The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านตีความสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by neptunenujoon, 2022-09-03 06:42:30

แบบฝึกเสริมทักษะ

แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านตีความสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

Keywords: การอ่านตีความ

เสแรบิมบทัฝกึกษะ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

การอ่านตีความจากบ



อเสัวจกั็านดขมวหรัวนัะนนึหเ่้งจวา้เานววกั้นนดนีดหลา้ซานร้ีีงอหมน้า ดนตรี ,cit
เนิ่นช้า ชั้น......................... เลขที่..................
เอปั็บนเอศื่นร้าศรีหมอง

คำนำ

แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านตีความจากบทร้อยเล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อแก้

ปัญหา และพัฒนาทักษะของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ซึ่งจะประกอบไป

ด้วย

๑.แบบทดสอบก่อน - หลังเรียน เพื่อวัดพัฒนาการของนักเรียนหลังจาก

ใชเแบบฝึกเสริมทักษะเล่มนี้แล้ว

๒. แบบฝึกเสริมทักษะจำนวน ๔ แบบฝึก เป็นแบบฝึกแบบเขียนตอบ โดย


Olivia mai Marketerมีมุ่งหวังให้นักเรียนได้ฝึกอ่านและเขียนตีความบทร้อยกรองที่อ่าน และเป็นการ


ทบทวนความรู้ ความเข้าใจที่ได้จากการเรียนรู้ด้วย
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแบบฝึกทักษะการอ่านตีความจากบทร้อยกรอง


เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจ และนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
นางสาวชลธิชา ศิริอมรพันธุ์

ส า ร บั ญ

□ หัวข้อ
แบบทดสอบก่อนเรียน

□ ความหมายการอ่านตีความ
□ ความสำคัญของการอ่านตีความ
□ ข้อสังเกตในการอ่านตีความ
□ ใบกิจกรรมที่ ๑
□ ใบกิจกรรมที่ ๒
□ ใบกิจกรรมที่ ๓

เฉลยใบกิจกรรมที่ ๑

เฉลยใบกิจกรรมที่ ๒

เฉลยใบกิจกรรมที่ ๓

แบบทดสอบหลังเรียนเรียน

แบบทดสอบ

ก่อนเรียน

คำชี้แจง : ให้ นร. เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเียงข้อเดียว

๑. ข้อใดไม่ใช่ หลักการอ่านตีความ
ก. การอ่านตีความไม่จำเป็นต้องอ่านเรื่องให้ละเอียด
ข. การถอดคำประพันธ์ในบทร้อยกรองคือการอ่านตีความ
ค. คิดหาเหตุผลอย่างรอบคอบก่อนนำมาประมวลเขข้ากับความคิดของตน
ง. วิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่อ่านตามความรู้สึกและความคิดของตน

จงใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้อ ๒ - ๔

“มิ่งมิตร... เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่น

ที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน ที่จะชื่นใจหลายกับสายลม

ที่จะร่ำเพลงเกี่ยวโลมเรียวข้าว ที่จะยิ้มกับดาวพราวผสม

ที่จะเหม่อมองหญ้าน้ำตาพรม ที่จะขมขื่นลึกโลกหมึกมน”

๒. แนวคิดใดไม่ปรากฏ ในบทประพันธ์นี้ ข. การต่อสู้กับอุปสรรค
ก. ธรรมชาติของชีวิตที่มีทุกข์มีสุขสลับกัน ง. สิทธิของมนุษย์
ค. ความยุติธรรมและความถูกต้อง

๓. ในบทร้อยกรองนี้ กวีวางตนไว้ในฐานะอะไร

ก. พระ ข. เพื่อน ค. อาจารย์ ง. บุคคลอันเป็นที่รัก

๔. ข้อใดไม่ใช่ ลักษณะเด่นของคำประพันธ์ข้างต้น

ก. แสดงแนวคิดทางพุทธศาสนา ข. การใช้อุปลักษณ์และบุคคลวัต

ค. ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของถ้อยคำ ง. ความง่ายและความงามของบทกลอน

๕. ข้อใดแสดงความรู้สึกของผู้ประพันธ์เด่นชัดที่สุด

" ขอบคุณสำหรับโรงบุหรี่ ขอบคุณอีกทีสำหรับโรงหวย

ขอบคุณสนามม้าชาติหน้ารวย ขอบคุณโรงเหล้าด้วยช่วยชาติไทย "

ก. เกลียดชัง ข. ยกย่อง ค. ชื่นชม ง. ประชด

อ่านคำประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๖ - ๗

“ไม่มีใครไม่เคยไม่ผิดพลาด ไม่มีใครไม่เคยขลาดมาแต่ต้น

เมื่อมีเมฆย่อมมีความมืดมน หลังพายุผ่านพ้นจึงสร่างซา “

๖. เมื่อมีเมฆย่อมมีความมืดมน” มีความหมายว่าอย่างไร

ก. เมื่อมีชีวิตย่อมพบกับอุปสรรค

ข. เมื่อมีความผิดพลาดย่อมมีความสมหวัง

ค. เมื่อมีอุปสรรคก็ย่อมพบกับความผิดหวัง

ง. เมื่อมีความผิดหวังย่อมพบกับความเสียใจ

๗. “ เมื่อมีอุปสรรคก็ย่อมพบกับความผิดหวัง” ตีความด้านน้ำเสียงได้ว่าอย่างไร
ก. ความผิดหวังคือพลังของชีวิต
ข. สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
ค. ทุกคนย่อมผ่านความผิดพลาดมาก่อน
ง. เมื่ออุปสรรคผ่านพ้นไปแล้วย่อมพบความสมหวังได

