วรศิ รา สขุ สมาน 59191440203
คานา
"7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก : Seven Wonders of the World" เล่มน้ี
นาเสนอเร่ืองราวน่าสนใจของสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ต้ังแต่ยุคแรกเริ่มของโลก ไม่ว่าจะเป็น
สถาปัตยกรรมอันย่ิงใหญ่หรือศิลปะชวนพิศวง ล้วนเป็นหลักฐานยืนยันถึงความเจริญรุ่งเรืองใน
อดีตที่หลายคนอาจต้ังคาถามว่า มนุษย์เป็นคนสร้างสิ่งเหล่าน้ีจริงหรือ พร้อมท้ังสอดแทรก
ความรู้ทางประวัติศาสตร์ อารยธรรม ความเช่ือเก่ียวกับ สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ นอกจากจะสนุก
เพลิดเพลนิ ไปกบั เรอ่ื งราวมหัศจรรย์เหล่าน้ีแล้ว ยังช่วยเพิ่มพูนความรู้รอบตัว และเสริมความรู้
นอกห้องเรยี นไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
สง่ิ มหัศจรรย์บางสิง่ ของโลกถกู สรา้ งโดยมนุษย์ ซ่ึงบางอยา่ งก็มีหลักฐานในการสร้าง
ว่าสร้างข้ึนมาได้อย่างไร แต่บางอย่างก็ไม่มีหลักฐานในการสร้างว่าสร้างขึ้นมาได้อย่างไร เช่น
กองหินสโตนเฮนจ์ ซ่ึงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในยุคกลาง กองหินสโตนเฮนจ์เกิดจากหินหลายสิบตัน
มาวางในลกั ษณะรปู ร่างทแี่ ปลกตา ซ่ึงหินหนกั หลายสิบตันในสมัยก่อนยังไม่มีเครื่องมือท่ีช่วยใน
การยกหรือรับนาหนกั ไดม้ ากขนาดน้ี เปน็ ต้น
พบกับความมหัศจรรย์ของสถานท่ีและสถาปัตยกรรมอันย่ิงใหญ่ ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม
อารยธรรมจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่หรือศิลปะชวนพิศวง ท้ังยังได้
สอดแทรกความรู้ทางประวัติศาสตร์ อารยธรรม ความเชื่อ ให้ทั้งความเพลิดเพลินและสาระ
ความรไู้ ปพร้อมๆ กันเลย
สารบญั
บทนา 1
7 สงิ่ มหศั จรรย์ของโลกยุคโบราณ (Seven Wonders of the Ancient World) 2
3
1. มหาพรี ะมดิ แห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza) 4
2. สวนลอยแหง่ บาบิโลน (HANGING GARDENS OF BABYLON) 5
3. เทวรปู ซูสที่โอลมิ เปีย (The Statue of Zeus at Olympia) 6
4. วิหารอารท์ ิมีส (The Temple of Artemis at Ephesus) 7
5. สุสานแห่งฮาลคิ าร์นสั ซสั (Mausoleum at Halicarnassus) 8
6. เทวรูปโคโลสซสู แหง่ เกาะโรดส์ (Colossus of Rhodes) 9
7. ประภาคารฟาโรส แห่ง อเลก็ ซานเดรยี (Lighthouse of Alexandria) 10
7 สิง่ มหศั จรรยข์ องโลกยคุ กลาง (Seven Wonders of the Medieval World) 11
1. โคลอสเซยี ม (Colosseum) 12
2. หลมุ ฝงั ศพแห่งอเลก็ ซานเดรีย (The Catacombs of Kom el Shoqafa)
13
3. กาแพงเมืองจีน (Great Wall of China) 14
4. สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) 15
5. เจดยี ์กระเบอ้ื งเคลอื บ เมอื งนานกิง (Porcelain Tower of Nanjing) 16
6. หอเอนเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa) 17
7. ฮาเกยี โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) 18
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยคุ ใหม่ (Seven Wonders of the New World) 19
1. ชเิ ชน อติ ซา (Chichen Itza) 20
2. ครชิ ตู เรเดงโตร์ (Cristo Redentor) 21
3. กาแพงเมอื งจีน (Great Wall of China) 22
4. มาชูปิกชู (Machu Picchu) 23
5. นครเปตรา (Petra) 24
6. โคลอสเซยี ม (Colosseum) 25
7. ทัชมาฮาล (Taj Mahal)
บรรณานุกรม
บทนา
ในโลกใบนี้มีส่ิงมหัศจรรย์ท่ีน่าสนใจให้เราได้รู้สึกประหลาดใจอยู่มากมาย บางอย่างก็น่ากลัว
เหลอื รา้ ย ขณะทบ่ี างสิ่งกง็ ดงามจับใจอย่างไม่น่าเช่ือ จึงได้มีการแบ่งประเภทของส่ิงมหัศจรรย์ในโลกอันกว้าง
นั้น โดยสามารถจาแนกออกเปน็ หลายสาขาดว้ ยกนั เช่น สิง่ มหศั จรรยส์ าขาภูมิศาสตร์ สาขาประวัติศาสตร์
สาขาจิตรกรรม สถาปตั ยกรรม สาขาชีววทิ ยา และสาขาวิทยาศาสตร์
เจ็ดส่งิ มหัศจรรย์ของโลก (Seven Wonders of the World) คือส่ิงท่ีก่อสร้างที่ได้รับ
การยอมรับว่าเป็นส่ิงย่ิงใหญ่และมีความโดดเด่น สาหรับสิ่งก่อสร้างที่มหัศจรรย์สมัยโบราณ อายุตั้งแต่
5,000 ปีก่อนคริสตกาล-ค.ศ. 500 ประมวลและจัดโดยนักปราชญ์กรีก ชื่อ แอนติเพเตอร์
(Antipater)แหง่ ไซดอน (Sidon)ในศตวรรษท่ีสอง กอ่ นคริสตกาล สิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้ล้วนเป็นอาคาร
