The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นายณัฐพงศ์ ลิชผล 63040140229

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 229 ณัฐพงศ์ ลิชผล, 2024-01-25 08:05:20

วิจัย

นายณัฐพงศ์ ลิชผล 63040140229

37 หลังการทดลองผู้วิจัยได้หาค่าเฉลี่ยและเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังได้รับการ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70 โดยการทดสอบที่แบบกลุ่มเดียว (one sample t-test) ดังตารางที่ 2 ตารางที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) n ̅ S.D. t Sig ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ 34 10.82 1.7 1.69 0.69 p < .05 จากตารางที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียน เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 70 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่า t = 1.69 และค่า Sig = 0.69


38 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้(5E) วัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลัง การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สมมติฐานการวิจัย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังสูงกว่าก่อนได้รับการ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและ หลังการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ พบดังตาราง 3 ตารางที่ 3 แสดงผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ n ̅ S.D. t Sig ก่อนการจัดการเรียนรู้ 34 6.67 1.7 9.92 .00 หลังการจัดการเรียนรู้ 34 72.15 1.7 p < .05 จากตารางที่ 3 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์หลังสูงกว่า ก่อนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมี ค่า t = 9.92 และค่า Sig = .00


39 การศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ผลการศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ พบดังตาราง 4 ตารางที่4 แสดงคะแนนจำนวน และร้อยละ ของความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ความสามารถในการแก้ปัญหา ระดับคะแนน จำนวน ร้อยละ ระดับมาก 7-10 19 55.88 ระดับปานกลาง 4-6 13 38.23 ระดับน้อย 0-3 2 5.88 รวม 34 100.00 จากตารางที่ 4 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความสามารถในการแก้ปัญหาหลังได้รับการ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) อยู่ในระดับมาก จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 55.88 ระดับปาน กลาง จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 38.23 และ ระดับน้อย จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 5.88 ตามลำดับ


40 การศึกษาความพึงพอใจทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ผลการศึกษาความพึงพอใจทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้ ผ่านการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E) พบดังตาราง 5 ตารางที่ 5 แสดงค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนรู้แบบสืบ เสาะหาความรู้ (5E) กิจกรรม ̅ S.D. ระดับ 1. ครูมีการเตรียมการสอน 4.61 0.69 มากที่สุด 2. การจัดบรรยากาศห้องเรียนเอื้อต่อการเรียนการสอน 4.23 0.74 มาก 3. เนื้อหาที่สอนทันสมัยนำไปใช้ได้จริง 4.44 0.82 มาก 4. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ชัดเจน 4.46 0.69 มาก 5. กิจกรรมการเรียนการสอนสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนการสอน 4.50 0.70 มากที่สุด 6. ครูส่งเสริมให้นักเรียนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม และรายบุคคล 4.47 0.66 มาก 7. ครูส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และร่วมกันอภิปราย 4.23 0.74 มาก 8. กิจกรรมการเรียนสนุกและน่าสนใจ 4.55 0.61 มากที่สุด 9. ครูให้โอกาสนักเรียนซักถามปัญหา 4.35 1.09 มาก 10. ครูใช้วิธีการสอนและใช้สื่ออย่างหลากหลาย 4.61 0.49 มากที่สุด 11. ครูยอมรับความคิดเห็นของนักเรียน 4.38 0.69 มาก 12. ครูให้ความสนใจแก่นักเรียนอย่างทั่วถึงขณะสอน 4.41 0.70 มาก 13. ครูส่งเสริมให้นักเรียนค้นคว้าหาความรู้จากห้องสมุด อินเทอร์เน็ตหรือแหล่ง เรียนรู้อื่นๆ 4.20 0.97 มาก 14. ครูตั้งใจสอน ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่นักเรียนในการ ทำกิจกรรม 4.47 0.74 มาก 15. ครูมีบุคลิกภาพ การแต่งกายและการพูดจาเหมาะสม 4.61 0.55 มากที่สุด 16. ครูเข้าสอนและออกตรงเวลา 4.64 0.59 มากที่สุด 17. นักเรียนทราบเกณฑ์การประเมินผลล่วงหน้า 4.08 0.79 มาก 18. นักเรียนมีส่วนร่วมในการประเมินผลการเรียน 4.26 0.86 มาก 19. ครูประเมินผลอย่างยุติธรรม 4.67 0.58 มากที่สุด 20. นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข 4.70 0.46 มากที่สุด รวม 4.44 0.69 มาก


41 จากตารางที่ 5 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใหลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบ เสาะหาความรู้ (5E) โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก (̅= 4.44 และ S.D. = 0.57) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (̅= 4.70 และ S.D. = 0.46) รองลงมา คือ ครู ประเมินผลอย่างยุติธรรม (̅= 4.67 และ S.D. = 0.58) ครูเข้าสอนและออกตรงเวลา (̅= 4.64 และ S.D. = 0.59) ครูมีบุคลิกภาพ การแต่งกายและการพูดจาเหมาะสม (̅= 4.61 และ S.D. = 0.55) ครูใช้วิธีการสอน และใช้สื่ออย่างหลากหลาย (̅= 4.61 และ S.D. = 0.49) ครูมีการเตรียมการสอน (̅= 4.61 และ S.D. = 0.69) กิจกรรมการเรียนสนุกและน่าสนใจ (̅= 4.55 และ S.D. = 0.61) และกิจกรรมการเรียนการสอน สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนการสอน (̅= 4.50 และ S.D. = 0.70) ตามลำดับ


42 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การสรุปผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) โรงเรียนศรีบุญเรือง วิทยาคาร อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 ผู้วิจัยได้นำเสนอวัตถุประสงค์ของการวิจัย สมมติฐานของการวิจัย วิธีดำเนินการวิจัย สรุปผลการวิจัย การ อภิปรายและข้อเสนอแนะ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ วัตถุประสงค์ของการวิจัย ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 กับเกณฑ์ร้อยละ 70 หลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่อง อัตราส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 3. เพื่อศึกษาทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สมมติฐานของการวิจัย ในการวิจัยครั้งนี้มีสมมติฐานของการวิจัยดังนี้ 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูง กว่าก่อนเรียนหลังจากได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)


43 วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัย ดังนี้ 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.1 ประชากร เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในโรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อำเภอศรี บุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภูจำนวน 593 คน 2.1 กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 1 ห้อง จำนวน 35 คน ในภาค เรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภูที่ได้มา จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 2.1 แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้การ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 10 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวม 10 ชั่วโมง 2.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ 2.3 แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบอัตนัย จำนวน 2 ข้อ 2.4 แบบวัดความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) แบบโครงสร้างเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างตามลำดับดังนี้ 3.1 ก่อนการทดลอง ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pretest) โดยใช้แบบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3.2 ดำเนินการสอนกลุ่มตัวอย่างด้วยแผนการจัดเรียนรู้ที่สร้างขึ้นจำนวน 10 แผน โดยให้ นักเรียน เรียนและปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ตามขั้นตอนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้ (5E) 3.3 เมื่อสิ้นสุดการทดลองสอนแล้ว ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน (Posttest) โดยใช้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ชุดเดิม ไปทดสอบกับนักเรียนอีกครั้งจากนั้นนำผลที่ได้ ไปสิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติต่อไป


