การจัดการเรียนรู้แบบวิธีสอนผนวกกับเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน Canva ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ

การจัดการเรียนรู้
แบบวิธีสอนผนวกกับ
เทคโนโลยีแอปพลิเคชัน Canva
ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ

กลุ่ม The Dark Knigth

รายวิชา 374434
ประเด็นปั จจุบันทางด้านคอมพิวเตอร์ศึกษา

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

รายงาน

เรื่อง การจดั การเรียนรู้แบบวธิ สี อนผนวกกบั เทคโนโลยีแอปพลเิ คชนั Canva
ในรายวชิ าวทิ ยาการคานวณ

จดั ทาโดย

61412116 นางสาวนสิ าลกั ษณ์ อนันทสขุ เลขที่ 19
61412376
61413861 นางสาวปญั ญพฒั น์ ชืน่ บางบ้า เลขที่ 24

นายสทุ วิ สั โพธบิ ลั ลงั ก์ เลขที่ 38

สาขาคอมพิวเตอร์ ปี 4

อาจารย์ประจารายวชิ า
ผศ.ดร.พิชญาภา ยวงสร้อย

รายวิชา 374434 ประเดน็ ปจั จบุ นั ทางดา้ นคอมพวิ เตอรศ์ ึกษา
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร

คำนำ

รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา 374434 ประเด็นปัจจุบันทางด้านคอมพิวเตอร์ศึกษา
เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ด้านประเด็นเทคโนโลยีที่มาแรงในยุคปัจจุบัน โดยได้ศึกษาผ่านแหล่งความรู้ต่างๆ อาทิ
เช่น ตำรา หนังสือ หนังสือพิมพ์ วารสาร ห้องสมุด และแหล่งความรู้จากเว็บไซต์ต่างๆ โดยรายงานเล่มนี้ต้องมี
เนื้อหาเกี่ยวกับ การจัดการเรียนรู้แบบวิธีสอนผนวกกับเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน Canva ในรายวิชาวิทยาการ
คำนวณ การพัฒนาความรู้ในเนื้อหาผนวกวิธีสอนและเทคโนโลยีในการสอนวิทยาศาสตร์ และการจัดทำแผนการ
เรียนการสอนท่ีใช้ความคิดวธิ สี อนและเทคโนโลยีมาประยกุ ต์ใช้

ผู้จัดทำคาดหวงั เป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทำเอกสารฉบับนี้จะมีข้อมูลทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อผู้ท่ีสนใจศึกษาการ
จัดทำแผนการเรยี นการสอนที่ใชค้ วามคดิ วธิ สี อนและเทคโนโลยี

คณะผจู้ ัดทำ

สารบญั

หวั ข้อ หนา้
แฟม้ สะสมผลงาน……………………………………………………………………………………………………………………………………1

ทฤษฎ/ี แนวคดิ ท่เี ก่ียวข้องกบั แฟม้ สะสมผลงาน……………………………………………………………………………..1
ประเภทของแฟม้ สะสมผลงาน……………………………………………………………………………………………………..1
กระบวนการจัดทำแฟม้ สะสมงาน…………………………………………………………………………………………………2
องค์ประกอบของแฟ้มสะสมผลงาน………………………………………………………………………………………….……2
แอปพลเิ คชัน Canva…………………………………………………………………………………………………………………………….…7
การเขา้ ใชง้ านโปรแกรม Canva…………………………………………………………………………………………….……..7
การเข้าใชง้ านผา่ นแอปพลิเคชัน Canva…………………………………………………………………………………….….7
การเขา้ ใชง้ านแอปพลิเคชัน Canva ผา่ นเว็บไซต์…………………………………………………………………………..11
เครือ่ งมอื ในโปรแกรม Canva……………………………………………………..………………………………………………13
เครื่องมอื บนหน้าสไลด์……………………………………………………………………………………………………………….16
Padlet………………………………………………………………………………………………………………………………………………….18
Kahoot…………………………………………………………………………………………………………………………………………………20
inskru.com…………………………………………………………………………………………………………………………………………..24
การพัฒนาความรใู้ นเน้ือหาผนวกวธิ ีสอนและเทคโนโลยีในการสอนวิทยาศาสตร์……………………………………………26
ความรดู้ า้ นเทคโนโลยี (Technological Knowledge) หรือ TK………………………………………………….....26
ความรู้ดา้ นวธิ ีการสอน (Pedagogical Knowledge) หรือ PK………………………………………………………..27
ความรู้ด้านเนอ้ื หา (Content Knowledge) หรือ CK…………………………………………………………………….28
แผนการจดั การเรียนรู้……………………………………………………………………………………………………………………………..30
ภาคผนวก……………………………………………………………………………………………………………………………………………..44

1

แฟม้ สะสมผลงาน

“แฟ้มสะสมผลงาน” หรือเรียกชือ่ วา่ Portfolio ซึ่งหมายถึงแฟ้มที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆ ที่สามารถ
อธบิ ายถงึ ความเป็นตัวตนของเราได้ ช่วยใหค้ ณะกรรมการรวู้ ่าเราเคยทำอะไรมาบ้าง มคี วามสามารถอะไรบ้าง
ตลอดจนผลงานท่ีไดท้ ำและรางวัลทไี่ ดร้ บั มา และอาจมีความสอดคล้องกับสาขาวชิ าทีเ่ ราตอ้ งการสมัครเรียน

ทฤษฎ/ี แนวคดิ ท่เี ก่ียวข้องกบั แฟม้ สะสมผลงาน

แนวคิดเร่ืองแฟม้ สะสมงานได้ถูกนำมาใชใ้ นชว่ งประมาณตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยนกั ศึกษา
ในกลุ่มประเทศแถบอเมริกา โดยมีประเทศแคนาดาเป็นผู้ริเริ่มการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ที่มี
หลกั การสำคญั คอื ยึดหลักการประเมินผเู้ รียนจากการสะสมผลงาน และไดพ้ ัฒนาสูร่ ปู แบบใหม่ท่ีชัดเจนขึ้น
ในประเทศแมกซิโก ในชื่อที่เรียกว่า “The teaching portfolio” พร้อมทั้งมีการศึกษากันอย่างจริงจังใน
ระยะตอ่ มาของมหาวิทยาลัยในสหรฐั อเมริกา โดยแนวคิดเร่ืองแฟม้ สะสมงานเป็นที่กลา่ วขวัญในสหรัฐอเมริกา
ประมาณกลางปี ค.ศ. 1980 แฟ้มสะสมงานนักเรียนได้ถูกนำมาใช้อย่างจริงจังทั้งในระดับชั้นของโรงเรียนใน
เขตการศกึ ษาในและมลรัฐโดยมกี ารใชห้ ลายรูปแบบ

1. แฟม้ รวบรวมผลผลติ จากโครงงานที่ผู้เรยี นผลิตข้นึ เอง
2. แฟ้มรวบรวมผลงานประเภทต่างๆ ของผเู้ รยี น และบนั ทกึ ของครู
3. แฟ้มรวบรวมผลลพั ธท์ ีไ่ ดจ้ ากการวัดผลมาตรฐานที่นำมาใช้วดั ผลผู้เรียน
การนำแฟ้มสะสมงานไปใช้ในการประเมินผลได้รับการพัฒนาและใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศ
แถบตะวันตก ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ในราวปี 1988 เป็นต้นมาโดยเรียกว่า “การ
ประเมินผลการเรียนโดยใช้แฟ้มสะสมงาน (Portfolio assessment)” ได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย
เช่น รัฐเวอรม์ อนต์ ได้ใช้วิธีการนีป้ ระเมนิ ผลการเรียนวชิ าคณิตศาสตรอ์ ย่างเป็นทางการทั่วท้ังรฐั แทนวิธีการ
ดั้งเดิมที่ใช้แบบทดสอบ ซึ่งจากการสอบถามครูนักการศึกษาและผู้บริหารการศึกษามีความเห็นตรงกันเป็น
ส่วนใหญ่ว่าเป็นวธิ ีการประเมินผลทีใ่ ช้ได้ดีกว่าวิธีการเดิม ในประเด็นที่สามารถตรวจสอบได้ว่านกั เรียนเรียนรู้
อย่างแท้จริงหรือไม่ และนักเรียนมีความสามารถอะไรบ้างจากการแสดงออกทั้งทางด้านสติปัญญา ร่างกาย
และความรสู้ ึก (ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช, 2540)

ประเภทของแฟ้มสะสมผลงาน

วรรณดี ชณุ หวฒุ ิยานนท์ (2540: 4-5) ได้แบ่งแฟม้ สะสมงานตามจุดมุ่งหมายในการใชไ้ ว้ดังน้ี
1. Personai portfolio เปน็ portfolio ทีร่ วบรวมข้อมลู สารสนเทศส่วนตัวของนกั เรียน เชน่

บุคลิกภาพสว่ นตวั งานอดเิ รก งานกจิ กรรม งานทอ่ งเท่ียว ความสามารถพเิ ศษ เรอ่ื งราวของครอบครวั
รวมทั้งงานอ่าน งานเขียน ส่ิงทีภ่ าคภูมใิ จ สิง่ ทีส่ นใจ สิง่ ท่ปี ระสบความสำเร็จ เปน็ ตน้

2

2. Learning portfolio เป็น portfolio ที่รวบรวมงานของนักเรียน แสดงให้เห็นถึงความรู้
ความสามารถ ความพยายาม ความก้าวหน้า และผลสัมฤทธิ์ในด้านใดด้านหนึ่งหรอื หลายด้านของนกั เรียนซง่ึ
เน้นกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนมักประกอบด้วยรายงานกระบวนการทำงานของนักเรียน การประเมิน
ตนเองของนักเรียน การบันทึกของครู ความคิดเห็นของผู้ปกครองและเพื่อนนักเรียน จุดมุ่งหมาย คือ ให้
แนวทางแกค่ รูและนักเรยี นในการพฒั นาการเรียนรู้ของนักเรยี น และใหผ้ ้ปู กครองมีสว่ นรว่ มดว้ ย

