คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience (วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning) จัดทำโดย นายธเนศ ไทยอุดม นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานีเขต 1
ก คำนำ คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดย ใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ จัดทำขึ้นเพื่อ ใช้เป็นนวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นคู่มือ จัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการ จัดการเรียนรู้แบบ Active learning เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ครูผู้สอนเป็นเพียงคนคอยให้คำแนะนำและ คำปรึกษา ส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์สามารถนำ ความรู้ทาภาษาอังกฤษ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยชุดกิจกรรมทั้งหมด 1 ชุด ดังนี้ คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดย ใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอน ให้มีการปรับลด ระยะเวลาเรียนภาควิชาการหรือภาคทฤษฎีลดลง แต่ยังคงไว้ซึ่งเนื้อหาหลักที่ผู้เรียน ควรรู้ตามมาตรฐานของ หลักสูตร และให้ครูผู้สอนปรับเปลี่ยนวิธีการสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเพิ่มเวลาให้ผู้เรียนได้ เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงมากขึ้น ภายใต้โครงการ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เชื่อมโยง กับการปฏิรูปการเรียน การสอนในยุคประเทศไทย 4.0 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย ให้ผู้เรียนมีบทบาท ในการเรียนรู้มากขึ้น ครูลดบทบาทการสอนด้วย การบอกเล่า การให้ข้อความรู้แก่ผู้เรียนโดยตรง ไปเป็นการจัด กระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมที่จะทำ ให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมการ เรียนรู้อย่างหลากหลาย ผู้สอน ต้องเป็นครูแบบ Actively Teach คือ สอนแบบมีส่วนร่วม จัดกิจกรรมให้ ผู้เรียนอยากเรียนรู้ตลอดเวลา เป็นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยผู้สอนสามารถนำการ จัดการเรียนรู้เชิงรุกไปจัด กิจกรรมการเรียนการสอนตามมาตรฐานและตัวชี้วัดในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทุก รายวิชา รวมถึง นำไปใช้ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้อื่น เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนการนิเทศ ติดตามครูผู้สอนในการนำหลักการ รูปแบบ และลักษณะกิจกรรมการ เรียนรู้เชิงรุกไปใช้จัดการจัดการเรียนการสอน และกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ผู้สอนจึงได้จัดทำคู่มือจัดการ เรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการ เรียนรู้แบบ Active learning เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ผู้จัดทำขอขอบพระคุณผู้เชี่ยวชาญทุกท่านที่กรุณาให้คำแนะนำ และตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาวิชา ภาษาที่ใช้ ขอขอบพระคุณผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบางใหญ่ ที่ให้การสนับสนุนส่งเสริมในการทำงานด้วยดีมา ตลอด ขอขอบพระคุณคณะครูโรงเรียนบ้านบางใหญ่ ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้กำลังใจในการ ทำงาน ให้ความช่วยเหลือในการจัดทำคู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ ธเนศ ไทยอุดม
ค สารบัญ หน้า คำนำ………………………………………………………………………………………………………………….. ก สารบัญ...........…………………………………………………………………………………………………….. ค คำแนะนำในการใช้คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศสำหรับนักเรียน ................ 1 ข้อควรปฏิบัติ............................................................................................................. 2 ขั้นตอนการใช้คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศสำหรับนักเรียน………………………………………. 3 บทบาทของผู้เรีย...................................................................................................... 4 มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด................................................................................ 5 จุดประสงค์การเรียนรู้................................................................................................ 8 สมรรถนะสำคัญ......................................................................................................... การจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการ Active Learning จำนวน 6 แผนการเรียนรู้ 9 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Shopping habits.................................................. 10 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Shopping habits(2)........................................ 14 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Shopping habits(3).............................................. 18 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง They’re really cool!............................................. 22 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง Hi there! It’s…..team up…………………………….. 28 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง Shopping in London.......................................... 31
