The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ระบบต่อมไร้ท่อ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phongpisut141, 2022-09-10 18:41:06

ระบบต่อมไร้ท่อ

ระบบต่อมไร้ท่อ

ระบบตอ่ มไร้ท่อ

ตอ่ มไร้ท่อ
.............. สงิ่ มชี วี ิตจะสามารถดารงชวี ิตอยู่ไดอ้ ยา่ งปกติ จาเปน็ ต้องมีการทางานที่สอดคลอ้ งกนั อยา่ งเหมาะสม
ของระบบต่างๆ การ ควบคุมดังกล่าวจดั แบง่ ได้
2 ระบบ คอื ระบบประสาท (nervous system) และระบบ ตอ่ มไรท้ ่อ (endocrine system) การทางาน ประสานงาน
อย่างใกล้ชดิ ของระบบท้ังสอง เรยี กว่า ระบบ ประสานงาน (coordination)

การ ทางานของระบบกล้ามเนอื้ การรบั รู้ การตอบสนองสิ่งเร้าตา่ งๆ เป็นหน้าที่ ของระบบประสาท สว่ นการ
ควบคมุ ลักษณะ ท่ีเปลีย่ นแปลงของร่างกายแบบ ค่อยเป็น ค่อยไป ของวยั หนุม่ สาวที่ เกิดข้นึ อยา่ งต่อเน่ือง การ
ควบคุมปริมาณสารบางอย่างในร่างกายเปน็ หนา้ ทขี่ องระบบต่อมไรท้ ่อ ทส่ี ร้าง สารเคมี ที่เรียกว่า ฮอร์โมน ไป
ควบคมุ การทางานของอวัยวะเปา้ หมาย (target organ)

การจาแนกตอ่ มไรท้ อ่ ตามความสาคัญตอ่ ชีวิต
1. Essential endocrine gland เปน็ ต่อมไร้ท่อทีจ่ าเป็นมาก ถ้าขาดแล้วทาใหต้ ายได้ ได้แก่ตอ่ มดังตอ่ ไปนี้

1.1) ต่อมพาราไทรอยด์ ( parathyroid )
1.2) ต่อมหมวกไตชนั้ นอก ( adrenal cortex )
1.3) ตอ่ มไอสเ์ ลตของตับอ่อน ( islets of Langerhans ) (pancreas)
2. Non - Essential endocrine gland เปน็ ตอ่ มทไี่ มจ่ าเป็นหรือจาเป็นนอ้ ยมากต่อร่างกาย ได้แก่ต่อมดงั ต่อไปน้ี
2.1) ต่อมใต้สมอง ( pituitary )
2.2) ตอ่ มไทรรอยด์ ( thyroid )
2.3) ต่อมหมวกไตช้นั ใน ( adrenal medulla )
2.4) ตอ่ มไพเนยี ล ( pineal )
2.5) ตอ่ มไทมสั ( thymus )
2.6) ต่อมเพศ ( gonads )
3 ประเภทของสารในฮอร์โมน
ในฮอร์โมนมสี ารอยหู่ ลายประเภท แตส่ ว่ นใหญ่จะเป็นสารประเภทดังต่อไปนี้
1) สารประเภทโปรตีนและพอลเิ พปไทด์ ( polyppeptide )
2) สารประเภทสเตรอยด์ ( steroids )
3) สารประเภทอนุพันธ์ของกรดอะมิโน
4) สารประเภทอนุพันธข์ องกรดไขมนั

