The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ปฏิกิริยาเคมีและวัสดุในชีวิตประจำวัน
รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายนาคนครา เหลนปก, 2021-03-04 11:00:41

ปฏิกิริยาเคมีและวัสดุในชีวิตประจำวัน

ปฏิกิริยาเคมีและวัสดุในชีวิตประจำวัน
รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละวสั ดุ
ในชวี ิตประจาวัน

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3

ปฏกิ ริ ิยาเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ิตประจาวนั

จากภาพนกั เรยี นวิเคราะห์
ไดว้ า่ นา่ จะเกย่ี วขอ้ งอะไร

กบั หน่วยการเรียนน้ี

ปฏกิ ริ ิยาเคมแี ละวัสดุในชวี ติ ประจาวัน

ยาง เป็นวัสดุประเภทหน่ึงที่ใช้กันอย่างแพร่หลายใน

ชีวิตประจาวัน ถ้าแบ่งยางตามแหล่งกาเนิดจะแบ่งได้เป็น 2
กลุ่ม คือยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ ยางธรรมชาติได้มา
จากต้นยางพาราซ่ึงสามารถนาไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น
ถุงมือยาง ลูกโป่ง โดยยางธรรมชาติมีข้อจากัดบางประการ เช่น
เส่ือมสภาพได้ง่ายเม่ือได้รับความร้อน ส่วนยางสังเคราะห์ได้มา
จากการทาปฏิกิริยาเคมีของสารที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม
ยางเหล่านี้ทนทานต่อการขัดถูและการสึกกร่อน ปัจจุบันการใช้
ยางสังเคราะห์เป็นที่นิยมอยา่ งแพร่หลายทั้งในอุตสาหกรรมยาง
รถยนต์ การผลิตสายพาน ฉนวนหุ้มสายไฟ และผลิตภัณฑ์
ทางการแพทย์ เปน็ ตน้

ปฏิกริ ยิ าเคมีและวัสดุในชวี ิตประจาวนั

จากภาพนักเรยี นวิเคราะห์
ไดว้ า่ น่าจะเกย่ี วข้องอะไร

กับหน่วยการเรียนน้ี

ปฏกิ ิรยิ าเคมแี ละวัสดใุ นชีวิตประจาวัน

1

ขณะที่ชมพลใุ นงานเฉลมิ ฉลองต่าง ๆ
นักเรียนสงั เกตพบอะไรบา้ ง

2

แสงสจี ากการจุดพลเุ กดิ ขึ้นไดอ้ ย่างไร

3

สงิ่ ท่นี ักเรียนมองเหน็ เกย่ี วขอ้ งกบั การ
เกิดปฏิกริ ยิ าเคมหี รือไม่ อยา่ งไร

ปฏิกริ ิยาเคมแี ละวสั ดุในชีวิตประจาวนั

ตอ้ งจานะคะ

สอบท่อง
ออนไลน์

ปฏิกริ ยิ าเคมีและวัสดใุ นชวี ิตประจาวนั

กจิ กรรม

1 ใหน้ ักเรยี นค้นคว้าหาความรู้เก่ยี วกับการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมีของพลุ
ทั้งบอกสารประกอบของธาตทุ ีส่ ามารถพบได้

ลิงค์ใบกจิ กรรม Site :

ปฏิกิริยาเคมแี ละวัสดใุ นชีวติ ประจาวัน

พลุ รู้หรือไม่ว่าแสงสีจากการจุดพลุเป็นผลจากปฏิกิริยาเคมี โดยใช้ดินปืนผสมกับสารประกอบของธาตุต่าง ๆ

