ประเทศกมั พชู า
ประชากร
ในปี พ.ศ. 2556 ประเทศกมั พูชามีประชากร 15,205,539 คน กวา่ ร้อยละ 90 มีเช้ือสายเขมรและพดู ภาษา
เขมรอนั เป็นภาษาราชการ นอกจากน้ียงั มีชนกลุม่ นอ้ ยท่ีกระจายตวั อยทู่ วั่ ประเทศไดแ้ ก่ชาวเวียดนาม ร้อยละ 5
และชาวจีน ร้อยละ 1 นอกจากน้ียงั มีชนกลุ่มนอ้ ยเช้ือสายไทยในจงั หวดั เกาะกง ชาวจามในจงั หวดั กาปงจามและ
จงั หวดั กระแจะ ชาวลาวในจงั หวดั รัตนคีรีและจงั หวดั สตึงแตรง และชนเผา่ ทางตอนเหนือต่อชายแดนประเทศ
ลาวท่ีเรียกรวม ๆ วา่ แขมรเลอ
อตั ราการเกิดของประชากรเท่ากบั 25.4 ตอ่ 1,000 คน อตั ราการเติบโตของประชากรเท่ากบั 1.7% สูงกวา่
ของประเทศไทย, เกาหลีใต้ และอินเดียอยา่ งมีนยั ยะสาคญั
เมืองใหญท่ ่ีสุดในกมั พูชา
(จากการสารวจสามะโนประชากร ค.ศ. 2008)
ที่ เมือง จังหวดั ประชากร (คน)
1 พนมเปญ พนมเปญ 2,234,566
2 ตาเขมา กนั ดาล 195,895
3 ศรีโสภณ บนั ทายมีชยั 181,396
4 พระตะบอง พระตะบอง 180,853
5 เสียมราฐ เสียมราฐ 174,265
6 กาปงจาม กาปงจาม 118,242
7 พระสีหนุ พระสีหนุ 89,447
8 จบามอน กาปงสปื อ 54,505
9 กาปอต กาปอต 48,274
10 กาปงชนงั กาปงชนงั 43,130
11 เขมรภมู ินทร์ เกาะกง 36,053
12 กระแจะ กระแจะ 35,964
13 ไพรแวง ไพรแวง 33,079
14 กาปงธม กาปงธม 31,871
15 โพธิสัตว์ โพธิสตั ว์ 25,650
16 สาโรง อดุ รมีชยั 18,694
17 สวายเรียง สวายเรียง 17,029
18 สตึงแตรง สตึงแตรง 17,022
19 ไพลิน ไพลิน 15,674
20 โฏนแถว ตาแกว้ 14,456
วฒั นธรรมกมั พูชา ท่เี ป็นเอกลกั ษณข์ องชาติมีพนื้ ฐานมาจากศาสนาทงั้ ศาสนาพทุ ธและศาสนา
ฮนิ ดู กมั พชู าไดร้ บั อทิ ธิพลจากอนิ เดียทงั้ ทางดา้ นภาษาและศลิ ปะผา่ นทางแผ่นดินใหญ่ของเอเชยี ตะวนั ออก
เฉียงใตร้ วมทงั้ จากการคา้ ทางทะเลทางไกลกบั อินเดียและจีนจนเกดิ อาณาจกั รฟนู นั ขึน้ เป็นครงั้ แรก
ประวตั ิศาสตร์
ยคุ ทองของกมั พชู าอย่รู ะหว่างพทุ ธศตวรรษท่ี 14 – 19 ในยคุ พระนครซง่ึ มอี านาจครอบคลมุ พนื้ ท่ใี น
เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใตร้ ะดบั หนึ่ง แตก่ ็ตอ้ งทาสงครามกบั เพ่ือนบา้ นท่แี ข็งแกรง่ คอื สยามกบั ไดเวียด
ส่งิ ก่อสรา้ งทางศาสนาท่สี าคญั ในสมยั นคี้ ือนครวดั และนครธม และยงั มีปราสาทหนิ ท่ีพบไดท้ ่วั ไปในเขตแดน
ของกมั พชู า ไทย ลาว และเวียดนามในปัจจบุ นั อิทธิพลทางศลิ ปะของกมั พชู าทงั้ สถาปัตยกรรม ดนตรี และ
นาฏศิลป์ ไดส้ ง่ ผลต่อศิลปะของประเทศเพ่ือนบา้ นทงั้ ไทยและลาว
สถาปัตยกรรมและบ้านเรือน
บา้ นของชาวเขมรในชนบท
พระราชวงั พนมเปญ
ส่ิงก่อสรา้ งในสมยั พระนครมกั สรา้ งดว้ ยหิน ไดร้ บั แรงบนั ดาลใจทางศาสนา ทงั้ ศาสนาพทุ ธและศาสนา
ฮนิ ดู โดยสลกั เรอื่ งเลา่ ทางศาสนาเหลา่ นไี้ วบ้ นผนงั รวมทงั้ ใชส้ ญั ลกั ษณท์ างศาสนาในการตกแตง่ ตวั อยา่ งเชน่
พระราชวงั ในพนมเปญใชร้ ูปครุฑซง่ึ เป็นเทพกง่ึ นกศกั ดิส์ ิทธิ์ในศาสนาฮนิ ดใู นการตกแต่ง
ชนบทสมยั ใหมใ่ นกมั พชู า ชาวบา้ นมกั อาศยั ในบา้ นทรงสเี่ หล่ยี มท่มี ขี นาดผนั แปรไปตามจานวนสมาชกิ
ในครวั เรือน สรา้ งดว้ ยไมห้ รือไมไ้ ผ่ นยิ มยกพนื้ สงู เพ่อื ใหพ้ น้ จากนา้ ท่วมท่เี กิดขนึ้ ทกุ ปี มบี นั ไดไมส้ าหรบั ขนึ้ บา้ น
โดยท่วั ไปจะแบง่ เป็นสามหอ้ งท่ีกน้ั ดว้ ยฟากไมไ้ ผ่ การสรา้ งบา้ นจะอาศยั ความ รว่ มมือกนั ระหวา่ งครอบครวั นนั้
และเพ่อื นบา้ น ครวั จะแยกออกจากบา้ นอยใู่ กลๆ้ หรืออย่ขู า้ งหลงั หอ้ งนา้ จะอย่แู ยกต่างหากจากบา้ น สว่ นบา้ น
ของชาวจีนและชาวเวียดนามจะสรา้ งบนพืน้ ในเขตเมืองมกั เป็นอาคารพาณิชย์
ศาสนา
แมช่ ีท่ีนครวดั
พระภิกษทุ ่ีนครวดั
ชาวกมั พชู า 90% นบั ถือศาสนาพทุ ธนิกายเถรวาท มี 1% นบั ถือศาสนาครสิ ต์ นอกจากนนั้ เป็นผนู้ บั ถือ
ศาสนาอสิ ลามและศาสนาดงั้ เดิม ศาสนาพทุ ธเขา้ มาสกู่ มั พชู าตงั้ แต่ราวพทุ ธศตวรรษท่ี 10 และศาสนาพทุ ธ
นกิ ายเถรวาทไดเ้ ป็นศาสนาประจารฐั ตงั้ แตร่ าวพทุ ธศตวรรษท่ี 18 ยกเวน้ สมยั เขมรแดงครองอานาจ[1]
ศาสนาอสิ ลามเป็นศาสนาของชาวจามหรือเขมรมสุ ลมิ และชนกลมุ่ นอ้ ยชาวมลายใู นกมั พชู า ในช่วง
พ.ศ. 2518 มมี สุ ลิมในกมั พชู าราว 150,000 - 200,000 คน และลดลงหลงั จากท่เี ขมรแดงมีอานาจในกมั พชู า
ชาวจามนบั ถือทงั้ นิกายสหุ น่ีและชอี ะห์ ในกลมุ่ ชาวจามดว้ ยกนั เองนนั้ จะแบ่งเป็นมสุ ลิมแบบดงั้ เดิมและแบบ
พนื้ บา้ น
ศาสนาครสิ ตน์ กิ ายโรมนั คาทอลกิ เขา้ มาสกู่ มั พชู าเม่อื ราว พ.ศ. 2203 การเผยแพรเ่ ป็นไปอย่างชา้ ๆ ใน
