การพยาบาลผู้ที่มีความผิดปกติด้านการรับรู้ การคิด

1. เส่ียงต่อการได้รับการบาดเจบ็ จากผลข้างเคยี งของยา

7. หากมีอาการ EPS เช่นตวั เกร็ง ตาคา้ ง การเคล่ือนไหวชา้ และ NMS เช่น ตวั เกร็ง
แขง็ มีไขข้ ้ึนสูง เพอ้ คลงั่ จากผลขา้ งเคียงของยารักษาโรคจิต หากพบอาการ
ดงั กล่าวตอ้ งใหก้ ารพยาบาลดงั ต่อไปน้ี
7.1 หยดุ ใหย้ าทนั ทีและ รายงานแพทยเ์ พอื่ ใหย้ ากลุ่มต่อตา้ นอาการพาร์กินสนั
(antiparkinsonian drugs)
7.2 ระวงั การเกิดอุบตั ิเหตุจากการเคลื่อนไหวที่ผดิ ปกติของผปู้ ่ วย
7.3 ใหค้ วามมนั่ ใจต่อผปู้ ่ วยวา่ เป็นอาการขา้ งเคียงของยาเพื่อลดความวติ กกงั วล
7.4 ในกรณีที่เป็นอาการ NMS ควรวดั ไข้ และสญั ญาณชีพทุกคร่ึงชว่ั โมง และ
ใหส้ ารน้าทางหลอดเลือดดา และดูแลสงั เกตุอาการอยา่ งใกลช้ ิด

ระยะอาการคงที่ (stable phase)

การพยาบาล

ระยะน้ีอาการทางจิตของผูป้ ่วยโดยเฉพาะอาการทางบวกจะดีข้ึน หรือในผูป้ ่วย
บางคนอาการเหลา่ น้ีอาจหายไป ผูป้ ่วยจะมีการรับรูด้ ีข้ึน อยู่ในโลกของความ
เป็นจริง สามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ สมั พนั ธภาพทางสงั คมดีข้ึน ไม่แยกตวั
สามารถร่วมกลุม่ กบั ผูป้ ่วยอ่ืนได้ การบาบดั ทางยายงั คงตอ้ งให้อยา่ งตอ่ เน่ื อง
และการบาบดั ทางจิตสงั คมตอ้ งเร่ิมอยา่ งจริงจงั ในระยะน้ี
การพยาบาลในระยะน้ีส่วนใหญเ่ ป็ นการดูแลใหผ้ ูป้ ่วยไดร้ ับการบาบดั ทางจิต
สงั คม และสง่ เสริมใหผ้ ูป้ ่วยดูแลตนเองไดด้ ีมากย่ิงข้ึนโดยการบาบดั ทางจิตสงั คม

การดูแลผู้ท่เี ป็ นโรคจติ เภทในชุมชน

 1. การบาบัดเพ่ือเสริมสร้างความร่วมมือในการรับประทานยา (medication
adherence therapy)

 2. การบาบัดเพื่อฟื้ นฟูสมรรถภาพของการรู้คดิ (cognitive rehabilitation
therapy; CRT)

 3. โปรแกรมทกั ษะชีวติ (life skill program)
 การดูแลแบบใช้ชุมชนเป็ นฐาน

1. การบาบดั เชิงรุกในชุมชน (assertive community treatment; ACT)
2.การฝึ กทกั ษะทางสังคม และการงานอาชีพ (social skill training and
supported employment)
3.การช่วยเหลือแบบผสมผสาน (mixed model intervention)