รายงานวิจยั ชั้นเรียน
การจัดการเรียนร้แู บบ Active Learning
ดว้ ยแบบฝกึ ทกั ษะการอ่านและการเขยี นคามาตราตัวสะกด
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๒
นางสาวชลลดา บญุ ประเสริฐ
ตาแหน่ง ครูผู้ชว่ ย
โรงเรยี นบ้านควน
สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 2
ความเป็นมาและความสาคัญของปญั หา
หลักสูตรแกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มุ่งพัฒนานักเรียนให้เป็นมนุษย์ท่ีมีความสมดุลท้ังด้าน
ร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลกยึดม่ันในการปกครองตาม
ระบอบประชาธิปไตย มีความรู้ มีทักษะพื้นฐานและมีเจตคติที่ดีต่อการศึกษา มีเป้าหมายและกรอบทิศทาง
ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญามีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีขีดความสามารถในการแข่งขันในเวที
ระดับโลก เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญบนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ศักยภาพ
เน้นความเป็นเอกภาพของชาติ มุ่งพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นผู้มีความรู้ ทักษะ เจตคติและคุณธรรม
บนพ้ืนฐานของความเป็นไทยควบคู่กับความเป็นสากล มีคุณภาพในการใช้ภาษาไทย มีโครงสร้างยืดหยุ่น
ทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลา และการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน ส่งเสริมทักษะการอ่าน การเขียน
การคิดวิเคราะห์ การคิดเชิงสร้างสรรค์ เน้นการมีส่วนร่วมของสังคมในการจัดการศึกษาเพื่อให้สอดคล้อง
กับความต้องการของผู้เรียน ท้องถิ่นและชุมชนสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน เรียนรู้
อย่างมีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ มีความสามารถในการสอ่ื สาร มีวัฒนธรรม
ในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจและทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์มีวิจารณญาณและการคิดอย่างเป็นระบบ สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
เหมาะสม บนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ สามารถเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้องเหมาะสม และ
มคี ณุ ธรรม (กระทรวงศึกษาธกิ าร. 2551 : 3 – 4)
การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เป็นกระบวนการเรียนการสอนท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียน
มีส่วนร่วมในช้ันเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ โดยมีครู
เป็นผู้อานวยความสะดวก สร้างแรงบันดาลใจ ให้คาปรึกษา ดูแล แนะนา จัดวิธีการเรียนรู้และแหล่ง
เรียนรู้ท่ีหลากหลาย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย สร้างองค์ความรู้ได้ มีความเข้าใจในตนเอง
ใช้สติปัญญา คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ผลงาน มีสมรรถนะสาคัญ มีทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต
บรรลเุ ปา้ หมายการเรียนรู้ตามระดบั ชว่ งวัย (สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน. 2562 : 4)
ลกั ษณะของการจัดการเรียนรแู้ บบ Active Learning มดี งั น้ี
1. เปน็ การพัฒนาศกั ยภาพการคิด การแกป้ ญั หา และการนาความรไู้ ปประยกุ ต์ใช้
2. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดระบบการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้โดยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน
ในรูปแบบของความร่วมมือ
3. เปิดโอกาสให้ผ้เู รยี นมีสว่ นรว่ มในกระบวนการเรยี นรสู้ งู สุด
4. เปน็ กจิ กรรมที่ให้ผเู้ รียนบรู ณาการข้อมลู ขา่ วสาร สารสนเทศ สทู่ กั ษะการคดิ วิเคราะห์
5. ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้ความมวี นิ ัยในการทางานร่วมกับผู้อน่ื
6. ความรเู้ กดิ จากประสบการณ์ และการสรปุ ของผู้เรยี น
7. ผสู้ อนเป็นผู้อานวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนเป็นผปู้ ฏิบัติดว้ ยตนเอง
(สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน. 2562 : 5)