พ.ศ. 2515 คาดวา่ มผี นู้ บั ถือศาสนาครสิ ตใ์ นกมั พชู าราว 20,000 คน สว่ นใหญ่เป็นนิกายโรมนั คาทอลิก ใน
เดอื นเมษายน พ.ศ. 2513 ก่อนจะมีการขบั ไลช่ าวเวยี ดนาม มขี าวครสิ ตใ์ นกมั พชู าท่เี ป็นชาวเวียดนามประมาณ
50,000 คน แต่หลงั จากนนั้ ชาวครสิ ตท์ ่เี หลืออย่ใู นเวยี ดนามมกั มเี ชอื้ สายยโุ รป โดยเฉพาะฝร่งั เศส ในขณะท่ี
การเผยแพรศ่ าสนาครสิ ตน์ ิกายโปรแตสแตนทข์ องมชิ ชนั นารีจากสหรฐั เพิ่มมากขนึ้ หลงั จากจดั ตงั้ สาธารณรฐั
เขมร โดยเฉพาะการเผยแพรใ่ นหมชู่ าวเขมรบนและชาวจาม
ชนเผ่าบนท่สี งู ในกมั พชู ามรี ะบบความเช่ือดงั้ เดมิ เป็นของตนเอง มีผูน้ บั ถือราว 100,000 คน โดยเป็นการ
นบั ถือส่งิ ต่างๆในธรรมชาติ ผนู้ าศาสนาคือหมอผี โดยในบรรดาชาวเขมรบน ชาวราเดและชาวจรายมีระบบ
ความเช่ือท่พี ฒั นาดที ่สี ดุ
การดาเนนิ ชีวติ
การเกิดของเด็กเป็นส่ิงที่น่าภูมิใจในครอบครัว การเกิดถือวา่ เป็นอนั ตรายท้งั ต่อแม่และเด็ก สตรีที่ตาย
เพราะการคลอดบุตรจะเชื่อวา่ เกิดจากการกระทาของปี ศาจ ดงั น้นั หญิงที่ต้งั ครรภจ์ ึงมีขอ้ หา้ มตา่ งๆมากมาย ซ่ึง
ขอ้ หา้ มเหลา่ น้ียงั นิยมอยใู่ นชนบท แตน่ อ้ ยลงแลว้ ในเขตเมือง[2]
ในมมุ มองของชาวกมั พูชา การตายคือการสิ้นสุดของชีวิตหน่ึงและเป็นการเร่ิมตน้ ของอีกชีวิตหน่ึง ชาว
พทุ ธในกมั พชู านิยมเผาศพและนาเถา้ มาเกบ็ ในสถูปเจดียใ์ นวดั
วยั เด็กและวยั รุ่น
เด็กหญิงชาวกมั พชู า
เด็กในกมั พชู าจะไดร้ บั การเลีย้ งดจู นกว่าจะอายปุ ระมาณ 2-4 ปี หลงั จากนนั้ เด็กจะมีอิสระมากขนึ้ เดก็
อายุ 5 ขวบจะสามารถชว่ ยดแู ลนอ้ งๆได้ เด็กสว่ นใหญ่จะเร่มิ ไปโรงเรียนเม่ืออายุ 7-8 ปี เม่ืออายุ 10 ขวบ
เด็กหญิงจะเร่มิ ชว่ ยงานบา้ นได้ สว่ นเดก็ ผชู้ ายตอ้ งชว่ ยงานในไรน่ าภายใตก้ ารควบคมุ ของผใู้ หญ่ วยั รุน่ มกั จะ
จบั กลมุ่ ในเพศเดยี วกนั เด็กผชู้ ายบางคนบวชเป็นสามเณร ในยุคก่อนคอมมวิ นสิ ต์ พ่อแม่มีอานาจปกครอง
จนกวา่ บุตรจะแต่งงาน การติดต่อระหวา่ งกลมุ่ ชนต่างอายุกนั จะตอ้ งเลอื กใชค้ าพดู ใหเ้ หมาะสม
การแต่งงานและการหย่าร้าง
เจา้ บ่าวสวมชุดครุยและถือดาบ สว่ นเจา้ สาวสวมชุดสไบในงานแตง่ งานแบบกมั พชู า
การเลือกคู่ครองเป็นเร่ืองท่ีซับซอ้ นโดยจะตอ้ งดูภมู ิหลงั ทางสังคมประกอบดว้ ย พอ่ แม่มีส่วนในการ
พจิ ารณาแตก่ อ็ าจจะคดั คา้ นได้ ผชู้ ายจะแต่งงานในช่วงอายุ 19 – 25 ปี ส่วนผหู้ ญิงในช่วงอายุ 16 – 22 ปี การ
แตง่ งานตามประเพณีใชเ้ วลาถึง 3 วนั แต่หลงั จาก พ.ศ. 2523 ใชเ้ วลาเพยี งวนั คร่ึง มีการนิมนตพ์ ระสงฆม์ าสวด
มนตใ์ นวนั แตง่ งาน ในชนบทจะมีการสวมดา้ ยมงคลและเวียนเทียน หลงั แตง่ งาน คสู่ มรสจะไปอยกู่ บั พอ่ แมฝ่ ่าย
หญิงประมาณ 1 ปี หลงั จากน้นั จะสร้างบา้ นใหม่ใกลๆ้ กนั
การหยา่ ร้างน้นั ถกู กฎหมาย เกิดข้ึนไดง้ า่ ย แตไ่ มใ่ ช่เรื่องปกติ ที่หยา่ ร้างแลว้ สามารถแต่งงานใหม่ได้ แต่
หญิงจะรอไว้ 10 เดือน เดก็ มกั จะอยกู่ บั มารดา
ประเพณี
ซมั เปี๊ ยะห์ (การทกั ทายแบบกมั พชู า)
ในวฒั นธรรมเขมรถือวา่ ศีรษะเป็นของสูง การสมั ผสั ศีรษะหรือหันเทา้ ไปทางศีรษะจึงไมส่ ุภาพ การ
ทกั ทายจะใช้ “ซมั เปี๊ ยะห์”ที่คลา้ ยการไหวข้ องไทย การสบตากบั ผสู้ ูงอายถุ ือวา่ ไมส่ ุภาพ
การแต่งกาย
หญิงชาวเขมรกบั กร็อมา
นางระบาสวมสัมพต จอ็ งกเบน
การแต่งกายของชาวกมั พชู าต่างกนั ไปตามช้นั ของสงั คม ชาวกมั พูชาพ้นื เมืองนิยมใชผ้ า้ ขาวมา้ หรือกร็อมา
ซ่ึงเป็นจุดที่ทาใหช้ าวเขมรตา่ งไปจากเพ่อื นบา้ นคอื ลาว ไทย และเวยี ดนาม กร็อมาน้ีใชป้ ระโยชน์ไดห้ ลากหลาย
เช่น กนั แดด ช่วยในการปี นป่ ายใชห้ ่อทารก ใชเ้ ป็นผา้ ขนหนูหรือใชน้ ุ่งเป็นโสร่ง หรืออาจทาเป็นตุ๊กตาผา้
สาหรับเดก็ ในสมยั เขมรแดง กร็อมาถือเป็นเครื่องแตง่ กายมาตรฐาน
ชุดประจาชาติท่ีมีความนิยมอยา่ งยาวนานคือสัมพต เป็นเคร่ืองแต่งกายที่ไดร้ ับอิทธิพลจากอินเดียต้งั แต่
สมยั อาณาจกั รฟนู นั อยา่ งไรก็ตาม เคร่ืองแตง่ กายของชาวเขมรไดเ้ ปล่ียนไปตามช่วงเวลาและศาสนา ในช่วง
ระยะเวลาระหวา่ งสมยั อาณาจกั รฟูนนั จนถึงจกั รวรรดิเขมรเป็นช่วงท่ีศาสนาฮินดูมีอิทธิพลมากต่อการแตง่ กาย มี
การสวมสัมพตและเคร่ืองประดบั ตา่ งๆ เมื่อชาวเขมรหนั มานบั ถือศาสนาพทุ ธมากข้นึ ชาวเขมรเริ่มสวมเส้ือและ
กางเกง ความนิยมตอ่ เครื่องแตง่ กายในแบบสมยั ฮินดูลดลง มีเครื่องแตง่ กายที่เรียกสไบ
