The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การวิจัยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา 022

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by st65.apiluck.ma, 2023-01-17 23:05:37

การวิจัยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา 022

การวิจัยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา 022

บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย สอน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดทองนพคุณ จำนวน 30 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่ม แบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินคุณภาพบทเรียน สามารถสรุป อภิปราย ผล และมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ สรุปผลการวิจัย จากการรดำเนินการวิจัยสรุปผลได้ ดังนี้ 1. ได้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีเนื้อหา 5 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ความหมายของการเขียนผังงานโฟลวชาร์ต ตอนที่ 2 ประเภทของผังงานโฟลวชาร์ต ตอนที่ 3 สัญลักษณ์ของโฟลวชาร์ต ตอนที่ 4 โครงสร้างของการเขียนผังงานโฟลวชาร์ต ตอนที่ 5 ประโยชน์ของการเขียนผังงานโฟลวชาร์ต 2. คุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ ปัญหาในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้านเนื้อหา มีคุณภาพอยู่ในระดับดี มาก มีค่า ̅= 4.60 ค่า S.D. = 0.46 3. . คุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ ปัญหาในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้านการผลิตสื่อ คุณภาพอยู่ใน ระดับดีมาก มีค่า ̅= 4.53 ค่า S.D. = 0.55 4. ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อ เเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.86/83.31


44 อภิปรายผล การวิจัยนี้เป็นการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การ เขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่ง ผลการวิจัยนี้พบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผลิตขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากกับ 81.86/83.31 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทั้งนี้อาจเป็นเนื่องมาจากการผลิตบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มี การดำเนินการอย่างเป็นระบบตั้งแต่การวิเคราะห์เนื้อหา กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ดำเนินการรสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ดำเนินการสร้างตามหลักการออกแบบของกาเย่ (Gagnen) โดย (ทักษิณา วิไลลักษณ์2551 : 23-27) ได้อธิบายลักษณะการสร้างบทเรียน คอมพิวเตอร์ตามแนวคิดของกาเย่ (Gagnen) ดังนี้ 1. เร่งเร้าความสนใจ (Gain Attention) สร้างความสนใจเพื่อให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีความรู้สึกอยากที่จะ เรียน โดยการออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนให้เกิดความน่าสนใจต่อตัวของผู้เรียนและมี ความเหมาะสม มีลักษณะที่จะเร่งเร้าความสนใจของผู้เรียน มีดังนี้ - การใช้ภาพกราฟิกการ์ตูนที่ดึงดูดความสนใจ มีสีสดใส ชัดเจนเหมาะสมกับผู้เรียน - ออกแบบการจัดลำดับของหน้าจอแสดงผลให้ดูเรียบง่าย ใช้งานได้อย่างสะดวก - เลือกใช้ภาพกราฟิกที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาระดับความรู้ใช้เทคนิคการนำเสนอ ภาพผลพิเศษเข้ามาช่วย 2. บอกวัตถุประสงค์ (Specify Object) บอกความคาดหวังของบทเรียนให้ผู้เรียนได้ทราบ เพื่อการเชื่อมโยงเข้าเนื้อหาก่อนที่จะเข้า สู่บทเรียน โดยจะบอกเป็นลักษณะสิ่งที่ผู้เรียนต้องรับรู้เมื่อเรียนในแต่ละบทเรียนจบแล้ว 3. ทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knowledge) ให้ผู้เรียนทบทวนบทเรียนก่อนอยู่เสมอ ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่เนื้อหาใหม่ เพื่อที่จะสามารถ ประเมินความรู้พื้นฐานของผู้เรียนที่มีมาก่อนเพื่อนำไปเชื่อมโยงกับเนื้อหาใหม่ วิธีการทบทวน ความรู้เดิมที่บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนได้ให้ผู้เรียนปฏิบัติ มีดังนี้ - แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) - ข้อคำถาม (Quiz) 4. นำเสนอเนื้อหาใหม่ (Present New Information) จะต้องเป็นการนำเสนอที่เกี่ยวข้องของเนื้อหา มีภาพประกอบหรือคำอธิบายสั้น ๆ แต่ได้ ใจความ หรืออาจมีการนำเสนอเนื้อหาเก่าพร้อมกับเนื้อหาใหม่เพื่อนำมาเปรียบเทียบและนำ เนื้อหาเก่ามาเชื่อมโยงกับเนื้อหาใหม่