ซึ่งเมอื่ เผาไหมจ้ ะทาใหเ้ กดิ แสงสีตามชนดิ ของธาตใุ นสารประกอบนน้ั ๆ เช่น

สตรอนเทียม ทองแดง แบเรยี ม

ปฏิกริ ิยาเคมีและวัสดใุ นชีวติ ประจาวนั

พลุ นอกจากน้ียังมีสารประกอบของธาตทุ ี่ให้สมบัตอิ ืน่ ๆ เมอ่ื เกิดการเผาไหม้ เช่น

แมกนีเซยี ม พลวง สงั กะสี

ให้แสงสวา่ งจา้ ให้แสงแวววาวระยบิ ระยบั ทาให้เกิดควนั

ปฏิกิริยาดูดความรอ้ น การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี กฎทรงมวล

ปฏกิ ิริยาเคมี สารต้ังตน้
สมการข้อความ ปฏิกริ ยิ าคายความรอ้ น

ผลติ ภัณฑ์

การเกดิ ปฏิกิริยาเคมี

จากภาพนกั เรยี นวิเคราะห์ไดว้ ่านา่ จะเกี่ยวขอ้ งอะไรกับหน่วยการเรยี นน้ี

การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี น้ายาซักผา้ ขาว

เป็นผลิตภัณฑ์ทาความสะอาดเส้ือผ้าท่ีช่วยขจัดคราบ
สกปรกจากคราบหมึก อาหาร เคร่ืองด่ืม และอ่ืน ๆ เพื่อให้
เส้ือผ้ายังคงขาวสะอาด ซึ่งในน้ายาซักผ้าขาวมีสารท่ีเป็น
องคป์ ระกอบสาคัญ คือ “โซเดียมไฮโปคลอไรด์” ซ่งึ จะเกิดการ
เปล่ียนแปลงทางเคมีหรือเกิดปฏิกิริยาเคมีกับคราบสกปรก ทา
ใหค้ ราบสกปรกเหล่านน้ั หลุดออกจากเสื้อผา้ ได้

นักเรียนคิดว่าการเกิดปฏิกิริยาเคมีจะทาให้สาร
เปลี่ยนแปลงอย่างไร และทราบได้อย่างไรว่ามีปฏิกิริยาเคมี
เกดิ ขนึ้

ทบทวนก่อนเรยี น การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี
ประเภทของสารและการเปลย่ี นแปลง

สารและสมบัติของสาร
สสาร (Matter) หมายถึง ส่ิงที่มีมวลต้องการที่อยู่และสามารถสัมผัสได้โดยประสาทสัมผัสทั้ง 5 เช่น ดิน น้า

อากาศ ฯลฯ ภายในสสารท่ีเป็นเนอ้ื ของสสาร เรยี กว่า สาร (Substance)
สาร (Substance) คือ สสารที่ทราบสมบัติหรือสสารท่ีจะศึกษา ดังน้ันจึงเป็นสสารที่เฉพาะเจาะจง ซ่ึงจะมี

สมบตั ิของสาร 2 ประเภท คือ
- สมบัติกายภาพ (Physical Property) หมายถึง สมบัติที่สังเกตได้จากลักษณะภายนอกและเกี่ยวกับวิธีการ

ทางฟิสกิ ส์ เช่น ความหนาแน่น, จุดเดอื ด, จดุ หลอมเหลว
- สมบัติทางเคมี (Chemistry Property) หมายถึง สมบัติท่ีเกิดข้ึนจากกการทาปฏิกิริยาเคมี เช่น การติดไฟ,

การเปน็ สนมิ , ความเป็นกรด - เบส ของสาร

การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
ประเภทของสารและการเปลย่ี นแปลง

ทบทวนกอ่ นเรียน

การเปลย่ี นแปลงสาร แบง่ ออกเปน็ 2 รปู แบบ คือ
- การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ (Physical Change) หมายถึง การเปล่ียนแปลงของสารท่ีเก่ียวกับสมบัติ

กายภาพ โดยไมม่ ผี ลตอ่ องค์ประกอบภายในและไม่เกิดสารใหม่ เชน่ การเปลย่ี นสถานะ, การละลายน้า
- การเปล่ียนแปลงทางทางเคมี (Chemistry Change) หมายถึง การเปล่ียนแปลงของสารที่เกี่ยวข้องกับสมบัติ