1 คำแนะนำในการใช้คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียน คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดย ใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นคู่มือการจัดการเรียนรู้การพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ที่ใช้ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอน และเป็นคู่มือการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถศึกษาและ ทำความเข้าใจได้ด้วยตนเอง โดยให้ผู้เรียนอ่านคำแนะนำ และปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนของกิจกรรมด้วย ความซื่อสัตย์และตั้งใจ ดังนี้ 1. คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ใช้เวลา 6 ชั่วโมง จำนวน 6 แผนการเรียนรู้ ดังนี้ 1.1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Shopping habits 1.2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Shopping habits (2) 1.3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Shopping habits (3) 1.4 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง They’re really cool! 1.5 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง Hi there! It’s…..team up 1.6 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง Shopping in London 2. ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง Shopping Experience จำนวน 25 ข้อ 25 คะแนน 3. อ่านคำชี้แจง คำแนะนำการใช้คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศให้เข้าใจก่อนลงมือศึกษาคู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning 4. ศึกษาสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนทั้ง 6 แผนการเรียนรู้ ดังนี้ 4.1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Shopping habits 4.2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Shopping habits (2) 4.3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Shopping habits (3) 4.4 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง They’re really cool! 4.5 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง Hi there! It’s…..team up 4.6 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง Shopping in London 5. ร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนในขั้นตอน warm up, presentation, practice, production, wrap up ที่มีวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ทั้ง 6 แผนการเรียนรู้ 6. ปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนในคู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning เพื่อพัฒนาพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience
2 7. ในแต่ละแผนการเรียนรู้ของการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning มีใบงานหรือกิจกรรมในขั้นตอน production เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจหลังเรียนโดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning 8. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีการ wrap up หลังสอนทั้ง 6 แผนการเรียนรู้ 9. หลังจากจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้ วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ครบ 6 แผนการเรียนรู้จะมีการทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง Shopping Experience จำนวน 25 ข้อ 25 คะแนน ข้อควรปฏิบัติ 1. หากมีข้อสงสัยให้ถามเพื่อนหรือขอคำอธิบายจากครูผู้สอน เพื่อร่วมกันสรุปข้อสงสัยนั้นๆ 2. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผู้เรียนต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่เปิดดูเฉลยจนกว่าผู้เรียนจะทำ กิจกรรมเสร็จ เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าทางการเรียน
3 ขั้นตอนการใช้คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียน ศึกษาคำแนะนำในการใช้คู่มือจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning จำนวน 6 แผนการเรียนรู้ ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง Shopping Experience จำนวน 25 ข้อ 25 คะแนน ศึกษาสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนทั้ง 6 ชั่วโมง จำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ ร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนในขั้นตอน warm up, presentation, practice, production, wrap up ที่มีวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ทั้ง 6 แผนการเรียนรู้ ทำใบงานหรือกิจกรรมในขั้นตอน production เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจหลังเรียนโดยใช้วิธีการ จัดการเรียนรู้แบบ Active learning เมื่อปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีการ wrap up หลังสอนทั้ง 6 ชั่วโมงจำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ เกณฑ์การผ่านขึ้นอยู่กับแต่ ละกิจกรรมการเรียนรู้ ศึกษาการจัดการเรียนรู้ต่อไป หลังจากจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดย ใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ครบ 6 แผนการเรียนรู้จะมีการทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง Shopping Experience จำนวน 25 ข้อ 25 คะแนน