45 5. ชี้แนวทางการเรียนรู้ (Guide earning) การจัดระบบการนำเสนอเนื้อหาที่สัมพันธ์กับประสบการณ์เดิมหรือความรู้เดิมของผู้เรียน ค้นหาเทคนิคในการที่จะกระตุ้นให้ผู้เรียนนำความรู้เดิมมาใช้ในการศึกษาความรู้ใหม่ โดยมี ลักษณะการออกแบบ คือ เกร็ดความรู้ ข้อคำถาม คำแนะนำ ประเด็นปัญหา 6. กระตุ้นการตอบสนองบทเรียน ( Elicit Response) ออกแบบกิจกรรมในบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เปิด โอกาสให้ผู้เรียนได้ร่วมแสดงความคิดอย่างต่อเนื่อง และมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับบทเรียนที่สร้างขึ้น และคิดค้นกิจกรรรมที่ทำให้เกิดความเร้าใจต่อการรเรียนรู้ มีความเหมาะสม เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลินในการเรียนรู้ของผู้เรียน 7. ให้ข้อมูลย้อนกลับ (Provide Feedback) แจ้งคะแนนหรือผลลัพธ์ให้ผู้เรียนทราบมทันที เพื่อที่ผู้เรียนจะได้รู้ตนเองว่ามีความรู้อยู่ที่ ระดับใด และพัฒนาตนเองในเรื่องใดบ้าง โดยการใช้รูปภาพกราฟิกนำเสนอข้อมูล และบอก เป้าหมายที่ชัดเจน แจ้งให้ผู้เรียนทราบว่าขณะนั้นผู้เรียนอยู่ที่ส่วนใดห่างจากเป้าหมายเท่าใด 8. ทดสอบความรู้ใหม่ (Assess Performance) ให้ผู้เรียนได้ทดสอบความรู้ของตนเองจากสิ่งที่ได้เรียนรู้ในเนื้อหา เป็นการวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนว่าผ่านเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ โดยมีลักษณะเป็นแบบทดสอบหลังเรียน ตัวเลือกตอบ 4 ตัวเลือก และมีเกณฑ์การรตัดสินผลตามที่ได้กำหนดไว้ 9. สรุปและนำไปใช้ (Review and Transfer) ย้ำเนื้อหาในแต่ละเรื่องของบทเรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีโอกาสทบทวนความรู้ของ ตนเองหลังจากศึกษาเนื้อหาที่ผ่านมาแล้ว รวมทั้งการให้ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่จะแนะนำให้แก่ ผู้เรียน โดยเป็นลักษณะเสียงพูดบรรยาย การนำเสนอด้วยรูปภาพ เกร็ดความรู้ เป็นต้น จากกระบวนการผลติตอย่างเป็นระบบดังกล่าว จึงทำให้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ ผลิตขึ้นมีคุณภาพด้านเนื้อหาอยู่ในระดับดีมาก มีค่า ̅= 4.60 ค่า S.D. = 0.46 และ และด้านการ ผลิตสื่อมีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก มีค่า ̅= 4.53 ค่า S.D. = 0.55 และผลการประเมิน ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเท่ากับ 81.86/83.31 สูงกว่าเกณฑ์80/80 แสดง ว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สามารถนำไปใช้กับการศึกษาได้ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ยอดชาย ขุนสังวาล (2553) ได้ทำ การวิจัยเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ภาษาซีเบื้องต้น สำหรับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสงวนหญิง ผลวิจัยพบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้นมี ประสิทธิภาพ 78.89/79.33 ซี่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75/75 กัญญารัตน์บุตดีหัต และคณะ


46 (2562) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ชนิดของคำไทย ตาม แนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้าน หนองขาม (ค่ายเสนีย์อุปถัมภ์) ผลวิจัยพบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมี ค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้และมีผลการประเมินประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย สอน เท่ากับ 81.41/84.62 อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่า การนำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้าง จากทฤษฎีการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน มาใช้กับผู้เรียนที่ยังไม่เข้าใจในเนื้อหาที่เรียน ช่วย ส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหามากยิ่งขึ้น ลัดดาวัลย์ ไตรมณี และคณะ (2558) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย สมุทรปราการ ผลการวิจัยพบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้นมีคุณภาพด้านเนื้อหามีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.30 และคุณภาพ ด้านเทคนิคการผลิตสื่อมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29 และมีผลการประเมินประสิทธิภาพของบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เท่ากับ 84.40/89.60 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ทที่กำหนด 80/80 และมี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ข้อมูลใน เครื่องคอมพิวเตอร์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยลดา กุมารสิทธิ์ และอัจฉรีย์ พิมพิมูล (2560) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง เทคโนโลยีรสาระสนเทศและการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมมศึกษาปีที่ 2 ผลวิจัยพบว่า ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนคะแนนระหว่างเรียนเท่ากับ 82.24 และคะแนน หลังเรียนเท่ากับ 81.22 ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์80/80 ผู้วิจัยพัฒนาบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยออกแบบให้เนื้อหาบทเรียน คำแนะนำสำหรับการใช้โปรแกรม แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ทั้งนี้ได้นำเทคนิคต่าง ๆ ทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มา ใช้ในการสร้างซึ่งประกอบได้ด้วย ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว ภาพกราฟิก เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียน เกิดความสนใจในเนื้อหาบทเรียน 2. จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนพบว่าว่าผู้เรียนมีความสนใจใน และมีความพึงพอใจ กับการเรียนรู้ด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยตอน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวัน เพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้ความเข้าใจ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นกว่าก่อน เรียน และผู้เรียนให้ความสนใจกับการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการออกแบบบทเรียนที่ตรงต่อความต้องการของผู้เรียน เช่น เกม ข้อคำถามย่อย การ ทำแบบทดสอบ และมีภาพการ์ตูนประกอบ อีกทั้งยังทำให้ผู้เรียนเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน ต่อการเรียนรู้ เนื่องจากเป็นบทเรียนที่เน้นให้นักเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์แสดงความคิด วิเคราะห์ใน


