The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ทุกข์ของชาวนาในบทกวี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nurfatihah nurfatihah, 2023-08-16 08:24:23

ทุกข์ของชาวนาในบทกวี

ทุกข์ของชาวนาในบทกวี

Keywords: ทุกข์ของชาวนาในบทกวี

เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ผู้แต่ง : สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ลักษณะคําประพันธ์: ร้อยแก้ว ประเภทบทความ จุดประสงค์: เพื่อแสดงพระราชดําริเกี่ยวกับบทกวีของไทย และบทกวีจีน ซึ่งกล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ของ ชาวนา


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ที่มาของเรื่อง ทุกข์ของชาวนาในบทกวีนํามาจากหนังสือมณีพลอยร้อยแสงซึ่ง รวบรวมบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นบทความที่แสดงให้ เห็นถึงการเอาพระทัยใส่ ความเข้าพระทัยในปัญหาต่าง ๆ ตลอดจน พระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อชาวนา เนื่องด้วยชาวนาแต่ละ ท้องถิ่นล้วนมีสภาพชีวิตและความทุกข์ยากที่ไม่แตกต่างกัน แม้ว่า กาลเวลาจะพ้นผ่านไปอย่างไรก็ตาม


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม แนวคิดสําคัญของบทความ พระราชนิพนธ์เรื่อง “ทุกข์ชาวนาในบทกวี” มีแนวคิดอยู่ที่ ความทุกข์ยากของชาวนาและสภาพชีวิตของชาวนาที่ถูกเอารัดเอา เปรียบอยู่เสมอ ดังความที่ว่า “...แม้ว่าในฤดูกาลนั้นภูมิอากาศจะ อํานวยให้พืชพันธุ์ธัญญาหารบริบูรณ์ดีแต่ผลผลิตไม่ได้ตกเป็น ประโยชน์ของผู้ผลิตเท่าที่ควร...”


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม แนวคิดสําคัญของบทความ แม้ว่าในบทความนี้จะไม่ได้มีการเสนอแนะแนวทางใน การแก้ปัญหา แต่แนวคิดของเรื่องที่แจ่มแจ้งและชัดเจน ดังที่กล่าวมาจะมีผลให้สังคมหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประจักษ์และตระหนักถึงความสําคัญของชาวนาและเล็งเห็น ปัญหาต่าง ๆ อันอาจจะนําไปสู่การแสวงหาแนวทาง การแก้ไขในท้ายที่สุด


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม เนื้อเรื่องย่อ ทุกข์ของชาวนาในบทกวีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงยกบทกวี ของจิตร ภูมิศักดิ์ซึ่งแต่งด้วยกาพย์ยานี๑๑ จํานวน ๕ บท โดยได้กล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ยากของชาวนาที่ปลูกข้าวซึ่ง เป็นอาหารสําคัญของคนทุกชนชั้น


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม เนื้อเรื่องย่อ ต่อมาทรงแปลบทกวีจีน ของหลี่เชิน เป็นภาษาไทยทําให้ มองเห็นภาพชาวนาจีนเมื่อเปรียบเทียบกับชาวนาไทยว่า ไม่ได้มี ความแตกต่างกัน แม้ในฤดูกาลเพาะปลูก ภูมิอากาศจะเอื้ออํานวย ให้พืชพันธุ์ธัญญาหารบริบูรณ์ดีแต่ผลผลิตไม่ได้ตกเป็นของผู้ผลิต คือ ชาวนาเท่าที่ควร


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม เนื้อเรื่องย่อ ส่วนที่สําคัญที่สุดคือทรงชี้ให้เห็นว่าเนื้อหาบทกวีของจิตรภูมิศักดิ์ สอดคล้องกับบทกวีของหลี่เชิน ซึ่งแต่งไว้ตั้งแต่สมัยราชวงค์ถัง แสดงให้เห็นว่าชาวนาในทุกแห่งและทุกยุค ทุกสมัยล้วนประสบแต่ ความทุกข์ยากไม่แตกต่างกัน


เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เมื่อครั้งเป็นนิสิต ข้าพเจ้าได้เคยอ่านผลงานของจิตร ภูมิศักดิ์ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียดหรือวิเคราะห์อะไร เพียงแต่ได้ ยินคําเล่าลือว่าเขาเป็นคนที่ค้นคว้าวิชาการได้กว้างขวางและลึกซึ้ง ถี่ถ้วนในสมัยที่เราเรียนหนังสือกัน ได้มีผู้นําบทกวีของจิตรมาใส่ ทํานองร้องกัน ฟังติดหูมาจนถึงวันนี้ เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม


x เปิบข้าวทุกคราคํา จงสูจําเป็นอาจิณ เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน ข้าวนี้น่ะมีรส ให้ชนชิมทุกชั้นชน เบื้องหลังสิทุกข์ทน และขมขื่นจนเขียวคาว ถอดคําประพันธ์: ทุกครั้งที่กินข้าวให้คุณจงให้ตระหนักไว้ชาวนากว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดแต่ ละคําแลกมาจากหยาดเหงื่อของชาวนา ข้าวทําให้คนเติบโต ข้าวนั้นมีรสชาติทุกคน ทุกชนขั้นต่างต้องกินข้าว แต่เบื้องหลังชาวนานั้นทุกข์ทนลําบาก สีเขียวของข้าว ซึ่งน่าจะ หอมสดชื่นกลับมีกลิ่นคาว เหงื่อและคาวเลือดของ ชาวนา ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม จากแรงมาเป็นรวง ระยะทางนั้นเหยียดยาว จากรวงเป็นเม็ดพราว ล้วนทุกข์ยากลําบากเข็ญ เหงื่อหยดสักกี่หยาด ทุกหยดหยาดล้วนยากเย็น ปูดโปนกี่เส้นเอ็น จึงแปรรวงมาเป็นกิน ถอดคําประพันธ์: ชาวนาลงแรงมากมายและต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเป็นรวงข้าว และกว่ารวงข้าวจะกลายเป็นเม็ดข้าวก็ย่อมต้องใช้ความยากลําบาก ชาวนาต้องเสียเหงื่อ มากมายกว่าจะได้เม็ดขาวออกมา เส้นเอ็นก็ปูดไปหมดกว่าจะมาเป็นเม็ดข้าวที่สามารถกินได้


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม นํ้าเหงื่อที่เรื่อแดง และนํ้าแรงอันหลั่งริน สายเลือดกูทั้งสิ้น ที่สูซดกําซาบฟัน ถอดคําประพันธ์: ชาวนาต้องใช้แรงและเสียเหงื่อมากมายรวมไปถึงสายเลือด ก่อนที่จะได้ข้าวมา ให้ผู้คนกิน เปรียบได้ว่าข้าวเหล่านั้นคือแรง เหงื่อและสายเลือดของชาว ซึมเข้าไป


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ดูจากสรรพนามที่ใช้ว่า “กู” ในบทกวีนี้แสดงว่าผู้ที่พูดคือชาวนา ชวนให้คิดว่าเรื่องจริง ๆ นั้นชาวนาจะมีโอกาสไหมที่จะ “ลําเลิก” กับ ใคร ๆ ว่าถ้าไม่มีคนที่คอยเหนื่อยยาก ตรากตรําอย่างพวกเขา คนอื่น ๆ จะเอาอะไรกิน อย่าว่าแต่การลําเลิกทวงบุญคุณเลย ความช่วยเหลือที่ สังคมมีต่อคนกลุ่มนี้ในด้านของปัจจัยในการผลิต การพยุงหรือการ ประกันราคา และการรักษาความยุติธรรมทั้งปวงก็ยังแทบจะเป็นไปไม่ได้


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ทําให้ในหลาย ๆ ประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจ ชาวนาต่างก็ละทิ้ง อาชีพเกษตรกรรมไปอยู่ในภาคอุตสาหกรรมหรือภาคบริการ ซึ่งทําให้ตนมี รายได้สูงกว่าหรือได้เงินเร็วกว่า แน่นอนว่ามีสวัสดิการดีกว่าและไม่ต้องเสี่ยง มากเท่าการเป็นชาวนา บางคนที่ยังคงอยู่ในภาคเกษตรกรรมก็มักจะนิยม เปลี่ยนพืชที่ปลูกจากธัญพืช ซึ่งมักจะได้ราคาตํ่า เพราะรัฐบาลก็มีความจําเป็น ที่จะต้องควบคุมราคาเป็นพืชเศรษฐกิจประเภทอื่นที่ราคาสูงกว่า