4 บทบาทของผู้เรียน บทบาทของผู้เรียน มีดังนี้ 1. ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง Shopping Experience จำนวน 25 ข้อ 25 คะแนน 2. ศึกษาสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนทั้ง 6 ชั่วโมง จำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ 2.1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Shopping habits 2.2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Shopping habits (2) 2.3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Shopping habits (3) 2.4 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง They’re really cool! 2.5 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง Hi there! It’s…..team up 2.6 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง Shopping in London 3. ร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนในขั้นตอน warm up, presentation, practice, production, wrap up ที่มีวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ทั้ง 6 แผนการเรียนรู้ 4. ทำใบงานหรือกิจกรรมในขั้นตอน production เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจหลังเรียนโดยใช้วิธีการจัดการ เรียนรู้แบบ Active learning 5. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีการ wrap up หลังสอนทั้ง 6 ชั่วโมงจำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ 6. หลังจากจัดการเรียนรู้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Shopping Experience โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ครบ 6 แผนการเรียนรู้จะมีการทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง Shopping Experience จำนวน 25 ข้อ 25 คะแนน
5 มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด 1. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Shopping habits รู้และเข้าใจคำศัพท์ โครงสร้างประโยค ช่วยให้ใช้ภาษา สื่อสารในชีวิตประจำวัน และรู้และเข้าใจเรื่องที่ศึกษา ช่วยให้จับใจความสำคัญ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา และ เป็นพื้นฐานในการค้นคว้า รวบรวมข้อมูล และนำเสนอด้วยการเขียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ 2. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Shopping habits (2) รู้และเข้าใจคำศัพท์ โครงสร้างประโยค ช่วยให้ใช้ ภาษาสื่อสารในชีวิตประจำวัน และรู้และเข้าใจเรื่องที่ศึกษา ช่วยให้จับใจความสำคัญ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา และเป็นพื้นฐานในการค้นคว้า รวบรวมข้อมูล และนำเสนอด้วยการเขียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และ สังคม ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม 3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Shopping habits (3) รู้และเข้าใจคำศัพท์ โครงสร้างประโยค ช่วยให้ใช้ ภาษาสื่อสารในชีวิตประจำวัน และรู้และเข้าใจเรื่องที่ศึกษา ช่วยให้จับใจความสำคัญ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา และเป็นพื้นฐานในการค้นคว้า รวบรวมข้อมูล และนำเสนอด้วยการเขียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล
6 มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดง ความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้นๆ ถูกต้องตาม หลักการอ่าน ต 1.1 ม.3/3 ระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง รูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และ ข้อความที่ฟังหรืออ่าน ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม 4. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง They’re really cool! การสนทนาเกี่ยวกับขนาดและราคาของสินค้า ตลอดจนการสนทนาเพื่อซื้อสินค้า/บริการเป็นพื้นฐานในการนำภาษาอังกฤษไปใช้เพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดง ความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และ สังคม ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.3/3 ระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง รูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และ ข้อความที่ฟังหรืออ่าน ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม ต 4.1 ม.3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม 5. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง Hi there! It’s…..team up การรู้และเข้าใจเรื่องที่ได้ศึกษา ช่วยให้จับ ใจความสำคัญ และเป็นพื้นฐานในการนำภาษาอังกฤษไปใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล
7 มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม 6. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง Shopping in London การรู้และเข้าใจเรื่องที่ได้ศึกษา ช่วยให้พูดและ เขียนสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัว อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา และเปรียบเทียบกับของไทย มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และ นำไปใช้ ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ อาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษา ต 4.2 ม.3/2 เผยแพร่/ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น เป็น ภาษาต่างประเทศ
