The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by vararat, 2022-01-07 23:17:16

การพัฒนาคุณภาพสมุนไพรพลูคาวเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในตลาดโลก

การพัฒนาคุณภาพสมุนไพรพลูคาว

Keywords: พลูคาว

การพัฒนาคุณภาพสมนุ ไพรพลูคาว
เพื่อสรา้ งมลู คา่ เพม่ิ ในตลาดโลก

วรารัตน์ ศรีประพัฒน์ ประกาย ออ่ นวมิ ล
สพุ ินญา บญุ มานพ ภุมรนิ ทร์ วณชิ ชนานนั ท์
มัลลิกา แก้ววเิ ศษ ขนิษฐา วงศ์วัฒนารตั น์



การพฒั นาคุณภาพสมุนไพรพลูคาว
เพ่อื สรา้ งมูลคา่ เพม่ิ ในตลาดโลก

วรารัตน์ ศรีประพัฒน์ ประกาย ออ่ นวมิ ล
สุพินญา บญุ มานพ ภุมรนิ ทร์ วณชิ ชนานนั ท์
มลั ลกิ า แก้ววเิ ศษ ขนิษฐา วงศ์วัฒนารตั น์

การพฒั นาคุณภาพสมนุ ไพรพลคู าวเพื่อสรา้ งมลู คา่ เพิม่ ในตลาดโลก

ข้อมลู ทางบรรณานกุ รม
การพฒั นาคณุ ภาพสมุนไพรพลคู าวเพ่อื สรา้ งมูลค่าเพิ่มในตลาดโลก.
พิมพ์ครงั้ ท่ี 1. 2564. 20 หน้า.

คณะผูจ้ ัดทาํ
วรารัตน์ ศรีประพฒั น์
สาํ นักวิจัยพฒั นาเทคโนโลยีชวี ภาพ กรมวชิ าการเกษตร
ประกาย ออ่ นวมิ ล
สํานักวจิ ยั พัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวชิ าการเกษตร
สพุ นิ ญา บุญมานพ
สาํ นกั วจิ ยั พฒั นาเทคโนโลยีชวี ภาพ กรมวชิ าการเกษตร
ภุมรินทร์ วณิชชนานนั ท์
สาํ นักวิจยั พัฒนาเทคโนโลยชี ีวภาพ กรมวชิ าการเกษตร
มัลลิกา แก้ววเิ ศษ
สาํ นักวิจยั พัฒนาเทคโนโลยีชวี ภาพ กรมวิชาการเกษตร
ขนษิ ฐา วงศ์วฒั นารัตน์
สาํ นกั ผู้เช่ียวชาญ กรมวิชาการเกษตร

พมิ พค์ รง้ั แรก : กนั ยายน 2564
จํานวนทพ่ี ิมพ์ : 200 เล่ม
พมิ พท์ ่ี : ห้างหุ้นส่วนจํากัด พรี-วัน 50 อาคารยู อเวนิว ชั้นที่ 2

ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
10900

คาํ นํา

สมุนไพรเป็นพืชท่ีมีประโยชน์ สามารถนํามาใช้ประโยชน์ท้ังทาง
ด้านการแพทย์ หรืออาจนํามาประกอบเป็นอาหารประจําวันเพ่ือบํารุงรักษา
ร่างกายได้ ปัจจุบันนี้พืชสมุนไพรจํานวนไม่น้อยมีคุณสมบัติเป็นพืชเศรษฐกิจ
ซึ่งพลูคาว (Houttuynia cordata Thunb) เป็นสมุนไพรท่ีมีความสําคัญ
ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมการผลิตยา เคร่ืองสําอาง รวมทั้งอุตสาหกรรม
ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อ า ห า ร เ ส ริ ม แ ล ะ เ ค ร่ื อ ง ดื่ ม เ พ่ื อ สุ ข ภ า พ ไ ด้ ใ ห้ ค ว า ม ส น ใ จ
เนื่องจากพลูคาวสามารถแปรรูปเป็นยารักษาโรคต่างๆ ได้ เช่น ยายับย้ัง
แบคทีเรียและไวรัส ยาขับปัสสาวะ ยาลดอาการบวมนํ้า ยาแก้โรคผิวหนัง
และแกผ้ น่ื คัน เปน็ ตน้ อยา่ งไรกต็ ามเนื่องจากการบริหารจัดการสมุนไพรท่ีไม่
เป็นระบบจึงส่งผลให้เกิดการขาดแคลนวัตถุดิบ คุณภาพวัตถุดิบไม่ผ่าน
มาตรฐาน และมีปัญหาดา้ นการกําหนดมาตรฐานคุณภาพวตั ถุดิบ

จากการวิจัยของสํานักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการ
เกษตร ภายใต้การสนับสนุนจากสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริม
วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้พัฒนากระบวนการผลิตพืช
สมุนไพรพลูคาวสายพันธ์ุไทยในสภาพปลอดเช้ือเพื่อให้ได้พืชสมุนไพร
ท่มี คี ุณภาพ ปราศจากการปนเป้อื นสารพษิ และสิ่งเจือปน ซึ่งจะเป็นทางเลือก
ในการปลูกพืชที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการวิจัยและพัฒนา รวมท้ังควบคุม
คณุ ภาพมาตรฐานในการผลิตสมุนไพรพลูคาวในเชงิ พาณิชยต์ ่อไป

คณะผู้จัดทาํ
สงิ หาคม 2564

สารบญั หนา้
5
สมนุ ไพรพลคู าว 7
ฤทธ์ิทางชวี ภาพของสมนุ ไพรพลคู าว 9
พลคู าวใช้ตา้ นโควดิ -19 ได้จริงหรอื ? 11
สารพฤกษเคมที ีพ่ บในพลคู าว 14
การเพิ่มศักยภาพการผลติ สมุนไพรพลคู าว 20
บรรณานกุ รม

สมุนไพรพลูคาว

พลูคาวมีช่ือเรียกตามท้องถิ่นแตกต่างกันไป ได้แก่ ผักก้านตอง
ผักคาวปลา ผักเข้าตอง ผักคาวทอง ฮื่อชอเช่า และห้ือแชเช่า เป็นต้น
พลูคาว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Houttuynia cordata Thunb.
จัดอยู่ในวงศ์ Saururaceae มีลักษณะเป็นพืชล้มลุกมีอายุอยู่ได้หลายปี
มีกล่ินคล้ายคาวปลา ลําต้นสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร มีลักษณะกลม
สีเขียวหรือแดง ใบเป็นใบเด่ียวคล้ายรูปหัวใจ ดอกออกเป็นช่อมีดอกย่อย
ขนาดเล็ก กลีบรองช่อดอกสีขาว 4 กลีบ พลูคาวเป็นพืชที่ต้องการร่มเงา
มักเจริญเติบโตได้ในสภาพท่ีมีความชื้นสูง และเป็นบริเวณที่ได้รับแสงแดด
ไม่มากนักหรือได้รับแสงแดดไม่ตลอดทั้งวัน สามารถเจริญเติบโตได้ใน
ดินร่วนท่ีมีความอุดมสมบูรณ์สูงจนถึงดินทรายท่ีมีปริมาณธาตุอาหาร
บางชนิดคอ่ นข้างต่าํ พลคู าวสามารถขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ ปกั ชาํ

5

พลูคาวจัดเป็นหน่ึงในสมุนไพรที่ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมยา
อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพและเคร่ืองดื่มให้ความสนใจ
ที่จะนํามาใช้ในปัจจุบัน เน่ืองจากพลูคาวสามารถแปรรูปเป็นยารักษาโรค
ต่างๆ ได้ เช่น ยายับยั้งแบคทีเรียและไวรัส ยาขับปัสสาวะ ยาแก้โรค
ผวิ หนังและผ่นื คัน เป็นต้น

โดยไวน์สมุนไพรจากพลูคาวนั้นเป็นสินค้าหน่ึงตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
(OTOP) และได้รับรางวัลให้เป็นสินค้าดีเด่นของภูมิภาค ซึ่งเป็นการเพิ่ม
มูลค่าทางการตลาดและเป็นโอกาสในการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกร
และยังเป็นการเพ่ิมรายได้ให้กับชุมชน ไม่เพียงแต่ตลาดในประเทศไทย
เท่านั้น จากการสํารวจตลาดเคร่ืองด่ืมชาเพ่ือสุขภาพ ในประเทศจีนพบว่า
ชาทีม่ สี ่วนผสมของพลคู าวเป็นที่นิยมมากเป็นอันดับ 4 ในตลาดการขายชา
ในเขตเฉาซานของประเทศจีน นอกจากนี้ในประเทศอังกฤษและเกาหลี
ยงั นิยมใช้สมนุ ไพรพลูคาวเป็นส่วนประกอบในผลิตภณั ฑ์เครอื่ งสําอางต่างๆ
เชน่ ครีมบํารุงผวิ ครีมทาสวิ และแผน่ มาส์กหน้า เปน็ ตน้

