สิริพัฒนา วงษ์คำภู 4/5 เลขที่11

FOOD

อาหารไทยสี่ภาค

รวมเมนูเด่น จากเหนือจรดใต้

สารบัญ ห น้ า

ภ า ค เ ห นื อ 2
ภาคกลาง 9
ภ า ค อี ส า น 16
ภ า ค ใ ต้ 23

2

ภาคเหนือ

เมื่ อพูดถึงภาคเหนือ คนมักนึกถึงทิวเขา
อากาศเย็นสบาย ฝนตกประปรายกับน้ำพริก
กลิ่นยั่วยวน จิ้มอาหารแล้วทานคู่ข้าวเหนียว
ด้วยอิทธิพลจากวัฒนธรรมล้านนาและไทย
อีสาน อาหารเหนือและอีสานจึงคล้ายคลึงกัน

พอประมาณ รสชาติอาหารเหนือไม่ได้เผ็ด
แซ่บน้ำตาไหลแบบอีสาน แต่ความจัดจ้านจะมา
จากผักและสมุนไพร ทานคู่กับเนื้ อแบบต่าง ๆ

3

เมนูที่ 1

ข้าวซอย

วัตถุดิบ

1. น่องไก่ 3 น่องใหญ่
2. น้ำพริกข้าวซอย 100 กรัม
3. กะทิ 500 กรัม
4. เส้นข้าวซอยหรือเส้นหมี่ไข่อิสลาม 100 กรัม
5. น้ำมันพืช 3 ถ้วยตวง
6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ 2 ช้อนชา
8. น้ำตาลมะพร้าว 1.5 ช้อนโต๊ะ
9. พริกผัด 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำสะอาด 1.5 ลิตร
11. หอมแขกซอย
12. ผักกาดดองซอย
13. ต้นหอมผักชี

4

วิธีทำ

STEP 1: ปรุงน้ำข้าวซอย

- ตั้งหม้อหรือกระทะใบใหญ่ให้ร้อน ใส่กะทิลงไปเคี่ยว
สักพัก ตามด้วยเครื่ องแกง จากนั้นเคี่ยวจนกะทิให้
แตกมัน
- ใส่น่องไก่ลงไปผัดให้เข้ากับกะทิ แล้วเติมกะทิลงไปจน
หมด เคี่ยวต่อให้ไก่เปื่ อย สัก 30-40 นาที

STEP 2 : ลวกเส้น + ทอดเส้นข้าวซอย

- ลวกเส้นข้าวซอยให้นุ่มก่อนนำไปทอดค่ะ โดยเราจะนำ
ไปลวกในน้ำเดือด โดยใช้เวลาประมาณ 8 นาที
- โดยแบ่งเส้นข้าวซอยที่ลวกแล้วสัก 2 หยิบมือ ผึ่ งให้
แห้งแล้วนำลงทอดในน้ำมันปาล์มเดือด ๆ สักพักให้กรอบ
แ ล้ ว ตั ก ขึ้ น พั ก ไ ว้

STEP 3 : จัดเสิร์ฟ

- ตักเส้นข้าวซอยลวกลงในชาม แล้วตักน้ำข้าวซอย
พ ร้ อ ม น่ อ ง ไ ก่ ร า ด ล ง ไ ป
- ตกแต่งด้วยข้าวซอยทอดและต้นหอมผักชีซอย ทาน
พร้อมพริกผัด หอมแดงซอย และผักกาดดอง

5

เมนูที่ 2

น้ำพริกหนุ่ม

วัตถุดิบ

1. พริกหนุ่ม 7 เม็ด
2. หอมแดง 4 หัว
3. กระเทียม 10 กลีบ
4. น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือ 1 ช้อนชา
6. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

6

วิธีทำ

STEP 1: ย่างส่วนผสม

- นำพริกหนุ่ม หอมแดง และกระเทียมย่างบนเตาเลยค่ะ
เพื่ อให้มีกลิ่นหอม
- เมื่ อย่างได้ที่แล้วพักไว้ให้เย็น นำมาปอกเปลือกออกให้
หมด

