The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ศาสนจักรและการล่าแม่มดในยุคกลาง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pantawan.pr, 2021-12-20 13:32:32

ศาสนจักรและการล่าแม่มดในยุคกลาง

ศาสนจักรและการล่าแม่มดในยุคกลาง

ศาสนจักรและการลา่ แม่มดในยุคกลาง

The church and witch-hunting in medieval ages

ศาสนจกั รและการล่าแม่มดในยคุ กลาง

The church and witch-hunting in medieval ages

คุยกับผเู้ รียบเรียง

“ศาสนจักร และการล่าแมม่ ด”

ขอกล่าวคาเตอื นไว้ ณ ทีน่ ้วี า่ เนอื้ เรอื่ งในสว่ นของการลา่ แม่มดมเี นือ้ หาของความรนุ แรง
การนาเสนอในคร้งั นี้จัดทาขน้ึ เพอ่ื เป็นความรู้แกบ่ ุคคลทไี่ ดอ้ ่าน
ไมม่ ีเจตนาในการชักจงู บุคคลให้ก่อการกระทาดงั กลา่ ว

ปานตะวนั พระไกรยะ

ยุคกลาง
(Middle Ages)

ยุคกลาง (องั กฤษ: Middle Ages)

คอื ช่วงเวลาในประวัติศาสตรย์ โุ รป ตั้งแต่ครสิ ต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสตศ์ ตวรรษที่
15 โดยปกติแล้วเรม่ิ นบั ตัง้ แตก่ ารลม่ สลายลงของจกั รวรรดโิ รมันตะวนั ตก

(การส้ินสุดของสมยั คลาสสกิ ) จนถงึ จดุ เรมิ่ ต้นของสมัยฟ้ ืนฟศู ลิ ปวทิ ยา และยุค
แหง่ การสารวจ ซึ่งเป็นยุคทน่ี าไปสูส่ มยั ใหมใ่ นเวลาต่อมา สมัยกลางคือชว่ งเวลา

ตรงกลางของกระบวนการเปล่ียนผ่านในประวตั ศิ าสตร์ตะวันตกคือ
สมัยคลาสสิก สมยั กลาง และสมัยใหม่

นอกจากนส้ี มยั กลางยังถูกแบง่ ออกเปน็ สามช่วงเวลาคอื
ต้นสมัยกลาง(Early Middle Ages),

สมัยกลางยคุ ร่งุ โรจน์(High Middle Ages)
และปลายสมัยกลาง (Late Middle Ages)

ศาสนจักร
The Church

ศาสนจักร (The Church)

คอื อานาจปกครองทางศาสนา เรยี กคู่กบั "อาณาจกั ร"
คอื อานาจปกครองทางบ้านเมือง

ฝ่ายศาสนาพทุ ธ เรยี กว่า พทุ ธจกั ร
ฝ่ายศาสนาครสิ ต์ เรยี กว่า ครสิ ตจกั ร
ฝา่ ยศาสนาอิสลาม เรียกว่า อมุ มะฮ์
ฝ่ายลทั ธิอนตุ ตรธรรม เรียกวา่ อาณาจกั รธรรม

การปกครองในคริสตจกั ร

1. การปกครองแบบสงั ฆาธปิ ไตย (Episcopalians) เป็นการ

ปกครองท่ีคริสตจกั รต่าง ๆ มีผูป้ กครองและมัคคานายก แตอ่ ยใู่ ต้ผู้มี
อานาจปกครอง คือ ผปู้ กครอง (บิชอป Bishop) หมายความว่า ผูป้ กครองดูแล
ผู้ควบคมุ หัวหน้าบาทหลวง ในครสิ ตจักรเชชิ ออฟอิงแลนด์ใชร้ ะบบการปกครอง
นี้ บชิ อปคนหน่ึงมอี าณาเขตซึง่ อยู่ในอานาจปกครองของตน อาณาเขตนี้ เรียกว่า
ไดโอเซส(Diocese) เชน่ ไครส้ ตเชิช กรุงเทพฯของเราข้ึนกับบิชอปทสี่ ิงคโปร์
เรียกวา่ อย่ใู นไดโอซิสแหง่ สงิ คโปรก์ ารปกครองแบบนม้ี ีลกั ษณะคล้ายกบั ระบบ
ปกครองของโรมนั คอทอลกิ คริสตจกั รประจาทอ้ งถน่ิ ในระบบการปกครองอยา่ ง
นี้จะไมม่ อี านาจเดด็ ขาดในตนเอง ความเดด็ ขาดอยกู่ บั บชิ อปประจาในไดโอซิส
ซ่งึ คริสตจักนนน้ั ๆ สงั กดั อยู่ จะเหน็ ว่าการปกครองแบบน้ีอาจจะใกลเ้ คียงตาม
แบบของพระคมั ภรี ท์ ่ีสุด คาว่า \"บิชอป\" อยใู่ น 1ทธ.3:1; ทต.1:7; 1ปต.2:58