6

ฤทธท์ิ างชีวภาพของสมนุ ไพรพลูคาว

พลูคาวมีสรรพคุณในตํารับยา
สมุนไพรแผนโบราณ ในประเทศต่างๆ
จงึ นิยมใช้เพ่ือรักษาโรค ดังน้ี

ป ร ะ เ ท ศ จี น มี ก า ร ใ ช้ ส มุ น ไ พ ร
พลูคาวในการรักษาโรคกลากเกล้ือน
โรคไข้มาลาเรีย โรคลมแดด ปอดอกั เสบ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และลําไส้
อกั เสบ เป็นตน้
ประเทศญี่ปุ่นมีการใช้สมุนไพรพลูคาวเพ่ือเป็นยาขับปัสสาวะ รักษา
แผลในกระเพาะอาหาร ยับย้ังการติดเช้ือแบคทีเรียแกรมบวกกลุ่มท่ี
สรา้ งสปอร์ เป็นตน้
ประเทศเกาหลีมีการใช้สมุนไพรพลูคาวเพ่ือรักษาอาการไอ สิว
กลากเกล้ือน เริม ตกขาว มดลูกอักเสบ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ
และไซนัสอกั เสบ เปน็ ต้น
ประเทศอินเดียมีการใช้สมุนไพรพลูคาวเพ่ือรักษาช่วยให้สดชื่น
ชว่ ยใหห้ ลบั สบาย และรกั ษาอาการโรคหวั ใจ เปน็ ตน้
สําหรับประเทศไทยมีการใช้สมุนไพรพลูคาวเพ่ือกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
เป็นสารต้านมะเร็ง รักษาภูมิแพ้ เบาหวาน และใช้เป็นยาต้านการอักเสบ
เป็นต้น

7

นอกจากการใช้เป็นยาแล้ว สมุนไพรพลูคาวยังถูกใช้เป็นอาหาร
และเครื่องสําอาง ซ่ึงในประเทศญ่ีปุ่นและเกาหลีมักจะใช้สมุนไพรพลูคาว
ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เพ่ือเป็นเครื่องสําอางสําหรับการป้องกันหรือ
รักษารว้ิ รอย ปรบั ปรุงสภาพผวิ และกําจดั ฝา้

นอกจากน้ีพบว่ามีการใช้สารสกัดพลูคาวหมักกับสมุนไพรชนิดอ่ืน
เพ่ือรักษาโรคผิวหนัง เนื่องจากสามารถช่วยลดการอักเสบ ลดอาการคัน
และให้ความชมุ่ ชน้ื แก่ผิวหนงั ซึ่งปัจจุบนั พบว่ามีการใชส้ ารสกัดพลูคาวเพื่อ
เป็นส่วนผสมในแชมพูเพื่อการบํารุงเส้นผม และป้องกันปัญหารังแค และ
ยังมีการใช้เปน็ สว่ นผสมในครีมมาส์กนวดหน้าเพื่อรักษารอยแผลเป็นที่เกิด
จากสวิ เกล้ือน กระ และฝ้า

ผลิตภณั ฑ์เคร่อื งสําอางท่มี ีสว่ นผสมของสมุนไพรพลคู าว

https://skinlibrary.co.uk/blogs/librarian-edits/houttuynia-cordata

8

พลคู าวใชต้ า้ นโควิด-19 ไดจ้ รงิ หรอื ?

