The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาษาคอมพิวเตอร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jim.m ch, 2019-09-09 04:44:57

ภาษาคอมพิวเตอร์

ภาษาคอมพิวเตอร์

ภาษาคอมพวิ เตอร์

1 ภาษาเครื่อง (Machine Language)
การ เขียนโปรแกรมเพ่ือสงั่ ใหค้ อมพิวเตอร์ทาํ งานในยคุ แรก ๆ จะตอ้ งเขียนดว้ ยภาษาซ่ึงเป็นท่ียอมรับของ
เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ท่ีเรียกว่า “ภาษาเครื่อง” ภาษาน้ีประกอบดว้ ยตวั เลขลว้ น ทาํ ใหเ้ ครื่องคอมพวิ เตอร์
สามารถทาํ งานไดท้ นั ที ผทู้ ี่จะเขียนโปรแกรมภาษาเคร่ืองได้ ตอ้ งสามารถจาํ รหสั แทนคาํ สงั่ ต่าง ๆ ได้ และ
ในการคาํ นวณตอ้ งสามารถจาํ ไดว้ า่ จาํ นวนต่าง ๆ ท่ีใชใ้ นการคาํ นวณน้นั ถกู เก็บไวท้ ่ีตาํ แหน่งใด ดงั น้นั
โอกาสที่จะเกิดความผดิ พลาดในการเขียนโปรแกรมจึงมมี าก นอกจากน้ีเครื่องคอมพวิ เตอร์แต่ละระบบมี
ภาษาเคร่ืองที่แตกต่างกนั ออก ทาํ ใหเ้ กิดความไม่สะดวกเมอ่ื มกี ารเปล่ียนเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เพราะจะตอ้ ง
เขียน โปรแกรมใหมท่ ้งั หมด

2 ภาษาระดบั ตา่ํ (Low Level Language)

เน่ือง จากภาษาเคร่ืองเป็นภาษาท่ีมคี วามยงุ่ ยากในการเขียนดงั ไดก้ ล่าวมาแลว้ จึงไมม่ ผี นู้ ิยมและมกี ารใชน้ อ้ ย
ดงั น้นั ไดม้ กี ารพฒั นาภาษาคอมพวิ เตอร์ข้ึนอีกระดบั หน่ึง โดยการใชต้ วั อกั ษรภาษาองั กฤษเป็นรหสั แทนการ
ทาํ งาน การใชแ้ ละการต้งั ชื่อตวั แปรแทนตาํ แหน่งที่ใชเ้ กบ็ จาํ นวนต่าง ๆ ซ่ึงเป็นค่าของตวั แปรน้นั ๆ การใช้
สญั ลกั ษณ์ชว่ ยใหก้ ารเขียนโปรแกรมน้ีเรียกว่า “ภาษาระดบั ต่าํ ”ภาษาระดบั ต่าเป็นภาษาท่ีมคี วามหมาย
ใกลเ้ คียงกบั ภาษาเครื่อง มากบางคร้ังจึงเรียกภาษาน้ีว่า “ภาษาอิงเครื่อง” (Machine – Oriented Language)
ตวั อยา่ งของภาษาระดบั ต่าํ ไดแ้ ก่ ภาษาแอสเซมบลี เป็นภาษาท่ีใชค้ าํ ในอกั ษรภาษาองั กฤษเป็นคาํ สง่ั ให้
เครื่องทาํ งาน เช่น ADD หมายถงึ บวก SUB หมายถงึ ลบ เป็นตน้ การใชค้ าํ เหล่าน้ีช่วยใหก้ ารเขียนโปรแกรม
ง่ายข้ึนกว่าการใชภ้ าษาเครื่องซ่ึง เป็นตวั เลขลว้ น ดงั ตารางแสดงตวั อยา่ งของภาษาระดบั ต่าํ และภาษาเคร่ืองที่
สง่ั ใหม้ ีการบวกจาํ นวน ท่ีเก็บอยใู่ นหน่วยความจาํ

ตารางที่ 5.1 แสดงความสมั พนั ธข์ องคาํ สง่ั ในภาษาระดบั ตา่ํ และภาษาเครื่อง
ภาษาระดบั ต่าํ ภาษาเคร่ือง รหสั เลขฐานสิบหก
MOV AL,05 10110000 00000101 B0 05
MOV BL,08 10110011 00001000 B3 08
ADD AL,BL 00000000 11011000 00 D8
MOV CL,AL 10001000 11000001 88 C1
จาก ตารางบรรทดั แรก 10110000 00000101 เป็นคาํ สงั่ ใหน้ าํ จาํ นวน 5 (หรือเขียนในรูปของเลขฐานสองเป็น

