The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประโยชน์ของการศึกษาภาษาถิ่นใต้-นาปีสะ-มะลี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-11-09 10:01:02

ประโยชน์ของการศึกษาภาษาถิ่นใต้-นาปีสะ-มะลี

ประโยชน์ของการศึกษาภาษาถิ่นใต้-นาปีสะ-มะลี

ประโยชนข์ องการศึกษาภาษาถิ่นใต้

บทนำ
เรอื งเดช ปันเข่ือนขัตยิ ์ (2525: 30) ไดก้ ลา่ วถงึ ความสำคัญของภาษาถิน่ วา่ ภาษาถิน่ มีความสำคญั

เพราะภาษาถน่ิ เปน็ เอกลักษณข์ องวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ นอกจากนี้ เอมอร เชาวนส์ วน (2537: 25) ยังได้กล่าวถึง
คุณค่าของภาษาถ่นิ อีกด้วยว่า ภาษาถน่ิ จงึ มีความสำคญั ในการติดต่อส่ือสาร ขณะเดยี วกนั ก็จะมีความแตกตา่ ง
ของแตล่ ะท้องถ่นิ ตามบรรพบุรษุ เชน่ ภาษาถ่ินใต้ ภาษาลาวโคง ภาษาลาวเวียง ภาษาลาวพวน และภาษากลุ่ม
นอ้ ยอื่นๆ ทุกภาษาตา่ งมีคณุ ค่าและประโบชนช์ ว่ ยใหเ้ กิดการตดิ ต่อส่อื สาร ทำใหม้ นษุ ย์มีความไกลช้ ดิ มคี วาม
สามคั คีเข้าใจกันมากขึ้น

ประคอง นิมมานเหมนิ ท์ (2547: 16-17) ได้กล่าวถงึ สภาพของปัญหาทางด้านทศั คตทิ เ่ี กี่ยวกับการใช้
ภาษามารตฐานและภาษาถ่ินในปัจจุบนั ว่า คนในทอ้ งถ่นิ พูดและมคี วามร้ใู นภาษาท้องถ่ินของตนน้อยลง
นอกจากนยี้ ังพูดภาษาถ่ินของตนโดยใชส้ ำเนียงท้องถน่ิ แตใ่ ช้คำภาษากรุงเทพต้ังแตเ่ ด็ก จึงพูดแต่ภาษากรงุ เทพ
ทงั้ ทบี่ า้ นและทโ่ี รงเรยี นจนไม่กล้าพูดภาษาถนิ่ เพราะเกรงว่าจะพดู แปรง่ หรอื ผดิ เพีย้ น

ด้วยเหตดุ ังกลา่ วผเู้ ขยี นเลยมีความสนใจท่ีจะศกึ ษาค้นคว้าเร่อื งราวเกีย่ วกับคณุ ค่าและประโยชนข์ อง
การมีอยู่ของภาษาถนิ่ เพื่อถา่ ยทอดความรใู้ ห้กบั ผู้เรียนหรือผทู้ ีส่ นใจในเร่อื งดังกล่าว

1. ประโยชน์ท่ไี ด้รับในการศึกษาภาษาถิน่ ใต้
ระโยชนท์ ่ีได้รับในการศึกษาภาษาถ่นิ ใต้ มีดังนี้
1.1) ไดร้ บั ร้คู วามเป็นมาของภาษาถน่ิ ใต้
ภาษาไทยถน่ิ ใต้ เป็นภาษาย่อย (sub language) ของภาษาตระกูลไท ซง่ึ ชาวไทยส่วนใหญ่ใน

ภาคใต้ใช้พูดกนั จากการศึกษาของบราวน์ ภาษาไทยถ่ินใต้มีวิวัฒนาการมาจากภาษาสุโขทยั เมอ่ื ประมาณ
ค.ศ. 1300 (พ.ศ.1843) โดยววิ ัฒนาการแบ่งเป็น 2 กลมุ่ กล่มุ ภาษานครศรธี รรมราช กับกลุม่ ภาษาตากใบ
ส่วนกล่มุ นครศรธี รรมราช มี 2 สาย คอื สายไชยา และสายนครศรธี รรมราช สายไชยา มีภาษาระนอง ไชยา
หลงั สวน และสวี โดยสายนครศรีธรรมราช มี แบง่ เป็น 3 กลุ่มยอ่ ย คือ ภาษากระบ่ี ภาษานครศรี ท่งุ สง ตรัง
ควนขนุน และภาษาหัวไทร และภาษาสงขลา มี 2 กลุม่ ย่อย คือ ภาษาสงขลาและระโนด กบั ภาษายะลา สตลู
ในส่วนของกลุ่มภาษาตากใบ มลี กั ษณะแตกต่างจากภาษาไทยถ่นิ ใต้อ่นื ใชพ้ ดู อยู่แถว อำเภอตากใบ สุไหงปาดี
สุไหงโกล แว้ง สายบรุ ี ยะหร่ิง ปานาเระ มายอ และรฐั กลันตันในมาเลเซีย เชน่ อำเภอตุมปดั โกตาบารู และ
บาเจาะ

