The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by กศน. ตําบลบ่อสวก, 2020-08-01 03:23:03

ปีบ

ปีบ

ปบี

ช่ือวิทยำศำสตร์ Millingtonia hortensis L.f.
จดั อยใู่ นวงศแ์ คหางค่าง (BIGNONIACEAE)

ตน้ ปีบ มชี อื่ ท้องถิน่ อื่น ๆ เช่น เต็กตองโพ่
(กะเหรี่ยง-กาญจนบรุ )ี , กำซะลอง กำสะลอง
กาดสะลอง กาสะลองคา (ภาคเหนอื )
ปบี ,ก้องกลางดง (ภาคกลาง)
กางของ (ภาคอีสาน) เปน็ ต้น

ลักษณะของปบี

ต้นปบี เปน็ ไมย้ นื ตน้ ขนาดเล็กถงึ ขนาดกลาง ลาตน้ ตรง มีความสงู ประมาณ 5-10 เมตร เปลือกต้นเปน็ สีเทา
เขม้ แตกเป็นรอ่ งลกึ มชี ่องอากาศ รากเกิดเปน็ หน่อ เจรญิ เป็นต้นใหมไ่ ด้ ขยายพันธุด์ ว้ ยวิธีการนาเมลด็ มาเพาะ
หรอื ใชต้ น้ อ่อนท่เี กดิ จากรากรอบ ๆ ของต้นแม่ นามาตดั เป็นทอ่ นสน้ั ๆ แลว้ นามาปกั ชาในกระบะกรวยท่ผี สม
ดว้ ยขเ้ี ถา้ แกลบก็ได้ ปีบเป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองของพม่าและไทยที่ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ท่วั ไปตามป่าเบญจพรรณ
และปา่ ดิบแล้งทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก และทางภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ

ใบปบี ลักษณะของใบเป็นใบประกอบแบบขนนก 3 ช้ัน มคี วาม
กว้างประมาณ 13-20 เซนติเมตรและยาวประมาณ 16-26
เซนติเมตร ก้านใบยาว 3.5-6 เซนตเิ มตร ทต่ี วั ใบจะประกอบไป
ดว้ ยแกนกลางยาวประมาณ 13-19 เซนติเมตร มีใบยอ่ ย 4-6 คู่
กวา้ งประมาณ 2.5-3 เซนตเิ มตรและยาวประมาณ 4-5
เซนติเมตร ลกั ษณะใบมีรปู รา่ งคล้ายรูปหอกแกมรูปไข่ ปลายใบ
เรยี วแหลม ฐานใบเป็นรูปลิม่ ขอบใบหยักเปน็ ซี่หยาบ ๆ เนื้อใบ
เกล้ยี งบางคลา้ ยกบั กระดาษ

ดอกปบี ลกั ษณะดอกเป็นช่อกระจกุ แยกแขนง มีความยาวประมาณ หนำ้ 1
10-25 เซนตเิ มตร ดอกย่อยจะประกอบไปด้วยกลบี เล้ียงสีเขียว ดอก
มีกล่ินหอม มคี วามกว้างประมาณ 0.5 เซนตเิ มตรและยาวประมาณ
6-10 เซนติเมตร เชื่อมกนั เปน็ หลอดปากแตร แยกออกเปน็ 5 แฉก 3

กศน.ตำบลบอ่ สวก ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอเมืองน่ำน

แฉกรูปขอบขนาน 2 แฉกลา่ งค่อนข้างแหลม มเี กสรตวั ผ้จู านวน 4 กา้ น สองคจู่ ะยาวไม่เท่ากัน และมีเกสรตวั เมยี
จานวน 1 ก้าน อยู่เหนือวงกลีบ โดยดอกปบี จะออกดอกในชว่ งเดอื นพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม

ผลปบี ลักษณะเป็นผลแหง้ แตก ผลแบนยาว ขอบขนาน มีเน้ือและเมลด็ จานวนมาก เป็นแผ่นบางมปี กี

สรรพคุณของปีบ

1. ดอกมีสรรพคุณเป็นยาบารุงกาลงั (ดอก)
2. ช่วยบารงุ โลหิต (ดอก)
3. รากชว่ ยบารุงปอด (ราก)
4. ชว่ ยรกั ษาวณั โรค (ราก)
5. ใชเ้ ปน็ ยารกั ษาไซนัสอักเสบ (ดอก)
6. ชว่ ยรกั ษาริดสดี วงจมูก ด้วยการใชด้ อกทต่ี ากแหง้ แล้วนามามวนเป็นบุหร่ีสบู เพอื่ รักษาอาการ (ดอก)
7. ช่วยรกั ษาอาการหอบหืด หอบเหนือ่ ย ทาให้ระบบการหายใจดยี ่งิ ขนึ้ ด้วยการใชด้ อกปบี แห้งประมาณ 6-7