๘. ข้อใดไม่ใช่ ความคิดหลักของข้อความข้างต้น

" เหมือนบายศรีมีงานท่านถนอม เจิมแป้งหอมน้ำจันทน์ให้พรรษา

พอเสร็จงานเข้าเอาทิ้งลงคงคา ต้องลอยมาลอยไปเป็นใบตอง"

เมื่อมีเมฆย่อมมีความมืดมน” มีความหมายว่าอย่างไร

ก. เมื่อจะใช้งานก็ทะนุถนอมพอเสร็จงานแล้วทอดทิ้ง

ข. เมื่อจะใช้งานก็ทะนุถนอมเชิดชูบูชาแต่พองานเสร็จก็ขับไล่ส่ง

ค. เมื่อจะใช้งานก็ทะนุถนอมเอาอกเอาใจ ครั้นเสร็จธุระก็ให้รางวัล

ง. เมื่อจะใช้งานก็ทะนุถนอมเอาใจทุกอย่างแต่พอเสร็จงานแล้วไม่เหลียวแล

๙. จากคำประพันธ์ข้างต้น ค่าของมนุษย์อยู่ที่สิ่งใด

"คนจะงามงามที่ใจใช่ใบหน้า คนจะสวยสวยจรรยาใช่ตาหวาน

คนจะแก่แก่ความรูใช่อยู่นาน คนจะรวยรวยศิลทานใช่บ้านโต"

ก. ความสวย ข. ความดี ค. การมีอายุมาก ง. การมีทรัพย์มาก

๑๐. "ชีวิตวนเวียนวันผันผ่านพบ กว่าดินกลบร่างลับชีพดับสูญ

คนละคนปนเกลศเหตุมั่วมูล จะคิดพูนเพิ่มกุศลดูหม่นมัว”

น้ำเสียงของผู้เขียนคำประพันธ์ข้างต้นตรงกับข้อใด

ก. วิตก ข. สังเวช ค. สิ้นหวัง ง. เบื่อหน่าย

การอ่านตีความ

ความหมายการอ่านตีความ

การอ่านเพื่อให้เข้าใจความหมาย ความคิดสำคัญของเรื่อง ความรู้สึก และอารมณ์
สะเทือนใจจากบทประพันธ์ซึ่งอาจเข้าใจได้มากน้อยลึกซึ้งเพียงใด ตรงกันกับผู้ประพันธ์
หรือไม่ หรือผู้อ่านคนอื่น ๆ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสามารถ และประสบการณ์เดิม และ
ความรู้สึกของผู้อ่านแต่ละคน การตีความของทุกคนอาจไม่ตรงกันเสมอไปโดยในกระบวน
การอ่านเพื่อตีความนั้นผู้อ่านจะต้องใช้ความรู้ ความสามารถในการแปลความ จับใจความ
สำคัญ การสรุปความ รวมทั้งการเปรียบเทียบ ความสัมพันธ์ของข้อความ

ความสำคัญการอ่านตีความ

การอ่านตีความเป็นการอ่านที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ ประสบการณ์ การสังเกต และ
การวิเคราะห์ของผู้อ่าน การอ่านตีควมเป็นการอ่านขั้นสำคัญที่ทำให้เข้าใจงานเขียนทุก
ชนิด การอ่านตีความจึงมีความสำคัญ ดังนี้
๑. ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาสาระของเรื่องที่อ่านได้หลายแง่หลายมุม
๒. ช่วยให้เห็นคุณค่าของวรรณกรรมอันมีผลเกี่ยวโยงถึงคุณค่าของชีวิตและสิ่งแวดล้อม
๓. การอ่านตีความช่วยให้เกิดการฝึกคิด ฝึกไตร่ตรองเหตุผล เป็นผลให้ผู้อ่านมี
ความละเอียด ถี่ถ้วนและมีวิจารณญาณในการอ่านมากยิ่งขึ้น
๔. การอ่านตีความเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงงานประพันธ์นั้น ๆ
๕. การอ่านตีความช่วยให้ผู้อ่านมีโลกทัศน์ที่กว้างไกล ลึกซึ้ง มีใจกว้างยอมรับความแตก
ต่าง ของมนุษย์ด้วยกันได้การอ่าน

ความสำคัญการอ่านตีความ

การอ่านตีความนั้น มักนำไปใช้ในงานเขียนที่มีความหมายซ่อนไว้ระหว่างบรรทัด

ผู้อ่านต้อง ใส่ใจกับถ้อยคำที่ผู้เขียนเลือกสรรมาใช้

๑.สำรวจงานเขียนนั้นด้วยการอ่านอย่างคร่าว ๆ ว่างานเขียนนั้นเกี่ยวกับเรื่องใด

เป็นร้อยแก้ว หรือร้อยกรอง หรืองานเขียนประเภทใด เช่น เป็นคำประพันธ์ นวนิยาย

เรื่องสั้น บทความ กวีนิพนธ์ หรือเป็นงานเขียนสั้น ๆ แสดงคติสอนใจ

๒. อ่านอีกครั้งอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาเนื้อหาว่ามีใจความสำคัญกล่าวถึง

เรื่องใด มีข้อความ ส่วนใดกล่าวถึงข้อเท็จจริง ส่วนใดเป็นการแสดงทรรศนะของผู้เขียน

ส่ ว น ใ ด เ ป็ น ก า ร แ ส ด ง อ า ร ม ณ์ ค ว า ม รู้ สึ ก

๓. วิเคราะห์ถ้อยคำ อาจมีบางคำที่มีความหมายเฉพาะ เช่นเป็นสัญลักษณ์ หรือ

มีถ้อยคำที่เป็น การกล่าวเชิงเปรียบเทียบ ด้วยการใช้ภาพพจน์ หรือเป็นสำนวนโวหาร

เป็นคำที่มีความหมายหลายนัย ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้อ่านใช้ความหมายจากถ้อยคำในบริบท