44 4. การวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิเคราะห์ข้อมูลการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบ เสาะหาความรู้ (5E) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยดำเนินการโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ สำหรับข้อมูลทางสังคมศาสตร์ ตามขั้นตอนดังนี้ 4.1 หาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และ ความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน เปรียบเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 70 โดยใช้การทดสอบที่แบบกลุ่มเดียว (One Sample t-test) 4.2 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์นักเรียนที่เรียนโดยใช้การจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้การทดสอบที่แบบไม่อิสระ (Paired Sample t-test) 4.3 ความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) นำ คะแนนจากการประเมินมาหาค่าเฉลี่ย (̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของคะแนนพฤติกรรมการทำงาน กลุ่มแล้ว เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยการประเมินความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้ สรุปผลการวิจัย การวิจัยครั้งนี้สรุปผลได้ดังนี้ 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 6.67 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 44.5 คะแนนเฉลี่ย หลังเรียนเท่ากับ 10.82 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 72.15 เมื่อเทียบกับเกณฑ์มีคะแนนสูงกว่าร้อยละ 70 อย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. ความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความสามารถในการ แก้ปัญหาหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) อยู่ในระดับมาก จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อย ละ 55.88 ระดับปานกลาง จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 38.23 และ ระดับน้อย จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อย ละ 5.88 ตามลำดับ


45 3. ความพึงใจในการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใหลังการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก (̅= 4.44 และ S.D. = 0.57) เมื่อ พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (̅= 4.70 และ S.D. = 0.46) รองลงมา คือ ครูประเมินผลอย่างยุติธรรม (̅= 4.67 และ S.D. = 0.58) ครูเข้าสอนและออกตรงเวลา (̅= 4.64 และ S.D. = 0.59) ครูมีบุคลิกภาพ การแต่งกายและการพูดจาเหมาะสม (̅= 4.61 และ S.D. = 0.55) ครูใช้วิธีการสอนและใช้สื่ออย่างหลากหลาย (̅= 4.61 และ S.D. = 0.49) ครูมีการเตรียมการสอน (̅= 4.61 และ S.D. = 0.69) กิจกรรมการเรียนสนุกและน่าสนใจ (̅= 4.55 และ S.D. = 0.61) และกิจกรรมการ เรียนการสอนสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนการสอน (̅= 4.50 และ S.D. = 0.70) ตามลำดับ อภิปรายผล จากการศึกษาการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนและความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยได้ทำการทดลองเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล สามารถนำมา อภิปรายผลได้ดังนี้ 1. ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ จากการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีคะแนน เฉลี่ย 10.82 จากคะแนนเต็ม 15 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 72.15 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 ที่กำหนดไว้อย่างมี นัยสำคัญ .05 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จากผลการทดสอบก่อนเรียนกับหลัง คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 6.67 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 44.5 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 10.82 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 72.15 พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 สรุปได้ว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เป็นวิธีที่นักเรียนไม่คุ้นเคย จึงทำให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน ประกอบกับการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนทำให้นักเรียนได้ทำงานเป็นกลุ่มร่วมกันแก้ปัญหา เพื่อหาคำตอบที่อยากรู้ สืบค้นข้อมูลด้วย ตนเอง ทำให้นักเรียนเกิดความสนุกสนานในการทำงานร่วมกัน ส่งผลให้นักเรียนมีความรู้จากการเรียนรู้สูงขึ้น การสอนของครูส่วนใหญ่เป็นผู้เตรียมเนื้อหาให้กับนักเรียนได้ศึกษาตามใบงานจึงส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ จิรภา นุชทองม่วง (2558:66)


46 2. ด้านความสามารถในการแก้ปัญหา ด้านความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์จากผลการวิจัยพบว่าความสามารถในการ แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง อัตราส่วน ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนอยู่ในระดับมาก จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 55.88 ระดับปานกลาง จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 38.23 และ ระดับน้อย จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 5.88 ตามลำดับทั้งนี้อาจเป็นเพราะ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E) เป็นการจัดการเรียนรู้เพื่อ พัฒนากระบวนการคิดระดับสูง ซึ่งเป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางให้โอกาสแก่ผู้เรียน ได้ฝึกคิด ฝึกสังเกต ฝึกถาม-ตอบ ฝึกการสื่อสาร ฝึกเชื่อมโยงบูรณาการฝึกนําเสนอ ฝึกวิเคราะห์วิจารณ์ ฝึก สร้างองค์ความรู้โดยมีครูเป็นผู้กำกับ ควบคุม ดําเนินการให้คำปรึกษากระตุ้นส่งเสริมให้ผู้เรียนคิด อยากรู้อยาก เห็น และสืบเสาะหาความรู้จากการถามคําถาม และพยายามค้นหาคําตอบหรือสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเอง ผ่ากระบวนการคิดและปฏิบัติ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือ ก็จะทำให้นักเรียนได้ฝึกวิเคราะห์ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สอดคล้อง กับแนวคิดของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (2545: 191-195) ที่กล่าวว่า การพัฒนาทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ควรเริ่มต้น จากการนำปัญหาที่ดีมา กระตุ้นความสนใจของ ผู้เรียน โดยให้อิสระในการคิดแก้ปัญหา ฝึกให้นักเรียน คิดหาความสัมพันธ์ของโจทย์ ปัญหา และจัดสถานการณ์หรือปัญหาที่ห้าหาย สนับสนุนให้นักเรียนคิด วิธีการแก้ปัญหาโดยวิธีของนักเรียน เอง แล้ว อธิบายวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องเหมาะสม 3. ความพึงพอใจ ความพึงพอใจของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง อัตราส่วน จากการใช้แบบสอบถามนักเรียนหลังการเรียน พบว่า มีคะแนนความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เป็นเนื่องมากจากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ได้ผ่านการพัฒนาจนทำให้บทเรียนมีประสิทธิภาพและเหมาะสม อีก ทั้งกิจกรรมในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่เน้นให้นักเรียนค้นหาคำตอบด้วยตนเอง เริ่มจากขั้น สร้างความสนใจจากครูที่ได้นำสื่อรูปภาพ อุปกรณ์และวีดีโอ เป็นสิ่งเร้าให้นักเรียนสนใจ เกิดข้อสงสัย อยากรู้ และอยากที่จะค้นคว้าหาคำตอบจากการปฏิบัติและทดลองในหัวข้อต่าง ๆ จากบทเรียนวีระพงศ์ ล่องลอย (2552) กล่าวไว้ว่า การใช้สื่อการสอนประกอบการเรียนรู้ที่ดีนั้นควรจะให้ผู้เรียนได้ใช้ประสาทสัมผัสหลายๆ อย่าง เช่น ฟัง พูด อ่าน เขียน การนำสื่อเข้ามาใช้ก็เพื่อที่จะทำให้ผู้เรียนสนใจเรียนและเข้าใจบทเรียนดีขึ้น นักเรียนเกิดความพึงพอใจ เกิดทัศนคติที่ดีในการเรียน และขั้นการสำรวจและค้นหา จะเป็นกิจกรรมที่นักเรียน ได้ทำกิจกรรมกลุ่ม มีอิสระในการทำกิจกรรม นักเรียนมีความสนุกสนาน เรื่อง อัตราส่วน