STEP 2 : โขลกน้ำพริก

- นำพริกหนุ่ม หอมแดง และกระเทียม ที่ปอกเปลือก
เรียบร้อยแล้ว นำมาโขลกให้เป็ นเนื้ อเดียวกัน

STEP 3 : จัดเสิร์ฟ

- เมื่ อโขลกส่วนผสมจนเข้าที่แล้ว ทำการปรุงรสด้วย
น้ำตาล น้ำปลา และเกลือ โขลกต่อให้เครื่ องปรุงเข้ากันดี
- เมื่ อส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ตักขึ้นเสิร์ฟพร้อม
แคปหมู เครื่ องเคียง ผักตามใจชอบ

7

เมนูที่ 3

แกงฮังเล

วัตถุดิบ

1. เนื้ อสันคอหมูหั่นเต๋า 300 กรัม
2. เนื้ อหมูสามช้นหั่นเต๋า 200 กรัม
3. น้ำตาลทราย
4. น้ำมะขามเปี ยก 3 ช้อนโต๊ะ
5. ขิงซอย 1/2 ถ้วย
6. กระเทียม 1/2 ถ้วย
7. ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
8. สับปะรด 2 ช้อนโต๊ะ

8

วัตถุดิบเครื่ องแกง

1. พริงแห้ง 7 เม็ด
2. หอมแดง 3 หัว
3. กระเทียม 20 กลีบ
4. ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
5. ข่าซอย 1 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือ 1 ช้อนชา
7. กะปิ หยาบ 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

STEP 1: ตำพริกแกง

- นำพริกแห้ง ข่าซอย กระเทียม ตะไคร้ซอย หอมแดง
และเกลือ โขลกรวมกันให้ละเอียด หลังจากนั้นใส่กะปิ
หยาบลงไปโขลกให้ทุกอย่างเข้ากัน และตักขึ้นพักไว้

STEP 2 : โขลกน้ำพริก

- นำพริกแกงที่โขลกไว้มาผสมกันสับปะรด เนื้ อสันคอหมู
หั่นเต๋า และเนื้ อสามชั้นหั่นเต๋า คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมัก
ประมาณ 1 ชั่วโมง

STEP 3 : ปรุงแกงฮังเล

- นำหมูที่หมักไว้มาตั้งไฟ ใส่น้ำเล็กน้ อย ผัดต่อจนหมูเริ่ม
สุก คอยเติมน้ำเรื่ อยๆ เคี่ยวต่อจนหมูเปื่ อยได้ที่
- ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปี ยก หลังจากนั้นใส่กระเทียม
และขิงซอย คนให้ทุกอย่างเข้ากัน เคี่ยวต่ออีกสักครู่
- สุดท้ายใส่ถั่วลิสงคั่ว ปล่อยให้เดือดต่ออีก 15 นาที
ตักแกงฮังเลเสิร์ฟ

9

ภาคกลาง

เป็ นพื้ นที่ราบลุ่มที่มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย
ถือได้ว่าเป็ นภาคที่มีความอุดมสมบูรณ์ในเรื่ อง
ข้าวปลาอาหาร ซึ่ งในสมัยก่อนนั้นที่นี่ถือเป็ น
ศูนย์กลางทางการค้า มีการพบปะค้าขายสินค้า
กับชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังเป็ นที่ประทับของ
พระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลต่างๆ อาหารของภาคนี้
จึงมีความหลากหลายในเรื่ องของรสชาติ มีการ
ประยุกต์ปรุงแต่งตามแต่อิทธิพลที่ได้รับมา และ
รับประทานข้าวสวยเป็ นหลัก บนโต๊ะอาหารนั้น
จะมีการประดิษฐ์ตกแต่งผัก เครื่ องจิ้มที่มีการ

แกะสลักประดับอย่างสวยงาม

10

เมนูที่ 1

ต้มข่าไก่

วัตถุดิบ

1. เนื้ อไก่หั่น 150 กรัม
2. ข่าอ่อนขาวหั่นแว่นบาง 50 กรัม
3. เห็ดฟาง 100 กรัม
4. น้ำต้มกระดูก 100 กรัม
5. พริกขี้หนูสวย 10 เม็ด
6. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมะขามเปี ยก 1/2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
9. ใบมะกรูด 2 ใบ
10. ผักชี