นั้นมาพิจารณาประกอบเพื่อให้เข้าใจความหมาย ได้มากชัดเจนยิ่งขึ้น

๔. พิจารณารสของคำเพื่อประมวลหาน้ำเสียงของผู้เขียน อาจเป็นน้ำเสียงเชิง

สั่งสอน น้ำเสียงแสดงการประชดประชัน น้ำเสียงแสดงความภูมิใจ ยินดี หรือเศร้าสลด

เป็นต้น น้ำเสียงเหล่านี้จะสัมพันธ์กับจุดมุ่งหมายของผู้เขียนที่ต้องการสื่อสารมาให้ผู้อ่าน

พิ จ า ร ณ า ใ ค ร่ ค ร ว ญ ห รื อ คิ ด ค ล้ อ ย ต า ม

๕. สรุปสารที่ได้จากการตีความข้อเขียนนั้น ๆ การอ่านตีความ ผู้อ่านจะต้อง

เข้าใจจุดประสงค์ สาร และน้ำเสียงที่อยู่ในงานประพันธ์นั้น เพื่อที่จะได้เข้าใจความคิด

เห็น ประสบการณ์ จินตนาการ ฯลฯ ของผู้เขียนที่ส่งผ่านงานประพันธ์นั้น

การอ่านตีความควรตีความทั้ง ๒ ด้านควบคู่กันไป คือ ตีความด้านเนื้อหา และ

ตีความด้านน้ำเสียง จึงจะทำให้เข้าใจสารนั้นได้อย่างถ่องแท้ เช่น “ ตำน้ำพริกละลาย

แ ม่ น้ำ ”

ตีความตามเนื้อหา: น้ำพริกที่เราโขลกได้นั้นมีปริมาณน้อยมาก เมื่อเทียบกับ
ปริมาณของน้ำในแม่น้ำ ฉะนั้นถ้าหากนำน้ำพริกที่เราโขลกนั้นไปเทลงในแม่น้ำก็ย่อมจะ
เ ป็ น ก า ร สู ญ เ ป ล่ า เ พ ร า ะ จ ะ ไ ม j ส่ ง ผ ล อั น ใ ด กั บ แ ม่ น้ำ นั้ น เ ล ย

ตีความด้านน้ำเสียง: ตีความด้านน้ำเสียง: เตือนให้รู้จักประมาณตนว่าจะทำอะไร
ก็ควรดูให้เหมาะสมว่าผลที่จะได้รับ นั้นคุ้มค่าหรือไม่

ข้อสังเกตในการอ่านตีความ

๑. การตีความข้อเขียนชิ้นเดียวกับของผู้อ่านหลายคนอาจได้ผลไม่เหมือนกัน
๒. ผลของการตีความข้อเขียนชิ้นใดๆ ไม่ว่าข้อเขียนชิ้นนั้นจะกล่าวถึงเรื่องอะไร

ก็ตามผลที่ได้จะต้องเป็นเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์เสมอ
๓. การตีความทุกครั้ง ผู้อ่านควรตีความด้านความบริสุทธิ์ใจ จริงใจ เป็นไปตาม

หลักวิชา ไม่ตีความไปในทางที่จะ เกิดเสียหายแก่ผู้เขียน หรือผู้ใดผู้หนึ่ง
๔. การตีความข้อเขียนที่มุ่งเสนอข้อเท็จจริง หรือมุ่งให้ความรู้ตามหลักวิชา

เราคงตีความได้ เฉพาะด้านเนื้อหาเท่านั้น

ชื่ อ เลขที่ ชั้น

ใบกิจกรรมที่ ๑คำชี้แจง :ให้นักเรียนทำเครื่องหมายถูก หน้าข้อความที่ถูกต้อง

และทำเครื่องหมายกากบาทหน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง

ถูก ผิด

๑- การอ่านตีความต้องพิจารณาข้อความที่อ่านว่าผู้เขียนมี

เจตนาให้ผู้อ่านเกิด ความคิดหรือความรู้อะไร

๒- การอ่านตีความ เป็นการอ่านเพื่อหาความหมายที่ ซ่อนเร้น

หรือหาความหมายที่ แท้จริงของสาร

๓- การอ่านตีความเป็นการอ่านที่ต้องศึกษาทำความเข้าใจงาน

เขียนเพื่อ ประกอบการแสดงความคิดเห็น

๔- เสียง และความหมาย เสียงของค าที่แตกต่างกัน ย่อมสื่อ

ความหมายที่เหมือนกัน

๕- ความสำคัญของการอ่านตีความช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องที่

อ่านได้ในมุมมองของ ผู้อ่าน

๖- สัญลักษณ์ในทางวรรณกรรม หมายถึง สิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งมัก

จะเป็นรูปธรรม ที่เป็น เครื่องแทนนามธรรม เช่น ดอกไม้แทน

หญิงงาม

๗- ผู้อ่านต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องภาพพจน์ ซึ่งจะช่วยให้

การอ่านตีความมีความกว้างขวางลึกซึ้งยิ่งขึ้น

๘- ความรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอ่านตีความ ได้แก่ ความรู้