ฮอรโ์ มนจากต่อมไร้ทอ่ และอวยั วะที่สาคัญ
ระบบ ตอ่ มไรท้ ่อ เป็นระบบทีส่ าคัญระบบหนงึ่ ของรา่ งกาย ทาหนา้ ทค่ี วบคมุ อวยั วะภายใน ร่างกายใหท้ างาน
ประสานกัน โดยอาศัยสารเคมที ่ีเรียกว่า ฮอร์โมน ซ่งึ ฮอรโ์ มนจะถูกขนส่งไปสู่ อวัยวะทัว่ ร่างกาย แตจ่ ะออกฤทธิ์
หรือมีผลตอ่ อวัยวะและเซลล์บางตวั เทา่ นั้น ซง่ึ ตอ่ มไรท้ ่อใน มนษุ ย์มที ั้งหมด 9 ต่อม ดังน้ี
ไฮโปธาลามสั (Hypothalamus) มีการทางานประสานกันระหว่างระบบประสาท somatic ระบบประสาท
อตั โนมัติและระบบต่อมไรท้ ่อ โดยมศี ูนย์ควบคมุ ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ศูนยค์ วบคมุ การทางานของระบบประสาท
อตั โนมตั ิ ศูนยค์ วบคมุ อุณหภูมิ ศูนย์ควบคุมสมดุลนา้ ศูนย์ควบคมุ การกนิ พฤตกิ รรมและการแสดงออก ระดับ
ความรสู้ ึกตวั และสร้างฮอร์โมน 2 ชนิด

ศูนยป์ ระสานงานในไฮโปธาลามัสควบคุมการทางานของระบบประสาทและต่อมไร้ท่อ โดยมกี ลไกที่
ต่างกนั 3 ประการ คือ
1.ทาหนา้ ที่เป็นต่อมไรท้ อ่ หลัง่ ฮอร์โมน 2 ชนิด คือ

1.1Antidiuretic hormone(ADH) ผลติ โดย Supraoptic nucleus ควบคุมจานวนนา้ โยการดูดกลับทที่ อ่
ไต กระตุ้นการหดตวั ของกลา้ มเน้อื เรยี บในผนงั หลอดเลือดทาใหห้ ลอดเลอื ดหดตวั

1.2Oxytocin ผลติ โดย Paraventricular nucleus กระตุ้นการบีบตวั ของมดลูกและต่อมนา้ นม ในเพศชายจะ
ช่วยในการหลง่ั อสจุ ิและชว่ ยในการเคลื่อนที่ของ sperm
2. เปน็ ศนู ย์ควบคมุ การหลั่งฮอร์โมนของต่อมหมวกไตสว่ นใน
3. สร้างและหลั่งฮอร์โมนท่ไี ปควบคมุ การหลง่ั ฮอร์โมนของต่อมใตส้ มองส่วนหน้า มี 2 ชนิด คือ

3.1 Releasing hormone (RH) กระตนุ้ การสร้างฮอร์โมน
3.2 Inhibiting hormone (IH) ยับยงั้ การสร้างและหลงั่ ฮฮร์โมน
1.ต่อมใตส้ มอง(Pituitary gland) ผลติ ฮอร์โมนที่สาคัญเช่น

1)GH(GrowthHormone)เปน็ ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโตของรา่ งกายโดยเฉพาะกระดกู และกลา้ มเน้ือ
2)TSH(ThyroidStimulatingHormone)เป็นฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ใหส้ รา้ งไทร็อกซนิ เพิม่ ขึน้
3)GonadotrophicHormoneเปน็ ฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างเซลลส์ ืบพนั ธุ์

4)AntidiureticHormoneเป็นฮอรโ์ มนชว่ ยในการดูดน้ากลับของท่อไตเพอื่ รักษาระดับน้าของรา่ งกาย
5)Melatoninเป็นฮอร์โมนกระตุน้ ให้เซลลเ์ ม็ดสสี ร้างเมด็ สีเพมิ่ มากขึ้น
6)ACTH( Adenocorticotropic hormone or Corticotropin) กระตนุ้ การเจริญเติบโต สังเคราะห์ฮอรโ์ มนจากต่อม
หมวกไต คือ ฮฮร์โมนคอร์ติซอล กระตนุ้ การกระจายตวั ของเมลานินใต้ผวิ หนงั กระตนุ้ การสลายตัวของ
ไขมัน กระต้นุ การสง่ ผ่านกรดอะมิโนและกลโู คสที่กลา้ มเนอ้ื
7) FSH (Follicle stimulating hormone) กระตุ้นและควบคุมการเจริญเติบโตและสรา้ งฮอร์โมนเพศหญิงของรัง