3. Accountability portfolio เปน็ portfolio ท่รี วบรวมผลงานของนักเรียนท่ีคดั สรรแล้ว แสดง
ให้เหน็ ผลการเรียนรู้ของนกั เรียนตามจดุ มุ่งหมายของหลักสูตร มักประกอบดว้ ยผลการประเมินมาตรฐานการ
เรียนรู้ งานท่คี ดั เลือกแล้วซงึ่ สร้างขึ้นตามเกณฑท์ ่ีกำหนด และบันทึกของครู จุดมุง่ หมาย คอื ประเมิน
ผลสมั ฤทธ์ิของนักเรยี นเพือ่ การตรวจสอบและประเมินคุณภาพการจดั การศึกษา

จากรายละเอียดของแฟ้มตามวัตถุประสงค์ต่างๆ จะเห็นได้ว่าการนำแฟ้มสะสมงานมาใช้เป็น
เครื่องมือในการศึกษาพัฒนาการของนักเรียนจากผลงานตลอดจนการเรียนการสอนและกิจกรรมในห้องเรียน
จะสามารถบอกได้ถึงพัฒนาการความก้าวหน้าและความสำเร็จในการทำงานแฟ้มสะสมงานจึงเ ป็นเครื่องมือ
หนึ่งที่จะศึกษาพัฒนาการได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับปรุงแก้ไขพัฒนาการในด้านต่างๆ ตลอดจนเพ่ิม
ศักยภาพในการทำงานได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

กระบวนการจัดทำแฟ้มสะสมงาน

กระบวนการจดั ทำแฟม้ สะสมงานในช้ันเรียนมขี น้ั ตอนดังนี้
ขัน้ ที่ 1 ขน้ั วางแผนร่วมกนั ในการทำงาน
ข้นั ที่ 2 ขัน้ รวบรวมชิน้ งานและจัดการชิ้นงาน
ขนั้ ที่ 3 ข้ันเลือกชน้ิ งาน
ขั้นที่ 4 ขัน้ สร้างสรรคผ์ ลงาน
ข้ันที่ 5 ขน้ั สะทอ้ นขอ้ มลู ย้อนกลับเกย่ี วกบั ช้ินงาน
ขน้ั ที่ 6 ขน้ั ตรวจสอบความสามารถของตนเอง
ขั้นท่ี 7 ขั้นประเมนิ คา่ ผลงาน
ข้ันท่ี 8 ขน้ั สร้างความสัมพนั ธ์
ขน้ั ท่ี 9 ขนั้ ใหค้ ณุ ค่า นำเขา้ และเอาออกของช้ินงาน

องคป์ ระกอบของแฟ้มสะสมผลงาน

1. หนา้ ปก
ควรออกแบบให้สะดุดุตา แบบเห็นปุ๊บแล้วคนหยิบขึ้นมาอ่านปั๊บเลย ถ้าหน้าตาดีก็ใส่รูปตัวเองลงไป

present ตัวเองเต็มที่ เข้าใจง่าย สรุปเนื้อหาและมีรายละเอียดครบถ้วน คือ แฟ้มเป็นของใคร เรียนที่ไหน

3

ผลงานที่เคยทำ รางวัลที่เคยได้รับ ฯลฯ (แต่ต้องเน้นส่วนที่เป็นตัวของเราให้ได้มากที่สุด ทำออกมาให้เป็นตัว
ของตวั เอง)

– ควรออกแบบให้มีความโดดเด่น น่าสนใจ ตรงกับธีมของคณะ/สาขาที่น้องๆได้เลือกมาเพื่อดึงดูดใจ
คณะกรรมการ

– รูปทเี่ ลอื กใชค้ วรเปน็ รูปที่สวมใสช่ ดุ นกั เรียน และเหน็ ใบหนา้ ที่ชดั เจน
– ใสร่ ายละเอียดใหช้ ัดเจนว่าจะสมคั รมหาวิทยาลัยไหน คณะ และสาขาอะไร
– ควรมปี ระวตั ิสว่ นตัวของตัวเองเลก็ น้อย เพอื่ ยืนยนั ตวั ตน

ชือ่ จริง – นามสกลุ
ชอ่ื เลน่ (มีหรอื ไมม่ กี ไ็ ด)้
ชื่อโรงเรยี น
ช่ือมหาวิทยาลยั /คณะ/สาขา ทีย่ ื่น

2. ประวตั ิสว่ นตัว
นำเสนอข้อมลู ตวั เองเต็มทเี่ ลย รวมถึงประวัตทิ างดา้ นสถานศกึ ษาดว้ ย ถา้ จะใหด้ ีขอแนะนำว่าใหท้ ำ

เปน็ 2 ชดุ คือ สว่ นทีเ่ ปน็ ภาษาไทยและสว่ นที่เปน็ ภาษาองั กฤษ เพื่อเปน็ การแสดงถึงความสามารถของเราและ
ความเปน็ สากล เพราะบางทีคนทอ่ี ่านแฟ้มของเราอาจจะเป็นชาวตา่ งชาติกไ็ ดน้ ะ แล้วยงั ช่วยทำให้ดูนา่ เช่ือถือ
มากยิ่งข้ึน

– รปู ทเี่ ลือกใชค้ วรเป็นรปู นักเรยี น หรอื รูปภาพทเี่ ห็นหน้าตาชัดเจน
– ใสข่ อ้ มลู สว่ นตวั พ้ืนฐาน ให้ครบถ้วน และควรเปน็ ข้อมูลที่ตรงตามบัตรประชาชน
– เพิ่มเตมิ ในส่วนของงานอดเิ รกเข้าไป เพ่ือบ่งบอกความเป็นตวั เองมากยง่ิ ขน้ึ

4

– ควรใสข่ อ้ มลู ความสามารถพิเศษ ซ่ึงถ้าเก่ียวขอ้ งคณะ/สาขาทยี่ ่ืน จะยิ่งส่งเสรมิ กนั ข้ึนไปอีก
– ข้อมลู ครอบครวั ควรทีจ่ ะใสเ่ พอื่ สำรองข้อมลู ในกรณที เ่ี กิดปญั หาแล้วตดิ ต่อนกั เรียนไม่ได้
– ช่องทางการตดิ ต่อ/ข้อมลู ติดตอ่ จะต้องเป็นขอ้ มูลท่อี ัพเดทลา่ สุด หากเกดิ อะไรขึ้นจะได้ตดิ ตอ่ กลบั
ได้อยา่ งถกู ต้อง
3. ประวัตทิ างดา้ นการศึกษา
ใหเ้ รียงลำดบั จากการศึกษาระดับต่ำสดุ จนกระท่ังปัจจุบนั และตอ้ งสรุปผลการเรยี นท่ีได้มาครัง้ ลา่ สดุ
ด้วย ควรเน้นเป็นส่วนท้ายให้เหน็ เดน่ ชัดท่สี ดุ (อาจมีเอกสารรับรองผลการเรยี นแนบมาด้วยกไ็ ด้ จะดีมาก)
– ชอื่ โรงเรียนทจ่ี บมาในแตล่ ะระดับชั้น ตง้ั แต่ชนั้ ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ มธั ยมศึกษาตอน
ปลาย
– เกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) ในแตล่ ะช้นั ปี
4. รางวลั และผลงานท่ไี ด้รบั
เขยี นในลักษณะเรียงลำดบั การได้รับจากปี พ.ศ. (ในสว่ นนี้ไมแ่ นะนำวา่ ต้องใส่เกยี รตบิ ตั รลงไป เพราะ
อาจทำให้แฟ้มดไู ม่มีจดุ เดน่ เพราะมนั แยง่ กนั เด่นหมด ซงึ่ จะทำใหค้ นอ่านไมร่ ู้ว่าควรต้องอ่านตรงไหนดกี ่อน)
– ผลงานควรเรียงจากรางวลั ใหญ่ ไปรางวัลเลก็ เช่น การแข่งขนั ระดับประเทศ ระดับจงั หวดั ระดับ
ภายในโรงเรียน
5. รางวัลและผลงานที่ประทับใจ
เปน็ ผลงานหรอื รางวัลที่ได้รบั และเกิดความภาคภูมิแบบสุดๆ รางวลั แบบนีแ้ หละทเ่ี ป็นรางวลั แห่งชวี ติ
ทเี่ ราภูมใิ จสดุ ๆ (ควรใสห่ ลกั ฐานลงไปประกอบด้วยเพ่ือความนา่ เช่อื ถือ อาจมีรูปถา่ ยประกอบมาดว้ ยจะดมี าก)
– ควรแสกนรูปภาพผลงาน แบบสี เพือ่ ความสวยงาม ชัดเจน ขนาดรูปภาพไมค่ วรเล็กจนเกินไป
จะทำใหเ้ ห็นรายละเอยี ดได้ไม่ชดั เจน
– ตอ้ งเขยี นคำบรรยายใตภ้ าพดว้ ยว่า เราเข้ารว่ มกิจกรรมหรอื การแข่งขนั อะไร และได้รับรางวลั อะไร
มาบ้างในทุกๆภาพใหก้ ระชับทสี่ ดุ
6. กจิ กรรมท่ีทำในโรงเรยี น
อาทิเช่น เปน็ ประธานนักเรียน กจิ กรรมในชมรมหรืออย่างอ่นื ใส่เพื่อให้รวู้ ่าเรามีประสบการณ์การ
ทำงานรว่ มกับผู้อื่นได้ รู้จักการทำงานเป็นทีม หรือตรงส่วนน้ีจะใชเ้ ป็นงานพเิ ศษท่กี ำลังทำกไ็ ด้ หากเรียนไป
ดว้ ยทำงานไปดว้ ยจะทำใหผ้ ลงานมคี ณุ คา่ มากขึ้น คนหยิบข้ึนมาอา่ นจะเห็นคุณค่าของเราตรงนี้
– คัดเลือกกจิ กรรมทีโ่ ดดเด่น เข้ารอบ หรือได้รับรางวัล (โดยเรียงจากรางวัลใหญ่ เลก็ ) และเก่ยี วข้อง
กับคณะ/สาขา ทีย่ ืน่ สว่ นกิจกรรมท่ีไม่มีความเกย่ี วข้องควรตดั ท้งิ ไม่ควรใส่กจิ กรรมเยอะจนเกนิ ไป
– เลือกใช้รปู ภาพที่เห็นตัวเองขณะทำกจิ กรรมนนั้ ได้อย่างชดั เจน ภาพไม่ควรมขี นาดท่ีเล็กจนเกนิ ไป
(ควรใสเ่ ครอ่ื งหมายในรูปด้วยวา่ เราคือคนไหนในรปู ภาพน้ี)
– อธบิ ายรายละเอยี ดของกจิ กรรมให้กระชบั เขา้ ใจง่ายและเหน็ ภาพ รวมถึงรางวลั ท่ไี ด้รับจากการ
แขง่ ขันนด้ี ้วย
7. ผลงานตวั อยา่ ง

