แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยที่ 1
หลกั การเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์
คำช้แี จง ให้เลือกคำตอบทีถ่ ูกตอ้ งทสี่ ุดเพียงคำตอบเดียว
1. ขอ้ ใดคือความหมายของระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์
ก. การใหบ้ รกิ ารควบคมุ ด้านการส่ือสารทจ่ี ะตอ่ เชอ่ื มกับอุปกรณส์ ่อื สารอืน่ เรียกวา่ Communication
Server"
ข. การเช่ือมต่อคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์เข้าด้วยกันเพ่ือที่จะใชข้ ้อมูลและอุปกรณต์ า่ ง ๆ รว่ มกันได้ เป็น
การเพิ่มประสทิ ธิภาพในการทำงานให้ดีย่ิงขึน้ และยงั ประหยัดในเรือ่ งของอุปกรณ์เช่อื มต่ออื่น ๆ อกี ด้วย
ค. เป็นการเชอื่ มต่อเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ระยะไกล ซงึ่ มอี ยูท่ ัว่ โลกเข้าดว้ ยกนั
ง. การทำให้เกดิ การทำงานร่วมกนั เปน็ กลุ่ม และสามารถทำงานพรอ้ มกนั
จ. การเช่ือมตอ่ เครอื ข่ายคอมพิวเตอรร์ ะยะไกล
2. หลักการทำงานของเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งการทำงานออกได้เปน็ ก่ีสว่ น
ก. 6 ส่วน ข. 5 สว่ น
ค. 4 สว่ น ง. 3 ส่วน
จ. 2 สว่ น
3. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หนา้ ท่ีการใหบ้ ริการของเครื่องแมข่ ่าย (Server)
ก. ให้บรกิ ารด้านการบำรงุ รกั ษาโปรแกรมให้กับเครื่องลูกข่าย
ข. ใหบ้ ริการในการจดั เกบ็ ข้อมูล เรียกวา่ "File Server"
ค. ให้บรกิ ารดา้ นการพิมพ์เอกสารและควบคุมเครอ่ื งพิมพ์ เรยี กว่า "Printer Senver"
ง. ให้บรกิ ารควบคมุ ด้านกรสอ่ื สารท่จี ะตอ่ เช่อื มกบั อุปกรณ์ส่ือสารอนื่ เรยี กวา่ "Communication
Server"
จ. ถกู ทกุ ข้อ
4. ขอ้ ใดคือประเภทของเครือขา่ ยท่ใี ชร้ ะดับความปลอดภยั ของขอ้ มูลเปน็ เกณฑ์
ก. อนิ เทอร์เน็ต ข. เครือขา่ ยวงกวา้ ง
ง. เครอื ขา่ ยนครหลวง ค. เครอื ข่ายเฉพาะท่ี จ. เครอื ข่ายส่วนบคุ คล
5. ขอ้ ใดคือระบบเครือข่ายที่เครอ่ื งทุกเคร่ืองมีสถานะเทา่ เทียมกันท้งั หมด โดยเคร่อื งทกุ เคร่ืองสามารถเป็นได้
ทง้ั เคร่ืองผ้ใู ช้บรกิ ารและเคร่ืองผใู้ หบ้ ริการในขณะใดขณะหน่ึง
ก. PAN ข. Peer-To-Peer ค. WAN ง. MAN จ. LAN
หน่วยที่ 1
หลักการเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์
หวั ข้อเรือ่ ง (Topics)
1.1 ความหมายของระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์
1.2 หลักการทำงานของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์
1.3 ความสำคัญของเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์
1.4 ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
1.5 ประเภทของเซิร์ฟเวอรท์ ี่ใหบ้ ริการแบบตา่ ง ๆ
แนวคิดสำคัญ (Main Idea)
หลักการเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์เปน็ หลกั การท่ีกอ่ ให้เกิดความสามารถในการปฏิบตั ิการรว่ มกันซ่ึงหมายถงึ
การทำให้อปุ กรณท์ ุกชน้ิ ทต่ี ่ออยูบ่ นเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์สามารถทำงานรว่ มกนั ได้ทง้ั หมดในลกั ษณะทป่ี ระสาน
รวมกัน โดยผูใ้ ชส้ ามารถเหน็ เสมือนใช้งานในอุปกรณเ์ ดยี วกนั ซ่งึ เปน็ วธิ กี ารในการนำเอาอปุ กรณ์ตา่ งชนิดจำนวน
มากมารวมกนั เปน็ เสมือนระบบเดยี วกนั ดังนนั้ อาจกล่าวไดว้ ่าหลกั การเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์เปน็ การเช่ือมต่อ
คอมพิวเตอร์และอุปกรณต์ ่อพ่วงเข้าด้วยกนั โดยใชส้ อื่ กลางต่าง ๆ เพอ่ื ให้สื่อสาร แลกเปล่ยี นข้อมลู และใชท้ รัพยากร
ร่วมกัน
สมรรถนะย่อย (Element of Competency)
แสดงความรเู้ กีย่ วกบั หลักการเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (Behavioral Objectives)
1. บอกความหมายของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอรไ์ ด้
2. บอกหลกั การทำงานของเครือขา่ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด้
3. บอกความสำคัญของเครอื ข่ายคอมพวิ เตอรไ์ ด้
4. บอกประเภทของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ได้
5. บอกประเภทของเซริ ์ฟเวอร์ที่ให้บริการแบบตา่ ง ๆ ได้
เน้อื หาสาระ (Content)
1.1 ความหมายของระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หมายถึง การเชอ่ื มต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณเ์ ข้าด้วยกนั เพ่ือท่ีจะใช้