หรอื อนุสาวรีย์ขนาดมโหฬาร และที่จดั ไว้ 7 อนั ดบั ก็เพราะเลข 7 น้นั กรกี ถือว่าเปน็ เลขทีศ่ กั ดิส์ ทิ ธน์ิ ัน่ เอง
“มหัศจรรย์” หมายถงึ ความแปลกประหลาด น่าตน่ื ตา ส่งิ กอ่ สร้างซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นและมี
ความย่งิ ใหญ่ ทรงคุณคา่ ในทางประติมากรรม สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์และเป็นสิ่งเหลือเช่ือ หรือไม่
นา่ ที่มนษุ ยจ์ ะมคี วามสามารถสรา้ งสรรค์ข้ึนมาไดใ้ หญ่ โตหรือวจิ ิตรพิสดารมากขนาดน้ี หากใครอยากค้นหา
และรู้จักนิยามของคาว่ามหัศจรรย์มากยิ่งข้ึน สิ่งท่ีพอที่จะคาตอบน้ันได้ก็คือ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ท่ีที่
เปน็ ท่สี ุดของความมหศั จรรย์ทว่ั โลก 7 สิ่งมหัศจรรยเ์ หล่าน้นี ้ันมีการแบง่ ไว้หลายประเภทหลายแบบ
โดยในหนงั สือเลม่ นี้จะแบ่งยคุ ของ เจ็ดส่งิ มหศั จรรย์ของโลก ออกเปน็ 3 ยุค ดงั ตอ่ ไปนี้
เจ็ดสิ่งมหศั จรรยข์ องโลกยุคโบราณ
เจ็ดสง่ิ มหัศจรรยข์ องโลกในยุคกลาง
เจ็ดสิ่งมหัศจรรยข์ องโลกในยคุ ใหม่
มีคาถามมากมายบนโลกแห่งน้ีทีย่ งั ไม่มีคาตอบ สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ยังไม่ถูกค้นพบ ที่ถูกสร้าง
ข้ึนมาจากความสามารถในการก่อสร้างของมนุษย์ และส่ิงท่ีธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้น ซ่ึงสิ่งเหล่าน้ีบางอย่าง
ล้วนมีประวัติท่ีน่าดึงดูดใจอยู่เป็นจานวนมาก วันนี้ หนังสือเล่มน้ีจะนาพาทุกท่านไปรู้จักกับ 7 สิ่ง
มหัศจรรย์ของโลก ท้งั 3 ยุคกัน
1
7 สิ่งมหัศจรรยข์ องโลก
Seven Wonders of the World
7 สง่ิ มหศั จรรย์ของโลกยุคโบราณ
(Seven Wonders of the Ancient World)
แน่นอนว่าก่อนจะมีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันที่เรารู้จักอยู่แล้ว เรารู้แน่ชัดว่าถูก
มนุษย์สร้างขึ้น แต่สาหรับ 7 ส่ิงมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณน้ัน มันกลับดูลึกลับจนเกือบออกไปทาง
เรื่องปรัมปราซะด้วยซ้า บางอย่างยังหลงเหลือซากปรักให้เราได้ชม แต่บางอย่างก็แทบไม่มีหลักฐาน
ยืนยันเลย มีเพียงคาบอกเล่าจากตาราโบราณเท่านัน้
สงิ่ มหศั จรรยข์ องโลก นั้นไม่ใช่เรอื่ งใหมข่ องโลกนีแ้ ตอ่ ยา่ งใด มันอยู่คู่กับผู้คนมาแทบทุกยุค
ทุกสมัย ถึงขนาดมีคาโบราณในภาษากรีกเพื่อใช้เรียกสิ่งเหล่าน้ีว่า แปลว่า
แผนท่ตี าแหนง่ 7 สงิ่ มหัศจรรย์ของโลก ยุคโบราณ ส า ห รั บ ส่ิ ง ม หั ศ จ ร ร ย์ ข อ ง โ ล ก ยุ ค
โบราณน้ันจะอยู่ในช่วงประมาณ5,000 ปีก่อน
คริสตกาล ถึงปีคริสตศักราช 500 โดยเรื่องราว
ของสิ่งเหล่าน้ีถูกพบเป็นคร้ังแรกในงานเขียนของกวี
ชาวกรีก นามว่า
(Antipatorof Saidon) ซ่ึงนับเป็นการจัดทา
บัญชี 7ส่ิงมหัศจรรย์ของโลกเป็นบัญชีแรกของ
มนุษยชาติอีกด้วย แต่ส่วนใหญ่เป็นสิ่งก่อสร้างใน
แถบเมดเิ ตอเรเนยี นตะวันออก (เชื่อว่าน่าจะเพราะ
ยังไม่มีการเดินเรือไปยังทวีปอื่น ๆ แพร่หลายเท่า
ยุคถดั มา) มีท้ังหมด
2
(The Great Pyramid of Giza)
มหาพีระมิดของกษัตริย์คูฟู ริมฝั่งตะวันตกของ
แม่น้าไนล์ในอียิปต์ มีอายุราว 2,690 ปีก่อน
คริสตกาล หรือเก่าแก่กว่านั้น เป็นส่ิงมหัศจรรย์
เพียงอย่างเดียวท่ีเก่าแก่ที่สุด และยังคงตั้งอยู่จน
ยืนยงจนปัจจุบัน ใช้สาหรับเป็นท่ีเก็บรักษาพระศพฟาโรห์คูฟู (Khufu) สร้างข้ึนด้วยก้อนหินทรายทรง
สี่เหลี่ยมประกอบกันกว่า 2.3 ล้านก้อน สร้างยาวนานกว่า 20 ปี ใช้แรงงานไม่ต่ากว่า 100,000
ชวี ิต
ปจั จบุ นั วธิ กี ารสร้างพีระมดิ แห่งกีซายงั คงเป็น
ปรศิ นาด้วยความที่หนิ แต่ละก้อนมนี ้าหนัก
หลายตนั (ชิน้ ทีใ่ หญท่ ส่ี ดุ หนักถงึ 200 เมตริกตัน
หนักเทา่ ชิ้นส่วนเรือไททานิค) แต่เทคโนโลยีใน
ขณะนน้ั ยังไมม่ ีระบบปั้นจัน่ ไมร่ ้จู กั แมก้ ระทั่งล้อเลอื่ น
มเี พียงหลกั ฐานเปน็ ภาพแกะสลกั นนู ตา่ บนฝาผนังหิน
ซ่ึงแสดงการเคลอื่ นย้ายเทวรูปหินขนาดใหญ่ด้วยแรงคน
นบั รอ้ ยลากเขน็ ไปบนแครไ่ ม้ ใชก้ ารราดน้าเพื่อช่วยลดแรงเสียดทาน แต่นั่นยังไม่สามารถตอบเราได้ว่าพวก
เขาใช้วิธีใดลาเลียงหินข้ึนสู่บริเวณก่อสร้างในระดับสูงขึ้นเร่ือยๆ จนเทียบเท่าตึก 40 ช้ันในยุคปัจจุบันได้
ถึงขนาดท่ีมีทฤษฎีว่าพีระมิดแห่งเมืองอียิปต์น้ันอาจจะไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ในสมัยของอียิปต์โบราณ แต่
อาจจะเปน็ ฝมี อื ของชาวแอตแลนตสิ หรอื ไมก่ ็ มนุษย์ต่างดาว นน่ั เลย