47 เนื้อหาที่เรียน ทำให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ได้ดีนอกจากนี้บทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นลักษณะของสื่อประสมที่ทำให้ผู้เรียนได้เห็นภาพเคลื่อนไหว เสียงพูด บรรยาย ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจบทเรียนได้ง่ายและเร็วขึ้น ทำให้เกิดความแม่นยำในการ จดจำเนื้อหาและสามารถนำไปเชื่อมโยงกับเนื้อหาในบทถัดไป จากกระบวนการผลิตอย่างเป็นระบบและการสังเกตพฤติกรรมผู้เรียนที่พบว่าผู้เรียนมี ความสนใจและตั้งใจเรียน จึงทำให้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สอน เรื่อง การเขียนผังงาน โฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้ ข้อเสนอแนะ จากการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อ เเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ข้อเสนอแนะทั่วไป 1. ควรเอื้ออำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยที่ผู้เรียนสามารถนำบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอนไปเรียนรู้ด้วยตนเองหรือระยะเวลาและสถานที่ใดก็ได้อย่างไม่จำกัด 2. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนชุดนี้ สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนซ่อม เสริมให้กับผู้เรียนเพื่อช่วยเหลือผู้เรียนที่เรียนรู้ไม่ทันหรือเกิดการเรียนรู้ช้ากว่าคนอื่น 3. เนื้อหาในบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมมมีความครบถ้วนของ ที่จะทำให้ผู้เรียนศึกษา หรือสามารถย้อนกลับมาศึกษาได้ในบททเรียนมากกว่าการสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป 1. ควรนำผลการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ได้จากการศึกษาในครั้งนี้ไป พัฒนาสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในเนื้อหาเรื่องอื่น ๆ หลากหลายวิชา โดยเฉพาะเนื้อหา การเรียนรู้ที่มีเรื่องที่ต้องอาศัยการจินตนาการหรือมีความซับซ้อนมาก ๆ 2. ควรศึกษาเปรียบเทียบผลการเรียนรู้และความคงทนด้านทักษะปฏิบัติจากการเรียนรู้ จากบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนกับการสอนปกติ


บรรณานุกรม กรมวิชาการ. กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542 และที่แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรมวิชาการ. กระทรวงศึกษาธิการ. (2560).หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ.2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. ยอดชาย ขุนสังวาลย์. (2553). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ภาษาซีเบื้องต้น สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสงวนหญิง. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.อัดสำเนา ศิริพร มีพรบูชา. (2561). ศึกษาทักษะการจดจำ สัญลักษณ์ Flow Chart ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย ใช้เกมคอมพิวเตอร์ เรื่อง สัญลักษณ์FlowChart. โรงเรียนห้วยมงคล. วรุฒ ปานเหลือง และอุบลรัตน์ ศิริสุขโสภา. (2560). การฝึกทักษะเรื่องการเขียนผังงาน สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการสอนแบบปัญหาเป็นฐานร่วมกับบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย สอน.สาขาวิชาาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครปฐม. ทัศนัย สัปทน และวิวัฒน์. (2564). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพรช. ถนอม เลาหจรัสแสง. (2542). ความหมายของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน. กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. กนก จันทร์ทอง. (2544). บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน. วารสารวิทยบริการ, 12(1), 66-67. ฉลอง ทับศรี. (2535). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชาการศึกษา. ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา. พรเทพ แมนเมือง. (2544). แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน. กรุงเทพฯ: บริษัท เอช.เอ็น.กรุ๊ป.จำกัด วรินทร์ รัศมีพรหม. (2542). การออกแบบและพัฒนาระบบการสอน. กรุงเทพฯ: ภาพวิขาเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนนครินทร์วิโรต. บูรณะ สมชัย. (2538). การสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น. ทักษิณา วิไลลักษณ์. (2551). ออกแบบบทเรียน. ปทุมธานี: คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. มหาวิทยาลัย ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปภัมภ์. กฤษมันต์ วัฒนาณรงค์. (2538, มิถุนายน). แนวคิดการหาประสิทธิภาพบทเรียน CAI. วารสารวิชาการพระ จอมเกล้าพระนครเหนือ, 5(3), 11 – 14. ไชยยศ เรืองสุวรรณ. (2548). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์. (พิมพ์ครั้งที่ 9). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัย มหาสารคาม.


49 ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากร ศึกษาศาสตร์วิจัย ปีที่ 5 ฉบับที่ 1. ธัญพิสิษฐ์ คุณยศยิ่ง. (2560). ประเภทของการเขียนผังงาน. กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 34. กัญญารัตน์ บุตดีหัต และคณะ. (2562). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ชนิดของ คำในภาษาไทยตามแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน. สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี. ลัดดาวัลย์ ไตรมณี และคณะ (2558). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ข้อมูลในเครื่อง คอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบ วิทยาลัย สมุทรปราการ. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอบเกล้าเจ้าคุณ ทหารลาดกระบัง ยลดา กุมารสิทธิ์และอัจฉรีย์ พิมพิมูล. (2560). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องเทคโนโลยี สารสนเทศ วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.