ดอก แล้วมวนเป็นบุหรีส่ บู เพ่ือรกั ษาอาการหอบหืดได้ (ราก, ดอก)
8. ชว่ ยรกั ษาปอดพกิ าร (ราก)
9. ใชเ้ ป็นยาแก้ลม (ดอก)
10. ใบใชม้ วนเป็นบุหรสี่ บู แทนฝิน่ เพือ่ ช่วยขยายหลอดลมและรักษาอาการหอบหดื ได้เช่นกนั (ใบ)

ประโยชนข์ องปีบ

1. ดอกนามาตากแห้งแล้วผสมกับยาสูบมวนบหุ ร่ี ใช้สบู ทาให้ชุม่ คอ ทาใหป้ ากหอม และยงั มกี ล่ินควนั บุหรี่
ท่หี อมดีอีกดว้ ย

2. ดอกชว่ ยเพ่ิมการหลั่งน้าดี (cholagogue) และเพ่ิมรสชาติ (ดอก)
3. ดอกปีบนามาตากแห้ง นามาชงใสน่ ้าร้อนดม่ื เปน็ ชาก็ได้ โดยดอกปบี ชงน้ีจะมีกลิน่ หอมละมุนออ่ น ๆ

มรี สชาติหวานแบบน่มุ นวล ไม่ขม แถมยังดีต่อสขุ ภาพอีกด้วย
4. สารสกัดจากใบท่สี กัดด้วยเอทานอลมฤี ทธิ์ในการยบั ยง้ั การเจรญิ เติบโตของคะนา้ (ใบ)
5. เนือ้ ไมข้ องต้นปีบมสี ีขาวอ่อน สามารถเลื่อยหรือไสกบเพ่ือตกแตง่ ให้ข้นึ เงาได้ง่าย จึงเหมาะแก่การนามาใช้

ทาเป็นเครื่องเรือน เครื่องตกแตง่ ภายในบ้านได้
6. เปลอื กของต้นปีบ เมอ่ื ก่อนสามารถนามาใชแ้ ทนไมก้ ๊อกสาหรบั ทกุ จุกขวดได้
7. ปีบเป็นไม้พุ่มมีใบและดอกสวย แถมยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย จึงสามารถปลูกไว้ประดับสวน ปลูกเพื่อให้ร่มเงา

ในลานจอดรถหรือรมิ ถนนขา้ งทาง และทีส่ าคัญต้นไม้ชนดิ นี้ยังทนนา้ ทว่ มขังได้ดีอีกด้วย
8. ดอกปีบ เป็นสัญลักษณ์ของพยาบาลไทย โดยความหมายของตน้ ไม้ชนิดน้ี คอื เป็นต้นไม้ทใี่ ห้ความรม่ ร่นื แก่

ชีวิต ซึ่งหมายถงึ "พยาบาล" และดอกปบี ยงั หมายถึงยาอายวุ ัฒนะ ซง่ึ เปรยี บเสมือนพยาบาลท่ีใหก้ ารดแู ล

กศน.ตำบลบ่อสวก ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอเมืองนำ่ น หน้ำ 2

รกั ษาและสง่ เสริมสุขภาพแก่คนทว่ั ไป ตน้ ปีบเป็นตน้ ไมท้ ี่โตเรว็ เกิดข้นึ ไดใ้ นป่าทุกชนดิ สามารถช่วยสรา้ ง
เสรมิ ธรรมชาติที่ชบุ และดารงชวี ิตให้แก่มวลมนษุ ยต์ ลอดกาล เชน่ เดียวกบั พยาบาล ท่จี ะเป็นการบรกิ าร
สขุ ภาพท่ีมีความจาเป็นต่อสงั คมตลอดไป (ดอกปีบยังเปน็ ดอกไม้ประจาจงั หวัดปราจีนบุรีและมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลล้านนาอีกดว้ ย)
9. การปลูกตน้ ปบี เพือ่ ความเปน็ สิริมงคลแก่ผู้อยอู่ าศยั ภายในบา้ น เชอ่ื ว่าการปลูกไว้ประจาบา้ นจะทาให้เกบ็
เงนิ เกบ็ ทองไดม้ ากขน้ึ และยงั ทาใหม้ ีชอ่ื เสยี งโดง่ ดังอีกดว้ ย โดยควรปลกู ต้นปีบไว้ในทางทิศตะวันตกและผู้
ปลูกควรปลกู ในเสาร์เพ่ือเอาเคลด็ แต่ถา้ จะใหเ้ ปน็ มงคลมากย่งิ ข้นึ ผปู้ ลกู ควรเป็นผูท้ ีเ่ กิดในวนั จนั ทร์
(ส่วนผอู้ ย่อู าศัยหากเกิดวนั จันทรด์ ว้ ยแล้วจะยิ่งเปน็ สิรมิ งคลยิง่ นัก) เพราะปีบเปน็ ดอกไม้ประจาของนางโค
ราคะเทวี ซึ่งเปน็ นางประจาวนั จันทร์ในธิดาของพระอินทร์นน่ั เอง

กศน.ตำบลบ่อสวก ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอเมืองนำ่ น หนำ้ 3


Click to View FlipBook Version