ความหมายของโครงเรื่อง และการวางโครงเรื่อง

ความหมายของโครงเร่ือง และการวางโครงเร่ือง

ความหมายของโครงเร่ือง

โครงเร่ือง หมายถึง การกาหนดเค้าโครงของงานเขียน โดย
การจดั ลาดบั หมวดหม่ขู องแนวคิดสาคญั เพื่อเป็นแนวทางในการเขียน หรือเค้าโครง
คร่าว ๆ ที่เกี่ยวกบั หวั ข้อที่จะเขียน นามาลาดบั ให้เหมาะสมในโครงเรื่อง อาจมี
รายละเอียด เชน่ ตวั อย่าง หรือการอธิบาย ขยายแนวคิดสาคญั แต่ละแนวคดิ ด้วย
เพื่อเป็นแนวทางในการเขียน

การวางโครงเร่ือง

การวางโครงเร่ือง เป็นการกาหนดหวั ข้อสาคญั ของเร่ือง ซงึ่ จะต้อง
ครอบคลมุ ชื่อเร่ือง หวั ข้อสาคญั ควรมีหลายหวั ข้อ พอท่ีผ้เู ขียนจะนามาเรียบเรียง
แสดงความรู้สกึ นกึ คิดเก่ียวกบั เรื่องนนั้ ๆ ได้

ลักษณะโครงเร่ืองท่ดี ี

๑. อยใู่ นขอบขา่ ยของช่ือเร่ือง
๒. แต่ละประเด็นไมซ่ า้ ซ้อนกนั
๓. แต่ละประเดน็ มีความสาคญั ใกล้เคียงกนั
๔. แตล่ ะประเด็นมีความสมั พนั ธ์เชื่อมโยงกนั เป็นเรื่องเดียวกนั

คาถาม

ตอนท่ี 1

3. ให้นักเรียนเรียงลาดบั ข้อความต่อไปนีใ้ ห้เป็ นข้อความท่เี หมาะสม โดย
เขียนเฉพาะตวั อักษรหน้าข้อ

๑. ก. งานวรรณคดีที่ชอบมากเป็นพเิ ศษ
ข. อาจารย์เลา่ ว่า ชอบอ่านงานกวีนิพนธ์ และเขียนกลอนมานานแล้วตงั้ แต่

เป็นนิสิตจฬุ าฯ
ค. คือ “ศกนุ ตลา” พระราชนพิ นธ์ในพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้า

เจ้าอย่หู วั
ง. อาจารย์ประคิณเป็นนสิ ิตเก่าของคณะอกั ษรศาสตร์จฬุ าลงกรณ์

มหาวิทยาลยั
๒. ก. เราได้ยินเสียงหนง่ึ ดงั แว่วมาเป็นเสียงคล้ายคนสวดมนต์
ข. แล้วทาไมมนั มาดงั ตอนนีท้ ี่บ้านนี ้
ค. ใช่แล้วเหมือนคนสวดมนต์พร้อม ๆ กนั สวดแบบฝรั่งในหนงั
ง. ในความเงียบสงดั ของห้องนา้ เมื่อปิดฝักบวั แล้วนนั้
๓. ก. จะมีใครมาให้รักได้อีก
ข. ไม่อาจเริ่มต้นกบั ใครได้ใหม.่ ..และไม่อาจรักใครได้ใหม่...
ค. หกปีเต็ม ๆ ที่หลอ่ นยงั อยกู่ บั ความทรงจาแต่หนหลงั ...
ง. ในเม่ือหล่อนไม่เหลือซอกมมุ ในหวั ใจที่จะรักใครได้อีกแล้ว
๔. ก. และหากจะถามนิรา...รองจากแม่...
ข. หมอก็เป็นคนท่ีเธอยดึ เป็นหลกั ได้อย่างมนั่ ใจ
ค. นิราเพง่ิ พบวา่
ง. นา่ แปลกท่ีคนคนหนงึ่ อาจรักใครได้โดยไม่มีความรู้สกึ ถงึ ความใคร่เข้า
มาเก่ียวพนั

๕. ก. หนาวเยือกแตช่ ่ืนจมกู เหมือนขนึ ้ ไปบนภสู งู ทางเหนือตอนหน้าหนาว
ข. อากาศตอนเยน็ สดช่ืนนกั
ค. ผ้คู นที่เดินอยรู่ ิมถนนก็แต่งเนือ้ แตง่ ตวั โก้สมเป็นเมืองมหาวทิ ยาลยั
ง. แดดสีเหลืองออ่ นทอทาบไปบนพนื ้ ถนนซงึ่ สะอาดเรียบ