ข้อมลู และอุปกรณ์ต่าง ๆ ร่วมกนั ได้ เปน็ การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพในการทำงานใหด้ ีย่ิงขน้ึ และยังประหยัดในเรื่อง
ของอปุ กรณเ์ ชือ่ มตอ่ อน่ื ๆ อีกด้วย
1.2 หลักการทำงานของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ท่ีนำมาเชื่อมต่อกันในเน็ตเวิรก์ น้นั จะประกอบดว้ ยฮาร์ดแวรท์ เ่ี ชอื่ มต่อโปรแกรมควบคุม
และสอ่ื นำขอ้ มูล โดยท่คี อมพิวเตอร์ท้งั หมดในระบบ จะแบ่งหลักการทำงานออกเป็น 2 สว่ น คือ
1.2.1 ส่วนของผใู้ ช้บรกิ าร
สว่ นของผ้ใู ช้บริการหรือที่เรียกว่า Client คอื คอมพวิ เตอร์อื่น ๆ ในระบบเน็ตเวริ ์กท่ผี ใู้ ช้สามารถเขา้ ไป
ใชท้ รัพยากรต่าง ๆ ของเครอื ขา่ ยติดตอ่ กับ Server ซงึ่ เรียกส่วนผู้ใช้บริการวา่ “Client” (Work
Station)Client หรอื เครอื่ งลูกข่าย จะเปน็ คอมพิวเตอร์ทีใ่ ช้ระบบปฏิบัตกิ ารตา่ ง ๆ เช่น Windows หรอื Mac
เปน็ ตน้ โดยจะสามารถเขา้ ไปขอใชบ้ ริการจาก Server ได้ เชน่ ฮารด์ ดสิ ก์ สายสอื่ สาร ไฟล์ฐานข้อมูล ซ่ึงเรียกว่า
Database Client และเครอ่ื งพมิ พ์บน Server ได้ เหมือนกับวา่ เปน็ ส่วนหนง่ึ ของผใู้ ช้เอง กอ่ นท่จี ะเรม่ิ ติดต่อกับ
Server ทเี่ รยี กวา่ เครื่องแม่ขา่ ยน้นั ต้องทำการโหลดโปรแกรมท่เี รียกว่า “Network Shell” กอ่ นจะต้องกำหนด
ประเภทของการ์ด หน่วยความจำ หมายเลขอนิ เทอร์รปั ต์ และรายละเอยี ดต่าง ๆ ของ Network Shell ใหต้ รง
กบั ฮารด์ แวรแ์ ละไดรเวอร์ที่ใช้ ตอ่ จากนนั้ จึงจะเริม่ ทำงานได้
1.2.2 ส่วนของผู้ให้บรกิ าร
สว่ นของผใู้ หบ้ ริการ ซ่งึ เรยี กว่า Server หรอื เครอื่ งแมข่ ่าย โดยในระบบ LAN นัน้ จำเปน็ จะ
ต้องมเี ครือ่ งคอมพิวเตอร์ที่คอยทำหนา้ ท่ใี หบ้ ริการทางด้านต่าง ๆ แกค่ อมพวิ เตอร์อืน่ ๆ ซง่ึ เป็นเคร่ืองลูกข่าย
โดยทั่วไปเครอื่ งแม่ข่าย มหี น้าทใ่ี หบ้ ริการ 3 อย่าง คือ
1. ให้บริการในการจดั เกบ็ ข้อมลู เรยี กว่า "File Server"
2. ให้บริการด้านการพมิ พเ์ อกสารและควบคมุ เคร่อื งพิมพ์ เรียกว่า "Printer Server"
3.ให้บรกิ ารควบคุมด้านการสื่อสารท่ีจะต่อเชอื่ มกับอุปกรณ์สอ่ื สารอื่นเรยี กว่า
CommunicationServer"
สงิ่ สำคัญทท่ี ำให้ระบบขอ้ มลู มขี ีดความสามารถเพ่ิมข้นึ คือ การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกนั และการ
เชื่อมต่อหรือการส่ือสาร การโอนย้ายข้อมูลหมายถึงการนำขอ้ มูลมาแบง่ กันใชง้ าน หรอื การนำข้อมลู ไปใช้
ประมวลผลในลักษณะแบ่งกนั ใช้ทรัพยากร เชน่ แบง่ กนั ใช้ซพี ียู แบ่งกันใช้ฮาร์ดดสิ ก์ แบ่งกนั ใชโ้ ปรแกรม และ
แบ่งกนั ใช้อปุ กรณ์อน่ื ๆ ที่มีราคาแพงหรือไมส่ ามารถจดั หาให้ทุกคนได้ การเชือ่ มต่อคอมพวิ เตอรเ์ ป็นเครอื ข่าย
จึงเป็นการเพ่ิมประสิทธิภาพการใช้งานให้กวา้ งขวางและมากข้นึ จากเดมิ การเช่ือมตอ่ ในความหมายของระบบ
เครือข่ายท้องถิ่น ไม่ไดจ้ ำกัดอยู่ทีก่ ารเช่ือมต่อระหว่างเคร่ืองไมโครคอมพวิ เตอร์ แตย่ ังรวมไปถึงการเช่ือมตอ่
อปุ กรณ์รอบข้าง เทคโนโลยีทก่ี ้าวหนา้ ทำให้การทำงานเฉพาะมีขอบเขตกว้างขวางยิง่ ขนึ้ มีการใช้เคร่ืองบริการ
แฟ้มขอ้ มลู เป็นทเี่ กบ็ รวบรวมแฟม้ ขอ้ มลู ต่าง ๆ มีการทำฐานข้อมลู กลาง มหี น่วยจดั การระบบสอ่ื สาร หนว่ ย
บริการใชเ้ ครอ่ื งพิมพ์ หนว่ ยบริการการใช้ซดี ี หน่วยบรกิ ารปลายทาง และอุปกรณป์ ระกอบสำหรับต่อเขา้ ใน
ระบบเครือขา่ ยเพ่ือจะทำงานเฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหน่ึง
1.3 ความสำคัญของเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์
เครือข่ายคอมพวิ เตอรม์ ีความสำคัญ ดังนี้
1. ทำใหเ้ กดิ การทำงานร่วมกันเป็นกลุม่ และสามารถทำงานพรอ้ มกนั
2. สามารถใชข้ อ้ มูลต่าง ๆ รว่ มกนั ซง่ึ ทำให้องค์กรไดร้ บั ประโยชน์มากขน้ึ
3. ทำให้สามารถใช้ทรัพยากรไดค้ มุ้ คา่ เช่น ใช้เครื่องพมิ พร์ ่วมกนั แบ่งกันใช้แฟม้ ขอ้ มลู ร่วมกัน
4. ทำใหล้ ดตน้ ทุน เพราะการลงทนุ สามารถทำใหเ้ หมาะสมกบั หนว่ ยงานได้
1.4 ประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์
เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์สามารถจำแนกออกได้หลายประเภทแลว้ แตเ่ กณฑท์ ี่ใช้ เชน่ ขนาด ลักษณะการ
แลกเปลี่ยนข้อมูลของคอมพวิ เตอร์ แบ่งโดยใช้ระดับความปลอดภัยของข้อมลู เปน็ เกณฑ์ แบง่ ตามพนื้ ทีท่ ่ี
ครอบคลุมการใช้งาน เป็นต้น
1.4.1 ใช้ขนาดทางกายภาพของเครอื ขา่ ยเปน็ เกณฑ์
การแบ่งประเภทเครือขา่ ยตามความหมายทางกายภาพของเครือขา่ ย แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3