เกี่ยวกับประวัติผู้แต่ง ก็เพียงพอต่อการอ่านตีความ

๙- องค์ประกอบที่ท าให้การอ่านตีความแตกต่างกัน ได้แก่

ความสนใจ ประสบการณ์ จินตนาการ เจตคติ ระดับสติปัญญา

ความรู้
๑๐- เกณฑ์การพิจารณาการอ่านตีความ งานเขียน ความผิด

ถูกไม่ใช่เรื่องส าคัญ อยู่ที่ มีความลึกซึ้งกว้างขวางและมีความ

สมเหตุสมผล
1

ชื่อ ชื่อ เลขที่ ชั้น

ใบกิจกรรมที่ ๒

คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านบทประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถามให้ถูกต้อง

๑. ๒.“ความดีมีอยู่คู่ชั่ว ติดตัวกลั้วอิงอาศัย

ทำดีดีช่วยอวยชัย มำชั่วชั่วให้ใจตรม
ผลดีนี้นำความสุข ผลชั่วกลั้วทุกข์ทับถม
ดีเด่นเห็นผลคนชม ชั่วช้าพาจมตรมตรอม”
"วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล
“จงตีความจากบทประพันธ์ที่อ่าน ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา
จงตั้งเอากายเจ้า เป็นสำเภาอันโสภา
ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ"

“จงตีความจากบทประพันธ์ที่อ่าน

๓. บทประพันนี้ตรงกับสำนวนใด สำนวนในบทประพันธ์นี้มีความหมายว่าอะไร

ผลเดื่อเมื่อสุกไซร้ มีพรรณ "ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร ๔.
ภายนอกแดงดูฉัน ชาดบ้าย มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ

ภายในย่อมแมลงวัน หนอนบ่อน โฉดฉลาดเพราะคำขาน ควรทราบ
นอกนั้นดูงาม”
ดุจดังคนใจร้าย ๕. หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้านแสลงดิน"

คำประพันธ์บทนี้ตรงกับสำนวนใด และมีความมายว่าอะไร

“น้ำเอ๋ยน้ำค้าง หวานล้ำรสเลอหวาน

ลิ้มรสยิ่งล้ำน้ำตาล หน่อยนานขื่นขมระทมใจ

วาจาปราศรัยใจมนุษย์ สุดจะเชื่อชิดสนิทได้
หวานนักมักเปรี้ยวแปรไป ปากกับใจน้อยนักจักตรงกัน"

ยกตัวอย่างบทประพันธ์ที่ชอบพร้มตีความ

๕.

ชื่ อ เลขที่ ชั้น

ใบกิจกรรม
คำชี้แจง
ให้นักเรียนอ่านบทประพันธ์ต่อไปนี้ แล้วตีความให้ถูกต้อง
ที่ ๓ ตัวอย่าง: "เห็นช้างขี้ อย่าขี้ตามช้าง"
ตีความด้านเนื้อหา : จะทำอะไรควรดูฐานะของตน ไม่ควรตาม


อย่างคนมีฐานะดีกว่า
ตีความด้านน้ำเสียง :ให้รู้จักประมาณตน

๑. "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม "จะหามณีรัตน์ ๒.
อีกคนตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว" เพราะมีวณิชค้า
ก็แต่จะหาซึ่ง รุจิเลิศก็อาจหา
ตีความด้านเนื้อหา : .................................................. ผิทรัพยะมากมี และก็คนก็มั่งมี
.................................................................................. ภริยาและมิตรดี
ก็มิได้ประดุจใจ"
๔."ค.เต.โต.ิค.พี.จ.ีด.ค..คว.รร.ค.ว.ว.า่จ.๓า.ัาา.มา.ะก.ม.ค..มเ.ร.เู.หด.้วด.บด.้.้.ีตูรา.า.ยุย.น.ิเน.จ.่.ัมนง.เ.กน.ื.น.ล้อืบ..้อ้่.ำ.อ.งำไเ..ย.สดหู.น.ี่้..กัย.า.ับ...บง.:.......:.ต.....ี.ส....ย..ิค..ิ..ก.น่.เ....ง.ว..ร..า...ท.่..าไ....งย....ซ.มร.....รั..อ.ู..รพ.้.ด...เ้...้.า....ร..าย...ีต...์..นย............นน.....้...ม.....ำเ.......เอา.....ส.....นี.า.....ย....".า........ง............:............"..ด..ด.ดูต.อ...ู.ูีม....เต....ขิคา..ีม....้ต.ืจ...ค.า่ว.....อ.ร...จด.าว....ั.ู.เพ...ม.กาเ.....ม.ืม...ม.ด.ร่ืง....ู่.้อ...้.อด.จา...ศ..้ิ...ไ.น.ใา..ต..ข.า....ชน้...เ..ร้ไ.จ....นั.ัื.ว.น..ก้...้ก..้.อ....ำ......ห.เ.......ส..ก...า.ีเ....จ.ย...ม.วา..ื..:.่.ว่.งร...า.อ.....น..ร..ห....ไ้...:....ช.า.ร.น....ี.้...ั.ย....พ.....ก........ฤ.................า............ด.....ี........"...........................ต........ี.......ต......ค..ี......ค....ว..
...ว.า.....มา....ม...ด...้..ด...า้...๕.นา.....น....น...้.เ...ำ..น.ื..เ้...สอ...ี....ยห.......ง.า........:.:..........................๗........................................................................
....
"ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ จักประดับดอกไม้ .
หอมหวนยวนจิตไซร้ ไป่มี" คคคุ"ุุณณคณุณพพบีิ่รแพด่ะมราอ่งดหาุศจจนิัอาขกรารหยา์นอ้าาเงพี้ยอเกงามาจรศุสมูพ้กสาสวาศุ้าธคงาร"
"นกน้อยขนน้อยแต่ พอตัว .ต...ี....ตค....ี....คว......าว....ม..า......มด...้...ด.า...้..น...า....นน....้....เำ...น.เ.ื..้.ส..อ.ี....ย...ห...ง...า........:.:.......................................................................................................................
ตีความด้านเนื้อหา : ............................ รังแต่งจุเมียผัว
............................................................ อยู่ได้
............................................................. มักใหญ่ย่อมคนหวัว ไพเพศ
ตีความด้านน้ำเสียง : ........................... ทำแต่พอตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน"
.............................................................
ตีความด้านเนื้อหา : .....................
๖. "..........................................................................................................
ตีความด้านน้ำเสียง : .................
......................................................

