ส่วนราชการ ......…ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง ที่ศธ ๐๒๑๐.๔๐๐๒ / วันที่ 27 เมษายน 2566 เรื่อง สรุปการรายงานโครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ” เรียน ผู้อ านวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง ๑.เรื่องเดิม ตามที่ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง ได้ มอบหมายให้ครูอาสาสมัครประจ าสถาบันศึกษาปอเนาะ ด าเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในสถาบัน ศึกษาปอเนาะ นั้น ๒.ข้อเท็จจริง ในการนี้ ข้าพเจ้านางสาวนิรดา เอี่ยมสอาด ครูอาสาสมัครการศึกษานอก โรงเรียนประจ าสถาบันศึกษาปอเนาะ ได้ด าเนินโครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษา ปอเนาะ” ในวันที่ 31 เดือนมีนาคม พ.ศ.2566 ณ สถาบันศึกษาปอเนาะอัลมูฮายีรีน ต าบลบูกิต อ าเภอ เจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงได้ท าโครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบัน ศึกษาปอเนาะ” ดังเอกสารที่แนบมาพร้อมบันทึกฉบับนี้ ที่ โครงการ/กิจกรรม เป้าหมาย สูงกว่า เป้าหมาย งบประมาณ ร้อยละ การ เบิกจ่าย หมาย แผน ผล เหตุ จัดสรร/ ปอเนาะ เบิกจ่าย/ ปอเนาะ 1 โครงการจัดการศึกษาตลอด ชีวิตในสถาบันศึกษาปอเนาะ กิจกรรมการศึกษาเพื่อความ มั่นคง จ านวน 6๐ ชั่วโมง 30 40 / - - - ๓.ข้อกฎหมาย ระเบียบ ค าสั่ง ค าสั่งส านักงานปลัดงานกระทรวงศึกษาธิการที่ 589/2551 เรื่องมอบให้อ านวยการสถาบันศึกษาศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอและ ผู้อ านวยการสถานศึกษาศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเขต ปฏิบัติราชการแทนข้อ 8 ๔.ข้อเสนอแนะ - จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ลงชื่อ............................................ (นางสาวนิรดา เอี่ยมสอาด) ครูอาสาฯประจ าสถาบันศึกษาปอเนาะ ความเห็นผู้อ านวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง .......................................................................................................................................................................... .. ............................................................................................................................. ............................................... ลงชื่อ.................................................... (นายแวดาโอะ สามะ) ครู รักษาการในต าแหน่ง ผู้อ านวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง บันทึกข้อความ
ก รายงานฉบับนี้เป็นรายงานผลการด าเนินงาน รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ ประจ าปีงบประมาณ 2566 ณ สถาบันศึกษาปอเนาะอัลมูฮายีรีน ต าบลบูกิต อ าเภอเจาะไอร้อง จังหวัด นราธิวาส ในเดือนมกราคม 2566 ถึง เดือนมีนาคม 2566 จ านวน 40 คน เพื่อให้นักศึกษา สถาบัน ศึกษาปอเนาะอัลมูฮายีรีนได้ร่วมกิจกรรมต่าง ๆเพื่อให้นักศึกษาสามารถน าความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง น าไปสู่การสร้างสังคมที่มีคุณภาพ รายงานฉบับนี้จึงมีประโยชน์และจะเป็นแนวทางการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ในการจัด โครงการครั้งต่อไป หากรายงานฉบับนี้มีข้อผิดพลาดประการใดจึงขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดท า เมษายน 2566 ค าน า
ข เรื่อง หน้า ค าน า สารบัญ บทที่ 1 บทน า 1 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 2 บทที่ 3 วิธีการด าเนินงาน 6 บทที่ 4 ผลการศึกษา 8 บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา 11 ภาคผนวก - ภาพประกอบ - โครงการ - ค าสั่ง สารบัญ
๑ ความเป็นมาของโครงการ การอ่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน จ าเป็นต้องอ่านหนังสือเพื่อการศึกษาหาความรู้ด้านต่าง ๆ การอ่านเป็นเครื่องมือช่วยให้ประสบความส าเร็จใน การประกอบอาชีพ เพราะสามารถน าความรู้ที่ได้จากการอ่านไปพัฒนางานของตนได้ การอ่านเป็นเครื่องมือ สืบทอดทางวัฒนธรรมของคนรุ่นต่อ ๆไป การอ่านเป็นวิธีการส่งเสริมให้คนมีความคิดอ่านและฉลาดรอบรู้ เพราะประสบการณ์ที่ได้จากการอ่านเมื่อเก็บสะสมเพิ่มพูนนานวันเข้า ก็จะท าให้เกิดความคิด เกิดสติปัญญา เป็นคนฉลาดรอบรู้ได้ การอ่านเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ท าให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและ บุคลิกภาพ เพราะเมื่ออ่านมมากย่อมรู้มาก