ทางเคมีซึ่งมีผลต่อองค์ประกอบภายในและจะมีสมบัติต่างไปจากเดิม น่ันคือ การเกิดสารใหม่ เช่น กรดเกลือ (HCl) ทา
ปฏกิ ริ ิยากบั ลวดแมกนเี ซยี ม (Mg) แลว้ เกิดสารใหม่ คือ ก๊าซไฮโดรเจน (H2)

Site : การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
ประเภทของสารและการเปลยี่ นแปลง
ทบทวนกอ่ นเรยี น

ใหน้ ักเรียนเลือกขอ้ ความใน
แต่ละข้อ เพ่ือระบุว่าภาพใด
เ ป็ น ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ท า ง
กายภาพหรือการเปล่ียนแปลง
ทางเคมี

ใบกิจกรรม

การเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี

การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ

สาหรับการต้มน้า ถ้าพิจารณาเปลวไฟที่ให้

ความรอ้ นแก่กาต้มน้า จะจัดเป็นการเปล่ียนแปลง

ทางเคมี (ปฏิกิริยาการเผาไหม้) แต่ถ้าพิจารณาที่

ก า ร ก ล า ย เ ป็ น ไ อ ข อ ง น้ า จ ะ จั ด เ ป็ น ก า ร

เปล่ยี นแปลงทางกายภาพ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี

ความรู้เพม่ิ เติม

• ในการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี จานวนหรือชนิดของอะตอมอาจจะเปล่ยี นแปลงไป (Mondal & Chakraborty, 2013)
• ในการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี มวลรวมของสารหลงั เกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมอี าจเพ่มิ ขึ้นหรอื ลดลง (Ozmen & Ayas, 2003)
• เมื่ออุณหภูมิของสารเปล่ียนแปลง แสดงว่ามปี ฏิกิริยาเคมเี กิดข้นึ (การติดตามผลการทดลองใช้หนังสือเรียน สสวท., 2562)

การเกิดปฏิกริ ิยาเคมี

กจิ กรรมการทดลอง

การเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมเี ปน็ อยา่ งไร

Ca + C + 3O CaCO3 กจิ กรรม

การเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี การเกิดปฏิกิรยิ าเคมีเปน็ อยา่ งไร

สงั เกตและอธบิ ายการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมโี ดยใชแ้ บบจาลอง จดุ ประสงค์

ดังน้ัน การเกิดปฏิกิริยาเคมีเป็นการ วสั ดแุ ละอุปกรณ์
เปลี่ยนแปลงที่ทาให้เกิดสารใหม่ โดยอาจ 1. แคลเซยี มคาร์บอเนต CaCO3
สังเกตได้จากการเปล่ียนสี กลิ่น หรืออุณหภูมิ
มีฟองแก๊สหรือมีตะกอนเกิดข้ึน บางคร้ังการ HCl 2. สารละลายกรดไฮโดรคลอริกหรือสารละลายกรดเกลอื
เปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่สังเกตเห็น อาจไม่มี
ปฏิกิริยาเคมีเกิดข้ึน เช่น การเปล่ียนสีเม่ือผสม 3. บีกเกอรข์ นาด 50 cm3
น้าหวานกับน้าที่เป็นเพียงแค่การเปล่ียนทาง
กายภาพเทา่ น้ัน 4. กระบอกตวงขนาด 10 cm3

5. ช้อนตักสารเบอรส์ อง ใบกิจกรรม

6. หลอดทดลองขนาดใหญ่

7. ทวี่ างหลอดทดลอง

8. แว่นตานิรภยั

H + Cl HCl 9. ถุงมอื ยาง

การเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี

กิจกรรม การเกดิ ปฏิกิริยาเคมเี ปน็ อย่างไร

วิธกี ารดาเนนิ กจิ กรรม

1. ตักแคลเซียมคาร์บอเนตปริมาณ 1 ชอ้ นเบอร์สอง ลงใน

หลอดทดลองขนาดใหญ่ สงั เกตลกั ษณะสารและบนั ทึกผล

2. รนิ สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ ปรมิ าณ 10 cm3 ลงใน คาถามท้ายกิจกรรม