ภาคผนวก


ภาคผนวก ก รายนามผู้เชี่ยวชาญด้านวัดผล ด้านเนื้อหา และด้านการผลิตบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน


52 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านวัดผลและด้านเนื้อหา 1. ชื่อ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดิเรก อัคฮาด สถานที่ทำงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1061 อิสรภาพ 15 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 ตำแหน่ง อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา 2. ชื่อ อ.ดร. ทิตยา สิทธิโสภาสกุล สถานที่ทำงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1061 อิสรภาพ 15 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 ตำแหน่ง รองคณบดี ฝ่ายวิชาการและฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 3. ชื่อ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศศิกัญชณา เย็นเอง สถานที่ทำงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1061 อิสรภาพ 15 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 ตำแหน่ง รองคณบดี ฝ่ายแผนและประกันคุณภาพการศึกษา


53 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 1. ชื่อ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดิเรก อัคฮาด สถานที่ทำงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1061 อิสรภาพ 15 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 ตำแหน่ง อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา 2. ชื่อ อาจารย์สุรเชษฐ์ มีฤทธิ์ สถานที่ทำงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1061 อิสรภาพ 15 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 ตำแหน่ง อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา 3. ชื่อ ดร.ศักดิ์คเรศ ประกอบผล สถานที่ทำงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1061 อิสรภาพ 15 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 ตำแหน่ง อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา


ภาคผนวก ข หนังสือเชิญผู้เชี่ยวชาญ


ภาคผนวก ค แบบประเมินคุณภาพบทเรียนด้านเนื้อหาและด้านการผลิตสื่อ


56 แบบประเมินคุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน (ด้านเนื้อหา) เป็นการประเมินค่า 5ระดับ ข้อคําถามจำนวน 5 ข้อ คําชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ลงในช่องระดับคุณภาพตามความคิดเห็นของท่านโดยมีระดับค่า ดังนี้ 1 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับปรับปรุงแก้ไข 2 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับพอใช้ 3 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง 4 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับดี 5 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 5 4 3 2 1 1.อธิบายเนื้อหาในแต่ละหน่วยได้อย่างชัดเจน 2.มีความเหมาะสมของการจัดลำดับเนื้อหา 3.ความยากง่ายของเนื้อหามีความเหมาะสม 4.มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ 5.เนื้อหาสามารถนำไปใช้กับบทเรียนได้ ข้อเสนอแนะ ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ลงชื่อ (.........................................................) ผู้ประเมิน


57 แบบประเมินคุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน (ด้านการผลิตสื่อ) เป็นการประเมินค่า 5ระดับ ข้อคําถามจำนวน 5 ข้อ คําชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ลงในช่องระดับคุณภาพตามความคิดเห็นของท่านโดยมีระดับค่า ดังนี้ 1 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับปรับปรุงแก้ไข 2 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับพอใช้ 3 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง 4 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับดี 5 หมายถึง มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 5 4 3 2 1 1.จัดองค์ประกอบได้อย่างเหมาะสม 2.มีรูปภาพประกอบสวยงาม เหมาะสมกับเนื้อหา 3.มีเทคนิคการออกแบบที่น่าสนใจ 4.มีกิจกรรมที่หลากหลาย น่าสนใจ 5.ตัวอักษร เสียงพูดบรรยายมีความชัดเจน ข้อเสนอแนะ ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ลงชื่อ (.........................................................) ผู้ประเมิน


ภาคผนวก ง แบบทดสอบก่อนเรียน และแบบทดสอบหลังเรียน พร้อมเฉลย


59 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน คำชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นข้อสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 20 คะแนน เวลา 30 นาที 2. ให้ผู้เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ความหมายของอัลกอริทึม ตรงกับข้อใด 1) เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการพัฒนาระบบ 2) เป็นการวางแผนงาน การแก้ปัญหา 3) เป็นการจำลองความคิดเป็นข้อความหรือคำบรรยาย 4) ถูกทุกข้อ 2. การเขียน Flowchart มีความหมายตรงกับข้อใด 1) การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา 2) การดำเนินการแก้ปัญหาโดยคำพูด 3) การแสดงการทำงานของคอมพิวเตอร์ 4) การใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์ ที่ใช้เขียนแทนคำอธิบาย 3. กระบวนการแก้ปัญหาจะต้องเริ่มจากขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนแรก 1) ดำเนินการแก้ไข 2) วางแผนการแก้ปัญหา 3) ตรวจสอบและปรับปรุง 4) วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 4. การใช้กระบวนการแก้ปัญหามีประโยชน์อย่างไร 1) สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ 2) สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง 3) สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง 4) สามารถสร้างเงื่อนไขในการแก้ปัญหาของตนเองได้