สามารถน าความรู้ไปใช้ในการด ารงชีวิตได้อย่างมีความสุข ดังนั้นการอ่านจึงถือว่ามีความส าคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักศึกษา ศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง ได้เล็งเห็นความส าคัญของการอ่าน จึงได้ จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ ภายใต้ รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะเพื่อให้ นักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะได้ตระหนักถึงความส าคัญของการอ่าน และสามารถน าความรู้ที่ได้จากการ อ่านไปประยุกต์ใช้กับตนเองได้ กิจกรรมที่คาดหวัง 1. เพื่อเฉลิมพระเกียรติของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาบรมราชกุมารี 2. เพื่อต้องการให้นักศึกษา สถาบันศึกษาปอเนาะ ได้ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ 3. เพื่อต้องการให้นักศึกษา สถาบันศึกษาปอเนาะ สามารถน าความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง บทที่ ๑ บทน า
๒ ความส าคัญของการอ่านหนังสือ การอ่านเป็นทักษะทางภาษาที่จ าเป็นต้องฝึกฝนอยู่เสมอ และไม่มีวันสิ้นสุดสามารถ ฝึกได้เรื่อย ๆ ตามวัยและประสบการณ์ของผู้อ่าน เพราะการอ่านนั้นจะเกี่ยวข้องกับชีวิตประจ าวันของ มนุษย์เป็นเครื่องมือส าคัญที่จะช่วยให้มนุษย์ได้รับความรู้ความคิด และความบันเทิงใจ ช่วยปรับปรุง ชีวิตให้สดใสสมบูรณ์ ความหมายของการอ่าน คือ การอ่านเป็นพฤติกรรมการรับสารที่ส าคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า การ ฟัง ปัจจุบันมีผู้รู้นักวิชาการและนักเขียนน าเสนอความรู้ข้อมูล ข่าวสารและงานสร้างสรรค์ตีพิมพ์ใน หนังสือและสิ่งพิมพ์อื่น ๆ มาก นอกจากนี้แล้วข่าวสารส าคัญ ๆ หลังจากน าเสนอด้วยการพูด หรืออ่านให้ฟัง ผ่านสื่อ ต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะตีพิมพ์รักษาไว้เป็นหลักฐานแก่ผู้อ่านในชั้นหลัง ๆความสามารถในการอ่านจึง ส าคัญ และจ าเป็นยิ่งต่อการเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในสังคมปัจจุบัน ความส าคัญของการอ่านในสมัยโบราณที่ยังไม่มีตัวหนังสือใช้มนุษย์ได้ใช้วิธีเขียนบันทึกความทรง จ าและเรื่องราวต่าง ๆ เป็นรูปภาพไว้ตามฝาผนังในถ้ า เพื่อเป็นทางออกของอารมณ์เพื่อเตือนความจ าหรือ เพื ่อบอกเล ่าให้ผู้อื ่นได้รับรู้ด้วย แสดงถึงความพยายามและความปรารถนาอันแรงกล้าของมนุษย์ ที ่จะ ถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเป็นสัญลักษณ์ที่คงทนต่อกาลเวลาจากภาพเขียนตาม ผนังถ้ า ได้วิวัฒนาการ มาเป็นภาษาเขียนและหนังสือ ปัจจุบันนี้หนังสือกลายเป็นสิ่งที่ส าคัญยิ ่งต ่อมนุษย์จนอาจกล ่าวได้ว่าเป็น ปัจจัยอันหนึ่งในการด ารงชีวิตคนที่ไม่รู้หนังสือแม้จะด ารงชีวิตอยู่ได้ก็เป็นชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ไม่มีความเจริญ ไม ่สามารถประสบความส าเร็จใด ๆ ในสังคมได้หนังสือและการอ ่านหนังสือจึงมีความส าคัญอย ่างยิ ่ง บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
๓ จุดประสงค์ของการอ่านในการอ่านบุคคลแต่ละคนจะมีจุดประสงค์ของตนเอง คนที่อ่าน ข้อความเดียวกันอาจมีจุดประสงค์หรือความคิดต่างกัน โดยทั่วไปจุดประสงค์ของการอ่านมี3 ประการ คือ 1) การอ ่านเพื ่อความรู้ได้แก ่ การอ ่านหนังสือประเภทต ารา สารคดีวารสาร หนังสือพิมพ์ และข้อความต่าง ๆ เพื่อให้ทราบเรื่องราวอันเป็นข้อความรู้หรือเหตุการณ์บ้านเมือง การ อ่านเพื่อความรอบรู้เป็นการอ่านที่จ าเป็นที่สุดส าหรับครูเพราะความรู้ต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมอยู่ ทุกขณะ แม้จะได้ศึกษามามากจากสถาบันการศึกษาระดับสูง ก็ยังมีสิ่งที่ยังไม่รู้และต้องค้นคว้าเพิ่มเติมให้ ทันต ่อความก้าวหน้าของ โลกข้อความรู้ต ่าง ๆ อาจมิได้ปรากฏชัดเจนในต ารา แต ่แทรกอยู ่ในหนังสือ ประเภทต่าง ๆแม้ในหนังสือประเภทบันเทิงคดีก็จะให้เกร็ดความรู้ควบคู่กับความบันเทิงเสมอ 2) การอ่านเพื่อความคิด แนวความคิดทางปรัชญา วัฒนธรรม จริยธรรม และความคิดเห็น ทั่วไป มักแทรกอยู่ในหนังสือแทบทุกประเภท มิใช่หนังสือประเภทปรัชญา หรือจริยธรรมโดยตรงเท่านั้น การศึกษาแนวคิดของผู้อื่น เป็นแนวทางความคิดของตนเองและอาจน ามาเป็นแนวปฏิบัติในการด าเนินชีวิต หรือแก้ปัญหาต ่าง ๆ ในชีวิตผู้อ่านจะต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกน าความคิดที ่ได้อ่านมาใช้ให้เป็น ประโยชน์ในบางเรื่องผู้อ่านอาจเสนอความคิดโดยยกตัวอย่างคนที่มีความคิด ผิดพลาดเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ ผู้อ่านได้ความยั้งคิด เช่น เรื่องพระลอแสดงความรักอันฝืนท านองคลองธรรมจึงต้องประสบเคราะห์กรรมใน ที่สุด ผู้อ่านที่ขาดวิจารณญาณมีความคิดเป็นเรื่องจูงใจให้คนท าความผิดนับว่าขาด ประโยชน์ทางความคิดที่ ควรได้ไปอย ่างน ่าเสียดายการอ ่านประเภทนี้จึงต้องอาศัย การศึกษาและการชี้แนะที ่ถูกต้องจากผู้มี ประสบการณ์ในการอ่านมากกว ่าครูจึง ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านเพื ่อความคิดของตนเองและเพื ่อ ชี ้แ น ะ ห ร ือ ส น ับ ส น ุน น ัก เ ร ีย น ใ ห ้พ ัฒ น า ก า ร อ ่า น ป ร ะ เ ภ ท นี้ 3) การอ่านเพื่อความบันเทิงเป็นการอ่านเพื่อฆ่าเวลา เช่น ระหว่างที่คอยบุคคลที่นัดหมาย คอย เวลารถไฟออก เป็นต้น หรืออ่านหนังสือประเภทบันเทิงคดีในเวลาว่าง บางคนที่มีนิสัยรักการอ่านหากรู้สึก เครียดจากการอ่านหนังสือเพื่อความรู้อาจอ่านหนังสือประเภทเบาสมองเพื่อการพักผ่อน หนังสือประเภทที่ สนองจุดประสงค์ของการอ่านประเภทนี้มีจ านวนมาก เช่น เรื่องสั้น นวนิยาย การ์ตูน วรรณคดีประเทือง อารมณ์เป็นต้นจุดประสงค์ในการอ่านทั้ง 3 ประการดังกล่าว อาจรวมอยู่ในการอ่านครั้งเดียวกันก็ได้โดยไม่ จ าเป็นต้องแยกจากกันอย่าง ชัดเจน
๔ ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ คือ 1) ท าให้มีความรู้ในวิชาการด้านต่าง ๆ อาจเป็นความรู้ทั่วไป หรือความรู้เฉพาะด้านก็ ได้เช่น การอ่านต าราแขนงต่าง ๆ หนังสือคู่มือ หนังสืออ่านประกอบในแขนงวิชาต่าง ๆ เป็นต้น 2) ท าให้รอบรู้ทันโลก ทันเหตุการณ์การอ่านหนังสือพิมพ์การอ่านจากสื่อสารสนเทศ ต่าง ๆ ในสังคมทั้งภายในและภายนอกประเทศแล้ว ยังจะได้ทราบข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง บทความวิจารณ์ ตลอดจนการโฆษณาสินค้าต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปรับความเป็นอยู่ให้เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพสังคมของตนในขณะนั้น ๆ 3) ท าให้ค้นหาค าตอบที ่ต้องการได้การอ ่านหนังสือจะช ่วยตอบค าถามที ่เราข้องใจ สงสัย ต้องการรู้ได้เช่น อ่านพจนานุกรมเพื่อหาความหมายของค า อ่านหนังสือกฎหมายเมื่อต้องการรู้ข้อ ปฏิบัติอ่านหนังสือคู่มือแนะวิธีเรียนเพื่อต้องการประสบความส าเร็จในการเรียน เป็นต้น 4) ท าให้เกิดความเพลิดเพลิน การอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาดีน่าอ่าน น่าสนใจ ย่อมท าให้ ผู้อ่านมีความสุข ความเพลิดเพลิน เกิดอารมณ์คล้อยตามอารมณ์ของเรื่องนั้น ๆ ผ่อนคลายความตึงเครียด ได้ข้อคิด และยังเป็นการยกระดับจิตใจผู้อ่านให้สูงขึ้นได้อีกด้วย 5) ท าให้เกิดทักษะและพัฒนาการในการอ่าน ผู้ที่อ่านหนังสือสม่ าเสมอย่อมเกิดความ ช านาญในการอ่าน สามารถอ่านได้เร็ว เข้าใจเรื ่องราวที ่อ่านได้ง ่าย จับใจความได้ถูกต้อง เข้าใจประเด็น ส าคัญของเรื่อง และสามารถประเมินคุณค่าเรื่องที่อ่านได้อย่างสมเหตุสมผล 6) ท าให้ชีวิตมีพัฒนาการเป็นชีวิตที่สมบูรณ์ผู้อ่านมากย่อมรู้เรื่องราวต่าง ๆ มาก เกิด ความรู้ความคิดที่หลากหลายกว้างไกล สามารถน ามาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนให้ชีวิตมีคุณค่า และมีระเบียบแบบแผนที่ดียิ่งขึ้น
๕ 7) ท าให้เป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ดีและเสริมสร้างบุคลิกภาพ ผ่านมากย่อมรอบรู้มาก มีข้อมูล ต่างๆ สั่งสมไว้มาก เมื่อสนทนากับผู้อื่นย่อมมีความมั่นใจไม่ขัดเขินเพราะมีภูมิรู้สามารถถ่ายทอดความรู้ให้ ค าแนะน าแก่ผู้อื่นในทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์ได้ผู้รอบรู้จึงมักได้รับการยอมรับและเป็นที่เชื่อถือจากผู้อื่น แหล่งอ้างอิง : http://www.thaimaster.info/thaigroup/somchit/somchit_content.html
๖ โครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ” ของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เป็นโครงการที่จัดท าขึ้นเพื่อเป็นการ ส่งเสริมการอ่านให้กับเยาวชนที่อยู่ในสถาบันศึกษาปอเนาะ เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ โดยเฉพาะผู้ ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน จ าเป็นต้องอ่านหนังสือเพื่อการศึกษาหาความรู้ด้านต่าง ๆ การอ่านเป็นวิธีการ ส่งเสริมให้คนมีความคิดอ่านและฉลาดรอบรู้เพราะประสบการณ์ที่ได้จากการอ่านเมื่อเก็บสะสมเพิ่มพูนนาน วันเข้า ก็จะท าให้เกิดความคิด เกิดสติปัญญา เป็นคนฉลาดรอบรู้ได้ การอ่านเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ท า ให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและบุคลิกภาพ เพราะเมื่ออ่านมมากย่อมรู้มาก สามารถน าความรู้ไปใช้ใน การด ารงชีวิตได้อย่างมีความสุข ดังนี้ ขั้นที่ ๑ ขั้นการเตรียมการ ๑.