ชื่ อ เลขที่ ชั้น

กิจกรรมที่ ๔ คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านบทร้อยกรองต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม

จงเก็บออมเพื่อพร้อม พยาบาล
ยามแก่ชรากาล มีใช้
เสริมบุญเผื่อสุนทาน ธาร ณกิจ
ชีวิตอย่ายากไร้ เดือดร้อนพรขอฯ

บทร้อยกรองที่อ่าน บทร้อยกรองนี้
เปนเรื่องเกี่ยวกับอะไร ควรตั้งชื่อว่าอะไร

.................................................................
.............................................................

.................................................................
.............................................................

.................................................................
.............................................................

.................................................................
.
.................................................................

.................................................................
นำคำจากบทร้อยกรองมาแต่ง

................................................................. ประโยคใหม่ (มากกว่า 1 ประโยค)

บทร้อยกรองนี้กล่าวถึงสิ่งใดบ้าง
.................................................................

และเกี่ยวข้องอย่างไร .................................................................

.................................................................

.................................................................
.................................................................

.................................................................
.................................................................

.................................................................
.................................................................

.................................................................
.................................................................
.................................................................

.................................................................

.................................................................

แบบทดสอบ

หลังเรียน

คำชี้แจง : ให้ นร. เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเียงข้อเดียว

๑. ข้อใดไม่ใช่ หลักการอ่านตีความ
ก. การอ่านตีความไม่จำเป็นต้องอ่านเรื่องให้ละเอียด
ข. การถอดคำประพันธ์ในบทร้อยกรองคือการอ่านตีความ
ค. คิดหาเหตุผลอย่างรอบคอบก่อนนำมาประมวลเขข้ากับความคิดของตน
ง. วิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่อ่านตามความรู้สึกและความคิดของตน

จงใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้อ ๒ - ๔

“มิ่งมิตร... เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่น

ที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน ที่จะชื่นใจหลายกับสายลม

ที่จะร่ำเพลงเกี่ยวโลมเรียวข้าว ที่จะยิ้มกับดาวพราวผสม

ที่จะเหม่อมองหญ้าน้ำตาพรม ที่จะขมขื่นลึกโลกหมึกมน”

๒. แนวคิดใดไม่ปรากฏ ในบทประพันธ์นี้ ข. การต่อสู้กับอุปสรรค
ก. ธรรมชาติของชีวิตที่มีทุกข์มีสุขสลับกัน ง. สิทธิของมนุษย์
ค. ความยุติธรรมและความถูกต้อง

๓. ในบทร้อยกรองนี้ กวีวางตนไว้ในฐานะอะไร

ก. พระ ข. เพื่อน ค. อาจารย์ ง. บุคคลอันเป็นที่รัก

๔. ข้อใดไม่ใช่ ลักษณะเด่นของคำประพันธ์ข้างต้น

ก. แสดงแนวคิดทางพุทธศาสนา ข. การใช้อุปลักษณ์และบุคคลวัต

ค. ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของถ้อยคำ ง. ความง่ายและความงามของบทกลอน

๕. ข้อใดแสดงความรู้สึกของผู้ประพันธ์เด่นชัดที่สุด

" ขอบคุณสำหรับโรงบุหรี่ ขอบคุณอีกทีสำหรับโรงหวย

ขอบคุณสนามม้าชาติหน้ารวย ขอบคุณโรงเหล้าด้วยช่วยชาติไทย "

ก. เกลียดชัง ข. ยกย่อง ค. ชื่นชม ง. ประชด

อ่านคำประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๖ - ๗

“ไม่มีใครไม่เคยไม่ผิดพลาด ไม่มีใครไม่เคยขลาดมาแต่ต้น

เมื่อมีเมฆย่อมมีความมืดมน หลังพายุผ่านพ้นจึงสร่างซา “

๖. เมื่อมีเมฆย่อมมีความมืดมน” มีความหมายว่าอย่างไร

ก. เมื่อมีชีวิตย่อมพบกับอุปสรรค

ข. เมื่อมีความผิดพลาดย่อมมีความสมหวัง

ค. เมื่อมีอุปสรรคก็ย่อมพบกับความผิดหวัง

ง. เมื่อมีความผิดหวังย่อมพบกับความเสียใจ

๗. “ เมื่อมีอุปสรรคก็ย่อมพบกับความผิดหวัง” ตีความด้านน้ำเสียงได้ว่าอย่างไร
ก. ความผิดหวังคือพลังของชีวิต
ข. สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
ค. ทุกคนย่อมผ่านความผิดพลาดมาก่อน
ง. เมื่ออุปสรรคผ่านพ้นไปแล้วย่อมพบความสมหวังได