5

คอื งานหรือรายงานท่ีคดิ วา่ ภาคภูมิใจมากทสี่ ุดจากการเรยี นที่ผา่ นมา เชน่ โครงงานวทิ ยาศาสตร์
รายงานการวิจยั ตา่ งๆ อาจจะนำเสนอ 5 รายวชิ าหลกั ที่เราเคยทำก็ได้ เป็นต้น
8. ความสามารถพิเศษตา่ งๆ

ควรโชวค์ วามสามารถพเิ ศษที่คนทวั่ ไปไม่มีหรือมีคนทำน้อย และต้องเป็นความสามารถพิเศษท่ี
สอดคล้องกบั คณะ ที่เราต้องการศกึ ษาต่อหรือถ้าไม่มีก็เป็นความสามารถพิเศษท่วั ๆ ไป เช่น รอ้ งเพลง เลน่
ดนตรี กฬี า ฯลฯ
ภาพรวมรูปเลม่

– จำนวนหนา้ ไมค่ วรเกนิ 10 หน้า (ไม่รวมหนา้ ปก) ท้ังน้ี ข้ึนอยูก่ บั แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด
– ใชข้ นาดตวั อกั ษรและฟอนต์ ทอี่ า่ นง่าย และไมห่ ลากหลายรปู แบบจนเกนิ ไป
– โทนสี หรอื ลวดลายทเี่ ลือกใชค้ วรเปน็ ธมี เดียวกันท้งั เล่ม
ตวั อย่างแฟม้ สะสมผลงาน

6

7

แอปพลเิ คชนั Canva

Canva เปน็ แอปพลเิ คชันสำหรับสรา้ งส่ือการนำเสนอหลากหายรปู แบบ เชน่ Presentation, Poster,
Card, Resume, Certificate, Infographic เป็นต้น ซึ่ง Canva นั้นจะมีขนาดมาตรฐานให้เลือกหรือ ผู้ใช้
สามารถกำหนดขนาดเองได้ Canva ใช้งานงา่ ย สวยงาม สามารถแบ่งปนั ให้แกผ่ ้อู น่ื ได้

การเขา้ ใช้งานโปรแกรม Canva

ผใู้ ชส้ ามารถเขา้ ใช้งานได้ 2 รูปแบบ
1. ผา่ นแอปพลิเคชัน Canva สามารถเขา้ ใช้งานได้ทั้งระบบ Android และ ios
2. ผา่ นเวบ็ ไซต์ www.canva.com

การเข้าใช้งานผ่านแอปพลเิ คชัน Canva

1. เปิด App Store หรอื Play Store คน้ หาแอปพลิเคชนั โดยพิมพ์ “Canva” ในช่อง ค้นหา
2. กด รบั หรอื ตดิ ต้งั (install) เพอื่ ทำการตดิ ต้ังแอปพลิเคชนั

8

3. เม่ือดาวน์โหลดเสร็จส้นิ แอปพลิเคชันจะปรากฏที่หน้าจอดังน้ี

4. เม่ือเปดิ แอปพลเิ คชันจะปรากฏหน้าจอใหผ้ ู้ใช้งานใหมท่ ำการสมคั รใช้งาน หรือหากเป็นผใู้ ชง้ านเกา่
ก็สามารถกดเข้าสรู่ ะบบผ่านบัญชตี ่างๆได้

5. จะปรากฏหนา้ จอให้ยนื ยันสทิ ธิด์ ังภาพ ให้ผ้ใู ชง้ านทำการกด “ดำเนนิ การต่อ”

9

6. เม่ือเสร็จส้ินจะแสดงหนา้ แอปพลิเคชัน มีเทมเพลตผลงานใหเ้ ลอื กใชม้ ากมาย

7. ผใู้ ชง้ านสามารถกำหนดขนาดเองได้ โดยกดเคร่ืองหมายบวก จะมหี น้าต่างให้ผ้ใู ชง้ านได้กำหนด
ขนาดของผลงาน มที ้ังขนาดท่ีแนะนำและขนาดท่ีผูใ้ ช้งานสามารถกำหนดขนาดเองได้

10

8. เมือ่ ผู้ใชง้ านเลอื กเทมเพลตเรียบรอ้ ยแล้ว ให้ผู้ใชง้ านคลิกส่วนท่ีตอ้ งการแก้ไข จะมตี วั เลือก
เคร่อื งมอื แสดงขึ้นมาดังภาพ

11

การเขา้ ใช้งานแอปพลเิ คชนั Canva ผ่านเวบ็ ไซต์

1. เปิด Web Browser คน้ หาแอปพลเิ คชันโดยพิมพ์ “Canva” ในช่อง คน้ หา เลือกเว็บที่ปรากฏดัง
ภาพ

2. คลกิ เขา้ ส่รู ะบบ หรือสมคั ร

12

3. เมื่อสมัครใชง้ านเสรจ็ สน้ิ จะปรากฏหนา้ จอดังภาพ โดยจะมีหน้าตา่ งใหเ้ ลอื กสร้างสื่อ ผู้ใชง้ าน
สามารถสร้างสรรคง์ านไดห้ ลากหลายจากตัวเลือกที่โปรแกรมมมี าให้เลือก

4. หน้าตาของโปรแกรมจะมีหนา้ สไลด์ และเครื่องมีอยู่ทางด้านซ้าย ซงึ่ มีให้เลือกใชม้ ากมาย
โดยเราจะเร่ิมคน้ หา Portfolio โดยใสใ่ นช่องค้นหา

แล้วจะมแี ม่แบบให้เลือกใชอ้ ย่างมากมาย สามารถเลือกไปปรบั ใชไ้ ดอ้ ยา่ งอิสระ

13

เครือ่ งมือในโปรแกรม Canva

1. แม่แบบ คอื แบบพิมพ์ทีส่ ามารถนำมาใช้เปน็ แบบในการทำสไลดต์ า่ งๆ ใชใ้ นการออกแบบส่อื การ
สอน ใหม้ คี วามนา่ สนใจและประหยดั เวลาในการทำงานเป็นอยา่ งมาก

2. องค์ประกอบ คือ การเลอื กรปู ต่างๆ มาใช้ในการประกอบส่ือโดยรปู ภาพตา่ งๆ ให้เลือกอย่าง
มากมาย เช่น เส้น รปู รา่ ง กราฟิกตา่ งๆ

3. อปั โหลด คอื เคร่ืองมือในการลงภาพ วดิ ีโอ หรอื เสยี งเพลง จากทีอ่ ื่นๆ มาใชใ้ นสอ่ื ของเรา เชน่ ไฟล์
ภาพ วดิ ๊โอใน เครือ่ ง

14

4. ภาพถ่าย คอื เครอ่ื งมือที่ใช้ในการคน้ หาภาพตา่ งๆมาใช้ในการตกแตง่ ผลงาน

5. ขอ้ ความ คือ การสร้างกล่องขอ้ ความมาเพื่อใช้ในการพมิ พ์ตวั อกั ษรโดยเราสามารถเลอื ก หวั ขอ้ ใน
การพิมพ์ได้ และการพิมพ์สามารถเลอื กฟอนต์ได้ โดยฟอนตท์ อี่ ย่ใู นโปรแกรม Canva มีใหเ้ ลอื กมากมาย

5. เพ่ิมเตมิ คือ ผู้ใช้สามารถเพ่มิ เคร่ืองมือเข้ามาใช้ในโปรแกรม Canva เชน่ เสยี ง วิดโี อ พื้นหลงั โฟลเดอร์

15

1. Brandfetch สามารถนำแบรนตา่ งๆ มาประกอบสอื่ การสอนได้ GIPTY เปน็ ภาพไฟล์ GIF ท่ี
สามารถเคร่ืองไหวได้ วาดเป็นเครื่องมือท่ีใชเ้ ขียนบนหนา้ กระดาษโดยสามารถเลือกสไี ด้อย่าง
มากมาย และเลือกแปรงได้

2. การทำ QR code โดยสามารถนำลิงคเ์ วบ็ ท่ตี ้องการมาใสใ่ นชอ่ งแล้วทำเปน็ QR code ได้
ทันที การทำแผนภูมิต่างๆ ซงึ่ มีใหเ้ ลือกหลากหลายแบบ สไตล์ โดยจะสามารถเปล่ียนสีใน
สไลด์น้ันๆ ไดต้ ามสที เี่ ราตัง้ ค่าไว้ แผนทสี่ ามารถนำแผนท่ที ี่เราเลอื กตำแหน่งไวม้ าสง่ ในสไลด์
เราได้