11

วิธีทำ

- ต้มน้ำต้มกระดูก ใส่ข่าอ่อน ต้มสักพักหนึ่ ง ให้กลิ่นข่าออก
แล้วใส่หัวกะทิลงไปคนให้เข้ากันระวังอย่าให้แตกมัน

- พอเดือดใส่น้ำปลา เนื้ อไก่ น้ำมะขามเปี ยก รอให้เดือดอีก
รอบใส่เห็ดฟาง ใบมะกรูด พริกขี้หนู

- ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว คนให้พอเข้ากัน โรยหน้ าด้วยผักชี
ตักใส่ชามเสิร์ฟ

เคล็ดลับ

- ควรใช้ไฟอ่อนเพื่ อไม่ให้กะทิแตกมัน ซึ่ งไม่ใช่ลักษณะของ
ต้มข่า

- หากใช้ข่าแก่ ควรลดปริมาณลง เพราะจะทำให้มีรสปร่า

- ไม่ควรใส่น้ำมะนาวไปต้ม เพราะจะทำให้เสียรสและกลิ่น
มะนาว และเสียคุณค่าทางโภชนาการ

12

เมนูที่ 2

ต้มยำกุ้ง

วัตถุดิบ

1. กุ้งแม่น้ำ 3 ตัว
2. เห็ดฟาง 100 กรัม
3. ตะไคร้หั่นบาง 10 กรัม
4. ตะไคร้หั่นท่อนบุบ 16 กรัม
5. รากผักชี 2 กรัม
6. ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
7. น้ำต้มกระดูก 300 กรัม
8. พริกขี้หนูสวน 10 กรัม
9. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
11. นมข้นจืด 120 กรัม
12. น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
13. ผักชี

13

วิธีทำ

- ต้มน้ำต้มกระดูกโดยใส่เปลือกกุ้ง ตะไคร้หั่นท่อน และ
รากผักชี เมื่ อเดือดยกลงกรองเอาแต่น้ำเป็ นน้ำสต็อก

- นำน้ำสต็อกตั้งไฟ ใส่ตะไคร้ เห็ดฟาง พอน้ำเดือดใส่กุ้งรอ
จนเดือดแล้วใส่น้ำปลา ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป

- ละลายน้ำพริกเผากับนมข้นจืดในชามเสิร์ฟ คนให้เข้ากัน
เติมน้ำมะนาว พริกขี้หนูบุบ ตักต้มยำใส่ชามเสิร์ฟ โรยหน้ า
ด้วยผักชี

เคล็ดลับ

- ควรใส่น้ำปลาขณะที่น้ำเดือด จะทำให้มีกลิ่นหอมและไม่
คาว

- ควรใส่น้ำมะนาวเมื่ อปิ ดไฟและยกลงจากเตาแล้ว จะทำให้
มีกลิ่นหอมและไม่มีรสปร่า ขม

14

เมนูที่ 3

แกงมัสมั่นไก่

วัตถุดิบ

1. เนื้ อสะโพกหรือน่องไก่ 300 กรัม
2. เครื่ องแกงมัสมั่น 40 กรัม
3. หัวกะทิ 100 กรัม
4. หางกะทิ 300 กรัม
5. น้ำต้มกระดูก 250 กรัม
6. ถั่วลิสงคั่ว 50 กรัม
7. มันฝรั่ง 100 กรัม
8. หัวหอมแขก 100 กรัม
9. น้ำตาลปี๊ บ 30 กรัม
10. น้ำมะขามเปี ยก 2 ช้อนโต๊ะ
11. เกลือป่ น 1 ช้อนชา
12. ลูกกระวาน 3 กรัม
13. ใบกระวาน 2 กรัม

15

วิธีทำ

- เคี่ยวกะทิให้แตกมัน ใส่เครื่ องแกงมัสมั่น ผัดให้หอม แบ่ง
หางกะทิเป็ น 2 ส่วน นำครึ่ งหนึ่ งผัดกับเครื่ องแกง
พอเดือด ใส่ไก่ลงไป เติมหางกะทิที่เหลือ