00000101) ไปเก็บในรีจิสเตอร์ช่ือ AL โดยส่วนแรก 10110000 คือรหสั คาํ สง่ั MOV ซ่ึงเป็นการเคล่อื นยา้ ย
ขอ้ มลู จาํ นวนมาเก็บไวใ้ นรีจิสเตอร์ AL
บรรทดั ที่ สอง 10110011 00001000 เป็นคาํ สงั่ ใหน้ าํ จาํ นวน 8 (หรือเขียนในรูปของเลขฐานสองเป็น
00001000) ไปเก็บในรีจิสเตอร์ชื่อ BL โดยส่วนแรก 10110011 คือรหสั คาํ สง่ั MOV ซ่ึงเป็นการเคลอื่ นยา้ ย
ขอ้ มลู จาํ นวนมาเกบ็ ไวใ้ นรีจิสเตอร์ BL
บรรทดั ที่สาม เป็นคาํ สง่ั การบวกระหว่างรีจิสเตอร์ AL กบั BL หรือนาํ 5 บวก 8 ผลลพั ธเ์ กบ็ ในรีจิสเตอร์ AL
บรรทดั ที่สี่ เป็นการนาํ ผลลพั ธจ์ ากรีจิสเตอร์ช่ือ AL ไปเกบ็ ไวใ้ นรีจิสเตอร์ช่ือ CL
การ ใชโ้ ปรแกรมที่เขียนดว้ ยภาษาแอสเซมบลีน้นั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทาํ งานไดท้ นั ที จาํ เป็นตอ้ ง
มีการแปลโปรแกรมในการแปลท่ีมชี ่ือวา่ “แอสเซมเบลอร์” (Assembler) ซ่ึงแตกต่างไปตามเคร่ือง
คอมพิวเตอร์แต่ละชนิด ดงั น้นั แอสเซมเบลอร์ของเคร่ืองชนิดหน่ึงจะไมส่ ามารถใชแ้ ปลโปรแกรมภาษาแอส
เซ มบลีของเคร่ืองชนิดอน่ื ๆ ไดภ้ าษาแอสเซมบลนี ้ียงั คงใชย้ าก เพราะผเู้ ขียนโปรแกรมจะตอ้ งเขา้ ใจในการ
ทาํ งานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์อยา่ ง ละเอยี ด ตอ้ งรู้วา่ จาํ นวนท่ีจะนาํ มาคาํ นวณน้นั อยู่ ณ ตาํ แหน่งใดใน
หน่วยความจาํ ในทาํ นองเดียวกบั การเขยี นโปรแกรมเป็นภาษาเคร่ือง ภาษาแอสเซมบลจี ึงมผี ใู้ ชน้ อ้ ย และ
มกั จะใชใ้ นกรณีที่ตอ้ งการควบคุมการทาํ งานภายในของตวั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์

3 ภาษาระดับสูง (High Level Language)

ภาษา ระดบั สูงเป็นภาษาท่ีสร้างข้ึนเพือ่ ช่วยอาํ นวยความสะดวกในการเขียนโปรแกรม กลา่ วคือลกั ษณะของ
คาํ สง่ั จะประกอบดว้ ยคาํ ต่าง ๆ ในภาษาองั กฤษ ซ่ึงผอู้ า่ นสามารถเขา้ ใจความหมายไดท้ นั ที ผเู้ ขียนโปรแกรม
จึงเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาระดบั สูงไดง้ ่ายกวา่ เขียนดว้ ยภาษาแอ สเซมบลีหรือภาษาเคร่ือง ภาษาระดบั สูงมี
มากมายหลายภาษา อาทิเช่น ภาษาฟอร์แทรน (FORTRAN) ภาษาโคบอล (COBOL) ภาษาปาสคาล (Pascal)
ภาษาเบสิก(BASIC) ภาษาวชิ วลเบสิก (Visual Basic) ภาษาซี (C) และภาษาจาวา (Java) เป็นตน้ โปรแกรมที่
เขียนดว้ ยภาษาระดบั สูงแต่ละภาษาจะตอ้ งมโี ปรแกรมท่ีทาํ หนา้ ท่ีแปล ภาษาระดบั สูงใหเ้ ป็นภาษาเครื่อง เช่น
โปรแกรมแปลภาษาฟอร์แทรนเป็นภาษาเคร่ือง โปรแกรมแปลภาษาปาสคาลเป็นภาษาเครื่อง คาํ สง่ั หน่ึง
คาํ สง่ั ในภาษาระดบั สูงจะถกู แปลเป็นภาษาเคร่ืองหลายคาํ สง่ั
ภาษาระดบั สูงท่ีจะกลา่ วถงึ ในที่น้ี ไดแ้ ก่