สัมพตยงั มีการสวมใส่ในกลมุ่ เช้ือพระวงศใ์ นสมยั อุดงนิยมสวมสไบปิ ดบา่ ซา้ ยและเปิ ดบ่าขวา นกั แสดง
แตง่ กายดว้ ยสมั พตสระภาพและเคร่ืองประดบั ท่ีเรียกสเรงกอร์ และยงั มีมงกุฏสาหรับเช้ือพระวงศเ์ พื่อการตกแต่ง
ตามฐานะ
อาหาร
อามอ็ กเตร็ย อาหารกมั พูชายอดนิยม
ปร็อฮกทอด
อาหารกมั พชู ามีความคลา้ ยคลงึ กบั เพ่ือนบา้ นในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตโ้ ดยเฉพาะอาหารไทย อาหาร
เวยี ดนามและอาหารจนี แตจ้ ๋ิว อาหารกมั พชู าใชน้ า้ ปลาเป็นเคร่อื งปรุงรสสาคญั มีการปรุงอาหารดว้ ยการผดั
แบบจนี มแี กงใสก่ ะทิท่ไี ดร้ บั อทิ ธิพลจากอาหารอนิ เดยี กยุ เตยี วเป็นอาหารท่ไี ดร้ บั อทิ ธิพลจากก๋วยเต๋ยี วของจีน
และมีบญั เจาเป็นขนมเบอื้ งญวนแบบกมั พชู า
อาหารกมั พชู ามกี ารใชป้ ลารา้ หรือปรอ็ ฮก (ប្រហុក) ในการปรุงอาหาร เพ่ือใหม้ ีกลิ่นรสท่เี ฉพาะหรือ
ใชก้ ะปิท่ที าจากกงุ้ กะทเิ ป็เครื่องปรุงหลกั ในอาหารคาวและอาหารหวานหลายชนิด รบั ประทานทงั้ ขา้ วเจา้ และ
ขา้ วเหนียว โดยขา้ วเหนียวนิยมใชท้ าขนม เช่น ขา้ วเหนยี วนา้ กะททิ เุ รียน
อาหารกมั พชู ามลี กั ษณะเฉพาะตามพนื้ ท่ี ในกาปอตและแกบ อาหารท่มี ชี ่อื เสียงคือปพู รกิ กาปอต
(ក្ាតមឆាម្ប្មចខ្ជ ី) ในไพลิน หม่ีโกลาซง่ึ เป็นอาหารของชาวกลุ า ชนกลุ่มนอ้ ยกล่มุ หน่งึ ในกมั พชู าเป็นท่ี
นิยม ทางภาคใตจ้ ะพบอาหารเวียดนามมาก โดยเฉพาะบญั ตรงั ซง่ึ เป็นอาหารท่นี ิยมในภาคใตม้ ากกว่าภาค
กลาง อาหารของชาวกมั พชู าเชือ้ สายจนี เป็นท่นี ยิ มในเสียมราฐและกาปงธม
ศิลปะและวรรณคดี
ทัศนศิลป์
ประวตั ิของทศั นศิลป์ ในกมั พูชายอ้ นหลงั ไปถึงยคุ ของนครวดั ท่ีนิยมจารึกลงบนศิลา และไดร้ ับศิลปะ
แบบตะวนั ตกเขา้ สู่ประเทศดว้ ย แต่ศิลปะพ้ืนบา้ นและศิลปะสมยั ใหม่ตกต่าลงในสมยั เขมรแดงที่มีการสงั หาร
ศิลปิ นและการทาลายศิลปะ ศิลปิ นท่ีรอดชีวติ ไดร้ ับการสนบั สนุนจากรัฐบาล องคก์ รเอกชนและต่างประเทศมาก
ข้ึน
ดนตรี
ในช่วง พ.ศ. 2503 – 2513 สิน สีสมุทและรส ศรีสุทธาเป็นนกั ร้องที่โด่งดงั ในประเทศ หลงั จากที่ท้งั สอง
คนเสียชีวิตไดม้ ีนกั ร้องรุ่นใหมเ่ กิดข้นึ และกมั พชู าไดร้ ับอิทธิพลจากตะวนั ตกมากข้นึ
ดนตรีคลาสสิกของกมั พูชาเช่นพณิ เพียต นิยมบรรเลงในงานเทศกาลต่างๆ และประกอบการแสดงระบา
เคร่ืองดนตรีประกอบดว้ ยโรเนียตเอกหรือระนาดเอก โรเนียตทงุ หรือระนาดทมุ้ กองวงตวจหรือฆอ้ งวงเลก็ และ
กองวงทมหรือฆอ้ งวงใหญ่ กลองสัมโพ กลองสกอร์ทมและสราไลหรือป่ี
นาฏศิลป์
ระบาเทพอปั สรา
นาฏศิลป์ ในประเทศกมั พูชาแบ่งไดเ้ ป็นนาฏศิลป์ คลาสสิก นาฏศิลป์ พ้ืนบา้ นและการแสดงทางสงั คม
นาฏศิลป์ คลาสสิกเกิดข้นึ ในราชสานกั มีความคลา้ ยคลึงกบั นาฏศิลป์ ไทย ต้งั แต่ พ.ศ. 2493 จะแสดงในงานเฉลิม
ฉลอง เทศกาลสาคญั และเพอ่ื การทอ่ งเที่ยว ช่วง พ.ศ. 2503 เป็นยคุ ทองของนาฏศิลป์ คลาสสิก บลั เลตห์ ลวงของ
กมั พชู าไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ เป็นความทรงจาของโลก นาฏศิลป์ ของกมั พชู านิยมแสดงเก่ียวกบั เรื่องเรียมเกอร์หรือ
รามเกียรต์ิ เช่นระบาสุวรรณมจั ฉาและระบามณีเมขลา ระบาอปั สราเป็นการแสดงของกมั พชู าท่ีกาเนิดจากรูป
นางอปั สราสมยั พระนคร เป็นท่ีนิยมของนกั ท่องเที่ยว ริเริ่มโดยพระนโรดม บุปผาเทวีก่อนสมยั เขมรแดง
ปกครองประเทศ และไดร้ ับการยกยอ่ งใหเ้ ป็นสัญลกั ษณ์ของกมั พชู า
ระบาพ้ืนบา้ นของกมั พชู าเป็นการแสดงท่ีรูปแบบไม่ไดก้ าหนดตายตวั เช่นระบาคลาสสิก การแตง่ กาย
เป็นไปตามการแต่งกายของกลมุ่ ชน เช่น ชาวจาม ชาวเขมรบนเผา่ ต่างๆ และชาวนา นิยมบรรเลงดว้ ยวงมโหรี
ระบาเชิงสังคมเป็นการแสดงในโอกาสที่มีการเฉลิมฉลองทางสงั คมเช่น รอมวง รอมกบจั รอมสาละวนั และ
ลาเลียบ บางส่วนไดร้ ับอิทธิพลจากการแสดงพ้ืนบา้ นของลาวยกเวน้ รอมกบจั ที่ไดอ้ ิทธิพลจากระบาราชสานกั
มาก
วรรณคดี
ภาพวาดเรื่องวรวงศ์
วรรณคดียคุ เร่ิมแรกของกมั พูชาเป็นจารึกบนศิลาซ่ึงเลา่ ถึงการสืบเช้ือสายของราชวงศ์ การศาสนา อาณา
เขตยดึ ครอง และการจดั การภายในราชอาณาจกั ร เอกสารภาษาเขมรที่เก่าแก่ท่ีสุดเป็นการแปลพระไตรปิ ฎกและ
อรรถกถาจากภาษาบาลี เขียนโดยพระสงฆล์ งบนใบลาน
เรียมเกอร์เป็นรามายณะฉบบั เขมรที่ไดร้ ับอิทธิพลจากอินเดียและยงั มีอิทธิพลต่อระบาคลาสสิก และเป็น
เร่ืองท่ีมีประวตั ิการนามาแสดงเก่าแก่ท่ีสุดในกมั พูชา กมั พูชามีวรรณกรรมมขุ ปาฐะท่ีหลากหลาย ซ่ึงไม่มีการ
