48
ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.6 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางาน อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทาง
ร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิ อินเทอร์เนต็ แนวทางในการป้องกัน
และหนา้ ที่ของตน เคารพในสิทธิของ วิธีกาหนดรหสั ผ่าน
ผู้อ่ืน แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูล การกาหนดสทิ ธิก์ ารใช้งาน (สิทธ์ิในการเข้าถงึ )
หรือบุคคลทไ่ี มเ่ หมาะสม แนวทางการตรวจสอบและปอ้ งกันมลั แวร์
อันตรายจากการติดต้ังซอฟต์แวร์ท่ีอยู่บน
อินเทอรเ์ น็ต
49
ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวังรายปี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นสนั ติวนา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ปรบั ปรงุ 2560)
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6
50
ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวังรายปี
สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วย ระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของ
พน้ื ฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออก สารอาหารแต่ละประเภท
จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ี บอกแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารให้
ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางาน ได้สารอาหารครบถ้วน ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับ
สัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ี เพศและวยั รวมท้ังความปลอดภัยต่อสขุ ภาพ
ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธ์กัน สร้างแบบจาลองระบบย่อยอาหารและ
รวมท้ังนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ บรรยายหน้าท่ขี องอวยั วะในระบบย่อยอาหาร
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง
มา ตรฐ าน ว 2.1 เข้าใจสมบัติขอ ง สสาร อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสม โดย
องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่าง การหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด การ
สมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยว รินออก การกรอง และการตกตะกอน
ระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการ ระบุวิธแี ก้ปญั หาในชีวิตประจาวันเกี่ยวกับการ
เปล่ยี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย แยกสาร
และการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิต อธิบายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้าซึ่งเกิด
ประจาวัน ผลของแรงที่กระทาต่อวัตถุ ลักษณะ จากวตั ถทุ ี่ผ่านการขดั ถู
การเคล่ือนที่แบบตา่ งๆ ของวัตถุ รวมทั้งนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน ระบุสว่ นประกอบและอธิบายหน้าที่ของแต่ละ
การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน สว่ นประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