เม่ือวันท่ี 12 กุมภาพันธ์ 2563 องค์การอนามัยโลก (WHO)
ได้ประกาศการอุบัติใหม่ของโรคติดเชื้อในทางเดินหายใจขั้นรุนแรง
โดยมีช่ือเป็นทางการว่า “โควิด-19” (Covid-19) (WHO, 2019) ซึ่งเม่ือ
ตรวจสอบสายวิวัฒนาการพบว่าไวรัสโคโรนา 2019 และเชื้อไวรัส
โ ค โ ร น า ที่ ทํ า ใ ห้ เ กิ ด โ ร ค ร ะ บ บ ท า ง เ ดิ น ห า ย ใ จ เ ฉี ย บ พ ลั น ร้ า ย แ ร ง
หรือโรคซาร์ส (SARS-CoV) มีลําดับนิวคลีโอไทด์คล้ายคลึงกันของ
ถึง 89.1% และมีโมเลกุลเป้าหมายที่ใช้พัฒนายารักษาโรคถึง 95%
ตัวอย่างเช่น angiotensin-converting enzyme 2 (ACE2) ที่มีบทบาท
ในการนําเช้ือไวรัสโควิด-19 เข้าสู่เซลล์ พบว่ามีความคล้ายคลึงกับท่ีพบ
ในไวรัสโคโรนาทําให้เกิดโรคซาร์ส ดังนั้นการยับยั้งการทํางานของ ACE2
อาจเป็นหนึ่งในแนวทางท่ีอาจจะสามารถป้องกัน หรือลดความรุนแรง
ในการเกดิ โรคโควดิ -19 ได้

แบบจําลองการใช้สารพฤกษเคมีเพ่ือยับย้ังเชื้อไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคซาร์ส

(SARS-CoV) 9

จากงานวิจัยพบว่าพลูคาวสามารถลดการเกิดอาการต่างๆ ท่ีพบ
ในโรคซาร์ส เช่น ฝีในปอด เมือกในปอด และปอดบวม เป็นต้น
โดยผลจากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าสารสกัดของพลูคาวมีประสิทธิภาพ
ในการกระตุน้ ใหม้ ีการเพมิ่ จํานวนของเซลล์ CD4+ และ CD8+ ซึ่งเป็นเซลล์
เม็ดเลือดขาวชนิด T ที่เก่ียวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของเซลล์ นอกจากน้ี
พบว่าสารสกัดนํ้าจากพลูคาวสามารถยับยั้งการทํางานของเอนไซม์
SARS-CoV 3CLPro ที่เป็นเอนไซม์ท่ีเกี่ยวข้องกับการเพิ่มจํานวนของ
เชื้อไวรัสโคโรนาที่ทําให้เกิดโรคซาร์ส ดังนั้นพลูคาวจึงเป็นหนึ่งในสมุนไพร
ที่ประเทศจีนเลือกมาใช้ในการป้องกันรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งสามารถช่วย
ลดไข้ ไอ เสมหะ เหนอ่ื ย และอาการหายใจลําบากในผปู้ ่วยได้

10

สารพฤกษเคมีที่พบในพลูคาว

สารพฤกษ์เคมีหรือสารสําคัญที่พบในพลูคาว ได้แก่ ฟลาโวนอยด์
(flavoniods) สเตอรอล (sterols) แอลคาลอยด์ (alkaloids) กรดอินทรีย์
และกรดไขมัน (organic acid and fatty acid) กรดอะมิโน (amino
acid) และน้ํามันหอมระเหย (essential oil) เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะพบ
กลุ่มสาร flavoniods มากกว่ากลุ่มสารอื่น ทั้งในส่วนของใบ ลําต้น และ
ช่อดอก ซึ่งจากการตรวจหาสารประกอบทางเคมีในใบของพลูคาว
พบสารประกอบหลักท่ีสําคัญดงั น้ี
1. ฟลาโวนอยด์ (flavonoid)

Flavonoid ในพลูคาวมักพบในรูป flavonoid glycosides
เป็นกลุ่มสารสําคัญหรอื สารออกฤทธิ์ท่มี ีในปริมาณมากท่ีสุด สามารถพบได้
ในส่วนของใบ กิ่งและช่อดอก ได้แก่ quercitrin, rutin, hyperin, afzalin
และ isoquercitrin ซง่ึ flavonoid glycosides มักพบบริเวณใบมากทสี่ ุด

11

โครงสรา้ ง Flavonoids

2. นาํ้ มนั หอมระเหย (essential oil)
Essential oil ท่ีพบในพลูคาวมีอยู่ร้อยละ 0.005 โดย essential oil

ที่พบ ได้แก่ methyl n-nonyl ketone, ß-myrcene, houttuynin,
decanal, trans-caryophyllene, de-canoic acid, camphene, ß-
pinene, lauraldehyde, bornyl acetate, α-pinene, limonene, 4-
terpineol, caryophyllene oxide, nonanol และ linalool เป็นต้น

3. กล่มุ สารแอลคาลอยด์ (alkaloids)
กลุ่มสาร alkaloids ท่ีพบในพลูคาวมีอยู่ 2 กลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่มแรก