60 5. ผังงาน (Flowchart) สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้ 1) ผังงานระบบ , ผังงานโปรแกรม 2) ผังงานระบบ , ผังงานแสดงผล 3) ผังงานโปรแกรม , ผังงานแสดงผล 4) ผังงานแสดงผล , ผังงานโปรแกรม 6. จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1) การแสดงข้อมูล 2) การทำเอกสาร 3) การเตรียมการ 4) การปฏิบัติงาน 7. จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1) การแสดงข้อมูล 2) ตัดสินใจ 3) รับข้อมูล 4) เริ่มต้นการทำงาน 8. จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1) จบการทำงาน 2) ประมวลผล 3) รับข้อมูล 4) จุดเชื่อมโยง


61 9. ขั้นตอนต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างระเอียดและต้องมีการวางแผนอย่างถูกวิธี 1) ดำเนินการแก้ปัญหา 2) เลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี 3) ตรวจสอบและปรับปรุง 4) วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 10. จงเรียงลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาให้ถูกต้อง 1) วิเคราะห์ --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ --> วางแผน 2) วิเคราะห์ --> วางแผน --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ 3) วางแผน --> วิเคราะห์ --> ตรวจสอบ --> ดำเนินการ 4) วางแผน --> วิเคราะห์ --> ตรวจสอบ --> ปรับปรุง 11. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการแก้ปัญหา 1) การแจ้งปัญหาให้ผู้ดูแลตรวจสอบปรับปรุงระบบ 2) การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 3) การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา 4) การดำเนินการแก้ปัญหา 12. การจำลองความคิดเป็นสัญลักษณ์หรือผังงาน คือข้อใด 1) การเขียน Dictionary 2) การเขียน Flowchart 3) การเขียน Applications 4) การเขียน Software 13. การเขียนผังงาน (Flowchart) ที่ดี ตรงกับข้อใด 1) มีความซับซ้อน 2) มีความเป็นเชื่อมโยงที่หลากหลาย 3) การนำข้อความต่อเรียงกันให้เกิดความซับซ้อน 4) มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าใจง่าย


62 14. ลักษณะของโครงสร้างผังงานมีกี่โครงสร้าง อะไรบ้าง 1) 2 โครงสร้าง คือ การทำงานแบบลำดับ และแบบทางเลือก 2) 2 โครงสร้าง คือ การทำงานแบบลำดับ และแบบวนซ้ำ 3) 3 โครงสร้าง คือ การงานแบบลำดับ แบบทางเลือกและแบบวนซ้ำ 4) 3 โครงสร้าง คือ การทำงานแบบลำดับ แบบทางเลือก และแบบทำในขณะที่ 15. สัญลักษณ์ในข้อใด สามารถมีเพียงสัญลักษณ์เดียวเท่านั้นในผังงาน 1) การตัดสินใจ 2) การประมวลผล 3) การรับค่าข้อมูล 4) จุดสิ้นสุดของผังงาน 16. หลักในการเขียนผังงาน มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง 1) 1 ขั้นตอน การประมวลผล 2) 2 ขั้นตอน การรับ การส่งข้อมูล 3) 3 ขั้นตอน การรับข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ 4) 4 ขั้นตอน การรับข้อมูล การส่งข้อมูล การประมวลผล การแสดงผล 17. ผังงานแบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่อะไรบ้าง 1) ผังงานระบบ ผังงานวงจร 2) ผังงานโปรแกรม ผังงานระบบ 3) ผังงานโปรแกรม ผังงานวงจร 4) ผังงานวงจร ผังงานเชื่อมโยง 18. ข้อใดเป็นวิธีการเขียนผังงานที่ดี 1) คำอธิบายในภาพจะยาวหรือสั้นก็ได้ 2) ทุกแผนภาพไม่ต้องมีลูกศรแสดงทิศทางเข้า – ออก 3) ไม่ควรโยงเส้นเชื่อมผังงานที่อยู่ไกลมาก ๆ ได้ 4) ใช้ลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลจากล่างไปบน หรือจากขวาไปซ้าย


63 19 .ข้อใดไม่ใช่รูปแบบของผังงาน 1) รูปแบบเรียงลำดับ 2) รูปแบบเงื่อนไข 3) รูปแบบวนรอบ 4) รูปแบบขั้นบันได 20. ข้อจำกัดในการเขียนผังงาน (Flowchart) คือข้อใด 1) งานที่ไม่มีความซับซ้อน 2) งานที่มีความซับซ้อน 3) งานที่มีความยากง่ายปะปนกัน 4) ผิดทุกข้อ


64 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 1. 4) ถูกทุกข้อ 2. 4) การใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์ ที่ใช้เขียนแทนคำอธิบาย 3. 4) วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 4. 1) สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ 5. 1) ผังงานระบบ , ผังงานโปรแกรม 6. 4) การปฏิบัติงาน 7. 2) ตัดสินใจ 8. 3) รับข้อมูล 9. 2) เลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี 10.2) วิเคราะห์ --> วางแผน --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ 11.1) การแจ้งปัญหาให้ผู้ดูแลตรวจสอบปรับปรุงระบบ 12.2) การเขียน Flowchart 13. 4) มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าใจง่าย 14. 3) 3 โครงสร้าง คือ การงานแบบลำดับ แบบทางเลือกและแบบวนซ้ำ 15. 4) จุดสิ้นสุดของผังงาน 16.3) 3 ขั้นตอน การรับข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ 17. 2) ผังงานโปรแกรม ผังงานระบบ 18. 3) ไม่ควรโยงเส้นเชื่อมผังงานที่อยู่ไกลมาก ๆ ได้ 19. 4) รูปแบบขั้นบันได 20. 2) งานที่มีความซับซ้อน