เขยี นจนกระทงั่ ไดร้ ับอิทธิพลจากยโุ รป เร่ืองท่ีมีช่ือเสียงมากคอื วรวงศแ์ ละสรวงศห์ รือวรวงศแ์ ละเสารวงศซ์ ่ึง
เป็นเรื่องเล่าเก่ียวกบั เจา้ ชายเขมรสององค์ มีการบนั ทึกเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรท่ีพระตะบอง ตมุ เตียว เป็นเรื่องแนว
ความรักที่เป็นท่ีนิยมในกมั พชู า โครงเร่ืองคลา้ ยโรมิโอและจูเลียตของเชคสเปี ยร์ โดยมีท่ีมาจากกวีนิพนธข์ อง
พระปทุมเถระ (โสม)
หนงั ตะลงุ
นงั สเบกธม
นงั สเบกมลี กั ษณะใกลเ้ คียงกบั หนงั ใหญ่ในประเทศไทย วายงั ของมาเลเซยี และอนิ โดนเี ซียในบรเิ วณ
เกาะชวาและบาหลี ทาใหค้ าดว่าตน้ กาเนดิ ของนงั สเบกมาจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย ปัจจบุ นั มีผนู้ ยิ ม
นอ้ ยลง นงั สเบกในกมั พชู ามี 3 ชนิดคือ
• นงั สเบกธม สว่ นใหญ่เลน่ เฉพาะเร่ืองรามเกียรติ์ บรรเลงประกอบดว้ ยพิณพาทย์
• นัง สเบก โตจ หรือนงั กาลูน หรืออายงั ใชห้ ุ่นตวั เลก็ กวา่ และเลน่ ไดห้ ลายเร่ืองมากกวา่
• สเบก เปาร์ ใชห้ ุ่นท่ีมีสี
ภาพยนตร์
ภาพยนตรใ์ นกมั พชู าเร่มิ ขึน้ เม่ือ พ.ศ. 2493 พระนโรดม สีหนเุ องทรงมบี ทบาทสาคญั ในฐานะผกู้ ากบั
ภาพยนตรแ์ ละในสมยั ระบอบสงั คมของพระองคเ์ ป็นยคุ ทองของภาพยนตรก์ ่อนจะตกต่าลงในสมยั เขมรแดง
กฬี า
เยาวชนกมั พูชาท่ีฝึกชกมวย
นบั แตช่ ่วง 30 ปี ที่ผา่ นมา กมั พชู าเขา้ ร่วมในการแขง่ ขนั กีฬาในระดบั โลกมากข้นึ ฟุตบอลกลายเป็นกีฬา
ยอดนิยมเช่นเดียวกบั ศิลปะการต่อสูเ้ ช่น ประดลั เสรี ปกกโต และมวยปล้ากมั พชู า
ปกกโตเป็นศิลปะการต่อสูแ้ บบโบราณในกมั พูชา และคาดวา่ เป็นตน้ กาเนิดของกีฬามวยในเอเชีย
ตะวนั ออกเฉียงใต้ พบในภาพแกะสลกั สมยั นครวดั และมีการแตง่ กายคลา้ ยกบั ทหารโบราณของกมั พชู า และถือ
เป็นศิลปะการสู้รบของทหาร ประดลั เสรีเป็นมวยพ้นื บา้ นของกมั พูชา มีภาพสลกั ของการต่อสู้ท่ีคลา้ ยประดลั เสรี
ที่นครวดั เช่นกนั อยา่ งไรกต็ าม หลายชาติในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีขอ้ โตแ้ ยง้ เก่ียวกบั จุดกาเนิดของกีฬามวย
ในภูมิภาค มวยปล้ากมั พูชาเป็นกีฬายอดนิยมอยา่ งหน่ึงในกมั พชู า นิยมจดั แข่งขนั ช่วงเทศกาลปี ใหม่
สหพนั ธฟ์ ุตบอลกมั พชู าเป็นผคู้ วบคมุ กีฬาฟตุ บอลในกมั พชู า และฟุตบอลทีมชาติกมั พชู า ก่อต้งั เมื่อ พ.ศ.
2476 และเป็นสมาชิกฟี ฟ่ าต้งั แต่ พ.ศ. 2496 เป็นสมาชิกสหพนั ธฟ์ ตุ บอลเอเชียใน พ.ศ. 2500 สนามกีฬาแห่งชาติ
พนมเปญเป็นสนามกีฬาแห่งชาติ จุคนได้ 50,000 คน ต้งั อยใู่ นพนมเปญ
สถานท่ที อ่ งเท่ยี ว
1. นครวัด
นครวดั ต้งั อยทู่ ่ีเมืองเสียมราฐ (Siem Reap) เป็นศาสนสถานท่ีสาคญั ของกมั พชู า และไดก้ ลายเป็น
สถานท่ีสาคญั ของโลกไปแลว้ เพราะท่ีน่ีมีประวตั ิศาสตร์และสถาปัตยกรรมอนั น่าท่ึง สร้างมาต้งั แต่ช่วงตน้
คริสตศ์ ตวรรษท่ี 12 โดยพระเจา้ สุริยวรมนั ที่ 2 เพื่อบชู าพระวษิ ณุ มีสถาปัตยกรรมแบบขอมสมยั รุ่งเรือง สร้างข้ึน
ดว้ ยหินทรายกอ้ นใหญ่เกือบ 10 ลา้ นกอ้ น ซ่ึงแต่ละกอ้ นก็หนกั ราว ๆ 1.5 ตนั เลยทีเดียว ตวั ปราสาทมีปรางค์ 5
ยอด ปรางคต์ รงกลางน้นั สูงราว ๆ 60 เมตร เป็นจุดสูงสุดของนครวดั ซ่ึงมีทางเดินที่สูงชนั ใหน้ กั ท่องเที่ยวไดว้ ดั
ใจเดินข้ึนไปชมวิวดา้ นบน โดยรอบปราสาทมีคูน้าลอ้ มรอบ
รอบ ๆ ปราสาทนครวดั จะมีการแกะสลกั หินไวอ้ ยา่ งสวยงาม โดยเฉพาะทางดา้ นกาแพงช้นั นอกรอบ
ปราสาทน้นั มีงานแกะสลกั เก่ียวกบั พระราชกรณียกิจของพระเจา้ สุริยวรมนั ท่ี 2 พร้อมท้งั เรื่องราวจากวรรณคดี
เร่ืองรามายณะ ท่ีโดดเด่นสุด ๆ กค็ ือรูปแกะสลกั นางอปั สรที่มีมากกว่าพนั รูป ซ่ึงแตล่ ะรูปกย็ งั แต่งกายและมี
เครื่องประดบั ที่แตกตา่ งกนั ออกไปดว้ ย แสดงใหเ้ ห็นถึงความสามารถของช่างฝีมือในสมยั น้นั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี สม
กบั คาพดู ของ Arnold Joseph Toynbee ที่วา่ "See Angkor and Die"
2. นครธม
นครธม เป็นอีกหน่ึงท่ีเท่ียวกมั พชู าท่ีคณุ ตอ้ งไดเ้ ห็นดว้ ยตาตวั เองสักคร้ัง ท่ีน่ีอยทู่ างดา้ นเหนือของนคร
วดั ห่างออกไปเพยี งแค่ไม่กี่กิโลเมตรเทา่ น้นั แต่เดิมท่ีนี่เป็นเมืองหลวงแห่งสุดทา้ ยของอาณาจกั รขอม สร้างข้ึน
ต้งั แต่สมยั พระเจา้ ชยั วรมนั ที่ 7 มีลกั ษณะเป็นเมืองรูปส่ีเหล่ียม มีคนู ้าลอ้ มรอบท้งั 4 ดา้ น และมีประตเู มืองท้งั 4
ทิศ ตรงกลางเมืองคอื ปราสาทบายน มีสถาปัตยกรรมท่ีโดดเด่นในสไตลข์ อม โดยเฉพาะการแกะสลกั หนา้ คนอยู่
