หนังสอื นิทานพัฒนาการเขยี นสะกดคำนักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปท? ี่ 4
โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ ประสานมติ ร (ฝาJ ยประถม)
จ๊ิดจ๋วิ
กับมติ รใหมใ่ นธรรมอุทยาน
เร่ือง/ภาพ : ธนวัฒน2 เต็งโหยง8
๑
อรุณเบิกฟ*า นกกาโบยบิน เช1าวันใหม7อันแสนสดใส จิ๊ดจิ๋วหนุ7มน1อยอายุ 11ขวบ กำลังเดินทางไปเข1าค7ายธรรมสัญจร
(ทัม/ทํา–มะ–สัน-จอน) กับครอบครัวที่วัดปIาในต7างจังหวัดเปKนเวลา 7 วัน บริเวณทางเข1าวัดเต็มไปด1วยสีเขียวขจีของต1นไม1
นานาชนิด เสียงลำธารกับเสียงสัตวOกล7าวต1อนรับอย7างไพเราะเสนาะหู พุทธศาสนิกชน (พุด-ทะ-สา/สาด-สะ-นิก-กะ-ชน)
ทม่ี าตา7 งมอี ัธยาศยั (อดั –ทะ-ยา–ไส)ดี
๒
ในขณะที่คุณพ7อและคุณแม7กำลังขนกระเปSาลงจากรถ จิ๊ดจิ๋วแบกเป*เดินล7วงหน1าคุณ
พ7อและคุณแม7อย7างรวดเร็วด1วยความตื่นเต1น ระหว7างทางมีคุณป*าคนหนึ่งสวมชุดสี
ขาวกล7าวทักทายและยิ้มแย1มอย7างเปKนมิตร “สวัสดีจ1ะ หนูกำลังเดินมุ7งหน1าไปไหน
เอ7ย” “สวัสดีครับคุณป*า ผมกำลังจะไปที่พักครับ” จิ๊ดจิ๋วยิ้มตอบ “ป*าชื่อป*าชื่นนะ
จ[ะ หนูชื่ออะไร” “ผมชื่อจิ๊ดจิ๋วครับ” “เดี๋ยวป*าจะพาหนูเดินไปที่พักแต7ตอนนี้หนู
เดินไปกับป*าก7อนไหมจ[ะ” จิ๊ดจิ๋วทำท7าทีบอกพ7อแม7ว7าจะขอเดินทางไปก7อน พร1อม
ได1รับรอยย้ิมตอบกลบั มาวา7 อนุญาต
๓
ป*าชื่นพาจิ๊ดจิ๋วไปยังที่พักที่ตั้งอยู7ห7างจากทางเข1า ระหว7างทางได1ผ7านกุฏิ (กุด/กุ–ติ) ที่ตั้งอยู7บริเวณต1นไม1ใหญ7จำนวน
หลายหลัง “เปKนไงบ1างจ[ะ สภาพแวดล1อมที่นี่เปKนธรรมอุทยาน (อุด-ทะ–ยาน) เต็มไปด1วยธรรมชาติและมีคำสอน
ชี้ใหเ1 หน็ สัจธรรมของชีวติ ” ป*าชื่นกล7าวพรรณนาเกีย่ วกับสภาพแวดล1อมของวดั
๔
ขณะเดินทางจิ๊ดจิ๋วสังเกตเห็นพระภิกษุ (พฺระ-พิก–สุ) นุ7งห7มจีวรที่ไม7คุ1นตา จิ๊ดจิ๋วจึงถาม
ปา* ชน่ื ว7า “คุณปา* ครับทำไมพระภิกษทุ 7านถงึ นุง7 หม7 จีวรสไี มเ7 หมือนที่ผมเคยเห็นเลยครับ”
“อ_อ เขาเรียกว7า จีวรสีกรัก (สี-กฺรัก) เปKนสีที่ย1อมมาจากแก7นขนุนจ1ะ คณะสงฆOอรัญวาสี
(อะ-รัน-ยะ-วา-สี) จะนุ7งห7มจีวรสีนี้” จิ๊ดจิ๋วมองและกราบนมัสการ (นะ–มัด–สะ-กาน)
พระภกิ ษทุ เี่ ห็นแล1วเดินทางไปยงั ทพี่ กั เกบ็ ขา1 วของและเปล่ยี นมาสวมชุดสขี าวล1วน