31
(Hanging gardens of babylon)
สรา้ งโดยพระเจา้ เนบคู าดเนสซาร์ที่ 2
ประมาณ 605-562 ปกี ่อนครสิ ตกาล
ปัจจุบันไมป่ รากฏหลกั ฐานหรือแม้แตซ่ ากปรัก
ให้เห็น แต่คาดว่านา่ จะอยูบ่ รเิ วณเดยี วกบั กรงุ
บาบิโลน เมอื งมาฮาวีล (Mahaweel)
ประเทศอิรกั มกี ารบรรยายถงึ สวนแห่งน้ีไว้วา่
มีพ้ืนทีก่ วา่ 400 ตารางฟตุ สร้างสูงข้ึนไป
เปน็ ช้นั ๆ อดุ มไปด้วยต้นไมด้ อกไม้นานาพนั ธุ์ มรี ะบบชักรอกเพอ่ื รถน้าต้นไม้จากช้ันบน แล้วปล่อยให้ไหล
ลงตามชั้นต่าง ๆ พระเจ้าเนบูคาดเนสซาร์ท่ี 2ทรงให้สร้างไว้เพื่อเป็นอุทยานพักผ่อนของพระมเหสีของ
พระองค์ เพ่อื บรรเทาความคิดถงึ บ้านเกดิ ของพระนาง
สวนลอยบาบิโลนคือส่ิงมหัศจรรย์แห่งเดียวที่ยังไม่ทราบที่ตั้งชัดเจนของ มัน
และไม่มีเอกสารใดของบาบิโลนที่กล่าวถึงสวนน้ี ทาให้มีการตั้งทฤษฎีต่าง ๆ ที่ต้ังข้อสงสัยถึงการมีอยู่ของ
มันมากมาย โดยทฤษฎที ่ไี ด้รบั การวเิ คราะห์วา่ เปน็ ไปไดน้ นั้ มีอยสู่ ามทฤษฎี หน่ึง สวนน้ีอาจมีอยู่จรงิ ทบี่ าบิ
โลน และถูกทาลายด้วยปัจจัยบางอย่างในช่วงเวลาหลังคริสต์สตวรรษท่ีหนึ่ง สอง สวนลอยบาบิโลนอาจ
เป็นเพียงสวนในตานานที่มาจากจินตนาการของนักเขียนชาวกรีกและโรมันเท่าน้ัน สาม สวนนี้แท้จริงแล้ว
เป็นสวนในตานานทไ่ี ดร้ บั การอ้างองิ ถงึ สวนของกษตั รยิ ืเชนนาเชริบของอัสซีเรีย ท่ีตั้งอยู่ในกรุงนิเนเวห์ท่ีริม
แม่นา้ ไทกริส ใกลเ้ มอื งโมซูลของประเทศซีเรยี ในปัจจบุ ัน
41
(The Statue of Zeus at Olympia)
หากเทวรูปน้ียงั อยู่ถงึ ปัจจุบัน มันจะต้องเป็น
สิ่งก่อสร้างเกี่ยวกับเทพเจ้าท่ีวิจิตรอลังการที่สุดอย่าง
แนน่ อน เทวรูปซสู ตงั้ อยู่ในประเทศกรีซ ส ร้ า ง เ ม่ื อ
ประมาณ 462 ปีก่อนคริสตกาล โดยช่างแกะสลักชาว
กรีกท่ีมีชื่อท่ีสุดแห่งยุคโบราณนาม ฟิดิแอส (Phidias)
มีความสูง 12 เมตร ประทับนั่งอยู่บนบัลลังค์ ประดับ
ประดาด้วยงาช้าง ทองคา ผ้าไหม ฯลฯ สร้างไว้ในวิหาร
ซุส (Temple of Zeus) ซึ่งภายหลังถูกไฟไหม้
เสียหายจนหมดส้ิน เหลือเพียงซากที่อยู่ในเขตเมือง
โอลิมเปยี ประเทศกรีซ เทวรูปซูสท่ีโอลิมเปีย จัดเป็นหน่ึง
ในเจด็ สิง่ มหัศจรรย์ของโลก ถือเป็นเจด็ สิ่งมหศั จรรย์ของโลก
ยุคโบราณ เชน่ เดยี วกับ ประภาคารฟาโรส หรือวิหารอาร์
เทอมสี และถอื เปน็ สง่ิ ร่วมสมยั กับวิหารพาร์เธนอน
เทวรูปน้ถี ูกทาลายลงเพราะอัคคีภัยในปี ค.ศ. 475 ปัจจบุ นั น้ีไมเ่ หลือซากชิน้ สว่ นใด ๆ หลงเหลอื อยู่เลย
51
(The Temple of Artemis at Ephesus)
ตัง้ อยูท่ ่ีเมืองเอฟิซุส ประเทศตุรกีใน
ปัจจุบัน สร้างข้ึนเมื่อประมาณ
550 ปีก่อนคริสตกาล สร้างข้ึน
เพ่ือถวายเทพอี ารท์ มิ สิ ซง่ึ เป็นเทพที่
พวกนายพรานเคารพบูชา ว่ากันว่า
วิหารแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมท่ีงดงาม
หาท่ีเปรียบมไิ ด้ที่สดุ ในยคุ นน้ั
ท่ีน่ีถูกเผาทาลายอยู่หลายครั้ง ครั้งแรกในวันท่ี 21 กรกฎาคม 356 ปีก่อนคริสตกาล ซ่ึงตรงกับวัน
ประสูติของอเล็กซานเดอร์มหาราช ซ่ึงในภายหลังพระองค์ก็ต้องการท่ีจะบูรณะวิหารนี้ข้ึนมา แต่ชาวเมือง
ก็ปฎเิ สธ และเลอื กที่จะบรู ณะกนั ใหมเ่ องโดยลดขนาดวิหารให้เลก็ ลง ตอ่ มากถ็ ูกทาลายอกี โดยพวกโกธสจ์ าก
เยอรมันท่ีบุกเข้ามาโจมตี เม่ือปี ค.ศ. 262 จนต้องบูรณะกันอีกคร้ัง สุดท้ายวิหารก็ถูกทาลายอีกโดย
กลุ่มชาวคริสต์ นาโดย Saint John Chrysostom ในปีค.ศ.401 ปัจจุบันหลงเหลือเพียงซากเสา
เท่าน้ัน
61
(Mausoleum at Halicarnassus)
สุสานแหง่ ฮาลคิ ารน์ สั เซิส หรอื สุสานแห่งโมโซลูส
(องั กฤษ: TheMausoleum At
Halicarnassus,TombofMausolus,ก รี ก :
Μαυσωλεῖον τῆς
Ἁλικαρνασσοῦ) เป็นสุสานขนาดใหญ่
ของกษัตริย์โมโซลูสแห่งลิเชีย ในเอเชียไมเนอร์
จัดเปน็ หน่งึ ในเจ็ดสิ่งมหศั จรรย์ของโลก เป็นเจ็ดส่ิง
มหศั จรรย์ของโลกยคุ โบราณ
สุสานแหง่ ฮาลคิ าร์นสั เซิส ตั้งอยู่ท่ีฮาลิคาร์นัสเซิส
ประเทศตรุ กี ในปัจจุบัน สรา้ งข้นึ โดยราชินี อาเตมสี เซีย หลังการสวรรคตของพระสวามี สร้างข้ึนระหว่าง
353-350 ปีก่อนคริสต์ศักราช สร้างข้ึนมาจากหินอ่อนในระหว่างปี ค.ศ. 156-190 ในรูปแบบ
สถาปัตยกรรมกรีกโบราณ มีบันทึกไว้ว่า มีขนาดสูงถึง 140 ฟุต ฐานโดยรอบยาวถึง 460 ฟุต บน
ยอดสดุ เป็นพื้นเหลี่ยมเล็กกว่าฐานล่าง ได้ปั้นเป็นรูปราชรถและม้า 1 ชุด กาลังว่ิง และมีกษัตริย์และพระ