8 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Shopping habits 1 ระบุคำศัพท์เกี่ยวกับ shops ได้ถูกต้อง (K) 2 สามารถใช้โครงสร้างประโยคในการสอบถามข้อมูลจากคนอื่นได้ (P) 3 ใฝ่เรียนรู้และมีวินัยในการทำงาน (A) 2. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Shopping habits (2) 1 เลือกระบุคำศัพท์ที่กำหนดได้ตรงกับประเภทของ shop (K) 2 สามารถใช้โครงสร้างประโยคในการสอบถามข้อมูลจากคนอื่นได้(P) 3 ใฝ่เรียนรู้และมีวินัยในการทำงาน (A) 3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Shopping habits (3) 1 เข้าใจหลักการใช้ will และ going to (K) 2 เขียนหลักการใช้ will และ going to ได้(P) 3 ใฝ่เรียนรู้และมีวินัยในการทำงาน (A) 4. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง They’re really cool! 1 ระบุคำศัพท์เกี่ยวกับราคาจากสิ่งที่ฟังได้ (K) 2 สอบถามเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับราคาจากผู้อื่นได้ (P) 3 ใฝ่เรียนรู้และมีวินัยในการทำงาน (A) 5. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง Hi there! It’s…..team up 1 จับใจความและระบุข้อมูลเฉพาะจากการอ่านได้(K) 2 พูดนำเสนอสั้นๆ เกี่ยวกับนิสัยในการซื้อของของตนเองได้(P) 3 ใฝ่เรียนรู้และมีวินัยในการทำงาน (A) 6. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง Shopping in London 1 จับใจความและหาข้อมูลเฉพาะจากการฟังได้(K) 2 เขียนเกี่ยวกับร้านค้าหรือตลาดของเจ้าของภาษาและของไทยได้(P) 3 ใฝ่เรียนรู้และมีวินัยในการทำงาน (A)
9 สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร การอธิบาย การเขียน การพูดหน้าชั้นเรียน 2. ความสามารถในการคิด การคิดวิเคราะห์ การตอบคำถาม การอภิปราย
10 1. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Shopping habits ขั้นที่ 2 ขั้นนําเสนอ (Presentation) 1. นักเรียนร่วมกันอภิปรายภายในห้องเรียนเกี่ยวกับสิ่งของนอกเหนือจากที่ครูนำเสนอไป สิ่งของเหล่านั้นสามารถหาซื้อได้ที่ไหน เช่น How is it active learning? การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับ เพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนา ศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ การเรียนรู้แบบโต้วาที (Student debates) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดให้ผู้เรียนได้ นำเสนอข้อมูลที่ได้จากประสบการณ์และการเรียนรู้ เพื่อยืนยันแนวคิดของตนเองหรือกลุ่ม ขั้นที่ 3 ขั้นฝึก (Practice) 1. Ex.4 หน้า 15 นักเรียนปิดหนังสือ จากนั้นพูดคำศัพท์เกี่ยวกับ shops ทั้งหมดคนละ 3 คำ ที่นักเรียนจำได้ครูคอยชี้แนะว่าคำใดถูกต้องและออกเสียงอย่างไร เช่น
11 How is it active learning? จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่หลากหลาก การจดจำคำศัพท์และออกเสียงที่ถูกต้องเป็นการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองในการออกเสียง ครูผู้สอนเป็นเพียงโค้ช ชิ่ง (Coaching) ช่วยสนับสนุนเพื่อทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปตามเป้าหมายในการออกเสียงที่ถูกต้อง 2. Ex.5 หน้า 15 นักเรียนจับคู่สนทนา จากนั้นเลือก items จาก shopping list แล้วฝึกสนทนาโดยใช้โครงสร้าง ประโยคตามที่นำเสนอ ดังนี้ How is it active learning? เป็นการสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนในชั้น เรียน โดยการสนทนาจาก function ที่กำหนดเลือก items จาก shopping list แล้วฝึกสนทนา ผู้เรียนมีส่วนร่วม ในการเรียนการสอนทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน
12 Exercise 2 : Checklist นักเรียนใช้โครงสร้างประโยคในการสอบถามเพื่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลใส่ลงในตารางให้ สมบูรณ์ How is it active learning? การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผู้เรียน (Student-led review sessions) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาส ให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้และพิจารณาข้อสงสัยต่าง ๆ ในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ โดยครูจะคอยช่วยเหลือ กรณีที่มีปัญหา
13 ขั้นที่ 5 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเรื่องที่ได้เรียนร่วมกัน How is it active learning? การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับ ประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และ การสรุปทบทวนของผู้เรียน สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ปฏิสัมพันธ์ที่ดี กับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน
14 2. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Shopping habits (2) ขั้นที่ 3 ขั้นฝึก กิจกรรมที่ 1 correct type 1. แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม จากกลุ่มที่นั่งเรียนอยู่แล้ว เป็นกลุ่ม 1 และ 2 2. แจกบัตรคำศัพท์แก่นักเรียนกลุ่มละ 6 คำ ได้แก่ T-shirt, polo shirt, bread, cookies, chickens, beef 3. ครูนำรูปภาพจำนวน 6 ภาพไปติดบนกระดาน โดยจะแบ่งติดคนละฝั่ง ฝั่งละ 3 ภาพ ได้แก่ clothes shop, baker shop, butcher shop ฝั่งซ้ายและ clothes shop, baker shop, butcher shop ฝั่งขวาเช่นเดียวกัน
15 4. นักเรียนนำคำศัพท์ที่ได้ติดด้านล่างภาพ shop ให้ถูกต้องตามประเภท กลุ่มไหนเสร็จก่อนให้พูดว่า “we are done” จะได้คะแนนบวกเพิ่ม 2 คะแนน และกลุ่มที่เสร็จรองลงมาจะได้บวกเพิ่ม 1 คะแนน How is it active learning? จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่หลากหลาย คือ การเรียนรู้แบบใช้เกม (Games) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนนำเกมเข้าบูรณาการในการเรียนการสอน ซึ่งใช้ได้ทั้งในขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน การสอน การมอบหมายงาน และหรือขั้นการประเมินผล กิจกรรมที่ 2 How much 1. ครูสาธิตและยกตัวอย่างวิธีการสนทนาการถาม-ตอบเกี่ยวกับราคา ดังนี้ โดยครูเป็นผู้หยิบสินค้าให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนสลับกันถาม-ตอบราคา เช่น