ขณะเดยี วกันพอ7 และแม7กเ็ ดินมาถงึ พอดี “ป*าขอแนะนำใหห1 นรู จ1ู ักหลานสาวของปา* เอง ช่ือนดิ หน7อย อายรุ 7นุ ราว ๕
คราวเดยี วกบั หนู นดิ หนอ7 ยมาทักทายจดิ๊ จวิ๋ หนอ7 ยลูก” คุณปา* แนะนำหลานสาวใหจ1 ดิ๊ จว๋ิ รจู1 กั “สวสั ดจี ะ1 จิ๊ดจิ๋ว ฉนั
ชือ่ นดิ หนอ7 ยยินดที ไ่ี ดร1 จ1ู กั นะ หากมขี อ1 สงสัยเกย่ี วสถานท่บี รเิ วณวดั ถามฉันได1เลย ฉนั มาท่นี ี่หลายครัง้ แลว1 จะ1 ”
นิดหน7อยขออาสาเปนK มัคคุเทศกF (มกั –ค–ุ เทด) พาจดิ๊ จ๋วิ เทีย่ วชมรอบๆ บรเิ วณวดั จด๊ิ จิ๋วขออนญุ าตคณุ พอ7 และ
คุณแมก7 7อนจะเดินทางไปกับนิดหนอ7 ย
๖
“นน่ี ิดหน7อย ทำไมเธอถงึ ชอบมาที่นเ่ี หรอ เห็นเธอบอกวา7 มาวดั นีห้ ลายครั้งแล1ว” จด๊ิ จวิ๋ ถามนดิ หนอ7 ย
ด1วยความสงสัย “ฉนั คิดวา7 ที่นี่เหมือนอาณาจกั ร(อา-นา–จกั ) ท่เี ต็มไปด1วยสิง่ แวดล1อมทฉ่ี ันชอบ ทำให1
ฉันมคี วามสุข จติ ใจสงบ และยังมแี หลง7 ความรู1ด1วยนะ ตามฉนั มาสฉิ นั มีอะไรจะให1เธอด”ู
๗
นดิ หน7อยพาจิ๊ดจวิ๋ มุ7งหนา1 ไปยงั ต1นไมใ1 หญท7 แ่ี วดล1อมไปด1วยน้ำตก เหลา7 สตั วOปIาตวั เล็กตวั นอ1 ย และดอกไมต1 ระการ (ตฺระ-
กาน) ตา ขณะนน้ั เองจ๊ดิ จว๋ิ สังเกตเห็นคณุ ลงุ คนหนึ่งกำลังกวาดลานใตต1 1นไทรอย7าง ขะมกั เขมIน(ขะ–มัก(หมฺ ัก)-ขะ–เมนK )
“คุณลุงคนน้นั ชือ่ ลุงเข1ม เปKนนกั ปราชญF (นัก-ปฺราด)ชาวบ1าน ร1ูไหมตน1 ไม1บางต1นในเขตวัด เปนK สมนุ ไพรและยารักษาโรคได1
ดว1 ยนะ คุณลงุ แกเคยอธิบายใหฉ1 นั ฟงc ” นดิ หน7อยพดู ถึงคณุ ลุงพรอ1 มกบั ยมิ้ ทักทายและม7ุงหน1าเดินไปบนทางเดนิ ที่มตี น1 ไมร1 าย
รอบ
๘
“ถึงแล1วจ๊ิดจิ๋ว นีค่ ือ เจดียF (เจ-ด)ี ทรงปราสาท อายนุ 7าจะหลายรอ1 ยปเd ลยนะ” “สวยจริง ๆ นิดหนอ7 ย ไม7นึก
เลยวา7 จะได1เห็นกบั ตา ฉนั นกึ ว7ามแี ตใ7 นหนงั สือเรียนซะอีก ดูเปนK วตั ถุโบราณที่ลำ้ ค7ามากเลย” นดิ หนอ7 ยหวั เราะ
และพาจด๊ิ จิว๋ เดนิ ทางต7อ
เม่อื เดนิ ไปเรื่อย ๆ ก็พบศาลาไมท1 ี่อยตู7 ิดกบั ลำธาร นิดหน7อยวง่ิ ขึ้นไปบนศาลาอย7าง ๙
ภาคภมู ใิ จ “ถงึ แล1วห1องสมุดของฉัน” ศาลาไม1เตม็ ไปดว1 ยหนังสือเกา7 และใหม7
อีกทั้งรปู ภาพโบราณบนผนงั มแี ผ7นป*ายคำสอนอยเู7 ตม็ ไปหมด
โดยเฉพาะบทพระราชนิพนธO สยามานุสสติ(สะ-หฺยาม/หฺยา-มา-นุด-สะ-ติ) ที่อยู7ตรงหน1าประตู จิ๊ดจิ๋วทำหน1ามึนงงกับ๑๐