มเหสปี ระทับยืนอยบู่ นราชรถมา้ ประกอบด้วยลวดลายสวยงามมาก
สสุ านแหง่ ฮาลคิ าร์นัสเซสิ พังทลายลงด้วยเหตุแผ่นดินไหวคร้ังใหญ่ในคริสต์ศตวรรษที่ 12-
13 ปัจจุบันจึงเหลือแต่เพียงซากชิ้นส่วน และช้ินส่วนบางอย่างถูกเก็บรักษาไว้ที่ บริติช มิวเซียม ใน
ประเทศอังกฤษ
71
(Colossus of Rhodes)
ตั้งอยู่ในทะเลเอเจียน ประเทศกรีซ เป็นรูปสาริด
ขนาดใหญ่ของสุริยเทพ หรือเฮลิออส (Apollo) สูงประมาณ
33 เมตร กอ่ สร้างระหว่าง 292-280 ปีก่อน
คริสตกาล ต้ังตระหง่านบริเวณปากอ่าวของเกาะโรดส์ ถูก
ทาลายโดยแผ่นดินไหวหลังการสร้างเพียง 56 ปี ถึงกระน้ัน
ซากของเทวรูปนี้ก็ยังเป็นจุดแลนด์มาร์คของผู้คนในแถบน้ีต่อ
มาถึง 800 ปี ในประวัติศาสตร์มีบันทึกว่าแค่ส่วนนิ้วของรูป
ปนั้ น้ีกม็ ีขนาดใหญ่กวา่ ไซสร์ ปู ปนั้ ปกติของยคุ น้นั แล้ว
เทพเฮลิออส หรือ อพอลโล เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะของชาวกรีกและโรมันสมัยโบราณ ถือกันว่าสวยท่ีสุด
ในจาพวกผู้ชาย รูปป้ันน้ี มีช่ือว่า โคโลสซูส หล่อขึ้นมาจากโลหะต่างๆ ที่เหลือจากการสงครามและชาวแมซีเนียนท้ิงไว้
ชาเรสทางานหนักตลอดเวลา 12 ปีทุ่มเทให้กับรปู ปั้นนีแ้ ต่มเี ร่อื งเลา่ ว่า พอรูปป้ันน้ีเสร็จเขากไ็ ด้พบว่าคานวณสัดส่วนผิด
ไป ชาเรส ผิดหวังมากถึงกับปลิดชีพตัวเอง แต่กระน้ันก็ไม่มีหลักฐานใดมายืนยันเร่ืองเล่าเหล่านี้ รูปปั้นโคโลสซูสนี้ก็มี
ช่อื เสียงมากถงึ กับเปน็ หนึ่งในส่งิ มหัศจรรยข์ องโลก
81
(Lighthouse of Alexandria)
ประภาคารน้ีทาด้วยหินอ่อนสีขาว 1
สลักลวดลายวิจิตรงดงาม ต้ังอยู่ริม
ฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ท่าเรือ
ของเกาะฟาโรส สร้างในสมัยพระ
เจ้าปโตเลมีท่ีสองของอียิปต์ช่วงปี
270 ปีก่อนคริสตกาล ออกแบบ
โ ด ย ส ถ า ป นิ ก ช า ว ก รี ก ชื่ อ โ ซ ส ต
ราโตส
ตามหลักฐานคาดว่าประภาคารนส้ี ูง
ประมาณ 134 เมตร ช่วงล่างเป็น
รูปสี่เหลี่ยม ช่วงกลางเป็นรูปแปด
เหลี่ยม และช่วงบนเป็นทรงกลม
ยอดบนสุดของประภาคารน้ี มี
ภาชนะสาหรับใสถ่ ่าน ซ่ึงลุกโชติช่วง
ทั้งวันท้ังคืนเพ่ือเป็นไฟสัญญาณไฟบนยอดประภาคารน้ีเห็นได้ ไกลในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถึง 40
กโิ ลเมตร และช่วงบนมกี ระจกขนาดใหญ่ ตามตานานเล่าขานกันมา กระจกนี้สะท้อนเหตุการณ์ทุกอย่างที่
เกิดขึ้นในกรงุ คอนสแตนตโิ นเปิล ข้ามไปจนถึงภาคตะวันออกของทะเลเมดเิ ตอร์เรเนยี นและเอเชียไมเนอร์
ประภาคารฟาโรสต้ังตระหง่านนา
ทางสัญจรของเรือเข้าสู่เมืองอเล็ก
ซานเดรียมาเป็นเวลา 9,000 ปี
จนกระท่ังพวกอาหรับเข้ายึดครอง
เมือง ประภาคารก็ถูกร้ือท้ิงไป เล่า
กันมาว่าพวกอาหรับถูกสายลับซ่ึง
จักรพรรดิแห่งคอนสแตนติโนเปิลส่ง
มาหลอกลวงให้ทาลายประภาคาร
เสยี เพือ่ ไมใ่ ห้ใช้มันเป็นประโยชน์ใน
การเดินเรือของพวกมุสลิม สายลับ
อ้างว่าข้างใต้ประภาคารมีขุมทรัพย์
ฝังอยู่ แต่หลังจากประภาคารถูก
ทาลายไปแล้วพวกอาหรับถึงตระหนักว่าเสียรู้ ในช่วงน้ันกระจกขนาดใหญ่ก็หล่นร่วงลงมาและแตกละเอียด
เป็นผุยผง มีบางส่วนของประภาคารหลงเหลือ และส่วนนี้ก็ยังคงมีอยู่ให้เห็นจนปี ค.ศ. 1375 จน
แผน่ ดนิ ไหวในเมืองอเลก็ ซานเดรยี ทาใหป้ ระภาคารแห่งน้ีพังทลายลงมาจนส้ินซาก
9
7 ส่ิงมหัศจรรยข์ องโลก
Seven Wonders of the World
7 ส่งิ มหศั จรรยข์ องโลกยุคกลาง
(Seven Wonders of the Medieval World)
7 ส่ิงมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง (Seven Wonders of the
Medieval World) ซ่ึงมีอายุอยู่ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 5 – 16 สาหรับสิ่ง
มหศั จรรยข์ องโลกยคุ นจี้ ะมีสภาพคอ่ นข้างสมบูรณ์ และยงั คงอยู่มาจนยคุ ปัจจุบัน ต่าง
จากยุคโบราณที่ส่วนใหญ่พังทลายหมดแล้ว (ยกเว้นพีระมิดท่ียังอยู่) รวมถึงเร่ิมมี
ความหลากหลายมากข้ึนในแง่ของอารยธรรม ไม่ใช่แค่ในแถบเมดิเตอเรเนียน
ตะวันออกเท่านั้น อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นยุคที่มนุษย์เริ่มรู้จักกันมากข้ึน และการ
เดินทางไปมาหาส่กู ันก็สะดวกมากข้นึ นน่ั เอ
และด้วยความท่ีส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในสภาพดี มีการซ่อมแซมบูรณะกัน
มาเร่อื ยๆ จึงทาใหส้ ่ิงมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางกลายมาเป็นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทมี่ ชี ื่อเสียง
