บุบุค บุ ค บุ คลสำสำ สำสำ คัคัญ คั ญ คั ในสมัมัย มั ย มั อยุยุธ ยุ ธ ยุ ยา 10 บุบุค บุ ค บุ คล Important people in the Ayutthaya period
จดหมายเหตุโตุหรระบุว่าว่พระเจ้าจ้อู่ทองรามาธิบธิดีเสด็จพระราชสมภพวันวัจันจัทร์ ขึ้นขึ้ 8 ค่ำ เดือน 5 ปีขปีาล จ.ศ. 676 (ตรงกับปี พ.ศ. 1857) ได้ทรงสถาปนาเมือมืงหลวงขึ้นขึ้ ในบริเริวณที่หนอง โสนเมื่อมื่จ.ศ. 712 ปีขปีาล โทศก วันวัศุกร์ขึ้ร์นขึ้ 6 ค่ำ เดือน 5 เวลา 3 นาฬิกา 9 บาท ตรงกับวันวัศุกร์ที่ร์ ที่ 4 มีนมีาคม พ.ศ. 1893 เมื่อมื่ ครองราชย์ไย์ด้รับรัเฉลิมพระปรมาภิไธยว่าว่สมเด็จพระรามาธิบธิดี ศรีสุรีนสุทรบรมบพิตพิรพระพุทธเจ้าจ้อยู่หัยู่ หัว ถึงปีรปีะกา พ.ศ. 1912 เสด็จสวรรคต อยู่ใยู่นราชสมบัติบั ติ20 ปี แต่ไม่ปม่รากฏแน่ชัน่ดชัว่าว่พระองค์พระราชสมภพที่ไหน และ มาจากเมือมืงไหน เอกสารทางประวัติวั ติศาสตร์แร์ละนักนั ประวัติวั ติศาสตร์ทั้ร์ ทั้งไทยและต่างประเทศขัดขัแย้งย้กัน โดยมีข้มีอข้ สันสันิษนิฐานเกี่ยวกับที่มาของพระเจ้าจ้อู่ทอง การศาสนา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้าร้งวัดวัต่าง ๆ เช่นช่วัดวัพุ ทไธศวรรย์ (สร้าร้งปี พ.ศ. 1876) วัดวั ป่าป่แก้ว (สร้าร้งปี พ.ศ. 1900) และวัดวัพระราม (สร้าร้งปี พ.ศ. 1912) สมเด็จพระรามาธิบธิดีที่ 1 หรือรืพระเจ้าจ้อู่ทอง เป็นปฐมกษัตริย์ริแย์ห่งห่ อาณาจักจัรอยุธยา ครองราชย์รย์ะหว่าว่ง พ.ศ. 1893 ถึง พ.ศ. 1912 ทรงพระนามว่าว่พระเจ้าจ้อู่ทองก่อนเสด็จขึ้นขึ้ครองราชย์ใย์นปี พ.ศ. 1893 มีหมีลายทฤษฎีเกี่ยวกับภูมิภูหมิลังของพระเจ้าจ้อู่ทอง รวมทั้งทั้ อาจเป็นเชื้อชื้สายของพ่อพ่ขุนมังมัราย
I โปรดให้มีการปฏิรูประบบบริหารราชการแผ่นดินขึ้นให้เป็น ระเบียบใหม่ พลเมืองฝ่ายทหารตั้งอธิบดีเป็นผู้บริหารราชการ เป็น "สมุหพระกลาโหม" และพลเมืองฝ่ายพลเรือนตั้งอธิบดีผู้ บริหารราชการเป็น "สมุหนายก" ทั้งสองตำ แหน่งนี้ให้มี ตำ แหน่งเป็น "อัครมหาเสนาบดี" รับสนองพระราชกิจเหนือ ขุนนางชั้นรองลงไปด้วย พระราชกรณียกิจด้านการปกครองประกอบด้วยการจัด ระเบียบการปกครองส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อันเป็น แบบแผนซึ่งยึดสืบต่อกันมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว[11] และการตราพระราชกำ หนดศักดินา ซึ่งทำ ให้มีการแบ่งแยกสิทธิ และหน้าที่ของแต่ละบุคคลแตก ต่างกันไป[12] โดยทรงเห็นว่ารูปแบบการปกครองนับตั้งแต่ รัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 มีความหละหลวม หัวเมือง ต่าง ๆ เบียดบังภาษีอากร และปัญหาการแข็งเมืองในบางช่วง ที่พระมหากษัตริย์อ่อนแอ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงปฏิรูปการปกครองโดยมีการ แบ่งงานฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือนออกจากกันอย่างชัดเจน ให้สมุหพระกลาโหมดูแลฝ่ายทหาร และให้สมุหนายกดูแลฝ่าย พลเรือน รวมทั้งจตุสดมภ์ในราชธานี สมเด็จด็พระบรมไตรโลกนาถ ด็จด็พระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระรามาบบรมไตรโลกนาถ มหามงฎเทพย มนุษย์ บริสุทธิสุริยวงองทธางรบรมบตร ทรงเน พระมหากษัตริย์พระอง8 แง อาณากรอธยา และ พระองค์ที่ 5 แห่ง ราชวงพรรณระหาง พ.ศ. 1991 ถึง พ.ศ. 2031 พระองทรงเนพระมหากต1
สมเด็จ ด็ พระนเรศวรมหาราช หรือรื สมเด็จด็พระสรรเพชญ์ที่ญ์ ที่2 เป็นป็พระมหากษัตษัริย์ริพย์ระองค์ที่ค์ ที่18 แห่งห่อาณาจักจัร อยุธยา และพระมหากษัตษัริย์ริพย์ระองค์ที่ค์ ที่2 แห่งห่ราชวงศ์สุศ์สุโขทัยทัพระองค์ทค์รงเป็นป็กษัตษัริย์ริ ย์ แห่งห่อาณาจักจัรอยุธยาตั้งตั้แต่ปีต่ ปี2133 และเป็นป็เจ้าจ้เหนือนืแผ่นดินดิล้านนาตั้งตั้แต่ปีต่ ปี2145 จน เสด็จด็สวรรคตในปี 2148 สมเด็จด็พระนเรศวรทรงเป็นป็กษัตษัริย์ริพย์ระองค์หค์นึ่งนึ่ที่ไที่ด้รับรัความ เคารพนับนัถือถืมากที่สุที่สุดในประเทศไทย ปกครองเมืองพิษณุโลก หลังจากพระเจ้าบุเรงนองตีกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2112 มะเส็งศก วันอาทิตย์ เดือน 9 แรม 11 ค่ำ และได้สถาปนาสมเด็จพระมหาธรรมราชาครองกรุงศรีอยุธยาในฐานะประเทศราชของหงสาวดีแล้ว พระองค์ได้หนีกลับ มายังกรุงศรีอยุธยาโดยที่พระเจ้าบุเรงนองทรงยินยอมอันเนื่องมาจากพระ สุพรรณกัลยาทรงขอไว้ เมื่อเสด็จกลับมาถึงกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2115 สมเด็จพระมหาธรรมราชาพระราชทานนามให้พระองค์ว่า "พระนเรศวร" และโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระมหาอุปราช พระชนมายุ 17 พรรษา ไปปกครองเมืองพิษณุโลก พระองค์ทรงปกครองเมืองอย่างดีและทรงเริ่มเตรียมการที่จะ กอบกู้เอกราชของกรุงศรีอยุธยา การที่ได้เสด็จไปประทับอยู่หงสาวดีถึง 8 ปีนั้น ก็เป็นประโยชน์ยิ่งเพราะทรงทราบทั้งภาษา นิสัยใจคอ ตลอดจนล่วงรู้ความสามารถของพม่า ซึ่งนับเป็นทุนสำ หรับคิดอ่านเพื่อหาหนทางในการต่อสู้กับพม่า