1) ภาษาฟอร์แทรน (FORmula TRANstation : FORTRAN)
จดั เป็นภาษาระดบั สูงที่เก่าแก่ท่ีสุด ไดร้ ับการคิดคน้ ข้ึนเป็นคร้ังแรก ราว พ.ศ. 2497 โดยบริษทั ไอบีเอม็ เป็น
ภาษาท่ีเหมาะสาํ หรับงานท่ีตอ้ งการการคาํ นวณ เช่น งานทางดา้ นวิทยาศาสตร์ วศิ วกรรมศาสตร์ และงานวจิ ยั

ต่าง ๆ เน่ืองจากแนวคิดในการเขียนโปรแกรมในระยะหลงั น้ีเปลี่ยนมานิยมการเขียน โปรแกรมแบบ
โครงสร้างมากข้ึน ลกั ษณะของคาํ สง่ั ภาษาฟอร์แทรนแบบเดิมไมเ่ อ้อื อาํ นวยท่ีจะใหเ้ ขียนได้ จึงมีการ
ปรับปรุงโครงสร้างของภาษาฟอร์แทรนใหส้ ามารถเขียนโปรแกรมแบบโครง สร้างข้ึนมาไดใ้ นปี พ.ศ. 2509
เรียกวา่ FORTRAN 66 และในปี พ.ศ. 2520 สถาบนั มาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (American
National Standard Institute หรือ ANSI) ไดป้ รับปรุง FORTRAN 66 และยอมรับใหเ้ ป็นภาษาฟอร์แทรนท่ี
เป็นมาตรฐาน เรียกวา่ FORTRAN 77 ใชไ้ ดก้ บั เครื่องคอมพวิ เตอร์ท่ีมีตวั แปลภาษาน้ี

2) ภาษาโคบอล (Common Business Oriented Language : COBOL)
เป็น ภาษาที่พฒั นาข้ึนในราว พ.ศ. 2502 ต่อมาไดร้ ับการปรับปรุงจากคณะกรรมการซ่ึงเป็นตวั แทนของ
หน่วยงานธุรกิจและ รัฐบาลของสหรัฐอเมริกา เป็นภาษาโคบอลมาตรฐานในปี พ.ศ. 2517 เป็นภาษาท่ี
เหมาะสมสาํ หรับงานดา้ นธุรกิจ เครื่องคอมพวิ เตอร์ขนาดใหญ่ส่วนมากมีโปรแกรมแปลภาษาโคบอล
3) ภาษาเบสิก (Beginner’s All – purpose Symbolic Instruction Code : BASIC)
เป็น ภาษาที่ไดร้ ับการคิดข้ึนเป็นคร้ังแรกท่ีวทิ ยาลยั ดาร์ทมธั (Dartmouth College) และเผยแพร่เป็นทางการ
ในปี พ.ศ. 2508ภาษาเบสิกเป็นภาษาท่ีสร้างข้ึนโดยมจี ุดประสงคเ์ พอ่ื ใชส้ อนเพอื่ ใชส้ อน เขียนโปรแกรม
แทนภาษาคอมพวิ เตอร์ภาษาอื่น เช่น ภาษาฟอร์แทรน ซ่ึงมขี นาดใหญ่และตอ้ งใชห้ น่วยความจาํ สูงในการ
ทาํ งาน ซ่ึงไม่เหมาะกบั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ในสมยั น้นั ภาษาเบสิกเป็นภาษาที่มขี นาดเลก็ เป็นตวั แปลภาษา
ชนิดท่ีเรียกว่าอนิ เทอร์พรีเตอร์
นอก จากน้ี ภาษาเบสิกเป็นภาษาท่ีง่ายต่อการเขียน ซ่ึงผเู้ ขียนจะสามารถนาํ ไปประยกุ ตก์ บั การแกป้ ัญหา
ต่าง ๆ ไดท้ ุกสาขาวิชา ผทู้ ี่เพ่งิ ฝึกเขียนโปรแกรมใหม่ ๆ หรือผทู้ ี่ไม่ใช่นกั เขียนโปรแกรมมืออาชีพ แต่เป็น
เพียงวศิ วกรหรือนกั วิจยั จะสามารถหดั เขียนโปรแกรมภาษาเบสิกไดใ้ นเวลาไมน่ านนกั ปกติภาษาเบสิกส่วน
ใหญ่ใชก้ บั ไมโครคอมพวิ เตอร์