ไข่ การตกไข่ (Ovalation) การสรา้ งเชื้ออสุจใิ นเพศชาย
ผลติ ฮอร์โมนท่สี าคัญ ๆ คือ

Hormone ควบคุมเกย่ี วกบั การเจริญเติบโตของร่างกายโดยเฉพาะกระดกู และกล้ามเนอ้ื
Hormone กระตุ้นต่อมธัยรอยดใ์ ห้สรา้ ง Thyroxin เพม่ิ ขนึ้
Hormone กระตนุ้ การสรา้ งเซลสืบพันธ์
Hormone กระตุ้นการตกไขแ่ ละสร้างฮอร์โมนเพศหญงิ และชาย
Hormone กระตนุ้ ต่อมหมวกไต ส่วนเปลอื กให้สรา้ งฮอร์โมนเพ่มิ มากขนึ้
Hormone กระตนุ้ การขยายเต้านมสาหรับหญิงทม่ี คี รรภ์
Hormone ชว่ ยในการดูดน้ากลบั จากท่อของหนว่ ยไตเพื่อรักษาระดับนา้ ในรา่ งกาย ถา้ มี Hormone น้อย
จะทาให้เกดิ อาการท่เี รียกวา่ เบาจืด คือ ปสั สาวะมากและจาง
Hormone ที่ช่วยทาให้มดลูกหดตวั ในการคลอดกระตนุ้ การหลัง่ น้านมและชว่ ยในการหลง่ั น้า กามและเรง่
การเคลื่อนของตัวอสุจใิ นเพศชายเพื่อการผสมพนั ธ์
Hormone กระตนุ้ ให้เซลเม็ดสสี ร้างเม็ดสเี พิม่ ขนึ้

2.ต่อมไพเนยี ลหรือตอ่ มเหนือสมอง (pineal gland) เปน็ ต่อมเลก็ มีขนาดประมาณ 4-8มิลลิเมตร อยกู่ ่ึงกลาง
ระหว่างเซรีบลมั ซีกซา้ ยและซกี ขวา หนา้ ที่ของต่อมไพเนียลยังไม่ทราบแน่ชดั แต่จากการศึกษาพบว่า ตอ่ มไพนยี ล
ผลติ และหลงั่ ฮอร์โมนเมลาโทนิน (melatonin) ซงึ่ เชือ่ วา่ ทาหนา้ ทีค่ วบคุมการหลบั อารมณ์ การเขา้ สวู่ ัยหนุ่มสาว
และการสบื พันธ์ุ เมลาโทนนิ เป็นฮอร์โมนที่เป็นสารจาพวกเอมนี การหล่งั ฮอร์โมนเมลาโทนนิ จากตอ่ มไพเนยี ล
เกี่ยวข้องกบั แสง และความสั้น-ยาวของช่วงกลางวนั -กลางคืน กล่าวคอื ในเวลากลางวนั เมื่อเรตินา่ ในลูกนยั นต์ า
รับแสงก็จะสง่ กระแสประสาทไปยั่วเซลล์ประสาทซิมพาเธติก และจะส่งตอ่ ไปยงั ตอ่ มไพเนียลเพอื่ ยับยั้งการหล่ัง
ฮอรโ์ มนเมลาโทนนิ และในเวลากลางคืนท่ีไมไ่ ดร้ ับแสง ตอ่ มไพเนยี ลจะหลัง่ ออกมามากข้ึน ดงั นัน้ ต่อมไพเนียล
จะหล่งั ฮอร์โมนเมลาโทนินเวลากลางคนื มากกวา่ กลางวัน เมลาโทนินจะกระตนุ้ การนอนหลับในเวลากลางคืน
และยับย้งั การหล่ังโกนาโดโทรฟนิ รีลสิ ซิงฮอร์โมนจากไฮโพทาลามสั จากการศกึ ษาพบว่าเด็กก่อนวยั รุน่ จะมี
ปริมาณเมลาโทนินสูงมากในเลอื ด ดังนั้นจงึ เชื่อว่าเมลาโทนินทาหนา้ ท่คี วบคมุ การเข้าวัยหนุ่มสาว นอกจากนี้ยัง
เชอื่ ว่าเก่ยี วข้องกับพฤติกรรมทางเพศของสัตว์ด้วย เช่น ฤดูหนาวกลางวันสน้ั ทาใหม้ ีเมลาโทนินหล่ังมาก โดยเมลา
โทนนิ ยบั ย้งั การหลงั่ ฮอร์โมนเพศ ทาให้สตั ว์ไม่ผสมพนั ธ์ุหน้าหนาว ต่อม ไพเนียลของสัตวม์ กี ระดูกสันหลงั บาง
ชนิด เช่น สัตว์ครง่ึ บกครง่ึ นา้ บางชนิด เชน่ ทัวทารา ทพ่ี บบนเกาะทางใตข้ องนิวซแี ลนด์ ไม่ไดท้ าหนา้ ที่สรา้ ง
ฮอรโ์ มน แต่จะเป็นตาท่สี าม โดยทาหน้ารับแสง และภาพเช่นเดยี วกบั เรตินา