ประเภทดังนี้
1. LAN (Local Area Network) คอื ระบบเครือขา่ ยระดับท้องถนิ่ หรือเฉพาะท่ี เปน็ ระบบ
เครอื ข่ายท่ีใชง้ านอยูใ่ นบริเวณท่ีไม่กวา้ งนัก อาจใช้อยภู่ ายในอาคารเดียวกนั หรืออาคารที่อยู่ใกล้กัน เชน่ ภายใน
มหาวทิ ยาลยั อาคารสำนักงาน คลงั สนิ คา้ หรือโรงงาน เป็นต้น การส่งข้อมลู สามารถทำได้ดว้ ยความเรว็ สงู และ
มีข้อผิดพลาดน้อย ระบบเครือข่ายระดับท้องถนิ่ จึงถกู ออกแบบมาใหช้ ว่ ยลดต้นทนุ และเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพ
ในการทำงาน และใช้งานอุปกรณต์ า่ ง ๆ ร่วมกนั
รปู ที่ 1.1 การเช่ือมต่อเครือข่ายระบบ LAN ที่ใชเ้ ครื่องพมิ พ์รว่ มกัน
2. MAN (Metropolitan Area Network) คือ ระบบเครอื ข่ายระดับเมอื งหรือนครหลวง
เปน็ ระบบเครือขา่ ยท่ีมีขนาดอยู่ระหวา่ ง LAN และ WAN เปน็ ระบบเครือขา่ ยทใ่ี ช้ภายในเมอื งหรือจงั หวัด
เท่านั้นการเชอ่ื มโยงจะต้องอาศัยระบบบริการเครือขา่ ยสาธารณะ จึงเปน็ เครอื ข่ายท่ใี ช้กบั องค์การที่มีสาขา
หา่ งไกลและตอ้ งการเชื่อมสาขาเหล่านั้นเข้าด้วยกัน เช่น ธนาคาร เครือขา่ ยแวนเชื่อมโยงระยะไกลมาก จึงมี
ความเรว็ ในการสื่อสารไม่สงู เนือ่ งจากมีสัญญาณรบกวนในสาย เทคโนโลยที ีใ่ ช้กบั เครือขา่ ยแวนมีความ
หลากหลาย มกี ารเช่ือมโยงระหว่างประเทศดว้ ยชอ่ งสญั ญาณดาวเทยี ม เสน้ ใยแกว้ นำแสง คล่ืนไมโครเวฟ
คลืน่ วิทยุ สายเคเบิล
3. WAN (Wide Area Network) คือ ระบบเครือขา่ ยระดับประเทศ หรือเครือขา่ ยบริเวณ
กว้างเป็นระบบเครือข่ายท่ตี ิดตั้งใช้งานอยใู่ นบริเวณกว้าง เชน่ ระบบเครือขา่ ยท่ตี ิดต้ังใชง้ านทว่ั โลก เปน็
เครอื ข่ายทเี่ ช่ือมตอ่ คอมพิวเตอร์หรอื อุปกรณ์ท่ีอยูห่ ่างไกลกันเขา้ ด้วยกัน อาจต้องติดต่อสื่อสารกันใน
ระดบั ประเทศข้ามทวปี หรือทั่วโลกกไ็ ด้ ในการเชอ่ื มการติดตอ่ นนั้ จะต้องมีการต่อเข้ากับระบบสื่อสารของ
องค์การโทรศัพท์หรือการสือ่ สารแหง่ ประเทศไทยก่อน เพราะจะเป็นการสง่ ข้อมลู ผา่ นสายโทรศพั ท์ ในการ
ตดิ ต่อสื่อสารกันโดยปกติมอี ตั ราการสง่ ข้อมลู ทต่ี า่ํ และมโี อกาสเกิดข้อผิดพลาด การสง่ ข้อมูลอาจใช้อปุ กรณ์ใน
การสื่อสาร เชน่ โมเดม็ (Modem) มาชว่ ย
รปู ที่ 1.2 การเชือ่ มต่อเครอื ข่ายระบบ WAN
(ที่มา : https://qrgo.page.link/nAT31)
1.4.2 ใชร้ ะดับความปลอดภัยของข้อมูลเปน็ เกณฑ์
การแบง่ ประเภทเครือขา่ ยตามระดบั ความปลอดภัยของข้อมูล ซ่ึงจะแบ่งออกไดเ้ ปน็ 3 ประเภท คือ
1. อนิ เทอร์เนต็ (Internet) คอื เครอื ข่ายสาธารณะ อนิ เทอร์เน็ตเปน็ เครอื ข่ายท่ีครอบคลมุ
ทว่ั โลก ซ่ึงมีคอมพวิ เตอรเ์ ป็นล้าน ๆ เครื่องเช่อื มต่อเขา้ กบั ระบบและยังขยายตวั ขน้ึ เร่ือย ๆ ทกุ ปี อินเทอร์เนต็ มี
ผู้ใชท้ ัว่ โลกหลายรอ้ ยล้านคน และผใู้ ชเ้ หลา่ น้ีสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้อิสระ โดยท่รี ะยะทางและ
เวลาไมเ่ ปน็ อปุ สรรค นอกจากน้ผี ใู้ ช้ยงั สามารถเขา้ ดขู ้อมูลต่าง ๆ ทีถ่ กู ตีพิมพ์ในอินเทอรเ์ น็ตได้ อนิ เทอรเ์ น็ต
เชอ่ื มแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ เขา้ ด้วยกนั ไมว่ า่ จะเป็นองค์กรธุรกิจ มหาวทิ ยาลัย หนว่ ยงานของรัฐบาล หรอื แม้กระท่งั
แหล่งขอ้ มลู บุคคล องค์กรธุรกิจหลายองค์กรได้ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตชว่ ยในการทำการค้า เชน่ การติดต่อซอ้ื ขายผา่ น
อนิ เทอรเ์ นต็ หรืออีคอมเมริ ์ช (E–Commerce) ซึง่ เปน็ อกี ช่องทางหนง่ึ สำหรับการทำธุรกจิ ท่กี ำลงั เปน็ ทีน่ ิยม
เนื่องจากมีต้นทุนท่ีถูกกวา่ และมฐี านลูกค้าท่ีใหญ่มาก ส่วนข้อเสยี ของอนิ เทอร์เน็ต คือความปลอดภัยของข้อมูล
เน่อื งจากทกุ คนสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอยา่ งที่แลกเปลยี่ นผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ได้
รปู ท่ี 1.3 อินเทอร์เนต็ (Internet)
(ทม่ี า : https://qrgo.page.link/V8CZ2)
อินเทอรเ์ นต็ ใช้โปรโตคอลท่เี รียกวา่ “TCP/IP (Transport Connection Protocol/Internet
Protocol)” ในการสื่อสารข้อมูลผ่านเครือข่าย ซ่งึ โปรโตคอลน้เี ป็นผลจากโครงการหนึ่งของกระทรวงกลาโหม
สหรัฐฯ โครงการน้มี ีช่อื ว่า ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ในปี ค.ศ. 1975
ในปัจจุบันอินเทอร์เนต็ ได้กลายเป็นเครอื ขา่ ยสาธารณะ ซ่ึงไมม่ ีผู้ใดหรอื องค์กรใดองคก์ รหนงึ่