๑ ประชุม/วางแผนบุคลากร ๑.๒ จัดเวทีประชาคมส ารวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ๑.๓ เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ ขั้นที่ ๒ ขั้นด าเนินการ ด าเนินการจัดกิจกรรมโครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษา ปอเนาะ” ขั้นที่ ๓ นิเทศติดตามผล และรายงานผล / ประเมินผล ๓.๑ การนิเทศติดตามผลการด าเนินโครงการ ๓.๒ การประเมินผลและสรุปผลการด าเนินโครงการ ๓.๓ การรายงานและเผยแพร่ผลการด าเนินโครงการ ดัชนีชี้วัดผลส าเร็จของโครงการ (Key Performance Indicator: KPI) ตัวชี้วัดความส าเร็จ สอดคล้อง กับมาตรฐาน กศน.ที่ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ ผลผลิต (Outputs) นั ก ศึ กษ าใน ส ถ าบั น ศึ กษ า ปอเนาะอัลมูฮายีรีน จ านวน 30 คน ๑,๒ การสังเกต แบบบันทึก การสังเกต ผลลัพธ์ (Outcomes) นักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะ สามารถน าความรู้ไปใช้ในการ พัฒนาตนเองน าไปสู่การสร้าง สังคมที่มีคุณภาพ ๑,๒ ประเมินความพึงพอใจของ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม แบบประเมิน ความพึงพอใจ บทที่ 3 วิธีการด าเนินงาน
๗ ส าหรับเกณฑ์การให้คะแนนส าหรับแบบสอบถามในการสรุปผลการด าเนินงานของโครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ” โดยแบ่งค่าในการประเมินออกเป็น 5 ระดับ ตามแบบของ ลิ เคิร์ต (Likert’s five point rating scale) ดังนี้ น้ าหนักคะแนน ๕ หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด น้ าหนักคะแนน ๔ หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับมาก น้ าหนักคะแนน ๓ หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับปานกลาง น้ าหนักคะแนน ๒ หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับน้อย น้ าหนักคะแนน ๑ หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับน้อยที่สุด ในส่วนของการวิเคราะห์ผลการปฏิบัติงานในโครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษา ปอเนาะ” ในพื้นที่สถาบันศึกษาปอเนาะอัลมูฮายีรีน พื้นที่ บ้านปีแนมูดอ ต าบลบูกิต อ าเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส และระดับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการถือว่าเป็นค่าเฉลี่ยของคะแนนที่ได้จากการ ตอบแบบสอบถาม ทั้งนี้ผู้จัดกิจกรรมได้ก าหนดการวิเคราะห์ตามแนวคิดของ เบสท์ (อ้างถึงใน พวงรัตน์ ทวี รัตน์, ๒๕๔๓ : ๓๐๓) ดังนี้ ค่าเฉลี่ย ความหมาย ๑.๐๐ – ๑.๔๙ น้อยที่สุด ๑.๕๐ – ๒.๔๙ น้อย ๒.๕๐ – ๓.๔๙ ปานกลาง ๓.๕๐ – ๔.๔๙ มาก ๔.๕๐ – ๕.๐๐ มากที่สุด
๘ จากการด าเนินการ โครงการรัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ ณ สถาบันศึกษาปอเนาะอัลมูฮายีรีน ต าบลบูกิต อ าเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เดือนตุลาคม 2565 ถึง มีนาคม 2566 ตามตารางกิจกรรมที่ก าหนด โดยใช้แบบสอบถามซึ่งแบ่งเป็น ๒ ส่วนดังนี้ ส่วนที่ ๑ ข้อมูลทั่วไป ตารางที่ ๑ จ านวนและร้อยละจ าแนกตามข้อมูลทั่วไปของผู้ร่วมกิจกรรม ข้อมูลทั่วไป จ านวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ร้อยละ เพศ ชาย หญิง 20 20 50.00 50.00 อายุ อายุต่ ากว่า 15 ปี อายุ 15 - 39 ปี อายุ 40 - 59 ปี อายุ 60 ปีขึ้นไป - 40 - - - 100 - - วุฒิการศึกษา ต่ ากว่าระดับประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมตอนต้น ระดับมัธยมตอนปลาย ระดับปริญญาตรี อื่น ๆ ระบุ(ปวส.) - - 22 18 - - - - 55.00 45.00 สถานภาพ โสด สมรส 40 - 100 - สถานภาพการท างาน ลูกจ้าง เกษตรกร อื่นๆ - - 40 - - 100 บทที่ 4 ผลการศึกษา
๙ จากตารางที่ 1 สรุปได้ดังนี้ เพศ เป็นเพศชาย ร้อยละ 50.00 เป็นเพศหญิง ร้อยละ 50.00 อายุ ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 15 - 39 ปี ร้อยละ 100 รองลงมามีอายุระหว่าง - ปี ร้อยละ - ตามล าดับ วุฒิการศึกษา ส่วนใหญ่มีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 55.00 รองลงมามีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 45.00 สถานภาพ ส่วนใหญ่มีสถานภาพโสด ร้อยละ 100 สถานภาพการท างาน ส่วนใหญ่มีสถานภาพการท างานอื่นๆ ร้อยละ 100 จากตารางที่ 2 พบว่าผู้เข้าร่วมโครงการ มีความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการด าเนินงานดังนี้ 1. ความพอใจด้านกระบวนการ/ขั้นตอนการให้บริการ กระบวนการจัดกิจกรรมตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 87.