3. ตอ่ มไทรอยด์( Thyroid gland) ผลิตฮอร์โมนทสี่ าคัญ คือ ธยั ร็อกซนิ (Thyroxin) โดยอาศยั ไอโอดีนเป็นวตั ถุดิบ
( รา่ งกายตอ้ งการไอโอดนี ประมาณสปั ดาห์ละ 1 มิลลิกรัม ) ธัยร็อกซินมีหน้าทส่ี าคัญหลายอย่าง คอื ชว่ ยในการ
เจริญเตบิ โตของกระดกู สมองและระบบประสาท ในเดก็ ทกี่ าลงั เจรญิ เติบโตถา้ ขาดจะทาใหส้ มองเสื่อม ในผใู้ หญ่
ถ้าขาดจะทาให้การรับร้แู ละสงั่ งานของระบบประสาทชา้ ลง ชว่ ยในการเปลยี่ นแปลงรูปร่างเพอ่ื เป็นผู้ใหญ่
ควบคมุ อัตราเมตาบอลิสึม (BMR) ในรา่ งกายความผดิ ปกติอันเนอ่ื งมาจากธัยร็อกซนิ แบ่งออกได้เป็น 2 ชนดิ คอื

1) มีธยั ร็อกซินน้อยไป (Hypothyroxin)
1.1) ในทารก ทาให้เกิดร่างกายแคระแกรน เจริญเตบิ โตช้า กลา้ มเนอ้ื ไม่มแี รง ล้นิ ใหญ่และอาจห้อยออกมา
นอกปาก ปญั ญาเส่ือม

1.2) ในผใู้ หญ่ ทาให้เกิดอาการบวมใสใต้ผิวหนงั แลดูคล้ายเทยี นไขกลา้ มเนือ้ ไม่มแี รง ผิวหนงั แหง้ ซีด โลหิต
จาง สติปญั ญาเช่ืองช้าลง

1.3) เกดิ โรคคอพอกชนิดธรรมดา
2) มีธัยรอ็ กซนิ มากเกนิ ไป (Hyperthyroxin)
2.1) ร่างกายผอม น้าหนักลด กนิ จุ อ่อนแอ ตอบสนองตอ่ สิง่ เร้ามากและไวขึน้
2.2) เกดิ โรคคอพอกชนิดเป็นพิษ

4. ตอ่ มพาราไทรอยด์ (Parathyroid Glands) เป็นตอ่ มไร้ท่อประเภทท่ีจาเป็นต่อชวี ติ (Essentail endocrine gland)
ขนาดเล็กเทา่ เมลด็ ถั่วเขยี ว ฝงั อย่ดู า้ นหลังของตอ่ มไทรอยด์ด้านละ 2 ตอ่ ม รวมเป็น 4 ตอ่ ม ทาหน้าทีผ่ ลิต และหล่ัง
ฮอรโ์ มน "พาราทอร์โมน" (Parathormone) ซึ่งเป็นสารพอลเิ พปไทด์ ประกอบดว้ ยกรดอะมิโน 84 โมเลกลุ ทา
หนา้ ทร่ี ่วมกับแคลซิโทนิน และวติ ามินดี

