามารถลดความเกร็งได้ชัดเจนคือ Hip Adductor,
Quadriceps และ Soleus ดังนั้นการวิจัยครั้งต่อไปควรเพิ่มขนาดประชากรและเพิ่มเวลาการเก็บข้อมูลให้มี
การนวดไทยต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานข้ึน ทั้งนี้เพื่อยืนยันประโยชน์ท่ีแท้จริงของการนวดไทยในเด็กสมอง
พิการและการนาไปใช้ประโยชน์อยา่ งครอบคลุม

คาสาคัญ นวดไทย, ความแขง็ เกร็งในสมองพิการ, เด็กอายุ 2-6 ปี

แหลง่ งบประมาณ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือกจดั สรร งบรายจา่ ยประจาปี 2560 จานวน 35,000 บาท 44
รูปแบบการนาเสนอ โปสเตอร์ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาตคิ รง้ั ที่ 14 เสน่ไทย สมุนไพรไทย 4.0 ณ ศูนยก์ ารแสดงสินค้า
และการประชุมอมิ แพค็ เมอื งทองธานี ระหวา่ งวนั ท่ี 30 สงิ หาคม – 3 กันยายน 2560

งานวจิ ัยรอการเผยแพร่/นาเสนอ
ปงี บประมาณ 2552 - 2561

งานวจิ ยั ท่รี อการเผยแพร่/นาเสนอ ปงี บประมาณ 2552 -2561

ลาดับ ช่ือเรอื่ ง หน่วยงานที่รับผดิ ชอบ
ท่ี
สถาบนั วจิ ัยการแพทยแ์ ผนไทย
กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก(2) สถาบันการแพทย์แผนไทย
กองการแพทย์พน้ื บ้านไทย
1 การประเมินความปลอดภัยและผลขอตารับยาเหลืองสุราษฏร์ กองการแพทย์พ้ืนบา้ นไทย
(ยาเหลอื งนรินทร์) กองการแพทย์พน้ื บา้ นไทย
กองการแพทย์พื้นบ้านไทย
2 โครงการวจิ ยั และพัฒนายาจากสมุนไพรเพื่อเพิม่ รายการยาใน กองการแพทย์พื้นบา้ นไทย
บัญชียาหลกั แหง่ ชาติ กองการแพทย์พื้นบ้านไทย
สถาบันการแพทยแ์ ผนไทย
3 โครงการศึกษาและสังเคราะห์ภมู ิปัญญาการแพทย์พ้นื บ้านใน กองการแพทย์พื้นบา้ นไทย
การรักษาอัมพฤกษ์ อัมพาต สถาบนั การแพทย์ไทย - จีน
สถาบันการแพทย์แผนไทย
4 ศกึ ษาและรวบรวมภมู ปิ ญั ญาการแพทย์พืน้ บ้านดา้ นการดแู ล
หญงิ หลังคลอด

5 โครงการศึกษาและพัฒนาการใช้ภูมปิ ญั ญาของหมอพ้ืนบา้ นใน ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
การรักษาผ้ปู ่วยมะเร็ง

6 การศึกษาภมู ปิ ญั ญาการแพทย์พนื้ บา้ นเพื่อการดแู ลสุขภาพ
ผู้สูงอายุ

7 โครงการศึกษาและพฒั นาภมู ิปญั ญานวดพน้ื บ้านไทยในการ
ผสมผสานเข้าส่สู ถานบริการสาธารณสขุ ของรฐั

8 โครงการศึกษาและพฒั นาระบบการดแู ลสุขภาพในชมุ ชนตามภูมิ
ปัญญาของหมอพนื้ บ้าน

9 การวิจัยและพัฒนาข้อกาหนดทางเภสชั เวทของสมนุ ไพรไทย

10 โครงการศึกษาและพัฒนารปู แบบการรับรองสถานภาพหมอ
พ้ืนบ้านระดับท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วม

11 โครงการจัดทามาตรฐานคณุ ภาพของสมนุ ไพรจีนที่ใช้บ่อยใน
ประเทศไทย

12 การวจิ ัยและพฒั นาภมู ิปัญญาไทยในการรกั ษาผู้ป่วยโรคเรอ้ื รังท่ี
เปน็ ปัญหาสาธารณสุข

55

ลาดบั ชื่อเรอ่ื ง หน่วยงานท่รี บั ผดิ ชอบ
ท่ี

13 โครงการวจิ ยั เหด็ หลินจือและสปอร์เหด็ หลนิ จือในประเทศไทย สถาบนั การแพทย์ไทย - จีน