เป็นเจา้ ของอย่างแท้จรงิ การเช่อื มต่อเขา้ กบั อนิ เทอรเ์ นต็ ต้องเช่ือมต่อผ่านองคก์ รทีเ่ รยี กว่า “ISP (Internet
Service Provider)” ซึ่งจะทำหน้าที่ใหบ้ รกิ ารในการเชื่อมต่อเข้ากับอนิ เทอรเ์ น็ต นั่นคอื ข้อมูลทุกอยา่ งที่
สง่ ผา่ น
เครอื ข่าย ทุกคนสามารถดูได้ นอกจากจะมีการเขา้ รหัสลบั ซง่ึ ผใู้ ชต้ อ้ งทำเอง
2. อนิ ทราเน็ต (Intranet) หรอื เครอื ขา่ ยส่วนบคุ คล ตรงกันขา้ มกบั อนิ เทอรเ์ นต็ อนิ ทราเนต็ เปน็
เครือข่ายส่วนบคุ คลทีใ่ ช้เทคโนโลยอี ินเทอร์เน็ต เชน่ เว็บ อีเมล FTP เป็นต้น อนิ ทราเนต็ ใช้โปรโตคอล TCP/IP
สำหรับการรับส่งข้อมูลเชน่ เดียวกบั อนิ เทอรเ์ น็ต ซ่ึงโปรโตคอลน้สี ามารถใช้ได้กับฮาร์ดแวร์หลายประเภทและ
สายสัญญาณหลายประเภท ฮาร์ดแวรท์ ่ใี ช้สรา้ งเครือข่ายไม่ใช่ปัจจัยหลักของอนิ ทราเน็ต แต่เปน็ ซอฟตแ์ วรท์ ี่ทำ
ใหอ้ ินทราเน็ตทำงานได้ อินทราเนต็ เปน็ เครือขา่ ยท่ีองค์กรสร้างขึน้ สำหรับใหพ้ นักงานขององคก์ รใชเ้ ทา่ นั้นการ
แชรข์ อ้ มูลจะอยู่เฉพาะในอนิ ทราเนต็ เท่าน้นั หรือถ้ามกี ารแลกเปลีย่ นข้อมลู กบั โลกภายนอกหรืออนิ เทอรเ์ น็ต
องค์กรนนั้ สามารถที่จะกำหนดนโยบายได้ ในขณะที่การแชรข์ อ้ มูลอินเทอร์เนต็ นน้ั ยังไม่มีองคก์ รใดทส่ี ามารถ
ควบคมุ การแลกเปลย่ี นข้อมูลได้ เม่ือเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอรเ์ นต็ พนักงานบริษทั ของบริษัทสามารถ
ตดิ ต่อสอื่ สารกบั โลกภายนอกเพื่อการค้นหาข้อมลู หรือทำธุรกิจตา่ ง ๆ การใชโ้ ปรโตคอล TCP/IP ทำใหผ้ ใู้ ช้
สามารถเข้าใชเ้ ครอื ขา่ ยจากท่ีห่างไกลได้ (Remote Access) เช่น จากทีบ่ ้าน หรือในเวลาทีต่ อ้ งเดินทางเพื่อ
ติดตอ่ ธุรกิจการเชอ่ื มต่อเข้ากับอนิ ทราเนต็ โดยการใชโ้ มเด็มและสายโทรศัพท์กเ็ หมือนกบั การเช่อื มต่อเข้ากับ
อินเทอร์เน็ตแตแ่ ตกต่างกันทีเ่ ปน็ การเช่อื มต่อเขา้ กับเครือข่ายสว่ นบคุ คลแทนทจี่ ะเป็นเครือขา่ ยสาธารณะ
อยา่ งเช่นอินเทอรเ์ น็ตการเชือ่ มตอ่ กนั ได้ระหว่างอนิ ทราเน็ตกับอนิ เทอรเ์ น็ตถอื เปน็ ประโยชนท์ สี่ ำคญั อยา่ งหนงึ่
ระบบการรักษาความปลอดภัยเป็นส่งิ ทแี่ ยกอนิ ทราเนต็ ออกจากอนิ เทอร์เน็ต เครือข่ายอินทราเนต็ ขององค์กร
จะถูกปกป้องโดยไฟรว์ อลล์ (Firewall) ซง่ึ อาจเปน็ ได้ทัง้ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ท่ีทำหนา้ ท่ีกรองข้อมลู ที่
แลกเปล่ยี นกนั ระหว่างอนิ ทราเน็ตและอินเทอรเ์ น็ตเมื่อทั้งสองระบบมีการเช่ือมต่อกัน
อาจเปน็ ได้ทัง้ ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวร์ท่ที ำหนา้ ท่ีกรองข้อมูลที่แลกเปล่ยี นกันระหว่างอินทราเนต็ และ
อินเทอรเ์ น็ตเม่ือทง้ั สองระบบมกี ารเชอ่ื มต่อกนั
ดังน้นั องค์กรสามารถกำหนดนโยบายเพอื่ ควบคมุ การเขา้ ใชง้ านอินทราเน็ตได้ อินทราเน็ตสามารถ
สนองความต้องการของผู้ใช้ในองค์กรไดห้ ลายอยา่ ง ความงา่ ยในการตพี ิมพ์บนเว็บทำให้เป็นที่นยิ มในการ
ประกาศขา่ วสารขององค์กร เช่น ขา่ วภายในองค์กร กฎ ระเบียบ และมาตรฐาน การปฏิบัติงานต่าง ๆ เปน็ ตน้
หรือแม้กระท่ังการเข้าถึงฐานข้อมูลขององค์กรก็ง่ายเช่นกันผูใ้ ช้สามารถทำงานรว่ มกนั ได้งา่ ย และมี
ประสทิ ธิภาพมากขึน้
3. เอ็กซท์ ราเน็ต (Extranet) หรอื เครือขา่ ยรว่ ม เปน็ เครือข่ายกึง่ อนิ เทอรเ์ น็ตก่ึงอินทราเน็ต กลา่ วคอื
เอก็ ซ์ทราเนต็ คือ เครือข่ายท่เี ชือ่ มต่อระหวา่ งอินทราเน็ตของสององคก์ ร ดังนั้นจะมีบางสว่ นของเครือข่ายที่
เปน็ เจ้าของรว่ มกันระหวา่ งสององคก์ รหรือบริษัท การสร้างอินทราเน็ตจะไมจ่ ำกดั ด้วยเทคโนโลยี แต่จะยาก
ตรงนโยบายทีเ่ ก่ยี วกบั การรักษาความปลอดภยั ของข้อมูลท่ีท้งั สององค์กรต้องตกลงกัน เชน่ องคก์ รหนงึ่ อาจ
อนญุ าตให้ผู้ใชข้ องอีกองค์กรหนง่ึ ล็อกอนิ เข้าระบบอินทราเนต็ ของตวั เองหรือไม่ เปน็ ตน้ การสร้างเอ็กซ์ทราเน็ต
จะเน้นทรี่ ะบบการรักษาความปลอดภยั ข้อมลู รวมถึงการตดิ ต้งั ไฟร์วอลล์หรือระหว่างอินทราเน็ต และการ
เขา้ รหัสข้อมลู และสงิ่ ที่สำคัญทส่ี ดุ กค็ ือ นโยบายการรกั ษาความปลอดภยั ข้อมลู และการบังคบั ใช้
รปู ท่ี 1.4 การเชื่อมตอ่ ระบบเครือขา่ ยแบบ Workgroup ใชภ้ ายในสำนกั งาน
(ท่มี า : https://qrgo.page.link/2CP91)
1.4.3 ประเภทของเครือข่ายแบง่ ตามหน้าท่ีของคอมพิวเตอร์
ที่กล่าวมาข้างต้น เปน็ เพียงการจำแนกประเภทของเครือขา่ ยตามขนาดพน้ื ที่ทค่ี รอบคลุมถงึ เทา่ น้ันการ
จำแนกประเภทของเครือขา่ ยยังสามารถจำแนกไดโ้ ดยใชล้ ักษณะการแชรข์ ้อมลู ของคอมพิวเตอร์ หรือหนา้ ท่ี
ของคอมพิวเตอร์ในแต่ละเครือขา่ ยเปน็ เกณฑ์ เพ่ือเป็นการแบ่งประเภทของเครอื ขา่ ย ซึ่งเมอ่ื ใช้หลักการนแ้ี ลว้
สามารถแบ่งเครอื ขา่ ยออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ
1. เครือขา่ ยแบบเพียรท์ เู พียร์ (Peer–To–Peer) ซ่ึงเปน็ การเชือ่ มต่อของเครอ่ื งทุกเคร่อื งท่ใี ช้ใน
ระบบเครือข่ายและยังมีสถานะเทา่ เทยี มกันทั้งหมด โดยเครอ่ื งทุกเครื่องสามารถเป็นไดท้ งั้ เครอื่ งผใู้ ชบ้ ริการ
และเครื่องผู้ให้บริการในขณะใดขณะหนงึ่
รปู ที่ 1.5 การเชื่อมตอ่ เครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์
2. เครือข่ายแบบไคลเอนตเ์ ซริ ฟ์ เวอร์ (Client Server Network) หรือเครือข่ายแบบผใู้ ช้บริการ
และผู้ให้บริการ เป็นระบบท่ีเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ทกุ เครื่องมีฐานะการทำงานที่เหมอื น ๆ กนั เทา่ เทียมกนั ภายใน
ระบบเครือขา่ ย แตจ่ ะมเี คร่อื งคอมพิวเตอร์เครอ่ื งหน่ึง ทีท่ ำหนา้ ที่เป็นเครื่อง Server ท่ที ำหนา้ ทใ่ี หบ้ ริการ
ทรพั ยากรตา่ ง ๆ ให้กับเครื่อง Client หรือเครอื่ งท่ีขอใช้บริการ ซงึ่ อาจต้องเปน็ เคร่ืองทม่ี ีประสิทธิภาพค่อนขา้ ง
สงู ถงึ จะทำให้การใหบ้ รกิ ารมีประสทิ ธิภาพตามไปด้วย ขอ้ ดีของระบบเครือข่าย Client Server เปน็ ระบบทมี่ ี
การรักษาความปลอดภัยสูงกวา่ ระบบแบบ Peer–To–Peer เพราะการจดั การในด้านรักษาความปลอดภยั น้ัน
จะทำกันบนเคร่ือง Server เพียงเครอื่ งเดยี ว ทำใหด้ ูแลรกั ษาง่ายและสะดวก มีการกำหนดสทิ ธกิ ารเข้าใช้
ทรพั ยากรตา่ ง ๆ ใหก้ ับเคร่ืองผูข้ อใช้บริการ หรือเครื่อง Client
1.5 ประเภทของเซิร์ฟเวอร์ท่ีใหบ้ รกิ ารแบบต่าง ๆ
1.5.1 ประเภทของเซิรฟ์ เวอรท์ ี่ให้บริการแบบต่าง ๆ แบง่ ออกเปน็ 6 ประเภท ดังน้ี
1. ไฟลเ์ ซิร์ฟเวอร์ (File Server) ซ่ึงเป็นเซริ ์ฟเวอรท์ ี่ทำหนา้ ทใี่ นการจัดเกบ็ ไฟล์ เสมือน
ฮารด์ ดิสก์รวมศูนย์ (Centerized Disk Storage) เสมอื นว่าผใู้ ชง้ านทุกคนมีทีเ่ ก็บขอ้ มูลอยู่ทีเ่ ดียว ทัง้ น้เี พราะ
ควบคมุ บรหิ ารง่าย การสำรองข้อมลู โดยการ Restore งา่ ย
รูปท่ี 1.6 ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ (File Server)
(ที่มา : http://www.grovethailand.com/file-server/)
2. ปรนิ ต์เซริ ฟ์ เวอร์ (Print Server) หนงึ่ เหตผุ ลทจี่ ะตอ้ งมี Print Server กค็ ือ ทัง้ นเ้ี พื่อแบ่งกันใชป้ รินเตอร์ท่ี
มรี าคาแพงซ่งึ บางรุน่ ออกแบบมาให้ใชส้ ำหรับการทำงานปรมิ าณมาก ๆ เช่น HP Laser Jet Enterprise โดย
พมิ พ์ได้ถึง 50 แผ่นต่อนาที ปรินเตอรป์ ระเภทนี้ มคี วามสามารถในการทำงานสูง
3. แอปพลิเคชนั เซิรฟ์ เวอร์ (Application Server) คอื เซิร์ฟเวอร์ที่รันโปรแกรมประยุกต์
ไดโ้ ดยการทำงานสอดคลอ้ งกับไคลเอนต์ เชน่ Mail Server (MS Exchange Server) Proxy Server (รนั Proxy
Server) หรอื Web Server (รัน Web Server Program เชน่ Apache)
4. อนิ เทอรเ์ นต็ เซิร์ฟเวอร์ (Internet Server) ปจั จบุ ันอินเทอร์เน็ตมีผลกระทบกับเครอื ข่าย
ในปัจุบันเป็นอย่างมาก โดยอเิ ทอร์เนต็ เป็นเครอื ข่ายท่ีมขี นาดใหญ่มาก ซึ่งจะมีผ้ใู ช้งานมากทส่ี ดุ ในโลก
เทคโนโลยที ี่ทำใหอ้ นิ เทอรเ์ น็ตเป็นที่นยิ มก็คอื เว็บและอีเมล เพราะทั้งสองแอปพลเิ คชัน่ ทำใหผ้ ู้ใช้สามารถ
แลกเปล่ยี นขอ้ มลู และสื่อสารกนั ได้อย่ารวดเร็ว
5. เว็บเซริ ์ฟเวอร์ (Web Server) คอื เซิรฟ์ เวอร์ที่ใหบ้ ริการขอ้ มลู ในรปู แบบ HTML (Hyper
text Markup Language)
6. เมลเซิร์ฟเวอร์ (Mail Server) คือ เซริ ์ฟเวอร์ท่ีให้บรกิ ารรับ–สง่ จัดเก็บ และจดั การ
เก่ียวกับอเี มลของผูใ้ ช้
1.5.2 ประเภทเครอื ขา่ ยแบ่งตามพ้นื ทีท่ ่คี รอบคลุมการใช้งาน แบง่ ออกเปน็ 4 ประเภท ดงั น้ี
1. เครือขา่ ยส่วนบคุ คล หรือ แพน (Personal Area Network : PAN) เปน็ เครือขา่ ยท่ีใช้
สว่ นบุคคล เช่น การเชอ่ื มตอ่ คอมพิวเตอร์กับโทรศัพทม์ ือถือ การเช่ือมต่อพีดเี อกับเคร่อื งคอมพิวเตอร์ ซึ่ง
การเช่อื มต่อแบบนจี้ ะอยูใ่ นระยะใกล้ และมีการเช่อื มต่อแบบไรส้ าย
2. เครอื ข่ายเฉพาะที่ หรอื แลน (Local Area Network : LAN) เปน็ เครอื ขา่ ยท่ีใชใ้ นการ
เชื่อมโยงคอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณต์ ่าง ๆ ท่อี ยใู่ นพืน้ ท่ีเดียวกันหรอื ใกลเ้ คยี งกัน ได้แก่ ภายในบา้ น ภายใน