เมื่อหงสาวดีตีกรุง ศรีอยุธยาได้นั้น อ้างว่าข้าราชการในกรุงศรีอยุธยาเกลียดชังสมเด็จพระมหาธรรมราชา จึงต้องถอนข้าราชการเมืองเหนือที่เคยใช้สอยลงมารับราชการในกรุงศรีอยุธยาเป็นจำ นวนมาก ทำ ให้จำ นวนข้าราชการทางเมืองเหนือ บกพร่องจึงต้องหาตัวตั้งขึ้นใหม่ พระองค์ทรงขวนขวายหาคนสำ หรับทรงใช้สอยโดยฝึกทหารที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกันตามวิธียุทธ์ของพระองค์ทั้งสิ้นและนับเป็นกำ ลังสำ คัญของพระนเรศวรในเวลาต่อมา
สมเด็จด็พระนารายณ์มหาราช สสมมเด็จด็พระนารายณ์มหาราช เด็จด็พระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 ฟัง (วิธีใช้·ข้อมูล) เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 27 แห่งกรุง ศรีอยุธยา และเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 4 และพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ปราสาททอง โดยรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้นเจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากทรงได้เจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ในด้านการค้า มีการนำ วิทยาการสมัย ใหม่มาใช้ในประเทศไทยครั้งแรก ทำ ให้ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 8 สมเด็จพระบูรพมหา กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ที่ทรงได้รับพระสมัญญานามว่าเป็น “มหาราช” พระราชสมภพ สมเด็จ ด็ พระนารายณ์มหาราช เสด็จ ด็ พระราชสมภพเมื่อวัน วั จันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ. 2175 (นับแบบปัจ ปั จุบัน พ.ศ. 2176) เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง กับพระราชเทวีไม่ปรากฏพระนาม คำ ให้การชาวกรุงเก่า ระบุว่า ว่ พระชนนีของพระองค์ชื่อพระสุริยา~ ส่วน คำ ให้การขุนหลวงหาวัด วั ระบุ พระนามว่า ว่ พระอุบลเทวี•วี และหม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย ระบุพระนามว่า ว่ พระนางศิริธิดา.และมีพระขนิษฐาร่วมพระมารดาคือกรมหลวงโยธาทิพ (หรือ พระราชกัลยาณี)-พระราชบิดาและพระราชมารดาเป็นเครือญาติกัน หม่อม หลวงมานิจ ชุม ชุ สายระบุว่า ว่ พระมารดาของพระนารายณ์เป็น "...พระขนิษฐา ต่างมารดาของพระเจ้าปราสาททอง" แต่งานเขีย ขี นของนิโคลาส์ เดอ แซร์แวสระบุว่า ว่ มารดาเป็นพระราชธิดาในสมเด็จ ด็ พระเจ้าทรงธรรม ส่วนพระราชบิดา คือ คืสมเด็จ ด็ พระเจ้าปราสาททอง ฟาน ฟลีต ลี ระบุว่า ว่ เป็นลูกของน้องชายพระ ราชมารดาในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