4) ภาษาปาสคาล (Pascal)
ต้งั ชื่อตามนกั คณิตศาสตร์ชาวฝร่ังเศส ชื่อ เบลส ปาสคาล (Blaise Pascal) ซ่ึงเป็นผผู้ ลิตเครื่องคิดเลขโดยใช้
เฟื องหมุน ภาษาปาสคาลคดิ ข้ึนในปี พ.ศ. 2514 โดยนิคลอส เวยี ซ (Niklaus Wirth) ศาสตราจารยว์ ชิ า
คอมพวิ เตอร์ชาวสวติ ภาษาปาสคาลไดร้ ับการออกแบบใหใ้ ชง้ ่ายและมโี ครงสร้างที่ดี จึงเหมาะกบั การใช้
สอนหลกั การเขียนโปรแกรม ปัจจุบนั ภาษาปาสคาลยงั คงไดร้ ับความนิยมใชใ้ นการเรียนเขียนโปรแกรม
คอมพวิ เตอร์

5) ภาษาซีและซีพลสั พลสั (C และ C++)
ภาษา ซีเป็นภาษาที่พฒั นาจากหอ้ งปฏบิ ตั ิการเบลลข์ องบริษทั เอทีแอนดท์ ีในปี พ.ศ. 2515 หลงั จากที่

พฒั นาข้ึนไดไ้ ม่นาน ภาษาซีกก็ ลายเป็นภาษาท่ีนิยมในหมนู่ กั เขียนโปรแกรมมาก และมใี ชง้ านในเครื่องทุก
ระดบั ท้งั น้ีเน่ืองจากภาษาซีไดร้ วมเอาขอ้ มลู ของภาษาระดบั สูงและภาษาระดบั ต่าํ เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั กล่าวคือ
เป็นภาษาที่มไี วยากรณ์ที่เขา้ ใจง่าย ทาํ ใหเ้ ขียนโปรแกรมไดง้ ่ายเช่นเดียวกบั ภาษาระดบั สูงทวั่ ไป แต่
ประสิทธิภาพและความเร็วในการทาํ งานดีกว่ามาก เนื่องจากมกี ารทาํ งานเหมือนภาษาระดบั ต่าํ สามารถ
ทาํ งานไดใ้ นระดบั ท่ีเป็นการควบคุมฮาร์ดแวร์ไดม้ ากกว่าภาษาระดบั สูงอน่ื ๆ ดงั จะเห็นว่าภาษาซีเป็นภาษาที่
สามารถพฒั นาระบบปฏบิ ตั ิการได้ เช่น ระบบปฏบิ ตั ิการยนู ิกซ์
นอก จากน้ีเมอ่ื แนวคิดของการเขียนโปรแกรมแบบเชิงวตั ถุ (Object Oriented Programming : OOP) ไดเ้ ขา้
มามีบทบาทในวงการคอมพิวเตอร์มากข้ึน ภาษาซีกย็ งั ไดร้ บั การพฒั นาโดยประยกุ ตใ์ ชก้ บั การเขียน
โปรแกรมดงั กลา่ ว เกิดเป็นภาษาใหมช่ ื่อวา่ “ภาษาซีพลสั พลสั ” (C++)

6) ภาษาวชิ วลเบสิก (Visual Basic)
เป็น ภาษาที่พฒั นาต่อมาจากภาษาเบสิก ใชไ้ วยากรณ์บางส่วนของภาษาเบสิกในการเขียนโปรแกรม แต่มี
แนวคิดและวธิ ีการพฒั นาโปรแกรมท่ีแตกต่างจากภาษาเบสิกโดยสิ้นเชิง รวมท้งั การใชเ้ น้ือท่ีใน
หน่วยความจาํ กแ็ ตกต่างกนั มาก ท้งั น้ีเนื่องจากภาษาวิชวลเบสิกใชแ้ นวคิดทีต่ ่างออกไป
7) การเขียนโปรแกรมแบบจินตภาพ (Visual Programming)
ภาษา น้ีพฒั นาข้ึนโดยบริษทั ไมโครซอฟตอ์ อกแบบเพอื่ เขียนโปรแกรมท่ีสามารถใชง้ านได้ บน
ระบบปฏิบตั ิการแบบจยี ไู อ เช่น ระบบปฏิบตั ิการไมโครซอฟตว์ นิ โดวส์ มกี ารติดต่อกบั ผใู้ ชโ้ ดยใชร้ ูปภาพ
การเขียนโปรแกรมทาํ ไดง้ ่ายกว่าการเขียนโปรแกรมแบบเก่ามาก