14 การศกึ ษาชุมชนตน้ แบบในการดูแลบาบดั รักษาผู้ติดยาเสพตดิ สถาบันการแพทยแ์ ผนไทย
ด้วยภมู ปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย ในประเทศไทย

15 การศกึ ษาประสทิ ธผิ ลและความปลอดภยั ของตารบั ยาไทย (ยา สถาบันการแพทยแ์ ผนไทย ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
ประสะไพล) ในการลดอาการปวดประจาเดอื น สถาบันการแพทยแ์ ผนไทย

16 การทดสอบความเปน็ พษิ ของตารับยาไทยทใี่ ชใ้ นการบาบัดผูต้ ิด โรงพยาบาลสมุทรสาคร
ยาเสพตดิ สานกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั

เครอื ข่ายนกั วจิ ยั ภูมิภาค สมทุ รสงคราม
โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตาบล
17 พฤติกรรมการสง่ั จ่ายยาปราบชมพทู วปี เพื่อลดอาการภมู แิ พ้
ทางเดินหายใจส่วนต้นโรงพยาบาลสมทุ รสาคร บ้านบางผึง้ จังหวดั กระบี่
โรงพยาบาลกระบ่ี
18 ความสัมพนั ธ์ระหว่างพ้นื ท่ปี ลูกตน้ มะนาวโหก่ บั บา้ นของผู้ป่วย โรงพยาบาลตรัง
โรคเบาหวาน: การวเิ คราะห์เชงิ พื้นทีโ่ ดยใชก้ ารสารวจข้อมูล
พน้ื ฐานของชมุ ชน

19 ตารับยาสมุนไพรลดความอว้ นในตาราการแพทย์แผนไทย: การ
ทบทวนเอกสาร

20 ความสัมพันธร์ ะหวา่ งธาตุเจ้าเรอื นกบั ระดบั ไขมนั ในเลือด: การ
สารวจแบบภาคตัดขวาง

21 โรคหลอดเลอื ดสมองกับการฝังเข็ม: การศึกษาย้อนหลงั ท่ี
โรงพยาบาลตรัง

(2) ท่ีมา: ระบบบริหารจัดการงานวิจัยแห่งชาติ (National Research Management System : NRMS). รายงาน
ภาพรวมสถานภาพโครงการที่ได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2561 ถึง ปีปัจจุบันของ Ongoing [ออนไลน์]: เข้าถึงได้
จาก www.nrms.go.th/Report/Report_Special_SummaryForDepartmentOnStatusAll.aspx [สืบค้นเม่ือ
วนั ที่ 29 มิถนุ ายน 2561]

56

งานวจิ ัยอยูร่ ะหวา่ งการศกึ ษาวจิ ยั
ปงี บประมาณ 2552 - 2561

งานวจิ ยั ทอ่ี ยู่ระหวา่ งดาเนินการศึกษาวิจัย ปีงบประมาณ 2552 -2561

ลาดบั ชอ่ื เร่ือง หน่วยงานท่ีรับผิดชอบ
ท่ี

กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก(2)

1 โครงการศึกษาประสิทธิผลของนวดไทยเพ่ือการบรู ณาการร่วม สถาบนั วจิ ัยการแพทย์แผนไทย
ฟื้นฟผู ู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในระบบบรกิ ารสาธารณสุข

2 การวิเคราะห์ ทัศนคติ ความรู้ และการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร สถาบันวิจยั การแพทยแ์ ผนไทย
และการแพทย์แผนไทยในกลุ่มบุคลากรสาธารณสุข: การสารวจ
ระดับประเทศและการจัดทาฐานขอ้ มลู

3 โครงการพัฒนาภาคีเครือข่ายนักวจิ ยั ด้านการแพทยแ์ ผนไทยและ สถาบันวิจยั การแพทยแ์ ผนไทย
การแพทย์ทางเลือก

4 โครงการศึกษาและพฒั นาคุณภาพกระบวนการปรงุ ยาสมุนไพร กองการแพทย์พ้ืนบ้านไทย
ในชมุ ชนตามภูมิปัญญาหมอพ้ืนบา้ น 4 ภาค

5 โครงการเฝ้าระวงั ความปลอดภัยในการใช้ยาจากสมนุ ไพรของผู้ สถาบนั การแพทย์แผนไทย ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
มารบั บรกิ ารในสถานบรกิ ารสาธารณสขุ ของรฐั เพ่ือเสนอเขา้ บัญชี

ยาหลักแห่งชาติ.