ชาวบ้บ้า บ้ า บ้ นบางระจัจัน จั น จั
สมเด็จ ด็ พระเจ้ สมเด็จ ด็ พระเจ้ สมเด็จ ด็ พระเจ้ เเดิดิดิดิมดิดิมพพรระะอองงค์ค์ค์ค์เค์ค์เป็ป็ป็ป็นป็ป็นนนาายยททหหาารรใในน รัรัรัรัชรัรัชกกาาลลสสมมเเด็ด็ด็ด็จด็ด็จพพรระะที่ที่ที่ ที่ นั่ ที่ นั่ ที่ นั่ นั่ ง นั่ ง นั่ งสุสุสุสุริสุริสุริริยริริยาา ศศน์น์น์น์อน์น์อมมริริริรินริรินททร์ร์ร์ร์ร์ร์ต่ต่ต่ต่อต่ต่อมมาา พพ..ศศ.. 22331100 เกิดกกาารรเเสีสีสีสียสีสียกกรุรุรุรุงรุรุงศศรีรีรีรีอรีรีอยุยุยุยุธยุยุธยยาา คครั้รั้รั้ รั้ ง รั้ ง รั้ งที่ที่ที่ ที่ สที่ สที่ สอองง พพรระะอองงค์ค์ค์ค์ไค์ค์ได้ด้ด้ด้เด้ด้เป็ป็ป็ป็นป็ป็น ผู้ผู้ผู้ผู้นำผู้นำผู้นำนำนำนำขัขัขัขับขัขับไไล่ล่ล่ล่ทล่ล่ทหหาารรพพม่ม่ม่ม่าม่ม่าที่ที่ที่ ที่ ยึ ที่ ยึ ที่ ยึยึดยึยึด คครรอองงกกรุรุรุรุงรุรุงศศรีรีรีรีอรีรีอยุยุยุยุธยุยุธยยาาออยู่ยู่ยู่ยู่ใยู่ยู่ในน เเววลลาานั้นั้นั้ นั้ น นั้ น นั้ น แแลละะไได้ด้ด้ด้ปด้ด้ปรราาบบดดาาภิภิภิภิเภิภิเษษกก เเป็ป็ป็ป็นป็ป็นพพรระะเเจ้จ้จ้จ้าจ้จ้ากกรุรุรุรุงรุรุงศศรีรีรีรีอรีรีอยุยุยุยุธยุยุธยยาาอีอีอีอีกอีอีก เเจ็จ็จ็จ็ดจ็จ็ดเเดืดืดืดือดืดือนนถัถัถัถัดถัถัดมมาา[1] โดย พพรระะอองงค์ค์ค์ค์ย้ค์ย้ค์ย้ย้าย้ย้ายยเเมืมืมืมือมืมืองงหหลลววงงไไปปยัยัยัยังยัยัง กกรุรุรุรุงรุรุงธธนนบุบุบุบุรีบุรีบุรีรีรีรีแแลละะรรววบบรรววมมแแผ่ผ่ผ่ผ่นผ่ผ่น ดิดิดิดินดิดินซึ่ซึ่ซึ่ ซึ่ ง ซึ่ ง ซึ่ งมีมีมีมีขุมีขุมีขุขุนขุขุนศึศึศึศึกศึศึกก๊ก๊ก๊ก๊ก๊ก๊ต่ต่ต่ต่าต่ต่างง ๆๆ ปปกกคครรอองงใให้ห้ห้ห้กห้ห้กลัลัลัลับลัลับเเป็ป็ป็ป็นป็ป็นปึปึปึปึกปึปึกแแผ่ผ่ผ่ผ่นผ่ผ่น อีอีอีอีกอีอีกคครั้รั้รั้ รั้ ง รั้ ง รั้ ง เเช่ช่ช่ช่นช่ช่นเเดีดีดีดียดีดียววกักักักับกักับกกาารรขขยยาายย ออาาณณาาเเขขตตออออกกไไปปออย่ย่ย่ย่าย่ย่างงกกว้ว้ว้ว้าว้ว้างง ขขววาางง นนออกกจจาากกนี้นี้นี้ นี้นี้นี้ยัยัยัยังยัยังททรรงงฟื้ฟื้ฟื้ฟื้ฟื้ฟื้ฟื้นฟื้ฟื้นฟูฟูฟูฟูฟูฟู รราาชชออาาณณาาจัจัจัจักจัจักรรใในนด้ด้ด้ด้าด้ด้านนต่ต่ต่ต่าต่ต่างง ๆๆ ใให้ห้ห้ห้กห้ห้กลัลัลัลับลัลับคืคืคืคืนคืคืนสู่สู่สู่สู่สู่สู่ ภภาาววะะปปกกติติติติหติติหลัลัลัลังลัลัง สสงงคครราามม ทั้ทั้ทั้ ทั้ ง ทั้ ง ทั้ งส่ส่ส่ส่งส่ส่งเเสสริริริริมริริมกิกิกิกิจกิกิจกกาารร ด้ด้ด้ด้าด้ด้านนเเศศรรษษฐฐกิกิกิกิจกิกิจ ศศาาสสนนาา ศิศิศิศิลศิศิลปป วัวัวัวัฒวัวัฒนนธธรรรรมม ววรรรรณณกกรรรรมม แแลละะ กกาารรศึศึศึศึกศึศึกษษาา ภภาายยหหลัลัลัลังลัลังรัรัรัรัฐรัรัฐบบาาลล ไไททยยปปรระะกกาาศศใให้ห้ห้ห้วัห้วัห้วัวันวัวันที่ที่ที่ ที่ที่ที่2288 ธัธัธัธันธัธันววาาคคมมขขอองงทุทุทุทุกทุทุกปีปีปีปีเปีปีเป็ป็ป็ป็นป็ป็น ""วัวัวัวันวัวัน สสมมเเด็ด็ด็ด็จด็ด็จพพรระะเเจ้จ้จ้จ้าจ้จ้าตตาากกสิสิสิสินสิสิน"" แแลละะยัยัยัยังยัยัง ททรรงงไได้ด้ด้ด้รัด้รัด้รัรับรัรับสสมัมัมัมัญมัมัญญญาานนาามม มมหหาารราาชช าาตตาากสินสิมหาราช กสินสิมหาราช าตากสินสิมหาราช
พระสุริ สุ โริ ยทัย ทั
สสมมเเด็ด็ด็ ด็ จ ด็ จ ด็ จพพรระะมมหหาาจัจัจั จั ก จั ก จั กรรพพรรรรดิดิดิดิดิดิ สมเด็ด็ ด็ จ ด็ จพระมหาจัจัจักจัรพรรดิดิดิดิ พระราชประวัวัวัติวัติติทติรงเป็ป็ป็ น ป็ นพระราชโอรสของ สมเด็ด็ ด็ จ ด็ จพระรามาธิธิธิบธิดีดีดีที่ดีที่ ที่ที่2 และทรงเป็ป็ป็ น ป็ นพระ อนุนุนุชนุาของสมเด็ด็ ด็ จ ด็ จพระไชยราชาธิธิธิรธิาชได้ด้ด้ขึ้ด้ขึ้ ขึ้ น ขึ้ น ครองราชย์ย์ย์เย์พราะขุขุขุนขุนางประหารชีชีชีวิชีวิวิตวิขุขุขุนขุว รวงศาธิธิธิรธิาชแล้ล้ล้วล้อัอัอัญอัเชิชิชิญชิขึ้ขึ้ ขึ้ น ขึ้ นครองราชย์ย์ย์เย์มื่มื่ มื่ อ มื่ อ พระองค์ค์ค์ทค์รงผนวชอยู่ยู่ยู่ยู่โดยครองราชย์ย์ย์ย์ ระหว่ว่ว่าว่งปีปีปีพปีระราชกรณีณีณียณีกิกิกิจกิปรัรัรับรั ปรุรุรุงรุกิกิกิจกิการ ทหาร และเสริริริมริสร้ร้ร้าร้งบ้บ้บ้าบ้นเมืมืมือมืงให้ห้ห้มั่ห้มั่ มั่ น มั่ นคงแข็ข็ ข็ ง ข็ ง แรงกว่ว่ว่าว่เดิดิดิมดิทรงสถาปนาขุขุขุนขุพิพิพิเพิรนทรเทพ เป็ป็ป็ น ป็ นสมเด็ด็ ด็ จ ด็ จพระมหาธรรมราชาธิธิธิรธิาชเจ้จ้จ้าจ้และ ให้ห้ห้ไห้ปปกครองเมืมืมือมืงพิพิพิษพิณุณุณุโณุลกโปรดเกล้ล้ล้าล้ โปรดกระหม่ม่ม่อม่มให้ห้ห้รื้ห้รื้ รื้ อ รื้ อป้ป้ป้อป้มปราการตามหัหัหัวหั เมืมืมือมืง ไม่ม่ม่ใม่ห้ห้ห้ข้ห้ข้ข้าข้ศึศึศึกศึอาศัศัศัยศัเป็ป็ป็ น ป็ นที่ที่ ที่ ตั้ ที่ ตั้ ตั้ ง ตั้ งมั่มั่ มั่ น มั่ นโปรดให้ห้ห้ห้ จัจัจับจัม้ม้ม้าม้และช้ช้ช้าช้งเข้ข้ข้าข้มาใช้ช้ช้ใช้นราชการ จน สามารถจัจัจับจัช้ช้ช้าช้งเผืผืผือผืกได้ด้ด้ด้๗ เชืชืชือชืก จึจึจึงจึได้ด้ด้รัด้รัรับรั ขนานพระนามว่ว่ว่าว่ “ พระเจ้จ้จ้าจ้ช้ช้ช้าช้งเผืผืผือผืก ”
AYOTHAYA (Ayutthaya)