บนยอดปราสาท พร้อมท้งั การแกะสลกั ลวดลายอ่ืน ๆ ท่ีงดงามอยโู่ ดยรอบของปราสาท ท้งั น้ียงั มีสิ่งที่น่าสนใจ
อีกมากมายภายในนครธม อาทิ ประตเู มืองทางดา้ นทิศใต,้ ปราสาททวิเมียนอากาศ, ปราสาทบาปวน, ปราสาท
พระขรรค์ เป็นตน้
3. ปราสาทพนมบาเคง็ และปราสาทตาพรหม
ปราสาทพนมบาเค็ง ตงั้ อย่ใู กลก้ บั ประตทู างทศิ ใตข้ องเมอื งนครธม ความน่าสนใจของท่ีน่คี อื เป็น
ปราสาทขนาดเลก็ อย่บู นยอดเขาสงู ราว ๆ 75 เมตร ซ่งึ สามารถมองเห็นบรรยากาศโดยรอบไดอ้ ยา่ งสวยงาม
มาก ๆ ในอดตี ท่ีน่เี ป็นเทวสถานในศาสนาฮนิ ดู สรา้ งขนึ้ ในสมยั พระเจา้ ยโศวรมนั ท่ี 1 เพ่ือบชู าพระศิวะ ตวั
ปราสาทมลี กั ษณะคลา้ ยกบั พรี ะมดิ มสี ่ิงสาคญั คอื ศิวลงึ ค์ ปัจจุ บนั ปราสาทแห่งนีม้ ีความเสื่อมโทรมลงมาก จงึ
ไดม้ กี ารจากดั จานวนนกั ท่องเท่ยี วท่เี ขา้ เท่ียวชมในแต่ละวนั
สว่ นปราสาทตาพรหม ตงั้ อย่ทู างดา้ นตะวนั ออกของเมืองนครธม สรา้ งขึน้ เพ่ืออทุ ิศใหก้ บั พระราช
มารดาของพระเจา้ ชยั วรมนั ท่ี 7 ความโดดเดน่ ของท่ีน่คี ือความเป็นธรรมชาติ ทางรฐั บาลกมั พชู าไดค้ งให้
ปราสาทแห่งนีอ้ ย่ใู นสภาพเดิมเหมือนตอนท่ีพบเจอมากท่ีสดุ โดยไมต่ ดั ตน้ ไมท้ ่ขี นึ้ แทรกตวั อยโู่ ดยรอบปราสาท
ท่นี ่จี งึ มเี อกลกั ษณโ์ ดดเด่นไม่เหมอื นปราสาทอ่นื ๆ
4. ปราสาทบนั ทายศรี
ปราสาทบนั ทายศรี เป็นอีกหน่ึงปราสาทท่มี ีความสวยงามมากท่สี ดุ ของกมั พชู า ตงั้ อยทู่ างทิศ
ตะวนั ออกเฉียงเหนอื ของเมอื งเสียมราฐ หา่ งกนั ราว ๆ 30 กโิ ลเมตร สรา้ งขนึ้ โดยพราหมณย์ ชั ญวราหะ ในตอน
ปลายของสมยั พระเจา้ ราเชนทรวรมนั ท่ี 2 (พระเจา้ ชยั วรมนั ท่ี 4) ใชห้ นิ ทรายสีชมพใู นการสรา้ งทงั้ หมด เป็นหนิ
ทรายท่หี ายากมาก มีการแกะสลกั ลวดลายต่าง ๆ อย่างสวยงามบนผนงั บานประตู และเสา ซง่ึ ลวดลายเหลา่ นี้
ก็ยงั คงปรากฏเดน่ ชดั มาจนถึงปัจจบุ นั รวมเป็นระยะเวลากวา่ 1,000 ปี ท่นี ่สี รา้ งเพ่อื อทุ ศิ ใหก้ บั พระศิวะ
ประกอบดว้ ยปราสาท 3 หลงั ลอ้ มรอบดว้ ยสระนา้ ทงั้ 4 ดา้ น และรายลอ้ มดว้ ยตน้ ไมน้ อ้ ยใหญ่ บรรยากาศรม่
รน่ื
5. โตนเลสาบ
โตนเลสาบ เป็นทะเลสาบนา้ จืดท่ใี หญ่ท่สี ดุ ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ตงั้ อย่บู รเิ วณตรงกลาง
ของประเทศกมั พชู า หา่ งจากเมืองเสียมราฐไปทางทิศใตร้ าว ๆ 15 กิโลเมตร ทะเลสาบแหง่ นมี้ เี นอื้ ท่ที งั้ หมด
ประมาณ 10,000 ตารางกโิ ลเมตร ความลกึ โดยเฉลี่ยของทะเลสาบประมาณ 14 เมตร นา้ ในทะเลสาบไหลมา
จากแม่นา้ โขง โดยรอบของทะเลสาบเต็มไปดว้ ยพืชพรรณต่าง ๆ มากมาย มสี ตั วป์ ่าและสตั วน์ า้ จืดหลากหลาย
ชนดิ ท่สี าคญั คือมหี มบู่ า้ นกลางนา้ ตงั้ อย่ใู นทะเลสาบ เป็นสถานท่ที ่องเท่ียวยอดนิยมของนกั ท่องเท่ยี วท่วั โลก
นกั ท่องเท่ยี วสามารถมาน่งั เรือชมวถิ ีชวี ิตของชาวบา้ นและธรรมชาติท่ีสวยงามของทะเลสาบกนั ไดต้ ลอดทงั้ ปี
6. พระบรมราชวงั จตมุ ุขสิริมงคล (Royal Palace Of Phnom penh)
พระบรมราชวงั จตมุ ขุ สิริมงคล ต้งั อยกู่ ลางกรุงพนมเปญ เป็นพระราชวงั เก่าแก่ของพระมหากษตั ริย์
กมั พชู า สร้างในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระนโรดม สีหนุ ในปี ค.ศ. 1866 ปัจจุบนั เป็นท่ีประทบั ของ
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ตวั พระราชวงั มีการออกแบบในแบบสถาปัตยกรรมเขมร
ผสมผสานกบั ศิลปะแบบฝรั่งเศสเลก็ นอ้ ย ปัจจุบนั เปิ ดให้เขา้ เท่ียวชมเฉพาะบางส่วน อาทิ พระท่ีนง่ั เขมรินทรระ
ที่นง่ั จนั ทรฉายา, พระท่ีนง่ั เทวาวนิ ิจฉยั , พระที่นง่ั นโปเลียนที่ 3, วดั พระแกว้ เป็นตน้
7. เมืองพระสีหนุ (Sihanoukville)
เมืองพระสีหนุ หรือกาปงโสม เป็นเมืองริมทะเลท่ีไดร้ ับความนิยมจากท้งั นกั ท่องเท่ียวกมั พชู าและ
ชาวตา่ งชาติ ต้งั อยทู่ างตะวนั ตกเฉียงใตข้ องกรุงพนมเปญ ท่ีน่ีมีชายหาดที่สวยงาม หาดทรายขาวสะอาด
บรรยากาศเงียบสงบมาก อีกท้งั ยงั มีเกาะเลก็ เกาะนอ้ ยอยกู่ ลางทะเลอา่ วไทยอีกกวา่ 10 เกาะ ซ่ึงแต่ละเกาะก็มี
ความสวยงามแตกตา่ งกนั ออกไป โดยเฉพาะเกาะรง น้าทะเลจะเป็นสีฟ้าคริสตลั ใส สวยมาก ๆ นอกจากน้ีบาง
เกาะก็เป็นเกาะส่วนตวั ท่ีมีบา้ นพกั กลางทะเล ไดฉ้ ายาวา่ มลั ดีฟส์แห่งกมั พชู าเลยทีเดียว
8. เมอื งรัตนคีรี (Rattanakiri City)
เมืองรัตนคีรี เป็นเมืองที่อยทู่ างตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศกมั พชู า มีอาณาเขตติดต่อท้งั ประเทศ