2. การปกครองแบบเจษฏาธปิ ไตย (Presbyterian)

ผู้ปกครองหลายๆ คนรวมเขา้ เป็นคณะผู้ปกครองครสิ ตจกั รและผูป้ กครอง
เหล่านี้ เป็นผ้ทู ่บี รรดาสมาชกิ คริสตจกั รได้เลือกตัง้ ข้ึนมา และมอบอานาจการ
ปกครองครสิ ตจักรให้มวี าระ บางครสิ ตจกั รจะมกี ารเลอื กตั้งใหม่สามปตี อ่ ครงั้
จะเห็นวา่ อานาจท่ีแทน้ น้ั อยทู่ ี่บรรดาสมาชกิ ศาสนาจารย์เปน็ ผูป้ กครองคนหนึ่ง
แตเ่ พราะมคี วามรู้ และความสามารถเป็นพเิ ศษจึงไดร้ บั การยกยอ่ งสถาปนาให้
เปน็ ผูด้ ูแลสง่ั สอน แต่ศาสนาจารยก์ ไ็ ม่มอี านาจปกครองเด็ดขาดในตวั ตอ้ ง
ขน้ึ อยกู่ บั ข้อตกลง และคาแนะนาของคณะผูป้ กครองครสิ ตจกั ร ศิษยาภิบาลก็
เช่นเดียวกนั กอ็ ยู่ใตอ้ านาจปกครองของคณะผู้ปกครองคริสตจกั รมีอานาจเชิ
หรอื ไมเ่ ชญิ ศิษยาภิบาลคนใดคนหนง่ึ ไดส้ ภาครสิ ตจกั รในประเทศไทยดาเนินการ
ปกครองตามแบบน้ี และเนื่องจากมคี ริสตจักรจานวนมากข้นึ จึงเพมิ่ ชนั้ การ

ปกครองขึน้ เพอื่ รวมใหค้ รสิ ตจักรประจาตาบลต่าง ๆ ท้ังประเทศเป็นอันเดยี วกนั
โดยแบ่งครสิ ตจักรประจาตาบลออกเป็นภาค ๆ มีคณะธรรมกจิ ประจาภาคเปน็ ผู้
บริหารงาน คณะธรรมกจิ ประจาภาคประกอบดว้ ย ผูป้ กครองทแี่ ทนคริสตจกั ร
ประจาตาบลในสังกัดภาคนน้ั ๆ แล้วภาคตา่ ง ๆท้งั หมดก็รวมเปน็ อนั เดียวกัน
เรยี กว่า สภาคริสตจักร อันเป็นคณะผูป้ กครองท่ีสูงสุด สมาชิกของสภา
คริสตจักรกค็ อื ผูแ้ ทนท่มี าจากภาคตา่ ง ๆ

3. การปกครองแบบสมชั ชาธปิ ไตย (Congregational)

การปกครองแบบนีอ้ านาจเดด็ ขาดอยกู่ ับครสิ ตจกั ร โดยมขี อ้ ตกลงของที่
ประชมุ สปั บรุ ษุ เป็นเด็ดขาด ฉะนัน้ บางคริสตจักรจงึ ไม่มกี ารแตง่ ตง้ั
ผู้ปกครอง แตเ่ ลือกสมาชกิ ผอู้ าวโุ สมอี านาจประกอบพิธีทางศาสนาได้อย่าง
ครบถว้ น คริสตจกั รหนงึ่ จะมีอาวโุ สก่ีคนก็ได้ โดยประธานของคริสตจักรเปน็ ฆา
รวาสคริสตจักรแบ๊บติสทแ์ ละคริสตจักรดไี ซเบลิ มกี ารปกครองระบบน้ี