๓๓ รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 12.50 ตามล าดับ การอ านวยความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรม ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 85 รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 13.75 และอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 1.25 ตามล าดับ ช่วงเวลา/ระยะเวลาในการจัดโครงการ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 81.25 รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 6.25 ตามล าดับ ได้รับความรู้หรือประโยชน์จากการจัดกิจกรรมทุกขั้นตอน ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดี ร้อย ละ 82.75 รองลงมาอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 15.00 และอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 2.50 ตามล าดับ สามารถน าความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับดี ร้อยละ 83.75 รองลงมาอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 13.75 และอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 2.50 ตามล าดับ 2.ด้านเจ้าหน้าที่/วิทยากร ความรวดเร็วและคล่องตัวในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 80.00รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 17.50 และอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 2.50 ตามล าดับ กริยา มารยาทและการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 93.75 รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อย 6.25 ตามล าดับ บริการด้วยความเป็นเสมอภาค เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 93.75 รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 6.25 ตามล าดับ ความพร้อมของวิทยากรในการให้ความรู้ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 83.00 รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 16.25 และอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 5.00 ตามล าดับ
๑๐ วิทยากรเปิดโอกาสให้ผู้ฟังซักถามหรือมีส่วนร่วม ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 85.75 รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 15.25 และอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ ตามล าดับ วิทยากรมีความสามารถถ่ายทอดความรู้ตามล าดับขั้นตอนอย่างชัดเจน ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับดีมาก ร้อยละ 81.25 รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 18.75 ตามล าดับ 3.ด้านสิ่งอ านวยความสะดวก ความเหมาะสมและความพร้อมของสถานที่การจัดโครงการ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดี ร้อย ละ 56.25 รองลงมาอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 43.75 และอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 3.33 ตามล าดับ เอกสารประกอบ/วัสดุอุปกรณ์ มีเพียงพอต่อความต้องการ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดี ร้อย ละ 66.25 รองลงมาอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 43.75 ตามล าดับ เอกสารประกอบครอบคลุมเนื้อหาของโครงการ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 66.25 รองลงมาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 31.25 และระดับปานกลาง ร้อยละ 2.50 ตามล าดับ
๑๑ ส่วนที่ ๑ ข้อมูลทั่วไป จากการด าเนินงานตามโครงการรัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ ณ สถาบันศึกษาปออัลมูฮายีรีน ต าบลบูกิต อ าเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เดือนตุลาคม 2565 - มีนาคม 2566 จ านวน 30 คน พบว่าเป็นเพศชาย ร้อยละ 50.00 และเป็นเพศหญิงร้อยละ 50.00 มีอายุ ระหว่าง 15-39 ปี ร้อยละ 100 มีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 55.00 รองลงมา วุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ร้อยละ 45.00 มีสถานภาพส่วนใหญ่ โสด ร้อยละ 100 และ มีสถานภาพการท างานส่วนใหญ่อื่นๆ ร้อยละ 100 ส่วนที่ ๒ ความพึงพอใจต่อโครงการ ผู้เข้าร่วม โครงการรัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นดังนี้ 1. ความพอใจด้านกระบวนการ/ขั้นตอนการให้บริการ กระบวนการจัดกิจกรรมตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการ ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ ๘3.