ผกั บงุ้ จีน
ชื่อสามัญ : Water Convolvulus, Kang-Kong
ตระกลู : Convolvulaceae
ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Ipomoea reptansL.
ถน่ิ กาเนดิ : แอฟรกิ า และเอเชีย จนถึงออสเตรเลยี
ผกั บุ้งจนี จัดเปน็ พืชผักทน่ี ยิ มปลูก และรบั ประทาน เน่ืองจาก
เตบิ โตเรว็ มีระยะปลูกไม่ถึงเดือน นยิ มใชร้ บั ประทานสด และ
เปน็ ผักสาคญั ท่ีใชใ้ สก่ ๋วยเต๋ียว มีความกรอบ ไม่มีกล่นิ เหมน็ เขยี ว
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์
ราก
รากผกั บงุ้ จีนมรี ะบบรากแกว้ และรากแขนง มรี ากแขนงแตกออกจากรากแกว้ และมีรากฝอยแตกออกบรเิ วณ
ข้อของโคนลาต้น หรือ ข้อทส่ี ัมผัสดนิ หรือนา
ลาต้น
ลาต้นผักบงุ้ จีนเปน็ ไม้ล้มลกุ กึ่งเลือย โดยในชว่ งแรกลาตน้ จะตงั ตรง และตอ่ มาเมื่อลาต้นยาวมาก ลาตน้ จะ
ค่อยๆโน้ม แลว้ เลอื ยไปตามพืนดนิ ลาต้นมีลกั ษณะมีข้อปล้องท่มี ีตาใบ และตาดอกแตกออกมา ลาตน้ มีสีเขียว
ไม่แตกกง่ิ ก้าน จะแตกยอดหรือก้านใหมห่ ลายก้านเมอ่ื ยอดหรอื ลาต้นถูกทาลาย ดา้ นในลาต้นกลวงเปน็ รู มจี ุด
กนั รบู รเิ วณสว่ นข้อ
ใบ
ใบเปน็ ใบเด่ยี ว ใบเปน็ รปู หอก เรยี วยาว โคนใบกว้างเปน็ รูปหวั ใจ ปลายใบแหลม แผ่นใบ และขอบใบเรียบ
กา้ นใบยาว 4-8 เซนติเมตร แผ่นใบยาวประมาณ 6-15 เซนตเิ มตร
ดอก
ดอกผกั บงุ้ จีนออกเป็นช่อ เป็นดอกสมบูรณ์ แต่ละช่อประกอบดว้ ยดอกตรงกลาง 1 ดอก และเติบโตก่อน
สว่ นดา้ นข้างมอี ีก 2 ดอก แต่ละดอกมีกลบี เลยี งสเี ขียว 5 อัน กลีบดอกเป็นรูปกรวย ดา้ นนอกสีขาว ดา้ นใน
สมี ่วง ภายในมเี กสรตวั ผู้ 5 อัน เกสรตัวเมีย 1 อนั ซงึ่ ดอกจะออกในฤดทู ่ีมชี ว่ งวันสัน (วันละ 10-12ชั่วโมง)
ดอกจะมีการผสมเกสรดว้ ยตวั เอง ซึ่งมีทงั ผสมกนั ในดอกเดยี ว และผสมขา้ มดอกจากกระแสลม และแมลง
ดอกจะบานในเวลาเชา้ และผสมเกสรในชว่ งสาย 10.00-15.00 น. ใชเ้ วลาการผสมนาน 3-4 วัน หลงั จากการ
ผสมจนถึงเมลด็ แก่ใชเ้ วลา 40-50 วัน
ผล และเมลด็
ผลเปน็ ผลเดี่ยว มีลกั ษณะกลม ขนาดประมาณ 1.42 เซนติเมตร มีขนาดใหญ่สุดในระยะ 30 วันแรก หลงั การ
ผสม และจะค่อย ๆ หดเลก็ ลง ผลมีสนี าตาลหรอื นาตาลเข้ม ผวิ มีลักษณะขรขุ ระ
เม่อื ผลแก่แห้งจะไม่มีรอยปรแิ ตก แตล่ ะผลมเี มลด็ 4 - 5 เมลด็
เมล็ดมลี ักษณะรูปสามเหล่ียม ฐานมน เปลือกเมล็ดมีสนี าตาลอมดา ขนาดเมลด็
กวา้ งประมาณ 0.4 เซนตเิ มตร ยาวประมาณ 0.5 เซนตเิ มตร
กศน.ตำบลบอ่ สวก ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอเมืองนำ่ น หน้ำ 1
ประโยชนผ์ กั บุ้งจนี
ผักบงุ้ จีนมกี ารปลูกเพ่ือการค้า และใชส้ าหรบั การรับประทานเปน็ หลัก
– ผกั บุ้งสด ใชร้ ับประทานสดเป็นผกั จมิ นาพริก รับประทานคู่กับอาหารอื่น เช่น สม้ ตา
– ปรุงในอาหารจาพวกผดั เช่น ผัดผักบ้งุ ไฟแดง ผัดพริกขิงหมู
– ปรุงในอาหารจาพวกแกง เช่น แกงสม้ แกงเทโพ
– ลวก นามาลวกเป็นผกั จิมนาพรกิ ลวกใส่กว๋ ยเตีย๋ ว เย็นตาโฟ
วธิ ีปลกู ผกั บงุ้ จีน
– กอ่ นปลกู ใหน้ าเมลด็ ไปแช่นานาน 8 – 12 ชวั่ โมง เพอ่ื ใหเ้ มล็ดดดู นา และชว่ ยให้เมลด็ งอกเรว็ ขึน
– หลังการแช่นา 5 - 10 นาที ให้คัดเมลด็ ทีล่ อยนาออก เพราะเป็นเมล็ดที่ไมส่ มบูรณ์
– การปลกู ด้วยการหว่าน ให้หวา่ นเมล็ดในอตั รา 12 - 15 กิโลกรมั แหง้ /ไร่
– หากปลกู ดว้ ยการหยอดเมล็ด ให้ใช้ไม้กดลากดินให้เป็นร่องลึก 2-3 เซนติเมตร ระยะห่างแถว
20-25 เซนติเมตร และโรยเมลด็ ตามแนวยาว แล้วเกลี่ยดนิ กลบ
– หลงั การหวา่ นเมล็ด ให้คลุมดว้ ยฟางขา้ วทวั่ แปลง และรดนาใหช้ มุ่
กศน.ตำบลบอ่ สวก ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอเมืองน่ำน หน้ำ 2