และมคี วามงดงามรอคอยให้นกั เดนิ ทางไปเยือนกันให้ไดส้ กั ครงั้
10
(Colosseum)
โคลอสเซียม (Colosseum)หรือ
ท วิ อั ฒ จั น ท ร์ ฟ ล า เ วี ย น ( Flavian
Amphitheatre)
สนามกีฬากลางแจ้งขนาดมหึมา ต้ังตระหง่าน
กลางกรุงโรม ประเทศอิตาลีมาตั้งแต่ช่วงคริสต
ศักราชที่ 72 สร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิ
ไททัส และกลายมาเป็นต้นแบบของสนามกีฬาใน
ยุคปัจจุบัน เป็นศูนย์รวมความบันเทิงของชาว
โรมันในยุคน้ัน และยังเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจน
ที่สุดของอาณาจกั รโรม
อัฒจันทร์ถูกสร้างเป็นรูปทรงวงรี เพื่อให้ 1
ผู้ชมมีความรูส้ ึกอยใู่ กล้กับตวั นักกฬี า สร้างดว้ ยอิฐ และ
หินทราย วัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง
57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
มีการออกแบบทางระบายน้าเพื่อไม่ให้น้าท่วมขังใน
สนามขณะเกดิ ฝนตก ใตอ้ ัฒจรรย์มีห้องใต้ดินที่สร้างข้ึน
เพอ่ื ขังสิงโต และนักโทษกอ่ นปลอ่ ยให้ออกมาตอ่ สกู้ ันใน
สนาม นอกจากนี้ยังใช้เป็นสถานท่ีประลองฝีมือของ
เหลา่ อศั วิน และนกั รบแกลดเิ อเตอร์ (Gladiator) ใน
ยคุ นนั้ ดว้ ย
11
(The Catacombs of Kom el Shoqafa)
หลุมฝังศพแห่งอเล็กซานเดรีย (The
Catacombs of Kom el Shoqafa) สุสานใต้ดิน
เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ สถานที่ฝังพระศพ
ของกษตั ริย์อียปิ ต์อีกรูปแบบหน่ึงท่ีไม่ใช่พีระมิด แต่จะอยู่
ใตด้ นิ ลึกเข้าไปในภูเขาหินทรายเป็นชั้นๆ บางตอนมีความ
ลึกถึง 70-80 ฟุต มีทางเดินกว้าง 3-4 ฟุต
ทางเดนิ จะวกไปเวียนมาเป็นระยะทางนบั รอ้ ยไมล์ สาหรับ
สุสานน้ีมัถึง 3 ชั้นด้วยกัน ช้ันที่ 1 มีไว้สาหรับ
เตรียมการปลงศพ ชั้นท่ี 2 เป็นท่ีเก็บรักษา และช้ันที่
3 ใชเ้ ป็นทร่ี วมญาติเพอ่ื ระลกึ ถงึ ผตู้ าย
ที่บรรจุดพระศพจะอยู่บนผนังอุโมงค์ท่ีเจาะเป็นช่องลึกเข้าไป มีแท่นบูชาและตะเกียงดวงเล็ก ๆ แขวนไว้
และมีการตกแต่งสุสานอย่างวิจิตรงดงาม แต่ทั้งน้ียังไม่ปรากฏว่าสุสานแห่งน้ีใครเป็นผู้สร้าง สร้างไว้ให้ผู้ใด
และสร้างไวต้ ั้งแตเ่ มอ่ื ไหร่ สนั นษิ ฐานกนั วา่ สร้างขึน้ ในช่วงประมาณคริสตศตวรรษที่ 2
12 1
(Great Wall of China)
หนึ่งในส่ิงมหัศจรรย์ของโลกท่ีเป็นที่
รู้จักในวงกว้าง มีการพูดถึงเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นในนว
นิยายหรือภาพยนตห์ ลายๆ เร่ือง เร่ิมสร้างขึ้นตั้งแต่
สมัยจ๋ินซีฮ่องเต้ สาหรับป้องกันการรุกรานจากชน
เผา่ ทางตอนเหนือ เรมิ่ ต้นสรา้ งประมาณปีพ.ศ.338
การก่อสร้างกินเวลายาวนานต่อมาเร่ือยๆ อีกหลาย
รชั สมยั
ถงึ ปัจจุบนั กาแพงเมืองจีนยังคงครองตาแหน่งกาแพงอิฐทม่ี ีความยาวท่ีสุดในโลก จากการสารวจพบว่า
ยาวประมาณ 22,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว ความสูงประมาณ 8-9 เมตร ความกว้างต้ังแต่ 4.5 เมตร ถึง
7.5 เมตร เพียงพอให้ทหารม้ายืนเข้าแถวเรียง 8 สบายๆ มีป้อมรักษาการทุกๆ 200 เมตร และมีระฆังแขวน
เพอื่ ตบี อกสัญญาณเกิดเหตไุ วป้ ระจาทุกหอ รวมท้ังหมดมไี ม่ตา่ กว่า 20,000 หอ
13 1
(Stonehenge)
หน่ึงในโบราณสถานลึกลับที่ยังคงหาคาตอบ
ที่แน่ชัดไม่ได้ ว่าใครเป็นผู้สร้าง สันนิษฐาน
ว่าสร้างข้นึ ในชว่ ง 2,000 – 3,000 ปีกอ่ น
คริศตกาล ตั้งอยู่กลางทุ่งราบซัลลิสเบอร์รี (Salisbury
Plain) ห่างจากลอนดอนไปเพยี ง 10 ไมล์ กองหนิ สโตนเฮนจ์
ประกอบไปด้วยก้อนหินทรงสูงขนาดใหญ่จานวน 112 ก้อน
วางต้ังเรยี งเป็นรูปวงกลมซ้อนกนั สามวง บางก้อนล้มนอน บาง
ก้อนวางทับซอ้ นอยู่บนยอด วงหินรอบนอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง
ถึง 100 ฟตุ มนี ้าหนักกว่า 30 ตัน
ท่ีแปลกก็คือแถบนี้เป็นทุ่งราบ
กวา้ งใหญ่ ไม่มีร่องรอยการขนก้อนหินหนักเป็น
ตันมาต้ังไว้ตรงน้ีเลย แถมยังวางซ้อนกันได้ด้วย
สันนิษฐานกันว่ามันถูกสร้างข้ึนเพ่ือประกอบ
พิธีกรรมทางศาสนา หรือเพ่ือใช้ดูตาแหน่ง
ดวงดาว และฤดกู าล
14 1
(Porcelain Tower of Nanjing)
น่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางเพียง
แห่งเดียวท่ีถูกทาลายไปจนหมดสิ้นแล้ว ในช่วงเหตุการณ์
กบฏไท่ผิงในราวคริสตศตวรรษที่ 19 ส่วนเจดีย์ที่เราเห็น
ในปัจจุบันเป็นหอท่ีถูกสร้างข้ึนมาใหม่แทนท่ีแล้วในปี ค.ศ.