๓๓ การอ านวยความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรม ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ 80.00 ช่วงเวลา/ระยะเวลาในการจัดโครงการ ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ 91.67 ได้รับความรู้หรือประโยชน์จากการจัดกิจกรรมทุกขั้นตอน ส่วนใหญ่ระดับดี ร้อยละ 85.00 สามารถน าความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน ส่วนใหญ่ระดับดี ร้อยละ 80.00 2.ด้านเจ้าหน้าที่/วิทยากร ความรวดเร็วและคล่องตัวในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ 83.33 กริยา มารยาทและการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ 90.00 บริการด้วยความเป็นเสมอภาค เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ 88.๓๓ ความพร้อมของวิทยากรในการให้ความรู้ ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ 80.00 วิทยากรเปิดโอกาสให้ผู้ฟังซักถามหรือมีส่วนร่วม ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ 83.33 วิทยากรมีความสามารถถ่ายทอดความรู้ตามล าดับขั้นตอนอย่างชัดเจน ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ 81.67 3.ด้านสิ่งอ านวยความสะดวก ความเหมาะสมและความพร้อมของสถานที่การจัดโครงการ ส่วนใหญ่ระดับดี ร้อยละ 78.33 เอกสารประกอบ/วัสดุอุปกรณ์ มีเพียงพอต่อความต้องการ ส่วนใหญ่ระดับดี ร้อยละ 88.33 เอกสารประกอบครอบคลุมเนื้อหาของโครงการ ส่วนใหญ่ระดับดีมาก ร้อยละ 88.33 บทที่ 4 ผลการศึกษา
๑๒ ภาคผนวก
๑๓ โครงการรัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ ณ สถาบันศึกษาปอเนาะอัลมูฮายีรีน ต าบลบุกิต อ าเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส
๑๔ โครงการรัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ ณ สถาบันศึกษาปอเนาะอัลมูฮายีรีน ต าบลบุกิต อ าเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส
๑๕ โครงการรัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ ณ สถาบันศึกษาปอเนาะอัลมูฮายีรีน ต าบลบุกิต อ าเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส
๑๖ 1. ชื่อโครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ” 2. สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นการด าเนินงานส านักงาน กศน. ประจ าปีงบประมาณ 2566 2. การยกระดับคุณภาพการศึกษา 2.2 ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาน าหลักสูตรฐานสมรรถนะไปสู้การปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างสมรรถนะที่ส าคัญจ าเป็นส าหรับศตวรรษที่ 21 ให้กับผู้เรียน 2.6 ปรับโฉมวิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพฯ ห้องสมุดประชาชนและ แหล่งเรียนรู้อื่นๆของกศน.ให้มีความทันสมัย สวยงาม สะอาด จูงผู้เข้ารับบริการ มีฐานจัดการเรียนรู้ด้าน ต่างๆ อาทิ ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านอาชีพ มีมุมกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ท ากิจกรรมร่วมกับครอบครัว พื้นที่การ เรียนรู้ในรูปแบบ Public Learning Space/Co – learning Space ที่ผู้รับบริการสมารถรับเอกสารรับรอง การเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อน าไปใช้ประโยชน์ในส่วนที่เกี่ยวข้องหรือสะสมหน่วยการเรียนรู้ ( Credit Bank ) มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ฉบับลงวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้รับบริการการศึกษาตามอัธยาศัย 1.1 ผู้รับบริการมีความรู้ หรือทักษะ หรือประสบการณ์ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ โครงการ หรือกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย 2.1 การก าหนดโครงการ หรือกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย 2.2 ผู้จัดกิจกรรมมีความรู้ ความสามารถในการจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย 2.3 สื่อ หรือนวัตกรรม และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย 2.4 ผู้รับบริการมีความพึงพอใจต่อการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย 3. หลักการและเหตุผล การอ่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน จ าเป็นต้องอ่าน หนังสือเพื่อการศึกษาหาความรู้ด้านต่าง ๆ การอ่านเป็นเครื่องมือช่วยให้ประสบความส าเร็จในการประกอบ อาชีพ เพราะสามารถน าความรู้ที่ได้จากการอ่านไปพัฒนางานของตนได้ การอ่านเป็นเครื่องมือสืบทอดทาง