การปกครองคริสตจักรนั้นแท้จริงตอ้ งเข้าใจวา่ ครสิ ตจกั รเปน็ สถาบัน
ของพระเยซูคริสต์ถา้ จะกลา่ วอยา่ งถูกตอ้ งแลว้ อานาจการปกครองอย่างเด็ดขาด
ยอ่ มอยู่ทพี่ ระองค์ เพราะฉะน้ันจงึ เปน็ หนา้ ท่ขี องผทู้ าการปกครองดูแลครสิ ตจกั ร
ทกุ คนทจ่ี ะต้องแสวงหาน้าพระทยั ของพระครสิ ต์ว่าพระองค์มพี ระประสงค์จะ
ดาเนนิ กจิ การในครสิ ตจักรนน้ั ๆ อย่างไร และผูป้ กครอง หรือ ผมู้ อี านาจ
ปกครองกป็ ฏบิ ัตไิ ปตามนา้ พระทยั ของพระองคอ์ ยา่ งนน้ั ๆ การแสวงหานา้
พระทยั ของพระเจ้า เปน็ เร่อื งสาคัญของการปกครองครสิ ตจักร เพราะคริสตจักร
ใดดาเนินตามนา้ พระทยั ของพระเจา้ อย่างใกล้ชดิ แล้ว ตนกเ็ ป็นเสมือนผรู้ ับ
ใช้ ของพระองค์ คริสตจักรเป็นกายของพระครสิ ต์และเป็นอวยั วะของ
พระองค์ ปฏิบัติงานใหเ้ ปน็ ไปตามพระประสงคข์ องพระคริสตไ์ ม่ใช่ของ
ตนเอง กจ.20:28 \"ทา่ นทง้ั หลายจงระวงั ตัวให้ดี และจงรักษาฝูงแกะทพ่ี ระ
วญิ ญาณบรสิ ทุ ธิไ์ ด้ทรงตงั้ ทา่ นไว้ ใหเ้ ปน็ ผดู้ ูแล และเพื่อจะได้
ปกครองคริสตจกั รขององค์พระผ้เู ปน็ เจ้า ทพี่ ระองคท์ รงไดม้ าดว้ ยพระโลหติ ของ
พระองค์เอง\"v

บทบาททางสงั คมของศาสนจกั ร

1.ในสมยั กลางคริสตศ์ าสนาได้เข้ามามีบทบาทตอ่ สงั คมยุโรป
เพราะครสิ ต์ศาสนาสามารถให้ความรสู้ กึ ท่ีมนั่ คงทางจติ ใจได้

2. คริสตจักรได้เสริมสร้างระบบการบรหิ ารตามแบบโรมนั
ดว้ ยการสรา้ งความเป็นเอกภาพของคริสต์ศาสนิกชน

3.ศาสนจักรมอี านาจสงู สุดเหนือสถาบนั ใด ๆ
และมอี ทิ ธิพลตอ่ วถิ ชี ีวติ ของชาวยุโรปอยา่ งกว้างขวาง

4.การสถาปนาจักรพรรดิโรมันในสมัยกลาง ทาให้ครสิ ตจักรมีความสมั พันธ์
กบั รฐั พร้อมกับสรา้ งความชอบธรรมทางการเมอื ง ใหแ้ ก่ศาสนจักร

หนา้ ท่ีของศาสนจกั ร

1.เน่ืองจากศาสนจักรเป็นสือ่ กลางระหว่างมนุษย์กับพระเจ้ามนษุ ยจ์ ึงตอ้ ง
ดาเนินชวี ติ ตามคาสอนของศาสนาอย่างเครง่ ครดั เพราะเปน็ ทางใหม้ นษุ ย์พบ
ความสงบสุขในโลกของพระเจ้า

2.ถ้าผใู้ ดหรือชนกลุ่มใดมคี วามเหน็ ขัดแย้งกบั ศาสนจกั รจะต้องถูกศาสนจกั ร
ไตส่ วนและลงโทษ

3.ทาให้ศาสนจักรมีอานาจเหนือประชาชน ในสังคมทุกระดับชนั้
4.ประชาชนเกรงกลัวการลงโทษจึงมคี วามเคารพเช่ือฟงั ศาสนาทาให้ศาสน
จักรมีความแขง็ แกรง่ มัน่ คงและทรงไว้ซึง่ อานาจอยา่ งกวา้ งขวางลน้ พ้นในสังคม
ยคุ กลาง