65 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน คำชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นข้อสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 20 คะแนน เวลา 30 นาที 2. ให้ผู้เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ข้อจำกัดในการเขียนผังงาน (Flowchart) คือข้อใด 1) งานที่ไม่มีความซับซ้อน 2) งานที่มีความซับซ้อน 3) งานที่มีความยากง่ายปะปนกัน 4) ผิดทุกข้อ 2. ข้อใดไม่ใช่รูปแบบของผังงาน 1) รูปแบบเรียงลำดับ 2) รูปแบบเงื่อนไข 3) รูปแบบวนรอบ 4) รูปแบบขั้นบันได 3. ข้อใดเป็นวิธีการเขียนผังงานที่ดี 1) คำอธิบายในภาพจะยาวหรือสั้นก็ได้ 2) ทุกแผนภาพไม่ต้องมีลูกศรแสดงทิศทางเข้า – ออก 3) ไม่ควรโยงเส้นเชื่อมผังงานที่อยู่ไกลมาก ๆ ได้ 4) ใช้ลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลจากล่างไปบน หรือจากขวาไปซ้าย 4. ผังงานแบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่อะไรบ้าง 1) ผังงานระบบ ผังงานวงจร 2) ผังงานโปรแกรม ผังงานระบบ 3) ผังงานโปรแกรม ผังงานวงจร 4) ผังงานวงจร ผังงานเชื่อมโยง


66 5. หลักในการเขียนผังงาน มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง 1) 1 ขั้นตอน การประมวลผล 2) 2 ขั้นตอน การรับ การส่งข้อมูล 3) 3 ขั้นตอน การรับข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ 4) 4 ขั้นตอน การรับข้อมูล การส่งข้อมูล การประมวลผล การแสดงผล 6.สัญลักษณ์ในข้อใด สามารถมีเพียงสัญลักษณ์เดียวเท่านั้นในผังงาน 1) การตัดสินใจ 2) การประมวลผล 3) การรับค่าข้อมูล 4) จุดสิ้นสุดของผังงาน 7. ลักษณะของโครงสร้างผังงานมีกี่โครงสร้าง อะไรบ้าง 1) 2 โครงสร้าง คือ การทำงานแบบลำดับ และแบบทางเลือก 2) 2 โครงสร้าง คือ การทำงานแบบลำดับ และแบบวนซ้ำ 3) 3 โครงสร้าง คือ การงานแบบลำดับ แบบทางเลือกและแบบวนซ้ำ 4) 3 โครงสร้าง คือ การทำงานแบบลำดับ แบบทางเลือก และแบบทำในขณะที่ 8. การเขียนผังงาน (Flowchart) ที่ดี ตรงกับข้อใด 1) มีความซับซ้อน 2) มีความเป็นเชื่อมโยงที่หลากหลาย 3) การนำข้อความต่อเรียงกันให้เกิดความซับซ้อน 4) มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าใจง่าย 9. การจำลองความคิดเป็นสัญลักษณ์หรือผังงาน คือข้อใด 1) การเขียน Dictionary 2) การเขียน Flowchart 3) การเขียน Applications 4) การเขียน Software 10. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการแก้ปัญหา 1) การแจ้งปัญหาให้ผู้ดูแลตรวจสอบปรับปรุงระบบ 2) การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 3) การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา 4) การดำเนินการแก้ปัญหา


67 11. จงเรียงลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาให้ถูกต้อง 1) วิเคราะห์ --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ --> วางแผน 2) วิเคราะห์ --> วางแผน --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ 3) วางแผน --> วิเคราะห์ --> ตรวจสอบ --> ดำเนินการ 4) วางแผน --> วิเคราะห์ --> ตรวจสอบ --> ปรับปรุง 12. ขั้นตอนต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างระเอียดและต้องมีการวางแผนอย่างถูกวิธี 1) ดำเนินการแก้ปัญหา 2) เลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี 3) ตรวจสอบและปรับปรุง 4) วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 13. จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1) จบการทำงาน 2) ประมวลผล 3) รับข้อมูล 4) จุดเชื่อมโยง 14. จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1) การแสดงข้อมูล 2) ตัดสินใจ 3) รับข้อมูล 4) เริ่มต้นการทำงาน 15. จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1) การแสดงข้อมูล 2) การทำเอกสาร 3) การเตรียมการ 4) การปฏิบัติงาน