3. อิโมจิ โดยจะมอี ิโมจิใหเ้ ลอื กใชอ้ ย่างมากมาย
4. Pixel และ Pixabay จะสามารถค้นหารู้เพิ่มเติมทไ่ี ม่มีอยู่ในโปรแกรม Canva ได้โดยรูปที่ใช้

สามารถใช้ งานไดฟ้ รี
5. Stipop เปน็ เครื่องมือคน้ หาสติกเกอร์ตวั การ์ตนู นา่ รักๆ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการสรา้ งสรรค์

ส่ือของเราได้
6. Youtube สามารถนำวดิ ๊โอจาก Youtube เขา้ ใชใ้ นสอ่ื โดยไมต่ ้องผา่ นโปรแกรมอ่นื ให้

ยงุ่ ยาก
7. ฝัง สามารถนำลิงค์ทีส่ ามารถใชง้ านได้จากตัวอยา่ ง เขา้ มาใช้ในสอื่ ได้

16

เครอื่ งมอื บนหนา้ สไลด์

ในหน้าสไลดเ์ ราสามารถปรบั แต่งหนา้ สไลด์เบื้องตน้ ได้ โดยจะมีเคร่ืองดงั น้ี
1.เปล่ียนสีพนื้ หลัง
2.ทำการเคล่ือนไหวของสไลด์
3.เพม่ิ หน้าสไลด์
4.ซมู หนา้ กระดาษ
5.ดเู สน้ กริด

การปรับรูปภาพและขอ้ ความ

17

เมอ่ื มีรปู ภาพเข้ามาในหนา้ สไลด์เราสามารถเลือกปรับรูปได้ โดยจะมเี คร่อื งขนึ้ มาให้ทางด้านบนซ่ึงเรา
สามารถปรบั สี ขนาด หรอื การเคลือ่ นไหวของรปู ได้

การปรับวิดีโอจะคล้ายกับรูปภาพแต่จะมีเคร่ืองตดั วิดีโอ ซึ่งจะสามารถปรับความสั้น-ยาวของวดิ ีโอได้
แตไ่ ม่สามารถปรบั สขี องวิดีโอได้

เมื่อมีกล่องข้อความเข้ามาในหน้าสไลด์ ในการทำงานของกล่องข้อความจะคล้ายการทำงานของ
Microsoft Power Point โดยเข้าสามารถเลือกกฟอนต์ ขนากตัวหนังสือ ตัวหนา ตัวเอียง ปรับตำแหน่งของ
ตวั หนงั สอื หรือ การสร้างการเคลอ่ื นไหวใหก้ ับตัวหนงั สอื

18

Padlet

Padlet คือ เว็บไซต์ที่ให้บริการกระดานแสดงความคิดเห็นออนไลน์ รองรับผู้ใช้หลายคนผู้ใช้สามารถ
เข้ามาอภิปรายแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เขียนคำถาม คำตอบ หรือสรุปเนื้อหา เป็นช่องทางแสดงความ
คิดเหน็ ของนกั เรยี นและครูหรือเพือ่ นๆ ในช้ันเรียน

Padlet สามารถโพสต์ ข้อความ รูปภาพ วีดีโอ เสียง และลิงก์เว็บไซต์ ทั้งยังสามารถ Export ข้อมูล
ในบอร์ดออกมาเป็นไฟล์ รูปภาพ pdf csv Excell หรือพิมพ์ และแชร์ผ่าน ช่องทางต่างๆ ได้ เช่น Facebook
Twtter E-mail เปน็ ตน้
การใชง้ าน Padlet

- การสร้างกระดานออนไลน์ สำหรับการสร้างบอร์ดรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น โดยเปิด เว็บ
Browser และพิมพ์เว็บไซต์ https://th.padlet.com/ หรือดาวน์โหลดติดตั้ง App จาก Play store หรือ
App store

- ให้ผู้ใชง้ าน “ลงทะเบียน” กรอกขอ้ มูลรายละเอียดเพื่อลงทะเบยี น หรอื ลงทะเบยี น ด้วย Google E-
mail หรอื Facebook เพือ่ เขา้ สู่หนา้ หลักของ Padlet เพ่อื สรา้ ง กระดานออนไลน์

19

- เมอื่ ลงทะเบียนเสร็จ หากผูใ้ ชง้ านท่มี บี ัญชีการใช้งานอย่แู ล้วสามารถ Login ผา่ นช่องทางอเี มลของ Google
(Login with Google) หรอื ผ่านทางระบบของ Microsoft(Login with Microsoft) ซึง่ ระบบจะเชื่อมโยงกบั
ข้อมูลตา่ งๆ ทผ่ี ้ใู ชง้ านได้ลงไว้ในGoogle หรอื Microsoft โดยอตั โนมัติ

- เมื่อเขา้ หนา้ หลัก “DashBoard” คลิกทเี่ มนู “Make A Padlet” เพื่อเริม่ สร้างกระดาน ออนไลน์

เมนูต่างๆ บนหนา้ ต่างสรา้ ง Padlet
1. Make A Padlet : สรา้ ง Padlet ใหม่
2. Join A Padlet : เขา้ ร่วมกบั Padlet
3. Gallery : คลัง Padlet
4. Up Grade : การอพั เกรด Padlet
5. Recent : Padlet บอร์ดลา่ สุดของคณุ
6. Made : Padlet ทีค่ ณุ ทำหรอื สรา้ ง
7. Shared : Padlet ของคณุ ท่ีแบ่งปัน
8. Linked : เชอ่ื มโยงชอ่ งทางต่าง ๆ
9. Network : เครือขา่ ยผู้ใชง้ าน Padlet
10. New Folder : สร้างโฟลเดอร์ใหมส่ ำหรับงานของคุณ

- เลอื กรูปแบบที่จะใชใ้ นการสร้างบอรด์ Padlet ตามรปู แบบทที่ ่านต้องการ

20

Kahoot!

แอปพลิเคชัน Kahoot ทำอะไรไดบ้ ้าง
จุดเด่นของแอปพลิเคชัน Kahoot คือสามารถใช้ในการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

เพื่อให้ทราบความรู้พื้นฐานและพัฒนาการของผู้เรียน โดยรูปแบบของตัวเลือกเป็นสีและสัญลักษณ์
ช่วยทำให้ผู้เรียนเกิดการตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ฝึกทักษะการจดจำและการเชื่อมโยงความรู้กับ
สญั ลกั ษณ์ ซง่ึ การจับเวลาของแอปพลิเคชนั Kahoot ในแต่ละขอ้ คำถามจะทำใหผ้ ู้เรยี นมีความมุ่งมัน
ในการคิดและตอบคำถามให้ถูกต้อง โดยคนที่ตอบเร็วที่สุดจะได้คะแนนมากที่สุด อีกทั้งการรวบรวม
คะแนนเป็นรายข้อเพื่อให้ผู้เรียนเห็นลำดับของคะแนนตนเอง จะทำให้ผู้เรียนเกิดความพยายามที่จะ
มงุ่ มั่นเพ่ือทำให้คะแนนสงู ข้ึนในข้อถดั ไป สำหรับข้นั ตอนการใช้งานกง็ ่ายเพยี งนิดเดียว
วธิ ใี ช้แอปพลเิ คชัน Kahoot

ขน้ั ตอนท่ี 1 เข้าส่เู ว็บไซต์ www.kahoot.com และเลือก Login

ขั้นตอนที่ 2 เลือกประเภทการใชง้ าน

21

ขั้นตอนท่ี 3 สมัครสมาชิกเพื่อเขา้ ใชง้ าน

ขั้นตอนท่ี 4 เลอื กเมนูตามท่ีต้องการ ในท่นี ่ี เลอื ก Create a Kahoot

ขน้ั ตอนท่ี 5 เลอื ก Create เพื่อเร่ิมสรา้ งแบบทดสอบ

22

ข้นั ตอนท่ี 6 เพิ่มช่ือแบบทดสอบ กำหนดรายละเอียดของ Quiz ใส่รูปแบบหน้าปก
ขั้นตอนท่ี 7 เลอื กทดลองเล่น เลน่ เลย หรอื แชร์ข้อสอบใหผ้ ู้อ่ืน
ข้ันตอนท่ี 8 มีรปู แบบของการเล่นสองรูปแบบคือ แบบคลาสสกิ และแบบทมี โหมด

23

ขัน้ ตอนท่ี 9 ใหน้ ักเรยี นใส่ Pin ท่ีปรากฏ ทำการกด start เพ่อื เริ่มการแข่งขัน เม่อื ผู้เล่นตอบคำถาม
ครบภายในเวลาที่กำหนดจะแสดงขอ้ มลู วา่ แต่ละตวั เลอื กมีผู้เล่นตอบก่ีคน ซ่ึงในแต่ละข้อจะแสดงผงั จดั ลำดบั
คะแนน ผเู้ ลน่ ทีต่ อบคำถามไดเ้ ร็วกวา่ จะไดร้ ับคะแนนสะสมมากกว่า เมือ่ การแข่งขันตอบคำถามสิ้นสุด
โปรแกรมจะแสดงผูช้ นะและจะแสดงผลการประเมนิ บนกระดาน หากต้องการบันทกึ ผลลัพธ์การแข่งขัน ให้กด
Save Rrusults แล้วผลลัพธข์ องการแข่งขนั จะถูกบนั ทึกเป็นไฟล์ Excel
แอปพลเิ คชนั Kahoot เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรบั คุณครู โดยคณุ ครูสามารถนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ไดท้ ุกสาระการเรียนรู้ ไม่
ว่าจะเป็นการนำไปใชเ้ ข้าสบู่ ทเรียน ท้งั กิจกรรมการสอนและวัดประเมนิ ผล ซึง่ จะทำให้นกั เรยี นสนุกสนานและ
ทำใหก้ ารเรียนการสอนมีความน่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากยิง่ ข้นึ อกี ทั้งยังเปน็ การผลักดันให้เกิดห้องเรียน
อจั ฉริยะและสามารถส่งเสริมทักษะความสามารถของผเู้ รยี น ในการใชเ้ ทคโนโลยเี พ่ือการเรียนรูอ้ กี ดว้ ย