เป็นอนุพันธุ์ของ pyridine และ 1, 4 – dihydropyridine และกลุ่ม
ที่เป็นอนุพันธุ์ของ aporphine ได้แก่ Aristolactam A, Aristolactam B,
Piperolactam A, Lysicamine, Noraritolodione เปน็ ตน้

12

4. กรดอินทรยี ์และกรดไขมัน (Organic acid and fatty acid)
จากการวิเคราะห์ด้วย Gas Chromatograph (GC) พบว่าพลูคาวมี

organic acid และ fatty acid หลายชนิด เช่น palmitic acid, stearic
acid, heptanoic acid, nonanoic acid, undecanoic acid, octanoic
acid, hexanoic acid, lauric acid, capric acid, heptadecanoic
acid, tetradecanoic acid, aspartic acid, glutamic acid capric
acid, lauric acid และ palmitic acid เปน็ ตน้

5. สเตอรอล (Sterols)
สารในกลุ่มสเตอรอลท่ีมักพบในพลูคาว ได้แก่ Stigmast-4-en-3-

one, 3ß-hydroxystigmast-5-en-7-one, 5α-stigmastane-3,6-dione
และ stigmast-4-ene-3,6-dione เปน็ ต้น

6. กรดอะมโิ น (Amino acid)
ในพลูคาวพบว่ามีกรดอะมิโนมากกว่า 20 ชนิด เช่น alanine,

valine, glutamic acid, aspartic acid, isoleucine, proline, leucine,
glycine, serine, lysine, cystine, tyrosine, histidine, methionine,
phenylalanine, threonine, citrulline, tryptophane, arginine
และ hydroxyproline โดยพบว่า glutamic acid มีปริมาณมากสุด
รองลงมาคอื leucine และ aspartic acid

13

การเพิ่มศักยภาพการผลิตสมนุ ไพรพลคู าว

ปัจจุบันสมุนไพรพลูคาวถูกนํามาแปรรูปเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบ
ในยารักษาโรค เคร่ืองสําอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องด่ืม
เพื่อสุขภาพ เนื่องจากพลูคาวมีสารพฤกษ์เคมี เช่น ฟลาโวนอยด์ สเตอรอล
แอลคาลอยด์ กรดอนิ ทรีย์ กรดไขมนั นาํ้ มนั หอมระเหย และกรดอะมโิ น

อย่างไรก็ตามเป็นท่ีทราบกันดีว่าปริมาณสารพฤกษ์เคมีหรือสําคัญ
ในพืชมักแปรผันตามสภาพแวดล้อมหรือพ้ืนท่ีเพาะปลูก นอกจากน้ีปัญหา
สําคัญในภาคการผลิตที่ส่งผลต่อการพัฒนาสมุนไพรไทยคือเกษตรกรผู้ผลิต
พืชสมุนไพรส่วนมากยังขาดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการผลิต
ท่ีเหมาะสม ทําให้ผลผลิตยังมีคุณภาพไม่ตรงตามที่ตลาดต้องการ ดังนั้น
จึงจําเป็นท่ีจะต้องพัฒนากระบวนการผลิตสมุนไพรพลูคาวให้เป็นท่ียอมรับ
สามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะ
สง่ ผลใหป้ ระเทศไทยสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแขง่ ขนั สงู ข้นึ

