The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รู้เรื่องสีไม้ .. ป.3 (29.7 × 21ซม.)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tukpi_50, 2022-09-26 12:27:13

รู้เรื่องสีไม้ .. ป.3 (29.7 × 21ซม.)

รู้เรื่องสีไม้ .. ป.3 (29.7 × 21ซม.)

ที่มาของสีไม้ เรื่องราวสีไม้
โดย ครูปิยะมาศ เจริญวงศานนท์
คุณสมบัติของสีไม้ ลักษณะของสีไม้

การเก็บรักษาสีไม้

เทคนิคการระบายสี วัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับสีไม้

หลักสำคัญของสีไม้ เรื่องราวสีไม้

ศิลปะเป็นผลงานที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นจากความคิด ความรู้สึก ความ
ประทับใจ โดยการแสดงออกของอารมณ์ สติปัญญา ทัศนคติ รวมทั้งทักษะ
ความชำนาญของมนุษย์ในแง่มุมต่างๆ อันเป็นมูลเหตุให้เกิดรู ปแบบและวิธีการ
ถ่ายทอดผลงานศิลปะ

การเขียนภาพด้วยสีไม้ มีลักษณะคล้ายกับการใช้ดินสอแรเงาแต่สีไม้จะ
เพิ่มสีสันที่สวยงามมากกว่าและต้องใช้ฝีมือที่ละเอียด นุ่มนวล ถ้าวาดหรือระบาย
อย่างรวดเร็ว ไม่มีหลักการภาพที่ออกมาจะเป็นเส้นหยาบๆ ไม่สวยงามตาม
ความต้องการ อาจทำให้ภาพเหล่านั้นดูด้อยคุณค่าลง ก่อนลงมือเขียนภาพด้วย
สีไม้ควรศึกษา ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิค วิธีการ ขั้นตอน เพื่อฝึกทักษะ
ความชำนาญ ควรเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมต้องมีความพิถีพิถัน อาศัยการ
ฝึกจนเกิดความชำนาญ ผลงานที่ออกมาจึงจะสวยงามและดูมีคุณค่า

ความเป็นมาของสีไม้ เรื่องราวสีไม้

การสร้างสรรค์งานจิตรกรรมโดยทั่วไป ต้องมีจุดมุ่งหมายและเรื่องราวต้องมีแก่นสาร
ที่กระทำแล้วเกิดประโยชน์ การเขียนภาพด้วยสีไม้เป็นเทคนิคสีอีกรูปแบบหนึ่งที่สวยงามมากไม่
แพ้ สีน้ามันหรือสีน้ำ การเขียนภาพส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวประกอบนิทาน การ์ตูน แผนที่
ภาพดอกไม้ ภาพธรรมชาติ เป็นต้น (ชุลีรัตน์ เลือดน้าชล. 2546 : 11)

ศิลปินในอดีตส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับสีน้ามัน สีน้า ดินสอ เกรยอง “สีไม้หรือสีดินสอ”
ดูเหมือนจะเป็นสื่อที่ไม่แพร่หลายมากนักจึงไม่นิยมนามาสร้างสรรค์งานศิลปะอย่างเป็นจริงเป็น
จัง ทั้งที่กลวิธีและที่มาของสีไม้ มีมาตั้งแต่สมัยเรอเนสซองค์ แต่เดิมสีไม้เกิดจากความ
ต้องการจะพัฒนาสีชนิดหนึ่ง ให้สะดวกต่อการนาไปเขียนนอกสถานที่ จึงเกิดการผสมกัน
ระหว่าง “สีชอล์คกับเกรยอง” ในสมัยก่อนช่วงเริ่มต้นของการผลิตสีไม้ผู้ผลิตยังไม่สามารถ
ผลิตได้ครบทุกสี คือเริ่มจากสีแดง สีขาวและสีดำ สีที่นิยม มากที่สุดคือ “สีแดง” รองลง
มาคือสีขาวกับสีดำ ภายหลังมีการผลิตสีต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เริ่มจากการนำผงสีชอล์คมาอัดเป็น
แท่งด้วยผ้าหรือหนัง ภายหลังจึงนำมาหุ้มด้วยไม้เนื้ออ่อนที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน (สมคิด
หงส์สุวรรณ. 2546 : 4)