24

inskru.com

วชิ าคอมพวิ เตอร์ – ใชเ้ ทคโนโลยใี ห้เกิดประโยชน์
Always inspire, always inskru คอื สโลแกนทน่ี ะโมต้งั ให้กับพนื้ ท่ีแบ่งปนั การสอนออนไลนน์ ี้
“มนั มองได้ 2 มมุ คือ เราเป็นพื้นทีท่ ี่ inspire อยูเ่ สมอ ถ้าคณุ เข้ามา คุณจะรู้สกึ inspire ขณะเดียวกัน
เราก็พยายามบิลด์ใหค้ ุณไป inspire คนอื่น เพื่อแชรไ์ อเดียต่อไปดว้ ย” หญงิ สาวเจ้าของโปรเจกต์อธิบายพร้อม
ย้ิมตาหยี
ข้อดีของการเปน็ เวบ็ ไซต์คือการมพี ื้นทเ่ี กบ็ คอนเทนตท์ ีส่ ามารถจำแนกหมวดหมู่ ค้นหาได้งา่ ย และผใู้ ช้
เข้าถึงได้สะดวกสบาย ช่วงทำเว็บไซต์แรกๆ ยีราฟที่เคยเป็นครูใน Teach for Thailand มาก่อนก็พยายามขอ
ข้อมูลเรื่องการสอนจากเครือข่ายเพื่อนครูมาอัพโหลด หลังจากนั้นนะโมที่ชอบไปร่วมงานด้านการศึกษาก็ ได้
คอนเนกชัน่ ครูดีๆ เก่งๆ เพิม่ ขนึ้ มา ทำให้ได้ทรพั ยากรการสอนที่มากขึน้ ตามไปด้วย
แมว้ ่าวันน้ี insKru จะเหลือเธอคนเดียวทีเ่ ปน็ โต้โผ เนื่องจากผ้รู ่วมกอ่ ต้ังท้งั สองคนขอถอนตวั ไปทำโปร
เจกต์ของตัวเอง แต่หญิงสาวก็ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มนี้มาได้ด้วยความร่วมมือกับกลุ่มเพื่อการศึกษากลุ่มอื่นๆ
รวมถงึ คนรุ่นใหม่ทเ่ี หน็ คณุ ค่าและความเป็นไปได้ของสิง่ ท่ีนัก (อยาก) ออกแบบการศกึ ษาคนนี้ลงมือทำ
“จริงๆ มคี นที่ตง้ั ต้นขบั เคล่อื นเรื่องนม้ี าก่อนเราคือ กลุม่ เฟซบุ๊กช่อื วา่ ‘ครูปล่อยของ (เพื่อนพลเรียน)’
กลุ่มนีพ้ สิ ูจนว์ ่าครูมีการแชร์ไอเดยี กัน ไมง่ น้ั เราจะรสู้ ึกเปน็ ไปไม่ได้เลยที่จะทำแพลตฟอร์มนี้ขนึ้ มา ตอนนั้นก็คิด
ว่าเจ๋งวะ่ ครูมาแชร์ไอเดยี กนั ผา่ นเฟซบุ๊ก แต่มารคู้ วามจริงทีหลงั ว่าคนท่เี ปน็ เจา้ ของกรุ๊ปตอ้ งไปบอกครูเจง๋ ๆ ว่า
อันนี้ดีมากเลย เอามาแชร์ในกลุ่มหน่อย มันไม่ได้เกิดการแชร์อย่างเปน็ ธรรมชาติ เป็นวิธีแมวมองแล้วสะกิดมา
ลง ซึ่งไมน่ ่าเชอ่ื ว่าผา่ นไปหน่ึงปี คนเริ่มโพสตอ์ ตั โนมัตปิ ระมาณ 5 คน คือมันเวิรก์ กวา่ เว็บเราอกี ”
“ดังนั้น เราจึงมอง position ตัวเองใหม่และมารวมตัวกับกลุ่มนี้แทน มองว่าถ้าเราเจอครูเจ๋งๆ จาก
เวิรก์ ช็อป เราจะลากเขามาท่ีกลุ่มนี้ ดว้ ยความทเ่ี ฟซบกุ๊ มนั เป็นฟดี เล่ือนลงมาเรื่อยๆ ยอ้ นหาลำบาก กเ็ ลยมีเว็บ
ที่เปน็ คลงั แยกหมวดหมู่ให้ดๆี และมีเพจเปน็ หนา้ บา้ นที่คอยกระจายคอนเทนต์”

25

เพจทน่ี ะโมว่ากค็ ือเพจ Inskru –พน้ื ทแ่ี บง่ ปันไอเดียการสอน ซ่ึงเปน็ อีกหนึ่งขาภายใต้ร่มโปรเจกต์ของ
เธอท่คี อยนำเสนอไอเดยี การสอนในรปู แบบต่างๆ เชน่ โพสต์ อัลบมั้ ภาพ วิดีโอ ฯลฯ รวมถึงแชรข์ ้อมลู ขา่ วสาร
กิจกรรมดีๆ

“ช่วงที่มีข่าวทีมหมูป่าติดถ้ำ เราปิ๊งไอเดียจากการมีปรัชญาในใจอยูแ่ ล้วว่าทำไมต้องเอาแตห่ นงั สือมา
สอน มันไม่สนุก ก็เลยเอาหมูป่ามาสอน แยกเป็นวิชาต่างๆ อย่างวิทย์ คณิต สังคม เชื่อมโยงกับสิ่งที่เรียน ทำ
เป็นโพสต์ออกมา สรุปคนแชร์หมื่นกว่า ทำให้ยอดไลก์เพจจาก 500 เป็น 5,000 คนก็ชอบเพราะมันใหม่มาก
หลังจากนั้นก็จับจุดได้ว่าทำล้อไปกับกระแสนี่แหละ ทีนี้พอมีไอเดียมากขึ้นก็รวมเป็นเซต เช่น รวมไอเดียที่ทำ
ให้เด็กกล้าแสดงความคิดเหน็ ”

“คอนเทนตข์ อง insKru สว่ นใหญเ่ ป็นแนวที่พยายามชวนทุกคนมองหาสิ่งใหม่ๆ ในห้องเรยี น และเอา
ตัวอยา่ งทค่ี รูทำในห้องเรยี นอย่แู ล้วมาแชร์ เพราะถ้าเอาตวั อย่างจากเมืองนอกหรือโรงเรียนทางเลือกกจ็ ะคนละ
บริบทกัน เราก็เอาไอเดียจากโรงเรียนรัฐและเอกชนปกตนิ ี่แหละมาใช้ และชวนคนตั้งคำถามแปลกๆ อย่างถ้า
ไม่เช็กชื่อด้วยการตอบว่ามาครับ มาค่ะ จะเช็กชื่อด้วยวิธีไหนได้บ้าง รวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์ในห้องเรียน
เพราะจรงิ ๆ แล้วคาบเรยี นกส็ ่วนหนึ่ง เทคนคิ การสอนจะยังไงก็ได้ แต่ถ้าพน้ื ฐานความสัมพนั ธ์ของครูกับเด็กยัง
ไมไ่ ด้ มนั ก็ไม่ใช่ ตอ้ งดทู ีว่ ิธคี ดิ ของครดู ้วยว่าครูรับฟงั เด็กไหม ครูเขา้ ใจพวกเขาจรงิ ๆ หรือเปล่

26

การพัฒนาความรใู้ นเนือ้ หาผนวกวิธสี อนและเทคโนโลยีในการสอนวิทยาศาสตร์

ความรู้ด้านเทคโนโลยี (Technological Knowledge) หรอื TK

หมายถึง ความรู้ ความสามารถของผู้สอนที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้สื่ออุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศทางการศึกษา ทั้งในเรื่องของซอร์ฟแวร์ (Software) และ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ต่างๆรวมไปถึง
อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เกี่ยวข้อง (Associated peripherals) เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนที่มีความสอดคล้อง
และมีความเหมาะสมกับเนื้อหาวชิ าและผู้เรียน เชน่ ผสู้ อนมคี วามรูค้ วามเข้าใจในเรื่องของการจดั การเรียนการ
สอนโดยใช้เทคโนโลยีจากเว็บ 2.0 (Web 2.0 tools) ตา่ ง ๆ เช่น Wiki, Blogs, Facebook เปน็ ตน้

ซ่ึงความรปู้ ระเภทนจี้ ำเป็นที่จะต้องมีทักษะในการปฏบิ ัติงานได้กบั เทคโนโลยีท่จี ำเพาะเจาะจง ได้แก่

1) การใช้เทคโนโลยมี าตรฐาน (Standard Technologies) ได้แก่ หนงั สือ หรือกระดานเขยี น

2) การใชเ้ ทคโนโลยีข้ันสูง (Advanced Technologies) ได้แก่ เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลต่าง ๆ ตลอดจนการ
ใชแ้ อปพลิเคชัน หรอื โปรแกรมต่าง ๆ ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนวชิ า เทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ

3) ความรูใ้ นการปฏบิ ัติงานกับระบบและฮาร์ดแวรข์ องคอมพวิ เตอร์

4) ความสามารถท่ีจะใช้ชุดเครอ่ื งมือของซอฟแวรม์ าตรฐานทีม่ ีอยู่

5) ความรใู้ นการติดต้ังและการถอดการตดิ ตัง้ อุปกรณ์ประกอบเสรมิ ซอฟแวร์

6) ความรู้ในการสร้างและแก้ไขเอกสารชนิดตา่ ง ๆ

7) ความสามารถในการเรยี นรู้เทคโนโลยใี หมแ่ ละปรบั เปล่ียนลกั ษณะการใช้งานให้เหมาะสมกบั
เทคโนโลยนี ัน้ ๆ