ภาษาไทยถิน่ ใตม้ ึความแตกต่างไปจากภาษาไทยถ่นิ กลางหรือภาษากรงุ เทพ ซึ่งเป็นภาษาถนิ่
หน่ึงของภาคกลาง แต่ความแตกต่างนัน้ มีไม่มากพอท่จี ะทำให้เป็นคนละภาษา จึงเป็นภาษาเดียวกัน แตท่ ่ี
แตกต่างในสำเนยี งหรอื คำพูด เพราะเกิดจาก สงิ่ แวดล้อม สภาพทางภูมิศาสตร์ สังคม เศรษฐกจิ การดำรงอยู่
ของคนในสมยั ก่อน ทำใหส้ ภาพของวัฒนธรรม ประเพณี ภาษาจึงแตกตา่ งกนั ไป

ชาวสยามทางฝ่ังกลันตนั ตรังกานจู ะใชภ้ าษาถิ่นตากใบกนั ในขณะที่ชาวสยามในเคดาห์ (ไทร
บรุ ี) สว่ นใหญ่จะใชส้ ำเนียงสงขลา-นครศรี ทุกวนั นี้ สำเนยี งตากใบ-เจ๊ะเห ยังมีความใกล้เคียงกบั สำเนียงสุโขทัย

มาก [ตลอดจนสำเนยี งสุพรรณ (สุพรรณภมู ิ-พระรว่ ง ก็ใกลช้ ดิ กนั มาก) ซ่ึงสำเนียงเหนอ่ เหลา่ นี้ เป็นสำเนยี ง
ดั้งเดิม สำเนียงหลวงของอยุธยาก็เปน็ สำเนียงเหน่อ สว่ นสำเนียงไทยราชการ (กทม.) เป็นสำเนยี งไทยเชือ้ สาย
จนี เพราะเดิมบางกอกเป็นชุมชนชาวจนี ] สำเนียงตากใบ-เจ๊ะเห เป็นสำเนยี งทีม่ ีวิวฒั นาการใกล้ชดิ มาจาก
สำเนียงสโุ ขทยั หลายคำเปน็ ภาษาเขมรเกา่ ก็มี ทำให้บางคำตรงกับคำราชาศพั ท์ทใ่ี ชก้ นั อยู่ เช่น กางเกง ยงั
เรียกหนบั เพลากม็ ี ร่มเรียกกลด ครับ นอกจากนี้ในปัจจบุ ันกจ็ ะมภี าษามลายูถิ่นปะปนอยดู่ ้วยเช่นเดียวกับ
ภาษาใต้สำเนยี งอ่ืน ๆ หากไปตมุ ปตั กลนั ตนั มาเลย์ ฯ เขากจ็ ะบอกวา่ บรรพบรุ ุษเขา มาจากอยธุ ยา
ทำให้ ยะหริง่ ปะนาเระ สายบุรี ไมแ้ ก่น (ปัตตาน)ี และ นราธวิ าส พูดภาษาเหนอ่ กรงุ เก่า จนถึงปจั จบุ นั
(เศรษฐกจิ และทนุ ชุมชน สุราษฎรธ์ านี, 2561)

1.2) ไดร้ ับร้คู วามแตกต่างของภาษาถ่ินใต้ในแต่ละพน้ื ท่ี
ภาษาถิน่ ใตเ้ ปน็ ภาษาถิน่ ทีใ่ ช้กนั ในภาคใต้ แต่ละพื้นทก่ี จ็ ะมคี วามแตกต่างของสำเนียง บาง