๖. ก. หน้าท่ีสาคญั ของนกั เรียนคือ การเรียนให้เตม็ กาลงั
ข. เรียนให้รู้ดี และเรียนให้สาเร็จ
ค. แตก่ ระนนั้ หลาย ๆ คนก็ทาเชน่ นนั้ ไมค่ อ่ ยได้เตม็ ท่ี
ง. นกั เรียนทกุ คนควรจะต้องทราบวา่

๗. ก. ฟา้ แลบคือแสงแก้ววเิ ศษท่ีนางเมขลา หวั หน้านางฟา้ บนสวรรค์แกว่งลอ่
รามสรู ย์ ยกั ษ์เกเรตนหนึง่

ข. ท่ีชอบรังแกเหล่านางฟา้ และเสียงฟา้ ผ่าเปรีย้ ง ๆ นนั้
ค. คนไทยเราเช่ือวา่
ง. เป็นเสียงรามสรู ย์ขว้างขวานวิเศษออกไปด้วยความโกรธแค้นนางเมขลา
๘. ก. ดวงอาทิตย์เป็นดวงเพลิงดวงใหญ่ลอยเด่นเพยี งดวงเดียว ไม่มีดาวอ่ืน
เป็นบริวาร
ข. สว่ นดวงจนั ทร์มีลกั ษณะนวลเยน็ เป็นท่ีนา่ ชม
ค. ดวงอาทิตย์นนั้ มีลกั ษณะร้อนแรงมีอานาจเดชเป็นที่นา่ เกรงขาม
ง. สว่ นดวงจนั ทร์มีดาวอ่ืนเป็นบริวารแวดล้อมมากมาย
๙. ก. มีธาตตุ ่าง ๆ ครบถ้วน
ข. อาหารเป็นสง่ิ จาเป็นและมีคณุ คา่ ต่อการดารงชีวติ เป็นอยา่ งย่ิง
ค. เราจะมีชีวิตอย่อู ยา่ งสมบรู ณ์ปราศจากโรคภยั ไข้เจ็บมาเบียดเบียน
ง. ก็ด้วยรู้จกั เลือกอาหารท่ีมีประโยชน์
๑๐. ก. สตั ว์ในโลกนีม้ ีชีวิตอย่ดู ้วยการต่อสู้
ข. สตั ว์ท่ีโง่ยอ่ มเป็นเหยื่อของสตั ว์ท่ีฉลาด
ค. สตั ว์ใหญ่ย่อมกินสตั ว์เลก็ สตั ว์ท่ีออ่ นแอกว่า
ง. ยอ่ มเป็นเหย่ือของสตั ว์ที่แขง็ แรงกวา่ สตั ว์ดียอ่ มเป็นเหย่ือของสตั ว์ร้าย

ตอนท่ี ๒

๑. จากช่ือเร่ืองท่กี าหนดให้ ให้นักเรียนจดั ระเบยี บความคดิ ว่า ควรจะวาง
โครงเร่ืองอย่างไร โดยนาตวั อักษรหน้าหวั ข้อสาคัญต่าง ๆ มาจดั เรียงลาดับให้
เหมาะสม

๑. ความกตญั ญกู ตเวที
ก. ประโยชน์
ข. อทุ าหรณ์
ค. คานา
ง. การปฏิบตั ิ
จ. ความหมาย
ฉ. สรุปแนวคดิ ของผ้เู ขียน

ตอบ........................................................

๒. วดั สาคญั ท่ีบ้านเกิดของฉนั
ก. ความสาคญั และชื่อเสียง
ข. ที่ตงั้
ค. คานา
ง. สรุปข้อคิดเหน็ ของผ้เู ขียน

ตอบ........................................................

๓. ครูกวีสนุ ทรภู่
ก. ผลงาน และเกียรติคณุ
ข. คานา
ค. การศกึ ษา
ง. กาเนิด
จ. สรุป
ฉ. ชีวิตบนั้ ปลาย

ตอบ........................................................

๔. ประเพณีสงกรานต์
ก. ความสาคญั และความเป็นมา
ข. คานา
ค. สรุปข้อคิดเห็นของผ้เู ขียน
ง. พธิ ีกรรมต่าง ๆ

ตอบ........................................................

๕. หมากบั เงา
ก. ท่ีมา
ข. คานา
ค. คตธิ รรม
ง. เนือ้ เร่ือง
จ. เวลาและสถานที่
ฉ. สรุปข้อคิดเหน็ ของผ้เู ขียน

ตอบ........................................................