ตอ่ มพาราไทรอยด์ มีหนา้ ท่ีผลิตพาราทอรโ์ มน (PTH) หรอื พาราไทรอยด์ฮอร์โมน ซ่งึ ช่วยรักษาสมดุล
ของแคลเซียม และฟอสฟอรัส ในเลือด และเน้ือเยอื่ ให้ปกติ โดยทางานร่วมกับวิตามินซี วติ ามินดี และแคลซิ
โทนนิ ซ่งึ ผลติ จากต่อมไทรอยด์ โดยหนา้ ทีส่ าคัญประกอบไปดว้ ย

กระตนุ้ การสร้างเซลล์ osteoclasts ที่ทาหนา้ ท่สี ลายกระดูก โดยวิตามินดีจะรวมกบั พาราทอร์โมน ช่วย
สลายแคลเซียมออกจากกระดูก เพ่ือรกั ษาระดับปกตขิ องแคลเซียมในเลือด

เพิ่มการดดู แคลเซยี มกลับจากทอ่ หน่วยไตเขา้ สู่เลือด ทาให้การขบั ถ่ายแคลเซยี มไปกับปัสสาวะลดลง
และมรี ะดับแคลเซยี มในเลือดเพิ่มขึ้น

กระตุ้นใหม้ ีการสังเคราะห์วติ ามนิ ดีเพิม่ ขึ้น เพื่อทาให้มกี ารดูดซึมแคลเซียมทีล่ าไสเ้ ลก็ เพิม่ ขนึ้
กระตุ้นการขับฟอสเฟตออกไปกบั ปสั สาวะ
การรักษาสมดลุ ของแคลเซียมในเลือด
การทางานของต่อมไทรอยด์ และพาราไทรอยด์จะทางานรว่ มกนั เพ่อื ควบคมุ สมดุลของปริมาณแคลเซียม
ในเลอื ด โดย
ถา้ แคลเซียมในเลือดสูง จะกระต้นุ ให้ตอ่ มไทรอยด์หลงั่ ฮอรโ์ มนแคลซิโทนิน เพ่ือลดระดับแคลเซยี ม
ถ้าแคลเซยี มในเลือดต่า จะกระตนุ้ ให้ตอ่ มพาราไทรอยด์หล่งั พาราทอร์โมน เพอื่ เพิ่มระดบั แคลเซียม



5.ต่อมไทมัส (Thymus gland) มลี ักษณะเป็นพู 2 พู อยบู่ ริเวณทรวงอกรอบเสน้ เลือดใหญข่ องหัวใจ ต่อมไทมสั
จะเจริญเต็มทต่ี งั้ แตเ่ ป็นทารกอยู่ในครรภ์มารดาและมีขนาดใหญ่มากเม่ือยังมีอายุน้อย แต่เม่อื อายุมากข้นึ ขนาด
ของต่อมไทมสั จะเลก็ ลงและฝอ่ ไปในทีส่ ุดต่อมไทมสั ทาหนา้ ที่สร้างฮอร์โมน thymosin ซึง่ มหี น้าท่ใี นการกระตุ้น
ใหเ้ นอ้ื เย่อื ต่อมไทมสั เอง ซ่ึงเป็นอวัยวะน้าเหลืองสร้าง T – lymphocyte หรอื T – cell ซง่ึ เปน็ เซลล์ทสี่ าคญั ใน
ระบบภูมคิ มุ้ กนั ของร่างกาย โดยการทาลายเซลล์แปลกปลอมท่ีเกดิ ข้นึ และกระตุ้นการทางานของ B – cell ให้
สร้างแอนติบอดีข้ึนมาตอ่ ตา้ นสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคให้หมดฤทธไ์ิ ป