สำนักงานและภายในอาคาร สำหรบั การใชง้ านภายในบา้ นน้นั โดยอาจเรยี กเครือข่ายประเภทนวี้ า่ เครอื ข่ายท่ี
พกั อาศัย (Home Network) โดยอาจเปน็ การเช่อื มต่อเคร่อื งคอมพิวเตอรต์ ั้งแต่ 2 เครือ่ ง หรือมากกวา่
เครอื ข่ายแลนจดั ได้วา่ เปน็ เครือขา่ ยเฉพาะองค์กร การเชอื่ มตอ่ เครือข่ายแลนสามารถสือ่ สารข้อมลู ได้อย่าง
รวดเร็ว และเกิดประสทิ ธภิ าพกับองค์กรมากที่สดุ เนอื่ งจากเครือขา่ ยแลนนจ้ี ะทำหน้าท่เี ชือ่ มประสานงานการ
ทำงาน บริหารการจัดการทรัพยากรตา่ ง ๆ ได้ดีที่สดุ เช่น การติดต้ังเครอื่ งพิมพ์ส่วนกลาง การจัดการฐานข้อมลู
การจัดการแฟ้มการรับ–ส่งเอกสาร รายงานตา่ ง ๆ เพื่อใชต้ ัดสินใจในองคก์ ร เน่ืองจากอปุ กรณแ์ ตล่ ะช้ินจะอยู่ใน
ตำแหน่งท่ีไมห่ ่างไกลมากนกั จงึ สามารถทำความเร็วในการส่อื สาร และมีอตั ราการถูกรบกวน
ของสญั ญาณน้อย ซึ่งอาจใช้การเชอื่ มต่อแบบใชส้ ายหรือไร้สายก็ได้
3. เครือขา่ ยนครหลวง หรือ แมน (Metropolitan Area Network : MAN) เป็นเครอื ข่ายที่ใช้
เช่ือมโยงแลนที่อยหู่ ่างไกลออกไป เชน่ การเชื่อมต่อเครือข่ายระหวา่ งสำนกั งานที่อาจอยู่คนละอาคาร และมี
ระยะทางไกลกนั การเชื่อมต่อเครือข่ายชนิดน้ีอาจใช้สายไฟเบอรอ์ อปตกิ หรือบางครัง้ อาจใชไ้ มโครเวฟเชอื่ มต่อ
ซึ่งเครือขา่ ยแบบน้จี ะใช้ในสถานศึกษา โดยมีชือ่ เรยี กอีกอยา่ งหน่ึงวา่ เครือขา่ ยแคมปัส (Campus Area
Network : CAN) ซึ่งถือว่าเปน็ ระบบเครือข่ายท่ีมีการเช่ือมตอ่ กนั ในระหว่างท่ีกวา้ งใหญ่ ครอบคลมุ ระยะทาง
เปน็ 100 กโิ ลเมตร ทม่ี ีการติดตอ่ กันในระยะท่ีไกลกว่าระบบแลน และใกล้กวา่ ระบบแวน เป็นการตดิ ต่อ
ระหว่างเมือง เชน่ กรุงเทพฯ กับเชียงใหม่ เชยี งใหมก่ ับยะลา หรอื เป็นการตดิ ต่อระหว่างรัฐ โดยมีรปู แบบการ
เช่อื มตอ่ แบบ Ring ตวั อยา่ ง เช่น ระบบ FDDI (Fibre Data Distributed Interface) ท่ีมีรศั มีหรอื ระยะทางการ
เช่อื มตอ่ อยทู่ ่ี 100 กโิ ลเมตร อัตราความเรว็ อยทู่ ี่ 100 Mbps มรี ปู แบบการเชอ่ื มตอ่ ที่ประกอบด้วยวงแหวนสอง
ช้นั ๆ แรกเปน็ Primary Ring สว่ นชัน้ ท่ี 2 เป็น Secondary Ring หรือ Backup Ring โดยชั้น Secondary
Ring จะทำงานแทนกนั ทันทีที่สายสญั ญาณใน Primary Ring ขาด FDDI เป็นโปรโตคอลของเครือขา่ ยท่ีเนน้ การ
จดั สง่ ขอ้ มูลท่คี วามเร็วสงู ส่งไดใ้ นระยะทางทไ่ี กล และมีความน่าเชื่อถือสูง เน่ืองจากใช้สายใยแก้วนำแสง จึงมี
ผนู้ ำ FDDI สงู มาใช้เปน็ แบก็ โบน เพื่อการขนสง่ ข้อมูล อย่างไรกด็ คี ่าใช้จา่ ยในการติดต้ังระบบ FDDI สูง
ประกอบกับการทร่ี ะบบ Gigabit Ethernetถูกออกแบบมาใหแ้ ทนที่ FDDI ดังน้นั โครงข่ายน้กี ำลังถูกกลืนดว้ ย
วิวัฒนาการทางเทคโนโลยใี นที่สดุ
4. เครอื ข่ายวงกว้าง หรอื แวน (Wide Area Network : WAN) เป็นการเช่ือมต่อเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ระยะไกล ซงึ่ มีอยูท่ ั่วโลกเขา้ ด้วยกัน โดยมีอุปกรณ์แปลงสญั ญาณ เชน่ โมเด็ม ช่วยในการ
ตดิ ตอ่ ส่อื สารหรือสามารถนำเครือขา่ ยทอ้ งถน่ิ มาเชือ่ มต่อกันเป็นเครอื ข่ายระยะไกล เชน่ เครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ นต็
เครอื ข่ายระบบธนาคารทวั่ โลก เครือขา่ ยของสายการบนิ เป็นตน้
สรปุ สาระสำคญั
ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพวิ เตอร์และอุปกรณเ์ ขา้ ดว้ ยกันเพื่อที่จะใช้
ข้อมูลและอปุ กรณต์ ่าง ๆ ร่วมกันได้ เปน็ การเพ่ิมประสิทธิภาพในการทำงานให้ดยี ิ่งข้ึน และประหยดั อปุ กรณ์
เชื่อมต่ออน่ื ๆ
หลกั การทำงานเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ แบ่งหลกั การทำงานออกเปน็ 2 สว่ น คือ
1. ส่วนของผูใ้ ช้บริการ หรือท่ีเรยี กว่า Client คอื คอมพิวเตอรอ์ น่ื ๆ ในระบบเน็ตเวิร์กท่ีผู้ใช้สามารถ
เข้าไปใช้ทรัพยากรตา่ ง ๆ ของเครือข่ายติดต่อกับ Server ซ่ึงเรยี กสว่ นผใู้ ช้บรกิ ารว่า “Client” (Work Station)
Client หรอื เครื่องลูกข่ายจะเปน็ คอมพิวเตอร์ทใี่ ชร้ ะบบปฏิบัติการตา่ ง ๆ เชน่ Windows หรอื Mac เป็นต้น
โดยจะสามารถเขา้ ไปขอใชบ้ ริการจาก Server ได้ เชน่ ฮารด์ ดสิ ก์ สายสือ่ สาร ไฟล์ฐานขอ้ มูล ซ่ึงเรียกวา่
Database Client และเครือ่ งพมิ พบ์ น Server ได้ เหมือนกับวา่ เปน็ สว่ นหน่ึงของผใู้ ชเ้ อง ก่อนท่ีจะเริ่มติดต่อกบั
Server ท่ีเรียกว่าเครอ่ื งแม่ข่ายนั้น ต้องทำการโหลดโปรแกรมท่ีเรียกวา่ “Network Shell” ก่อน จะต้อง
