ความหมาย
เนบิวลา (องั กฤษ: Nebula - มาจากภาษาละติน nebula
(พหูพจน์ nebulae) (หมายถึง "หมอก“) เป็นกลุ่มเมฆหมอกของฝ่นุ แก๊ส และพลาสมาในอวกาศ เดิมคาวา่
"เนบิวลา" เป็นชื่อสามญั ใชเ้ รียกวตั ถุทางดาราศาสตร์ท่ีเป็นป้ื นบนทอ้ งฟ้าซ่ึงรวมถึงดาราจกั รท่ีอยหู่ ่างไกล
ออกไปจากทางชา้ งเผอื ก (ตวั อยา่ งเช่น ในอดีตเคยเรียกดาราจกั รแอนดรอเมดาวา่ เนบิวลาแอนดรอเมดา)
เนบวิ ลาเปล่งแสง
เนบิวลาเร่ืองแสง (องั กฤษ: Emission nebula) เนบิวลาเรืองแสงเป็นเนบิวลาท่ีมีแสงสวา่ งในตวั เอง เกิดจากการเรืองแสงของ
อะตอมของไฮโดรเจนท่ีอยใู่ นสถานะไอออน ในบริเวณ H II region เน่ืองจากไดร้ ับความร้อนจากดาวฤกษภ์ ายในเนบิวลา ซ่ึงโดยทว่ั ไป
แลว้ กค็ ือดาวฤกษเ์ กิดใหม่ที่เนบิวลาน้นั สร้างข้ึนนน่ั เอง การเรืองแสงน้นั เกิดข้ึนเนื่องจากอิเลก็ ตรอนอิสระกลบั เขา้ ไปจบั กบั ไอออนของ
ไฮโดรเจน และคายพลงั งานออกมาในช่วงคลื่นท่ีต่างๆ โดยค่าความยาวคลื่น เป็นไปตามสมการ E=hc/λ เมื่อ E เป็นพลงั งานท่ีอะตอมของ
ไฮโดรเจนคายออกมา h เป็นค่าคงตวั ของพลงั ค์ c เป็นความเร็วแสง และ λ เป็นความยาวคล่ืน
เน่ืองจากเนบิวลาเปล่งแสง จะเปล่งแสงในช่วงคลื่นที่เฉพาะตวั ตามธาตุองคป์ ระกอบของเนบิวลา ทาใหม้ ีสีต่างๆกนั และการ
วเิ คราะห์สเปกตรัมของเนบิวลาชนิดน้ี จะพบวา่ สเปกตรัมเป็นชนิดเสน้ เปล่งแสง (Emission Lines) และสามารถวเิ คราะห์ธาตุ
องคป์ ระกอบ หรือโมเลกลุ ที่เป็นส่วนประกอบของเนบิวลาไดอ้ ีกดว้ ย เนบิวลาชนิดน้ี ส่วนใหญจ่ ะมีสีแดงจากไฮโดรเจน และสีเขียวจาก
ออกซิเจน บางคร้ังอาจมีสีอ่ืนซ่ึงเกิดจากอะตอม หรือโมเลกลุ อ่ืนๆ กเ็ ป็นได้ ตวั อยา่ งเนบิวลาเปล่งแสงไดแ้ ก่ เนบิวลาสวา่ งใหญใ่ นกลุ่มดาว
นายพราน (M42 Orion Nebula) เนบิวลาอเมริกาเหนือในกลุ่มดาวหงส์ (NGC7000 North America Nebula) เนบิวลา
ทะเลสาบในกลุ่มดาวคนยงิ ธนู
(M8 Lagoon Nebula) เนบิวลากระดูกงูเรือ (Eta-Carinae Nebula) เป็นตน้
เนบิวลาสะท้อนแสง
เนบิวลาสะทอ้ นแสง (องั กฤษ: Reflection nebula) เนบิวลาสะทอ้ นแสงเป็นเนบิวลาที่มีแสงสวา่ งเช่นเดียวกบั
เนบิวลาเปล่งแสง แต่แสงจากเนบิวลาชนิดน้ีน้นั เกิดจากการกระเจิงแสงจากดาวฤกษใ์ กลเ้ คียงท่ีไม่ร้อนมากพอที่จะทาใหเ้ นบิวลา
น้นั เปล่งแสง กระบวนการดงั กล่าวทาใหเ้ นบิวลาชนิดน้ีมีสีฟ้า องคป์ ระกอบหลกั ของเนบิวลาชนิดน้ีท่ีทาหนา้ ที่กระเจิงแสงจากดาว
ฤกษค์ ือฝ่ นุ ระหวา่ งดาว (Interstellar dust) การกระเจิงแสงของฝ่นุ ระหวา่ งดาวเป็นกระบวนการเดียวกบั การกระเจิงแสง
ของฝ่นุ ในบรรยากาศซ่ึงทาใหท้ อ้ งฟ้ามีสีฟ้า ตวั อยา่ งเนบิวลาสะทอ้ นแสง เช่น เนบิวลาในกระจุกดาวลูกไก่บริเวณดาวเมโรเป