47 ข้อเสนอแนะ จากการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะจากการวิจัย และข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไปดังนี้ 1. ข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการวิจัยไปใช้ จากการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ สำหรับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ 1.1 การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ในช่วงก่อนใช้แผน ครูต้องจัดกิจกรรม เพื่อให้นักเรียน คุ้นเคยกับรูปแบบการเรียนรู้ที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งอาจใช้เวลาเพิ่มขึ้น เพื่อ แก้ปัญหาการจัดกิจกรรมที่วางไว้ไม่เป็นไปตามที่กำหนด 1.2 ผู้สอนต้องระลึกอยู่เสมอว่าการแก้ปัญหาได้นั้น นักเรียนต้องมีพื้นฐานความรู้ ที่เพียงพอ มีเวลาในการคิด ได้ใช้ความสามารถในการสร้างความเข้าใจ และอาจมีนักเรียนจำนวนมาก ที่ไม่สามารถ แก้ปัญหาได้ถ้าครูจัดกิจกรรมไม่เหมาะสม 1.3 การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ครูผู้สอนควรชี้แจงขั้นตอน ให้นักเรียน เข้าใจ เพื่อให้นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1.4 ในกรณีที่มีเด็กบกพร่องทางการเรียนรู้ในชั้นเรียน ครูควรจัดให้อยู่ในกลุ่มที่เหมาะสม อีกทั้งครูต้องคอยในคำปรึกษาและให้กำลังใจในการเรียนรู้ด้วย 2.ข้อเสนอแนะสำหรับการทำวิจัยในครั้งต่อไป ผู้วิจัยขอเสนอแนะประเด็นที่ควรนำมาศึกษา ดังนี้ 2.1 ควรศึกษาการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ไปใช้กับวิชาคณิตศาสตร์ในเรื่อง อื่น ๆ โดยปรับกิจกรรมการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับเนื้อหาในแต่ละระดับชั้นและวัยของ นักเรียนเพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของนักเรียน 2.2 ควรศึกษาการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เพื่อพัฒนาความสามารถ และ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ด้านอื่น ๆ


48 บรรณานุกรม (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. (2563). การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) วิทยานิพนธ์มหาวิทยาลัยสวนดุสติ : ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้ง ลําปาง. บุญชม ศรีสะอาด. 2545. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: สุรีวิยาสาส์น. เยาวดี วิบูลย์ศรี. (2539). การวัดผลและการสร้างแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วันนิดา เทียนเจษฎา (2556) ผลการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและ ทศนิยม โดยการใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ ค.ม. บุรีรัมย์ : มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. สมนึก ภัททิยธนี. (2551). การวัดผลการศึกษา. กาฬสินธุ์: โรงพิมพ์ประสานการพิมพ์ พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2557). หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: เฮาส์ ออฟเคอร์มีสท์. พร้อมพรรณ อุดมสิน. (2544). การวัดและการประเมินผลการเรียนการสอนคณิตศาสตร์.(พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ทิศนา แขมมณี. (2554). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 14). กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พวงทอง มีมั่งคั่ง. (2537). การสอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: พัฒนาศึกษา. มสิริ แก้วศรีหา. (2554). การศึกษากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ที่เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์เรื่องความน่าจะเป็นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษา ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.


49 สุวิมล ทองเทียม. (2555). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยวิธีการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความ รู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตรศึกษา คณะวิทยาศาสตร์). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. รัตน์จาณี อรัญเพิ่ม. (2561) การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้สำหรับการเรียนการสอนแบบอุปนัยเสริมการ แก้ปัญหาของ Wheatley เพื่อเสริมสร้างมโนมติเสียง และความคิดเห็นคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ต้องมีตนเองในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน , วารสารหน่วยวิจัย เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ (วารสารหน่วยวิจัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม เพื่อ การเรียนรู้): เล่ม. 9 ฉบับที่ 2


50 ภาคผนวก


51 ภาคผนวก ก รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย


52 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ที่ประเมินแผนการจัดการเรียนรู้และแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน มีรายชื่อดังต่อไปนี้ 1. นายวิสันต์ จันละคร ครูชำนาญการพิเศษ วิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู 2. ว่าที่ร้อยตรีวุฒิไกร มูลคาย ครูชำนาญการพิเศษ วิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู 3. นายมนเทียร สอนเสนา ครูชำนาญการ วิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู


53 ภาคผนวก ข แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ (Index of item Objective Congruence : IOC) เรื่อง อัตราส่วน แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ ตามขั้นตอนของโพลยา (Index of item Objective Congruence : IOC) เรื่อง อัตราส่วน


54 แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Objective Conguence : IOC) เรื่อง อัตราส่วน คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน โดยใส่เครื่องหมาย √ ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่ เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป ตารางที่ 6 แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญการหาค่าดัชนีความสอดคล้องของ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่องอัตราส่วน จุดประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ น้ำหนัก ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 บอกอัตราส่วนที่ เท่ากัน (K) 1. ปากกาครึ่งโหลราคา 72 บาท อัตราส่วนของจำนวน ปากกาเป็นด้ามต่อจำนวนเงินเป็นบาทคือข้อใด ก. 72 : 1 2 ข. 1 : 72 ค. 6 : 72 ง. 12 : 72 บอกอัตราส่วนที่ เท่ากัน (K) 2. 6 : 7 เท่ากับอัตราส่วนในข้อใด ก. 12 : 18 ข. 18 : 21 ค. 28 : 24 ง. 34 : 36 เขียนอัตราส่วนแสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณสอง ปริมาณ (P) 3. ถ้า a : b = 5 : 4 และ b : c = 3 : 2 แล้ว a : b : c ตรงกับข้อใด ก. 15 : 12 : 8 ข. 5 : 12 : 2 ค. 6 : 12 : 15 ง. 5 : 4 : 2 เขียนอัตราส่วนแสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณสอง ปริมาณ (P) 4. ข้อใดถูกต้อง ก. 3 : 7 = 9 : 14 ข. 94 : 12 = 47 : 4 ค. 11 : 82 = 82 : 11 ง. 48 : 36 = 72 : 54 เขียนอัตราส่วนแสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณสอง ปริมาณ (P) 5. อัตราส่วนในข้อใดต่อไปนี้ไม่เท่ากัน ก. 3 : 7 กับ 42 : 98 ข. 3 : 18 กับ 7 : 42 ค. 6 : 54 กับ 7 : 56 ง. 7 : 15 กับ 63 : 135


55 เขียนอัตราส่วนแสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณสอง ปริมาณ (P) 6. รูปสามเหลี่ยมรูปหนึ่งมีอัตราส่วนของความยาวของ ด้านทั้งสามเป็น 3 : 6 : 7 ถ้าด้านที่ยาวที่สุดยาว 14 เซนติเมตร จงหาความยาวของด้านทั้งสาม ก. 3 : 6 : 14 ข. 3 : 12 : 7 ค. 9 : 6 : 14 ง. 6 : 12 : 14 บอกอัตราส่วนที่ เท่ากัน (K) 7. ถ้า x 15 = 4 3 แล้ว X มีค่าเท่าไร ก. 16 ข. 20 ค. 25 ง. 36 บอกอัตราส่วนที่ เท่ากัน (K) 8. จาก 2 : 5 = a : 20 จงหาค่าของ a ก. 6 ข. 8 ค. 10 ง. 14 อธิบายเกี่ยวกับร้อย ละ (K) 9. 20% ของเงิน 250 บาท เป็นเงินกี่บาท ก. 25 ข. 35 ค. 45 ง. 50 อธิบายเกี่ยวกับร้อย ละ (K) 10. 80% ของคะแนนเต็ม 500 คะแนน เท่ากับกี่ คะแนน ก. 100 คะแนน ข. 250 คะแนน ค. 400 คะแนน ง. 450 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับร้อย ละ (K) 11. 7 เป็นร้อยละเท่าใดของ 35 ก. ร้อยละ 20 ข. ร้อยละ 14 ค. ร้อยละ 5 ง. ร้อยละ 0.2 บอกอัตราส่วนที่ เท่ากัน (K) 12. บอสขับรถออกจากบ้านด้วยความเร็วเฉลี่ย 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาในการเดินทาง 4 ชั่วโมง ถ้า ขากลับบอสขับรถด้วยความเร็วเฉลี่ย 80 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง จะใช้เวลาในการขับรถกี่ชั่วโมง ก. ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ข. ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง ค. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง ง. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง บอกอัตราส่วนที่ เท่ากัน (K) 13. สวนขนาดหนึ่งมีอัตราส่วนของจำนวนต้นมะม่วงต่อ จำนวนต้นมะนาวเป็น 5 : 2 ถ้าปลูกต้นมะม่วง 240 ต้น จำนวนต้นมะนาวตรงกับข้อใด