6 การศึกษาและพฒั นารปู แบบการดแู ลผู้มอี าการปวดเข่าจากการ สานกั การแพทย์ทางเลือก
บาดเจ็บทเี่ ข่าและข้อเขา่ เสื่อมดว้ ยการแพทย์ผสมผสานและ

การแพทย์ทางเลือก

7 ศึกษาสถานการณแ์ ละปัญหาการรักษาผู้ปว่ ยมะเรง็ ด้วย โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย
การแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ผสมผสาน

8 การพัฒนารูปแบบการใหบ้ ริการรักษาและฟื้นฟูสขุ ภาพ ผู้ป่วย โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย
โรคหลอดเลอื ดสมองด้วยการแพทยแ์ ผนไทย ในโรงพยาบาล และการแพทย์ผสมผสาน
การแพทย์แผนไทย

9 โครงการศึกษาและพฒั นาศักยภาพผ้ดู แู ล (caregiver) ผสู้ ูงอายุ กองการแพทย์พนื้ บ้านไทย
ดว้ ยภมู ปิ ญั ญาการแพทย์พ้ืนบ้านในชมุ ชน

10 โครงการศึกษาและพฒั นาหลักสูตรพืน้ ฐานสาหรับหมอพื้นบ้าน กองการแพทย์พ้นื บ้านไทย
ในการรักษาผ้ปู ว่ ยกระดูกหกั เพ่อื เสริมสร้างคุณภาพชวี ิตและลด

ความพิการผ้มู ารบั บรกิ ารในชมุ ชน

55

ลาดบั ชอ่ื เรอื่ ง หนว่ ยงานที่รบั ผดิ ชอบ
ท่ี

11 โครงการวจิ ยั การประเมนิ ทางคลินกิ และเศรษฐศาสตร์ของการ สถาบันการแพทย์ไทย-จนี
ฝงั เข็มเพื่อรักษาไมเกรน : การศึกษาพหุสถาบนั

12 การศกึ ษาประสทิ ธิผลและความปลอดภัยของตารับยาไทยในการ สถาบันวิจัยการแพทยแ์ ผนไทย
เพ่ิมภูมิคุ้มกันของผปู้ ่วย HIV

13 โครงการวิจัยประสทิ ธผิ ลของยาโฮมีโอพาธียต์ ารบั ยูพาโทเรียม สานักการแพทย์ทางเลอื ก
เพอร์ฟอเลยี ทมุ 200 ซซี ี ในการควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก

14 โครงการพฒั นารูปแบบการดูแลผตู้ ดิ สารเสพตดิ ด้วยการแพทย์ สานักการแพทย์ทางเลือก
ผสมผสาน (โรงพยาบาลธัญญารกั ษ)์

15 โครงการศึกษาความเปน็ ไปได้ในการจดั ตัง้ สถาบันพฒั นา สานกั งานคณะกรรมการนโยบาย
นวัตกรรมสมนุ ไพรแหง่ ชาติ สมนุ ไพรแห่งชาติ

16 โครงการศึกษาเพ่ือจัดทาดัชนีชี้วัดขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั สานักงานคณะกรรมการนโยบาย

ด้านสมนุ ไพร สมนุ ไพรแห่งชาติ

17 โครงการจดั การความรู้เภสัชกรรมไทย เพอ่ื สนับสนนุ ระบบ สถาบนั การแพทยแ์ ผนไทย ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561
บริการ การข้ึนทะเบยี นยาและการเรยี นการสอน การแพทยแ์ ผน
ไทย ปงี บประมาณ 2560

18 โครงการพฒั นาศกั ยภาพการศึกษาวจิ ัยในคนดา้ นการแพทย์แผน สถาบนั การแพทย์แผนไทย
ไทยและการแพทย์ทางเลือก ปี 2560 สถาบันการแพทย์แผนไทย

19 โครงการพัฒนาการจดั การความรเู้ พ่ือสง่ เสริมศักยภาพบุคลากรสู่
การเรยี นร้อู ย่างต่อเนื่องปงี บประมาณ 2560

20 การศึกษาประสิทธผิ ลและความปลอดภยั ของสารสกดั ฟ้า สถาบันวจิ ยั การแพทยแ์ ผนไทย
ทะลายโจรในการรักษาการติดเชอื้ ในระบบทางเดินหายใจ
ส่วนบนแบบเฉียบพลนั และไม่จาเพาะ: การศกึ ษาแบบ

randomized double-blind placebo controlled

21 ปรกึ ษาศึกษาประสทิ ธแิ ละความปลอดภัยของขมน้ิ ชนั ในการใช้ สถาบันวิจยั การแพทยแ์ ผนไทย
เป็นการรกั ษาอันดับแรกในกลมุ่ อาการผิดปกตขิ องระบบทางเดนิ
อาหาร Dyspepsia