16 2. นักเรียนจับคู่ จากนั้นสลับกันถามตอบตามที่ครูได้สาธิตและยกตัวอย่างไปข้างต้น How is it active learning? การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผู้เรียน (Student-led review sessions) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้และพิจารณาข้อสงสัยต่าง ๆ ในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ โดยครูจะคอย ช่วยเหลือกรณีที่มีปัญหา ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ ร่วมกัน ร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน ขั้นที่ 4 ขั้นนําไปใช้ 1. worksheet 1 : shopping experiences (1) Exercise 1 : นักเรียนแยกประเภท shop ที่กำหนดลงในสินค้าได้ถูกต้อง พร้อมตั้งราคาสินค้า แต่ละชิ้น Exercise 2 : นักเรียนจับคู่และสอบถามราคาสินค้าจากคู่ของตนเองโดยสลับกันถามตอบ จากนั้นบันทึกข้อมูลที่ได้ลงใน Exercise 2 How is it active learning? เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง และเป็นกระบวนการ สร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้
17 แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น ได้ ขั้นที่ 5 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเรื่องที่ได้เรียนร่วมกัน How is it active learning? การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับ ประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และ การสรุปทบทวนของผู้เรียน สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ปฏิสัมพันธ์ที่ดี กับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน
18 3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Shopping habits (3) ขั้นที่ 1 ขั้นนํา 1. ทบทวนคำศัพท์จากคาบเรียนที่แล้ว โดยครูจะสุ่มโดยใช้กิจกรรม funny ball จนครบทั้งหมด 8 คำ จากนั้นให้นักเรียนสรุปคำศัพท์ 8 คำ ร่วมกันอีกครั้ง
19 How is it active learning? เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคิดขั้นสูง จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้งกระตุ้นให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้และจัดกิจกรรมการเรียน การสอนให้ท้าทาย และให้โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่หลากหลาย คือ การเรียนรู้แบบใช้เกม (Games) คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนนำเกมเข้าบูรณาการในการเรียนการสอน ซึ่งใช้ได้ทั้งในขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน การสอน การมอบหมายงาน และหรือขั้นการประเมินผล ขั้นที่ 3 ขั้นฝึก 2. Ex.7 หน้า 15 นักเรียนจินตนาการว่า กำลังจะจัดเลี้ยงอาหารเย็นสำหรับวันปิดภาคเรียน แล้วครูแบ่ง นักเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ และกำหนดหัวหน้ากลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มอ่านคำสั่ง รวมทั้งข้อกำหนดในการจัดเลี้ยงที่ให้มาใน หนังสือเรียน หน้า 15 Ex.7 ครูช่วยเหลือนักเรียนเท่าที่จำเป็น จากนั้นครูสุ่มเรียกนักเรียน 3 คน อ่านออกเสียง ตัวอย่างประโยค พร้อมระบุด้วยว่า แต่ละประโยคตรงกับข้อกำหนดใดที่ให้ไว้ในคำสั่ง เช่น เสร็จแล้วครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนความคิดของตนเองลงในกระดาษ และให้เวลานักเรียนใน การทำงาน ครูเดินสังเกตการทำงานของนักเรียนอย่างใกล้ชิด เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ How is it active learning? ผู้เรียนเรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทํางาน และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ จัดสภาพการ เรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน คือ การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยจัดเป็นกลุ่มๆ ละ 3-6 คน ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
20 3. Ex.8 หน้า 15 ให้แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 15 Ex.8 โดยนำเสนอความคิด ของกลุ่มตนเองเกี่ยวกับการจัดเลี้ยงอาหารเย็น โดยครูเขียนประเด็นต่างๆ ที่แต่ละกลุ่มนำเสนอบนกระดาน เสร็จ แล้วให้นักเรียนลงมติเลือกกลุ่มที่นำเสนอความคิดได้ดีที่สุด A : We’re going to have strawberries and ice cream. B : Martha’s going to buy a cake at the baker’s. แบ่งนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มทำโปสเตอร์ร้านค้าและสินค้าที่อยู่ในร้านดังกล่าว โดยครูกำหนดให้ นักเรียนเขียนชื่อร้านไว้ด้านบนสุดของโปสเตอร์ และวาดรูปสินค้าต่างๆ ที่อยู่ในร้านค้า พร้อมทั้งเขียนคำศัพท์ ภาษาอังกฤษประกอบ ซึ่งนักเรียนสามารถกล่าวถึงอาหาร หรือของในชุมชนของตนเองได้เพื่อเป็นการสนับสนุนภูมิ ปัญญาท้องถิ่นของประชาชนในภาคใต้เช่น อาหารภาคใต้ ขนมภาคใต้ หรือเครื่องดื่มของภาคใต้ เป็นต้น How is it active learning? จัดสภาพการเรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน คือ การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยจัดเป็น กลุ่มๆ ละ 3-6 คน ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง และวางแผนเกี่ยวกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของเนื้อหา และกิจกรรม การเรียนรู้แบบการเขียนจดหมายข่าว (Write and produce a newsletter) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ ให้ผู้เรียนร่วมกันผลิตจดหมายข่าว อันประกอบด้วย บทความ ข้อมูลสารสนเทศ ข่าวสาร โปสเตอร์และเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น แล้วแจกจ่ายไปยังบุคคลอื่นๆ ขั้นที่ 4 ขั้นนําไปใช้ 1. Mind map : สรุปหลักการใช้ will และ going to ลงในสมุด How is it active learning? การเรียนรู้แบบแผนผังความคิด (Concept mapping) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนออกแบบ แผนผังความคิด เพื่อนำเสนอความคิดรวบยอด และความเชื่อมโยงกันของกรอบความคิด โดยการใช้เส้นเป็นตัว เชื่อมโยงเกี่ยวกับ หลักการใช้ will และ going to ขั้นที่ 5 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเรื่องที่ได้เรียนร่วมกัน How is it active learning?