56 เกณฑ์การประเมิน +1 หมายถึง เหมาะสม 0 หมายถึง ไม่แน่ใจ -1 หมายถึง ไม่เหมาะสม ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ............................... ลงชื่อ...................................ผู้ประเมิน (....................................................) ก. 36 ต้น ข. 65 ต้น ค. 84 ต้น ง. 96 ต้น บอกอัตราส่วนที่ เท่ากัน (K) 14. ในการผสมน้ำยากำจัดแมลงมีอัตราส่วนดังนี้ ปริมาณน้ำ : ปริมาณยา = 12 : 3 ถ้าใช้ปริมาณยา 60 ลิตร ปริมาณน้ำที่ใช้ตรงกับข้อใด ก. 150 ลิตร ข. 200 ลิตร ค. 240 ลิตร ง. 300 ลิตร บอกอัตราส่วนที่ เท่ากัน (K) 15. โชว์รูมแห่งหนึ่งมีรถยนต์ต่อรถจักรยานยนต์เป็น 6 : 8 คัน ถ้ารถจักรยานยนต์มี 24 คัน รถยนต์มีกี่คัน ก. 12 คัน ข. 14 คัน ค. 16 คัน ง. 18 คัน


57 แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอน ของโพลยา (Index of Objective Conguence : IOC) เรื่อง อัตราส่วน คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อแบบทดสอบความสามารถในการ แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่อง อัตราส่วน โดยใส่เครื่องหมาย √ ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียน ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป ตารางที่ 7 แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญการหาค่าดัชนีความสอดคล้องของ แบบทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์(Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่องอัตราส่วน จุดประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ น้ำหนัก ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 เขียนแสดงวิธีแก้ โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ สัดส่วน 1. ในการผสมกาแฟผงสองชนิด อัตราส่วนของปริมาณ กาแฟผงชนิด A ต่อปริมาณกาแฟผงชนิด B เป็น 4 : 3 ถ้ากาแฟผงชนิด A มีน้ำหนัก 28 กรัม แล้วจะมีผงกาแฟ ชนิด B อยู่กี่กรัม 1. ทำความเข้าใจโจทย์ -โจทย์กำหนดอะไรมาให้ ปริมาณกาแฟผงชนิด A ต่อปริมาณกาแฟผงชนิด B -โจทย์ต้องการให้หาอะไร ผงกาแฟชนิด B 2. วางแผนการแก้ปัญหา -นำความรู้เรื่องใดมาใช้ นำข้อมูลที่ได้มาทำเป็นสัดส่วน 3. ดำเนินการตามแผน ผงกาแฟชนิด B 4 3 = 28 B กรัม 4 × B = 3 × 28 กรัม B = 3 × 28 4 กรัม


58 B = 21 กรัม 4. ตรวจสอบผล ผงกาแฟชนิด A = 28 กรัม ผงกาแฟชนิด B = 21 กรัม ทำเป็นอัตราส่วนได้ 28 : 21 จะได้ 4 : 3 ดังนั้น ผงกาแฟชนิด B มีน้ำหนัก 21 กรัม เขียนแสดงวิธีแก้ โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ร้อยละ 2. ธนาคารแห่งหนึ่งให้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 0.5% ต่อปี ถ้าสมหญิงฝากเงินเป็นจำนวน 10,000 บาท ผ่านไป 1 ปีโดยไม่ถอน สมหญิงจะมีเงินในบัญชีทั้งหมดกี่บาท 1. ทำความเข้าใจโจทย์ -โจทย์กำหนดอะไรมาให้ เงินฝากของสมหญิงและอัตราดอกเบี้ย -โจทย์ต้องการให้หาอะไร จำนวนเงินทั้งหมดของสมหญิงเมื่อผ่านไป 1 ปี 2. วางแผนการแก้ปัญหา -นำความรู้เรื่องใดมาใช้ ความรู้เรื่องการหาร้อยละ อัตราส่วน 3. ดำเนินการตามแผน เงินดอกเบี้ย 1 ปี = 10,000 100 × 0.5 บาท = 100 × 0.5 บาท = 50 บาท เงินทั้งหมดของสมหญิง = 10,000 + 50 บาท = 10,050 บาท 4. ตรวจสอบผล เงินดอกเบี้ยที่ได้จากเงิน 10,000 บาท = 10,000 100 × 0.5 บาท = 100 × 0.5 บาท = 50 บาท เมื่อผ่านไป 1 ปีจะได้เงินดอกเบี้ยทั้งหมด 50 บาท ดังนั้น สมหญิงจะมีเงินทั้งหมด 10,050 บาท


59 เกณฑ์การประเมิน +1 หมายถึง เหมาะสม 0 หมายถึง ไม่แน่ใจ -1 หมายถึง ไม่เหมาะสม ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ............................... ลงชื่อ...................................ผู้ประเมิน (....................................................)


60 ภาคผนวก ค ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of item Objective Congruence : IOC) เรื่อง อัตราส่วน ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ ตามขั้นตอนของโพลยา (Index of item Objective Congruence : IOC) เรื่อง อัตราส่วน


61 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง อัตราส่วน ตารางที่ 8 สรุปแบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญการหาค่าดัชนีความสอดคล้องของ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่องอัตราส่วน ข้อที่ ผลการประเมินผู้เชี่ยวชาญ รวม IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 2 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 3 +1 0 +1 2 0.67 ใช้ได้ 4 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 5 +1 +1 0 3 0.67 ใช้ได้ 6 +1 +1 0 3 0.67 ใช้ได้ 7 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 8 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 9 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 10 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 11 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 12 +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 13 +1 0 +1 2 0.67 ใช้ได้ 14 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 15 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ หมายเหตุ การแปลผลค่า IOC ใช้เกณฑ์ ดังนี้ IOC < 0.5 หมายถึง ข้อสอบไม่สอดคล้องกับเนื้อหา ควรตัดข้อสอบนั้นทิ้งไป IOC ≥ 0.5 หมายถึง ข้อสอบสอดคล้องกับเนื้อหา สามารถใช้ข้อสอบข้อนั้นได้