8) ภาษาจาวา (Java)
พฒั นา ข้ึนในปี พ.ศ. 2534 โดยบริษทั ซนั ไมโครซิสเตมส์ เป็นภาษาที่ไดร้ ับความนิยมสูงมาโดยตลอด
เน่ืองจากเป็นภาษาที่มคี วามยดื หยนุ่ สูง สามารถเขียนโปรแกรมและใชง้ านไดบ้ นเครื่องคอมพวิ เตอร์ทุก
ประเภทและระบบ ปฏิบตั ิการทุกรูปแบบ ในช่วงแรกท่ีเร่ิมมกี ารนาํ ภาษาจาวามาใชง้ านจะเป็นการใชง้ านบน
เครือข่ายอิน เทอร์เน็ต เป็นภาษาที่เนน้ การทาํ งานบนเวบ็ แต่ปัจจุบนั สามารถสามารถนาํ มาประยกุ ตส์ ร้าง
โปรแกรมใชง้ านทว่ั ไปได้
นอก จากน้ี เมอ่ื เทคโนโลยขี องการสื่อสารกา้ วหนา้ ข้นึ จนกระทงั่ เครื่องคอมพวิ เตอร์ปาลม์ ทอ็ ป หรือ แมแ้ ต่
โทรศพั ทเ์ คล่อื นที่สามารถเชื่อมต่อเขา้ สู่ระบบอินเทอร์เน็ตและใชง้ าน ระบบเวลิ ดไ์ วดเ์ วบ็ ได้ ภาษาจาวาก็
สามารถสร้างส่วนท่ีเรียกว่า “แอปเพลต็ ” (Applet) ใหอ้ ปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนิกสท์ ก่ี ลา่ วขา้ งตน้ เรียกใชง้ านจาก
เครื่องท่ีเป็นแม่ข่าย (Server) ได้

9) ภาษาเดลฟาย (Delphi)

เป็น ภาษาที่ไดร้ ับความนิยมภาษาหน่ึง แนวคิดในการเขียนโปรแกรมภาษาเดลฟายเหมือนกบั แนวคิดในการ
เขียนโปรแกรมภาษาวิ ชวลเบสิก คือเป็นการเขียนโปรแกรมเชิงจินตภาพ แต่ภาษาพ้นื ฐานท่ีใชใ้ นการเขียน
โปรแกรมจะเป็นภาษาปาสคาล ในการเขียนโปรแกรมเชิงจินตภาพน้ีมีคอมโพเนนต์ (Component) ที่
สามารถใชเ้ ป็นส่วนประกอบเพอ่ื สร้างส่วนติดต่อผใู้ ชท้ ี่เป็นแบบกราฟิก ทาํ ใหซ้ อฟตแ์ วร์ที่พฒั นามคี วาม
น่าสนใจและใชง้ านง่ายข้ึน การเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาเดลฟายจึงเป็นที่นิยมในการนาํ ไปพฒั นาเป็น
โปรแกรมใช้ งานมาก รวมท้งั ภาษาปาสคาลเป็นภาษาท่ีเขา้ ใจง่าย เหมาะแก่การนาํ มาใชส้ อนเขียนโปรแกรม

4. ภาษาระดับสูงมาก

เป็น ภาษาโปรแกรมยคุ ที่ 4 ซ่ึงเป็นภาษาระดบั สูงมาก จดั เป็นภาษาไร้กระบวนคาํ สง่ั หมายความว่าผใู้ ช้
เพยี งบอกแต่ว่าใหค้ อมพิวเตอร์ทาํ อะไร โดยไม่ตอ้ งบอกคอมพิวเตอร์วา่ สิ่งน้นั ทาํ อยา่ งไร เรียกว่าเป็นภาษา
เชิงผลลพั ธ์ คือเนน้ วา่ ทาํ อะไร ไม่ใช่ทาํ อยา่ งไร ดงั น้นั จึงเป็นภาษาโปรแกรมท่ีเขียนง่าย

5. ภาษาธรรมชาติ

เป็น ภาษาโปรแกรมยคุ ท่ี 5 ซ่ึงคลา้ ยกบั ภาษาพดู ตามธรรมชาติของคน การเขยี นโปรแกรมง่ายที่สุด คือการ
เขียนคาํ พดู ของเราเองวา่ เราตอ้ งการอะไร ไม่ตอ้ งใชค้ าํ สงั่ งานใดๆ เลย


Click to View FlipBook Version