14

การเพาะเลย้ี งเนอื้ เย่อื สมนุ ไพรพลูคาว

การประยุกต์ใช้เทคนิคการเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือพืชเป็นทางเลือกหน่ึง
ในการผลิตพืชและสารสําคัญจากพืช ซ่ึงทําให้การผลิตสารสําคัญสามารถ
ทําได้อย่างต่อเน่ือง เพ่ือทดแทนการผลิตสารจากการเพาะปลูกพืชตาม
ธรรมชาติ ขั้นตอนการเพาะเลี้ยงเน้ือเยื่อสมุนไพรพลูคาวสามารถทําโดย
คัดเลือกต้นพลูคาวที่มีความสมบูรณ์ปราศจากโรคและศัตรูพืชที่มีอายุ
6 เดือน จากน้ันทําการตัดชิ้นส่วนบริเวณปลายยอดและข้อออกมา
จากกระถางเพาะเล้ยี ง แลว้ นาํ ช้นิ ส่วนพชื ท่ตี ัดได้มาล้างด้วยนํ้าสะอาด 2 ครั้ง
ตดั ใบสว่ นเกินออก แลว้ นาํ มาล้างทําความสะอาดเอาเศษดินท่ีติดมาออกด้วย
น้ํายาล้างจานจํานวน 1 ครั้ง และล้างนํ้าไหลผ่าน เป็นเวลา 15 นาที จากนั้น
นาํ ชน้ิ สว่ นพชื มาตดั เปน็ ท่อนสน้ั ๆ ทําความสะอาดชิ้นส่วนข้อและยอดพลูคาว
โดยฟอกฆ่าเชื้อชิ้นส่วนพืชด้วยแอลกอฮอล์ 95% เป็นเวลา 1 นาที
จากน้ันนําไปฟอกฆ่าเชื้อต่อด้วยสารฟอกฆ่าเช้ือหรือไฮเตอร์ 15% เป็นเวลา
15 นาที และไฮเตอร์ 5% เป็นเวลา 5 นาที เมื่อครบตามเวลาท่ีกําหนด
นําชิ้นส่วนไปล้างด้วยนํ้าที่ผ่านการนึ่งฆ่าเช้ือ 3 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที
ตัดชิ้นส่วนเน้ือเยื่อท่ีตายออกแล้วตัดชิ้นส่วนข้อให้ได้ความยาวประมาณ 1.5
เซนติเมตร จากนั้นนําไปเล้ียงบนอาหารสูตร MS ที่ปราศจากสารควบคุม
การเจรญิ เตบิ โตเปน็ ระยะเวลา 8 สปั ดาห์

15

จากนั้นทําการชักนําต้นพลูคาวให้เกิดยอดจํานวนมาก เพื่อประโยชน์
ในขยายพันธ์ุพืชปลอดเชื้อให้ได้ปริมาณมากอย่างรวดเร็ว โดยนําต้นพลูคาว
ท่ีอยู่ในสภาพเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อบนอาหารสูตร MS อายุประมาณ 2 เดือน
มาเพาะเลี้ยงบนอาหารแข็งสูตร MS ท่ีเติมน้ําตาลซูโครส 30 กรัมต่อลิตร
ผงวุ้น 2.5 กรัมต่อลิตร และสารควบคุมการเจริญเติบโตชนิด BA ท่ีระดับ
ความเข้มข้น 1 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยทําการเพาะเล้ียงในสภาพท่ีมีแสง
16 ชว่ั โมงต่อวัน ทอ่ี ุณหภมู ิ 25±2 องศาเซลเซียส

การอนุบาลต้นพืชท่ีได้จากการเพาะเล้ียงเนื้อเยื่อสามารถทําได้
โดยนาํ ขวดที่เพาะเลยี้ งพลูคาวที่มรี ากสมบรู ณ์มาปรับสภาพ โดยทําการคลาย
ฝาเกลียวแล้ววางไว้ท่ีอุณหภูมิห้องในบริเวณท่ีมีแสงเป็นระยะเวลา 3-7 วัน
จากน้ันนาํ ตน้ อ่อนพลคู าวออกจากขวดอยา่ งระมดั ระวงั อย่าให้ต้นและรากชํ้า
โดยอาจใช้ปากคีบดึงต้นอ่อนออกจากขวด ทําการล้างวุ้นอาหารที่ติดอยู่
บริเวณรากออกให้หมดด้วยนํ้าสะอาดอย่างน้อย 2 คร้ัง เนื่องจากหากมี
วนุ้ อาหารตกค้างอยู่บริเวณรากอาจจะเป็นตัวชักนําให้เกิดการเข้าทําลายของ
เชอื้ จุลนิ ทรีย์ได้