21 การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับ ประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และ การสรุปทบทวนของผู้เรียน สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ปฏิสัมพันธ์ที่ดี กับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน
22 4. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง They’re really cool! ขั้นที่ 1 ขั้นนํา (Warm up) 1. ครูถามนักเรียนว่าชอบใส่เสื้อผ้า รองเท้า กางเกง แบบไหน เช่น How is it active learning? การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับ ประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้และ การสรุปทบทวนของผู้เรียน สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ปฏิสัมพันธ์ที่ดี กับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน ขั้นที่ 3 ขั้นฝึก (Practice) 2. Ex. 4 หน้า 17 นักเรียนฟัง mini dialogues จาก Audio แล้วจับคู่ราคาที่กำหนดกับสินค้าให้ถูกต้อง จำนวน 6 ข้อ
23 How is it active learning? เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วย ตนเองการเรียนรู้แบบวิเคราะห์เสียง (Analysis or reactions to Audio) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ ผู้เรียนได้ฟัง 5-20 นาที แล้วให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น หรือสะท้อนความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ดู อาจโดยวิธีการพูด โต้ตอบกัน การเขียน หรือ การตอบคำถาม 3. กิจกรรม 3 Q&A 1. นักเรียนจับคู่ จากนั้นเข้าแถวเป็นคู่หน้าชั้นเรียน 2. ครูอธิบายรายละเอียดกิจกรรม ดังต่อไปนี้ 2.1 นักเรียน 1 ใน 2 คนจากคู่ของตนเอง หยิบบัตรภาพจากล่องสุ่มบัตรภาพ และอีกหนึ่งคนให้หยิบบัตรราคาจากกล่องสุ่มบัตรราคา 2.2 นักเรียนสนทนาโดยใช้โครงสร้างประโยคที่ครูนำเสนอ โดยเลือกใช้ โครงสร้างประโยคให้สัมพันธ์กับภาพที่ได้
24 2.3 นักเรียนที่หยิบบัตรภาพเป็นผู้ถาม (Q) และนักเรียนที่หยิบบัตรราคาเป็น ผู้ตอบ (A) 2.4 นักเรียนสลับกัน นักเรียนที่หยิบบัตรภาพเปลี่ยนไปหยิบบัตรราคาและ นักเรียนที่หยิบบัตรราคาไปหยิบบัตรภาพ จากนั้นสนทนากันเหมือนครั้งแรก How is it active learning? เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการ เรียนรู้ด้วยตนเอง สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับ ผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน คือ การเรียนรู้แบบการสนทนา (Conversations) นักเรียนจะสนทนากันเพื่อฝึกการ ออกเสียง และความเข้าใจของบทสนทนานั้นๆ ครูผู้สอนเป็นเพียงโค้ชชิ่ง (Coaching) ช่วยสนับสนุนเพื่อทำให้เกิด ความเปลี่ยนแปลงไปตามเป้าหมายในการออกเสียงที่ถูกต้องและเป็นไปตามบทสนทนานั้นๆ
25 ขั้นที่ 4 ขั้นนําไปใช้ (Production) 1. worksheet 1 : They’re really cool! Exercise 1 : นักเรียนฟัง mini dialogues จากครูแล้วระบุราคาสินค้าให้ถูกต้องตามที่ฟัง How is it active learning? เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วย ตนเองการเรียนรู้แบบวิเคราะห์เสียง (Analysis or reactions to Audio) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ ผู้เรียนได้ฟัง mini dialogues จากครูแล้วให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น หรือสะท้อนความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ดู อาจ โดยวิธีการพูดโต้ตอบกัน การเขียน หรือ การตอบคำถาม Exercise 2 : นักเรียนตั้งราคาสินค้าด้วยตนเอง จากนั้นใช้โครงสร้างประโยค 2 โครงสร้าง ได้แก่ A : How much is the singular? B : It’s________dollars/pound/euro.
26 A : How much are the plural? B : They’re________dollars/pound/euro. เพื่อสอบถามข้อมูลจากเพื่อนแล้วบันทึกข้อมูลของเพื่อน How is it active learning? การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพ ทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง คือการถามแลกเปลี่ยนความคิด หรือข้อมูลในการถามราคา โดยใช้โครงสร้าง A : How much is the singular? B : It’s________dollars/pound/euro. A : How much are the plural? B : They’re________dollars/pound/euro.
27 ขั้นที่ 5 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเรื่องที่ได้เรียนร่วมกัน How is it active learning? การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับ ประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และ การสรุปทบทวนของผู้เรียน สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ปฏิสัมพันธ์ที่ดี กับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน
28 5. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง Hi there! It’s…..team up ขั้นที่ 2 ขั้นนําเสนอ (Presentation) 2. ครูให้นักเรียนบรรยายภาพในหัวข้อ Shopping? No, window shopping! ในหนังสือเรียน หน้า 20 (Two girls are in a department store.) จากนั้นครูถามคำถามนักเรียน แล้วให้นักเรียนตอบโดยใช้ ข้อมูลของตนเอง เช่น Do you like visiting shopping centres? Do you usually go to shopping centres on Saturdays? If not, where do you usually go? Who do you go with? What do you usually do when you are there? Do you like buying clothes or CDs? ต่อมาให้นักเรียนสังเกตภาพประกอบในหัวข้อ Car boot sales ว่านักเรียนเห็นอะไรบ้าง ครูให้นักเรียนพูดบรรยาย อย่างอิสระ แล้วให้นักเรียนช่วยกันบรรยายภาพดังกล่าว (Two boys sell their toys. They may be old things.) จากนั้นครูถามคำถามนักเรียนว่า ในประเทศไทยมีการขายของแบบเปิดท้ายขายของหรือไม่ แล้วจึงถาม คำถามนักเรียน ดังนี้ - Do you sell old things in Thailand in the same way? - Do you think it’s a good idea? - Would you like to sell your old toys, books and other things? How is it active learning? ครูผู้สอนต้องใจกว้าง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดเของที่ผู้เรียน คือ การ เรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับ ประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) ขั้นที่ 3 ขั้นฝึก (Practice) 3. นักเรียนอ่านข้อความในหนังสือเรียน หน้า 20 หัวข้อ Over to you… แล้วครูแบ่งนักเรียนในชั้น ออกเป็นกลุ่มย่อย แล้วให้แต่ละกลุ่มเขียนรายการร้านค้าที่นักเรียนต้องการจะไปซื้อของในวันหยุด และรายการ สิ่งของที่จะซื้อว่ามีอะไรบ้าง ถ้ามีนักเรียนถามเกี่ยวกับคำศัพท์ที่ไม่รู้ ครูเขียนคำศัพท์และความหมายไว้บนกระดาน ด้วย เพื่อที่นักเรียนจะได้ไม่ถามคำถามซ้ำหลายๆ ครั้ง ครูควรกำหนดเวลาในการทำกิจกรรม แล้วเดินสังเกตขณะ นักเรียนทำงาน เมื่อหมดเวลา ครูสุ่มเรียกนักเรียน 4-5 คน ให้อ่านรายการของตนเอง Possible answers Shoe shop – trainers, sandals Clothes shop – jeans, shorts, T-shirts, cap Sports shop – rucksack
29 Health and beauty shop – sun cream, bubble bath, soap Bookshop – guide book, phrase book, mini dictionary Travel agency– ticket How is it active learning? ครูผู้สอนต้องใจกว้าง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดเของที่ผู้เรียน คือ การ เรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับ ประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ ทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยจัดเป็นกลุ่มๆ ละ 3-6 คน วางแผนเกี่ยวกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทั้งใน ส่วนของเนื้อหา และกิจกรรม ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง 4.ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันจัดเตรียมการเปิดท้ายรถขายของ (car boot sale) โดยให้นักเรียนแต่ละคนตัดสินใจว่าจะขายอะไร และแต่งประโยคโดยใช้ will เช่น I’ll sell my old dolls. แล้วพูดบอกเพื่อนในกลุ่ม จากนั้นให้นักเรียนบอกเพื่อนในชั้นเรียนเกี่ยวกับความตั้งใจของตนเองว่าตั้งใจจะขาย อะไร โดยใช้ going to เช่น I’m going to sell my old dolls. ครูอาจทบทวนการใช้ will และ going to ให้ นักเรียนอีกครั้ง ก่อนให้นักเรียนทำกิจกรรมต่อมาครูให้นักเรียนจัดกิจกรรมขายของขึ้นมาจริงๆ โดยสิ่งของที่ขาย อาจเป็นสิ่งของที่สมมติขึ้นมา โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ขาย (sellers) กับกลุ่มผู้ซื้อ (buyers) นักเรียนกลุ่มที่เป็นผู้ขายเขียนรายการสินค้าที่จะขายลงในเศษกระดาษ แล้วนำไปวางไว้บนโต๊ะของตนเอง กลุ่มผู้ ซื้อให้เดินรอบๆ ชั้นเรียน พูดถามราคาและตัดสินใจซื้อสิ่งที่น่าสนใจสำหรับตนเองสุดท้ายครูให้นักเรียนร่วมกัน สำรวจว่าผู้ขายคนใดที่ขายได้กำไรมากที่สุด ซึ่งก็คือผู้ขายที่มีผู้ซื้อสินค้ามากที่สุดในราคาที่ดีที่สุด How is it active learning? จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้งกระตุ้นให้ ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่ม ลึก การใช้สถานการณ์จำลองในการจัดการเรียนรู้(Simulation Method) ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วย ตนเองการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง เสมือนจริง เป็นกระบวนการที่ผู้สอนใช้ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตาม วัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยผู้สอนจัด สถานการณ์ขึ้นเลียนแบบของจริง โดยกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยการ แก้ปัญหา ได้ใช้ทักษะกระบวนการคิด และการตัดสินใจจากสถานการณ์นั้น ๆ โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในบทบาท หรือในสถานการณ์นั้น ๆ ให้มาก ที่สุด 2. นักเรียนทำกิจกรรมโดยเตรียมพูดนำเสนอสั้นๆ เกี่ยวกับนิสัยในการซื้อของของตนเอง โดยใช้คำถามที่กำหนดให้ เป็นแนวทางในการเตรียมข้อมูล
30 - Where do you go? - What are your favourite shops? - What do you usually buy? - How often do you go shopping? - Who do you go with? - Do you shop online? แล้วช่วยกันบอกว่านักเรียนต้องทำอะไร อย่างไร อาจให้นักเรียนเรียงลำดับคำถามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นไป ตามลำดับ How is it active learning? เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการ เรียนรู้ด้วยตนเอง สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับ ผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน ขั้นที่ 5 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเรื่องที่ได้เรียนร่วมกัน How is it active learning? การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share)คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับ ประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และ การสรุปทบทวนของผู้เรียน สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ปฏิสัมพันธ์ที่ดี กับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน
31 6. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง Shopping in London ขั้นที่ 3 ขั้นฝึก (Practice) 20 นาที 2. ครูแบ่งนักเรียนเป็น 6 กลุ่ม แล้วแบ่งข้อความในหนังสือเรียน หน้า 21 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม จากนั้นให้แต่ละกลุ่มอ่านข้อความที่ได้รับมอบหมาย พร้อมทั้งเปิดพจนานุกรมหาคำศัพท์ สำหรับอธิบายให้เพื่อนๆ ในชั้นฟัง ครูกำหนดเวลาในการทำกิจกรรม เมื่อหมดเวลาแล้ว ให้แต่ละกลุ่มอ่านข้อความของตนเอง พร้อมทั้งสรุป เนื้อเรื่อง และอธิบายคำศัพท์สำคัญๆ ให้เพื่อนๆ ฟัง How is it active learning? ครูผู้สอนต้องใจกว้าง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดเของที่ผู้เรียน วางแผน เกี่ยวกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของเนื้อหา และกิจกรรม การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยจัดเป็น กลุ่มๆ ละ 3-6 คน สำหรับอธิบายให้เพื่อนๆ ในชั้นฟังเกี่ยวกับข้อความในหนังสือเรียน หน้า 21 3. นักเรียนจับคู่กันและแต่งประโยคคำถามแบบ Wh-questions เกี่ยวกับข้อความในหนังสือเรียน หน้า 21 เมื่อนำคำถามมาให้ครูตรวจแล้ว ให้นักเรียนจับคู่กันฝึกพูดถาม-ตอบโดยใช้คำถามที่คู่ตนเองแต่ง เสร็จแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียนหลายๆ คู่ ลุกขึ้นยืน และพูดถาม-ตอบกัน คู่ละ 2-3 คำถาม เมื่อนักเรียนออกมาพูดถาม-ตอบ กันเสร็จแล้ว ครูถามคำถามที่นักเรียนออกมานำเสนอกับนักเรียนในชั้นอีกครั้ง โดยห้ามให้นักเรียนคู่ที่เป็นเจ้าของ คำถามตอบ Possible answers: - How many shops and large street markets in London? 40,000 shops and more than 26 large street markets. - What time do most shops in London open and close? Most shops in London open at 9.00 a.m. and close at 5.30 p.m. - How many departments are there in Harrod’s? There are 300 different departments in Harrod’s. - What is one of the most famous departments in Harrod’s? One of the most famous departments in Harrod’s is the food hall. - What is the biggest toy shop in London? The biggest toy shop in London is Hamleys. - How many floors are there in Hamleys? There are 7 floors in Hamleys. - What can you buy in Hamleys? You can buy everything from traditional toys to high-tech computer games and robots. - What is Covent Garden now famous for? It is now famous for its cafés, small shops and street artists.
32 - What was Covent Garden famous for in the past? It was famous for a big fruit and vegetable market in the past. - How can you find cheap prices and good discounts in London? You can find it at the January Sales. - When do the January Sales in London start? They usually start at the end of December How is it active learning? ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกันร่วมมือ กันมากกว่าการแข่งขัน การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผู้เรียน (Student-led review sessions) คือการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้และพิจารณาข้อสงสัยต่าง ๆ ในการปฏิบัติกิจกรรมการ เรียนรู้ โดยครูจะคอยช่วยเหลือกรณีที่มีปัญหา ขั้นที่ 4 ขั้นนำไปใช้ (Production) 1. Notebook : นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 14 Ex.1 ลงในสมุด โดยครูเปิด Student’s Audio CD/Track 6 ให้นักเรียนฟัง 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ให้นักเรียนฟังและระบุว่าในแต่ละ บทสนทนานั้นเกิดขึ้นที่ร้านค้าใด ครั้งที่สอง ให้นักเรียนฟังและตรวจทานคำตอบของตนเองอีกครั้ง How is it active learning? เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการ เรียนรู้ด้วยตนเอง 2. Worksheet 1 : Shopping in London ให้นักเรียนอ่านข้อความในกรอบที่ 2 และ 5 ใน หนังสือเรียน หน้า 21 อีกครั้ง กรอบที่ 2 Most shops open at 9.00 a.m. and close at 5.30 p.m. Some big shops in the centre of London close later. They don’t normally close for lunch. กรอ บ ที่ 5 Covent Garden is now famous for its cafés, small shops and street artists. But in the past, it was a big fruit and vegetable market. จากนั้นครูอธิบายว่าให้นักเรียนทำงานคู่ เลือกหัวข้อในการทำงานต่อไปนี้ - เขียนเปรียบเทียบเกี่ยวกับเวลาในการเปิด-ปิดหรือวันหยุดของร้านค้าใน London และร้านค้าในท้องถิ่น ของนักเรียน - เขียนเปรียบเทียบเกี่ยวกับตลาด Covent Garden และตลาดในประเทศไทยที่มีลักษณะเช่นเดียวกันหรือ มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ
33 เมื่อแต่ละคู่เลือกหัวข้อได้แล้ว ครูอธิบายว่าให้นักเรียนไปค้นหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และเขียนย่อ หน้าสั้นๆ เพื่อเปรียบเทียบและอธิบายข้อมูลครูแนะนำคำสำคัญที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เช่น Shop opening times in London How is it active learning? เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ และหลักการความคิดรวบ ยอด และเป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไป ประยุกต์ใช้การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผู้เรียน (Student-led review sessions) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้และพิจารณาข้อสงสัยต่าง ๆ ในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้โดยการใช้ ความคิดในการเปรียนเทียบเพื่อเป็นการทบทวน โดยครูจะคอยช่วยเหลือกรณีที่มีปัญหา