ตัวอยา่ งเทคนคิ การจัดการเรยี นร้แู บบ Active Learning
การจดั การเรียนรูแ้ บบ Active Learning สามารถสรา้ งให้เกิดขนึ้ ไดท้ ัง้ ในหอ้ งเรยี นและนอก
หอ้ งเรียน รวมท้ังสามารถใช้ได้กับนกั เรียนทุกระดับ ทง้ั การเรยี นรูเ้ ปน็ รายบคุ คล การเรียนรแู้ บบกลมุ่ เลก็
และการเรยี นร้แู บบกลุ่มใหญ่ ตวั อย่างรปู แบบหรอื เทคนิค การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ทจี่ ะช่วยให้ผ้เู รียนเกดิ
การเรยี นรแู้ บบ Active Learning ได้ดี ไดแ้ ก่
1. การเรยี นรแู้ บบแลกเปลย่ี นความคิด (Think-Pair-Share) คอื การจัดกิจกรรมการเรยี นรูท้ ี่ให้
ผู้เรียนคดิ เกี่ยวกับประเด็นท่ีกาหนดแตล่ ะคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นใหแ้ ลกเปล่ยี นความคิดกับ
เพ่ือนอกี คน 3-5 นาที (Pair) และนาเสนอความคดิ เหน็ ตอ่ ผเู้ รียนทงั้ หมด (Share)
2. การเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ (Collaborative learning group) คอื การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่
ใหผ้ ูเ้ รยี นได้ทางานรว่ มกบั ผู้อื่น โดยจัดเปน็ กลุ่มๆ ละ 3-6 คน
3. การเรยี นรู้แบบทบทวนโดยผ้เู รียน (Student-led review sessions) คอื การจดั กจิ กรรม
การเรยี นรู้ทีเ่ ปดิ โอกาสให้ผ้เู รียนได้ทบทวนความรูแ้ ละพิจารณาขอ้ สงสยั ต่าง ๆ ในการปฏิบตั กิ จิ กรรม
การเรยี นรู้ โดยครจู ะคอยชว่ ยเหลอื กรณีท่ีมปี ัญหา
4. การเรียนรแู้ บบใชเ้ กม (Games) คือการจดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ผี่ สู้ อนนาเกมเข้าบูรณาการ
ในการเรียนการสอน ซึ่งใช้ได้ทัง้ ในข้นั การนาเข้าสู่บทเรยี น การสอน การมอบหมายงาน และหรือขนั้
การประเมนิ ผล
5. การเรียนรแู้ บบวเิ คราะหว์ ีดีโอ (Analysis or reactions to videos) คือการจดั กจิ กรรม
การเรยี นรู้ทใ่ี หผ้ เู้ รยี นไดด้ วู ดี โี อ 5-20 นาที แลว้ ใหผ้ เู้ รียนแสดงความคดิ เหน็ หรือสะท้อนความคิดเกีย่ วกบั
สิง่ ท่ไี ด้ดู อาจโดยวธิ ีการพดู โต้ตอบกัน การเขียน หรือ การร่วมกนั สรุปเปน็ รายกลุ่ม
6. การเรียนรู้แบบโต้วาที (Student debates) คือการจดั กิจกรรมการเรียนร้ทู จ่ี ดั ให้ผ้เู รียนได้
นาเสนอข้อมูลท่ีไดจ้ ากประสบการณ์และการเรียนรู้ เพื่อยืนยนั แนวคดิ ของตนเองหรือกล่มุ
7. การเรียนรูแ้ บบผเู้ รยี นสรา้ งแบบทดสอบ (Student generated exam questions) คอื
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ทใ่ี หผ้ ูเ้ รียนสรา้ งแบบทดสอบจากสิง่ ท่ีได้เรียนรูม้ าแล้ว
8. การเรยี นรแู้ บบกระบวนการวจิ ัย (Mini-research proposals or project) คือการจดั
กิจกรรมการเรียนรทู้ ี่อิงกระบวนการวิจยั โดยใหผ้ ู้เรยี นกาหนดหัวขอ้ ทต่ี ้องการเรยี นรู้ วางแผนการเรียน
เรียนรูต้ ามแผน สรุปความรหู้ รอื สร้างผลงาน และสะทอ้ นความคิดในสิง่ ท่ีได้เรยี นรู้ หรอื อาจเรียกว่าการสอน
แบบโครงงาน(project-based learning) หรือ การสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (problem-based
learning)
9. การเรยี นรแู้ บบกรณศี ึกษา (Analyze case studies) คอื การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ทีใ่ ห้
ผ้เู รยี นไดอ้ ่านกรณีตัวอย่างท่ีต้องการศกึ ษา จากนน้ั ให้ผู้เรยี นวิเคราะหแ์ ละแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ หรือ
แนวทางแก้ปัญหาภายในกลุม่ แลว้ นาเสนอความคดิ เห็นต่อผู้เรยี นทั้งหมด
10. การเรียนรแู้ บบการเขียนบันทกึ (Keeping journals or logs) คือการจดั กิจกรรม
การเรยี นรทู้ ผ่ี ู้เรียนจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ท่ีได้พบเห็น หรือเหตุการณ์ท่เี กิดข้นึ ในแต่ละวนั รวมทง้ั เสนอ
ความคดิ เพิม่ เติมเกย่ี วกับบนั ทึกทเ่ี ขียน
11. การเรียนรู้แบบการเขยี นจดหมายขา่ ว (Write and produce a newsletter) คือการจัด
กิจกรรมการเรยี นรู้ท่ใี ห้ผเู้ รียนร่วมกันผลติ จดหมายข่าว อนั ประกอบด้วย บทความ ขอ้ มูลสารสนเทศ
ขา่ วสาร และเหตุการณท์ ี่เกิดข้นึ แลว้ แจกจ่ายไปยังบุคคลอ่ืนๆ
12. การเรียนรแู้ บบแผนผังความคิด (Concept mapping) คอื การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ใี ห้