62 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอน ของโพลยา (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง อัตราส่วน ตารางที่ 9 สรุปแบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญการหาค่าดัชนีความสอดคล้องของ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์(Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่องอัตราส่วน ข้อที่ ผลการประเมินผู้เชี่ยวชาญ รวม IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 2 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ หมายเหตุ การแปลผลค่า IOC ใช้เกณฑ์ ดังนี้ IOC < 0.5 หมายถึง ข้อสอบไม่สอดคล้องกับเนื้อหา ควรตัดข้อสอบนั้นทิ้งไป IOC ≥ 0.5 หมายถึง ข้อสอบสอดคล้องกับเนื้อหา สามารถใช้ข้อสอบข้อนั้นได้ ตารางที่10 สรุปแบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญการหาค่าดัชนีความสอดคล้องของ แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์(Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่องอัตราส่วน แผนที่ รายการ ผู้เชี่ยวชาญ คะแนน IOC 1 2 3 1 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 2 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00


63 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 3 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 4 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 5 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 6 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 7 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 1.00 1.00


64 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 8 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 9 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 10 1. สาระการเรียนรู้ 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6.สื่อและแหล่งการจัดการเรียนรู้ 7. กระบวนการวัดผลและประเมินผล +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +1 +3 +3 +3 +3 +3 +3 +3 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00 1.00


65 ภาคผนวก ง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน


66 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อำเภอศรีบุญเรือง จงหวัดหนองบัวลำภู คำชี้แจง ข้อสอบมี 2 ตอน ตอนที่ 1 เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ จำนวน 15 ข้อ ตอนที่ 2 เป็นแบบอัตนัย จำนวน 2 ข้อ ตอนที่1 จงกากบาท (×) ข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ปากกาครึ่งโหลราคา 72 บาท อัตราส่วนของจำนวน ปากกาเป็นด้ามต่อจำนวนเงินเป็นบาทคือข้อใด ก. 72 : 1 2 ข. 1 : 72 ค. 6 : 72 ง. 12 : 72 2. 6 : 7 เท่ากับอัตราส่วนในข้อใด ก. 12 : 18 ข. 18 : 21 ค. 28 : 24 ง. 34 : 36 3. ถ้า a : b = 5 : 4 และ b : c = 3 : 2 แล้ว a : b : c ตรง กับข้อใด ก. 15 : 12 : 8 ข. 5 : 12 : 2 ค. 6 : 12 : 15 ง. 5 : 4 : 2 4. ข้อใดถูกต้อง ก. 3 : 7 = 9 : 14 ข. 94 : 12 = 47 : 4 ค. 11 : 82 = 82 : 11 ง. 48 : 36 = 72 : 54 5. อัตราส่วนในข้อใดต่อไปนี้ไม่เท่ากัน ก. 3 : 7 กับ 42 : 98 ข. 3 : 18 กับ 7 : 42 ค. 6 : 54 กับ 7 : 56 ง. 7 : 15 กับ 63 : 135 6. รูปสามเหลี่ยมรูปหนึ่งมีอัตราส่วนของความยาวของด้าน ทั้งสามเป็น 3 : 6 : 7 ถ้าด้านที่ยาวที่สุดยาว 14 เซนติเมตร จงหาความยาวของด้านทั้งสาม ก. 3 : 6 : 14 ข. 3 : 12 : 7 ค. 9 : 6 : 14 ง. 6 : 12 : 14 7. ถ้า x 15 = 4 3 แล้ว X มีค่าเท่าไร ก. 16 ข. 20 ค. 25 ง. 36 8. จาก 2 : 5 = a : 20 จงหาค่าของ a ก. 6 ข. 8 ค. 10 ง. 14 9. 20% ของเงิน 250 บาท เป็นเงินกี่บาท ก. 25 ข. 35 ค. 45 ง. 50 10. 80% ของคะแนนเต็ม 500 คะแนน เท่ากับกี่คะแนน ก. 100 คะแนน ข. 250 คะแนน ค. 400 คะแนน ง. 450 คะแนน 11. 7 เป็นร้อยละเท่าใดของ 35 ก. ร้อยละ 20 ข. ร้อยละ 14 ค. ร้อยละ 5 ง. ร้อยละ 0.2 12. บอสขับรถออกจากบ้านด้วยความเร็วเฉลี่ย 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาในการเดินทาง 4 ชั่วโมง ถ้าขา กลับบอสขับรถด้วยความเร็วเฉลี่ย 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะใช้เวลาในการขับรถกี่ชั่วโมง ก. ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ข. ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง ค. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง ง. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง


67 13. สวนขนาดหนึ่งมีอัตราส่วนของจำนวนต้นมะม่วงต่อ จำนวนต้นมะนาวเป็น 5 : 2 ถ้าปลูกต้นมะม่วง 240 ต้น จำนวนต้นมะนาวตรงกับข้อใด ก. 36 ต้น ข. 65 ต้น ค. 84 ต้น ง. 96 ต้น 14. ในการผสมน้ำยากำจัดแมลงมีอัตราส่วนดังนี้ ปริมาณน้ำ : ปริมาณยา = 12 : 3 ถ้าใช้ปริมาณยา 60 ลิตร ปริมาณน้ำที่ ใช้ตรงกับข้อใด ก. 150 ลิตร ข. 200 ลิตร ค. 240 ลิตร ง. 300 ลิตร 15. โชว์รูมแห่งหนึ่งมีรถยนต์ต่อรถจักรยานยนต์เป็น 6 : 8 คัน ถ้ารถจักรยานยนต์มี 24 คัน รถยนต์มีกี่คัน ก. 12 คัน ข. 14 คัน ค. 16 คัน ง. 18 คัน ตอนที่ 2 ให้นักเรียนแสดงวิธีทำ 1. ในการผสมกาแฟผงสองชนิด อัตราส่วนของปริมาณกาแฟผงชนิด A ต่อปริมาณกาแฟผงชนิด B เป็น 4 : 3 ถ้า กาแฟผงชนิด A มีน้ำหนัก 28 กรัม แล้วจะมีผงกาแฟชนิด B อยู่กี่กรัม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ธนาคารแห่งหนึ่งให้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 0.5% ต่อปี ถ้าสมหญิงฝากเงินเป็นจำนวน 10,000 บาท ผ่านไป 1 ปี โดยไม่ถอน สมหญิงจะมีเงินในบัญชีทั้งหมดกี่บาท ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