ลักษณะและชนิดของสีไม้

1. สีไม้หรือสีดินสอมีลักษณะเป็นแท่งเหมือนแท่งของดินสอมีความ
แห้ง ด้าน มีความอ่อน - แข็ง เปรียบเทียบได้กับดินสอ H HB 2B
เป็นต้น

2. ไส้สีหรือเนื้อสีมีความเนียนนุ่ม เขียนระบายง่าย
ส่วนความสดใสของสีขึ้นอยู่กับราคาและคุณภาพ

สีไม้เมื่อเขียนระบายลงบนพื้ นผิวกระดาษ สีจะเนียน
ติดผิวกระดาษนาน ไม่ปลิวเป็นผงหรือซีดเร็ว

ปัจจุบันสีไม้มี 2 ชนิด คือ ชนิดที่ระบายธรรมดา และ ชนิดที่
ระบายเป็นสีน้ำได้ การใช้งานขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าต้องการเลือกใช้แบบใด

การระบายสีไม้
ระบายแบบสีน้ำ

การระบายสีไม้
ธรรมดา

คุณสมบัติของสีไม้

1. สีไม้เป็นสีที่โปร่งแสงหรือกึ่งทึบแสง
2. สีไม้สามารถระบายทับซ้อนกันได้ 2-10 ชั้น (แล้วแต่วิธีการ)

วิธีการที่จะรู้เรื่องคุณสมบัติหรือคุณภาพของสีไม้ได้ดีที่สุด คือ ควร
ทดลองใช้สีขีดเขียนในกระดาษที่จะใช้จริง ในการฝึกฝนการระบายสีไม่ต้อง
เน้นเรื่องรูปทรง หรือน้ำหนัก แสงเงา แต่ควรเน้นเรื่องการประสานกันใน
ระหว่างสายตา สมอง มือกับเนื้อของสีและกระดาษ เมื่อฝึกเขียนได้สักระยะ
หนึ่งแล้วค่อยลงมือเขียนจริงจะได้มีความชำนาญและเกิดความเพลิดเพลินใน
การสร้างสรรค์ผลงาน (ลาภ อำไพรัตน์ 2548 : 7)

สีไม้เป็นสีที่เปราะหักง่าย การเขียนหรือระบายต้องมีความระมัดระวังไม่ให้
สีตกหล่นหรือกดสีไม้ในขณะที่ระบายมากเกินไป เพราะไส้สีจะหักทำให้หมด
เปลืองเร็ว การทำให้สีไม้แหลมคมทำได้โดยการเหลาสีไม้โดยใช้อุปกรณ์
อุปกรณ์ในการเหลาสีไม้

1. กบเหลา
2. มีดคัตเตอร์

การเก็บรักษาสีไม้ ควรเก็บไว้ในกล่องสีโดยเฉพาะ
วางให้ปลายสีเชิดขึ้นและไม่ควรให้สีหล่นลงพื้น
เพราะไส้สีที่อ่อนจะเปราะหักง่าย

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับสีไม้ คือ ความงามที่มีลักษณะโดดเด่นจากคุณสมบัติ ที่ระบาย
หรือขีดเขียนเป็นเส้นเหมือนดินสอทั่วไป หรือหากต้องการผลทางเทคนิคเฉพาะก็ใช้น้ำระบาย
ความสามารถในการผสมผสานกลวิธีทั้ง 2 แบบเข้าด้วยกัน สามารถเป็นสื่อในการถ่ายทอด
จินตนาการได้อย่างกว้างขวางและเป็นอิสระ

สีไม้สามารถเขียนและวาดภาพระบายลงพื้นได้หลายชนิด เช่น พื้นผ้า พื้นกระดาษ
พื้นเดรสโซ่ พื้นไม้และพลาสติกที่ผิวด้าน (สมคิด หงษ์สุวรรณ. 2546 : 6)