ลาวและประเทศเวยี ดนาม เมืองแห่งน้ีข้ึนช่ือในเร่ืองของธรรมชาติป่ าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเท่ียว
เก่ียวกบั ภูเขามากมายหลากหลายแห่ง ท่ีโดดเด่นท่ีสุดคือ Boeng Yeak Loam เป็นทะเลสาบปากปล่องภเู ขาไฟ มี
เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางยาวประมาณ 800 เมตร ความลึกโดยเฉล่ียอยทู่ ่ี 48 เมตร รอบ ๆ ทะเลสาบจะเป็นป่ าไมเ้ ขียวขจี
น้าในทะเลสาบกเ็ ป็นสีเขียวมรกตใส สามารถลงเลน่ น้าได้
นอกจากน้ีที่เมืองรัตนครี ีก็ยงั มีแหลง่ ท่องเท่ียวที่น่าสนใจอ่ืน ๆ อาทิ Cha Ong Waterfall, Ka Chanh
Waterfall, Ka Tieng Waterfall, Ou’Sinlair Waterfall, Veal Rum Plan (stone field) เป็นตน้
9. เมืองกาปอต (Kampot)
เมืองกาปอต เป็นอีกเมืองทางตอนใตข้ องกมั พชู าท่ีน่าเท่ียวไม่ใช่เลน่ เลยล่ะ เพราะคร้ังหน่ึงที่น่ีเคย
เจริญรุ่งเรือง เป็นเมืองทา่ ท่ีสาคญั ปัจจุบนั ยงั เป็นแหลง่ ส่งออกพริกไทย น้าปลา และทเุ รียนท่ีใหญท่ ่ีสุดแห่งหน่ึง
ของโลกอีกดว้ ย ไม่เพยี งเท่าน้นั ดว้ ยทาเลท่ีต้งั ของที่นี่ที่อยบู่ ริเวณปากแม่น้า Preaek Tuek Chhu ก็ทาใหก้ าปอตมี
ธรรมชาติท่ีหลากหลาย จะเท่ียวทะเลกไ็ ด้ หรือเท่ียวชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ากด็ ีไปหมด แต่ส่ิงที่ทาใหเ้ มืองแห่ง
น้ีน่าเท่ียวอยา่ งสมบรู ณ์แบบที่สุดก็อยทู่ ี่สถาปัตยกรรมของอาคารบา้ นเรือนตา่ ง ๆ ในเมือง ที่มีการสร้างตาม
ศิลปะของฝร่ังเศส บรรยากาศคลา้ ยกบั ยโุ รปนอ้ ย ๆ เลยทีเดียว
10. ตลาดใหม่ (Central Market) หรือตลาดพซาทะไม (Psah Thom Thmey)
ตลาดพซาทะไม ต้งั อยภู่ ายในกรุงพนมเปญ เป็นตลาดใหญ่และสาคญั ท่ีสุดของเมือง และยงั มีความโดด
เด่นไมเ่ หมือนตลาดอื่น ๆ ดว้ ยสถาปัตยกรรมสไตลอ์ าร์ตเดคโคสีเหลืองสดใส สร้างมาต้งั แตป่ ี ค.ศ. 1937
ปัจจุบนั ท่ีน่ีมีร้านคา้ มากมายหลายร้อยร้าน จาหน่ายสินคา้ ทกุ ชนิด ไม่วา่ จะเป็นอาหารพ้นื เมือง, อาหารทะเล, ผกั -
ผลไมท้ อ้ งถ่ิน, เส้ือผา้ แฟชนั่ , เคร่ืองประดบั , เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า, จิวเวลร่ี, ทอง เป็นตน้
สินค้าสาคญั ทีส่ ่งออก
1. เคร่ืองนุ่งห่ม
2. ไมซ้ ุง
3. ยางพารา
4. ใบยาสูบ
5. รองเทา้
สินคา้ สาคัญทนี่ าเข้า
1. ผลิตภณั ฑป์ ิ โตรเลียม
2. เภสชั ภณั ฑ์
3. วสั ดุก่อสร้าง
4. ยาสูบ
5. ทองคา
สกุลเงนิ ของกมั พชู า
สกุลเงินของกมั พูชา – เรียล (Cambodian Riel, KHR) เงินเรียลกมั พชู า มีการผลิตท้งั เหรียญ
และธนบตั รหลายระดบั ราคาออกมาใชง้ าน คือ 50, 100, 200, 500, 1,000, 2,000, 5,000, 10,000,
20,000, 50,000 และ 100,000 เรียล โดยมีอตั ราแลกเปล่ียนราว 4,000 เรียลต่อดอลลาร์สหรัฐ การคา้
ขายตามแนวชายแดนหรือแมก้ ระทง่ั ในเมืองใหญๆ่ ของกมั พชู า เราสามารถใชเ้ งินบาทไทยและเงิน
ดอลลาร์สหรัฐในการซ้ือสินคา้ และบริการได้
อตั ราการแลกเปลย่ี น
จานวน แปลง เขา้ ไป ผลลพั ธ์
1 บาทไทย THB KHR 131.14 เรียลกมั พชู า
2 บาทไทย THB KHR 262.28 เรียลกมั พชู า
3 บาทไทย THB KHR 393.42 เรยี ลกมั พชู า
4 บาทไทย THB KHR 524.56 เรียลกมั พชู า
5 บาทไทย THB KHR 655.70 เรยี ลกมั พชู า
10 บาทไทย THB KHR 1 311.40 เรียลกมั พชู า
15 บาทไทย THB KHR 1 967.10 เรียลกมั พชู า
20 บาทไทย THB KHR 2 622.80 เรียลกมั พชู า
25 บาทไทย THB KHR 3 278.50 เรียลกมั พชู า
100 บาทไทย THB KHR 13 114.00 เรยี ลกมั พชู า
500 บาทไทย THB KHR 65 570.00 เรยี ลกมั พชู า
โครงสร้างทางเศรษฐกิจปี 2019
เศรษฐกิจกมั พชู าชายงั คงเติบโตไดท้ ่ี6.8% ในปี 2019 การสง่ ออกของกมั พชู ายงั ขยายตวั ได้
12%YOY ในชว่ ง 4 เดือนแรกของปี 2019 แมว้ ่าความไมแ่ นน่ อนของการคา้ โลกจะเพ่ิมขึน้ และความเสย่ี งท่ีจะ
สญู เสียสิทธิพเิ ศษ Everything But Arms (EBA) จากสหภาพยโุ รปจะมีมากขนึ้ แต่การสง่ ออกสินคา้
เครอื่ งน่งุ ห่มและรองเทา้ ยงั ขยายตวั สงู ท่ี 18%YOY แมก้ ารสง่ ออกไปยงั สหภาพยโุ รปชะลอตวั 2.5% ในขณะท่ี
การสง่ ออกไปยงั สหรฐั ฯ ญี่ป่ นุ และจีนขยายตวั สงู ทท่ี 22%YOY 21%YOY และ 29%YOY ตามล าดบั การเรง่
ตวั ของการสง่ ออกไปยงั ตลาดอ่นื ๆ อาจเป็นผลจากการผลกั ดนั ของภาครฐั ในการเพ่ิมความหลากหลายของ
ตลาดสง่ ออก สาหรบั ภาค การลงทนุ คณะกรรมการเพ่อื การพฒั นาของกมั พชู า (CDC) อนมุ ตั กิ ารลงทุน 102
โครงการมลู คา่ 2 พนั ลา้ น ดอลลารส์ หรฐั ในชว่ ง 3 เดือนแรกของปี 2019 หรือคดิ เป็นราวครง่ึ หนึง่ ของมลู คา่ การ