2010
เจดีย์กระเบื้องเคลือบเมืองนานกิง 1
น้ีสร้างขึ้นเมื่อคริสตศตวรรษท่ี 15 สมัย
ราชวงศห์ มงิ เจดยี ์ทรงแปดเหล่ยี มจานวน 9 ชนั้
ความสงู ประมาณ 79 เมตร ตวั เจ ดีย์
สร้างด้วยอิฐและกระเบื้องเคลือบ ชายคาแขวน
กระด่ิง 80 ลกู โดยรอบ องคเ์ จดีย์ก่ออิฐประดับ
กระเบื้องเคลือบ ยอดแหลมเป็นทรงกลมต่อขึ้น
ไปเคลอื บทอง
15
(Leaning Tower of Pisa)
หอเอนเมืองปิซา อยู่บริเวณจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) สร้างด้วยหิน
อ่อนสูง 8 ชั้น น้าหนักรวมประมาณ 14,500 ตัน เร่ิมก่อสร้างปี ค.ศ. 1173 แต่เมื่อสร้างถึงช้ันท่ี 3 ฐาน
ด้านหน่ึงของหอเร่ิมมีการยุบตัว สถาปนิกจึงพยายามสร้างต่อโดยให้หอเอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพ่ือถ่วงสมดุล แต่
อีกไมน่ านการก่อสร้างกช็ ะงกั เน่ืองจากสงคราม โดยสรปุ ก็สร้างสาเร็จในปี ค.ศ.1372 (รวมส่วนของหอระฆังด้วย)
สริ ิเวลาในการสร้างทั้งหมด 177 ปี
16 1
(Mosque of Hagia Sophia)
ฮาเกยี โซเฟีย (Mosque of Hagia
Sophia) แห่งคอนสแตนติโนเปลิ (ปจั จุบันคอื กรุง
อสี ตันบูล) ประเทศตรุ กี
ฮาเกียโซเฟีย มหาวิหารสถาปัตยกรรมแบบไบแซน
ไทน์ ท่ีเคยเป็นโบสถ์ท่ีใหญ่ท่ีสุดในโลกมาเกือบพันปี
ปัจจุบันน้ียังคงได้รับการรักษาไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ แต่
กอ่ นหนา้ นัน้ ฮาเกยี โซเฟยี ถกู ปรับเปลีย่ นสถานะไปมา
มากมายตามแต่สถานการณ์ และผู้ปกครองในแต่ละ
ยุค ตั้งแต่ ค.ศ. 532-537 ที่นี่เป็นโบสถ์
ศูนย์กลางของนิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ ต่อมาปี
ค.ศ. 1453 ก็ถูกดัดแปลงให้เป็นสุเหร่า จนถึงปี
ค.ศ. 1935 รัฐบาลตุรกีจึงได้เปล่ียนจากสุเหร่ามา
เป็นพพิ ธิ ภณั ฑ์
ฮาเกียโซเฟีย มีเนื้อที่ 700 ตารางเมตร
มีเสาสลักอย่างงดงามถึง 108 ต้น ประดับประดาด้วย
กระจกหลากสี และยอดโดมขนาดใหญ่กลางวิหาร ด้วย
ความท่ีเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบคริสเตียน
และอิสลามนี่เองจึงทาให้ที่มีมีความงามในแบบท่ีหาชมท่ี
อ่ืนไม่ได้จรงิ ๆ
17 1
7 สิง่ มหศั จรรย์ของโลก
Seven Wonders of the World
7 ส่ิงมหศั จรรยข์ องโลกยุคใหม่
(Seven Wonders of the New World)
บทสรุปแหง่ การเดินทางย้อนรอยสู่สุดยอดอารยธรรมของมนุษยชาติ พบกับความย่ิงใหญ่
อลังการของสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ดของโลกยุคใหม่ (New 7 Wonder of the World) ท่ีไร้ซึ่ง
ขอบเขตแหง่ กาลเวลา และยงั คงดารงอยูถ่ งึ ยคุ สมยั ปจั จุบนั
มีหลายองคก์ รในโลกยุคปจั จบุ ันตา่ งกจ็ ดั ทาบญั ชี 7 สง่ิ มหัศจรรยข์ องโลกยคุ ใหม่ข้ึน โดยมี
เกณฑ์ในการคัดเลือกสถานที่ต่างๆ ต่างกันออกไป แต่ส่ิงหนึ่งที่สังเกตได้ชัดคือ จานวนสิ่งมหัศจรรย์ที่
ได้รับการคัดสรรมาน้ีมีความหลากหลายทางอารยธรรมมากกว่าการจัดทาบัญชีฯ ในโลกยุคกลาง ซึ่ง
นอกจากจะมีอารยธรรมกรีก โรมัน และอียิปต์แล้ว ก็ยังมีอารยธรรมอ่ืนๆ ด้วย อาทิเช่น อินเดีย
จอร์แดน และกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ ซ่ึงการจัดทาบัญชีเหล่าน้ี มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกัน
ในบางรายการ อาทเิ ชน่ บญั ชฯี ของสมาคมวิศกรโยธาแหง่ อเมรกิ ัน ทีเ่ นน้ สงิ่ กอ่ สร้างทางวิศวกรรมในยคุ
ปัจจุบัน หรือบัญชีฯ ท่ีจัดทาโดยหนังสือพิมพ์อเมริกา USA Today ร่วมกับรายการโทรทัศน์
Good Morning USA ท่ีคัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ แต่สาหรับบัญชีฯ ท่ีเป็นท่ีนิยมและรู้จักกัน
โดยท่ัวไปได้แก่รายการสิ่งมหัศจรรย์ท่ีจัดทาโดยองค์กร New Wonders of the World ของ
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ท่จี ัดทาขึน้ ในช่วงปี ค.ศ. 2001 – 2007
18
(Chichen Itza)
ชิเ ช นอิ ต ซา เป็ น ภา ษ าม า ย า
แปลว่า ต้นทางแห่งความสุขสบายของประชาชน
ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
เม็กซิโก เป็นแหล่งโบราณคดีที่สร้างข้ึนโดยชาวมา
ยันซึง่ สรา้ งข้นึ เพอื่ เปน็ อนุสรณข์ องเทพเจ้า
ชเิ ชนอติ ซา มรี ปู ทรงเปน็ สามเหล่ยี มลดขน้ั เปน็ ชัน้ ๆ พืน้ ที่ราว 6.4 ตารางกิโลเมตร วิหารที่ใหญ่สุดมี
ช่ือว่า วิหารแห่งนักรบ สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษท่ี 12 หลังจากสร้างวิหารเก่าแห่งชักโมล ตรงกลางสร้างเป็น