68 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อำเภอศรีบุญเรือง จงหวัดหนองบัวลำภู คำชี้แจง ข้อสอบมี 2 ตอน ตอนที่ 1 เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ จำนวน 15 ข้อ ตอนที่ 2 เป็นแบบอัตนัย จำนวน 2 ข้อ ตอนที่ 1 จงกากบาท (×) ข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ปากกาครึ่งโหลราคา 72 บาท อัตราส่วนของจำนวน ปากกาเป็นด้ามต่อจำนวนเงินเป็นบาทคือข้อใด ก. 72 : 1 2 ข. 1 : 72 ค. 6 : 72 ง. 12 : 72 2. 6 : 7 เท่ากับอัตราส่วนในข้อใด ก. 12 : 18 ข. 18 : 21 ค. 28 : 24 ง. 34 : 36 3. ถ้า a : b = 5 : 4 และ b : c = 3 : 2 แล้ว a : b : c ตรง กับข้อใด ก. 15 : 12 : 8 ข. 5 : 12 : 2 ค. 6 : 12 : 15 ง. 5 : 4 : 2 4. ข้อใดถูกต้อง ก. 3 : 7 = 9 : 14 ข. 94 : 12 = 47 : 4 ค. 11 : 82 = 82 : 11 ง. 48 : 36 = 72 : 54 5. อัตราส่วนในข้อใดต่อไปนี้ไม่เท่ากัน ก. 3 : 7 กับ 42 : 98 ข. 3 : 18 กับ 7 : 42 ค. 6 : 54 กับ 7 : 56 ง. 7 : 15 กับ 63 : 135 6. รูปสามเหลี่ยมรูปหนึ่งมีอัตราส่วนของความยาวของด้าน ทั้งสามเป็น 3 : 6 : 7 ถ้าด้านที่ยาวที่สุดยาว 14 เซนติเมตร จงหาความยาวของด้านทั้งสาม ก. 3 : 6 : 14 ข. 3 : 12 : 7 ค. 9 : 6 : 14 ง. 6 : 12 : 14 7. ถ้า x 15 = 4 3 แล้ว X มีค่าเท่าไร ก. 16 ข. 20 ค. 25 ง. 36 8. จาก 2 : 5 = a : 20 จงหาค่าของ a ก. 6 ข. 8 ค. 10 ง. 14 9. 20% ของเงิน 250 บาท เป็นเงินกี่บาท ก. 25 ข. 35 ค. 45 ง. 50 10. 80% ของคะแนนเต็ม 500 คะแนน เท่ากับกี่คะแนน ก. 100 คะแนน ข. 250 คะแนน ค. 400 คะแนน ง. 450 คะแนน 11. 7 เป็นร้อยละเท่าใดของ 35 ก. ร้อยละ 20 ข. ร้อยละ 14 ค. ร้อยละ 5 ง. ร้อยละ 0.2 12. บอสขับรถออกจากบ้านด้วยความเร็วเฉลี่ย 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาในการเดินทาง 4 ชั่วโมง ถ้าขา กลับบอสขับรถด้วยความเร็วเฉลี่ย 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะใช้เวลาในการขับรถกี่ชั่วโมง ก. ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ข. ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง ค. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง ง. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง


69 13. สวนขนาดหนึ่งมีอัตราส่วนของจำนวนต้นมะม่วงต่อ จำนวนต้นมะนาวเป็น 5 : 2 ถ้าปลูกต้นมะม่วง 240 ต้น จำนวนต้นมะนาวตรงกับข้อใด ก. 36 ต้น ข. 65 ต้น ค. 84 ต้น ง. 96 ต้น 14. ในการผสมน้ำยากำจัดแมลงมีอัตราส่วนดังนี้ ปริมาณน้ำ : ปริมาณยา = 12 : 3 ถ้าใช้ปริมาณยา 60 ลิตร ปริมาณน้ำที่ ใช้ตรงกับข้อใด ก. 150 ลิตร ข. 200 ลิตร ค. 240 ลิตร ง. 300 ลิตร 15. โชว์รูมแห่งหนึ่งมีรถยนต์ต่อรถจักรยานยนต์เป็น 6 : 8 คัน ถ้ารถจักรยานยนต์มี 24 คัน รถยนต์มีกี่คัน ก. 12 คัน ข. 14 คัน ค. 16 คัน ง. 18 คัน ตอนที่ 2 ให้นักเรียนแสดงวิธีทำ 1. ในการผสมกาแฟผงสองชนิด อัตราส่วนของปริมาณกาแฟผงชนิด A ต่อปริมาณกาแฟผงชนิด B เป็น 4 : 3 ถ้า กาแฟผงชนิด A มีน้ำหนัก 28 กรัม แล้วจะมีผงกาแฟชนิด B อยู่กี่กรัม ผงกาแฟชนิด B 4 3 = 28 B กรัม 4 × B = 3 × 28 กรัม B = 3 × 28 4 กรัม B = 21 กรัม ตอบ ผงกาแฟชนิด B มีทั้งหมด 21 กรัม 2. ธนาคารแห่งหนึ่งให้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 0.5% ต่อปี ถ้าสมหญิงฝากเงินเป็นจำนวน 10,000 บาท ผ่านไป 1 ปี สมหญิงจะมีเงินในบัญชีทั้งหมดกี่บาท เงินดอกเบี้ย 1 ปี = 10,000 100 × 0.5 บาท = 100 × 0.5 บาท = 50 บาท เงินทั้งหมดของสมหญิง = 10,000 + 50 บาท = 10,050 บาท ตอบ สมหญิงจะมีเงินในบัญชีทั้งหมด 10,050 บาท แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)


70 โรงเรียน ศรีบุญเรืองวิทยาคาร จังหวัดหนองบัวลำภู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ชื่อครูผู้สอน นายณัฐพงศ์ ลิชผล กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน 2 รหัสวิชา ค21102 ชั้น ............... ปีการศึกษา ...................... คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับความพึงพอใจดังนี้ 5 : มากที่สุด 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : น้อยที่สุด กิจกรรม ความพึงพอใจ 5 4 3 2 1 1. ครูมีการเตรียมการสอน 2. การจัดบรรยากาศห้องเรียนเอื้อต่อการเรียนการสอน 3. เนื้อหาที่สอนทันสมัยนำไปใช้ได้จริง 4. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ชัดเจน 5. กิจกรรมการเรียนการสอนสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนการสอน 6. ครูส่งเสริมให้นักเรียนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม และรายบุคคล 7. ครูส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และร่วมกันอภิปราย 8. กิจกรรมการเรียนสนุกและน่าสนใจ 9. ครูให้โอกาสนักเรียนซักถามปัญหา 10. ครูใช้วิธีการสอนและใช้สื่ออย่างหลากหลาย 11. ครูยอมรับความคิดเห็นของนักเรียน 12. ครูให้ความสนใจแก่นักเรียนอย่างทั่วถึงขณะสอน 13. ครูส่งเสริมให้นักเรียนค้นคว้าหาความรู้จากห้องสมุด อินเทอร์เน็ตหรือแหล่งเรียนรู้อื่นๆ 14. ครูตั้งใจสอน ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่นักเรียนในการทำกิจกรรม 15. ครูมีบุคลิกภาพ การแต่งกายและการพูดจาเหมาะสม 16. ครูเข้าสอนและออกตรงเวลา 17. นักเรียนทราบเกณฑ์การประเมินผลล่วงหน้า 18. นักเรียนมีส่วนร่วมในการประเมินผลการเรียน 19. ครูประเมินผลอย่างยุติธรรม 20. นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข รวมคะแนน รวมทั้งหมด สรุปผลการประเมิน 80- 100 ระดับความพึงพอใจมากที่สุด 70-79 ระดับความพึงพอใจมาก 60 -69 ระดับความพึงพอใจปานกลาง 50-59 ระดับความพึงพอใจน้อย น้อยกว่า 50 ระดับความพึงพอใจน้อยที่สุด


71 ภาคผนวก จ ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง อัตราส่วน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)


72 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 อัตราส่วน เรื่อง อัตราส่วนและการเขียนอัตราส่วน วิชา คณิตศาสตร์ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายณัฐพงศ์ ลิชผล ________________________________________________________________________________ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวขี้วัด มาตรฐาน ค 1.1 ม.1/3 เข้าใจและประยุกต์ใช้อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ ในการแก้ปัญหา คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายเกี่ยวกับอัตราส่วน (K) 2. เขียนอัตราส่วนแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณสองปริมาณ (P) 3. มีความกระตือรือร้น สนใจและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน (A) สาระสำคัญ ความสัมพันธ์ที่แสดงการเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณซึ่งอาจมีหน่วยเดียวกันหรือหน่วยต่างกันก็ได้ เรียกว่า อัตราส่วนถ้าปริมาณของสิ่งแรกเป็น a และปริมาณของสิ่งหลังเป็น b เขียนเปรียบเทียบในรูอัตราส่วน ได้ด้วย a : b หรือ อ่านว่า เอ ต่อ บี สาระการเรียนรู้ อัตราส่วนและการเขียนอัตราส่วน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด - การจำแนก การให้เหตุผล การสรุปความรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา a b