27

ความรดู้ า้ นเทคโนโลยีท่นี ำมาใชใ้ นการจัดการเรียนรู้

Canva คือ แอปพลิเคชันสำหรับการสร้างสื่อการนำเสนอหลากหลายรูปแบบ เช่น Presentation ,
Poster , Card , Resume , Certificate , Infographic เป็นต้น นำมาใช้ในการจัดทำสื่อนำเสนอ และเป็น
เทคโนโลยีทีน่ ำมาประยกุ ตใ์ ช้ โดยให้นักเรยี นจัดทำแฟม้ สะสมผลงานผ่านแอปพลเิ คชนั Canva

Padlet คือ แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่อยู่ในแพลตฟอร์มสำหรับการระดมความคิด แสดงความ
คิดเห็น หรือแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันผ่านกระดานดิจิทัลในรูปแบบเสมือน Post it ที่ติดบนบอร์ด แสดงผล
ทุกอย่างแบบ Real-time สามารถโพสต์ทั้งในรูปแบบข้อความ รูปภาพ และลิงก์ของเว็บไซต์ได้ นอกจากนี้
สามารถ Export ข้อมูลออกมาเป็นไฟล์รูปภาพ PDF, CSV และสามารถแชร์ผ่านไปยังช่องทางต่าง ๆ ได้อีก
ดว้ ย นำมาใช้ในการจัดกิจกรรมสรปุ ความรู้หลังเรยี น

Kahoot คือ โปรแกรมเกมท่ตี อบสนองต่อการเรียนการสอน ชว่ ยให้นกั เรยี นสนกุ กับการเรียนโดยเป็น
เครื่องมือช่วยในการประเมินผล โดยผ่านการตอบคำถาม การอภิปราย หรือการสำรวจความคิดเห็น Kahoot
เปน็ เกมการเรียนรู้ ซ่ึงประกอบด้วย คำถามปรนัย เชน่ การตอบคำถาม การอภิปราย หรอื การสำรวจ คำถามจะ
แสดงที่จอหน้าชั้นเรียนและให้นักเรียนตอบคำถามบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของตนเอง เช่น คอมพิวเตอร์ มือ
ถือ ไอแพด นำมาใช้ในการจดั กิจกรรมเล่นเกมทบทวนความรู้

InsKru คือ คอมมิวนิตี้แลกเปลี่ยนไอเดียการสอนเจ๋งๆ ระหว่างครูและคนรักการสอนทั่วประเทศ
นำมาใชใ้ นการประเมินคณุ ครผู ูส้ อนหลงั การเรียนการสอน

ความรูด้ ้านวธิ กี ารสอน (Pedagogical Knowledge) หรือ PK

หมายถึง ความรู้ความสามารถของผู้สอนที่นำมาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นแนวทางการเรียนการสอนให้กับ
ผู้เรียน หรือที่เกี่ยวกับวิธีการถ่ายถอดความรู้ไปสู่ผู้เรียนรวมไปถึงกลยุทธ์ หรือกระบวนการ การปฏิบัติ หรือ
วิธีการสอนทั้งในและนอกชั้นเรียน ในส่วนนี้ไม่ร่วมถึงทฤษฎีการศึกษา (Educational theories) และวิธีการ
ประเมนิ (Assessment methods) เช่น

- การเรยี นการสอนโดยใชว้ ธิ กี ารเรียนรโู้ ดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem – based Learning: PBL)

- วธิ ีการเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเป็นหลัก (Problem – based Learning: PBL)

- การเรยี นรทู้ ่ีใชส้ มองเปน็ หลัก (Brain – Based Learning)

- วิธสี อนแบบโครงงาน (Project Method)

- การจัดการเรยี นรู้แบบค้นพบ (Discovery Method)

28

- วิธสี อนแบบศึกษาด้วยตนเอง (Self-Study Method) เปน็ ต้น

วิธีการสอนนำมาใชใ้ นการจัดการเรยี นรู้ คือ

1) สอนแบบบรรยาย (Lecture Method) วิธีสอนที่ครูเป็นผู้บรรยาย ครูจะต้องเตรียมความรู้ที่จะ
สอนเปน็ อย่างดี ใหเ้ ข้าใจเน้ือหาที่จะบรรยายจนสามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผเู้ รียนได้อยา่ งคล่องแคล่ว เสียงดัง
ฟังชัด มีระดับเสียงสูง ต่ำ เบาอย่างเหมาะสม ครูอาจบรรยายประกอบ เช่น PowerPoint , Video ,
ภาพประกอบ, แผนภูมิ เอกสารประกอบคำบรรยาย และเมอ่ื จบการบรรยายครจู ะเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนซักถาม
ขอ้ สงสยั

2) วิธีสอนการสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) วิธีสอนที่ครูหรือนักเรียนคนใดคนหน่ึง
แสดงบางสิ่งบางอย่างให้นักเรียนดู หรือให้เพื่อนๆดู อาจเป็นการแสดงการใช้เครื่องมือแสดงให้เห็น
กระบวนการวิธีการ กลวิธีหรือการทดลองทีม่ ีอันตราย ซึง่ ไมเ่ หมาะท่ีจะใหน้ กั เรียนทำการทดลอง การสอนวิธีนี้
ช่วยให้นักเรียนเกิดความรูค้ วามเข้าใจและสามารถทำในสิ่งนั้นได้ถูกต้อง และ ยังเป็นการสอนให้นักเรียนได้ใช้
ทักษะในการสังเกต และถือว่าเป็นการได้ประสบการณ์ตรงวิธีหนึ่ง วิธีสอนแบบสาธิต จึงเป็นการสอนที่ยึด
ผู้สอนเป็นศูนย์กลาง เพราะผู้สอนเป็นผู้วางแผน ดำเนินการ และลงมือปฏิบัติ ผู้เรียนอาจมีส่วนร่วมบ้าง
เล็กน้อย วิธีสอนแบบนจี้ ึงเหมาะสำหรับ จดุ ประสงคก์ ารสอนทต่ี ้องการให้ผูเ้ รียนเหน็ ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิ

3) วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์ เป็นฐาน (CBL) มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถทางสติปัญญาโดย
ให้ผเู้ รยี นได้ศึกษาค้นควา้ กระตนุ้ ความสนใจผู้เรียน ทำใหผ้ เู้ รียนนั้นมคี วามร้อู ยากเรียน สนใจค้นหาความรู้ดว้ ย
ตนเอง ฝึกฝนการตั้งปัญหาและแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม การฝึกนำเสนอและวิจารณ์
แบบสร้างสรรค์ ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ ใหม่เข้ากับความรู้เดิม โดยผู้สอนสนับสนุนให้ผู้เรียนใช้
ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอความคิด และส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ซึ่งองค์
ความรดู้ ังกล่าวสามารถนำไปปรบั ใชเ้ พอื่ การเรยี นการสอนท่ีมีประสทิ ธภิ าพต่อไป

ความรดู้ ้านเน้อื หา (Content Knowledge) หรือ CK

หมายถึง สาระ, ข้อมูล, แนวคิด, หลักการที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชาการในหลักสูตรที่ต้องการที่จะ
ถ่ายทอดไปยงั ผู้เรยี น เช่น คณติ ศาสตร์, ภาษาไทย, วทิ ยาศาสตร์ หรือวชิ าอ่นื ๆ

ความรู้เน้ือหาท่ีนำมาใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ คือ

หลกั สูตร กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาการคำนวณ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั
พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

29

ตัวชีวัด ว 4.2 ม.6/1 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอและแบง่ ปันขอ้ มูลอย่างปลอดภยั
มีจริยธรรม และวิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศท่มี ผี ลต่อการดำเนนิ ชวี ติ อาชีพ สังคมและ
วัฒนธรรม

สาระการเรียนรู้
1) องคป์ ระกอบของขอ้ มูลทจ่ี ำเปน็ ในการสรา้ งแฟ้มสะสมผลงาน
2) การนำเสนอผลงานใหน้ า่ สนใจโดยใช้เทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรค์
3) การแบ่งปันข้อมูลสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและมจี รยิ ธรรม

30

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6
เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่อื งแฟม้ สะสมผลงานโดนใจ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแบ่งปนั ข้อมูล

1.สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
แฟม้ สะสมผลงานเป็นเอกสารในการรวบรวมหลกั ฐานที่แสดงถงึ ความสามารถและผลงานของบุคคล

เพอ่ื ใช้ในการนํา เสนอประกอบการพจิ ารณาการประเมนิ การทำงาน การสมคั รเขา้ เรยี น หรือการสมคั รเขา้ ทำ
งาน และหากตอ้ งมกี ารแบง่ ปนั ขอ้ มลู สว่ นตัวบางเรอ่ื งสสู่ าธารณะ ควรคำนงึ ถึงความปลอดภยั และขอ้ ควรระวัง
ในเรอื่ งต่าง ๆ ทัง้ ต่อตนเองและผ้อู ่ืน
2.มาตราฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ติ จริงอย่างเปน็ ขั้นตอนและ
เป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม
3.ตวั ชี้วดั

ว 4.2 ม.6/1 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการนําเสนอและ แบ่งปันข้อมูลอยา่ งปลอดภยั มีจริยธรรม
และ วิเคราะห์การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศทม่ี ผี ลตอ่ การดำเนนิ ชีวติ อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม
4.จุดประสงค์การเรียนรู้

4.1 ด้านความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
4.1.1 นักเรยี นอธิบายความหมายและองค์ประกอบของแฟ้มสะสมผลงานได้

4.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
4.2.1 นกั เรยี นสามารถรวบรวมข้อมลู ทีจ่ ำเป็นในการสร้างแฟม้ สะสมผลงาน
4.2.2 นักเรียนสามารถประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี ในสร้างและนาํ เสนอแฟ้มสะสมผลงานอย่าง