พน้ื ทมี่ ีความแตกตา่ งกนั โดยสนิ้ เชิง ดังข้อมลู ต่อไปนี้
ภาษาถิ่นใตส้ งขลา

ภาษาใต้สำเนียงสงขลา สว่ นใหญจ่ ะมีในจังหวดั สงขลา และบางสว่ นก็จะมจี งั หวดั ยะลาและปตั ตานีท่ี
พดู สำเนียงน้ี ซงึ่ มีลกั ษณะเด่นคือ หางเสียงจะหว้ น แตจ่ ะค่อยๆเบาเสียงลงไป ทำใหภ้ าษาใตก้ ลุ่มนี้ ฟงั แล้วดูไม่
หยาบกระด้างและแข็งจนเกนิ ไป นอกจากน้ี คำทโ่ี ดง่ ดงั เปน็ ท่ีร้จู ักของภาษาใต้สำเนยี งสงขลา คอื คำว่า "กะ
เบอะ" ซึง่ มีความหมายในภาษากลาง แปลว่า เพราะว่า กเ็ พราะวา่
ภาษาถิ่นใตต้ ะวันออก (นครศรีธรรมราช)

ภาษาถ่ินใตต้ ะวันออก สว่ นใหญ่จะใชก้ ันในจังหวัดทีอ่ ยู่ทางฝงั่ ทะเลอ่าวไทย บรเิ วณจังหวัด
นครศรธี รรมราช พทั ลุง สงขลา ปตั ตานี รวมทัง้ จังหวดั ตรัง และสตูล ซึ่งภาษาถ่ินใต้ตะวันออกน้จี ะออกเสียง
ตวั สะกด ก ไก่ ได้ชดั เจน ไม่มีผดิ เพย้ี น
ภาษาถ่นิ ใต้ตะวันตก

ภาษาไทยถน่ิ ใตก้ ลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะพดู กันทั่วไปในฝ่งั ทะเลอันดามนั บรเิ วณพื้นท่จี ังหวัดกระบี่ พังงา
ภเู กต็ ระนอง สรุ าษฏร์ธานี และชุมพร พ้นื ทีบ่ างส่วนของนครศีธรรมราช อาทิ บา้ นฉวาง บา้ นพิปูน บ้านทุง่
ใหญ่ โดยสงั เกตงา่ ยๆ จากการออกเสียงคำว่า "สแี่ ยก" เป็น "ส่ีแยะ"
ภาษาถนิ่ ใตเ้ จะ๊ เห

ภาษาใต้สำเนยี งตากใบ ส่วนใหญจ่ ะพดู กนั ในพืน้ ที่จงั หวดั นราธิวาส และบางสว่ นของจังหวัดปตั ตานี
รวมทั้งในเขตรฐั กลนั ตนั ของประเทศมาเลเซยี โดยในหม่บู า้ นท่ีพดู ภาษาไทย กม็ ักจะใช้สำเนยี งใต้กลุ่มนี้พูดกัน
ภาษาถิ่นใต้พิเทน

ภาษาไทยถน่ิ ใตส้ ำเนยี งพิเทน เปน็ ภาษาถ่นิ ย่อยของภาษาไทยถน่ิ ใตส้ ำเนยี งตากใบที่ใชอ้ ยู่ในตำบลพิ
เทน อำเภอทงุ่ ยางแดง และตำบลกะรุบี อำเภอกะพอ้ จังหวดั ปัตตานี แต่ในปัจจบุ นั คนในพืน้ ท่ีตำบลพิเทนสว่ น
ใหญ่จะไม่พูดภาษาไทยถนิ่ ใต้สำเนียงพเิ ทนกนั แลว้ แตจ่ ะพูดภาษาถน่ิ ใต้สำเนยี งปตั ตานแี ทน ด้วยความนิยม
ของคนในปจั จุบนั แต่จะมกี ลุ่มที่สมารถพดู ภาษาดงั กล่าวได้คอื ผู้อาวุโสท่ีอยกู่ ันมายาวนานแลว้ (หาดใหญ่
โฟกัส, 2560)

1.3) ไดร้ บั รู้ภาษาถิน่ มลายูทางใต้
คนสว่ นใหญอ่ าจจะยังไม่ทราบว่าทางตอนใต้ของประเทศไทยไม่ไดม้ ีแคภ่ าษาใตอ้ ยา่ งเดียว

แตย่ ังมีภาษามลายใู นสามจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ดังข้อมูลต่อไปน้ี
ภาษามลายถู น่ิ ที่พดู ในห้าจังหวดั ชายแดนภาคใตส้ ามารถแบ่ง ออกเปน็ สองถน่ิ ได้แก่ ภาษา