เนบิวลาหวั แม่มด (Witch Head Nebula) เนบิวลา M78 ในกลุ่มดาวนายพราน เป็นตน้ เนบิวลาชนิดน้ีบางคร้ังกพ็ บอยู่
เป็นส่วนหน่ึงของเนบิวลาเปล่งแสง เช่น เนบิวลาสามแฉก (Trifid Nebula) ท่ีมีท้งั สีแดงจากไฮโดรเจน สีเขียวจากออกซิเจน
และสีฟ้าจากการสะทอ้ นแสง เป็นตน้
เนบิวลาดาวเคราะห์
เนบิวลาดาวเคราะห์ (องั กฤษ: Planetary nebula) เนบิวลาดาวเคราะห์เป็นส่วนหน่ึงของววิ ฒั นาการในช่วงสุดทา้ ยของ
ดาวฤกษม์ วลนอ้ ย และดาวฤกษม์ วลปานกลาง เมื่อมนั เขา้ สู่ช่วงสุดทา้ ยของชีวติ ไฮโดรเจนในแกนกลางหมดลง ส่งผลใหป้ ฏิกิริยา
เทอร์โมนิวเคลียร์ภายในแกนกลางยตุ ิลงดว้ ย ทาใหด้ าวฤกษเ์ สียสมดุลระหวา่ งแรงดนั ออกจากความร้อนกบั แรงโนม้ ถ่วง ทาให้
แกนกลางของดาวยบุ ตวั ลงเขา้ หาศูนยก์ ลางเน่ืองจากแรงโนม้ ถ่วงของตวั มนั เอง จนกระทงั่ หยดุ เน่ืองจากแรงดนั ดีเจนเนอเรซีของ
อิเลก็ ตรอน กลายเป็นดาวแคระขาว เปลือกภายนอกและเน้ือสารของดาวจะหลุดออก และขยายตวั ไปในอวกาศ เป็นเนบิวลาดาว
เคราะห์ซ่ึงไม่มีพลงั งานอยู่ แต่มนั สวา่ งข้ึนไดเ้ น่ืองจากไดร้ ับพลงั งานจากดาวแคระขาวที่อยภู่ ายใน เมื่อเวลาผา่ นไปดาวแคระขาวก็
จะเยน็ ตวั ลง และเนบิวลาดาวเคราะห์กจ็ ะขยายตวั ไปเรื่อยๆ จนกระทง่ั จางหายไปในอวกาศ
เนบิวลาดาวเคราะห์ไม่ไดม้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งใดกบั ดาวเคราะห์ ชื่อน้ีไดม้ าจากลกั ษณะที่เป็นวงกลมขนาดเลก็ คลา้ ยดาวเคราะห์เมื่อ
สงั เกตจากกลอ้ งโทรทรรศนน์ นั่ เอง ตวั อยา่ งของเนบิวลาชนิดน้ีไดแ้ ก่ เนบิวลาวงแหวน ในกลุ่มดาวพณิ (M57 Ring
Nebula) เนบิวลาดมั เบลล์ (M27 Dumbbell Nebula) เนบิวลาตาแมว (Cat’s eye Nebula) เนบิวลาเกลียว
(Helix Nebula) เป็นตน้
ซากซูเปอร์โนวา
ซากซูเปอร์โนวา (องั กฤษ: Supernova remnant) สาหรับดาวฤกษม์ วลมากน้นั จุดจบของดาวจะรุนแรงกวา่ ดาวฤกษ์
มวลนอ้ ยและมวลปานกลางเป็นอยา่ งมาก ดาวจะสามารถจุดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิ วชนั ของธาตุที่หนกั กวา่ ไฮโดรเจนและฮีเลียมได้
จนกระทง่ั เกิดข้ีเถา้ เหลก็ ข้ึนในในกลางของแกนดาว เหลก็ เป็นธาตุที่มีความพิเศษ เน่ืองจากไม่วา่ อุณหภูมิจะสูงเท่าใด กจ็ ะไม่
สามารถฟิ วชนั เหลก็ ใหเ้ ป็นธาตุอ่ืนไดอ้ ีก เม่ือความดนั ที่แกนสูงข้ึนเกินกวา่ แรงดนั ดีเจนเนอเรซีของอิเลก็ ตรอนจะตา้ นไหว
อิเลก็ ตรอนท้งั หมดจะถูกอดั รวมกบั โปรตอนกลายเป็นนิวตรอน และอนุภาคนิวตริโน ทาใหอ้ ิเลก็ ตรอนในแกนกลางหายไปจน
เกือบหมด แรงดนั ดีเจนเนอเรซีของอิเลก็ ตรอนที่ทาใหแ้ กนกลางคงสภาพอยไู่ ดน้ ้นั กห็ ายไปดว้ ย ทาใหแ้ รงโนม้ ถ่วงอดั แกนกลาง