- ใส่น้ำต้มกระดูก พอเดือด ใส่ลูกกะวาน ใบกะวาน ถั่วลิสง
มันฝรั่ง เคี่ยวจนเนื้ อไก่นุ่ม มันฝรั่งสุก แล้วจึงปรุงรสด้วย
เกลือป่ น น้ำตาลปี๊ บ น้ำมะขามเปี ยก

- ใส่หัวหอมแขก เคี่ยวต่อจนน้ำงวด และตักใส่ภาชนะเสิร์ฟ

เคล็ดลับ

- การคั้นน้ำมะขามเปี ยกใช้อัตราส่วนมะขามเปี ยก 1 ส่วน
ต่อน้ำ 3-3.5 ส่วน ถ้าเป็ นน้ำมะขามเปี ยกสำเร็จรูป ต้อง
ปรับสัดส่วนตามความเปรี้ยวที่แตกต่างกัน

16

ภาคอีสาน

เป็ นที่ทราบกันดีว่าภาคนี้มีพื้ นที่ค่อนข้าง
แห้งแล้ง ผู้คนท้องถิ่นจึงรับประทาน
อาหารกันอย่างง่ายๆ ไม่วุ่นวายเรื่ อง
การเตรียมอาหารให้มากนัก ซึ่ ง
สอดคล้องกับธรรมชาติของภาคอีสาน
คนที่นี่รับประทานข้าวเหนียวเป็ นหลัก

ปลาร้าเป็ นส่วนประกอบที่สำคัญที่ขาดไม่
ได้ มักจะทานคู่กับผักสด หรือนำไปใส่ใน

เมนูอาหารประเภทอื่ นๆ

17

เมนูที่ 1

ลาบ

วัตถุดิบ

1. หมูสับ 300 กรัม
2. ใบสระแหน่3. ตับหมู 100 กรัม
3. หอมแดง 50 กรัม
4. ต้นหอม
5. ผักชี
6. ข้าวคั่ว 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
7. พริกป่ น 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำมะนาว 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำ 50 ml.
11. หอมแดงซอย 3 กลีบ

18

วิธีทำ

STEP 1: รวนหมูสับ

- ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ แล้วใส่หมูสับลงไปรวนให้สุก
TIP : การเติมน้ำลงในเนื้ อหมูจะช่วยให้เนื้ อหมูฉ่ำไม่แข็ง
กระด้าง และควรใช้ทัพพีขยี้หมูให้แตกออกจากกัน

STEP 2 : ปรุงรสลาบหมู

- ตักหมูที่รวนแล้วใส่ในชามผสม
- ใส่เครื่ องปรุง พริกป่ น น้ำปลา ข้าวคั่ว และน้ำตาล คลุก
เค้าให้เข้ากัน
- จากนั้นเติมมะนาว ผักชีฝรั่ง หอมแดงซอย ต้มหอม
ผักชีฝรั่ง และใบสะระแหน่ จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน

STEP 3 : จัดเสิร์ฟ

- ตัก “ลาบหมู” ลงใส่จานที่ต้องการจัดเสิร์ฟ ตกแต่ง
ด้วยพริกแห้งทอด และใบสะระแหน่ กินคู่กับผักเคียง

19

เมนูที่ 2

แกงอ่อมเห็ด

วัตถุดิบ

1. เห็ดนานาชนิด 200 กรัม
2. ตะไคร้ 2 หัว หั่นท่อน
3. หอมแดงซอย 5 หัว
4. น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ
5. ข้าวคั่ว 1 ช้อนชา
6. มะเขือ 10 ลูก หั่น
7. กะหล่ำปลี 1 หัว หั่นซอย
8. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำตาล 1 ช้อนชา
10. ผักชีลาว
11. ใบแมงลัก
12. ผักชีฝรั่ง
13. ถั่วฝั กยาว