ปราสาทเหลีย่ มทึบสูงข้นึ ไป ใชเ้ ปน็ ท่ที าพิธีสังเวยเทพเจา้ โดยใช้เด็กสาวโยนลงไปถวายเทพเจ้า ณ ท่ีนน้ั นอกจากน้ีใน
ส่วนของพีระมิดแห่งเทพเจ้าคูคุลคาน ซ่ึงถือเป็นพีระมิดแห่งสุดท้าย และเป็นพีระมิดที่กล่าวได้ว่าย่ิงใหญ่ท่ีสุดของ
อารยธรรมมายาด้วย
ที่ตัง้ : Yucatan, Mexico
19 1
(Cristo Redentor)
คริชตู เรเดงโตร์ Cristo Redentor หรือ Christ
the Redeemer : บราซิล รูปปั้นพระเยซูคริสต์ ตั้งอยู่ที่ยอดเขา
กอร์โกวาดู ประเทศบราซิล นอกจากจะเป็นส่ิงก่อสร้างที่มีความ
หมายถึงศรัทธาท่ียิ่งใหญ่ ยังเป็นสัญลักษณ์ท่ีทาให้เมืองริโอ เดอ
จาเนโร โดง่ ดังไปทว่ั โลกอีกด้วย
รปู ปั้นพระคริสต์นม้ี ีความสูงถงึ 38 เมตร ได้รับการออกแบบโดยเอโตร์ ดา ซิลวา กอชตา ชาวบราซิล และสร้างโดย
ปอล ลันดอฟสกี ประติมากรชาวฝร่ังเศสถึง 5 ปีด้วยกัน ที่นี่ถือเป็นอนุสาวรีย์ท่ีมีช่ือเสียงมากท่ีสุดแห่งหนึ่งของโลก
และเป็นที่ยึดเหน่ียวทางจิตใจของชาวบราซิลอีกด้วย ทาให้ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสถานท่ีแห่งนี้ราว
1.8 ล้านคนทเี ดยี ว
ทต่ี ัง้ : Parque Nacional da Tijuca - Alto da Boa Vista, Rio de Janeiro - RJ, Brazil
20 1
(Great Wall of China)
กาแพงเมืองจีน น้ีสร้างข้ึนจีนสมัยสมัย
ราชวงศฉ์ นิ เพือ่ ปอ้ งกนั การรกุ รานจากชนเผ่ามองโกล
และเติร์กในอดีต และหลังจากนัน้ ยังมีการสร้างกาแพง
ต่ออีกหลายคร้ังด้วยกัน มีความยาวทั้งสิ้นกว่า
21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพ้ืนท่ี 15 มณฑล
ท่ัวประเทศ ถือเป็นส่ิงก่อสร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่ยาว
ท่ีสุดในโลกเท่าท่ีเคยมีมา ความยิ่งใหญ่ และ
ประวัติศาสตร์อันยาวนานนี่เอง ทาให้กาแพงเมืองจีน
นอกจากจะเป็น 1 ใน 7 มหัศจรรย์ของโลกแล้ว ยัง
เป็น 1 ในมรดกโลก ทอี่ งค์กร UNESCO คัดเลือก
อีกด้วย
ท่ตี ัง้ : Huairou, China
ถึงปจั จบุ ัน กาแพงเมอื งจนี ยังคงครองตาแหน่งกาแพงอฐิ ทม่ี ีความยาวท่ีสุดในโลก จากการสารวจพบว่า
ยาวประมาณ 22,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว ความสูงประมาณ 8-9 เมตร ความกว้างตั้งแต่ 4.5 เมตร ถึง
7.5 เมตร เพียงพอให้ทหารม้ายืนเข้าแถวเรียง 8 สบายๆ มีป้อมรักษาการทุกๆ 200 เมตร และมีระฆังแขวน
เพ่ือตบี อกสัญญาณเกดิ เหตไุ วป้ ระจาทุกหอ รวมทงั้ หมดมีไม่ตา่ กว่า 20,000 หอ
21 1
(Machu Picchu)
เมืองสาบสูญแห่งอินคา หรือ มาชูปิกชู นอกจากนี้ มาชปู ิกชู เป็นหลักฐานที่สาคัญของ
แห่งน้ี เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ต้ังอยู่ จักรวรรดิอินคา องค์กร UNESCO จึงได้
บนเทอื กเขาสูงในประเทศเปรู อย่สู งู กวา่ ระดับน้าทะเลถึง กาหนดให้ มาชูปิกชูเป็นมรดกโลก โดยเป็น
2,350 เมตร ทต่ี ั้งของเมืองน้ีค่อนข้างกันดารยากท่ีจะ ส ถ า น ท่ี ท่ อ ง เ ท่ี ย ว ท่ี ค น นิ ย ม ไ ป ศึ ก ษ า
เขา้ ถึง เพราะตงั้ อยู่บนที่ราบสูงแอนดิส ลึกเข้าไปในป่าอ ประวัติศาสตร์
เมซอน และอยเู่ หนือแม่น้าอุรุบัมบา หลังจากอาณาจักร ทต่ี ้งั : Peru
อินคาล่มสลายจากการพ่ายแพ้สงครามให้กับชาวสเปน
และโรคระบาด เมืองแห่งน้ีก็ได้หายสาบสูญไปกว่า 3
ศตวรรษ และไดถ้ ูกค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวอเมริกัน
ไฮแรม บิงแฮม ในปคี .ศ. 1911
22 1
(Petra)
นครเปตรา ซ่อนตัวอย่างลึกลับใน
หุบเขาวาดี มูซา หุบเขาที่ต้ังอยู่ระหว่างทะเลสาบ
เดดซี กบั ทะเลอคั บาในประเทศจอรแ์ ดน นครน้ีใน
สมยั โบราณน้ันเปน็ นครแหง่ การคา้ ขนาดใหญ่ เป็น
เมืองหลวงของชนเผ่านาบาเชียนซ่ึงเป็นชนเผ่าที่
อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจอร์แดนใน
สมัยก่อน และถูกละท้ิงเป็นเวลานานกว่า 700
ปี ซ่งึ ได้ถูกคน้ พบโดยนกั สารวจชาวสวิตเซอร์แลนด์
โจฮันน์ ลุควิก เบิร์กฮารท์ ในปี ค.ศ. 1812
ชาวนาบาเชียนสร้างเมืองแห่งนี้โดยใช้วิธีการ
แกะสลักหินให้เป็นช่องอุโมงค์ โรงละครของเมืองแห่งนี้ซึ่ง
เป็นต้นแบบของโรงละครแบบกรีก-โรมัน ส่วนหน้าของ
วิหารเอล เดียร์ ซึ่งสูง 42 เมตร ในเมืองแห่งน้ีเป็น
ตัวอย่างท่ีดีอีกแห่งหน่ึงของสถาปัตยกรรมแบบกรีกโบราณ
ทาให้นครเปตราได้รับลงทะเบียนจากองค์กร UNESCO
ให้เป็นมรดกโลกเมอื่ ปี พ.ศ. 2528
ที่ตงั้ : Jordan
23 1
(Colosseum)
โคลอสเซียม เป็นสนามกีฬาโบราณที่