ผู้เรียนออกแบบแผนผงั ความคิด เพ่ือนาเสนอความคดิ รวบยอด และความเช่ือมโยงกันของกรอบความคดิ
โดยการใช้เส้นเปน็ ตัวเชื่อมโยง อาจจดั ทาเปน็ รายบุคคลหรืองานกลุ่ม แล้วนาเสนอผลงานต่อผเู้ รียนอนื่ ๆ
จากนนั้ เปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นคนอนื่ ไดซ้ ักถามและแสดงความคดิ เห็นเพมิ่ เติม
(สถาพร พฤฑฒิกุล, 2558)
บทบาทของครใู นการจัดกิจกรรมการเรยี นร้ตู ามแนวทางของ Active Learning ดังนี้
1. จัดใหผ้ เู้ รียนเปน็ ศนู ย์กลางของการเรยี นการสอน นาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตจรงิ ของผู้เรียน
2. สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบทีส่ ่งเสริมให้ผเู้ รยี นมีปฏิสมั พนั ธ์ทดี่ ี
กบั ผูส้ อนและเพ่ือนในชั้นเรียน
3. จดั กจิ กรรมการเรียนการสอนส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนมีสว่ นรว่ มในทุกกจิ กรรม รวมท้งั กระต้นุ ให้
ผู้เรียนความสาเรจ็ ในการเรียนรู้
4. จดั กจิ กรรมการเรียนการสอนแบบรว่ มมอื สง่ เสรมิ ให้เกดิ การรว่ มมอื ในกลุ่มผู้เรียน
5. จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนให้ทา้ ทาย และให้โอกาสผ้เู รยี นไดร้ บั วิธีการสอนทีห่ ลากหลาย
6. วางแผนเกี่ยวกับเวลาในการจัดการเรียนการสอนอยา่ งชัดเจน ท้งั ในสว่ นของเนือ้ หาและ
กิจกรรม
7. ครผู สู้ อนต้องใจกว้าง ยอมรบั ความสามารถในการแสดงออก และความคิดของผู้เรยี น
(ณัชนนั แกว้ ชยั เจริญกจิ , 2550)
การอ่านและการเขียนเป็นทักษะที่มีความสาคัญในชีวิตประจาวัน เพราะเมื่ออ่านออกเขียนได้
ก็จะเกิดความรู้ความเข้าใจ นาไปสู่การสร้างความคิด การตัดสินใจแก้ปัญหา และก้าวทันต่อเหตุการณ์
ของโลกในยุคปัจจุบัน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยในระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านควน พบว่านักเรียนส่วนใหญ่นักเรียนอ่านและเขียนสะกดคาไม่ถูกต้อง
โดยเฉพาะคาที่มีตวั สะกดทัง้ ตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา
จากปัญหาดังกล่าวในฐานะของครูผ้สู อนจึงได้ศึกษาเทคนิควิธีการสอนต่างๆทเ่ี หมาะสมกับวัยของ
นักเรียน การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านและการเขียน
เป็นหน่ึงท่ีนา่ สนใจและเหมาะสมกับวัยของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 ทาให้ผู้เรยี นเกิดการเรียนรอู้ ย่าง
สนุกสนาน ไม่เบื่อหน่ายในการเรียน ช่วยให้นักเรียนจดจาเน้ือหาได้อย่างแม่นยาและคงทนเป็นเวลานาน
ดังน้ันผ้สู อนจึงได้นานวตั กรรม “การจัดการเรียนรแู้ บบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและ
การเขียนคามาตราตัวสะกด” มาใช้ประกอบการเรียนการสอน เร่ืองการอ่านและการเขียนสะกดคา
มาตราตัวสะกด เพ่ือให้นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านควน เกิดการเรียนรู้และ
มีความเข้าใจในเรื่อง การอ่านและ การเขียนสะกดคาตามมาตาตัวสะกดได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว
นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยในระดับที่สูงขึ้น และสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน
ได้จรงิ
วัตถปุ ระสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อพัฒนาทกั ษะการอ่านและการเขียนคามาตราตวั สะกด ของนกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2
2. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง การอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกดก่อนและหลัง
การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด
สาหรับนักเรยี นช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2
ความสาคญั ของการศกึ ษา
ผลของการศึกษาคร้ังนี้ทาให้ได้วิธีการสอนคามาตราตัวสะกด โดยการจัดการเรียนรู้แบบ Active
Learning ด้ ว ย แ บ บ ฝึ ก ทั ก ษ ะ ก ารอ่ าน แ ล ะ ก ารเขี ย น ค าม าต ราตั ว ส ะก ด ส าห รับ นั ก เรีย น
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 อันจะเป็นแนวทางสาหรับครูผู้สอนได้นาไปใช้พัฒนากระบวนการเรียนการสอน
ภาษาไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขอบเขตของการศกึ ษา
1. ขอบเขตดา้ นประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านควน
สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 ปีการศึกษา 2564
จานวนทงั้ สนิ้ 7 คน
2. ขอบเขตด้านเนื้อหา
เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาคร้ังน้ีได้แก่ คามาตราตัวสะกดท่ีตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา
สาหรับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 ตามหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนบ้านควน พุทธศักราช 2551
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ซึ่งเป็นไปตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีเนื้อหารายละเอียดเก่ียวกับการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด
นามาจัดทาเป็น แบ บฝึกทักษ ะการอ่านและการเขียน คามาตราตัวสะกด สาห รับนั กเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านควน สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช
เขต 2 จานวน 8 เล่ม ดังน้ี
เลม่ ที่ 1 มาตราตัวสะกดแม่กง
เลม่ ท่ี 2 มาตราตวั สะกดแมก่ ม
เลม่ ท่ี 3 มาตราตัวสะกดแมก่ น
เลม่ ท่ี 4 มาตราตวั สะกดแมเ่ กย
เล่มท่ี 5 มาตราตัวสะกดแม่เกอว
เล่มที่ 6 มาตราตวั สะกดแมก่ ก
เล่มท่ี 7 มาตราตัวสะกดแมก่ ด
เล่มที่ 8 มาตราตวั สะกดแม่กบ
ระยะเวลาทใ่ี ช้ในการศึกษาคน้ คว้า
ระยะเวลาทีใ่ ช้ในการศกึ ษา ดาเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
ตัวแปรท่ศี กึ ษา
ตัวแปรอิสระ ได้แก่ การจัดการเรียนการสอนคามาตราตัวสะกด โดยการจัดการเรียนรู้แบบ
Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด สาหรับนักเรียน
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2
ตวั แปรตาม ได้แก่
ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของนกั เรียน
สมมติฐานของการศกึ ษา
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึก
ทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2
มผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสงู กว่าก่อนเรยี น
กรอบแนวคิดของการศึกษา
ผู้ศึกษาได้วางกรอบแนวคิดในการเรียนการสอนภาษาไทย โดยการจัดการเรียนรู้แบบ Active
Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ประกอบการสอน ดังนี้
การจัดการเรยี นรแู้ บบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น เรื่อง คามาตราตวั สะกด
Active Learning โดยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
ดว้ ยแบบฝึกทกั ษะการอ่านและการเขยี นคามาตราตัวสะกด
ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและ
การเขยี นคามาตราตัวสะกด
ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รับ
1. นกั เรียนมีทักษะการอ่านและการเขยี นคามาตราตัวสะกดได้ถกู ต้องคลอ่ งแคลว่
2. เป็นแนวทางสาหรับครผู สู้ อนภาษาไทยในการเลอื กกิจกรรมการเรียนการสอน
3. เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอนการอ่านและการเขียนคามาตรา
ตวั สะกด ในสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2
นยิ ามศัพท์เฉพาะ
1. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning หมายถึง กระบวนการเรียนการสอนท่ีส่งเสริม
ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในช้ันเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ
โดยมีครูเป็นผู้อานวยความสะดวก สร้างแรงบนั ดาลใจ ให้คาปรกึ ษา ดแู ล แนะนา จัดวธิ ีการเรียนรู้และ
แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย สร้างองค์ความรู้ได้ มีความเข้าใจ
ในตนเอง ใช้สติปัญญา คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ผลงาน มีสมรรถนะสาคัญ มีทักษะวิชาการ
ทกั ษะชีวิต บรรลเุ ปา้ หมายการเรียนรู้ตามระดบั ช่วงวยั
2. การสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคามาตราตัวสะกด หมายถึง การนา
แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคามาตราตัวสะกด มาใช้เป็นกิจกรรมประกอบการเรียนการสอน
ในเนือ้ หาวชิ าหลักภาษาไทย ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2
3. ความสามารถในการอ่านและการเขียน หมายถึง ความรู้ ความสามารถของนักเรียนที่จะ
แสดงพฤติกรรมตามผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ภายหลังสิ้นสุด
จากการเรียนการสอนซ่ึงสามารถสังเกตและวัดได้จากคะแนนของนักเรียนในการทดสอบความสามารถ
ในการอา่ นและเขียนคาศัพท์
4. แผนการจัดการเรียนรู้ หมายถึง แผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เรื่อง
การอ่าน การเขียนคามาตราตัวสะกด โดยใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคามาตราตัวสะกด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งประกอบไปด้วยจุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
กระบวนการจัดการเรียนรู้ สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ การวัดผลประเมินผล
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความรู้ ความสามารถของนักเรียนที่แสดงพฤติกรรม
ตามตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560
หลังจากส้ินสุดการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคามาตราตัวสะกด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งสามารถวัดได้จากคะแนนของนักเรียนในการทา
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 ตอนท่ี 1 แบบทดสอบวัดทักษะการอ่าน
จานวน 15 คา ตอนที่ 2 แบบทดสอบวดั ทักษะการเขยี น จานวน 15 คา
4. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
เรื่อง การอ่าน การเขียนคามาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้ศึกษา
สร้างข้ึน แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 แบบทดสอบวัดทักษะการอ่าน จานวน 15 คา ตอนที่ 2 แบบทดสอบวัด
ทักษะการเขียน จานวน 15 คา เพ่ือใช้ทดสอบนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกพัฒนาการอ่าน
การเขียนคามาตรา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2
วิธดี าเนนิ การวจิ ัย
1. ประชากร
ประชากรเปน็ นกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 โรงเรียนบ้านควน
สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขัน้ พื้นฐาน
2. เคร่ืองมอื ทีใ่ ชใ้ นการวิจัย
2.1 แบบประเมินผลการอา่ นกอ่ นเรียนและหลังเรียน
2.2 แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด สาหรับนักเรียน
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2
3. ขน้ั ตอนการสรา้ งเคร่อื งมอื
3.1 ศกึ ษาเอกสารหลกั สตู รสถานศึกษา แนวคิดทฤษฏีการเรยี นการสอน
3.2 ศกึ ษาปัญหาของนักเรยี น วเิ คราะห์ข้อมลู ที่พบในการจดั การเรียนการสอน
3.3 ศึกษาเทคนคิ วิธกี ารจดั การเรียนร้แู บบ Active Learning
3.4 ศึกษาเทคนิคการสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เพ่ือให้เหมาะสม
กบั เน้ือหาและผู้เรียน
3.5 สร้างแบบประเมินผลการอ่านก่อนเรียน - หลังเรียน
3.6 ประเมินผลการอ่านก่อนใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด
สาหรบั นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
3.7 ดาเนินการจัดกิจกรรมประจาวัน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคา
มาตราตัวสะกด สาหรับนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2
3.8 ประเมินผลการอ่านหลังใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด
สาหรับนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2
การเก็บรวบรวมข้อมูล
ใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลในสถานการณ์จริงในชั้นเรียน โดยใช้แบบประเมินผลการอ่าน
และการเขียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและ
การเขียนคามาตราตัวสะกด สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 และสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน
ระหว่างจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน
การวิเคราะหข์ ้อมูล
ขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้จากแบบทดสอบอ่านคาพ้นื ฐานกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น นามาวเิ คราะห์
หาค่าเฉลย่ี ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วเปรียบเทยี บคะแนนความกา้ วหนา้ ของนักเรียน
แตล่ ะคน
ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู
ข้อมูลท่ัวไปของกลุ่มท่ีศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรียนบ้านควน ท้ังหมด
รวม 7 คน มีการทดสอบวัดผลสัมฤทธ์กิ ่อนเรียน แลว้ จึงดาเนนิ การสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้โดยใช้
แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด สาหรับนักเรียนช้ั นประถมศึกษาปีที่ 2
หลังจากน้ันจึงทาการทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิหลังเรียน แล้วจึงนาผลมาเก็บรวบรวม ข้อมูลก่อนเรียนและ
หลงั เรยี นทร่ี วบรวมได้จากเครอ่ื งมอื ท่ผี ู้วจิ ยั สรา้ งข้ึนมาจาแนกผลการเรียนรู้ ดงั น้ี
สรุปได้ว่านักเรียนทั้ง 7 คน มีความก้าวหน้าในการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกดสาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ประกอบการเรยี นรูเ้ ร่ืองคามาตราตัวสะกดที่ตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา
คา่ เฉลย่ี และคา่ เบีย่ งเบนมาตรฐานของนักเรียนในการใช้ส่ือการสอน
แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขยี นคามาตราตวั สะกด สาหรับนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2
การฝกึ จานวน
นกั เรียน X X ร้อยละ ค่า S.D
กอ่ นเรยี น 7 คน 13.14 92 19.17 2.79
หลังเรยี น 7 คน 21.86 153 31.88 4.53
จากตารางสรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและ
การเขียนคามาตราตัวสะกดสาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 ก่อนเรียนมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 13.14
หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 21.86 จะเห็นได้ว่าคะแนนของค่าเฉล่ียหลังเรียนมีค่ามากกว่าคะแนนเฉล่ีย
ก่อนเรยี น และค่าเบย่ี งเบนมาตรฐานของก่อนเรยี นมีค่าเทา่ กับ 2.79 ส่วนคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐานหลังเรยี น
มคี า่ เท่ากบั 4.53 แสดงวา่ ขอ้ มลู มีค่าคะแนนใกล้เคียงกนั
สรุปผลการวจิ ยั
การวจิ ัยครงั้ น้มี ีวัตถปุ ระสงค์เพอื่ ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น เรอ่ื งคามาตราตัวสะกด โดยการ
จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกดสาหรับ
นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เพ่ือแก้ปัญหาการอ่านและการเขียนสะกดคา สาหรับนักเรียน
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 โรงเรยี นบ้านควน พบว่า นักเรียนมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น เรอ่ื งมาตราตัวสะกด
ดขี น้ึ
อภิปรายผล
ผลการศึกษาค้นคว้าในคร้ังน้ีปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้
แบบ Active Learning ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด สาหรับนักเรียน
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2 มคี ณุ ภาพและประสิทธภิ าพอย่างดยี ่งิ ดว้ ยเหตุผลดังตอ่ ไปน้ี
1. แบบฝกึ ทักษะการอา่ นและการเขยี นคามาตราตวั สะกด สาหรบั นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2
เป็นสื่อท่ีมคี ุณภาพและประสทิ ธภิ าพตามผลของการวเิ คราะห์ข้อมลู ดงั กลา่ ว
2. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขยี นคามาตราตัวสะกด สาหรับนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ชุดนี้สร้างข้ึนอย่างถูกวิธี ได้ผ่านข้ันตอนการสร้างและพัฒนาอย่างเป็นระบบ เริ่มต้ังแต่เอกสารหลักสูตร
และเอกสารท่ีเกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร และยังได้รับการแนะนา ข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญและ
มีประสบการณ์ด้านเน้อื หาการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ความเหมาะสมของเนอ้ื หา