68 16. ผังงาน (Flowchart) สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้ 1) ผังงานระบบ , ผังงานโปรแกรม 2) ผังงานระบบ , ผังงานแสดงผล 3) ผังงานโปรแกรม , ผังงานแสดงผล 4) ผังงานแสดงผล , ผังงานโปรแกรม 17. การใช้กระบวนการแก้ปัญหามีประโยชน์อย่างไร 1) สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ 2) สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง 3) สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง 4) สามารถสร้างเงื่อนไขในการแก้ปัญหาของตนเองได้ 18. กระบวนการแก้ปัญหาจะต้องเริ่มจากขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนแรก 1) ดำเนินการแก้ไข 2) วางแผนการแก้ปัญหา 3) ตรวจสอบและปรับปรุง 4) วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 19. การเขียน Flowchart มีความหมายตรงกับข้อใด 1) การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา 2) การดำเนินการแก้ปัญหาโดยคำพูด 3) การแสดงการทำงานของคอมพิวเตอร์ 4) การใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์ ที่ใช้เขียนแทนคำอธิบาย 20.ความหมายของอัลกอริทึม ตรงกับข้อใด 1) เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการพัฒนาระบบ 2) เป็นการวางแผนงาน การแก้ปัญหา 3) เป็นการจำลองความคิดเป็นข้อความหรือคำบรรยาย 4) ถูกทุกข้อ


69 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 1. 2) งานที่มีความซับซ้อน 2. 4) รูปแบบขั้นบันได 3. 3) ไม่ควรโยงเส้นเชื่อมผังงานที่อยู่ไกลมาก ๆ ได้ 4. 2) ผังงานโปรแกรม ผังงานระบบ 5. 3) 3 ขั้นตอน การรับข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ 6. 3) 3 โครงสร้าง คือ การงานแบบลำดับ แบบทางเลือกและแบบวนซ้ำ 7. 4) การปฏิบัติงาน 8. 4) มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าใจง่าย 9. 2) การเขียน Flowchart2 10.1) การแจ้งปัญหาให้ผู้ดูแลตรวจสอบปรับปรุงระบบ 11.2) วิเคราะห์ --> วางแผน --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ 12.) เลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี 13. 3) รับข้อมูล 14. 2) ตัดสินใจ 15. 4) จุดสิ้นสุดของผังงาน 16.1) ผังงานระบบ , ผังงานโปรแกรม 17. 1) สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ 18. 4) วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 19. 4) การใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์ ที่ใช้เขียนแทนคำอธิบาย 20. 4) ถูกทุกข้อ


ภาคผนวก จ แบบสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านวัดผลและค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบ


71 แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดผล เกี่ยวกับแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน คำชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่งในการทำวิจัย เรื่อง การเขียนผังงานโฟลว ชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดทองนพ คุณ 2. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นข้อสอบแบบปรนัย จำนวน 20 ข้อ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในด้าน ความรู้ความจํา และความเข้าใจ ในเนื้อการเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวัน 3. วัตถุประสงค์การเรียนรู้เรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวัน มีดังนี้ 3.1เพื่อพัฒนาและหาคุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การเขียนผังงาน โฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน 3.2 มีความเข้าใจในเรื่องการเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน มากยิ่งขึ้น 4.ท่านผู้เชี่ยวชาญได้โปรดกรุณาแสดงความคิดเห็นต่อข้อคําถามที่นํามาสร้างแบบทดสอบ ว่าสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ในข้อ 3 หรือไม่ ซึ่งได้กําหนดค่าระดับความคิดเห็นไว้ ดังนี้ +1 หมายถึง แน่ใจว่าข้อคําถามนั้นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ 0 หมายถึง ไม่แน่ใจข้อคําถามนั้นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ -1 หมายถึง แน่ใจว่าข้อความนั้นไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้


72 โปรดแสดงความคิดเห็นโยทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องความคิดเห็นของแต่ละข้อคําถาม ข้อที่ คำถาม ความคิดเห็น +1 0 -1 1 ความหมายของอัลกอริทึม ตรงกับข้อใด 1) เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการพัฒนาระบบ 2) เป็นการวางแผนงาน การแก้ปัญหา 3) เป็นการจำลองความคิดเป็นข้อความหรือคำบรรยาย 4) ถูกทุกข้อ 2 การเขียน Flowchart มีความหมายตรงกับข้อใด 1) การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา 2) การดำเนินการแก้ปัญหาโดยคำพูด 3) การแสดงการทำงานของคอมพิวเตอร์ 4) การใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์ ที่ใช้เขียนแทนคำอธิบาย 3 กระบวนการแก้ปัญหาจะต้องเริ่มจากขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนแรก 1) ดำเนินการแก้ไข 2) วางแผนการแก้ปัญหา 3) ตรวจสอบและปรับปรุง 4) วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 4 การใช้กระบวนการแก้ปัญหามีประโยชน์อย่างไร 1) สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ 2) สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง 3) สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง 4) สามารถสร้างเงื่อนไขในการแก้ปัญหาของตนเองได้ 5 ผังงาน (Flowchart) สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้ 1) ผังงานระบบ , ผังงานโปรแกรม 2) ผังงานระบบ , ผังงานแสดงผล 3) ผังงานโปรแกรม , ผังงานแสดงผล 4) ผังงานแสดงผล , ผังงานโปรแกรม


73 6 จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1) การแสดงข้อมูล 2) การทำเอกสาร 3) การเตรียมการ 4) การปฏิบัติงาน 7 จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1) การแสดงข้อมูล 2) ตัดสินใจ 3) รับข้อมูล 4) เริ่มต้นการทำงาน 8 จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1) จบการทำงาน 2) ประมวลผล 3) รับข้อมูล 4) จุดเชื่อมโยง 9 9. ขั้นตอนต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างระเอียดและ ต้องมีการวางแผนอย่างถูกวิธี 1) ดำเนินการแก้ปัญหา 2) เลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี 3) ตรวจสอบและปรับปรุง 4) วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา


74 10 จงเรียงลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาให้ถูกต้อง 1) วิเคราะห์ --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ --> วางแผน 2) วิเคราะห์ --> วางแผน --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ 3) วางแผน --> วิเคราะห์ --> ตรวจสอบ --> ดำเนินการ 4) วางแผน --> วิเคราะห์ --> ตรวจสอบ --> ปรับปรุง 11 ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการแก้ปัญหา 1) การแจ้งปัญหาให้ผู้ดูแลตรวจสอบปรับปรุงระบบ 2) การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 3) การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา 4) การดำเนินการแก้ปัญหา 12 ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการแก้ปัญหา 1) การแจ้งปัญหาให้ผู้ดูแลตรวจสอบปรับปรุงระบบ 2) การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 3) การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา 4) การดำเนินการแก้ปัญหา 13 การเขียนผังงาน (Flowchart) ที่ดี ตรงกับข้อใด 1) มีความซับซ้อน 2) มีความเป็นเชื่อมโยงที่หลากหลาย 3) การนำข้อความต่อเรียงกันให้เกิดความซับซ้อน 4) มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าใจง่าย 14 ลักษณะของโครงสร้างผังงานมีกี่โครงสร้าง อะไรบ้าง 1) 2 โครงสร้าง คือ การทำงานแบบลำดับ และแบบทางเลือก 2) 2 โครงสร้าง คือ การทำงานแบบลำดับ และแบบวนซ้ำ 3) 3 โครงสร้าง คือ การงานแบบลำดับ แบบทางเลือกและแบบ วนซ้ำ 4) 3 โครงสร้าง คือ การทำงานแบบลำดับ แบบทางเลือก และ แบบทำในขณะที่


75 15 สัญลักษณ์ในข้อใด สามารถมีเพียงสัญลักษณ์เดียวเท่านั้นใน ผังงาน 1) การตัดสินใจ 2) การประมวลผล 3) การรับค่าข้อมูล 4) จุดสิ้นสุดของผังงาน 16 หลักในการเขียนผังงาน มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง 1) 1 ขั้นตอน การประมวลผล 2) 2 ขั้นตอน การรับ การส่งข้อมูล 3) 3 ขั้นตอน การรับข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ 4) 4 ขั้นตอน การรับข้อมูล การส่งข้อมูล การประมวลผล การ แสดงผล 17 17. ผังงานแบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่อะไรบ้าง 1) ผังงานระบบ ผังงานวงจร 2) ผังงานโปรแกรม ผังงานระบบ 3) ผังงานโปรแกรม ผังงานวงจร 4) ผังงานวงจร ผังงานเชื่อมโยง 18 18. ข้อใดเป็นวิธีการเขียนผังงานที่ดี 1) คำอธิบายในภาพจะยาวหรือสั้นก็ได้ 2) ทุกแผนภาพไม่ต้องมีลูกศรแสดงทิศทางเข้า – ออก 3) ไม่ควรโยงเส้นเชื่อมผังงานที่อยู่ไกลมาก ๆ ได้ 4) ใช้ลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลจากล่างไปบน หรือ จากขวาไปซ้าย 19 19 .ข้อใดไม่ใช่รูปแบบของผังงาน 1) รูปแบบเรียงลำดับ 2) รูปแบบเงื่อนไข 3) รูปแบบวนรอบ 4) รูปแบบขั้นบันได


76 20 20. ข้อจำกัดในการเขียนผังงาน (Flowchart) คือข้อใด 1) งานที่ไม่มีความซับซ้อน 2) งานที่มีความซับซ้อน 3) งานที่มีความยากง่ายปะปนกัน 4) ผิดทุกข้อ ข้อเสนอแนะ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ (.........................................................) ผู้ประเมิน


77 ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบของข้อสอบแต่ละข้อจากการประเมินของ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวัดผล จํานวน 3 ท่าน ข้อที่ ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ค่าดัชนีความ สอดคล้อง (IOC) แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม นักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง การเขียนผังงานโฟลวชาร์ตเพื่อเเก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน 1 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 2 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 3 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 4 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 5 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 6 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 7 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 8 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 9 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 10 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 11 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 12 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 13 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 14 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 15 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 16 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 17 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 18 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 19 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 20 +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


ภาคผนวก ฉ ตัวอย่างบทเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน


ประวัติย่อผู้ทำสารนิพนธ์


80 ประวัติย่อผู้ทำสารนิพนธ์ ชื่อ – สกุล นายอภิลักษณ์ มาตรหลุบเลา สถานที่เกิด อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง สถานที่อยู่ปัจจุบัน 128 ซอยเอกชัย 86 ถนนเอกชัย แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 10150 ตำแหน่งงานปัจจุบัน นักศึกษา สถานที่ทำงานปัจจุบัน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1061 อิสรภาพ 15 แขวงหิรัญรูจีเขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 ประวัติการศึกษา พ.ศ. 2565 ครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา


Click to View FlipBook Version