บทบาททางเศรษฐกจิ ของศาสนจกั ร

1.ศาสนจกั รเปน็ แหลง่ รวมความมงั่ ค่งั ในสมัยกลาง
2.ศาสนจักรได้เงนิ ภาษีจากประชาชนและบรรณาการท่ีดนิ ท่ชี นชน้ั ปกครอง
มอบให้
3.ปัจจัยสาคัญทท่ี าใหศ้ าสนจักรมอี านาจในสมัยกลาง ได้แก่ การจัดการ
อานาจแบบรวมศูนย์ ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพของศาสนจักร

บทบาททางการเมือง

1.ศาสนจักรได้อ้างอานาจเหนอื กษัตริย์และขนุ นางในฐานะของผสู้ ถาปนา
กษัตริย์
2.การอ้างอานาจของพระสันตะปาปาตาไปสู่การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างศาสน
จกั รกบั จักรพรรดเิ ยอรมนั
3.ระบบฟิวดัลศาสนจักรได้เข้ามามีบทบาทในการยุตสิ งครามการแยง่ ท่ดี นิ
ระหวา่ งเจ้านายท่ีดินต่าง ๆ และการท่ีศาสนจักรมที ดี่ นิ จานวนมากทาใหศ้ าสน
จักรต้องไปเกยี่ วขอ้ งกับเจา้ ของทดี่ ิน
4.ระบบการศาล ศาสนจกั รไดจ้ ดั ระบบการพจิ ารณาศาลจงึ อ้างในสิทธทิ ี่จะ
พิจารณาคดีท้ังในศาสนาและทางโลก

การลงโทษของศาสนจักร

1.การไล่ออกจากศาสนา(ศาสนจกั ร) หรือบพั พาชนยี กรรม
(Excommunication)

1.1หา้ มผ้ตู อ้ งโทษร่วมกจิ กรรม หรอื รว่ ม พิธีกรรมใดๆ ของศาสนา และหา้ ม
ติดต่อกับศาสนิกชนคนอื่น
2.การตัดขาดออกศาสนาท้ังชมุ ชน (Interdiction)

2.1เป็นการลงโทษ ประชนชนทง้ั ดินแดน
2.2โบสถใ์ นดินแดนน้ันจะงดประกอบพธิ ีกรรมใด ๆ ทง้ั สนิ้

การล่าแมม่ ด
(witch-hunting)

การลา่ แมม่ ด

มีความหมายตรงตามชอื่ คอื การล่าคนท่ีอวดอ้างว่ามพี ลงั วเิ ศษ รวมถึงพวก
ท่ีเช่ยี วชาญในการรักษาคนดว้ ยสมุนไพรหรือวิธีโบราณต่างๆ คนพวกนจี้ ะถูก
มองเป็นแมม่ ด

การลา่ แม่มดเกดิ ขึ้นเมอื่ ใด?

การล่าแมม่ ดอยา่ งถกู กฏหมายเกิดขน้ึ ในยคุ กลางของทวปี ยุโรป (1480 – 1750)
หรือทเี่ รียกกันวา่ “ยคุ มืด” ยคุ ท่ีอยู่ใต้การปกครองของศรสิ ตจกั ร หรือยุคที่
คริสตจกั รรงุ่ เรอื งที่สดุ แมม่ ดถูกประนามว่าเปน็ สญั ลกั ษณข์ องความชวั่ รา้ ย เปน็
คนของซาตาน จงึ มกี ารไลล่ ่าเพอื่ กวาดลา้ งแมม่ ดอยา่ งเอาเปน็ เอาตายจาก
บรรดาบาทหลวง ไม่วา่ จะเกดิ เหตรุ ้ายผิดปกติอะไร เชน่ ภัยธรรมชาติ โรคระบาด
หรอื คนตายโดยไมท่ ราบสาเหตุ จะโทษวา่ เป็นฝมี อื ของแมม่ ดทงั้ หมด

ทกุ ครัง้ หลังการเพาะปลกู ล้มเหลว มกี ารกวาดลา้ งแม่มด ในสเปน โปรตเุ กส
รสั เซีย และสแกนดิเนเวีย เฉพาะในสวติ เซอรแ์ ลนด์ มีการประหารแมม่ ดมากกว่า
1,000 คน

การลา่ แมม่ ดเกดิ ขนึ้ เพราะใคร?