73 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้(การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E) - ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ - นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่พบเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ ข่าวสารต่าง ๆ หรือข้อมูลสถิติต่าง ๆ ที่แสดงปริมาณของสิ่งของอย่างเดียว หรือเปรียบเทียบปริมาณของสิ่งของสองสิ่งขึ้นไป ใน รูปแบบที่เราคุ้นเคยและพบทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น ส่วนผสมของแป้งกับน้ำตาลในเค้ก ใช้แป้ง 8 ส่วน น้ำตาล 3 ส่วน ยาสีฟัน 5 กรัม มีฟลูออไรด์ 0.5 มิลลิกรัม - ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา - นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยใช้คำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ • นักเรียนจะสามารถเขียนสัดส่วนให้อยู่ในรูปแบบใดได้บ้าง - ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป - นักเรียนพิจารณาบัตรภาพการเปรียบเทียบจำนวนของมังคุด 8 ผล และจำนวนของส้ม 15 ผล ดังนี้ จากนั้นนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอัตราส่วน โดยใช้คำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ • จำนวนมังคุดมีทั้งหมดกี่ผล (8 ผล) • จำนวนส้มมีทั้งหมดกี่ผล (15 ผล) • เขียนแสดงเปรียบเทียบจำนวนของมังคุดและจำนวนของส้มได้อย่างไร (8 ต่อ 15) • เรียกจำนวนที่นำมาเปรียบเทียบกับ 8 ต่อ 15 ว่าอะไร (อัตราส่วน) • เขียนสัญลักษณ์แทนอัตราส่วนของจำนวนมังคุดต่อจำนวนส้มได้อย่างไร (8 : 15)


74 - นักเรียนคิดว่า ในการเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณโดยใช้อัตราส่วน ถ้าแทนปริมาณของสิ่งแรกเป็น a และแทนปริมาณของสิ่งหลังเป็น b เขียนเปรียบเทียบในรูปอัตราส่วนได้อย่างไร และอ่านว่าอย่างไร (a : b หรือ อ่านว่า เอ ต่อ บี) - นักเรียนพิจารณาข้อความ แล้วร่วมกันตอบคำถาม ดังนี้ ข้อความ “ไข่ไก่ 4 ฟอง ราคา 10 บาท” • เขียนอัตราส่วนแสดงความสัมพันธ์ได้อย่างไร (อัตราส่วนของจำนวนไข่ไก่เป็นฟองต่อราคาเป็นบาท เป็น 4 : 10) • อัตราส่วน 4 : 10 หมายถึง จำนวนไข่ไก่ 4 ฟอง ราคา 10 บาท ดังนั้น ถ้าเขียนอัตราส่วน เป็น 10 : 4 จะหมายความว่าอย่างไร (จำนวนไข่ไก่ 10 ฟอง ราคา 4 บาท) • อัตราส่วน 4 : 10 กับอัตราส่วน 10 : 4 ใช่อัตราส่วนเดียวกันหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ใช่อัตราส่วนเดียวกัน เพราะการเขียนอัตราส่วนถ้าสลับตำแหน่ง ค่าหรือความหมาย ของอัตราส่วนที่แสดงการเปรียบเทียบนั้นจะเปลี่ยนไป) - นักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปเกี่ยวกับอัตราส่วน ดังนี้ 1. ความสัมพันธ์ที่แสดงการเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณซึ่งอาจมีหน่วยเดียวกันหรือ หน่วยต่างกันก็ได้ เรียกว่า อัตราส่วน 2. ในการเปรียบเทียบปริมาณโดยใช้อัตราส่วน ถ้าปริมาณของสิ่งแรกเป็น a และปริมาณของสิ่ง หลังเป็น b เขียนเปรียบเทียบในรูปอัตราส่วนได้ด้วย a : b หรือ อ่านว่า เอ ต่อ บี 3. ในการเขียนอัตราส่วน ตำแหน่งของปริมาณของสิ่งแรกและปริมาณของสิ่งหลังของอัตราส่วน มีความสำคัญ ถ้าเขียนสลับตำแหน่งค่าของอัตราส่วนจะเปลี่ยนไป - ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ - นักเรียนพิจารณาข้อความบนกระดาน ดังนี้ 1) อัตราครู 1 คน ต่อนักเรียน 30 คน 2) จำนวนนักเรียนชาย 25 คน ต่อนักเรียนหญิง 15 คน 3) ขนม 12 ห่อ ราคา 60 บาท 4) ดินสอ 6 แท่ง ราคา 10 บาท 5) นักกีฬาคนหนึ่งวิ่ง 400 เมตร ใช้เวลา 1.85 นาที จากนั้นผู้แทนนักเรียนออกไปเขียนอัตราส่วนแสดงการเปรียบเทียบบนกระดาน โดยนักเรียน และครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง a b a b


75 - นักเรียนพิจารณาข้อความต่อไปนี้ 1) รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีความกว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร 2) โต๊ะ 1 ตัว ใช้เก้าอี้ 4 ตัว 3) นักเรียน 5 คน ใช้เก้าอี้ 1 ตัว 4) น้ำตาล 3 ช้อน ผสมน้ำ 7 แก้ว จากนั้นนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเขียนอัตราส่วน โดยใช้คำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ • ข้อความในข้อ 1) เขียนเป็นอัตราส่วนได้อย่างไร (ความยาวต่อความกว้าง เท่ากับ 5 : 3 หรือ ความกว้างต่อความยาว เท่ากับ 3 : 5) • ข้อความในข้อ 2) เขียนเป็นอัตราส่วนได้อย่างไร (จำนวนโต๊ะต่อจำนวนเก้าอี้ เท่ากับ 1 : 4 หรือ จำนวนเก้าอี้ต่อจำนวนโต๊ะ เท่ากับ 4 : 1) • ข้อความในข้อ 3) เขียนเป็นอัตราส่วนได้อย่างไร (นักเรียนเป็นคนต่อเก้าอี้เป็นตัว เท่ากับ 5 : 1) • ข้อความในข้อ 4) เขียนเป็นอัตราส่วนได้อย่างไร (น้ำตาลเป็นช้อนต่อน้ำเป็นแก้ว เท่ากับ 3 : 7) • ปริมาณสองปริมาณที่นำมาเปรียบเทียบกันในข้อ 1) และ 2) มีหน่วยเหมือนกันหรือไม่ (เหมือนกัน) • ปริมาณสองปริมาณที่นำมาเปรียบเทียบกันในข้อ 3) และ 4) มีหน่วยเหมือนกันหรือไม่ (ไม่เหมือนกัน) • นักเรียนคิดว่าถ้านำปริมาณสองปริมาณมาเปรียบเทียบกัน แล้วมีหน่วยเหมือนกันหรือ หน่วยต่างกัน การเขียนอัตราส่วนจะต้องเขียนอย่างไร (หน่วยเหมือนกันเขียนโดยไม่ต้องใส่หน่วยกำกับ หน่วยต่างกันใส่หน่วยกำกับไว้ด้วย) - ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน - นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน รับแถบข้อความ กลุ่มละ 2 แถบ แล้วเขียนสถานการณ์เกี่ยวกับ อัตราส่วนแสดงปริมาณสองปริมาณที่มีหน่วยเหมือนกันและปริมาณที่มีหน่วยต่างกันลงในกระดาษเปล่า สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 ของสถาบันพัฒนา คุณภาพวิชาการ (พว.) 2. สไลด์ประกอบการสอน