กำหนดประเภทของการ์ด หนว่ ยความจำ หมายเลขอนิ เทอร์รัปต์ และรายละเอียดต่าง ๆ ของ Network Shell
ให้ตรงกับฮารด์ แวร์ และไดรเวอร์ท่ีใช้ ตอ่ จากนน้ั จงึ จะเร่ิมทำงานได้
2. สว่ นของผใู้ ห้บรกิ าร ซง่ึ เรียกว่า Server หรอื เครอื่ งแม่ข่าย โดยในระบบ LAN นั้นจำเปน็ จะต้องมี
เครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ่ีคอยทำหนา้ ที่ใหบ้ ริการทางด้านต่าง ๆ แก่คอมพิวเตอรอ์ นื่ ๆ ซ่ึงเปน็ เคร่อื งลูกข่าย
โดยท่วั ไปเครือ่ งแม่ขา่ ย (Server) มีหนา้ ที่ใหบ้ ริการ 3 อยา่ ง คอื
(1) ใหบ้ รกิ ารในการจัดเกบ็ ขอ้ มูล เรียกวา่ “File server”
(2) ให้บริการดา้ นการพิมพ์เอกสารและควบคุมเครื่องพิมพ์ เรียกวา่ “Printer Server”
(3) ใหบ้ ริการควบคุมด้านการสื่อสารทจี่ ะต่อเช่ือมกับอปุ กรณส์ อื่ สารอนื่ เรียกว่า Communication
Server”
ความสำคญั ของเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์
1. ทำใหเ้ กดิ การทำงานรว่ มกันเป็นกลุ่ม และสามารถทำงานพร้อมกนั
2. สามารถใช้ข้อมลู ตา่ ง ๆ ร่วมกนั ซึง่ ทำให้องค์กรไดร้ บั ประโยชน์มากขึ้น
3. ทำใหส้ ามารถใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า เช่น ใช้เครือ่ งพิมพร์ ่วมกัน แบ่งกันใช้แฟม้ ขอ้ มลู ร่วมกัน
4. ทำใหล้ ดต้นทนุ เพราะการลงทุนสามารถทำให้เหมาะสมกับหนว่ ยงานได้
ประเภทเครือข่ายแบ่งตามพ้นื ที่ทีค่ รอบคลุมการใช้งาน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดงั นี้
1. เครือข่ายส่วนบคุ คล หรือ แพน (Personal Area Network : PAN) เป็นเครือข่ายที่ใชส้ ว่ นบุคคล
เชน่ การเชื่อมตอ่ คอมพวิ เตอรก์ บั โทรศพั ท์มือถือ การเชอ่ื มตอ่ พดี ีเอกับเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ซึ่งการเช่ือมต่อแบบ
นจี้ ะอยู่ในระยะใกล้ และมีการเชอื่ มต่อแบบไร้สาย
2. เครือข่ายเฉพาะท่ี หรือ แลน (Local Area Network : LAN) เปน็ เครือขา่ ยท่ใี ช้ในการเชอื่ มโยง
คอมพวิ เตอร์และอุปกรณต์ ่าง ๆ ท่อี ยใู่ นพนื้ ทีเ่ ดยี วกนั หรือใกลเ้ คยี งกนั เช่น ภายในบา้ น ภายในสำนักงานและ
ภายในอาคาร สำหรับการใชง้ านภายในบ้านนน้ั โดยอาจเรียกเครือขา่ ยประเภทน้ีวา่ เครอื ขา่ ยที่พักอาศยั
(Home Network) โดยอาจเปน็ การเชอื่ มต่อเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ตง้ั แต่ 2 เคร่อื ง หรือมากกวา่ เครือข่ายแลนจัด
ได้ว่าเปน็ เครือข่ายเฉพาะองค์กร การเช่ือมต่อเครือขา่ ยแลนสามารถส่อื สารข้อมลู ไดอ้ ย่างรวดเร็ว และเกดิ
ประสทิ ธภิ าพกับองคก์ รมากที่สุด เน่อื งจากเครือขา่ ยแลนน้จี ะทำหนา้ ทเี่ ชื่อมประสานงานการทำงาน บริหาร
การจดั การทรัพยากรต่าง ๆ ไดด้ ีที่สดุ เช่น การติดต้ังเคร่ืองพิมพ์สว่ นกลาง การจดั การฐานขอ้ มลู การจัดการ
แฟม้ การรับ–สง่ เอกสาร รายงานตา่ ง ๆ เพื่อใช้ตัดสินใจในองค์กร เน่ืองจากอปุ กรณ์แตล่ ะชิน้ จะอยใู่ นตำแหน่งท่ี
ไมห่ ่างไกลมากนัก จึงสามารถทำความเร็วในการสอ่ื สาร และมีอัตราการถูกรบกวนของสัญญาณน้อย ซง่ึ อาจใช้
การเชอื่ มต่อแบบใชส้ ายหรือไร้สายก็ได้
3. เครอื ข่ายนครหลวง หรือ แมน (Metropolitan Area Network : MAN) เป็นเครือข่ายทใี่ ช้
เชือ่ มโยงแลนท่ีอย่หู ่างไกลออกไป เช่น การเชื่อมต่อเครือขา่ ยระหว่างสำนกั งานที่อาจอยคู่ นละอาคารและมี
ระยะทางไกลกนั การเชื่อมต่อเครอื ข่ายชนิดนอ้ี าจใชส้ ายไฟเบอร์ออปตกิ หรือบางคร้ังอาจใช้ไมโครเวฟเชอ่ื มต่อ
ซึ่งเครือขา่ ยแบบนี้จะใช้ในสถานศึกษา โดยมีชื่อเรยี กอีกอยา่ งหนง่ึ วา่ เครอื ขา่ ยแคมปัส (Campus Area
Network : CAN) ซึง่ ถือวา่ เป็นระบบเครือขา่ ยที่มีการเช่ือมตอ่ กนั ในระหว่างท่ีกวา้ งใหญ่ ครอบคลุมระยะทาง
เป็น 100 กิโลเมตร ที่มีการติดต่อกนั ในระยะที่ไกลกว่าระบบแลน และใกล้กวา่ ระบบแวน เปน็ การติดต่อ
ระหวา่ งเมือง เช่น กรุงเทพฯ กบั เชียงใหม่ เชยี งใหมก่ บั ยะลา หรือเปน็ การติดต่อระหว่างรัฐ โดยมรี ปู แบบการ
เชอ่ื มต่อแบบ Ring ตัวอย่างเช่น ระบบ FDDI (Fibre Data Distributed Interface) ทีม่ ีรัศมหี รอื ระยะทางการ
เช่ือมต่อยู่ท่ี 100 กิโลเมตร อัตราความเรว็ อยทู่ ่ี 100 Mbps มรี ูปแบบการเชอ่ื มตอ่ ท่ปี ระกอบด้วยวงแหวนสอง
ชนั้ ๆ แรกเป็น Primary Ring สว่ นช้ันที่ 2 เป็น Secondary Ring หรือ Backup Ring โดยชัน้ Secondary
Ring จะทำงานแทนกันทันทีที่สายสัญญาณใน Primary Ring ขาด FDDI เปน็ โปรโตคอลของเครือข่ายที่เน้นการ