สิ่งที่พบเห็น“บทพระราชนิพนธOนี้เปKนบทพระราชนิพนธOของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล1าเจ1าอยู7หัว พระมหากษัตริยF
(กะ-สัด) ไทยรัชกาลที่ 6ที่ทรงพระราชสาสFน(พฺระ-ราด-ชะ-สาน) ปลกุ ใจแกท7 หารอาสาสมัยสงครามโลกครัง้ ท่ี 1”
นิดหน7อยอธิบายให1จิ๊ดจิ๋วเข1าใจ จิ๊ดจิ๋วทำท7าทางความตกใจ “สุดยอดไปเลย ที่แห7งนี้เหมือนเปKนแหล7งประวัติศาสตรF
(ปฺระ–หวฺ ัด–(ต)ิ -สาด) เลยคงเปKนเหตุผลทีเ่ ธอชอบมาทีน่ ส่ี ินะ”
สยามานุสสติ
ใครรานใครรุกดา) ว แดนไทย
ไทยรบจนสุดใจ ขาดด้นิ
เสียเนอื้ เลอื ดหลั่งไหล ยอมสละ สน้ิ แล
เสียชพี ไปDเสยี ส้ิน ช่ือกอ) งเกยี รตงิ าม
หากสยามยงั อยยGู ัง้ ยืนยง
เราก็เหมอื นอยคูG ง ชพี ด)วย
หากสยามพนิ าศลง ไทยอยGู ได)J
เราก็เหมือนมอดมว) ย หมดสิ้นสกุลไทย*
(พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา3 เจ3าอย7หู วั )
๑๑
จิ๊ดจิ๋วถามนิดหน7อยพร1อมกับเดินชมรอบศาลา “ใช7เลย แต7ฉันคิดว7าสภาพแวดล1อมที่ดีนอกจากจะมีธรรมชาติและ
แหล7งเรียนรู1ทางประวัติศาสตรOที่แล1ว ยังมี กัลยาณชน (กัน-ละ-ยา-นะ-ชน) ที่มาปฏิบัติธรรม เหมือนคุณป*าของฉัน
ที่ท7านประเสริฐ (ปฺระ-เสิด)ทางปcญญาไม7มีความอาฆาตพยาบาท (พะ-ยา-บาด) อิจฉาริษยา(ฤษยา) (ริด-สะ-หฺยา)
รวมถึงความทกุ ขOไดป1 ลาต (ปะ-ลาด)ไป ”
นิดหน7อยพูดและเดินเข1าไปในมุมห1องพร1อมชี้ไปยังอีกแผ7นป*ายที่ติดอยู7ตรงผนัง “เธอลองอ7านบทประพันธOนี้ดูสิ ๑๒
พฤษภกาสร (พฺรึ/พฺรึด-สบ-พะ-กา-สอน) บทนี้ให1ข1อคิดที่ดีมากเลยนะ” “อ7านยากจังเลยนิดหน7อยเธอช7วยอ7านให1
ฉันฟcงหน7อยได1ไหม” จิ๊ดจิ๋วให1ความสนใจพร1อมกับขอให1นิดหน7อยอ7านให1ฟcง “ได1สิ” นิดหน7อยตอบพร1อมรอยยิ้ม
และเรมิ่ อา7 นใหจ1 ิด๊ จว๋ิ ฟงc
พฤษภกาสร
พฤษภกาสร อกี กญุ ชรอนั ปลดปลง
โททนตOเสน7งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาตวิ างวาย มลายส้นิ ท้ังอินทรยี O
สถติ ทวั่ แต7ชัว่ ดี ประดบั ไวใ1 นโลกา
(สมเดจ็ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา3 กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)
“เพราะจังเลยนิดหน7อย แล1วบทประพันธOนี้มีความหมายยังไงเหรอ มีหลายคำที่ฉันไม7คุ1นชินเลย เธอ ๑๓