ยิง่ ใหญ่ทส่ี ุดในขณะนน้ั สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่
ต้ังอยู่ใจกลางกรุงโรมน้ี เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ
เวสเปเซยี น แห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัย
ของจักรพรรดิไททัส ใช้เวลาการก่อสร้างถึง 10 ปี
ด้วยกัน ที่แห่งน้ีมีห้องสาหรับขังทาส นักโทษ และ
สัตว์ดุร้าย เช่น สิงโต เสือ โดยจะให้ทาสสู้กันเอง
จนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว หรือให้สู้กับ
สิงโต เพื่อเปน็ ความบันเทงิ ใหแ้ กผ่ ้ชู ม ผู้ทีร่ อดตายจาก
การต่อสจู้ ึงจะไดร้ บั อิสรภาพ
โคลอสเซียม เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐ และ
หินทราย วัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57
เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
นอกจากน้ียังมีการออกแบบอย่างชาญฉลาด โดยสร้างให้
สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพ่ือให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้
นกั กฬี า และมกี ารออกแบบทางระบายน้าเพื่อไม่ให้น้าท่วม
ขงั ในสนามขณะเกิดฝนตกอีกด้วย โคลอสเซียมจงึ กลายเปน็
ตน้ แบบของสนามกีฬาตา่ งๆ ในปจั จุบัน
ที่ตั้ง : Piazza del Colosseo, 1, 00184
Roma RM, Italy
24 1
(Taj Mahal )
สุสานหินอ่อน ทัชมาฮาล แห่งนี้
ผู้คนเช่ือว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักท่ีสวย
ท่ีสุดในโลกท่ีสร้างข้ึนโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่ง
จักรวรรดิโมกุล ผู้มีรักม่ันคงต่อพระมเหสีของ
พระองค์
ทัชมาฮาล ต้ังอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ายมุนา
ในเมืองอาครา ส่วนท่ีมีช่ือเสียงท่ีสุด คือ หลุมศพของ
พระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว
ศิลาแลง ประดับลวดลายเคร่ืองเพชร พลอย หิน โมรา
และเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคารับรองว่า
สร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด รวมถึงยัง
ไดร้ บั การยกย่องว่าเปน็ ตวั อยา่ งชัน้ เลิศของสถาปัตยกรรม
มุฆัลในอินเดีย ท่ีนี่ต้องใช้แรงงานในการก่อสร้างถึง
20,000 คน และใช้เวลาก่อสร้างถึง 20 ปี
ท่ีตั้ง : Dharmapuri, Forest Colony,
Tajganj, Agra, Uttar Pradesh 282001,
India
25 1
บรรณานุกรม
เอิงเอย(2561). 7 สง่ิ มหศั จรรยข์ องโลก ยุคใหม่ ยคุ กลาง ยุคเก่า มรดกโลกท่ตี ้องไปเยอื นสกั ครั้ง
(ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก : http://travel.trueid.net/detail/A2Qlk
Okz63w?gclid [5 สิงหาคม 2562]
เองิ เอย(2561). 7 สิ่งมหศั จรรยข์ องโลกยุคโบราณ Seven Wonders of the Ancient World
ตานานท่ตี อ้ งไปเยือนสกั คร้ัง (ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก :
http://travel.trueid.net/detail/gy4WBxo6aNA [17 กันยายน
2562]
เองิ เอย(2561). 7 สิ่งมหศั จรรยข์ องโลก ยคุ กลาง เสนห่ ์แห่งอารยธรรมโบราณ (ออนไลน)์ . สืบคน้
จาก : http://travel.trueid.net/detail/yA1mrDrGz0y [17 กันยายน 2562]
skyscanner(2558). สิง่ มหศั จรรยข์ องโลกทมี่ นุษย์สรา้ ง ตอน 7 สง่ิ มหศั จรรยข์ องโลกยคุ ใหม่
(ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก : https://www.skyscanner.co.th/news/ [17 กนั ยายน
2562]
Expedia(2562). รวม 7 สิ่งมหศั จรรย์ของโลกยุคใหมท่ ี่ไม่ควรพลาด! (ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก :
https://travelblog.expedia.co.th/historical-and-cultural/bd05_june17
[17 กนั ยายน 2562]
7 ส่ิงมหัศจรรยข์ องโลก
Seven Wonders of the World
อ่านเร่ืองราว 7 ส่ิงมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง (Seven
Wonders of the Medieval World) ตั้งแต่แรกเริ่มของโลก ไม่ว่าจะเป็น
สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่หรือศิลปะชวนพิศวงล้วนเป็นหลักฐานยืนยันถึงความ
เจริญรงุ่ เรอื งในอดีตทหี่ ลายคน อาจจะตงั้ คาถามว่า มนุษยเ์ ป็นผู้สร้างจริงหรือ พร้อม
ท้ังสอดแทรกความรู้ทางประวัติศาสตร์ อารยธรรม ความเชื่อเกี่ยวกับส่ิงก่อสร้าง
เหล่าน้ี นอกจากนีย้ ังช่วยเพ่มิ พนู ความรูน้ อกหอ้ งเรียนได้เป็นอยา่ งดี
Warisara Suksaman 59191440203