หนา้ ที่และบทบาท
ฮอรโ์ มนไทโมซินทาหนา้ ทส่ี รา้ ง T-lymphocyte เพอื่ สรา้ งภูมิคุ้มกันโรคที่เกยี่ วกบั เซลล์

6.ตบั ออ่ น(Pancreas) เป็นตอ่ มผสมคือมีทั้งสว่ นทเี่ ปน็ ต่อมไรท้ ่อและส่วนทีเ่ ปน็ ต่อมมที ่อ ส่วนทีเ่ ปน็ ตอ่ มไรท้ ่อ
ของตบั ออ่ นคือ Islets of Langerhans เกีย่ วกับฮอร์โมน 3 ชนิด คือ insulin, glucagons และ somatostatin

1.อนิ ซูลิน (insulin) สรา้ งจาก beta cell ของ islets ในตับอ่อน เปน็ ฮฮร์โมนท่ีทาให้ระดับน้าตาลใน
เลอื ดตา่ ลง ถา้ ขาดอนิ ซูลิน ระดับนา้ ตาลในเลอื ดจะสูงขึ้นและเหลอื ทงิ้ ในปัสสาวะรวมกับนา้ จากแรงดันออสโม
ซสิ เมอื่ เซลล์ตา่ งๆใชก้ ลูโคสไมได้ กข็ าดพลงั งาน ทาใหก้ ินจุ ด่ืมน้ามาก เป็นอาการของโรคเบาหวาน

2.กลคู ากอน (glucagon) สรา้ งจาก alpha cell ของ islets ในตบั อ่อน เปน็ ฮอร์โมนท่เี พมิ่ ระดบั น้าตาล
ในเลือด มผี ลตรงขา้ มกบั อินซูลนิ คอื เปน็ catabolic hormone กระตุน้ การทาลายสารอาหารท่เี ก็บไวใ้ ห้แป็นกลู
โคสและกรดไขมัน

3.โซมาโตสแตติน (somatostatin) สร้างจาก delta cell ซงึ่ อยูร่ อบๆ islets ในตับอ่อน เป็นฮฮร์โมนที่
ยบั ย้งั การหลงั่ อินซูลิน กลูคากอน GH และ TSH

7.ตอ่ มหมวกไต ( Adrenal glands ) เป็นก้อนสเี หลืองๆ อยู่เหนือไตข้างละ 1 ตอ่ ม ประกอบด้วยเน้ือเยือ่ 2 ชน้ั
ตอ่ มหมวกไตด้านนอกหรืออะดรนี ัลคอรเ์ ทกซ์ ( adrenal cortex ) ประกอบด้วยเนือ้ เยอ่ื ที่แตกตา่ ง 3 ชนิด
ตอ่ มหมวกไตด้านในหรืออะดรนี ลั เมดลั ลา ( adrenal medulla )
ซงึ่ ท้งั สองส่วนจะผลิตฮอร์โมนพวกสารสเตอรอยด์ที่ทาหนา้ ทีต่ า่ งกัน คอื ควบคมุ ของ ACTH จากตอ่ มใต้สมอง
ตอนหนา้ แบง่ ฮอร์โมนออกเปน็ 3 กลุ่ม ท่สี าคญั คอื

1. Glucocorticoid hormone ทา หนา้ ท่ีควบคมุ เมแทบอลซิ ึมของคาร์โบไฮเดรต โดยเปลี่ยนไกลโคเจนใน
ตับ และกล้ามเน้อื ใหเ้ ป็นกลูโคส ในวงการแพทย์ใชเ้ ป็นยาลดการอกั เสบและรกั ษาโรคภมู ิแพ้ ถ้ามีฮอรโ์ มนนม้ี าก
เกนิ ไป จะทาใหอ้ ว้ น อ่อนแอ หน้ากลมคลา้ ยดวงจนั ทร์ หนา้ ทอ้ งลาย นา้ ตาลในเลอื ดสงู