16

จากนั้นย้ายต้นกล้าไปปลูกในโรงเรือนเพาะชํา โดยปลูกในกระถาง
ขนาด 8 น้ิว วัสดุปลูก ดิน แกลบ กาบมะพร้าว อัตราส่วน 1 : 1 : 1 ทําการ
ควบคุมความช้ืนสัมพัทธ์เพ่ือลดการสูญเสียนํ้าโดยอนุบาลในกระถางที่คลุม
ดว้ ยพลาสตกิ เปน็ เวลา 2-3 วนั รดนา้ํ วันละ 1 ครง้ั นอกจากน้ีทําการควบคุม
ความเข้มแสง โดยอาจใช้ตาข่ายพรางแสงที่มีเปอร์เซ็นต์การพรางแสงสูง
ในชว่ ง 3-4 วันแรก เพอ่ื ลดการสงั เคราะห์แสง และลดการเปิดปิดของปากใบ
ที่ทําให้เกิดการคายนํ้าในต้นกล้า จากนั้นจึงลดเปอร์เซ็นต์การพรางแสง
ลงตามความเหมาะสมเพื่อให้ต้นอ่อนพลูคาวได้รับแสงมากขึ้นหลังจากการ
ปรับสภาพพืชเป็นระยะเวลา 1-3 สปั ดาห์ แล้วจึงยา้ ยไปยงั ระบบปลกู ตอ่ ไป

การเพิ่มปริมาณการผลติ สารสําคญั ในพลูคาว

ปจั จุบันในการผลิตพลูคาวเพื่อประโยชน์ด้านสมุนไพรเศรษฐกิจยังขาด
พันธุ์ที่ให้สารสําคัญท่ีสูงและสมํ่าเสมอ จึงควรมีการศึกษาการปลูกโดยใช้
สารกระตุ้นเพ่ือให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีสารสําคัญที่มีฤทธิ์ทางเภสัชใน
ปริมาณท่ีสูง ปราศจากการปนเปื้อนสารพิษและสิ่งเจือปนเป็นส่ิงสําคัญท่ีจะ
ทําให้ได้ผลิตภัณฑ์แปรรูปพลูคาวมีคุณภาพ การใช้อิลิซิเตอร์ (elicitor)
เพอ่ื สง่ เสริมการสรา้ งสารสําคัญในพืชสมุนไพรเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนา
เทคโนโลยีการผลติ พืชเพอ่ื เพ่มิ คณุ ค่าทางเศรษฐกิจใหก้ บั พืชสมนุ ไพร

17

โดย elicitor คือสารซ่ึงสามารถกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองในพืช
เช่น เพม่ิ การสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ และสารเมแทบอไลต์ทุติยภูมิ เป็นต้น
โดย elicitor แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือไบโอติกอิลิซิเตอร์ (biotic elicitors)
ได้แก่ สารท่ีมาจากเช้ือโรคหรือมาจากการทําปฏิกิริยาระหว่างพืชอาศัย
กับเชื้อก่อโรค และอไบโอติกอิลิซิเตอร์ (abiotic elicitors) ได้แก่ แสง UV
และไอออนของโลหะหนัก เป็นต้น ซึ่งจากงานวิจัยพบว่ากรดเมทิลจัสโมเนท
(methyl jasmonate) และกรดซาลิไซลิก (salicylic acid) สามารถกระตุ้น
การเจริญเติบโตและการสร้างสารสําคัญในกลุ่ม flavonoids ซึ่งเป็นสาร
มฤี ทธ์ทิ างเภสชั วิทยาของพลคู าวได้

18

การเพาะเลย้ี งพลูคาวในระบบไฮโดรโปนกิ ส์

เน่ืองจากปัญหาที่สําคัญที่มีผลต่อมูลค่าของผลผลิตสมุนไพรพลูคาว
คือการรบกวนของโรค โดยโรคท่ีสําคัญที่พบในพลูคาว คือโรคใบจุดและ
โรคต้นกล้าแห้งจากเช้ือรา (Sclerotium rolfsii) ซ่ึงการสะสมของโรค
ในต้นพันธ์ุพลูคาวทําให้พืชมีความอ่อนแอต่อการเข้าทําลายของเชื้อสาเหตุ
โรคอ่ืนๆ ส่งผลให้ได้ผลผลิตน้อยลง จึงเป็นเหตุให้การผลิตพลูคาวมีการใช้
สารเคมีป้องกันกําจัดโรคพืชเพิ่มมากขึ้น และผลผลิตจึงมีการปนเปื้อนของ
สารเคมีจากการป้องกันกําจัดโรค ซึ่งทางสํานักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ
กรมวิชาการเกษตร ได้ทดสอบปลูกต้นพลูคาวปลอดเชื้อในระบบท่ีไม่ใช้ดิน
พบว่าการปลูกพืชในระบบน้ีจะทําให้สามารถจัดปัจจัยต่างๆ เช่น นํ้า
แสง ธาตุอาหาร และอุณหภูมิให้แก่พืชได้อย่างเหมาะสม ต้นพลูคาว
สามารถเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ ปราศจากโรค ส่งผลให้
สามารถปลูกได้ต่อเนื่องตลอดท้ังปี และสามารถปลูกได้ในพ้ืนที่ไม่มีดิน หรือ
ดินไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืช ท้ังยังทําให้การใช้น้ําและใช้ปุ๋ยเป็นไปอย่างมี
ประสทิ ธิภาพ ซงึ่ จะเปน็ ทางเลอื กในการปลูกพชื ท่มี ีประสิทธิภาพเพ่ือการวิจัย
และพฒั นารวมท้งั ควบคุมคุณภาพมาตรฐานในการผลติ สมุนไพรพลคู าวในเชิง
พาณชิ ยต์ อ่ ไป