ปฏสิ มั พันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานใน เขยี นแผนภาพและต่อวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย
ชวี ิตประจาวนั ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ี ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีท่ี
เก่ียวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เหมาะสมในการอธิบายวิธีการและผลของการต่อ
รวมทั้งนาความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนุกรม
อธบิ ายการเกิดเงามดื เงามัว
51
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ สรา้ งแบบจาลองปรากฏการณ์สุริยุปราคาและ
กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ จันทรุปราคา
กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ัง อธบิ ายพัฒนาการของเทคโนโลยอี วกาศ
ปฏิสัมพนั ธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต
และการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและ อธบิ ายวัฏจักรหนิ
ความสัมพันธ์ของ ระบบโลก กระบวนการ บอกประโยชนข์ องหนิ และแรใ่ นชวี ิตประจาวัน
เปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลกธรณีพิบัติ สร้างแบบจาลองการเกดิ ซากดกึ ดาบรรพ์
ภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและ เปรยี บเทียบลมบก ลมทะเล และมรสมุ
ภูมิอากาศโลก ร วมท้ัง ผลต่อสิ่งมีชีวิตและ อธบิ ายผลของมรสุมตอ่ การเกดิ ฤดูประเทศไทย
สิ่งแวดลอ้ ม บรรยายลักษณะและผลกระทบของน้าท่วม
การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถลม่ แผน่ ดินไหว สนึ ามิ
สร้างแบบจาลองปรากฏการณ์เรอื นกระจก
บอกผลกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก
ต่อสิง่ มชี วี ติ
นาเสนอแนวทางในการเฝา้ ระวังและปฏิบัติตน
ให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ และธรณีพิบัติภัยที่
อาจเกดิ ในท้องถน่ิ
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณ อธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน
ในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน ชีวิตประจาวัน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย
สอื่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหา ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตในการคน้ หาขอ้ มลู
ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม บอกแนวทางการตรวจสอบและปอ้ งกันมัลแวร์
บอกวิธีการป้องกันอันตรายจากการติดต้ัง
ซอฟต์แวรท์ ่ีอยู่บนอนิ เทอรเ์ น็ต
52
อภิธานศัพท์
คาศัพ คาศัพท์ ความหมาย
ท์ (ภาษาอั
(ภาษา งกฤษ)
ไทย)
กระบว Scientifi เปน็ กระบวนการในการศกึ ษาหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ ซ่ึงประกอบด้วยข้ันตอน
นการ c หลัก คือ กาหนดปญั หา การตั้งสมมตฐิ าน การออกแบบวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
ท า ง Process การวเิ คราะหแ์ ละแปรความหมายข้อมูล และการลงข้อสรปุ
วิทยาศ
าสตร์
ก า ร Proble เปน็ การหาคาตอบของปัญหาที่ยังไม่รู้วิธีการก่อนท้ังปัญหาท่ีเก่ียวข้องกับเน้ือหา
แก้ปัญ m ในวิทยาศาสตร์โดยตรงและปญั หาในชวี ิตประจาวัน โดยใช้เทคนิค วิธีการและกล