การล่าแม่มดเกิดขึน้ จากความต้องการของศรสิ ตจักร ทีต่ ้องการกาจดั ลัทธคิ วาม
เชือ่ นอกรีตตา่ งๆ จึงทาใหใ้ นวันที่ 5 ธนั วาคม ค.ศ. 1484 โปปอินโนเซนต์ท่ี 8 ได้
ออกเอกสารหรือสารตราฉบับหน่งึ ซ่ึงกล่าวว่าการใช้เวทมนตร์เปน็ ความผิด
รา้ ยแรง เขายงั ได้มอบอานาจใหผ้ ้สู อบสวนสองคนไปสะสางปญั หานี้ ซึ่งก็คอื จา
คอบ สเปรนเกอร์ และ ไฮนร์ ิช เครเมอร์ จากนัน้ ชายสองคนนี้ไดท้ าหนังสอื เล่ม
หนึ่งขึน้ มาชอื่ คอ้ นแหง่ แมม่ ด (The Hammer of Witches) มนั คอื หนงั สอื คมู่ อื
การล่าแม่มด ยาว 200,000 คา ตพี ิมพ์เอกสารความเชอื่ น้ี 28 ครั้ง

โทษประหารทีแ่ มม่ ดตอ้ งพบเจอ

สอบสวน ด้วยการทดสอบงา่ ยๆวา่ ใครคอื แมม่ ด คอื จับตวั ผถู้ กู สงสยั โยนลงนา้

ถ้าหากเปน็ แมม่ ดกจ็ ะลอยข้นึ มา แต่ผูบ้ รสิ ุทธ์ิจะจม (บางทกี จ็ มนา้ ตายไปเลย)
ส่วนผูท้ ่รี อดกจ็ ะถูกถามคาถามประมาณน้ี เวทมนตรท์ ี่ตนใช้ ความสมั พันธ์ทมี่ กี บั
ซาตาน และกิจกรรมพธิ ีต่างๆ มากกวา่ 70 เปอรเ์ ซน็ ต์ของผู้ต้องสงสยั เปน็ ผหู้ ญิง
โดยเฉพาะพวกแม่มา่ ย

ทรมาน เพ่ือเค้นเอาความจรงิ ให้สารภาพ ซงึ่ บางคนบอกไปหมดแล้วก็ยงั ถูก

ทรมานอยู่ -เรม่ิ ดว้ ยการตอกเลบ็ -บีบขมับ -เข้าเครื่องยืดแขนขา -เอาเหล็กร้อน
แดงๆจิ้มตามตัว ปี ค.ศ. 1594 ท่เี มอื งคาลวินิสต์. สกอตแลนด์ “นางเอลิสัน บาล
โฟร”์ ถูกทรมานด้วยการเอาเหลก็ รัดบีบแขนนาน 48 ช่ัวโมง สุดทา้ ยจงึ จบั เธอแก้
ผ้าแลว้ แขวนโยงกับรอก และถ่วงนา้ หนกั ท่เี ทา้ ดึงห้อยแขวนไวจ้ นกว่าจะตาย พูด
ไดว้ า่ ย่ิงคดิ ค้นเครอ่ื งประหารท่ีมีประสทิ ธภิ าพยงิ่ ขึ้นเท่าใด จานวนผตู้ ากกม็ ากขึ้น
เทา่ นน้ั

ประหาร ในหลายพนื้ ท่มี วี ธิ กี ารประหารทแี่ ตกต่างกนั แตท่ น่ี ยิ มทสี่ ุดคอื การเผา

ทัง้ เป็น การตอกร่างที่ยงั มีชีวติ อยู่ไวก้ ับโลง การตัดคอดว้ ยกิโยตนิ แขวนคอ เข้า
เครอื่ งดงึ แขนขา หรือการขังลืม ในจุดนั้นความตายนา่ จะเป็นส่งิ เดยี วทีพ่ วกแม่
มดใฝห่ า เพราะพวกเธอถกู ทรมานกอ่ นถูกประหารหนกั จรงิ ๆ

แบบทดสอบ

ศกึ ษาเพิ่มเตมิ

'ฟาโรห์' คดีแมม่ ดคนสุดทา้ ย และการลา่ แมม่ ดสุดโหดในยคุ กลาง
@The Common Thread | Netflix

การลา่ แมม่ ดสดุ เถอ่ื นในประวตั ิศาสตร์

อา้ งอิงขอ้ มูล

https://bit.ly/32f4eOv

http://ccbthai.org/info_view.php?inf_id=218&fbclid=IwAR3KFo1I_
a965ckv7-74i6yFddTFghZHIXqZzJVpYaDc6E9XvSv4VrDxvXI

file:///C:/Users/User/Downloads/Documents/F_The_Church.pdf


Click to View FlipBook Version