มลายถู ่นิ ปตั ตานีและภาษามลายถู ่นิ สตูล ภาษามลายูถิน่ ปัตตานี ประกอบดว้ ยเกา้ ถ่ินยอ่ ย ส่วนภาษามลายถู น่ิ
สตูลประกอบดว้ ยสามถ่ินย่อย ภาษามลายปู ัตตานี โบราณมีหน่วยเสยี งพยญั ชนะ 23 หน่วย หน่วยเสียงสระ
เดี่ยว 10 หน่วย และหนว่ ยเสียงสระผสม 4 หน่วย ในขณะทภี่ าษามลายสู ตูลโบราณมหี น่วยเสยี งพยญั ชนะทั้ง
19 หนว่ ย หน่วยเสยี งสระ เด่ยี ว 8 หน่วย และหนว่ ยเสยี งสระผสม 2 หนว่ ย ภาษามลายูถ่ินปัตตานีสามารถ
แบง่ ออกเปน็ สอง กลุ่มไม่วา่ จะใชเ้ กณฑ์เสยี งหรือศัพทเ์ ปน็ เกณฑ์ คือ ภาษามลายถู นิ่ ปตั ตานกี ลมุ่ ตะวันออกและ
กลมุ่ ตะวนั ตก อยา่ งไรก็ตามมีความแตกตา่ งเล็กน้อยในรายละเอียด ส่วนภาษามลายูถน่ิ สตลู สามารถแบ่ง
ออกเปน็ สองกลุม่ ไมว่ ่าจะใชเ้ กณฑ์เสยี งหรือศัพท์เป็นเกณฑเ์ ช่นเดียวกัน คือ ภาษา มลายูถิ่นสตูลกลมุ่
ตะวันออกและกลุม่ ตะวันตก (รสุ ลัน อุทยั , 2557)

2. ลกั ษนะสำคัญของภาษาถ่ินใต้
2.1) เอกลักณข์ องภาษาถ่ินใต้
ภาษาใตใ้ นแต่ละพนื้ หรือแต่ละจงั หวัดยอ่ มมคี วามแตกต่างโดยเฉพาะสำเนยี งที่เปล่ง

เสียงออกมานั้นแสดงถึงเอกลักษณ์ของภาษาในพน้ื ทีน่ ั้นๆ
ภาษาใต้ เป็นหนงึ่ ในภาษาไทยทมี่ มี นตเ์ สนห่ น์ ่ารักๆบางอย่าง แอบแฝงอยใู่ นแตล่ ะถ้อยคำที่

เปล่งออกมา แต่ภาษาใต้เป็นภาษาทไ่ี ม่มภี าษาเขยี นตายตวั โดยเปน็ ภาษาทีใ่ ชก้ ันในภาคใต้ของ
ประเทศไทย นบั ตั้งแตช่ ุมพรลงไปจรดชายแดนใต้ บางสว่ นของจงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์เอง ทุกวนั นี้ก็
ยังคงใช้ภาษาใต้กันอยู่ (ปัจจุบันประจวบฯอยภู่ าคกลาง) ชุมชนในพ้ืนท่ปี ระเทศมาเลเซีย ตรงสว่ นท่ี
เคยเป็นเขตปกครองของประเทศไทย โดยเฉพาะสว่ นของชมุ ชนไทรบุรี รฐั เคดาห์ กย็ ังคงมีการใช้
ภาษาใตอ้ ยเู่ ช่นเดยี วกัน (หาดใหญ่โฟกสั , 2560)

2.2) การออกเสยี งของภาษาถิ่นใต้
ตวั อย่างบางส่วนวิธกี ารออกเสยี งสำเนยี งใต้ มีดงั น้ี
ภาษาถน่ิ ใต้ท่ีสื่อสารกันใน 14 จงั หวดั ทางภาคใต้ ได้แก่ ชมุ พร ระนอง สรุ าฏธานี ภู