หา Solving ยุทธต์ า่ งๆ
ก า ร Analysis เป็นการแยกแยะสิ่งท่ีจะพิจารณาออกเป็นส่วนย่อยที่มีความสัมพันธ์กัน เพ่ือทา
วเิ คราะ ความเข้าใจแต่ละสว่ นให้แจ่มแจ้ง ทั้งการสืบค้นความสัมพนั ธ์ของส่วนต่างๆ เพ่ือดู
ห์ ว่าส่วนประกอบปลีกย่อยน้ันสามารถเข้ากันได้หรือไม่ สัมพันธ์เก่ียวเนื่องกัน
อย่างไร ซ่งึ จะชว่ ยใหเ้ กิดความเขา้ ใจต่อสิ่งหนง่ึ ส่ิงใดอย่างแท้จรงิ
การ Observa การใชป้ ระสาทสมั ผัสอย่างใดอยา่ งหนงึ่ หรอื หลายอย่างรวมกัน ได้แก่ ตา หู จมูก
สังเกต tion ลิ้น และผิวกาย เขา้ ไปสมั ผสั โดยตรงกับวตั ถุหรอื เหตุการณ์ โดยมีจุดประสงค์ที่จะ
หาข้อมลู ซ่งึ เป็นรายละเอียดของสง่ิ นนั้ โดยไมใ่ ส่ความคิดเห็นของผูส้ งั เกตลงไป
การ Explora การหาขอ้ มูลตา่ งๆ เชน่ การสงั เกต การสัมภาษณ์ การเก็บตัวอย่าง เพื่อนาข้อมูล
สารวจ tion มาวเิ คราะห์
การ Scientifi วิธีการท่ีหลากหลายท่ีนักวิทยาศาสตร์ใช้เพื่อศึกษาสิ่งต่างๆ ทางกายภาพใน
สบื เสา c ธรรมชาติและเสนอคาอธิบายส่ิงเหล่านั้นด้วยข้อมูลที่ได้จากการทางานทาง
ะหา Inquiry วิทยาศาสตร์
ความรู้
ทาง
วทิ ยาศ
าสตร์
53
คาศพั คาศัพท์ ความหมาย
ท์ (ภาษาอั
(ภาษา งกฤษ)
ไทย)
จติ Scientifi ลักษณะนิสัยของบุคคลท่ีเกิดข้ึนจากการศึกษาหาความรู้โดยใช้กระบวนการทาง
วิทยาศ c mind วทิ ยาศาสตร์ จิตวิทยาศาสตร์ประกอบด้วยลักษณะต่างๆ ได้แก่ ความสนใจใฝ่รู้
าสตร์ ความมงุ่ มัน่ อดทน รอบคอบ ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ประหยัด การร่วม
แสดงความคิดเห็นและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน ความมีเหตุผล การ
ทางานรว่ มกบั ผู้อ่นื ได้อยา่ งสร้างสรรค์
วิธกี าร Scientifi วิธีการทางานอย่างเป็นระบบในการค้นคว้าหาความรู้ของนักวิทยาศาสตร์และ
ทาง c บคุ คลทัว่ ไป มขี นั้ ตอนดังนี้ ระบุปัญหา ต้งั สมมตุ ิฐาน ทดลอง และสรปุ ผล
วทิ ยาศ method
าสตร์
ทกั ษะ Scientifi พฤติกรรมท่ีเกิดจากการคิดและการปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์จนเกิดความ
กระบว c ชานาญและความคล่องแคล่วในการใช้เพ่ือแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์
นการ process ตลอดจนหาวธิ ีการเพือ่ แก้ปัญหาตา่ งๆ
ทาง skills
วทิ ยาศ
าสตร์
วิทยาศ Applied ความร้ทู ่ีมงุ่ นาไปใช้ประโยชน์ต่อการดารงชีวิตในสังคม โดยนาความรู้ขั้นพ้ืนฐาน
าสตร์ Science หรือวทิ ยาศาสตร์บรสิ ุทธิไ์ ปคิดสง่ิ ประดิษฐต์ า่ งๆ
ประยุก or
ต์หรอื Technol
เทคโนโ ogy
ลยี
วทิ ยาศ Science ความรู้เกีย่ วกบั สง่ิ ตา่ งๆ ในธรรมชาติ และกระบวนการค้นคว้าหาความรู้เหล่าน้ัน
าสตร์ อย่างเป็นขั้นตอน
การ Search เปน็ การหาข้อมูลหรือขอ้ สนเทศทมี่ ผี ูร้ วบรวมไวแ้ ลว้ จากแหล่งต่างๆ เช่น ห้องสมุด
สบื ค้น เครือข่าย อินเทอรเ์ น็ต ภูมิปัญญาท้องถิน่ เปน็ ต้น
ข้อมลู
54
คาศพั คาศพั ท์ ความหมาย
ท์ (ภาษาอั
(ภาษา งกฤษ)
ไทย)
การ Scientifi เปน็ วิธกี ารหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ โดยผ่านการรวบรวมข้อมูล ใช้ความคิดท่ีมี
สารวจ c เหตุผลในการตั้งสมมติฐาน อธิบายและแปลความหมายข้อมูล การสารวจ