บกี เกอร์ สงั เกตลักษณะสารและบันทึกผล

3. รินสารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ ลงในแคลเซียม 1. การเปล่ยี นแปลงที่เกิดขึ้นเป็นการเกิดปฏิกิริยาเคมี

คาร์บอเนต เขยา่ สังเกตการเปล่ยี นแปลงและบันทึกผล หรือไม่ ทราบไดอ้ ย่างไร

4. สบื คน้ สารที่เกิดข้ึนท้งั หมดจากการเปล่ยี นแปลงและ 2. สารท่ีเกิดขึ้นจากการเปล่ียนแปลงดังกล่าวมีสาร

บันทกึ ผล ใดบ้าง

5. นาเสนอขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการทากิจกรรมและการสืบคน้ 3. ใช้แบบจาลองอธบิ ายการเปล่ยี นแปลงนไี้ ดอ้ ยา่ งไร

โดยใช้แบบจาลองอธบิ ายการเปล่ียนแปลงท่เี กดิ ขนึ้ 4. จากกิจกรรม สรุปไดว้ า่ อย่างไร

การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี การเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมีเปน็ อยา่ งไร กจิ กรรม

ข้อสรุปจากกิจกรรมในคร้ังน้ี

CaCO3 (s) HCl (aq) เม่ือผสมแคลเซียมคาร์บอเนตกับสารละลายกรด
CaCl2 (aq) ไฮโดรคลอริกจะมีการเปลี่ยนแปลงท่ีทาให้เกิดสารใหม่ คือ
แคลเซียมคลอไรด์ น้า และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ การ
เปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นผลจากการเกิดปฏิกิริยาเคมี
(chemical reaction) ซ่ึงสามารถใช้แบบจาลองในการอธิบาย
ปฏกิ ิรยิ าท่เี กดิ ขนึ้ ได้

การเกิดปฏิกิริยาเคมี การเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมีเปน็ อย่างไร กิจกรรม

แคลเซียมคารบ์ อเนต CaCO3 (s) ขอ้ สรปุ จากกิจกรรมในครัง้ น้ี

แคลเซยี มคาร์บอเนต (calcium carbonate หรือ CaCO3) พบมากใน
หนิ ปูน หินงอก หินย้อย แคลเซยี มคาร์บอเนตสามารถนามาใช้ประโยชน์ได้อยา่ ง
กว้างขวางนอกจากนามาใช้ในยาลดกรดแล้วยังใช้ผลิตสารต่างๆ เช่น ปูนขาว
ปนู ซีเมนต์ ปูนยาแนวกระเบื้องสารท่ีมีแคลเซยี มคาร์บอเนตเป็นองค์ประกอบ เมื่อ
สัมผสั กับสารที่มีสมบัตเิ ป็นกรดแคลเซียมคาร์บอเนตจากกร่อนบางลงและเกิดฟอง
แก๊สไม่มีสี การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากแคลเซียมคาร์บอเนตสัมผัสกับกรดเป็นการ
เกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี (chemical reaction) เพราะเป็นการเปลยี่ นแปลงท่ีมีสารใหม่
เกิดขึ้น โดยการอธิบายปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นสามารถใช้แบบจาลองที่เป็นสมการ
ข้อความ (word equation) ซึ่งเขียนแสดงสารท่ีเข้าทาปฏิกิริยาหรือสารตงั้ ต้น
(reactant)และสารใหม่ท่ีเกิดขึ้นหรือท่ีเรียกว่าผลิตภัณฑ์(product) เช่น
ปฏิกิริยาเคมใี นกิจกรรมการทดลองสามารถเขยี นสมการขอ้ ความไดด้ ังนี้

การเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมีเปน็ อยา่ งไร กิจกรรม

ขอ้ สรปุ จากกจิ กรรมในครงั้ น้ี

แคลเซยี มคารบ์ อเนต กรดไฮโดรคลอรกิ แคลเซียมคลอไรด์ คารบ์ อนไดออกไซด์ น้า

CaCO3 (s) HCl (aq) CaCl2 (aq) CO2 (g) H2O(l)

ทาปฏิกิริยาเคมี ใบกจิ กรรม

สารต้ังตน้ ผลิตภัณฑ์

การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

กิจกรรมเสริม ทดสอบแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ไดอ้ ย่างไร

วิธีการ

การทดสอบแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (carbon dioxide
หรือ CO2) ทาได้โดยผ่านแก๊สลงในสารละลายแคลเซียมไฮ
ดรอกไซด์หรือน้าปูนใส ถ้าน้าปูนใสขุ่น แสดงว่าแก๊สนั้นเป็น
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เนื่องจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ทาปฏิกิริยากับสารละลายแคลเซียมไฮดรอกไซด์ได้ตะกอนสี
ขาวขุ่นของแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งเขียนสมการข้อความได้
อยา่ งไร

แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ + แคลเซเยี ฉมลไยฮคดารตออกบไซด์ → แคลเซยี มคาร์บอเนต + น้า

การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี กจิ กรรมเสริม กรดทาปฏิกิรยิ ากบั เปลอื กไขห่ รอื ไม่

ศกึ ษาสอ่ื การเรยี นการสอนรปู แบบวิดีโอ พรอ้ มตอบคาถามดังต่อไปน้ี

การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี เมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมี อะตอม
ของสารตั้งต้นจะแยกตัวออกจากกัน
แล้วจัดเรียงตัวใหม่ ได้ผลิตภัณฑ์ซึ่ง
สามารถแสดงได้ด้วยแบบจาลอง เช่น
แบบจาลองแสดงการจัดการเรียงตัวใหม่
ของอะตอมในปฏิกิริยาเคมีระหว่างกรด
ไฮโดรคลอรกิ กบั แคลเซียมคารบ์ อเนต

เม่ือเกิดปฏิกิริยาเคมี อะตอม
จะไม่สูญหายหรือเกิดข้ึนใหม่ มีเพียง
การจัดเรียงตัวกันใหม่ดังน้ันอะตอมแต่
ละชนิดก่อนและหลังเกิดปฏิกิริยาเคมี
จงึ มจี านวนเท่าเดิม

การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี

การเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี

กจิ กรรมการทดลอง

มวลรวมของสารก่อนและหลังเกิดปฏิกริ ยิ าเคมเี ปน็ อย่างไร

นักเรียนคิดว่าการท่ีอะตอมของธาตุก่อนและหลังเกิดปฏิกิริยาเคมีมีจานวนเท่าเดิมจะทาให้มวลรวมของ
สารก่อนและหลังเกิดปฏิกริ ยิ าเคมมี ีคา่ เทา่ เดิมดว้ ยหรอื ไม่ อยา่ งไร

การเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี มวลรวมของสารก่อนและหลังเกิดปฏิกิริยาเคมเี ปน็ อย่างไร กจิ กรรม

วธิ กี ารดาเนนิ กจิ กรรม จุดประสงค์ สังเกตและเปรียบเทียบมวลรวมของสารก่อนและหลงั เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

วัสดุและอปุ กรณ์

1. ชั่งภาชนะและอปุ กรณท์ ้งั หมดท่ใี ชใ้ นกจิ กรรม อา่ นค่ามวลและบนั ทึกผล 1. สารละลายโซเดียมคาร์บอเนต

2. รนิ สารละลายแคลเซียมคลอไรดโ์ รงเรยี นที่ 1 ประมาณ 1 ใน 3 ของหลอด 2. สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ หรือสารละลายกรดเกลือ