1. ดินสอสี
2. กบหรือมีดเหลาดินสอ (คัตเตอร์)
3. กระดาษวาดเขียน
4. ยางลบ
5. ดินสอดำ
6. กระดาษกาวสำหรับกั้นขอบงาน
7. กระดานรองเขียนและตัวหนีบ
8. สเปรย์พ่นเคลือบเงา

ตัวอย่างการทดลองคุณสมบัติของสีไม้ โดยนำสีเหลืองระบายลงบนพื้นกระดาษขาว
หลังจากนั้น ใช้สีน้าเงินมาระบายทับบนสีเหลืองจะปรากฏเป็นสีเขียว และใช้สีแดงระบาย
ทับสีเหลืองจะปรากฏเป็นสีส้ม จากลักษณะดังกล่าวจะเห็นได้ว่าสีไม้สามารถระบายผสม
กันเพื่อเกิดสีใหม่ได้

ภาพแสดงการทำน้ำหนั ก
ของเส้ นด้วยสี ไม้
ที่มาผลงาน

โดยวลัยพร ศิลป์กรีฑากุล

ภาพแสดงการทดลอง
คุณสมบัติของสี ไม้
ที่มาผลงาน

โดยวลัยพร ศิลป์กรีฑากุล

1. เหลาปลายดินสอให้แหลม ดินสอสีไม้ที่แหลม จะช่วยให้เป็นเส้นควบคุมการระบายได้ แสดงเอกลักษณ์
ของสีไม้ ภาพคม พกที่เหลาดินสอ พร้อมกับการเปลี่ยนด้านของการขีดเส้นต่อไป ฝึกฝนให้เป็นความ
เคยชิน

1. ระบายให้เป็นเส้นไว้ก่อนในครั้งแรก ส่วนใหญ่เราจะระบายสีไม้ให้เต็มเนื้อกระดาษตั้งแต่ครั้งแรก จนภาพ
โดยรวมดูเหมือนผลไม้ช้ำ โดยเหลือพื้นที่ของกระดาษ ช่วยให้ภาพมีมิติ มากกว่าการระบายให้ทึบทั้งหมด
และยังช่วยให้เหลือพื้นที่กระดาษสีขาวในการจะระบายสีครั้งต่อๆ ไป เพื่อแก้ไขความไม่สม่ำเสมอของสีเดิม
หรือผสมสีใหม่ให้เกิดมิติ แสงเงา และความสวยงามได้มากยิ่งขึ้น

3. การระบายสีให้สม่ำเสมอโดยระบายเป็นพื้นที่เล็กๆ ในการระบายสีไม้ ปัญหาที่พบ มากที่สุดคือ สีไม่
สม่ำเสมอ ควบคุมได้ยาก วิธีแก้ปัญหานี้คือการพยายามระบายให้เป็นเส้นสั้นๆ ทีละน้อย เราจะค้น
พบว่าช่างดูน่าเบื่อ และน่าจะระบายได้ช้ากว่าแต่ในความเป็นจริง เมื่อเราระบายพื้นที่เล็กๆ จะช่วยให้
เราเปรียบเทียบสีกับพื้นที่ที่เราเพิ่งระบายไป ทำให้กำหนดน้ำหนักมือได้ใกล้เคียงกว่าการระบายเป็น
เส้นยาวๆ และนำมาตบให้เรียบๆ เท่ากันภายหลังได้ยาก และเสียเวลามากกว่า

4. การผสมสี
- ผสมสีโดยใช้สีที่แตกต่างกัน ระบายเป็นเส้นให้เหลือเนื้อกระดาษสีขาว ไว้สำหรับสีที่สองที่จะระบายลง

ไป เช่น สีน้ำเงิน ระบายทับด้วยสีเหลือง จนได้สีเขียว ที่มีมิติมากกว่า การระบายสีเขียวโดยตรงเพียง
อย่างเดียว
- การระบายสี โดย ใช้สีที่อ่อนกว่า หรือเข้มกว่า ระบายทับในส่วนที่แสดง แสงและเงา

นักเรียนเขียนความรู้เกี่ยวกับ

สีไม้

ในแผนผังความคิดให้ถูกต้อง

แล้วพบกันใหม่นะคะ...

สวัสดีค่ะ


Click to View FlipBook Version