สรา้ งสรรค์ และสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของผู้ประเมินผลงาน
4.3 ดา้ นจิตพสิ ัย (A)

4.3.1 นักเรียนมวี ินยั รบั ผิดชอบตอ่ งานท่ีได้รบั มอบหมาย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน

31

5.สาระการเรยี นรู้
5.1 องคป์ ระกอบของข้อมูลท่ีจําเป็นในการสรา้ งแฟ้มสะสมผลงาน
5.2 การนําเสนอผลงานให้น่าสนใจโดยใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์
5.3 การแบ่งปนั ข้อมูลอย่างปลอดภัยและมีจรยิ ธรรม

6.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
6.1 มวี ินยั
6.2 ใฝเ่ รยี นรู้
6.3 มุ่งมนั่ ในการทำงาน

7.สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
แฟ้มสะสมผลงานเป็นเอกสารในการรวบรวมหลักฐานที่แสดงถงึ ความสามารถและผลงานของบุคคล

เพอื่ ใช้ในการนาํ เสนอประกอบการพิจารณาการประเมินการทำงาน การสมัครเขา้ เรยี น หรือการสมัครเข้าทำ
งาน และหากต้องมกี ารแบ่งปันข้อมูลสว่ นตวั บางเรอ่ื งสู่สาธารณะ ควรคำนึงถึงความปลอดภยั และข้อควรระวัง
ในเรอ่ื งตา่ ง ๆ ท้ังต่อตนเองและผูอ้ ่ืน
8.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
8.1 ความสามารถในการส่อื สาร

- นักเรียนมีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่าง
เหมาะสม

8.2 ความสามารถในการคิด
- นักเรยี นมคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์

- นักเรยี นมีทกั ษะในการคิดอยา่ งสร้างสรรค์

- นกั เรียนมคี วามสามารถในการคดิ อย่างมรี ะบบ

8.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
- นักเรยี นสามารถแกป้ ญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ทเ่ี ผชญิ ได้

- นักเรียนมีความสามารถใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา

8.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
- นักเรยี นสามารถเรยี นรู้ดว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั

- นกั เรียนนำความรู้ทไี่ ด้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน

32

8.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สอ่ื
- นกั เรยี นมีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี - Slide Canva
- Slide Canva
- นกั เรยี นเลอื กและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวัย

9.ภาระงาน/ชนิ้ งาน
9.1 ชนิ้ งาน Portfolio ของฉัน

10.กิจกรรมการเรียนรู้

กจิ กรรมการเรยี นรู้

ครู นักเรียน
ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น(15นาท)ี
1. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแนะนำ 1. นกั เรียนกลา่ วทักทายครใู นชัน้
ตัวเองอย่างเป็นกันเองเพื่อให้นักเรียน เรยี นและเลน่ กิจกรรม
ผ่อนคลาย
2. ครูผู้สอนแจ้งรายละเอียดกิจกรรม 2. นักเรยี นรบั ฟงั ครูอธิบาย
จุดประสงค์ และภาระงานของบทเรียน
ในวันนี้
“ เร่อื งท่ีเราจะเรียนกนั ในวันน้ีนะคะ คือ
เร่ือง แฟม้ สะสมผลงานโดนใจ
โดยจุดประสงค์ในการเรียนรู้เรือ่ งนี้นะ
คะ

1. นักเรียนอธิบายความหมายและ
องค์ประกอบของแฟ้มสะสมผลงานได้

2. นักเรียนสามารถประยุกต์ใช้
เทคโนโลยี ในสร้างและนําเสนอแฟ้ม
สะสมผลงานอย่างสร้างสรรค์ และ
ส อ ด ค ล ้ อ ง ก ั บ ค ว า ม ต ้ อ ง ก า ร ข อ ง ผู้
ประเมนิ ผลงาน

33

3. นักเรยี นมีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบต่องานที่
ได้รับมอบหมาย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน
การทำงาน”

สำหรบั ภาระงานในเร่ืองนี้ นนั่ คือ
- ช้ินงาน Portfolio ของฉนั
3. ครูผู้สอนเปิดประเด็นและชวน 3. นกั เรียนตอบคำถามครูผสู้ อน - Slide Canva
นักเรียนพูดคุย โดยใช้คำถามว่า แนวตอบ : (อาจจะมที ้ังท่ีรจู้ กั และไม่
“นักเรยี นรูจ้ กั แฟ้มสะสมผลงานหรือไม่” รู้จกั )

ขัน้ สอน

1. ครูผู้สอนแจกใบความรู้และอธิบาย 1. นกั เรียนรับฟังครูอธิบาย - Slide Canva

เกี่ยวกับความหมายของแฟ้มสะสม - ใบความรู้

ผลงาน

“แฟ้มสะสมผลงาน” หรือเรียกชื่อว่า

“Portfolio” ซึ่งหมายถึงแฟม้ ที่รวบรวม

เรื่องราวตา่ งๆ ทส่ี ามารถอธบิ ายถงึ ความ

เ ป ็ น ต ั ว ต น ข อ ง เ ร า ไ ด ้ ช ่ ว ย ใ ห้

คณะกรรมการรู้ว่าเราเคยทำอะไรมา

บ้าง มีความสามารถอะไรบ้าง ตลอดจน

ผลงานท่ีไดท้ ำและรางวัลทไ่ี ด้รบั มา และ

อาจมีความสอดคล้องกับสาขาวิชาที่เรา

ต้องการสมคั รเรยี น”

2. ครูถามคำถามนักเรียนเพื่อเปน็ การ 2. นักเรยี นตอบคำถามครูผ้สู อน - Slide Canva

กระต้นุ ความคดิ ของนักเรียนว่า แนวตอบ: หนา้ ปก , ประวัติสว่ นตัว ,

“นักเรียนคดิ ว่าหากเราจะสรา้ งแฟม้ ประวัติการศึกษา , กิจกรรมที่เข้า

สะสมผลงานเพื่อใช้ในการเข้าศึกษาตอ่ ร่วม ,เกียรตบิ ตั รหรอื รางวัลทไี่ ด้รบั

ควรมเี น้ือหาหรือข้อมลู ท่ีจาํ เป็นใดบ้าง”

34

3. ครูผู้สอนอธบิ ายเกยี่ วกับ 3. นกั เรียนรบั ฟงั ครูอธบิ าย - Slide Canva

องคป์ ระกอบของแฟ้มสะสมผลงาน

“แฟ้มสะสมผลงานควรมีองค์ประกอบท่ี

สำคัญดงั นี้

1. หน้าปก

2. คำ

3. ประวัติสว่ นตวั

4 .ประวัตกิ ารศึกษา

5. กิจกรรมทีโ่ ดดเดน่

6. เกียรตบิ ตั รรางวลั

7. ใบรับรองจากอาจารย์

8. หน้าปิดทา้ ย ”

4. ครูผู้สอนเปิดวิดีโอ เรื่อง “Portfolio 4. นักเรยี นรับชมวิดโี อและสรุป - Slide Canva
- วดิ โี อ เร่ือง “Portfolio
| เคล็ดลับง่าย ๆ จากรุ่นพี่พิชิต TCAS” ความรู้ | เคล็ดลบั งา่ ย ๆ จากรุน่
พี่พชิ ติ TCAS”
และให้ตัวแทนในห้องสรุปสิ่งทีจ่ าํ เป็นใน - Slide Canva

การจดั ทำแฟ้มสะสมผลงาน

5. ครูผู้สอนอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการ 5. นกั เรยี นรับฟงั ครูอธิบาย

จดั ทำแฟม้ ผลงาน

“ การจัดทำแฟ้มสะสมผลงานมีขั้นตอน

ในการจดั ทำดังน้ี

1.รวบรวมผลงาน

2.จดั หมวดหมู่

3.คดั เลือกผลงาน

4.จ ั ด ล ำ ด ั บ ค ว า ม น ่ า ส น ใ จ ข อ ง

ผลงานและประเมินตนเอง

5.ลำดับและร้อยเรียงเรื่องราวให้

นา่ สนใจ

6.ตรวจทาน”

35

6. ครูผู้สอนให้นักเรียนร่วมกันพูดคุยกับ 6.นกั เรยี นตอบคำถามครผู ู้สอน - Slide Canva
ประเด็นที่ว่า “ นักเรียนคิดว่ามี แนวตอบ: Microsoft Word ,
โปรแกรมอะไรบ้างที่สามารถใช้ในการ Photoshop - Slide Canva
สร้างแฟม้ สะสมผลงานได้ ”
7. ครูผู้สอนอธิบายเกี่ยวกับ โปรแกรม 5. นักเรยี นรบั ฟังครูอธิบาย - Slide Canva
ในการสร้างแฟ้มสะสมผลงานที่นิยมใน - Slide Canva
ปัจจุบัน และ ยกตัวอย่างที่ใช้ในการ - ชิ้นงาน Portfolio ของ
สร้างแฟ้มสะสมผลงาน (โปรแกรม ฉัน
Canva)
8. ครูผู้สอนอธิบายเกี่ยวกับโปรแกรม 8. นักเรียนรับฟงั ครูอธบิ าย - ชิ้นงาน Portfolio ของ
Canva และสาธิตวิธีการใชเ้ ครื่องมือ ฉัน

9. ครูผู้สอนอธิบายถึง ข้อควรระวังใน 9. นักเรยี นรบั ฟังครูอธิบาย
การแบ่งปนั ขอ้ มลู