วัฒนธรรมของคนรุ่นต่อ ๆไป การอ่านเป็นวิธีการส่งเสริมให้คนมีความคิดอ่านและฉลาดรอบรู้เพราะ ประสบการณ์ที่ได้จากการอ่านเมื่อเก็บสะสมเพิ่มพูนนานวันเข้า ก็จะท าให้เกิดความคิด เกิดสติปัญญา เป็นคน ฉลาดรอบรู้ได้ การอ่านเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ท าให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและบุคลิกภาพ เพราะเมื่ออ่านมมากย่อมรู้มาก สามารถน าความรู้ไปใช้ในการด ารงชีวิตได้อย่างมีความสุข ดังนั้นการอ่านจึงถือว่ามีความส าคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักศึกษา ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง ได้เล็งเห็นความส าคัญของการอ่าน จึงได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ ภายใต้ รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะเพื่อให้นักศึกษา สถาบันศึกษาปอเนาะได้ตระหนักถึงความส าคัญของการอ่าน และสามารถน าความรู้ที่ได้จากการอ่านไป ประยุกต์ใช้กับตนเองได้
๑๗ 4. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเฉลิมพระเกียรติของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาบรมราชกุมารี 2. เพื่อต้องการให้นักศึกษา สถาบันศึกษาปอเนาะ ได้ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ 3. เพื่อต้องการให้นักศึกษา สถาบันศึกษาปอเนาะ สามารถน าความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง 5. เป้าหมาย เชิงปริมาณ นักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะ จ านวน 30 คน เชิงคุณภาพ นักศึกษา นักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะสามารถน าความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเองน าไปสู่การสร้าง สังคมที่มีคุณภาพ 6. วิธีด าเนินการ กิจกรรมหลัก วัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย เป้าหมาย (คน) พื้นที่ด าเนินการ ระยะเวลา งบประมาณ 1. ส ารวจ กลุ่มเป้าหมาย - เพื่อทราบจ านวน กลุ่มเป้าหายและภาคี เครือข่าย - ครูอาสาฯ ปอเนาะ 1 คน สถาบันศึกษา ปอเนาะอัลมูฮายี รีน 24 มีนาคม 2566 2. ประชุม วางแผน ด าเนินงาน - เพื่อเตรียมพร้อม การด าเนินงาน - ครูอาสาฯ ปอเนาะ 3 คน กศน.อ าเภอ เจาะไอร้อง 27 มีนาคม 2566 3.เขียนโครงการ เพื่ออนุมัติ โครงการ - เพื่อขออนุมัติ งบประมาณในการ ด าเนินการโครงการ -ครูอาสาฯ ปอเนาะ 1 คน กศน.อ าเภอ เจาะไอร้อง 28 มีนาคม 2566 4.แต่งตั้ง คณะท างาน ด าเนินงานฝ่าย ต่าง ๆ - เพื่อแต่งตั้ง คณะท างาน ด าเนินงานฝ่ายต่าง ๆ และมอบหมายหน้าที่ ความรับผิดชอบ - ครูอาสาฯ ปอเนาะ 1 คน กศน.อ าเภอ เจาะไอร้อง 29 มีนาคม 2566 5. ด าเนินงาน ตามโครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่ สถาบันศึกษา ปอเนาะ ’ - เพื่อเฉลิมพระ เกียรติของสมเด็จ พระเทพ รัตนราชสุดาบรม ราชกุมารี - เพื่อต้องการให้ นักศึกษา สถาบัน ศึกษาปอเนาะ ได้ ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อต้องการให้ สถาบันศึกษา ปอเนาะอัลมูฮายี รีน 30 คน สถาบันศึกษา ปอเนาะอัลมูฮายี รีน 31 มีนาคม 2566
๑๘ นักศึกษา สถาบัน ศึกษาปอเนาะ สามารถน าความรู้ ไปใช้ในการพัฒนา ตนเอง 6. การ ประเมินผล ด าเนินโครงการ - เพื่อประเมินผลและ แก้ไขปรับปรุงการ ด าเนินโครงการให้มี ประสิทธิภาพต่อไป -- ครูอาสาฯ ปอเนาะ . 1 คน สถาบันศึกษา ปอเนาะอัลมูฮายี รีน 5 เมษายน 2566 7. สรุปและ รายงานผลการ ด าเนินงาน - เพื่อรวบรวมผลการ ด าเนินงานรายการต่อ ผู้บังคับบัญชา - ครูอาสาฯ ปอเนาะ 1 คน กศน.อ าเภอ เจาะไอร้อง 10 เมษายน 2566 7. วงเงินงบประมาณทั้งโครงการ - 8. แผนการใช้จ่ายงบประมาณ กิจกรรมหลัก ไตรมาส1 (ต.ค-ธ.ค 63) ไตรมาส2 (ม.ค-มี.ค64) ไตรมาส3 (เม.ย-มิ.ย64) ไตรมาส4 (ก.ค-ก.ย64) 1. ส ารวจกลุ่มเป้าหมาย/ ภาคีเครือข่าย - / - - 2. ประชุม/วางแผนการ ด าเนินงาน - / - - 3. เขียนโครงการเพื่อขอ อนุมัติ - / - - 4. แต่งตั้งคณะท างาน ด าเนินงานฝ่ายต่าง ๆ - / - - 5. ด าเนินโครงการ“รักการ อ่าน สานปัญญา สู่สถาบัน ศึกษาปอเนาะ ‘’ - / - - 6. ประเมินผลการด าเนิน โครงการ - / - - 7. สรุปและรายงานการ ด าเนินงาน - / - -