76 กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์ เครื่องมือ วิธีการวัด เกณฑ์การวัด และประเมินผล 1. อธิบายเกี่ยวกับอัตราส่วน (K) แบบประเมินความ เข้าใจ - การสนทนา โต้ตอบในชั้นเรียน ผ่านระดับ ดีขึ้นไป 2. เขียนอัตราส่วนแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณสองปริมาณ (P) แบบประเมินเรื่อง การเขียนอัตราส่วน - ตรวจใบงาน - การตอบคำถาม ในชั้นเรียน ผ่านระดับ ดีขึ้นไป 3. มีความกระตือรือร้น สนใจและเข้า ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน (A) แบบสังเกตุความ กระตือรือร้นในการ เรียนรู้ - การสังเกต พฤติกรรม ผ่านระดับ ดีขึ้นไป แบบประเมินความเข้าใจ รายการ ประเมิน ระดับการประเมิน ดีมาก ดี ปานกลาง พอใช้ ปรับปรุง อธิบาย เกี่ยวกับ อัตราส่วน อธิบายเกี่ยวกับ อัตราส่วนได้ ถูกต้องและ ยกตัวอย่างได้ อธิบาย เกี่ยวกับ อัตราส่วนได้ ถูกต้อง อธิบายเกี่ยวกับ อัตราส่วนได้แต่ ยังมีจุดที่ผิด เล็กน้อย อธิบายเกี่ยวกับ อัตราส่วนได้แต่ ยังมีจุดที่ผิดเยอะ ไม่สามารถ อธิบายเกี่ยวกับ อัตราส่วนได้ เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินต้องไม่ต่ำกว่า ระดับ ดี ถึงจะถือว่าผ่าน


77 แบบประเมินใบงานเรื่อง การเขียนอัตราส่วนแสดงความสัมพันธ์ รายการ ประเมิน ระดับการประเมิน ดีมาก ดี ปานกลาง พอใช้ ปรับปรุง เขียนอัตราส่วน แสดง ความสัมพันธ์ ระหว่าง ปริมาณสอง ปริมาณ เขียนอัตราส่วน แสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณ สองปริมาณได้ ถูกต้องและ อธิบายได้ เขียนอัตราส่วน แสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณ สองปริมาณได้ ถูกต้อง เขียนอัตราส่วน แสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณ สองปริมาณได้ แต่ยังมีจุดที่ผิด เล็กน้อย เขียนอัตราส่วน แสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณ สองปริมาณได้ แต่ยังมีจุดที่ผิด เยอะ ไม่เขียน อัตราส่วนแสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณ สองปริมาณได้ เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินต้องไม่ต่ำกว่า ระดับ ดี ถึงจะถือว่าผ่าน


78 แบบสังเกตความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ รายการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก ดี ปานกลาง พอใช้ ปรับปรุง ความสนใจ ต่อสิ่งที่ครู นำเสนอ นักเรียนฟังครู นำเสนอความรู้อย่าง ตั้งใจและและจด บันทึกสาระสำคัญ นักเรียนฟัง ครูนำเสนอ ความรู้อย่าง ตั้งใจ นักเรียนฟังครู นำเสนอความรู้ เป็นหลักแต่ยังให้ ความสนใจอย่าง อื่นด้วย นักเรียนฟังครู นำเสนอความรู้ แต่ยังคงให้ความ สนใจสิ่งอื่นเป็น หลัก นักเรียนไม่ สนใจการ นำเสนอ ความรู้ของครู เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินต้องไม่ต่ำกว่า ระดับ ดี ถึงจะถือว่าผ่าน สไลด์ประกอบการสอน


79 บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ............................................ผู้สอน (นายณัฐพงศ์ ลิชผล) ครูผู้สอน


80 แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ คำชี้แจง : ให้ทำเครื่องหมาย ✔ ลงในช่องผลการประเมินที่เป็นความจริงที่สุด เลขที่ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : แสดงพฤติกรรมมีความมุ่งมั่นในการทำงาน คะแนนที่ได้ ผลการประเมิน 4 3 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27


81 เลขที่ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : แสดงพฤติกรรมมีความมุ่งมั่นในการทำงาน คะแนนที่ได้ ผลการประเมิน 4 3 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 เกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี(ผ่านการประเมิน) 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง จำนวนนักเรียนที่ผ่าน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ..... คน คิดเป็นร้อยละ ..... จำนวนนักเรียนที่ไม่ผ่าน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ..... คน คิดเป็นร้อยละ ..... ลงชื่อ ………………………………………......ผู้ประเมิน (นายณัฐพงศ์ ลิชผล) วันที่.............เดือน.......................พ.ศ...............


82 ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของครูพี่เลี้ยง องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วน ควรปรับปรุง ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ครบถ้วน ควรปรับปรุง เนื้อหา สาระการเรียนรู้ ครบถ้วน ควรปรับปรุง กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วน ควรปรับปรุง สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ครบถ้วน ควรปรับปรุง การวัดและประเมินผล ครบถ้วน ควรปรับปรุง ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม............................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. .................................................. ลงชื่อ........................................................... (ว่าที่ ร.ต.วุฒิไกร มูลคาย) ครูพี่เลี้ยง ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ เหมาะสมกับวัยผู้เรียน เห็นควรใช้จัดการเรียนการสอนได้ ไม่เหมาะสมใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน เห็นควรแก้ไข ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม.......................................................................................................... .................................... ............................................................................................................................. .................................................. ลงชื่อ......................................................... (นายสุขุม อะโนวัน) หัวหน้ากลุ่มสาระฯ ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ เหมาะสมกับวัยผู้เรียน เห็นควรใช้จัดการเรียนการสอนได้ ไม่เหมาะสมใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน เห็นควรแก้ไข ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม.......................................................................................................... .................................... ............................................................................................................................. .................................................. ลงชื่อ......................................................... (นายวิสันต์ จันละคร) ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ


83 ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ อนุมัติให้ใช้สอน ไม่อนุมัติให้ใช้สอน ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม.......................................................................................................... .................................... ............................................................................................................................. .................................................. ลงชื่อ......................................................... (นางภัทราวดี ศรีโนนยาง) รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ


84 ประวัติผู้วิจัย ชื่อ – สกุล : นายณัฐพงศ์ ลิชผล อายุ : 22 ปี เกิดวันที่ : 5 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2544 สัญชาติ : ไทย เชื้อชาติ : ไทย ศาสนา : พุทธ ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 145 หมู่ 2 ตำบลนากอก อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู 39180 เบอร์โทรศัพท์ : 0967539144 ประวัติการศึกษา : ลำดับ ระดับการศึกษา ชื่อสถานศึกษา จังหวัด พ.ศ. 1 ประถมศึกษา โรงเรียนบ้านโคกล่าม หนองบัวลำภู 2551 – 2556 2 มัธยมศึกษา โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร หนองบัวลำภู 2557 – 2562 3 อุดมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี อุดรธานี 2563 - ปัจจุบัน


Click to View FlipBook Version