20

วิธีทำ

- ตั้งหม้อต้มน้ำให้ร้อน

- ใส่ตะไคร้ตามลงไปต้มด้วยกัน

- พอน้ำเดือดจึงใส่พริก หอมแดง และผักต่างๆลงไป
ต้มให้สุก

- พอผักเริ่มสุกดีแล้วจึงใส่เห็ดนานาชนิดลงในหม้อ

- ปิ ดฝาหม้อไว้แล้วรอสักครู่จนกว่าวัตถุดิบต่างๆจะสุกดี

- ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลาร้า ซอสปรุงรส ข้าวคั่ว น้ำตาล ชิม
ให้ได้รสชาติตามชอบ ปิ ดฝาต้มต่ออีกสักครู่ จากนั้นจึงตัก
แบ่งใส่ชามพร้อมรับประทาน

21

เมนูที่ 3

ข้าวจี่

วัตถุดิบ

1. ข้าวเหนียวหุงสุก 250 กรัม
2. เกลือป่ น 1/2 ช้อนชา
3. ไข่ไก่
4. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
5. พริิกไทยป่ น 1/2 ช้อนชา

22

วิธีทำ

STEP 1: ปั้ นข้าวเหนี ยว

- นำข้าวเหนียวสุกที่ยังอุ่น ๆ มานวดด้วยมือเล็กน้ อย
แล้วจึงปั้ นเป็ นก้อน ๆ หรือแผ่นกลม หรือแบน ๆ ตามใจ
ชอบ แล้วโรยด้วยเกลือป่ น
- จากนั้นตีไข่ ซีอิ๊วขาว และพริกไทยป่ นให้เข้ากันแล้ว
พักไว้

STEP 2 : จี่ข้าวเหนี ยว

- เราจะใช้เตาอบในการทำข้าวจี่ โดยวางข้าวเหนียวลง
บนตะแกรง และเปิ ดเตาอบโดยใช้ไฟบนล่าง หรือวาง
ข้าวเหนียวลงบนกะทะเทฟล่อน แล้วพลิกกลับด้านไปมา
จ น ข้ า ว เ ห นี ย ว ด้ า น น อ ก เ ริ่ ม แ ข็ ง

- นำข้าวเหนียวออกมาชุบไข่ที่เราปรุงรสพักเอาไว้แล้วนำ
ไปจี่ต่อ โดยทำซ้ำจนข้าวเหนียวพองตัวและไข่สุกมีสี
เหลืองเกรียมเล็กน้ อยจึงปิ ดเตา เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

23

ภาคใต้

ภาคใต้ มีพื้ นที่ติดชายฝั่ งทะเลเสียส่วน
ใหญ่ อากาศร้อนชื้ น ฝนตกตลอดปี

อาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ คนในภาคนี้
นิยมทำการประมง อาหารหลักจึงเป็ น
พวกอาหารทะเล และนิยมใช้เครื่ องเทศ
ในการปรุงอาหารเพื่ อดับกลิ่นคาว จึงมี
ความโดดเด่นที่รสชาติเผ็ดจัดจ้าน แซ่บ

ถึงใจ

24

เมนูที่ 1

คั่วกลิ้ง

วัตถุดิบ

1. เนื้ อหมูสับ 250 กรัม
2. พริกแกงคั่วกลิ้ง 1 ½ ช้อนโต๊ะ
3. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
4. พริกชี้ฟ้ าแดงหั่น 1 เม็ดใหญ่
5. ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
6. พริกไทยอ่อน 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
8. ผงปรุงรส 1/2 ช้อนชา
9. น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ

25

วิธีทำ

STEP 1: ผัดพริกแกง

- ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง พอกระทะร้อนใส่น้ำมันลงไป
ตามด้วยพริกแกงคั่วกลิ้ง ผัดให้มีกลิ่นหอม

STEP 2 : ใส่หมูสับ + ปรุงรส

- นำหมูสับที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ผัดให้หมูสับเข้ากับน้ำพริก
แกง ระหว่างนี้เติมน้ำเปล่าต้มสุกที่เตรียมไว้ จะได้ผัดได้
ง่ า ย ขึ้ น