ตรวจส Investig ตรวจสอบทาได้หลายวธิ ี เชน่ การสงั เกต การสารวจ การทดลอง เป็นต้น
อบ ation
สารอา Nutrient องคป์ ระกอบของสารประกอบทางเคมขี องธาตุต่างๆ ที่มีอยู่ในอาหารท่ีเรากินเข้า
หาร ไป
ร ะ บ บ Digestio ระบบของร่างกายที่ทาหน้าที่ย่อยอาหารให้ละเอียด แล้วดูดซึมผ่านเข้าสู่กระแส
ย่ อ ย n เลือดเพอื่ ไปเล้ยี งสว่ นต่างๆ ของร่างกาย
อาหาร System
ส า ร Mixture สารบริสุทธ์ิ ตั้งแต่ 2 ชนิด มาผสมกันในอัตราส่วนที่ไม่คงที่ ซึ่งสารแต่ละชนิด
ผสม ยังคงแสดงสมบตั ิของสารเดิมอยู่
การ Picking เปน็ วธิ ีการแยกสารท่ีเป็นของแขง็ มีขนาดไมเ่ ท่ากัน มีขนาดใหญ่พอท่จี ะจบั ได้
หยบิ out
ออก
การ Gliding เป็นวิธีการแยกสารท่ีมีสถานะเป็นของแข็งออกจากกัน ซ่ึงองค์ประกอบของสาร
ร่อน นน้ั จะตอ้ งมีขนาดทแ่ี ตกต่างกัน
การ Filtering เป็นวิธีการแยกสารที่มีสถานะเป็นของเหลวออกจากของแข็ง ซึ่งสารท่ีเป็น
กรอง ของเหลวนนั้ จะต้องไมร่ วมตัวกับสารทีเ่ ปน็ ของเหลว
การใช้ Using เปน็ วธิ ีการแยกสารผสม 2 ชนดิ ที่เป็นของแข็งทงั้ คู่ ใช้แท่งแม่เหลก็ ดูด
แมเ่ หล็ magneti
กดูด c
suction
การ Purificat การแยกสารที่ผสมกันตั้งแต่ 2 ชนิดข้ึนไปออกจากกัน เพื่อนาสารท่ีได้น้ันไปใช้
แยก ion ประโยชน์
สาร
การ Sedime เป็นวิธีการแยกสารที่เป็นของแข็งแขวนลอยในของเหลว โดยการวางท้ิงไว้ให้
55
คาศัพ คาศพั ท์ ความหมาย
ท์ (ภาษาอั
(ภาษา งกฤษ)
ไทย)
ตกตะก ntation ตกตะกอน
อน เป็นวงจรทีป่ ระกอบด้วยแหลง่ กาเนดิ ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟา้ และสายไฟ
วงจรไ Simple
ฟฟา้ circuit เป็นการต่อเซลล์ไฟฟ้าขั้วบวกกับขั้วลบเรียงกันไปตามลาดับเพ่ือให้กระแสไฟฟ้า
อย่าง เดินทางทางเดยี ว
ง่าย
การต่อ Series เป็นการต่อเซลล์ไฟฟ้าขั้วบวกกับข้ัวบวก ขั้วลบกับข้ัวลบ ทางเดินไฟฟ้าจะแยก
เซลลไ์ Cell ออกเป็นสองทาง
ฟฟา้
แบบ เป็นการต่อวงจรไฟฟ้าท่ีให้กระแสไฟฟ้า แยกผ่านหลอดไฟฟ้าแต่ละหลอด ถ้า
อนุกรม หลอดไฟดวงใดดวงหน่ึงดับ หลอดไฟที่เหลือยงั คงสวา่ งอยู่
การต่อ Parallel
เซลล์ไ cell เป็นการต่อวงจรไฟฟ้าให้ผ่านหลอดไฟต้ังแต่ 2 หลอดขึ้นไป กระแสไฟฟ้าจะ
ฟ ฟ้ า เดินทางเดียว ถ้าหลอดไฟเสยี เพียง 1 หลอด จะทาใหห้ ลอดไฟทเี่ หลือดับหมด
แบบ
ขนาน
การต่อ Parallel
ห ล อ ด cell
ไ ฟ ฟ้ า
แบบ
ขนาน
การต่อ Series
ห ล อ ด Cell
ไ ฟ ฟ้ า
แบบ
อนุกรม
56
คาศพั คาศพั ท์ ความหมาย
ท์ (ภาษาอั
(ภาษา งกฤษ)
ไทย)
ปรากฏ Solar ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่ีดวงจันทร์บังแสงของดวงอาทิตย์ เกิดจากการโคจร
การณ์ Eclipse ของโลก ดวงจนั ทร์ และดวงอาทิตย์ เข้ามาอยู่ในระนาบเดียวกัน โดยมีดวงจันทร์
สรุ ิยปุ ร แทรกอยู่ก่ึงกลาง ระหวา่ งดวงอาทติ ย์ และโลก
าคา
ปรากฏ Lunar ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการโคจรของโลก ท่ีเข้ามาแทรกอยู่ระหว่าง
การณ์ Eclipse ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ในระนาบเดียวกัน เป็นผลให้โลกบดบังแสงของดวง
จนั ทรุ อาทิตย์ ไม่ให้ตกกระทบดวงจันทร์
ปราคา
เทคโนโ Space เทคโนโลยีท่ีใช้ในการสารวจอวกาศหรือศึกษาโลกของเราจากอวกาศและ