2. Mineralocorticoid hormone ทาหนา้ ท่ีควบคมุ สมดลุ ของนา้ และเกลอื แร่ฮอร์โมนสาคัญกลุม่ นี้ คือ
aldosterone ชว่ ยในการทางานของไตในการดูดกลับ Na และ Cl ภายในท่อไต ถ้าขาด aldosterone จะทาให้
รา่ งกาย สญู เสยี น้าและโวเดียมไปพร้อมกบั ปสั สาวะ สง่ ผลใหเ้ ลือดในรา่ งกายลดลง จนอาจทาให้ผู้ป่วยตาย เพราะ
ความ ดันเลือด ต่า

3. Sex hormone ฮอร์โมนเพศช่วยควบคมุ ลกั ษณะทางเพศที่สมบูรณท์ ้ังชายและหญิง
4. อะดรีนลั เมดลั ลา ( adrenal medulla ) เป็นเน้ือช้ันในของต่อมหมวกไต อย่ภู ายใต้การควบคมุ ของ

sympathetic ถกู กระตนุ้ ในขณะตกใจ เครยี ด กลัว โกรธ เนือ้ เยื่อช้ันน้ีจะทาหน้าทีส่ ร้างฮอร์โมน 2 ชนดิ คอื
4.1) Adrenalin hormone หรือ Epinephrine hormone กระตนุ้ ใหห้ วั ใจบีบตัวแรง เสน้ เลือดขยายตัว

เปลยี่ น glycogen ในตับใหเ้ ป็นกลูโคสในเลือด
4.2) Noradrenlin hormone หรอื Norepinephrine hormone กระตุ้นใหเ้ สน้ เลอื ดมการบีบตัว ผลอ่ืน

คล้ายๆ adrenalin แต่มีฤทธน์ิ ้อยกวา่

8. ตอ่ มเพศ ( Gonads )
ในชายได้แกอ่ ัณฑะและในหญิงได้แกร่ ังไข่ซึง่ มหี นา้ ที่สาคญั 2 อย่างคือ สรา้ งเซลสบื พันธ์และสรา้ งฮอร์โมน

ฮอร์โมนเพศชาย ทสี่ าคัญคือ เทสทอสเตอโรน (Testosterone) ซ่ึงจะทาหน้าท่ีหลายอย่างคอื
1) ควบคุมการเจริญเติบโตของอวยั วะสบื พนั ธ์
2) ทาให้อตั ราการเจริญเตบิ โตของกระดกู เพิม่ ขน้ึ
3) กระตุ้นการสรา้ งโปรตีนเพ่ิมข้ึนโดยเฉพาะเอน็ ไซม์
4) ควบคุมการหลง่ั ของฮอร์โมนเพศชาย
ถ้าตัดอัณฑะออกจะทาใหเ้ กดิ ผลดงั ตอ่ ไปนี้
1) ในเด็ก - ทาใหอ้ วัยวะสบื พันธไ์ มเ่ จรญิ ไม่มี Secondary sexual characteristic มีไขมนั สะสมมากข้นึ แขน
ขายาวผดิ ปกติ เป็นหมนั
2) ในผู้ใหญ่ - เป็นหมัน ไมม่ ีความรสู้ ึกทางเพศ มลี กั ษณะไปทางเพศหญิง

ฮอรโ์ มนเพศหญิง ทส่ี าคญั คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone)
ฮอร์โมนเอสโตรเจน จะเกย่ี วขอ้ งกบั การเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพนั ธแ์ ละลักษณะต่างๆของความเป็น เพศ
หญงิ สว่ นฮอรโ์ มนโปรเจสเตอโรน จะเกี่ยวข้องกบั การตั้งครรภ์คือ ระงบั ไม่ใหไ้ ขส่ ุกระหวา่ งต้งั ครรภ์ปอ้ งกัน
ไม่ให้มีประจาเดือนระหว่างตง้ั ครรภ์ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุมดลูกช้ันในเพอื่ รองรับการฝังตัวของไข่ ที่
ถูกผสม และกระตุน้ ตอ่ มน้านมให้เจรญิ เติบโต
ถ้าตัดรงั ไขอ่ อกจะทาใหเ้ กดิ ผลดงั ตอ่ ไปน้ี
1) ในเด็ก - อวยั วะสบื พันธไ์ ม่เจริญ ไมม่ ี Secondary sexual characteristic ไม่มเี ลอื ดประจาเดอื น มลี กั ษณะ
คล้ายชาย
2) ในผู้ใหญ่ - ประจาเดือนหยดุ ไมม่ คี วามรสู้ กึ ทางเพศ มีลกั ษณะคลา้ ยชาย