ลงทนุ เม่ือปีท่ผี า่ นมา โดย สว่ นใหญ่เป็นการลงทนุ ในอตุ สาหกรรมเครื่องน่งุ ห่มและรองเทา้ อปุ กรณเ์ ดนิ ทาง
สนิ คา้ อตุ สาหกรรมอ่นื ๆ โรงแรม อาคารพาณิชย์ และสถานบนั เทิง อย่างไรก็ตาม แมว้ า่ บรษิ ัทต่างชาตหิ ลาย
แห่งจะมีแผนยา้ ยฐานการ ผลิตออกจากจีนเพ่อื เล่ียงผลกระทบจากสงครามการคา้ แต่ยงั ไมม่ รี ายงานวา่ บรษิ ัท
ดงั กลา่ วยา้ ยไปยงั กมั พชู า ในช่วงท่ีผา่ นมา ในครง่ึ แรกของปี กมั พชู าตอ้ นรบั นกั ท่องเท่ียวตา่ งชาติกวา่ 3.3 ลา้ น
คน เพม่ิ ขนึ้ 11.2%YOY โดยนกั ท่องเท่ยี วชาวจนี ยงั คงเป็นนกั ท่องเท่ียวกลมุ่ ใหญ่ท่สี ดุ ของกมั พชู าดว้ ยสดั สว่ น
39% ของจานวน นกั ท่องเท่ียวชาวต่างชาติทงั้ หมด และมีอตั ราการเพิม่ จานวนอย่างรวดเรว็ ตามดว้ ยเวียดนาม
ลาวและไทย อย่างไรก็ตาม จากประมาณการของ IMF เศรษฐกิจกมั พชู าคาดว่าจะชะลอตวั ลงเหลือ 6.5% ในปี
2020 เน่ืองจากความเส่ียงจากภายนอกท่เี พิม่ ขึน้ โดยเฉพาะความเป็นไปไดใ้ นการสญู เสยี สทิ ธิพเิ ศษ EBA จาก
สหภาพยโุ รป อีไอซมี องว่า กมั พชู ามคี วามเป็นไปไดอ้ ย่างมากท่จี ะสญู เสียสิทธิพิเศษ EBA (อา่ นเพิ่มเติมท่ี Box:
กมั พชู าเดินหนา้ อย่างไรเม่ือไมม่ ี EBA) โดยหลงั จากท่สี หภาพยโุ รปเรม่ิ กระบวนการถอนสทิ ธิพิเศษ EBA ตงั้ แต่
เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 2019 รฐั บาลกมั พชู ายงั ไมม่ ีการแกไขป้ ัญ หาดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชนอยา่ งเป็นรูปธรรม และ นายก
รฐั มนตรฮี นุ เซน มองว่าผลกระทบของการสญู เสยี สิทธิพเิ ศษ EBA ไมไ่ ดร้ า้ ยแรงอย่างท่ที กุ ภาคสว่ นกงั วล
ในขณะท่กี มั พชู าเผชิญ กบแั รงกดดนั จากประเทศฝ่ังตะวนั ตก กมั พชู าหนั ไปพง่ึ พาจีนมากขนึ้ ทงั้ ในดา้ นความ
ชว่ ยเหลอื ทางเศรษฐกิจและความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ หากเศรษฐกิจจีนชะลอตวั รุนแรงกว่าท่ีคาดจากผล
ของสงครามการคา้ ระหวา่ งสหรฐั ฯ และจนี เศรษฐกิจกมั พชู าจะไดร้ บั ผลกระทบอยา่ งรุนแรงทงั้ ในภาคการ
ลงทนุ การคา้ และการท่องเท่ยี วซ่งึ พ่งึ พาเศรษฐกิจจนี ในระดบั สงู ดงั นนั้ รฐั บาลจงึ เดินหนา้ พฒั นาอตุ สาหกรรม
ขบั เคลื่อนเศรษฐกิจใหม่และพฒั นาสภาพแวดลอ้ มในการทางธรุ กิจเพ่อื ท่จี ะรกั ษาระดบั การขยายตวั ทาง
เศรษฐกิจ ราว 7% ในระยะขา้ งหนา้
ทศิ ทางการลงทุนของประเทศกัมพชู า
เพอ่ื เป็นการสร้างงานและก่อใหเ้ กิดรายไดแ้ ก่ประชาชนกมั พชู า รวมถึงเป็นการพฒั นาเศรษฐกิจของ
ประเทศ รัฐบาลกมั พูชาจึงมีนโยบายเพอ่ื ส่งเสริมการลงทุน ดว้ ยการใหส้ ิทธิพิเศษในการลงทุนหลายดา้ น แก่นกั
ลงทุนที่เขา้ มา ประกอบกิจการในประเทศกมั พูชา ในรูปแบบของ “กิจการท่ีไดร้ ับการส่งเสริมการลงทุน” ซ่ึงมี
หลายประเภท อาทิ เกษตรกรรม อุตสาหกรรมการเกษตร อตุ สาหกรรมการท่องเที่ยว การพฒั นาทรัพยากรบคุ คล
อุตสาหกรรมที่ใชแ้ รงงาน เป็นหลกั และอุตสาหกรรมเพ่ือการส่งออก โดยกฎหมายมีการกาหนดกิจการท่ีหา้ ม
ลงทุน กิจการท่ีมีและไม่มีสิทธ์ิ ขอรับการส่งเสริมการลงทุน วงเงินข้นั ต่าในการลงทนุ และเงื่อนไขในการ
พิจารณาเพ่ือใหก้ ารส่งเสริมการลงทนุ ดงั น้ี กิจการที่หา้ มลงทนุ (ท้งั ชาวตา่ งชาติและนกั ลงทนุ ในประเทศ) - การ
ผลิตและแปรรูปสารออกฤทธ์ิตอ่ จิตและประสาท และสารเสพติด - การผลิตสารเคมีท่ีมีพษิ ยาฆา่ แมลง และ
สินคา้ ที่ตอ้ งใชส้ ารเคมีภณั ฑใ์ นการผลิต ซ่ึงกฎหมายระหวา่ งประเทศ หรือองคก์ ารการคา้ โลกไมอ่ นุญาต
เนื่องจากมีผลกระทบตอ่ สุขภาพและส่ิงแวดลอ้ ม - การแปรรูปและการผลิตพลงั งานไฟฟ้าโดยการใชส้ ิ่งปฏิกลู ท่ี
นาเขา้ จากต่างประเทศ - ธุรกิจที่เกี่ยวกบั ป่ าไม้ ซ่ึงไม่อนุญาตโดยกฎหมายป่ าไม้ กิจการที่ไมม่ ีสิทธ์ิขอรับการ
ส่งเสริมการลงทุน (แตส่ ามารถลงทนุ ได)้ - กิจกรรมในเชิงพาณิชย์ การนาเขา้ ส่งออก ขายส่ง ขายปลีก รวมถึง
การจาหน่ายสินคา้ ปลอดภาษี - การใหบ้ ริการการขนส่ง ท้งั ทางน้า ทางบก และทางอากาศ ยกเวน้ การลงทุนใน
ภาคการขนส่งทางรถไฟ - ร้านอาหาร คาราโอเกะ กิจการนวด ฟิ ตเนส สถานบนั เทิง ไนทค์ ลบั หรือบาร์ ที่มิได้
อยภู่ ายในโรงแรม มาตรฐานสากล หรืออยภู่ ายในโรงแรม แต่เป็นการใหเ้ ช่าแก่นกั ลงทนุ ที่ไมไ่ ดร้ ับ QIP เป็น
ผปู้ ระกอบการ - การใหบ้ ริการ การท่องเที่ยว ใหบ้ ริการขอ้ มลู เป็นตวั แทน หรือโฆษณา - ธุรกิจคาสิโน หรือการ