ลงเป็นดาวนิวตรอนในทนั ที เกิดคล่ืนกระแทกพลงั งานสูงมาก กระจายออกมาในทุกทิศทาง ปลดปล่อยพลงั งานออกมามากกวา่
ดาราจกั รท้งั ดาราจกั ร สาดผวิ ดาวและเน้ือสารออกไปในอวกาศดว้ ยความเร็วสูงมาก แรงดนั ท่ีสูงมากน้ีทาใหเ้ กิดธาตุหนกั เช่น
ทองคาข้ึนได้ เรียกการระเบิดคร้ังสุดทา้ ยของดาวน้ีวา่ ซูเปอร์โนวา
ซากท่ีเหลืออยขู่ องแกนกลางจะประกอบไปดว้ ยนิวตรอนท้งั ดวง เรียกวา่ ดาวนิวตรอน ซ่ึงมีความหนาแน่นสูงมาก ดาวนิวตรอน
ทว่ั ไปมีขนาดราว 10-20 กิโลเมตร แต่มีมวลเท่ากบั ดวงอาทิตยท์ ้งั ดวง เน้ือสารของดาวนิวตรอน 1 ชอ้ นชา มีมวลถึง 120 ลา้ นตนั
แกนกลางน้ีเขา้ สู่สมดุลใหม่ จากแรงดนั ดีเจนเนอเรซีของนิวตรอน แต่ในบางกรณีท่ีดาวฤกษม์ ีมวลสูงมาก คือมากกวา่ 18 เท่าของ
มวลดวงอาทิตย์ เศษซากจากซูเปอร์โนวาจะตกกลบั ลงไปบนดาวนิวตรอน จนดาวนิวตรอนมีมวลเกินกวา่ 3 เท่าของมวลดวง
อาทิตย์ ซ่ึงเกินขีดจากดั ของดาวนิวตรอน ทาใหด้ าวนิวตรอนยบุ ตวั ลงกลายเป็น หลุมดา
สาหรับซากของผวิ ดาวและเน้ือสารของดาวฤกษท์ ่ีถูกสาดออกมาเน่ืองจากซูเปอร์โนวาน้นั จะเหลือเป็นซากซูเปอร์โนวา ซ่ึง
เปรียบเสมือนอนุสาวรียข์ องดาวฤกษม์ วลมาก ตวั อยา่ งซากซูเปอร์โนวาท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ เนบิวลาปู (M1 Crab Nebula) ใน
กลุ่มดาวววั ซ่ึงเป็นซากของซูเปอร์โนวาท่ีเกิดข้ึนหลายพนั ปี ก่อน และถูกบนั ทึกไวใ้ นบนั ทึกของชาวจีน เนบิวลาผา้ คลุมไหล่
(Veil Nebula) ในกลุ่มดาวหงส์ ซากของซูเปอร์โนวาทีโค (SN1572 Tycho’s nova) ซากของซูเปอร์โนวาเคปเลอร์
(SN1640 Kepler’s nova) ซากของซูเปอร์โนวา SN1987A เป็นตน้
การศึกษาซากซูเปอร์โนวาน้นั จะช่วยใหน้ กั ดาราศาสตร์สามารถคานวณยอ้ นกลบั เพือ่ หาอายขุ องซากได้ ทาใหส้ ามารถรู้เวลาที่เกิด
ซูเปอร์โนวาในอดีต จากการคานวณความเร็วของคลื่นกระแทกไดอ้ ีกดว้ ย
เนบวิ ลามืด
เนบิวลามืด (องั กฤษ: Dark nebula) เนบิวลามืดมีองคป์ ระกอบหลกั เป็นฝ่นุ หนาเช่นเดียวกบั เนบิวลาสะทอ้ นแสง แต่เนบิวลา
มืดน้ีไม่มีแหล่งกาเนิดแสงอยภู่ ายในหรือโดยรอบ ทาใหไ้ ม่มีแสงสวา่ ง เราจะสามารถสงั เกตเห็นเนบิวลามืดไดเ้ มื่อมีเนบิวลาสวา่ ง
หรือดาวฤกษจ์ านวนมากเป็นฉากหลงั จะปรากฏเนบิวลามืดข้ึนเป็นเงามืดดา้ นหนา้ ดาวฤกษห์ รือเนบิวลาสวา่ งเหล่าน้นั ตวั อยา่ ง
เนบิวลามืดท่ีมีฉากหลงั เป็นเนบิวลาสวา่ ง เช่น เนบิวนารูปหวั มา้ อนั โด่งดงั ในกลุ่มดาวนายพราน (Horse Head Nebula)
เป็นตน้ และตวั อยา่ งของเนบิวลามืดที่มีฉากหลงั เป็นดาวฤกษจ์ านวนมาก เช่น เนบิวลางู (B72 Snake Nebula) เป็นตน้