ลกั ษณะตน้ และรากพลคู าวทเ่ี ลี้ยงในระบบไฮโดรโปนิกสเ์ ปน็ เวลา 14 และ 30 วนั

19

บรรณานุกรม

ประภาส มาสขาว. 2552. คมู่ ือเรียนรู้พชื สมุนไพรพื้นฐาน. สาํ นักพิมพ์ ณ ดา. กรุงเทพฯ.
วราภรณ์ ภูตะลุน. 2551. การเพาะเล้ยี งเนอ้ื เย่ือพชื สมนุ ไพร : แนวทางการศึกษาเพ่ือผลิตสารทุติยภูมิท่ี

มีฤทธทิ์ างเภสัชวิทยา. สานกั พมิ พ์ขอนแกน่ พิมพพ์ ฒั นา. ขอนแกน่ . 120 น.
วรารัตน์ ศรีประพัฒน์, ประกาย อ่อนวิมล, ภุมรินทร์ วณิชชนานันท์, และสุพินญา บุญมานพ. 2564.

การชักนําให้เกิดยอดจากช้ินส่วนข้อพลูคาวในสภาพหลอดทดลองเพ่ือการผลิตพืชสมุนไพรอย่างมี
คุณภาพ. วารสารวิทยาศาสตรเ์ กษตร. 52: 1 (พิเศษ): 345-348.
สถาบันวจิ ัยสมุนไพร. 2546. ผักคาวตอง. กรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ . กรงุ เทพ
สนุ ทรี สงิ หบตุ รา. 2536. สรรพคณุ สมนุ ไพร 200 ชนดิ . โอ.เอส.พริน้ ต้ิงเฮา้ ส์, กรุงเทพฯ. 260 น.
เสง่ียม พงษ์บุญรอด. 2522. ไม้เทศเมืองไทย สรรพคุณของยาเทศและยาไทย. กรุงเทพมหานคร:
สํานักพิมพเ์ กษมบรรณกจิ .
Fu, J., Dai, L., Lin Z., and Lu, H. 2013. Houttuynia cordata Thunb.: A review of
phytochemistry and pharmacology and quality control. Chinese Medicine. 4, 101-
123.
Ghoran H.S., El-Shazly M., Sekeroglu N., and Kijjoa A. 2021. Natural Products from
Medicinal Plants with Anti-Human Coronavirus Activities. Molecules. 26(6), 1754.
Hung, P.Y., Ho, B.C., Lee, S.Y., Chang, S.Y., Kao, C.L., Lee, S.S., et al. 2015. Houttuynia
cordata targets the beginning stage of herpes simplex virus infection. PLoS One.
10: e0115475.
Li, D.L., Zheng, X.L., Duan, L., Deng, S.W., Ye, W., Wang, A.H., and Xing, F.W. 2017.
Ethnobotanical survey of herbal tea plants from the traditional markets in
Chaoshan, China. J Ethnopharmacol. 205, 195-206.
Murashige, T., and Skoog, F. 1962. A revised medium for rapid growth and bio assays
with tobacco tissue cultures. Physiol. Plant. 15, 473-497.
Nuengchamnong, N., Krittasilp, K. and Ingkaninan, K. 2009. Rapid screening and
identification of antioxidants in aqueous extracts of Houttuynia cordata using LC-
ESI-MS coupled with DPPH assay. Food Chem. 117, 750-756.

20



สาํ นกั วจิ ัยพฒั นาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวชิ าการเกษตร

อาคารทรพั ยากรพันธกุ รรมพชื สริ ินธร ถ.รังสติ -นครนายก อ.ธัญบรุ ี จ.ปทุมธานี 12110


Click to View FlipBook Version