ชว7 ยอธิบายใหฉ1 ันฟcงหน7อย”
“ได1สิ พฤษภกาสร เปนK บทพระนิพนธOของสมเดจ็ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา1 กรมพระปรมานุชติ ชิโนรส
คำวา7 พฤษภกาสร มาจากสองคำมารวมกนั คือคำว7า พฤษภ (พรฺ /ึ พฺรึด-สบ) หมายถงึ วัว
และคำวา7 กาสร (กา-สอน) หมายถงึ ควาย คำว7า กญุ ชร (กนุ -ชอน) หมายถึง ช1าง คำว7า
โททนตO มาจากสองคำรวมกันคือ คำว7า โท (โท) หมายถึง สอง และคำว7าทนตF (ทน)
หมายถงึ ฟcนหรืองาชา1 ง คำวา7 เสนงK (สะ-เหนฺ Kง) หมายถึง เขาสตั วO นรชาต(ิ นอ-ระ-ชาด)
มาจากสองคำมารวมกัน คือคำว7านร (นอ-ระ) หมายถงึ คน กบั คำวา7 ชาติ (ชาด)
หมายถงึ หมู7 รวมกนั เปนK นรชาติ แปลวา7 คนหรอื หมูค7 น คำว7าอนิ ทรียF (อิน-ซ)ี
หมายถึงรา7 งกายและคำว7าโลกาหมายถงึ โลก”
จิ๊ดจิว๋ รู1สกึ ทึ่งในความสามารถของนดิ หนอ7 ย “สุดยอดเลยนดิ หนอ7 ยไมน7 กึ ว7าแต7ละคำจะมคี วามหมายลกึ ซ้งึ แบบนี้ ๑๔
แลว1 ความหมายของบทประพนั ธOนีค้ ืออะไรเหรอ”
“บทประพนั ธOนถ้ี อดความไดว1 า7 สัตวตO 7าง ๆ อาทิ ววั ควาย หรอื กระทั่งชา1 ง เมอ่ื ตาย
ไปแล1ว ก็ยงั เหลอื ฟcน งา และเขาเอาไว1 สามารถนำไปใชป1 ระโยชนตO 7อได1 แตม7 นษุ ยO
เมอ่ื เสยี ชวี ิตไปแล1ว ร7างกายกส็ ูญสลายไปทง้ั หมด ไมเ7 หลอื ส่ิงใดเอาไว1เลย นอกจาก
ความดีและความชว่ั ท่ีไดก1 ระทำไว1เม่ือคร้งั ยังมีชีวิตอยูเ7 ท7าน้นั ”
“บทประพันธOนม้ี คี วามหมายลึกซึง ชี้ใหเ1 หน็ สัจธรรมของชีวิตดจี งั ”
วนั นฉ้ี ันไดเ1 ห็นและได1เรยี นรมู1 ากมายเลย ขอบใจมากนะนดิ หนอ7 ยตอนนก้ี ็เรมิ่ สายแล1วเรากลับ ๑๕
ทพ่ี ักกันเถอะ เดี๋ยวคณุ แมจ7 ะเปนK ห7วง ฉันคิดวา7 7 วันน้ี ฉันคงไดเ1 รียนรู1มากมายแน7 ๆ”
จิด๊ จิว๊ กล7าวขอบคุณนิดหนอ7 ยแล1วท้งั คกู7 พ็ ากนั เดินกลบั ทีพ่ ักอยา7 งมคี วามสุข
ประวตั ิผ้แู ต่ง
ชอื่ : นายธนวัฒนF เตง็ โหยงK ประวัตกิ ารศึกษา:
ช่ือเลKน: เอิรFธ (เคลIา) ปrจจุบนั กำลังศึกษาระดบั ช้ันปริญญาตรี ชนั้ ปtท่ี 5
วนั เกดิ : 6 ตลุ าคม พ.ศ. 2541 สาขาวชิ าการประถมศึกษา คณะศึกษาศาสตรF
ตดิ ตอK : [email protected] มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ
ภมู ิลำเนา:24 หมKู 14 ต.ศรษี ะเกษ อ.นานIอย จ.นKาน 55150