- เมื่ อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ปรุงรสด้วยผงปรุงรสและ
น้ำปลา ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง

- นำพริกไทยอ่อน ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดซอย และพริก
ชี้ฟ้ าแดง ใส่ลงไปผัดให้เข้ากัน เมื่ อหมูสุกและทุกอย่าง
เข้ากันดี ปิ ดไฟได้เลย

STEP 3 : จัดเสิร์ฟ

- นำคั่วกลิ้งหมูที่สุกแล้วจัดเสิร์ฟใส่จาน ตกแต่งด้วยใบ
โหระพา พริกชี้ฟ้ าแดงซอย และใบมะกรูดซอย กินกับ
ผักเครื่ องเคียงตามชอบได้เลย

26

เมนูที่ 2

แกงเหลืองปลากระพง

วัตถุดิบ

1. ปลากะพง 1 ตัว
2. มะละกอดิบ 1 ลูก
3. พริกแห้ง 15 เม็ด
4. พริกขี้หนู 15 เม็ด
5. กระเทียม 5 กลีบ
6. ขมิ้นสด 2 แง่ง
7. หอมแดง 2 หัว
8. ข่า 2 ช้อนโต๊ะ
9. เกลือ 1 ช้อนชา
10. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำมะขามเปี ยก 2 ช้อนโต๊ะ
12. มะนาว 1 ลูก

27

วิธีทำ

STEP 1: ตำพริกแกง + สับมะละกอ

- ใส่พริกแห้ง และเกลือ ลงในครก แล้วตำให้ละเอียด
ตามด้วยพริกขี้หนู กระเทียม ขมิ้นสด หอมแดง และข่า
ตำให้ละเอียดเข้ากันดี แล้วพักไว้
- นำมะละกอดิบมาปอกเปลือก ล้างยางให้สะอาด แล้วใช้
วิธีฝานออกเป็ นชิ้น ๆ เตรียมไว้

STEP 2 : แล่ปลากระพง

- นำปลากะพงที่ขอดเกล็ด ควักไส้ ทำความสะอาด
เรียบร้อยแล้ว มาแล่เนื้ อทั้งสองฝั่ งออก แล้วหั่นเป็ นชิ้น
ตามแนวขวาง

STEP 3 : ต้มแกง

- ตั้งน้ำประมาณ 1 ½ ลิตร ใส่เครื่ องแกงที่ตำไว้ และ
กะปิ ลงไป คนให้ละลาย แล้วตั้งให้เดือด ตามด้วยใส่
มะละกอลงไป ต้มจนมะละกอสุกใส
- ใส่เนื้ อปลากะพงลงไป กดให้พอจม อย่าคนจนกว่าปลา
จะสุก เมื่ อปลาเริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปี ยก ปิ ดไฟ
บีบมะนาวลงไป ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟได้เลย

28

เมนูที่ 3

ผัดสะตอกะปิ กุ้งสด

วัตถุดิบ

1. สะตอแกะผ่าครึ่ ง 100 กรัม
2. กุ้งสด 200 กรัม
3. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลปี๊ บ 2 ช้อนชา
5. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
6. พริกขี้หนู 20 เม็ด
7. กระเทียมไทย 1 หัว
8. มะนาว 1 ช้อนโต๊ะะ
9. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

29

วิธีทำ

- ทำพริกแกงสำหรับผัดสะตอ โดยการใส่กระเทียมลงไป
ในครก ตามด้วยพริกขี้หนู กะปิ และน้ำตาลปี๊ บ โขลกให้
ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้

- นำกระทะตั้งไฟ ความร้อนปานกลาง เทน้ำมันพืชลงไป
รอน้ำมันร้อน ใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ ผัดจนหอม จากนั้น
ใส่กุ้งลงไปผัดจนสุก

- ใส่สะตอแกะผ่าครึ่ ง ผัดจนสุก จากนั้นปรุงรสด้วย
น้ำปลา และมะนาวค่ะ ผัดต่อให้เข้ากันดี

TIP : สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปนิดหนึ่ งเพื่ อให้ผัดสะตอ
ไม่ติดกระทะได้