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม แต่ก็ยังมีชาวนาอีกเป็นจํานวนมากที่ไม่มีทางที่จะขยับขยายตัวให้อยู่ใน สถานะที่ดีขึ้นได้อาจแย่ลงเสียด้วยซํ้า แล้วก็ไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ฎีกากับใคร ถึงจะมีคนแบบจิตรที่พยายามใช้จินตนาการสะท้อนความในใจออกมาสะกิดใจ คนอื่นบ้างแต่ปัญหาก็ยังไม่หมดไป


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม หลายปีมาแล้วอ่านบทกวีจีนบทหนึ่งผู้แต่งชื่อ หลี่เชิน ชาวเมืองอู่ซีมีชีวิตอยู่ในระหว่างปีค.ศ. ๗๗๒ ถึง ๘๔๖ สมัยราชวงศ์ถัง ท่านหลี่เชินได้บรรยายความในใจไว้เป็นบทกวี ภาษาจีน ข้าพเจ้าจะพยายามแปลด้วยภาษาที่ขรุขระไม่เป็น วรรณศิลป์เหมือนบทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม หว่านข้าวในฤดูใบไม้ผลิข้าวเมล็ดหนึ่ง จะกลายเป็นหมื่นเม็ดในฤดูใบไม้ร่วง รอบข้างไม่มีนาที่ไหนทิ้งว่าง แต่ชาวนาก็ยังอดตาย ตอนอาทิตย์เที่ยงวัน ชาวนายังพรวนดิน เหงื่อหยดบนดินภายใต้ต้นข้าว ใครจะรู้บ้างว่าในจานใบนั้น ข้าวแต่ละเม็ดคือความยากแค้นแสนสาหัส


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม กวีผู้นี้รับราชการมีตําแหน่งเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นอยู่ใน ชนบทฉะนั้นเป็นไปได้ที่เขาจะได้เห็นความเป็นอยู่ของราษฎรชาวไร่ชาวนา ในยุคนั้น และเกิดความสะเทือนใจจึงได้บรรยายความรู้สึกออกเป็นบทกวี ที่เขาให้เชื่อว่า “ประเพณีดั้งเดิม” บทกวีของหลี่เชิน เรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่ก็แสดงความขัดแย้งชัดเจน แม้ว่าในฤดูกาลนั้นภูมิอากาศจะให้พืช พันธุ์ธัญญาหารบริบูรณ์ดีแต่ผลผลิตไม่ได้ตกเป็นประโยชน์ของผู้ผลิต เท่าที่ควร


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม เทคนิคในการเขียนของ หลี่เชินกับของจิตรต่างกัน คือ หลี่เชิน บรรยายภาพที่เห็นเหมือนจิตรกรวาดภาพให้คนชม ส่วนจิตรใช้วิธี เสมือนกับนําชาวนามาบรรยายเรื่องของตนให้ผู้อ่านฟังด้วยตนเอง


x ทุกข์ของชาวนาในบทกวี เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม เวลานี้สภาพบ้านเมืองก็เปลี่ยนไป ตั้งแต่สมัยหลี่เชินเมื่อพันปีกว่า สมัยจิตร ภูมิศักดิ์เมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว สมัยที่ข้าพเจ้าได้เห็นเองก็ไม่ มีอะไรแตกต่างกันนัก ฉะนั้นก่อนที่ทุกคนจะหันไปกินอาหารเม็ด เหมือนนักบินอวกาศ เรื่องความทุกข์ของชาวนาก็คงยังจะเป็น แรงสร้างความสะเทือนใจให้แก่กวียุคคอมพิวเตอร์สืบต่อไป สิงหาคม ๒๕๓๓


เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม


x x “ทุกข์ของชาวนาในบทกวี” เป็นบทความเชิงวิจารณ์ นับเป็นตัวอย่างอันดีของบทความที่สามารถยึดถือเป็น แบบอย่างได้ด้วยแสดงให้เห็นแนวคิดชัดเจน ลําดับเรื่องราว เข้าใจง่าย และมีส่วนประกอบของงานเขียนประเภทบทความ อย่างครบถ้วน ๑. กลวิธีการแต่ง เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม


x x ๑. กลวิธีการแต่ง เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม มีส่วนประกอบของบทความครบถ้วนดังนี้ ๑.๑ ส่วนนํา ยกบทกวีที่ได้ยินมาในอดีต โดยกล่าวถึงบทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์ ที่ทรงได้ยินได้ฟังมาในอดีตมาประกอบการเขียนบทความ ๑.๒ เนื้อเรื่อง วิจารณ์เนื้อหาในบทกวีทรงวิจารณ์เกี่ยวกับกลวิธีการนําเสนอ บทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์และของหลี่เชิน โดยทรงยกเหตุผลต่าง ๆ และทรงแสดง ทัศนะประกอบ ๑.๓ ส่วนสรุป สรุปความเพียงสั้น ๆ แต่ลึกซึ้ง ด้วยการตอกยํ้าเรื่อง ความทุกข์ยากของชาวนา ไม่ว่ายุคสมัยใดก็เกิดปัญหาเช่นนี้


x x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ให้ความรู้เชิงวรรณคดีเปรียบเทียบแก่ผู้อ่าน โดยทรงใช้การ เปรียบเทียบการนําเสนอของบทกวีไทย และบทกวีจีน ว่าเทคนิคใน การเขียนของหลี่เชิน กับของจิตรต่างกัน คือ หลี่เชินบรรยายภาพที่ เห็นเหมือนจิตรกรวาดภาพให้คนชม ส่วนจิตรใช้วิธีเสมือนกับนํา ชาวนามาบรรยายเรื่องของตนให้ผู้อ่านฟังด้วยตนเอง ๒. กลวิธีการอธิบาย


x x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ๒. กลวิธีการอธิบาย โดยจิตร ภูมิศักดิ์ใช้ถ้อยคําง่าย ๆ สามารถสื่อความรู้สึกได้ เป็นอย่างดีเช่น - ขมขื่นจนเขียวคาว - นํ้าเหงื่อที่เรื่อแดง และนํ้าแรงอันหลั่งริน - สายเลือดกูทั้งสิ้น ที่สูซดกําซาบฟัน


x x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ๓. เป็นตัวอย่างของเรียงความที่ดี เพราะใช้ถ้อยคําสละสลวย กะทัดรัด ลําดับความดีแสดงความคิด อย่างชัดเจน เพราะมีส่วนนําที่น่าสนใจ ชวนให้ผู้อ่านอย่าง อ่านต่อ จบแบบการสรุปสั้น ๆ และทิ้งท้าย ให้ผู้อื่นคิดตาม


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม บทพระราชนิพนธ์นี้แสดงให้เห็นถึง ความเข้าพระทัยในปัญหาของชาวนา และยังสะท้อนให้เห็นพระเมตตาที่ ทรงมีต่อชาวนาด้วย


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ความรู้เพิ่มเติม หนังสือมณีพลอยร้อยแสง เป็นพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ แบ่งเป็น ๑๑ หมวดดังนี้ ๑. กลั่นแสงกลอนกานท์ ๒. เสียงพิณ เสียงเลื่อน เสียงเอื้อน เสียงขับ ๓. เรียงร้อยถ้อยดนตรี ๔. ชวนคิดพิจิตรภาษา ๕. นานาโวหาร ๖. คําขานไพรัช


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ความรู้เพิ่มเติม หนังสือมณีพลอยร้อยแสง เป็นพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ แบ่งเป็น ๑๑ หมวดดังนี้ ๗. สมบัติภูมิปัญญา ๘. ธาราความคิด ๙. นิทิศบรรณา ๑๐. สาราจากใจ ๑๑. มาลัยปกินากะ


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม ความรู้เพิ่มเติม เรื่อง “ทุกข์ของชาวนาในบทกวี” อยู่ในหมวด “ชวนคิดพิจิตรภาษา” มณีพลอยร้อยแสง ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดพิมพ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๓ ในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนม์มายุครบ ๓ รอบ คณะผู้จัดพิมพ์คือพระสหายจากคณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย รุ่นที่ ๔๑


x เพจภาษาไทยไม่จั๊กเดียม สวัสดี


Click to View FlipBook Version