ลยี Technol การศกึ ษาปรากฏการณต์ ่างๆ ในเอกภพ
อวกาศ ogy
วฏั จกั ร Rock กระบวนการเปล่ียนแปลงและกระบวนการหมนุ เวยี นของหนิ อคั นี หินตะกอนและ
ของหนิ cycle หินแปร สามารถเปล่ียนจากหินชนิดหนึ่งไปเป็นหินอีกชนิดหนึ่งได้โดยความ
ร้อนแรงกดดนั การพงุ่ การพดั พา และการทบั ถม
หนิ Lgneou หนิ หนืดรอ้ นบนผิวโลกเยน็ ตัว
อคั นี s rocks
หิน Sedime หินท่ีเกิดจากการตกตะกอนของเม็ดแร่ที่ได้จากการผุพังของหินและถูกพัดพาไป
ตะกอ ntary โดย น้า ลม ฯลฯ
น rocks
ปรากฏ Greenh ขบวนการท่ีรังสีความร้อนจากพื้นผิวโลกจะถูกดูดซับโดยก๊าซเรือนกระจกในชั้น
ก า ร ณ์ ouse บรรยากาศ และแผ่รังสีออกไปอีกคร้ังในทุกทิศทาง เน่ืองจากการแผ่รังสีออกไป
เ รื อ น effect อีกครั้งถูกส่งกลับมายังพื้นผิวโลกและบรรยากาศด้านล่าง เป็นผลทาให้ระดับ
กระจก อุณหภมู พิ น้ื ผวิ โลกเฉล่ียสงู ขน้ึ ถา้ ไม่มีกา๊ ซเหล่านี้
แ ก๊ ส Greenh เปน็ ก๊าซที่มคี ุณสมบตั ิในการดูดซบั คลืน่ รงั สีความร้อน หรือรังสีอินฟาเรดได้ดี ก๊าซ
เ รื อ น ouse เหล่านี้มีความจาเป็นต่อการรักษาอุณหภูมิในบรรยากาศของโลกให้คงที่ ซ่ึงหาก
กระจก gas บรรยากาศโลกไมม่ ีกา๊ ซเรอื นกระจกในชั้นบรรยากาศ ดงั เชน่ ดาวเคราะห์ดวงอ่ืนๆ
57
คาศัพ คาศัพท์ ความหมาย
ท์ (ภาษาอั
(ภาษา งกฤษ)
ไทย)
ล ม Sea ในระบบสุริยะแล้ว จะทาให้อุณหภูมิในตอนกลางวันนั้นร้อนจัด และในตอน
ทะเล breeze กลางคืนนั้นหนาวจัด เนื่องจากก๊าซเหล่าน้ีดูดคล่ืนรังสีความร้อนไว้ในเวลา
กลางวัน แล้วค่อยๆ แผ่รังสีความร้อนออกมาในเวลากลางคืน ทาให้อุณหภูมิใน
ลมบก land บรรยากาศโลกไมเ่ ปลี่ยนแปลงอย่างฉบั พลัน
breeze เวลากลางวนั ผืนแผ่นดินตามชายฝ่ังได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์ ทาให้มีอุณหภูมิสูง
กว่าบริเวณทะเล ดังน้ันอากาศในบริเวณแผ่นดิน จึงมีความแน่นน้อยกว่า และ
ความกดก็ลดลงดว้ ยจงึ ลอยตวั ขึ้น ดังนน้ั อากาศเยน็ ตามบริเวณทะเลจะพัดเข้ามา
แทนท่ี
(ลมทะเลพดั จากทะเลเข้าฝง่ั เวลากลางวัน)
เกิดขึ้นในทิศตรงกันข้ามกับลมทะเล และมีกาลังแรงน้อยกว่า กล่าวคือ ใน
ตอนกลางคนื พนื้ นา้ มีอณุ หภมู สิ งู กว่าผนื แผ่นดนิ ดังน้ัน อากาศในบริเวณทะเลซ่ึง
มีความแน่นน้อยกว่าจะลอยตัวขึ้น อากาศเย็นในบริเวณแผ่นดินจะพัดออกไป
แทนท่ี
(ลมบกพัดจากฝ่งั ไปยังทะเล เวลากลางคืน)
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2544). หลักสตู รการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2544. กรุงเทพฯ :
โรงพมิ พ์ครุ ุสภาลาดพรา้ ว.
กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2542). หลักสูตรการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ :
โรงพิมพค์ ุรสุ ภาลาดพรา้ ว.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวฒั นธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพค์ ุรสุ ภาลาดพร้าว.
58
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). หนังสือเรียน
รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.
โรงเรียนสนั ติวนา. (2565). หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสันตวิ นา. เชยี งใหม่ : โรงเรียนสันติวนา.