22 โครงการวจิ ยั สารสกัดไพลสูก่ ารใช้เป็นยารักษาลาดบั แรกในการ สถาบนั วิจัยการแพทยแ์ ผนไทย
รักษาผู้ปว่ ยโรคข้อเขา่ เสื่อม (ระยะท่ี 1)

23 โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ สถาบันการแพทย์แผนไทย

56

ลาดบั ชื่อเรอ่ื ง หนว่ ยงานทีร่ ับผิดชอบ
ที่

24 โครงการศึกษาและพฒั นาภมู ิปญั ญานวดพื้นบ้านไทยในการ กองการแพทย์พ้ืนบา้ นไทย

ผสมผสานเข้าสสู่ ถานบริการสาธารณสขุ ของรฐั

25 การพัฒนารูปแบบการดูแลรักษาโรคอัมพฤกษ์ อมั พาต สาหรับ กองการแพทย์พื้นบ้านไทย

ผ้ปู ว่ ยตดิ บา้ นติดเตียงในชุมชนด้วยภูมิปญั ญาหมอพืน้ บา้ น

26 การวจิ ัยการแพทยแ์ ผนไทยในการลดภาวะเสยี่ งสารเคมีกาจดั สถาบันวจิ ยั การแพทยแ์ ผนไทย

ศตั รูพืช

27 การลดภาวะซมึ เศรา้ ในผสู้ ูงอายุทมี่ ีภาวะซึมเศร้าดว้ ยสยาม สานักการแพทย์ทางเลอื ก

หัวเราะ

28 ประสทิ ธิผลและความปลอดภัยของการนวดไทยแบบราชสานัก สถาบันวจิ ัยการแพทย์แผนไทย

เพ่อื ลดชาท่เี ท้าในผปู้ ว่ ยเบาหวานชนดิ ท่ี 2

29 ประสทิ ธิผลเบื้องตน้ ของการนวดไทยราชสานกั ในการฟ้นื ฟูสภาพ สถาบันวิจัยการแพทยแ์ ผนไทย

ผปู้ ว่ ยอมั พาตครึ่งซีก

30 การศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของตารบั ยาวสิ ัมพยา สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทย

ใหญ่ในการรักษาโรคกรดไหลยอ้ น

31 ประสทิ ธิผลและความปลอดภัยของตารบั ยารักษาโรคตบั แข็ง สถาบนั วิจยั การแพทย์แผนไทย

ระยะท่ี 2

32 การศึกษาสถานการณ์การบริหารจดั การอนุรักษ์ คุ้มครองและ กองคุ้มครองภูมิปญั ญาการแพทย์ ผลงานวิจัย 10 ีป กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเ ืลอก ีปงบประมาณ 2552 - 2561

เฝ้าระวงั ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและทรัพยากรความ แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน

หลากหลายทางชีวภาพ เพ่ือการเข้าถงึ และใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ ง ไทย

เหมาะสม ภายใต้กรอบประชาคมอาเซยี นและพันธกรณรี ะหวา่ ง

ประเทศ

33 ความปลอดภยั ของสารสกดั กะทกรกในอาสาสมัครสุขภาพดี สถาบันวิจยั การแพทย์แผนไทย

34 โครงการศึกษาและพฒั นาภูมิปัญญาการแพทย์พน้ื บ้านรักษาพษิ กองการแพทย์พืน้ บ้านไทย
แมลงสัตว์กัดต่อย สถาบนั วิจยั การแพทย์แผนไทย

35 การศกึ ษาประสทิ ธผิ ลและความปลอดภัยของตารับยาแกม้ ะเร็ง สานกั การแพทย์ทางเลอื ก
(ฝมี ะเร็งทรวง) ในผูป้ ว่ ยมะเร็งปอด ระยะท่ี 1

36 ประสิทธผิ ลของการฝงั เข็มในการรักษาผปู้ ว่ ยโรคไตเร้อื รงั

37 โครงการศึกษาและรวบรวมภมู ิปญั ญาการแพทย์พ้นื บ้านดา้ นการ กองการแพทย์พืน้ บ้านไทย
ดูแลหญงิ หลังคลอด

(2) ท่มี า: ระบบบริหารจัดการงานวจิ ยั แหง่ ชาติ (National Research Management System : NRMS).
รายงานภาพรวมสถานภาพโครงการทไี่ ดร้ ับจัดสรรงบประมาณปี 2561 ถึง ปปี จั จุบนั ของ Ongoing [ออนไลน]์ :
สืบค้นจาก www.nrms.go.th/Report/Report_Special_SummaryForDepartmentOnStatusAll.aspx
[29 มถิ นุ ายน 2561]

57


Click to View FlipBook Version