เกต พทั ลุง สงขลา นครศรีธรรมราช กระบ่ี พังงา ตรัง สตูล ยะลา ปตั ตานี นราธิวาส และบางส่วน
ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ภาษาใต้ : ภาษากลาง
• ชมพู่ - ฝรัง่
• เนือย - หิว
• สม้ นาว – มะนาว
• น้ำเตา้ - ฟกั ทอง
• นำ้ ชุบ - พริก
• ตอ่ เชา้ - พรงุ่ น้ี
• แหลง - พูด
• หรอย – อร่อย
(Campus star, 2562)
2.3) ภาษามลายเู ปน็ ภาษาหน่ึงที่อย่ทู างภาคใต้
ชาวมลายใู นประเทศไทยสว่ นใหญพ่ ูดภาษามลายูปตั ตานี (บาซอยาวี/ตานี) อย่างไร
ก็ตาม ใชว่ า่ ชาวไทยเชอ้ื สายมลายูทุกคนสามารถพดู ภาษามลายูปัตตานไี ด้ เพราะชาวไทยเชอ้ื สายมลายู
บางสว่ นในจงั หวดั สตูลและบรเิ วณใกลเ้ คียงพดู ภาษามลายูสตูล ในขณะที่ชาวมลายูในกรงุ เทพได้พัฒนาสำเนยี ง
ของตนเองไปเป็นภาษามลายูบางกอก ชาวกรงุ เทพ สตลู และปัตตานีมีความใกลช้ ดิ กันและมีคำศัพท์ใกล้เคยี ง
กัน แตไ่ ม่สามารถเขา้ ใจในบางคำ
กล่มุ เชอ้ื ชาติมลายูส่วนใหญ่ในจงั หวดั สตลู (และเปน็ ชนกลุ่มนอ้ ยในจงั หวัดพัทลุง
ตรัง, กระบี่, พังงา และสงขลา เชน่ เดียวกันกับรัฐในประเทศมาเลเซยี เชน่ รัฐเกอดะฮ์, รัฐเปรัก และรฐั ปะลสิ )
เปน็ กลุ่มชาติพนั ธ์ุท่ีแตกตา่ ง ซ่ึงโดยท่วั ไปนบั ถือศาสนาอิสลาม แตม่ ีความเป็นไทย (กบั อิทธพิ ลมลายบู างส่วน)
และพดู ภาษาไทยถ่ินใต้ท่มี ีคำยืมภาษามลายบู างส่วน (วิกิพีเดยี , 2564)

สรุป
การศกึ ษาเกีย่ วกับภาษาใต้มคี ุณประโยชน์หลายหยา่ ง เช่น ทำให้เขา้ ใจทีม่ าของภาษาใต้ในอดตี กว่าจะ

มาเปน็ ภาษาใต้ที่ใช้กนั ในปัจจุบัน อกี ทง้ั ยังไดร้ บั รับรู้วา่ ภาษาใต้ในแต่ละพ้ืนที่จะใช้สำเนียงทแ่ี ตกตา่ งกัน และ
ในภาคใต้ไมไ่ ด้มแี คภ่ าษาใต้อยา่ งเดียวแต่ยงั มีภาษายาวี หรือภาษามลายูทใ่ี ชก้ นั ในพน้ื ท่ีสามจังหวดั ชายแดน
ภาคใต้อีกด้วย

บรรณานกุ รม

เรอื งเดช ปันเข่ือนขตั ิย์. (2525) ภาษาถน่ิ กระกูลไทยพร้อมท้ังกระกูลภาษาต่างๆ ประเทศไทย
ประเทศไทย. นครปฐม : สถาบนั วจิ ยั ภาษาและวัฒนธรรมเพอ่ื พัฒนาชนบท
มหาวทิ ยาลัยมหิดล.

เอมอร เชาวน์สวน. (2537) การศกึ ษาเปรยี บเทยี บคำศัพท์ภาษาลาวในจงั หวดั นครปฐม และ
ภาษาลสงในแขวงบ่อแกว้ ประเทศสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว. (ม.ป.ท)

ประคอง นิมมานเหมนิ ท.์ (2547) มองภาษา. กรุงเทะ : แม่คำผาง
เศรษฐกจิ และทนุ ชมุ ชน สรุ าษฎร์ธานี. (2561) “ภาษาไทยถิ่นใต้” สบื คน้ เมื่อ 28 ตุลาคม 2564.

จาก https://web.facebook.com
รสุ ลัน อุทยั . (2557) การจัดกลุ่มภาษามลายูถนิ่ ในเขต 5 จังหวดั ชายแดนภาคใต้.

กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกองทนุ สนบั สนุนการวจิ ยั .
หาดใหญ่โฟกัส. (2560) “ภาษาใต้แต่ละท้องถ่ิน” สืบค้นเมื่อ 28 ตลุ าคม 2564.

จาก https://www.hatyaifocus.com
Campus star. (2562) “ภาษาถ่นิ ใต้” สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2564.

จาก https://campus.campus-star.com


Click to View FlipBook Version