จัดสง่ ข้อมลู ทค่ี วามเรว็ สูงส่งได้ในระยะทางท่ไี กล และมคี วามนา่ เชือ่ ถือสงู เน่ืองจากใชส้ ายใยแกว้ นำแสงจึงมี
ผู้นำ FDDI สูง มาใช้เปน็ แบ็กโบน เพ่ือการขนส่งข้อมลู อย่างไรก็ดีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบ FDDI สงู
ประกอบกับการทีร่ ะบบ Gigabit Ethernet ถูกออกแบบมาใหแ้ ทนท่ี FDDI ดังนนั้ โครงข่ายนกี้ ำลังถูกกลืนด้วย
ววิ ัฒนาการทางเทคโนโลยใี นท่ีสุด
4. เครือข่ายวงกวา้ ง หรอื แวน (Wide Area Network : WAN) เปน็ การเช่ือมต่อเครอื ข่าย
คอมพวิ เตอร์ระยะไกล ซง่ึ มีอยู่ท่วั โลกเข้าด้วยกัน โดยมีอปุ กรณ์แปลงสญั ญาณ เช่น โมเด็ม ชว่ ยในการ
ติดต่อส่ือสารหรือสามารถนำเครือขา่ ยทอ้ งถ่นิ มาเช่อื มต่อกันเปน็ เครือข่ายระยะไกล เช่น เครอื ข่ายอินเทอรเ์ น็ต
เครอื ข่ายระบบธนาคารทว่ั โลก เครอื ข่ายของสายการบิน เป็นต้น
แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 1
หลักการเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์
คำช้แี จง จงตอบคำถามต่อไปน้ี
1. จงบอกหลักการทำงานเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์มาโดยละเอียด
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
2. จงบอกความสำคญั ของเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์
.......................................................................................................................................................... ....................
............................................................................................................... ...............................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................... ...............................
3. จงบอกประเภทเครือข่าย แบง่ ตามพ้นื ท่ีที่ครอบคลุมการใชง้ าน แบ่งออกเป็นกีป่ ระเภท อะไรบา้ ง
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
4. จงบอกประเภทของเครือข่ายแบ่งตามหน้าทขี่ องคอมพวิ เตอร์ แบง่ ออกเป็นก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
5. จงบอกประเภทของเซริ ์ฟเวอร์ทีใ่ หบ้ รกิ ารแบบตา่ งๆ มกี ่ีประเภท อะไรบา้ ง
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 1
หลกั การเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์
คำชแ้ี จง ให้เลอื กคำตอบที่ถูกต้องท่สี ดุ เพยี งคำตอบเดียว
1. ข้อใดคือความหมายของระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์
ก. การเชอื่ มต่อคอมพวิ เตอร์และอุปกรณเ์ ข้าด้วยกันเพ่ือท่ีจะใช้ข้อมลู และอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ร่วมกันได้
เปน็ การเพ่ิมประสทิ ธภิ าพในการทำงานให้ดียิ่งข้นึ และยังประหยดั ในเรือ่ งของอุปกรณเ์ ช่ือมต่ออนื่ ๆ อีกดว้ ย
ข. การให้บรกิ ารควบคุมดา้ นการสือ่ สารทีจ่ ะตอ่ เช่ือมกบั อุปกรณส์ อ่ื สารอนื่ เรยี กวา่
“Communication Server”
ค. การเชอ่ื มต่อเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ระยะไกล
ง. การทำให้เกิดการทำงานรว่ มกันเปน็ กลุ่ม และสามารถทำงานพร้อมกนั
จ. เปน็ การเช่อื มตอ่ เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรร์ ะยะไกล ซ่ึงมีอย่ทู ัว่ โลกเขา้ ด้วยกัน
2. หลักการทำงานของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์แบง่ การทำงานออกไดเ้ ปน็ ก่สี ่วน
ก. 2 สว่ น ข. 3 ส่วน
ค. 4 ส่วน ง. 5 สว่ น
จ. 6 สว่ น
3. ข้อใดไม่ใชห่ น้าที่ การใหบ้ ริการของเคร่ืองแม่ขา่ ย (Server)
ก. ใหบ้ รกิ ารในการจัดเก็บข้อมลู เรยี กว่า “File Server”
ข. ให้บริการดา้ นการบำรุงรักษาโปรแกรมให้กบั เครื่องลูกข่าย
ค. ให้บริการควบคมุ ด้านการส่ือสารที่จะต่อเชอ่ื มกับอปุ กรณ์สอื่ สารอืน่ เรยี กว่า “Communication
Server”
ง. ให้บริการดา้ นการพมิ พ์เอกสารและควบคมุ เครือ่ งพิมพ์ เรียกว่า “Printer Server”
จ. ถกู ทุกข้อ
4. ขอ้ ใดคือประเภทของเครือขา่ ยท่ใี ชร้ ะดับความปลอดภัยของข้อมูลเปน็ เกณฑ์
ก. เครอื ขา่ ยส่วนบคุ คล
ข. เครอื ข่ายเฉพาะที่
ค. เครอื ขา่ ยวงกว้าง
ง. อนิ เทอร์เน็ต
จ. เครือข่ายนครหลวง
5. ขอ้ ใดคือระบบเครือขา่ ยทเี่ ครอื่ งทุกเคร่ืองมีสถานะเทา่ เทียมกันท้งั หมด โดยเครอื่ งทกุ เครอื่ งสามารถเปน็ ได้
ทั้งเครื่องผ้ใู ชบ้ รกิ ารและเครื่องผ้ใู หบ้ ริการในขณะใดขณะหน่งึ
ก. Peer–To–Peer ข. PAN ค. MAN ง. WAN จ. LAN