10. ครูผู้สอน ให้นักเรียนเตรียมข้อมูลท่ี 10. นกั เรียนรับฟังครอู ธิบายและ

จําเปน็ สำหรับการทำช้นิ งาน Portfolio จดั เตรียมข้อมลู

ของฉัน เช่น ประวัติส่วนตัวประวัติ

การศึกษา ผลงานเด่น ภาพถ่าย

กิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งและข้อมูล

เพิ่มเติม เช่น ไฟล์ภาพ ไฟล์เกียรติบัตร

วุฒิบัตร หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็น ใน

รปู แบบไฟลภ์ าพ

11. ครูผู้สอนให้นักเรียนทำชิ้นงาน 11. นกั เรียนเรมิ่ ทำงานตามท่ี

Portfolio ของฉัน ดังน้ี ครผู ้สู อนมอบหมาย

คำชี้แจง : ให้นักเรียนออกแบบแฟ้ม

สะสมผลงาน ของตนเองแล้วให้มา

แลกเปลี่ยนแนวคิดในชั้นเรียน โดย

นักเรียนสามารถดูตัวอย่างการจัดทำ

แฟม้ สะสมผลงานจากเว็บไซตต์ า่ งๆ เช่น

36

https://www.dekshowport.com ,
https://www.tcasportfolio.com

12. ครูจดั กจิ กรรมผา่ น Quizizz 12. นกั เรยี นร่วมทำกิจกรรมผ่าน - Quizizz
Quizizz

ขั้นสรุป
1. ครูผู้สอนสรุปบทเรียนการสร้างและ 1. นักเรียนรบั ฟงั ครูสรปุ
นําเสนอแฟม้ สะสมผลงาน
2. ครูผู้สอนให้ผู้เรียนสรุปบทเรียนที่ได้ 2. นกั เรยี นรบั ฟงั ครูและร่วมกันสรุป
จากการเรียนรู้และประโยชน์ที่ได้รับ บทเรยี นผ่าน Padlet
ผา่ นPadlet
3. ครูผูส้ อนเปดิ โอกาสให้นักเรยี นได้ถาม
คำถามและร่วมกันประเมินครูผู้สอน
ผ่าน insKru

11.สื่อการเรียนรู้
11.1 โปรแกรม Canva
11.2 ใบความรู้ เรอ่ื ง แฟ้มสะสมผลงานโดนใจผเู้ รียน
11.3 Quizizz
11.4 Padlet

12.แหล่งการเรยี นรู้
12.1 ห้องปฏบิ ัตกิ ารคอมพิวเตอร์
12.2 หนังสอื เรียนรายวิชาเทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6
12.3 ใบความรู้ เรอ่ื ง แฟม้ สะสมผลงานโดนใจผเู้ รียน

37

12.การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการวัดและประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และ เคร่ืองมอื การวัดและ เกณฑ์การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประเมนิ ประเมินผลการเรียนรู้
ผ่านเกณฑร์ ้อยละ60
ผลการเรยี นรู้ แบบประเมนิ ใบงาน
ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ60
ด้านความรคู้ วามเขา้ ใจ แบบประเมนิ กิจกรรม
ระดับคุณภาพ 2
1.นักเรียนอธิบายความหมายและ กจิ กรรมตอบ แบบสังเกตพฤติกรรมของ ผา่ นเกณฑ์
องค์ประกอบของแฟม้ สะสมผลงานได้ คำถามผ่าน นักเรียน
Quizizz

ด้านทักษะกระบวนการ

1.นกั เรียนสามารถประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยี

ในสร้างและนําเสนอแฟม้ สะสมผลงาน ชน้ิ งาน Portfolio

อยา่ งสรา้ งสรรค์ และสอดคลอ้ งกับความ ของฉัน

ต้องการของผปู้ ระเมินผลงาน

ด้านจิตพิสยั

1.นักเรยี นมวี ินยั รบั ผดิ ชอบต่องานท่ี

ไดร้ ับมอบหมาย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั ใน สังเกตพุ ฤตกิ รรม

การทำงาน

เกณฑ์การประเมนิ

1. แบบประเมินกจิ กรรมสรา้ งสอ่ื นำเสนอผ่านแพลตฟอรม์ ท่ีสนใจและใบงานกิจกรรมท่ี 1 จำแนกรายการ

ประเมินดังนี้

รายการประเมนิ ระดบั รายละเอียด

1.ความถกู ต้องของข้อมลู 5 เน้อื หาถูกต้องครบถ้วน สมบูรณ์

4 เนอ้ื หาถูกต้องครบถ้วน แต่ไม่สมบูรณ์

3 เนอ้ื หาถูกต้องแต่ไม่ครบถ้วน

2 เน้อื หาถูกต้องบางสว่ น

1 เนอ้ื หาไม่ถกู ต้อง

38

2.การอธบิ ายเนื้อหา 5 มกี ารอธิบายขยายความไดส้ มบรู ณ์ มกี าร
3.การตรงตอ่ เวลาในการสง่ งาน ยกตวั อยา่ งใหเ้ ห็นภาพชัดเจน

4 มกี ารอธบิ ายขยายความได้สมบรู ณ์ ไม่มี
การยกตัวอย่าง

3 มกี ารอธิบายขยายความในบางส่วน
ค่อนข้างมาก

2 มีการอธิบายขยายความในบางส่วน
ค่อนข้างน้อย

1 ไม่มีการอธบิ ายขยายความ

5 ส่งงานตรงตอ่ เวลา

4 ส่งงานช้ากว่ากำหนดแตภ่ ายในวันที่เรียน

3 ส่งงานช้ากว่ากำหนด 1-2 วนั

2 ส่งงานชา้ กว่ากำหนดเกิน 1 สปั ดาห์

1 สง่ งานช้ากวา่ กำหนดต้องให้ครูผู้สอน
ตดิ ตามงาน

2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน ระดบั รายละเอยี ด
รายการประเมนิ
5 ส่งงานชา้ กวา่ กำหนดแตภ่ ายในวนั ที่เรียน
1.มวี ินยั
4 สง่ งานช้ากวา่ กำหนด 1-2 วนั
2.ใฝเ่ รียนรู้
3 ส่งงานช้ากวา่ กำหนดเกนิ 1 สปั ดาห์

2 สง่ งานชา้ กว่ากำหนดต้องให้ครูผสู้ อน
ตดิ ตามงาน

1 ส่งงานช้ากวา่ กำหนดแตภ่ ายในวนั ทเ่ี รียน

5 ศกึ ษาค้นคว้าเนื้อหาทเ่ี รยี น เพิม่ เติมจาก
แหลง่ เรยี นรู้อน่ื เพื่อทำกจิ กรรมตลอด

39

4 ศกึ ษาคน้ คว้าเนื้อหาทเ่ี รยี น เพ่มิ เติมจาก
แหลง่ เรยี นร้อู นื่ เพ่ือทำกิจกรรม

3 ศึกษาคน้ ควา้ เน้ือหาที่เรยี น เพิม่ เตมิ จาก
แหลง่ เรยี นร้อู ่ืนบางครัง้

2 ศกึ ษาคน้ ควา้ เนื้อหาทีเ่ รยี นบางครั้ง
เพ่มิ เติมจากแหลง่ เรยี นรู้อนื่ เล็กน้อย

1 ไม่ศึกษาคน้ ควา้ เน้ือหาที่เรียน เพ่มิ เตมิ

3.มงุ่ มนั่ ในการทาํ งาน 5 ทำงานถูกต้องครบถว้ น สมบูรณ์

4 ทำงานถูกตอ้ งครบถ้วน แต่ไม่สมบูรณ์

3 ทำงานถูกต้องแต่ไมค่ รบถว้ น

2 ทำงานถูกต้องบางส่วน

1 ทำงานไมถ่ ูกต้อง

40

บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้

1. ผลท่ีเกิดขน้ึ แกน่ ักเรียน
……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..
……..……..……...……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..…….
.……..……..……..……..……..……...……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……
..……..……..……..……..……..……..……..……..………

2. ปญั หาท่พี บจากการสอน
……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..
……..……..……...……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..…….
.……..……..……..……..……..……...……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……
..……..……..……..……..……..……..……..……..………

3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไขปญั หา
……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..
……..……..……...……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..…….
.……..……..……..……..……..……...……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……..……
..……..……..……..……..……..……..……..……..………

ลงช่อื …….………….......................................
()
ครูผู้สอนผู้สอน
วนั ท่ี .……. / .……. / .…….

41

แบบประเมินกิจกรรมสรา้ งสื่อนำเสนอผา่ นแพลตฟอร์มที่สนใจ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6/ …..

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื งแฟ้มสะสมผลงานโดนใจ

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแบ่งปนั ขอ้ มลู

ที่ ช่ือ - สกุล ความถกู ต้อง การอธบิ ายเนือ้ หา การตรงตอ่ เวลา รวม เฉลย่ี (%)
ของขอ้ มูล ในการสง่ งาน

543215432154321

ลงชื่อ …….………….......................................
()
ครผู ูส้ อนผ้สู อน
วันที่ .……. / .……. / .…….

42

แบบประเมนิ ใบงานกิจกรรมที่ 1

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6/ …..

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2 เรื่องแฟม้ สะสมผลงานโดนใจ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การแบ่งปนั ข้อมลู

ที่ ช่ือ - สกลุ ความถูกตอ้ ง การอธบิ ายเน้ือหา การตรงตอ่ เวลา รวม เฉลย่ี (%)
ของขอ้ มูล ในการส่งงาน

543215432154321

ลงช่ือ …….………….......................................

()
ครผู สู้ อนผู้สอน

วันที่ .……. / .……. / .…….

43

แบบสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6/ …..

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ืองแฟ้มสะสมผลงานโดนใจ

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 การแบ่งปนั ขอ้ มลู

ที่ ชอ่ื - สกลุ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่ันในการ
ทํางาน รวม เฉล่ีย (%)

543215432154321

ลงชอื่ …….………….......................................

()
ครผู ู้สอนผ้สู อน

วนั ท่ี .……. / .……. / .…….

44

ภาคผนวก

45

ใบความรู้

46