3. การจัดการเรียนร้แู บบ Active Learning ด้วยแบบฝกึ ทักษะการอ่านและการเขียนคามาตรา
ตวั สะกดสาหรับนักเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 นกั เรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียนรู้
4. การจัดการเรียนรู้เรื่องคามาตราตัวสะกด โดยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกดสาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ได้เรียงลาดับความยากง่ายสอดคล้องตามธรรมชาติการเรียนรู้ ทาให้เรียนรู้สึกว่าตนเอง
ประสบความสาเร็จในการเรียนรู้ จึงสรุปได้ว่าแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด
สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพอย่างย่ิง สามารถนาไปใช้ในการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ ส่งผลใหผ้ ูเ้ รยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงขน้ึ
ขอ้ เสนอแนะ
จากผลการศกึ ษาค้นคว้าครั้งน้ีมีขอ้ เสนอแนะเพ่ือประโยชน์ต่อวงการศกึ ษาดงั นี้
1. ก่อนนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคามาตราตัวสะกด สาหรับนักเรียน
ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 ไปใชป้ ระกอบการสอน ผูส้ อนควรศึกษารายละเอยี ดของทุกกจิ กรรมก่อนนาไปใช้
2. แบบฝกึ ทักษะการอา่ นและการเขียนคามาตราตวั สะกด สาหรบั นกั เรียนช้ันประถมศึกษา
ปที ่ี 2 นี้ จะเกดิ ความสมบรู ณค์ รูผู้สอนตอ้ งใชค้ วบค่ไู ปกับแผนการจดั การเรยี นร้ทู ีผ่ ู้วจิ ัยจัดทาข้ึน
จัดกิจกรรมให้ครบทุกขั้นตอน ต้องตรวจแบบฝึกอย่างเป็นปัจจุบันให้ผู้เรียนรู้ผลทันที พร้อมกับเฉลย
คาตอบท่ถี กู ต้องให้ผูเ้ รยี นไดร้ ทู้ ุกครัง้
ภาคผนวก
แบบบนั ทึกคะแนนทดสอบวัดผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนกอ่ นเรยี น – หลังเรียน
เรอื่ ง การอ่านและการเขียนคามาตราตวั สะกด
นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรยี นบา้ นควน
เลขท่ี ช่อื – สกลุ ก่อนเรียน หลังเรยี น
30 คะแนน 30 คะแนน
1 เด็กชายพรี พฒั น์ พทิ ักษ์วงศ์
2 เดก็ หญงิ กรกนก เชาวแพทย์ 10 17
3 เดก็ หญิงนภาภรณ์ สขิ วิ ฒั น์ 18 29
4 เด็กหญิงปยุตา ไชยเทพ 12 19
5 เด็กหญิงปลดิ า ไชยเทพ 14 20
6 เดก็ หญงิ ปัชโลทร แสงทอง 10 18
7 เด็กหญงิ สภุ าฐนสิ า สดุ ใจ 14 26
14 24
เฉล่ยี 13.14 153
สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 2.79 4.53
19.17 31.88
ร้อยละ
แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น
เรอื่ ง การอ่านการเขยี นคามาตราตวั สะกด
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๒
ภาคเรียนที่ ๑ ข้อสอบ จานวน ๓๐ ขอ้ ๓๐ คะแนน
ชอื่ ___________________________ชนั้ _______เลขท_่ี _____
คาชแ้ี จง
๑. แบบวดั ผลสมั ฤทธม์ิ ีทง้ั หมด ๒ ตอน ๓๐ ขอ้ ดงั น้ี
ตอนที่ ๑ ขอ้ สอบวดั ทกั ษะการอา่ นโดยใหน้ กั เรียนอ่านคา จานวน ๑๕ คา
ตอนที่ ๒ ขอ้ สอบวดั ทกั ษะการเขียนโดยใหน้ ักเรียนเขยี นตามคาบอก
จานวน ๑๕ คา
๒. ไมค่ วรขดี เขยี นหรอื ทาเครอื่ งหมายใด ๆ ลงในแบบทดสอบนี้
ตอนที่ ๑ ข้อสอบวดั ทกั ษะการอา่ นมีจานวน ๑๕ ข้อ
คะแนนเตม็ ๑๕ คะแนน
คาชแี้ จง นกั เรยี นอ่านออกเสยี งคาตอ่ ไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ ง
วธิ กี ารประเมนิ อ่านถูกตอ้ งได้คะแนนข้อละ ๑ คะแนน
๑. อรอ่ ย อ่านได้ ๙. สมอง อา่ นได้
อ่านไมไ่ ด้ อา่ นไม่ได้
๒. แมวเหมยี ว อา่ นได้ ๑๐. จรงิ จงั อ่านได้
อา่ นไมไ่ ด้ อา่ นไม่ได้
๓. บริจาค อ่านได้ ๑๑. ซอ่ มแซม อ่านได้
อ่านไมไ่ ด้ อ่านไมไ่ ด้
๔. สุนขั อ่านได้ ๑๒. สนาม อ่านได้
อา่ นไม่ได้ อา่ นไมไ่ ด้
๕. ชวี ติ อา่ นได้ ๑๓. การคณู อ่านได้
อา่ นไมไ่ ด้ อ่านไมไ่ ด้
๖. สาเรจ็ อ่านได้ ๑๔. บาเพ็ญ อ่านได้
อา่ นไม่ได้ อ่านไมไ่ ด้
๗. รูปภาพ อา่ นได้ ๑๕. ขโมย อ่านได้
อา่ นไม่ได้ อ่านไมไ่ ด้
ขโมย อ่านได้
อ่านไม่ได้
๘. สรปุ
ตอนที่ ๒ ข้อสอบวดั ทักษะการเขียนมจี านวน ๑๕ ขอ้
คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน
คาช้แี จง นักเรียนเขียนตามคาบอกของครใู ห้ถูกต้อง
วธิ กี ารประเมนิ เขยี นถูกตอ้ งไดค้ ะแนนขอ้ ละ ๑ คะแนน
๑. ๙.