และรินสารละลายโซเดียมคารบ์ อเนตปรมิ าณเทา่ กันในหลอดทดลองที่ 2 3. สารละลายแคลเซยี มคลอไรด์

สังเกตลกั ษณะสารและบันทึกผล 4. แคลเซยี มคาร์บอเนตแบบเม็ด

3. ปดิ หลอดทดลองทงั้ สองดว้ ยจุกยาง นาหลอดทดลองท้งั สองใสใ่ นบีกเกอร์ 5. บีกเกอร์ขนาด 250 cm3

แล้วช่ังมวลรวมอีกคร้งั อ่านคา่ มวลและบนั ทกึ ผล 6. ชอ้ นตักสารเบอรห์ นึ่ง

4. รนิ สารละลายแคลเซยี มคลอไรดจ์ ากหลอดทดลองที่ 1 ลงในสารละลาย 7. หลอดทดลองขนาดใหญ่

โซเดยี มคารบ์ อเนตในหลอดท่ี 2 เขย่า แลว้ ปิดดว้ ยจุกยาง สังเกตการ 8. จุกยางเบอร์ 10

เปลี่ยนแปลงและบนั ทกึ ผล 9. เครอ่ื งชั่ง

5. ชัง่ มวลรวมของผลติ ภณั ฑท์ เ่ี กิดขนึ้ พร้อมภาชนะและอปุ กรณท์ ้งั หมดท่ีใช้ 10. ถุงมอื ยาง

ในกจิ กรรม อ่านค่ามวลและบันทึกผล 11. แวน่ ตานิรภัย

การเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี มวลรวมของสารกอ่ นและหลงั เกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมเี ป็นอยา่ งไร กจิ กรรม
ตัวอย่างกิจกรรมการทดลอง

การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี มวลรวมของสารก่อนและหลังเกดิ ปฏิกิริยาเคมีเป็นอยา่ งไร กจิ กรรม
ตอนท่ี 1 มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี

การเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี มวลรวมของสารกอ่ นและหลงั เกิดปฏิกิริยาเคมีเป็นอย่างไร กิจกรรม

ตอนท่ี 2 มวลรวมของสารก่อนและหลังเกิดปฏกิ ิริยาเคมเี มอื่ ผลิตภณั ฑ์ทีไ่ ด้เป็นแก๊ส

วิธีการดาเนนิ กจิ กรรม

1. ช่งั ภาชนะและอุปกรณท์ ้งั หมดทใ่ี ชใ้ นกิจกรรม อ่านค่ามวลและบนั ทึกผล
2. รินสารละลายแคลเซียมคลอไรดโ์ รงเรยี นที่ 1 ประมาณ 1 ใน 3 ของหลอด

และรินสารละลายโซเดียมคาร์บอเนตปริมาณเทา่ กันในหลอดทดลองที่ 2
สงั เกตลักษณะสารและบันทกึ ผล
3. ปิดหลอดทดลองทงั้ สองด้วยจุกยาง นาหลอดทดลองทงั้ สองใสใ่ นบีกเกอร์
แล้วชั่งมวลรวมอีกครง้ั อ่านคา่ มวลและบนั ทึกผล
4. รนิ สารละลายแคลเซยี มคลอไรดจ์ ากหลอดทดลองที่ 1 ลงในสารละลาย
โซเดยี มคาร์บอเนตในหลอดที่ 2 เขยา่ แล้วปดิ ด้วยจุกยาง สังเกตการ
เปลี่ยนแปลงและบันทึกผล
5. ชั่งมวลรวมของผลติ ภณั ฑท์ ่ีเกดิ ข้นึ พร้อมภาชนะและอปุ กรณท์ ั้งหมดท่ใี ช้
ในกิจกรรม อา่ นคา่ มวลและบันทกึ ผล


Click to View FlipBook Version