ฮอร์โมนจากรก หลังจากตง้ั ไข่ประมาณ 10 วนั เซลลข์ องรกจะเริม่ หล่งั ฮอร์โมน ชนดิ หนึ่งออกมา ซ่งึ จะพบใน
เลือดและในปสั สาวะของผู้หญงิ ทีม่ ีการตัง้ ครรภ์ ดังนั้นจงึ ใช้เปน็ ตวั ทดสอบการตั้งครรภ์ของผหู้ ญงิ ได้

การบารุงรักษาระบบตอ่ มไร้ทอ่
ความเจรญิ เติบโตและกจิ กรรมอื่น ๆ ภายในร่างกายของเรา อย่ภู ายใตก้ ารควบคมุ ของฮอร์โมนชนิดต่าง ๆ ทผี่ ลิต
จากตอ่ มไรท้ อ่ ซึ่งสง่ ผลโดยตรงตอ่ การดารงชีวิต ความเป็นปกติสขุ ของรา่ งกายและจิตใจมนุษย์ ดังนน้ั เพื่อใหก้ าร
ทางายของระบบต่อมไร้ท่อที่ทาหนา้ ทปี่ ระสานกนั กบั ระบบประสาทดาเนนิ ไปได้ตามปกติ เราจงึ ควรบารุง
รา่ งกายใหส้ มบูรณ์แขง็ แรง ดังนี้
1. เลอื กรบั ประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบท้ัง 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสมหลีกเล่ียงอาหารท่จี ะ
กอ่ ให้เกดิ โทษกบั ร่างกาย ลดอาหารทม่ี ีรสหวานจดั เพราะอาจเป็นสาเหตุทท่ี าให้เกิดโรคเบาหวานได้ รับประทาน
อาหารทะเลหรือเกลอื ทมี่ ธี าตุไอโอดนี เพอื่ ป้องกันโรคคอพอก

2. ดื่มน้าในปรมิ าณทเี่ พียงพอ ประมาณ 6-8 แก้วตอ่ วัน เพราะน้าชว่ ยในการผลิตฮอร์โมน
3. ออกกาลงั กายสม่าเสมอ เพราะการออกกาลงั ทาให้ระบบตอ่ มไรท้ อ่ และระบบประสาทอัตโนมตั ิ
ทางานได้อย่างสมดุล
4. ลดปรมิ าณเครื่องดม่ื ทีม่ ีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีผลต่อการทางานของระบบต่อมไร้ท่อบาง
ตอ่ มให้ด้วยประสทิ ธภิ าพลง เช่น ต่อมใต้สมอง ตอ่ มไทรอยด์ รวมทงั้ รงั ไข่และอัณฑะด้วย
5. หลีกเลีย่ งสภาพแวดล้อมทีส่ ่งผลตอ่ ระบบต่อมไร้ทอ่ เช่น แหลง่ โรงงานอุตสาหกรรมยาอตุ สาหกรรม
หลอมโลหะ โรงงานถลงุ แร่ เป็นต้น
6. พักผ่อนใหเ้ พียงพอ มีความคิดสรา้ งสรรค์ คิดในเชงิ บวกมาก ๆ จะสง่ ผลไปที่ต่อมใต้สมองทาให้หล่งั
ฮอร์โมนท่ีดมี ีผลทาให้สุขภาพและสุขภาพจติ ดี

ระบบตอ่ มไร้ทอ่


Click to View FlipBook Version