๒. ๑๐.
๓. ๑๑.
๔. ๑๒
.
๕. ๑๓
.
๖. ๑๔
.
๗. ๑๕
.
๘.
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น
***************************************
ตอนที่ ๑ แบบทดสอบวัดทกั ษะการอ่าน
๑. อรอ่ ย ๙. สมอง
๒. แมวเหมียว ๑๐. จริงจงั
๓. บริจาค ๑๑. ซ่อมแซม
๔. สนุ ขั ๑๒. สนาม
๕. ชวี ติ ๑๓. การคูณ
๖. สาเร็จ ๑๔. บาเพ็ญ
๗. รปู ภาพ ๑๕. ขโมย
๘. สรุป
ตอนที่ ๒ แบบทดสอบวัดทักษะการเขยี น
๑. สมัคร ๙. แขง็ แรง
๒. ประมขุ ๑๐. สี่เหล่ยี ม
๓. โอกาส ๑๑. ขนม
๔. พเิ ศษ ๑๒. พยาบาล
๕. มะพร้าว ๑๓. ปลาวาฬ
๖. เก่ียวข้าว ๑๔. เหนือ่ ย
๗. เคารพ ๑๕. เฉลย
๘. บุปผา
ตวั อยา่ งแบบฝกึ ทกั ษะเลม่ 1
ตวั อยา่ งแผนการจดั การเรยี นรู้แผนท่ี 1
ภาพกิจกรรม
บรรณานุกรม
ไชยยศ เรอื งสุวรรณ. Active Learning. ขา่ วสารวิชาการ คณะเภสชั ศาสตร์
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ประจาเดอื นพฤศจิกายน, ๒๕๕๓.
ณัชนนั แก้วชยั เจริญกิจ. บทบาทของครูผสู้ อนในการจัดกจิ กรรมและวิธกี ารปฏบิ ตั ิตาม
แนวทางของ Active Learning. สบื คน้ จาก http//www.kroobannok.com เม่อื
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔.
ดวงมน ปริปณุ ณะ. เทคนิคและวิธสี อนในระดบั ประถมศึกษา. กรงุ เทพมหานคร
: ไทยวฒั นาพานิช, ๒๕๔๗.
ปิตินันธ์ สุทธสาร. กิจกรรมการสอนภาษาไทยด้วยเพลง. พิมพ์ครงั้ ที่ ๘.
กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, ๒๕๕๔.
พรวิไล เลศิ วชิ า. สอนภาษาไทยตอ้ งเข้าใจสมองเดก็ . กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ศาลาแดง,
๒๕๕๐.
วรรณี โสมประยูร. การสอนภาษาไทยระดบั ประถมศกึ ษา. กรุงเทพมหานคร :
คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ ประสานมิตร, ๒๕๔๗.
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน. ค่มู ือหลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ภาษาไทย. กรงุ เทพมหานคร : สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน,
๒๕๔๖.
. หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐานพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑.
กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั ,
๒๕๕๑.
อัจฉรา ชวี พันธ์. ศลิ ปะการจดั การเรียนรู้ภาษาไทย ระดับประถมศกึ ษา. กรุงเทพมหานคร :
เบน็ พบั ลิซชง่ิ , ๒๕๔๖.