พนนั และการใหบ้ ริการท่ีเกี่ยวขอ้ ง - การใหบ้ ริการทางการเงิน รวมท้งั ธนาคาร สถาบนั ทางการเงิน บริษทั
ประกนั และธุรกิจทกุ ประเภทที่มี ลกั ษณะเป็นตวั กลางทางการเงิน - กิจการ หนงั สือพิมพแ์ ละสื่อ รวมท้งั วทิ ยุ
โทรทศั น์ นิตยสาร ภาพยนตร์ โรงหนงั สตูดิโอ และธุรกิจที่เกี่ยวขอ้ ง - การใหบ้ ริการทางวชิ าชีพ - การดดั แปลง
ทางพนั ธุกรรม ท่ีก่อใหเ้ กิดอนั ตรายทางชีวภาพ สุขภาพมนุษย์ และสิ่งแวดลอ้ ม - การผลิตและแปรรูปผลิตภณั ฑ์
จากไมท้ ี่ใชไ้ มจ้ ากป่ าไมธ้ รรมชาติในประเทศเป็นวตั ถดุ ิบ – การผลิตผลิตภณั ฑย์ าสูบ
มาตรการส่งเสริมการลงทนุ
(1) ยกเวน้ ภาษกี าไร (Profit Tax) เป็นเวลา 3-9 ปี
(2) การคิดคา่ เสื่อมราคาในอตั ราพิเศษ 40% (กรณีไม่เลือกรับการยกเวน้ ภาษกี าไร)
(3) ยกเวน้ ภาษนี าเขา้ วสั ดุก่อสร้าง เคร่ืองมือเคร่ืองจกั รในการผลิต
(4) ยกเวน้ ภาษีนาเขา้ วตั ถดุ ิบท่ีใชใ้ นการผลิต สาหรับการผลิตเพ่อื ส่งออก
(5) ยกเวน้ ภาษีมูลค่าเพม่ิ (VAT) สาหรับสินคา้ ท่ีนามาเป็นส่วนประกอบของสินคา้ ส่งออก
กิจการทมี่ ีสิทธใิ์ นการขอรับการสง่ เสรมิ การลงทุน เงินลงทุนขั้นต่า และเงอื่ นไขการพจิ ารณา
ประเภทกิจการ เงินลงทุน/เงื่อนไขการพจิ ารณา
การผลิตเพื่อการสนบั สนุนอุตสาหกรรมเพื่อการ เงินลงทุนไม่นอ้ ยกวา่ 100,000 USD
ส่งออก เงินลงทุนไมน่ อ้ ยกวา่ 200,000 USD
เงินลงทนุ ไม่นอ้ ยกวา่ 300,000 USD
การผลิตอาหารสัตว์
การผลิตเคร่ืองหนงั ผลิตภณั ฑท์ ี่ทาจากโลหะทกุ เงินลงทุนไม่นอ้ ยกวา่ 500,000 USD
ชนิด เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า อิเลก็ ทรอนิกส์ วสั ดุ
สานกั งาน ของเลน่ ผลิตภณั ฑท์ างการกีฬา ยาน เงินลงทุนไม่นอ้ ยกวา่ 1,000,000 USD
ยนต์ ชิ้นส่วน และอปุ กรณ์ผลิตภณั ฑจ์ ากเซรามิค เงินลงทุนไม่นอ้ ยกวา่ 4,000,000 USD
การผลิตอาหารและเคร่ืองด่ืม ผลิตภณั ฑเ์ พอื่
อตุ สาหกรรมสิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ (ท่ี
ไมไ่ ดท้ าจากไม)้ ผลิตภณั ฑจ์ ากกระดาษ
ผลิตภณั ฑจ์ ากยางและพลาสติก ผจู้ าหน่าย
น้าประปา ผลิตยา แผนโบราณ แช่แขง็ และแปร
รูปสัตวน์ ้าเพ่อื การส่งออก การแปรรูป ธญั พืช
และผลิตภณั ฑจ์ ากพืช
ผลิตภณั ฑส์ ารเคมี ซีเมนต์ ป๋ ุย และปิ โตรเคมี การ
ผลิตยาแผนปัจจุบนั
สถาบนั การศึกษาและฝึกอบรม ดา้ นการพฒั นา
ทกั ษะ เทคโนโลยี หรือ วชิ าชีพ
ศูนยจ์ ดั นิทรรศการ และศนู ยก์ ารประชุม ระดบั เงินลงทนุ ไม่นอ้ ยกวา่ 8,000,000 USD
นานาชาติ
การสร้างศนู ยก์ ารคา้ สมยั ใหม่ เงินลงทุนไมน่ อ้ ยกวา่ 2,000,000 USD มีขนาด
พ้นื ที่ไมน่ อ้ ยกวา่ 10,000 ตร.ม. มีท่ีจอดรถ
การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และการสร้างสถานที่ เพียงพอ
ทอ่ งเที่ยวเชิงธรรมชาติ เงินลงทุนไม่นอ้ ยกวา่ 1,000,000 USD ขนาด
ศูนยก์ ารทอ่ งเท่ียวครบวงจร (Tourist Complex) พ้ืนที่ไมน่ อ้ ยกวา่ 1,000 เฮกตาร์
หอ้ งพกั ไมต่ ่ากวา่ 100 หอ้ ง (โรงแรม) หรือ
รีสอร์ทที่ใหบ้ ริการแบบครบวงจร รวมท้งั บา้ นพกั ไม่ต่ากวา่ 30 หลงั ขนาดพ้นื ที่ไม่ต่ากวา่
โรงแรม สวนสนุก ศูนยก์ ีฬา หรือสวนสตั ว 10 เฮกตาร์
โรงแรม ขนาดพ้นื ที่ไมต่ ่ากวา่ 50 เฮกตาร
สถานรักษาพยาบาล
ต้งั แต่ 3 ดาวข้นึ ไป
การปลูกขา้ ว การปลูกพชื ทางการคา้ ทุกชนิด และ เงินลงทุนไม่นอ้ ยกวา่ 1,000,000 USD จานวนไม่
การปลูกผกั นอ้ ยกวา่ 50 เตียง มีอุปกรณ์ทนั สมยั หอ้ งทดลอง
การเล้ียงววั และการทาฟาร์มโคนม หอ้ งผา่ ตดั ห้องเอก็ ซเรย์ ห้องฉุกเฉิน หอ้ งยา
การทาฟาร์มสัตวป์ ี ก (เป็ด ไก่...) หอ้ งเก็บศพ รถพยาบาล และมีลิฟต์ (อาคารต้งั แต่
การเพาะเล้ียงสัตวน์ ้าจืดและน้าเคม็ 3 ช้นั ข้ึนไป)
การทาสวนยางพาราและปลูกตน้ ไม้ ขนาดพ้นื ท่ีไมต่ ่ากวา่ 1,000 เฮกตาร์ 500 เฮกตาร์
และ 50 เฮกตาร
การเล้ียงสตั วป์ ่ า นก และสตั วเ์ ล้ือยคลาน จานวนไม่ต่ากวา่ 1,000 ตวั และ 100 ตวั
จานวนไม่ต่ากวา่ 10,000 ตวั
ขนาดพ้นื ที่ไม่ต่ากวา่ 5 เฮกตาร์ และ 10 เฮกตาร์
ขนาดพ้ืนท่ีไม่ต่ากวา่ 1,000 เฮกตาร์ และ 200
เฮกตาร
จานวนไม่ต่ากวา่ 100 ตวั 500 ตวั และ 1,000 ต
บรรณานุกรม
http://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศกมั พชู า,http://aec.ubru.ac.th/index.php/aec-group/mcamlodia
https://www.ditp.go.th/contents_attach/221327/221327.pdf
https://www.scbeic.com/th/detail/file/product/6297/fg8u7fe5ui/CLMV_Q3_2019_TH_external.pdf