๑๙ 9. ผู้รับผิดชอบโครงการ -นางสาวนิรดา เอี่ยมสอาด ต าแหน่ง ครูอาสาสมัครสถาบันศึกษาปอเนาะ 10. เครือข่าย - องค์การบริหารส่วนต าบลบูกิต - มัสยิดบ้านปีแนมูดอ ต าบลบูกิต อ าเภอเจาะไอร้อง - สถาบันศึกษาปอเนาะในอ าเภอเจาะไอร้อง 11. โครงการที่เกี่ยวข้อง โครงการส่งเสริมการอ่าน 12. ผลลัพธ์ (outcome) 12.1 นักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะ สามารถน าความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเองน าไปสู่การสร้าง สังคมที่มีคุณภาพ 13. ดัชนีชี้วัดผลส าเร็จของโครงการ 13.1 ตัวชี้วัดผลผลิต (Output) เชิงปริมาณ นักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะ จ านวน 30 คน เชิงคุณภาพ นักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะ สามารถน าความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง น าไปสู่การสร้างสังคมที่มีคุณภาพ 13.2 ตัวชี้วัดผลลัพธ์ (outcome) - ร้อยละ 80 ของนักศึกษาสถาบันศึกษาปอเนาะ สามารถน าความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง น าไปสู่การสร้างสังคมที่มีคุณภาพ 14. การติดตามผลและประเมินผลโครงการ - การสอบถาม - การสังเกตการณ์ - การมีส่วนร่วม (ลงชื่อ)..................................................ผู้เสนอโครงการ (นางสาวนิรดา เอี่ยมสอาด) ครูอาสาสมัครสถาบันศึกษาปอเนาะ (ลงชื่อ)....................................................ผู้เห็นชอบโครงการ (นายซอบือรี แซะเซ็ง) แผนงานและโครงการ (ลงชื่อ).................................................ผู้อนุมัติโครงการ (นายแวดาโอะ สามะ) ครู รักษาการในต าแหน่ง ผู้อ านวยการ กศน.อ าเภอเจาะไอร้อง
๒๐ ค าสั่ง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง ที่ 031 /๒๕๖6 เรื่อง แต่งตั้งคณะท างานโครงการ โครงการ “ รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ ” ------------------------------------------------- ด้วย ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเจาะไอร้อง ได้ด าเนิน โครงการ “รัก การอ่าน สานปัญญา สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ”ในวันที่ 31 มีนาคม ๒๕๖6 เวลา ๐๘.30 - ๑๖.30 น. ณ สถาบันศึกษาปอเนาะอัลมูฮายีรีน ต าบลบูกิต อ าเภอเจาะไอร้อง จังหวัด นราธิวาส เพื่อให้การด าเนินการตามโครงการดังกล่าวส าเร็จตามวัตถุประสงค์ ของสถานศึกษา จึงได้แต่งตั้ง หน้าที่ความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานของบุคลากรรายละเอียดดังนี้ ๑.๑ ฝ่ายอ านวยการทั่วไป มีหน้าที่วางแผนการด าเนินงานตามโครงการ ให้ค าปรึกษา แนะน า ก ากับ ดูแลติดตามการปฏิบัติงาน ตรวจสอบความถูกต้องของคณะท างานให้เป็นตามวัตถุประสงค์ของ สถานศึกษาประกอบด้วย ๑) นายแวดาโอะ สามะ หัวหน้าคณะท างาน ๒) นางสาวนาอีหม๊ะ อาแวกาจิ คณะท างาน 3) นายสุรศักดิ์ สอีด คณะท างาน ๓) นางสาวนิรดา เอี่ยมสอาด คณะท างาน /เลขานุการ ๑.๒ ฝ่ายการเงินและพัสดุ มีหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างและอ านวยความสะดวกการเบิก-จ่ายเงินและพัสดุ ตามโครงการ ประกอบด้วย ๑) นางสาวนภิสา หะยีวาจิ หัวหน้าคณะท างาน ๒) นางสาวนิรดา เอี่ยมสอาด คณะท างาน/เลขานุการ ๑.๓ ฝ่าย ลงทะเบียน และประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ จัดท าใบลงทะเบียนผู้เข้าร่วมโครงการ บริการการลงทะเบียนกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมกิจกรรม รวบรวมเอกสารรายงานการลงทะเบียนให้กลุ่ม อ านวยการทราบ ประกอบด้วย ๑) นางสาวมธุรา วจีอิสมัย หัวหน้าคณะท างาน ๒) นางสาวรัตนาวาตี ซายอ คณะท างาน 3) นางสาวนารีซะห์ อาแวกาจิ คณะท างาน/เลขานุการ ๑.๔ ฝ่ายเอกสารและวิชาการ มีหน้าที่เตรียมเอกสารทางวิชาการประกอบการอบรม ประกอบด้วย ๑) นางสาวซาณียา ยะโก๊ะ หัวหน้าคณะท างาน ๒) นางสาวนาอีหม๊ะ อาแวกาจิ คณะท างาน
๒๑ ๑.๕ ฝ่ายอาคารสถานที่ มีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ ให้พร้อมที่จะใช้งานได้ เตรียมกล้องถ่ายรูป และเก็บภาพ ประกอบด้วย 1) นายซอบือรี แซะเซ็ง หัวหน้าคณะท างาน ๑) นายมะซายูตี ลาเต๊ะบือริง คณะท างาน ๒) นายศรัณย์ ต่วนบือซา คณะท างาน/เลขานุการ ๑.๖ ฝ่ายประเมินโครงการ มีหน้าที่จัดท าแบบประเมินโครงการตามกลุ่มเป้าหมาย รวบรวมแบบ ประเมิน รายงานผลการประเมิน ประกอบด้วย ๑) นางสาวนิรดา เอี่ยมสอาด หัวหน้าคณะท างาน ๒) นางสาวมาดีฮ๊ะ เจ๊ะเมาะ คณะท างาน ขอให้บุคคลที่ได้รับมอบหมายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ เอาใจใส่ เสียสละ และ ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และเกิดผลดีแก่ทางราชการ และเกิด ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับบริการ ทั้งนี้ วันที่ 31 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 29 มีนาคม 2566 (นายแวดาโอะ สามะ) ครู รักษาการในต าแหน่ง ผู้อ านวยการ กศน.อ าเภอเจาะไอร้อง
๒๒