๘. ข้อใดไม่ใช่ ความคิดหลักของข้อความข้างต้น

" เหมือนบายศรีมีงานท่านถนอม เจิมแป้งหอมน้ำจันทน์ให้พรรษา

พอเสร็จงานเข้าเอาทิ้งลงคงคา ต้องลอยมาลอยไปเป็นใบตอง"

เมื่อมีเมฆย่อมมีความมืดมน” มีความหมายว่าอย่างไร

ก. เมื่อจะใช้งานก็ทะนุถนอมพอเสร็จงานแล้วทอดทิ้ง

ข. เมื่อจะใช้งานก็ทะนุถนอมเชิดชูบูชาแต่พองานเสร็จก็ขับไล่ส่ง

ค. เมื่อจะใช้งานก็ทะนุถนอมเอาอกเอาใจ ครั้นเสร็จธุระก็ให้รางวัล

ง. เมื่อจะใช้งานก็ทะนุถนอมเอาใจทุกอย่างแต่พอเสร็จงานแล้วไม่เหลียวแล

๙. จากคำประพันธ์ข้างต้น ค่าของมนุษย์อยู่ที่สิ่งใด

"คนจะงามงามที่ใจใช่ใบหน้า คนจะสวยสวยจรรยาใช่ตาหวาน

คนจะแก่แก่ความรูใช่อยู่นาน คนจะรวยรวยศิลทานใช่บ้านโต"

ก. ความสวย ข. ความดี ค. การมีอายุมาก ง. การมีทรัพย์มาก

๑๐. "ชีวิตวนเวียนวันผันผ่านพบ กว่าดินกลบร่างลับชีพดับสูญ

คนละคนปนเกลศเหตุมั่วมูล จะคิดพูนเพิ่มกุศลดูหม่นมัว”

น้ำเสียงของผู้เขียนคำประพันธ์ข้างต้นตรงกับข้อใด

ก. วิตก ข. สังเวช ค. สิ้นหวัง ง. เบื่อหน่าย

เฉลย




๑. ง.
๒. ก..
๓. ข.
๔. ข.
๕. ง.
๖. ข.
๗. ข.
๘ ค.
๙. ข
๑๐. ค

เฉลย...ใบกิจกรรมที่ ๑ให้นักเรียนทำเครื่องหมายถูก หน้าข้อความที่ถูกต้อง

และทำเครื่องหมายกากบาทหน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง

ถูก ผิด

๑- การอ่านตีความต้องพิจารณาข้อความที่อ่านว่าผู้เขียนมี

เจตนาให้ผู้อ่านเกิด ความคิดหรือความรู้อะไร
๒- การอ่านตีความ เป็นการอ่านเพื่อหาความหมายที่ ซ่อนเร้น

หรือหาความหมายที่ แท้จริงของสาร
๓- การอ่านตีความเป็นการอ่านที่ต้องศึกษาทำความเข้าใจงาน

เขียนเพื่อ ประกอบการแสดงความคิดเห็น
๔- เสียง และความหมาย เสียงของค าที่แตกต่างกัน ย่อมสื่อ

ความหมายที่เหมือนกัน
๕- ความสำคัญของการอ่านตีความช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องที่

อ่านได้ในมุมมองของ ผู้อ่าน
๖- สัญลักษณ์ในทางวรรณกรรม หมายถึง สิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งมัก

จะเป็นรูปธรรม ที่เป็น เครื่องแทนนามธรรม เช่น ดอกไม้แทน

หญิงงาม
๗- ผู้อ่านต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องภาพพจน์ ซึ่งจะช่วยให้

การอ่านตีความมีความกว้างขวางลึกซึ้งยิ่งขึ้น
๘- ความรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอ่านตีความ ได้แก่ ความรู้

เกี่ยวกับประวัติผู้แต่ง ก็เพียงพอต่อการอ่านตีความ
๙- องค์ประกอบที่ท าให้การอ่านตีความแตกต่างกัน ได้แก่

ความสนใจ ประสบการณ์ จินตนาการ เจตคติ ระดับสติปัญญา

ความรู้
๑๐- เกณฑ์การพิจารณาการอ่านตีความ งานเขียน ความผิด

ถูกไม่ใช่เรื่องส าคัญ อยู่ที่ มีความลึกซึ้งกว้างขวางและมีความ

สมเหตุสมผล
1

เฉลยใบกิจกรรมที่ ๒

คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านบทประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถามให้ถูกต้อง

๑. ๒.“ความดีมีอยู่คู่ชั่ว ติดตัวกลั้วอิงอาศัย

ทำดีดีช่วยอวยชัย มำชั่วชั่วให้ใจตรม
ผลดีนี้นำความสุข ผลชั่วกลั้วทุกข์ทับถม
ดีเด่นเห็นผลคนชม ชั่วช้าพาจมตรมตรอม”
"วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล
“จงตีความจากบทประพันธ์ที่อ่าน ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา
จงตั้งเอากายเจ้า เป็นสำเภาอันโสภา
ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ"

“จงตีความจากบทประพันธ์ที่อ่าน

ให้หมั่นทำความดี เพราะความดีจะทำให้มี
วิชาความรู้ถ้าอยากได้ต้องรู้จักค้นคว้า และ

ความสุข คนชื่นชม แต่หากทำความชั่ว
อดทนต่อความยากลำบาก
จะพบแต่ความทุกข์

๓. บทประพันนี้ตรงกับสำนวนใด สำนวนในบทประพันธ์นี้มีความหมายว่าอะไร

ผลเดื่อเมื่อสุกไซร้ มีพรรณ "ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร ๔.
ภายนอกแดงดูฉัน ชาดบ้าย มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ

ภายในย่อมแมลงวัน หนอนบ่อน โฉดฉลาดเพราะคำขาน ควรทราบ
นอกนั้นดูงาม” ๕. หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้านแสลงดิน"
ดุจดังคนใจร้าย มารยาทบอกให้ทราบถึงความเป็ นไปของชาติตระกูลคำพูด

ของคนสามารถแสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้น ฉลาด เขลา ชั่ว

คนบางคนที่หน้ าตาดูดี แต่ภายในเป็นคนใจร้าย

หรือเลว

คำประพันธ์บทนี้ตรงกับสำนวนใด และมีความมายว่าอะไร

“น้ำเอ๋ยน้ำค้าง หวานล้ำรสเลอหวาน

ลิ้มรสยิ่งล้ำน้ำตาล หน่อยนานขื่นขมระทมใจ อย่าเชื่อ หรือหลงใหลกับคำพูดที่หวานหู และคำ

ชื่นชม เพราะใจจริงของคนพูดอาจไม่จริงใจ
วาจาปราศรัยใจมนุษย์ สุดจะเชื่อชิดสนิทได้
หวานนักมักเปรี้ยวแปรไป ปากกับใจน้อยนักจักตรงกัน"

ยกตัวอย่างบทประพันธ์ที่ชอบพร้มตีความ

๕.

เฉลยใบ
คำชี้แจง

ให้นักเรียนอ่านบทประพันธ์ต่อไปนี้ แล้วตีความให้ถูกต้อง

กิจกรรมที่ ๓ ตัวอย่าง: "เห็นช้างขี้ อย่าขี้ตามช้าง"
ตีความด้านเนื้อหา : จะทำอะไรควรดูฐานะของตน ไม่ควรตาม

อย่างคนมีฐานะดีกว่า

ตีความด้านน้ำเสียง :ให้รู้จักประมาณตน

๑. "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม "จะหามณีรัตน์ ๒.
อีกคนตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว" เพราะมีวณิชค้า
ก็แต่จะหาซึ่ง รุจิเลิศก็อาจหา
ตีความด้านเนื้อหา : .ม.ี.ค.น..ส..อ..ง.ค..น..ม..อ..ง..เ.ข.้.า.ไ.ป..ต..า..ม..ช่.อ..ง...ค..น..ห..นึ.่.ง.. ผิทรัพยะมากมี และก็คนก็มั่งมี
...ม..อ.ง..เ.ห.็.น..โ.ค..ล..น..ต..ม...อ.ี.ก.ค..น..ห..น.ึ.่ง..ม..อ..ง.เ.ห.็.น..ด..ว..ง.ด..า.ว..ม..า.ก..ม..า..ย............... ภริยาและมิตรดี
ก็มิได้ประดุจใจ"
ตีความด้านน้ำเสียง : .ค..น..ส..อ.ง..ค..น..อ.ย.ู.่ใ.น...ส.ถ..า..น..ก.า..ร.ณ..์.เ.ด.ี.ย..ว.ก.ั.น......
เ๔."ค.พเต.โไต.ิค.พี.จ.ีมรด.ค.่.คาว.รมร.ค.ะีว.ว.า่จใ.๓าจ.ัาา.คมา.ะะก.ม.ค.ร.มเอ.ร.สเู.หด.ย้วด.ูบด.้า่.้.ีตกูราม.า.ัยุย.นบ.ิเาน.จ.่.ัมนรงต.เ.กัน.ืถ.นว.ล้อืบ..้มอ้่.ำ.อ.งำไเ.า.โย.สดหู.แจน.ี่้..กัยยร.า.ั่บ..ไง.บง.ม:.ช.่.ิ.ส.ง..:ค....ไา...ส.หวม.ป..ย..ิ..ิ.า.ก.รนไ่.าเค..ื..มง.อ..ดรร..าว...้ท.่.รมถ.ไ.ู...งา้ย...ด.ซ.มอมร.ู....รั.ม.อ.ู..งารรพ.ี้...ู.เ้้.สค.ล..เา.ิ่.ั..ร่..ปงยาก...ีต็...์..มยเ.น.เ...ด..อ...าี.ส.น.ิ..ย..กา่...งม..ไ.ว..เ..ม...ป..อีกา.....ัค.....นน่.า....า.....".า....แ..........ต....่..ค..ว.า..ม..ค".ิด..ดดตจดูต.อ..ูต.ูีมท...ะอเีี.ไ...ขิคา่.รคม...มว้นูต.ื้จ้...ีวา่ว.ใ...่นทวอ.ัารจ...จด้า.ำ...นัราูใ.เพ้...มกเง.ามค...แม.ืม...ยาด.ร่รืง..ต.ดูน่.้อห...้้อ.จาก...ศให.าิร...ไหน.ืใต..ต.นอขน้.า่...ชัด้.า..เ.ดรู้กไ.นจ...ีงนั.ัื.ว.้.แก้.ก..้ก.ำ.อั...ลเน.เ...พ.หส..ะ.ื.่..ี.ศอ.ก...ยาึเ....จนก...ม.วาง.ื..:.่ษวท่.คร..ี.าอ.่...านด..น:ร..ห.ี..ใไ้...ใ..รห.ช.า.รก.นัห..้..ี.้บ.้..ัยด...าพ.ด..ี..ก.ใ.ูร.....ฤต.ข....จ.้......อท...าะ..ี....่..น.คด.ด.....ีี....บตใ..."...ห....ก.้.......ด....ยห.จู.......ต.....า..ระก..ี.ไ...ื..ตั.ก..อ...ซคด..บี.ื....้้...ค..อถ.ภ.ว..้
.ท..าวร.าุ..ิม.ก..ยมาี...เ.อม.า.ง.ด..ิทย.้.ีน.ด่.่..าาด้...ี๕.งนา..แไ...ไน.ดต...น.ด่..้้.เเ..เ.ำง..นส.ิื..เน้...มสอ...มี...อิ.ยห..ส..ไ...ง.าาป...ม.....:.:า..เ..ร..งจ..ิ...ถ.น.ะ........จห..ม...๗..ิ..ะ.า..ใ....ซ.อช...ื...่้...ะ.อ.ข.......ไ.ม..อ...ิร.....ตง...ก....็ม...ร..หี.....
.ค....า่.....า....
....
"ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ จักประดับดอกไม้ .
หอมหวนยวนจิตไซร้ ไป่มี" คคคุ"ุุณณคณุณพพบีิ่รแพด่ะมราอ่งดหาุศจจนิัอาขกรารหยา์นอ้าาเงพี้ยอเกงามาจรศุสมูพ้กสาสวาศุ้าธคงาร"
"นกน้อยขนน้อยแต่ พอตัว .ต...ี...ร.ตค....ี.ตพ..ี.้คว.่..อ...าแว.ง...ม..ลรา.ู..้.จ..ะมด.ั..้กอ...ด.า..าก.้..น.จ..าต...ัา.นน..ญ.ร.้....เยำ.ญ..์น.เ.ูื.ม.้.ส.ีต.อ.ี.ม่...อย...หา..ผ.กูง...้า.ม..ม.ี...พ.:.:า....ย.พร.......ะ....ร....ค..ะ...ุ.....ณ.ค.....ุ....ณ............ข..........อ.........ง.......พ......่.....อ.............แ..........ม.....่..
ตีความด้านเนื้อหา : ...ก.า..ร.จ..ะ.ไ..ด.้.ชื.่.อ.เ.ส.ี.ย..ง...... รังแต่งจุเมียผัว
.เ.ก.ี.ย..ร..ต.ิ.ย..ศ.น.ั.้น...ไ..ม.่.ใ.ช.่.ไ.ด.้.ม..า..ง่.า.ย..ๆ........................ อยู่ได้
............................................................. มักใหญ่ย่อมคนหวัว ไพเพศ
ตีความด้านน้ำเสียง : ..ชื.่.อ.เ.ส.ี.ย..ง.เ.ก.ี.ย..ร..ต.ิ.ย..ศ..... ทำแต่พอตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน"
....ใ.ค..ร..ๆ..ก.็อ..ย..า.ก..ไ..ด.้.......................................
. ตีความด้านเนื้อหา : .น.ั.ก..ท..ำ.ร.ั.ง.ใ..ห.้.ม.ี.....
๖. .ข..น..า.ด..พ..อ..ด.ี.ก.ั.บ..ค..ร.อ..บ..ค..รั.ว.........................
".....................................................
ตีความด้านน้ำเสียง : .................
...จ..ะ.ท..ำ..สิ.่.ง.ใ.ด..อ..ย.่.า.ท..ำ..เ.กิ.น..ก..ำ..ล.ั.ง.ค..ว..า.ม..ส..า.ม..า.ร..ถ..


การอ่านตีความตามความเข้าใจของนักเรียนคืออะไร

ชื่ อ เลขที่ ชั้น

กิจกรรมที่ ๔ คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านบทร้อยกรองต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม

จงเก็บออมเพื่อพร้อม พยาบาล
ยามแก่ชรากาล มีใช้
เสริมบุญเผื่อสุนทาน ธาร ณกิจ
ชีวิตอย่ายากไร้ เดือดร้อนพรขอฯ

บทร้อยกรองที่อ่าน บทร้อยกรองนี้
เปนเรื่องเกี่ยวกับอะไร ควรตั้งชื่อว่าอะไร

.................................................................
.............................................................

.................................................................
.............................................................

.................................................................
.............................................................

...............ก...า..ร..ร.ู.้จ..ั.ก..เ..ก.็..บ..อ...อ..ม........................
.
.................................................................

.................................................................
นำคำจากบทร้อยกรองมาแต่ง

................................................................. ประโยคใหม่ (มากกว่า 1 ประโยค)

บทร้อยกรองนี้กล่าวถึงสิ่งใดบ้าง
.................................................................

และเกี่ยวข้องอย่างไร .................................................................

.................................................................

.................................................................
.................................................................

.................................................................
.................................................................

...1....ก...า..ร..เ.ก..็.บ...อ..อ...ม...เ.ง.ิ.น...ท...อ...ง........................
.................................................................

เ.พ.ื.่.อ...ใ.ช..้.ย...า..ม..ช...ร..า....ย..า..ม...เ..จ.็.บ...ป.่.ว...ย...................
.................................................................
...2......ใ.ห..้.ร.ู.้จ..ั.ก...ท..ำ..บ..ุ.ญ.....ช.่..ว..ย...เ.ห...ล.ื.ื.อ..ผ.ู.้.อ.ื่.น...........

เ.พ...ร..า..ะ..เ..ม.ื.่.อ..เ..ร..า..เ.ด..ื.อ..น...ร.้.อ...น...ก.็..จ..ะ..ม..ี.ค...น...ช.่.ว...ย..
..

เ.ร..า..ด..้.ว..ย.......................................................

สแูคญโกว่าเคตมสลนีรยูง้เใสคอหอวง้านชมำวแ่ร่นูา้ต.า่..ถญค้วคาาทวมำเรพชฝเืึ่ฉำกอนยปซ้าเอรญมะมยโนัยก้น็ฝจึชกไะน
ฝ์ปน


Click to View FlipBook Version